เร่ือง น้ำยาลา้ งจานขจดั คราบสตู รสมนุ ไพร
นายวีรยทุ ธ โรจน์พฒั นพงศ์ ชัน้ ม.6/4 เลขท่ี 9
ช้ัน ม.6/4 เลขท่ี 25
นางสาวนติ ยา ปันศิริ ช้ัน ม.6/4 เลขท่ี 28
ช้ัน ม.6/4 เลขที่ 30
นางสาวกาญจนาพร ธัญญาบริบูรณ์ ชนั้ ม.6/4 เลขท่ี 33
นางสาวนศิ ารตั น์ ดวงธวุ นนท์
นางสาวสุภัทธนีย์ เถมินพนา
โครงงานนี้เป็นส่วนหนงึ่ ของรายวชิ าการส่อื สารและการนําเสนอ (IS)รหสั วชิ า I 30202
ช้ันมธั ยมศึกษาปที ่ี 5 ภาคเรยี นท่ี 2 ปกี ารศกึ ษา 2564
กล่มุ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
โรงเรยี นแมแ่ จ่ม อาํ เภอแม่แจ่ม จังหวดั เชียงใหม่
สาํ นักงานเขตพ้นื ที่การศึกษามธั ยมศกึ ษาเชียงใหม่
เรอ่ื ง นำ้ ยาลา้ งจานขจัดคราบสตู รสมุนไพร
นายวรี ยุทธ โรจนพ์ ฒั นพงศ์ ชน้ั ม.6/4 เลขท่ี 9
ชน้ั ม.6/4 เลขที่ 25
นางสาวนติ ยา ปนั ศริ ิ ชน้ั ม.6/4 เลขท่ี 28
ชนั้ ม.6/4 เลขที่ 30
นางสาวกาญจนาพร ธัญญาบรบิ ูรณ์ ชนั้ ม.6/4 เลขที่ 33
นางสาวนิศารตั น์ ดวงธุวนนท์
นางสาวสุภัทธนีย์ เถมินพนา
โครงงานน้ีเปน็ สว่ นหนึง่ ของรายวิชาการส่ือสารและการนําเสนอ (IS)รหสั วิชา I 30202
ช้ันมธั ยมศึกษาปที ี่ 5 ภาคเรียนที่ 2 ปกี ารศึกษา 2564
กลุม่ สาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
โรงเรยี นแม่แจม่ อาํ เภอแมแ่ จม่ จงั หวดั เชียงใหม่
สาํ นักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษามธั ยมศึกษาเชยี งใหม่
ก
ช่ือโครงงาน นำ้ ยาลา้ งจานขจดั คราบสูตรสมุนไพร
ผูจ้ ดั ทำโครงงาน นายวีรยทุ ธ โรจนพ์ ฒั นพงศ์ ช้นั ม.6/4 เลขท่ี 9
ช้ัน ม.6/4 เลขท่ี 25
นางสาวนติ ยา ปนั ศริ ิ ชั้น ม.6/4 เลขท่ี 28
ช้ัน ม.6/4 เลขที่ 30
นางสาวกาญจนาพร ธญั ญาบริบูรณ์ ชน้ั ม.6/4 เลขที่ 33
นางสาวนิศารัตน์ ดวงธุวนนท์
นางสาวสุภทั ธนีย์ เถมนิ พนา
ครทู ่ปี รึกษาโครงงาน นางชนิศา สทุ ะ
บทคดั ย่อ
โครงงาน เรื่อง น้ำยาลา้ งจานขจดั คราบสูตรสมุนไพร มีวตั ถุประสงค์เพื่อ ทดลองทำผลิตภณั ฑ์
น้ำยาล้างจานขจัดคราบสูตรสมุนไพร เพื่อให้เป็นตัวเลือกในการเลือกใช้น้ำยาล้างจานของกลุ่ม
ตัวอย่างทั้งหมด 30 คน และจัดทำโครงงาน เรื่อง น้ำยาล้างจานขจัดคราบสูตรสมุนไพรนี้ เพื่อศึกษา
ข้อมูลเกี่ยวกับสารตา้ นต้น และสมุนไพร ศึกษาวิธีการทำผลิตภัณฑ์ และเพื่อใช้สมุนในท้องถิน่ ให้เกิด
ประโยชน์
ดำเนินการโดย เริ่มประชุมวางแผน ตามด้วยการแบ่งงานให้กับสมาชิกในกลุ่มได้ช่วยกันหา
ข้อมูลเพื่อทำการทดลอง ทำผลิตภัณฑ์น้ำยาล้างจานขจัดคราบสูตรสมุนไพร โดยใช้สมุนไพร ดังนี้
มะนาว มะกรูด มะขาม ใบเตย และอัญชัน ใช้อุปกรณ์การทำ ดังน้ี ผ้าขาวบาง หม้อ ทัพพี เขียง มีด
ช้อน เตาแก๊ส เครื่องชั่ง บรรจุภัณฑ์ และกระบอกตวง และใช้สารเคมี ดังนี้ หัวเชื้อ N70
หัวเชื้อ F24 หัวเชื้อน้ำหอมใบเตย น้ำเปล่าสะอาด ผงกุหลาบ ผงเปลือกมังคุด ผงสารกันบูด และ
เกลือปน่ ซึง่ ในวธิ กี ารทำผลิตภัณฑน์ ้ำยาล้างจานขจัดคราบสตู รสมุนไพร ดังน้ี 1. สตู รมะนาว นำ
มะมะนาวไปล้างด้วยนำ้ สะอาดแลว้ ผ่าคร่ึง จากนนั้ ให้บบี เอาแตน่ ้ำ พอไดน้ ้ำมะนาวแลว้ จึงเอาผ้าขาว
บางมากรองเอาเศษมะนาวออกประมาณ 2-3 รอบ ตั้งหม้อเทน้ำเปลา่ สะอาดและนำ้ มะนาว แล้วต้ม
ให้เดือด ระหว่างรอให้นำหัวเชื้อ N70 หัวเชื้อ F24 และเกลือป่น กวนจนเป็นเนื้อเดียวกัน หากข้น
เกินไปให้เติมน้ำเปล่า พักน้ำมะนาวที่ต้มให้เย็น แล้วผงดอกกุหลาบลง นำน้ำมะนาวและส่วนผสมท่ี
กวนไดท้ ี่มาผสมกัน ตามดว้ ยสารกันบูดและหัวเชอื้ นำ้ หอมใบเตย จากนนั้ กวนต่อจนเปน็ เน้อื สวย และ
กรองใส่บรรจุภัณฑ์ 2. สูตรมะกรูด นำมะกรูดและมะนาวไปล้างด้วยน้ำสะอาดแล้วผ่าครึ่ง จากนั้นให้
บีบเอาแต่น้ำ (ใช้น้ำมะกรูด 500 มิลลิลิตร และน้ำมะนาว 250 มิลลิลิตร) พอได้น้ำมะกรูดผสมน้ำ
มะนาวแล้วจึงเอาผ้าขาวบางมากรองเอาเศษมะกรูดและมะนาวออกประมาณ 2-3 รอบ ตั้งหม้อเท
น้ำเปล่าสะอาดตามด้วยน้ำมะกรูดผสมน้ำมะนาว จากนั้นต้มให้เดือด ระหว่างรอให้นำหัวเชื้อ N70
หวั เช้อื F24 และเกลือปน่ กวนจนเปน็ เนอื้ เดียวกัน หากขน้ เกินไปใหเ้ ติมน้ำเปลา่ พักนำ้ มะกรูดผสมน้ำ
มะนาวทีต่ ้มใหเ้ ย็น แล้วเทนำ้ ดอกอัญชันต้มลง นำน้ำมะกรดู ผสมน้ำมะนาวและส่วนผสมที่กวนได้ท่ีมา
ข
ผสมกัน ตามด้วยสารกันบูดและหัวเชื้อน้ำหอมใบเตย จากนั้นกวนต่อจนเป็นเนื้อสวย แล้วกรองใส่
บรรจุภัณฑ์ 3. สูตรมะขาม นำมะนาวไปล้างด้วยน้ำสะอาดแล้วผ่าครึ่ง จากนั้นให้บีบเอาแต่น้ำ พอ
ไดน้ ้ำมะนาวแล้วจึงเอาผา้ ขาวบางมากรองเอาเศษมะนาวออก 2-3 รอบ ต้งั หมอ้ เทน้ำเปล่าสะอาดใส่
มะขาม และน้ำมะนาว จากนั้นต้มให้เดือด ระหว่างรอให้นำหัวเชื้อ N70 หัวเชื้อ F24 และเกลือป่น
กวนจนเป็นเนื้อเดียวกัน หากข้นเกินไปให้เติมน้ำเปล่า พักน้ำที่ต้มส่วนประกอบให้เย็น แล้วเทน้ำ
เปลือกมังคุดต้มลง นำน้ำที่ส่วนประกอบไปกรองผ้าขาวบาง เพื่อเอาเศษมะขามออก นำส่วนผสมที่
กวนได้ท่มี าผสมกนั ตามด้วยสารกันบูดและหวั เชื้อน้ำหอมใบเตย จากนัน้ กวนต่อจนเป็นเนื้อสวย แล้ว
กรองใสบ่ รรจภุ ัณฑ์
จากการทดลองพบว่า สูตรน้ำยาล้างจานขจดั คราบสตู รสมนุ ไพร ทงั้ 3 สตู ร ดงั นี้ สูตรมะนาว สูตร
มะกรูด และสตู รมะขาม ไดร้ บั การประเมนิ ความพึงพอใจจากการวิเคราะห์แบบสอบถามของกลุ่ม
ตัวอย่าง ดงั น้ี ข้อมูลการวเิ คราะหค์ ่าเฉล่ยี ผลการวเิ คราะห์ขอ้ มูลที่ไดจ้ าการสอบถามทเี่ กยี่ วกับน้ำยา
ลา้ งจานขจัดคราบสูตรสมุนไพร ท้งั หมด 30 คน พบว่าในดา้ นความสวยงามของผลิตภัณฑ์ กล่ินของ
ผลติ ภัณฑ์ ความสามารถในการทำความสะอาดภาชนะตา่ ง ๆ ไม่ระคายเคืองต่อผวิ และความชอบ
โดยตรง ระดบั ความพงึ พอใจของกลมุ่ ตัวอยา่ งส่วนใหญ่อย่ใู นระดับดมี ากท่สี ดุ ในสตู รมะขาม ตามดว้ ย
สตู รมะนาว และสตู รมะกรูด
ค
กิตติกรรมประกาศ
โครงงานเรอ่ื ง น้ำยาล้างจานขจัดคราบสูตรสมุนไพร ประกอบดว้ ยการดาํ เนนิ หลายขั้นตอน
เริ่มตง้ั แต่การศกึ ษาข้อมูล การวเิ คราะห์ผลการทดลอง การจดั ทาํ รปู เล่มจนกระทั่งโครงงานน้ี สําเร็จ
ลุลว่ งไปด้วยดี ตลอดระยะเวลาดงั กลา่ ว คณะผจู้ ัดทําโครงงานไดร้ ับความชว่ ยเหลือและคาํ แนะนํา ใน
ดา้ นต่าง ๆ ตลอดจนได้รบั กาํ ลังใจจากบุคคลหลายทา่ น คณะผู้จัดทําตระหนักและซาบซง้ึ ในความ
กรุณาจากทกุ ๆ ท่านเปน็ อยา่ งยงิ่ มา ณ โอกาสน้ี
ในการทําโครงการนี้ขอขอบคุณ คุณครูกันทรากร จันโลหิต และคุณครูชนิศา สุทะ ที่ได้ให้
ความรู้ คําแนะนําตรวจทานและแก้ไขข้อบกพร่องต่าง ๆ เพื่อให้โครงงานฉบับนี้สมบูรณ์ที่สุด และ
ข้อเสนอแนะต่าง ๆ และให้การสนับสนุนในการจัดทําโครงงานมาโดยตลอด ขอขอบคุณบิดา และ
มารดาที่อยู่เบื้องหลังในความสําเร็จที่ได้ให้ความช่วยเหลือสนับสนุนและให้กําลังใจตลอดม า
ขอขอบคุณเพื่อน ๆ ทใ่ี ห้กาํ ลังใจในการศกึ ษาคน้ คว้าคําแนะนําต่าง ๆ k
อน่ึง ผ้จู ัดทาํ หวงั ว่า โครงงานเรือ่ งนีจ้ ะเปน็ ประโยชน์ต่อผ้ทู ่ีสนใจศึกษาอยู่ไมน่ ้อย คุณค่าและ
ประโยชนอ์ นั เกดิ จากการศกึ ษาส่วนบคุ คลฉบบั นี้ขอมอบแด่โรงเรียน คณะครู อาจารย์และบุคลากร
ทางการศึกษาตลอดจนผู้มีพระคณุ ทกุ ทา่ น ด
คณะผู้จดั ทาํ
3 มนี าคม 2565
สารบัญ ง
เร่อื ง
บทคัดยอ่ หนา้
กิตติกรรมประกาศ ก-ข
สารบัญ ขคข
สารบญั ตาราง งค
สารบัญรปู ภาพ จ
บทท่ี 1 บทนำ ชง
1.1 ทีม่ าและความสำคญั ของโครงงาน 1
1.2 วตั ถุประสงคข์ องโครงงาน 2
1.3 สมมตฐิ านของการศึกษา 2
1.4 ขอบเขตของโครงงาน 2
1.5 นยิ ามศพั ทเ์ ฉพาะ 3
1.6 ประโยชนท์ ค่ี าดวา่ จะไดร้ ับ 5
บทที่ 2 เอกสารทเี่ ก่ียวขอ้ ง
2.1 มะนาว 6
2.2 มะกรดู 7
2.3 มะขาม 8
2.4 หัวเชือ้ กลนิ่ ใบเตย 10
2.5 อัญชนั 11
2.6 หัวเชือ้ N70 12
2.7 หัวเชื้อ F24 13
2.8 ผงสารกนั บดู 13
2.9 เกลอื 14
2.10 ผงเปลือกมังคุด 15
2.11 ผงกุหลาบ 16
2.12 นำ้ เปล่าสะอาด 17
2.13 ปฏิกริ ิยาทเี่ ก่ยี วข้อง หรอื กระบวนการทา่ งเคมี 18
2.14 งานวิจยั ทีเ่ กยี่ วขอ้ ง 20
สารบัญ(ต่อ) จ
บทที่ 3 วธิ กี ารดำเนนิ งาน หนา้
3.1 กลุ่มตัวอย่างท่ใี ช้ศกึ ษา
3.2 สถานที่ 22
3.3 เครื่องมอื วัสดุ อปุ กรณ์ สารเคมี พชื สมนุ ไพร 22
3.3.1 วสั ดอุ ุปกรณ์ 22
3.3.2 สารเคมี
3.3.3 พืชสมุนไพร 22
3.4 งบประมาณ/ค่าใช้จา่ ยในการทำโครงงาน 23
3.5 ข้ันตอนการดำเนนิ งาน
3.4.1 ตารางวางแผนการดำเนนิ งาน 24
3.4.2 วธิ ดี ำเนนิ งาน 25
3.6 เครื่องและการสรา้ งเคร่ืองมือ 25
3.7 การเกบ็ รวบรวมข้อมลู 25
3.8 การจดั กระทำข้อมูล 26
3.9 การวเิ คราะหข์ ้อมูล
3.10 สถติ ทิ ี่ใชใ้ นการวิเคราะห์ข้อมูล 27
28
บทที่ 4 ผลการทดลอง 29
4.1 การแสดงจำนวนและรอ้ ยละของกล่มุ ตัวอยา่ ง
4.2 ผลการวเิ คราะห์ค่าเฉลยี่ จากข้อมูลท่ีได้รับจากแบบสอบถาม 30
4.3 การวิเคราะห์คา่ เฉลย่ี ความพึงพอใจ 35
35
บทที่ 5 อภปิ รายผล สรุปผลการศึกษา และขอ้ เสอแนะ 36
5.1 สรุปผลการศึกษา
5.2 อภปิ รายผลการศึกษา
5.3 ข้อเสนอแนะ
บรรณานุกรม
ภาคผนวก
ภาคผนวก ก ตัวอยา่ งแบบสอบถาม
ภาคผนวก ข ภาพกลมุ่ ตัวอย่างประเมินผลติ ภัณฑ์
ภาคผนวก ค ภาพวตั ถดุ ิบ อุปกรณ์ สารเคมี พืชสมุนไพร
ซ
ภาคผนวก ง ขน้ั ตอนการทำผลิตภัณฑ์
ภาคผนวก จ ฉลากผลิตภัณฑ์ และผลิตภณั ฑ์
ภาคผนวก ช โปสเตอร์
ภาคผนวก ฉ ประวตั ิผู้จดั ทำ
ประวตั ิผ้จู ดั ทำ
สารบัญตาราง ช
ตารางท่ี 3.5 ขน้ั การดำเนนิ งาน หนา้
ตารางที่ 4.1 แสดงผลจำนวนละรอ้ ยของกลมุ่ ตัวอยา่ ง 23
ตารางท่ี 4.2 ผลการวิเคราะห์คา่ เฉลย่ี จากข้อมลู ทีไ่ ดจ้ ากการสอบถาม 27
ตารางท่ี 4.3 ข้อมูลการวเิ คราะหค์ า่ เฉลย่ี ความพึงพอใจ 28
29
สารบญั รูปภาพ ฌ
รูปที่ 2.1 มะนาว หนา้
รูปที่ 2.2 มะกรดู 6
รูปท่ี 2.3 มะขาม 7
รูปท่ี 2.4 หัวเช้ือกลนิ่ ใบเตย 8
รปู ที่ 2.5 อญั ชัน 10
รูปท่ี 2.6 หัวเชอื้ N70 11
รูปท่ี 2.7 หัวเชอื้ F24 12
รปู ท่ี 2.8 ผงสารกันบูด 13
รูปที่ 2.9 เกลอื 13
รูปท่ี 2.10 ผงเปลือกมังคดุ 14
รปู ที่ 2.11 ผงกหุ ลาบ 15
รูปท่ี 2.12 นำ้ เปลา่ สะอาด 16
รปู ที่ 5.1 ความสามารถในการทำความสะอาดภาชนะต่าง ๆ 17
รปู ที่ 5.2 ไมร่ ะคายเคืองต่อผิว 30
รูปที่ 5.3 กลนิ่ ของผลติ ภณั ฑ์ 31
รูปที่ 5.4 ความสวยงามของผลิตภัณฑ์ 32
รูปที่ 5.5 ความชอบโดยตรง 33
34
1
บทที่ 1
บทนำ
1.1 ที่มาและความสำคัญของโครงงาน
อำเภอแม่แจ่ม จังหวดั ชยี งใหม่ เปน็ อำเภอท่ีทำการเกษตร ชาวบ้านในอำเภอแม่แจ่มมีอาชีพหลักเป็น
เกษรตกร ชาวบ้านสว่ นใหญม่ ีการปลกู สมนุ ไพรตามทอ้ งไรท่ อ้ งนาหรือตามรว้ั บา้ นของตน เพ่อื นำสมุนไพร
เหลา่ น้นั มาทำเปน็ ยารักษาโรค เชน่ มะนาว มะกรดู มะขาม และอืน่ ๆ อีกหลายชนดิ ซึ่งมสี รรพคุณทางยาใน
การรกั ษาและบรรเทาอาการปวดต่าง ๆ ตามรา่ งกายได้ สมนุ ไพรนั้นยังสามารถใชป้ ระกอบอาหารได้ และใช้
ทำเป็นส่วนผสมในการความสะอาดภาชนะตา่ ง ๆ ไดอ้ ีกด้วย ปจั จบุ ันสมนุ ไพรเปน็ ทน่ี ยิ มอย่างมากในการทำ
ผลติ ภณั ฑ์ เชน่ แชมพูจากมะกรดู และน้ำยาจากมะนาว ส
ในการศกึ ษาและคน้ คว้าเก่ยี วกบั การทำ “นำ้ ยาลา้ งจานขจัดคราบสูตรสมุนไพร” ทางคณะผจู้ ดั ทำได้นำ
หลักการเรียนรู้ (Learning theory) มาปรับใชใ้ นการศึกษาหาความรแู้ ละในการทดลองสตู รน้ำยาล้างจาน
ต่าง ๆ เพื่อให้การทำงานเป็นไปตามท่ีวางไวต้ ามวัตถปุ ระสงคใ์ นการทำงาน จงสง่ ผลให้ทางคณะผ้จู ัดทำได้
คดิ คน้ และทดลองทำสูตรน้ำยาลา้ งจาน จากมะนาว มะกรูดและมะขามซึ่งเปน็ ส่วนประกอบหลกั ท่ีมคี วามเป็น
กรดในตวั และทางคณะผูจ้ ัดทำได้นำดอกไม้หางา่ ยในชมุ ชน เชน่ ดอกอัญชนั และนำเปลือกมงั คุดที่ถกู ทง้ิ ใน
ตลาดมาใช้เพื่อเพ่มิ สสี ันให้กบั ผลิตภณั ฑ์ ทัง้ น้ที างคณะผู้จดั ทำได้คิดคน้ สูตรข้นึ รวมทง้ั หมด 3 สตู ร
ประกอบด้วย สตู รมะนาว สูตรมะกรูด+มะนาว และสูตรมะขาม เพื่อเป็นทางเลอื กในการเลอื กใชน้ ้ำยาล้างจาน
ใหเ้ หมาะกบั ผิวหนงั ของผใู้ ช้ ซ่ึงปจั จุบันมักจะพบว่า นำ้ ยาลา้ งจานที่ใช้ทัว่ ไปอยนู่ ้ัน มีสว่ นประกอบของสารตา่ ง
ๆ ทอ่ี าจทำให้เกดิ การระคายเคอื งต่อผิวหนังของผูใ้ ช้ ทางคณะผู้จัดทำจึงได้ศกึ ษาและทดลองทำสูตรน้ำยาล้าง
จานขจดั คราบสูตรสมนุ ไพรขึ้น ในการทำผลติ ภณั ฑ์ “น้ำยาลา้ งจานขจัดคราบสูตรสมนุ ไพร” คณะผูจ้ ดั ทำได้
ปรับสตู รการทำนำ้ ยาลา้ งจานจากสูตรทั่วไปให้กลายเป็นสูตรใหม่ โดยใช้มะนาว มะกรดู และมะขาม เปน็
สว่ นประกอบหลัก เนือ่ งจากมะนาว มะกรดู และมะขามนน้ั มีคณุ สมบัติเปน็ กรดสามารถขจัดคราบความมันบน
ภาชนะได้ดี ทางคณะผู้จดั ทำจึงเลอื กใช้มะนาว มะกรดู และมะขาม แทนสารเคมีท่ีมคี ุณสมบัตเิ ป็นกรดเพือ่ ลด
การเกดิ อาการระคายเคืองเมื่อใช้นำ้ ยาล้างจานล้างจานสูตรสมนุ ไพร คณะผู้จดั ทำได้เลง็ เหน็ ถึงความสำคัญ
ของผู้บริโภคหรือผทู้ ่ีใช้ผลิตภณั ฑ์เป็นอยา่ งมาก จงึ เลอื กใช้วตั ถดุ ิบทเ่ี ปน็ ธรรมชาติ เชน่ กรดจากมะนาว
มะกรดู และมะขาม ซง่ึ ในแตล่ ะสูตรนน้ั จะมสี ่วนประกอบเป็นสมนุ ไพรท้ังสิน้ ;
คณะผ้จู ดั ทำจงึ เกิดแนวคิดในการพฒั นาสูตรน้ำยาล้างจานขึน้ เพ่ือแก้ไขปญั หาท่ีพบหลงั จากใช้
ผลิตภัณฑท์ มี่ สี ารจากสารเคมีประกอบ “น้ำยาลา้ งจานขจัดคราบสตู รสมนุ ไพร” เป็นน้ำยาล้างจานทผ่ี ลติ ขน้ึ
เพอื่ ใชส้ มนุ ไพรให้เกิดประโยชนส์ งู สดุ ;
2
1.2 วัตถปุ ระสงค์ของโครงงาน
1. เพ่ือผลิตน้ำยาล้างจานขจัดคราบสตู รสมนุ ไพร
2. เพือ่ สำรวจความพงึ พอใจของกลุ่มตัวอยา่ งในการใช้นำ้ ยาลา้ งจานขจดั คราบสตู รสมนุ ไพร
1.3 สมมติฐานของโครงงาน
นำ้ ยาล้างจานขจดั คราบสูตรสมุนไพรมีประสิทธิภาพเทียบเท่ากบั น้ำยาลา้ งจานตามทอ้ งตามตลาด
1.4 ขอบเขตของโครงงาน
กลมุ่ ตัวอยา่ ง
คือ กล่มุ แม่บ้าน หรือ พ่อบ้านภายในอำเภอแมแ่ จม่
- หมู่บ้านแม่แทน ตำบลช่างเค่งิ อำเภอแม่แจม่ จงั หวดั เชยี งใหม่ จำนวน 15 คน
- หมบู่ ้านแม่มงิ ค์ ตำบลช่างเคิ่ง อำเภอแม่แจ่ม จงั หวดั เชยี งใหม่ จำนวน 15 คน
รวมจำนวนทง้ั สิ้น 30 คน
เนือ้ หาทใี่ ชใ้ นการศกึ ษา
คือ น้ำยาลา้ งจานขจดั คราบสูตรสมุนไพร
ตัวแปรท่ใี ช้ในการศึกษา
ตวั แปรตน้ ไดแ้ ก่ ผลิตภณั ฑ์น้ำยาล้างจานขจัดคราบสูตรสมนุ ไพร
ตวั แปรตาม ได้แก่ ความพึงพอใจในการใช้น้ำยาล้างจานขจัดคราบสูตรสมุนไพร
จากกลุม่ ตวั อยา่ งแมบ่ า้ นต่อผลิตภัณฑ์
ตัวแปรควบคมุ ได้แก่ - หวั เชอื้ N70
- หวั เช้ือ F24
- เกลอื ป่น
- ผงสารกันบดู
- ผงกหุ ลาบ
- นำ้ หอมกลน่ิ ใบเตย
- นำ้ เปล่า
- เปลือกมงั คุด
- ดอกอัญชัน
สถานที่
- ศาลาบ้านหมบู่ า้ น บา้ นแมแ่ ทน
- ศาลาบา้ นหมู่บ้าน บา้ นแมม่ ิงค์
3
ระยะเวลาในการศกึ ษา
เริ่มตงั้ แต่ 1 พฤศจิกายน 2564 จนถึง 30 มนี าคม 2565
1.5 นิยามศพั ทเ์ ฉพาะ
โครงงานครั้งนี้ ผจู้ ัดไดก้ ำหนดนิยามศัพท์ ดังนี้
จะอธบิ ายถงึ นำ้ ยาลา้ งจานขจัดคราบสูตรสมนุ ไพร เทา่ นั้น
สูตรสมนุ ไพร คอื การทำนำ้ ยาล้างจานของกลมุ่ คณะผู้จัดทำน้นั ต้องการอธิบายเก่ียวกับสตู รการทำ
นำ้ ยาล้างจาน อันเปน็ สูตรสมุนไพรดว้ ยกนั 3 สูตรดังน้ี
1.5.1 สูตรมะนาว ส่วนประกอบของสูตรน้ำยาลา้ งจานขจัดคราบสูตรสมนุ ไพร และวธิ กี ารทำน้ำยา
ลา้ งจานขจดั คราบสตู รสมุนไพร มดี งั นี้
1) ส่วนประกอบน้ำยาล้างจานขจดั คราบสตู รสมนุ ไพร
- มะนาว ใช้ 500 มิลลลิ ิตร
- หัวเชอ้ื N70 ใช้ 500 กรัม
- หวั เช้ือ F24 ใช้ 150 กรมั
- หวั เช้อื กล่ินใบเตย ใช้ 15 มิลลิลิตร
- เกลือ ใช้ 15 กรัม
- สจี ากผงดอกกหุ ลาบ ใช้ 30 กรมั
- ผงสารกนั บูด ใช้ 5 กรัม
- น้ำเปล่า ใช้ 500 มลิ ลลิ ติ ร
2) วธิ แี ละข้นั ตอนการทำผลติ ภณั ฑ์นำ้ ยาลา้ งจานขจัดคราบสูตรสมุนไพร
- นำมะนาวไปลา้ งดว้ ยน้ำสะอาดแลว้ ผา่ ครึ่ง จากน้นั ให้บบี เอาแต่น้ำ
- พอได้นำ้ มะนาวแล้วจึงเอาผา้ ขาวบางมากรองเอาเศษมะนาวออกประมาณ 2-3 รอบ
- ต้งั หมอ้ เทน้ำเปล่าสะอาดและนำ้ มะนาว แล้วต้มให้เดอื ด
- ระหวา่ งรอให้นำหัวเช้อื N70 หวั เชื้อ F24 และเกลือป่น กวนจนเปน็ เนอื้ เดียวกัน
หากข้นเกินไปให้เติมนำ้ เปล่า
- พกั นำ้ มะนาวที่ต้มใหเ้ ยน็ แล้วผงดอกกุหลาบลง
- นำนำ้ มะนาวและสว่ นผสมท่กี วนได้ที่มาผสมกนั ตามดว้ ยสารกนั บูดและหัวเชื้อกลิ่น
ใบเตย จากนัน้ กวนต่อจนเปน็ เนือ้ สวย
- กรองใสบ่ รรจุภัณฑ์
4
1.5.2 สตู รมะกรดู ส่วนประกอบของสูตรนำ้ ยาลา้ งจานขจดั คราบสูตรสมนุ ไพร และวธิ กี ารทำ
นำ้ ยาลา้ งจานขจัดคราบสตู รสมุนไพร มดี ังนี้
1) สว่ นประกอบน้ำยาลา้ งจานขัดคราบสูตรสมุนไพร
- มะกรูด ใช้ 350 มลิ ลลิ ิตร
- หวั เชื้อ N 70 ใช้ 500 กรมั
- มะนาว ใช้ 150 มิลลลิ ิตร
- หวั เชื้อ F 24 ใช้ 150 กรมั
- หวั เชื้อกล่ินใบเตย ใช้ 15 มลิ ลิลิตร
- เกลอื ใช้ 15 กรัม
- สจี ากดอกอัญชนั ใช้ 15 มลิ ิลิตร
- ผงสารกนั บดู ใช้ 5 กรัม
- น้ำเปล่า ใช้ 500 มิลลิลิตร
2) วิธที ำนำ้ ยาลา้ งจานขจัดคราบสตู รสมนุ ไพร โดยมะกรูด
- นำมะกรูดและมะนาวไปล้างดว้ ยนำ้ สะอาดแล้วผ่าครง่ึ จากนั้นให้บบี เอาแตน่ ้ำ (ใช้
น้ำมะกรูด 350 มลิ ลลิ ิตร และน้ำมะนาว 150 มิลลลิ ติ ร)
- พอไดน้ ้ำมะกรูดผสมนำ้ มะนาวแลว้ จึงเอาผา้ ขาวบางมากรองเอาเศษมะกรูดและ
มะนาวออกประมาณ 2-3 รอบ
- ตัง้ หม้อเทนำ้ เปล่าสะอาดตามดว้ ยน้ำมะกรูดผสมนำ้ มะนาว จากนน้ั ต้มใหเ้ ดือด
- ระหว่างรอใหน้ ำหวั เช้ือ N70 หัวเช้อื F24 และเกลอื ป่น กวนจนเป็นเนอ้ื เดยี วกนั
หากข้นเกนิ ไปให้เติมน้ำเปลา่
- พักน้ำมะกรูดผสมน้ำมะนาวทีต่ ้มใหเ้ ย็น แล้วเทนำ้ ดอกอัญชันตม้ ลง
- นำนำ้ มะกรดู ผสมน้ำมะนาวและสว่ นผสมทกี่ วนได้ทมี่ าผสมกัน ตามด้วยสารกนั บูด
และหวั เชอ้ื กล่ินใบเตย จากน้ันกวนต่อจนเป็นเนื้อสวย
- กรองใสบ่ รรจภุ ณั ฑ์
1.5.3 สตู รมะขาม ส่วนประกอบของสูตรนำ้ ยาลา้ งจานขจัดคราบสูตรสมุนไพร และวิธีการทำ
น้ำยาลา้ งจานขจัดคราบสูตรสมุนไพร มดี ังนี้
1) สว่ นประกอบของสูตรนย้ าลา้ งจานสตู รสมุนไพร โดยมะขาม มีดงั นี้
- มะขาม ใช้ 500 มิลลลิ ติ ร
- หวั เชื้อ N 70 ใช้ 500 กรมั
- หัวเชอ้ื F 24 ใช้ 150 กรัม
- หวั เช้อื กลนิ่ ใบเตย ใช้ 15 มิลลิลติ ร
5
- เกลือ ใช้ 15 กรมั
- สจี ากเปลอื กมงั คุด ใช้ 15 กรัม
- ผงสารกนั บดู ใช้ 5 กรมั
- นำ้ เปลา่ ใช้ 500 มิลลิลิตร
2) วิธที ำน้ำยาล้างจานขจดั คราบสูตรสมนุ ไพร โดยมะขาม
- นำมะขามไปลา้ งด้วยนำ้ สะอาด จากนัน้ ให้ตง้ั หม้อต้มมะขามใหเ้ ป่ือย
- พอไดน้ ำ้ มะขามแลว้ จึงเอาผา้ ขาวบางมากรองเอาเศษมะขามออก 2-3 รอบ
- ระหว่างรอใหน้ ำหัวเชือ้ N70 หัวเชอ้ื F24 และเกลือป่น กวนจนเป็นเน้อื
เดียวกนั หากขน้ เกนิ ไปให้เตมิ นำ้ เปล่า
- พักน้ำทีต่ ม้ ส่วนประกอบให้เยน็ แลว้ เทนำ้ เปลอื กมงั คุดตม้ ลง
- นำสว่ นผสมทกี่ วนได้ที่มาผสมกนั ตามด้วยสารกนั บูดและหวั เชือ้ กลิน่ ใบเตย
จากนนั้ กวนตอ่ จนเปน็ เนอ้ื สวย
- กรองใส่บรรจุภณั ฑ์
1.6 ประโยชน์ทคี่ าดวา่ จะได้รบั
1) ไดน้ ้ำยาลา้ งจานขจดั คราบสตู รสมนุ ไพรเป็นผลิตภัณฑ์
2)รกลุ่มตวั อยา่ งมคี วามพงึ พอใจต่อผลติ ภณั ฑน์ ำ้ ยาลา้ งจานขจดั คราบสตู รสมุนไพรอยใู่ นระดับมาก
6
บทที่ 2
เอกสารและงานวจิ ัยที่เกยี่ วข้อง
ในการจัดทำโครงงาน เรอ่ื ง น้ำยาลา้ งจานขัดคราบสตู รสมุนไพร ทางกลมุ่ คณะผจู้ ดั ทำได้ศึกษา
เอกสารท่เี กีย่ วข้อง โดยแยกเป็นหวั ข้อตามลำดบั ดงั นี้
2.1 มะนาว
รปู ที่ 2.1 : มะนาว
ทมี่ า : https://www.blockdit.com
ชื่อสมุนไพร : มะนาว
ชอื่ สามญั : Common Lime
ช่ือวทิ ยาศาสตร์ : Citrus aurantiifolia (Christm) Swingle
ชื่อวงศ์ : Rutaceae;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;; h
ช่อื ทอ้ งถิน่ : สม้ มะนาว (ภาคกลาง),ส้มนาว (ภาคใต้) ,สีมานปี หี ์ (มลาย)ู ,หมากฟ้า (ไทยใหญ)่ ,
โกรยชะม้า (เขมร) , มะเน้าเลย์ , มะนอเกละ , ปะนอเกล (กะเหรี่ยงแมฮ่ ่องสอน) , ปะโหนง่ กลยาน
(กะเหร่ียง กาญจนบุร)ี
2.1.1 ลักษณะทางพฤกษาศาสตรข์ องมะนาว
เป็นพืชชนิดหน่ึง ผลมีรสเปร้ยี วจดั จดั อยใู่ นสกลุ ส้ม (Citrus) ผลสเี ขียว เม่ือสกุ จัด
จะเป็นสเี หลอื ง เปลือกบาง ภายในมเี นอ้ื แบ่งกลีบๆ ชุ่มน้ำมาก นบั เปน็ ผลไม้ทมี่ ีคณุ คา่ นิยมใช้เปน็
เคร่ืองปรุงรส นอกจากนย้ี งั ถือว่ามคี ุณคา่ ทางโภชนาการและทางการแพทย์ดว้ ย
ใบ เป็นใบประกอบ ออกเรียงสลบั กนั มใี บย่อยใบเดียว ลักษณะใบรปู รีหรือรูป
ขอบขนาน ปลายใบแหลม โคนใบมน ขอบใบหยักมน แผน่ ใบสเี ขียวเข้มเป็นมัน และมตี ่อมน้ำมัม
กระจายอยตู่ ามผิวใบออ่ นสเี ขียวอมแดง ก้านใบสั้นและมปี ีกแคบหรืออาจจะไม่มปี กี
ดอก ออกดอกเป็นชอ่ สัน้ ๆ ประมาณ 5 - 7 ดอก หรอื เปน็ ดอกเดี่ยวตามซอกใบท่ี
ปลายกง่ิ กลีบดอกสขี าว ดา้ นท้องมสี ีม่วงปน เกสรตวั ผู้เช่อื มติดกนั เป็นกลุ่มๆ ละ 4 - 8 อนั มีกลน่ิ หอม
ผล ลักษณะเป็นรปู ทรงกลม ผวิ เรียบเกลย้ี งสีเขยี วเข้ม สว่ นผลแกจ่ ะมีสีเหลือง
7
เน้ือในแบ่งเป็นซกี หรือห้องแบบรัศมีประมาณ 5 - 40 ห้อง มีรสเปร้ยี ว k
เมลด็ ภายในเนอื้ ผลแต่ละซีกหรือห้อง มีเมลด็ ลกั ษณะกลมรีหรือรปู ไข่มีขาวนวล
หรอื เหลืองออ่ น ประมาณ 10 -15 เมล็ด
2.1.2 คุณสมบัติของมะนาว
มะนาวเปน็ ผลไมท้ ี่มีกรดอินทรยี ์หลายชนดิ เช่น กรดซิตริก กรดมาลิก วิตามนิ ซี
จากน้ำมะนาว สว่ นนำ้ มนั หอมระเหยจากผิวมะนาว มวี ติ ามนิ เอและซี ทั้งยงั มีธาตุแคลเซยี มและ
ฟอสฟอรสั สงู กว่าในนำ้ มะนาวอีกด้วย มะนาวมปี ระโยชน์ใช้เป็นยาสมนุ ไพร ขบั เสมหะ แก้ไอ
เลือดออกตามไรฟัน เหงือกบวม
2.1.3 คุณคา่ ทางโภชนาการ
มะนาวประกอบดว้ ยวิตามนิ และแร่ธาตุหลายชนดิ ทีม่ ปี ระโยชน์ตอ่ รา่ งกาย เช่น
วิตามินเอ วติ ามนิ ซี ธาตุแคลเซียม ธาตุฟอสฟอรสั กรดซติ ริก กรดมาลิก ในผลมะนาว 1 ลกู จะมนี ำ้ มัน
หอมระเหยอย่มู ากถึง 7% ซง่ึ นำมาใช้ประโยชน์ในการผสมเป็นน้ำยาทำความสะอาดตา่ ง ๆ เช่น นำ้ ยา
ล้างจาน เป็นตน้
2.2 มะกรดู
รูปท่ี 2.2 : มะกรดู
ที่มา : http://www.topzaa.com
ชื่อสมุนไพร : มะกรูด
ชือ่ สามัญ : Porcupine Orange, Kiffir Lime, Leech Lime
ชื่อวทิ ยาศาสตร์ : Citrus hystrix DC.
ชื่อทอ้ งถน่ิ : มะขุน มะขูด (ภาคเหนือ) มะหูด (หนองคาย) ส้มกรูด ส้มม่ัวผี (ภาคใต)้
โกรยเซยี ด (เขมร) มะขู (กะเหร่ียง – แมฮ่ ่องสอน)
8
2.2.1 ลกั ษณะทางพฤกษาศาสตร์ของมะกรูด
เปน็ พชื ในสกุลส้ม (Citrus) มีถ่นิ กำเนิดในประเทศลาว อนิ โดนเี ซีย มาเลเซยี และ
ไทย ในเอเชยี ตะวันออกเฉยี งใต้ นยิ มใช้ใบมะกรูดและผิวมะกรูดเปน็ สว่ นหนึง่ ของเคร่ืองปรงุ อาหาร
หลายชนดิ นอกจากในประเทศไทยและลาวแล้ว ยังมีความนยิ มในกัมพูชา เวียดนาม มาเลเซีย และ
อินโดนเี ซยี (โดยเฉพาะบาหลี)
ใบ เป็นใบประกอบที่มีใบย่อยใบเดยี่ ว ออกเรียงสลับ ปลายใบและโคนใบมน ขอบ
ใบเรยี บ แผน่ ใบเรยี บเป็นมันสเี ขียวเข้ม มตี ่อมน้ำมนั อยตู่ ามผวิ ใบ มกี ลน่ิ หอมเฉพาะ กา้ นใบมปี ีกดู
คล้ายใบ
ดอก ออกเปน็ ช่อตามซอกใบทป่ี ลายกงิ่ ดอกสีขาว กลีบเลย้ี งมี 5 กลีบ กลบี ดอกมี
5 แฉก โคนกลีบดอกตดิ กัน
ผล เป็นรปู ทรงกลมหรอื รูปไข่ โคนผลเรียวเป็นจุก ผิวขรุขระ มตี ่อมน้ำมัน ผลออ่ น
สีเขียวแก่ สกุ เป็นสเี หลือง มีรสเปรย้ี ว เมลด็ กลมรี สขี าว มีหลายเมล็ด
2.2.2 คณุ สมบัติของมะกรูด
เปน็ ยาบำรุงหวั ใจ ขับลมในลำไส้ แก้แนน่ ท้องจุกเสยี ด กระทงุ้ พษิ แก้ฝภี ายในและ
แก้เสมหะเป็นพิษ ชว่ ยบำรุงผมให้เงางามแก้อาการผมร่วง
2.3 มะขาม
รปู ท่ี 2.3 : มะขาม
ทมี่ า : https://health.kapook.com
ช่อื สมนุ ไพร : มะขาม
ชอื่ สามัญ : Tamarind, Indian date
ช่อื วทิ ยาศาสตร์ : Tamarindus indica L.
9
ชือ่ ท้องถ่ิน : ขาม (ภาคใต)้ ตะลูบ(ชาวบน-นครราชสมี า) ม่องโคล้ง (กะเหรย่ี ง-กาญจนบรุ ี)
อำเปียล (เขมร-สุรินทร)์ หมากแกง (เงี้ยว-แมฮ่ ่องสอน) ส่ามอเกล (กะเหรยี่ ง-แม่ฮ่องสอน)
2.3.1 ลักษณะทางพฤกษาศาสตรข์ องมะขาม
มะขามเป็นไม้เขตร้อนมีถ่ินกำเนิดอยู่ในทวีปแอฟรกิ าแถบประเทศซูดาน, ประเทศ
แคเมอรนู , ประเทศไนจเี รยี , ประเทศเคนยา, ประเทศแซมเบยี และประเทศแทนซาเนีย ตอ่ มามีการ
นำเขา้ มาในแถบประเทศเขตร้อนของเอเชียและประเทศลาตนิ อเมริกา และในปจั จบุ นั มมี ากใน
ประเทศเม็กซิโก ว
ใบ เป็นใบประกอบแบบขนนก ชัน้ เดยี วออกเรยี งสลบั ใบย่อยมีขนาดเลก็
ลกั ษณะใบรปู ขอบขนาน ปลายใบเว้าบมุ๋ หรอื มน โคนใบมน ออกใบเปน็ คู่ ๆ เรียงกันตามกา้ นใบแบบ
ตรงขา้ มประมาณ 10-18 คู่ แผ่นใบเรียบบางสีเขยี วใบอ่อนสีออกแดงเร่ือ ๆ หรอื ชมพู ว
ดอก ออกดอกเป็นชอ่ แบบชอ่ กระจะ ชอ่ หนง่ึ มีประมาณ 10 - 15 ดอก ออกช่อ
ตามปลายก่งิ และซอกใบ มีกลบี รองกลีบดอก 4 กลีบ สเี หลอื งหรือเขยี วออ่ น กลีบดอกมี 5 กลีบ สี
เหลืองประแตม้ สีแดงส้ม
ผล เมอ่ื ดอกรว่ งแลว้ ก็จะติดผลเปน็ ฝักกลม แบนเลก็ น้อย คอดเป็นข้อตามเมล็ด
และมกี ้าน เปลอื กสเี ทาอมนำ้ ตาล ขา้ งในผลมเี นื้อเยื่อ แรก ๆ เปน็ สเี หลืองอ่อน และค่อย ๆ เปล่ยี นเปน็
สนี ำ้ ตาลเม่ือผลแกจ่ ัดซ่ึงจะหุ้มเมล็ดอยู่
เมลด็ เมล็ดเป็นรปู ร่างกลมแปน้ เปลือกผิวเกลย้ี งมสี นี ำ้ ตาลดำหรือสีน้ำตาลเขม้
2.3.2 คณุ สมบตั ขิ องมะขาม
มะขาม สามารถแก้อาการท้องผูก ถ่ายไม่ออก ใชเ้ น้อื ฝกั แก่ หรอื มะขามเปยี ก
10–30 ฝกั (หนักประมาณ 70–150 กรมั ) จิม้ กับเกลอื รับประทานหรือใส่เกลือเติมนำ้ คนั้ ดมื่ ยัง
สามารถแก้อาการท้องเดนิ กองทัพ ใชเ้ ปลือกตน้ ทัง้ สดหรือแห้งประมาณ 1–2 กำมือ (15–30 กรมั ) ต้ม
กับนำ้ ปนู ใสหรอื นำ้ รบั ประทาน อีกทงั้ ยงั ขบั ถา่ ยพยาธิลำไส้หมา ใช้เมล็ดคว่ั กะเทาะเปลือกเอาออกเนื้อ
ในเมล็ดแช่นำ้ เกลือจนนุ่ม รบั ประทานคร้ังละ 20–30 เมล็ด เหมาะสำหรบั ถ่ายพยาธไิ ส้เดือนและแก้ไอ
ขบั เสมหะเสลดตดิ คอ ใช้เนื้อในฝักแก่หรอื มะขามเปยี กจ้มิ เกลือรับประทาน
2.3.3 คณุ คา่ ทางโภชนาการ
มะขามดิบ 100 กรมั ใหค้ ุณค่าทางโภชนาการ ดงั นี้ พลังงาน 239 กิโลแคลอรี่
ไขมัน 0.6 กรัม เสน้ ใย 5.1 กรมั โปรตนี 2.8 กรัม น้ำตาล 57.4 กรมั คาร์โบไฮเดรต 62.5 กรมั
วิตามินเค 2.8 ไมโครกรมั วิตามินอี 0.1 มิลลกิ รัม วิตามนิ ซี 3.5 มิลลิกรัม แคลเซียม 74 มลิ ลกิ รมั
ธาตเุ หล็ก 2.8 มิลลกิ รัม ฟอสฟอรสั 113 มลิ ลิกรัม โคลีน 8.6 มิลลิกรมั สังกะสี 0.1 มิลลิกรัม และ
โซเดยี ม 28 มลิ ลิกรมั
10
2.4 หัวเชอ้ื กลน่ิ ใบเตย
รูปท่ี 2.4 : หัวเชือ้ กลิน่ ใบเตย
ท่ีมา : https://shopee.co.th
ชอ่ื : หัวเช้อื กลิน่ ใบเตย
ช่ือวทิ ยาศาสตร์ : (Pandanu) 1 OZ
2.4.1 ลกั ษณะท่ัวไปของหวั เช้ือกล่ินใบเตย
เป็นขวดแกว้ ทึบ สามารถมองเห็นตัวหวั เช้อื ขา้ งในขวดได้ดว้ ยตาเปลา่ ขวดมลี กั ษณะ
เป็นขวดขนาด 40 มลิ ลิลติ ร มฝี าสองชนั้ ช้ันในเป็นฝากันหัวเช้อื ระเหย ชน้ั นอกเปน็ ฝาทก่ี นั แสง ลม
หรือสง่ิ สกปรกเข้ามาในขวด มปี า้ ยฉลากวนั เดือนปที ่ผี ลิต มีคำแนะนำวิธกี ารใช้ พร้อมคำเตือนในการ
ใชห้ ัวเชอื้ กล่ินใบเตยว
2.4.2 ประโยชนแ์ ละสรรพคุณของหัวเชือ้ กลนิ่ ใบเตย
ใชก้ ารแตง่ กลน่ิ ผลิตภณั ฑต์ า่ ง ๆ ทีต่ อ้ งการอยากใหม้ ีกล่ินหอม คณุ สมบตั สิ ำคญั คือ
กลิ่นติดทนนานตลอดการหมดอายุของผลิตภัณฑ์ที่นำไปเป็นสว่ นประกอบ และมีความหอมใบเตย
100 % ทำให้ผ่อนคลายเวลาไดก้ ล่นิ ของหัวเชอ้ื กล่นิ ใบเตย ว
11
2.5 อัญชนั
รูปที่ 2.5 : อญั ชัน
ท่ีมา : https://www.veganicalab.com
ช่ือสมนุ ไพร : อญั ชัน
ชอ่ื วิทยาศาสตร์ : Clitoria ternatea L.งศ์ : =
ชอ่ื ช่ือวงศ์ : Fabaceae
ชื่อท้องถิ่น : อญั ชนั บา้ น , อญั ชนั เขียง (ภาคกลาง) , เอื้องจนั , เอือ้ งชนั , อังจัน (ภาคเหนอื ) ,
แดงจัน (เชยี งใหม)่ ;
2.5.1 ลักษณะของอัญชนั
อัญชนั เป็นไมเ้ ล้ือยเนือ้ อ่อน อายุส้ัน ใช้ยอดเลื้อยพนั ลำต้นมีขนปกคลมุ ใบประกอบ
แบบขนนก เรียงตรงข้ามยาว 6-12 เซนตเิ มตร มใี บย่อยรูปไข่ 5-7 ใบ กว้าง 2-3 เซนติเมตร ยาว 3-5
เซนตเิ มตร ปลายใบแหลม โคนใบมนผวิ ใบดา้ นล่างมีขนหนาปกคลมุ ;
ดอก ดอกสขี าว ฟ้า และม่วง ดอกออกเด่ียว ๆ รูปทรงคล้ายฝาหอยเชลล์ออกเป็นคตู่ าม
ซอกใบ กลบี ดอก 5 กลีบ ดอกบานเตม็ ทีย่ าว 2.5-3.5 เซนติเมตรกลีบคลุมรูปกลม ปลายเวา้ เปน็ แอง่
ตรงกลางมีสีเหลือง มที ้ังดอกซอ้ นและดอกลา ดอกชั้นเดียวกลบี ขน้ั นอกมีขนาดใหญ่กลางกลบี สเี หลือง
ส่วนกลีบชั้นในขนาดเลก็ แต่ดอกซ้อนกลีบดอกมีขนาดเท่ากัน ซอ้ นเวยี นเปน็ เกลียว ออกดอกเกอื บ
ตลอดปี ผลแห้งแตก เปน็ ฝักแบน กว้าง 1-1.5 เซนติเมตร ยาว 5-8 เซนตเิ มตร เมล็ดรปู ไต สีดำ มี
5-10สาเมล็ด ง
12
2.6 หวั เช้ือ N70
รปู ท่ี 2.6 : N70
ที่มา : https://www.chemipan.com
ชอ่ื : N70
ชอ่ื ทางวทิ ยาศาสตร์ : Sodium Lauryl Ether Sulfate ,2EO (C12-14 Alcohol basis)
ชื่ออน่ื : Texapon N70, หวั สบู่, หวั แชมพ,ู Sodium Lauryl Ether Sulfate, SLES,
Surfactant,สารลดแรงตงึ ผิว, Sodium laureth sulfate, Emal 270TH
2.6.1 ลกั ณะทว่ั ไปของหัวเชอ้ื N70
หวั เชอื้ N70 เป็นสารประเภท สารลดแรงตึงผิวประจุลบ มคี ณุ สมบตั ิในการทำ
ความสะอาดได้ดีทำใหเ้ กิดฟองไดเ้ รว็ เป็นสารชำระลา้ ง หรอื หวั เช้อื ที่สามารถทำ สบู่ แชมพู ฯลฯ เป็น
สารทีป่ ลอดภยั ไม่ก่อให้เกดิ มะเร็ง และไมล่ ะคายเคอื งผิวALS , AD25 คอื Sodium Lauryl Sulfate
(SLS) เปน็ สารท่ีอันตรายเมื่อใชไ้ ปนาน ๆ จะก่อใหเ้ กิดมะเร็ง และการละคายเคืองของผิว N70 มีความ
เข้มข้น 70% N8000 เป็นสารตวั เดยี วกนั กบั N70 แต่มีความเขม้ ขน้ 28% สว่ นผงฟอง คอื สารลดแรง
ตึงผวิ และให้เกดิ ฟองเอาไวผ้ สมในหวั เชื้อต่าง ๆ เพื่อให้เกิดฟองมาก g g g g g g g g g g g g ;
2.6.2 สูตรทางเคมี
13
2.7 หัวเชือ้ F24
รปู ท่ี 2.7 : F24
ท่ีมา : http://www.sabaideeherb.com
ช่ือ : F24
ช่อื ทางวิทยาศาสตร์ : sodium linear alkyl benzene sulfonate
2.7.1 ลักณะทัว่ ไปของหัวเชอื้
หวั เช้ือ F24 เปน็ สารขจดั คราบน้ำมนั คือ LAS เป็นสารลดแรงตงึ ผิวยอดนยิ ม
ชนิดหนง่ึ และคุณสมบัติหลกั ของ LAS เพื่อขจัดคราบไขมันท่ตี ิดอยู่กบั ภาชนะ เพื่อทำความสะอาด
พ้ืนผวิ ท่ีต้องการ มีการทดลองแลว้ ว่าปลอดภัยตอ่ ส่ิงแวดล้อม มปี ระสทิ ธิภาพในการทำความสะอาดสูง
จึงถกู ใช้มากในน้ำยาทำความสะอาด โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์นำ้ ยาลา้ งจาน เพื่อขจดั คราบไขมันออกจาก
ผิวจาน ไม่ให้มีคราบไขมันเกาะตดิ ทผี่ วิ ภาชนะ เพ่ือความสะอาด
2.8 ผงสารกนั บดู
รปู ท่ี 2.8 : สารกันบูดหรอื สารกนั เสีย
ทมี่ า : http://www.vip.co.th
ชอ่ื : สารกันบดู หรือสารกนั เสีย
ชื่อทางเคมี : benzoic acid หรือ กรดเบนโซอิก
14
ชือ่ อื่น ๆ : benzene carboxylic acid หรือ phenyl carboxylic acid มีสูตรโมเลกลุ
C6H5COO
2.8.1 ลักษณะของผงสารกนั บดู ง
ผงสารกนั บดู เปน็ สารเคมีท่ีใชส้ ำหรบั การถนอมอาหารหรอื ยืดอายุอาหารทำให้สามารถเก็บ
ถนอมอาหารให้ได้นานขน้ึ สารนที้ ำหน้าท่ีออกฤทธ์ยิ ับยง้ั การเจรญิ เตบิ โตของจลุ ินทรีย์หรอื ทำลาย
จุลินทรีย์ชนดิ ต่าง ๆ ทเ่ี ป็นสาเหตทุ ำให้อาหารบูดเน่า ,
2.9 เกลือ
รปู ท่ี 2.9 : เกลือ
ท่ีมา : https://cooking.kapook.com/gallery/214311/181986
ชอ่ื : (salt) เกลือ
ชอ่ื ทางเคมี : (sodium chloride)โซเดียมคลอไรด์ สูตร NaCl
2.9.1 ลกั ษณะของเกลือ
เป็นสารประกอบไอออนิก ประกอบด้วยแคตไอออนและแอนไอออน ทำใหผ้ ลผลิตทไ่ี ด้
เปน็ กลาง (ประจสุ ุทธิเป็นศูนย์) ไอออนเหล่าน้อี าจเป็นอนินทรีย์ (Cl−) กับอินทรีย์ (CH3COO−) หรอื
ไอออนอะตอมเดย่ี ว (F−) กับไอออนหลายอะตอม (SO42−) กไ็ ด้ เกลือจะเกดิ ข้ึนได้เมื่อกรดและเบสทำ
ปฏกิ ริ ิยากัน ง
2.9.2 สรรพคุณของเกลือ
ดา้ นอุตสาหกรรมเคมี เกลอื ถกู ใช้เปน็ สารต้งั ต้นในการผลิตเคมภี ัณฑ์ เชน่ คลอรีน
โซดาไฟ และในด้านอตุ สาหกรรมความงาม เน่ืองจากเกลือมสี รรพคุณในการเปิดรูขุมขนบรเิ วณ
ผิวหนังจึงทําใหว้ ิตามนิ และสารบํารงุ ซมึ เข้าผิวหนงั ได้จงึ มีการนําเกลอื ไปทาเปน็ เกลือขดั ผิว ล
15
2.10 ผงเปลือกมังคดุ
รปู ที่ 2.10 : ผงเปลอื กมังคุด
ทม่ี า : https://www.sephirashop.com
ชอ่ื : ผงเปลอื กมังคุด
ช่อื ทางเคมี : (Crude Extraction)
2.10.1 ลักษณะของผงเปลือกมังคุด
เป็นผงทม่ี ีเนือ้ หยาบ เนอื้ ไม่ละเอียด เปน็ สีนำ้ ตาลหรือสเี ปลือกไมแ้ ห้ง ไม่มีกล่นิ สามารถใชใ้ นการ
ปรับแตง่ สขี องผลติ ภณั ฑห์ รอื ใช้การยอ้ มสผี ้าแบบธรรมชาตไิ ด้ ยาบ ง
2.10.2 สรรพคณุ ของผงเปลือกมังคุด
ด้านอุตสาหกรรมเคมี ผงเปลอื กมังคดุ ได้กลายเป็นสีธรรมชาติอกี สี โดยผา่ นขั้นตอน
ทางเทคโนโลยีเพื่อให้เปลือกมังคดุ เล่าน้ัน กลายเป็นผงในทสี่ ุด ผงเปลอื กมังคดุ น้นั ไม่สามารถ
รับประทานไดเ้ น่อื งจากในข้นั ตอนทางอตุ สาหกรรมและเทคโนโลยีน้ัน ไดม้ ีการใส่สารตา่ ง ๆ เพื่อให้มี
ความละเอียดมากทีส่ ดุ
16
2.11 ผงกหุ ลาบ
รูปท่ี 2.10 : ผงกุหลาบ
ท่ีมา : https://shopee.co.th
ชอ่ื : ผงกหุ ลาบ
ช่อื ทางเคมี : (Rose Extract)
2.11.1 ลกั ษณะของผงกหุ ลาบ
เป็นผงท่มี ีความละเอียดมาก มสี ีชมพหู วาน ๆ คอ่ นข้างไม่มีกล่นิ สามารถใช้ในการ
ปรบั แตง่ สขี องผลติ ภัณฑ์หรือใชก้ ารยอ้ มสีผา้ แบบธรรมชาติ หรือใช้ในการปรบั แต่งสขี องอาหารและ
เครอ่ื งด่ืมได้ ยาบ ง
2.11.2 สรรพคุณของผงกหุ ลาบ
ด้านอตุ สาหกรรมเคมี ผงกุหลาบกลายเป็นที่ต้องการของผู้คนเป็นอยา่ งมากเน่ืองจาก
ราคาและคณุ ภาพของผงกหุ ลาบดังกล่าว มีความเข้มข้นถูกใจผู้ใช้เป็นอยา่ งมาก สามารถปรับแตง่ สี
ของอาหาร เครื่องดืม่ หรือผลิตภณั ฑไ์ ด้
17
2.12 น้ำเปล่าสะอาด
รูปท่ี 2.12 : นำ้ เปล่าสะอาด
ท่มี า : https://men.kapook.com
ช่ือ : นำ้ water
ช่อื ทางเคมี : (H2O)
2.12.1 ลักษณะของน้ำเปล่าสะอาด
นำ้ เปน็ สารประกอบอนินทรยี ์ทโ่ี ปร่งใส ไม่มีรส ไม่มกี ล่ิน และไม่มีสี เปน็ สารเคมีท่เี ปน็
องคป์ ระกอบหลกั ของลำธาร, แมน่ ำ้ , และมหาสมทุ รในโลก เป็นตน้ และยังเป็นของเหลวในสง่ิ มีชวี ิต มี
สูตรเคมีของน้ำบริสทุ ธิ์ คือ H2O โมเลกุลของน้ำ ประกอบดว้ ยออกซเิ จน 1 อะตอมและไฮโดรเจน 2
อะตอมเช่ือมตดิ กนั ดว้ ยพนั ธะโควาเลนต์ นำ้ เป็นของเหลวท่ีอณุ หภมู แิ ละความดันมาตรฐาน แต่พบบน
โลกที่สถานะของแข็ง (น้ำแขง็ ) และสถานะแกส๊ (ไอนำ้ ) น้ำยงั มใี นสถานะของผลกึ ของเหลวท่ีบรเิ วณ
พื้นผิวท่ีขอบน้ำ นอกจากน้ียงั สามารถเกิดขนึ้ ตามธรรมชาติ เชน่ หมิ ะ, ธารน้ำแข็ง, และภเู ขาน้ำแข็ง,
ก้อนเมฆ, หมอก, นำ้ ค้าง, ชน้ั หินอ้มุ น้ำ และ ความชน้ื ในบรรยากาศง
2.12.2 คุณสมบตั ิทางวิทยาศาสตร์ของน้ำเปล่าสะอาด
นำ้ เปน็ ของเหลวทีอ่ ณุ หภมู ิและความดนั ที่มเี พียงพอต่อชีวิตมากทสี่ ุด โดยเฉพาะทค่ี วามดนั
บรรยากาศปกติที่ 1 บาร์ (0.98692 บรรยากาศ 100 กิโลปาสกาล 14.5 พีเอสไอ) และอุณหภูมิ
373.15 เคลวิน (100 องศาเซลเซยี ส 212 องศาฟาเรนไฮต์) การเพิ่มความดนั บรรยากาศจะลดจุด
หลอมเหลวลงเล็กนอ้ ย อยูท่ ี่ประมาณ −5 องศาเซลเซียส ท่คี วามดัน 600 บรรยากาศ −22 องศา
เซลเซียส ท่คี วามดนั 2100 บรรยากาศ ผลลพั ธน์ สี้ มั พันธก์ บั หลายสิง่ ตวั อยา่ งเชน่ สเกต
น้ำแข็ง ทะเลสาบแชแ่ ขง็ ในทวปี แอนตาร์กติกา และการเคล่อื นท่ีของธารนำ้ แข็ง (ท่คี วามดนั สงู กว่า
18
2100 บรรยากาศ จดุ หลอมเหลวจะเพิ่มขนึ้ อย่างรวดเร็วอีกครัง้ และนำ้ แขง็ จะมีรูปร่างแปลกทจ่ี ะไม่
เกดิ ขึน้ ท่ีความดันตำ่ ) การเพิ่มความดันมีผลกระทบทสี่ ำคัญ ตอ่ จุดเดือด น่นั คือทอ่ี ุณหภมู ิ 374 องศา
ท่คี วามดนั 220 บรรยากาศ มีผลสำคัญต่อปลอ่ งแบบน้ำร้อนใต้ทะเลลกึ และไกเซอร์ การทำอาหาร
แบบใชค้ วามดนั และการออกแบบเครอื่ งจักรไอน้ำ บนยอดเขาเอเวอเรสต์ ทีค่ วามดนั ประมาณ 0.34
บรรยากาศ นำ้ เดือดท่ีอณุ ภมู ิ 68 องศาเซลเซยี ส (154 องศาฟาเรนไฮต)์ ท่ีความดันบรรยากาศตำ่ (ต่ำ
ประมาณ 0.006 บรรยากาศ) น้ำไม่อาจอย่ใู นสถานะของเหลวได้ และจะเปล่ยี นสถานะ โดยตรงจาก
ของเหลวเปน็ แกส๊ โดยการระเหดิ ปรากฏการณท์ ถี่ ูกนำมาใชป้ ระโยชน์ในการทำอาหารแห้งเยือกแขง็
ทคี่ วามดันบรรยากาศสงู (เหนอื 221 บรรยากาศ) สถานะของเหลวและแก๊สของนำ้ ไม่อาจแยกความ
แตกตา่ งได้ สถานะนเี้ รยี กวา่ ไอนำ้ เหนือวกิ ฤต น้ำยงั แตกตา่ งจากของเหลวสว่ นใหญ่ เนอื่ งจากน้ำ
หนาแนน่ น้อยลงเมื่อน้ำแข็งตัว ความหนาแน่นสูงสดุ ของน้ำท่ี 1,000 กก./ลบ.ม. (62.43 ปอนด/์ ลบ.ฟตุ )
เกิดท่ีอณุ หภูมิ 3.98 องศาเซลเซียส (39.16 องศาฟาเรนไฮต์) ขณะทีค่ วามหนาแนน่ ของน้ำแขง็ คือ 917
กก./ลบ.ม. (57.25 ปอนด/์ ลบ.ฟุต) ดงั นน้ั ปริมาตรของนำ้ ขยายตัวรอ้ ยละ 9 เมื่อแขง็ ตวั รองรบั ความ
จรงิ ท่ีว่า น้ำแขง็ ลอยไดใ้ นน้ำท่ีเปน็ ของเหลว ที่อุณหภมู ิต้ังแต่ 30 องศาเซลเซยี ส ถึง 60 องศาเซลเซียส
นำ้ มีสถานะของเหลว 2 สถานะ รสชาตแิ ละกล่นิ ปกติน้ำบรสิ ุทธ์ิจะไม่มรี สชาตแิ ละไม่มกี ลิ่น แม้ว่า
มนุษยจ์ ะมปี ระสาทสัมผสั เฉพาะทีส่ ามารถรับรู้ว่ามนี ำ้ อย่ใู นปากได้ และกบรับรู้กล่นิ ของน้ำได้ อยา่ งไร
ก็ตาม น้ำจากแหล่งนำ้ ปกติ (รวมถงึ ขวดน้ำแร่) มักมีสารละลายจำนวนมากท่ีอาจให้รสชาตแิ ละกลิ่น
ต่าง ๆ มนุษยแ์ ละสัตว์ตา่ ง ๆ พัฒนาประสาทสมั ผัสที่ทำใหป้ ระเมินสภาพดื่มได้ โดยเล่ียงน้ำทีเ่ ค็ม
เกินไปหรือเหมน็ เกินไป
2.13 ปฏิกริ ิยาท่ีเก่ียวข้อง หรอื กระบวนการทางเคมี
2.13.1 สูตรมะนาว
- เมื่อเราทำการคน หัวเช้ือ N70 ไปในแนวทิศทางเดียวกนั จะทำให้ เน้ือหัวเชื้อ N70เข้า
กันและกลายเปน็ สขี าวขน้
- เมื่อใส่ F24 ตามลงไปจะเกิดขณะทเี่ ราทำการขนใหส้ ่วนผสมเขา้ กนั
- หลังจากน้นั ทำการใส่เกลือนปน่ ลง จะทำใหเ้ นื้อของหวั เช้อื N70 และหัวเช้ือ F24 เข้า
กันได้ดยี ิ่งข้นึ
- เมือ่ ใส่นำ้ มะนาวทีต่ ้มเรยี บร้อยแลว้ นำมาใส่ จนกวา่ จะเกดิ การเปลยี่ นแปลงทางสเี นื้อ
ของหวั เชือ้ N70 และหัวเช้ือ F24 เปน็ สเี ขียวออ่ น
- ถัดมาใส่ผงกหุ ลาบลงไปเพื่อคนให้ผงกุหลาบและเนื้อหวั เช้ือ N70 และหัวเชือ้ F24 เขา้
กันไดด้ ยี ิ่งขึน้ จนเกดิ การเปลี่ยนสี จากสเี ขยี วออ่ น เป็นสีชมพู ตามด้วยสารกันบดู
19
- หลงั จากนนั้ ต้องใส่หวั เช้ือกลน่ิ ใบเตยลงไปเพื่อคนให้กลนิ่ ไดซ้ มึ เขา้ สู่ตวั นำ้ ยา
- เมอื่ คนเข้ากนั จนตวั นำ้ ยาเกดิ ความเหลวพอประมาณแล้ว พักทิง้ ไวเ้ พ่อื ให้ฟองจากหัว
เชื้อ F24 หายไป จนไดน้ ้ำยาสำเร็จรูปสตู รมะนาวทีต่ ้องการ
2.13.2 สูตรมะกรูด
- เมอื่ เราทำการคน หวั เช้ือ N70 ไปในแนวทศิ ทางเดียวกัน จะทำให้ เนื้อหัวเชอื้ N70เข้า
กนั และกลายเป็นสขี าวข้น
- เม่ือใส่ F24 ตามลงไปจะเกิดขณะที่เราทำการขนใหส้ ว่ นผสมเขา้ กัน
- หลงั จากนั้น ทำการใส่เกลือนปน่ ลง จะทำให้เน้ือของหวั เชื้อ N70 และหัวเชือ้ F24 เข้า
กันได้ดยี ิ่งขึน้
- เมอ่ื ใส่นำ้ มะกรูดและมะนาวที่ตม้ เรยี บร้อยแล้ว นำมาใส่ แลว้ คนจนกว่าจะเกดิ การ
เปลย่ี นแปลงทางสีเนอื้ ของหัวเชอื้ N70 และหัวเช้อื F24 เป็นสีเหลืองอ่อน
- ถัดมาใส่น้ำอัญชนั ลงไปเพือ่ คนให้น้ำอัญชันและเน้ือหัวเชอื้ N70 และหัวเชอ้ื F24 เข้ากัน
ได้ดยี ิ่งขึ้น จนเกดิ การเปลี่ยนสี จากสเี ขียวเหลอื งอ่อน เป็นสีม่วง ตามดว้ ยสารกนั บูด
- หลงั จากนน้ั ต้องใส่หวั เชื้อกลน่ิ ใบเตยลงไปเพือ่ คนให้กลน่ิ ได้ซึมเข้าสู่ตัวนำ้ ยา
- เม่ือคนเขา้ กันจนตวั นำ้ ยาเกิดความเหลวพอประมาณแลว้ พกั ทงิ้ ไว้เพือ่ ให้ฟองจากหัว
เช้ือ F24 หายไป จนได้น้ำยาสำเรจ็ รปู สตู รมะกรดู ทีต่ ้องการ
2.13.3 สตู รมะขาม
- เมอื่ เราทำการคน หวั เช้อื N70 ไปในแนวทศิ ทางเดยี วกนั จะทำให้ เนื้อหัวเชอ้ื N70เข้า
กันและกลายเป็นสีขาวขน้
- เมือ่ ใส่ F24 ตามลงไปจะเกิดขณะทเ่ี ราทำการขนใหส้ ว่ นผสมเขา้ กัน
- หลงั จากนั้น ทำการใสเ่ กลือนป่นลง จะทำใหเ้ น้ือของหวั เชื้อ N70 และหัวเชือ้ F24 เข้า
กนั ได้ดยี ิง่ ขน้ึ
- เม่อื ใสน่ ำ้ มะขามท่ตี ม้ เรยี บร้อยแลว้ นำมาใส่ จนกวา่ จะเกดิ การเปลยี่ นแปลงทางสเี น้ือ
ของหัวเชือ้ N70 และหัวเชือ้ F24 เปน็ สเี ขียวอ่อน
- ถัดมาใส่ผงเปลอื กมงั คดุ ลงไปเพอื่ คนให้ผงเปลือกมังคดุ และเนือ้ หวั เชื้อ N70 และหวั เชือ้
F24 เขา้ กนั ได้ดีย่งิ ข้นึ จนเกิดการเปล่ียนสี จากสีเขยี วส้มอ่อน เป็นสีนำ้ ตาล ตามดว้ ยสารกันบูด
- หลังจากนั้นตอ้ งใสห่ วั เช้อื กลิ่นใบเตยลงไปเพอ่ื ขนให้กลน่ิ ไดซ้ มึ เขา้ สู่ตัวนำ้ ยา
- เมือ่ คนเข้ากันจนตัวนำ้ ยาเกิดความเหลวพอประมาณแลว้ พักท้งิ ไวเ้ พอ่ื ให้ฟองจากหวั
เช้ือ F24 หายไป จนได้น้ำยาสำเร็จรปู สูตรมะขามทีต่ ้องการ
20
2.14 งานวิจัยท่ีเกย่ี วข้อง
นายภูมิกฤษฏ์ิ เทา้ ทอง , นางสาวณัฐวดี ศรนี วล , นางสาวทารกิ า อมรรัตน์พจิ ิต , นางสาว
สุพรรณี จันทรเ์ ปรม , นางสาวปารวี กลิน่ คมุ้ (2554) งานวจิ ยั นี้ทางผ้จู ัดได้จัดทำขนึ้ เพอื่ เป็นการนำ
สิ่งแวดลอ้ มที่อยใู่ กลต้ ัวมาใชใ้ ห้เกดิ ประโยชนส์ ูงสุด เป็นการลดคา่ ใชจ้ ่ายและช่วยเพมิ่ รายไดเ้ สรมิ ใหแ้ ก่
ครอบครัว ซงึ่ วธิ ีการทำมีดังน้ี 1. นำลูกมะกรูดมาลา้ งน้ำให้สะอาด แลว้ ผา่ แบง่ ครึ่ง 2. นำมะกรดู ท่ีผ่า
แบ่งคร่ึงแล้วไปคลกุ กบั น้ำตาลทรายแดง เก็บไว้ไมใ่ ห้อากาศเขา้ เป็นเวลาอย่างน้อย 45 วัน 3. นำขเี้ ถา้
ไปแชก่ บั นำ้ รอจนตกตะกอน แลว้ ตัง้ ทงิ้ ไวเ้ ปน็ ระยะเวลา 7 วนั ** ชว่ งระยะเวลาทเี่ ราแช่น้ำขีเ้ ถ้านน้ั ให้
ตรงกบั ช่วงระยะเวลา 7 วนั สดุ ท้ายของการหมกั มะกรูดกับนำ้ ตาลทรายแดง ** 4. เมอื่ ครบกำหนด 7
วนั แลว้ ใหเ้ ราค่อย ๆ ตักนำ้ ข้ีเถ้าขน้ึ มา จากน้นั นำเกลือปน่ ไปละลายในนำ้ ขเ้ี ถ้า ** ในการตกั นำ้ ขเ้ี ถ้า
เราควรระวงั อยา่ ตักตะกอนข้ีเถ้าข้นึ มา ** 5. นำน้ำขเี้ ถา้ ที่ละลายเกลือปน่ แลว้ มากรองด้วยผ้าขาวบาง
อย่างน้อย 2 คร้ัง เพื่อความสะอาด 6. นำมะกรูดท่ีหมักไว้กบั น้ำตาลทรายแดงข้ึนมาบบี คั้นเอาแตน่ ้ำ
จากน้ันนำมากรองด้วยผา้ ขาวบางใหไ้ ดน้ ้ำทส่ี ะอาด 7. เทหวั เชือ้ N 70 ลงในกระป๋องทีเ่ ตรยี มไว้
จากนน้ั กวนไปในทางเดยี วกันต่อเนอ่ื งกนั ไปเรอ่ื ย ๆ หา้ มหยุดจนหวั เช้อื N 70 แตกเป็นเน้ือเดียวกัน 8.
เทหวั เชือ้ ลาโนรีนลงในกระป๋อง แลว้ คนต่อไปเรอ่ื ย ๆ จนเข้ากนั 9. เทนำ้ มะกรูดกับน้ำขเ้ี ถา้ สลบั กนั
อย่างละ 1 แกว้ ไปเร่ือย ๆ จนกวา่ จะหมด ** ในการคนนั้นจะตอ้ งคนตัง้ แตเ่ ร่ิมเทหัวเช้ือไปจนกวา่ จะ
เทส่วนผสมทกุ อยา่ งครบท้ังหมด ** 10. เมื่อผสมทุกอย่างครบหมดแล้วใหป้ ดิ ฝา แล้วต้ังทงิ้ ไว้ 1 คนื
11. ตกั ใสข่ วด แลว้ นำออกมาจำหน่ายในราคาขวดละ 20 บาท
นางสาวกาญจนา ใจเย็น , นางสาวเจนจิรา กะสมรมั ย์ , นางสาวเมธาวลยั สิงคะเวหน ,
นางสาวรัศมี วาระรัมย์ (2558) งานวิจยั นีท้ างผ้จู ัดจดั ทำขึน้ เพื่อตอ้ งการศึกษาคน้ ควา้ เกี่ยวกบั ความ
เป็นกรดของน้ำมะนาว ทสี่ ามารถชำระลา้ งสิง่ สกปรกได้ดีพอ ๆ กบั น้ำยาล้างจานทม่ี ีสารเคมีหรือไม่
ต้นทุนตำ่ และไม่มสี ารตกคา้ ง เพราะใช้วตั ถดุ ิบจากธรรมชาติ อย่างนำ้ มะนาว น้ำดา่ ง น้ำเกลือ และหวั
เช้ือนำ้ ยา โดยมีขน้ั ตอนการศึกษาค้นคว้า โดยนำหัวเช้ือลงไปกวนในถังโดยใชไ้ ม้กวนไปทางเดมิ ห้าม
กวนสวนทาง และใส่นำ้ มะกรูด น้ำด่าง นำ้ เกลอื ลงไปทีละนิดสลบั กัน จนหมดกวนซักพักท้ิงไว้ และเม่ือ
นำไปลา้ งจานจะเกดิ ผลอย่างไร ผลปรากฏวา่ เมอื่ นำไปลา้ งจานจะสะอาดพอๆกบั นำ้ ยาลา้ งจานทม่ี ี
สารเคมี มีต้นทุนท่ตี ำ่ กวา่ สามารถทำใชเ้ องได้ภายในบา้ น ทำใหป้ ระหยดั ค่าใช่จา่ ยภายในบา้ นดว้ ย
21
นางสาวสุวรรณากุณรกั ษ,์ นางสาวอรวรรณ เครอื ตำ,นางสาวอรวรา เยน็ พนั ธ (2560)
งานวิจยั นี้ทางผูจ้ ดั จัดทำข้ึนเพ่ือศกึ ษาค้นคว้า เกยี่ วกบคุณสมบัติของเปลอื กสบั ปะรดทใ่ี ช้ในการชำระ
ล้ำงคราบสกปรก ความมันจากอาหาร และความสามารถในการดับกลน่ิ คำวทีต่ ดิ จำนได้ โดยการเลือก
นำเอาเปลือกสบั ปะรดทเ่ี หลอื ใชจ้ ากห้องอาหารภายในโรงแรมของพนักงานมารีไซเคิล ซ่งึ ถอื ไดว้ ่าเปน้
การรช่วยลดปริมาณของขยะ และวัตถดุ บิ ที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์เป็นจำนวนมากจากกแผนกครัวภายใน
โรงแรมทั้งยังสามารถชว่ ยรักษาสงิ่ แวดล้อมได้อีกด้วย
นายณฐพงศ์ สิริจรรยาธรรม,นายภูธเรศ ตันธเนศ (2561) งานวิจัยนี้ทางคณะผู้จัดทํามีความ
สนใจที่จะนําวัตถดุ ิบเหลือใช้มารีไซเคิลเป็น “นํ้ายาล้างจานขจดั คราบสูตรมะนาว” โดยวัตถุดิบเหลือ
ใช้นั้นนํามาจากการกําจัดวัตถุดิบของโรงแรมโดยใช้ระบบ HACCP คือ การวิเคราะห์จุดวิกฤตที่ต้อง
ควบคุมของวัตถุดิบให้ผ่านตามเกณฑ์มาตรฐานที่โรงแรมกําหนดไว้แต่ว่าวัตถุดิบจากที่ผู้จัดทําได้
เลือกใช้นั้นยังไม่หมดอายุแต่เพียงว่าจําเป็นต้องกําจัดทิ้งจึงนํามาใช้ทํานํ้ายาล้างจานขจัดคราบสูต ร
มะนาวซ่ึงมวี ัตถุประสงคเ์ พ่ือทาํ ความสะอาดอปุ กรณ์ในครัวได้มีประสทิ ธิภาพมากข้ึนเนื่องจากอุปกรณ์
ท่ีได้ใช้ในครวั จะมีปัญหาเรื่องของคราบไขมัน ซง่ึ ทาํ ให้การชําระล้างความมันออกยาก ดังนั้นผู้จัดทํามี
ความเห็นในการนําวัตถุดิบที่เหลือมาใช้ให้เกิดประโยชน์และลดต้นทุนค่าใช้จ่ายของนํ้ายาล้างจาน
จากการทค่ี ณะผู้จัดทําทดลองทาํ “นํ้ายาล้างจานขจดั คราบสูตรมะนาว” เรยี บร้อยแลว้ และได้นาํ มาให้
พนักงานแผนกครัวทดลองใช้หลังจากนั้นได้ทําการสํารวจความพึงพอใจโดยการแจกแบบสอบถาม
ให้กับพนักงานแผนกครัวของโรงแรม จํานวน 30 คน สรุปได้ว่า ความพึงพอใจผลิตภัณฑ์ “นํ้ายาล้าง
จานขจัดคราบสูตรมะนาว”พบว่าคุณลักษณะในด้านสามารถทําความสะอาดอุปกรณ์เครื่องใช้ภายใน
ครัว และด้านความชอบโดยรวมมีความพึงพอใจเฉลี่ยในระดบั มากทสี่ ดุ สรุปไดว้ ่า “น้ํายาลา้ งจานขจัด
คราบสูตรมะนาว”สร้างประโยชน์และยังสามารถลดต้นทุนค่าใช้จ่ายให้กับสถานประกอบการได้ตาม
วตั ถุประสงคท์ ี่ตัง้ ไว้
22
บทท่ี 3
วิธีการดำเนินงาน
โครงงาน เรอ่ื งน้ำยาล้างจานขจัดคราบสตู รสมุนไพร ผูศ้ ึกษาได้กาํ หนดรายละเอยี ดวธิ กี ารดําเนนิ งาน
ตามหัวข้อต่อไปนี้
3.1 กลุ่มตวั อยา่ งทใ่ี ช้ศกึ ษา
3.1.1 พ่อบา้ น แม่บ้าน หมู่บา้ นแม่แทน ตำบลช่างเค่ิง อำเภอแมแ่ จ่ม จงั หวดั เชยี งใหม่
3.1.2 พ่อบ้าน แม่บ้าน หมบู่ า้ นแม่มิงคิ์ ตำบลชา่ งเคิ่ง อำเภอแมแ่ จ่ม จงั หวดั เชียงใหม่
3.2 สถานที่
3.2.1 ศาลาหมบู่ า้ น บา้ นแม่แทน
3.2.2 ศาลาหมู่บา้ น บา้ นแม่มิงคิ์
3.3 เครือ่ งมอื วัสดุ อุปกรณ์ สารเคมี พชื สมนุ ไพร
3.3.1 วัสดอุ ปุ กรณ์
1. ผ้าขาวบาง 2. หมอ้ 3. ทพั พี 4. เขยี ง
8. เครื่องชั่ง
5. มดี 5. มดี 6. ชอ้ น 7. เตาแก๊ส
4. นำ้ เปล่าสะอาด
9. ขวดบรรจภุ ณั ฑ์ 10. กระบอกตวง 8. เกลอื ปน่
3.3.2 สารเคมี 4. อัญชนั
1. หวั เชอื้ N70 2. หวั เชอ้ื F24 3. หัวเช้อื น้ำหอมใบเตย
5. ผงกุหลาบ 6. ผงเปลอื กมงั คุด 7. ผงสารกนั บดู
3.3.3 พืชสมนุ ไพร
1. มะนาว 2. มะกรดู 3. มะขาม
3.4 งบประมาณ/ค่าใช้จ่ายในการทำโครงงาน ราคา 75 บาท
3.4.1 ค่าขวดบรรจภุ ัณฑ์ ราคา 360 บาท
3.4.2 ค่าหวั เชอื้ N70 ราคา 148 บาท
3.4.3 คา่ หัวเชื้อ F24 ราคา 169 บาท
3.4.4 ค่าหวั เชอื้ กลิน่ ใบเตย ราคา 94 บาท
3.4.5 ค่าผงสารกันบดู ราคา 126 บาท
3.4.6 ค่าผงกุหลาบ ราคา 89 บาท
3.4.7 คา่ ผงเปลอื กมงั คุด
23
3.5 ขัน้ ตอนการดำเนินงาน ปี พ.ศ. 2564 - 2565
3.5.1 ตารางวางแผนการดำเนนิ งาน พ.ย. ธ.ค. ม.ค. ก.พ. ม.ี ค.
รายละเอียดวิธีการโครงงาน
1.หาสาเหตขุ องการทำน้ำยาลา้ งจานขจัดคราบสตู รสมุนไพร
2.ประชมุ และวางแผนงานแบ่งงานตามความเหมาะสม
3.ศึกษาหาความรู้ในการทำน้ำยาลา้ งจานขจัดคราบสูตร
สมนุ ไพร
4.ทดลองทำสตู รน้ำยาล้างจานขจัดคราบสตู รสมนุ ไพร
5.นำนำ้ ยาล้างจานขจดั คราบสูตรสมุนไพรให้กลุม่ ตัวอยา่ ง
ทดลองใช้ และสำรวจความพึงพอใจ
6.สรปุ ผลการทดลอง
7.จดั ทำรูปเลม่ โครงงานนำ้ ยาลา้ งจานขจดั คราบสูตรสมุนไพร
8.นำเสนอขอ้ มูลแก่ครปู ระจำวชิ า
3.5.2 วิธีการดำเนนิ งาน
1. ประชุมเพื่อแบง่ งานตามความเหมาะสม
2. ศกึ ษาเน้ือหาเกี่ยวกับการทำน้ำยาล้างจานขจัดคราบสูตรสมนุ ไพร
3. รวบรวมขอ้ มลู ในการทำนำ้ ยาลา้ งจานขจัดคราบสูตรสมนุ ไพร
4. ทดลองทำน้ำยาลา้ งจานขจัดคราบสตู รสมุนไพร ทงั้ 3 สตู ร
- สตู รมะนาว
- สตู รมะกรูด
- สตู รมะขาม
5. นำน้ำยาล้างจานขจัดคราบสูตรสมนุ ไพรเพ่อื ให้กลุ่มตัวอย่างทดลองใช้ และเพื่อสำรวจ
ความพึงพอใจ
6. สรปุ ผลการทดลอง
7. จดั ทำรปู เล่มโครงงานน้ำยาล้างจานขจัดคราบสูตรสมุนไพร
8. นำเสนอขอ้ มลู แก่ครปู ระจำวิชา
24
3.6 เครอ่ื งมอื และวธิ กี ารสรา้ งเครอ่ื งมือ
3.6.1 เคร่อื งมือ
เครอ่ื งมอื ท่ีใชใ้ นการศึกษา คือ แบบสอบถาม (question naire) ซ่ึงเป็นเครอ่ื งมอื ท่ใี ช้ใน
การเกบ็ รวมรวมข้อมูลโดยการออกแบบตามข้อมลู ทีผ่ ศู้ ึกษาได้สํารวจ และอ้างองิ จากตัวอยา่ งใน
อนิ เตอร์เน็ตและนาํ มาปรบั ปรุงให้เหมาะสมตามเรื่องของผศู้ ึกษา ในครั้งน้ีแบง่ เนื้อหาออกเปน็ ของ
คาํ ถามออกเปน็ 3 ส่วน ดังนี้
ส่วนที่ 1 ขอ้ มูลทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถาม โดยคําถามมีลกั ษณะเปน็ แบบสํารวจ
รายการ(Checklist)
สว่ นท่ี 2 ตอบคาํ ถามเกย่ี วกบั น้ำยาลา้ งจานขจดั คราบสูตรสมุนไพร โดยคําถามมีลักษณะ
เปน็ แบบสํารวจราย(Checklist)
สว่ นท่ี 3 คะแนนความพึงพอใจเม่ือทดลองใช้ผลิตภัณฑ์นำ้ ยาลา้ งจานขจัดคราบสตู ร
สมนุ ไพร ท้งั 3 สตู ร โดยมลี กั ษณะเปน็ แบบ มาตรสว่ นประมาณคา่ (Rating Scale) โดยจาํ แนกเป็น 5
ดา้ น ได้แก่
1. ความสามารถในการทำความสะอาดภาชนะต่าง ๆ
2. ไมร่ ะคายเคืองต่อผิว
3. กล่ินของผลิตภณั ฑ์
4. ความสวยงามของผลิตภณั ฑ์
5. ความชอบโดยตรง
3.6.2 วิธกี ารสรา้ งเคร่อื งมือ
1. ศกึ ษาข้อมลู เกี่ยวกบั การทําแบบสอบถาม และศึกษาขอ้ มูลเกี่ยวกับตวั อยา่ งของการ
ทำแบบสอบถามจากอนิ เตอรเ์ นต็ เพอื่ เปน็ แนวทางในการสร้างแบบสอบถาม
2. ออกแบบการสรา้ งแบบสอบถาม โดยปรึกษาครทู ี่ปรกึ ษาประจาํ วิชานําแบบสอบถาม
แบบมาตราสว่ นประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ คือ มากทีส่ ุด มาก ปานกลาง น้อย นอ้ ยทส่ี ุด ใช้
ในการรวบรวมขอ้ มลู เกยี่ วกบั ความพึงพอใจเม่ือทดลองใช้น้ำยาล้างจานขจดั คราบสตู รสมุนไพร ทง้ั 3
สตู รโดยจําแนกเปน็ 5 ดา้ น ไดแ้ ก่ ;
1. ความสามารถในการทำความสะอาดภาชนะตา่ ง ๆ
2. ไมร่ ะคายเคืองต่อผวิ
3. กลิ่นของผลิตภัณฑ์
4. ความสวยงามของผลติ ภัณฑ์
5. ความชอบโดยตรง
25
3.7 การเกบ็ รวบรวมข้อมูล
ผู้จัดทำได้ศึกษา และดาํ เนินการเก็บรวบรวมโดยวธิ กี ารแจกแบบสอบถามดว้ ยตนเองซ่งึ มขี ้นั ตอน
การดําเนนิ งาน ดงั นี้ ว
1. สร้างแบบสอบถามและจดั พิมพแ์ บบสอบถาม
2. ดาํ เนินการเกบ็ รวบรวมข้อมูลโดยวิธีแจกแบบสอบถามให้กลมุ่ ตัวอย่าง จาํ นวนท้ังหมด 30 คน
และเกบ็ รวบรวมข้อมูลกลับด้วยตนเอง
3.8 การจัดกระทาํ ข้อมูล
1. ทางคณะผูจ้ ดั ทำไดร้ บั แบบสอบถามกลับคืน และตรวจสอบความสมบรู ณข์ องแบบสอบถามมี
ความสมบรู ณจ์ ํานวน 30 ฉบับ คดิ เป็น 100%
2. นาํ แบบสอบถามมาตรวจให้คะแนนและคิดคา่ เฉล่ีย (บุญชม ศรสี ะอาด, 2541) ดังน้ี
ความพึงพอใจดีมากทส่ี ุด ให้ 5 คะแนน
ความพึงพอใจดีมาก ให้ 4 คะแนน
ความพึงพอใจดปี านกลาง ให้ 3 คะแนน
ความพงึ พอใจดนี ้อย ให้ 2 คะแนน
ความพงึ พอใจดีน้อยท่ีสดุ ให้ 1 คะแนน
3.9 การวเิ คราะหข์ ้อมูล
ผศู้ กึ ษาดาํ เนินการวเิ คราะห์ข้อมูล ดังนี้
1. วิเคราะห์ขอ้ มลู ความพงึ พอใจเม่ือทดลองใช้น้ำยาลา้ งจานขจดั คราบสูตรสมนุ ไพร โดยการหา
คา่ เฉลย่ี เปน็ รายด้าน
2. นําผลมาวเิ คราะห์มาแปลผล โดยมีเกณฑ์การแปลผลตามแนวคดิ ของ (บญุ ชม ศรสี ะอาด,
2533) ดังนี้
คะแนนเฉล่ยี 4.51 – 5.00 หมายถงึ อยู่ในระดับดมี ากทสี่ ดุ
คะแนนเฉลี่ย 3.51 – 4.50 หมายถึง อยู่ในระดับดมี าก
คะแนนเฉลย่ี 2.51 – 3.50 หมายถึง อยู่ในระดับดปี านกลาง
คะแนนเฉล่ีย 1.51 – 2.50 หมายถึง อยู่ในระดับดนี ้อย
คะแนนเฉลี่ย 1.00 – 1.50 หมายถงึ อยู่ในระดับดีน้อยท่สี ุด
26
3.10 สถิตทิ ่ีใชใ้ นการวิเคราะหข์ ้อมูล
ค่าเฉลยี่ (Mean) เขียนแทนด้วยสัญลกั ษณ์ X ใช้สูตรดังนี้ (สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์
และเทคโนโลยี กระทรวงศึกษาธิการ, 2552)
การหาคา่ เฉลย่ี สามารถคํานวณไดจ้ ากสตู ร
คือ ค่าเฉลีย่ เลขคณิต
คือ ผลบวกของข้อมลู ทง้ั หมดของแตล่ ะดา้ น
คอื จาํ นวนกล่มุ ตวั อย่าง
27
บทท่ี 4
ผลการทดลอง
โครงงาน เรื่องน้ำยาล้างจานขจดั คราบสูตรสมุนไพร มจี ุดประสงคเ์ พื่อให้กล่มุ ตัวอยา่ งได้
ทดลองใชผ้ ลติ ภัณฑน์ ้ำยาลา้ งจานท่ีมีตวั เลอื กหลากหลายย่ิงขนึ้ ผู้จัดทําไดด้ ําเนินการทดลองและบนั ทกึ
ผลการทดลองตามลําดบั ดังนี้
ตอนที่ 1 ผลการวเิ คราะห์ข้อมูลท่ัวไปของกลุ่มตวั อยา่ ง ซึ่งแสดงไวใ้ นตารางที่ 4.1 ดังน้ี
ตารางท่ี 4.1 แสดงจำนวนและร้อยละของกลมุ่ ตวั อยา่ ง จำแนกตามเพศ
สภาพของกลุ่มตัวอยา่ ง จำนวน (คน) ร้อยละ
เพศชาย 10 33
เพศหญิง 20 67
รวม 30 100
จากตารางท่ี 4.1 แสดงว่าในกลุ่มตัวอย่าง 30 คน มีเพศชายจำนวน 10 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 33
และมเี พศหญงิ จำนวน 20 คน คดิ เป็นร้อยละ 67
28
ตอนท่ี 2 ผลการวิเคราะหค์ ่าเฉลยี่ ผลการวิเคราะหข์ ้อมูลที่ไดจ้ ากการสอบถามเก่ียวกับนำ้ ยา
ลา้ งจานขจดั คราบสตู รสมนุ ไพร ท้ังหมด 30 คน ซึ่งแสดงไว้ในตารางที่ 4.2 ดังนี้
ตารางที่ 4.2 ผลการวิเคราะห์คา่ เฉลย่ี ผลการวเิ คราะหข์ ้อมูลที่ไดจ้ ากการสอบถามเกี่ยวกับน้ำยา
ล้างจานขจดั คราบสูตรสมนุ ไพร ทั้งหมด 30 คน
รายการท่ี ระดับความพึงพอใจ
ประเมิน สูตรมะนาว สตู รมะกรูด สูตรมะขาม
5 4 3 21 5 4 3 2 1 5 4 3 2 1
-
ความสามารถใน 23 6 1 - - 20 9 1 - - 24 6 - -
30
การทำความ -
สะอาดภาชนะ 30
-
ตา่ ง ๆ
30
รวม 30 30 -
ไมร่ ะคายเคืองต่อ 21 7 2 - - 24 5 1 - - 27 3 - - 30
-
ผิว 30
รวม 30 30
กลิน่ ของ 19 11 - - - 15 14 1 - - 18 12 - -
ผลิตภัณฑ์
รวม 30 30
ความสวยงามของ 19 11 - - - 17 12 1 - - 19 9 2 -
ผลิตภณั ฑ์
รวม 30 30
ความชอบโดยตรง 17 13 - - - 17 11 2 - - 19 11 - -
รวม 30 30
29
ตอนท่ี 3 ข้อมลู การวิเคราะห์คา่ เฉล่ยี ความพงึ พอใจ
ตารางท่ี 4.3 ข้อมลู การวเิ คราะห์คา่ เฉลีย่ ความพึงพอใจ
รายการท่ีประเมนิ สูตรมะนาว ค่าเฉล่ีย สตู รมะขาม
4.73 สูตรมะกรดู 4.8
ความสามารถในการทำ
ความสะอาดภาชนะตา่ ง ๆ 4.6 3.63 4.9
4.63 4.6
ไม่ระคายเคืองต่อผวิ 4.63 4.8 4.6
กลน่ิ ของผลติ ภณั ฑ์ 4.50
ความสวยงามของ 4.6 4.53 4.63
ผลิตภณั ฑ์ 4.5
ความชอบโดยตรง
จากตารางที่ 4.3 ข้อมลู การวิเคราะห์ค่าเฉลีย่ ผลการวเิ คราะห์ข้อมลู ท่ีไดจ้ าการสอบถามที่เก่ียวกบั
น้ำยาลา้ งจานขจดั คราบสตู รสมุนไพร ท้ังหมด 30 คน พบว่าในด้าน ความสามารถในการทำความ
สะอาดภาชนะต่าง ๆ ไมร่ ะคายเคืองต่อผิว กลิ่นของผลติ ภณั ฑ์ ความสวยงามของผลิตภัณฑ์ และ
ความชอบโดยตรง ระดบั ความพึงพอใจของกลมุ่ ตวั อย่างสว่ นใหญ่อยใู่ นระดับดีมากที่สุดในสูตรมะขาม
ตามดว้ ยสตู รมะนาว และสตู รมะกรูด
30
บทท่ี5
สรุปผล อภปิ รายผล และข้อเสนอแนะ
โครงงาน เรอ่ื งน้ำยาล้างจานขจดั คราบสูตรสมนุ ไพรเพือ่ ที่ทางคณะผ้จู ัดทาํ ได้ทาํ การสรุปผล
การอภิปรายผล และขอ้ เสนอแนะในการทำโครงงาน ดงั น้ี
5.1 สรปุ ผลการศกึ ษา
ความสามารถในการทำความสะอาดภาชนะต่าง ๆ
นำ้ ยาล้างจานขจดั คราบสตู รสมุนไพร ท่ีมคี วามสะมารถในการทำความสะอาดภาชนะต่าง ๆ อยใู่ น
ระดับดมี ากทีส่ ดุ คอื สูตรมะขาม โดยค่าเฉล่ีย 4.8 และสตู รมะนาว โดยคา่ เฉลย่ี 4.73 สว่ นสูตรมะกรดู
น้ัน ไดค้ า่ เฉลีย่ 3.63 ซึ่งอยู่ในระดบั ดีมาก ดังรูปท่ี 5.1
ความสามารถในการทําความสะอาดภาชนะตา่ ง ๆ
สูตรมะขาม สูตรมะนาว
37% 36%
สตู รมะกรูด
27%
สูตรมะนาว สตู รมะกรูด สูตรมะขาม
รูปท่ี 5.1 ความสามารถในการทำความสะอาดภาชนะต่าง ๆ
ท่ีมา : ผ้จู ัดทำ 2564
31
ไม่ระคายเคืองต่อผิว
น้ำยาลา้ งจานขจัดคราบสูตรสมุนไพร ท่ีมีไมร่ ะคายเคืองต่อผวิ อยู่ในระดับดีมากทีส่ ดุ ท้งั 3 สตู ร
ได้แก่ สตู รมะนาว โดยคา่ เฉล่ยี 4.6 สตู รมะกรูด โดยค่าเฉลย่ี 4.8 และสตู รมะขาม โดยค่าเฉลีย่ 3.9 ซง่ึ
อยใู่ นระดับดีมากทีส่ ุด ดังรูปที่ 5.2
ไม่ระคายเคือง
สตู รมะขาม สูตรมะนาว
34% 32%
สตู รมะกรูด สตู รมะขาม
34%
สูตรมะนาว สตู รมะกรดู
รูปที่ 5.1 ไม่ระคายเคอื ง
ทม่ี า : ผจู้ ดั ทำ 2564
32
กล่ินของผลิตภัณฑ์
นำ้ ยาล้างจานขจดั คราบสูตรสมนุ ไพร ทมี่ ีกลิ่นของผลติ ภัณฑ์อยใู่ นระดบั ดีมากที่สุดคอื สูตมะนาว
โดยค่าเฉลย่ี 4.63 และสูตรมะขาม โดยคา่ เฉล่ยี 4.6 ส่วนสูตรมะกรูดนัน้ ได้ค่าเฉลีย่ 3.50 ซง่ึ อยู่ใน
ระดบั ดมี าก ดังรูปท่ี 5.3
กลิ่นของผลติ ภณั ฑ์
สูตรมะขาม สูตรมะนาว
33% 34%
สูตรมะกรดู สตู รมะขาม
33%
สตู รมะนาว สูตรมะกรดู
รูปท่ี 5.3 กลิน่ ของผลติ ภัณฑ์
ทีม่ า : ผู้จดั ทำ 2564
33
ความสวยงามของผลิตภัณฑ์
นำ้ ยาลา้ งจานขจัดคราบสตู รสมุนไพร ท่ีมีความสวยงามของผลิตภณั ฑ์อยูใ่ นระดบั ดมี ากทส่ี ุดคือ
สตู มะนาว โดยคา่ เฉลย่ี 4.63 และสูตรมะขาม โดยคา่ เฉลย่ี 4.6 ส่วนสูตรมะกรูดนัน้ ได้ค่าเฉลี่ย 3.53
ซง่ึ อยู่ในระดบั ดีมาก ดังรปู ท่ี 5.3
ความสวยงามของผลิตภณั ฑ์
สตู รมะขาม สูตรมะนาว
33% 34%
สูตรมะกรูด
33%
สตู รมะนาว สตู รมะกรดู สูตรมะขาม
รูปท่ี 5.4 ความสวยงามของผลติ ภัณฑ์
ทมี่ า : ผจู้ ดั ทำ 2564
34
ความชอบโดยตรง
นำ้ ยาล้างจานขจัดคราบสตู รสมุนไพร ที่มีความชอบโดยตรงอยใู่ นระดับดีมากทีส่ ดุ คือ สูตมะขาม
โดยคา่ เฉล่ยี 4.63 และสตู รมะนาว โดยค่าเฉล่ีย 4.6 ส่วนสูตรมะกรูดนน้ั ไดค้ า่ เฉล่ยี 4.5 ซึ่งอยูใ่ นระดบั
ดีมาก ดังรูปท่ี 5.5
ความชอบโดยตรง
สูตรมะขาม สตู รมะนาว
34% 33%
สูตรมะกรูด สตู รมะขาม
33%
สูตรมะนาว สตู รมะกรดู
รปู ที่ 5.4 ความชอบโดยตรง
ท่ีมา : ผจู้ ดั ทำ 2564
35
5.2 อภิปรายผลการศกึ ษา
จาการทดลองทำผลติ ภณั ฑน์ ้ำยาล้างจาขจัดคราบสตู รสมุนไพร ทง้ั 3 สูตร ไดแ้ ก่ 1)สูตรมะนาว 2)
สตู รมะกรดู และ 3)สูตรมะขาม ในการทดลองน้ี เพ่ือเปรยี บเทียบนำ้ ยาล้างจานทั่วไปตามทอ้ งตลาดกับ
นำ้ ยาลา้ งจานขจดั คราบสูตรสมนุ ไพร ซง่ึ ในสูตรมะนาวน้ัน มกี ารใชส้ ีจากผงกุหลาบ ซง่ึ ได้สีออกมาเป็น
สีแดง และกล่นิ จากหัวเชอื้ กลน่ิ ใบเตย สตู รมะกรดู มกี ารใช้สีจากอัญชนั ซ่งึ ได้สีออกมาเป็นสีม่วง และ
กลิน่ จากหวั เชอ้ื กลิ่นใบเตย และสูตรมะขาม มีการใช้สีจากผงเปลอื กมังคดุ ซึง่ จะได้สอี อกมาเปน็ สี
นำ้ ตาล และกลิ่นจากหวั เชือ้ กลนิ่ ใบเตย ซึ้งท้ัง 3 สตู รนนั้ มกี ารใชห้ วั เชอื้ N70 เท่ากนั ทั้ง 3 สูตร ท่ี
ปรมิ าณ 500 กรัม ใช้หัวเช้ือ F24 เท่ากัน ท่ีปรมิ าณ 150 กรมั ใช้หวั เชอ้ื กล่ินใบเตยเท่ากนั ทป่ี ริมาณ
15 มลิ ลิลิตร ใชส้ ารกนั บดู เท่ากนั ที่ปริมาณ 5 กรมั ใชเ้ กลือป่นเท่ากัน ทีป่ รมิ าณ 15 กรมั และใช้
นำ้ เปลา่ สะอาดเท่ากันทีป่ ริมาณ 500 มิลลลิ ติ ร และน้ำยาล้างจานขจดั คราบสูตรสมนุ ไพรที่ทางคณะ
ผ้จู ัดทำได้ทำข้นึ นน้ั มปี ระโยชน์ ดงั นี้
1. เพ่ือใหช้ าวบา้ นในชมุ ชนบา้ นแมแ่ ทนและบ้านแม่มิงค์ิ ได้ตระหนักถึงการเลือกใชน้ ำ้ ยาล้า
จานในการทำความสะอาดภาชนะเพ่มิ ยิง่ ขึน้
2. เป็นการใชพ้ ชื สมนุ ไพรในท้องถ่ิน ในชุมชนให้เกดิ ประโยชน์สงู สดุ
5.3 ข้อเสนอแนะ
1) ชาวบา้ นหรอื กลุม่ ตัวอยา่ งท่ที ดลองใช้ผลิตภณั ฑข์ องเรา ในชมุ ชนบ้านแมแ่ ทนและบา้ นแม่มิงค์ิ
ควรได้ความรู้และความเขา้ ใจ เก่ียวกับการทำผลติ ภัณฑน์ ำ้ ยาล้างจานใช้เอง
2) ควรปอ้ งกนั อัตรายจากการใช้น้ำยาลา้ งจานท่ีวางขายตามท้องตลาดทวั่ ไป โดยการสวมถุงมอื
ยางทกุ ครงั้ เมื่อลา้ งภาชนะต่าง ๆ
3) เห็นประโยชน์ของพชื สมนุ ไพรในชุมชนโดยการนำพชื สมนุ ไพรในชุมชนมาใช้ เพ่ือเกดิ การ
ทดลอง และใชป้ ระโยชน์ในวนั ข้างหน้า
36
บรรณานุกรม
นายภมู กิ ฤษฏิ์ เทา้ ทอง , นางสาวณัฐวดี ศรีนวล , นางสาวทาริกา อมรรตั น์พจิ ติ , นางสาวสุ
พรรณี จนั ทร์เปรม , นางสาวปารวี กลิ่นค้มุ . (2554). ผลิตภัณฑ์ล้างจานจากมะกรดู . ราชบรุ ี. โรงเรียน
กรับใหญ่วิองกศุ ลกิจพิทยาคม.
นายณฐพงศ์ สิริจรรยาธรรม , นายภูธเรศ ตันธเนศ. (2561). น้ำยาลา้ งจานขจดั คราบสตู รมะนาว.
กรงุ เทพฯ. คณะศิลปะศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม.
นางสาวกาญจนา ใจเยน็ , นางสาวเจนจิรา กะสมรัมย์ และนางสาวรศั มี วาระรมั ย์. (2558). น้ำยา
ลา้ งจานจากมะนาว. บุรรี มั ย์. โรงเรียนภทั รบพติ ร.
นางสาวสุวรรณา กณุ รกั ษ์ , นางสาวอรวรรณ เครอื ตำ และนางสาวอรวรา เยน็ พนั ธ. (2560).
ผลติ ภณั ฑน์ ้ำยาล้างจานจากเปลือกสปั ปะรด. กรงุ เทพฯ. คณะศิลปะศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั สยาม.
เอกสารอา้ งองิ จากเว็บไซต์
http://www.vcharkarn.com/vcafe/45359
https://home.kapook.com/view162531.html
http://www.the.than.com/samonpai/sa_16.html
http://www.chemtrack.org/Board-Detail.asp?TID=0&ID=609
http://bumblebee-b-blogger.blogspot.com/2011/02/blog-post.html
ภาคผนวก
ภาคผนวก ก
ตัวอย่างแบบสอบถาม
“นำ้ ยาลา้ งจานขจัดคราบสตู รสมนุ ไพร”
แบบสอบถามการประเมินความพึงพอใจ
“น้ำยาลา้ งจานขจดั คราบสูตรสมนุ ไพร”
คำชี้แจง :แบบสอบถามฉบบั นจี้ ัดทำขึน้ เพื่อใช้เปน็ สว่ นประกอบในการทำโครงงานวจิ ัยใหส้ ำเรจ็
ตามวตั ถุประสงค์ ทางผ้จู ดั ทำจงึ ขอความรว่ มมือในการกรอบแบบสอบถาม ด้วยขอ้ มูลตามความจริง
แบบสอบถามแบง่ ออกเป็น 2 ส่วน ดังน้ี
สว่ นท่ี 1 ข้อมูลทัว่ ไป
คำชี้แจง กรณุ าใสเ่ คร่ืองหมาย ลงในชอ่ ง ทีท่ ่านตอ้ งการเลือก
1.เพศ ชาย หญิง
2.ช่อื -สกลุ ..........................................................................
3.อายุ 1.20-25 ปี 2.26-35 ปี
3.36-40 ปี 4.41 ปขี ้ึนไป
สว่ นท่ี 2 ความพึงพอใจของกลุ่มแม่บา้ น ท่ีมีต่อ “น้ำยาล้างจานขจัดคราบสูตรสมุนไพร”
คำชแ้ี จง กรณุ าใสเ่ ครอ่ื งหมาย ลงในช่อง “ระดบั ความพึงพอใจ”
รายการที่ประเมิน ความพึงพอใจ
สตู รมะนาว สูตรมะกรดู สูตรมะขาม
5432 1 5 4 3 21 5 4 3 2 1
ความสามารถในการทำความสะอาด
ภาชนะตา่ ง ๆ
ไมร่ ะคายเคืองต่อผวิ
กลน่ิ ของผลิตภณั ฑ์
ความสวยงามของผลติ ภณั ฑ์
ความชอบโดยตรง
ความคดิ เหน็ เพิ่มเตมิ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………..
ขอขอบพระคุณเปน็ อย่างสงู