The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

เครื่องกำเนิดไฟฟ้ากระแสสลับ 150 ข้อ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

เครื่องกำเนิดไฟฟ้ากระแสสลับ 150 ข้อ

เครื่องกำเนิดไฟฟ้ากระแสสลับ 150 ข้อ

ข้อสอบประมวลความรู้
วิชาเครื่องกาเนดิ ไฟฟา้ กระแสสลับ รหัสวิชา 2104 – 2105

1. ใครเป็นผคู้ ้นพบกระแสไฟฟ้าทาใหเ้ กิดสนามแมเ่ หล็ก

ก. เออสเตด็ ข. จอรน์ ดอลตัน

ค. อัลเบิรด์ ไอน์สไตน์ ง. วนิ ดีเซล

2. ถ้าเอาตวั นาไฟฟ้าวางตั้งฉากกับเขม็ ทิศด้านล่าง เข็มทศิ จะมีลกั ษณะใด

ก. เขม็ ทิศจะบา่ ยเบนไปทางซา้ ย

ข. เขม็ ทิศจะไม่บ่ายเบน

ค. เขม็ ทิศจะบ่ายเบนไปทางขวา

ง. เข็มทิศจะบา่ ยเบนไปทางตรงกันข้ามกัน

3. เส้นแรง (Line of force) มลี กั ษณะอย่างไร

ก. เป็นสี่เหลี่ยมล้อมรอบตัวนา

ข. เปน็ วงรีล้อมรอบตวั นา

ค. เป็นวงกลมล้อมรอบตัวนา

ง. สามารถเปลย่ี นรปู ทรงไดอ้ ิสระ

4. ถ้าใชม้ ือขวากาขดลวดทมี่ ีกระแสไฟฟา้ ไหลผา่ นโดยใชน้ ว้ิ จะใช้นิ้วใดแทนทศิ ทางการไหลของกระแส

ก. นิ้วช้ี ข. นิว้ กลาง

ค. นิว้ นาง ง. ถูกทุกข้อ

5. การใช้มอื ขวากาขดลวดท่ีมีกระแสไฟฟ้าไหลผา่ นน้วิ ใดแสดงถงึ ทิศทางของเส้นแรงแมเ่ หล็กเคลอื่ นที่

ก. น้วิ หัวแม่มอื ข. นิ้วกลาง

ค. นวิ้ นาง ง. นว้ิ กอ้ ย

6. กฎของฟาราเดยเ์ กยี่ วกับการเหนี่ยวนาแม่เหลก็ ไฟฟ้ามีกี่ขอ้

ก. 2 ข. 3

ค. 4 ง. 5

7. ขอ้ ใดกล่าวถูกต้อง

ก. ถา้ เสน้ แรงแมเ่ หล็กทต่ี ัดตวั นาเกิดการเปลย่ี นแปลงจะทาให้เกิดแรงเคล่ือนไฟฟ้าเหนี่ยวนาขึ้น

ในตัวนานั้น

ข. เม่ือใดก็ตามเมอ่ื ถ้าตัวนาตดั เส้นแรงแมเ่ หล็กจะเกิดแรงเคล่ือนไฟฟา้ เหนี่ยวนาขนึ้ ในตัวนา

ค. ขนาดของแรงเคลอ่ื นไฟฟา้ เหนี่ยวนาทเ่ี กิดข้ึนจะมีคา่ เทา่ กบั อตั ราการเปลย่ี นแปลงของเส้น

แรงแมเ่ หล็กทตี่ ดั

ง. ถูกทุกข้อ

8. ข้อใดคอื หน่วยของเวลาทเ่ี ส้นแรงแม่เหลก็ เปล่ยี นแปลง

ก. นาที ข. วินาที

ค. ชวั่ โมง ง. ถูกทุกข้อ

9. ไดนาโมรถยนตช์ นิด 4 โพล แตล่ ะโพลมเี สน้ แรงแมเ่ หล็ก 15 มิลลิเวเบอร์ จงหาแรงเคล่ือนไฟฟ้า
เหนีย่ วนาท่ีเกดิ ขน้ึ ท่ตี วั นา 2 เสน้ ในสลอ็ ตของอาร์เมเจอร์ ถา้ อาเมเจอร์หมุนด้วยความเรว็ 600
รอบ/นาที
ก. 0.8 โวลท์
ข. 1.0 โวลท์
ค. 1.2 โวลท์
ง. 1.8 โวลท์

10. กฎมอื ขวาของเฟรมมง่ิ น้วิ ชแ้ี สดงถึงสิ่งใด
ก. แสดงทิศทางการเคลอ่ื นทข่ี องเส้นแรงแมเ่ หลก็
ข. แสดงทิศทางการเคล่อื นท่ีของตวั นา
ค. แสดงทศิ ทางของกระแสไฟฟา้ เหนี่ยวนาที่เกดิ ขึ้นในตวั นา
ง. ถูกทุกข้อ

11. ถา้ ยกสวทิ ซเ์ ปิดวงจรกระแสไฟจะเป็นอย่างไร
ก. กระแสไฟท่ีตวั นาจะลดลงเส้นแรงแม่เหลก็ จะเพิ่มขน้ึ
ข. กระแสไฟท่ีตวั นาจะเพ่ิมข้ึนเสน้ แรงแม่เหลก็ จะลดลง
ค. กระแสไฟที่ตัวนาจะลดลงเส้นแรงแมเ่ หลก็ จดลดลง
ง. ถูกทุกข้อ

12. ขนาดของแรงเคลื่อนไฟฟ้าสามารถหาไดโ้ ดยใช้กฎในข้อใด
ก. กฎของเลนซ์
ข. กฎมอื ขวาของเฟรมมิง่
ค. กฎแมกซเ์ วลล์
ง. กฎของฟาราเดย์

13. การหาทิศทางของกระแสไฟสามารถหาได้โดยใช้กฎในข้อใด
ก. กฎของเลนซ์
ข. กฎแมกซเ์ วลล์
ค. กฎมือขวาของเฟลมมิง่
ง. กฎมือซ้ายของเฟลมมงิ่

14. ถา้ ไม่มีตัวนาหรือคอยล์เคล่ือนทแี่ ตเ่ สน้ แรงแมเ่ หลก็ เคล่ือนท่ีอย่างเดียวเรียกแรงเคลื่อนน้วี า่ อย่างไร
ก. มิวจวลอนิ ดวส์ อี เอม็ เอฟ
ข. สแตคิด อนิ ดิวส์ อี เอม็ เอฟ
ค. อินดิวส์ อี เอ็ม เอฟ
ง. อี เอ็ม เอฟ

15. ตวั นาเส้นหนง่ึ ยาว 100 ซม. เคลอ่ื นท่ีตง้ั ฉากตัดเส้นแรงแมเ่ หลก็ ทม่ี ีความหนาแน่น 1.5เวเนอร์/ม.2
ด้านความเร็ว 50 เมตร/วินาที จะมีแรงเคล่ือนไฟฟา้ เหน่ียวนาท่ีเกิดขน้ึ ในตัวนาเสน้ น้ีก่ีโวลท์
ก. 70 โวลท์
ข. 75 โวลท์
ค. 80 โวลท์
ง. 85 โวลท์

16. ความต้านทานเส้นแรงแมเ่ หล็กเรียกว่าอะไร

ก. ฟลักซ์

ข. รลี กั แตนซ์

ค. ฟอรส์

ง. แมกนีโต

17. ชนิดของวัตถุทใ่ี ช้ทาเป็นวงจรแม่เหลก็ มีเส้นแรงแมเ่ หลก็ เรยี กวา่ อย่างไร

ก. รีลักแตนซ์

ข. ฟอรส์

ค. ฟลกั ซ์

ง. อนิ ดิวส์

18. ลกั ษณะของวงจรแมเ่ หล็กมีกี่ลกั ษณะ

ก. 2 ข. 3

ค. 4 ง. 5

19. ขอ้ ใดกลา่ วถกู ต้อง

ก. ถา้ ตัวนาเคล่อื นที่ขนานกบั เส้นแรงแม่เหล็กจะไม่เกิดแรงเคลอ่ื นไฟฟ้าเหนยี่ วนาขนึ้ ในตวั นานน้ั

ข. การบา่ ยเบนของเขม็ ชี้กัลวาโนมิเตอร์ แสดงใหเ้ หน็ ถึงแรงเคลอ่ื นไฟฟ้าท่ีเกิดในคอยล์

ค. ทิศทางของกระแสทเี่ กิดขน้ึ จะถูกกาหนดโดยแรงเคล่อื นทไี่ ฟฟ้าเหนี่ยวนาท่ีเกิดข้นึ

ง. ถูกทุกข้อ

20. ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งแม่เหล็กและไฟฟ้า หมายถงึ ข้อใด

ก. เมอ่ื มีกระแสไหลผ่านตวั นาจะเกิดสนามแม่เหล็กข้นึ มารอบ ๆ ตัวนาทันที

ข. เมอ่ื อิเลก็ ตรอนเคล่ือนทจี่ ะเกิดสนามแมเ่ หลก็ ขน้ึ

ค. เม่ือสนามแมเ่ หลก็ ตดั ตัวนาจะเกิดอิเล็กตรอนเคลือ่ นท่ใี นตวั นาทันที

ง. ถูกทุกข้อ

21. คอยล์ทมี่ ีเซลฟ์อินดกั แตนซ์ 1 เฮนรี่ หมายถงึ ข้อใด

ก. คอยลท์ ีม่ ีกระแส 100 แอมป์ ไหลผา่ นแล้วเกิดเส้นแรงแม่เหล็กขึ้นมาตดั ตัวเองด้วยขนาด

100 เวเบอร์ - เทนิ

ข. คอยล์ที่มีกระแส 10 แอมป์ ไหลผา่ นแลว้ เกิดเส้นแรงแมเ่ หล็กข้นึ มาตัดตวั เองดว้ ยขนาด

10 เวเบอร์ - เทิน

ค. คอยล์ที่มีกระแส 1 แอมป์ ไหลผ่านแลว้ เกดิ เส้นแรงแม่เหล็กขึน้ มาตดั ตวั เองด้วยขนาด

1 เวเบอร์ - เทนิ

ง. คอยล์ทม่ี ีกระแส 0.1 แอมป์ ไหลผา่ นแลว้ เกิดเส้นแรงแม่เหล็กขึ้นมาตดั ตวั เองด้วยขนาด

0.1 เวเบอร์ - เทนิ

22. Self Inductance หมายถึงขอ้ ใด

ก. ตวั นาเคล่อื นที่ตัดสนามแมเ่ หลก็ ข. ตวั นาอย่กู ับที่

ค. การเหนยี่ วนาแม่เหลก็ ไฟฟา้ ง. สมั ประสทิ ธ์ขิ องการเหน่ยี วนาตวั เอง

23. เครอ่ื งกาเนิดไฟฟ้ากระแสสลับ เรียกว่าอยา่ งไร

ก. อลั เทอรเ์ นเตอร์ ข. อนิ ดิวส์

ค. อี เอ็ม เอฟ ง. มิวจวลอนิ ดักชัน่

24. เคร่อื งกาเนดิ ไฟทาหน้าที่อยา่ งไร

ก. เก็บประจุไฟฟา้

ข. ผลิตแรงเคลื่อนไฟฟ้าสลับข้นึ มา

ค. จ่ายกระแสไฟฟ้า

ง. ถกู ทุกข้อ

25. เครื่องกาเนดิ ไฟมีสว่ นประกอบกส่ี ่วน

ก. 2 สว่ น ข. 3 สว่ น

ค. 4 ส่วน ง. 5 สว่ น

26. อาร์เมเจอร์จะมีสลิปรงิ ก่อี ัน

ก. 1 อัน ข. 2 อัน

ค. 3 อัน ง. 4 อนั

27. เมือ่ ให้อาร์เมเจอร์เป็นสว่ นท่อี ยู่กับท่สี ว่ นใดต้องเป็นสว่ นทส่ี ามารถหมนุ ได้

ก. คอมมิวเตเตอร์ ข. แปรงถ่าน

ค. สนามแม่เหลก็ ง. ถกู ทุกข้อ

28. Stator หมายถงึ ข้อใด

ก. สว่ นทีเ่ คลื่อนที่ ข. ส่วนท่ีอยกู่ บั ที่

ค. ส่วนท่หี มุน ง. ขดลวด

29. ในกรณีท่เี ปน็ เคร่ืองกาเนิดขนาดเลก็ แรงเคล่อื นไฟฟา้ ท่ีผลติ ขน้ึ ตา่ สว่ นใดที่จะต้องอยู่กับที่

ก. แกนข้วั แมเ่ หล็ก

ข. โครงเหล็ก

ค. ขดลวดขัว้ แมเ่ หล็กท่ยี ึดตดิ กบั โครงเหลก็

ง. สลิปริง

30. ในกรณีท่เี ป็นเครื่องกาเนิดขนาดใหญผ่ ลติ แรงเคลื่อนไฟฟ้าสูง ๆ ส่วนใดท่จี ะต้องอยู่กบั ท่ี

ก. สลปิ รงิ ข. ขดลวดขว้ั แมเ่ หลก็

ค. แกนขั้วแมเ่ หล็ก ง. ขดลวดอาร์เมเจอร์

31. ขอ้ ใดคอื ส่วนที่อยกู่ ับท่ี

ก. เซเล้ยี น โพล ข. นันเซเล้ียน โพล

ค. สลอ๊ ท ง. ถกู ทุกข้อ

32. เอก็ ไซเตอร์ หมายถึงข้อใด

ก. เคร่ืองกาเนิดไฟ ข. เครื่องกาเนิดไฟตรง

ค. เครอ่ื งกาเนดิ ไฟสลับ ง. ถกู ทุกข้อ

33. เครอ่ื งกาเนิดไฟฟ้าสลบั แบง่ ไดก้ ีล่ ักษณะ

ก. 2 ลกั ษณะ ข. 3 ลกั ษณะ

ค. 4 ลกั ษณะ ง. 5 ลกั ษณะ

34. ตัวเอก๊ ไซเตอรจ์ ะติดตั้งอยู่ตาแหนง่ ใด

ก. ยดึ ติดกบั ขดลวดอารเ์ มเจอร์ ข. ยดึ ติดกับขดลวดสนามแมเ่ หล็ก

ค. ตรงกลางขัว้ แมเ่ หลก็ ง. ยึดตดิ กับเพลาของเครื่องกาเนดิ ไฟสลบั

35. เพราะเหตุใดเอกไซเตอร์จะต้องเป็นเคร่ืองกาเนิดไฟตรงแบบ Flat Compound – wound

ก. กระแสเปลีย่ นแปลง แรงดันจะเปลยี่ นแปลงน้อยมาก

ข. กระแสเปลี่ยนแปลง แรงดนั จะเปล่ียนแปลงมาก

ค. กระแสเปล่ยี นแปลง แรงดันจะไม่เปล่ยี น

ง. กระแสไมเ่ ปล่ยี นแปลง

36. แรงเคล่อื นไฟฟา้ ทถี่ ูกเหนย่ี วนาข้ึนส่วนหน่ึงจะสง่ ใหก้ ับโหลดและอีกสว่ นหน่งึ จะถูกแปลงให้เป็นไฟตรง

หมายถงึ เครื่องกาเนดิ ไฟชนิดใด

ก. เซลป์ เอก็ ไซเตอร์

ข. เอ็กไซเตอร์

ค. แฟลต คอมเปาด์ – เวาด์

ง. เคร่ืองกาเนดิ ไฟตรง

37. เครอ่ื งกาเนดิ ไฟสลบั ชนิดหน่งึ เฟสสามารถผลิตแรงเคลือ่ นไฟฟา้ กาลังเอาท์พทุ ได้สูงเทา่ ใด

ก. 20 กโิ ลวัตต์ ข. 25 กโิ ลวัตต์

ค. 30 กโิ ลวัตต์ ง. 35 กิโลวัตต์

38. เพราะเหตุใดในการติดต้ังสลิปรงิ จะต้องมสี ลปิ รงิ 2 หรอื 3 อัน ในการก้ันฉนวนระหวา่ งสลปิ ริงกบั

สลิปริงด้วยกัน

ก. พน้ื ทจี่ ากัด ข. เพม่ิ แรงดัน

ค. ป้องกนั การลัดวงจร ง. ความสวยงาม

39. เครอ่ื งกาเนดิ ไฟสลับชนดิ สามเฟสมขี ดลวดอารเ์ มเจอร์กีช่ ุด

ก. 3 ชดุ ข. 6 ชดุ

ค. 9 ชดุ ง. 12 ชดุ

40. เครอ่ื งกาเนิดไฟสลบั ชนดิ สามเฟสมขี ดลวดอาร์เมเจอร์กเี่ ส้น

ก. 2 เส้น ข. 3 เส้น

ค. 5 เสน้ ง. 6 เส้น

41. ถ้าแรงดันของขดลวดอาร์เมเจอร์แบบสตารม์ ีแรงดนั 380 โวลท์ จะเป็นแรงดันระหว่างจุดใด

ก. แรงดนั ระหวา่ งเฟสกนั ไลน์

ข. แรงดนั ระหว่างนวิ ทรอลกบั นิวทรอล

ค. แรงดันระหว่างไลนก์ บั ไลน์

ง. แรงดันระหว่างไลนก์ ับนวิ ทรอล

42. ขดลวดอารเ์ มเจอรแ์ บบเดลต้า จะสายไฟต่อไปโหลดกเี่ ส้น

ก. 2 เส้น ข. 3 เส้น

ค. 4 เส้น ง. 5 เสน้

43. เครื่องกาเนิดชนดิ สามเฟสจะมขี นาดสูงสดุ ก่ีกิโลเมตร

ก. 100,000 กโิ ลวัตต์ ข. 150,000 กโิ ลวัตต์

ค. 200,000 กโิ ลวตั ต์ ง. 250,000 กโิ ลวตั ต์

44. เคร่อื งกาเนดิ ชนดิ สามเฟสสามารถผลิตแรงดนั ไฟฟ้าไดส้ ูงสุดก่โี วลท์

ก. 10,000 โวลท์ ข. 12,000 โวลท์

ค. 13,800 โวลท์ ง. 13,900 โวลท์

45. เครอ่ื งกาเนดิ ไฟฟา้ ของการไฟฟ้าฝา่ ยผลติ แห่งประเทศไทยเปน็ แบบใด

ก. เคร่อื งกาเนดิ ไฟตรง

ข. เคร่ืองกาเนดิ ไฟสลบั ชนิดสามเฟส

ค. เครื่องกาเนิดไฟสลับชนดิ หนึ่งเฟส

ง. ไม่มีข้อถูก

46. โรงงานไฟฟ้าพลงั งานนวิ เคลียรใ์ ชพ้ ลังงานใดเป็นต้นกาลงั ไฟฟ้า

ก. พลงั งานนา้ ข. พลังงานไอนา้

ค. พลงั งานลม ง. พลังงานแสงอาทิตย์

47. กงั หันน้า ใช้เครอื่ งกาเนิดไฟแบบใด

ก. เคร่อื งกาเนดิ ไฟตรง ข. แบบนันเซเล้ียน โพล

ค. แบบเซเลย้ี น โพล ง. ถกู ทุกข้อ

48. เครอ่ื งกาเนดิ ไฟสลับชนดิ หนึง่ เฟสมแี รงดันไฟฟา้ ต่าสดุ เท่าใด

ก. 50 โวลท์ ข. 80 โวลท์

ค. 100 โวลท์ ง. 110 โวลท์

49. โรเตอร์แบบเซเลีย้ น ขนาด 6 โพล มสี ว่ นประกอบก่สี ว่ น

ก. 3 ส่วน ข. 4 สว่ น

ค. 5 ส่วน ง. 6 สว่ น

50. สล๊อทแบบ Semiclosed type ใชก้ บั เครอ่ื งกาเนิดไฟแบบใด

ก. ใช้กับมอเตอร์ไฟสลับ ข. ใชก้ บั เครือ่ งกาเนดิ ไฟสลับ

ค. ใชก้ บั เครอ่ื งกาเนดิ ไฟสลบั ง. ใชก้ ับเคร่อื งกาเนดิ ไฟทว่ั ไป

51. Single layer หมายถงึ ข้อใด

ก. ขดลวดหน่งึ เฟสพันสองชน้ั ข. ขดลวดหนึง่ เฟสพันชั้นเดยี ว

ค. ขดลวดหนง่ึ เฟสพนั สามชั้น ง. ถกู ทุกข้อ

52. ขดลวดเคร่อื งกาเนิดชนิดหนึง่ เฟสนยิ มพันขดลวดแบบใด

ก. แบบแฟลต ข. แบบเว็ฟ

ค. แบบแลบ็ ง. แบบใดก็ได้

53. ขดลวดหนึ่งเฟสชนดิ พันหน่ึงช้ันในหนง่ึ สลอ๊ ท เครื่องกาเนิดจะมขี วั้ แมเ่ หล็กก่ีขว้ั

ก. 1 ข้วั ข. 2 ข้ัว

ค. 3 ขว้ั ง. 4 ขั้ว

54. เครื่องกาเนดิ ที่มขี ดลวดครง่ึ หนงึ่ ของจานวนขั้วแมเ่ หล็กเรียกขดลวดนัน้ วา่ อะไร

ก. Half coil winding ข. Whole coil winding

ค. Coil side ง. Wave winding

55. ขดลวดหน่งึ เฟสชนิดที่พนั สองชัน้ ในหน่งึ สล๊อท เครื่องกาเนิดจะมจี านวนขดลวดก่ีขดลวด

ก. 2 ขดลวด ข. 4 ขดลวด

ค. 6 ขดลวด ง. 8 ขดลวด

56. ขดลวดอารเ์ มเจอร์แบบสามเฟส ขดลวดแตล่ ะจดุ จะพนั ลงในสลอ๊ ทหา่ งกนั กี่องศาไฟฟา้

ก. 100 องศาไฟฟ้า ข. 120 องศาไฟฟ้า

ค. 140 องศาไฟฟ้า ง. 180 องศาไฟฟ้า

57. จานวนสลอ๊ ทตอ่ หนงึ่ ขั้วแมเ่ หลก็ ของขดลวดอาร์เมเจอร์แบบสามเฟสจะมีค่าเทา่ ใด

ก. 10 สล๊อท ข. 12 สล๊อท

ค. 13 สลอ๊ ท ง. 14 สลอ๊ ท

58. สลอ๊ ทแตล่ ะสล๊อทของขดลวดอาร์เมเจอรแ์ บบสามเฟสจะห่างกนั กี่องศาไฟฟ้า

ก. 10 องศาไฟฟ้า ข. 12 องศาไฟฟ้า

ค. 15 องศาไฟฟ้า ง. 18 องศาไฟฟ้า

59. การพนั ขดลวดอาร์เมเจอร์พิชเศษสว่ น จะมีระยะห่างเทา่ ใด

ก. 2 สลอ๊ ท ข. 3 สล๊อท

ค. 8 สลอ๊ ท ง. 10 สลอ๊ ท

60. การพนั ขดลวดแตล่ ะเฟสจะมีระยะพชิ เปน็ เท่าใดของขดลวด

ก. 5 ของขดลวด ข. 7 ของขดลวด

6 1

ค. 1 ของขดลวด ง. 2 ของขดลวด
22

61. Coil side ทัง้ สองของขดลวดแตล่ ะเฟส จะพนั ห่างกนั ก่ีองศาไฟฟ้า

ก. 100 องศาไฟฟ้า ข. 120 องศาไฟฟ้า

ค. 150 องศาไฟฟ้า ง. 200 องศาไฟฟ้า

62. แรงเคล่อื นไฟฟา้ เหน่ียวนาทเี่ กิดข้นึ ท่ปี ลายของขดลวด จะเกดิ แรงเคล่อื นไฟฟ้าเหนย่ี วนา

ท่ีเกิดข้ึนทตี่ น้ ของขดลวดกอี่ งศาไฟฟา้

ก. 5 องศาไฟฟ้า ข. 10 องศาไฟฟ้า

ค. 20 องศาไฟฟ้า ง. 30 องศาไฟฟา้

63. Coil Side หมายถงึ ข้อใด

ก. ด้านหนึง่ ของคอยล์ ข. ขดลวด

ค. คอยล์หนึง่ อันจะมสี องขดลวด ง. ถกู ทุกข้อ

64. เมือ่ ระยะ Pitch มีคา่ 5 หรอื ระยะ Pitch ลดลง 1 และ β เปน็ มมุ ระหวา่ งระยะพิชของคอยล์

66

เม่อื แบบพิชเตม็ และพชิ เศษส่วน = 30˚ ค่า pitch factor มีค่าเทา่ ใด

ก. 0.966

ข. 0.940

ค. 0.882

ง. 0.834

65. อาร์เมเจอร์ 36 สล๊อท 4 ขัว้ แม่เหลก็ coil pitch 1-8 ค่า pitch factor มีคา่ เท่าใด

ก. 0.882

ข. 0.940

ค. 1.234

ง. 1.016

66. coil group จะมีจานวนคอยล์กี่คอยล์

ก. 2 ข. 3

ค. 4 ง. 5

67. ค่าแฟตเตอร์ใดจะเปล่ยี นแปลงไฟตามขนาดของเคร่ืองกาเนิดตวั นั้น ๆ

ก. distribution factor ข. winding factor

ค. breadth factor ง. ถกู ทุกข้อ

68. สล๊อทแบบใดพนั ขดลวดของแตล่ ะเฟสให้กระจายไปหลาย ๆ สลอ๊ ท

ก. แบบแลบ็ ข. แบบพีชเต็ม

ค. แบบพชี เศษส่วน ง. แบบรปู หกเหล่ยี ม

69. ขดลวดสามเฟสท่ีมี 12 สลอ๊ ทตอ่ หนงึ่ โพลต่อหนึ่งเฟส มีค่าดิสตรฟิ วิ ชน่ั แฟคเตอร์ เท่าใด

ก. 0.882 ข. 0.958

ค. 0.999 ง. 1.581

70. ขดลวดสามเฟสที่มี 36 สล็อท 4 โพล มคี า่ ดสิ ตรบิ ิวช่ัน แฟตเตอรเ์ ท่าใด

ก. 0.813 ข. 0.899

ค. 0.960 ง. 0.998

71. เครื่องกาเนิดไฟฟา้ เบ้ืองต้นมสี ่วนประกอบกส่ี ่วน

ก. 2 ส่วน ข. 3 ส่วน

ค. 4 สว่ น ง. 5 ส่วน

72. ขดลวดอาร์เมเจอรเ์ คลื่อนที่หมุนครบหนึ่งรอบจะไดม้ ุมกี่องศา

ก. 45 องศา ข. 90 องศา

ค. 180 องศา ง. 360 องศา

73. หน่งึ องศาไฟฟา้ เท่ากับก่ีองศาทางกล

ก. หนึง่ องศาไฟฟา้ เทา่ กบั หน่ึงองศาทางกล

ข. หน่งึ องศาไฟฟา้ เทา่ กับหนึ่งองศาทางกล

ค. หนึ่งองศาไฟฟา้ เท่ากบั หน่ึงองศาทางกล

ง. หน่งึ องศาไฟฟ้าเท่ากับหน่ึงองศาทางกล

74. 10 องศาไฟฟ้า เท่ากับ ก่ีองศาทางกล

ก. 0 องศาทางกล ข. 10 องศาทางกล

ค. 15 องศาทางกล ง. 1 องศาทางกล

75. แรงเคลือ่ นไฟฟ้าเหน่ยี วนารปู คลื่นไซน์หนึง่ ลูกเคลื่อนเรยี กวา่

ก. หนึ่งคลื่นไซน์ ข. คล่ืนไซนห์ นึ่ง

ค. หนึง่ ไซเกลิ ง. ถูกทุกข้อ

76. ถา้ ตอ้ งการใหเ้ ครือ่ งกาเนดิ ทีม่ ีความเรว็ 1,200/นาที แรงเคล่อื นไฟฟ้าเหนย่ี วนา มีความถี่ 60

ไซเกลิ /วินาที เคร่ืองกาเนิดจะมกี ่โี พล

ก. 4 โพล

ข. 5 โพล

ค. 6 โพล

ง. 7 โพล

77. ในเครอ่ื งกาเนดิ ไฟสลับหน่ึงเฟส จะมีขอลวดอาร์เมเจอร์กชี่ ุด

ก. 4 ชุด ข. 3 ชดุ

ค. 2 ชุด ง. 1 ชดุ

78. สนามแมเ่ หล็กภายใต้ขัว้ แม่เหลก็ มีก่ีลกั ษณะ

ก. 2 ลกั ษณะ ข. 3 ลักษณะ

ค. 4 ลักษณะ ง. 5 ลกั ษณะ

79. เครอื่ งกาเนดิ ไฟสลับสามเฟส มขี ดลวดอาร์เมเจอร์กชี่ ุด

ก. 2 ชุด ข. 3 ชุด

ค. 4 ชดุ ง. 5 ชุด

80. ข้อใดคอื อกั ษรแทนแรงดันไฟฟ้าทปี่ ลายสายของเครอ่ื งกาเนิดทจ่ี ะป้อนให้กบั โหลด

ก. Eph ข. EL
ค. Iph ง. IL
81. เมือ่ ไมม่ โี หลดมาต่อทปี่ ลายของขดลวดอาร์เมเจอรจ์ ะส่งผลอย่างไร

ก. วงจรครบวงจร

ข. ไม่มีกระแสไฟฟา้ เหนี่ยวนาเกิดข้นึ

ค. ไม่มีแรงเคลอ่ื นไฟฟา้

ง. ถกู ทุกข้อ

82. เคร่อื งกาเนดิ สามเฟส 4 โพล 50 ไซเกิล 6,000 โวลท์ มี 60 สล๊อท แต่ละสล๊อทมี 2 ตวั นา

และพันเป็นแบบ 2 ช้ิน แตล่ ะสล๊อทหา่ งกันเท่าใด

ก. 10˚

ข. 11˚

ค. 12˚

ง. 15˚

83. ข้อใดคือสาเหตุการที่แรงดนั ไฟฟา้ ทีป่ ลายสายเมื่อมโี หลดมาตอ่ ลดลงจากเดิม

ก. เนื่องจากความต้านทานของขดลวดอาร์เมเจอร์

ข. เนื่องจากลีกเกจ รแี อกแตนซ์

ค. เนือ่ งจากอาร์เมเจอร์ รีแอกช่ัน รแี อกแตนซ์

ง. ถกู ทุกข้อ

84. การเกดิ ลกี เกจ รีแอกแตนซ์และอารเ์ มเจอร์ รแี อกชน่ั รแี อกแตนซ์ มารวมกันเรยี กวา่

ก. ซงิ โครนัส ข. ซิงล์

ค. ลงิ ค์ ง. ยสู

85. รีแอกแตนซ์ Xs จะเกดิ แรงดันไฟฟ้าตกครอ่ มใน X3 และแรงดันสว่ นนี้จะนาหน้ากระแส I เปน็ มมุ กี่
องศา

ก. 45 องศา

ข. 90 องศา

ค. 180 องศา

ง. 360 องศา

86. หน่วยในขอ้ ใดแสดงขนาดของเครื่องกาเนดิ ไฟฟา้

ก. kilo Wattr ข. Megga Wattr

ค. Kilo Volt Ampere ง. ถูกท้ังขอ้ ก และ ข

87. เครือ่ งกาเนดิ ชนิด 6 โหล หมนุ ดว้ ยความเรว็ 1,000 รอบ/นาที แรงเคลื่อนไฟฟา้ เหนย่ี วนา
จะมคี วามถ่ีเท่าใด
ก. 50 ไซเกิล/วินาที
ข. 60 ไซเกลิ /วนิ าที
ค. 70 ไซเกิล/วนิ าที
ง. 80 ไซเกิล/วนิ าที

88. เครอ่ื งกาเนดิ ชนดิ 4 โพล 200 โวลท์ แรงดันมคี วามถี่ 50 ไซเกลิ /วินาที เคร่ืองกาเนิด
จะหมนุ ดว้ ยความเร็วเท่าใด
ก. 1,000 ไซเกิล/วนิ าที
ข. 1,500 ไซเกิล/วินาที
ค. 2,000 ไซเกิล/วนิ าที
ง. 2,500 ไซเกิล/วนิ าที

89. ถ้าตอ้ งการให้เครื่องกาเนดิ ทมี่ ีความเรว็ 1,000 รอบ/นาที เหน่ียวนาให้เกดิ แรงเคลื่อนไฟฟา้

มีความถี่ 50 ไซเกลิ /วนิ าที เครอ่ื งกาเนิดจะมีกี่โพล

ก. 4 โพล

ข. 5 โพล

ค. 6 โพล

ง. 7 โพล

90. ลกั ษณะของสนามแม่เหล็กภายใตข้ ัว้ แม่เหลก็ มีก่ีข้ัว

ก. 2 ข้ัว ข. 3 ข้วั

ค. 4 ข้วั ง. 5 ข้ัว

91. ถ้า 5 องศาไฟฟา้ เท่ากับก่ีองศาทางกล

ก. 0.5 องศาทางกล ข. 0.05 องศาทางกล

ค. 0.005 องศาทางกล ง. 5 องศาทางกล

92. ถ้าเคร่ืองกลไฟฟา้ มีจานวนขวั้ แมเ่ หลก็ เป็นแปดขว้ั จานวนองศาไฟฟา้ จะเป็นกเี่ ทา่ ของจานวน

องศาทางกล

ก. สองเท่าของจานวนองศาทางกล

ข. สามเท่าของจานวนองศาทางกล

ค. สีเ่ ทา่ ของจานวนองศาทางกล

ง. ห้าเท่าของจานวนองศาทางกล

93. ขณะเครือ่ งกาเนดิ กาลังทางานแรงดนั โหลจะมกี ารเปลี่ยนแปลงอย่างไร

ก. โหลดเปลี่ยนแปลงบางช่วงเวลา

ข. โหลดจะมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

ค. โหลดจะต้องกาลังเคร่ืองกาเนิดไฟฟ้าบางอย่างออก

ง. โหลดไม่มีการเปล่ียนแปลง

94. ข้อใดคือข้อเสียของแรงดันที่ป้อนใหก้ ับโหลดตลอดเวลา

ก. เกดิ ความเสยี หายข้ึนกับโหลด ข. โหลดหยดุ ทางาน

ค. โหลดไหม้ ง. ถูกทุกข้อ

95. การควบคุมแรงดันไฟฟ้าแบ่งออกได้กี่แบบ

ก. 2 แบบ ข. 3 แบบ

ค. 4 แบบ ง. 5 แบบ

96. ขอ้ ใดหมายถงึ การควบคมุ แรงดันไฟฟ้าด้วยมือ

ก. นิยมใช้กับเครื่องกาเนิดชนดิ หนงึ่ เฟส

ข. มีกาลังเอาท์พุทไมส่ ูงนัก

ค. ไมเ่ หมาะกบั เครอื่ งกาเนิดขนาดกาลังเอาท์พุทสูง ๆ

ง. ถกู ทุกข้อ

97. ข้อใดกล่าวไม่ถกู ต้อง

ก. การควบคุมแรงดนั ไฟฟา้ ดว้ ยมอื ไม่รวดเรว็ และไม่สะดวก

ข. กระแสของโหลดและเพาเวอร์แฟกเตอรข์ องโหลดจะไม่มกี ารเปลยี่ นแปลง

ค. การควบคมุ แรงดนั ไฟฟ้าด้วยมอื ไมแ่ ม่นยาเท่าท่ีควร

ง. ในเครื่องกาเนิดเอาท์พุทสูง ๆ ควรใช้การควบคมุ แบบอัตโนมตั ิ

98. Automatic voltage regulator หมายถึงข้อใด

ก. การควบคุมแรงดันไฟฟ้า

ข. การควบคุมแรงดนั ไฟฟ้าด้วยมอื

ค. การควบคุมแรงดนั ไฟฟ้าดว้ ยเครือ่ งควบคุมอตั โนมตั ิ

ง. ถกู ทุกข้อ

99. ข้อใดกลา่ วถกู ต้อง

ก. โหลดมีการเปลยี่ นแปลงไม่ว่ากรณีใด ๆ ก็ตาม

ข. เม่ือโหลดเปลี่ยนแปลงเพาเวอร์แฟกเตอร์ของโหลดจะเปลย่ี นแปลง

ค. ถ้าแรงดันปลายสายมีการเปล่ียนแปลงนอ้ ยการควบคุมกด็ ี

ง. ถูกทุกข้อ

100. โวลท์เตจเรกกูเลช่นั หมายถงึ

ก. ผลบวกของแรงดันไฟฟ้า

ข. ผลหารของความแตกต่างแรงดนั ไฟฟ้าท่ีปลายสายเมือ่ มโี หลดกบั ไม่มีโหลด

ค. ผลคูณของแรงดนั ไฟฟ้าทีป่ ลายสายเม่อื มีโหลด

ง. ผลคูณของแรงดนั ไฟฟา้ ทปี่ ลายสายเม่ือไม่มีโหลด

101. ถ้าเกิดการเปล่ยี นแปลงขน้ึ ทางด้านเอาทพ์ ุทของเคร่ืองกาเนิดแคมปงิ้ ทรานซ์ฟอร์เมอร์ จะทางาน

แบบใด

ก. แบบสไปรลั

ข. แบบคอนเซนตริก

ค. แบบอินดักชั่น

ง. แบบสตาร์

102. แมเ่ หล็กตัวซจี ะเป็นอย่างไรถ้าแรงดันเอาท์พุทตา่ กวา่ พิกัด
ก. แมเ่ หล็กตวั ซที างานปกติ
ข. แม่เหลก็ ตวั ซที างานผิดปกติ
ค. แม่เหล็กตวั ซีมีอานาจแมเ่ หลก็ มากพอ
ง. แมเ่ หล็กตัวซไี ม่มีอานาจแมเ่ หล็กมากพอ

103. แคมปง้ิ ทรานซเ์ ฟอร์เมอร์ มีไวเ้ พอ่ื อะไร
ก. เพื่อทาใหเ้ อาท์พทุ ของเครื่องกาเนิดคงที่
ข. เพอ่ื ทาให้ครบวงจร
ค. เพื่อทาใหโ้ หลดทางานไดส้ ะดวก
ง. เพ่ือทาใหว้ งจรดูสวยงาม

104. เม่ือเพาวเ์ วอรแ์ ฟกเตอรน์ าหน้าและโหลดเพ่มิ มากข้ึนแรงดันทีป่ ลายสายจะสงู กวา่ เม่อื กระแสโหลด
มคี ่าเท่าใด
ก. ไมม่ ีโหลดหรือกระแส 0
ข. ไม่มโี หลดหรอื กระแส 10
ค. ไม่มีโหลดหรอื กระแส 20
ง. ไมม่ โี หลดหรือกระแส 100

105. เมอื่ โหลดเพิม่ ขึ้นแรงดนั ไฟฟ้าทป่ี ลายสายจะเป็นอย่างไร
ก. แรงดนั ไฟฟ้าจะเพิม่ ขนึ้ ด้วย
ข. แรงดนั ไฟฟา้ จะลดลง
ค. แรงดันไฟฟา้ จะคงที่
ง. แรงดนั ไฟฟ้าอาจเพม่ิ ขน้ึ หรอื ลดลงก็ได้

106. เคร่ืองกาเนิดขนาด 25kVA 250V 60 c/s 1-เฟส หมุนด้วยความเร็ว 1,800 rpm ที่ขดลวด
อาร์เมเจอรม์ ีความตา้ นทาน 0.1 โอหม์ มซี งิ โครรนสิ รีแอกเตอร์ 0.5 โอหม์ จ่ายกาลงั ไฟฟ้า
ใหโ้ หลดดว้ ยขนาดเตม็ พิกัด ท่เี พาเวอร์แฟกเตอร์ 1.0 จะมีกระแสโหลดเทา่ ใด
ก. 100 แอมป์
ข. 200 แอมป์
ค. 300 แอมป์
ง. 400 แอมป์

107. เพราะเหตุใดสถานีผลติ กระแสไฟฟา้ จะไมใ่ ช้เคร่ืองกาเนดิ ไฟฟ้าขนาดใหญ่ ๆ เพยี งตัวเดียว
ก. เพราะผลติ กระแสไฟฟา้ จ่ายโหลดไดอ้ ย่างต่อเนื่อง
ข. เพอื่ ให้เครื่องกาเนิดทางานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ค. เพราะกระแสไฟฟ้าที่จ่ายใหแ้ ต่ละแห่งนน้ั จะเพิ่มขนึ้ ตามความตอ้ งการ
ง. ถกู ทุกข้อ

108. ในการขนานเครอ่ื งกาเนดิ ไฟตรงสองเครื่องเข้าดว้ ยกันควรคานงึ ถงึ สิ่งใด
ก. แรงดนั ของเคร่ืองกาเนดิ ทัง้ สอง
ข. ความถ่ี
ค. แรงดนั แตล่ ะเฟส
ง. ถกู ทุกข้อ

109. ในการขนานเคร่อื งกาเนิดไฟสลบั ของเครอ่ื งเขา้ ด้วยกัน ควรคานงึ ถึงส่งิ ใด

ก. แรงดันเท่ากนั

ข. ความถเ่ี ทา่ กนั

ค. แรงดันจะต้องลาดบั เฟสเหมือนกันและเกดิ พร้อมกนั

ง. ถกู ทุกข้อ

110. ขบวนการในการขนานเครื่องกาเนดิ สองเครือ่ งเข้าดว้ ยกนั มีกข่ี น้ั ตอน

ก. 2 ขน้ั ตอน

ข. 3 ขั้นตอน

ค. 4 ข้ันตอน

ง. 5 ขน้ั ตอน

111. ขณะเครื่องกาเนิดท้ังสองขนานกนั และจ่ายพลังงานให้กับโหลดนนั้ พลังงานจะถูกแบง่ ระหวา่ ง

เครอ่ื งกาเนิดทั้งสองเป็นสัดส่วนกบั คา่ ใดของแต่ละเคร่ือง

ก. KN

ข. EI

ค. RPM

ง. KVN

112. ถ้าเครื่องกาเนิด No.1 จ่ายโหลดดว้ ยความถี่ 50 ไซเกลิ ก่โี หลด ณ จุด A เครื่องกาเนิด

No.2 เม่อื ขนานกับ No.1 เครือ่ งกาเนิด No.2 จะจา่ ยโหลดดว้ ยความถ่เี ทา่ ใด

ก. 50 ไซเกลิ

ข. 40 ไซเกลิ

ค. 30 ไซเกลิ

ง. 20 ไซเกิล

จงใช้โจทย์ต่อไปนี้คานวณขอ้ (113 – 114)

เครอื่ งกาเนดิ ไฟสลบั หนึง่ เฟสสองเคร่ือง แต่ละเครอ่ื งมีพิกัด 30 KVA, 240V, 60 c/s ขนานกนั แต่ละเคร่ือง

ทาหนา้ ท่พี าเวอร์แฟกเตอร์ 1.0 และโหลดมเี พาเวอรแ์ ฟกเตอร์ 1.0 โดยเครอ่ื งกาเนิด No.1 ปอ้ นกาลัง

ไฟฟา้ ให้โหลดมคี ่า 30kw และเครือ่ งกาเนิด No.2 ป้อนกาลังไฟฟา้ ใหโ้ หลด 18kw

113. กระแสท่ีเครอ่ื งกาเนดิ แต่ละเครอ่ื งจา่ ยให้โหลดมคี ่าเทา่ ใด

ก. 100 แอมป์, 65 แอมป์

ข. 125 แอมป์, 75 แอมป์

ค. 180 แอมป์, 80 แอมป์

ง. 200 แอมป์, 85 แอมป์

114. กระแสรวมทป่ี ้อนให้กับโหลดมีคา่ เท่าใด

ก. 250 แอมป์ ข. 200 แอมป์

ค. 100 แอมป์ ง. 50 แอมป์

115. Over load หมายถงึ ข้อใด

ก. เคร่อื งกาเนดิ ทางานปกติ ข. เครอื่ งกาเนิดทางานผิดปกติ

ค. เครอ่ื งกาเนิดทางานเตม็ พกิ ัด ง. เครอ่ื งกาเนิดทางานเกินพกิ ัด

116. การระบายความร้อนเครอ่ื งกาเนดิ ไฟฟ้ามกี ว่ี ิธี

ก. 6 ข. 5 ค. 4 ง. 3

117. วธิ ีระบายความรอ้ นแบบใดทรี่ ะบายอากาศภายในกบั ภายนอกเครอ่ื งกลไฟฟ้าจะไม่มีการเคลื่อนที่ถังกัน

ก. วธิ รี ะบายความรอ้ นแบบเรเดียล

ข. วิธรี ะบายความร้อนแบบแอกเซียล

ค. วิธีระบายความร้อนแบบผสม

ง. วิธีระบายความร้อนแบบวงจรปดิ

118. วิธีระบายความร้อนแบบใดออกแบบใหอ้ ากาศที่เข้าไปภายในเครอ่ื งกลแล้วมีทิศทางการเคล่ือนท่ีทั้งใน

แนวแกนและในแนวดิ่ง

ก. วธิ รี ะบายความรอ้ นแบบผสม

ข. วธิ รี ะบายความรอ้ นแบบวงจรปิด

ค. วธิ รี ะบายความรอ้ นแบบเรเดียล

ง. วิธีระบายความร้อนแบบแอกเซียล

119. ถ้าเคร่ืองกลไฟฟา้ ขนาดเอาท์พุทปานกลาง มีความเร็วรอบสงู ๆ ควรใชว้ ธิ ใี ดในการระบายความร้อน

ก. วธิ ีระบายความรอ้ นแบบเรเดียล

ข. วิธีระบายความร้อนแบบแอกเซยี ล

ค. วธิ ีระบายความร้อนแบบผสม

ง. วิธรี ะบายความรอ้ นแบบวงจรเปดิ

120. ถา้ เครื่องกลไฟฟา้ ที่มขี นาดต่ากวา่ 20kw ควรใช้วิธใี ดในการระบายความร้อน

ก. วิธรี ะบายความร้อนแบบผสม

ข. วธิ รี ะบายความร้อนแบบวงจรปิด

ค. วธิ รี ะบายความร้อนแบบเรเดียล

ง. วิธรี ะบายความร้อนแบบแอกเซยี ล

121. Effective resistance หมายถงึ ข้อใด

ก. ความตา้ นทานไฟสลบั

ข. ความตา้ นทานไฟตรง

ค. แรงดันไฟฟา้

ง. กระแสไหลผา่ นคอยล์

122. การวัดค่าแรงดนั และกระแสไฟทป่ี ้อนใหก้ บั ขดลวดควรวัดขณะใด

ก. ขณะเดนิ เคร่ือง

ข. ขณะไม่เดนิ เคร่อื ง

ค. ขณะเครอ่ื งทางานหนัก

ง. ขณะใดก็สามารถวัดค่าได้

123. ความต้านทานไฟสลบั ของขดลวดอาร์เมเจอร์จะมีคา่ ประมาณกี่เท่าของความตา้ นทานไฟตรง

ก. 0.8 – 1.9 เท่าของความต้านทานไฟตรง

ข. 1.0 – 1.1 เท่าของความตา้ นทานไฟตรง

ค. 1.2 – 1.6 เทา่ ของความต้านทานไฟตรง

ง. 1.7 – 2.0 เทา่ ของความตา้ นทานไฟตรง

124. ความต้านทานไฟตรงจะเขียนอักษรย่อเป็นแบบใด

ก. R ข. Re
ค. Reff ง. Rdc
125. ความตา้ นทานไฟสลบั หรือความตา้ นทานยังผลจะเขียนอักษรยอ่ เป็นแบบใด

ก. R ข. Rdc
ค. Reff ง. ถูกท้งั ข้อ ก และ ค

126. เส้นแรงแม่เหลก็ รัว่ ไหลหรือท่เี รียกว่า

ก. ลกี เกจฟลั๊ก ข. อนิ ดกั แตนซ์

ค. อนิ ดิวส์ ง. อี เอ็ม เอฟ

127. จากรูปท่กี าหนดให้คอื ลักษณะลีกเกจฟลั๊กแบบใด
ก. ลกี เกจฟล๊ักของสลอ๊ ทกึ่งปิด
ข. ลกี เกจฟลั๊กของสล๊อทเปิด
ค. ลีกเกจฟลั๊กของกลมุ่ สล๊อท
ง. ลีกเกจฟลั๊กท่ีปลายคอยล์

128. จากรูปทก่ี าหนดใหค้ ือลกั ษณะลีกเกจฟล๊กั แบบใด
ก. ลีกเกจฟลั๊กของสลอ๊ ทก่ึงปดิ
ข. ลกี เกจฟล๊ักของสล๊อทเปดิ
ค. ลกี เกจฟลั๊กของกลุ่มสล๊อท
ง. ลกี เกจฟล๊ักที่ปลายคอยล์

129. จากรูปทก่ี าหนดให้คือลกั ษณะลีกเกจฟล๊ักแบบใด
ก. ลีกเกจฟล๊ักของสล๊อทก่งึ ปดิ
ข. ลีกเกจฟล๊ักของสลอ๊ ทเปิด
ค. ลีกเกจฟลั๊กของกลมุ่ สล๊อท
ง. ลกี เกจฟลั๊กทป่ี ลายคอยล์

130. คา่ ลกี เกจฟล๊กั จะข้นึ อยูก่ ับสิง่ ใด

ก. กระแส I ที่ไหลผา่ นขดลวดอาร์เมเจอร์

ข. ความถี่ของเซลฟอ์ ินดักแตนซ์

ค. แรงเคลือ่ นไฟฟา้ เหนยี่ วนาเซลฟ์ อนิ ดวิ ส์ อี เอม็ เอฟ

ง. ถูกทุกข้อ

131. ความหนาแน่นเส้นแรงแมเ่ หล็กท่ีสมมาตรกัน มสี ่วนสูงทัง้ ด้านบวกและลบเปน็ ลกั ษณะแบบใด

ก. ลกั ษณะกลม ข. ลกั ษณะแบน

ค. ลักษณะวงรี ง. ลกั ษณะสามเหลี่ยม

132. เม่ือขดลวดอาร์เมเจอรเ์ คลื่อนทีไ่ ป 90 องศาไฟฟ้า อยภู่ ายใตข้ ว้ั แม่เหล็ก S จะเกดิ กระแสไฟฟ้า

ไหลสงู สุดและสาหรับแรงเคลือ่ นไฟฟ้า 90 องศาไฟฟา้ หมายถึงข้อใด

ก. อาร์เมเจอรร์ ีแอกชนั่ ในเครื่องกาเนิดหนงึ่ เฟส เม่ือกระแสล้าหลงั แรงเคลือ่ นไฟฟ้าเหนี่ยวนา

90 องศาไฟฟ้า

ข. อาร์เมเจอรแ์ อกช่ันในเครื่องกาเนดิ หนง่ึ เฟส เม่ือกระแสนาหนา้ แรงเคลอื่ นไฟฟา้ เหนี่ยวนา

90 องศาไฟฟา้

ค. เส้นแรงแม่เหลก็ ไฟฟา้ ในขดลวดอารเ์ มเจอร์ของเคร่ืองกาเนิดสามเฟส เม่อื กระแสสมดลุ

ง. ถูกทุกข้อ

133. เม่ือขดลวดอารเ์ มเจอร์อยู่ภายใตข้ ้ัว N และเคลื่อนท่ีไป 90 องศาไฟฟ้า จะเกิดแรงเคลอื่ นไฟฟา้

สูงสุดมาล้าหลงั กระแส 90 องศาไฟฟ้า หมายถงึ ข้อใด

ก. อาร์เมเจอรร์ ีแอกช่ันในเครื่องกาเนิดหน่งึ เฟส เมอ่ื กระแสล้าหลังแรงเคล่ือนไฟฟ้าเหน่ียวนา

90 องศาไฟฟ้า

ข. อารเ์ มเจอรแ์ อกช่ันในเครื่องกาเนิดหนง่ึ เฟส เมื่อกระแสนาหนา้ แรงเคลือ่ นไฟฟา้ เหนย่ี วนา

90 องศาไฟฟ้า

ค. เสน้ แรงแมเ่ หล็กไฟฟ้าในขดลวดอารเ์ มเจอร์ของเคร่ืองกาเนิดสามเฟส เม่อื กระแสสมดลุ

ง. ถูกทุกข้อ

134. ขอ้ ใดหมายถงึ mmf

ก. manganese model fold

ข. maximum motor focus

ค. magneto motive force

ง. magnesium motive foiled

135. การเกิดแรงดันไฟฟา้ ตกคร่อมทขี่ ดลวดอาร์เมเจอร์ จะส่งผลอย่างไร

ก. เกดิ แรงเคลอ่ื นไฟฟ้า

ข. เกดิ แรงเคลอื่ นไฟฟา้ เหน่ยี วนาเม่อื มโี หลด

ค. โหลดไมท่ างาน

ง. เกิดแรงเคลอ่ื นไฟฟ้าเหน่ียวนาเมื่อยงั ไม่มีโหลด

136. ขอ้ ใดหมายถงึ กระแสไลน์

ก. line current ข. line voltage

ค. phase voltage ง. phase current

137. ข้อใดหมายถงึ แรงดันเฟส

ก. phase current ข. phase voltage

ค. line voltage ง. line current

138. Phase current หมายถงึ ข้อใด

ก. แรงดนั ไลน์ ข. กระแสไลน์

ค. แรงดนั เฟส ง. กระแสเฟส

139. ling voltage หมายถงึ ข้อใด

ก. แรงดนั เฟส ข. กระแสไลน์

ค. แรงดันไลน์ ง. กระแสเฟส

140. Synchronizing Curent หมายถงึ ข้อใด

ก. กระแสซงิ โครไนซ์ ข. กาลงั ไฟฟ้าซิงโครไนซ์

ค. แรงบดิ ซงิ โครไนซ์ ง. ถกู ทุกข้อ

141. Synohronizing Power หมายถงึ ข้อใด

ก. กระแสซงิ โครไนซ์ ข. กาลังไฟฟา้ ซิงโครไนซ์

ค. แรงบดิ ซิงโครไนซ์ ง. ถูกทุกข้อ

142. ถ้าเครื่องกาเนิดไฟฟ้าทางานเกนิ พิกัดจะมวี ธิ ีแกไ้ ขอยา่ งไร

ก. จัดโหลดให้สมดลุ

ข. วดั กระแสเทยี บกบั ขนาดบนแผ่นป้ายและลดโหลด

ค. ตรวจและเปล่ยี นขดลวดท่ชี ารุดใหม่

ง. ปรบั กัฟเวอรเ์ นอรค์ วบคมุ ความเร็ว

143. ถา้ เครื่องกาเนิดเกิดโหลดไม่สมดลุ ควรแก้ไขอยา่ งไร

ก. เปลีย่ นฟิวสใ์ หม่

ข. ทาความสะอาดทางระบายความร้อน

ค. จัดโหลดใหส้ มดุล

ง. เปลย่ี นขดลวดใหม่

144. ถา้ เครื่องกาเนิดระบายความร้อนไม่ดี จะมวี ธิ ีแก้ไขอยา่ งไร

ก. ตรวจเช็คสายพาน

ข. เปล่ยี นลูกปืนใหม่

ค. กวดนัทใหแ้ น่หรืออาบวานชิ และอบใหม่

ง. ทาความสะอาดและเอาสิง่ ท่ีกีดขวางทางระบายความรอ้ นออก

145. ข้อใดคอื สาเหตุเมื่อสมั ผสั โครงเครือ่ งกาเนิดแล้วไฟชอ๊ ต

ก. ขดลวดสนามแมเ่ หลก็ ลัดวงจร ข. ข้อต่อขดลวดไม่แนน่

ค. ขดลวดอาร์เมเจอรร์ ่ัวลงดิน ง. ถูกทุกข้อ

146. ถา้ ข้อต่อทีส่ ลปิ ริงไม่ดีควรแก้ไขอย่างไร

ก. ตรวจความต้านทานของขดลวด

ข. ทาความสะอาดสลปิ ริงและแปรงถ่าน ปรบั แปรงถ่านให้สมั ผัสแน่น

ค. ทาความสะอาดและปรับหน้าสัมผัสใหแ้ นน่

ง. ปรบั กฟั เวอรเ์ นอรค์ วบคมุ ความเรว็

147. เพราะเหตุใดจงึ ต้องตรวจลาดับขั้วและต่อลาดบั ข้วั สายไฟใหถ้ ูกต้อง
ก. ขดลวดสนามแม่เหล็กอาจลัดวงจร
ข. กระแสไฟตรงป้อนฟิลด์อาจสูงเกนิ ไป
ค. จะได้ระบายความร้อนไดด้ ี
ง. ปอ้ งกนั ขดลวดสนามแมเ่ หล็กทส่ี เตเตอร์กลับทาง

148. เหตใุ ดจึงต้องลดกระแสไฟตรงจากเอกซ์ไซด์เตอรล์ ง
ก. ขดลวดสนามแม่เหล็กลดั วงจร
ข. การระบายความร้อนไมด่ ี
ค. ข้อต่อขดลวดไมแ่ น่น
ง. กระแสไฟตรงปอ้ นฟิลด์สูงเกนิ ไป

149. สาเหตุใดจึงต้องตรวจการโค้งงอของเพลา
ก. ขดลวดอาร์เมเจอรล์ ัดวงจร
ข. หน้าสมั ผสั โวลทเ์ ตจเรกกเู ลเตอร์สกปรก
ค. โรเตอรไ์ ม่ได้ศนู ย์กลาง
ง. ขดลวดแต่ละวงจรไม่สมดลุ

150. เพราะเหตุใดจงึ ต้องมีการแก้ไขบารงุ รักษาเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
ก. ใหอ้ ายุการใชง้ านเคร่ืองนานข้ึน
ข. เครอ่ื งทางานได้อย่างมปี ระสิทธภิ าพ
ค. ป้องกันการเกิดชารดุ เสียหายง่าย
ง. ถกู ทุกข้อ


Click to View FlipBook Version