แผนการจัดการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง กลุ่มสาระความรู้พื้นฐาน วิชาคณิตศาสตร์ ชื่อฐานการเรียนรู้ “การท าไข่เค็มใบเตย” ----------------------------------------------------------------------------------------------------------- 1. ชื่อฐานการเรียนรู้การท าไข่เค็มใบเตย 2. ชื่อ ครูแกนน า/วิทยากรประจ าฐาน 2.1. นางสาวดวงฤดี ชาญวิทยา 3. ชื่อนักศึกษาแกนน า/วิทยากรประจ าฐาน 3.1 นางโสภา ปิ่นเสือ 3.2 นางสนิท ปิ่นเสือ 4. วัตถุประสงค์ของฐานการเรียนรู้ 4.1 เพื่อให้ผู้เข้ารับการเรียนรู้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ 4.2 เพื่อให้ผู้เข้ารับการเรียนรู้รู้จักการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง 4.3 เพื่อให้ผู้เข้ารับการเรียนรู้น าความรู้ที่ได้รับไปปรับใช้ในชีวิตประจ าวัน 5. วัตถุประสงค์กิจกรรมการเรียนรู้ 5.1 เพื่อให้ผู้เข้ารับการเรียนรู้มีความรู้เรื่อง ประวัติความเป็นมาของไข่เค็ม 5.2 เพื่อให้ผู้เข้ารับการเรียนรู้มีความรู้เรื่อง การท าไข่เค็มใบเตย 5.3 เพื่อให้ผู้เข้ารับการเรียนรู้มีความรู้เรื่องการเก็บรักษาไข่เป็ด 5.4 เพื่อให้ผู้เข้ารับการเรียนรู้มีทักษะในการปลูกใบเตย และประโยชน์ของใบเตย 5.5 เพื่อส่งเสริมให้ผู้เข้าศึกษาการท าไข่เค็มใบเตย ลดรายจ่ายในครัวเรือน 6. ประโยชน์จากการใช้ฐานการเรียนรู้ ผู้เข้ารับการเรียนรู้สามารถศึกษาภาคทฤษฎี ฝึกคิด ฝึกปฏิบัติ และน าความรู้ไปประยุกต์ใช้ใน ชีวิตประจ าวัน มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ๗. ความสอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน มีความรู้ความเข้าใจและทักษะพื้นฐานเกี่ยวกับคณิตศาสตร์วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 8. เนื้อหาการเรียนรู้ 8.1 ประวัติความเป็นมาของไข่เค็ม 8.2 การท าไข่เค็มใบเตย 8.3 การเก็บรักษาไข่เป็ด 8.4 การปลูกใบเตย และประโยชน์ของใบเตย 8.5 การท าไข่เค็ม ลดรายจ่ายในครัวเรือน
9. กิจกรรมการเรียนรู้ กิจกรรมที่ 1. เรื่องความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของไข่เค็ม,การท าไข่เค็มใบเตย, การเก็บรักษาไข่เป็ด (ตรงกับวัตถุประสงค์กิจกรรมข้อที่ 5.1,5.2,5.3) 1. ครูแกนน าแนะน าให้นักศึกษารู้จักแกนน าประจ าฐาน (ผู้ช่วยครูแกนน า) 2. ครูแกนน าและนักศึกษาแกนน าอธิบายให้นักศึกษาทราบถึงประวัติความเป็นมาของไข่เค็ม,การท า ไข่เค็มใบเตย,การเก็บรักษาไข่เป็ด 3. ครูแกนน าและนักศึกษาแกนน าอธิบายให้นักศึกษาทราบถึงทักษะในการปลูกใบเตย และประโยชน์ ของใบเตย 4. ครูแกนน าและนักศึกษาแกนน าอธิบายให้นักศึกษาทราบถึงการท าไข่เค็มใบเตย ลดรายจ่ายใน ครัวเรือน 4. ครูแกนน าและนักศึกษาแกนน าให้นักศึกษาท าใบงาน กิจกรรมที่ 2. เรื่องการปลูกใบเตย และประโยชน์ของใบเตย,การท าไข่เค็ม ลดรายจ่ายในครัวเรือน (ตรงกับวัตถุประสงค์กิจกรรมข้อที่ 5.4,5.5) 1. ครูแกนน าแนะน าให้นักศึกษารู้จักแกนน าประจ าฐาน (ผู้ช่วยครูแกนน า) 2. ครูแกนน าและนักศึกษาแกนน าอธิบายให้นักศึกษาทราบถึงการปลูกใบเตย และประโยชน์ ของใบเตย 3. ครูแกนน าและนักศึกษาแกนน าอธิบายให้นักศึกษาทราบถึงการท าไข่เค็ม ลดรายจ่ายในครัวเรือน 4. ครูแกนน าและนักศึกษาแกนน าให้นักศึกษาท าใบงาน 10. สื่อ อุปกรณ์ 1. ใบความรู้ 2. แผ่นพับคู่มือฐานการเรียนรู้ 3. ใบงาน 11. การประเมินผลการเรียนรู้และข้อเสนอแนะเพิ่มเติม 1. ใบงาน 2. แบบประเมินความพึงพอใจ 12. บันทึกหลังสอน ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ลงชื่อ...................................................... (..................................................) ต าแหน่ง.................................................
13. ความคิดเห็นของผู้อ านวยการสถานศึกษา ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................................................................ .. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ลงชื่อ.................................................... (..................................................) ต าแหน่ง.................................................
กิจกรรมที่ 1 ประวัติความเป็นมาของไข่เค็ม ที่มาของไข่เค็ม ไข่เค็มเป็นภูมิปัญญาของคนไทยมาตั้งแต่สมัยโบราณ เป็นการถนอมอาหารอย่างหนึ่ง ซึ่งคนสมัยก่อน ท าไข่เค็มเพื่อเก็บไว้บริโภคในยามที่ขาดแคน หรือเพื่อยืดอายุการเก็บของไข่ ที่เหลือจากการบริโภคสด และถือ เป็นภูมิปัญญาที่ผสมผสานกับเทคโนโลยีของชาวบ้านที่สืบทอดกันมาช้านาน ต่อมาไข่เค็มได้รับความนิยมจาก ผู้บริโภคเพิ่มมากขึ้น มีความหลากหลาย ทั้งวัตถุดิบที่ใช้เป็นส่วนผสม มีคุณประโยชนที่หลากหลาย มีรสชาติที่ แตกต่างกัน ปัจจุบันมีการพัฒนาให้เป็นผลิตภัณฑ์เพื่อการค้า มีการไปจ าหน่ายในรูปของไข่เค็มทั้งที่เป็นไข่สด และไข่ที่ต้มแล้วสามารถน าไปบริโภคได้เลย หรืออาจน าไปท าเป็นไส้ขนมต่าง เช่น ขนมเป๊ยยะ ขนมไหว้ พระจันทร์ ขนมบ๊ะจ่าง ตลอดจนน าใช้เป็นส่วนประกอบของอาหารต่าง ได้อีกด้วยอุปกรณ์การท าไข่เค็ม ใบเตย อุปกรณ์การท าไข่เค็มมีดังนี้ 1. ไข่เป็ด 10 ฟอง 2. น้ าเปล่า 1.5 ลิตร 3. เกลือเม็ด 500 กรัม 4. ใบเตยหั่น 1/2 กิโลกรัม 5. ภาชนะส าหรับใส่ดอง/โหลแก้ว/โหลพลาสติก 6 หม้อส าหรับต้มน้ า
ขั้นตอนการท าไข่เค็มใบเตย 1. ไข่เป็ดสดขนาดใกล้เคียงกัน ไม่มีรอยแตกร้าวล้างน้ าสะอาดหลาย รอบนะค่ะ 2. ใส่น้ าประมาณ 1.5 ลิตรลงหม้อ ตั้งไฟจนน้ าเดือด จากนั้นใส่เกลือเม็ดในปริมาณ 500 กรัม คนให้เกลือ ละลายจนหมด 3. น าใบเตยที่หั่นประมาณครึ่งกิโลกรัม ลงต้มในหม้อจนน้ าเปลี่ยนสี ใช้เวลาต้มประมาณ 10 นาที จากนั้นตัก ใบเตยออกแล้วทิ้งน้ าใบเตยต้มไว้จนเย็นจนเป็นน้ าที่อุณหภูมิห้อง
4. น าไข่เป็ดที่ล้างสะอาด และพึ่งลมจนแห้งสนิท แล้วจ านวน 10 ฟอง มาเรียงใส่โหลไว้ ระวังอย่าให้ไข่แตก หรือ มีรอยร้าว ถ้าหากพบมาใบไหนมีรอยร้าวให้น าออกทันที ไม่อย่างนั้นแล้วจะท าให้ไข่เป็ดใบอื่น เน่าไป ด้วยค่ะ 5. จากนั้นเทน้ าต้มใบเตยที่พักไว้จนเย็น ใส่ลงไปในโหลให้ระดับของน้ าท่วมไข่เป็ด หากไข่เป็ดลอยใส่น้ าใน ถุงพลาสติกแล้ววางทับก็ได้ปิดฝาให้สนิทแล้วตั้งทิ้งไว้ประมาณ 10 – 14 วัน ก็สามารถน าออกมารับประทาน ได้แล้วค่ะ
ประโยชน์ของไข่เค็ม ประโยชน์ของไข่เค็มนั้นมีมากมายอย่างน่าอัศจรรย์เลยทีเดียวค่ะ แต่ถ้าจะได้ ประโยชน์ของไข่ อย่าง สูงสุดก็ควรที่จะมีการบริโภคหรือการกินไข่ที่เหมาะสมตามวัยกันอีกด้วยค่ะ เพื่อที่จะได้รับ ประโยชน์ของไข่ อย่างเต็มที่ให้กับร่างกาย และวันนี้เราก็น าเกร็ดความรู้เรื่องประโยชน์ของไข่และการบริโภคไข่ที่เหมาะสมมา ฝาก เพื่อให้ทุกคนได้รับความรู้และปฏิบัติตามกันอย่างควบคู่กันไปเพื่อสุขภาพที่ดีค่ะ โดยปกติคนส่วนใหญ่ก็ มักจะเลือกรับประทานไข่เป็นอาหารหลักกันอยู่แล้วไม่ใช่แต่เฉพาะคนไทยเท่านั้นต่างชาติหลาย ประเทศก็ มักจะนิยมบริโภคไข่เป็นอาหารหลักด้วยกันทั้งนั้น 1. ไข่อุดมไปด้วยโปรตีน โดย 1 ฟองจะมีโปรตีนคุณภาพดี6 กรัม และกรดอะมิโนส าคัญอีก 9 ชนิด 2. ผลจากการท าวิจัยโดยมหาวิทยาลัยแพทย์ฮาร์วาร์ดพบว่า ไม่มีความเชื่อมโยงที่ส าคัญระหว่างการบริโภคไข่ กับการเกิดโรคหัวใจ แถมยังมีผลการวิจัยอีกชิ้นหนึ่งที่พบว่า การบริโภคไข่เป็นประจ ายังช่วยป้องกันเลือดจับตัว เป็นก้อนเส้นเลือดอุดตันในสมองและภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน 3. ไข่เป็นแหล่งโคลีนที่ดี โดยโคลีนอยู่ในกลุ่มของวิตามินบีจัดเป็นสารอาหารส าคัญที่ช่วยในการควบคุมการ ท างานของสมอง ระบบประสาท และระบบไหลเวียนของเลือด โดยไข่ 1 ฟองจะมีโคลีนมากถึง 300 ไมโครกรัม 4. ไข่อาจจะช่วยป้องกันมะเร็งเต้านม โดยผลการศึกษาชิ้นหนึ่งพบว่า ผู้หญิงที่รับประทานไข่ 6ฟองต่อสัปดาห์ ช่วยลดความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งเต้านมลงร้อยละ 44 5. ไข่ท าให้เส้นผมและเล็บมีสุขภาพดี เพราะว่าไข่มีซัลเฟอร์สูงรวมถึงยังมีวิตามินและแร่ธาตุอีกหลายชนิด หลายคนจึงพบว่าผมยาวเร็วขึ้นหลังจากที่เพิ่มไข่เข้าไปในอาหารที่รับประทาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในคนที่เคย ขาดอาหารที่มีซัลเฟอร์หรือวิตามินบี12 มาก่อน วิธีการต้มไข่เค็มให้อร่อย การต้มไข่เค็มให้อร่อย ไม่ใช่ว่าต้มในน้ าเดือดได้เลย แต่จะต้องใส่ “สารส้ม” ลงไปผสมกับน้ าในหม้อด้วย โดยให้ ใส่สารส้ม 1 ก้อน หรือ สารส้มป่นประมาณ 1 ½ ช้อนโต๊ะ จากนั้น น าไปต้ม โดยให้ใช้ไฟกลางค่อนไฟแรง ต้ม นานประมาณ 10 นาที ก็จะได้ไข่เค็มแสนอร่อย ไว้รับประทานแล้ว ไข่เค็ม เก็บได้นานกี่วัน ไข่เค็มที่ต้มจนสุกดีแล้ว สามารถเก็บได้นานถึง 1 เดือน โดยสารส้ม ที่ใส่ลงไปในน้ าส าหรับต้มไข่เค็ม จะเป็น ปัจจัยส าคัญ ที่ช่วยให้สามารถเก็บรักษาไข่เค็มได้นานขึ้น นอกจากนี้ ยังท าให้เปลือกไข่และเนื้อไข่ขาว มีความ ขาวสวย เรียบเนียนขึ้นอีกอีกด้วย
วิธีเก็บไข่สดให้อยู่ได้นาน 1. ไม่ควรล้างไข่ก่อนน าไปเก็บ เพราะจะท าให้สารเคลือบผิวที่รักษาความสดของไข่ถูกท าลายได้ 2. ควรน าไข่ไปเก็บในที่ที่มีอุณหภูมิต่ า เช่น ในตู้เย็น โดยให้ด้านป้านอยู่ด้านบน เพราะด้านป้านจะมี ฟองอากาศอยู่ภายใน พอพลิกขึ้นด้านบน จะท าให้ไข่แดงไม่แตกเร็ว สามารถช่วยให้ไข่เก็บไว้ได้ นานขึ้น 3. ควรเก็บไข่ไว้ในช่องวางไข่ เพื่อป้องกันการกระทบกระเทือน และป้องกันการระเหยของน้ าออก จากไข่ 4. หากพบว่าไข่มีรอยร้าวหรือแตกไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ เพราะเชื้อโรคที่เปลือกไข่อาจเข้าไปในไข่ได้ ควรตอกใส่ภาชนะที่มีฝาปิดสนิทแล้วแช่ตู้เย็นจะท าให้เก็บได้นานขึ้น
ใบงานที่ 1 เรื่อง การท าไข่เค็มใบเตย ชื่อ-นามสกุล ............................................................. รหัสนักศึกษา ............................................. ค าสั่ง ให้ผู้เรียนศึกษาค้นคว้าข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตที่เกี่ยวข้อง จากเว็บไซต์ หนังสือเรียน ใบความรู้ สื่อต่าง ที่ผู้เรียนสนใจค้นคว้า แล้วสรุปผลการเรียนรู้ น าเสนอครู/ผู้สอน ดังนี้ 1. ให้ผู้เรียนอธิบายประวัติความเป็นมาของไข่เค็ม มาโดยสังเขป …………………………………………………………......................................…………………………………………………………...... .................................................................…………………………………………………………..…………………………………… …………………….........………………………………………………………….....................................…..…………………………… …………………………................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .......................................................................................................................................................................... .... 2. ให้ผู้เรียนอธิบายขั้นตอนการท าไข่เค็มใบเตย มาโดยสังเขป …………………………………………………………......................................…………………………………………………………...... .................................................................…………………………………………………………..…………………………………… …………………….........………………………………………………………….....................................…..…………………………… …………………………................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ........................................................................................................................................................................ ...... ............................................................................................................................. ................................................. 3. ให้ผู้เรียนอธิบายวิธีการเก็บรักษาไข่เป็ด มาโดยสังเขป ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. .................................................
กิจกรรมที่ 2 เรื่อง การปลูกใบเตย เตยพืชที่หลาย ท่านมองข้าม ทั้งที่จริงแล้วใบเตยนั้นมีราคาและคุณประโยชน์มากมายเลยทีเดียว วิธีการปลูกและการดูแลแสนจะง่าย ขายราคาก็สูง แถมเป็นพืชที่ตลาดต้องการไม่น้อยกว่าพืชชนิดอื่น การ ปลูกต้นเตยนั้นไม่จ าเป็นต้องมีพื้นที่กว้างมาก นอกเสียจากว่าเราต้องการปลูกเพื่อการค้าก็สามารถท าได้ เพียง ให้ใกล้แหล่งน้ าเท่านั้น เมื่อเตรียมพื้นที่ได้แล้วก็ต้องเลือกต้นมาลงปลูก วิธีการเลือกต้นเพื่อน ามาลงปลูกนั้นควร เป็นต้นที่มีลักษณะมีเหง้าและรากที่สมบูรณ์ สูงประมาณ 8-10 นิ้ว วิธีการปลูกใบเตย การปลูก เตยหอม นั้นเราจะต้องมีพื้นที่จะเพาะปลูก ต้องใกล้น้ าค่อนข้างแฉะ มีน้ าหมุนเวียนตลอดป๊ มีร่มเงาร าไรให้ต้นเตยไม่โดนแสงแดดโดยตรง หรือตามร่องสวน ตามชายบ่อน้ า ส่วนการปลูกในพื้นนามีการ เตรียมดินคล้ายกับการท านาแต่ท าเพียงครั้งเดียวก่อน ปลูกเพื่อให้พื้นที่เรียบ ระบบน้ าดูแลง่าย ส่วนทางเดิน เข้าเก็บเกี่ยวเตยหอมขึ้นอยู่ตามความสะดวกสบายที่ผู้ปลูกต้องจัดการและวางแผนเองตามความเหมาะสมของ พื้นที่ปลูกและขนาดพื้นที่ ก่อนปลูกต้องเปิดน้ าเข้าแปลงประมาณ 1 ฝ่ามือ หรือประมาณ 15 เซนติเมตร จากนั้นเตรียมต้นพันธุ์เตยหอมที่แข็งแรงที่มีรากปักลงในแปลง โดยท าเหมือนการด านา จากนั้นดูแลระบบ ถ่ายเทน้ าดูแลไม่ให้ต้นที่ปักด าลอยขึ้นมา ทิ้งไว้ 3 เดือน จึงเพิ่มปริมาณน้ าขึ้น หลังจากปลูก 6 เดือน สามารถ เก็บเกี่ยวได้ การเก็บเกี่ยวใช้มีดตัดยอด อย่าเสียดายยอด การตัดยอด 1 ยอด ท าให้เกิดยอดใหม่มากมาย โดย เฉลี่ยตัดไป 1 ยอด จะได้ยอดใหม่ 3-5 ยอด ทั้งนี้ การดูแลบ ารุงรักษาต้นเตยหอมนั้นก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไรมาก เพียงแต่เกษตรกรจ าเป็นต้องเอาใจใส่อย่างสม่ าเสมอ มีการปรับพื้นที่ให้โล่ง ไม่มีวัชพืชขึ้นปกคลุมต้นเตยหอม เพราะจะท าให้ ใบเตย หอม หรือต้นเจริญเติบโตช้า และใบไม่สวย ควรจะใส่ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอก บ ารุงต้น และใบ บ้าง เพื่อให้ต้นเตยหอม มีความอุดมสมบูรณ์ส าหรับ ใบเตย หอม ที่ส่งขายไปยังท้องตลาด ก็สามารถจะน าไป ประกอบอาหารคาว หวาน ได้ตามความต้องการ นอกจากนี้ก็ยังไปประกอบร่วมกับดอกไม้ในการไหว้พระ ซึ่ง ในตลาดมีความต้องการ ใบเตย หอมเป็นอย่างมาก
วิธีการปลูก เริ่มจากการไถพรวนพื้นที่ที่จะท าการปลูก แล้วขุดหลุม ขนาด 5×5 ซม. ลึก 6-7 ซม. ระยะห่างของแต่ ละหลุม ประมาณ 8-10 ซม.เมื่อได้ขนาดของหลุมตามที่ต้องการแล้ว ใส่ปุ๋ยสูตร 15 - 15 – 15 แล้วตามด้วย มูลหมูขนาดหลุมละ 1 ถ้วย เพื่อเป็นการรองก้นหลุมน าต้นเตยที่เตรียมไว้ลงหลุมปลูกและกลบดินทับ วิธีการบ ารุงต้นเตย พรวนดินทุก 3-4 เดือน พร้อมใส่ปุ๋ยเพิ่มเข้าไป เช่น ขี้หมู โรยรอบ โคนต้น วิธีการให้น้ า จะต้องรดน าเป็นประจ าทุกวันให้ดินเกิดความชุ่มตลอดเนื่องจากต้นเตยเป็นพืชที่ต้องการความชื้นมาก วิธีการเก็บเพื่อจ าหน่าย เลือกใบที่สวย โดยใช้มือริใบของต้นเตยออกทีละใบเมื่อได้แล้วน าไปล้างน้ าให้สะอาด หรือจะตัดทั้งต้นเลยก็ได้ ราคาในท้องตลาด 50-80บาท/มัด (มัดละ50 ต้น) หรือ 20 บาท/ก.ก
ประโยชน์ของใบเตย ใบเตย นั้นใช้เป็นยาบ ารุงหัวใจ เพราะ ใบเตย มีฤทธิ์ลดอัตราการเต้นของหัวใจ จึงช่วยบ ารุงหัวใจได้ อย่างดี วิธีรับประทานคือ ใช้ใบสดผสมในอาหาร แล้วรับประทาน หรือน าใบสดมาคั้นน้ ารับประทาน ครั้งละ 2-4 ช้อนแกง ใบเตย สามารถช่วยดับกระหาย เนื่องจาก ใบเตย มีกลิ่นหอมเย็น หากน ามาผสมน้ ารับประทาน จะช่วยดับกระหาย คลายร้อน ทานแล้วรู้สึกชื่นใจ และชุ่มคอได้เป็นอย่างดี วิธีรับประทานคือ น า ใบเตย สดมา ล้างให้สะอาด น ามาต าหรือปั่นให้ละเอียด แล้วเติมน้ าเล็กน้อย คั้นเอาแต่น้ าดื่ม ใบเตย สามารถ รักษาโรคหัด หรือโรคผิวหนัง โดยน า ใบเตย มาต าแล้วมาพอกบนผิวรากและล าต้น ใบเตย สามารถใช้รักษาโรคเบาหวาน เพราะรากและล าต้นของเตยหอมนั้น มีฤทธิ์ลดระดับน้ าตาลในเลือด วิธีรับประทานก็คือ ใช้ราก 1 ก ามือน าไป ต้มเป็นน้ าดื่ม ทุกเช้า-เย็น ใบเตย สามารถใช้เป็นยาขับปัสสาวะ โดยการน าต้นเตยหอม 1 ต้น หรือราก ครึ่งก า มือ ไปต้มกับน้ าดื่มนอกจากนี้ เตยหอม ยังช่วยในเรื่องของอาการที่อ่อนเพลีย ดับพิษไข้ และชูก าลังได้อีกด้วย เห็นสรรพคุณมากมายขนาดนี้แล้ว ต้องบอกว่าไม่ธรรมดาจริง ส าหรับเจ้าพืชสีเขียวใบเรียวชนิดนี้ ใช้ผสม อาหาร , ท าอาหาร , ดับกลิ่น , แก้โรคเบาหวาน และใช้บ ารุงหัวใจ น้ าใบเตยกลิ่นหอมเย็นชื่นใจ ดื่มท าให้ชุ่ม คอ ใบสามารถน ามาต าพอกโรคผิวหนังและล าต้นและรากใช้ท ายาขับปัสสาวะ
ใบงานที่ 2 การถอดองค์ความรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ฐานการเรียนรู้: การท าไข่เค็มใบเตย ค าสั่ง ให้ผู้เรียนถอดองค์ความรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เรื่อง การท าไข่เค็มใบเตย 2 เงื่อนไข 3 หลักการ 4 มิติ มิติวัตถุ มิติสังคม มิติวัฒนธรรม มิติด้านสิ่งแวดล้อม .......................................... .......................................... .......................................... .......................................... .......................................... .......................................... .......................................... .......................................... .......................................... .......................................... .......................................... .......................................... .......................................... .......................................... .......................................... .......................................... .......................................... .......................................... .......................................... .......................................... .......................................... .......................................... .......................................... .......................................... ................................................................... ................................................................... ................................................................... ................................................................... ................................................................... ...................................................................... ...................................................................... ...................................................................... ...................................................................... ...................................................................... ………………………………………… ………………………………………… ………………………………………… ………………………………………… ………………………………………… ………………………………………. ………………………………………… ………………………………………… ………………………………………… ………………………………………… ………………………………………… ………………………………………. ………………………………………… ………………………………………… ………………………………………… ………………………………………… ………………………………………… ……………………………………….
ศาสตร์การพัฒนา 3 ศาสตร์ 1.ศาสตร์พระราชา .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... 2.ศาสตร์ภูมิปัญญา .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... 3. ศาสตร์สากล .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... 4. คุณสมบัติของคนไทยที่พึงประสงค์ตามแนวพระบรมราโชบายด้านการศึกษาของรัชกาลที่ 10 .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... ..........................................................................................................................................................
การจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ฐานการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ชื่อฐานการเรียนรู้ “การท าไข่เค็มใบเตย”
การจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ฐานการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ชื่อฐานการเรียนรู้ “การท าไข่เค็มใบเตย”
การจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ฐานการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ชื่อฐานการเรียนรู้ “การท าไข่เค็มใบเตย”
การจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ฐานการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ชื่อฐานการเรียนรู้ “การท าไข่เค็มใบเตย”
แบบประเมินความพึงพอใจ ฐานการเรียนรู้ “การท าไข่เค็มใบเตย”
แบบประเมินความพึงพอใจผู้เข้าใช้แหล่งเรียนรู้ การท าไข่เค็มใบเตย วันที่..................เดือน..........................พ.ศ................... ณ ไร่วณิดา โคก หนอง นา โมเดล ต าบลหนองโสน อ าเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี ส่วนที่ 1 ข้อมูลพื้นฐานของผู้ประเมินความพึงพอใจ 1.เพศ ชาย หญิง 2.อายุ น้อยกว่า 20 ป๊ 21 -30 ป๊ 31- 40 ป๊ 41 50 ป๊ 51 - 60ป๊ มากกว่า 60 ป๊ 3.สถานภาพ นักศึกษา ประชาชนทั่วไป ครู ผู้บริหาร อื่นๆ ส่วนที่ 2 แบบประเมินความพึงพอใจ ค าชี้แจง โปรดแสดงเครื่องหมาย √ ในช่องว่างระดับความพึงพอใจตามความคิดเห็นของท่าน ที่ รายการ ระดับความพึงพอใจ 5 4 3 2 1 ดีมาก ดี พอใช้ ต้อง ปรับปรุง ต้องปรับปรุง เร่งด่วน 1 เนื้อหาวิชาที่จัดการเรียนรู้ตรงตามความต้องการของท่านเพียงใด 2 วิทยากรมาให้ความรู้ตรงตามเวลา 3 วิทยากรให้ความรู้ครบตามหลักสูตรก าหนด 4 ความสามารถในการถ่ายทอดความรู้ของวิทยากร 5 มีสื่อและอุปกรณ์เพียงพอต่อการเรียนรู้ 6 ท่านสามารถได้รับความรู้และสามารถฝึกทักษะได้เพียงใด 7 สามารถน าความรู้และทักษะไปใช้ประกอบอาชีพได้ 8 สถานที่เรียนเหมาะสมเพียงใด 9 ท่านได้รับโอกาสในการเรียนรู้เท่าเทียมกันเพียงใด 10 ระยะเวลาในการเรียน/กิจกรรมเหมาะสม 11 ความรู้ที่ได้รับคุ้มค่ากับเวลาและความตั้งใจ 12 ท่านพึงพอใจต่อหลักสูตรนี้เพียงใด ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะอื่น ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ขอบคุณที่ตอบแบบสอบถามค่ะ
ผู้จัดท า ชื่อเอกสาร คู่มือการศึกษาฐานการเรียนรู้ : ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เรื่อง การท าไข่เค็มใบเตย ที่ปรึกษา นางศรัณย์พัทธ์ เพ็ญปัญญา ผู้อ านวยการ กศน.อ าเภอเลาขวัญ คณะท างาน 1. นางสาวดวงฤดี ชาญวิทยา ครู กศน.ต าบลหนองโสน 2. นางพัชริน สิมลี ครูอาสาสมัคร กศน. 3. นางโสภา ปิ่นเสือ นักศึกษาแกนน า 4. นางสนิท ปิ่นเสือ นักศึกษาแกนน า ผู้เรียบเรียงข้อมูล/สรุปรูปเล่ม/จัดพิมพ์ 1. นางสาวดวงฤดี ชาญวิทยา ครู กศน.ต าบลหนองโสน 2. นางพัชริน สิมลี ครูอาสาสมัคร กศน.