The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

งานวิจัยส่งเสริมอาชีพโมเดลแก้ปัญหาเยาวชนนอกระบบตำบลหนองอียอ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

งานวิจัยส่งเสริมอาชีพโมเดลแก้ปัญหาเยาวชนนอกระบบตำบลหนองอียอ

งานวิจัยส่งเสริมอาชีพโมเดลแก้ปัญหาเยาวชนนอกระบบตำบลหนองอียอ

สง่ เสริมอาชีพโมเดลแก้ปัญหาเยาวชนนอกระบบ โมเดลอบต.หนองอียอ
การทากิจกรรมชว่ ยสร้าง
อบต.หนองอียอ จ.สรุ ินทร์ ความสามคั คี และลดความ
ขดั แย้งระหว่างกลมุ่ วยั รุ่น
เกิดแกนนาเยาวชน
ดาเนินงานร่วมกบั อบต.มา
จนถงึ ปัจจบุ นั



เป็นเวลาเกือบ10 ปีแล้วท่ีองค์การบริหารส่วนตาบลหนองอียอ อาเภอสนม จังหวัดสุรินทร์ เข้าร่วม
กระบวนการพัฒนาเด็กเยาวชนกับมูลนิธิสยามกัมมาจล ธนาคารไทยพาณิชย์ จากัด (มหาชน) และสถาบนั
เสริมสร้างการเรียนรู้เพ่ือชมุ ชนเป็นสขุ (สรส.) ในโครงการพฒั นาเดก็ เยาวชนในชมุ ชนท้องถ่ิน (4 ภาค ) ระยะท่ี 1
หลกั สตู รนกั ถักทอชุมชน เพ่ือการพฒั นาเด็ก เยาวชน และครอบครัว จนกระทง่ั ปัจจบุ นั คือระยะที่ 3โครงการพั 4
ภาค) ระยทงั้ นีต้ งั้ แตเ่ ข้าร่วมหลกั สูตรนกั ถกั ทอชมุ ชน อบต. หนองอียอ ทางานเรื่องเด็กและเยาวชน ควบคกู่ ับการ
พฒั นาสงั คมและชุมชนมาอย่างตอ่ เน่ือง ปฏิวัติ สระแก้ว รองนายกอบต.หนองอียอ บอกวา่ ที่ผ่านมา อบต.
ดงึ เด็กและเยาวชน มาทากิจกรรมร่วมกบั ผ้ใู หญ่ใจดีในชุมชน รวมทงั้ โรงเรียนในท้องถิ่น เช่น โรงเรียนหนองอียอ
วิทยา สว่ นการเข้าร่วม โครงการวิจัยแนวทางและรูปแบบการสร้างอาชีพให้แก่เดก็ นอกระบล ตาบลหนอง
อียอ อาเภอสนม จังหวัดสุรินทร์ ล่าสุดนี้ มีเป้าหมายเพ่ือสร้างการมีตัวตนให้เดก็ และเยาวชนนอกระบบ
ส่งเสริมให้เดก็ มีทักษะอาชีพจากการเข้าฝึ กอบรมตามหลักสูตรท่ีได้รับการรับรอง สร้างรายได้ให้ตัวเอง
แทนการเดนิ เข้าหาปัจจัยเส่ียงต่าง ๆ

สมเกียรติ สาระ หัวหน้าโครงการวิจัย อดีตหัวหน้าสานักปลัด อบต.หนองอียอ (ปัจจบุ นั ดารง

ตาแหน่งหวั หน้าสานักปลดั อบต.หนองสนิท ) ผู้เข้าร่วมหลกั สูตรนกั ถกั ทอ

ชมุ ชน เพ่ือการพฒั นาเด็ก เยาวชน และครอบครัว อบต.หนองอียอ และเป็น

ตวั ตงั้ ตวั ตีขับเคล่ือนงานมาตงั้ แต่ต้น กล่าวยืนยนั จากประสบการณ์ทางาน

ตลอดระยะเวลาท่ีผ่านมาว่า อบต. และองค์การปกครองท้องถิ่นอื่น ๆ

สามารถจัดกิจกรรมเพื่อพัฒนาเด็กและเยาวชนให้ตอบโจทย์ตัวชีว้ ัดของ

อบต. ได้โดยไมเ่ ป็นภาระ

ย้อนกลบั ไปราวปี พ.ศ. 2553 สมเกียรติ เลา่ ว่า อบต.หนองอียอ ได้

พฒั นาแกนนาเดก็ และเยาวชนรุ่นแรก โดยประสานความร่วมมือกับโรงเรียน

ในท้องถิ่น เมื่อดาเนินงานมาได้ระยะหนึ่ง นักถักทอชุมชนมองว่านอกจากนักเรียนในระบบการศึกษาแล้ว

เด็กและเยาวชนนอกระบบก็เป็ นกลุ่มสาคัญท่ีผู้ใหญ่ไม่ควรมองข้าม กระทง่ั ทราบจากอาจารย์ทรงพล

เจตนาวณิชย์ ผู้อานวยการสถาบันเสริมสร้ างการเรียนรู้เพ่ือชุมชนเป็ นสุข (สรส.) ว่ ามีการทา
โครงการวจิ ัยท้องถ่ินร่วมกับสานักงานกองทุนสนับสนุนการวจิ ัย (สกว.) จงึ สนใจเข้าร่วมโครงการ เพราะ
มีโจทย์การพัฒนาเด็กและเยาวชนนอกระบบอยู่ในใจอยู่แล้ว เลยได้เข้ามาเป็ นหน่ึงในพืน้ ท่ีทา
โครงการวิจัย ต่อยอดและพัฒนาบทบาทตัวเองจากการเป็ นนักถักทอท่ีทาอยู่แล้ว มาเข้าสู่กระบวนการ
เป็ นนักวจิ ัยชุมชนท้องถ่นิ

สถานการณ์เดก็ และเยาวชนในตาบลหนองอียอ กล่าวได้ว่าค่อนข้างมีความเส่ียง เพราะมีปัจจัย
ทัง้ ภายในและภายนอกท่ีเป็ นเหตุโน้มนาไปสู่เส้นทางท่ีผิดอยู่ไม่น้อย ยกตัวอย่างปัจจัยภายใน เช่น
ปัญหาครอบครัวหย่าร้าง ช่องว่างต่างวัยระหว่างเดก็ และผู้ปกครองท่ีเดก็ อาศัยอย่ดู ้วย ซ่งึ มักเป็ นป่ ูย่าตา
ยายหรือผู้สูงอายุมากกว่าพ่อแม่ซ่ึงต้องออกไปทางาน หรือปัจจัยภายนอก เช่น การติดเกม อบายมุข

สุรา ยาเสพติด หรือการหมดหวังมองไม่เห็นทางเดินชีวิต เพราะขาดคาแนะนาท่ีดีจากผู้ใหญ่ ส่งผลให้
เดก็ หลายคนหยุดเรียนกลางคัน ไม่เรียนต่อ ประสบปัญหาว่างงาน เส่ียงต่อการตัดสนิ ใจประกอบอาชีพ
ท่ีทุจริตจากการชักจูงของผู้ไม่หวังดี

“ตอนไม่ทำโครงกำรวิจยั เรำเห็นแค่ว่ำเด็กหลดุ จำกโรงเรียน เวลำคยุ กบั ผปู้ กครอง เขำบอกว่ำเด็กเกเร แต่
ผลจำกกำรเก็บข้อมูลวิจยั เมือ่ เรำเข้ำไปพดู คยุ กบั เด็ก เขำสะทอ้ นควำมรู้สึกว่ำครอบครัวพ่อแม่ไม่เขำ้ ใจ หรือแม้แต่
ตอนเรียนในโรงเรียน หลำยคนบอกว่ำ ไม่ชอบครูเพรำะครูเข้มงวด ดดุ ่ำ และมีกฎระเบียบมำกเกินไป หรือเรียนไม่
ทนั เพือ่ น เรียนไม่รู้เรื่องจนไม่อยำกเรียน ทำใหไ้ ปติดเกม แลว้ ก็ออกจำกระบบไปในทีส่ ดุ ” สมเกียรติ กล่ำว

และผลจากการเกบ็ ข้อมูลเดก็ และเยาวชนนอกระบบในพืน้ ท่ีตาบลหนองอียอ 11 หมู่บ้าน พบว่า
มีเดก็ และเยาวชนนอกระบบ จานวน 41 คน ในจานวนนีม้ ี 3 หมู่บ้านท่มี ีเดก็ นอกระบบรวมกันถงึ 31 คน
ได้แก่ หมู่ 5, 6 และ 8 แบ่งออกได้เป็ น 3 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มท่ีไม่จบชัน้ มัธยมศึกษาปี ท่ี 3 2. กลุ่มท่ีไม่จบ
ชัน้ มัธยมศกึ ษาปี ท่ี 6 และ 3. กลุ่มท่จี บชัน้ มัธยมศกึ ษาปี ท่ี 6 แต่ไม่ได้เรียนต่อ และไม่มีงานทา

เฟ้นหาทมี เสริม ล้วงลึกข้อมูลชุมชน

สาหรับการคัดกรองเด็กและเยาวชน มาเข้าร่วมเป็นทีมวิจัยและเป็นกลุ่มเป้าหมายในการทาวิจยั
สมเกียรติ บอกว่า เด็กและเยาวชนสว่ นใหญ่เป็นแกนนาเด็กและเยาวชนที่ทางานร่วมกับ อบต.มาก่อนแล้ว เห็น
หน้าคา่ ตาและรู้จกั นสิ ยั ใจคอกนั มาระดบั หนง่ึ

ทีมนักวิจยั (นกั ถักทอชุมชนและผู้นาหมู่บ้าน) ใช้วิธีพูดคุยทาความเข้าใจกับเด็กเป็ นรายบุคคล
เบือ้ งต้นคัดเลือกเด็กจากความสนใจและความสมัครใจจากหมู่บ้านท่ีเป็ นกลุ่มเป้าหมาย* รวมเด็กและ
เยาวชนนอกระบบในโครงการวิจัยทัง้ หมด 15 คน แต่ก็ยอมรับว่าหลายคนเข้ามาเพราะตัดสินใจตาม
เพ่ือน หรือตามคนท่ีเป็ นหัวโจกในกลุ่ม ยกตัวอย่าง หมู่ 5 ท่ีมี เกม – วีรพล หม่ืนราม หน่ึงใน
กลุ่มเป้าหมายโครงงานวิจัยเป็ นผู้นากลุ่ม

“ตอนประชำสมั พนั ธ์รับเด็กเข้ำมำ เรำไม่ได้ประชำสมั พนั ธ์เอง อบต.ออกหนงั สือให้ผู้นำชุมชนแต่ละ
หมู่บำ้ นช่วยประชำสมั พนั ธ์” รอง นายกฯ อบต.หนองอียอ กลา่ ว

สมใจ ณ เชียงใหม่ เลขานุการนายกฯ อบต.หนองอียอ หน่ึงในทมี วจิ ัย บอกวา่ กระบวนการทางาน
ในโครงการวิจัยเพ่ือการพัฒนาเยาวชนนอกระบบตาบลหนองอียอ อาเภอสนม จังหวัดสุรินทร์ สมใจ มีการ
ดาเนนิ งานทงั้ หมด 4 ขนั้ ตอนหลกั เร่ิมจาก

1. การค้นหาประเดน็ วิจัยและการคัดเลือกพนื้ ท่เี ป้าหมาย สมใจ บอกวา่ สง่ิ ท่ีนา่ สนใจในขนั้ ตอนนีซ้ ่งึ
มีความแตกต่างจากรูปแบบงานเดิมของ อบต. คือ นอกจากทีมวิจัยได้ลงสารวจเก็บข้อมูลในพืน้ ท่ีแล้ว
ยังได้นาเสนอข้อมูลคืนกลับให้ผู้นาชุมชนและคนในชุมชนรับทราบ แล้วทาความเข้าใจร่วมกันเพ่ือให้
มองเห็นภาพรวมของปัญหาไปในแนวทางเดียวกัน เม่ือคนในชุมชนสนใจร่วมทาโครงการวิจัยด้วยกัน
แล้ว การลงพนื้ ท่ใี นขัน้ ตอนต่อไปย่อมได้รับความร่วมมือ

“เรำลงไปศึกษำเก็บข้อมูลชมุ ชน รวมทง้ั สำรวจจำนวนเด็กและเยำวชนนอกระบบจำกทงั้ 11 หมู่บำ้ น เมื่อ
ได้ข้อมูลมำ ก็มำดูกนั ว่ำหมู่บ้ำนไหนมีปัญหำที่ต้องแก้ไขเร่งด่วน ด้วยกำลงั คนเท่ำที่เรำมีจะลงทำงำนทงั้ 11
หมู่บ้ำนคงไม่ไหว เพือ่ ใหก้ ำรทำงำนมีประสิทธิผล เรำเล็งไปที่ 3 หมู่บำ้ น (หมู่ 5, 6 และ 8) ที่สำรวจพบเด็กและ
เยำวชนนอกระบบมำกทีส่ ดุ ”

2. การเก็บข้อมูล จากการทบทวนเอกสารและงานวิจยั ที่เก่ียวข้อง สรุปบทเรียนการทางานกบั เด็กและ
เยาวชนในชว่ ง 10 ปีท่ีผ่านมา นอกจากข้อมลู เดก็ และเยาวชนนอกระบบแล้ว ทีมนกั วิจยั ยงั เก็บข้อมลู บริบทชมุ ชน
ไมว่ า่ จะเป็นฐานทรัพยากร เศรษฐกิจ และปราชญ์ชมุ ชนท่ีสามารถเกือ้ หนนุ การพฒั นาเดก็ และเยาวชนในพืน้ ท่ี ทงั้
จากการสารวจเองและจากเวทีประชาคมร่วมกบั คนในชมุ ชน แล้วนาข้อมลู ทงั้ หมดมาสรุปบทเรียน

สมใจ เปรียบเทียบให้เห็นภาพการทางานในบทบาทนักถักทอและนักวิจัยชุมชนว่ามีความแตกต่าง
จากการทางานแบบเดมิ จากท่ีเคยคดิ ว่าทางานคนเดียวรับผิดชอบงานไปตามหน้าท่ี แต่บทบาทนักถักท
ฯ และนักวจิ ัยชุมชนสร้างให้เกิด การทางานเป็ นทีม ผู้ใหญ่มองเหน็ ปัญหาของเดก็ ได้ชัดเจนขนึ้ เพราะได้
เข้ามาคลุกคลีไม่ได้ตัดสินจากอคตหิ รือจากส่ิงท่คี ดิ เอาเอง

“เท่ำที่เห็นปัญหำของเด็กจะคล้ำย ๆ กนั มีพืน้ ฐำนมำจำกปัญหำครอบครัว เด็กรู้สึกว่ำตวั เองมีปมด้อย
เพรำะครอบครวั แตกแยกขำดควำมอบอ่นุ ”

3. การสรุปวิเคราะห์ข้อมูล เพ่ือกาหนดทางเลือกและวางแผนปฏิบตั ิการ เมื่อโจทย์งานวิจยั คือ การ
สร้างอาชีพ การสารวจต้นทนุ อาชีพในชมุ ชนจงึ เป็นเรื่องสาคญั ประชากรตาบลหนองอียอ ทาการเกษตรเป็นอาชีพ
หลกั มีการทานา ปลกู ยาง ปลกู อ้อยและมนั สาปะหลงั รวมทงั้ การปลูกหม่อนเลีย้ งไหม แตส่ ว่ นใหญ่เป็นการปลูก
ตามมีตามเกิดไมไ่ ด้มีการสง่ เสริมความรู้เพื่อพฒั นาการผลิต

“เรำพบว่ำชำวบำ้ นไม่มีบญั ชีครัวเรือน ลงทนุ เลีย้ งหมูก็ไม่รู้ว่ำขำดทนุ เท่ำไหร่ ทำนำ ทำไร่ออ้ ยขำดทนุ ก็ยงั
ทำ เขำไม่ไดส้ นใจเรื่องตน้ ทนุ และรำยไดท้ ีไ่ ด้ ขอ้ นีเ้ รำตอ้ งเข้ำไปส่งเสริม แต่เรำมีปรำญช์ชมุ ชนทีส่ ำมำรถใหค้ วำมรู้
ดำ้ นกำรเกษตร ทอผำ้ และจกั รสำนได”้ สมใจ อธิบำย

ทงั้ นีแ้ ละทัง้ นัน้ ความท้าทายถัดมาเม่ือทีมวจิ ัยได้ลงลกึ สารวจข้อมูลชุมชนและอาชีพร่วมกับเด็ก
และเยาวชนท่ีเข้าร่วมโครงการ คือ ทุนท่ีชุมชนมีอยู่ก็ไม่ได้เป็ นเร่ืองท่ีเด็กและเยาวชนกลุ่มเป้าหมาย
สนใจ

ปฏิวัติ เล่าถึงกระบวนการทางานว่า ทีมวิจัยแลกเปลี่ยนสอบถามความคิดเห็นของเด็กและเยาวชน
กล่มุ เปา้ หมายเก่ียวกับอาชีพท่ีสนใจ อยา่ งตอ่ เนื่องตลอดช่วงระยะเวลาเก็บข้อมลู พบวา่ เด็กและเยาวชนส่วน
ใหญ่ไม่สนใจเร่ืองเกษตร ทงั้ ท่พี ่อแม่เป็ นเกษตรกร และมีทุนด้านทรัพยากรอย่แู ล้ว

“พอ่ แม่ปลูกยำงไวแ้ ลว้ เด็กยงั ไม่ไปช่วยกรีดเลย เขำบอกไม่ชอบ ทำไปก็ขำดทนุ ไม่มีรำยได้ ตอ้ งใช้แรงงำน
เหนือ่ ยหนกั ผมเองก็ถำมเด็กนะว่ำอยำกทำอะไร มีคนหนึ่งบอกอยำกเลีย้ งหมู เรำก็ใหเ้ ด็กไปลงสำรวจเกี่ยวกบั หมู
ที่เลีย้ งในชุมชน พอไปดูเรื่องกำรลงทนุ เลี้ยงหมู วิเครำะห์ตลำดกนั แล้วดูเหมือนจะไปไม่ได้ เพรำะไม่มีเงินทนุ หมู
พอ่ แม่พนั ธ์ุมีรำคำแพง ไหนจะค่ำอำหำร สถำนทีแ่ ละเวลำอีก พอเด็กเห็นตรงนนั้ เขำก็ลม้ เลิกควำมคิด”

ทงั้ นี ้หลงั สรุปความต้องการของกล่มุ เปา้ หมายจากการวิเคราะห์ต้นทนุ ชมุ ชน ทนุ อาชีพ และการตลาดใน
ชุมชน จากข้อมูลที่เก็บรวบรวมมาได้ด้วยตวั เองแล้ว กลุ่มเป้าหมายจึงเป็นผู้ตดั สินใจว่าตนเองต้องการพฒั นา
ทกั ษะอาชีพด้านไหนหรือสนใจเรื่องอะไร โดยมีทีม อบต.หนองอียอ เป็นผ้ชู ว่ ยประสานหนว่ ยงานที่เกี่ยวข้องและผ้รู ู้
ในขนั้ ตอนถดั ไป

จากการสรุปวิเคราะห์ข้อมูลนีเ้ อง ทาให้เดก็ และเยาวชนกลุ่มเป้าหมาย แบ่งความสนใจออกเป็ น
2 กลุ่ม คือ กลุ่มท่ีสนใจงานช่าง 12 คน ซ่ึงต้องออกไปเรียนนอกชุมชน กับกลุ่มท่ีอยากทาอาชีพโดย
อาศัยฐานทรัพยากรชุมชน 3 คน เช่น การปลูกผัก เลีย้ งกบ และเลีย้ งปลาร่วมกับผู้ปกครองและปราญช์
ในชุมชน

ยกตวั อยา่ ง อี้ - สุรชัย ด้วงโท ประธานสภาเดก็ และเยาวชนจังหวัด เลือกเรียนรู้ทกั ษะอาชีพในชมุ ชน
เพราะอยากใช้ชีวิตอย่กู บั ครอบครัวและต้องรับผิดชอบงานในตาแหน่งประธานสภาเด็กและเยาน เลยหนั มาทา
เกษตรผสมผสานกบั ครอบครัว และเปิดบ้านเป็นศนู ย์เรียนรู้ด้านการเกษตร เป็นต้น

“เด็กสนใจงำนช่ำงเชือ่ มกบั ช่ำงยนต์ แต่ในพืน้ ทีม่ ีปรำญช์ด้ำนงำนช่ำงไม้กบั ช่ำงปนู ซึ่งไม่ตอบโจทย์ อีก 3
คนกลบั มำสนใจเรียนรู้เรื่องกำรเกษตรในชมุ ชน แต่ส่วนหน่ึงเรำต้องยอมรบั ว่ำตอนนน้ั ในกล่มุ เด็กเองก็เลือกตำม ๆ
กนั ไม่ไดเ้ กิดจำกควำมตอ้ งกำรของตวั เอง 100 เปอร์เซ็นต์” ปฏิวตั ิ อธิบาย

“หรือต้า-สิปวิทย์ พลูทวี เป็นเด็กติดเกม เขำเลือกเรียนช่ำงคอมพิวเตอร์ เพรำะชอบและอยำกพฒั นำเกม
เป็นของตวั เอง” สมใจ ยกตวั อยา่ งเสริม

4. การปฏิบัตกิ าร หรือการสง่ เยาวชนนอกระบบที่เข้าร่วมโครงการเข้าเรียนในสาขาวิชาชีพที่ตนเองสนใจ
2 แห่ง ได้แก่ วิทยาลยั สารพดั ช่างสรุ ินทร์ วิชาชีพชา่ งตดั ผม ตงั้ แตว่ นั ที่ 16 ตลุ าคม – 22 ธนั วาคม 2560 และ ศนู ย์
พฒั นาฝีมือแรงงานจงั หวดั สรุ ินทร์ วิชาชีพชา่ งเครื่องยนต์ ช่างไฟฟ้า ชา่ งเชื่อมอาร์ คโลหะ และพนกั งานเทคโนโลยี
สารสนเทศ (ชา่ งคอมพิวเตอร์) ตงั้ แตว่ นั ท่ี 7 มกราคม – 7 มถิ นุ ายน 2561

ฝ่ าด่านคน ฝ่ านด่านตน

การประสานงานภาคีในการวิจยั ครัง้ นี ้ ทีมงานนักวิจัยบอกว่าต้องอาศยั ความร่วมมือจากหน่วยงานท่ี
เก่ียวข้องหลายภาคสว่ น ไมว่ า่ จะเป็น อบจ.สรุ ินทร์ กศน.อาเภอสนม รวมทงั้ สานกั งานพฒั นาฝีมือแรงงานจงั หวดั

สรุ ินทร์ อาเภอสงั ขะ และวิทยาลยั สารพดั ชา่ งสรุ ินทร์ เพราะมีปัญหาเร่ืองคณุ สมบตั ิของกลมุ่ เปา้ หมายท่ีสมคั รเข้า
เรียนไม่ตรงตามเง่ือนไข กล่าวคือ หน่วยงานกาหนดคณุ สมบตั ิผ้สู มคั รผ้เู ข้าร่วมอบรมต้องจบไมต่ ่ากว่าระดบั ชนั้
มธั ยมศึกษาตอนต้น และมีอายุไม่ต่ากว่า 15 ปี ทงั้ นี ้ เด็กและเยาวชนกลุ่มเป้าหมาย 3 คน ยงั ไม่จบการศึกษา
ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาตอนต้น และหลายคนยงั อายไุ มถ่ งึ 15 ปี

อย่างไรก็ตาม สมเกียรติ กลา่ วว่า คณะวิจัยได้ขอความร่วมมือจาก อบจ.สุรินทร์ให้ช่วยเป็ นแม่งาน
หลักเข้าไปประสานงานกับสานักงานพัฒนาฝี มือแรงงานจังหวัดสุรินทร์ อาเภอสังขะ และวิทยาลัย
สารพัดช่างสุรินทร์ ด้วยการเข้าไปพูดคุยทาความเข้าใจถึงโครงการและเป้าหมายของการทาวิจัย จน
สามารถประสานความร่วมมือกับ กศน.อาเภอสนม ให้เข้ามาช่วยพัฒนาความรู้ต่อยอดไปพร้อม ๆ กับ
การเรียนงานช่าง เพ่อื ให้เรียนจบได้วุฒกิ ารศึกษาพอดีกับท่ีจบหลักสูตรการพัฒนาอาชีพ

นอกจากนี ้อบจ.สรุ ินทร์ ยงั ชว่ ยเหลือท่ีพกั สาหรับกล่มุ ที่เข้าฝึกอบรมชา่ งตดั ผม เน่ืองจากวิทยาลยั สารพดั
ชา่ งสรุ ินทร์ ไมม่ ีท่ีพกั สาหรับผ้มู าฝึกอบรม หากเยาวชนต้องเดินทางไปกลบั ระหว่างบ้านและท่ีฝึกอบรมอาจเสี่ยง
ตอ่ การเกิดอบุ ตั เิ หตไุ ด้

จ๋ิว - ชนาพัทธ์ ศรีพมิ พ์สอ อายุ 23 ปี ช่างตัดผม บอกวา่ ได้เข้ามาร่วมโครงงานวิจยั ด้วยความบงั เอิญ
จากคาชกั ชวนของพ่ีสมเกียรติ เขานาทกั ษะความรู้และ
วิธีคดิ ท่ีได้จากการเรียนรู้ผา่ นกระบวนการอบรม เพ่ือการ
ทาวิจยั ท้องถ่ิน และจากการเข้าเรียนในหลกั สูตรมาใช้
อยา่ งตอ่ เน่ือง

“เดิมทีผมทำงำนนอกชมุ ชน ช่วงนน้ั ลำออกจำก
งำนมำช่วยแม่ทีบ่ ำ้ น แลว้ ทำง อบต. จดั กิจกรรมเด็กและ
เยำวชนพอดี ผมว่ำงอยู่เลยเข้ำมำช่วย ทำให้ได้รู้จักพี่
สมเกียรติ ผมช่วยกิจกรรมมำตลอดเพรำะผู้ใหญ่ใหโ้ อกำส ตอนมีโครงงำนวิจยั เข้ำมำ ผมสนใจอยำกเข้ำมำช่วยทำ
วิจยั แต่เพรำะผมเรียนมหำวิทยำลยั รำชภฎั บรุ ีรมั ย์ช่วงเสำร์อำทิตย์ มีควำมก้ำกึ่งกบั กำรเป็ นเด็กนอกระบบ เลยได้
เปลี่ยนบทบำทมำเป็ นกลุ่มเป้ำหมำย จำกที่ไม่เคยทำวิจัยมำก่อน พอมำร่วมทำโครงกำรวิจัยก็ทำให้มี
ประสบกำรณ์ พอต้องไปทำวิจยั ในมหำวิทยำลยั รู้สึกเป็นเรื่องง่ำยไปเลย ของมหำวิทยำลยั ผมใช้แค่แบบสอบถำม
ส่วนงำนวิจยั ชมุ ชนเป็นวิจยั เชิงปฏิบตั ิกำรตอ้ งลงมือสำรวจชมุ ชนและสมั ภำษณ์คนในชมุ ชนจริงๆ”

จ๋วิ เลา่ ถึงกระบวนการทาโครงงานวิจยั วา่ โจทย์โครงงานวจิ ยั มีเปา้ หมายชดั เจนเพ่ือพฒั นาทกั ษะอาชีพให้
เยาวชนนอกระบบตาบลหนองอียอ ชว่ งแรกเป็นการเก็บข้อมลู บริบทชมุ ชนและวิเคราะห์ตวั เองว่าแตล่ ะคนอยาก
ทาอาชีพอะไร แล้วสามารถพฒั นาตวั เองอยา่ งไรได้บ้าง สว่ นวิธีคิดก่อนตดั สินใจเลือกเรียนช่างตดั ผม เขาบอกว่า
‘เลือกเรียนส่งิ ท่ยี ังทาไม่เป็ นและไม่เคยทา เพ่อื เพ่มิ ทกั ษะและสร้างความท้าทายให้ชีวติ ’

“ผมเรียนคณะรัฐประศำสนศำสตร์ ชอบทำงำนพฒั นำชุมชน
ตอนคิดเข้ำร่วมโครงงำนวิจัยกบั อบต. ผมอยำกทำเพรำะคิดว่ำเป็ นกำร
เตรียมตวั ก่อนทำวิจยั ในมหำวิทยำลยั ซึ่งเป็นโอกำสดีที่ไม่ไดห้ ำได้ง่ำย ๆ
ส่วนสำเหตทุ ีเ่ ลือกเรียนช่ำงตดั ผมเพรำะอยำกนำทกั ษะอำชีพดงั กล่ำวมำ
ทำงำนจิตอำสำ เปิ ดร้ำนทีบ่ ำ้ นดว้ ยทำงำนจิตอำสำตดั ผมใหผ้ สู้ ูงอำยแุ ละ
ผู้พิกำรในชุมชนด้วย เพื่อให้ได้ทำงำนในชุมชนและใช้ชีวิตอยู่กับ
ครอบครัว สำหรบั กำรใช้ชีวิตช่วงทำโครงงำนวิจยั ผมเรียนตลอดทงั้ 7 วนั
คือเสำร์อำทิตย์เรียนที่มหำวิทยำลัย จันทร์ถึงศุกร์เรียนช่ำงตัดผม 2
หลกั สูตร คือ หลกั สูตรพืน้ ฐำนและสมยั นิยม ผมค่อนข้ำงภูมิใจในตวั เอง
เพรำะกว่ำจะเรียนจบไดก้ ็ยำก โดนดูถกู สำรพดั แต่ผมก็บริหำรจดั กำรเวลำไดด้ ีจนทำไดส้ ำเร็จ”

จิ๋ว บอกวา่ ข้อดขี องการทางานวจิ ัย คือ ทาให้เดก็ และเยาวชนได้พัฒนาตวั เอง เยาวชนท่เี รียนไม่
จบได้มีอาชีพตดิ ตัว นอกจากนีก้ ารสารวจชุมชนยังทาให้พวกเขารู้จักชุมชนของตวั เองดขี ึน้ จากเดมิ ท่ไี ม่
เคยสนใจไม่ให้ความสาคัญกับทนุ ด้านต่าง ๆ ท่มี ีในชุมชน ก็กลับมามองเหน็ คุณค่าและประโยชน์

อยา่ งไรก็ตาม จิ๋ว สะท้อนถึงมมุ มองการพฒั นาเดก็ และเยาวชนในท้องถ่ิน จากประสบการณ์ที่ได้ประสบ
ด้วยตวั เองวา่ นอกจากกระบวนการส่งเสริมความรู้แล้ว กระบวนการพัฒนาจะเกิดขึน้ และเหน็ ผลได้อย่าง
ชัดเจน หากเดก็ และเยาวชนได้รับการสนับสนุนในภาคปฏิบัตไิ ม่เฉพาะแค่ให้ความรู้

“ต้องยอมรับว่ำสำหรับเด็กนอกระบบ กระบวนกำรคิดในแต่ละขนั้ ตอนนอกจำกกำรหนนุ ให้เด็กคิดเองทำ
เองแล้ว เด็กยงั ตอ้ งกำรกำลงั ใจและคำปรึกษำจำกผูใ้ หญ่ กำรเปิ ดพืน้ ที่ในลกั ษณะที่เป็นกำรชกั ชวนมำกกว่ำกำร
ชกั จูง อย่ำงที่ผ่ำนมำไปเรียนกลบั มำแล้วมีควำมรู้ แต่หลำยคนไม่มีเงินทุนสำหรับซื้ออุปกรณ์มำต่อยอดกำรทำ
อำชีพในพื้นที่ หำกไปเป็ นลูกจ้ำงก็ต้องออกนอกพื้นที่ไปทำงำนในเมือง ส่วนตวั ผมอุปกรณ์ซื้อเอง เปิ ดร้ำนเอง
ตอนนี้ลูกค้ำประจำมีประมำณ 10 - 20 คน เขำชอบอย่ำงที่เรำตดั อำจเพรำะผมตดั รำคำถูกด้วย มีควำมเป็ น
กนั เอง คิดรำคำเด็ก 20 บำท วยั รุ่น 30 บำท ผู้ใหญ่ 40 บำท ถือว่ำกำรไปเรียนนี้บรรลุวตั ถุประสงค์ เพรำะตอน
แรกผมไม่คิดว่ำจะได้กลบั มำอยู่บำ้ น คิดว่ำคงไปทำงำนที่อื่น ส่วนงำนเกษตรที่บ้ำนตง้ั ใจเก็บไวท้ ำตอนบนั้ ปลำย
อยำกลองทำอย่ำงอืน่ ก่อน”

นอกจากทกั ษะการตดั ผมที่มีติดตวั แล้ว จิว๋ ยงั รับหน้าท่ีเป็นพนกั งานเหมาจ้างช่วยเทศบาลสนมเก็บข้อมลู
ในโปรเจคงานท่ีเทศบาลได้รับมอบหมายจาก สสส. (สานกั งานกองทนุ สนบั สนนุ การสร้างเสริมสขุ ภาพ) ด้วยการ
นากระบวนการเก็บข้อมลู และการจดั ระเบียบข้อมลู ในงานวิจยั มาใช้ในงานอีกด้วย

“ผมไม่รู้จะเรี ยนไปทำไม ผมรู้สึกว่ำสิ่งที่เรี ยนไม่ได้ตอบโจทย์”
จิณวัฒน์ สืบเพง็ อายุ 18 ปี ช่างคอมพวิ เตอร์ เอย่ ขนึ ้ อยา่ งตรงไปตรงมา
“ผมไม่ไดอ้ ยำกเป็นหมอ ไม่ไดอ้ ยำกเป็นครู เรียนจบ ม.6 แลว้ ก็ไม่รู้จะใช้วฒุ ิ
ใช้เกรดไปทำอะไร ผมเลยออกจำกโรงเรียนตอนเรียนชน้ั ม.6 เทอม 1 แต่
ก่อนหนำ้ นน้ั ทำกิจกรรมเยำวชนกบั พีส่ มเกียรติมำตลอด ตง้ั แต่ปี 2558 พอ
มีโครงกำรวิจยั พีส่ มเกียรติเลยชวนมำเป็นกล่มุ เปำ้ หมำยในกำรวิจยั ผมว่ำง
เลยตอบตกลงเพรำะอยำกลองดู คิดว่ำเลือกไปเรียนตำมเป้ำหมำยใน
โครงกำร จบมำอย่ำงน้อยก็ได้ควำมรู้และทกั ษะออกมำหำงำนทำได้ ผม
เลือกเรียนช่ำงคอมพิวเตอร์ เพรำะมีพืน้ ฐำนควำมรู้อยู่บ้ำงแล้ว” จิณวฒั น์
ย้อนเลา่ ถึงที่มาท่ีไป

เมื่อตกลงเข้าร่วมเป็นส่วนหนง่ึ ในกระบวนการวิจยั เยาวชนนอกระบบทงั้ 15 คนซงึ่ เป็นกล่มุ เปา้ หมายใน
โครงการ ได้มีโอกาสเข้าร่วม ค่ายหลักสูตรนักถักทอรุ่นเยาว์ เป็นระยะเวลา 15 วนั โดยมี สถาบันยุวโพธิชน
เป็นผ้ดู าเนินการสร้างการเรียนรู้ภายในคา่ ย

จิณวฒั น์ บอกวา่ เห็นความเปล่ียนแปลงของตัวเองด้านการควบคุมอารมณ์ และการปรับตัวเข้า
กับผู้อ่ืนหลังเข้าค่าย 15 วัน ยกตัวอย่างเช่น เร่ืองมารยาทและการวางตัวในการเข้าสังคม รวมทัง้ การ
ควบคุมสติ จากเดมิ เป็ นคนอารมณ์ร้อน แสดงออกอย่างตรงไปตรงมาโดยไม่ไว้หน้าใคร ปัจจุบันสามารถ
ควบคุมตัวเองให้ใจเยน็ ลงได้มากขนึ้

“เมื่อก่อนผมเป็นคณะปฏิวตั ิของโรงเรียนเลย มีเรื่องกบั อำจำรย์ทกุ คน” จิณวฒั น์ กลา่ ว

ส่วนความรู้และทักษะที่ได้จากการฝึกอบรมหลกั สูตรพนกั งานเทคโนโลยีสารสนเทศ ศูนย์พัฒนาฝีมือ
แรงงานจังหวัดสุรินทร์ ในห้องเรียนตลอดระยะเวลา 4 เดือน และประสบการณ์จากการฝึกงาน ไม่ได้ทาให้
จณิ วฒั น์ มีความรู้สกึ ดขี นึ ้ กบั การเรียนการสอนที่เกิดขนึ ้ ในห้องเรียนเทา่ ใดนกั

“ทำงศูนย์ฯ สอนตงั้ แต่ควำมรู้พืน้ ฐำนว่ำเทคโนโลยีสำรสนเทศคืออะไรบ้ำง ระบบคืออะไร ซอฟต์แวร์คือ
อะไร ซึ่งผมพอรู้อยู่แลว้ ผมคิดภำพไวว้ ่ำจะไดเ้ รียนเชิงเทคนิคเรื่องกำรซ่อม ได้ฝึ กทกั ษะในส่วนนน้ั แต่พอไปเรียน
ไม่ไดเ้ รียนซ่อมคอมอย่ำงทีค่ ิด พอตอ้ งไปนงั่ ฟังในหอ้ งเรียนก็รู้สึกไม่อยำกเรียน แต่เพรำะผูใ้ หญ่ตงั้ ใจใหเ้ รำไปเรียน
เพือ่ พฒั นำตวั เอง เรำก็รับผิดชอบเรียนจนจบหลกั สูตร พอเรียนจบมำก็นำควำมรู้มำใช้กบั คอมที่บำ้ น แตยงั ไม่ได้
ทำงำนให้ลูกค้ำทวั่ ไป ผมอยำกเอำควำมรู้มำซ่อมให้คนอื่นเหมือนกนั แต่เรื่องค่ำใช้จ่ำยที่ต้องใช้เพื่อซื้ออุปกรณ์
ต่ำง ๆ ”

จิณวฒั น์ บอกว่า ความต้องการท่ีอยากได้จากผู้ใหญ่ใจดี คือ อยากให้ผู้ใหญ่ทุกคนเปิ ดพืน้ ท่ีให้
เดก็ และเยาวชนโดยไม่จากัดว่าเดก็ คนนัน้ จะเป็ นเดก็ ในระบบ นอกระบบหรือเป็ นอะไรกต็ าม

“ผมรู้สึกว่ำที่ผ่ำนมำมีกรอบบำงอย่ำงทีท่ ำให้เรำไม่สำมำรถทำส่ิงทีช่ อบได้ ขี่เตอร์ไซค์เรำก็ถูกเรียกว่ำเด็ก
แว๊น ถ้ำมีผู้ใหญ่ให้โอกำสวยั รุ่นได้มีพืน้ ที่แสดงควำมสำมำรถสถำนกำรณ์น่ำจะดีขึ้น อย่ำงเด็กในชุมชนถำ้ อยำก
เรียนงำนช่ำงไม่ตอ้ งไปถึงในจงั หวดั ไดไ้ หม เรียนอย่ใู นชมุ ชนไดไ้ หม สาหรับพวกเรามีช่วงเวลาหนึ่งระหว่างการ
ทาโครงการวิจัยที่เราอยากให้ผู้ใหญ่เข้ามาไต่ถาม ผมเข้าใจว่าพ่ี ๆ ทางาน อบต.มีงานมีหน้าที่ แต่เม่ือ
พวกเราไปอยู่ต่างที่แล้วไม่มีผู้ใหญ่แวะเวียนมาหา บางครั้งเรารู้สึกเหมือนขาดที่พ่ึงไม่มีที่ปรึกษา”
จิณวฒั น์ กลา่ วอยา่ งเปิดเผย

สาหรับเปา้ หมายในอนาคต จิณวฒั น์ อยากมีธรุ กิจเป็นของตวั เอง ความฝันอีกอยา่ งหนง่ึ ท่ีอยากปัน้ ขึน้ มา
ให้สาเร็จ คือ การเปิดร้านขายขนม แล้วตงั้ ใจวา่ จะลงสมคั รเรียนทาอาหาร

พมิ พ์เขียวการพฒั นา

กล่าวสาหรับโครงการวิจัยแนวทางและรูปแบบการสร้ างอาชีพให้แก่เด็กนอกระบบ ตาบลหนองอียอ
อาเภอสนม จงั หวดั สรุ ินทร์ หากมองความสาเร็จเป็นผลลพั ธ์เด็กและเยาวชนท่ีเรียนจบออกมาตามหลกั สตู รเพียง 3
คน คงไม่ใช่ผลลพั ธ์ท่ีน่าพอใจนกั แต่ส่ิงท่ีนักวิจัยและนักถักทอชุมชนได้เรียนรู้ คือ แนวทางการทางาน
ร่วมกับหน่วยงานราชการอ่ืน ๆ ภายนอก ไม่ว่าจะเป็ น อบจ.สุรินทร์ท่ีช่วยประสานงานกับสานักงาน
พัฒนาฝี มือแรงงานจังหวัดสุรินทร์ อาเภอสังขะ หนุนให้เด็กและเยาวชนกลุ่มเป้าหมายสามารถเข้า
อบรมตามหลักสูตรได้ รวมทงั้ การช่วยเหลือท่พี กั สาหรับการฝึ กอบรมช่างตัดผม

กศน.อาเภอสนม ประสานงานเร่ืองการพฒั นาความรู้ตอ่ ยอดให้เยาวชนท่ียงั ไม่จบการศึกษา ชนั้ ม.3
และ ม.6 ให้เรียนในระดบั ดงั กล่าวจนจบ เพ่ือใช้วุฒิการศึกษารับรองการจบหลกั สูตรสายอาชีพได้ รวมทงั้ และ

สานักงานพัฒนาฝี มือแรงงานจังหวัดสุรินทร์ อาเภอสังขะ และวิทยาลัยสารพัดช่างสุรินทร์ ท่ีให้เดก็ และ
เยาวชน เปิดโอกาสให้เดก็ และเยาวชนได้เข้าฝึกอบรมตามหลกั สตู ร

ตลอดกระบวนการวิจัยท้องถิ่น สมใจ ยอมรับว่า ส่ิงท่ี อบต. ละเลยอย่างรู้เท่าไม่ถึงการณ์ จน
กลายเป็ นจุดอ่อนของทมี วิจัย คือ การส่งเสริมโครงการท่ผี ่านมายังขาดการออกแบบให้เดก็ และเยาวชน
มีอาชีพในชุมชนท่ีแท้จริงได้ นอกจากนีย้ ังไม่สามารถพัฒนาให้กลุ่มเยาวชนวางแผน และปฏิบัติงาน
อย่างเป็ นระบบจนสามารถพ่งึ พาตวั เอง ทงั้ ท่มี ีทกั ษะความรู้และได้ฝึ กปฏิบัตมิ าบ้างแล้ว

ในอนาคตหากต้องทาโครงการในลกั ษณะนีอ้ ีก ทาง อบต.จงึ ต้องหนนุ เสริมการพฒั นากระบวนการคดิ ให้
เด็กและเยาวชน เพ่ือสร้ างให้เกิดการพฒั นาคนท่ีย่งั ยืนได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ เร่ิมจากการวิเคราะห์วยั และ
ธรรมชาตขิ องเด็กแตล่ ะวยั รวมทงั้ การทาความเข้าใจกบั สถาบนั การศกึ ษาท่ีเก่ียวข้องในแตล่ ะหน่วยงานให้เข้ามา
เป็นทีมเดยี วกนั เพื่อชว่ ยประคบั ประคองให้เดก็ และเยาวชนที่ความสนใจได้เรียนรู้และพฒั นาตวั เองจนจบหลกั สตู ร

“เรำทงั้ คยุ กบั เด็กที่เรียนไม่จบหลกั สูตร เห็นปัญหำว่ำเรำทำโครงกำรพฒั นำอำชีพกบั เด็ก แต่ไม่ได้แยกวยั
เมื่อเด็กต่ำงวยั มำอยู่ดว้ ยกนั ทำใหค้ นทีโ่ ตกว่ำกลำยเป็นผนู้ ำควำมคิดไปโดยไม่รู้ตวั เด็ก ม.2 ม.3 ก็จะตำมพี่ ไม่
ตดั สินใจดว้ ยตวั เอง พีจ่ ะทำอะไรก็ไปกบั พี่ เขำบอกว่ำทีเ่ รียนไม่จบเพรำะยงั เด็กเกินไป มนั สะทอ้ นกลบั มำทีเ่ รำว่ำ
...ส่ิงทีเ่ รำทำไปยดั เยียดใหเ้ ขำมำกไปหรือเปล่ำ

แต่เด็ก ๆ ยงั ทำงำนจิตอำสำให้ อบต. ไม่ไดห้ ำยไปไหน เรำประสำนงำนติดต่อเขำมำได้ตลอด เวลำคอมฯ
มีปัญหำ ไฟมีปัญหำ หรือต้องกำรคนทำงำนช่ำง ก็เรียกเขำมำดูใหไ้ ด้ อย่ำงน้อย ๆ ควำมมีจิตอำสำในตวั ที่ฝึ กฝน
กนั มำไม่ไดห้ ำยไปไหน” สมใจ กล่ำวสรุป

นอกจากนี้ การไม่ติดตามเย่ียมเยียนเด็ก ๆ อย่างใกล้ชิด ทัง้ ท่ีเด็กต้องออกไปเรียนนอกพืน้ ท่ี
ต้องไปใช้ชีวิตอยู่ในหอพักต้องใช้ชีวิตกับคนหมู่มาก หลายครัง้ เผชิญกับปัญหาแต่เด็กขาดท่ีปรึกษาจน
ทาให้เด็กรู้สึกเขว้งคว้าง ขาดกาลังใจ บทเรียนข้อนีท้ าให้นักวิจัยรู้ว่า ระบบติดตาม เพ่ือสนับสนุนเดก็
เป็ นส่งิ สาคัญมาก อีกทงั้ การส่งเดก็ เข้าไปเรียนในหลักสูตร โดยโครงการรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทกุ อย่างให้
ไม่ต่างอะไรจากพ่อแม่ท่ีไม่ได้ฝึ กฝนให้เดก็ ดนิ้ รนและพัฒนาตัวเองจากศักยภาพท่ีมีอยู่

“เด็กเรียนอย่ำงเดียว ไม่มีหนำ้ ทีอ่ ืน่ แลว้ เรำก็ไม่ไดต้ ิดตำมอย่ำงดีพอ เด็กก็ไปเรียนบำ้ งไม่ไปบำ้ ง ส่วนหนึ่ง
เพรำะเรำทำหนำ้ ทีผ่ ูป้ กครองไดไ้ ม่ดี เด็ก ๆ เล่ำใหฟ้ ังเรื่องอำหำรกำรกิน เขำเป็นกล่มุ ใหญ่ซื้อของกินมำเก็บไว้ เช่น
มำม่ำ ปลำกระป๋ อง และไข่ บำงทีของก็หำย คร้ังหนึ่งไข่หำยไปเป็นแผง เด็ก ๆ ก็สะทอ้ นว่ำ ทำไมคนทีข่ โมยไม่มำ
ขอดี ๆ ถ้ำขอเขำก็แบ่งให้ แต่ในสถำนกำรณ์นน้ั เรำก็ไดเ้ ห็นภำพควำมผูกพนั ในกล่มุ พีด่ ูแลนอ้ ง กำรจดั หนำ้ ที่จดั
ตำรำงว่ำใครจะเป็นคนจ่ำยกบั ข้ำวแต่ละคร้ัง” สมใจ กลา่ ว

กล้าท่จี ะเปล่ียน กล้าท่จี ะทา

อยา่ งไรก็ตาม ปฏิวตั ิ ในฐานะรองนายกฯ อบต. บอกวา่ กระบวนการคดิ และการทางานวจิ ยั ชมุ ชน เข้ามา
ช่วยการทางานของ อบต. ในภาพรวมได้มาก ไม่เฉพาะปัญหาเด็กและเยาวชน จากเดิม อบต. ไม่ได้ออกแบบ
วางแผนรวบรวมข้อมลู อย่างตรงจุด ทาให้ข้อมลู ท่ีได้ไม่ตอบโจทย์การแก้ไขปัญหาชมุ ชนอย่างแท้จริง หรือ ‘แก้ไข
ปัญหาได้ไม่ตรงจุด’ นน่ั เอง ทงั้ นี ้ บทเรียนท่ีได้เรียนรู้ คือ ความต้องการของชาวบ้าน ต้องมาประกอบกับ
ความจาเป็ นท่แี ท้จริงของชุมชนด้วย

“ที่ผ่ำนมำเรำลงไปทำแผนจำกชมุ ชน รับฟังข้อเสนอตำมควำมตอ้ งกำรของชมุ ชน เช่น อยำกได้ถนนหรือ
ถนนเส้นนี้ชำรุด ใช้ไม่ได้ แต่เมื่อฟังแล้วถำ้ เรำไปลงลึกเพือ่ ศึกษำจริง ๆ สิ่งเหล่ำนน้ั อำจไม่จำเป็น อำจมีเรื่องอืน่ ที่
ควรไดร้ ับกำรแก้ไขก่อน เรื่องเด็กและเยำวชนนอกระบบก็เป็นหน่ึงในนน้ั ”

ส่วนความเปล่ียนแปลงท่ีเกิดขึน้ กบั ตวั เองนนั้ ปฏิวตั ิ บอกว่า เหมือนได้ปฏิวัติการทางานของตัวเอง
ใหม่จริง ๆ โดยเฉพาะมุมมองเร่ืองการใช้ข้อมูลองค์รวมเพ่ือนามาคิดวิเคราะห์ แทนการตัดสินด้วย
สายตา รวมทงั้ การพฒั นาทักษะการทางานร่วมกับผู้อ่ืน

“ผมไม่ได้จบกำรศึกษำสูงอะไร วิชำกำรก็ไม่เก่ง ปัญหำอย่ำงแรกคือเรื่องกำรเขียน สองคือกำรจบั ประเด็น
และจดั ลำดบั ควำมสำคญั ของข้อมูล แลว้ มนษุ ยสมั พนั ธ์ในกำรทำงำนร่วมกบั คนในที่ทำงำนก็ดีข้ึน เมื่อก่อนเป็น
หวั หนำ้ ตอนนี้ หยอกลอ้ ไดม้ ีควำมสขุ ในกำรทำงำน”

สมใจ บอกว่า กระบวนการทาวิจัยทาให้เป็ นคนยืดหยุ่น ไม่คาดหวัง เรียกว่า เป็ นการฝึ กความ
เข้มแข็งในจิตใจ จนกระท่งั สามารถควบคุมอารมณ์ได้ดีขนึ้

“เมื่อก่อนเป็ นคนโหดมากใจร้อนและไม่ยืดหยุ่น สมมุติมีนัดเรารอได้แค่ 15 นาทีเท่านั้น ถ้ายังไม่
มาเราสั่งให้รถออกเลย แต่เดย๋ี วน้ีรอได้เป็ นชั่วโมง”

จากการทางานพฒั นาด้านเด็กและเยาวชนในบทบาทของนกั ถกั ทอ อบต.หนองอียอ ร่วมกับคณะกรรม
โรงเรียนครอบครัว จดั กิจกรรมอย่างต่อเนื่องกว่า 8 โครงการ 11 กิจกรรม ยกตวั อย่างเช่น เกษตรวิมานดิน การ
อบรมช่างซอ่ มรถจกั รยานยนตร์ในพืน้ ที่ ฯลฯ จนกระทง่ั เข้าสกู่ ารเป็นนกั วิจยั ท้องถ่ินอยา่ งเตม็ ตัว แม้ผลลัพธ์จาก
การทาโครงการไม่ได้ทาให้เหน็ ความเปล่ียนแปลงเชิงประจักษ์ด้านการสร้างงานสร้างอาชีพมากนัก แต่
การทากิจกรรมช่วยสร้างความสามัคคี และลดความขัดแย้งระหว่างกลุ่มวัยรุ่น เกิดแกนนาเยาวชน
ดาเนินงานร่ วมกับ อบต.มาจนถึงปั จจุบันรวม 6 รุ่น ทัง้ เด็กในระบบและนอกระบบ โดยเฉพาะ
โครงการวิจัยล่าสุดร่ วมกับเด็กและเยาวชนนอกระบบท่ีถูกมองว่าไม่มีอนาคต พวกเขาได้มีพืน้ ท่ี
แสดงออกด้วยการทางานร่วมกับ อบต.และส่วนหน่ึงก็ได้นาความรู้ทัง้ ด้านทักษะอาชีพและวิธีคดิ วิจัยมา
ทางานต่อ

ทงั้ นี ้รองนายก อบต. บอกว่า ประโยชน์ ท่ี อบต.
ได้จากโครงการนี ้คือ ได้ข้อมูลเก่ียวกับเดก็ และเยาวชน
จากมุมมองท่ีไม่เคยรู้มาก่อน เพราะได้เข้าไปทางาน
ร่วมกับเดก็ อย่างใกล้ชดิ

“ข้อมูลนี้ได้มำนี้ก็จะอยู่กับ อบต. ถึงทีมงำนเดิม
จะไม่อยู่ ถกู ยำ้ ยออกไป คนใหม่ทีเ่ ขำ้ มำ พอเห็นขอ้ มูลนี้ ก็
สำมำรถหยิบไปปรับปรุงหรือทำงำนต่อได้ แต่ส่วนทีต่ ้องปรับปรุงหรือส่วนที่ยงั ขำด คือ กำรเก็บข้อมูลสถิติเด็กและ
เยำวชนนอกระบบในแต่ละปี ว่ำมีจำนวนเพ่ิมขึ้นหรือลดลงอย่ำงไรระหว่ำงที่ดำเนินโครงกำรอยู่ในแต่ละปี เพือ่ เป็น
ตวั ชี้วดั อย่ำงหน่ึงว่ำโครงกำรวิจยั และกิจกรรมอืน่ ๆ ที่ทำมำอย่ำงต่อเนื่องสำมำรถลดจำนวนเด็กและเยำวชนนอก
ระบบได้จริงไหม ควรพฒั นำต่อไปอย่ำงไร แล้วเด็กกลุ่มอื่น ๆ มี ควำมเปลี่ยนแปลงไปในทำงใดบ้ำง เพื่อวำง
นโยบำยสนบั สนนุ ไดอ้ ย่ำงตรงจุดต่อไป” ปฏิวตั ิ กลา่ ว

//////////////////////////////////////////

หมายเหตุ
*จากกล่มุ เป้าหมายแรกท่ีม่งุ ไปยงั เด็กและเยาวชนนอกระบบจาก 3 หม่บู ้าน ใน 11 หม่บู ้านท่ีสารวจพบ

จานวนเดก็ นอกระบบมากท่ีสดุ ได้ตวั แทนเด็กและเยาวชนมาหม่บู ้านละ 5 คน รวมเป็น 15 คน อยา่ งไรก็ตาม หลงั
ขนั้ ตอนการลงสารวจทนุ ในชมุ ชน เดก็ และเยาวชนจากหมู่ 6 ถอนตวั ทงั้ ที่กลมุ่ เปา้ หมายจากทงั้ 3 หมบู่ ้านให้ความ

ร่วมมือมาร่วมการสารวจชมุ ชนเป็นอยา่ งดี โครงการเลยรับสมคั รเดก็ และเยาวชนท่ีสนใจเข้ามาใหม่ ทาให้เดก็ และ
เยาวชนกลมุ่ เปา้ หมายกระจายไปยงั หมู่ 10 และ หมู่ 2 แตห่ ลกั ๆ ยงั อยทู่ ี่หมู่ 5 กบั หมู่ 8

• ผลจากการดาเนินโครงการวิจัย “แนวทางและรูปแบบการสร้ างอาชีพให้แก่เด็กนอกระบบ”
ตาบลหนองอียอ อาเภอสนม จังหวัดสุรินทร์
1.ช่างตัดผม มีผู้เลือกอบรม 2 คน คือ นายวีรพล หมื่นราม และนายชนาพัทธ์ ศรีพิมพ์สอ เร่ิมอบรม

วันท่ี16 ตุลาคม - 22 ธันวาคม 2560 ณ วิทยาลยั สารพดั ช่างสุรินทร์ โดยมีการอบรมขนั้ พืน้ ฐาน 75ชั่วโมง การ
ฝึกอบรมหลกั สตู รสมยั นิยม 75 ชวั่ โมง รวม 150 ชว่ั โมง

ผ่านการอบรมตามหลกั สตู รทงั้ สองคน หลงั จากจบแล้วแล้วได้ทดลองให้บริการตดั ผมในบ้านของตนเอง
และเปิ ดร้ านที่บ้ านของตนเอง

2.ช่างเคร่ืองยนต์ จานวน 3 คน คือ นายวีรพล หมื่นราม นายเฉลมิ พล มากมลู และ นายตรีเนตร พรมมา
อบรมช่างยนต์หลกั สตู ร 6 เดือน อบรมระหว่างวนั ที่ 7 มกราคม – 7 มิถุนายน 2561 ณ ศนู ย์พฒั นาฝีมือแรงงาน
จงั หวดั สรุ ินทร์ อาเภอสงั ขะ จงั หวดั สรุ ินทร์ และฝึกงานท่ีสถานประกอบการ

สาเร็จการศกึ ษาทงั้ 2 คน ได้แก่ นายวีรพล หมื่นราม และนายเฉลิมพล มากมลู สว่ น
นายตรีเนตร พรมมา อบรมไมค่ รบตามหลกั สตู ร

3.ช่างไฟฟ้า จานวน 1 คน ได้แก่ นายพรสวรรค์ บญุ มาก อบรมชา่ งไฟฟา้ หลกั สตู ร 4 เดือน ระหว่างวนั ท่ี
7มกราคม – 7 มถิ นุ ายน2561 ณ ศนู ย์พฒั นาฝีมือแรงงานจงั หวดั สรุ ินทร์ และฝึกงายในสถานประกอบการ

ผ่านการอบรมตามหลักสูตร ผู้เข้าอบรมมีความรู้ความชานาญ ด้านไฟฟ้า และได้เข้าทางานกับ
ผ้ปู ระกอบการที่กรุงเทพฯ

4.ช่างเช่ือมอาร์คโลหะ จานวน 3 คน ได้แก่ 1.นายศกั ดธ์ิ าตรี ภมู ะลา 2.นายสิทธิกร ประทมุ แก้ว และ 3.
นายรุ่งนคร งดั โคกกรวด หลกั สตู ร 6 เดอื น รวมศกึ ษาดงู านและอบรมการเป็นผ้ปู ระกอบการ

ผ้เู ข้าอบรมมี ความรู้ความชานาญด้านการเชื่อมอาร์คโลหะ แตไ่ ม่ผ่านการอบรม สามารถใช้ ทักษะมา
ประกอบอาชีพและเข้าทางานในสถานประกอบการณ์ได้

5.พนักงานเทคโนโลยีสารสนเทศ จานวน 2 คน คือ 1.นายสปิ วิช พลู ทวี และ 2. นายจณิ วฒั น์ สืบเพง็
หลกั สตู ร 6 เดือน ผ้เู ข้าอบรมมีความรู้ในการใช้เครื่องมือสารสนเทศตา่ ง ๆ เช่นคอมพิวเตอร์ เครื่องพิมพ์ การซ่อม
และแก้ไขปัญหาคอมพิวเตอร์ แตไ่ มผ่ า่ นการฝึกงาน ซง่ึ ปัจจบุ นั มีทกั ษะพืน้ ฐานในการใช้คอมพิวเตอร์ และสามารถ
นาทกั ษะไปประกอบอาชีพได้

6.อาชีพเกษตร จานวนยืดหย่นุ อย่ทู ่ี 3 – 5 คน เน่ืองจากเข้าร่วมไม่ตลอดโครงการ ได้แก่ 1.นายสุรชยั

ด้วงโท ปลกู พืชผกั ในสวนของตนเองและแปลงรวมของเยาวชน 2.นายณฐั พล ชยั ฉลาด เลีย้ งกบในกระชงั แต่ ไม่

ตอ่ เนื่อง ตอนนีเ้ป็นทหารเกณฑ์ 3.นางสาวอาทิตยา จนั ทร์ช่ืน ปลกู พืชผกั กบั ครอบครัว 4.นางสาวสภุ าวดี สาแก้ว

ปลกู พืชผกั กบั ครอบครัว และ 5.นางสาวชโลธร กอ่ แก้ว ไปทางานตา่ งจงั หวดั

////////////////////////////

โครงการวิจัยแนวทางและรูปแบบการสร้างอาชีพให้แก่เด็กนอกระบบ ตาบลหนองอียอ อาเภอสนม

จังหวัดสุรินทร์

ทีมวิจัยประกอบด้วย 9.นายศริ ิศกั ดิ์ ยา่ งสขุ
10.นางสาวภานดิ า สรุ ะศกั ร
1.นายสมเกียรติ สาระ 11.นายจิรวฒั น์ การะเกต
2.นางชนนั ท์กานต์ ชนะทะเล 12.นางสาวพรพิมล ผอ่ งสีดา
3.นางสาวเทวี แสนกล้า 13.นางสาวสาวติ รี ประทมุ แก้ว
4.นางสาวจฬุ าลกั ษณ์ อินทร์แปน้ 14.นายจณิ วฒั น์ สืบเพง็
5.นางสาว พิมลพรรณ มน่ั ยืน 15.นายวีรพล หมื่นราม
6.นายวีรศกั ดิ์ แสวงสขุ
7.นางนนั ทนา แพงภงู า
8.นายสรุ ิยา ดวงศรี


Click to View FlipBook Version