ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับตั๋วเงิน บทที่1

รหัสวิชา 20201-2102

ความรู้ทั่วไป
เกี่ยวกับตั๋วเงิน

เนื้อหารายวิชา การบัญชีตั๋วเงิน

นำเสนอ นางกนกกร พรหมวิเศษ

คำนำ

กลุ่มนักศึกษาได้จัดทำ E-BOOK รายวิชา การบัญชีตั๋วเงิน รหัสวิชส 20201-2102 ตรงตาม
จุดประสงค์รายวิชา

เนื้อหาใน E-OOK เป็นดังนี้
1. ความหมายของตั๋วเงิน
2. ประเภทของตั๋วเงิน
3. การคำนวณวันครบกำหนดของตั๋วเงิน
4. การคำนวณดอกเบี้ยของตั๋วเงิน
5. การคำนวณมูลค่าเมื่อครบกำหนดของตั๋วเงิน
แต่ละหัวข้อมีตัวอย่างอธิบายอย่างละเอียด สอดคล้องกับแนวทางการวัดและประเมิน
ผลตามจุดประสงค์รายวิชา สมรรถนะรายวิชา และคำอธิบายรายวิชา ส่งเสริมการคิดวิเคราะห์
สร้างสรรค์การทำงาน ให้ผู้อ่านได้มีประสบการณ์นำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง
หวังว่าการทำE-BOOK ครั้งนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่าน ได้ใช้ในแนวทางในการจัดการ
เรียนรู้ที่สอดรับกับการดำเนินการประกันคุณภาพและเพื่อพร้อมรับการประเมินคุณภาพ และ
หากมีข้อเสนอแนะประการใด กลุ่มนักศึกษาน้อมรับไว้ด้วยความขอบคุณยิ่ง

สารบัญ หน้า

เรื่อง (ก)
(ข)
คํานํา
สารบัญ

ความหมายของตั๋วเงิน 1
ประเภทของตั๋วเงิน


ตั๋วแลกเงิน 2
ตั๋วสัญญาใช้เงิน 3
ข้อแตกต่างระหว่างตั๋วแลกเงินและ 8
ตั๋วสัญญาใช้เงิน/เช็ค 11
การคํานวณวันครบกําหนดของตั๋วเงิน
ตั๋วมีเวลามีกำหนดระยะเวลาเป็นวัน

14
กําหนดเวลาของตั๋วเป็นเดือน/ 15
กําหนดเวลาของตั๋วเป็นปี 16
การคํานวณดอกเบี้ยตั๋วเงิน
ถ้าตั๋วกําหนดเวลาเป็นวัน/ 17
ถ้าตั๋วกําหนดเวลาเป็นเดือน 18
ถ้าตั๋วกําหนดเวลาเป็นปี 19
การคํานวณมูลค่าเมื่อครบกำหนดของตั๋วเงิน
บรรณานุกรม

20



21

1

หน่วยที่ 1ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับตั๋วเงิน
ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับตั๋วเงิน

1. ความหมายของตั๋วเงิน (Note)

ตามประมวลกฎหมายแพ่งและ
พาณิชย์ มาตรา 898 อันตั๋วเงินตาม
ความหมายแห่งประมวลกฎหมายนี้มี
สามประเภทประเภทหนึ่งคือ ตั๋วแลก
เงิน ประเภทหนึ่งคือ ตั๋วสัญญาใช้เงิน
ประเภทหนึ่งคือ เช็ค

ในทางบัญชี ตั๋วเงิน หมายถึง
เอกสารหรือหลักฐานที่แสดงการเป็นหนี้
ระหว่างลูกหนี้และเจ้าหนี้ ในวงการธุรกิจ
ทั่วไปจะใช้ตั๋วเงินเพื่อชําระหนี้ เมื่อมีการ
ซื้อขายสินค้าหรือบริการเป็นเงินเชื่อ กู้
ยืมเงินจากธนาคาร การซื้อขายสินค้า
ระหว่างประเทศ รวมทั้งการขอผัดผ่อน
การชําระหนี้ที่ถึงกําหนดชําระ

ดังนั้นตั๋วเงิน หมายถึง เอกสาร
หรือหลักฐานที่แสดงการเป็นหนีระหว่าง
เจ้าหนี้และลูกหนี้ที่จะใช้ตั๋วเงินเพื่อชําระ
หนี้เมื่อมีการซื้อขายสินค้าหรือบริการเป็น
เงินเชื่อและใช้เป็นหลักฐานในการกู้ยืม
เงิน

2

หน่วยที่ 1ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับตั๋วเงิน
ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับตั๋วเงิน

2. ประเภทของตั๋วเงิน

ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา 898 แบ่งตั๋วเงินออกเป็น 3
ประเภท คือ
2.1 ตั๋วแลกเงิน (Bill of
Exchange)
2.2 ตั๋วสัญญาใช้เงิน
(Promissory Note)
2.3 เช็ค (Cheque)

2.1 ตั๋วแลกเงิน (Bill of
Exchange)

ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา 908 อันว่าตั๋วแลกเงินนั้น คือ
หนังสือตราสารซึ่งบุคคลคนหนึ่ง เรียกว่า
ผู้สั่งจ่าย สั่งบุคคลอีกคนหนึ่ง เรียกว่า ผู้
จ่ายให้ใช้เงินจํานวนหนึ่งแก่บุคคลคนหนึ่ง
หรือให้ใช้ตามคําสั่งของบุคคลคนหนึ่งซึ่ง
เรียกว่า ผู้รับเงิน

3

หน่วยที่ 1
ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับตั๋วเงิน

2.1 ตั๋วแลกเงิน (Bill of Exchange)

ความรู้ทั่วไปเกี่วกับตั๋วเงิน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา 909 อันตั๋วแลกเงินนั้นต้องมี
รายการดังต่อไปนี้ คือ
(1) คําบอกชื่อ ว่าเป็น ตั๋วแลกเงิน
(2) คําสั่ง อันปราศจาก เงื่อนไข ให้
จ่ายเงิน เป็นจํานวนแน่นอน
(3) ชื่อ หรือ ยี่ห่อ ผู้จ่าย
(4) วันถึงกําหนดใช้เงิน
(5) สถานที่ใช้เงิน
(6) ชื่อ หรือ ยี่ห่อ ผู้รับเงิน หรือ คํา
จดแจ้งว่า ให้ใช้เงิน แก่ผู้ถือ
(7) วัน และ สถานที่ออกตั๋วเงิน
(8) ลายมือชื่อ ผู้สั่งจ่าย

จากบทบัญญัติดังกล่าวข้างต้นตั๋วแลก
เงินเป็นเอกสารที่ผู้สั่งจ่ายสั่งให้ผู้จ่าย จ่าย
เงินให้ผู้รับเงิน ดังนั้น ตั๋วเงินจะสมบูรณ์ก็
ต่อเมื่อผู้จ่ายรับรองการใช้เงินตามตั๋วโดยลง
ลายมือและวันที่

หน่วยที่ 1 4
ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับตั๋วเงิน

2.1 ตั๋วแลกเงิน (Bill of Exchange)

รับรองการใช้เงินตามตั๋วไว้ด้านหน้าของตั๋วแลกเงิน
และตั๋วแลกเงินอาจมีบุคคลที่เกี่ยวข้อง 2 ฝ่าย
หรือ 3 ฝ่ายก็ได้

รูปที่ 1.1 รายการในตั๋วแลกเงิน
จากรูปที่ 1.1 หมายเลขแสดงดังต่อไปนี้
1.คําบอกชื่อว่าเป็นตั๋วแลกเงิน
2.จํานวนเงิน
3.ชื่อผู้จ่ายเงิน
4.วันถึงกําหนดใช้เงิน
5.สถานที่ใช้เงิน
6.ชื่อผู้รับเงิน 7.วัน และ สถานที่ออกตั๋วเงิน
8 ผู้สั่งจ่าย

5

หน่วยที่ 1
ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับตั๋วเงิน

2.1 ตั๋วแลกเงิน (Bill of Exchange)

ตั๋วแลกเงิน 2 ฝ่าย คือผู้สั่งจ่ายและผู้จ่ายเงิน
เป็นบุคคลคนเดียวกัน

ความรู้เกี่ยวกับตั๋วเงิน รูปที่ 1.2 ตั๋วแลกเงินที่มีบุคคลเกี่ยวข้อง 2ฝ่าย
จากรูปที่ 1.2 ตั๋วแลกเงินที่มีบุคคลเกี่ยวข้อง 2
ฝ่ายประกอบด้วย
1. ผู้สั่งจ่ายและผู้รับเงิน คือ นายแดง แสนดี
2. ผู้จ่ายเงิน คือ นายมานะ สุขใจ

หน่วยที่ 1 6
ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับตั๋วเงิน

2.1 ตั๋วแลกเงิน (Bill of Exchange)

ตั๋วแลกเงินที่มีบุคคล 3 ฝ่าย ประกอบ
ด้วย ผู้สั่งจ่าย ผู้จ่ายเงินและผู้รับเงิน

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับตั๋วเงิน รูปที่ 1.3 ตั๋วแลกเงินที่มีบุคคลเกี่ยวข้อง 3ฝ่าย
จากรูปที่ 1.3 ตั๋วแลกเงินที่มีบุคคลเกี่ยวข้อง 3
ฝ่ายประกอบด้วย
1. ผู้สั่งจ่าย คือ นายแดง แสนดี
2. ผู้จ่ายเงิน คือ นายมานะ สุขใจ
3. ผู้รับเงิน คือ นายปรีชา ศิริ

หน่วยที่ 1 7
ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับตั๋วเงิน

2.1 ตั๋วแลกเงิน (Bill of Exchange)

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับตั๋วเงิน ตั๋วแลกเงิน แบ่งได้ 2 ชนิด คือ

2.1.1 ตั๋วแลกเงินในประเทศ
(Domestic Bill)

เป็นตั๋วแลกเงินที่ผู้เกี่ยวข้องในตั๋วอยู่
ในประเทศเดียวกัน นั่นคือ ผู้สั่งจ่าย
ผู้จ่าย และผู้รับเงินอยู่ในประเทศ
เดียวกัน

2.1.2 ตั๋วแลกเงินตางประเทศ
(Foreign Bill)

เป็นตั๋วแลกเงินที่ผู้เกี่ยวข้องในตั๋วอยู่
คนละประเทศกัน นั่นคือ ผู้สั่งจ่าย
ผู้จ่าย และผู้รับเงิน อยู่คนละ
ประเทศกัน ใช้เพื่อเรียกเก็บเงินจาก
ลูกค้าต่างประเทศ ธนาคารมักจะทํา
หน้าที่เป็นผู้รับเงิน แทนผู้สั่งจ่าย

หน่วยที่ 1 8
ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับตั๋วเงิน

2.2 ตั๋วสัญญาใช้เงิน (Promissory Note)

PITCH DECK V 1.0 ตามประมวลกฎหมายแพ่งและ
พาณิชย์มาตรา 982 ได้บัญญัติว่า
อันว่าตั๋วสัญญาใช้เงินนั้นคือ หนังสือ
ตราสารซึ่งบุคคลคนหนึ่ง เรียกว่า ผู้ออก
ตั๋วให้คํามั่นสัญญาว่าจะใช้เงิน จํานวนหนึ่ง
ให้แก่บุคคลอีกคนหนึ่งหรือใช้ให้ตามคําสั่ง
ของบุคคลอีกคนหนึ่ง เรียกว่า ผู้รับเงิน
จากความหมายข้างต้นคู่สัญญาของตั๋ว
สัญญาใช้เงินจะเกี่ยวข้องกับบุคคล 2
ฝ่ายคือ

2.2.1 ผู้ออกตั๋ว

ผู้จัดทําตั๋วสัญญาใช้เงินซึ่งมี
ภาระผูกพันที่ต้องจ่ายเงินตามที่ใหน
คํามั่นสัญญาไว้ในตั๋วสัญญาใช้เงิน
ฉบับนั้นโดยมีฐานะเป็นลูกหนี้และมี
ภาระในการจ่ายชําระหนี้เมื่อตั๋วเงินถึง
กําหนด

9

หน่วยที่ 1
ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับตั๋วเงิน

2.2 ตั๋วสัญญาใช้เงิน (Promissory Note)

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับตั๋วเงิน 2.2.2 ผู้รับเงิน

ผู้ทรงตั๋ว หรือผู้ถือตั๋ว ซึ่งถือตั๋ว
สัญญาใช้เงินฉบับนั้นไว้ในมือ โดยมี
ฐานะเป็นเจ้าหนี้และเมื่อถึงวันครบกํา
หนดของตั๋ว จะได้รับเงินตามตั๋วที่กํา
หนดไว้

ตามประมวลกฎหมายแพ่งและ
พาณิชย์ มาตรา 983 ได้บัญญัติว่าตั๋ว
สัญญาใช้เงินนั้นต้องมีรายการดังจะกล่าว
ต่อไปนี้ คือ
(1) คําบอกชื่อว่าเป็นตั๋วสัญญาใช้เงิน
(2) คํามั่นสัญญาอันปราศจากเงื่อนไขว่า
จะใช้เงินเป็นจํานวนแน่นอน
(3) วันถึงกําหนดใช้เงิน
(4) สถานที่ใช้เงิน
(5) ชื่อหรือยี่ห้อของผู้รับเงิน
(6) วันและสถานที่ออกตั๋วสัญญาใช้เงิน
(7) ลายมือชื่อผู้ออกตั๋ว

หน่วยที่ 1 10
ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับตั๋วเงิน

2.2 ตั๋วสัญญาใช้เงิน (Promissory Note)

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับตั๋วเงิน รูปที่ 1.4 ตั๋วสัญญาใช้เงิน
จากรูปที่ 1.4 ผู้เกี่ยวข้องกับตั๋วสัญญาใช้
เงิน ประกอบด้วย
1. ผู้สั่งจ่าย/ผู้ออกตั๋ว/ผู้จ่ายคือ นางมณี
จําปาเทศ
2. ผู้รับเงินคือ นายสุรศักดิ์ เกิดก่อน

หน่วยที่ 1 11
ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับตั๋วเงิน

ข้อแตกต่างระหว่างตั๋วแลกเงินและ
ตั๋วสัญญาใช้เงิน/2.3 เช็ค (Cheque)

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับตั๋วเงิน ตารางที่ 1.1 ข้อแตกต่างระหว่างตั๋วแลก
เงินและตั๋วสัญญาใช้เงิน

2.3 เช็ค (Cheque)

ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย9
มาตรา 987 ได้บัญญัติว่า อันว่า เช็ค
นั้นคือหนังสือ ตราสารซึ่งบุคคลคนหนึ่ง
เรียกว่า ผู้สั่งจ่าย สั่งธนาคารให้ใช้เงินจํา
นวนหนึ่งเมื่อทวงถามให้แก่บุคคลอีกคน
หนึ่ง หรือให้ใช้ตามคําสั่งของบุคคลอีกคน
หนึ่งอันเรียกว่า ผู้รับเงิน

12

หน่วยที่ 1ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับตั๋วเงิน
ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับตั๋วเงิน

2.3 เช็ค (Cheque)

ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา 988 ได้บัญญัติว่า อันเช็คนั้นต้องมี
รายการ ดังกล่าวต่อไปนี้ คือ
(1) คําบอกชื่อว่าเป็นเช็ค
(2) คําสั่งอันปราศจากเงื่อนไขให้ใช้เงิน
เป็นจํานวนแน่นอน
(3) ชื่อหรือยี่ห้อและสํานักของธนาคาร
(4) ชื่อหรือยี่ห้อของผู้รับเงินหรือคําจดแจ้ง
ว่า ให้ใ้ช้เงินแก่ผู้ถือ
(5) สถานที่ใช เงิน
(6) วันและสถานที่ออกเช็ค
(7) ลายมือชื่อผู้สั่งจ่าย

เช็ค มีผู้เกี่ยวข้อง 3 ฝ่าย ได้แก่
2.3.1 ผู้ออกเช็คหรือผู้สั่งจ่าย (Drawer)
2.3.2 ธนาคาร คือ ผู้จ่ายเงิน (Bank)
2.3.3 ผู้รับเงิน คือ ผู้ที่มีเช็คในครอบครอง
(Payee)

หน่วยที่ 1 13
ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับตั๋วเงิน

2.3 เช็ค (Cheque)

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับตั๋วเงิน รูปที่ 1.5 ผู้ที่เกี่ยวข้องในเช็ค
จากรูปที่ 1.5 ผู้ที่เกี่ยวข้องในเช็ค
ประกอบด้วย
1. ผู้ออกเช็คหรือผู้สั่งจ่าย คือ ผู้มีอํานา
จลงนามในเช็ค
2. ธนาคาร คือ ผู้จ่ายเงิน คือ ธนาคาร
กรุงไทย
3. ผู้รับเงิน คือ ผู้ที่มีเช็คในครอบครอง
คือ บริษัทวังอักษร จํากัด

14

หน่วยที่ 1PITCH DECK V 1.0
ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับตั๋วเงิน

3. การคํานวณวันครบกําหนดของตั๋วเงิน

วันครบกําหนดใช้เงินตามตั๋วจะต้องมีกําหนด
วันที่แน่นอนว่าจะต้องเป็นวันที่เท่าไหร่ ซึ่งกํา
หนดในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา 913 ซึ่งวันถึงกําหนดของตั๋วเงิน
ย่อมเป็นอย่างใด อย่างหนึ่งดังกล่าวต่อไปนี้
คือ
(1) วันใดวันหนึ่งที่กําหนดไว้ในตั๋วเงิน เช่น
ให้จ่ายเงินวันที่ 31 มีนาคม 2557
(2) เมื่อสิ้นระยะเวลาอันกําหนดไว้นับแต่วัน
ที่ลงในตั๋วนั้น เช่น ให้จ่ายเงินเมื่อครบกําหนด
60 วัน นับแต่วันที่ออกตั๋ว
(3) วันที่เมื่อทวงถามหรือเมื่อได้เห็น เช่น
ระบุว่าให้จ่ายเงินเมื่อทวงถามหรือผู้จ่ายได้เห็น
(4) วันที่เมื่อสิ้นระยะเวลาอันกําหนดไว นับ
แต่ได้เห็น เช่น ให้จ่ายเงินภายใน 90 วัน
นับแต่ ได้เห็นตั๋ว

ดังนั้นการกําหนดวันครบกําหนดของ
ตั๋วเงินอาจกําหนดเป็น วัน เดือน หรือปีก็ได้

หน่วยที่ 1 15

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับตั๋วเงิน

3. การคํานวณวันครบกําหนดของตั๋วเงิน

การคํานวณวันครบกําหนดจะไม่นับ
วันออก ตั๋วหรือวันรับรองตั๋วแต่ให้เริ่มนับ
ตั้งแต่วันถัดจากวันออกตั๋ว หรือวันถัดจาก
วันรับรองตั๋ว

3.1 ถ้าตั๋วมีเวลามีกำหนดระยะเวลาเป็นวัน

ตัวอย่างที่ 1 ตั๋วลงวันที่ 17 พฤษภาคม
กําหนด 50 วัน ให้คํานวณหาวันครบกําหนด
ของตั๋วเงิน
วิธีการคํานวณวันครบกําหนดดังนี้
พ.ค. 31-17 = 14 วัน
มิ.ย. = 30 วัน
ก.ค. = 16 วัน
รวม 50 วัน
วันครบกําหนดคือวันที่ 16 กรกฎาคม

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับตั๋วเงิน ตัวอย่างที่ 2 ตั๋วเงินลงวันที่ 30 มิถุนายน
กําหนด 35 วัน ให้คํานวณหาวันครบกําหนด
ของตั๋วเงิน
วิธีการคํานวณวันครบกําหนดดังนี้
มิ.ย. = - วัน
ก.ค. = 31 วัน
ส.ค. = 4 วัน
รวม 35 วัน
วันครบกําหนดคือวันที่ 4 สิงหาคม

16

หน่วยที่ 1
ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับตั๋วเงิน

3. การคํานวณวันครบกําหนดของตั๋วเงิน

3.2 กําหนดเวลาของตั๋วเป็นเดือน
วันครบกําหนดของตั๋วจะตรงกับวันที่ที่
ออกตั๋ว โดยนับระยะเวลาไปจนครบจํานว
นเดือนที่กําหนด เว้นแต่เดือนที่ครบกํา
หนดจะไม่มีวันที่นั้นก็ให้ถือวัน สุดท้าย
ของเดือนเป็นวันครบกําหนด

ตัวอย่างที่ 3

PITCH DECK V 1.0 3.3 กําหนดเวลาของตั๋วเป็นปี

วันครบกําหนดของตั๋วจะเป็นวันที่และ
เดือนเดียวกันกับวันที่และเดือนที่ออกตั๋ว
โดยนับระยะเวลาไปจนครบกําหนดจํานวน
ปีที่กําหนด

17

หน่วยที่ 1
ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับตั๋วเงิน

4. การคํานวณดอกเบี้ยตั๋วเงิน

ตัวอย่างที่ 4

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับตั๋วเงิน 4. การคํานวณดอกเบี้ยตั๋วเงิน

ตั๋วสัญญาใช้เงินหรือตั๋วแลกเงินอาจ
จะมีดอกเบี้ยหรือไม่ก็ได้ ถ้าไม่มีดอกเบี้ย
จํานวนเงินที่ได้รับ เมื่อครบกําหนดจะเท่ากับ
จํานวนเงินหน้าตั๋ว แต่ถ้าเป็นตั๋วมีดอกเบี้ย
จํานวนเงินที่ได้รับเมื่อครบกําหนดจะเท่ากับ
จํานวนเงินหน้าตั๋วบวกดอกเบี้ย การคํา
นวณมีวิธีการดังนี้

18

หน่วยที่ 1
ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับตั๋วเงิน

4. การคํานวณดอกเบี้ยตั๋วเงิน

4.1 ถ้าตั๋วกําหนดเวลาเป็นวัน

คํานวณดอกเบี้ยตั๋วตามวัน เพื่อความ
สะดวกในการคํานวณ อาจใช้เกณฑ์คือ
กําหนด 1 ปี มี 360 วัน

ตัวอย่างที่ 5 ตั๋วลงวันที่ 15 มิถุนายน จํานวน
เงิน 30,000 บาท กําหนด 90 วัน อัตรา
ดอกเบี้ย 6% ต่อปี

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับตั๋วเงิน 4.2 ถ้าตั๋วกําหนดเวลาเป็นเดือน

ให้คํานวณดอกเบี้ยเป็นเดือน ให้เทียบ
ส่วนเป็นปีใช้เกณฑ์ 1 ปี มี 12 เดือน

ตัวอยางที่ 6 ตั๋วลงวันที่ 5 พฤษภาคม จํานวน
เงิน 20,000 บาท กําหนด 2 เดือน อัตรา
ดอกเบี้ย 6% ต่อปี

หน่วยที่ 1 19
ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับตั๋วเงิน

4. การคํานวณดอกเบี้ยตั๋วเงิน

4.3 ถ้าตั๋วกําหนดเวลาเป็นปี
ให้คํานวณดอกเบี้ยตั๋วเป็นปีหรือเศษของปี

ตัวอยางที่ 7 ตั๋วลงวันที่ 1 กรกฎาคม
จํานวนเงิน 50,000 บาท กําหนด 2 ปี
อัตราดอกเบี้ย 6% ต่อปี

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับตั๋วเงิน

หน่วยที่ 1 20
ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับตั๋วเงิน

5. การคํานวณมูลค่าเมื่อครบกำหนดของตั๋วเงิน

ในการคำนวณมูลค่เมื่อครบกำหนดของตั๋วเงิน จำแนก
ได้ตามชนิดของตั๋ว ได้แก่

ตั๋วเงินชนิดมีดอกเบี้ย และตั๋วเงินชนิดไม่มีดอกเบี้ย วิธี


คำนวณแบ่งเป็ น 2 กรณี คือ

1.มูลค่าเมื่อครบกำหนดของตั๋วเงิน
ชนิดมีดอกเบี้ย หมายถึงจำนวน
เงินหน้ าตั๋วบวกด้วยดอกเบี้ยของตั๋วเงินสำหรับระยะเวลาที่ถือตั๋วเงิน

ตัวอย่าง กิจการมีตั๋วเงินฉบับหนึ่ง จำนวน 50,000 บาท ตั๋วลงวันที่ 24 มิถุนายน

25X1 กำหนดเวลา 60 วัน อัตราดอกเบี้ย 15% ต่อปี

การคำนวณวันครบกำหนด


เดือนมิถุนายน (30-24) = 6 วัน
กรกฎาคม = 31 วัน

สิงหาคม = 23 วัน (วันครบกำหนด)

= 60 วัน

วันครบกำหนดคือวันที่ 23 สิงหาคม 25X1

การคำนวณดอกเบี้ยของตั๋วเงิน= เงินหน้ าตั๋ว x ระยะเวลาของตั๋วเงิน x อัตราดอกเบี้ย

= 50,000x60/365x15/100

= 1,232.88 บาท

การคำนวณมูลค่าเมื่อครบกำหนดของตั๋วเงิน = เงินหน้าตั๋ว+ดอกเบี้ยของตั๋วเงิน
= 50,000+1,232.88
= 51,232.88 บาท

2. มูลค่าเมื่อครบกำหนดของตั๋วเงินชนิดไม่มีดอกเบี้ย
หมายถึงจำนวนเงินหน้าตั๋วเมื่อถึงวันครบกำหนดตามระยะเวลาในตั๋ว

จากตัวอย่างถ้าเป็ นตั๋วชนิดไม่มีดอกเบี้ย มูลค่าของตั๋วเงินเมื่อครบกำหนด
ในวันที่ 23 สิงหาคม จะมีค่าเท่ากับจำนวนเงินหน้าตั๋ว คือ 50,000 บาท

บรรณานุกรม 21

จิตรา กาญจนพิบูลย์ การบัญชีตั๋วเงิน กรุงเทพฯ : ศุนย์ส่งเสริมอาชีวะ,2556
เจิมสิริ ศิริวงศ์พากร การบัญชีตั๋วเงินและเช็ค กรุงเทพฯ : ศูนย์หนังสือเมือง
ไทย,ม.ป.ป
ดุษฎี สงวนชาติ และคณะ การบัญชีชั้นกลาง กรุงเทพฯ : จุฬาลงกรณ์
มหาวิทยาลัย,2550
นิตยา งามแดน การบัญชีการเงิน กรุงเทพฯ : มหาวิทยาลัย
เกษตรศาสตร์,2550
ผกากรอง บรรดาศักดฺิ์ การบัญชีตั๋วเงิน กรุงเทพฯ : ศุนย์หนังสือเมืองไทย,2556
วิภา ปิติยานุวัฒน์ การบัญชีตั๋วเงินและเช็ค กรุงเทพฯ : บันฑิตสาสน์, ม.ป.ป
วีรวรรณ หงส์วิลาศ การบัญชีตั๋วเงินและเช็ค กรุงเทพฯ : ศูนย์ส่งเสริมวิชาการ
ศุภมาศ เรืองลํกษณ์วิลาศ การบัญชีตั๋วเงิน กรุงเทพฯ : แม็คเอดดูเคชั่น,2558

จัดทำโดย

1.นางสาว ชุติกาญจน์ แสงตาขุน ปวช.2/1 เลขที่ 5
2.นางสาว ชุติกาญจน์ สำเภาเงิน ปวช.2/1 เลขที่ 6
3.นางสาว ศิรดา วรรณเพชร ปวช.2/1 เลขที่ 23
4.นางสาว สุนิษา มิสมร ปวช.2/1 เลขที่ 25