เครื่องมือ
การบริหารจัดการสถานศึกษาสมัยใหม่
การบริหารของชาวญี่ปุ่น : Theory Z
โดย
นางสาวภัทริกานต์ บุญฤทธิ์
รหัสนักศึกษา 6419050064
เสนอ
อาจารย์ ดร.เชาวนี แก้วมโน
รายงานฉบับนี้เป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรายวิชา 905-502
หลักการและทฤษฎีการบริหารการศึกษา สาขาวิชาการบริหารการศึกษา
คณะศึกษาศาสตร์และศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยหาดใหญ่
เครื่องมือการบริหารจัดการสถานศึกษาสมัยใหม่
การบริหารของชาวญี่ปุ่น : THEORY Z
คำนำ
รายงาน เรื่อง เครื่องมือการบริหารจัดการสถานศึกษาสมัยใหม่ (การบริหารของชาวญี่ปุ่น :
Theory Z) ฉบับนี้ เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชา 905-502 หลักการและทฤษฎีการบริหารการศึกษา
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาทฤษฎีการบริหารการศึกษา และเครื่องมือการบริหารจัดการสถาน
ศึกษาสมัยใหม่ ซึ่งจะเป็นเครื่องมือที่ช่วยชี้นำในการปฏิบัติงาน หรือก่อให้เกิดการพัฒนางานใหม่
ขึ้นมา และทำให้การปฏิบัติงานมีแนวทาง เป็นขั้นตอน มีหลักการ และประสบความสำเร็จตามความ
มุ่งหมายของงาน
ผู้จัดทำขอขอบพระคุณ อาจารย์ ดร.เชาวนี แก้วมโน อาจารย์ประจำวิชาเป็นอย่างสูงที่ให้ความ
รู้หลักการและทฤษฎีการบริหารการศึกษา การทำงาน ตลอดจนคำแนะนำต่างๆ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า
รายงานฉบับนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่สนใจและนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์สืบไป
ภัทริกานต์ บุญฤทธิ์
ผู้จัดทำ
นางสาวภัทริกานต์ บุญฤทธิ์ 6419050064 การบริหารการศึกษา กลุ่ม 2
เครื่องมือการบริหารจัดการสถานศึกษาสมัยใหม่
การบริหารของชาวญี่ปุ่น : THEORY Z
สารบัญ
หน้า
การบริหารสถานศึกษา ................................................................................................................ 1
ความหมายของการบริหารสถานศึกษา ........................................................................................ 2
ทฤษฎีการบริหารสถานศึกษา ....................................................................................................... 2
พัฒนการของทฤษฎีในการบริหารการศึกษา ................................................................................ 3
ลักษณะสำคัญของทฤษฎีการบริหารการศึกษา ............................................................................ 6
ความสำคัญของทฤษฎีการบริหารการศึกษา................................................................................. 6
หลักการบริหารและจัดการสถานศึกษา ........................................................................................ 7
ทฤษฎีและแนวความคิดแบบสมัยปัจจุบัน .................................................................................... 8
การบริหารของชาวญี่ปุ่น : ทฤษฎี Z ............................................................................................. 9
ประวัติ ดร.วิลเลี่ยม โออุชิ (WILLIAM G. OUCHI) ......................................................................... 10
การบริหารงานขององค์กรแบบทฤษฎี Z ....................................................................................... 13
โครงสร้างองค์การ และระบบการบริหารการศึกษา ....................................................................... 16
ทฤษฎี Z ในโรงเรียน ..................................................................................................................... 18
องค์ประกอบของทฤษฎี Z ที่นำมาใช้ในโรงเรียน .......................................................................... 19
สรุป ............................................................................................................................................. 24
บรรณานุกรม................................................................................................................................ ค
นางสาวภัทริกานต์ บุญฤทธิ์ 6419050064 การบริหารการศึกษา กลุ่ม 2
เครื่องมือการบริหารจัดการสถานศึกษาสมัยใหม่
การบริหารของชาวญี่ปุ่น : THEORY Z
การบริหารสถานศึกษา
การบริหาร หมายถึง กิจกรรมต่างๆที่บุคคลตั้งแต่สองคนขึ้นไป
ร่วมมือกันดำเนินการ เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์อย่างหนึ่งอย่างใดหรือ
หลาย ๆ อย่างที่บุคคลร่วมกันกำหนดโดยใช้กระบวนอย่างมีระบบและให้
ทรัพยากรตลอดจนเทคนิคต่างๆ อย่างเหมาะสม
ความหมาย
สถานศึกษา หมายถึง หน่วยงานตามกฎหมายที่มีหน้าที่ หรือมี
วัตถุ- ประสงค์ในการจัดการศึกษา ไม่ว่าจะเป็นของภาครัฐหรือภาค
เอกชน เช่น โรงเรียน วิทยาลัย มหาวิทยาลัย หรือ หน่วยงานการศึกษา
อื่น ๆ โดยมีผู้บริหารสถานศึกษารับผิดชอบการบริหารสถานศึกษาและ
บริหารครูให้ทำหน้าที่หลักด้านการเรียนการสอน และส่งเสริมการเรียนรู้
ของผู้เรียน สถานศึกษาแต่ละแห่งมีสภาพแวดล้อม ปัจจัยและวัฒนธรรม
แตกต่างกัน การบริหารจัดการศึกษาในสถานศึกษาทุกแห่ง ผู้บริหาร
จำเป็นต้องศึกษาหลักการ แนวคิด และทฤษฎีต่างๆ อย่างหลากหลาย
เพื่อนำมาปรับประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับบริบทของสถานศึกษา ให้การ
จัดการศึกษาเป็นการศึกษาตลอดชีวิตสำหรับประชาชน ให้สังคมมีส่วน
ร่วมในการจัดการศึกษา และการพัฒนาสาระ และกระบวนการเรียนรู้
เป็นไปอย่างต่อเนื่อง
นางสาวภัทริกานต์ บุญฤทธิ์ 6419050064 การบริหารการศึกษา กลุ่ม 2 1
เครื่องมือการบริหารจัดการสถานศึกษาสมัยใหม่
การบริหารของชาวญี่ปุ่น : THEORY Z
ความหมายของการบริหารสถานศึกษา
การบริหารสถานศึกษา หมายถึง กระบวนการในการทำงานโดยมีผู้
บริหารสถานศึกษาปฏิบัติภารกิจอย่างเป็นระบบในสถานศึกษาที่ดำเนินการ
การบริหารงานในสถานศึกษาเป็นกระบวนการดำเนินงานของกลุ่มผู้บริหาร
เพื่อต้องการพัฒนาหรือให้บริการทางการศึกษาแก่สมาชิกในสังคม ให้เป็นไป
ตามจุดมุ่งหมายของหลักสูตร ผู้บริหารสถานศึกษาเป็นบุคคลสำคัญที่มีบทบาท
และมีอำนาจหน้าที่ในการบริหารจัดการสถานศึกษาให้บรรลุวัตถุประสงค์ตาม
เป้าหมายที่องค์การได้กำหนดไว้ และสามารถบริการทางการศึกษาแก่สังคมได้
เป็นอย่างดี
ทฤษฎีการบริหารสถานศึกษา
ทฤษฎี หมายถึง ชุดของแนวคิด (Concepts) คติ
ฐานหรือข้อสันนิษฐาน (Assumption) และข้อยุติโดยทั่วไป
(Generalization) ที่อธิบายพฤติกรรมขององค์การ อย่าง
เป็นระบบ และมีความสัมพันธ์ต่อกัน แต่สำหรับข้อ
สมมติฐาน (Hypothesis) หมายถึง การตั้งข้อกำหนด หรือ
ข้อสมมติที่คิดหรือคาดว่าน่าจะเป็นขึ้นมา แล้วพยายาม
ศึกษา ค้นคว้า ทดลอง เพื่อหาข้อสรุปมาพิสูจน์ให้จงได้ว่า
ข้อสมมติฐานที่ตั้งไว้นั้น จริงหรือไม่จริง
นางสาวภัทริกานต์ บุญฤทธิ์ 6419050064 การบริหารการศึกษา กลุ่ม 2 2
เครื่องมือการบริหารจัดการสถานศึกษาสมัยใหม่
การบริหารของชาวญี่ปุ่น : THEORY Z
พั ฒนการของทฤษฎีในการบริหารการศึกษา
ความเกี่ยวข้องของทฤษฎีที่เข้ามาสัมพันธ์กับการบริหารการศึกษานั้น
มีจุดเริ่มต้นมาจากการกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในด้านสังคมศาสตร์
ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 เชสเตอร์ ไอ บาร์นาร์ด, เอลตัน มาโย และเอฟ เจ รอธลิส
เบอร์เกอร์ ได้เปิดทัศนะใหม่แห่งการศึกษาการบริหาร แต่สงครามได้ผลักดันให้นัก
วิทยาศาสตร์สังคมหันเหไปจากการทดลองในห้องปฏิบัติการไประยะหนึ่ง ในระยะ
นั้น นักจิตวิทยา นักสังคมวิทยา และนักมานุษยวิทยาก็ต้องเข้าจัดการกับปัญหา
ด้านต่างๆ ที่รุมเร้าเข้ามา เมื่อสงครามสิ้นสุด นักค้นคว้าเหล่านี้ก็หันมาศึกษาเรื่อง
ราวเกี่ยวกับการบริหารอย่างจริงจังอีกครั้งหนึ่ง
ในปี 1947 มีการประชุมแห่งชาติของศาสตราจารย์แห่งการบริหาร
การศึกษา (National Conference of Professors of Educational
Administration NCPEA) ซึ่งการประชุมในครั้งนั้น ที่ประชุมได้ตระหนึกถึง
การพัฒนาทางด้านสังคมศาสตร์ และในปี 1950 มีโครงการร่วมมือระหว่าง
กันในการบริหารการศึกษา (Cooperative Program in Eductational
Administration CPEA) เพื่อแสวงหาแนวทางใหม่ ๆ ในการบริหารการ
ศึกษา แต่การปฏิบัติงานในครั้งกระนั้นก็มิได้ค้นพบอะไรที่เกี่ยวกับทฤษฎีการ
บริหารมากนัก
นางสาวภัทริกานต์ บุญฤทธิ์ 6419050064 การบริหารการศึกษา กลุ่ม 2 3
เครื่องมือการบริหารจัดการสถานศึกษาสมัยใหม่
การบริหารของชาวญี่ปุ่น : THEORY Z
พั ฒนการของทฤษฎีในการบริหารการศึกษา
ต่อมา บรรดาสมาชิก NCPEA เสนอแนะให้ที่ประชุมสนัสนุนการเขียน
หนังสือที่รายงานผลการวิจัยสิ่งที่ค้นพบเกี่ยวกับการบริหารการศึกษา และในปี
1954 โรอัลด์ แคมป์เบล และเกร๊ก รัสเซลได้ร่วมกันเป็นบรรณาธิการหนังสือชื่อ
Administrative Behavior in Education แต่ปรากฎว่า ในบรรดาผู้เขียนจำนวน
14 คน ที่เขียนเรื่องลงหนังสือเล่มนี้ ได้พบว่า หนังสือเล่มนี้ยังขาดทฤษฎีการบริหาร
ทำให้เกิดช่องว่างใหญ่โตในระหว่างความรู้เกี่ยวกับการวิจัยด้านพฤติกรรมการ
บริหาร (ฮัลปิน,1968 : xii)
อิทธิพลลำดับที่สามที่มีต่อการบริหารการศึกษาของสหรัฐอเมริกา
ได้แก่การที่มีการก่อตั้งคณะกรรมการมหาวิทยาลัยที่ดูลแลด้านการบริหาร
การศึกษา (The University Council for Educational Administration
UCEA) ขึ้นในปี 1956 คณะกรรมการชุดนี้ได้ร่วมมือกับ Educational
Testing Service and Teachers College ร่วมกันสนับสนุนส่งเสริมการวิจัย
ในโครงการขนาดใหญ่ ที่มุ่งออกแบบเพื่อพัฒนามาตรการสำหรับการปฏิบัติ
งานของผู้บริหารโรงเรียน ในช่วงนี้เอง ที่มีการเขียนหนังสือดัง ๆ ออกมา
หลายเล่ม
นางสาวภัทริกานต์ บุญฤทธิ์ 6419050064 การบริหารการศึกษา กลุ่ม 2 4
เครื่องมือการบริหารจัดการสถานศึกษาสมัยใหม่
การบริหารของชาวญี่ปุ่น : THEORY Z
พั ฒนการของทฤษฎีในการบริหารการศึกษา
หนังสือที่มีชื่อเสียงในช่วงเวลาดังกล่าว ได้แก่
The Use of Theory in Educational Administration
แต่งโดยโคลาดาร์ซี และ เกตเซล ในปี 1955
เน้นบูรณาการของทฤษฎีและการปฏิบัติ
Studies in School Administration แต่งโดยมัวร์ ได้รับการ
สนับสนุนจากสมาคมผู้บริหารโรงเรียนอเมริกัน (American
Association of School Administrators) มัวร์ได้ทบทวน
เรื่องราวที่มีผู้เขียนบทความให้แก่ศูนย์ CPEA 9 ศูนย์ แล้วพบ
ว่า บทความเหล่านี้มีน้อนมากที่กล่าวถึงทฤษฎีการบริหารการ
ศึกษา
Uneasy Profession แต่งโดยกรอส กล่าวถึงอาชีพนักบริหาร
การศึกษาว่าเป็นอาชีพที่มิใช่ของง่าย ๆ เขาได้ชี้ให้เห็นว่า จะ
ต้องมีทฤษฎีเข้ามาเกี่ยวข้องว่าผู้นิเทศการศึกษาจะต้องปฏิบัติ
อย่างไร มิใช่ว่า “ควรจะปฏิบัติอย่างไร”
Administration Behavior in Education แต่งโดยแคมป์เบลและเกร็ก ได้
รับเงินทุนสนับสนุนจาก NCPEA และก็เช่นเดียวกันก็พบว่า งานเขียนส่วน
ใหญ่ขาดการวิจัยที่มุ่งค้นคว้าด้านทฤษฎี
นางสาวภัทริกานต์ บุญฤทธิ์ 6419050064 การบริหารการศึกษา กลุ่ม 2 5
เครื่องมือการบริหารจัดการสถานศึกษาสมัยใหม่
การบริหารของชาวญี่ปุ่น : THEORY Z
ทฤษฎีการบริหารการศึกษา
ลักษณะสำคัญ ความสำคัญ
1.ทฤษฎีประกอบด้วยแนวคิด คติฐาน และ 1.ทำหน้าที่ให้ข้อยุติทั่วไป (Generalization)
ข้อยุติทั่วไปอย่างมีเหตุผล 2.ก่อให้เกิดการวิจัยทางด้านบริหารการศึกษา มี
2.ทฤษฎีมุ่งอธิบายและคาดการณ์กฎต่าง ๆ การทดสอบความเป็นไปได้ของทฤษฎี และเมื่อ
ของพฤติกรรม อย่างมีระบบ ตั้งเป็นทฤษฎีขึ้นมาได้แล้ว ก็เป็นเครื่องช่วยชี้นำ
ในการปฏิบัติงาน หรือก่อให้เกิดการพัฒนางาน
3. เป็นความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กันของวิธีการ ใหม่ ๆ ขึ้นมา
ทดลองที่กระตุ้น และนี้นำให้มีการพัฒนา 3.การมีทฤษฎีบริหารการศึกษาขึ้นมาใช้ ช่วย
หาความรู้เพิ่มเติมในเรื่องนั้น ๆ ให้ล้ำลึกยิ่ง อำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ศึกษา ทำให้ไม่
ขึ้นในโอกาสต่อไป จำเป็นจะต้องไปจดจำข้อมูล หรือข้อความต่าง
ๆ มากมาย เพียงแต่จำหลักการหรือทฤษฎีต่าง
ๆ เหล่านั้นได้ ก็นับว่าเป็นการเพียงพอแล้ว
ดังนั้น ผู้บริหารการศึกษาทั้งหลาย จะต้องเป็นนักปฏิบัติที่สนใจปัญหาและเหตุการณ์อย่างเฉพาะ
เจาะจงที่เกิดขึ้นในองค์การ ต้องตีความ วิเคราะห์ ประยุกต์เอาหลักการและทฤษฎีต่าง ๆ ทางการบริหารการ
ศึกษา มาใช้ในการปฏิบัติ มุ่งแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น โดยอาศัยหลักการ และทฤษฎีบริหารการศึกษาที่ได้มีผู้ศึกษา
ค้นคว้าเอาไว้อย่างละเอียดรอบคอบแล้วนั้น เป็นแนวทางในการดำเนินการ เพื่อความถูกต้อง และเหมาะสม
นางสาวภัทริกานต์ บุญฤทธิ์ 6419050064 การบริหารการศึกษา กลุ่ม 2 6
เครื่องมือการบริหารจัดการสถานศึกษาสมัยใหม่
การบริหารของชาวญี่ปุ่น : THEORY Z
หลักการบริหารและจัดการสถานศึกษา
สถานศึกษาเป็นหน่วยงานทางการศึกษาระดับปฏิบัติการที่สำคัญที่สุด
มีสิทธิหน้าที่หรืออำนาจหน้าที่ความรับผิดชอบ และขอบเขตวัตถุประสงค์ของการ
จัดตั้งที่กำหนดไว้ในกฎหมาย คือ เป็นส่วนราชการที่มีสภาพเป็นนิติบุคคลตาม
กฎหมาย ว่าด้วยระเบียบบริหารราชการ กระทรวงศึกษาธิการสังกัดสำนักงานคณะ
กรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาคนไทยให้เป็นมนุษย์ที่
สมบูรณ์ ทั้งร่างกาย จิตใจ สติปัญญา ความรู้ คุณธรรม และ วัฒนธรรมในการดำรง
ชีวิต สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้เช่นเดียวกับสถานศึกษาไม่เป็นนิติบุคคล ส่วนอำนาจ
หน้าที่ที่เพิ่มขึ้นในฐานะนิติบุคคลกำหนดไว้ในมาตรา 59 แห่งพระราชบัญญัติการ
ศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 ที่กำหนดให้
สถานศึกษาของรัฐที่เป็นนิติบุคคลมีอำนาจในการปกครองดูแลบำรุงรักษา ใช้และ
จัดหาผลประโยชน์จาก ทรัพย์สินของสถานศึกษาที่เป็นราชพัสดุตามกฎหมายว่า
ด้วยที่ราชพัสดุและที่เป็นทรัพย์สินอื่น รวมทั้งจัดหารายได้จากการบริหารสถาน
ศึกษาและเก็บค่าธรรมเนียมสถานศึกษาที่ไม่ขัดหรือแย้งกับนโยบาย วัตถุประสงค์
และภารกิจของสถานศึกษา ดังนั้นผลของการจัดการศึกษาจะเป็น เช่นใดนั้นจึงขึ้น
อยู่กับการบริหารงานของสถานศึกษา ซึ่งสถานศึกษามีขอบเขตภารกิจในการ
บริหารและจัดการศึกษา ตามที่กำหนดไว้ในการบริหารสถานศึกษาขั้นพื้นฐานที่เป็น
นิติบุคคลไว้ 4 ด้าน คือ ด้านการบริหารงานวิชาการ ด้านการบริหารงานงบประมาณ
ด้านการบริหารงานบุคคล ด้านการบริหารงานทั่วไป
นางสาวภัทริกานต์ บุญฤทธิ์ 6419050064 การบริหารการศึกษา กลุ่ม 2 7
เครื่องมือการบริหารจัดการสถานศึกษาสมัยใหม่
การบริหารของชาวญี่ปุ่น : THEORY Z
ทฤษฎีและแนวความคิดแบบสมัยปัจจุบัน
(MODERN THEORY OF ORGANIZATION)
ในยุคที่สภาพสังคมและเศรษฐกิจเปลี่ยนแปลงไว ธุรกิจต่างๆ
มีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว การบริหารจัดการมีความสลับซับซ้อน
มากยิ่งขึ้น เน้นการปฎิบัติงานที่ถูกต้องและผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ
การบริหารจัดการองค์กรจึงมีการผสมผสานหลากหลายรายละเอียด
เข้ามา โดยเฉพาะการนำเอาหลักคณิตศาสตร์เข้ามาใช้ในกระบบการ
คำนวณต่างๆ เพื่อให้การบริหารงานมีประสิทธิภาพสูงสุด ไปจนถึง
การบริหารงานบุคคลที่มีความซับซ้อนมากขึ้น รวมถึงการสร้าง
กลยุทธ์ต่างๆ ในการบริหารจัดการออกมาหลากหลายรูปแบบเพื่อให้
เกิดประสิทธิภาพในการทำงานสูงที่สุด สำหรับในยุคการบริหารสมัย
ใหม่นี้มีนักทฤษฎียุคใหม่เกิดขึ้นมากมาย และสม่ำเสมอ มีการค้นคิด
วิธีการบริหารจัดการหลากหลายรูปแบบออกมาไม่ต่างจากการ
ทดลองทางวิทยาศาสตร์ นักทฤษฎีและแนวความคิดที่โดดเด่น เช่น Henri Fayol,
Edwards Deming Clayton, Magleby Christensen, W. Chan Kim, Franklin D.
Roosevelt (FDR), William Ouchi
นางสาวภัทริกานต์ บุญฤทธิ์ 6419050064 การบริหารการศึกษา กลุ่ม 2 8
เครื่องมือการบริหารจัดการสถานศึกษาสมัยใหม่
การบริหารของชาวญี่ปุ่น : THEORY Z
การบริหารของชาวญี่ปุ่น : ทฤษฎี Z
เมื่อความเจริญก้าวหน้าของเทคโนโลยีเป็นไปอย่างรวดเร็ว มีการขยาย
ทางเศรษฐกิจและการค้าสังคมที่มีความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอย่างกว้างขวาง
องค์การมีขนาดใหญ่ขึ้น กิจกรรมในการทำงานยุ่งยากและซับซ้อนมากขึ้นการแก้ไข
ปัญหายุ่งยากและซับซ้อนเช่นกัน ทฤษฎีการบริหารจัดการจึงได้ค้นคว้าหาวิธีการ
บริหารจัดการใหม่ๆมาใช้ จึงเกิดแนวคิดการจัดการสมัยใหม่ขึ้น โดยรวบรวมสาขา
วิชาต่างๆเข้าด้วยกันเพื่อให้หลักแนวคิดและทฤษฎีมีความน่าเชื่อถือโดยใช้พื้นฐาน
ความคิดจากแนวคิดแบบดั้งเดิมและแนวคิดแบบพฤติกรรม แนวคิดการจัดการสมัย
ใหม่มีทฤษฎีที่เกี่ยวข้องคือ ทฤษฎีวิทยาการจัดการ ทฤษฎีระบบ (System theory)
ทฤษฎีตามสถานการณ์ (Situational approach) ทฤษฏีการจัดการโดยยึด
วัตถุประสงค์ (Management by objective) และทฤษฏี Z ซึ่งมีรายละเอียด ดังนี้
ทฤษฎี Z เกิดจากแนวคิดของ ศาสตราจารย์วิลเลียม
จี โออุชิ (William G. Ouchi) เป็นศาสตราจารย์แห่ง UCLA
เป็นทฤษฎีการบริหารธุรกิจที่ผสมผสานระหว่างระบบการ
บริหารธุรกิจแบบตะวันตกและตะวันออกเข้าด้วยกัน โดย
Theory Z นั้นเกิดจากการศึกษา Theory A ซึ่งเป็นการบริหาร
จัดการแบบอเมริกัน และ Theory J ซึ่งเป็นการบริหารจัดการ
แบบญี่ปุ่น โดยนำเอาข้อดีของทั้งสองศาสตร์มาผสมผสานกัน
จนเกิดเป็นทฤษฎีบริหารรูปแบบใหม่ขึ้น
นางสาวภัทริกานต์ บุญฤทธิ์ 6419050064 การบริหารการศึกษา กลุ่ม 2 9
เครื่องมือการบริหารจัดการสถานศึกษาสมัยใหม่
การบริหารของชาวญี่ปุ่น : THEORY Z
ทฤษฎีการบริหารจัดการองค์กร : ทฤษฎี Z
โดย ดร.วิลเลี่ยม โออุชิ (WILLIAM G. OUCHI)
ประวัติ
ศาสตราจารย์วิลเลี่ยม โออุชิ เกิดปี 1943 ปัจจุบันอายุ 78 ปี
เกิดที่เมืองฮาวาย ประเทศสหรัฐอเมริกา
เป็นคนสัญชาติอเมริกัน แต่มีเชื้อชาติทั้งญี่ปุ่นและอเมริกัน
จบการศึกษาระดับปริญญาตรีทางด้านเศษฐศาสตร์การเมืองจาก William College (1965)
จบการศึกษาระดับปริญญาโททางด้านบริหารธุรกิจ จาก Stanford University (1967)
จบการศึกษาระดับปริญญาเอกทางด้านบริหารธุรกิจ จาก University of Chicago (1972)
เป็นนักการศึกษาหรือศาสตราจารย์ผู้เชี่ยวชาญพิเศษ ทางด้านการจัดการและการจัดองค์กร
ของมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย รัฐลอสแองเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา
นางสาวภัทริกานต์ บุญฤทธิ์ 6419050064 การบริหารการศึกษา กลุ่ม 2 10
เครื่องมือการบริหารจัดการสถานศึกษาสมัยใหม่
การบริหารของชาวญี่ปุ่น : THEORY Z
ผลงานที่ทำให้รู้จักอย่างแพร่หลาย
ผลงานที่ทำให้ศาสตราจารย์เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายคือการเขียน
หนังสือเรื่อง “Theory Z : How American Management Can Meet the
Japanese Challenge (Addison-Wesley, 1981)” ซึ่งเป็นทฤษฎีทางการ
บริหารธุรกิจที่เกิดขึ้นจากผลกระทบระหว่างระบบการบริหารแบบญี่ปุ่นและ
อเมริกาที่อธิบายโครงสร้างตามการจัดการผสมผสานระหว่างการบริหารแบบ
สหรัฐอเมริกา (Theory A : America Theory) กับการบริหารแบบญี่ปุ่น (Theory J
: Japan Theory) และหลังจากนั้นศาสตราจารย์ได้เขียนหนังสือที่ได้รับความนิยม
อีกจำนวนหนึ่ง
ผลงานทางด้านหนังสือ
Theory Z: How American Management Can Meet the Japanese Challenge (1981)
The M-Form Society: How American Teamwork Can Recapture the Competitive Edge (1984)
Making Schools Work: A Revolutionary Plan to Get Your Children the Education They Need (2003)
The Secret of TSL: The Revolutionary Discovery That Raises School Performance (2009)
นางสาวภัทริกานต์ บุญฤทธิ์ 6419050064 การบริหารการศึกษา กลุ่ม 2 11
เครื่องมือการบริหารจัดการสถานศึกษาสมัยใหม่
การบริหารของชาวญี่ปุ่น : THEORY Z
ศาสตราจารย์วิลเลี่ยม โออุชิ ได้ศึกษาวิจัยว่า แนวความคิดในการบริหารจัดการของโลกนั้น แบ่งออกเป็น 2 ค่าย คือ ค่าย
อเมริกัน และค่ายญี่ปุ่น โดยสาเหตุที่ต้องศึกษาเช่นนั้น เพราะเขามองว่า
ในค่ายอเมริกันนั้น มักประสบความสำเร็จในธุรกิจโดยเฉพาะก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 และเป็นผู้ที่ชนะสงครามโลกครั้งที่ 2
ภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 แม้ว่าญี่ปุ่นจะเป็นประเทศที่ขาดดุลทางการค้าแก่อเมริกาแต่ได้ปฏิวัติอุตสาหกรรม ขึ้นมา จน
สามารถเป็นยักษ์ใหญ่ในโลกเศรษฐกิจ ในปัจจุบันได้
คล้ายกับว่า อเมริกันนั้นขาดดุลการค้ากับญี่ปุ่นอย่างย่อยยับ
ดังนั้นศาสตราจารย์วิลเลี่ยม โออุชิ จึงศึกษาถึงจุดดีของการบริหารจัดการจากสองค่ายนำมาสร้างเป็นแนวคิดขึ้นมาเมื่อไม่
นานมานี้ การที่จะทำความเข้าใจทฤษฎี Z ได้นั้น ต้องทำความเข้าใจของทฤษฎี A และทฤษฎี J ก่อน
ทฤษฎี A คือ Amarican Theory เป็น ทฤษฎีว่าด้วยการบริหาร ทฤษฎี J คือ การบริหารจัดการแบบ
จัดการร่วมสมัยตามแบบของอเมริกา ซึ่งให้หลักการว่า การบริหาร ญี่ปุ่น ซึ่งมีลักษณะที่เรียกว่า การจ้างงาน
จัดการแบบนี้ ต้องอาศัยการจัดการจากพื้นฐานของบุคคล ของผู้ ตลอดชีวิต หรือ Lifetime Employment มี
บริหารที่เกิดขึ้นในอดีต ซึ่งในทฤษฎีนี้มีหลักสำคัญ 3 ประการ คือ การเลื่อนตำแหน่ง มีความผูกพันกัน เพราะ
ฉะนั้นการเลี้ยงคนแบบญี่ปุ่นจะส่งเสริมให้มี
1.Individualism คือ การที่สังคมอเมริกันเป็นสังคมแบบ การฝึกงานอย่างค่อยเป็น ค่อยไป แต่ผลเสีย
ปัจเจกบุคคล ซึ่งจะมีความรับผิดชอบต่อตัวเองมาแต่อดีต และ คือ ต้องเลี้ยงคนที่มีประสิทธิภาพการทำงาน
เมื่อคนต่างชาติโดยเฉพาะคนตะวันออกเข้าไปอาศัยในอเมริกันก็ ต่ำไว้ในหน่วยงานจนตลอดชีวิตด้วยเช่น กัน
จะสังเกตว่า คนอเมริกันเป็นคนโดดเดี่ยว มีสุงสิงกับใคร สังคม ก่อให้เกิดผลเสียต่อองค์การ ลักษณะ
แบบ Individualism ส่งผลให้เกิดบุคลากรที่มีความรับผิดชอบใน ประการที่สองของการบริหารจัดการแบบ
หน่วยงานสูง แต่ก็เกิดผลเสียคือ ไม่เกิดความผูกพัน ญี่ปุ่น คือ ต้องมี Concential Decision
Making คือ การตัดสินที่ต้องได้รับการ
2.Short Term Employment คือ การจ้างงานในระยะสั้น คน ยอมรับจากที่ประชุม ซึ่งเป็นผลดี แต่ผลเสีย
อเมริกันมักไม่มีความผูกพันในครอบครัว ในที่ทำงาน พร้อม คือ อาจเกิดความล่าช้า
เสมอที่ออกจากงาน ย้ายงาน จึงมักมีบริการให้เช่าสิ่งต่าง ๆ ซึ่ง
มองว่าต้นทุนในการขนย้ายเฟอร์นิเจอร์เมื่อย้ายงาน ออกจาก
บ้าน จะมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าค่าเช่า
3.Individual Decision Making สูง มีความมั่นใจในการตัดสินใจ
กล้าตัดสินใจ ทำให้ผู้บริหารไม่ต้องไปดูแลอย่างใกล้ชิด ผลเสีย
คือ ขาดการทำงานเป็นทีม
นางสาวภัทริกานต์ บุญฤทธิ์ 6419050064 การบริหารการศึกษา กลุ่ม 2 12
เครื่องมือการบริหารจัดการสถานศึกษาสมัยใหม่
การบริหารของชาวญี่ปุ่น : THEORY Z
การบริหารงานขององค์กรแบบทฤษฎี Z
ศาสตราจารย์วิลเลี่ยม โออุชิ มองเห็นข้อดีและข้อเสียของ 2 ทฤษฎีตัวอย่าง
แล้วนำข้อดีข้อเสียนั้นมาวิเคราะห์สร้างเป็นทฤษฎีร่วมสมัย ที่เรียกว่า Blend Together
หรือการนำมาผสมผสานให้เป็นหนึ่งเดียวกัน เรียกว่า ทฤษฎี Z ซึ่งเป็นแนวคิดของการ
บริหารจัดการเชิงจินตนาการ
ทฤษฎี Z การมองว่าคนต้องการความสมดุล ระหว่างชีวิตส่วนตัวและงาน (Work-life
Balance) ในขณะที่พวกเขาเหล่านั้นก็ต้องการความมั่นคงในตำแหน่ง งานที่ทำ และได้มีการ
อธิบายถึงลักษณะเด่นของการบริหารงานแบบญี่ปุ่น โดยแบ่ง ทฤษฎี Z ออกเป็น 7 ประการ
ตามข้อสังเกตที่ William Ouchi มีต่อบริหารงานแบบญี่ปุ่น ประกอบด้วย
1.การจ้างงานแบบตลอดชีพ (Lifetime Employment)
2.การประเมินผลงาน (Evaluation)
3.เลื่อนตำแหน่งอย่างช้าๆ (Slow Promotion)
4.ลักษณะงานตรงกับความถนัด (Non-specialized Career Paths)
5.การควบคุมที่ไม่มีรูปแบบชัดเจน (Implicit Control Mechanism)
6.การตัดสินใจแบบร่วมกันตัดสินใจ (Collective Decision Making)
7.ความสัมพันธ์ (Holistic Concern)
นางสาวภัทริกานต์ บุญฤทธิ์ 6419050064 การบริหารการศึกษา กลุ่ม 2 13
เครื่องมือการบริหารจัดการสถานศึกษาสมัยใหม่
การบริหารของชาวญี่ปุ่น : THEORY Z
การบริหารงานขององค์กรแบบทฤษฎี Z
การจ้างงานแบบตลอดชีพ (Lifetime Employment) จะทำให้พนักงานรู้สึกผูกพัน
กับองค์กร รู้สึกว่าตนเองเป็น ส่วนหนึ่งขององค์กร รวมทั้งรู้สึกเป็นหนี้องค์กร เนื่องจาก
องค์กรคือผู้มีพระคุณที่ให้งานทำ คนญี่ปุ่นเลิกงานแล้วจะยังไม่กลับทันที ต้องอยู่
ทำงานต่อจนเสร็จ ที่พนักงานเหล่านั้นถือเป็นความรับผิดชอบของพวกเขาที่ต้อง
ทำงานต่อจนเสร็จ
ความสัมพันธ์ (Holistic Concern) วัฒนธรรมองค์กรแบบญี่ปุ่นจะเป็นความสัมพันธ์
เหมือนครอบครัว เน้นอยู่แบบพึ่งพากันมากกว่าการอยู่แบบ ปัจเจกบุคคลแบบ
วัฒนธรรมการทำงานในองค์กรแบบตะวันตก
การประเมินผลงาน (Evaluation) ของการบริหารงานแบบญี่ปุ่นจะประเมินผลงาน
แบบเป็นกลุ่ม ซึ่งเป็นวิธีที่ต่างจากวัฒนธรรมแบบตะวันตกที่จะประเมินที่ตัวบุคคล
การเลื่อนตำแหน่งอย่างช้าๆ (Slow Promotion) ส่วนใหญ่ในการเลื่อนตำแหน่งของบริษัท
ญี่ปุ่นจะเกิดขึ้นอย่างช้าๆ บางครั้งในการประเมินเพื่อเลื่อนตำแหน่ง อาจจะใช้เวลา 5 – 10 ปี
อีกทั้งยังมีเรื่องความอาวุโสเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ซึ่งเรื่องความอาวุโส คือปัจจัยสำคัญที่ทำให้
การเลื่อนตำแหน่งในองค์กรญี่ปุ่นเกิดขึ้นช้ามาก เพราะถึงแม้ว่าจะมี ความสามารถเหนือกว่า
แต่ถ้ามีอายุน้อยก็จําเป็นจะต้องรอช่วงเวลาที่เหมาะสมในการขึ้นตำแหน่งที่สูงอยู่ดี ทำให้ถ้า
หากสังเกตดีๆ จะพบว่าในความเป็นจริงก็จะเป็นไปตามแนวคิดของ ทฤษฎี Z หลายครั้ง
พนักงานระดับสูงในองค์กรญี่ปุ่น ค่อนข้างจะเป็นคนมีอายุมากกว่าเป็นคนหนุ่มสาว
นางสาวภัทริกานต์ บุญฤทธิ์ 6419050064 การบริหารการศึกษา กลุ่ม 2 14
เครื่องมือการบริหารจัดการสถานศึกษาสมัยใหม่
การบริหารของชาวญี่ปุ่น : THEORY Z
การบริหารงานขององค์กรแบบทฤษฎี Z
ไม่เน้นงานตรงกับความถนัด (Non-specialized Career Paths) ในองค์กรญี่ปุ่นจะ
เน้นทำงานตามความถนัดเป็นหลัก แต่ก็มีการให้พนักงานได้มีประสบการณ์ในอีกสาย
งานด้วย การเปลี่ยนพนักงานไปทดลองงานในส่วนอื่นบ้าง เพื่อให้พนักงานได้ค้นหา
ความถนัดด้านอื่น ทำให้ในองค์กรญี่ปุ่นพนักงานคนหนึ่งอาจมีความสามารถหลายด้าน
ซึ่งเป็นความสามารถที่เกี่ยวข้องกัน ส่งผลให้นอกจากพนักงานจะมีความสามารถรอบ
ด้านแล้ว ยังทำให้พนักงานเข้าใจภาพรวมของการดําเนินงาน
การควบคุมที่ไม่มีรูปแบบชัดเจน (Implicit Control Mechanism) องค์กรญี่ปุ่นใน
หลายเรื่องมักจะไม่ค่อยมีการเขียนเป็นลายลักษณ์อักษรที่ชัดเจน มักจะใช้คําพูดหรือ
ความรู้สึก (ว่าต้องทำ) ในการจะทำอะไรบางอย่างมากกว่า ตัวอย่างเช่น การทำงานต่อ
หลังจากเวลาเลิกงานของคนญี่ปุ่น ก็เป็นเรื่องที่ไม่ได้ถูกกำหนดไว้ในกฎของบริษัท
(และในบางบริษัทก็ไม่ได้ทำให้ได้เงินเพิ่ม)
การตัดสินใจแบบร่วมกันตัดสินใจ (Collective Decision Making) ใช้การตัดสินใจเป็น
กลุ่ม มีอะไรก็จะต้องผ่านความคิดเห็นของกลุ่มก่อน ถึงแม้ว่าจะเป็นสิ่งที่ดีมากแค่ไหนแต่ถ้า
ไม่ผ่านความเห็นของกลุ่มก็จะไม่สามารถเกิดขึ้นได้ เป็นทั้งด้านดีและไม่ดีในตัวเอง ส่วนดีคือ
จะเป็นการคัดกรองได้ในรดับหนึ่งว่าจะมีปัญหาตามมาหรือไม่ แต่จุด ด้อยของระบบนี้คือ ถ้า
หากไม่ถูกใจคนส่วนใหญ่ก็จะไม่มีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น
นางสาวภัทริกานต์ บุญฤทธิ์ 6419050064 การบริหารการศึกษา กลุ่ม 2 15
เครื่องมือการบริหารจัดการสถานศึกษาสมัยใหม่
การบริหารของชาวญี่ปุ่น : THEORY Z
โครงสร้างองค์การ และระบบการบริหารการศึกษา
ศาสตราจารย์วิลเลี่ยม โออุชิ ทำการศึกษาวัฒนธรรมที่มีอิทธิพลต่อโครงสร้าง
องค์การ และระบบการบริหารการศึกษาของเขาแบ่งออกเป็น 2 ขั้นตอน คือ
ขั้นตอนที่ 1 ทำการศึกษาโครงสร้างของระบบการ
บริหารงานแบบญี่ปุ่น และการบริหารงานแบบอเมริกัน
แล้วนำโครงสร้างทั้งสองมาเปรียบเทียบกัน เพื่อค้นหา
ข้อแตกต่างระหว่าง 2 ระบบนี้ เพื่อจะได้ทราบว่า ใน
ระบบอเมริกันยังขาดลักษณะอะไรบ้าง จึงจะทำให้มี
ประสิทธิภาพเท่าเทียมหรือเหมือนกับระบบญี่ปุ่น
ขั้นตอนที่ 2 ทำการศึกษาบริษัทที่สำคัญ ๆ ในอเมริกา เพื่อ
ค้นหาว่าจะนำสิ่งที่เรียนรู้อะไรบ้างจากระบบญี่ปุ่นมาใช้ได้
แล้วกำหนดแนวทางหรือวิธีการบริหารให้เหมาะสมกับ
สถานการณ์ปัจจุบัน ผลการศึกษาพบว่าโครงสร้างทั้งสอง
ระบบ ไม่แตกต่างกัน จึงได้หันมาศึกษาวิธีการบริหารงาน
ของบริษัทต่าง ๆ ซึ่งพบว่าทั้งสองระบบมีลักษณะที่
แตกต่างกัน
นางสาวภัทริกานต์ บุญฤทธิ์ 6419050064 การบริหารการศึกษา กลุ่ม 2 16
เครื่องมือการบริหารจัดการสถานศึกษาสมัยใหม่
การบริหารของชาวญี่ปุ่น : THEORY Z
จากการศึกษา 2 ขั้นตอน พบว่า การบริหารแบบอเมริกา และญี่ปุ่น มีความแตกต่างกัน โดย
องค์การแบบอเมริกา (รูปแบบ A) มีกฎและข้อกำหนดที่เป็นทางการ การจัด
องค์การเป็นลำดับขั้นการบังคับบัญชา มีการรวมอำนาจการตัดสินใจ รูปแบบการ
ติดต่อ สื่อสารเป็นแนวดิ่ง และให้ความสำคัญกับสิ่งต่าง ๆมากกว่าพนักงาน
องค์การแบบญี่ปุ่น (รูปแบบ J) มีลักษณะของกฎเกณฑ์ที่ไม่เป็นทางการมากนัก
และเน้นการให้ความ สำคัญกับกลุ่มมีรูปแบบการสื่อสารเป็นแบบแนวราบและมี
แนวโน้มให้ความสำคัญกับคนมากกว่าสิ่งต่าง ๆ ดังตาราง
ตารางเปรียบเทียบองค์การแบบ A และ แบบ J
นางสาวภัทริกานต์ บุญฤทธิ์ 6419050064 การบริหารการศึกษา กลุ่ม 2 17
เครื่องมือการบริหารจัดการสถานศึกษาสมัยใหม่
การบริหารของชาวญี่ปุ่น : THEORY Z
ทฤษฎี Z ในโรงเรียน
เมื่อนําทฤษฎี Z มาปรับใช้ในสถานศึกษาสามารถจําแนก
องค์ประกอบได้ 6 ประการ ดังภาพ
ทฤษฎี X&Y แบ่งคนออกเป็น 2 ประเภท คือ มองคนในเชิงบวกและเชิงลบ
ทฤษฎี Z เป็นการกล่าวถึงวัฒนธรรมในองค์กรในภาพรวม
นางสาวภัทริกานต์ บุญฤทธิ์ 6419050064 การบริหารการศึกษา กลุ่ม 2 18
เครื่องมือการบริหารจัดการสถานศึกษาสมัยใหม่
การบริหารของชาวญี่ปุ่น : THEORY Z
องค์ประกอบของทฤษฎี Z ที่นำมาใช้ในโรงเรียน
ความเชื่อถือ ความถ่อมตนและความสนิทสนม (Trust. Subtlety and
Intimacy) จากทฤษฎีของ Ouchi ไม่มีองค์กรใดที่จะดำรงอยู่ได้ถ้าปราศจาก
ความไว้วางใจ ความฉลาดทัน คนและความสนิทสนม เมื่อพิจารณาองค์กรใน
ลักษณะของโรงเรียน ความไว้วางใจในโรงเรียนเป็น สิ่งสำคัญต่อความสมัคร
สมานสามัคคีอันจะนําองค์กรไปสู่จุดมุ่งหมายที่ได้กำหนดไว้ในระยะยาว ซึ่ง
สามารถสร้างได้โดยการทำให้ทุกคนยอมรับและเข้าใจในสิ่งที่จะทำ เข้าใจใน
ภาษาที่จะใช้ ร่วมกันรวมถึงเข้าใจเทคนิคและปัญหาในการดําเนินงานของ
องค์กร เป็นต้น ก็จะก่อให้เกิดความ เชื่อถือต่อองค์กร ความเชื่อถือสามารถ
พัฒนาได้โดยใช้ความสนิทสนม ประสบการณ์ที่ได้รับ รวมทั้งความสัมพันธ์
ระหว่างนักเรียนกับนักเรียน ครูกับนักเรียน ครูกับครู ผู้บริหารกับครูและ ผู้
บริหารกับนักเรียน
นางสาวภัทริกานต์ บุญฤทธิ์ 6419050064 การบริหารการศึกษา กลุ่ม 2 19
เครื่องมือการบริหารจัดการสถานศึกษาสมัยใหม่
การบริหารของชาวญี่ปุ่น : THEORY Z
องค์ประกอบของทฤษฎี Z ที่นำมาใช้ในโรงเรียน
การแบ่งงานควบคุมการตัดสินใจ (Shared Control and Decision
Making) ผู้บริหารโรงเรียนต้องใช้เวลาส่วนหนึ่งสื่อสารแลกเปลี่ยนกับ
นักเรียน ครู ผู้ปกครองและชุมชนถึง วัตถุประสงค์และวิธีการที่โรงเรียน
จะดำเนินการ ผู้บริหารจะต้องมีความเข้าใจอย่างแจ่มแจ้ง เกี่ยวกับระบบ
บุคลากรและช่วยให้บุคลากรเข้าใจเหตุผล จึงทำให้บุคลากรไว้ใจผู้นํา ต่อ
จากนั้น ผู้บริหารจึงเชิญให้บุคคลที่เป็นผู้นํามีออำนาจในการควบคุมและ
ให้ผู้เกี่ยวข้องที่เป็นปัจจัยป้อนเข้า มามีส่วนร่วมในการตัดสินใจ ซึ่งจะ
ทำให้บุคคลเหล่านี้เข้ามาร่วมรับผิดชอบด้วย
นางสาวภัทริกานต์ บุญฤทธิ์ 6419050064 การบริหารการศึกษา กลุ่ม 2 20
เครื่องมือการบริหารจัดการสถานศึกษาสมัยใหม่
การบริหารของชาวญี่ปุ่น : THEORY Z
องค์ประกอบของทฤษฎี Z ที่นำมาใช้ในโรงเรียน
การฝึกอบรม (Training) วงจรคุณภาพ (Quality Circles) ประกอบด้วยสมาชิก
กลุ่มย่อยที่มีการประชุมกันเป็นประจำเกี่ยวกับการทำงานและให้ข้อเสนอแนะใน
การเปลี่ยนแปลง จุดมุ่งหมายในการใช้ระบบกลุ่มในการให้คำแนะนําการแก้ปัญหา
และปรับปรุงคุณภาพของระบบ การฝึกอบรมช่วยทำให้เกิดการมีส่วนร่วม การ
ตัดสินใจและการแบ่งงาน การควบคุม การ ฝึกอบรมก็เพื่อให้รู้จักองค์กรในประเด็น
ต่อไปนี้คือ วัตถุประสงค์ ปัญหาและแหล่งทรัพยากร โดยเฉพาะอย่างยิ่งครูและ
บุคลากรที่ไม่ใช่ผู้บริหารจะต้องได้รับการฝึกอบรมเกี่ยวกับการวางแผน
กระบวนการในองค์การ (แรงจูงใจ ภาวะผู้นํา การตัดสินใจ การติดต่อสื่อสารและ
การเปลี่ยนแปลง) กระบวนการในระบบงบประมาณ
กระบวนการกลุ่ม กิจวัตรประจำวันของผู้บริหาร
ที่ครูไม่กล้าแสดงความคิดเห็น การฝึกอบรม
กำหนดขึ้นเพื่อสร้างวัฒนธรรมให้เป็นระบบเปิด
มีความเชื่อใจและการพัฒนาบุคลากร
นางสาวภัทริกานต์ บุญฤทธิ์ 6419050064 การบริหารการศึกษา กลุ่ม 2 21
เครื่องมือการบริหารจัดการสถานศึกษาสมัยใหม่
การบริหารของชาวญี่ปุ่น : THEORY Z
องค์ประกอบของทฤษฎี Z ที่นำมาใช้ในโรงเรียน
แรงจูงใจที่มาจากความสนใจของตนเอง (Motivation through Self-Interest)
Ouchi เชื่อว่าความสนใจมีเพียงรูปเดียวคือความสนใจของตนเอง (Self-Interest)
ถ้าเราไม่อาจ สร้างการยอมรับตามที่บุคคลต้องการให้ตรงตามความสนใจของตัว
เองแล้ว ก็จะเกิดการต่อต้านขัดขวางและไม่สามารถ
จะทำให้เกิดข้อผูกพันหรือผลผลิตในระดับสูงได้เลย
องค์กรที่ใช้ทฤษฎี Z เป็นองค์กรที่บุคลากรได้มีส่วนร่วม
ในการกำหนดเป้าหมายละวัตถุประสงค์ของระบบ
นางสาวภัทริกานต์ บุญฤทธิ์ 6419050064 การบริหารการศึกษา กลุ่ม 2 22
เครื่องมือการบริหารจัดการสถานศึกษาสมัยใหม่
การบริหารของชาวญี่ปุ่น : THEORY Z
องค์ประกอบของทฤษฎี Z ที่นำมาใช้ในโรงเรียน
การให้รางวัล (Rewards) ความทรงจำในองค์กรเป็นสิ่งสำคัญยิ่งสิ่งหนึ่ง คนที่เป็น
หัวหน้างานจะต้องจดจําให้ได้ว่าคนในความดูแลได้ทำงานมีประสิทธิภาพและ
ประสิทธิผลมาก เพียงใดเพื่อให้การยกย่องและให้รางวัลตอบแทน Ouchi เชื่อว่า
การจดจําขององค์กรเป็นไปตาม ลักษณะที่กล่าวมาแล้ว บุคคลก็จะมั่นใจว่าถ้าเขา
ทำในสิ่งที่ถูกต้องไม่ว่าจะนานเพียงใดเขาก็จะ ได้รับความยุติธรรมในที่สุด ดังนั้น
เขาก็จะไม่มีความเห็นแก่ตัวหรือใจแคบ Ouchi เชื่อว่าโรงเรียน จะต้องมีระบบการ
ประเมิน
ความสำคัญของการศึกษาที่มีคุณภาพสูง
(Importtance of High-Qualit Education)
สิ่งที่มีความสำคัญที่สุดของประเทศไทยในการพัฒนา
ความมั่นคงทางสังคมและ เศรษฐกิจคือ การจัดระบบ
โรงเรียน การได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพสูง
ทำให้ได้งานดีและช่วย รัฐบาลได้
นางสาวภัทริกานต์ บุญฤทธิ์ 6419050064 การบริหารการศึกษา กลุ่ม 2 23
เครื่องมือการบริหารจัดการสถานศึกษาสมัยใหม่
การบริหารของชาวญี่ปุ่น : THEORY Z
สรุป
ยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไปทำให้ปัจจุบันการประกอบธุรกิจมีหลากหลายรูปแบบ
ที่ไม่ใช่แค่เรื่องระบบโรงงานและอุตสาหกรรมแต่เพียงอย่างเดียวเหมือนเมื่อก่อน
แต่ถึงอย่างนั้นทรัพยากรบุคคลก็ยังคงเป็นสิ่งสำคัญกับการทำงานของทุกระบบและทุกองค์กร
เสมอไม่ว่าจะยุคสมัยใดก็ตาม ซึ่งการบริหารทรัพยากรบุคคลนั้นอาจต่างกันไปตามลักษณะ
ธุรกิจหรือสไตล์ของแต่ละองค์กร แต่ท้ายที่สุดแล้วทุกองค์กรต่างก็มีจุดประสงค์หลักเดียวกันนั่น
ก็คือต้องการขับเคลื่อนให้องค์กรเดินหน้าอย่างยอดเยี่ยมที่สุดและประกอบธุรกิจให้มี
ประสิทธิภาพสูงสุด
อย่างไรก็ดียังมีหลักการบริหารจัดการอีกมากมายที่เกิดขึ้นบนโลกนี้ ตั้งแต่หลักการของนัก
ทฤษฎียุคเก่าไปจนถึงกลยุทธ์ของนักบริหารยุคใหม่ หลายหลักการในอดีตยังคงนำมาใช้ได้ผลดีจนถึง
ยุคปัจจุบัน หรือบางองค์กรเองต่างก็สร้างสรรค์หลักการบริหารของตัวเองขึ้นมาใหม่ให้มีความเฉพาะ
ตัว ขณะที่หลายองค์กรอาจผสมผสานหลักการต่างๆ ที่เป็นประโยชน์เพื่อนำมาใช้ร่วมกันก็มี อย่างไร
ก็ดีไม่ว่าจะเป็นหลักการไหน หากองค์กรเลือกหลักการบริหารจัดการมาใช้ได้อย่างเหมาะสมกับขนาด
และลักษณะองค์กรของตน ก็อาจทำให้องค์กรประสบความสำเร็จได้เช่นกัน
นางสาวภัทริกานต์ บุญฤทธิ์ 6419050064 การบริหารการศึกษา กลุ่ม 2 24
เครื่องมือการบริหารจัดการสถานศึกษาสมัยใหม่
การบริหารของชาวญี่ปุ่น : THEORY Z
บรรณานุกรม
ปราชญากล้าผจัญ. 2553. หลักและทฤษฎีการบริหารการศึกษา,กรุงเทพฯ : บริษัทมิตรภาพการพิมพ์และ
สติวดิโอ จำกัด.
ศิริพงษ์ เศาภายน.2553. หลักและกระบวนการบริหารการศึกษา: ทฤษฎีและแนวปฏิบัติ. พิมพ์ครั้งที่ 2.
นนทบุรี : บุ๊คพอยท์.
การบริหารจัดการสถานศึกษา.[ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: https://sites.google.com/site/narubadininter
school/phl-ngan/kar-brihar-laea-kar-cadkar-sthan-suksa. (วันที่สืบค้นข้อมูล: 5 พฤศจิกายน
2564).
ทฤษฎีการบริหารการศึกษา.[ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: https://ksitds55.wordpress.com/. (วันที่สืบค้น
ข้อมูล: 12 พฤศจิกายน 2564).
ทฤษฎีการบริหารการศึกษา. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: https://www.gotoknow.org/posts/521119.
(วันที่สืบค้นข้อมูล: 5 พฤศจิกายน 2564).
ทฤษฎี Z การบริหารงานแบบญี่ปุ่น (Theory Z).[ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: https://greedisgoods.
com/%E0% B8%97%E0%B8%A4%E0%B8%A9%E0%B8%8E%E0%B8%B5-z-
%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%AD/. (วันที่สืบค้นข้อมูล: 5 พฤศจิกายน 2564).
แนวคิดการจัดการแบบสมัยใหม่. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: https://sites.google.com/site/aunripreya
456/8-naewkhid-kar-cadkar-baeb-smay-him. (วันที่สืบค้นข้อมูล: 5 พฤศจิกายน 2564).
แนวคิดและทฤษฎีด้านการบริหารจัดการ. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: https://th.hrnote.asia/orgdevelop
ment/190419-management-concept/. (วันที่สืบค้นข้อมูล: 10 พฤศจิกายน 2564).
แนวคิดและทฤษฎีทางการบริหารและการจัดการ. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: http://zangkitsdada.Blog
spot.com/2017/01/2-gulick-urwick-1937-7-posdcorb-1.html. (วันที่สืบค้นข้อมูล: 5
พฤศจิกายน 2564).
นางสาวภัทริกานต์ บุญฤทธิ์ 6419050064 การบริหารการศึกษา กลุ่ม 2 ค
เครื่องมือ
การบริหารจัดการสถานศึกษาสมัยใหม่
การบริหารของชาวญี่ปุ่น : Theory Z