ผลงาน ผอ.ก้านแก้ว

ก๑

คานา

เอกสารฉบับน้จี ดั ทาข้ึนประกอบการประเมนิ เพื่อขอรบั รางวัลทรงคุณค่าสพฐ. (OBEC AWARDS) ของ
ผู้บริหารสถานศึกษา ด้านบริหารจดั การยอดเย่ียม ประจาปี ๒๕๖๓ ในระดบั โรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา
สงั กดั สานกั งานเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศกึ ษา โดยได้บรรยายตามกรอบการประเมิน และด้านการบริหารจดั การ
ด้วยเทคนิค POSDCROB ทกี่ าหนดไว้ และอ้างอิงเอกสารประกอบ เพ่ือให้คณะกรรมการประเมนิ รางวัลทรงคุณค่า
สพฐ. (OBEC AWARDS) ของผู้บริหารสถานศึกษา ดา้ นบริหารจัดการยอดเยยี่ ม ระดับโรงเรียนขยายโอกาสทาง
การศกึ ษา สงั กัดสานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศกึ ษาประจาปี ๒๕๖๓ ไดท้ ราบแนวทางการดาเนนิ งานของ
ข้าพเจ้าโดยสังเขป และยงั มเี อกสารหลกั ฐานอ้างอิงร่องรอยการดาเนนิ งานของขา้ พเจา้ การจดั ทาข้อมูลครงั้ นี้ ได้
จัดทาข้อมลู ตามความเปน็ จรงิ ทกุ ประการ ขา้ พเจ้าหวังเปน็ อย่างยิง่ ว่าเอกสารรายงานฉบับนี้ จะเปน็ ประโยชนต์ ่อผู้
ท่สี นใจและผ้เู กย่ี วข้องทกุ คน

นายกา้ นแกว้ พันอินทร์
ผอู้ านวยการโรงเรยี นบา้ นเพยี มาต(รัฐราษฎรพ์ ิทยาคาร)

สารบัญ ๒ข

เนือ้ หา หน้า
คานา ก
สารบญั ข
รางวลั ทเ่ี สนอขอ ๑
คุณสมบัตเิ บื้องตน้
๑
- ดารงตาแหนง่ ผู้อานวยการสถานศึกษา ๒
- ปฏิบัตหิ นา้ ท่ีในตาแหนง่ ผอู้ านวยการสถานศึกษาไม่น้อยกว่า ๒ ปี ๒
- เป็นผูไ้ มเ่ คยถูกลงโทษทางวินยั ๒
- สถานศกึ ษาทีด่ ารงตาแหนง่ มีผลประเมินการประเมนิ คุณภาพภายนอก ๓
- มคี วามประพฤติในการครองตน ครองคน ครองงาน ๓o
รายงานผลการปฏิบตั ิงานด้านการบริหารจัดการยอดเยีย่ ม ๘
องคป์ ระกอบที่ ๑ คุณภาพผ้เู รียน ๘
- ความสามารถในการอ่านเขยี นไดข้ องนักเรยี นในรอบปที แี่ ล้ว ๙
- ผเู้ รียนมคี วามสามารถในการคิดเป็นทาเป็น ๙
- ผลสัมฤทธ์ิการทดสอบ O-Net ๑๐
- ผู้เรยี นมคี ณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ๘ ประการ ๑๓
- ผเู้ รยี นไดร้ ับรางวัลจากการแข่งขนั ทางวชิ าการจากสถาบนั ต่างๆ ๑๕
องคป์ ระกอบที่ ๒ ด้านการบรหิ ารจดั การ ๑๕
- การพฒั นาระบบข้อมูลสารสนเทศของสถานศึกษา ๒๐
- การพฒั นาแหลง่ เรียนรู้ ๒๓
- การพฒั นาคณุ ภาพสถานศึกษา ๒๔
- การใหบ้ รกิ ารด้านอาคารสถานที่ ๒๖
- การบรหิ ารจดั การดา้ นงบประมาณ ๒๗
- การบรหิ ารงานด้านบุคคล ๓o
รบั รองเอกสารผู้รายงาน ผู้บังคบั บัญชา ๓๑
ภาคผนวก
- ใบประกาศ / เกียรตบิ ัตร
- ภาพการดาเนนิ กิจกรรม

๓

เอกสารประกอบการประเมินรบั รางวลั ทรงคณุ ค่า สพฐ.(OBEC AWARDS)
ผ้บู รหิ ารสถานศกึ ษายอดเยี่ยม ดา้ นบริหารจัดการยอดเยย่ี ม ประจาปี ๒๕๖๓

แบบเสนอรบั รางวัลทรงคุณคา่ สพฐ.(OBEC AWARDS)

............................................................................................................................. ....................

๑.ช่ือรางวัลท่เี สนอขอ ผบู้ ริหารสถานศกึ ษายอดเยยี่ ม

ชอื่ นายกา้ นแก้ว นามสกุล พนั อนิ ทร์
ตาแหนง่ ผู้อานวยการโรงเรียนบา้ นเพียมาต(รฐั ราษฎรพ์ ิทยาคาร)
ประเภท ประถมศึกษา สังกัดสานักงานเขตพนื้ ท่ีการศกึ ษาประถมศกึ ษา
ขนาด เลก็ (นกั เรียนไม่เกิน ๑๒o คน)

กลาง (นกั เรียน ๑๒๑-๑๘o คน)
ใหญ่ (นกั เรียน ๑๘๑ -ขน้ึ ไป)

โรงเรยี นขยายโอกาสทางการศึกษา สังกดั สานกั งานเขตพนื้ ทกี่ ารศึกษาประถมศึกษา

มธั ยมศึกษา สงั กัดสานกั งานเขตพืน้ ท่ีการศึกษามธั ยมศกึ ษา
ขนาด เลก็ (นักเรียนไมเ่ กนิ ๕oo คน)

กลาง (นักเรยี น ๕o๑-๑,๕oo คน)
ใหญ่ (นักเรยี น ๑,๕oo -ข้ึนไป)

ด้าน ด้านวชิ าการยอดเยีย่ ม
ดา้ นบรหิ ารจดั การยอดเยี่ยม
ด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยเี พื่อการเรียนการสอนยอดเยี่ยม

๒.เกณฑ์การประเมิน

ตวั ชี้วัดที่ ๑ คุณสมบตั ิ เบื้องตน้ เชงิ ประจกั ษ์

๑. ปัจจุบันดารงตาแหน่ง ผู้อานวยการโรงเรียนบ้านเพยี มาต(รัฐราษฎรพ์ ิทยาคาร) สานักงานเขตพ้นื ท่ี
การศกึ ษา ประถมศกึ ษาศรีสะเกษ เขต ๒

๔

๒. เร่มิ ปฎบิ ตั หิ น้าท่ใี นตาแหน่งผู้อานวยการสถานศกึ ษาตงั้ แตว่ นั ที่ ๘ มกราคม ๒๕๕๑ ถึงปจั จุบันรวม
เวลาปฎิบัติหน้าทใ่ี นตาแหนง่ ผู้อานวยการสถานศึกษา

๓. เรมิ่ รับราชการครง้ั แรก เมื่อวนั ที่ ๗ ตลุ าคม ๒๕๓๔ ตาแหนง่ อาจารย์ ๑ ระดับ ๓ โรงเรียนราษี
ไศล อาเภอราษีไศล จงั หวดั ศรีสะเกษ ซึ่งตลอดเวลารบั ราชการ ไม่เคยถูกลงโทษทางวนิ ัย
เริม่ งานสายบริหารตาแหน่ง ผู้อานวยการชานาญการ โรงเรียนบ้านโนนเหมอื ดแอบ่ วั หล่น อาเภอศิลาลาด

๔. สถานศกึ ษาท่ดี ารงตาแหน่งทีข่ อรับการประเมิน คือโรงเรยี นบา้ นเพยี มาต(รฐั ราษฎร์พทิ ยาคาร)
ได้รบั การประเมินภายนอก รอบ ๓ ระหวา่ งวันท่ี ๘ กนั ยายน ๒๕๕๒ ได้รบั การรบั รองมาตรฐานการศึกษา
ระดับปฐมวยั (๒-๕ปี) คะแนนรวม ๙๑.๘๑ ระดบั คุณภาพ ดีมาก ระดับประถมศึกษา คะแนนรวม ๘๓.๙๔
ระดบั คุณภาพดี

ตวั ชวี้ ัดท่ี ๒ การครองตน

ข้าพเจ้าประพฤตแิ ละปฏบิ ัตติ นเป็นแบบอย่างท่ีดีแก่ผูเ้ รยี น ครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษา การใช้
วาจา กิรยิ าท่เี หมาะสมกบั การเป็นครูและผู้บรหิ ารสถานศกึ ษา ศึกษาระเบียบกฎหมายแนวปฏิบตั ิ รวมทง้ั ศึกษา
ค้นควา้ สบื คน้ แสวงหาข้อมูล เกบ็ รวบรวมขา่ วสารในการพัฒนาตนเองและนาข้อมูลจากการศึกษาคน้ ควา้ มาใช้
ประกอบการใหค้ าปรึกษา แนะนาส่งเสรมิ แก้ปัญหาในสถานศึกษา รบั ฟังความคดิ เหน็ ของผรู้ ่วมงานมสี ่วนร่วมใน
กิจกรรมต่างๆทเ่ี กย่ี วข้องกบั การพฒั นาวิชาชพี ดังน้ี

๒.๑ การพึง่ ตนเองขยันหม่นั เพยี รในหนา้ ท่ี ความรับผดิ ชอบ
ขา้ พเจ้ามีความมุ่งมัน่ ตงั้ ใจปฏิบัตหิ น้าท่ที ี่ไดร้ ับผดิ ชอบใหส้ าเรจ็ ลลุ ่วง โดยอาศัยคติพจนป์ ระจาตัว
ท่ีว่า “ความพยายามอยทู่ ่ีไหนความสาเร็จอย่ทู นี่ นั่ ” การทางานใดๆหากเรามคี วามตั้งใจขยนั ทางานน้นั จะประสบ
ความสาเรจ็ ได้ ความรับผิดชอบปฏิบตั ติ นเปน็ แบบอย่างทดี่ ีตามจรรยาบรรณวิชาชีพอยา่ งเคร่งครัด ประหยัดและ
อดออม แสวงหาความรเู้ พื่อพัฒนาตนเองอย่ตู ลอดเวลามีคุณธรรมจริยธรรมในการดารงชีวติ รักษาระเบยี บวินยั
และเคารพกฎหมาย มคี วามรับผิดชอบต่อครอบครัวสงั คมและเสียสละเพ่ือประโยชน์ส่วนรวม การประหยัดและอด
ออมใช้จา่ ยตามความเหมาะสมแหง่ ฐานะตามหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง และใช้ทรพั ยส์ นิ ของทางราชการ
ให้เปน็ ประโยชนอ์ ยา่ งสงู สุด โดยไดย้ ึดหลกั เกณฑก์ ารใช้ทรัพย์สนิ ของทางราชการ และวางมาตรการประหยดั
พลังงานในหน่วยงานรจู้ ักมธั ยัสถแ์ ละเก็บออมเพ่ือสร้างฐานะตนและครอบครัว ด้วยการออมกบั สหกรณ์ออมทรพั ย์
ครจู ังหวัดศรีสะเกษ และอ่นื ๆนอกจากนีย้ งั ได้จัดทาแผนดูแลบารุงและรักษาทรัพยส์ นิ ของตนเองและสว่ นรวม
พรอ้ มทัง้ ติดตามตรวจสอบอย่างสมา่ เสมอรวมทัง้ มีความวิรยิ ะอตุ สาหะในการทางานในหน้าท่ี ให้ไดร้ บั ความสาเร็จ
มคี วามอดทนไม่ยอ่ ท้อตอ่ อุปสรรคปัญหา มคี วามรับผิดชอบต่อตนเอง ครอบครวั และผู้อ่ืน

๕

๒.๒ การรักษาวนิ ัยและเคารพกฎหมาย
ข้าพเจ้าปฏิบตั ิตนตามระเบยี บและกฎหมายทก่ี าหนดไว้ โดยได้กาชับและม่งุ เน้นใหผ้ ู้ใต้บังคับบัญชา
ยึดถอื ปฏิบัติอย่างเครง่ ครัด พรอ้ มทัง้ ได้ประพฤติและปฏิบตั ิตนใหเ้ ป็นแบบอย่างแกผ่ ใู้ ตบ้ งั คับบญั ชา และบุคคล
โดยท่วั ไปอย่างสม่าเสมอ และยงั ไดน้ าแนวทางนโยบายหรือขอ้ สั่งการของผบู้ ังคบั บัญชามาถ่ายทอดส่กู ารปฏิบัติ
อยา่ งทุ่มเทและจรงิ ใจ ซ่งึ เปน็ การแสดงออกใหเ้ หน็ ถงึ การเชื่อฟังและเคารพต่อผู้บงั คับบัญชา สนองนโยบายการ
พัฒนาการจดั การศึกษาตามหน่วยงานตน้ สังกัด นอกจากน้ียงั เป็นบุคคลที่ให้ความสาคัญตอ่ การเปน็ ผตู้ รงตอ่ เวลา
ท้งั ในเรือ่ งงาน และวนิ ัยส่วนตัว จะสงั เกตได้จากการนดั เวลาประชมุ การปฏบิ ตั ิงานหรอื ติดตามงานตามแผนผัง
กากับงาน เปน็ ต้น

ตัวชีว้ ัดที่ ๓ การครองคน

ข้าพเจ้าในฐานะผูอ้ านวยการโรงเรียน ไดเ้ สริมสร้างความสามัคคีและร่วมกจิ กรรมของหมู่คณะทั้ง
ในและนอกหน่วยงาน ให้ความร่วมมือกบั ทุกผาย โดยได้รับความไว้วางใจจากประธานกลุ่มให้ทาหนา้ ทเี่ ป็นรอง
ประธานกลุม่ ดแู ลรับผิดชอบเร่อื งงานวิชาการของกล่มุ เครือข่ายพัฒนาคุณภาพการศึกษาที่ ๗ ดา่ นหนองแค ได้
ประสานงานในกลุ่ม ระหวา่ งกลุ่มโรงเรียนและหนว่ ยงานทีเ่ กย่ี วข้องจนทาใหง้ านสาเรจ็ ลุล่วงไปด้วยดี พรอ้ มให้
ขอ้ เสนอแนะ ข้อคิดเห็นท่ีเป็นประโยชนต์ อ่ งาน มีการนิเทศ กากบตดิ ตาม และประเมนิ ผลการปฏิบัติงานในหน้าที่
ข้าราชการครทู ั้งด้านงานวิชาการ งานบรหิ ารบคุ คล งานบรหิ รงบประมาณ และงานบริหารท่ัวไป เป็นผทู้ ่มี มี นุษย
สมั พันธท์ ี่ดี ยอมรับฟงั ความคิดเห็นทีแ่ ตกต่าง ความคิดเห็นของผู้อืน่ มนี ้าใจ ใหค้ วามช่วยเหลอื ผู้ใตบ้ งั คับบัญชา
ทาใหห้ นว่ ยงานประสบผลสาเร็จทกุ ด้าน ได้ให้ความสาคัญ ยกย่อง และใหเ้ กียรตแิ ก่ผรู้ ว่ มงาน ผี้เกยี่ วข้อง ทาให้
ผรู้ ว่ มงานมขี วัญและกาลังใจ ในการปฎิบัติหน้าท่ี สรา้ งความสามคั คีในหมู่คณะ ทาใหง้ านประสบผลสาเรจ็ เกดิ ผลดี
ต่อทางราชการสูงสุด

ตัวชี้วัดท่ี ๔ การครองงาน

๔.๑ ความรบั ผดิ ชอบต่อหน้าท่ี
ได้เข้ารบั การอบรมและศกึ ษาค้นควา้ หาความรูท้ จ่ี าเป็นต้องใช้ในการบริหารงานอยเู่ สมอ โดยมี
ความตัง้ ใจปฏบิ ตั งิ านให้ไดร้ บั ความสาเร็จ เอาใจใส่ติดตามงานที่มอบหมายผู้ใต้บังคบั บัญชาอยา่ งสม่าเสมอ ให้
ความรว่ มมือชว่ ยเหลือในการปฏิบัตงิ านโดยยดึ หลกั การบริหารตามวิธกี าร
POSDCROB ๗ ขนั้ ตอน เป็นแนวทางในการบริหารงานในภาพรวมและใช้กระบวนการวงจร คณุ ภาพ PDCA ทา
ให้งานบรรลตุ ามเป้าหมายและมีประสิทธิภาพสงู สดุ

๖

๔.๒ มีความรู้ความสามารถและความพึงพอใจในการปฏิบัติงาน
รู้และเขา้ ใจหลกั เกณฑ์ วธิ กี าร ระเบียบ กฎ ข้อบังคบั มติ กฎหมาย และนโยบายที่ดี มีการนา
ความรทู้ ่มี ีอยไู่ ปใช้ในการบริหารงาน ส่งผลให้ผู้ใต้บังคับบญั ชาปฏบิ ัตติ ามระเบียบของทางราชการได้อยา่ งถกู ต้อง
งานบรรลเุ ปหู มาย ปฏบิ ัติงานไดอ้ ย่างมปี ระสิทธภิ าพ

ตัวชวี้ ัดที่ ๕ สมรรถนะทีส่ าคญั

๕.๑.ความสามารถในการวางแผนการปฏิบัตงิ าน
๑) มคี วามรู้ ความเขา้ ใจในการวางแผนการปฏิบัตงิ าน ข้าพเจ้าใชห้ ลกั การบริหารจดั การ

แบบมสี ่วนร่วม มคี วามมุง่ มนั่ ท่จี ะทางานเป็นทีมดว้ ยหลักการดังนี้ ความสามารถในการวางแผนรว่ มกบั ผู้อน่ื การรบั
ฟงั ความคิดเห็นของผู้อ่ืน การยอมรับข้อตกลงของทีมงาน ข้าพเจา้ มีความมุง่ ม่ันทจี่ ะปฏิบตั งิ านร่วมกนั และมคี วาม
เตม็ ใจใหค้ วามรว่ มมอื ในการปฏบิ ัติงาน รบั ผิดชอบในการปฏบิ ัติงานตามบทบาทหนา้ ที่ของตน การปฏิบัตติ นเปน็
ผูน้ าและผตู้ ามได้อย่างเหมาะสม กับบทบาทหน้าทใี่ ห้ความร่วมมอื กบั ทมี งานในการแก้ปัญหา

๒) มคี วามสามารถวางแผนการปฏิบตั ิงาน ข้าพเจ้ามีความสามารถวางแผนการปฏิบัติงานได้
อยา่ งครอบคลุมสถานศึกษา ได้ศกึ ษาและวิเคราะห์สภาพแวดล้อมบรบิ ทของโรงเรียน ความพรอ้ ม ปญั หาของ
โรงเรียนในการจัดทาโครงการ แกป้ ญั หา และพฒั นาสถานศึกษา ใช้หลกั การมีสว่ นรว่ มกบั คณะครคู ณะกรรมการ
สถานศึกษาองค์กรต่างๆ ในชุมชนนามาตรฐานการศกึ ษาและตวั ชว้ี ัดมาอภปิ รายร่วมกนั กาหนดเป็นโครงการ
กจิ กรรมเปน็ แผนเชิงกลยทุ ธท์ ี่มุง่ เน้นผลสมั ฤทธติ์ ่อการพฒั นาคุณภาพการศึกษา โดยใช้กระบวนการพฒั นาแบบ
เทคนิคและหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงสสู่ ถานศกึ ษา มาประยุกต์ใชใ้ นการดูแล ควบคมุ กากบั ตดิ ตาม
เก่ียวกับการบริหารงานต่างๆได้

๓) สามารถทาแผนการปฏบิ ตั งิ านไดส้ าเรจ็ ครอบคลมุ งานในสถานศึกษา

จากการปฏิบัติหนา้ ท่ใี นฐานะผูอ้ านวยการโรงเรยี น ข้าพเจา้ ได้นาความรู้ความเข้าใจเกย่ี วกบั การ
บรหิ ารงาน และกจิ การของสถานศกึ ษาให้มีการปฏบิ ตั ิงานตามหนา้ ที่ และความรบั ผิดชอบ ข้าพเจา้ ได้ใช้ความรู้
ความสามารถ ในการบริหารงานท้ัง 4 ฝุายงาน แสวงหาและใช้ข้อมูลสารสนเทศเพ่ือจัดเกบ็ ข้อมลู ท่ีพรอ้ มตอ่ การ
ใชง้ าน หาแนวทางในการปรับปรุงแก้ไขโดยนาเสนอครแู ละฝุายบริหาร เครอื ขา่ ยผู้ปกครอง คณะกรรมการ
สถานศกึ ษา เพ่ือร่วมกาหนด วสิ ัยทัศน์ พันธกจิ กาหนดทิศทางการบรหิ ารงาน โดยการมีสว่ นรว่ มของทุกภาคส่วน
ใช้หลกั ธรรมาภบิ าล ยดึ หลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ปฏิรูปการเรียนรใู้ ห้เป็นไปแนวทางพระราชบญั ญัติ
การศึกษาแห่งชาติพุทธศักราช ๒๕๔๒ ฉบบั เพิ่มเตมิ ๒๕๔๕ เพอ่ื พัฒนาการจดั การเรียนรูใ้ นยุคการเรียนศตวรรษ
ที่ ๒๑ ผลจากการดาเนนิ งานทาใหท้ กุ ฝุายรว่ มกันจัดทาเป็นแผนปฏิบตั ิงาน ๔ ปี และแผนปฏบิ ตั ิราชการประจาปี
มกี ารติดตามประเมินและรายงานคุณภาพตามมาตรฐานและตวั ชว้ี ัด ปัญหาต่างๆในโรงเรียนจึงได้รบั การแก้ไขและ
ปรบั ปรงุ อย่างมปี ระสิทธิภาพ โรงเรยี นไดร้ บั การพฒั นาไปทิศทางที่กาหนด

๗

๕.๒.ความสามารถในการปฏบิ ตั งิ าน
๑) มีความมุ่งมัน่ ตง้ั ใจในการปฏิบัตงิ าน
ขา้ พเจ้าไดใ้ ช้หลักการบริหารแบบการมีส่วนร่วมมาเป็นแนวทางในการพฒั นาคุณภาพโรงเรยี น

ในการสร้างทีมงาน ร่วมระดมความคดิ ใชก้ ระบวนการร่วมกนั ยึดหลกั เศรษฐกิจพอเพียงในการสร้างทมี งาน โดย
บริหารงานแบบ บวร (บ้าน วัด โรงเรียน) ดาเนนิ การวางแผนพฒั นาการจัดการศึกษาของสถานศึกษา มกี าร
ประสานงานในการดาเนินกจิ กรรมการเรยี นการสอนกิจกรรมพัฒนาผ้เู รยี น ระบบดูแลชว่ ยเหลือนักเรยี น ครมู ี
ผลงานทางวชิ าการเกิดขนึ้ มากมาย นักเรียนมคี วามสามารถเข้ารว่ มแขง่ ขันงานมหกรรมวชิ าการนกั เรียนและเปน็
ตวั แทนสานกั งานเขตพ้นื ทีก่ ารศกึ ษาประถมศึกษาศรสี ะเกษ เขต ๒ ครัง้ ท่ี ๖๘ จานวน ๙ รายการ ครง้ั ที่ ๖๙
จานวน ๖ รายการทงั้ ด้านสมั พนั ธ์ชมุ ชน งานกจิ การนักเรยี น ครูมีวินยั คุณธรรมจรยิ ธรรมและจรรยาบรรณวชิ าชพี
มคี วามรักความสามัคคี ปฏบิ ัติงานได้อย่างมีประสทิ ธภิ าพ ผลจากการบรหิ ารจัดการดังกลา่ วเกิดผลต่อนกั เรียน ครู
สถานศกึ ษา กลา่ วคือ ครูไดร้ ับรางวัลครดู ี ศรสี พฐ.คือ คุณครอู ุบล สีหะวงษ์ ปี ๒๕๖๒ ครไู ดร้ ับรางวลั ครูดีใน
ดวงใจ ของสพฐ.ปี๒๕๖๓ คอื คุณครูมณี ประดับศรี ครูได้เล่ือนวิทยฐานะเปน็ ชานาญการ ๑ คน รางวลั
ผบู้ งั คบั บญั ชาลูกเสอื ดเี ด่น คุณครอู ุบล สหี ะวงษ์ ปี ๒๕๕๗ รางวลั ผบู้ งั คับบัญชาลกู เสอื ดเี ดน่ คุณครูมณี ประดับ
ศรี ปี ๒๕๕๙ สถานศกึ ษาผ่านการประเมินสถานศึกษาระดับเพชรแบบย่งั ยนื การดาเนินการตามโครงการ
โรงเรียนศลี ๕ “ตามรอยพ่ออย่างพอเพยี ง”ประจาปี ๒๕๖๒ โรงเรยี นไดร้ ับคัดเลอื กเปน็ โรงเรยี นนารอ่ งนวตั กรรม
ของจงั หวัดศรสี ะเกษ นวัตกรรม PROJECT APPROACH โรงเรียนไดร้ ับคดั เลือกเป็นการจดั กิจกรรมการเรียนการ
สอน โรงเรียนคณุ ภาพของชุมชน ของสานักงานเขตพน้ื ท่ีการศึกษาประถมศึกษาศรสี ะเกษ เขต ๒ ซ่ึงถือว่า
ความสาเร็จนั้นเกิดจากการตั้งใจในการปฏบิ ัตงิ านและการบรหิ ารงานแบบมีสว่ นรว่ ม

๒) มคี วามคดิ สร้างสรรค์นาสิง่ ใหม่ๆมาพัฒนางาน
จากการท่ขี ้าพเจ้าได้ศกึ ษาค้นคว้าริเริม่ สรา้ งสรรค์ความรูใ้ หมๆ่ มาใชพ้ ฒั นางานดา้ นวชิ าการ
โดยเข้าร่วมอบรมและศึกษาค้นควา้ ความรูใ้ หม่ๆดว้ ยตนเองกบั องค์ความรู้ท่ใี ช้ในการบรหิ ารจดั การและพัฒนา
นวตั กรรมทางการศึกษาซึ่งขา้ พเจ้าถือว่าเปน็ งานทเ่ี ดน่ ชดั ท่ีสุดท่ีส่งผลเปน็ ท่ีปรากฏยอมรับของนักเรยี นผูร้ ่วมงาน
ผู้ปกครองชุมชนและเป็นผลของการอุทิศตนเพ่ือประโยชนแ์ กว่ ิชาชีพ
๓) มคี วามสามารถในการตดิ ตามและประเมนิ ผลการปฎบิ ัตงิ าน
นาผลการติดตามงานมาแก้ไข ปรบั ปรุงพัฒนาใหด้ ีขนึ้ มีการขยายผลและเผยแพรผ่ ลงาน
อย่างต่อเนือ่ ง เชน่ น้อมนาเอาหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาบริหารจดั การสถานศกึ ษาสสู่ ถานศกึ ษา
พอเพยี ง
๔) มีความสารมารถในการปรับปรุงแกไ้ ขการปฏิบตั งิ านใหด้ ีข้ึน
ปรบั ปรุงสภาพแวดลอ้ มในโรงเรยี นใหเ้ ออื้ ต่อต่อการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ปรับปรุง
อาคารสถานท่ี ตลอดจนสภาพแวดล้อมในโรงเรยี นใหด้ สู วยงาม โดยได้ทาการปรบั สนามเด็กเล่น สนามกีฬา เสา

๘

ธงชาติ เสาเคร่อื งกรายเสียง ปรบั ปรุงหอ้ งดนตรี ห้องกีฬา ปรับปรงุ ห้องแสดงผลงานของครแู ละนกั เรยี น ปรบั ปรุง
สนามฟุตบอล

๕.๓. ความสามารถในการวางแผนเพ่ือปฏิบัตงิ านเปน็ ทมี
ในการปฏิบัติงานหนา้ ที่ผู้อานวยการโรงเรยี นไดบ้ รหิ ารจดั การสถานศกึ ษา ดูแล กากบั

ตดิ ตาม นาไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยนื คอื การเปิดโอกาสให้บุคคลและผู้แทนของกลุ่มองค์กรตา่ งๆในชุมชนท้องถน่ิ เข้า
มามสี ว่ นร่วมและรบั ผิดชอบในการกาหนดทิศทางในการพัฒนาโรงเรียนรว่ มกัน คณะกรรมการสถานศกึ ษารว่ ม
ดาเนินกิจกรรมการพฒั นา และรว่ มรับรู้ผลประโยชนท์ ่ีเกิดข้ึน ชุมชนเขา้ มามสี ว่ นร่วมในการวางแผนและตดั สินใจ
ร่วมสร้างความเข้าใจในการดาเนินงาน มีการยอมรับและรับผดิ ชอบในฐานะสมาชิกของชุมชน เกดิ ความรูส้ กึ ใน
ความเปน็ เจา้ ของและเกดิ ความภาคภูมิใจผลงาน ทตี่ นมสี ว่ นรว่ มกระบวนการพัฒนาเกิดขนึ้ และก่อใหเ้ กดิ
ความสาเร็จสงู สุด ดว้ ยการให้ความสาคัญและรว่ มมือในการบริหารจดั การของสถานศึกษา ใช้สถานที่ของโรงเรียน
ในการจดั กจิ กรรมตา่ งๆอย่เู สมอ และมสี ว่ นรว่ มแลกเปล่ยี นเรยี นรู้กับสถานศึกษาอย่างสม่าเสมอ จากการประเมนิ
ความพึงพอใจของผู้ปกครอง ในการประชุมผปู้ กครองนักเรียนพบวา่ ผปู้ กครองมีความพึงพอใจในการดแู ลนักเรยี น
การจดั กิจกรรมเสรมิ ทักษะให้แก่นักเรียน ผลสัมฤทธิ์ของนักเรยี นดีข้นึ พฤติกรรมดี มีระเบียบวนิ ยั ปญั หานกั เรียน
ได้รับการแกไ้ ขจากการรว่ มมือของทุกฝุาย การดูแลชว่ ยเหลือนักเรยี นกจิ กรรมส่งเสริมสนับสนุน และสวสั ดิการ
ต่างๆ ทุนการศกึ ษาแรกเขา้ สนบั สนนุ ค่าเลา่ เรียน ช่วยแบ่งเบาภาระของผปู้ กครอง สรา้ งโอกาสใหน้ ักเรียนที่
โรงเรียนมใี หส้ ง่ เสริมและแกป้ ัญหาการอ่านการเขยี นใหก้ ับนักเรียนอยา่ งต่อเนื่องคณะกรรมการสถานมสี ว่ นรว่ มใน
การพฒั นาการศึกษาเปน็ ผลทาให้จานวนนักเรียนเพิ่มข้ึนทุกปี

๑) ความสามารถในการทางานวางแผนร่วมกับผูอ้ ่นื ในการปฏิบัตหิ นา้ ทผ่ี ู้อานวยการโรงเรียน
บา้ นเพียมาต(ราษฎร์พทิ ยาคาร) ขา้ พเจา้ ไดท้ าหน้าที่ ดูแล กากับ ติดตาม การบริหารจดั การสถานศึกษาด้านการ
บริหารงาน 4 ฝาุ ยงาน และร่วมสรา้ งทมี งานทจี่ ะนาไปสู่การพฒั นาทีย่ ง่ั ยืน คือ เปิดโอกาสใหบ้ ุคคลและผ้แู ทนของ
กลมุ่ องคก์ รตา่ งๆที่อยู่ในชมุ ชนในทอ้ งถ่นิ คณะกรรมการสถานศกึ ษาเขา้ มามสี ่วนรว่ ม และรบั ผิดชอบในการกาหนด
ทิศทางการพฒั นาของสถานศึกษา รว่ มตดั สนิ ใจรว่ มดาเนินการพัฒนาและรบั รู้ผลประโยชนท์ เี่ กิดขึ้น

๒) มีการรบั ฟังความคิดเห็นของผ้อู ื่น ข้าพเจา้ มีน้าใจ เอื้อเฟอื้ เผือ่ แผ่ ช่วยเหลือเกือ้ กูลต่อเพื่อน
ร่วมงาน และเป็นกนั เองกับทุกคน ให้คาปรึกษา เสนอความคดิ เหน็ ใหเ้ กยี รติ ใหค้ วามร่วมมือ ให้กาลงั ใจและให้
ความสาคัญกบั ทุกคน อานวยความสะดวกแก่เพื่อนรว่ มงานและใตบ้ ังคับบัญชา ยดึ มน่ั ในคณุ ธรรมจรยิ ธรรม และ
สร้างความสามคั คีในหมู่คณะ ให้อภยั มคี วามจริงใจกับทุกคน ยอมรบั ความคิดเห็นของผอู้ ่ืน มีกิจกรรมใดรว่ มกนั
รับผิดชอบ ดแู ลเอาใจใสง่ านนั้นจนประสบผลสาเร็จ และเป็นท่ยี อมรับเกิดความไวว้ างใจกบั บุคคลและหนว่ ยงาน

๓) มีการยอมรบั ข้อตกลงของทีมงาน ขา้ พเจ้ามีหลักการบริหารจัดการแบบมสี ว่ นร่วม มีความ
มุ่งมัน่ ที่จะทางานเป็นทีม มีความเต็มใจให้ความร่วมมือในการปฏิบตั งิ าน ความรบั ผิดชอบในการปฏบิ ัตติ นตาม

๙

หนา้ ทบี่ ทบาทท่ไี ดร้ ับมอบหมาย การปฏิบัตติ นเป็นผู้นาหรือผู้ตามได้อยา่ งเหมาะสม ความร่วมมือกับทีมงานในการ
แก้ปัญหาการปฏบิ ัตงิ าน มีการรบั ฟังความคิดเหน็ ของผู้อน่ื และยอมรบั ข้อตกลงของทมี

๕.๔.ความสามารถในการปฏิบัตงิ านร่วมกับผู้อืน่
ขา้ พเจา้ ไดป้ ฏิบตั งิ านร่วมกับคณะครูและบุคลากรทางการศกึ ษาและบุคลากรในองค์กรตา่ งๆ
รวมท้งั ผทู้ ่เี กีย่ วข้องในโรงเรยี นบา้ นเพียมาต(รฐั ราษฎร์พิทยาคาร)และสานกั งานเขตพืน้ ที่การศกึ ษาประถมศกึ ษาศรี
สะเกษเขต ๒ ในการปฏิบัติงานรว่ มกับคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพืน้ ฐาน สมาคม ชมรม องค์กรชมุ ชนท้องถนิ่
ตา่ งๆจากการปฏบิ ตั งิ านของข้าพเจ้า ในการเป็นคณะกรรมการ อนกุ รรมการ คณะทางานตามโครงการกิจกรรมใน
ระดบั ต่างๆทเี่ ก่ียวข้องกับการบริหารการจดั การศึกษา ดังน้ี
- เปน็ คณะวทิ ยากรอบรมลูกเสอื ต้านยาเสพติด ของสานกั งานเขตพืน้ ท่ีการศกึ ษาประถมศึกษาศรี
สะเกษ เขต ๒
- เป็นประธานคณะกรรมการอานวยการ กิจกรรมแขง่ ขนั ขับรอ้ งเพลงสากล ช้ัน ม.๑-๓ งาน
มหกรรมวิชาการนกั เรียน คร้งั ท่ี ๖๙
- เป็นคณะกรรมการดาเนินการจดั กจิ กรรม “คา่ ยทักษะชีวติ นักเรียน ตามโครงการเฝาู ระวัง
ปอู งกันและแก้ไขปัญหายาเสพตดิ ในสถานศึกษา
- เป็นวิทยากรอบรมเชิงปฏบิ ัตกิ ารพฒั นาครูผสู้ อนภาษาไทย เพอ่ื การจดั การเรยี นรู้ที่เนน้ ทกั ษะ
กระบวนการเชื่อมโยงกับพฒั นาการทางสมอง

ผลของการครองตน ครองคน ครองงาน ส่งผลให้การบริหารจดั การเป็นไปตามหลกั การบริหาร
ในทางทฤษฎีสกู่ ารปฏบิ ัติที่มีประสิทธิภาพ ทาให้การทางานในหน่วยงาน มีความรัก ความสามคั คี ปรองดอง เป็น
นา้ หน่ใึ จเดียวกัน รว่ มมอื กันในการปฏบิ ตั ิงาน มกี ารพัฒนางานอย่างต่อเนื่อง นาผลการพัฒนาขยายผลและ
เผยแพรต่ อ่ สาธารณะชน จนเปน็ ที่ยอมรับของผู้บังคบั บัญชา ตลอดจนหนว่ ยงานท่ีเกีย่ วข้องและหน่วยงานอน่ื ๆ
เป็นผลดีตอ่ ผู้รับบรกิ าร นกั เรียน ผปู้ กครอง ประชาชนทัว่ ไป ตลอดจนประเทศชาติ

๑๐

รร.๑/๔
แบบประเมนิ ผลงานดา้ นบรหิ ารจัดการยอดเย่ียม(OBEC AWARDS)

๑.ช่ือรางวัลท่เี สนอขอ ผ้อู านวยการสถานศกึ ษายอดเยย่ี ม

ชอ่ื นายก้านแก้ว นามสกุล พันอินทร์
ตาแหนง่ ผ้อู านวยการโรงเรยี นบ้านเพียมาต(รัฐราษฎรพ์ ทิ ยาคาร)
ประเภท ประถมศึกษา
ขนาด สงั กดั สานกั งานเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษา
เลก็ (นักเรียนไม่เกนิ ๑๒o คน)
กลาง (นักเรียน ๑๒๑-๑๘o คน)
ใหญ่ (นักเรียน ๑๘๑ -ข้ึนไป)

โรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา สังกัด สานกั งานเขตพื้นทก่ี ารศึกษาประถมศึกษา

มธั ยมศึกษา สังกัดสานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษามธั ยมศกึ ษา
ขนาด เลก็ (นกั เรยี นไม่เกนิ ๕oo คน)

กลาง (นกั เรียน ๕o๑-๑,๕oo คน)
ใหญ่ (นักเรียน ๑,๕oo -ข้นึ ไป)

ดา้ น ดา้ นวิชาการยอดเยยี่ ม
ด้านบรหิ ารจัดการยอดเย่ยี ม
ด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยเี พอื่ การเรียนการสอนยอดเยย่ี ม

๒.เกณฑก์ ารประเมิน

องคป์ ระกอบท่ี ๑ ดา้ นคณุ ภาพผู้เรียน

๑. ความสามารถในการอ่านการเขียนได้ ของนกั เรยี นในรอบปีทแี่ ล้ว
ในปกี ารศึกษา ๒๕๖๐ เปน็ ต้นมา โรงเรยี นไดด้ าเนินการตามโครงการส่งเสรมิ นิสัยรกั การอา่ นและ

การแสวงหาความรดู้ ้วยตนเองของผูเ้ รยี น เพอ่ื พฒั นาความสามารถในการอ่านการเขียนได้ของนักเรยี นในรอบปที ี่
ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยงิ่ การยกระดบั คุณภาพผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน จดั หอ้ งเรยี นคุณภาพท่ีสรา้ ง
บรรยากาศแหง่ การเรียนรู้และส่งเสรมิ สนบั สนนุ ใหน้ ักเรียนไดฝ้ กึ อ่านฝึกเขยี นการจดั ห้องพเิ ศษตา่ งๆเพม่ิ ขึน้ เชน่

๑๑

หอ้ งปฏบิ ัติการกลุม่ สาระฯ ศูนย์ขอ้ มูลศาสตรพ์ ระราชา ในโรงเรยี นศนู ย์การเรียนร้สู อู่ าชีพ ศูนยก์ ารเรียนรู้ตามหลัก
ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง ศูนย์วฒั นธรรมทอ้ งถนิ่ ห้องสมุด ๓ ดี ห้องฝึกทักษะอาชีพ ศนู ยต์ า่ ง ๆ สามารถ
พฒั นานกั เรยี นให้เกิดนสิ ัยรักการอ่านส่งเสริมใหน้ ักเรยี นได้เรียนรู้และพัฒนาตนเองอย่างตอ่ เนอื่ ง กิจกรรม ”วาง
ทกุ อย่าง อา่ นทุกเรื่อง” มาตรฐานที่ ๓ ผเู้ รยี นมีทกั ษะในการแสวงหาความรู้ด้วยตนเองรักการเรียนรู้พฒั นาตนเอง
อยา่ งต่อเนอ่ื ง ตัวบ่งช้ีท่ี ๑ ผูเ้ รียนมนี ิสัยรกั การอ่านและแสวงหาความร้ดู ว้ ยตนเองจากห้องสมุดแหลง่ เรยี นรู้และส่ือ
ต่าง ๆ รอบตวั อยู่ในระดบั คณุ ภาพดีเย่ยี ม ตวั บง่ ช้ที ่ี ๒ ผเู้ รยี นมที ักษะในการอ่านฟังดพู ดู เขียนและตงั้ คาถามเพื่อ
คน้ หาความร้เู พิ่มเติมอยใู่ นระดบั คุณภาพดีมาก มกี ารพฒั นานกั เรยี นตามฐานข้อมูล จดุ เน้นสถานศกึ ษาตามตัวชี้วดั
มิตทิ ี่ ๒ ความสามารถในการอ่านภาพรวมของโรงเรยี นร้อยละ ๘๕.๔๐ ความสามารถในการเขียนภาพรวม
ของโรงเรียนร้อยละ ๘๖.๐๔ นักเรียนมีทักษะในการใชภ้ าษาในการสอ่ื สารภาพรวมของโรงเรยี นร้อยละ ๕๕.๗๖
ผลจากการดาเนนิ งานการอา่ นออกเขียนได้ นักเรยี นเกดิ ทักษะความชานาญ ส่งผลใหผ้ ู้เรยี นไดร้ บั รางวัลเกยี รติบัตร
ทางด้านภาษา การท่องอาขยานทานองเสนาะ การร้องเพลงไทยลกู ทงุ่ การร้องเพลงพระราชนิพนธ์ ทัง้ ในระดบั
เขตพน้ื ที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต ๒

๒. ผู้เรียนมคี วามสามารถในการคิดเปน็ ทาเป็นแก้ปัญหาได้
จากผลการประเมินคณุ ภาพรอบ ๓ มีผลการประเมนิ ตัวบง่ ชที้ ่ี ๔ ผู้เรยี นคิดเป็นทาเป็นอยู่ระดับดีมาก
โรงเรียนไดด้ าเนินการจดั กจิ กรรมการเรยี นการสอนและกิจกรรมเสริมหลักสตู ร เพ่ือพัฒนาผเู้ รยี นต้านทักษะ
กระบวนการคิด และการเขยี นส่ือความ เชน่ กิจกรรมการฝึกการอภปิ รายกจิ กรรมโครงงาน ค่ายวชิ าการนักเรยี น
คา่ ยภาษาอังกฤษ คา่ ยลูกเสือตา้ นยาเสพตดิ ค่ายวิทยค์ ณิตบูรณาการค่ายภาษาสู่อาเซียน วธิ กี ารแกป้ ญั หาทาง
วทิ ยาศาสตร์ โครงงานอาชพี จัดกระบวนเรียนการสอนด้วยนวัตกรรม PROJECT APPROACH ทเี่ ด็กไดอ้ อกแบบ
การเรยี นรแู้ ละลงมอื ปฏิบัติ มีการประเมนิ ความสามารถดา้ นการคดิ ของผู้เรยี นตามที่กาหนดในหลักสูตร จน
สามารถส่งนกั เรยี นเข้าร่วมแข่งขันทกั ษะทางวชิ าการประเภทโครงงานคณติ ศาสตร์ โครงงานวทิ ยาศาสตร์
ภาพยนตร์สน้ั ปน้ั ดนิ นา้ มนั ระดบั ปฐมวัย ได้รบั รางวลั เหรียญทองระดับชาติ ปกี ารศึกษา ๒๕๕๗-๒๕๖๓ และส่งผล
ใหน้ ักเรียนผ่านการประเมนิ การคิดวเิ คราะห์ทกุ คน คิดเป็นร้อยละ ๑๐๐ และผ่านในระดับ ดีเย่ียม ได้คะแนนใน
ระดับ ๘๕ ข้ึนไปเปน็ จานวนมาก
๓. ผลสัมฤทธิก์ ารทดสอบ O-NET
โรงเรยี นบ้านเพยี มาต (รัฐราษฎรพ์ ิทยาคาร)มคี ่าคะแนนเฉลีย่ ผลการทดสอบ O-NET ของผเู้ รยี น
ระดบั ชั้นประถมศึกษาศกึ ษาปีที่ ๖ ในแตล่ ะกลุ่มสาระการเรียนรู้มากกวา่ คา่ เฉลีย่ ระดบั ประเทศจานวน ๑ กลุม่
สาระการเรยี นรู้ประกอบดว้ ยกลมุ่ สาระการเรียนร้ภู าษาไทย มีค่าคะแนนเฉลี่ยผลการทดสอบ O-NET ของผู้เรียน
ระดบั ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี ๓ แผนภมู ติ ารางท่แี สดงการเปรียบเทียบคะแนนเฉลย่ี ของผลการสอบ O-NET ตาราง ๑
ตาราง ๒ ซ่งึ มผี ลการพฒั นาในภาพรวม จงึ ทาให้ไดร้ บั การยกย่องชมเชยจากสานักงานเขตพืน้ ที่การศึกษา

๑๒

ประถมศึกษา ศรีสะเกษ เขต ๒ ให้โรงเรียนบา้ นเพยี มาต(รฐั ราษฎรพ์ ทิ ยาคาร)เป็นโรงเรยี นทีม่ กี ารพฒั นาคะแนน

การทดสอบทางการศกึ ษาระดับชาตขิ นั้ พน้ื ฐาน(O-net)ในระดับยอดเยย่ี ม Best of the Best

ตาราง ๗ แสดงการเปรยี บเทียบ คะแนนเฉล่ยี ของผลการทดสอบ O-net ระหวา่ งค่าเฉลี่ยของโรงเรียนกับ

ระดับประเทศ ช้ันม.๓

วชิ า คะแนนเฉลย่ี ผลต่างคา่ เฉลีย่ ของ

โรงเรียน ประเทศ โรงเรียนกับระดบั ประเทศ

ภาษาไทย ๕๓.๕o ๕๕.๑๔ -๑.๖๔
คณิตศาสตร์ ๑๘.๕o ๒๖.๗๓ -๘.๒๓
วทิ ยาศาสตร์ ๒๘.๑๖ ๓o.o๗ -๑.๙๑
ภาษาอังกฤษ ๒๙.๗๕ ๓๓.๒๕ -๓.๕

ตาราง แสดงการเปรยี บเทียบ คะแนนเฉล่ียของผลการทดสอบ O-net ระหว่างค่าเฉลย่ี ของโรงเรยี นกับ
ระดบั ประเทศ ช้ัน ป.๖

วิชา คะแนนเฉล่ีย ผลต่างคา่ เฉลีย่ ของ
โรงเรียนกับ
ภาษาไทย โรงเรยี น ประเทศ ระดับประเทศ
คณติ ศาสตร์ +o.๗
วิทยาศาสตร์ ๕o.๓๗ ๔๙.๖๗ -๓.๔๙
ภาษาองั กฤษ ๒๙.๔๑ ๓๒.๙o -๑.๕๑
๓๔.o๔ ๓๕.๕๕ -๔.๒๗
๓o.๑๕ ๓๔.๔๒

๔. ผู้เรยี นมคี ณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ ๘ ประการ
จากผลการประเมินคุณภาพรอบ ๓ มีผลการประเมนิ ตวั บง่ ชี้ท่ี ๒ ผเู้ รยี นมีคณุ ธรรมจริยธรรมและ
คา่ นิยมท่ีพึงประสงค์อยูร่ ะดับดีมาก คะแนน ๘.๖๔ และจากการเสนอแนะของการประเมนิ คณุ ภาพผเู้ รยี น มี
สขุ ภาพกายและสขุ ภาพจติ ท่ดี ี มีคุณธรรมจริยธรรมและค่านิยมทพ่ี งึ ประสงค์ กิจกรรมคุณธรรมจริยธรรมก่อนเริม่
เรียนในตอนเชา้ และก่อนสอนทกุ รายวิชากิจกรรม ผู้อานวยการโรงเรยี นพบนักเรยี นอบรมและปลูกฝังนักเรยี นด้าน
คณุ ธรรมจริยธรรมและคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงคซ์ ง่ึ ใช้เวลา ๑o นาที กอ่ นเข้าเรียนท้งั ในตอนเชา้ โดยมคี รูที่
ปรึกษาเป็นผ้คู อยควบคุมดูแล นาความรทู้ ่ีไดร้ บั จากผู้บริหารไปปรบั ใช้ในชวี ิตประจาวนั เพ่ือเนน้ ให้ผู้เรยี นเกิด

๑๓

ความตระหนัก จนเกิดเปน็ นิสัยในการเป็นคนดีมคี ุณธรรมจรยิ ธรรม นาไปใชใ้ นชวี ิตประจาวนั อยู่ร่วมในสังคมได้
อย่างมีความสขุ ส่งผลใหน้ ักเรียนมคี ุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ๘ ประการที่หลักสูตรกาหนดทกุ ข้ออยใู่ นระดับดมี าก

ตารางรอ้ ยละของจานวนนกั เรยี นทีม่ ีผลการประเมนิ ดา้ นคุณธรรม

ชัน้ ม.๓ 9.09 27.28 63.64 100.00
ช้นั ม.๒ 35.71 70.36
ช้ัน ม.๑ 1144..8822
ชัน ป.๖ 00..0000 40.00 64.29
ชั้น ป.๕ 73.08
ช้นั ป.๔ 0.00 พอใช้ ดี
ชั้น ป.๓ 100.00
ชนั้ ป.๒ 11.5153.39 100.00
ชน้ั ป.๑ 00..0000 100.00
00..0000 100.00
00..0000
00..0000 100.00

0.00 20.00 60.00 80.00 120.00

ดเี ย่ียม

ตารางรอ้ ยละของจานวนนกั เรียนท่มี ผี ลการประเมนิ การมสี ่วนรว่ มในการอนุรักษ์ธรรมชาติ

ชนั ้ ม.๓ 3.577.14 89.29
ชนั ้ ม.๒ 8.3312.50
ชนั ้ ม.๑ 22.22 79.17
ชนั ้ ป.๖ 10.71
ชนั ้ ป.๕ 9.09 77.78
ชนั ้ ป.๔ 16.67
ชนั ้ ป.๓ 89.29
ชนั ้ ป.๒ 4.76
ชนั ้ ป.๑ 90.91

83.33

100.00

95.24

100.00

0.00 20.00 40.00 60.00 80.00 100.00 120.00
พอใช้ ดี ดเี ย่ยี ม

๑๔

ตารางรอ้ ยละของจานวนนักเรียนทีม่ ผี ลการประเมินดา้ นความความภมู ิใจในความเปน็ ไทย

ชน้ั ม.๓ 18.18 81.82
ชนั้ ม.๒ 29.63 70.37
ชนั้ ม.๑ 37.50 62.50
ชัน ป.๖ 28.57 71.43
ชน้ั ป.๕
ชั้น ป.๔ 23.07 76.93
ชั้น ป.๓ 27.27 72.73
ชั้นป.๒
ชั้น ป.๑ 11.76 88.24
23.53 76.47
0.00 31.81 68.19

10.00 20.00 30.00 40.00 50.00 60.00 70.00 80.00 90.00 100.00

ดี ดีเยยี่ ม

ตารางผลการประเมินนักเรยี นด้านการยอมรบั ความคดิ เห็นของผู้อ่ืน สุขภาวะทางจติ ภูมคิ ้มุ กนั
และความเปน็ ธรรมต่อสังคม ทีอ่ ยใู่ นระดับ “ดีเย่ียม”

๑๕

รอ้ ยละของจานวนนกั เรยี นทมี่ ีความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี๑ - มธั ยมศึกษาปีที่ ๓ จาแนกตามระดบั คณุ ภาพ

t76.47

t88.23

t76.47t88.23
t66.67

t83.33

t66.67 t83.33
t81.82

t90.90

t81.8t290.90
t71.43

t85.71

t71.43 t85.71
t78.26

t91.30

t78.26t91.30
t83.33

t91.66

t83.3t391.66
t77.77

t88.88

t77.77t88.88
t77.77

t88.88

t77.77t88.88
t76.92

t84.61

t76.t9824.61
t100.00
t80.00
t60.00
t40.00
t20.00
t0.00

ชนั้ ป.๑ ชั้นป.๒ ชนั้ ป.๓ ชั้น ป.๔ ช้ัน ป.๕ ชนั ป.๖ ชั้น ม.๑ ชนั้ ม.๒ ชั้น ม.๓

ยอมรับความคดิ เหน็ ของผ้อู น่ื สขุ ภาวะทางจติ ภมู คิ ้มุ กนั คานงึ ถงึ ความเป็นธรรมตอ่ สงั คม

๕. ผู้เรียนไดร้ ับรางวลั จากการแข่งขนั ทางวิชาการจากสถาบนั ต่างๆอยา่ งน้อย ๑ ประเภท
จากการบริหารจดั การ การสนบั สนนุ การเรียนการสอน การพัฒนาผ้เู รยี นสู่การแข่งขนั ทักษะ

ต่างๆทาให้ไดร้ บั รางวลั จากการแขง่ ขนั งานมหกรรมวิชาการนกั เรียน และกิจกรรมพัฒนาผู้เรยี น จากสถาบันตา่ งๆ
เป็นตวั แทนสานกั งานเขตการศึกษาประถมศึกษาศรสี ะเกษ เขต ๒ เข้าร่วมแข่งขันระดับชาติ ดงั นี้

ผลการแข่งขนั ระดบั ชาติ งานศลิ ปหัตถกรรมนักเรียนคร้ังที่ ๖๘,๖๙ ปี ๒๕๖๑,๒๕๖๒

หมวดหมู่ รายการ เหรยี ญ นกั เรยี น ครู

สงั คมศึกษา การประกวด ทอง ๑. เด็กหญงิ จิดาภา เช้ือหงษ์ ๑. นางอานวย อาจสาลี

ศาสนาและ ภาพยนตรส์ ้ัน ม.๑- ๒. นางสาวอมรรัตน์ มนัยนลิ ๒. นางอมราวดี ด่านลี

วัฒนธรรม ม.๓ ๓. เดก็ หญิงอมุ าวดี แสงศร

๔. นางสาวเกษมณี จบั จัน่

๕. นางสาวเสาวภา ศรสี รุ ักษ์

สงั คมศึกษา การประกวด ทอง ๑. นางสาวสภุ าพร มนัยนลิ ๑. นางอบุ ล สีหะวงษ์
ศาสนาและ มารยาทไทย ม.๑- ๒. นายอภิธาร สมสขุ ๒. นางเทียมจันทร์ มณีวงษ์
วัฒนธรรม ม.๓

๑๖

หมวดหมู่ รายการ เหรียญ นักเรยี น ครู

ประเภทชาย ม.๑-
ม.๓

ศลิ ปะ-ดนตรี การแขง่ ขนั ขับร้อง ทอง ๑. นางสาววราภรณ์ แสงรัมย์ ๑. นางมณี ประดบั ศรี
เพลงไทยลกู กรงุ
ประเภทหญงิ ม.๑-
ม.๓

ศิลปะ-ดนตรี การแข่งขันขบั ร้อง ทอง ๑. เดก็ ชายกฤษฎา แกว้ คา ๑. นางมณี ประดับศรี
เพลงพระราชนพิ นธ์
ประเภทชาย ม.๑-
ม.๓

ศิลปะ-ดนตรี การแขง่ ขันขับร้อง ทอง ๑. นางสาววนั วิสา จาเริญ ๑. นางสาวพรทิพย์ จันหวั นา
เพลงพระราชนพิ นธ์
ประเภทหญิง ม.๑-
ม.๓

ผลงานดเี ด่น ดา้ นกีฬา

ท่ี รางวัลทไ่ี ด้รับ กจิ กรรมแข่งขนั หนว่ ยงานท่จี ัด สถานท่ี

กจิ กรรม

๑ รางวัลเหรียญทองชนะเลิศ เปตองหญิงรุ่นอายุ สพป.ศรีสะเกษ อาเภอราษีไศล

ไม่เกนิ ๑๖ ปี เขต๒ ปี ๒๕๖๑

๒ รางวลั เหรยี ญทอง เปตองหญงิ รุ่นอายุ จ.ศรสี ะเกษ จ.ศรีสะเกษ

ไมเ่ กิน ๑๖ ปี ปี ๒๕๖๑

๓ รางวลั เหรียญทอง เปตองชายรนุ่ อายุ สพป.ศรีสะเกษ สพป.ศรีสะเกษ

ไม่เกนิ ๑๖ ปี เขต ๒ ปี ๒๕๖๒ เขต ๒

๑๗

องคป์ ระกอบที่ ๒ ด้านการบริหารจัดการ
ตวั ชว้ี ัดที่ ๑ การพฒั นาระบบข้อมลู สารสนเทศของสถานศึกษา

ขา้ พเจ้าไดบ้ ริหารกจิ การของสถานศึกษา วางแผนการปฏบิ ัตงิ าน การควบคมุ กากบั ดูแลเก่ียวกับการ
บรหิ ารงบประมาณงานบุคคล และงานอ่นื ๆ ทเ่ี ก่ยี วข้องด้วยนวัตกรรมทางการศึกษา คือ กระบวนการเทคนิค
POSDCROB ชว่ ยให้ครูและบุคลากร รวมทง้ั ผทู้ ่ีมสี ่วนเกย่ี วขอ้ ง มีสว่ นร่วมในการวางแผนและการตัดสินใจร่วม
สรา้ งความเข้าใจ ในการดาเนินงานสร้างการยอมรบั ความรับผดิ ชอบ ในฐานะสมาชิกของชุมชน เกดิ ความรสู้ กึ เป็น
เจ้าของเกิดความภาคภมู ใิ จในผลงานทตี่ นมสี ่วนรว่ มกระบวนการพฒั นา เกดิ ความต่อเนื่องและก่อใหเ้ กดิ ผลสาเรจ็
สูงสดุ จากการให้ความสาคญั และความร่วมมือ ในการบริหารจัดการของสถานศึกษา มกี ารแลกเปล่ยี นเรียนรู้
ระหวา่ งสถานศึกษามีการใหบ้ รกิ ารสถานท่ีของโรงเรยี นในการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ของขมุ ขน และหนว่ ยงานอืน่ ผล
จากการดาเนนิ งานทาง ได้ประเมนิ ความพึงพอใจของผ้ปู กครองในการประชมุ ผปู้ กครองนักเรยี น พบว่า ผู้ปกครอง
มีความพึงพอใจ เรื่องการดูแลนกั เรยี น การจัดกิจกรรมเสริมทกั ษะให้แก่นกั เรียน การช่วยเหลือนักเรยี นสง่ เสรมิ
และแกป้ ัญหาการอ่านออกเขียนได้ใหก้ บั นักเรยี นอยา่ งต่อเนอื่ ง โดยคณะกรรมการสถานศกึ ษาข้นั พืน้ ฐานมสี ว่ น
ร่วมในการพัฒนาการศึกษา เปน็ ผลใหผ้ ลสมั ฤทธท์ิ างการเรียน และผลการทดสอบระดบั ชาติ (O-NET) ของ
นักเรียนดีขน้ึ จนได้รับความไว้วางใจจากผปู้ กครอง และคณะกรรมการสถานศึกษา โดยดาเนินการดังน้ี

๑.๑ มขี ้อมูลสารสนเทศท่คี รอบคลมุ ในการพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาอยา่ งครอบคลุมถกู ต้อง
และเปน็ ปจั จบุ ัน

ระบบข้อมูลและสารสนเทศมคี วามจาเป็นมาก สาหรบั ทุกองคก์ รโรงเรยี นมีการพัฒนาระบบข้อมลู
สารสนเทศพน้ื ฐานอยา่ งครอบคลุม เปน็ ปัจจุบนั และมีประสิทธิภาพเอ้ือต่อการใช้งานตลอดจนจัดเกบ็ ข้อมลู และ
สารสนเทศ อย่างเปน็ ระบบทันสมยั มีแผนพัฒนาดา้ นสารสนเทศ และมผี รู้ ับผิดชอบทช่ี ดั เจนตามโครงสร้าง โดยน้า
ขอ้ มลู สารสนเทศไปใช้ในการพฒั นาการบรหิ ารงานในโรงเรียน ดังน้ี

ดา้ นการเรียนการสอน มกี ารตดิ ตั้ง อนิ เตอรเ์ น็ต และโปรเจคเตอร์ ในห้องปฏบิ ตั กิ ารครบทุกกลุ่ม
สาระการเรยี นรเู้ พอ่ื เอื้อตอ่ การจดั กิจกรรมการเรียนการสอนในยคุ ปัจจบุ นั และรองรับสาหรับอนาคต

ดา้ นบรหิ ารจัดการ มกี ารจดั เก็บข้อมูลสารสนเทศ เพื่อสง่ ข่าวสารข้อมลู ภายในโรงเรยี นและ
ผปู้ กครองตลอดจนระบบออนไลน์ มีการใช้โปรแกรมระบบบริหารโรงเรยี น (EMIS) เพ่ือชว่ ยในการบรหิ ารจัดการ
ใช้โปรแกรมระบบงานสารสนเทศและผลสมั ฤทธิท์ างการเรียน (School Information) ในการจัดเก็บข้อมูลงาน
วิชาการใช้โปรแกรม E-Office ในระบบงานสารบรรณใชโ้ ปรแกรม P-OBEC ในการจัดเก็บข้อมูลบคุ ลากรใช้
โปรแกรมฐานข้อมูลส่ิงก่อสรา้ ง สพฐ. (Building) ในการเก็บข้อมลู ทดี่ นิ สิ่งก่อสรา้ งในโรงเรยี น ใช้โปรแกรม
EGP ในการดาเนินการจัดซื้อจดั จา้ งหอ้ งสมดุ โรงเรียนใช้ Software ประยุกต์ UPC Library ในการ
ดาเนนิ งานในรปู แบบของหอ้ งสมดุ อตั โนมตั ิโดย Software ดงั กลา่ วทางานรว่ มกับระบบฐานข้อมลู ของโปรแกรม
Microsoft Access ซึง่ สามารถบรหิ ารจัดการงานต่างๆภายในหอ้ งสมดุ และเกบ็ รวบรวมสถติ ิ ได้อย่างสมบูรณ์

๑๘

แบบ นอกจากน้ี ยังได้ทาการเผยแพร่กิจกรรม และผลการพฒั นาคณุ ภาพของโรงเรียนให้ผเู้ ก่ียวข้องได้ทราบ
อยา่ งต่อเนื่องผา่ นทางเว็บไซต์ของโรงเรยี น ( https://data.bopp-obec.info/) และเวบ็ ไซต์ของสานักงานเขต
พ้นื การศกึ ษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต ๒

ผลการดาเนินงาน
โรงเรยี นมีระบบข้อมูลสารสนเทศท่ีครอบคลมุ การบริหารงานทั้ง ๔ ฝาุ ย งานของโรงเรยี นถกู ต้องเป็น
ปัจจบุ ัน สามารถนามาใชใ้ นการบริหารงานการจดั การศึกษาไดอ้ ย่างมปี ระสิทธภิ าพ เช่น นาขอ้ มูลสารสนเทศมา
จัดทาแผนพฒั นาคณุ ภาพการศึกษา แผนปฏิบตั ิการประจาปี ฯลฯตลอดจนการแต่งตั่งบุคลากรให้รบั ผิดชอบงาน
แต่ละฝุายได้อยา่ งเหมาะสมกับบคุ ลาการทุกฝุาย มสี ว่ นร่วมทกุ คน ส่งผลใหน้ กั เรยี นมีผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนสูงขึ้น
มีจานวนนกั เรยี นเพิ่มมากข้นึ เปน็ แหลง่ ศึกษาดงู านของหน่วยงานทางราชการดว้ ยกันและเอกสาร บคุ คลธรรมดา
๑.๒ มกี ารจดั ระบบข้อมูลและสารสนเทศอย่างเป็นระบบ ถูกต้อง ทันสมัย พัฒนาอย่างต่อเนื่อง

โรงเรยี นไดด้ าเนนิ การโดยนาเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และเครือข่ายมาช่วยในการจัดระบบข้อมูล
สารสนเทศโดยแบ่งเปน็ ๕ ด้านดังน้ี

๑) ข้อมลู พน้ื ฐานท่วั ไปเกีย่ วกบั โรงเรยี น
- ทตี่ ัง้ แผนผงั ประวัติของโรงเรยี น
- วสิ ยั ทศั น์ พันธกิจ เปาู ประสงค์ ปรัชญาของโรงเรียน
- ระดับชัน้ ท่ีเปดิ สอน จานวนห้องเรียน จานวนนกั เรียน ครแู ละ
บุคลากรทางการศึกษา
๒) ข้อมลู ดา้ นวชิ าการ
- หลกั สูตรและการเรียนการสอน
- ข้อมูลพนื้ ฐานนกั เรยี นรายบุคคล
๓) ขอ้ มลู ดา้ นบรหิ ารจัดการ
- ขอ้ มูลดา้ นงบประมาณ
- ข้อมูลด้านการพัฒนาบุคลากร
- ข้อมูลด้านอาคารสถานทีว่ ัสดคุ รภุ ัณฑแ์ ละแหล่งเรยี น
- ข้อมูลการบริหารจดั การและโครงสรา้ งการบริหารงานของโรงเรียน
๔) ขอ้ มูลด้านผลสมั ฤทธ์ิ
- ผลสัมฤทธ์ิของนกั เรยี น-ผลงานของบุคลากรในโรงเรียน
- ผลงานของโรงเรียน
๕) ขอ้ มูลด้านสัมพันธ์ชมุ ชน

๑๙

- ขอ้ มลู การมีสว่ นร่วมกับชมุ ชน
- ขอ้ มลู ดา้ นการบริการชมุ ชนและเครอื ข่ายตา่ ง ๆ ของโรงเรยี น
ผลการดาเนินงาน
มีขอ้ มูลและสารสนเทศพนื้ ฐานทเี่ ปน็ หมวดหมู่ครอบคลุม ถูกต้อง สมบรู ณ์ เปน็ ปจั จุบนั สะดวกต่อการ
สบื ค้นและการนาไปใชป้ ระโยชน์ ท้งั ทางดา้ นสารสนเทศขั้นพน้ื ฐาน สารสนเทศด้านวิชาการ สารสนเทศดา้ น
บริหารจัดการ สารสนเทศดา้ นผลสมั ฤทธ์ิ ผลงาน และสารสนเทศดา้ นสมั พนั ธช์ ุมช
๑.๓ มกี ารนาเขา้ ข้อมลู และสาระสนเทศไปใชใ้ นการบริหารจัดการอยา่ งค้มุ คา่
โดยโรงเรียนบา้ นเพยี มาต(รัฐราษฎรพ์ ทิ ยาคาร)จดั เก็บข้อมลู โดยใชเ้ ทคโนโลยคี อมพวิ เตอร์เขา้ มาช่วย
ดาเนนิ การ ดงั น้ี
ด้านธุรการ
- ใชโ้ ปรแกรม E-Office ในการบรหิ ารจดั การระบบเอกสาร หนังสือราชการต่างๆ
- ใชโ้ ปรแกรม Microsoft Office
ด้านวชิ าการและดา้ นกิจกรรม
- ใช้โปรแกรม Microsoft Office
- การบริหารจดั การดา้ นวดั และประเมินผลโดยใช้โปรแกรมระบบ Q info และผลสัมฤทธ์ิ
ทางการเรียน (School mis)
- ใช้โปรแกรม Microsoft Office ในการจัดเก็บข้อมลู นักเรียน
- ใช้โปรแกรม DMC ในการจดั เกบ็ ข้อมลู นักเรียน
- การใช้โปรแกรมระบบบริหารโรงเรยี น ( EMIS) เพ่อื ชว่ ยในการบริหารจัดการ
ดา้ นการเงนิ งบประมาณ
- ใช้โปรแกรมใน Microsoft Office การจัดเกบ็ ข้อมูลบญั ชตี า่ งๆ
- ใชโ้ ปรแกรม P-OBEC การจัดเก็บข้อมูลบุคลากร
- ใช้โปรแกรมฐานขอ้ มลู สิง่ ก่อสรา้ ง สพฐ (Building) ในการเกบ็ ข้อมูลที่ดิน สง่ิ กอ่ สรา้ งใน
โรงเรยี น
- ใช้โปรแกรม EGP ในการดาเนินการจดั ซ้ือจัดจ้าง
- ระบบแนะนาสารบั อาหารกลางวันสาหรับโรงเรียน Thai School Lunch
ผลการดาเนนิ งาน
มกี ารจัดเก็บข้อมูลและสาระสนเทศอยา่ งเป็นระบบ เป็นหมวดหมู่ชดั เจน ทนั สมัย สะดวกต่อการ
สืบคน้ สามารถเรยี กใช้ได้ทันทีและมขี ้อมลู ทีผ่ ่านการวิเคราะห์เคราะห์สรปุ แปลผล เอื้อต่อการนาไปใชป้ ระโยชน์

๒๐

ตลอดจนมกี ารพฒั นาระบบอย่างตอ่ เน่ืองส่งผลใหไ้ ด้ขอ้ มูลสาระสนเทศท่ีตอบสนองความต้องการของทุกกลุ่มงาน
ในโรงเรยี น

๑.๔ มกี ารเผยแพร่ข้อมูลสารสนเทศทเี่ กยี่ วกบั กจิ กรรมของสถานศกึ ษาอย่างสมา่ เสมอ รวดเรว็
โรงเรยี นไดม้ ีการวางแผนการดาเนนิ งาน ด้วยวิธหี ลากหลายและนา่ สนใจมกี ารเผยแพรข่ ้อมลู

และสารสนเทศของสถานศึกษาครอบคลุมกลุ่มเปาู หมาย มีผลงานปรากฏเด่นชัด ทกุ ฝุายพงึ พอใจ เชน่ เวปไซต์
โรงเรียน จัดทาเอกสารประชาสมั พนั ธ์ข้อมลู สารสนเทศของโรงเรียน เอกสารายงานการประเมินตนเอง (SAR) วีดิ
ทศั นแ์ นะนาโรงเรยี น ปูายประชาสมั พนั ธก์ ิจกรรมและผลงานของนักเรียน ปูายนิทรรศการการประชุมผ้ปู กครอง
การสง่ นักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ การจัดแสดงนิทรรศการแสดงผลงานนักเรยี น ผลงานครู เพ่ือให้ผปู้ กครอง
ชมุ ชน และผู้มีส่วนเกี่ยวขอ้ งไดร้ บั ทราบถงึ การดาเนินงานของโรงเรยี น โดยการเผยแพรส่ ารสนเทศนนั้ ผ้บู รหิ าร
และคณะครูทกุ คนมสี ว่ นร่วมในการดาเนินการทุกขัน้ ตอน

ผลการดาเนินงาน
จากการทโ่ี รงเรียนบ้านเพียมาต(รฐั ราษฎรพ์ ิทยาคาร)มีเผยแพร่ข้อมลู สารสนเทศที่เกย่ี วกับกจิ กรรมของ
สถานศึกษาด้วยรปู แบบที่หลากหลาย และมีการดาเนนิ การอย่างต่อเนอ่ื ง ทาให้ผปู้ กครองนกั เรยี นและชุมชนไดร้ บั
ทราบข้อมลู ผลการดาเนนิ งานในการบริหารจัดการอย่างต่อเน่ือง ทาใหโ้ รงเรียนบา้ นเพยี มาต(รัฐราษฎรพ์ ิทยาคาร)
ไดร้ ับการยอมรบั จากผู้ปกครองและชุมชน โดยสง่ บุตรหลานเข้ามาศึกษาเปน็ จานวนมากขนึ้

ประชมุ ผูป้ กครองนักเรยี นประจาปี ผปู้ กครองร่วมงานประเมินรร.ศลี ๕

๒๑

ผปู้ กครองผูป้ กครองรว่ มทา MOU สรา้ งข้อตกลงในการดูแล ช่วยเหลือ
นักเรียน

ประชมุ คณะครูรว่ มกบั คณะกรรมการสถานศึกษาขนั้ พน้ื ฐาน

๒๒

ตวั ชวี้ ดั ท่ี ๒.การพฒั นาแหล่งเรยี นรู้
โรงเรียนไดม้ ีการพัฒนาแหล่งเรยี นรู้ภายในสถานศกึ ษาเพ่อื สง่ เสริมสนับสนนุ และเปดิ โอกาสให้ผู้เรยี น

ได้พัฒนาอยา่ งเตม็ ศักยภาพตามความสามารถของแตล่ ะคน โดยพัฒนาแหล่งเรยี นรูภ้ ายในโรงเรียนใหม้ คี วาม
พรอ้ มมจี านวนเพยี งพอและพัฒนาให้ทนั สมยั สนองต่อการจัดกิจกรรมการเรยี นรูด้ ังนี้

๒.๑ มีการพฒั นาห้องสมุดทีม่ ีมาตรฐานมีปริมาณหนังสอื ทสี่ อดคล้องกบั การจดั การเรยี นรอู้ ย่าง
เพียงพอทันสมยั

โรงเรียนบา้ นเพียมาต(รัฐราษฎรพ์ ิทยาคาร) ได้จดั หาหนงั สอื วารสาร สารานกุ รม หนังสืออ้างอิง
หนงั สอื ภาพสอ่ื สงิ่ พิมพ์ ส่ือวีดที ัศน์ท่ีทันสมยั จานวนมากพอทจ่ี ะให้บริการครผู ้สู อน นักเรียนทสี่ อดคลอ้ งกับ

๒๓

การจดั การเรียนร้โู ดยมีการจดั ระบบหมวดหมหู่ นังสือแบบดิวอี้ และมีการใหบ้ ริการคอมพิวเตอร์ แทบเล็ตเพ่ือให้
ผเู้ รียนและบุคลากรได้สบื ค้นข้อมลู ทางระบบอนิ เตอร์เน็ต ไดจ้ ัดกจิ กรรมเพ่ือสง่ เสริม การเรยี นรู้ในวันสาคัญเน่ือง
ในวันแมแ่ หง่ ชาติวนั พ่อแห่งชาติ วนั ภาษาไทย เพื่อให้นักเรยี นได้แสดงความสามารถในดา้ นตา่ งๆ

ผลการดาเนนิ งาน
ทาให้ครูและนักเรียนมีห้องสมุดคุณภาพ มีแหลง่ คน้ คว้าขอ้ มูล ส่งเสรมิ นสิ ยั ใฝเุ รียนร้ดู ้วยตนเอง
และรักการอา่ น รู้จักใชเ้ วลาว่างใหเ้ กดิ ประโยชน์

นักเรียนสืบค้น คน้ ควา้ เรียนรจู้ ากส่ือเทคโนโลยที ท่ี นั สมัย

๒.๒ มกี ารพัฒนาห้องปฏิบตั กิ ารตา่ ง ๆ เพ่อื การเรียนรู้อยา่ งครบถ้วนและมีการใช้อย่างคุ้มค่า
โรงเรยี นได้ปรบั ปรงุ พัฒนาจดั หา สอื่ วสั ดุ อุปกรณต์ ามลักษณะการใชง้ านของห้องพิเศษต่าง ๆ
เพอ่ื บริการแกผ่ ู้เรียนและผสู้ อนในการจดั กจิ กรรมการเรยี นรูเ้ พ่ือพัฒนาศักยภาพของผเู้ รียนแตล่ ะคนอยา่ งเต็ม
ความสามารถตามความแตกต่างของผ้เู รียนแต่ละคน ซึ่งมหี ้องปฏบิ ัตกิ ารต่างๆ ได้แก่ ห้องปฏบิ ตั กิ ารทางภาษา
เพือ่ ฝึกทกั ษะด้านภาษาแกผ่ เู้ รยี นห้องปฏบิ ัติการวทิ ยาศาสตร์เพื่อให้ผ้เู รยี นไดฝ้ ึกทักษะกระบวนการทาง
วทิ ยาศาสตร์ ห้องปฏิบัตกิ ารคอมพวิ เตอรเ์ พื่อให้ผเู้ รียนได้พฒั นาและฝึกการใช้เทคโนโลยอี ย่างเหมาะสม
ห้องคณิตศาสตรเ์ พอื่ ฝึกการคิดคานวณ ศนู ย์การเรียนรู้ตามปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง และศูนย์อาเซียนเพ่ือ
เรยี นรู้สปู่ ระชาคมอาเซยี น
ผลการดาเนนิ งาน
การผู้เรียนมหี อ้ งปฏบิ ัตกิ ารที่สง่ เสริมกระบวนการเรียนรู้ ทาให้ผูเ้ รยี นไดร้ ับการพฒั นาอย่างเต็มศักยภาพ

๒๔

มีห้องปฏบิ ัตกิ ารณเ์ พ่ือสง่ เสริมการเรยี นรู้

๒.๓ มกี ารพัฒนาแหลง่ เรียนร้ภู ายในสถานศึกษาที่เอ้ือตอ่ การเรยี นรขู้ องผเู้ รยี นอยา่ งต่อเน่ือง
โรงเรยี นไดพ้ ฒั นาแหลง่ เรยี นรู้ตา่ ง ๆ ในสถานศึกษา เพอ่ื ใชจ้ ัดกิจกรรมการเรียนรู้ หรอื สนบั สนุนการ
เรยี นรขู้ องผเู้ รยี น โดยแหลง่ เรยี นร้ทู ม่ี ใี นสถานศึกษา ได้แก่ หอ้ งสมดุ ศูนยเ์ รียนร้สู อู่ าชพี ศนู ยข์ ้อมลู
พฤกษศาสตร์โรงเรยี นห้องสมุดกลุม่ สาระ หอ้ งปฏบิ ตั ิการกลุ่มสาระ เพ่ืออบรมและเตรยี มความพร้อมให้แก่
ผเู้ รียนในตอนเช้า เทย่ี ง เย็น หอ้ งจรยิ ธรรมให้ผู้เรยี นได้ฝึกปฏบิ ตั ิศาสนกจิ ในชวี ติ ประจาวนั ศูนย์การเรียนรู้ตาม
ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง ใหผ้ ู้เรียนไดเ้ รียนรู้เกี่ยวกับพระราชกรณียกจิ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั ภูมิ
พลอดุลยเดช และศูนยอ์ าเซียนเพอ่ื เรยี นรูส้ ู่ประชาคมอาเซยี น
๒.๔ การจดั สภาพแวดล้อมภายในสถานศึกษาที่ส่งเสริมสุขภาพกายอารมณจ์ ติ ใจอย่างเหมาะสม
โรงเรียนได้จดั สรรพื้นที่ใหเ้ กดิ ประโยชน์สงู สุดเพื่อสง่ เสริมสขุ ภาพกาย อารมณแ์ ละจติ ใจโดยมโี ดมกีฬา
ใหน้ กั เรียนได้เลน่ กีฬา พักผอ่ น ตามอธั ยาศัย และทากิจกรรมตามความเหมาะสม มลี านเศรษฐกิจพอเพียงให้
นักเรยี นไดผ้ ักผ่อนรวมท้งั สนามฟุตบอลเพ่ือจัดกิจกรรมการเรยี นรกู้ ลางแจ้งใหน้ ักเรยี นได้เล่นในเวลาวา่ ง มีการ
ตกแตง่ สถานทใ่ี หส้ ะอาดสวยงาม รม่ ร่ืน เพอ่ื สรา้ งบรรยากาศในการเรยี นรู้อย่างมีความสุข
ผลการดาเนินงาน
ทาให้ผู้เรยี นมสี ุขภาพกายที่สมบรู ณ์แขง็ แรง อารมณ์และจิตใจดงี าม จนได้รบั รางวลั โรงเรียนสง่ เสริม
สุขภาพ

๒๕

ตวั ช้ีวดั ท่ี ๓ การพัฒนาคุณภาพสถานศึกษา
โรงเรียนมกี ารพัฒนาแผนพฒั นาคุณภาพการศึกษาที่สอดคล้องกับนโยบายความต้องการและสภาพ

ปญั หาของสถานศึกษาและท้องถ่ินด้วยการปรับปรุงแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาและจัดทาในรปู แบบของ
โครงการเพ่ือสนองนโยบายและแก้ปญั หาให้สอดคล้องกบั ความต้องการมีการดาเนินงานตามแผนและโครงการท่ี
จดั ทาขน้ึ เปน็ ระบบอย่างต่อเน่ือง มกี ารติดตาม ตรวจสอบ และประเมนิ การปฏบิ ัตติ ามแผนงานโครงการโดยใช้
เครื่องมือตรวจตรวจสอบท่ีมคี ุณภาพ มกี ารนิเทศตดิ ตาม ประเมินผล และนาผลการประเมนิ ไปใช้ปรบั ปรุงการ
ปฎบิ ัตงิ านตามแผนยุทธศาสตร์ ค่มู ือคุณภาพ โรงเรยี นบ้านเพียมาต (รัฐราษฎรพ์ ิทยาคาร) พุทธศักราช ๒๕๕๘-
๒๕๖๑ ในการวางแผนดแู ลการศึกษามีกระบวนการ ขัน้ ตอนดงั น้ี

๓.๑ มีการพฒั นาแผนพัฒนาคณุ ภาพการศึกษาทสี่ อดคลอ้ งกับนโยบาย ความต้องการและปัญหา
ของท้องถิ่น

โรงเรยี นมีการพฒั นาแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาทส่ี อดคลอ้ งกบั นโยบาย ความต้องการและปัญหา
ของทอ้ งถนิ่ การจัดทาแผนพัฒนาการศึกษา ไดจ้ ัดทาแผนพัฒนาการศึกษาทส่ี อดคล้องกับนโยบายทกุ ระดับและ
ครอบคลุมภารกิจหลักของสถานศกึ ษา มีการประเมินความต้องการจาเปน็ ของผทู้ ่เี ก่ยี วขอ้ ง มีกระบวนการจดั ทา
ทถี่ ูกต้อง ผูเ้ กี่ยวข้องมีสว่ นร่วม ในการจัดทาแผนทุกขัน้ ตอน แผนปฏิบัตกิ ารประจาปีทีส่ อดคล้องกับแผนกล
ยทุ ธ์และผ่านการตรวจสอบและเหน็ ชอบจากคณะกรรมการสถานศึกษาข้ันพ้นื ฐาน

๓.๒ มีการดาเนนิ การตามแผนพฒั นาการศึกษาอยา่ งเป็นระบบตอ่ เนื่อง
ทางโรงเรยี นไดด้ าเนนิ การตามแผนพัฒนาการศึกษาอย่างเปน็ ระบบต่อเนื่อง การประชุมชี้แจง ทา
ความเขา้ ใจกับผูท้ ี่เกีย่ วขอ้ ง มคี าส่งั มอบหมายงานใหผ้ รู้ บั ผดิ ชอบ มีการดาเนนิ งานตามโครงการหรือกจิ กรรมที่
กาหนดใหค้ รบถว้ นและมีการนเิ ทศ ติดตาม มบี นั ทึกหรือรายงานผลการนเิ ทศ ตดิ ตาม มีการนาผลการตดิ ตาม
ไปใช้ในการปรับปรุงแผน แผนงานโครงการและมีการรายงานผลการจดั ทาโครงการหรือกิจกรรมครบถว้ น ในการ
วางแผนพัฒนาการศึกษา ได้จัดโครงสร้างการบริหารทเี่ ปน็ ระบบสอดคล้องกบั การกระจายอานาจและเปูาหมาย
ของสถานศึกษาแสดงให้เห็นถึงความสอดคล้องและเชื่อมโยงของสายงานมคี วามครอบคลุมขอบขา่ ยและภารกจิ
หลกั ของสถานศึกษา ผ่านความเห็นชอบของต้นสังกัด มีการมอบหมายงานแกบ่ ุคลากรตามภารกจิ โดยใชข้ ้อมูล
พ้ืนฐานของบคุ ลากรและบรบิ ทของสถานศึกษา มีการจดั สรรทรพั ยากร สนบั สนนุ การดาเนินงานตามภารกิจและ
จัดใหม้ ีระบบควบคมุ
๓.๓ มกี ารติดตามตรวจสอบและประเมนิ ผลการปฏิบัติงานตามแผน โดยใชเ้ ครื่องมือในการ
ตรวจสอบอยา่ งมคี ณุ ภาพ
โรงเรยี นมีการติดตามตรวจสอบและประเมินผล การปฏิบตั งิ านตามแผนโดยใชเ้ กณฑ์การประเมิน
คณุ ภาพภายในตามมาตรฐานและตวั ชว้ี ดั ของสถานศกึ ษา ในการตรวจสอบอย่างมีคุณภาพ ได้มีการดาเนิน
กจิ กรรมหรือโครงการตามแผนปฏิบตั กิ ารประจาปีที่สอดคล้องกบั แผนกลยุทธ์ โดยใช้กระบวนการนเิ ทศ ติดตาม

๒๖

กากับ และรายงานผล เพื่อหาขอ้ สรปุ ผลของกจิ กรรมหรือโครงการ ถา้ พบปญั หาหรืออปุ สรรคจะดาเนินการ
ปรบั ปรงุ แก้ไขในโอกาสต่อไป ถ้าพบว่าเกิดผลดีก็ดาเนนิ การต่อไป หรอื อาจจะสอดแทรกกิจกรรมท่ีสามารถ
สง่ เสรมิ หรือสนับสนนุ กจิ กรรมเพ่ิมข้นึ เพ่ือให้เกดิ ประโยชนส์ ูงสดุ ต่อผเู้ รียนและองค์กร การติดตามตรวจสอบและ
ประเมนิ ผลการปฏบิ ตั ิงานตามแผนโดยใช้เครื่องมอื ที่ไดร้ บั การยอมรบั เช่น แบบสังเกต แบบสอบถาม แบบ
สมั ภาษณ์ แบบบันทึก แบบประเมนิ ผล ฯลฯ ซ่ึงเปน็ ท่ีมาของการหาคา่ ของข้อมลู ทแี่ ทจ้ รงิ เมือ่ ได้ผลการ
ประเมินมาแล้ว ไดน้ ามาพจิ ารณาผลทไ่ี ดว้ า่ อยู่ในระดับใด และนาผลเหลา่ นน้ั มาปรบั ปรุงแกไ้ ขหรอื พัฒนา
ส่งเสรมิ สนับสนนุ ในข้ันตอนต่อไป

๓.๔ มกี ารนาผลการประเมินไปใชใ้ นการปรับปรุงการปฏบิ ัติงานตามแผนอย่างตอ่ เนือ่ ง
โรงเรยี น มกี ารนาผลการประเมนิ ไปใชใ้ นการปรับปรุง การปฏบิ ัตงิ านตามแผนอยา่ งต่อเนื่อง เมอื่
โรงเรียนได้ดาเนนิ การโดยการวิเคราะหบ์ ริบท เพือ่ จาแนกแยกแยะสิง่ ทีอ่ ย่โู ดยรอบสถานศึกษาทง้ั ภายในและ
ภายนอกโดยผบู้ ริหารใชค้ วามสามารถในการนาองค์กร และเทคโนโลยีทางการบรหิ ารมีบทบาทในการเปน็ ผชู้ ้นี า
กาหนดวสิ ยั ทัศนท์ ่สี อดคล้องกับความต้องการของผ้มู สี ่วนไดส้ ว่ นเสยี และการพฒั นาให้ทันการเปลย่ี นแปลงเพ่อื
วางแผนกาหนดยุทธศ์ าสตรเ์ พื่อพฒั นาคุณภาพการศึกษา จากนน้ั จงึ นาแผนยทุ ธ์ศาสตรส์ ู่การปฏบิ ัตริ วมทง้ั ต้องมี
เครอื ข่ายและการมสี ว่ นร่วมเพอื่ เปิดโอกาสให้ทกุ ฝุายร่วมคิด ร่วมรบั รแู้ ละร่วมตัดสนิ ใจ นามาซง่ึ ความโปร่งใสใน
การบริหารงานและเพ่ิมคณุ ภาพการตัดสนิ ใจ ของสถานศึกษาให้ดีย่ิงขึ้นเป็นท่ียอมรบั ของทุกฝุาย ขณะเดยี วกัน
ตอ้ งมีการควบคุมการดาเนินงานใหเ้ ป็นไปอย่างมปี ระสิทธิภาพ มกี ารวัด ประเมนิ ผล เพื่อนาผลมาใช้ในการ
ปรบั ปรุง การดาเนินการคร้ังตอ่ ไป
ผลการดาเนินงาน
โรงเรียนมีแผนยทุ ธศาสตรแ์ ละแผนปฏบิ ตั กิ ารประจาปีสอดคล้องกบั เปาู หมายและนโยบายในการจดั
การศกึ ษาของชาติที่เกิดจากการมีสว่ นร่วมของทุกฝาุ ยเปน็ แนวทางในการปฏิบตั งิ านไปสเู่ ปาู หมายท่ีวางไว้
รายงานผลการปฏิบตั งิ าน / โครงการ / ผลการประเมินภายในและภายนอก

ตัวช้ีวดั ที่ ๔ การให้บริการด้านอาคารสถานท่ี
ไดจ้ ัดทาแผนแม่บทในการบริหารอาคารสถานทแ่ี ละสภาพแวดล้อม เพ่ือพฒั นาเปน็ แหล่งเรียนรใู้ น

สถานศกึ ษา จดั ทามาตรฐานภาระงานบุคคลและชี้แจงให้ครูและบคุ ลากรทางการศึกษาทราบ มีการมอบหมาย
งานสอดคล้องกับความรู้ ความสามารถและความตอ้ งการของสถานศึกษา สง่ เสริมให้ผเู้ รยี นผปู้ กครองและ
ชมุ ชนมีส่วนร่วมในการพฒั นาและใช้อาคารสถานท่แี ละสภาพแวดล้อม จดั ให้มกี ารจัดกจิ กรรมการเรียนรู้อยา่ ง
ประหยัดและคุ้มค่า มกี ารตดิ ตามประเมนิ ผลการใช้อาคารสถานที่และสภาพแวดล้อมและนาผลการประเมินไป
ปรับปรงุ พฒั นาต่อไป

๒๗

๔.๑ อาคารสถานทีใ่ นสถานศึกษาทกุ แห่งอยู่ในสภาพที่สะอาดปลอดภยั และถูกสุขลักษณะ
โรงเรียนมแี ผนบริหารอาคารสถานท่ี มีการแบ่งเขตความรับผิดชอบโดยให้นักเรียนแต่ละห้อง

พรอ้ มครูทป่ี รึกษารบั ผิดชอบ มกี ารตรวจสอบดแู ลปรับปรุงส่วนทีช่ ารดุ ใหอ้ ยู่ในสภาพดี มกี ารจัดระบบเวรยาม
ดูแลความปลอดภยั นอกจากน้ไี ด้ดาเนนิ โครงการ ๕ ห้องชีวิต ห้องส้วมสุขสนั ตแ์ ละโครงการอนรุ ักษ์พฒั นา
สงิ่ แวดล้อมมีกิจกรรมดูแล ซอ่ มแซม ปรบั ปรงุ พัฒนาอาคารเรียน อาคารประกอบต่างๆหอ้ งเรียนและบรเิ วณ
โรงเรยี นให้สะอาด ปลอดภัย มน่ั คง แข็งแรง เหมาะสมและเอ้อื ต่อการจดั กิจกรรมการเรียนการสอนและมีห้องนา้
หอ้ งส้วมทถ่ี ูกสขุ ลักษณะไดต้ ามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสขุ

๔.๒ มกี ารจดั เตรยี มอุปกรณ์สงิ่ อานวยความสะดวก ในการให้บรกิ ารอาคารสถานท่อี ย่างเหมาะสม
โรงเรียนไดจ้ ัดซ้อื อปุ กรณแ์ ละสิ่งอานวยความสะดวกประจาอาคารเรยี น อาคารประกอบด้วย ห้อง

สว้ ม หอ้ งปฏิบตั ิการต่าง ๆ ตลอดจนตรวจเช็คใหม้ คี วามปลอดภยั ใช้งานไดต้ ลอดเวลา ส่วนรอบ ๆ บริเวณโรงเรียน
จดั เขตบรกิ ารเพ่ือให้นกั เรียนแต่ละหอ้ งร่วมกันรับผิดชอบดูแลความสะอาด เรียบรอ้ ย และจดั ตกแตง่ บรเิ วณด้วย
ดอกไม้ต่าง ๆ เพ่ือใหม้ ีบรรยากาศที่ร่มร่ืนนา่ อยู่

๔.๓ มีการจัดระบบซอ่ มบารงุ อาคารสถานท่ีให้อยูใ่ นสภาพท่ีแข็งแรงสะอาดและปลอดภัยอยู่เสมอ
โรงเรยี นมฝี าุ ยอาคารสถานที่ทีร่ บั ผิดชอบสถานที่ ดูแลแจง้ งานซอ่ มกับฝาุ ยพสั ดุ โดยดาเนินการ

จดั ซ้ือ จดั จา้ งซ่อมแซม ตามระเบียบวา่ ดว้ ยการพัสดุ ดงั นี้ ปรบั ปรุงห้องปฏบิ ตั ิการภาษาองั กฤษมลั ติมีเดยี ปรบั ปรงุ
หอ้ งปฏบิ ตั ิการภาษาไทย ปรับปรงุ หอ้ งปฏิบัติการดนตรีนาฏศิลป์ ปรบั ปรงุ หอ้ งปฏิบัตคิ ณิตศาสตร์ ปรับปรุง
ห้องสมุดเป็นศูนย์การเรียนร้รู ักการอ่าน ปรับปรงุ หอ้ งคอมพิวเตอรแ์ ละติดต้งั คอมพิวเตอรพ์ ร้อมอปุ กรณ์
อินเตอรเ์ น็ตความเร็วสูง ปรบั ปรงุ หอ้ งเกยี รตยิ ศของโรงเรยี น ปรบั ปรุงศนู ยว์ ัฒนธรรมเปน็ ศนู ยก์ ารเรียนรูส้ อู่ าชีพ
ตดิ ต้งั ระบบน้าประปาและเครื่องผลติ นา้ ดมื่ ทีส่ ะอาดได้ตามมาตรฐาน ทาสีอาคารเรียน อาคารอเนกประสงค์ ร้วั
และประตูโรงเรียนใหเ้ ป็นปจั จบุ นั และสวยงามปรับปรงุ ห้องน้าใหส้ ะอาดสวยงามถูกตอ้ งตามหลักการของกรม
อนามัย

๒๘

๔.๔ มีการจดั ระบบสาธารณูปโภคอยูใ่ นสภาพท่ีใชก้ ารไดแ้ ละปลอดภัย
๑.โรงเรียนได้วางแผนจัดระบบสาธารณูปโภคให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานตลอดเวลา เช่น ห้องน้า

ห้องส้วม สวนหย่อม ห้องเรียน ระบบไฟฟูาโทรศัพท์ ระบบอินเตอร์เน็ต และระบบประปาตามโครงการประหยัด
พลงั งานในสถานศึกษา

๒. โรงเรียนจัดระบบความปลอดภัยโดยการมีส่วนร่วมของชุมชนช่วยกันดูแล ในการบริหารงาน
ด้านอาคารสถานทีทางโรงเรียนได้ดาเนินการในการติดตั้งกล้องวงจรปิดทั่วบริเวณโรงเรียนมีเวรยามรักษาการณ์
เพ่ือความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ติดตาม ดูแล ประเมินผลการดาเนินการ และประเมินผลความพึงพอใจ
ของผทู้ ี่เก่ยี วขอ้ งทกุ ฝาุ ย อย่างเป็นระบบ โดยมีคณะกรรมการที่มีหน้าท่ีรับผิดชอบโดยตรง และนาผลการประเมิน
มาแกไ้ ขปรับปรงุ พัฒนาต่อไป

ผลการดาเนนิ งาน
ทาใหโ้ รงเรียน และไดร้ ับความไวว้ างใจในการขอใช้อาคารสถานที่ในการจัดกิจกรรมจากหน่วยงาน
ในทอ้ งถิน่

อปุ กรณ์ปอู งกันความปลอดภัย

ตัวชี้วัดที่ ๕ การบริหารจดั การดา้ นงบประมาณ
๕.๑ มกี ารบรหิ ารงานงบประมาณเหมาะสมและเพียงพอ
โรงเรียนมีแหล่งท่ีมาของงบประมาณจากเงินอุดหนุนตามรายหัวนักเรียน และรายได้อื่น ๆ ซ่ึงโรงเรียน

ได้ดาเนนิ การจัดทาและเสนอของบประมาณซึ่งรัฐบาลจะจัดสรรให้ตามรายหัวนักเรียนใช้ข้อมูล ๑๐ มิถุนายนของ

๒๙

ทุกปี ได้จัดทาบัญชีของโรงเรียนตามท่ีมาของเงินและนาเสนอเพื่อจัดสรร ในการจัดสรรงบประมาณทาในรูปแบบ
ของคณะกรรมการที่ยึดแผนงาน / โครงการตามแผนปฏิบัติการประจาปีเป็นหลักโดยขอความเห็นชอบจาก
คณะกรรมการสถานศึกษาตามแผนการใช้จ่ายงบประมาณ มีการควบคุม ตรวจสอบ ติดตาม ประเมินผลการใช้
จา่ ยงบประมาณโรงเรียนบริหารงานงบประมาณ อย่างเหมาะสมและพอเพยี ง

๕.๒ มแี ผนการตดิ ตามควบคุมการใชง้ บประมาณอยา่ งชัดเจน
เมื่อผู้รับผิดชอบงาน / โครงการได้ดาเนินการกิจกรรมแล้วเสร็จจะสรุปงบประมาณ รายรับ-รายจ่ายให้
ฝุายการเงินโรงเรียนสรุปงบประมาณ เพื่อตรวจสอบและรายงานผลต่อผู้บริหาร เพื่อรายงานผลผู้บังคับบัญชา
สงู ขน้ึ ต่อไปตามระบบที่โปร่งใสและตรวจสอบได้ นอกจากน้ีแล้วยังมีระบบการตรวจสอบภายในจากสานักงานเขต
พ้ืนทกี่ ารศกึ ษา เปน็ ระยะ
๕.๓ มีการจัดทาบัญชีการใช้จ่ายงบประมาณอย่างเป็นระบบเป็นปัจจุบันและตรวจสอบได้
ตลอดเวลา
โรงเรียนมีแผนการกากับติดตามการใช้งบประมาณการเงินและพัสดุ มีการมอบหมายผู้รับผิดชอบอย่าง
ชัดเจนทาทะเบยี นคุมการใช้จ่ายเงิน สรุปการใช้จ่ายเงินตามแผนปฏิบัติการ ซ่ึงมีแผนกากับติดตามในแผนกลยุทธ์
ของโรงเรียนซงึ่ ครูถือปฏบิ ตั ิ

๕.๔ มกี ารใช้จา่ ยงบประมาณไดอ้ ย่างมีประสิทธภิ าพ
โรงเรียนได้ดาเนินการใช้จ่ายงบประมาณตามแผนการใช้จ่ายงบประมาณประจาปีและตามแผนงาน
โครงการท่กี าหนดเอาไว้ในแผนปฏิบัติการประจาปีของโรงเรียนในการจัดซื้อ จัดจ้าง ได้ปฏิบัติตามระเบียบว่าด้วย
การพสั ดุ สานักนายกรฐั มนตรี พ.ศ. ๒๕๓๕ อยา่ งเครง่ ครัด
ผลการดาเนินงาน
ทาใหก้ ารใช้จา่ ยงบประมาณเปน็ ไปตามแผนงานโครงการ มีความคุ้มค่า โปร่งใส สามารถตรวจสอบได้
และถูกต้องตามระเบียบของทางราชการ

ตวั ชี้วดั ท่ี ๖ การบริหารงานด้านบคุ คล
๖.๑ มกี ารจัดโครงสรา้ งการบรหิ ารงานอยา่ งชดั เจนและเป็นปัจจุบัน
โรงเรียนมีการจัดโครงสร้างการบริหารงานบุคคลอย่างชัดเจน และเป็นปัจจุบัน ได้จัดทาคู่มือในการ

ปฏบิ ตั งิ านของบคุ ลากรของโรงเรียนท่ีสอดคล้องกบั นโยบายกฎระเบียบข้อบังคับหลักเกณฑ์และวิธีการตามท่ี ก.ค.
ศ. กาหนดมีการมอบหมายงานสอดคล้องกบั ความรูค้ วามสามารถของบุคลากร โดยการดาเนินการดงั น้ี

-ประชุมครูเพื่อปรึกษาหารือพิจารณาความเหมาะสมในการมอบหมายหน้าท่ีเพ่ือให้ตรงตาม
ความสามารถและความถนัดของแต่ละบุคคล

๓๐

-จัดทาโครงสร้างการบริหารงานและกาหนดผู้รับผิดชอบไว้อย่างชัดเจน มีการกาหนดคู่มือการ
ปฏิบัตงิ านของครู แผนการปฏิบตั กิ ารประจาปี ปฏทิ นิ การปฏบิ ัติงาน

-จัดทาคาส่ังผู้รับผิดชอบและมอบหมายงานต่างๆเก่ียวกับการบริหารจัดการสถานศึกษาทั้ง ๔ ฝุาย
อยา่ งครอบคลุม

ผลการดาเนนิ งาน
จากการท่โี รงเรยี นบา้ นเพียมาต(รฐั ราษฎร์พทิ ยาคาร) ได้จัดทาโครงสร้างการบริหารงานอย่างเป็นระบบ
ส่งผลให้การดาเนินงานของโรงเรียนเป็นไปด้วยความเรียนร้อย เป็นระบบ บรรลุตามเปูาหมายที่กาหนดไว้
สอดคลอ้ งกับวิสยั ทัศน์ ปรัชญาของโรงเรยี น สามารถตรวจสอบได้ และเปน็ ทย่ี อมรับของชุมชนตลอดจนหน่วยงาน
อ่ืน บุคลากรทุกคนเข้าใจบทบาทหน้าท่ีและขอบข่ายงาน มีความรับผิดชอบ สามารถปฏิบัติงานได้อย่างมี
ประสิทธิภาพและเต็มตามศักยภาพจนทาให้โรงเรียน มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จากการบริหารงานอย่างเป็น
ระบบทาใหโ้ รงเรียนไดร้ ับรางวลั ตา่ งๆมากมายตลอดจนได้รับรางวลั ผู้บริหารสถานศกึ ษาดีเดน่
๖.๒ มกี ารสรา้ งขวญั และกาลังใจใหก้ ับบคุ คลอย่างเหมาะสม
โรงเรียนได้จดั ระบบการสรา้ งขวัญกาลงั ใจด้วยการจัดโครงการกองทุนสวัสดิการให้บุคลากรในโรงเรียน
นาครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษาไปทัศนศกึ ษานอกสถานท่โี ดยใช้งบประมาณตามโครงการ การจัดส่ิงอานวยความ
สะดวกจดั สรรงบประมาณให้บุคลากรเพียงพอกับการปฏิบัติงาน ให้คาชมเชยยกย่องเชิดชูเกียรติในที่ประชุม การ
ให้คาปรึกษาของผู้บริหาร การสร้างขวัญกาลังใจด้วยการพิจารณาความดีความชอบที่เป็นธรรมแก่ทุกฝุาย มี
ขอ้ ตกลง ตามหลกั เกณฑแ์ ละระเบียบทีช่ ัดเจนเหมาะสม ทกุ ฝุายเกดิ ความพงึ พอใจ
๖.๓ มกี ารสง่ เสรมิ พัฒนาบคุ คลอยา่ งต่อเน่ืองและท่วั ถึง
โรงเรียนมีการวางแผนพัฒนาบุคลากรร่วมกัน กาหนดเป็นแผนระยะส้ันและระยะยาวสอดคล้องกับ
ความต้องการจาเป็นตามเปูาหมายที่วางไว้ และดาเนินการได้อย่างชัดเจน โดยการส่งบุคลากรเข้ารับการอบรม
สัมมนาเชิงปฏิบัติการคิดเป็นร้อยละ ๑๐๐ การนาบุคลากรไปศึกษาดูงาน การให้คาปรึกษา การพัฒนาด้าน
คุณธรรม จริยธรรมของบุคลากร จนบุคลากรทุกคน เก่ง ดี และมีความสุขกับการทางานทาให้โรงเรียนพัฒนาข้ึน
เป็นท่ีประจักษ์ครูได้รับการเลื่อนวิทยฐานะเป็นชานาญการพิเศษ ร้อยละ ๒๐ โรงเรียนส่งเสริมให้บุคลากรได้รับ
การฝึกอบรมสัมมนาคนละไม่น้อยกวา่ ๕ ครั้งตอ่ ปี
จากการสง่ เสริมใหบ้ คุ ลากรได้รบั การพัฒนาตนเองอย่างต่อเนือ่ งสง่ ผลใหบ้ คุ ลากรได้รบั รางวลั ดังนี้

- รางวัลผบู้ งั คบั บญั ชาลูกเสอื ดเี ด่น ประจาปี ๒๕๕๗
- รางวลั ครผู ูส้ อนภาษาไทยระดบั ชาติ ประจาปี ๒๕๕๘
- รางวลั ผู้บงั คับบัญชาลูกเสือดเี ดน่ ประจาปี ๒๕๕๙
- รางวลั ครูดศี รี สพฐ. ประจาปี ๒๕๖๒
- รางวลั ชนะเลศิ Best Practice ครูโรงเรียนสจุ รติ ประจาปี ๒๕๖๒

๓๑

- รางวัลผู้ทรงคุณวุฒิวิพากยห์ ลักสตู ร ระดบั ปริญญาตรี ประจาปี ๒๕๖๓
- รางวลั ครูดีในดวงใจ สพฐ. ใประจาปี ๒๕๖๔
- รางวัลครุ สุ ดุดี ประจาปี ๒๕๖๔
๖.๔ บคุ ลากรร้อยละ ๘๐ มคี วามพึงพอใจตอ่ การปฏิบัติงานท่ีได้รับมอบหมาย
โรงเรียนบา้ นเพียมาต(รฐั ราษฎร์พิทยาคาร) จัดให้ผู้เกี่ยวข้องทุกฝุายทุกคน ท่ีรับผิดชอบงาน ปฏิบัติงาน
ด้วยความเต็มใจและมัน่ ใจ โดยมกี ารแบ่งสายงานให้แต่ละฝุายร่วมรับผิดชอบ ทุกคนรับรู้เปูาหมายร่วมกัน ทุกฝุาย
มสี ว่ นร่วมในการแสดงความคิดเห็น ตลอดจนรับฟังความคดเห็นซ่ึงกันและ อานวยความสะดวกในการปฏิบัติงาน
รว่ มกนั แก้ปัญหาท่ีเกดิ ข้ึน เพ่ือมงุ่ ดาเนินการให้บรรลเุ ปูาหมายดงั ที่กาหนดเอาไว้อย่างย่ังยืน และเป็นท่ียอมรับของ
ชุมชน
ผลการดาเนินงาน
ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาทุกคนมีความพึงพอใจต่อการปฏิบัติงานใน หน้าท่ีท่ีได้รับ
มอบหมายมีความภาคภูมิใจในผลงานที่ร่วมกนทาจนประสบผลสาเร็จ เป็นท่ีประจักษ์แก่บุคคลต่างๆ ผู้ปกครอง
ชุมชน และหน่วยงานต่างๆให้การยอมรับในผลสาเร็จของการาเนินงานและได้รับการส่งเสริมให้นาผลงานทักษะ
ทางวิชาการไปจัดแสดงใน งานต่างๆและแลเห็นการร่ วมมือกันทา งานทาให้การบริหารจัดการเป็นไปอย่างมี
ประสทิ ธิภาพและประสิทธิผล ทุกคนทางานรว่ มกันอยา่ งมคี วามสุข