นั กเรียนลองทายซิครับว่าคนในรู ป
กำลังทำอะไรอยู่?
12 3
การฟัง การดู
และการพูด
การฟัง
การฟัง ความหมาย
ความสำคัญ
หลักเกณฑ์
ประเภท
จุดมุ่งหมาย
การฟังอย่างมีประสิทธิภาพ
ความหมายการฟัง
การฟัง หมายถึง การรับรู้เรื่องราวข่าวสารจากการได้ฟัง
แล้วทำความเข้าใจจนสามารถนำสารนั้ นไปใช้ประโยชน์ ได้
รวมถึงการได้ยินอย่างเข้าใจและแปลความหมายถูกครบถ้วน
ตามจุดมุ่งหมายของผู้พูด รู้จักการใช้วิจารณญาณในการฟัง
ตลอดจนมีมารยาทในการฟังด้วย
(วัฒนะ บุญจับ, 2555 : 34)
ความสำคัญของการฟัง
การฟังทำให้ได้รับความรู้
การฟังทำให้เกิดความคิดกว้างไกล
การฟังทำให้เกิดการพัฒนาตนเอง
การฟังทำให้เกิดความจรรโลงใจ
การฟังเป็นการสร้างความเข้าใจ
อันดีระหว่างกัน
(วัฒนะ บุญจับ, 2555 : 36)
หลักการฟัง
หลักเกณฑ์การฟังมี 6 ประการคือ
1. ทำตัวให้สบายทั้งร่างกาย และอารมณ์อย่าวิตกกังวล
2. ฟังให้ตลอดอย่าเลือกฟังเฉพาะที่ชอบที่พึงพอใจ
3. ฟังอย่างตั้งใจ และอดทนไม่ควรแย้งระหว่างการฟัง
4. ฟังเพื่อพิจารณาสาระที่ฟังอย่างแท้จริง
5. ฟังอย่างค้นหาสารประโยชน์ รู้จักแยกแยะทรรศนะ และเจตนา
ของผู้พูด
6. จับประเด็นและสรุปประเด็นสำคัญของเรื่องที่ได้ฟัง นำไปสรุป
เป็นเรื่องราวอย่างเป็นระบบ
(วัฒนะ บุญจับ, 2555 : 38)
ประเภทการฟัง
การฟังแบบทางเดียว การฟังแบบสองทาง
(ฉัตรา บุญนาค, 2558 : 105)
การฟังแบบทางเดียว
เป็นการฟังที่ผู้รับสารไม่สามารถโต้ตอบกับผู้ส่ งสาร
ในสื่อกลางเดียวกันได้ ผู้ส่งสารเป็นฝ่ายส่งข่าวสาร
เพียงอย่างเดียว และส่วนใหญ่มักอยู่ในรูปของสื่อสาร
สาธารณะ เช่น วิทยุกระจายเสียง โทรทัศน์ เป็นต้น
การฟังแบบสองทาง
เป็นการฟังที่ผู้รับสาร มีการตอบสนอง และมีปฏิกิริยา
กลับไปยังผู้ส่งสาร สามารถโต้ตอบ ปรึกษาหารือ หรือ
แลกเปลี่ยนความคิดกันได้ เช่น การสนทนา เป็นต้น
ลีวิท และมูลเลอร์ ได้ศึกษาวิจัยการฟังทั้ง 2 รูปแบบ
และได้สรุปผลว่า การฟังแบบทางเดียวมีความรวดเร็ว
และมีความเป็นระเบียบมากกว่าการฟังแบบสองทางแต่
การฟังแบบสองทางสร้างความเข้าใจและการตัดสิ นใจ
ได้มากกว่า ซึ่งสามารถใช้ได้ทั้ง 2 แบบ เลือกใช้วิธีการใด
จะขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของผู้ใช้
(Leavitt and Moller : 1951)
จุดมุ่งหมาย การฟังเพื่อตีความ
การฟังเพื่อจับใจความสำคัญ
การฟังเพื่อวิเคราะห์ การฟังเพื่อประเมินค่า
(ฉัตรา บุญนาค, 2558 : 107)
การฟังเพื่อจับใจความสำคัญ
ที่ไหฟันงแเลมื้่วอพไรยาอยย่าามงตไั้รงแคลำถะทาำมไแม
ละเมหื่อาคไดำ้คตำอตบอใบห้คไดร้วบ่าถใ้วคนรแทลำ้วอะไร
จึงเรียบเรียงใจความสำคัญเป็นความเรียงด้วยสำนวนภาษา
ของตนเองได้ครบถ้วน
การฟังเพื่อตีความ
การฟังเพื่อตีความ อาจตรง
กับเจตนาของผู้พูดหรือมีความเข้าใจ
ในเรื่องความหมาย ความคิดของตนเองโดยอาศัยความรู้ และเรื่อง
ประสบการณ์ จินตนาการรวมถึงระดับสติปัญญา
การฟังเพื่อวิเคราะห์
ฟังแล้วพิจารณาว่าเรื่องร
าวที่ได้รับฟังนั้ นมีสาระที่ดี
และมีข้อเท็จจริงอะไรบ้าง ฟังเพื่อวิเคราะห์จึงเป็นการฟัง
ที่ผู้ฟังใช้วิธีแยกแยะเรื่องที่ฟังเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ ต่อไป
การฟังเพื่อประเมินค่า
การฟังเพื่อประเมินค่าเป็นก
ารฟังที่มีจุดมุ่งหมายที่จะประเมิน
คุณค่าของเรื่องที่ฟังว่ามีคุณประโยชน์ เพียงพอมากน้ อยเพียงใด
หรือไม่มีความน่ าเชื่อถือเพียงใด ซึ่งเนื้ อหาอาจจะเป็นประโยชน์
ในทางเชิงบวกหรือเชิงลบ ขึ้นอยู่กับการประเมินค่าของผู้ฟัง
การฟังอย่างมีประสิ ทธิภาพ
เข้าใจในเรื่อง
จับประเด็นได้
วิเคราะห์ได้
ตีความได้
ประเมินค่าได้
(จุมพล วัฒน์ บูญ, 2554 : 202 )
เกมฟังให้ดี ๆ ให้น้ อง ๆ หยิบสิ่งของ
ใกล้ตัว ที่ขึ้นต้นด้วย
พยัญชนะที่กำหนดให้
การพูด
การพูดเป็นศาสตร์
การพูดเป็นศิ ลป์
การพูดเป็นศาสตร์
หลักเกณฑ์การออกเสียงจัดเป็นสัทศาสตร์ การแสดงกิริยา
อาการจัดเป็นจริยศาสตร์ การติดต่อสื่อสารจัดเป็นสังคมศาสตร์
เพราะคำว่า “ศาสตร์” นั้ นประกอบด้วย ลักษณะ 3 ประการ คือ
1. มีลักษณะเฉพาะตัว
2. มีองค์ความรู้
3. มีวิธีการเฉพาะตัว
(จุไรรัตน์ ลักษณะศิริ, 2554 : 35 )
การพูดเป็นศิ ลป์
หรือเรียกอีกอย่างหนึ่ งว่า "วาทะศิลป์" ซึ่งเป็นการนำหลักเกณฑ์
ที่ได้เรียนรู้ไปปฏิบัติจริง โดยต้องใช้ความสามารถในการเรียงร้อย
ถ้อยคำ หรือเรียบเรียงถ้อยคำ วลี และประโยคได้อย่างมีศิลปะ
เพื่อสื่อ “สาร” หรือ ส่ง “สาร” ไปยังกลุ่มผู้ฟัง
(จุไรรัตน์ ลักษณะศิริ, 2554 : 36 )
การพูด ความหมาย
ความสำคัญ
องค์ประกอบของผู้พูด
ประเภท
หลักการเบื้องต้นการพูด
คุณสมบัตินักพูดที่ดี
ความหมายการพูด
การพูด หมายถึง การถ่ายทอดความรู้ ความคิด
อารมณ์ และความรู้สึกของผู้พูด โดยผู้พูดใช้ถ้อยคำ
น้ำเสียง สีหน้ า แววตา รวมทั้งกิริยาท่าทางต่าง ๆ เพื่อ
ให้ผู้ฟังเข้าใจความหมาย และตอบสนองได้ตรงตามที่
วัตถุประสงค์ที่ต้องการ
(สมชาย สำเนี ยงงาม, 2553 : 139)
ความสำคัญ 1. การพูดเป็นการสื่อสารสองทาง
2. การพูดเป็นเครื่องมือของการสมาคม
3. การพูดเป็นการช่วยประสานประโยชน์
ให้แก่สั งคม
4. การพูดเป็นการแลกเปลี่ยนทัศนะ
ซึ่งกันและกัน
5. การพูดเป็นเครื่องมือช่วยในการแก้ไข
ปัญหา
(อำไพ สุจริตกุล, 2557 : 397)
สุนทรภู่ กวีเอกของไทยก็ได้กล่าวถึง ความสำคัญของการพูด
ไว้ในนิ ราศภูเขาทองตอนหนึ่ งว่า
“ถึงบางพูดพูดดีเป็นศรีศักดิ์
มีคนรักรสถ้อยอร่อยจิต
แม้นพูดชั่วตัวตายทำลายมิตร จะชอบผิดในมนุษย์เพราะพูดจา”
หรือเพลงยาวถวายโอวาทของสุนทรภู่ มีวรรคทองที่บ่งบอก
ถึงความสำคัญของการพูดไว้ ดังนี้
“อันอ้อยตาลหวานลิ้นแล้วสิ้นซาก แต่ลมปากหวานหูไม่รู้หาย
แม้นเจ็บอื่นหมื่นแสนจะแคลนคลาย เจ็บจนตายเพราะเหน็ บให้เจ็บใจ”
หรือหนึ่ งในวรรคทองจากเรื่อง "สุภาษิตสอนหญิง" ว่า
“เป็นมนุษย์สุดนิ ยมเพียงลมปาก จะได้ยากโหยหิวเพราะชิวหา
แม้นพูดดีมีคนเขาเมตตา จะพูดจาจงพิเคราะห์ให้เหมาะความ”
องค์ประกอบการพูด
1. ผู้พูด หรือ ผู้ส่งสาร
2. ผู้ฟัง หรือ ผู้รับสาร
3. สื่อ หรือ ช่องทางในการสื่อสาร
4. สาร หรือ เรื่องราว
1. ผู้พูด หรือผู้ส่งสาร หมายถึง บุคคลที่ต้องการส่งข้อมูลข่าวสาร
2. ผู้ฟัง หรือผู้รับสาร หมายถึง ผู้ที่รับเนื้ อหาสาระจากผู้พูด
3. สาร หมายถึง เนื้ อหาสาระในการพูด
4. ช่องทางการสื่อสาร หมายถึง สิ่งที่ช่วยถ่ายทอดสารจากผู้พูดไปสู่ผู้ฟัง
5. สถานการณ์ในการพูด หมายถึง เวลา สถานที่ โอกาส ตลอดจนบรรยากาศ
ในการพูด
องค์ประกอบการพูด
1. ผู้พูด หรือผู้ส่งสาร หมายถึง บุคคลที่ต้องการส่งข้อมูล
ข่าวสาร
2. ผู้ฟัง หรือผู้รับสาร หมายถึง ผู้ที่รับเนื้ อหาสาระจากผู้พูด
3. สาร หมายถึง เนื้ อหาสาระในการพูด
4. ช่องทางการสื่อสาร หมายถึง สิ่งที่ช่วยถ่ายทอดสาร
จากผู้พูดไปสู่ ผู้ฟัง
5. สถานการณ์ในการพูด หมายถึง เวลา สถานที่ โอกาส
ตลอดจนบรรยากาศในการพูด
(จุมพล วัฒน์ บูญ, 2553 : 198 )
ประเภทของการพูด
การพูดแบบทางการ การพูดแบบไม่ทางการ
การพูดแบบกึ่งทางการ (จุมพล วัฒน์บูญ, 2553 : 199 )
การพูดแบบทางการ
เป็นการพูดอย่างเป็นพิธีการในที่ประชุม
หรือการพูดต่อหน้ าชุมชนในโอกาสต่าง ๆ
ต้องอาศั ยความรู้ความสามารถและมีศิ ลปะ
ในการพูด
การพูดแบบกึ่งทางการ
มักใช้ภาษาระดับคล้ายกับการพูดแบบทางการ
แต่ลดความเป็นการเป็นงานเป็นการลง
มักใช้ในการประชุมกลุ่มที่ต้องใช้ภาษาระดับ
ทางการ เช่น ในการประชุมกลุ่มย่อย
การพูดแบบไม่ทางการ
เป็นการพูดในชีวิตประจำวัน พูดคุยสนทนา
ผู้พูดต้องฝึกฝนให้เป็นผู้ที่พูดได้ถูกต้อง
น่ าฟัง และเหมาะสมกับกาลเทศะ
หลักการเบื้องต้น
การเตรียมตัว
การวิเคราะห์ผู้ฟังและกาลเทศะ
การเลือกเรื่องพูด
มีบุคลิกภาพเหมาะสม น่ าเชื่อถือ
(จุมพล วัฒน์ บูญ, 2553 : 206 )
คุณสมบัติที่ดีของการเป็นนั กพูด
เป็นนั กฟังที่ดี เป็นนั กจำ เป็นนั กจด
เป็นนั กอ่าน เป็นนั กคิด
มีบุคลิกภาพเหมาะสม น่ าเชื่อถือ
(จุมพล วัฒน์ บูญ, 2553 : 211 )
การพูดในโอกาสต่าง ๆ
การพูดแนะนำ
การพูดให้เกียรติหรือมอบรางวัล
การพูดตอบรับ
การพูดต้อนรับ
การพูดตอบการต้อนรับ
การพูดในโอกาสเข้ารับตำแหน่ งใหม่
การพูดอวยพร
การพูดอำลา
(จุมพล วัฒน์ บูญ, 2553 : 211 )
เป็นนั กฟังที่ดี
ผู้ที่จะเป็นนั กพูดที่ดีได้
นั้ น ต้องเริ่มต้นจากการเป็นผู้ฟัง
ที่ดีก่อน เพราะจะทำให้ได้ทบทวนความรู้เดิมได้ เพิ่มเติมใน
ความรู้ใหม่ เข้าใจเนื้ อหาอย่างแจ่มแจ้ง และด้วยการที่เราฝึก
การยอมรับความคิดเห็น
มีบุคลิกภาพเหมาะสม
น่ าเชื่อถือ
นั กพูดที่ดีจึงต้องมีการระ
มัดระวัง และตกแต่งเพิ่มเติม
ให้บุคลิกภาพของเรายิ่งน่ ามอง และเป็นที่ประทับใจของผู้ฟัง
ผลงานที่ผ่านมา
ปริญญาตรีคณะนิ เทศศาสตร์
จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย
ครูสอนการแสดงให้ละคร
และภาพยนตร์ หลายเรื่อง
รับบทพิธีกรและวิทยากร
เจ้าของช่อง Youtube "Kru-Ngor
ครูเงาะ รสสุคนธ์ กองเกตุ"
นายอนุศิ ษฎ์ สระบัว
การดู
การดู ความหมาย
ความสำคัญ
จุดมุ่งหมาย
การดูอย่างมีประสิทธิภาพ
ความหมายการดู
การดู หมายถึง กระบวนการรับสารโดยผ่านสื่อ
คือ ภาพหรือตัวอักษร ผู้รับสารเกิดการรับรู้ตีความ
จนกระทั่งเข้าใจสาร แล้วเกิดปฏิกิริยาตอบสนอง
กระบวนการรับรู้ของมนุษย์ มีกระบวนการตีความ
และเกิดความคิดที่ตอบสนองเหมือนการฟัง
(อรอุรา มุสิกสาร, 2559 : 4)
ความสำคัญ
ให้ความรู้และความความคิด
ให้ความเพลิดเพลินจิตใจ
และสร้างความจรรโลงใจ
เสริมสร้างโลกทัศน์ ให้กว้างไกล
ใช้พัฒนาตนเองและสั งคม
(นวภรณ์ อุ่นเรือน, 2560: 69)
จุดมุ่งหมายการดู เพื่อความเพลิดเพลิน
เพื่อใช้ในชีวิตประจำวัน
เพื่อรับความรู้ เพื่อได้คติชีวิตและความจรรโลงใจ
(อรอุรา มุสิกสาร, 2559 : 8)
เพื่อใช้ในชีวิตประจำวัน
เพื่อความเพลิดเพลิน
เพื่อรับความรู้