The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

การเขียนบทภาพยนตร์

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by jaja23544, 2022-03-13 18:20:33

การเขียนบทภาพยนตร์

การเขียนบทภาพยนตร์

การเขยี นบทภาพยนตร์ (Screen write)

นฏั ฐินี ขาจติ ร กล่มุ 23 รหสั นกั ศึกษา 116320801063-2

รายงานนเี้ ป็ นส่วนหน่ึงของการศึกษาวชิ าค้นคว้าและการเขียนรายงานเชิงวชิ าการ
ภาควชิ าเทคนิคการถ่ายภาพและภาพยนตร์ คณะส่ือสารมวลชน
มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลธัญบุรี
ภาคเรียนท่2ี ปี การศึกษา 2564



การเขียนบทภาพยนตร์ (Screen write)

นัฏฐินี ขาจติ ร กลุ่ม23 รหัสนกั ศึกษา 116320801063-2

รายงานนเี้ ป็ นส่วนหน่ึงของการศึกษาวชิ าค้นคว้าและการเขยี นรายงานเชิงวชิ าการ
ภาควิชาเทคนิคการถ่ายภาพและภาพยนตร์ คณะสื่อสารมวลชน
มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลธัญบุรี
ภาคเรียนที2่ ปี การศึกษา 2564



คานา

รายงานฉบบั น้ีจาทาข้ึนเพื่อปฏิบตั ิการเขียนรายงานการคน้ ควา้ ท่ีถูกตอ้ งอยา่ งเป็นระบบ อนั
เป็นส่วนหน่ึงของการศึกษารายวิชา 01-210-017 การคน้ ควา้ และการเขียนรายงานเชิงวิชาการ ซ่ึงจะ
นาไปใชใ้ นการทารายงานคน้ ควา้ สาหรับรายวชิ าอ่ืนต่อไปไดอ้ ีกต่อไป การท่ีผจู้ ดั ทาเลือกเรื่อง “การ
เขียนบทภาพยนตร์” เพราะตอ้ งการรู้ความหมายและความสาคญั ของการเขียนบทภาพยนตร์ และยงั
สามารถนาความรู้ที่ไดไ้ ปใชใ้ หเ้ กิดประโยชนแ์ ก่ตนเองและสงั คมอีกดว้ ย ดงั น้นั จึงมีความจาเป็น
อยา่ งมากท่ีจะตอ้ งนาเสนอความรู้ความเขา้ ใจเกี่ยวกบั การเขียนบทภาพยนตร์

รายงานเล่มน้ีกลา่ วถึงเน้ือหาท่ีเกี่ยวกบั การเขียนบทภาพยนตร์ องคป์ ระกอบของการเขียนบท
ภาพยนตร์ และปัจจยั สาคญั ในโครงสร้างบท เหมาะสาหรับผทู้ ี่ตอ้ งการเรียนรู้และทาความเขา้ ใจ
เก่ียวกบั การสร้างบทหรือการเขยี นบทภาพยนตร์อยา่ งถูกตอ้ งและรู้หลกั การ

ขอขอบคุณผชู้ ่วยศาสตราจารย์ ดร.พนิดา สมประกอบ ท่ีกรุณาใหค้ วามรู้และคาแนะนามา
โดยตลอด และขอขอบคุณเจา้ ของเวบ็ ไซตท์ ี่ให้ความสะดวกในการคน้ หาขอ้ มูล ที่ผเู้ ขียนใชอ้ า้ งอิง
ทุกทา่ นหากมีขอ้ บกพร่องประการใด ผเู้ ขียนขอนอ้ มรับไวเ้ พือ่ ปรับปรุงต่อ

นฏั ฐินี ขาจิตร
7 มีนาคม 2565

สารบัญ ข

คานา หนา้
สารบญั ภาพประกอบ ก
บทที่ ง

1 บทนา 1
1.1 ความหมายของการเขียนบทภาพยนตร์ 1
1.2 ความสาคญั ของการเขียนบทภาพยนตร์ 1
1.3 วธิ ีการเขยี นบทภาพยนตร์ 2
1.3.1 ทาความเขา้ ใจวา่ บทภาพยนตร์คืออะไร 2
1.3.2 อา่ นบทของบรดาภาพยนตร์เร่ืองโปรดของคณุ 3
1.3.3 พฒั นาความคิดใหอ้ อกมาเป็นรูปเป็นร่าง 3
1.3.4 ข้นึ โครงเรื่อง 4
1.3.5 เขยี นเรื่องโดยแบง่ ออกเป็นสามองค์ 5
1.3.6 เพม่ิ เสน้ เรื่องรอง 6
1.3.7 เร่ิมเขียนฉากต่าง ๆ 6
1.3.8 เร่ิมตน้ เขยี นบทพูด 7
1.3.9 ตดั จุดอ่อนออกไป 8
1.3.10 แบ่งปันงานที่เขียนเสร็จแลว้ ให้เพ่ือนดูสกั สองสามคน 8
1.3.11 แกไ้ ขงานใหม้ ากที่สุดเท่าที่จาเป็น 9
1.3.12 ปรับองคป์ ระกอบของบท 9

2 การเขียนบทภาพยนตร์

สารบญั (ต่อ) ค

2.1 การคน้ ควา้ หาขอ้ มูล (Research) 11
2.2 การกาหนดประโยคหลกั สาคญั (Premise) 11
2.3 การเขยี นเร่ืองยอ่ (Synopsis) 11
2.4 การเขียนโครงเรื่องขยาย (Treatment) 11
2.5 บทภาพยนตร์ (Screenplay) 12
2.6 บทถา่ ยทา (Shooting script) 12
2.7 บทภาพยนตร์ (Storyboard) 12
3 องคป์ ระกอบของการเขียนบทภาพยนตร์
3.1 เร่ือง (Story) 13
3.2 แนวความคดิ (Concept) 13
3.3 แก่นเรื่อง (Theme) 13
3.4 เร่ืองยอ่ (Synopsis) 13
3.5 โครงเร่ือง (Plot) 13
3.6 ตวั ละคร (Character) 14
3.7 บทสนทนา (Dialogue) 14
4 ปัจจยั สาคญั ในโครงสร้างบท
4.1 แนะนา (Introduction) 15
4.2 สร้างเง่ือนไข (Suspense) 15
4.3 สร้างวกิ ฤต (Crisis) 15
4.4 จุดวิกฤตสูงสุด (Climax) 15
4.5 ผลสรุป (Conclusion) 15

สารบญั (ต่อ) ง

5 สรุป 16
บรรณานุกรม 17

สารบัญภาพประกอบ จ

ภาพท่ี หนา้
1 ทาความเขา้ ใจวา่ บทภาพยนตร์คืออะไร 2
2 อา่ นบทของบรรดาภาพยนตร์เรื่องโปรดของคุณ 3
3 พฒั นาความคิดใหอ้ อกมาเป็นรูปร่าง 3
4 ข้ึนโครงเร่ือง 4
5 เขียนเร่ืองโดยแบ่งออกเป็นสามองค์ 5
6 เพ่ิมเสน้ เรื่องรอง 6
7 เร่ิมเขียนฉากตา่ ง ๆ 7
8 เริ่มตน้ เขียนบทพดู 7
9 ตดั จุดอ่อนออกไป 8
10 แบง่ ปันงานที่เขียนเสร็จแลว้ ใหเ้ พ่ือนดูสกั สองสามคน 8
11แกไ้ ขงานใหม้ ากท่ีสุดเท่าท่ีจาเป็น 9
12 ปรับองคป์ ระกอบของบท 9

1

บทที่1

บทนา

บทภาพยนตร์เป็นสิ่งที่สามารถรับประกนั ความสาเร็จของภาพยนตร์ก่อนเร่ิมผลิตไปได้
คร่ึงหน่ึงแลว้ แต่กวา่ บทภาพยนตร์ท่ีดีจะสามารถเขียนออกมาไดน้ ้นั นกั เขียนจะตอ้ งเป็ นผทู้ ี่มีความ
ต้งั ใจและเพยี รพยายามอยา่ งสูง นอกจากน้ียงั ตอ้ งเป็นท้งั นกั อ่าน นกั คิด นกั ฝัน และนกั เขียนในเวลา
เดียวกนั

1.1 ความหมายของการเขียนบท

บทภาพยนตร์ คือ แบบร่างของการสร้างภาพยนตร์ บทภาพยนตร์จะมีความคลา้ ยคลึงกบั
วรรณกรรมตรงที่การบอกเล่าเรื่องราววา่ ใครทาอะไร ท่ีไหน อยา่ งไร แต่จะแตกตา่ งที่บทภาพยนตร์
น้นั ตอ้ งสื่อความหมายออกมาเป็นภาพ โดยใชภ้ าพเป็นตวั ส่ือความหมาย เป็นการเขยี นอธิบาย
รายละเอียดเรื่องราว เม่ือไดโ้ ครงสร้างเรื่องที่ชดั เจนแลว้ จึงนาเหตุการณ์มาแตกขยายเป็นฉากๆ ลง
รายละเอียดยอ่ ย ๆ ใส่สถานการณ์ ช่วงเวลา สถานที่ ตวั ละคร บทสนทนา บางคร้ังอาจกาหนดมมุ
กลอ้ งหรือ ขนาดภาพ ใหช้ ดั เจนเลยกไ็ ด้ บทภาพยนตร์จึงเขียนเพ่ือเป็นการเตรียมงานผลิต(Pre-
production) และฝึกซอ้ มนกั แสดงโดยเฉพาะ

1.2ความสาคญั ของการเขยี นบทภาพยนตร์

จะเริ่มเขียนบทภาพยนตร์ ผเู้ ขียนบทจะตอ้ งมีแนวคิดและวตั ถปุ ระสงคท์ ่ีแน่นอนและ
เจาะจง ไม่เล่ือนลอย ตอ้ งรู้วา่ เรื่องที่จะเขยี นน้ีมงุ่ เขยี นเพื่อใคร ท้งั น้ีเพ่ือท่ีจะสามารถหาวิธีการเขา้
กลมุ่ คนท่ีต้งั เป็นเป้าหมายไวไ้ ด้ เช่น การสร้างภาพยนตร์เพื่อเด็กกบั การสร้างภาพยนตร์เพอ่ื ผใู้ หญ่ ก็
ตอ้ งมีลกั ษณะท่ีแตกตา่ งกนั เช่น ภาษาท่ีใช้ แสง สี ดนตรี นอกจากวยั แลว้ อาชีพ เพศ การศึกษา
นิสยั ใจคอ และวฒั นธรรมของคนดูก็เป็นส่ิงที่จะตอ้ งพิจารณาถึงดว้ ย นอกจากน้นั จุดสาคญั หรือแกน
ของเรื่อง Theme คืออะไรก็ควรจะกาหนดไวใ้ หช้ ดั เจน และแกนของเร่ืองน้ีควรจะมีเพียงประการ
เดียว เช่น ถา้ ตอ้ งการพูด ความกตญั ญูของชายคนหน่ึงซ่ึงจะช่วยใหเ้ ขาพบกบั ความดีงามในบ้นั
ปลาย เม่ือต้งั แกนเร่ืองไวแ้ ลว้ ก็จะตอ้ งกาหนดขอบเขตของเรื่องที่จะเขียนวา่ ควร ประกอบดว้ ยอะไร
กวา้ งขาวงแคไ่ หน แตท่ ่ีสาคญั ก็คอื ทุก ๆ ฉาก ทกุ ๆ ช็อต ของภาพยนตร์จะตอ้ งมีจุดมุ่งหมายท่ีจะ
สนบั สนุนแกนเร่ืองที่ต้งั ไวแ้ ลว้ ถา้ หากฉากใดหรือช็อตใดไมม่ ีส่วนที่จะสนบั สนุนแกนของเรื่อง

2

ก็ไม่ควรบรรจุไว้ และเม่ือบรรลถุ ึงจึงสุดทา้ ยของสิ่งท่ีจะพูดแลว้ ก็ตอ้ งจบเรื่องทนั ที ถา้ ยงั ขนื ต่อเติม
ไปอีกจะทาใหข้ าดความประทบั ใจคนดู
1.3 วธิ ีการเขียนบทภาพยนตร์

1.3.1 ทาความเข้าใจว่าบทภาพยนตร์คืออะไร บทหรือท่ีเรียกเตม็ ๆ วา่ บทภาพยนตร์น้นั คือ
สิ่งที่สรุปองคป์ ระกอบที่จาเป็นสาหรับการเล่าเรื่องของภาพยนตร์หรือละครโทรทศั น์ (อาทิ เสียง,
ภาพ, พฤติกรรมรวมไปถึงบทพดู ของตวั ละคร)

ภาพที่ 1 ทาความเขา้ ใจวา่ บทภาพยนตร์คืออะไร
1.3.1.1 บทภาพยนตร์น้นั แทบจะไมส่ ามารถเขียนไดด้ ว้ ยคนๆ เดียว กวา่ จะสาเร็จ
น้นั บทตอ้ งผา่ นการทบทวนและเขียนใหมร่ วมไปถึงการตีความร่วมกนั ของผผู้ ลิต ผกู้ ากบั และ
นกั แสดงทกุ คน
1.3.1.2 ภาพยนตร์และละครโทรทศั น์เป็นสื่อท่ีแสดงภาพ ซ่ึงกห็ มายความวา่ คุณ
ตอ้ งเขียนบทที่สามารถสื่อถึงเร่ืองราวไดอ้ ยา่ งครอบคลุมท้งั ในแงข่ องภาพและเสียง คณุ ตอ้ งให้
ความสาคญั กบั การเขียนบรรยายภาพและเสียงใหด้ ี

3

1.3.2 อ่านบทของบรรดาภาพยนตร์เรื่องโปรดของคุณ หาบทภาพยนตร์จาก
อินเทอร์เน็ตและพิจารณาดูวา่ คุณชอบ (และไม่ชอบ) อะไรเกี่ยวกบั ภาพยนตร์เหล่าน้นั พยายามทา
ความเขา้ ใจวา่ การเคล่ือนไหวถูกถ่ายทอดออกมาอยา่ งไร รวมไปถึงบทพูดถกู เขยี นอยา่ งไรและตวั
ละครถกู พฒั นาข้นึ มาอยา่ งไรดว้ ย

ภาพท่ี 2 อา่ นบทของบรรดาภาพยนตร์เรื่องโปรดของคณุ
1.3.3 พฒั นาความคดิ ให้ออกมาเป็ นรูปเป็ นร่าง เม่ือคณุ คิดออกแลว้ วา่ จะเขยี นถึงเร่ืองอะไร
ก็เขียนรายละเอียดคร่าวๆ ที่จาเป็นของโครงเร่ืองรวมไปถึงความสัมพนั ธ์และลกั ษณะพฤติกรรม
ของตวั ละครที่จะดาเนินเร่ือง องคป์ ระกอบใดเป็นส่วนที่สาคญั ท่ีสุดของแนวคดิ ท่ีคุณวาดภาพไว?้
ตวั ละครแต่ละตวั จะปฏิสมั พนั ธ์กนั อยา่ งไรและเพราะเหตุผลใด? จุดสาคญั ของเรื่องคืออะไร? โครง
เรื่องมีช่องโหวต่ รงไหนไหม? เขยี นโนต้ สรุปประเด็นเหล่าน้ีไวใ้ นรูปแบบใดก็ไดท้ ่ีคุณเห็นวา่
เหมาะสม

ภาพที่ 3 พฒั นาความคิดใหอ้ อกมาเป็นรูปเป็นร่าง

4

1.3.4 ขนึ้ โครงเรื่อง เริ่มตน้ ดว้ ยการเขียนเล่าเรื่องคร่าวๆ ก่อนโดยใหค้ วามสาคญั กบั ประเดน็
ขดั แยง้ ของเรื่องราวท่ีจะนาไปสู่จุดซาบซ้ึงกินใจของเรื่อง

ภาพที่ 4 ข้ึนโครงเรื่อง
1.3.4.1 คดิ ถึงความยาวของเร่ืองเสมอ เมื่อถูกเขยี นออกมาเป็ นบทแลว้ บทแต่ละ
หนา้ จะมีความยาวราวหน่ึงนาทีเม่ือถูกพฒั นาเป็นภาพยนตร์ โดยเฉล่ียแลว้ บทของภาพยนตร์ยาว
สองชวั่ โมงจะมีประมาณหน่ึงร้อยยส่ี ิบหนา้ โดยปกติแลว้ ภาพยนตร์แนวซาบซ้ึงกินใจจะยาวราว ๆ
สองชว่ั โมงในขณะท่ีภาพยนตร์แนวตลกจะส้นั กวา่ โดยจะยาวราวหน่ึงถึงหน่ึงชว่ั โมงคร่ึง
1.3.4.2 จาไวเ้ สมอวา่ ในความเป็นจริง บทยาวๆ ไมค่ ่อยมีโอกาสไดร้ ับเลือกหรอก
เวน้ ไวเ้ สียแตว่ า่ นกั เขยี นบทจะเป็นที่รู้จกั อยแู่ ลว้ มีเพอ่ื นฝงู ในวงการหรือรวยมากนน่ั แหละ หาก
เร่ืองที่คณุ ตอ้ งการเลา่ ไมส่ ามารถยอ่ ใหส้ ้ันกวา่ สองชว่ั โมงไดเ้ ม่ือถกู นามาสร้างเป็นภาพยนตร์ คุณ
น่าจะเขยี นออกมาเป็นนวนิยายไปเลยดีกวา่

5

1.3.5 เขยี นเร่ืองโดยแบ่งออกเป็ นสามองค์ เสาหลกั ของบทภาพยนตร์กค็ ือองกท์ ้งั สาม โดยแต่ละองก์
น้นั สามารถดาเนินเรื่องแยกกนั ได้ และเม่ือนามารวมกนั ก็จะกลายเป็นโครงสร้างสาคญั ของ
เร่ืองราวท้งั หมด

ภาพท่ี 5 เขียนเรื่องโดยแบ่งออกเป็นสามองค์

1.3.5.1 องกท์ ี่หน่ึง: นี่เป็ นองกท์ ี่จะปพู ้ืนเร่ือง แนะนาภูมิหลงั และตวั ละคร วางโทน
ของเรื่อง แนะนาตวั ละครหลกั ของเร่ืองและเริ่มตน้ เลา่ ถึงปมขดั แยง้ ท่ีจะทาใหเ้ รื่องดาเนินไป เม่ือตวั
ละครหลกั มีเป้าหมายท่ีตอ้ งบรรลแุ ลว้ องกท์ ่ีสองจึงจะเริ่ม สาหรับเรื่องแนวซาบซ้ึงเกินใจ องกท์ ี่
หน่ึงมกั จะยาวประมาณสามสิบหนา้ ในขณะท่ีแนวตลกจะยาวราวยสี่ ิบส่ีหน้า

1.3.5.2 องกท์ ี่สอง: องกท์ ี่สองคอื ส่วนหลกั ของเรื่อง ตวั ละครหลกั จะประสบกบั
ปัญหาขณะเดินหนา้ หาทางแกไ้ ขปมขดั แยง้ โครงเร่ืองยอ่ ยมกั จะถกู เล่าในองกท์ ่ีสอง ในขณะที่องก์
ท่ีสองดาเนินไป ตวั ละครหลกั ควรจะมีทา่ ทีเปล่ียนแปลงไป สาหรับเรื่องแนวซาบซ้ึงกินใจ องกท์ ่ี
สองจะยาวราวหกสิบหนา้ ในขณะท่ีแนวตลกจะยาวราวสี่สิบแปดหนา้

1.3.5.3 องกท์ ่ีสาม: ในองกท์ ่ีสาม เรื่องราวจะมาถึงจุดคล่ีคลาย องกท์ ี่สามน้ีจะ
ประกอบไปดว้ ยจุดหกั เหของเรื่องราว และจบลงดว้ ยการเผชิญหนา้ คร้ังสุดทา้ ยเพ่ือบรรลเุ ป้าหมาย
ของเร่ือง เน่ืองจากเรื่องราวไดถ้ กู วางรากฐานมาอยา่ งดีแลว้ ในองก์ท่ีสอง องกท์ ี่สามจึงดาเนินไป
อยา่ งรวดเร็วและส้นั กวา่ สาหรับเร่ืองแนวซาบซ้ึงกินใจ องกท์ ี่สามจะยาวประมาณสามสิบหนา้
ในขณะท่ีเร่ืองแนวตลกจะยาวยสี่ ิบสี่หนา้

6

1.3.6 เพม่ิ เส้นเรื่องรอง เสน้ เรื่องรองคอื องคป์ ระกอบของเร่ืองท่ีดาเนินแยกจากปมขดั แยง้
หลกั ของเร่ือง โดยจะมีจุดเริ่มตน้ ก่ึงกลางและจุดจบ โดยปกติแลว้ เสน้ เร่ืองรองจะยาวประมาณสิบ
ถึงสิบหา้ หนา้ และมกั จะม่งุ เล่าถึงตวั ละครใดตวั ละครหน่ึงเป็นการเฉพาะ

ภาพท่ี 6 เพม่ิ เส้นเรื่องรอง
1.3.6.1 เส้นเรื่องรองจะดาเนินไปโดยเล่าถึงความตึงเครียดแยกจากเรื่องหลกั และ
โดยส่วนใหญแ่ ลว้ มกั จะส่งผลกระทบกบั ตอนจบของเส้นเรื่องหลกั ดว้ ย
1.3.7 เร่ิมเขียนฉากต่าง ๆ ฉากคอื เหตุการณ์ที่เกิดข้นึ ในภาพยนตร์ โดยเกิดข้ึนใน
สถานที่เฉพาะและเกิดข้นึ เพ่ือขบั เคลื่อนใหเ้ ร่ืองดาเนินไป หากฉากใด ๆ ไมไ่ ดท้ าหนา้ ที่ดงั น้ีแลว้ ก็
ควรจะตดั ออกไป ฉากท่ีเขยี นข้ึนอยา่ งไร้วตั ถปุ ระสงคจ์ ะติดตรึงอยใู่ นใจผชู้ มวา่ เป็นจุดออ่ นของ
เร่ือง และจะทาใหภ้ าพยนตร์โดยรวมออกมาไมด่ ีเทา่ ที่ควรดว้ ย

ภาพท่ี 7 เร่ิมเขียนฉากตา่ ง ๆ

7

1.3.8 เร่ิมต้นเขียนบทพูด เม่ือคุณเขยี นฉากต่าง ๆ แลว้ กถ็ ึงเวลาที่ตวั ละครจะปฏิสัมพนั ธ์
กนั บทพูดอาจนบั เป็นหน่ึงในส่ิงที่เขยี นยากท่ีสุดเลยก็วา่ ได้ โดยตวั ละครแตล่ ะตวั ตอ้ งมีลกั ษณะการ
พดู ที่เฉพาะตวั และน่าเช่ือถือดว้ ยนะ

ภาพที่ 8 เร่ิมตน้ เขียนบทพูด
1.3.8.1 บทพูดท่ีสมจริงอาจจะไมใ่ ช่บทพดู ท่ีดีเสมอไป บทพูดควรจะเป็นสิ่งท่ี
ขบั เคล่ือนเร่ืองใหด้ าเนินไปและพฒั นาตวั ละครท้งั หลาย คุณไม่ควรกงั วลกบั การพยายามเขียนบท
พดู ใหส้ มจริงมากเกินไป เพราะในความเป็นจริงแลว้ บทสนทนาในชีวิตประจาวนั กอ็ อกจะท่ือๆ ไม่
มีชีวติ ชีวาอะไร
1.3.8.2 อา่ นออกเสียงบทพดู ออกมาดงั ๆ วา่ ฟังแลว้ ดูตะกกุ ตะกกั ซ้าซากจาเจหรือ
เกินจริงไหม? ตวั ละครทุกตวั ของคณุ มีวิธีการพูดคลา้ ยๆ กนั ไปหมดเลยหรือเปล่า?

8

1.3.9 ตัดจุดอ่อนออกไป เมื่อความคิดทุกอยา่ งของคุณถกู ถา่ ยทอดลงบนกระดาษแลว้ กล็ อง
มองหาจุดอ่อน จุดที่เบ่ียงเบนความสนใจหรืออะไรที่ฉุดเรื่องลงดู มีส่วนท่ีเรื่องออกนอกทะเลไหม?
มีรายละเอียดตรงไหนท่ีไม่จาเป็นหรือซ้าซากหรือเปลา่ ? คุณไดใ้ หค้ วามสาคญั กบั ผชู้ มมากพอไหม?
หากมีบางส่วนของบทพดู ที่อธิบายเยอะเกินไปหรือไมไ่ ดช้ ่วยขบั เคล่ือนเร่ืองก็ตดั ออก

ภาพที่ 9 ตดั จุดอ่อนออกไป
1.3.10 แบ่งปันงานทเ่ี ขียนเสร็จแล้วให้เพ่ือนดูสักสองสามคน เลือกคนที่มีรสนิยมและภมู ิ
หลงั แตกตา่ งกนั เพื่อที่จะไดร้ ับฟังความเห็นอนั หลากหลาย อยา่ ลืมขอใหอ้ ีกฝ่ายใหค้ วามเห็นอยา่ ง
ตรงไปตรงมาดว้ ยล่ะ เพราะคณุ คงอยากไดย้ นิ คาวิจารณ์ที่ก่อใหเ้ กิดประโยชน์ ไม่ใช่คาชมอนั ไร้คา่
หรือคาโกหกใช่ไหมล่ะ

ภาพที่ 10 แบง่ ปันงานที่เขยี นเสร็จแลว้ ใหเ้ พือ่ นดูสักสองสามคน

9

1.3.11 แก้ไขงานให้มากท่ีสุดเท่าท่จี าเป็ น ข้นั ตอนน้ีอาจจะทาใหป้ วดใจ แต่เม่ือไดร้ ับ
วิจารณ์ครบแลว้ และไดป้ รับใชต้ ามน้นั คุณจะรู้สึกดีภายหลงั ที่ไดใ้ ชเ้ วลากบั การถ่ายทอดวสิ ยั ทศั น์
ของคุณออกมาเป็ นเรื่ องราว

ภาพท่ี 11 แกไ้ ขงานใหม้ ากท่ีสุดเท่าที่จาเป็น
1.3.12 ปรับองค์ประกอบของบท มีหลายส่วนของบทท่ีคุณตอ้ งเขยี นตามรูปแบบเฉพาะ
เพอ่ื ที่จะไดเ้ ป็นไปตามาตรฐานของวงการ ดงั น้ี

ภาพที่ 12 ปรับองคป์ ระกอบของบท
1.3.12.1 ส่วนหวั ของฉาก: หรือ ส่วนของหวั ขอ้ ที่บรรยายฉากคอื ส่วนที่ปพู ้ืนผอู้ า่ น
โดยเริ่มจากบรรยายสถานที่ ส่วนหวั ของฉากน้นั จะเขยี นดว้ ยตวั อกั ษรตวั พมิ พใ์ หญท่ ้งั หมด โดยคุณ
ตอ้ งเริ่มเขียนอธิบายส่วนภายในฉากและนอกฉากโดยเขียนกากบั ไวว้ า่ “ในฉาก” หรือ “นอกฉาก”
จากน้นั กเ็ ขยี นระบุสถานท่ีแลว้ ก็เวลาของเหตกุ ารณ์ อยา่ จบหนา้ แรกดว้ ยการเขยี นเฉพาะส่วนหวั
ของฉาก พยายามเขยี นตอ่ ไปยงั หนา้ ถดั ไป

10

1.3.12.2 ส่ิงท่ีเกิดข้นึ : ส่วนน้ีคอื ส่วนบรรยายของบทภาพยนตร์ เขยี นโดยใช้
ไวยากรณ์ปัจจุบนั และใชร้ ูปแบบประโยคท่ีประธานเป็นผกู้ ระทา เขยี นยอ่ หนา้ ใหส้ ้ันๆ เพอ่ื ดึงดูด
ความสนใจจากผอู้ า่ น โดยควรเขียนราว ๆ สามถึงหา้ บรรทดั กพ็ อ

1.3.12.3 ช่ือตวั ละคร : ก่อนที่บทพูดจะเริ่ม พมิ พช์ ื่อตวั ละครที่พดู เป็นตวั พมิ พใ์ หญ่
และยอ่ หนา้ เขา้ มา 3.5 นิ้วจากขอบกระดาษดา้ นซา้ ยมือ โดยช่ือท่ีพมิ พอ์ าจจะเป็นช่ือตวั ละครจริง ๆ
หรือคาอธิบายหากตวั ละครน้นั ๆ ไม่มีชื่อในภาพยนตร์เร่ืองน้ี หรือจะระบุเป็นอาชีพไปก็ได้ หากตวั
ละครพดู บทนอกฉากกเ็ ขียนกากบั ไวว้ า่ “นอกฉาก” ขา้ งๆ ช่ือตวั ละคร หากตวั ละครกาลงั บรรยาย ก็
เขยี นไปวา่ “เสียงบรรยาย” ขา้ งๆ ชื่อตวั ละคร

1.3.12.4 บทพดู : เม่ือเขยี นบทพดู ใหต้ วั ละคร ยอ่ หนา้ บทพูดเขา้ มา 2.5 นิ้วจาก
ขอบกระดาษดา้ นซา้ ยและใหต้ วั อกั ษรอยหู่ ่างจากขอบดา้ นขวาราว 2 ถึง 2.5 นิ้ว โดยบทพดู จะอยขู่ า้ ง
ใตช้ ่ือตวั ละครท่ีพูด

11

บทท2่ี

การเขยี นบทภาพยนตร์

2.1 การค้นคว้า ( Research )
เป็นข้นั ตอนการเขียนบทภาพยนตร์อนั ดบั แรกท่ีตอ้ งทาถือเป็นส่ิงสาคญั หลงั จากเราพบ

ประเด็นของเรื่องแลว้ จึงลงมือคน้ ควา้ หาขอ้ มูลเพ่ือเสริมรายละเอียดเรื่องราวท่ีถกู ตอ้ ง จริง ชดั เจน
และมีมิติมากข้ึน คุณภาพของภาพยนตร์จะดีหรือไม่จึงอยู่ท่ีการคน้ ควา้ หาขอ้ มูล ไมว่ า่ ภาพยนตร์
น้นั จะมีเน้ือหาใดก็ตาม

2.2 การกาหนดประโยคหลกั สาคัญ (Premise)
หมายถึง ความคิดหรือแนวความคดิ ที่ง่าย ๆ ธรรมดา ส่วนใหญ่มกั ใชต้ ้งั คาถามวา่ “เกิดอะไร

ข้นึ ถา้ …” (what if) ตวั อยา่ งของ premise ตามรูปแบบหนงั ฮอลลีวูด เช่น เกิดอะไรข้นึ ถา้ เรื่องโรเม
โอ & จูเลียต เกิดข้ึนในนิวยอร์ค คือ เรื่อง West Side Story, เกิดอะไรข้ึนถา้ มนุษยด์ าวองั คารบุกโลก
คอื เรื่อง The Invasion of Mars, เกิดอะไรข้นึ ถา้ ก็อตซิลา่ บุกนิวยอร์ค คือเรื่อง Godzilla, เกิดอะไรข้ึน
ถา้ มนุษยต์ ่างดาวบุกโลก คือเร่ือง The Independence Day, เกิดอะไรข้ึนถา้ เร่ืองโรเมโอ & จูเลียต
เกิดข้ึนบนเรือไททานิค คือ เร่ือง Titanic เป็นตน้

2.3 การเขยี นเร่ืองย่อ (Synopsis)
คอื เร่ืองย่อขนาดส้นั ท่ีสามารถจบลงได้ 3-4 บรรทดั หรือหน่ึงยอ่ หนา้ หรืออาจเขียนเป็น

story outline เป็นร่างหลงั จากที่เราคน้ ควา้ หาขอ้ มูลแลว้ ก่อนเขยี นเป็นโครงเร่ืองขยาย (treatment)

2.4 การเขยี นโครงเร่ืองขยาย (Treatment)
เป็นการเขยี นคาอธิบายของโครงเรื่อง (plot) ในรูปแบบของเร่ืองส้นั โครงเร่ืองขยายอาจใช้

สาหรับเป็นแนวทางในการเขียนบทภาพยนตร์ที่สมบูรณ์ บางคร้ังอาจใชส้ าหรับยนื่ ของบประมาณ
ไดด้ ว้ ย และการเขยี นโครงเรื่องขยายท่ีดีตอ้ งมีประโยคหลกั สาคญั (premise) ท่ีงา่ ย ๆ น่าสนใจ

12

2.5 บทภาพยนตร์ (Screenplay)

สาหรับภาพยนตร์บนั เทิง หมายถึง บท (script) ซีเควนส์หลกั (master scene/sequence)หรือ
ซีนาริโอ (scenario) คือ บทภาพยนตร์ท่ีมีโครงเร่ือง บทพูด แต่มีความสมบูรณ์นอ้ ยกวา่ บทถ่ายทา
(shooting script) เป็นการเลา่ เร่ืองที่ไดพ้ ฒั นามาแลว้ อยา่ งมีข้นั ตอน ประกอบ ดว้ ยตวั ละครหลกั บท
พดู ฉาก แอค็ ชน่ั ซีเควนส์ มีรูปแบบการเขียนท่ีถูกตอ้ ง เช่น บทสนทนาอยกู่ ่ึงกลางหนา้ กระดาษฉาก
เวลา สถานท่ี อยชู่ ิดขอบหนา้ ซา้ ยกระดาษ ไม่มีตวั เลขกากบั ชอ็ ต และโดยหลกั ทว่ั ไปบทภาพยนตร์
หน่ึงหนา้ มีความยาวหน่ึงนาที

2.6 บทถ่ายทา (Shooting script)

คอื บทภาพยนตร์ท่ีเป็นข้นั ตอนสุดทา้ ยของการเขยี น บทถา่ ยทาจะบอกรายละเอียดเพม่ิ เติม
จากบทภาพยนตร์ (screenplay) ไดแ้ ก่ ตาแหน่งกลอ้ ง การเชื่อมชอ็ ต เช่น คทั (cut) การเลือนภาพ
(fade) การละลายภาพ หรือการจางซอ้ นภาพ (dissolve) การกวาดภาพ (wipe) ตลอดจนการใชภ้ าพ
พิเศษ (effect) อ่ืน ๆ เป็นตน้ นอกจากน้ียงั มีเลขลาดบั ช็อตกากบั เรียงตามลาดบั ต้งั แต่ช็อตแรก
จนกระทง่ั จบเรื่อง

2.7 บทภาพ (Storyboard)

บทภาพยนตร์ประเภทหน่ึงท่ีอธิบายดว้ ยภาพ คลา้ ยหนงั สือการ์ตูน ใหเ้ ห็นความตอ่ เน่ือง
ของช็อตตลอดท้งั ซีเควนส์หรือท้งั เรื่องมีคาอธิบายภาพประกอบ เสียงตา่ ง ๆ เช่น เสียงดนตรี เสียง
ประกอบฉาก และเสียงพดู เป็นตน้ ใชเ้ ป็นแนวทางสาหรับการถ่ายทา หรือใชเ้ ป็นวธิ ีการคาดคะเน
ภาพลว่ งหนา้

(pre-visualizing) ก่อนการถ่ายทาวา่ เมื่อถา่ ยทาสาเร็จแลว้ หนงั จะมีรูปร่างหนา้ ตาเป็นอยา่ งไร ซ่ึง
บริษทั ของ Walt Disney นามาใชก้ บั การผลิตภาพยนตร์การ์ตนู ของบริษทั เป็นคร้ังแรก โดยเขียน
ภาพ เหตุการณ์ของแอค็ ชนั่ เรียงติดต่อกนั บนบอร์ด เพ่ือใหค้ นดูเขา้ ใจและมองเห็นเร่ืองราว
ลว่ งหนา้ ไดก้ ่อนลงมือเขยี นภาพ ส่วนใหญบ่ ทภาพจะมีเลขท่ีลาดบั ช็อตกากบั ไว้ คาบรรยาย
เหตกุ ารณ์ มมุ กลอ้ ง และอาจมีเสียงประกอบดว้ ย

13

บทท3ี่

องค์ประกอบของการเขียนบทภาพยนตร์

แบบร่างของการสร้างภาพยนตร์ บทภาพยนตร์จะมีการบอกเลา่ เร่ืองราววา่ ใครทาอะไร ที่
ไหน อยา่ งไร และตอ้ งสื่อความหมายออกมาเป็นภาพ โดยใชภ้ าพเป็นตวั ส่ือความหมาย เป็นการ
เขียนอธิบายรายละเอียดเรื่องราว เมื่อไดโ้ ครงสร้างเร่ืองที่ชดั เจนแลว้ จึงนาเหตกุ ารณ์มาแตกขยาย
เป็นฉากๆ ลงรายละเอียดยอ่ ย ๆ ใส่สถานการณ์ ช่วงเวลา สถานที่ ตวั ละคร บทสนทนา บางคร้ังอาจ
กาหนดมมุ กลอ้ งหรือ ขนาดภาพ ใหช้ ดั เจนเลยกไ็ ด้

3.1 เรื่อง (Story)
หมายถึง เหตกุ ารณ์หรือเร่ืองราวท่ีเกิดข้ึน โดยมีจุดเริ่มตน้ และดาเนินไปสู่จุดสิ้นสุด เรื่องอาจจะส้ัน
เพยี งไม่กี่นาที อาจยาวนานเป็นปี หรือไมร่ ู้จบ (infinity) กไ็ ด้ ส่ิงสาคญั ในการดาเนินเร่ือง คือปม
ความขดั แยง้ (conflict) ซ่ึงก่อใหเ้ กิดการกระทา ส่งผลใหเ้ กิดเป็นเรื่องราว
3.2 แนวความคิด (Concept)

เรื่องท่ีจะนาเสนอมีแนวความคิด (Idea) อะไรท่ีจะสื่อใหผ้ ชู้ มรับรู้
3.3 แก่นเร่ือง (Theme)

ประเดน็ เน้ือหาสาคญั หรือแกนหลกั (Main theme) ของเร่ืองท่ีจะนาเสนอ ซ่ึงอาจประกอบดว้ ย
ประเดน็ รองๆ (sub theme) อีกก็ได้ แต่ตอ้ งไมอ่ อกนอกแนวความคิดหลกั
3.4 เรื่องย่อ (Synopsis)

เป็นจุดเร่ิมตน้ ของภาพยนตร์ ไมว่ า่ จะเป็นเรื่องที่คิดข้ึนมาใหม่ เรื่องที่นามาจากเหตุการณ์จริง
เร่ืองที่ดดั แปลงมาจากวรรณกรรม หรือแมแ้ ต่เรื่องที่ลอกเลียนแบบมาจากภาพยนตร์อื่น ส่ิงแรกน้นั
เรื่องตอ้ งมีความน่าสนใจ มีใจความสาคญั ชดั เจน ตอ้ งมีการมีการต้งั คาถามวา่ จะมีอะไรเกิดข้ึน
(What…if…?) กบั เรื่องที่คิดมา และสามารถพฒั นาขยายเป็นโครงเรื่องใหญไ่ ด้
3.5 โครงเรื่อง (Plot)
เป็นการเล่าเรื่องลาดบั เหตุการณ์อยา่ งมีเหตผุ ล เหตกุ ารณ์ทุกเหตกุ ารณ์จะตอ้ งส่งเสริมประเด็นหลกั
ของเรื่องไดช้ ดั เจน ไม่ใหห้ ลงประเด็น โครงเร่ืองจะประกอบดว้ ยเหตุการณ์หลกั (main plot) และ
เหตกุ ารณ์รอง (sub plot) ซ่ึงเหตกุ ารณ์รองที่ใส่เขา้ ไป ตอ้ งผสมกลมกลืนเป็นเหตเุ ป็นผลกบั
เหตกุ ารณ์หลกั

14

3.6 ตวั ละคร (Character)
มีหนา้ ที่ดาเนินเหตกุ ารณ์จากจุดเริ่มตน้ ไปสู่จุดสิ้นสุดของเร่ือง ตวั ละครอาจเป็นคน สตั ว์

ส่ิงของ หรือเป็นนามธรรมไม่มีตวั ตนกไ็ ด้ การสร้างตวั ละครข้ึนมาตอ้ งคานึงถึงภูมิหลงั พ้นื ฐาน ท่ีมา
ที่ไป บุคลิกนิสยั ความตอ้ งการ อนั ก่อใหเ้ กิดพฤติกรรมต่าง ๆ ของตวั ละครน้นั ๆ ตวั ละครแบ่ง
ออกเป็นตวั แสดงหลกั หรือตวั แสดงนา และตวั แสดงสมทบหรือตวั แสดงประกอบ ทุกตวั ละคร
จะตอ้ งมีส่งผลต่อเหตกุ ารณ์น้นั ๆ มากนอ้ ยตามแต่บทบาทของตน ตวั เอกยอ่ มมีความสาคญั มากกวา่
ตวั รองเสมอ
3.7 บทสนทนา (Dialogue)

เป็นถอ้ ยคาท่ีกาหนดใหแ้ ตล่ ะตวั ละครไดใ้ ชแ้ สดงโตต้ อบกนั ใชบ้ อกถึงอารมณ์ ดาเนินเรื่อง
และสื่อสารกบั ผชู้ ม ภาพยนตร์ที่ดีจะสื่อความหมายดว้ ยภาพมากกวา่ คาพดู การประหยดั ถอ้ ยคาจึง
เป็นสิ่งที่ควรทา ความหมายหรืออารมณ์บางคร้ังอาจจาเป็นตอ้ งใชถ้ อ้ ยคามาช่วยเสริมใหด้ ูดียง่ิ ข้นึ ก็
ได้

15

บทที่4
ปัจจยั สาคัญในโครงสร้างบท

4.1 แนะนา (Introduction)
การแนะนาเหตุการณ์ สถานการณ์ สถานท่ี ตวั ละครสิ่งแวดลอ้ ม และเวลา

4.2 สร้างเง่ือนไข (Suspense)
การกระตุน้ ให้เน้ือเร่ืองดาเนินไปอยา่ งลึกลบั มีเง่ือนไข มีปมผกู มดั ความขดั แยง้ ทาใหผ้ ชู้ ม

เกิดความสงสัยและสนใจในเหตุการณ์
4.3 สร้างวิกฤตกาล (Crisis)

การเผชิญปัญหา วิเคราะหป์ ัญหาของตวั ละคร และหาทางแกไ้ ข หาทางออก หากตวั ละคร
วนเวียนอยกู่ บั ปัญหานานมากจะทาใหผ้ ชู้ มรู้สึกหนกั และเบื่อข้นึ ได้ ควรท่ีจะมีการกระตนุ้ จาก
เหตกุ ารณ์อื่นมาแทรกดว้ ย
4.4 จดุ วิกฤตสูงสุด (Climax)

เป็นช่วงเผชิญหนา้ กบั ปัญหาคร้ังสุดทา้ ยท่ีถูกบีบกดดนั สูงสุด ทาใหม้ ีการตดั สินใจอยา่ ง
เดด็ ขาด
4.5 ผลสรุป (Conclusion)

ทางออก ขอ้ สรุป ทาใหเ้ กิดความกระจ่าง ภาพยนตร์บางเรื่องอาจไม่มีบทสรุป ก็เพือ่ ใหผ้ ชู้ ม
นากลบั ไปคดิ เอง

16

บทท่ี5
สรุป

การเขียนบทภาพยนตร์ เป็นการเขยี นอธิบายรายละเอียดเร่ืองราว เมื่อไดโ้ ครงสร้างเรื่องที่
ชดั เจนแลว้ จึงนาเหตกุ ารณ์มาแตกขยายเป็นฉากๆ ลงรายละเอียดยอ่ ย ๆ ใส่สถานการณ์ ช่วงเวลา
สถานท่ี ตวั ละคร บทสนทนา การกระทา บางคร้ังอาจกาหนดมุมกลอ้ ง ขนาดภาพ แน่นอนชดั เจน
เลยก็เป็นได้ บทภาพยนตร์จึงเขยี นเพอ่ื เป็นการเตรียมงานผลิต(Pre-production) และฝึกซอ้ ม
นกั แสดงโดยเฉพาะ หลงั จากน้นั จึงพฒั นาต่อเป็นบทสาหรับการถา่ ยทา(Shooting script) และบท
ภาพ(Story board)ต่อไป

การเขียนบท การออกแบบตวั ละคร และการออกแบบบทภาพ เป็นข้นั ตอนสาคญั ในการ
วางแผนงานออกแบบภาพเคลื่อนไหว มีประโยชน์ในการช่วยใหผ้ ทู้ างานเกิดความเขา้ ใจร่วมกนั
และ ไมท่ างานออกนอกกรอบที่วางแผนไว้ การที่ผลงานจะประสบความสาเร็จส่วนหน่ึงมาจาก
เน้ือหา เรื่องราวท่ีน่าสนใจ แปลกใหม่ สามารถดึงดูดใจของผชู้ มติดตามชมจนจบเรื่อง เรื่องราวท่ีดี
อาจเกิด ข้ึนจากประสบการณ์ที่เกิดข้ึนในชีวิตประจาวนั หรืออาจเกิดไดจ้ ากแรงบนั ดาลใจ ปัจจยั ใน
การเขยี น บทที่ดีน้นั ข้นึ อยกู่ บั เน้ือหาสาระ เร่ืองราว ความคิด ตวั ละคร และการเลา่ เร่ืองท่ีมี
เอกลกั ษณ์ สามารถทาใหเ้ รื่องราวเกิดความน่าสนใจและน่าประทบั ใจข้ึนได้

การเขยี นบทในแต่ละข้นั ตอนมีประโยชน์และจุดมุง่ หมายท่ีตา่ งกนั ความเขา้ ใจวา่ แต่ละ
ข้นั ตอนทาไปเพ่อื อะไรช่วยใหเ้ ขียนบทไดง้ า่ ย สมบูรณ์ การเขยี นบทที่เป็นไปตามข้นั ตอน ช่วยให้
การพฒั นาบทเป็นไปอยา่ งราบร่ืน การละเลยข้นั ใดข้นั ตอนหน่ึงทาใหผ้ ลงานขาดความสมบรู ณ์

17

บรรณนานุกรม

“การเขยี นบทภาพยนตร์ส้ัน” [ออนไลน์]. เขา้ ถึงไดจ้ าก:
https://www.mesise.com/%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b9%80%e0%b8
%82%e0%b8%b5%e0%b8%a2%e0%b8%99%e0%b8%9a%e0%b8%97%e0%b8%ab%e
0%b8%99%e0%b8%b1%e0%b8%87%e0%b8%aa%e0%b8%b1%e0%b9%89%e0%b8%
99/ [สืบคน้ เมื่อ 2 มกราคม 2565].

“การเขียนบทวีดีทศั น์และบทภาพยนตร์” [ออนไลน์]. เขา้ ถึงไดจ้ าก:
https://krupiyadanai.wordpress.com/computer4/%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%
84%E0%B9%82%E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%A2%E0%B8%B
5%E0%B8%AA%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%9B%E0%B8%
A3%E0%B8%B0%E0%B8%AA%E0%B8%A1/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8
%A3%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8
%9A%E0%B8%97%E0%B8%A7%E0%B8%B5%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B8
%97%E0%B8%B1%E0%B8%A8%E0%B8%99%E0%B9%8C/ [สืบคน้ เมื่อ 2 มกราคม
2565].

“ข้นั ตอนการเขียนบทภาพยนตร์” [ออนไลน์]. เขา้ ถึงไดจ้ าก:
http://www.chakkham.ac.th/~krunatcha/shortfilm/%E0%B8%82%E0%B8%B1%E0%B9
%89%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8
%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8
%99%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8
%A2%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B9%8C.html[สืบคน้ เม่ือ 2
มกราคม 2565].

“ความสาคญั ของการเขยี นบทภาพยนตร์” [ออนไลน]์ . เขา้ ถึงไดจ้ าก:
http://motionmpv.blogspot.com/2013/02/blog-post_221.html?m=1 [สืบคน้ เม่ือ 2 มกราคม
2565].

“บทภาพยนตร์” [ออนไลน์]. เขา้ ถึงไดจ้ าก: https://th.m.wikipedia.org/wiki/บทภาพยนตร์
[สืบคน้ เมื่อ 2 มกราคม 2565].

“วิธีการเขียนบทภาพยนตร์” [ออนไลน]์ . เขา้ ถึงไดจ้ าก: https://th.wikihow.com/เขยี นบทภาพยนตร์
[สืบคน้ เม่ือ 2 มกราคม 2565].

18

“วิธีการเขียนบทหนงั ส้นั ” [ออนไลน์]. เขา้ ถึงไดจ้ าก:
https://sites.google.com/a/srp.ac.th/srp31203/khwamru-kar-tha-hnang-
san/withikarkheiynbthhnangsan [สืบคน้ เมื่อ 2 มกราคม 2565].

“องคป์ ระกอบของการเขยี นบทภาพยนตร์” [ออนไลน]์ . เขา้ ถึงไดจ้ าก:
https://www.niwatcomedu.com/%E0%B8%AA%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%
B2%E0%B8%A3%E0%B8%AA%E0%B8%AD%E0%B8%99/moviecut/3-khan-txn-
karsrangphaphyntrsan/p1%E0%B8%82%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%95%E0
%B8%A3%E0%B8%A2%E0%B8%A1%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0
%B8%9C%E0%B8%A5%E0%B8%95/kar-kheiyn-bth-widi-thasn-laea-bth-phaphyntr
[สืบคน้ เม่ือ 2 มกราคม 2565].

“องคป์ ระกอบของการเขยี นบทภาพยนตร์” [ออนไลน์]. เขา้ ถึงไดจ้ าก:
https://m.facebook.com/nt/screen/?params=%7B%22note_id%22%3A703547220262088
%7D&path=%2Fnotes%2Fnote%2F [สืบคน้ เมื่อ 2 มกราคม 2565].

“FLOW ทาบทภาพยนตร์” [ออนไลน์]. เขา้ ถึงไดจ้ าก: http://moviediy.net/home/2020/moviediy-
clinic/flow-ทาบทภาพยนตร์/ [สืบคน้ เมื่อ 2 มกราคม 2565].


Click to View FlipBook Version