The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

เพิ่มหัวเรื่อง

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ศรุตพร เชาวลิต34_10, 2024-01-30 22:26:06

ศกุนตลา

เพิ่มหัวเรื่อง

"ศกุนตลา" เป็นเรื่องราวที่แสนวิเศษและผสมผสานดี เยี่ยมของวรรณคดีไทยที่มีสถาปัตยกรรมคำ สั่งเป็น เอกลักษณ์ แม้ในยุคที่ผ่านมามากมายก็ยังคงมีผลงาน คล้ายคลึงได้ยังคงทำ ให้ "ศกุนตลา" ยังคงเป็นหนึ่งในผล งานที่คนไทยสร้างขึ้นมาอย่างเป็นความเป็นไทย เรื่องราวที่กล่าวถึงชีวิตของ ศกุนตลา นักขุนนางที่มีความเฉลียวฉลาด และมีเสน่ห์มหัศจรรย์ ผ่านการเสนอชีวิตของตัวละครนี้, เราได้พบกับ การมองมุมมองทางปรัชญาและสังคมที่น่าสนใจ ซึ่งนำ เสนอในรูปแบบของวรรณคดี ทำ ให้ผู้อ่านได้สัมผัสถึงวัฒนธรรม และความเป็นไทยที่เป็นเอกลักษณ์ของเรา การใช้ภาษาที่บสุทธิ์และลงตัว, จับใจผู้อ่านด้วยความ ลึกลับและความสนใจ ทำ ให้ "ศกุนตลา" เป็นสัญลักษณ์ที่ ยิ่งใหญ่ในวรรณคดีไทย. เราหวังว่าผู้อ่านจะได้รับ ประสบการณ์ที่ยากจะลืมจากการตามล่าผจญภัยของ ศกุนตลา ในโลกที่เต็มไปด้วยปริศนาและความสมเหตุสมผล คำ นำ จัดทำ โดย นางสาวศรุตพร เชาวลิต


สารบัญ เรื่อง หน้า คำ นำ ก สารบัญ บทนำ ผู้แต่ง ประวัติผู้แต่ง นางสกุลตลา เนื้อเรื่องโดยสังเขป บทที่ 2 เนื้อเรื่อง บทที่3 บทชมโฉม นางศกุนตลา บทที่ 4 สรุป เรื่องราวความรักที่”เกือบ”นก ความสำ คัญของวรรณคดีเรื่อง ศกุนตลา บรรณานุกรม ข 1 1 5 5 6 14 15 16 18


บทนำ ผู้แต่ง พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้ำ าเจ้าอยู่หัวได้ทรงพระราชนิพนธ์เป็นบทละครรำ เมื่อ พ.ศ.2455 โดยนำ เนื้อเรื่องมาจากรรรณดีอินเดีย ซึ่งกาลิทาสรัตนกวีของอินเคียป็นผู้ประพันธ์ขึ้น พระองค์ทรงมีกลวิธีการ ประพันธ์ที่มีบทพากษ์และบทเจรจาแทรกไ ว้ด้วย อันเป็นรูปแบบใหม่ที่แตกต่างไปจากบทละครรำ ของไทยใน อดีต "ศกุนตลา"...เป็นเรื่องแทรกอยู่ในมหากาพข์มหาการตะกล่าวถึงเรื่องราวความรักระหว่างศกุนตลาธิดา เลี้ยงของฤษีกัณวะเป็นผู้มีความงามบริสุทธิ์ผุธิ์ผุดผ่อง กับท้าวทุษยันต์กษัตริย์ผู้มีคุณธรรม แต่ความรักของคนทั้งสองต้องพบอุปสรรค เนื่องมาจากผลคำ สาปของฤยีทุรวาสการคำ นินเรื่องมีความ สนุกสนานชวนให้ติดตาม ทั้งยังมีโวหารที่ไพราะงคงามช่วยเพิ่มอรรถรสในการอ่านให้มีมากยิ่งขึ้น ประวัติผู้แต่ง พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาวชิรวุธฯ หรือ พระมงกุฎเกล้ำ เจ้าอยู่หัว เป็นพระมหากษัตริย์รัชกาล ที่ 6แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ ทรงมีพระราชอัจริยภาพหลายด้าน ทั้งด้านการเมืองการปกครอง การทหาร การศึกษา การสารารณสุข การต่างประเทศ และที่สำ คัญที่สุดคือนวรรณกรรมและอักยรศาสตร์ พระองค์ได้ ทรงพระราชนิพนธ์บทร้อยแก้วและร้อยกรองไว้นับพันเรื่อง อาทิเช่น หัวใจนักรบ,เห็นแกลูก,มัทนะพาธาและ อื่นๆอีกมากมาย อีกทั้งพระองค์ยังทรงละครเองอีกหลายเรื่อง จนกระทั่งทั่พ.ศ. 2524 องค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ UNESCO ได้ยกย่องพระเกียรติคุณขององค์ว่าทรงเป็นบุคคลสำ คัญของโลก 1


ผู้มีผลงานดีเด่นด้านวัฒนธรรม ในฐานะที่ทรงเป็นนักปราชญ์ นักประพันธ์ กวี และนักแต่งบทละครไว้เป็น จำ นวนมาก ด้วยความน่าสนใจที่ได้กล่าวไว้ข้างต้นทั้งหมด เว็บไซด์ของเราจึงขอนำ เสนอเรื่องราวของบทพระราช นิพนธ์และบทละครที่พระองค์ทรงพระราชนิพนธ์เอง หากทุกท่านพร้อมแล้ว ขอเชิญข้าสู่โลกแห่งการละครของพวกเราได้เลยค่ะ ความเป็นมา หากกล่าวถึงบทประพันธ์ "ศกุนตลา" คนไทยส่วนใหญ่กงจะรู้สึกคุ้นหูกับชื่อนี้ว่าเป็นบทประพันธ์ใน พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว แต่น้อยคนนักจะทราบประวัติที่ยาวนานของบทละครเรื่องนี้ แต่โดย แรกเริ่ม บทละครศกุนตลาแต่งขึ้นโดยกวีชาวอินเดีย นาม กาลิทาส ในระหว่าง ! ปีก่อนคริสตกาลถึงศตวรรษที่ 4 ด้วยภาษาสันสกฤต มีเนื้อเรื่องที่กินใจและคำ สอนที่น่าจดจำ ในการดำ รงชีวิต ละครเรื่องนี้จึงเป็นที่นิยม ชื่น ชอบและถูกนำ มาแสดงบ่อยครั้ง หลังจากนั้นอีกหนึ่งพันเจ็คร้อยปี บทละครเรื่องนี้จึงถูกแปลมาเป็น ภาษาอังกฤษ และบทละครศกุนตลาในรูปแบบภายาอังกฤยก็ได้แพร่กระจายไปทั่วทั่โลก ในประเทศเยอรมนี กวี เอก เกอเร์ (Gocthe) นำ มาดัดแปลงและแปลเป็นภายาเยอรมัน และนักประพันธ์ ฟรานซ์ ชูบิร์ต เป็นผู้แต่งดนตรี ประกอบการเล่าเรื่องในปี 1820ส่วนในประเทศไทย พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้ำ าเจ้าอยู่หัวได้ทรงแปลจาก ต้นฉบับภายาอังกฤยและตัดแปลงเป็นบทละครร้องภายาไทยในช่วงปีพ.ศ. 2453 (1910)”ศกุนตลา" จึงเปรียบ เสมือนตัวเชื่อมทางวัฒนธรรมที่รวมเอากวีเอกของโลกเข้าไ ว้ด้วยกัน และเพื่อเทิดพระเกียรติและน้อมระลึกถึง พระอัจฉริยภาพทางวรรณกรรมและศิลปศาสตร์ ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวในฐานะหนึ่งในนัก ประพันธ์เอกของโลก 2


ศกุนตลา เรื่องราวของนางในวรรณคดีนี้เริ่มจาก พระวิสวามิตรเกิดนึก อยากมีฤทธิ์มธิ์ากๆจึงสละราชสมบัติ ออกบำ เพ็ญตบะในป้าจนแก่ กล้ำ ายิ่ง ทำ ให้เหล่าเทวดาพากันเดือดร้อน ไปทั่วทั่พระอินทร์คิด แก้ไข ไดยให้นางฟ้าเมนกาลงมาใช้ความงามยั่วยั่ยวน เพื่อทำ ให้พระ ฤาษีตนนี้ไม่มีกะจิตกะใจจะบำ เพ็ญเพียร ทั้งสองจึงครองคู่กัน จน กระทั่งทั่มีธิดามาคนหนึ่ง พอดีกับตอนนั้นพระวิศวามิตรที่ผ่านพ้น ระยะข้าวใหม่ปลามัน เกิดได้คิด จึงบอกนางเมนกากลับสวรรค์ ส่วนพระองค์กี่ออกไปจักรวาล ทิ้งพระธิดาน้อยาอยู่ในป่าแต่เพียง ลำ พัง ดีที่ได้พวกนกกอยเลี้ยงดูเมื่อพระกัณวดาบสมาพบเข้า นางศกุนตลา พระวิศวามิตรเกิดนึกอยากมีฤทธิ์มธิ์ากๆจึงสละราชสมบัติ ออกบำ เพ็ญตบะในป่าจนแก่กล้ายิ่งทำ ให้เหล่าเทวดาพากันเดือค ร้อนไปทั่วทั่พระอินทร์คิดแก้ไข โดยให้นางฟ้าเมนกาลงมาใช้ความ งามยั่วยั่ยวน เพื่อทำ ให้พระฤาษีตนนี้ไม่มีกะจิตกะใจจะบำ เพ็ญเพียร ทั้งสองจึงครองคู่กัน จนกระทั่งทั่มีธิดามาคนหนึ่ง พอดีพระวิศวามิตร ที่ผ่านพ้นระยะข้าวใหม่ปลามัน เกิดได้คิด จึงบอกนางเมนกากลับ สารรค์ ส่วนพระองค์ก็ออกไปจักรวาล ทิ้งพระธิดาน้อยาอยู่ในป้าแต่ เพียงลำ พัง ดีที่ได้พวกนกคอยเลี้ยงดู เมื่อพระกัณวดาบสมาพบเข้า จึงให้นางนามว่า สกุนตลา ซึ่งแปลว่านางนกและนำ กลับไปเลี้ยงคู อย่างธิดาที่อาศรมของตน ต่อมานางเติบโตเป็นสาวแรกรุ่นที่งดงาม อย่างหาที่ติไม่ได้ ดังคำ บรรยายที่ว่า. 3


ดูผิวสินวลละอองอ่อน มะลิซ้อบดูคำ ไปหมดสิ้น สองเนตรงามกว่ามฤดินนาง นี้เป็นปิ่นโลกางามโอยฐ์ดังใบไม้อ่อน งามกรดังลายเลขา งามรูปเลอสรรขวัญฟ้ งาม ยิ่งบุปผาเบ่งบานแล้ววิถีชีวิตของนางได้มาถึงช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำ คัญ เมื่อได้พบ กับท้าวทุยยันต์ กษัตริย์จันทรวงศ์แห่งนครหัสดิน ซึ่งเสด็จประพาสปาเพื่อล่าสัตว์ แล้วบังเอิญตามกวางมาถึงบริเวณใกล้เคียง จึงแวะมายังอาศรม หมายพระทัยจะมา นมัสการพระกัณวดาบส แต่ในตอนนั้นพระกัณเวดาบสไม่อยู่เนื่องจากเดินทางไปบูชา พระเป็นเจ้าที่เทวสถานโสมเตียรถ์ เพื่อสะเดาะเคราะห์ พวกปีศาจมารร้ายได้ถือ โอกาสเข้ามาอาละวาดที่อาศรม รังควาญการบำ เพ็ญเพียรของเหล่าพราหมณ์ผู้ศิษย์ พระกัณเวดาบส ท้าวทุษยันต์เสด็จมาปราบปีศาจได้สำ เร็จ เมื่อท้าวทุษยันต์มี โอกาส อยู่ตามลำ พัง ทั้งสองได้รักกัน และเป็นของกันและกัน เมื่อท้าวทุยขันต์จำ เป็นต้อง เดินทางกลับนกรหัสดิน ก็ได้มอบแหวนวงหนึ่งแก่นางแล้วรีบเดินทางกลับบ้านเมือง เช้าวันหนึ่งพระฤายีทุรวาสผู้มีปากร้าย ได้มาเรียกนางที่หน้าประตู แต่นางไม่รู้ตัวว ยกำ ลังป่วยเป็นไข้ใจ จึงไม่ได้ออกไปต้อนรับ ทำ ให้พระฤาษีทุรวาสโกรธสาปให้นาง ถูกคนรักจำ ไม่ได้ ต่อมาพระฤาษีทุรวาสหายโม ไหแล้ว เพราะรู้ว่านางไม่ได้จนใจ แสดงอาการไม่เคารพกับตนจึงให้พรกำ กับแก่นางว่า หากคนรักของนางได้เห็นของที่ ให้ไว้เป็นที่ระลึกก็จะจำ นางได้ พระกัณดาบสได้ทราบเรื่องราวต่างๆของนางกับ ท้าว ทุษยันต์ จึงส่งนางไปให้ท้าวทุษยันต์จัดพิธีอภิเษก ในระหว่างทางที่ไปนางได้ทำ แหวนที่ท้าวทุษยันต์ประทานให้ตกหายไปในแม่น้ำ เมื่อไปถึงที่หมายท้วทุษยันต์ทรง จำ นางไม่ได้ จนกระทั่งทั่กุมกิลชาวประมงจับได้ปลาที่กลืนแหวนซึ่งนางศกุนตลาทำ หาย พอเห็นแหวนท้าวทุยขันต์ก็ได้สติจำ เรื่องราวต่างๆได้ จนกระทั่งทั่ท้าวทุษยันต์ ได้พบกับนางสกุนตลาอีกครั้ง หลังจากพลัดพรากจากกันไปเนิ่นนานด้วยความช่วย เหลือของพระเทพบิดรและพระเทพมารดร ดังนั้น ท้าทุษยันต์ทรงรับมเหสีและโอรส กลับสู่นครหัสดินด้วยความปิติยินดี 4


เนื้อเรื่องโดยสังเขป เรื่อง "สกุนตลา" นี้ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้า อยู่หัวได้ทรงพระราชนิพนธ์เป็นบทละครรำ เมื่อ พ.ศ.245 โดยนำ เนื้อเรื่องมาจากวรรณคดีอินเดีย ซึ่งกาลิทาสรัตนกวี ของอินเดียเป็นผู้ประพันธ์ขึ้น พระองค์ทรงมีกลวิธีการ ประพันธ์ที่มีบทพากษ์และบทเจรจาแทรกไว้ด้วย อันเป็นรูป แบบใหม่ที่แตกต่างไปจากบทละครรำ ของไทยในอดีต"ศกุน ตลา" ..เป็นเรื่องแทรกอยู่ในมหากาพย์มหาภารตะ กล่าวถึง เรื่องราวความรักระหว่างสกุนตลาธิดาเลี้ยงของฤษีกัณวะ เป็นผู้มีความงามบริสุทธิ์ผุ ธิ์ ผุ ดผ่อง กับท้าวทุษยันตักษัตริย์ผู้มี คุณธรรม แต่ความรักของคนทั้งสองต้องพบอุปสรรค เนื่อง มาจากผลคำ สาปของฤษีทุสวาส การดำ เนินเรื่องมีความ สนุกสนานชวนให้ติดตาม ทั้งยังมีโวหารที่ไพเราะงคงาม ช่วยเพิ่มอรรถรสในการอ่านให้มีมากยิ่งขึ้นลักษณะการแต่ง บทละครพูด 5


บทที่ 2 เนื้อเรื่อง นางในวรรณดดี พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวศกุนตลา: มารดาแห่งภารต วรรษในบรรด1 "นางในวรรณคดีพระราชนิพนธ์รัชกาลที่ ๖" เชื่อแน่ว่า "ชื่อ" ของบางศกุนตลาน่าจะเป็นที่คุ้นหู ของคนไ ทยมากที่สุดชื่อหนึ่ง นอกจากนี้หลายคนคงพอจะรู้จักเรื่องราวของบางบ้างแล้วว่าสกุนตลาเป็นธิดาของ พระมหาฤๅษีวิศวามิตรกับนางอัปสรเมนกาซึ่งถูกพระอินทร์ส่งมาทำ ลายดบะของพระฤายีนั่นเอง ด้วยเหตุนี้ หลังจากที่มารดากลอดนางออกมาจึงได้ทิ้งนางไว้โดยมีฝูงนกคอยดูแล เป็นที่มาของชื่อ "สกุนตลา" หมายถึง นาง นกเลี้ยง ต่อมาเมื่อพระกัณวะฤๅษีมาพบข้าจึงได้นำ มาเลี้ยงดูในฐานะธิดาบุญธรรม นางสกุนตลาเจริญวัยขึ้นก็มี รูปโฉมงคงามตามที่บทพระราชนิพนธ์พรรณนาไว้ว่า "ดูผิวสินวลละอองอ่อน มะลิซ้อนดูคำ ไปหมดสิ้น สองเนตรงามกว่ามฤคิน นางนี้เปนปืนโลกา งามโอยฐ์คังใบไม้อ่อน งามกรดังลายเลขา งามรูปเลอสรรขวัญฟ้า งามยิ่งบุปผาเบ่งบาน ควรฤๅมานุ่งคากรอง ควรแต่เครื่องทองไพศาล ควรแต่เปนยอดนงคราญ ควรคู่ผู้ผ่านแผ่นไผท" 6


ความงามล้ำ เลินี้ทำ ให้นางได้พบรักกับ "ท้าวทุษยันต์" กษัตริย์แห่งหัสติ นาปุระซึ่งเสด็จตามกวางดำ จนหลงทางมายังอาศรมของพระกัณาะฤๅษี ทั้ง สองมีสัมพันธ์รักอย่างลึกซึ้งทางใจและกาย ห้าวทุยยันต์จึงมอบธำ มรงค์ (แหวน) ให้นางเป็นเครื่องแทนความรักก่อนเสด็จกลับบ้านเมืองไปเตรียมการ อภิเษกนางเป็นมเหสี ทว่าระหว่างที่ท้วทุยยันต์จากไป นางสกุนตลาก็เป็นทุกข์มากกระทั่งทั่จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวจนมิได้ต้อนรับ "พระฤๅษีทุรวาล" ผู้มาเยือนอาศรมของพระกัณวะ พระฤๅษีทุรวาสเจ้โทสะจึง สาปนางให้สวามีจดจำ นางไม่ได้ภายหลังเมื่อคลายโกรธก็กล่าวแก้ให้ห้าวทุษ ขันต์จำ นางได้เองเมื่อได้เห็นของที่มอบให้นางไว้เป็นที่ระลึก ต่อมาฤๅษีกัณวะได้ส่งตัวนางสกุนตลาซึ่งกำ ลังตั้งครรก์ให้ไปสู่ราชสำ นักของ ท้าวทุษยันต์ แต่ในระหว่างทางได้ทำ ธำ มรงค์ของท้าวทุษยันต์หล่นลงในแม่น้ำ ปลาใหญ่ตัวหนึ่งกลืนแหวนนั้นไว้ในท้อง ส่งผลให้ท้าวทุษยันต์จำ นางไม่ได้มื่อ ได้พบกันกลางท้องพระ โรงเมืองหัสตินาปุระ นางศกุนตลาจึงน้อยใจถึงแก่ บริภาษตัดอสวามีก่อนตั้งใจจะจากไป แต่โสมราตมหาดเล็กของท้วทุษยันตัก ลับทูลเดือนไว้ว่าให้รอดูลักษณะของบุตรในครรภ์นางศกุนตลาเมื่อคลอดออก มาก่อนว่าจะมีลักษณะของมหาบุรุษหรือ ไม่ ทุษขันต์จึงมอบหน้าที่ให้โสมราต จัดการเมื่อเห็นนางร่ำ ไห้เสียใจจึงเกิดความสงสัยและตัดสินใจตั้งสัตยาธิยฐาน ให้มีลางปรากฎหากสิ่งที่นางพูดเป็นความสัตย์ ปรากฎว่ามีนางอัปสรเหาะลง มาอุ้มนางสกุนตลาหายไป 7


หลังจากที่นางสกุนตลาไปแล้วชาวประมงซึ่งจับปลาที่กลืนธำ มงรงค์ของ นางสกุนตลา ได้ก็ถูกนำ ตัวมาเฝ้าท้าวทุษยันต์ เมื่อท้าวทุยยันด์ได้เห็น แหวนจากในท้องปลาความทรงจำ ของพระองค์ต่อนางอันเป็นที่รักจึงได้ กลับคืนมาทำ ให้เสียพระทัยมาก สุดท้ายพระอินทร์ช่วยเหลือให้ทั้งสองได้ กลับมาพบกันอีกครั้งหลังจากให้ท้าวทุษยันต์ไปปราบอสูรกาลเนมี นาง ศกุนตลาจึงได้อภิเษกเป็นมเหสีแห่งหัสตินาปุระ โดยสมบูรณ์ ส่วนโอรส ของนาง ได้แก่ ท้าวภรต ผู้เป็นบรรพบุรุษของกษัตริย์ในตำ นานอินเดียทั้ง หลาย รวมถึงกษัตริย์ปาณฑพและเการพผู้ก่อสงครามมหาภารตยุทธ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้ำ าเจ้าอยู่หัวทรงมีพระบรมราชาธิบายที่มา ของบทพระราชนิพนธ์เรื่องนี้ว่า"เรื่องสกุนตลานี้ ต้นเรื่องอยุ่ในมหาการต เปนเรื่องเกร็ดอันหนึ่ง (หรือเรียกตามภาษาสันสกฤตว่า "อุปาขุยาณ" มี นามปรากฏว่า "สกุนฺตโลปาขุยาณ"...ต่อมาภายหลังยุคมหาภารต มี จินตกวีชื่อกาลิทาส ได้เก็บกวามมานิพนธ์ขึ้นเป็นเรื่องลครหนิดที่เรียกว่า "นาฎะกะ" คือเปนคำ พากข์คำ เจรจาคล้ำ ายๆ โขนของเรา" แม้จะทรงนำ ตัวเรื่องนิทานมาจากบทละกรเรื่องอภิชญาณศากุนตลัม (Abhji anaSakuntalam) ของกาลิทาสฉบับแปลภาษาอังกฤษของเซอร์วิลเลียม โจนส์ เทียบเคียงกับฉบับของเซอร์ โมบิแยร์ วิลเลียมส์ ทว่าพระองค์กี่ รับสั่งสั่อย่างชัดเจนว่า "การแต่งบทลครเรื่องสกุนตลาเปนภาษาไทยนี้ ข้าพเจ้าตั้งรูปตามใจข้พเจ้เอง คือให้เหมาะแก่การจะเล่นเป็นละครอย่าง ไทยได้ ไม่ได้ดำ เนินตามแบบนาฏกะฉบับเดิม แต่หาได้คิดเพิ่มเติมข้อกวา มอันใดลงไป โดยอำ เภอใจนอกเรื่องไม่" ยิ่งไปว่านั้นยังทรงให้รายละเอียด อีกด้วยว่า "สกุนตลาเปนนาฏะกะซึ่งชาวยุโรปตื่นเต้นกันมากกว่า ทุกเรื่อง" อันน่าจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทรงพระราชนิพนธ์ "เปลแต่ง" บท ละครสันสกฤตเรื่องนี้เป็นบทละครไทย 8


ทั้งนี้ความน่าสนใจของตัวละครนางสกุนตลาในบทพระราชนิพนธ์ประการหนึ่งมาจาก การที่นางเป็น "ต้นวงศ์"ของกษัตริย์ทั้งปวง กระทั่งทั่การเรียกชื่อประเทศอินเดียว่า "เดน ภารตะ-ภารตวรรษ-ภารตประเทศ" ก็สืบเนื่องมาแต่นามของ "ท้าวกรต" โอรสของนาง สกุนตลากับห้าวทุษยันต์นี่เองแรกสุดเมื่อพิจารณาจากชาติกำ เนิด เห็นชัดว่านางศกุนตลา มีกำ เนิดที่สูงส่ง กล่าวคือ เป็นเชื้อสายของบุคคลผู้เป็นทั้งกษัตริย์และมหาฤาษีอย่าง "พระวิศวามิตร" ซึ่งโดยตัวของพระวิศวามิตรผู้นี้กี่เรียได้ว่ายิ่งใหญ่และแกร่งกล้ำ จน สามารถข้ามจากฐานะ "ราชฤๅษี" (ฤๅษีวรรณะกษัตริย์) สู่ "พรหมฤๅษี" (ฤๅยีวรรณะ พราหมณ์ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของฤๅษีทั้งปวง) เทียบเท่ากับพระมหาฤๅษีวสิษฐ์ โอรสของ พระพรหมผู้เป็นหัวหน้ของฤๅษีทั้งปวงเลยทีเดียว ส่วนมารดาของนางก็ได้แก่ "นางอัปสร เมนกา" ผู้ทรงทิพยภาวะและความงามเป็นเลิศ ใช่แต่จะมีกำ เนิดสูงส่งและมีความงามล้ำ ลิกที่กล่าวถึงไปแล้วเท่านั้น ในค้าน อุปนิสัยนางศกุนตลาก็ถือว่าเป็น "สตรีผู้เด็ดขาด" รวมถึงฉลาดในการเจรจาซึ่งเป็น ลักษณะสำ คัญของนางกษัตริย์ กล่าวคือ เมื่อท้าวทุยยันต์ไม่มีที่ท่าว่าจะระลึกได้ว่านางเป็น ใคร นางกี่กล้ำ บริภายพระองค์กลางท้องพระโรงและตัดสินใจ จากไปโดยไม่ร่ำ ไรขอร้อง "ทรงภพ ผู้เปนโปรพฦๅสาย พระองค์เองไม่มียางอาย พูดง่ายย้อนยอกกลอกคำ มาหลอกชมดมเล่นเสียเปล่า ทิ้งข้าคอยสร้อยเศร้าทั้งเช้าค่ำ เด็ดดอกไม้ไปดมชมจบช้ำ ไม่ต้องจดจำ นำ พา เหมือนผู้ร้ายย่องเบาเข้าลักทรัพย์ กลัวเขาจับวิ่งปร๋อไม่รอหน้า จงทรงพระเจริญเถิดราชา ข้าขอลาแต่บัดนี้ไป" 9


ยิ่งไปกว่านั้น สืบเนื่องจากเหตุการณ์นี้ในบทละครเรื่องสกุนตลายังได้เน้นย้ำ ภาพลักษณ์ความเป็น "สตรีผู้บริสุทธิ์ผุธิ์ผุดผ่อง" ของนางด้วยเหตุการณ์ที่ (สม ราตมหาดเล็กของท้าวทุษขันต์ตั้งสัตยาธิยฐานให้มีสิ่งบ่งบอกว่านางศกุนตลา มีได้ทูลความเท็จ ก็ปรากฎว่ามีนางอัปสรมารับนางหายไปอยู่กับพระกัศยป เทพบิดรและพระนางอทิติเทพมารตร ความสำ คัญของบทพระราชนิพนธ์รื่องศกุนตลานอกจากจะเป็นเพราะ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงนำ ตัวเรื่องมาจากบทละครของ กาลิทาส กวีเอกของอินเดียแล้ว บทพระราชนิพนธ์เรื่องนี้ยังเป็นวรรณดดี อินเดียเรื่องแรกที่พระองค์ทรงนำ มาเผขแพร่ในวงรรณดีไทย ประกอบด้วย ภาษาวรรณศิลป์อันงดงามไพเราะผสานกับเนื้อเรื่องที่สนุกสนาน ทั้งยังทรง คัดแปลงวรรณกดีนิทานเรื่องนี้เป็นสำ นวนต่างๆ อีกหลายสำ นวน ศกุนตลา เรื่องราวของนางในวรรณคดีนี้เริ่มจาก พระวิศวามิตรเกิด นึกอยากมีฤทธิ์มธิ์ากๆจึงสละราชสมบัติ ออกบำ เพ็ญตบะในป่าจนแก่กล้ำ ยิ่ง ทำ ให้เหล่าเทวดาพากันเดือดร้อนไปทั่วทั่พระอินทร์คิดแก้ไข ไดยให้นางฟ้า มนกาลงมาใช้ความงามยั่วยั่ยวน เพื่อทำ ให้พระฤาษีตนนี้ไม่มีกะจิดกะใจจะ บำ พ็ญเพียรทั้งสองจึงครองกัน จนกระทั่งทั่มีธิดามาคนหนึ่งพอดีกับตอนนั้น พระวิศวามิตรที่ผ่านพ้นระยะข้าวใหม่ปลามันเกิดได้คิด 10


จึงบอกนางเมนกากลับสวรรด์......ส่วนพระองค์ก็ออกไปจักรวาลทิ้ง พระธิดาน้อยๆอยู่ในป้าแต่เพียงลำ พัง ดีที่ได้พวกนกคอยเลี้ขงดูมื่อ พระกัณวคาบสมาพบเช้ จึงให้นางนามว่า ศกุลตลาชื่งแปลว่ นางนก และนำ กลับไปเลี้ยงดูอย่างธิดาที่อาศรมของตนต่อมานางเดิบ โดเป็น สาวแรกรุ่นที่งคงามอย่างหาที่ติไม่ได้ ดังคำ บรรยายที่ว่า... ดูผิวสินวลละอองอ่อน มะลิซ้อนดูคำ ไปหมดสิ้น สองเนตรงามกว่ามฤคิน นางนี้เป็นปิ่นโลกา งามโอยฐ์ดังใบไม้อ่อน งามกรดังลายเลขา งามรูปเลอสรรขวัญฟ้า งามยิ่งบุปผาเบ่งบาน แล้ววิถีชีวิตของนางได้มาถึงช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำ คัญ เมื่อได้ พบกับท้าวทุษขันต์กษัตริย์จันทรวงศ์ แห่ง นครหัสดิน ซึ่งเสด็จประพาสป้าเพื่อล่าสัตว์ แล้วบังเอิญตามกวางมา ถึงบริเวณใกล้เคียง จึงแวะมาขังอาศรม หมาย พระทัยจะมานมัสการพระกัณวดาบสแด่ในตอนนั้นพระกัณเวคาบสไม่ อยู่ เนื่องจากเดินทางไปบูชาพระเป็นเจ้าที่ เทวสถานโสมเตียรณ์เพื่อสะเคาะเคราะห์ให้แก่นาง พวกปีศาจมารร้าย ได้ถือโอกาสเข้ามาอาละวาคที่อาศรม 11


รังควาญการบำ เพ็ญเพียรของเหล่าพราหมณ์ผู้สิษข์ พระกัณเวคาบส ท้วทุษยันต์เสด็จมาปราบปีศาจได้สำ เร็จเมื่อท้าวทุยขันต์มีโอกาสอยู่ ตามลำ พัง ทั้งสองได้เป็นของกันและกันหลังจากทุกอย่างเป็นไปตาม จุดมุ่งหมายแล้วท้วทุษขันต์ได้มอบแหวนวงหนึ่งแก่นางแล้รีบเดินทาง กลับบ้านเมือง เช้าวันหนึ่งพระฤาษีทุรวาสผู้มีปากร้ายได้มาเรียกนางที่ หน้ำ าประตูแต่นางไม่รู้ตัวด้วยกำ ลังป่วยเป็น ไข้ใจ จึงไม่ได้ออกได้ ต้อนรับ ทำ ให้พระฤาษีทุรวาสโกรธสาปให้นางถูกคนรักจำ ไม่ได้ ต่อมา พระฤาษีทุรวาสหายโมโหแล้ว เพราะรู้ว่านางไม่ได้จนใจแสดงอาการไม่ เคารพกับตนจึงให้พรกำ กับแก่นางว่ หากคนรักของนางได้เห็นของที่ ให้ใ ว้เป็นที่ระลึกก็จะจำ นางได้ พระกัณดาบสได้ทราบเรื่องราวต่างๆ ของนางกับท้าวทุยขันต์ จึงส่งนางไปให้ท้าวทุษขันต์จัดพิธีอภิเษก ใน ระหว่างทางที่ไปนางได้ทำ แหวนที่ท้าวทุยขันต์ประทานให้ตกหายไปใน แม่น้ำ เกุมภิลชาวประมงจับได้ปลาที่กลืนแหวนนั้นไปจึงนำ ไปถวาย เมื่อท้วทุษขันต์เห็นก็ได้สติจำ เรื่องราวต่างๆ ได้ 12


สุดท้าย ท้าวทุยขันต์ก็ได้พบกับนางสกุนตลาอีกครั้ง หลังจาก พลัดพรากจากกันไปเนิ่นนานด้วยความช่วยเหลือของพระเทพบิดร และพระเทพมารดร แล้วทั้งสองก็อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข(ตอนที่ นางไปหาท้าวทุยขันต์นางทรงครรภ์แก่ นางได้กำ เนิดพระไอรสทรง พระนามว่พระกรต) เพลงศกุนตลา ผู้แต่งคำ ร้องได้รับแรงบันดาลใจ มาจากวรรณคดีเรื่อง ศกุนตลา พระราชนิพนธ์ ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นตอนที่ท้าวทุษยันต์ชมโฉมนางสกุนตลา 13


บทที่ 3 บทชมโฉม นางศกุนตลา นี่ฤาบุตรีพระดาบส งามหมดหาใครจะเปรียบได้ อนิจจาบิดาท่านแสร้งใช้ มารดต้นไม้พรวนดิน ดูผิวสินวลละอองอ่อน มะลิซ้อนดูคำ ไปหมดสิ้น สองเนตรงามกว่ามฤคิน นางนี้เป็นปิ่นโลกา งามโอษฐ์คังใบไม้อ่อน งามกรดังลายเลขา งามรูปเลอสรรขวัญฟ้า งามยิ่งบุปผาเบ่งบาน ควรฤๅมานุ่งคากรอง ควรแต่เครื่องทองไพศาล ควรแต่เป็นยอดนงคราญ คู่ผู้ผ่านแผ่นไผท 14


บทที่ 4 สรุป เรื่องราวความรักที่ 'เกือบ' นก หลังจากที่ได้เจอกับท้วทุษขันด์ นางสกุนตลาที่อยู่ในป่ามาคลอดเพิ่ง เจอชายหนุ่มมากี้ยวพาราสือย่างนี้ก็เขินเป็นธรรมดา แต่เพราะตนเป็น หญิงสาวและเป็นลูกของพระฤาษีไม่อยากแสดงตนออกไปเกินงาม ในขณะ ที่ท้วทุยขันต์นั้นตกหลุมรักนางศกุนตลาตั้งแต่แรกเห็นเลย ะชมโฉมนาง ว่างคงามเกินกว่าจะมาอยู่ในป่า คู่ควร กับการเป็นนางเคียงกาขของตนด่งหาก แต่ครั้งแรกที่เจอกันนั้นยังไม่ใช่ จังหวะที่ถูกต้องนักท้าวทุยขันต์จึงกลับไปก่อนซึ่งฝ่าขนางศกุนตลาที่ก็มีใจ ให้มาตั้งแต่ต้นก็เฝ้าคิดถึงจนพี่เลี้ยงร้อนใจเมื่อไชดชะตาของคนที่คู่ กันแล้วไม่แคล้วกันทำ ให้ได้กลับมาใกล้ชิดอีกครั้ง พี่เลี้ยงทั้งสองเป็นคน อาสาไปสืบความให้แน่ชัดว่าท้าวทุยขันต์คิดยังไงกับนางสกุนตลา ปรากฏ ว่าสองคนใจตรงกันและ ได้ใช้วลาอยู่ด้วยกันแต่ความโชคร้ายก็ยังไม่จบสิ้น เป็นอีกครั้งที่ต้องแยกกันเพราะครั้งนี้ท้าวทุศขันด์มาล่าสัตว์ แต่คราวหน้า พระองค์จะส่งคณะมารับนางเข้าไปแต่งตั้งเป็นมเหสีอย่างสมเกียรติ ไโดย ให้แหวนแทนใจเอาไว้ว่าจะกลับมารับตามสัญญาแน่นอนปสรรคในความ รักของนางสกุนตลากับท้วทุษขันต์เพิ่งเริ่มต้นเท่านั้นเองค่ะ หลังจากท้วทุย ยันต์กลับไปยังกรุงหัสดินาปุระแล้ว ฝ้าขนางศกุนตลาก็รอกอยอย่างมีความ หวังแต่เพราะนี่เหมือนเป็นความรักครั้งแรกพี่หวานก็พอจะเข้าใจอาการที่ นางกินไม่ได้นอนไม่หลับจนตรอมใจ ซึ่งทั้หมดนำ ไปสู่เหตุการณ์เลวร้าย เมื่อฤายีทุรวาสผู้มีจาศักดิ์สิดิ์สิทธิ์แธิ์ละยังเป็นฤาษีที่มอิทธิฤทธิ์ผ่ธิ์ผ่านมาที่อาศรม เพื่อเยี่ยมฤาษีกัณวะ แต่เรียกเท่าไหร่นางสกุนตลาก็ไม่ได้ยิน ก็เลขโมโก และสาปให้คนใดก็ตามที่นางศกุนตลาคิดถึงอยู่นั้นเป็นฝ่าขลืมนางจนหมด สิ้น ไม่ว่าใครทักเตือนอะไรก็ขอให้จำ ไม่ได้ พี่ลี้ยงทั้งสองที่ได้ยินคำ สาป แช่งก็พากันตกใจเข้าไปขอไทยขอโพยต่อฤาษีทุรวาส 15


อธิบายให้ฟังว่านางศกุนตลานั้นไม่ได้มีเจตนาที่จะเพิกเฉย แต่เพราะนางป่วยใจจากพิษรักจึงไม่รู้ว่าฤายืทุรวา สเดินทางมาถึงแล้ว ฝ่าขฤาษีทุรวาสได้ยินดังนั้นก็เข้าใจแต่คำ พูดที่ลั่นลั่วาจาไปแล้วยกเลิกไม่ได้ จึงกล่าว ต่อว่าแต่ถ้าคนๆ นั้นได้เห็นแหวนซึ่งเป็นของแทนใจจึงจะสามารถจำ ได้ หลังจากพระฤาษีกัณวะกลับมาทราบเรื่องราวทั้งหมดก็ตัดสินใจส่งนางศกุนตลากลับไปหาท้าวทุษขันต์ ที่กรุงหัสดินาปุระ ความโชคร้ายยังไม่สิ้นสุดพราะนางทำ แหวนหล่นในน้ำ ทำ ให้ไม่มีหลักฐานไปแสดงตัวและ ท้าวทุษขันต์ก็จำ นางไม่ได้ตามคำ สาปของฤาษีทุรวาส ทั้งขับไล่นางสกุนตลาออกไปจากเมืองและ ไม่ไขดี จน นางช้ำ ใจขอมกลับออกไปทั้งที่ตอนนั้นนางกำ ลังตั้งกรรภ์อยู่ด้วย ต่อมามีชาวประมงที่จับปลาได้หลังจากผ่า ท้องปลาเจอแหวนจึงนำ กลับมาถวายต่อท้าวทุษขันต์ เมื่อท้าวทุษขันต์ไ พระอินทร์จึงเข้ามาช่วยเหลือโดย การส่งมาตุลีลงไปรับท้าวทุษขันต์ให้มาปราบอสูรจนสำ เร็จ และผลงานครั้งนั้นทำ ให้พระกศปพึงพอใจมากจะ ตกรางวัลให้เป็นสตรีนางหนึ่งซึ่งก็คือนางสกุนตลาที่กลับมาพบท้วทุยขันต์พร้อมโอรสหนึ่งองค์ชื่อว่าพระกรต ซึ่งจะโยงเข้าสู่เรื่องราวมหาภารตะเป็นลำ ดับต่อไป ความสำ คัญของวรรณคดีเรื่อง ศกุนตลา จากที่เคยศึกษามาพี่หวานคิดว่เรื่องนางศกุนตลา เป็นเหมือนจุดกำ เนิด เป็นการปูเรื่องเริ่มต้นทำ ให้ เข้าใจลำ ดับวงศาคณาญาติของตัวละครในเรื่องมหาภารตะ ได้ ส่วนข้อคิดจากเรื่องนี้ก็เป็นวรรณดดีไทยอีก เรื่องที่ถ่ายทอดให้เห็น 'พิษรัก' และการขีดมั่นมั่ในรักจนนำ มาซึ่งความเดือนร้อนต่างๆ เรื่องสกุนตลาเป็นผล งานพระราชนิพนธ์ที่รัชกาลที่ 6 คัดแปลงมาจากเค้าเรื่องเดิม ในลักษณะของบทละครที่จะมีการแบ่งองก์ ต่างๆ ในการเล่าเรื่องซึ่งพี่หวานคิดว่าผลงานของพระองค์ท่านล่วนมีเสน่ห์ในการเล่าให้เห็นภาพจริงค่ะ อย่าง ที่น้องๆ อ่านไปข้างต้นจะเห็นว่านางศกุนตลานั้นตกหลุมรักท้าทุษขันต์จนไม่เป็นอันทำ อะ ไร ใครมาเรียกก็ ไม่ได้ยิน จนทำ ให้ฤายีทุก 16


รวาสโมโห ก็เหมือนกับชีวิตคนเรา การมีความรักเป็นแรงผลักดัน เป็นเรื่องที่ดีค่ะ แต่ถ้าเกิดเราปล่อยให้ความรักอย่างไม่พอดีมานำ ทาง ชีวิต ความรักนั้นก็จะพังชีวิตเราได้เช่นกัน ดังเหตุการณ์ในเรื่องที่ นางศกุนตลาเป็นลูกที่ฤาษีเก็บมาเลี้ยงยิ่งรู้ดีว่าควรปฏิบัติตัว ปรนนิบัติต่อฤาษีอย่างไร เป็นไปไม่ได้ที่นางจะลืมข้อปฏิบัติตนในข้อ นี้ ไปเพราะนางได้รับการขอมรับว่าเป็นลูกที่ดีและ ไม่เคยบกพร้อง ในหน้าที่มาโดยตลอด แต่เมื่อเริ่มรู้สึกตกอยู่ในห้วงความรักต่อท้าว ทุษขันต์กลับทำ ให้ลืมหน้าที่ของตนไป นั่นนั่จึงเป็นอีกข้อกิดสำ คัญที่ วรรณคดีเรื่องนี้กำ ลังจะสอนให้เรารู้ว่า การมีความรักอย่างพอดี ไม่ มากไม่น้อยเกินไปนั้นจะเป็นผลดีต่อตัวเราที่สุด 17


18 บรรณานุกรม มงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว, พระบาทสมเด็จพระ. (2521). ศกุนตลา. สืบค้น 15 มีนาคม 2521, จาก https://kingchulalongkorn.car.chula.ac.th/th/article/sakultara อุทัย ไชยานนท์./(2559)./ศกุนตลา/(ม.ป.ป.)/กรุงเทพมหานคร:/ สำ นัก พิมพ์แสงดาว. นายอินทร์(นามแฝง)./(2567)./ศกุลตลา/(ม.ป.ป.)/กรุงเทพมหานคร:/ ห้อง สมุดดิจิทัลวชิรฯ. ประเทือง ทินรัตน์./(2526)./ศกุนตลา/(ม.ป.ป.)/กรุงเทพมหานคร:/ ปริญญา อักษรศาสตร์ ภาควิชาตะวันออก จุฬาลงกรณ์หาวิทยาลัย. ชลลดา ชบางบอน. (2542). ศกุลตลา. สืบค้น 12 กรกฎาคม 2542, จาก https://www.naiin.com/product/detail/507687 นิยะดา สาริกภูมิ. (2515). ศกุนตลา. สืบค้น 16 ธันวาคม 2515, จาก https://www.dek-d.com/writer/47782/


18 ผู้ตรวจอักษร น.ส.ณัฐสินี คงวารี ม.6/6 เลขที่ 38 นายณัฐพนธ์ ตั้งภูมิจิต ม.6/6 เลขที่ 4 นายกิตติกร นพกิจ ม.6/6 เลขที่ 5


Click to View FlipBook Version