โครงงาน
เรื่อง กรีดยาง เก็บยางและแปรรูปยางพารา
คณะผู้จัดท า
นาย ณัฐดนัย เพชรรัตน์ นาย สรวิศ เรืองแก้ว
นาย ณภัทร รัตนบุรี นาย สุวิจักขณ์ สุวรรณรัตน์
นางสาว กชนิภา รัตนบุรี นางสาว กรกมล สุขย้อย
นางสาว นภสร ทวีพงศ์ศักดิ์ นางสาว เปี่ยมสุข บุญละออง
อาจารย์ที่ปรึกษา
คุณครู วรรณวิโรจน์ ศรีพุฒ
โครงงานฉบับนี้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาวิชาประวัติศาสตร์
ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565
โรงเรียนสตรีทุ่งสง
โครงงาน
เรื่อง กรีดยาง เก็บยางและแปรรูปยางพารา
คณะผู้จัดท า
นาย ณัฐดนัย เพชรรัตน์ นาย สรวิศ เรืองแก้ว
นาย ณภัทร รัตนบุรี นาย สุวิจักขณ์ สุวรรณรัตน์
นางสาว กชนิภา รัตนบุรี นางสาว กรกมล สุขย้อย
นางสาว นภสร ทวีพงศ์ศักดิ์ นางสาว เปี่ยมสุข บุญละออง
อาจารย์ที่ปรึกษา
คุณครู วรรณวิโรจน์ ศรีพุฒ
โครงงานฉบับนี้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาวิชาประวัติศาสตร์
ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565
โรงเรียนสตรีทุ่งสง
โครงงาน
เรื่อง กรีดยาง เก็บยางและแปรรูปยางพารา
ประเภทวิชา ประวัติศาสตร์ สาขาวิชา ภูมิปัญญาท้องถิ่น
ผู้จัดท า
นาย ณัฐดนัย เพชรรัตน์
นาย สรวิศ เรืองแก้ว
นาย ณภัทร รัตนบุรี
นางสาว กชนิภา รัตนบุรี
นางสาว กรกมล สุขย้อย
นางสาว นภสร ทวีพงศ์ศักดิ์
นางสาว เปี่ยมสุข บุญละออง
ครูที่ปรึกษา คุณครู วรรณวิโรจน์ ศรีพุฒ
ต าแหน่ง ครูประจ ากลุ่มสาระ สังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม
สถานศึกษา โรงเรียนสตรีทุ่งสง นครศรีธรรมราช
ปีการศึกษา 2565
ก
หัวข้อโครงงาน กรีดยาง เก็บยางและแปรรูปยางพารา
ประเภทของโครงงาน โครงงานสาธิตและน าเสนอข้อมูล
ผู้เสนอโครงงาน : นายณภัทร รัตนบุรี นักเรียน
นางสาวกชนิภา รัตนบุรี นักเรียน
นางสาวกรกมล สุขย้อย นักเรียน
ครูที่ปรึกษาโครงงาน : คุณครู วรรณวิโรจน์ ศรีพุฒ
ปีการศึกษา 2565
บทคัดย่อ
การจัดท าโครงงานในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสาธิตขั้นตอนวิธีการกรีด-เก็บ
ยางพาราเเละบอกประโยชน์ของยางพาราเพื่อน ามาเเปรรูป ซึ่งจากการศึกษาค้นคว้า
ข้อมูลภายในท้องถิ่นของอ าเภอทุ่งสงเเละสถานที่ในต าบลควนกรดเเล้วพบว่าอาชีพที่
คนในชุมชนส่วนใหญ่ท านั้นคือ อาชีพกรีดยาง เเละจากการได้ศึกษาข้อมูลพบว่า
ยางพาราเป็นพืชเศรษฐกิจที่สร้างรายได้ให้แก่เกษตกรชาวสวนยางทางภาคใต้ ส่วน
ใหญ่หลายครัวเรือนเเละมีคุณสมบัติยืดหยุ่นสามารถน ามาเเปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ
เพื่อใช้ในชีวิตประจ าวันได้ เช่น ยางรถยนต์ หมอน ที่นอน เป็นต้น เเละเพิ่มมูลค่าให้เเก่
ยางพารามากขึ้น
บทที่ 1
บทน า
ที่มาและความส าคัญของโครงงาน
กรีดยางเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านอาชีพของทางภาคใต้ ซึ่งประชากรทาง
ภาคใต้ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพกรีดยาง เนื่องจากทางภาคใต้ของประเทศไทยเป็น
คาบสมุทรด้านตะวันออกอ่าวไทยเเละตะวันตกด้านอันดามัน เเละมีลักษณะภูมิอากาศ
เเบบมรสุมเมืองร้อนจึงท าให้มีฝนตกตลอดปี มีอุณหภูมิ30องศาขึ้นไป
เหมาะเเก่การปลูกต้นยางพารา นอกจากนี้ยางพารายังเป็นเเหล่งรายได้หลักให้กับ
หลายๆครัวเรือนเเละน ายางพารามาเเปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆที่ใช้ในชีวิตประจ า
เช่น ที่นอน หมอน รองเท้า เป็นต้น
เนื่องจากได้ศึกษาเกี่ยวกับลักษณะวิถีชีวิตของผู้คนในท้องถิ่นอ าเภอทุ่งสง
ี
พบว่าในหลายๆต าบลในอ าเภอนี้ส่วนใหญ่ประกอบอาชพกรีดยางเเละมีที่รับซื้อขาย
น้ ายางเเละยางพาราเเบบไม่เเปรรูปหลายเเห่งเเละจากการศึกษาเกี่ยวกับอาชีพนี้ท าให ้
พบว่าการกรีด เก็บ เเละเเปรรูปยางพารานั้นมีขั้นตอนเเละวิธีที่มีรายละเอียดให้ศึกษา
ดังนั้นทางคณะผู้จัดท าจึงได้ท าโครงงานเรื่องนี้ เพราะอาชีพนี้ทางภาคใต้
สามารถพบได้ทั่วไปในชีวิตประจ าวันเเละจากการได้ศึกษาข้อมูลเเละกระบวนการ
ต่างๆเกี่ยวกับอาชีพนี้เราจึงน าข้อมูลมาจัดท าเเละน าเสนอเกี่ยวกับอาชีพนี้ให้เป็นที่
รู้จักในวิธีการขั้นตอนการท าเพื่อถ่ายทอดอีกภูมิปัญญาหนึ่งของภาคใต้
วัดถุประสงค์
1. เพื่อสาธิตวิธีการกรีด-เก็บยางพารา
2. ให้ความรู้เเละน าเสนอข้อมูลเกี่ยวกับอาชีพเกี่ยวกับยางพารา
3. เพื่อเป็นเเนวทางให้พิจารณาเลือกประกอบอาชีพทางการการเกษตร
ขอบเขตของการศึกษาค้นคว้า
1. การกรีดยางของคนในท้องถิ่นภายในชุมชน ต าบล และอ าเภอทุ่งสง
2. จัดท าเเละน าเสนออาชีพกรีดยางภูมิปัญญาด้านอาชีพของทางภาคใต้ให้คน
ทั่วไปรู้จัก
5
ระยะเวลาในการศึกษาค้นคว้า
วันที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2565-วันที่ 28 มิถุนายน พ.ศ.2565
สถานที่ในการท างาน
สถานที่ท าโครงงาน หมู่ 1 ต าบลควนกรด อ าเภอทุ่งสง
จังหวัดนครศรีธรรมราชและโรงเรียนสตรีทุ่งสง
งบประมาณ
500 บาท
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
1. ได้เรียนรู้เเละได้ลงมือปฏิบัติงานจริง
2. ได้ศึกษารายละเอียดของภูมิปัญญาอาชีพเเละน าเสนอให้ผู้คนรู้จักมากขึ้น
3. เป็นข้อมูลที่สามารถน าไปพิจารณาเพื่อเลือกประกอบอาชีพทางการเกษตร
6
บทที่ 2
เอกสารและโครงงานที่เกี่ยวข้อง
กรีดยาง
การน าผลผลิตน้ ายางออกมาจากต้นยาง ซึ่งเจ้าของสวนยางควรศึกษา
วิธีการปฏิบัติอย่างถูกต้อง ซึ่งจะท าให้ผลผลิตที่มากแบบยั่งยืนไม่ท าให้ต้นยาง
เสียหาย มีอายุการกรีดนาน การเจริญเติบโตของต้นยางดี ขายไม้ได้ราคาเมื่อโค่นล้ม
เพื่อปลูกแทนใหม่ ยางพันธุ์ดีที่ให้ผลผลิตสูงจ าเป็นต้องใช้วิธีการปฏิบัติที่ถูกต้อง จึง
จะได้ผลคุ้ม การเลือกใช้วิธีการต่างๆ เช่น การเปิดกรีด วิธีการกรีด ระบบกรีด และ
มีดกรีดยางที่ถูกต้อง สามารถที่จะรักษาต้นยางเพื่อให้กรีดได้นาน แต่หากใช้วิธีการ
ปฏิบัติที่ไม่ถูกต้อง นอกจากได้น้ ายางน้อยแล้วยังท าให้ต้นยางเสียหาย เป็นเหตุให้
รายได้ของเกษตรกรลดน้อยลงด้วย โดยการกรีดยางจะต้องยึดหลักที่ว่า เมื่อกรีด
แล้วต้องได้น้ ายางมาก เปลือกเสียน้อยที่สุด แล้วยังสามารถกรีดได้นาน 25-30 ปี
1. ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการกรีด
1.1 ความลึกในการกรีด
ความหนาแน่นของจ านวนท่อน้ ายางมีมากบริเวณเปลือกชั้นใน และมี
มากที่สุดบริเวณใกล้เยื่อเจริญ การกรีดยางจะเหลือส่วนของเปลือกชั้นในสุดถึง 1.3
มิลลิเมตร ซึ่งยังคงเหลือวงท่อน้ ายางไว้บนต้น โดยไม่ได้กรีดถึงร้อยละ 50 และเป็น
ท่อน้ ายางที่สมบูรณ์ที่สุด แต่ถ้ากรีดเหลือ 1 มิลลิเมตรจากเยื่อเจริญ จะกรีดได้ร้อย
ละ 52 ของท่อน้ ายาง หรือถ้ากรีดเหลือ 0.5 มิลลิเมตร จะตัดวงท่อน้ ายางได้ถึงร้อย
ละ 80 ดังนั้น การกรีดให้ได้น้ ายางมากจึงควรกรีดให้ใกล้เยื่อเจริญมากที่สุด แต่
หากกรีดลึกเกินไปหน้ายางจะเป็นแผล เปลือกงอกใหม่ ไม่สามารถกรีดต่อไปได้ การ
กรีดจะกรีดได้ลึกหรือไม่นั้น ขึ้นกับความช านาญของคนกรีด
1.2 ขนาดของงานกรีด
จ านวนต้นยางที่คนกรีดสามารถกรีดได้แต่ละวัน ซึ่งขึ้นอยู่กับขนาดของ
ต้นยาง ความยาวรอยกรีด ลักษณะของพื้นที่ ความช านาญของคนกรีด และ
ช่วงเวลาการไหลของน้ ายาง ปกติการกรีดครึ่งล าต้น คนกรีดคนหนึ่งสามารถกรีดได้
450-500 ต้นต่อวัน และการกรีด 1/3 ของล าต้น คนกรีดคนหนึ่งสามารถกรีดได้
650-700 ต้นต่อวัน
7
1.3 เวลาที่เหมาะสมส าหรับการรีดยาง
ผลผลิตน้ ายางจะขึ้นอยู่กับความเต่งของเซลล์ ซึ่งมีผลต่อความดันภายใน
ท่อน้ ายาง ในช่วงกลางวันความเต่งของเซลล์จะลดต่ าลง สาเหตุมาจากการคายน้ า
โดยจะเริ่มลดต่ าหลังดวงอาทิตย์ขึ้นจนถึงเวลา 13.00-14.00 น. จะลดลงต่ าสุด
หลังจากนั้นจะเริ่มเพิ่มขึ้นจนกลับสภาพเดิมเมื่อเวลากลางคืน
1.4 ความสิ้นเปลืองเปลือก
การกรีดเปลือกหนาหรือบาง ไม่มีผลกระทบต่อผลผลิต การกรีดที่ใช ้
ความถี่ของการกรีดต่ าจะสิ้นเปลืองเปลือกต่อครั้งกรีดมากกว่าการกรีดที่ใช้ความถี่
ของการกรีดสูง แต่เมื่อรวมความสิ้นเปลืองเปลือกทุกครั้งที่กรีดแล้วจะน้อยกว่า ถ้า
หากความสิ้นเปลืองเปลือกในรอบปีของการกรีดวันเว้นวัน (d/2) คือ ร้อย
ละ 100 การกรีดวันเว้น 2 วัน สิ้นเปลืองเปลือกร้อยละ 75 และการกรีดวัน
เว้น 3 วัน สิ้นเปลืองเปลือกร้อยละ 60 การกรีด 2 วันเว้นวัน สิ้นเปลืองเปลือกร้อย
ละ 140 การกรีด 3 วันเว้นวัน สิ้นเปลืองร้อยละ 150 และการกรีดทุกวัน สิ้นเปลือง
เปลือกร้อยละ 190 โดยปกติการกรีด วันเว้นวัน สิ้นเปลืองเปลือก แต่ละครั้งกรีด
ระหว่าง 1.7-2.0 มิลลิเมตร หรือไม่เกิน 25 เซนติเมตรต่อปี
1.5 ความคมของมีด
มีดกรีดยางควรลับให้คมอยู่เสมอ เพราะจะท าให้ตัดท่อน้ ายางดีขึ้นและ
สิ้นเปลืองเปลือกน้อยกว่าการใช้มีดกรีดยางที่ไม่คม
8
2. คุณสมบัติที่เกี่ยวข้องกับการปลูกต้นยางพารา
ลูกยางพารา ต้นกล้ายางพารา
ต้นยางพาราอายุ 5-8 โค่นไม้ยางพารา
วงจรชีวิตต้นยางพารา
2.1 พื้นที่ที่จะใช้ปลูกยาง
ควรใช้ดินที่เหมาะแก่การปลูกยางจริงๆ คือ ต้องเป็นดินร่วน ดินชั้นล่าง
ต้องไม่เป็นหินดินดาน หรือลูกรังมากเกินไป หรือเป็นที่ทรายจัด หรือเป็นที่ลุ่มที่ขุด
ลงไปไม่เกิน 1.5 เซนติเมตรก็มีน้ า หรือเป็นที่ที่น้ าท่วมในฤดูฝนเป็นเวลานานทุกป ี
2.2 การเตรียมพื้นที่
2.2.1 หญ้าคา เป็นศัตรูส าคัญของต้นยาง และพืชทุกชนิด จะต้อง
ก าจัดให้หมดก่อนที่จะโค่นไม้ป่า หรือไม้ใหญ่ลง อาจท าได้โดยขุดเอารากออก หรือ
ใช้ยาท าลาย ถ้าทิ้งไว้ท าลายภายหลังการโค่น หญ้าคาจะยิ่งเจริญงอกงามรวดเร็วขึ้น
2.2.2 ดินบน ย่อมมีประโยชน์แก่ต้นไม้มาก ถ้าใช้รถแทรกเตอร์ช่วยขุด
โค่น และเตรียมดิน จะต้องระวังหน้าดิน อย่าให้ถูกกลบเสียหายไปเสียเปล่าๆ
็
ิ
ั
2.2.3 แมลง และสัตว์ เช่น ปลวก เม่น ฯลฯ ที่จะกดกนต้นยาง จ าเปน
จะต้องหาทางป้องกันโดยไม่ท าให้สวนรกรุงรัง วัชพืชในสวนยางพารา วัชพืชในสวน
ยางพารา
9
2.3 การปลูกต้นยาง
ต้นกล้ายางพันธุ์ดีที่จะใช้ปลูกมี 3 ขนาด ด้วยกัน คือ กล้าขนาดเล็ก โคน
ต้นมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 1.5-2 เซนติเมตร กล้าขนาดกลาง โคนต้นมีเส้นผ่าน
ศูนย์กลาง 2-3.5 เซนติเมตร กล้าขนาดใหญ่ โคนต้นมีเส้นผ่านศูนย์กลางตั้งแต่
3.5 เซนติเมตรขึ้นไป
การเก็บน้ ายางพารา
ต้นยางพาราโดยทั่วไปแล้ว สามารถเก็บเกี่ยวเป็นน้ ายางพาราได้
ระยะเวลายาวนานถึง 30 ปีก่อนที่ตัวต้นยางจะค่อยๆ ผลิตน้ ายางในปริมาณที่
น้อยลง เมื่อถึงเวลานั้นเกษตรกรจะโค่นต้นยางลงและเริ่มปลูกใหม่อีกครั้ง หมุนเวียน
ไปเป็นวงจร ไม้ยางพาราถือเป็นวัสดุไม้ที่มีคุณภาพดีในการใช้ผลิตเป็นเฟอร์นิเจอร์
หรือผลิตภัณฑ์ต่างๆจากไม้
แต่เดิมตนยางพารามีถิ่นก าเนิดมาจากแถบอเมริกาใต้ในภูมิอากาศพื้น
้
ถิ่นที่เหมาะสม แต่ปัจจุบันพบได้มากในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และแอฟริกา
ต้นยางพาราไม่สามารถเติบโตได้ในแถบยุโรปเนื่องด้วยสภาพอากาศที่ไม่เหมาะสม
ยางพาราที่มักจะถูกโฆษณาว่ามาจากแถบยุโรปจึงมักเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผสมสาร
สังเคราะห์จากอุตสาหกรรมปิโตรเคมี หรือจากการน าเข้าจากต่างประเทศเท่านั้น
10
รูปเเบบการเเปรรูป
น้ ายางที่กรีดได้ประมาณร้อยละ 90 ถูกผลิตเป็นยางแผ่นดิบ เพื่อน าไป
แปรรูปเป็นยางแผ่นรมควัน ยางแท่ง ยางเครฟ และที่เหลือร้อยละ 10 จะถูกน าไป
แปรรูปเป็นน้ ายางข้น ซึ่งอุตสาหกรรมการแปรรูปยางพาราเป็นอุตสาหกรรมที่มี
ิ
ิ
ความส าคัญต่อเศรษฐกจของประเทศและภาคใต้เปนอุตสาหกรรมที่กอให้เกดการ
่
็
จ้างงานและการสร้างรายได้ให้กับประเทศอย่างมากโดยอุตสาหกรรมยางพาราของ
ประเทศไทยส่วนใหญ่เป็นอุตสาหกรรมแปรรูปขั้นต้นที่น าเอายางพาราสดมาแปรรูป
ให้อยู่ในสภาพที่เหมาะสมและสะดวกในการน าไปใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิต
ผลิตภัณฑ์ยางพาราต่อไป ในอุตสาหกรรมแปรรูป แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ
1) ยางแห้ง ได้แก่ ยางแผ่นรมควัน ยางแท่ง ยางเครฟ ยางแผ่นผึ่งแห้ง และ
ยางสกิม
ลูกโป่ง ยางล้อรถ ถุงมือยาง
2) ยางน้ า ได้แก่ น้ ายางข้น หรือยางลาเท็กซ ์
ยางแผ่นรมควัน ยางเครพ ยางแท่ง
11
ต้นยางพารา
ถ้าหากท่านได้มาเที่ยวหรือมาเยือนที่ภาคใต้ ท่านมักจะได้พบเห็นสวน
ยางพารามากมายหลายสวนหลายร้อยไร่รวมถึงที่รับซื้อน้ ายางสดเเละโรงงานเเปรรูป
น้ ายางอยู่ประปรายตามบริเวณใกล้สวนยางนั้นๆ ต้นยางพารานี้ถือว่าเป็นอีกหนึ่งอาชีพ
็
ั
็
ที่คนภาคใต้ส่วนใหญ่นิยมประกอบกนเปนอาชพหลักไว้เปนรายได้ส าหรับ
ี
ครอบครัว นอกจากนี้ยางพารายังเป็นพืชเศรษฐกิจของไทยอีกด้วย ยางพาราเป็นพืชที่
มีความส าคัญทางเศรษฐกิจของประเทศไทยอีกชนิดหนึ่ง พบว่ามีเกษตรกรตลอดจนผู้ที่
ท าธุรกิจเกี่ยวข้องกับยางพาราประมาณ 1 ล้านครอบครัว จ านวนไม่น้อยกว่า 6 ล้านคน
ประเทศไทยเป็นประเทศที่ส่งออกยางพาราและผลิตภัณฑ์ยางพาราเป็นอันดับ 1 ของ
โลก นับตั้งแต่ พ.ศ. 2534 เป็นต้นมา โดยใน พ.ศ. 2552 ประเทศไทยมีการผลิต
ยางพารา จ านวน 3.16 ล้านตัน มีการส่งออก จ านวน 2.73 ล้านตัน (ร้อยละ 86 ของ
ผลผลิตทั้งหมด) ผลิตเพื่อใชในประเทศ จ านวน 399,415 ตัน (ร้อยละ 12 ของผลผลิต
้
ทั้งหมด) ซึ่งสามารถท ารายได้เข้าประเทศได้ปีละกว่า 400,000 ล้านบาท แต่การส่งออก
ยางพาราส่วนใหญ่อยู่ในรูปวัตถุดิบแปรรูปขั้นต้น ซึ่งมีมูลค่าเพิ่มต่ า เช่น ยางแผ่นรมควัน
ยางแท่ง และน้ ายางข้น ท าให้มีผลต่อการสร้างรายได้เข้าสู่ประเทศและการยกระดับ
รายได้ของเกษตรกรไม่มากเท่าที่ควร และหากเรื่องนี้ได้รับการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพ
มากขึ้น ก็จะส่งผลดีต่อประเทศและเกษตรกรชาวสวนยางพาราอย่างมหาศาล ดังนั้น
ยางพาราก็ยังคงเป็นพืชเศรษฐกิจชนิดหนึ่งที่มีความจ าเป็นในการส่งเสริมอาชีพ
12
ยางพาราเป็นพืชเศรษฐกิจที่มีความส าคัญต่อเศรษฐกิจของภาคใต้และของ
ประเทศไทย โดยเฉพาะน้ ายาง (Latex) ซึ่งเป็นผลิตผลที่ได้จากท่อล าเลียงอาหารใน
ส่วนเปลือกของต้นยางพารา สามารถน ามาใช้เป็นวัตถุดิบในการท าผลิตภัณฑ์ยาง
ชนิดต่างๆ ส าหรับใช้ในอุตสาหกรรมหลายประเภท ตั้งแต่อุตสาหกรรมหนัก
เช่น การผลิตยางรถยนต์ ไปจนถึงอุปกรณ์ที่ใช้ในครัวเรือน น้ ายางที่ได้จากต้น
ยางพารามีคุณสมบัติบางอย่างที่ยางสังเคราะห์ (Synthetic Rubber) ไม่สามารถท า
ให้เหมือนได้ ยางพารานั้นมีคุณสมบัติมีความยืดหยุ่นสูง มีสมบัติดีเยี่ยมในด้านการ
เหนียวติดกัน มีค่าความทนทานต่อแรงดึงสมากโดยไม่ต้องเติมสารเสริมแรง มีความ
ทนต่อการฉีกขาดสูงมากทั้งที่อุณหภูมิห้องและอุณหภูมิสูง มีความต้านทานต่อการ
ล้าตัวสูง มีความต้านทานต่อการขัดถูสูง มีความเป็นฉนวนไฟฟ้าสูงมาก ยางดิบ
ละลายได้ดีในตัวท าละลายที่ไม่มีขั้ว จึงมีประโยชน์มากมายซึ่งสามารถน ามาเเปรรูป
เป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในชีวิตประจ าวันได้หลากหลาย เช่น ที่นอนหรือหมอนจาก
ยางพารา เเผ่นยางปูพื้น ยางรถยนต์ เป็นต้น
13
ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับต้นยาง
ยางพารา เป็นไม้ยืนต้น มีถิ่นก าเนิดบริเวณลุ่มน้ าอะเเมซอน ประเทศ
บลาซิลและประเทศเปรู ทวีปเเอฟริกาใต้ โดยชาวพื้นเมืองเรียกว่า"เกา
ี
ชู" (cao tchu) แปลว่า ต้นไม้ร้องไห้ จนถึงป พ.ศ. 2313 (ค.ศ. 1770)
โจเซฟ พรีสต์ลีย์ พบว่ายางสามารถน ามาลบรอยด าของดินสอได้ จึงเรียกว่ายางลบ
หรือตัวลบ (rubber) ซึ่งเป็นศัพท์ใช้ในประเทศอังกฤษและประเทศเนเธอร์แลนด์
เท่านั้น ศูนย์กลางของการเพาะปลูกและซื้อขายยางในอเมริกาใต้แต่ดั้งเดิมอยู่ที่รัฐ
ปารา(Pará) ของประเทศบราซิล ยางชนิดนี้จึงมีชื่อเรียกว่า ยางพารา
ต้นยางพาราเข้ามาปลูกในประเทศไทย ตั้งแต่สมัยที่ยังใช้ชื่อ
ว่า "สยาม" ประมาณกันว่าควรเป็นหลัง พ.ศ.2425 ซึ่งช่วงนั้น ได้มีการขยายเมล็ด
กล้ายางพารา จากพันธุ์ 22 ต้น น าไปปลูกในประเทศต่าง ๆ ของทวีปเอเชีย และมี
หลักฐานเด่นชัดว่า เมื่อ ปี พ.ศ.2442 พระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักด ี
(คอซิมบี้ ณ ระนอง) เป็นผู้เหมือนหนึ่ง "บิดาแห่งยาง" เป็นผู้ที่ได้น าต้นยางพารามา
ปลูกที่อ าเภอกันตัง จังหวัดตรัง เป็นครั้งแรก
ชนิดของต้นยางพารา เท่าที่รู้จักกันในปัจจุบันยางพาราจะเเบ่งออกเป็น3กลุ่มหลัก
พันธุ์ยางที่ให้ผลผลิตน้ ายางสูง
พันธุ์ยางที่ให้ผลผลิตน้ ายางและเนื้อไม้สูง
พันธุ์ยางที่ให้ผลผลิตเนื้อ ไม้สูง
14
่
ี
การผลิตยางพาราในโลก ในสมัยกอนป พ.ศ. 2443 (ค.ศ. 1900) นั้น ส่วนมากจะ
เป็นยางพาราที่ปลูกในประเทศแถบอเมริกาใต้ คือ ประเทศบราซิล โคลัมเบีย และ
ประเทศปานามาเป็นส่วนใหญ่ นอกจากนั้นยังมียางพาราที่ได้จากประเทศรัสเซีย
และอัฟริกาเป็นบางส่วน โดยในช่วงเวลาก่อนหน้านั้นยางพาราเริ่มมีความส าคัญต่อ
การด ารงชีวิตของมนุษย์มากขึ้นแล้ว โลกจึงมีความต้องการใช้ยางพาราเป็นจ านวน
มาก โธมัส แฮนคอก จึงมีความคิดว่า ถ้าโลก (หมายถึงยุโรป) ยังคงต้องพึ่ง
ยางพาราที่มาจากแหล่งต่างๆ เหล่านั้นเพียงอย่างเดียว ในอนาคตอาจจะเกิดความ
ขาดแคลนยางพาราขึ้นได้ จึงน่าที่จะหาที่ใหม่ๆ ในส่วนอื่นของโลก เพื่อปลูกยาง
เอาไว้บ้าง ในปี พ.ศ. 2398 (ค.ศ. 1855) ได้มีความพยายามน าต้นยางพาราไปปลูก
ในประเทศอินเดีย นับเป็นครั้งแรกของการแพร่กระจายยางพาราสู่ทวีปเอเชีย
15
ลักษณะทั่วไปของต้นยางพารา
เป็นไม้ต้นขนาดกลาง สูง 10-20 เมตร ผลัดใบ เรือนยอดรูปไข่ ค่อนข้าง
กลมหรือรูปกรวย หรือทรงกระบอก ทรงพุ่มไม่แน่นทึบ เนื้อไม้อ่อน ล าต้นเปลา
ตรง มีน้ ายางข้นคล้ายน้ านม เจริญเติบโตได้ดีในพื้นที่ที่มีความชื้นพอเพียง เป็นไม้
โตเร็วและเป็นไม้เศรษฐกิจที่ส าคัญของประเทศไทย
1. เปลือก ต้นอ่อนหรือขณะที่เป็นต้นกล้าสีเขียวอ่อน ผิวเรียบเป็นมันลอกออก
ง่าย ต้นที่มีอายุมากจะมีสีเทาอ่อนเทาด าหรือน้ าตาล เรียบไม่แตก
สะเก็ด แต่จะพบไลเคนเจริญเติบโตเกาะติดอยู่ที่เปลือกเป็นดวงกลมๆ อยู่
ทั่วไป
2. ใบ เป็นใบประกอบแบบนิ้วมือ ออกเรียงเวียนสลับ มีใบย่อย 3 ใบ รูปไข่
กลับแกมขอบขนานหรือรูปรี กว้าง 2.5-5.5 เซนติเมตร ยาว 8-
15 เซนติเมตร ปลายใบเรียวแหลม โคนใบสอบแคบ ขอบใบเรียบหรือ
เป็นคลื่นเล็กน้อย แผ่นใบเรียบเกลี้ยงสีเขียวเข้ม ก้านใบประกอบยาว 10-18
็
ั้
เซนติเมตร ก้านใบย่อยยาว 0.5-1.5 เซนติเมตร ใบอ่อนแตกเปนชน ๆ
เรียกว่า “ฉัตรใบ”
3. ดอก สีเหลืองอ่อนขนาดเล็ก ออกเป็นช่อแบบช่อแยกแขนง ตามซอกใบใกล้
ปลายกิ่งและปลายกิ่ง ช่อดอกยาว 15-30 เซนติเมตร เป็นดอกไม่สมบูรณ์
เพศ แต่อยู่ในต้นเดียวกัน กลีบดอกติดกันเป็นรูปกรวยหรือรูประฆัง ปลาย
แยกออกจากกันเป็น 5 กลีบ ดอกบานเต็มที่กว้าง 0.5-1.0 เซนติเมตร
4. ผล เป็นผลแห้งแบบแคปซูล กลม แบน หรือทรงกระบอก แบ่งออกเป็น 3
พู กว้าง 5- เซนติเมตร ยาว 5-6 เซนติเมตร แต่ละพูมีเมล็ด 1
7
เมล็ด ผลอ่อนสีเขียว เมื่อแก่สีน้ าตาลอมเทา และแตกออก
เปลือกแข็งและหนา เมล็ดทรงกลมหรือทรงกระบอก กว้าง 1.5-
2.0 เซนติเมตร ยาว 2.5-3.0 เซนติเมตร ขั้วและปลายบุ๋ม
เล็กน้อย เปลือกหุ้มเมล็ดมีลวดลายสีน้ าตาลปนเทาอ่อน แข็งเรียบเป็น
มัน คล้ายเมล็ดละหุ่งแต่มีขนาดใหญ่กว่า
16
พันธุ์ยางที่เเนะน าให้ปลูกในประเทศไทย
1. RRIT251 ประเทศไทยจังหวัดสงขลา
ลักษณะดีเด่น ผลผลิตเนื้อยางสูงมาก มีจ านวนต้นเปิดกรีดได้
ี
มาก ต้านทานโรคเส้นด าในระดับด มีจ านวนต้นเปลือกแห้งน้อย
ข้อควรระวัง ในระยะยางอ่อนต้นยางที่ปลูกในพื้นที่ฝนตกชุก ทั้งในแปลง
กิ่งตาและแปลงปลูกจะอ่อนแอต่อโรคใบจุดนูนมาก
2. RRIM600
ลักษณะดีเด่น ผลผลิตเนื้อยางสูง ต้านทานโรคใบร่วงที่เกิดจากเชื้อไฟทอป
ี
โทรา และโรคเส้นด าระดับด มีจ านวนต้นเปลือกแห้งน้อย
ข้อควรระวัง ค่อนข้างอ่อนแอต่อโรคราแป้ง
3. AVROS1734
ลักษณะเด่น ผลผลิตเนื้อยางพาราสูงมากในระยะแรกของการเปิด
กรีด เปลือกหนา เรียบท าให กรีดง่าย ความต้านทานโรคส่วนใหญ่อยู่ในระดับ
้
ดี โดยเฉพาะโรคใบร่วงที่เกิดจากเชื้อไฟทอปโทรา และโรคเส้นด า
ข้อควรระวัง ไม่แนะน าการกรีดที่มีวันกรีดติดต่อกัน เพราะจะท าให ้
ผลผลิตลดลงและต้นยางพาราแสดงอาการเปลือกแห้งได้ง่าย ในระยะยางอ่อนจะ
แตกกิ่งเล็กๆ จ านวนมาก ล าต้นและกิ่งจะมีรอยแตกน้ ายางไหล และลักษณะนี้จะ
ปรากฏมากขึ้น เมื่อปลูกในสภาพพื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์ของดินต่ าและมีปริมาณ
ฝนน้อย
4. PB86
ลักษณะดีเด่น การปรับตัวและให้ผลผลิตได้ดีในเกือบทุกพื้นที่ ทนทานต่อ
การกรีดถี่ได้มากกว่าพันธุ์อื่นๆ และมีจ านวนต้นแสดงอาการเปลือกแห้งน้อย
ข้อควรระวัง อ่อนแอมากต่อโรคใบร่วงที่เกิดจากเชื้อไฟทอปโทรา โรคเส้น
ด า และอ่อนแอต่อโรคราสีชมพู เปลือกเดิมบาง
17
5. PB S/78
ลักษณะดีเด่น ให้ผลผลิตน้ ายางและเนื้อไม้สูง การเจริญเติบโตดีมากในทุก
พื้นที่และต้านทานต่อโรครา สีชมพูระดับด ี
ข้อควรระวัง อ่อนแอมากต่อโรคราแป้งและโรคใบจุดนูน ไม่แนะน าการ
กรีดที่มีวันกรีดติดต่อกัน เพราะจะท าให้ผลผลิตลดลงและต้นยางแสดงอาการ
เปลือกแห้งได้ง่าย
6. PB 32/36
ลักษณะเด่น ผลผลิตเนื้อยางและเนื้อไม้สูง เปลือกหนานิ่มกรีดง่าย และ
ต้านทานลม ค่อนข้างดี
ข้อควรระวัง อ่อนแอต่อโรคใบร่วงที่เกิดจากเชื้อไฟทอปโทรา โรคใบจุดนูน
และโรคราสีชมพู ไม่แนะน าการกรีดที่มีวันกรีดติดต่อกัน เพราะจะท าให้ผลผลิต
ลดลงและต้นยางแสดงอาการเปลือกแห้งได้ง่าย
7. PB 49
ลักษณะดีเด่น ผลผลิตเนื้อยางและเนื้อไม้สูง ต้านทานดีต่อโรคราสีชมพู
และต้านทานลมค่อนข้างดี
ข้อควรระวัง ไม่แนะน าการกรีดที่มีวันกรีดติดต่อกัน เพราะจะท าให้ต้นยาง
แสดงอาการเปลือกแห้งได้ง่าย
8. RRIC 7
ลักษณะดีเด่น ผลผลิตเนื้อยางและเนื้อไม้สูง การเจริญเติบโตดีมากใน
ระยะก่อนเปิดกรีดต้นยางท าให้เปิดกรีดได้เร็ว ต้านทานโรคใบร่วงที่เกิดจากเชื้อไฟ
ทอปโทราระดับดี
ข้อควรระวัง เปลือกบางและน้ ายางเมื่อน าไปท าเป็นยางแผ่นดิบสีค่อนข้าง
คล้ า
18
9. RRIC 110 ill.
ลักษณะดีเด่น ผลผลิตเนื้อไม้สูง ต้านทานโรคใบจุดนูนระดับด ี
10. AVROS 308
ลักษณะเด่น การเจริญเติบโตดีมาก ต้านทานโรคใบร่วงที่เกิดจากเชื้อไฟ
ทอปโทราระดับดี และต้านทานลมในระดับค่อนข้างดี
19
คุณค่าของต้นยางพาราด้านต่างๆ
ด้านเศรษฐกิจ
ยางพาราเป็นพืชเศรษฐกิจที่มีความส าคัญต่อเศรษฐกิจของภาคใต้และของ
ประเทศไทย โดยเฉพาะน้ ายาง (Latex) ซึ่งเป็นผลิตผลที่ได้จากท่อล าเลียงอาหารใน
็
ส่วนเปลือกของต้นยางพารา สามารถน ามาใชเปนวัตถุดิบในการท าผลิตภัณฑ์ยาง
้
ชนิดต่างๆ ส าหรับใช้ในอุตสาหกรรมหลายประเภท ตั้งแต่อุตสาหกรรมหนัก เช่น
การผลิตยางรถยนต์ ไปจนถึงอุปกรณ์ที่ใช้ในครัวเรือน น้ ายางที่ได้จากต้นยางพารามี
คุณสมบัติบางอย่างที่ยางสังเคราะห์ (Synthetic Rubber) ไม่สามารถท าให้เหมือน
ได้
ด้านสังคม
ิ
ี
็
ยางพาราเปนพืชที่ท าให้เกดการสร้างงานและอาชพในชนบท จึงสามารถ
ช่วยลดและแก้ปัญหาการเคลื่อนย้ายของแรงงานจากชนบทสู่สังคมเมือง และส่งผล
ให้เกิดความเข้มแข็งของชุมชน
ด้านสิ่งเเวดล้อม
ยางพาราเป็นพืชที่ทีอายุมากกว่า 20 ปี มีพื้นที่ปลูกทั่วประเทศมากกว่า
12.3 ล้านไร่ กระจายอยู่ทุกจังหวัดในภาคใต้ ยางพาราจึงเป็นพืชทดแทนป่าไม้ที่มี
จ านวนลดลง และเป็นการเพิ่มพื้นที่สีเขียวของประเทศให้มีมากขึ้น อีกทั้งภายใน
สวนยางพารายังมีพืชชนิดอื่นๆ ที่สามารถปลูกร่วมได้ จึงท าให้เกิดความหลากหลาย
ทางชีวภาพมากขึ้น รวมทั้งเป็นที่อาศัยของสัตว์เล็กต่างๆ ตามธรรมชาติ
อุตสาหกรรมไม้ยางพารา
อุตสาหกรรมไม้ยางพาราเป็นอุตสาหกรรมที่เป็นอนาคตของประเทศไทย
ิ
ื
่
ิ
เนื่องจากประเทศต่างๆ เกอบทั่วโลกมีการปดปาท าให้เกดการขาดแคลนไม้ในการ
บริโภค จึงส่งผลให้ไม้ยางพาราเป็นที่ต้องการมากขึ้น นอกจากจะท ารายได้ให้
เกษตรกรชาวสวนยางทางหนึ่งแล้วยังท าให้เกิดรายได้เข้าประเทศมากขึ้นจากการ
ส่งออกผลิตภัณฑ์จากไม้ยางพารา และมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นทุกปีด้วย โดยในเดือน
เมษายน พ.ศ. 2553 ประเทศไทยส่งออกไม้ยางพาราและเฟอร์นิเจอร์จากไม้
ยางพารา คิดเป็นมูลค่า 1,454.80 ล้านบาท
20
อุตสาหกรรมยางพารา
ผลผลิตของยางพารายังสามารถพัฒนาต่อไปในอนาคตได้เนื่องจาก
ผลิตภัณฑ์ยางพาราหลายประเภทได้น ามาใช้ในชีวิตประจ าวันของคนทั่วโลก เช่น
ยางรถยนต์ และเครื่องมือแพทย์ เป็นต้น หากมีการผลิตผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เช่น เขื่อน
ยาง หรือใช้ยางพาราท าถนน ก็จะท าให้มีการใช้ยางพารามากขึ้นซึ่งจะท าให้
ยางพารามีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นนอกจากนี้ยังเป็นโอกาสในการพัฒนาของประเทศไทยใน
ฐานะผู้ผลิตยางพารามากเป็นอันดับหนึ่งของโลกด้วย
อุตสาหกรรมถุงมือยาง
อุตสาหกรรมถุงมือยางจะมีการขยายตัวได้ดีจากความต้องการถุงมือยางใน
ตลาดโลกที่มีอย่างต่อเนื่อง อันเป็นผลมาจากกระแสความวิตกกังวลต่อการรักษา
สุขภาพอนามัยของผู้บริโภคแม้ว่าช่วงต้นปีพ.ศ. 2553ผู้ประกอบการผลิตถุงมือยาง
จะได้รับผลกระทบจากการที่ราคาน้ ายางข้นซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักปรับตัวสูงและขาด
แคลน แต่มีการคาดว่าสถานการณ์ดังกล่าวจะดีขึ้นในช่วงระยะเวลาเมื่อเข้าสู่ฤดูกรีด
ยางพาราใหม่ โดยปริมาณส่งออกถุงมือยางในเดือนเมษายน พ.ศ. 2553 ทั้งประเทศ
มีจ านวน 955.7 ล้านคู่ คิดเป็นมูลค่า 2,274.9 ล้านบาท
21
บทที่ 3
วิธีการจัดท าโครงงาน
วัสดุและอุปกรณ์
วัสดุและอุปกรณ์ที่ใช้ในการจัดท าโครงงาน ได้แก่
1. มีดกรีดยาง
2. ตะเกียง
3. ไม้กวาดน้ ายาง
4. ถังใส่น้ ายาง
5. กระสอบใส่น้ ายาง
5.1 กระสอบนอก
5.1.1 กระสอบปุ๋ย
5.2 กระสอบใน
5.2.1 กระสอบแบบใสและมัน
6. ลิ้นยาง
7. ถ้วยรอง น้ ายาง
8. ลวดแขวนถ้วยน้ ายาง
9. ยางรัดกระสอบใส่น้ ายาง
**หมายเหตุ เครื่องแต่งกายที่แนะน าคือให้เป็นเสื้อผ้าที่เก่าและไม่ได้สวมใส่แล้วและ
ควรเป็นเสื้อแขนยาวและกางเกงขายาวรองเท้าที่แนะน าคือรองเท้าบูท**
22
วิธีการจัดท าโครงงาน
1.วิธีการกรีดยาง
1.1 ใช้มีดที่คมอยู่เสมอ
1.2 กรีดจากซ้ายไปขวา
1.3 กรีดครึ่งต้นวันเว้นวัน
1.4 อย่ากรีดลึกถึงเนื้อไม้
1.5 กรีดบาง ๆ เดือนหนึ่งใช้เปลือกอย่าให้เกิน 1 นิ้ว
1.6 ควรกรีดยางในตอนเช้าเป็นต้นไป 06.00-08.00 น. อย่าให้
เกิน 11.00 น.
1.7 ไม่กรีดยางในขณะที่ต้นยางเปียก
1.8 หยุดกรีดเมื่อยางผลัดใบ
2. วิธีการเก็บยาง
ในช่วงเช้าเวลาประมาณ 6.00-7.00 น. ชาวสวนยางเริ่มเก็บน้ ายางถ้า
หากไปเก็บในช่วงเวลาตั้งแต่ 8.00 น. เป็นต้นไปอากาศร้อนจึงท าให้ไม่ค่อยมี
ชาวสวนยางไปเก็บในเวลานั้น วิธีการเก็บน้ ายาง
2.1 เตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม
2.2 เทน้ ายางลงในถัง
2.3 ใช้ไม้กวาด กวาดน้ ายางในถ้วยน้ ายางให้เกลี้ยง
2.4 เมื่อน้ ายางเริ่มเต็มถังแล้วให้น าไปเทใส่ในกระสอบใส่น้ ายาง
2.5 เมื่อเก็บน้ ายางเสร็จเรียบร้อยแล้วให้น ายางไปรัดปากกระสอบใส่น้ า
ยางแล้วจึงน าน้ ายางไปขาย
23
น้ ายางสดที่ได้จากการกรีดต้นยางจะน ามาเเปรรูปเป็นผลผลิตตั้งต้น
หรือ Primary Product ของยางพารา สามารถเเยกออกได้เป็น
-น้ ายางข้น
-ยางเเผ่น
-ยางก้อนถ้วย
-ยางเครพ
ซึ่ง 4 อย่างข้างต้นนั้นจะเป็นตัวตั้งต้นในการน าไปผลิตภัณฑ์ล าดับที่สอง
หรือ Secondary Product ได้หลากหลาย เเละน้ ายางสดยัง
สามารถเเปรรูปไปเปนผลิตภัณฑ์อื่นๆได้อีกอาทิ เช่น
็
- ที่นอนยางพารา
- หมอนยางพารา
- ยางรถยนต์
- ใช้ผสมยางมะตอยท าถนน
- กรวยยางส าหรับการจราจร เเทนการใช้พลาสติก
- บล็อกปูพื้น
- บล็อกทางเดิน
- ยางรองปูพื้นสระน้ าเพื่อกันน้ าซึม
- รองเท้า
- ท่อน้ า
- ถุงมืออนามัย
- ลูกโป่ง
- หนังยางรัดของ
- ยางลบ
24
บทที่ 4
ผลการศึกษา
จากการศึกษาการกรีดยาง การเก็บน้ ายางและการแปรรูปยางในการจัดท าโครงงาน
ครั้งนี้ ผู้จัดท าได้ ศึกษาการกรีดยาง การเก็บน้ ายางและการแปรรูปมาจากชาวสวน
ยางผลการศึกษาพบว่าในช่วงเวลา 1.00-4.00 น. ชาวสวนยางมักจะไปกรีดยางใน
เวลานี้เนื่องจากน้ ายางจะมักจะออกมาเยอะและดีในเวลานี้และในเวลา 6.00-7.00
น. ชาวสวนยางจะเริ่มออกเก็บน้ ายาง เนื่องจากหากไปเก็บในช่วงเวลา8.00เป็นต้น
ไปอากาศเริ่มจะร้อนเเละน้ ายางเริ่มหยุดไหลเเล้ว เลยท าให้ชาวสวนยางไปเก็บน้ า
ยางในเวลา 6.00-7.00 น. เมื่อเก็บน้ ายางเสร็จจึงน าน้ าไปขายตามที่รับซื้อน้ ายาง
ภายในชุมชนและน าน้ ายางจากส่วนนี้ไปแปรรูปในขั้นตอนอุตสาหกรรมเวลาต่อมา
25
บทที่ 5
สรุปผลเเละข้อเสนอเเนะ
สรุปผลการศึกษา
จากการศึกษาเเละจัดท าโครงงานเรื่องการกรีดยาง เก็บยางเเละเเปรรูป
ยางพารา โดยการน าเสนอเเละสาธิตเทคนิค วิธีการ ขั้นตอนต่างๆเกี่ยวกับอาชีพนี้
มาเรียบเรียงให้ผู้อ่านได้ศึกษา ท าให้รู้ว่าอาชีพนี้เป็นอีกอาชีพหนึ่งที่มีส าคัญ
ต่อ เศรษฐกิจไทยเเละชาวภาคใต้ในหลายพื้นที่เนื่องจากอาชีพการกรีดยางเป็นเเห
ล่งรายได้หลักของครัวเรือนหลายๆครัวเรือนในภาคนี้
พบว่าอาชีพนี้มีประวัติที่มาที่ไปที่น่าสนใจเเละต้นยางพาราก็ยังมีประโยชน์
็
่
หลายอย่างในเครืออุตสากหกรรมต่างๆหลายเเขนงท าให้ในส่วนนี้เปนตัวชวยในการ
้
เพิ่มมูลค่าใหเเก่น้ ายางพาราอีกด้วย
ประโยชน์ที่ได้รับจากการท าโครงงาน
1.ได้ลงมือท างานจริง เพื่อน ามาเป็นข้อมูลในโครงงาน
2.ได้ถ่ายทอดเเละน าเสนอข้อมูลเกี่ยวกับอาชีพยางพาราของคนใน
ท้องถิ่นตามวัตถุประสงค์ของคณะผู้จัดท า
3.ได้ทักษะการประกอบอาชีพ
ข้อเสนอเเนะ
ในการจัดท าโครงการครั้งนี้ ผู้จัดท าได้น าเสนอข้อมูลเกี่ยวกับอาชีพของ
พืชยางพาราอาชีพในท้องถิ่น ซึ่งคิดว่าอาชีพเกี่ยวกับยางพารานี้นอกจากภาคใต้ที่
ประกอบอาชีพนี้ยังมีภาคอื่นในที่ท าเช่น ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดบึงกาฬ ที่
นิยมท ายางก้อนถ้วยส่งออกในอุตสาหกรรม เป็นต้น
26
พันธุ์ยางกลุ่มที่มีคุณภาพ ตามเกณฑ์ดังนี้
1. พันธุ์ยางผลผลิตน้ ายางสูง
เป็นพันธุ์ที่ให้ผลผลิตน้ ายางสูงเป็นหลัก การเลือกปลูกพันธุ์ยางใน กลุ่มนี้ ควรมุ่งเน้น
ผลผลิตน้ ายาง
- RRIT 251 ใบมีรูปร่างป้อมปลายใบ ขอบใบเป็นคลื่น ใบมีสีเขียว ฉัตรใบมีขนาด
ใหญ่เป็นรูปกรวย ในช่วงยางอ่อนล าต้นคด แตกกิ่งมากทั้งกิ่งขนาดกลางและขนาด
ใหญ่ การแตกกิ่งไม่สมดุล ทรงพุ่มมีขนาดใหญ่เป็นรูปกลม เริ่มผลัดใบค่อนข้างช้า
็
- RRIM 600 ใบมีรูปร่างปอมปลายใบ สีเขียว ฉัตรใบลักษณะเปนรูปกรวย มีขนาด
้
เล็ก ลักษณะล าต้นตรง กิ่งมีขนาดปานกลางและแตกกิ่งเล็กจ านวนมาก ทรงพุ่มมี
ขนาดปานกลาง เป็นรูปพัด เริ่มผลัดใบเร็ว
- BPM24ใบมีรูปร่างป้อมกลางใบสีเขียวฉัตรใบลักษณะเป็นรูปกรวยตัด ลักษณะล า
ต้นตรง แตกกิ่งมาก กิ่งมีขนาดปานกลาง มีการทิ้งกิ่งน้อย พุ่มใบค่อนข้างทึบ ทรง
พุ่มมีขนาดปานกลางเป็นรูปกรวย เริ่มผลัดใบเร็วและทยอยผลัดใบ
- RRIM600 ใบมีรูปร่างป้อมปลายใบ สีเขียวอมเหลือง ลักษณะฉัตรใบเป็นรูปกรวย
มีขนาดเล็ก ในระยะ 2 ปีแรกต้นยางจะมีลักษณะล าต้นตรงแต่เรียวเล็ก การแตกกิ่ง
ช้า ลักษณะการแตกกิ่งเป็นมุมแหลม กิ่งที่แตกค่อนข้างยาว ทรงพุ่มมีขนาดปาน
กลางเป็นรูปพัด เริ่มผลัดใบเร็ว
27
2. พันธ์ยางผลผลิตน้ ายางเเละเนื้อไม้สูง
เป็นพันธุ์ที่ให้ทั้งผลผลิตน้ ายางและเนื้อไม้ โดยให้ ผลผลิตน้ ายางสูงและมีการ
เจริญเติบโตดี ลักษณะล าต้นตรง ให้ปริมาตรเนื้อไม้ในส่วนล าต้น สูง
- PB 235 ใบมีรูปร่างป้อมกลางใบ สีเขียว ฉัตรใบลักษณะเป็นรูปกรวย ระยะยาง
อ่อน แตกกิ่งเร็ว พุ่มใบค่อนข้างทึบ ลักษณะล าต้นตรงดี กิ่งมีขนาดเล็กจ านวน
มาก เมื่ออายุมากทิ้งกิ่งมาก เหลือกิ่งขนาดกลาง 4 ถึง 5 กิ่งในระดับสูง ท าให้พุ่มใบ
บาง ทรงพุ่มมีขนาดใหญ่เป็นรูปกลม เริ่มผลัดใบช้าและทยอยผลัดใบ
- PB 255 ใบมีรูปร่างป้อมกลางใบ สีเขียวอ่อน ฉัตรใบลักษณะเป็นรูปครึ่งวงกลม
ลักษณะล าต้นตรง ระยะยางอ่อนแตกกิ่งเร็ว กิ่งมีขนาดเล็กจ านวนมาก พุ่มใบทึบ
ทรงพุ่มมีขนาดใหญ่เป็นรูปกลม เริ่มผลัดใบค่อนข้างช้า
- PB 260 ใบมีรูปร่างป้อมปลายใบ สีเขียวเข้ม ฉัตรใบลักษณะเป็นรูป
กรวย ลักษณะล าต้นตรง การแตกกิ่งสมดุลดี กิ่งมีขนาดเล็กจ านวนมาก พุ่มใบทึบ
อายุมากทิ้งกิ่งด้านล่าง ท าให้พุ่มใบค่อนข้างบาง ทรงพุ่มมีขนาดใหญ่เป็นรูปรี เริ่ม
ผลัดใบค่อนข้างช้า
- RRIC110 ใบมีรูปร่างป้อมปลายใบ สีเขียวเข้ม ฉัตรใบลักษณะเป็นรูป
กรวย ลักษณะล าต้นตรงในช่วงยางพาราอ่อนแตกกิ่งขนาดกลางและเล็กจ านวน
มาก พุ่มใบทึบ อายุมากทิ้งกิ่งด้านล่าง เหลือกิ่งขนาดใหญ่ 2 ถึง 3 กิ่ง ท าให้พุ่มใบ
ค่อนข้างบาง ทรงพุ่มมีขนาดใหญ่เป็นรูปพัด เริ่มผลัดใบช้า
28
3. พันธ์ยางเนื้อไม้สูง
เป็นพันธุ์ที่ให้ผลผลิตเนื้อไม้สูงเป็นหลักมีการเจริญเติบโตดีมาก ลักษณะล าต้นตรง
ให้ปริมาตรเนื้อไม้ในส่วนล าต้นสูงมากผลผลิตน้ ายางจะอยู่ในระดับต่ ากว่าพันธุ์ยาง
ในกลุ่มที่1และ2เหมาะส าหรับเป็นพันธุ์ที่จะปลูกเป็นสวนป่าเพื่อการผลิตเนื้อไม้
- RRIC 110 ill. ใบมีรูปร่างป้อมปลายใบ สีเขียวเข้ม ฉัตรใบลักษณะเป็นรูป
กรวย ในช่วงยาง อ่อนแตกกิ่งขนาดกลางและเล็กจ านวนมาก การแตกกิ่งอยู่ใน
ระดับสูง ลักษณะการแตกกิ่งสมดุล รูปทรงล าต้นตรง มีลักษณะกลม
ทรงพุ่มขนาด ค่อนข้างใหญ่ เริ่มผลัดใบเร็ว
- BPM 1 ใบมีรูปร่างป้อมกลางใบ สีเขียวเข้มฉัตรใบลักษณะเป็นรูปครึ่ง
วงกลม ในช่วงยางอ่อนแตกกิ่งระดับต่ า การแตกกิ่งสมดุล กิ่งมีขนาดเล็กจ านวนมาก
ทรงพุ่มเป็นรูปกรวย พุ่มใบทึบ เมื่ออายุมากทิ้งกิ่งเหลือกิ่งขนาดใหญ่ 3 ถึง 5 กิ่งใน
ระดับสูง ท าให้ทรงพุ่มโปร่ง รูปทรงล าต้นตรง มีลักษณะกลม เริ่มผลัดใบเร็ว
29
แผนผังความคิด
เรื่อง ชนิดของพันธุ์ยางพารา
สายพันธุ์ยางพารา
พันธุ์ยางผลผลิต
พันธุ์ยางผลผลิตน้ ายางสูง พันธุ์ยางเนื้อไม้สูง
น้ ายางเเละเนื้อไม้สูง
- RRIT 251 - PB 235 - RRIC 110 ill.
- RRIM 600 - PB 255 - BPM 1
- BPM 24 - PB 260 - PB86
- RRIM600 - RRIC110 - PB49
- PB S/78 - PB 32/36 - RRIC 110 ill
- AVROS 308
- RRIT251
- RRIM600
- AVROS1743
30
ภาคผนวก
31
ภาพประกอบขั้นตอนการท าโครงงาน
การกรีดยางพารา
32
33
34
การเก็บยางพารา
35
36
37
38
การแปรรูปยางพารา
39