The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by SIRIYADA PHUNKOEDMAROENG, 2025-03-13 00:55:15

เรื่องการทำงานจนหมดแรงแนวทางการรักษาสมดุลชีวิตจากภาวะburn out

เกี่ยวกับการหมดแรงในการทำงาน

Keywords: การทำงาน

เรื่อ รื่ งทำ งานจนหมดแรงแนวทางการ รัก รั ษาสมดุล ดุ ชีวิ ชี ต วิ จากภาวะ BURNOUT


คำ นำ ภาวะการทำ งานหนักและการเผชิญกับความกดดันจากหลายๆ ด้านทำ ให้หลายคนตกอยู่ใน สภาวะที่เรียกว่า "หมดสภาวะการทำ งาน" หรือ Burnout ซึ่งเป็นสภาวะที่เกิดขึ้นเมื่อบุคคลรู้สึก หมดพลังทั้งทางร่างกายและจิตใจจากการทำ งานที่ต่อเนื่องและไม่สามารถหาจุดสมดุลระหว่าง การทำ งานกับชีวิตส่วนตัวได้การหมดสภาวะการทำ งานไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพ การทำ งาน แต่ยังส่งผลกระทบต่อความสุขและสุขภาพโดยรวมของบุคคลอีกด้วย สัญญาณของ การหมดสภาวะการทำ งานอาจมาในรูปแบบของความรู้สึกเหนื่อยล้า ไม่มีแรงบันดาลใจ หรือ แม้แต่การขาดความพอใจในสิ่งที่ทำ บทความนี้จะพาคุณไปทำ ความเข้าใจถึงสาเหตุและอาการ ของการหมดสภาวะการทำ งาน พร้อมทั้งแนะนำ แนวทางการรับมือและฟื้นฟูพลังงานทั้งทาง ร่างกายและจิตใจ เพื่อให้สามารถกลับมายืนหยัดและทำ งานอย่างมีความสุขและมีประสิทธิภาพ อีกครั้ง


สารบัญ บทที่ 1 สัญญาณของ Burnout บทที่ 2 แนวทางการรับมือกับ ความเหนื่อยล้าในชีวิตและการ ทำ งาน บทที่ 3 ความหมายของภาวะการ หมดแรงในการทำ งาน หน้า 1 3 5


บทที่ 1 สัญญาณของ Burnout 1 อาการของ burnout หรือภาวะหมดไฟจากความเครียด โดยเนื้อหาสำ คัญที่แสดงให้เห็นถึงอาการของการเผชิญกับ burnout คือการที่คุณจะเริ่มรู้สึกหมดพลังและหมดความสนใจในสิ่งที่เคยทำ ให้คุณรู้สึกดี ความเครียดสะสมที่เกิด ขึ้นจากชีวิตหรือการทำ งานทำ ให้คุณรู้สึกอ่อนแอทางจิตใจและร่างกาย การทำ งานหรืองานบ้านที่เคยรู้สึกเหมือน เป็นสิ่งที่ท้าทายกลับกลายเป็นภาระที่ไม่สามารถทำ ให้เสร็จได้สัญญาณหนึ่งของ burnout คือการที่คุณรู้สึกว่าไม่มี พลังงานทั้งทางร่างกายและจิตใจ แม้แต่การทำ สิ่งที่เคยทำ ง่าย ๆ กลับกลายเป็นเรื่องยากไปหมด ความรู้สึกเหนื่อย ล้าไม่เคยหมดไปและการพักผ่อนก็ไม่ช่วยให้ฟื้นฟูพลังชีวิตเหมือนเดิมได้ คุณอาจรู้สึกว่าไม่สามารถทำ อะไรต่อไป หรือไม่สามารถบรรลุเป้าหมายในชีวิตได้อีกต่อไป นอกจากนี้ คุณอาจเริ่มรู้สึกห่างเหินจากคนรอบข้าง ไม่มีความ เชื่อมโยงทางอารมณ์กับเพื่อนร่วมงานหรือแม้แต่ครอบครัว และความสัมพันธ์ที่เคยใกล้ชิดกลับรู้สึกไม่สำ คัญอีกต่อ ไปความรู้สึกท้อแท้เป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่ชัดเจนของ burnout คุณอาจเริ่มรู้สึกว่าไม่มีแรงจูงใจหรือไม่มีความหวัง ในสิ่งที่ทำ ไม่ว่าจะเป็นงานหรือกิจกรรมที่เคยทำ ให้คุณมีความสุข ความท้อแท้ที่เกิดขึ้นทำ ให้คุณรู้สึกว่าไม่มีอะไร สำ คัญและไม่สามารถทำ อะไรให้ดีขึ้นได้ อารมณ์แปรปรวนก็เป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึง burnout เมื่อคุณรู้สึกโกรธ หรือเศร้าโดยไม่มีเหตุผลที่ชัดเจนและอาจตอบสนองต่อสถานการณ์เล็ก ๆ น้อย ๆ ด้วยอารมณ์ที่รุนแรงมากกว่า ปกติ (Nagoski,2019)


นอกจากนี้ การที่คุณรู้สึกไร้ค่า หรือเริ่มคิดว่าตัวเองไม่มีคุณค่าและไม่สามารถทำ อะไรสำ เร็จได้ก็เป็นสัญญาณของ burnout การรู้สึกเช่นนี้จะทำ ให้คุณสูญเสียความมั่นใจในตัวเองและเกิดความรู้สึกต่ำ ต้อยได้ สิ่งที่ตามมาอีกคือ ปัญหาด้านการนอนหลับ ไม่ว่าจะเป็นการนอนไม่หลับหรือการนอนมากเกินไป ซึ่งจะส่งผลให้คุณรู้สึกเหนื่อยล้าและ ไม่สามารถฟื้นตัวได้จากการพักผ่อนสัญญาณอื่น ๆ ของ burnout รวมถึงการที่คุณเริ่มมีปัญหาสุขภาพบ่อยขึ้น เช่น ปวดหัว ปวดท้อง หรือมีอาการทางกายภาพอื่น ๆ ที่ไม่สามารถอธิบายได้ด้วยสาเหตุทางร่างกาย การหาทางออก จากความเครียดด้วยพฤติกรรมที่ไม่ดี เช่น การดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป การกินอาหารไม่ดีต่อสุขภาพ หรือการติด กิจกรรมที่ไม่ช่วยให้จิตใจสงบจะเป็นอีกหนึ่งสัญญาณของ burnout การที่คุณรู้สึกไม่สามารถจัดการกับความเครียด ได้ และเห็นว่ามันสะสมจนเกินควบคุมก็เป็นการบ่งบอกว่าคุณกำ ลังเข้าสู่ภาวะนี้สุดท้าย การขาดความสุขในชีวิต เช่น การทำ กิจกรรมที่เคยทำ ให้คุณรู้สึกดี กลับกลายเป็นสิ่งที่ไม่น่าสนใจหรือไม่มีความหมายอีกต่อไป ถือเป็นหนึ่ง ในสัญญาณที่ชัดเจนของ burnout ที่ทำ ให้คุณไม่สามารถหาความสุขในชีวิตประจำ วันได้ 2 (Nagoski,2019)


การพักผ่อนย้ำ ถึงความสำ คัญของการให้ร่างกายและจิตใจได้พักผ่อนอย่างเพียงพอในชีวิตประจำ วัน การพักผ่อน มีผลกระทบอย่างมากต่อสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจ และสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำ งาน ช่วยปรับ สมดุลชีวิต และเสริมสร้างความสุขให้กับคนเรา การพักผ่อนที่ดีไม่ใช่แค่การนอนหลับเพียงอย่างเดียว แต่รวมถึง การให้เวลาตัวเองได้ฟื้นฟูทั้งในด้านร่างกายและจิตใจการพักผ่อนทำ ให้ร่างกายมีโอกาสในการฟื้นฟูตัวเองจาก ความเครียดและความเหนื่อยล้าที่สะสมตลอดทั้งวัน เมื่อร่างกายได้รับการพักผ่อนอย่างเหมาะสม ระบบต่างๆ ภายในร่างกายจะสามารถทำ งานได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นระบบภูมิคุ้มกัน ระบบเผาผลาญอาหาร หรือการ ซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่สึกหรอ การนอนหลับที่มีคุณภาพทำ ให้ร่างกายสามารถหลีกเลี่ยงการเกิดโรคต่างๆ และช่วย เพิ่มความสดชื่นให้กับร่างกายนอกจากนี้ การพักผ่อนยังมีผลต่อสุขภาพจิตใจอย่างลึกซึ้งด้วย การได้พักจาก ความเครียดต่างๆ ช่วยลดความวิตกกังวลและความรู้สึกกดดัน การให้เวลาตัวเองได้ทำ กิจกรรมที่สนุกสนาน หรือ แม้กระทั่งการเพียงแค่นั่งนิ่งๆ ฟังเพลง หรือทำ สมาธิก็สามารถช่วยเพิ่มความสงบในจิตใจ การพักผ่อนที่ดีช่วยให้ เรามีสมาธิที่ดีขึ้นในทุกๆ การกระทำ และสามารถรับมือกับปัญหาหรือสถานการณ์ที่ยากลำ บากได้ดีกว่า บทที่ 2 แนวทางการรับมือกับ ความเหนื่อยล้าในชีวิตและการ ทำ งาน 3 (Edlund,2010)


4 10แนวคิดในการพักผ่อนจากการทำ งาน 1)การออกกำ ลังกาย การเคลื่อนไหวร่างกาย เช่น การเดิน วิ่ง โยคะ หรือการออกกำ ลังกายที่ชอบ ไม่เพียงแค่ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง แต่ยังช่วยลดความเครียดและทำ ให้จิตใจสงบลงได้ 2)การทำ สมาธิ การนั่งสมาธิหรือการฝึกหายใจลึกๆ ช่วยให้จิตใจผ่อนคลาย และลดความวิตกกังวลจากการทำ งานที่มีความ ตึงเครียด 3)การอ่านหนังสือ การอ่านหนังสือที่ไม่เกี่ยวกับงาน เช่น นวนิยาย หรือหนังสือที่คุณชื่นชอบ จะช่วยให้จิตใจหลีกหนีจากความคิด ที่เกี่ยวข้องกับงาน และสร้างความสุขในการค้นพบเรื่องใหม่ๆ 4)การฟังเพลง ฟังเพลงที่คุณชอบ โดยเฉพาะเพลงที่มีจังหวะผ่อนคลาย หรือเพลงที่ช่วยสร้างอารมณ์บวก สามารถช่วยปรับ อารมณ์และบรรเทาความเครียดได้ดี 5)การพบปะเพื่อนหรือครอบครัว การใช้เวลาร่วมกับคนที่เรารักสามารถช่วยให้ความเครียดลดลงและรู้สึกถึงการสนับสนุนจากคนรอบข้าง ทำ ให้ จิตใจสดชื่นขึ้น 4


5 10แนวคิดในการพักผ่อนจากการทำ งาน 4 6เดินเล่นในธรรมชาติ การออกไปเดินเล่นในสวนสาธารณะ หรือใกล้ๆ ธรรมชาติ ช่วยให้คุณได้เชื่อมต่อกับสิ่งแวดล้อมธรรมชาติ ซึ่งจะ ช่วยให้จิตใจสงบและฟื้นฟูจากความเครียด 7)การทำ งานอดิเรก การทำ กิจกรรมที่คุณสนใจ เช่น วาดภาพ ทำ อาหาร หรือการฝึกทักษะใหม่ๆ ช่วยให้คุณหลีกหนีจากงานที่ เครียด และสร้างความพึงพอใจในการทำ สิ่งที่รัก 8)การนอนหลับให้เพียงพอ การนอนหลับอย่างเพียงพอและมีคุณภาพสำ คัญมาก เพราะการพักผ่อนที่ดีช่วยให้ร่างกายและจิตใจได้ฟื้นฟูเต็ม ที่และพร้อมรับมือกับความท้าทายใหม่ๆ 9)การตั้งเวลาให้กับตัวเอง ตั้งเวลาให้ตัวเองทุกวันเพื่อทำ สิ่งที่ผ่อนคลาย เช่น การอาบน้ำ อุ่น การทำ สปา หรือการนั่งอ่านหนังสือ ช่วยให้ คุณได้เติมพลังให้ตัวเอง 10)การทำ งานที่มีความหมาย การทำ งานที่มีความหมายและค่านิยมที่คุณเชื่อมั่นจะทำ ให้คุณมีความสุขในการทำ งานมากขึ้น และช่วยลด ความเครียดที่เกิดจากงานที่ไม่ตอบโจทย์หรือไม่เป็นที่รัก


ผลกระทบของการหมดแรงในการทำ งาน: การหมดแรงในการทำ งานไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อบุคคลเท่านั้น แต่ยังมีผลกระทบต่อองค์กรและเพื่อนร่วม งานด้วย เช่น: 1.ประสิทธิภาพในการทำ งานลดลง: เมื่อบุคคลหมดแรง จะทำ งานได้ไม่เต็มที่ หรือทำ งานได้ช้า 2.ความสัมพันธ์ในที่ทำ งานแย่ลง: ความเครียดและความไม่พอใจอาจส่งผลให้เกิดความขัดแย้งในทีมงาน 3.การลาออกจากงาน: ในกรณีที่ภาวะการหมดแรงไม่ได้รับการจัดการอาจทำ ให้บุคคลตัดสินใจลาออกจากงาน หรือองค์กร บทที่ 3 ความหมายของภาวะ การหมดแรงในการทำ งาน ภาวะการหมดแรงในการทำ งาน (Burnout) คือ สภาวะที่บุคคลรู้สึกเครียดและหมดพลังจากการทำ งานอย่าง ต่อเนื่อง โดยไม่สามารถฟื้นฟูพลังงานหรือมีความสุขในการทำ งานอีกต่อไป ภาวะนี้เกิดขึ้นเมื่อบุคคลต้องเผชิญ กับความเครียดที่สะสมจากการทำ งานมากเกินไปโดยไม่สามารถหาวิธีการจัดการความเครียดเหล่านั้นได้ 6


อาการของการหมดแรงในการทำ งาน ภาวะการหมดแรงมักจะแสดงออกมาในรูปแบบต่างๆ เช่น: 1.ความเหนื่อยล้าทางร่างกายและจิตใจ: รู้สึกเหนื่อยล้าแม้จะนอนหลับเต็มอิ่ม 2.การสูญเสียความสนใจในงาน: รู้สึกไม่อยากทำ งานหรือไม่สนใจในงานที่เคยทำ ให้สำ เร็จ 3.การรู้สึกเครียดหรือวิตกกังวล: มีความวิตกกังวลหรือรู้สึกเครียดมากขึ้นเมื่อทำ งาน 3.การหงุดหงิดหรือไม่พอใจ: มีความหงุดหงิดง่าย หรือรู้สึกไม่พอใจกับสิ่งเล็กน้อย 4.ปัญหาสุขภาพ: อาจมีอาการทางกายภาพ เช่น ปวดหัว, นอนไม่หลับ, หรือเจ็บป่วยบ่อยขึ้น ความสำ คัญของการสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีต่อสุขภาพ การดูแลสุขภาพในที่ทำ งาน โดยเน้นว่าผลกระทบของการทำ งานในสภาพแวดล้อมที่ไม่ดีหรือมีความเครียดสูง สามารถส่งผลเสียทั้งต่อตัวพนักงานและผลประกอบการขององค์กรได้ สิ่งที่บริษัทหลายๆ แห่งมักมองข้ามคือ การสร้างสภาพแวดล้อมการทำ งานที่ช่วยส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน ในขณะที่การสร้างสภาพ แวดล้อมที่ดีในที่ทำ งานจะสามารถช่วยลดความเครียด เพิ่มความพึงพอใจ และสร้างความเชื่อมโยงระหว่าง พนักงานกับองค์กรได้ (Strinher,2016)


อ้างอิง Emily Nagoski.&Amelia Nagoski(2019).The secret to unlocking the stress cycle .Ballantine boonka:penguin Rendim House. Matthew Edmund.(2010).The power of Rest(พิมพ์ครั้งที่2).New York,USA:penguin Group. Leigh Stringer.(2016).The Healthy workplace .New York,USA:Jossey-Bass.


Thank you


Click to View FlipBook Version