มคอ.3-วิชาการแต่งกายแต่งหน้าเพื่อการแสดง

1 เอกสาร มคอ. 3

รายละเอยี ดของรายวชิ า

ชอ่ื สถาบันอดุ มศึกษา มหาวิทยาลยั ราชภัฏนครศรธี รรมราช
วิทยาเขต/คณะ/ภาควิชา คณะครุศาสตร์

หมวดที่ 1 ลกั ษณะและข้อมูลโดยทั่วไปของรายวิชา

1. รหสั และช่ือรายวิชา
2051307 การออกแบบเคร่ืองแต่งกายและแตง่ หน้า (Costume Design and Makeup)

2. จานวนหน่วยกิต
3 หน่วยกิต (2–2–5)

3. หลักสูตรและประเภทรายวชิ า
ศลิ ปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการศิลปะและวฒั นธรรมสรา้ งสรรค์ (รายวิชาบังคบั )

4. อาจารย์ผรู้ บั ผิดชอบรายวิชา อาจารย์ผ้สู อน และกลุ่มเรียน (Section)
ผู้ชว่ ยศาสตราจารย์ ดร. ธีรวฒั น์ ชา่ งสาน อาจารย์ผสู้ อน กล่มุ ท่ี 01

5. ภาคการศึกษา / ชนั้ ปีทีเ่ รียน
ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 ชั้นปที ่ี 1

6. รายวชิ าท่ีต้องเรยี นมาก่อน (Pre-requisite) (ถ้าม)ี
ไม่มี

7. รายวิชาที่ต้องเรียนพร้อมกัน (Co-requisites) (ถ้าม)ี
ไม่มี

8. สถานทีเ่ รียน
หลักสตู รนาฏศลิ ป์ (อาคาร7) มหาวิทยาลัยราชภฏั นครศรธี รรมราช

9. วันที่จัดทา หรอื ปรับปรุงรายละเอียดของรายวิชาครง้ั ล่าสุด
9 ธนั วาคม พ.ศ. 2563

ครศุ าสตร์บณั ฑิต สาขาวิชานาฏศิลป์

2 เอกสาร มคอ. 3
หมวดที่ 2 จุดมุ่งหมายและวัตถปุ ระสงค์

1. จุดมงุ่ หมายของรายวิชา
จุดม่งุ หมายของรายวชิ า มดี งั นี้
1.1 เพื่อให้นักศึกษามีความรู้ เร่ืองประวัติความเป็นมา ความสาคัญเก่ียวกับหลักการออกแบบเคร่ือง

แต่งกายละครไทย
1.2 เพ่ือให้นักศึกษามีความรู้ความเข้าใจความสาคัญของการแต่งหน้าประกอบการแสดงสามารถ

นาไปใช้ไดอ้ ย่างถูกต้อง
1.3 เพ่อื ให้นักศึกษามที กั ษะการแต่งกายตวั พระ ตวั นาง ของละครไทยแบบตา่ ง ๆ ได้
1.4 เพื่อให้นักศึกษามีทักษะการแต่งหน้าและทาผมเพื่อการแสดง สามารถประยุกต์ใช้ (apply) องค์

ความรู้ในชนั้ เรยี นไปใช้ไดใ้ นชีวิตประจาวัน
1.5 เพื่อให้นักศึกษาสามารถสร้างสรรค์สามารถประดิษฐ์เครื่องแต่งกายและอุปกรณ์ประกอบการแสดง

ได้อย่างเหมาะสม

2. วัตถุประสงค์ในการพฒั นา/ปรับปรุงรายวิชา
วัตถปุ ระสงค์ในการพัฒนา/ปรบั ปรุงรายวิชา มีดังน้ี
2.1 เพอ่ื ให้แนวทางการพัฒนาทกั ษะการแต่งกาย และการแต่งหนา้ ประกอบการแสดงได้อยา่ งเปน็ ระบบ
2.2 เพ่อื ใหน้ ักศึกษาสร้างสื่อการเรยี นการแตง่ กายและการแต่งหน้า สามารถเผยแพร่ได้อยา่ งเหมาะสม
3.3 เพ่ือให้นักศึกษามีทักษะพื้นฐานจากการเรียนการแต่งกายและการแต่งหน้าประยุกต์ใช้สร้างองค์

ความรูเ้ พมิ่ มลู คา่ ในทางเศรษฐกิจ ในโอกาสต่อไป

หมวดที่ 3 สว่ นประกอบของรายวชิ า

1. คาอธบิ ายรายวิชา
ประวัติความเปน็ มา ความสาคญั ความรเู้ บื้องต้นเก่ยี วกับหลักการออกแบบเคร่ืองแต่งกาย การแต่งหน้า

ในสมยั ต่าง ๆ วิธกี ารแต่งกายละครไทย ลักษณะ การแต่งหน้า ฝึกการแตง่ กายละครไทย แตง่ หน้ารูปแบบต่าง ๆ
สร้างสรรคผ์ ลงาน การประดิษฐเ์ ครื่องแตง่ กาย

2. จานวนชวั่ โมงทีใ่ ช้ต่อภาคการศึกษา

จานวนชั่วโมงบรรยายตอ่ สัปดาห์ 4 ชัว่ โมง คดิ เปน็ 60 ช่ัวโมง : ภาคการศึกษา

จานวนช่วั โมงการศกึ ษาด้วยตัวเองต่อสปั ดาห์ 5 ชว่ั โมง คดิ เป็น 75 ชวั่ โมง : ภาคการศึกษา

ครุศาสตร์บณั ฑติ สาขาวิชานาฏศิลป์

3 เอกสาร มคอ. 3

3. จานวนชว่ั โมงต่อสปั ดาห์ท่อี าจารยใ์ ห้คาปรึกษาและแนะนาทางวชิ าการแก่นกั ศึกษาเป็นรายบคุ คล
อาจารย์ประจารายวิชาจดั เวลาให้คาปรึกษาเป็นรายบุคคล หรือ รายกลุ่มตามความต้องการ 8 ชั่วโมงต่อ

สัปดาห์ (เฉพาะรายที่ต้องการ) โดยการประกาศเวลาให้คาปรึกษาผ่านเว็บไซต์และ facebook ของทางสาขาวิชา
หรือ ตามตารางเวลาเขา้ พบทก่ี าหนด

หมวดที่ 4 การพัฒนาการเรยี นรขู้ องนักศกึ ษา

ผลการเรียนร้จู าก Curriculum mapping ใน มคอ. 2 ไดก้ าหนดการกระจายความรบั ผดิ ชอบของ
ผลลพั ธ์การเรียนร้จู ากหลกั สตู รสูร่ ายวิชา ดังนี้

 ความรบั ผิดชอบหลัก O ความรบั ผดิ ชอบรอง

รหสั /รายวชิ า 1.คุณธรรมจรยิ ธรรม 2.ความรู้ 3.ทักษะทางปญั ญา 4.ความสัมพนั ธ์ 5.การวิเคราะห์เชิง
12 3 4 5 6 7 1 2 345 1 2 345 ระหว่างบคุ คล ตัวเลข การสื่อสาร
หมวดวชิ าสมั พนั ธ์
2527302การจัดการ และความ และการใช้
ความรู้ทางด้านศิลปะ รับผดิ ชอบ เทคโนโลยี
และวัฒนธรรม 123 12 3

                  

1 ผลการเรียนรู้ด้านคุณธรรม จริยธรรม
1.1 ตระหนักในคุณค่า คุณธรรม จริยธรรม เสียสละ และซ่ือสัตย์สุจริต มีวินัย ตรงต่อเวลา

รบั ผิดชอบต่อตนเองและสังคม มจี รรยาบรรณทางวิชาการและวชิ าชีพ
 1.2 เคารพสิทธิและรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น รวมทั้งเคารพในคุณค่าและศักด์ิศรีของความ

เปน็ มนษุ ย์ เคารพกฎระเบียบและขอ้ บงั คับต่าง ๆ ขององค์กรและสงั คม
1.3 สามารถจัดการปัญหาทางคุณธรรม จริยธรรมท่ซี ับซ้อนในบรบิ ททางวชิ าการหรือวิชาชพี

 1.4 สนับสนุนอย่างจริงจังให้ผู้อ่ืนใช้การวินิจฉัยทางด้านคุณธรรม จริยธรรมในการจัดการกับ
ขอ้ โตแ้ ยง้ และปญั หาทม่ี ผี ลกระทบตอ่ ตนเองและผู้อนื่

O 1.5 สามารถวินิจฉัยอย่างผู้รู้ ด้วยความยุติธรรมได้ชัดเจน มีหลักฐาน (กรณีไม่มีข้อมูลทาง
จรรยาบรรณวิชาชีพหรือไม่มีระเบียบ ข้อบังคับเพียงพอที่จะจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้น) จนสามารถตอบสนอง
ปญั หาเหลา่ นั้น ตามหลักการ เหตผุ ลและคุณค่าอนั ดงี าม

O 1.6 แสดงออกซึง่ ภาวะผนู้ าในการสง่ เสริมใหม้ ีการประพฤตปิ ฏบิ ตั ิตามหลักคณุ ธรรมจริยธรรม
ในสภาพแวดลอ้ มของการทางานและชมุ ชนทก่ี วา้ งขวางข้ึน

ครศุ าสตร์บัณฑติ สาขาวิชานาฏศิลป์

4 เอกสาร มคอ. 3

1.7 แสดงออกหรือส่อื สารข้อสรุปของปญั หา โดยคานึงถึงความรสู้ ึกของผู้อื่นท่ีจะไดร้ ับ
ผลกระทบ และริเริ่มช้ีใหเ้ หน็ ขอ้ บกพร่องของจรรยาบรรณท่ใี ช้อยูใ่ นปัจจุบนั เพ่อื ทบทวนและแก้ไข

2 ผลการเรียนรดู้ า้ นความรู้
O 2.1 สามารถพัฒนานวัตกรรมหรือสร้างองค์ความรู้ใหม่ มีความเข้าใจอย่างถ่องแท้และลึกซึ้ง
ในองค์ความร้ทู เ่ี ป็นแก่นในสาขาวิชาการหรือวิชาชีพ
O 2.2 มีความเข้าใจทฤษฏีการวิจัยและการปฏิบัติวิชาชีพ รวมทั้งข้อมูลเฉพาะทางทฤษฏี
หลักการและแนวคิดที่เปน็ รากฐาน
O 2.3 รเู้ ทคนคิ การวิจยั และพฒั นาข้อสรปุ ซึ่งเป็นท่ยี อมรับในสาขาวชิ าอยา่ งชาญฉลาด
 2.4 มีความรทู้ ่เี ปน็ ปัจจบุ ันในสาขาวิชา รวมถึงประเดน็ ปญั หาสาคญั ท่ีจะเกิดขึ้น
 2.5 จะต้องมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง กว้างขวางเกี่ยวกับแนวปฏิบัติที่เปล่ียนแปลงในวิชาชีพ
ทั้งในระดบั ชาติและนานาชาติ การพัฒนาสาขาวิชาทีเ่ ก่ยี วขอ้ ง ซ่ึงอาจมีผลกระทบตอ่ สาขาวิชาทศ่ี ึกษาค้นคว้า

3 ผลการเรียนรู้ดา้ นทักษะทางปัญญา
O 3.1 สามารถใชค้ วามรู้ทางภาคทฤษฏีและภาคปฏิบัติในการจัดการบริบทใหม่ที่ไม่คาดคิดทาง
วชิ าการและวิชาชพี พฒั นาแนวคิดริเริ่มและสร้างสรรค์เพื่อตอบสนองประเดน็ หรือปญั หา สามารถใช้ดลุ ยพินิจใน
การตดั สินใจในสถานการณท์ ม่ี ีข้อมูลไมเ่ พยี งพอ
 3.2 สามารถใชค้ วามเข้าใจอนั ถ่องแทใ้ นทฤษฏีและเทคนิคการแสวงหาความรูใ้ นการวิเคราะห์
ประเด็นและปญั หาสาคัญได้อยา่ งสรา้ งสรรค์ และพัฒนาแนวทางการแก้ไขปัญหาด้วยวธิ ีใหมๆ่
O 33 สามารถสังเคราะห์ผลงานการวิจัยและทฤษฏีเพ่ือพัฒนาความรู้ความเข้าใจใหม่ที่
สร้างสรรค์ โดยบรู ณาการแนวคดิ ทง้ั ภายในและภายนอกสาขาวชิ าทศ่ี กึ ษาในข้นั สงู
O 3.4 สามารถใช้เทคนิคทั่วไปหรือเฉพาะทางในการวิเคราะห์ประเด็นปัญหาท่ีซับซ้อนรวมถึง
พัฒนาข้อสรปุ และข้อเสนอแนะทีเ่ กี่ยวข้องในสาขาวิชาการหรอื วิชาชพี ไดอ้ ย่างสรา้ งสรรค์
O 3.5 สามารถออกแบบและดาเนินโครงการวิจัยท่ีสาคัญในเรื่องซับซ้อนที่เก่ียวกับการพัฒนา
องคค์ วามรใู้ หม่ หรอื ปรับปรงุ แนวปฏิบัตใิ นวิชาชพี อย่างมีนยั สาคญั

4 ทกั ษะความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งบุคคลและความรับผิดชอบ
O 4.1 มีความสามารถสูงในการแสดงความเห็นทางวิชาการและวิชาชีพ สามารถวางแผน
วิเคราะห์และแก้ปัญหาท่ีซับซ้อนสูงมากด้วยตนเอง รวมท้ังวางแผนในการปรับปรุงตนเองและองค์กรได้อย่างมี
ประสทิ ธภิ าพ
O 4.2 สร้างปฏสิ มั พนั ธ์ในกิจกรรมกลุ่มอย่างสร้างสรรค์
 4.3 แสดงออกถงึ ความโดดเดน่ ในการเปน็ ผูน้ าทางวชิ าการหรือวชิ าชีพและสังคมทซี่ ับซ้อน

ครุศาสตร์บัณฑติ สาขาวชิ านาฏศลิ ป์

5 เอกสาร มคอ. 3

5 ทกั ษะการวเิ คราะห์เชิงตวั เลข การส่ือสาร และการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
O 5.1 สามารถส่ือสารกับกลุ่มคนหลากหลายและสามารถสนทนาทั้งภาษาไทยและ

ภาษาต่างประเทศอย่างมีประสิทธิภาพโดยส่ือสารท้ังปากเปล่าและการเขียน รวมท้ังการใช้เทคโนโลยีสื่อสารทาง
อเิ ลก็ ทรอนิกส์

O 5.2 สามารถคัดกรองข้อมูลทางคณิตศาสตร์และสถิติเพ่ือนามาใช้ศึกษาค้นคว้าในประเด็น
ปญั หาทสี่ าคัญและซบั ซอ้ น สรุปปญั หาและเสนอแนะแก้ไขปัญหาดา้ นตา่ งๆโดยเจาะลกึ ในสาขาวิชาเฉพาะ

 5.3 สามารถส่ือสารอย่างมีประสิทธภิ าพ เหมาะสมกับกลมุ่ บุคคลต่าง ๆ ทั้งในวงวิชาการและ
วิชาชีพรวมถึงชุมชนท่ัวไปโดยนาเสนอรายงานท้ังในรูปแบบที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการผ่านสิ่งตีพิมพ์ทาง
วชิ าการและวชิ าชีพ รวมทัง้ วิทยานพิ นธห์ รือโครงการค้นควา้ ท่ีสาคัญ

มาตรฐานการเรยี นรู้ วิธีการสอนท่จี ะใช้พฒั นา วิธีการวัดและประเมินผล
และเนอ้ื หาหรือทักษะรายวิชา
มีทักษะความรู้เกี่ยวกับการแต่งกายและแต่งหน้าเพ่ือ การเรียนรู้
การแสดงในดา้ นตา่ ง ๆ โดยมเี นอ้ื หา ดังนี้
บทที่ 1 บทนา วิธีการสอนท่จี ะใชพ้ ฒั นา มดี งั น้ี วิธกี ารวัดและประเมินผลมี ดงั นี้
บทที่ 2 การสรา้ งสรรคเ์ ครื่องแต่งกายสมยั
รตั นโกสินทร์ 1. บรรยาย เนอ้ื หาทฤษฎี 1. ทดสอบและเกบ็ คะแนนจาก
บทท่ี 3 องคก์ รแห่งการเรียนรู้
บทท่ี 4 การแต่งกายละครรา 2. สาธิต และฝึกปฏิบัตกิ าร แบบฝึกหดั และงานทม่ี อบหมาย
บทท่ี 5 การแตง่ กายเบด็ เตล็ด
บทท่ี 6 การออกแบบเครื่องแต่งกาย 3. กาหนดใหน้ กั ศึกษาทางานเป็น 2. สงั เกตผลการปฏบิ ัตงิ านแลว้ ให้
บทที่ 7 การแต่งหนา้
กล่มุ โดยฝึกปฏบิ ัติจากโจทย์ อาจ คะแนนจากการสอบในแตล่ ะครง้ั

อยใู่ นรูปแบบวธิ กี ารค้นควา้ ข้อมูล 3. สงั เกตการนาเสนอผลงาน

ชุมชน โดยเนน้ PBL และเนน้ สังเกตการณ์ทางานเปน็ กลมุ่

ผู้เรียนเป็นสาคัญ ให้นักศึกษา 4. คณุ ภาพของรายงาน

วิเคราะหข์ ้อมลู ทารายงานและการ

นาเสนอผลงาน รายกลุม่ หรือ

รายบคุ คล

4. การสมั มนา ทัง้ แบบการ

อภปิ ราย การประชมุ กลมุ่ ย่อย หรอื

การประชมุ แบบตา่ งๆ โดยผูส้ อน

กาหนดเง่ือนไขและปัญหาให้

นักศกึ ษาในระหวา่ งเรียน

ครุศาสตร์บณั ฑิต สาขาวิชานาฏศิลป์

6 เอกสาร มคอ. 3

หมวดที่ 5 แผนการสอนและการประเมนิ ผล

5.1 แผนการสอน
วิธกี ารสอนท่จี ะใช้พัฒนา มดี งั นี้
1. บรรยาย เนอื้ หาทฤษฎี
2. สาธิต และฝึกปฏิบตั ิการ
3. กาหนดให้นักศึกษาทางานเดี่ยวตามสถานการณ์ของสงั คมชว่ งโควดิ ระบาดโดยฝึกปฏิบตั จิ ากโจทย์ เช่น
การฝึกการแต่งกายตัวพระ ตัวนาง การแต่งหน้าทาผมประกอบการแสดง การสร้างสรรค์เครื่องแต่งกาย
และอุปกรณ์ประกอบการแสดง โดยเน้น PBL และเน้นผู้เรียนเป็นสาคัญ ให้นักศึกษาวิเคราะห์ข้อมูล ทา
รายงานและการนาเสนอผลงาน ทั้งรายกลมุ่ และรายบคุ คล
4. การสมั มนา ท้ังแบบการอภิปราย การประชมุ กลุ่มย่อย หรือการประชุมแบบต่างๆ โดยใช้สื่อออนไลน์
ผู้สอนกาหนดเงื่อนไขและปัญหาให้นักศกึ ษาในระหวา่ งเรยี น

สัปดาห์ หัวข้อ/รายละเอียด จานวน กจิ กรรมการเรยี น ผสู้ อน

ชั่วโมง การสอน สือ่ ที่ใช้ สอน

1 บทนา 4 - บรรยาย ประกอบส่ือนาเสนอ ผศ.ดร.ธรี วัฒน์ ช่างสาน

- ความหมาย -ประวตั ิการแต่ง - PBL โดยเน้นผู้เรียนเปน็ สาคญั

กาย – ความสาคญั –การ - ฝึกปฏบิ ัติโดยเนน้ ผู้เรยี นเป็นสาคญั

นาไปใช้ -รปู แบบการแต่งกาย

สมยั ต่าง ๆ ของไทย

2 ประวตั ิการแต่งกายละครไทย 4 - บรรยาย ประกอบสอ่ื นาเสนอ ผศ.ดร.ธีรวฒั น์ ช่างสาน

-การแตง่ กายสมัยกรุงศรีอยุธยา - การสาธติ

-การแต่งกายสมยั ธนบรุ ี - PBL โดยเนน้ ผู้เรียนเป็นสาคัญ
-การแตง่ กายสมัยรัตนโกสินทร์ - ฝึกปฏบิ ตั โิ ดยเน้นผเู้ รียนเปน็ สาคญั

3 ทกั ษะการแต่งกายละครไทย 4 - ฝกึ ปฏิบัตโิ ดยเน้นผเู้ รยี นเป็นสาคญั ผศ.ดร.ธีรวัฒน์ ช่างสาน

-การแต่งกายตวั พระ

4 ทกั ษะการแต่งกายละครไทย 4 - ฝึกปฏบิ ัตโิ ดยเน้นผูเ้ รียนเปน็ สาคญั ผศ.ดร.ธีรวฒั น์ ช่างสาน

(ตอ่ )

-การแตง่ กายตัวพระ

5 ทักษะการแตง่ กายละครไทย 4 - บรรยาย ประกอบสอ่ื นาเสนอ ผศ.ดร.ธีรวัฒน์ ช่างสาน
(ต่อ)
-การแตง่ กายตวั นาง - PBL โดยเนน้ ผู้เรียนเป็นสาคัญ

- ฝึกปฏิบัตโิ ดยเน้นผ้เู รียนเปน็ สาคญั

6 ทักษะการแต่งกายละครไทย 4 - บรรยาย ประกอบสอ่ื นาเสนอ ผศ.ดร.ธรี วฒั น์ ช่างสาน

ครุศาสตร์บณั ฑิต สาขาวชิ านาฏศลิ ป์

7 เอกสาร มคอ. 3

สปั ดาห์ หัวข้อ/รายละเอยี ด จานวน กิจกรรมการเรยี น ผ้สู อน
ชั่วโมง การสอน ส่อื ทีใ่ ช้ สอน
(ตอ่ ) - สาธิต ผศ.ดร.ธีรวัฒน์ ชา่ งสาน
-การแตง่ กายตัวนาง 4 - PBL โดยเนน้ ผู้เรียนเปน็ สาคญั
- ฝึกปฏบิ ัตโิ ดยเนน้ ผู้เรียนเปน็ สาคญั
7 การแต่งหน้าเพอ่ื การแสดง - บรรยาย ประกอบสอ่ื นาเสนอ
- การแต่งหน้าละครไทย - PBL โดยเนน้ ผเู้ รียนเป็นสาคัญ
- ฝกึ ปฏิบตั ิโดยเน้นผู้เรยี นเป็นสาคญั

8 การแตง่ หน้าเพือ่ การแสดง 4 - บรรยาย ประกอบสื่อนาเสนอ ผศ.ดร.ธีรวฒั น์ ชา่ งสาน
- การแตง่ หนา้ ละครไทย
- PBL โดยเน้นผู้เรียนเปน็ สาคัญ

- ฝึกปฏบิ ัติโดยเนน้ ผู้เรียนเป็นสาคญั

9 การสรา้ งเครื่องแต่งกาย 4 - บรรยาย ประกอบสอื่ นาเสนอ ผศ.ดร.ธีรวฒั น์ ช่างสาน
-ปักเครอ่ื งละครไทย
- สาธติ

- PBL โดยเนน้ ผ้เู รยี นเปน็ สาคัญ

- ฝึกปฏบิ ตั ิโดยเน้นผูเ้ รยี นเป็นสาคญั

10 การสรา้ งเครื่องแต่งกาย(ต่อ) 4 ลงพน้ื ที่ สมั ภาษณ์ สังเกต ผศ.ดร.ธรี วฒั น์ ชา่ งสาน
-ปกั เครอ่ื งละครไทย
- ฝึกปฏิบัติโดยเน้นผู้เรียนเป็นสาคญั
11 การสร้างเคร่ืองแต่งกาย(ต่อ)
-ปักเครื่องละครไทย 4 - บรรยาย ประกอบสื่อนาเสนอ ผศ.ดร.ธรี วฒั น์ ชา่ งสาน

12 การสร้างเคร่ืองแต่งกาย - PBL โดยเน้นผู้เรยี นเป็นสาคญั
-เครือ่ งประดับจากขรี้ กั
- ฝึกปฏิบัตโิ ดยเนน้ ผู้เรียนเป็นสาคญั
13 การสรา้ งเคร่ืองแตง่ กาย(ต่อ)
-เคร่ืองประดับจากขร้ี ัก 4 - บรรยาย ประกอบสื่อนาเสนอ ผศ.ดร.ธรี วฒั น์ ช่างสาน

14 การสรา้ งเครื่องแตง่ กาย(ต่อ) - PBL โดยเน้นผูเ้ รยี นเปน็ สาคญั
-เครอื่ งประดบั จากข้ีรกั
- ฝกึ ปฏิบัตโิ ดยเน้นผู้เรียนเปน็ สาคญั

4 - บรรยาย ประกอบสื่อนาเสนอ ผศ.ดร.ธรี วฒั น์ ชา่ งสาน

- PBL โดยเน้นผ้เู รยี นเป็นสาคัญ

- ฝกึ ปฏบิ ตั โิ ดยเนน้ ผู้เรียนเปน็ สาคญั

4 - บรรยาย ประกอบสื่อนาเสนอ - ผศ.ดร.ธรี วัฒน์ ช่างสาน

อภปิ ราย

- PBL โดยเน้นผ้เู รียนเปน็ สาคัญ

- ฝึกปฏิบตั โิ ดยเน้นผ้เู รียนเป็นสาคญั

15 การแสดงผลงาน 4 การนาเสนอ ผศ.ดร.ธรี วัฒน์ ช่างสาน

จัดนทิ รรศการเครอ่ื งแต่งกายและการ

แตง่ หน้าประกอบการแสดง

16 สอบปลายภาค 4

หมายเหตุ : สอบกลางภาค หรือ สอบปลายภาค อาจปรบั เปล่ียนได้ตามบริบท โดยจะกระทาทั้งในระหว่าง
ครุศาสตร์บัณฑิต สาขาวชิ านาฏศิลป์

8 เอกสาร มคอ. 3
การจดั การเรยี นการสอน (formative) และหลงั เสร็จส้นิ การจัดการเรยี นการสอน (summative)

5.2 แผนการประเมินผลการเรียนรู้

ท่ี ผลการเรยี นรู้ วิธีการประเมนิ สัปดาห์ท่ีประเมนิ สัดสว่ นของการ
1-15 ประเมินผล
1 คณุ ธรรม จรยิ ธรรม สงั เกต / ประเมินคุณภาพจากชิน้ งาน 10%

2 ความรู้ ทดสอบยอ่ ย 2-15 35%
2-15 35%
สังเกตผลการปฏิบัตงิ านแลว้ ให้คะแนน 2-15 10%
2-15 15%
จากการสอบในแตล่ ะคร้ัง

3 ทกั ษะทางปัญญา ทดสอบและเกบ็ คะแนนจากแบบฝึกหัด

และงานที่มอบหมาย

4 ทักษะความสัมพันธ์ สังเกตการณท์ างานเป็นกล่มุ

ระหวา่ งบคุ คลและความ

รับผดิ ชอบ

5 ทกั ษะการวเิ คราะห์เชงิ สังเกตการนาเสนอผลงาน

ตวั เลข การส่อื สาร และ คุณภาพของรายงาน

เทคโนโลยสี ารสนเทศ

5.3 การประเมินผลใช้แบบอิงเกณฑ์

การประเมนิ ผลใช้แบบองิ เกณฑ์ใชค้ ะแนนรวมของคะแนนระหวา่ งภาคเรียนและคะแนนสอบปลายภาค

โดยใช้เกณฑ์ตัดสนิ ผลการเรียน ดงั นี้

คะแนนระหวา่ ง 80-100 ได้ผลการเรียน A

คะแนนระหว่าง 75-79 ได้ผลการเรียน B+

คะแนนระหวา่ ง 70-74 ไดผ้ ลการเรียน B

คะแนนระหวา่ ง 65-69 ไดผ้ ลการเรยี น C+

คะแนนระหว่าง 60-64 ไดผ้ ลการเรยี น C

คะแนนระหวา่ ง 55-59 ได้ผลการเรียน D+

คะแนนระหว่าง 50-54 ไดผ้ ลการเรยี น D

คะแนนระหว่าง 0-49 ไดผ้ ลการเรียน E

ครศุ าสตร์บณั ฑิต สาขาวชิ านาฏศลิ ป์

9 เอกสาร มคอ. 3
หมวดที่ 6 ทรพั ยากรประกอบการเรียนการสอน

1. เอกสารและตาราหลัก
ธีรวัฒน์ ช่างสาน. (2562). การแตง่ กายเพื่อการแสดง(Thai Costume Design).กรงุ เทพมหานคร : บริษทั

สหธรรมิก จากดั .
2. เอกสารและข้อมูลสาคัญ

2.1 เอกสารในประเทศ
2.2 เอกสารต่างประเทศ

3. เอกสารและขอ้ มลู แนะนา
ชวลิต สุนทรานนท์ และคณะ. 2547). เครอ่ื งแต่งกายละคร และการพัฒนา : การแตง่ กายยืนเครอ่ื งละครใน
ของกรมศลิ ปากร. กรุงเทพมหานคร : บริษัท รุ่งศลิ ปก์ ารพมิ พ์ จากัด.

หมวดที่ 7 การประเมินรายวิชาและกระบวนการปรับปรงุ

1. กลยุทธ์การประเมินประสทิ ธผิ ลของรายวชิ าโดยนักศึกษา
การประเมินประสิทธิผลในรายวชิ านี้ ท่ีจัดทาโดยนักศึกษา ซึ่งจัดกิจกรรมในการนาแนวคิดและความเห็น

จากนักศึกษาได้ ดงั น้ี
1.1 การสนทนากลุม่ ระหว่างผู้สอนและผ้เู รยี น
1.2 การสังเกตการณจ์ ากพฤตกิ รรมของผู้เรยี น
1.3 แบบประเมินผสู้ อนของทางมหาวทิ ยาลยั ราชภฏั นครศรีธรรมราช
1.4 แบบประเมินรายวิชาตามผลการเรียนรู้ของหมวดวิชาเฉพาะ ตามความรับผิดชอบหลัก

และความรับผิดชอบรอง เหมาะสม
1.5 ข้อเสนอแนะตา่ ง ๆ เช่น ข้อเสนอแนะผ่านเวปบอร์ด ผ่าน facebook รายวิชา หรือ social

media อื่น ๆ ท่อี าจารย์ผู้สอนได้จดั ทาเป็นช่องทางการส่ือสารกบั นักศึกษา

2. กลยทุ ธ์การประเมินการสอน
2.1 การสงั เกตการณส์ อนของผรู้ ว่ มทมี การสอน
2.2 ผลการสอบทง้ั หมด
2.3 การทวนสอบผลประเมินการเรียนรู้
2.4 ผลที่ได้จากการทาแบบฝึกหัด กจิ กรรมทผี่ ูส้ อนกาหนด หรอื กจิ กรรมอืน่ ๆ

3. การปรบั ปรงุ การสอน

ครุศาสตร์บณั ฑติ สาขาวชิ านาฏศลิ ป์

10 เอกสาร มคอ. 3

หลังจากผลการประเมินการสอนในข้อ 2 จึงมีการปรับปรุงการสอน โดยการจดั กิจกรรมในการระดมสมอง
และหาข้อมูลเพม่ิ เติมในการปรบั ปรงุ การสอน ดังน้ี

3.1 สัมมนาการจัดการเรียนการสอน
3.2 การวจิ ัยในและนอกช้ันเรยี น
3.3 ปรบั ปรงุ การสอนตามขอ้ เสนอแนะอนั เปน็ ประโยชน์จากนักศกึ ษา

4. การทวนสอบมาตรฐานผลสัมฤทธร์ิ ายวชิ าของนกั ศกึ ษา
ในระหว่างกระบวนการสอนรายวิชา มีการทวนสอบผลสัมฤทธิ์ของรายวิชาตามระบบและกลไกลของทาง

หลกั สตู รและทางมหาวิทยาลัยราชภฏั นครศรธี รรมราช ซง่ึ มกี ารทวนสอบผลสมั ฤทธิโ์ ดยรวมในวิชา ดังน้ี
4.1 การทวนสอบ ในลกั ษณะ เช่น
4.1.1 การทวนสอบการให้คะแนนจากการสุ่มตรวจผลงานของนกั ศึกษาโดยอาจารย์อืน่ ในหลักสูตร ที่

ไมใ่ ช่อาจารยผ์ สู้ อน
4.1.2 การสัมภาษณ์นักศึกษา โดยคณะกรรมการทวนสอบ
4.1.3 การสุ่มตรวจข้อสอบ ช้ินงาน ของนักศึกษาอีกคร้ัง โดยอาจารย์อื่นในหลักสูตร ท่ีไม่ใช่อาจารย์

ผ้สู อน
4.1.4 การเก็บข้อมูลจากแบบสอบถามของหมวดวิชาเฉพาะ ตามความรับผิดชอบหลัก และความ

รับผิดชอบรอง
4.2 การทวนสอบ ตามระบบ กลไกล และรูปแบบของทางหลักสูตร และทางมหาวิทยาลัยราชภัฏ

นครศรธี รรมราช
4.3 มีการตั้งคณะกรรมการในกลุ่มวิชาศาสตร์ ตรวจสอบผลการประเมินการเรียนรู้ของนักศึกษา โดย
ตรวจสอบขอ้ สอบ รายงาน วิธกี ารใหค้ ะแนนสอบ และการใหค้ ะแนนพฤตกิ รรม
4.4 การทวนสอบในรูปแบบอ่ืน ๆ ตามสถานการณ์ เวลา ตามรูปแบบของทางมหาวิทยาลัยราช

ภฏั นครศรีธรรมราช

5. การดาเนนิ การทบทวนและการวางแผนปรบั ปรุงประสิทธิผลของรายวิชา
จากผลการประเมิน และทวนสอบผลสัมฤทธิ์ประสิทธิผลรายวิชา ได้มีการวางแผนการปรับปรุงการสอน

และรายละเอยี ดวิชา เพอื่ ให้เกดิ คุณภาพมากขึ้น ดังนี้
5.1 ปรบั ปรุงรายวชิ าในทกุ 3 - 5 ปี หรือ ตามข้อเสนอแนะและผลการทวนสอบมาตรฐานผลสัมฤทธ์ิ

ตามขอ้ 4
5.2 เปล่ียนผู้สอน หรือ สลับอาจารย์ผู้สอน เพื่อให้นักศึกษามีมุมมองในเร่ืองการประยุกต์ความรู้น้ีกับ

ปัญหาทม่ี าจากงานวจิ ยั ของอาจารย์ หรือ แหลง่ ขอ้ มลู ตา่ ง ๆ ทีเ่ ก่ียวขอ้ งกบั ในรายวิชา

ครศุ าสตร์บณั ฑิต สาขาวิชานาฏศลิ ป์