แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 1 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2565
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ วทิ ยาศาสตรเ์ พ่ิมเติม หน่วยที่ 5 พฤติกรรมของสัตว์
สาระ ชวี วิทยา (ว33256) ระดบั ช้ัน มธั ยมศึกษาปีที่ 6
เร่ือง กลไกการเกิดพฤตกิ รรมของสตั ว์
เวลา 1 ชว่ั โมง ผ้สู อน นางสาวธดิ ารตั น์ โพนกลาง
1. ผลการเรยี นรู้
1. สืบค้นข้อมูล อธบิ าย เปรียบเทียบ และยกตัวอย่างพฤติกรรมที่เป็นมาแต่กาเนิดและพฤติกรรมที่เกิดจาก
การเรียนรูข้ องสตั ว์
2. สืบค้นข้อมูล อธิบาย และยกตัวอย่างความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งพฤตกิ รรมกับวิวัฒนาการของระบบประสาท
2. จุดประสงค์การเรยี นรู้
1. สบิ คน้ ข้อมูล อธบิ าย และยกตวั อยา่ งกลไกการเกดิ พฤติกรรมของสตั ว์ (K)
2. สรุป แปลความหมาย และเปรยี บเทยี บพฤตกิ รรมท่พี บในสิ่งมีชีวิตชนิดตา่ ง ๆ (K)
3. ใช้อุปกรณแ์ ละเครือ่ งมอื ทางวิทยาศาสตร์ไดถ้ ูกตอ้ ง (P)
4. สนใจใฝร่ ใู้ นการศึกษาและมุง่ ม่ันในการทางาน (A)
3. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรทู้ อ้ งถน่ิ
พจิ ารณาตามหลกั สตู รของสถานศึกษา
สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
- พันธุกรรมและสิ่งแวดล้อมมีผลต่อการแสดง
พฤติกรรม
- พฤติกรรมท่ีเป็นมาแต่กาเนิดแบ่งออกได้เป็น
หลายชนิด เช่น โอเรียนเตชนั (แทกซิสและไคนีซิส)
รีเฟลก็ ซ์ และฟิกแอกชันแพทเทิรน์
- พฤติกรรมที่เกิดจากการเรียนรู้ แบ่งได้เป็น
แฮบบิชูเอชัน การฝังใจ การเชื่อมโยง (การลอง
ผดิ ลองถกู และการมีเงื่อนไข) และการใชเ้ หตุผล
- ระดับการแสดงพฤติกรรมที่สัตว์แต่ละชนิด
แ ส ด ง อ อ ก จ ะ แ ต ก ต่ า ง กั น ซ่ึ ง เ ป็ น ผ ล ม า จ า ก
วิวัฒนาการของระบบประสาทท่แี ตกตา่ งกัน
4. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
พฤตกิ รรมของสตั วเ์ ป็นผลจากพนั ธุกรรมและสิ่งแวดล้อม แบง่ ออกเป็น 2 ประเภท ดงั นี้
- พฤติกรรมท่ีเป็นมาแต่กาเนิด แบ่งออกเป็นหลายชนิด ได้แก่ โอเรยี นเตชันเป็นพฤติกรรมตอบสนอง
ต่อปัจจัยทางกายภาพทาให้เกิดการวางตัวที่เหมาะสมต่อการดารงชีวิต แบ่งออกเป็น 2 ประเภท
ได้แก่ ไคนีซิสเปน็ การตอบสนองต่อสง่ิ เร้าแบบมีทิศทางไมแ่ น่นอนและแทกซสิ เป็นการตอบสนองต่อ
ส่ิงเร้าแบบมีทิศทางท่ีแน่นอน รีเฟล็กซ์เป็นพฤติกรรมตอบสนองของระบบประสาทที่อยู่ภายนอก
อานาจจิตใจ และฟิกแอกชันแพทเทิรน์ เป็นพฤติกรรมตอบสนองที่เกิดจากพันธุกรรม ซ่ึงมีแบบแผน
ท่ีแนน่ อนและมลี ักษณะจาเพาะของสิง่ มีชีวติ แต่ละชนดิ
- พฤติกรรมท่ีเกิดจากการเรียนรู้ ประกอบด้วยแฮบบิชูเอชันเป็นพฤติกรรมที่อาศัยการกระตุ้น
ซา้ ๆ จนสัตวล์ ดและหยุดตอบสนองต่อส่ิงเร้าท่ีไม่ส่งผลต่อการดารงชวี ิต การฝังใจเป็นพฤติกรรม
ท่ีตอบสนองตอ่ สง่ิ เรา้ ในช่วงแรกของชวี ติ การเชือ่ มโยงแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ การลองผดิ
ลองถูกเปน็ พฤตกิ รรมที่แสดงออกโดยมกี ารลองผดิ ลองถกู จนมีประสบการณ์และการมเี งอ่ื นไขเปน็
พฤติกรรมท่ีสัตว์ตอบสนองต่อสิ่งเรา้ ท่ีมีเง่ือนไขเช่นเดียวกับสง่ิ เร้าไม่มีเงอื่ นไข และการใช้เหตุผล
เปน็ พฤติกรรมที่สตั ว์นาประสบการณ์มาใชแ้ ก้ปญั หา
พฤติกรรมท่ีสัตว์แต่ละชนิดแสดงออกจะแตกต่างกันซ่ึงเป็นผลมาจากวิวัฒนาการของระบบประสาทท่ี
แตกตา่ งกัน
5. สมรรถนะสาคญั ของผูเ้ รยี นและคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน คุณลักษณะอนั พึงประสงค์
1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 1. มวี ินยั
2. ความสามารถในการคิด 2. ใฝเ่ รยี นรู้
1) ทกั ษะการสงั เกต 3. มุ่งมนั่ ในการทางาน
2) ทักษะการสารวจค้นหา
3) ทักษะการจาแนกประเภท
4) ทักษะการเปรยี บเทียบ
5) ทกั ษะการลงความเห็นจากขอ้ มลู
3. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
6. กจิ กรรมการเรียนรู้
ขั้นสรา้ งความสนใจ(Engagement) (5 นาท)ี
1.1 ครนู าเขา้ สบู่ ทเรยี นโดยเปดิ คลิปวีดีโอพฤตกิ รรมการชกั ใยของแมงมมุ โดยใชคาถามกระตุ้น ดงั น้ี
- นกั เรียนจะอธบิ ายกลไกของพฤติกรรมการชกั ใยของแมงมมุ วา่ อยา่ งไร
( คาอธิบายขึน้ อยู่กบั เหตผุ ลของนักเรยี น )
1.2 ครชู ้แี นะวา่ การแปลผลนน้ั เป็นขนั้ ตอนท่ียากที่สุดในการศึกษาเกี่ยวกบั พฤตกิ รรม เพราะมนษุ ย์
มักใชค้ วามรู้สกึ นกึ คดิ ของตนเข้าไปประกอบคาอธบิ ายพฤติกรรมของสตั วท์ ท่ี าการศึกษา
ขัน้ สารวจและคน้ หา (Exploration) (15 นาท)ี
2.1 ครูนาเข้าสู่บทเรียนโดยทบทวนการตอบสนองต่อส่ิงเร้าของสัตว์จากการเรียนเรื่องระบบประสาท แล้วให้
นักเรยี นยกตัวอยา่ งการตอบสนองตอ่ ส่ิงเรา้ ของสัตวแ์ ละชว่ ยกันระบถุ งึ ส่งิ เรา้ ของพฤติกรรมท่ยี กตัวอย่าง
2.2 ให้นกั เรียนสืบค้นข้อมลู และศึกษา เพ่อื รว่ มกนั อภปิ รายสรุปความหมายของพฤติกรรม
ขน้ั อธบิ ายและลงขอ้ สรปุ (Explanation) (25 นาที)
3.1 ครแู ละนักเรียนร่วมกันอภิปรายถึงความหมายของพฤติกรรมโดยใชป้ ระเดน็ คาถาม ดังน้ี
- พฤตกิ รรมมคี วามสาคญั ตอ่ ส่งิ มชี ีวิต อยา่ งไร
( แนวคาตอบ : การแสดงพฤตกิ รรมของส่ิงมีชีวิต เป็นไปเพื่อความอยูร่ อดและป้องกนั การสูญพนั ธ์ุ
เช่น พฤตกิ รรมการหาอาหาร พฤติกรรมการเก้ยี วพาราสกี ารสืบพันธใุ์ หล้ ูกหลานตอ่ ไป )
- ความซับซอ้ นของการแสดงพฤติกรรมเกี่ยวขอ้ งกับระดบั ความเจรญิ ของระบบประสาท
หรอื ไม่ อย่างไร
( แนวคาตอบ : เก่ียวข้องกนั ถ้าระบบประสาทเจริญดีสตั วจ์ ะสามารถแสดงพฤติกรรมท่ีเกิดจากการเรียนรู้ได้ดี
มีพฤตกิ รรมท่ซี บั ซอ้ น )
ข้ันขยายความรู้ (Elaboration) (5 นาท)ี
4.1 ครูเสรมิ ความร้เู กย่ี วกับการศกึ ษาพฤตกิ รรมของสัตว์เพิ่มเตมิ ดังนี้
- ในการศึกษาพฤติกรรมของสัตว์ จาเป็นต้องทราบถึงสภาพทางสรีรวิทยาของสัตว์ชนิดนั้นๆ เพ่ือเป็นพ้ืนฐาน
ในการอธิบายพฤติกรรมสัตว์
- การศึกษาพฤติกรรมทางด้านจิตวิทยา สามารถศึกษาได้จากการสังเกตพฤติกรรมของสัตว์ในธรรมชาติ หรือ
ห้องทดลอง
ขั้นประเมนิ (Evaluation)
1. ประเมินความรู้เกี่ยวกับ เรื่อง พฤติกรรมของสัตว์ โดยสังเกตพฤติกรรมการตอบคาถาม ตรวจ
แบบทดสอบก่อนเรียน ตรวจแบบฝึกหดั ตรวจผงั มโนทัศน์ และตรวจรายงาน
2. ประเมินทักษะและกระบวนการ โดยสังเกตพฤติกรรมการทากิจกรรมกลุ่ม การใช้เคร่ืองมือและอุปกรณ์
ทางวทิ ยาศาสตร์ และการนาเสนอผลงาน
3. ประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ โดยสังเกตพฤติกรรมความสนใจใฝ่รู้ในการศึกษาและความมุ่งมั่นใน
การทางาน
7. การวดั และการประเมินผล
รายการวัด วธิ วี ัด เคร่อื งมือ เกณฑ์การประเมิน
7.1 การประเมนิ กอ่ นเรียน - แบบทดสอบ - ประเมินตาม
กอ่ นเรยี น สภาพจริง
- แบบทดสอบก่อน - ตรวจแบบทดสอบ
เรยี น หน่วยการ ก่อนเรยี น
เรียนรูท้ ่ี 5
7.2 การประเมนิ ระหว่าง
การจดั กจิ กรรม
1) ประเภทของ - ตรวจใบงานท่ี 5.1 - ใบงานท่ี 5.1 - ร้อยละ 60
พฤติกรรม ผ่านเกณฑ์
- ตรวจใบงานท่ี 5.2 - ใบงานท่ี 5.2 - รอ้ ยละ 60
- ตรวจแบบฝกึ หัด - แบบฝกึ หดั ผา่ นเกณฑ์
- ตรวจรายงาน เรอ่ื ง - แบบประเมิน - รอ้ ยละ 60
พฤตกิ รรมของสัตว์ รายงาน ผา่ นเกณฑ์
- ตรวจผงั มโนทศั น์ เรอื่ ง - แบบประเมนิ - ระดับคณุ ภาพดี
พฤตกิ รรมของสัตว์ ผังมโนทศั น์ ผ่านเกณฑ์
- ระดบั คุณภาพดี
ผา่ นเกณฑ์
2) การปฏบิ ตั ิการ - ประเมนิ การปฏบิ ัติการ - แบบประเมนิ - ระดบั คุณภาพดี
การปฏบิ ตั ิการ ผ่านเกณฑ์
3) การนาเสนอ - ประเมินการนาเสนอ - ผลงานที่นาเสนอ - ระดับคณุ ภาพดี
ผลงาน ผลงาน
ผา่ นเกณฑ์
4) พฤตกิ รรม - สังเกตพฤติกรรม
การทางาน การทางานรายบคุ คล - แบบสังเกตพฤติกรรม - ระดับคณุ ภาพดี
รายบุคคล
- สังเกตพฤติกรรม การทางานรายบุคคล ผ่านเกณฑ์
5) พฤตกิ รรม การทางานกลมุ่
การทางานกลุ่ม - แบบสังเกตพฤติกรรม - ระดบั คณุ ภาพดี
- สงั เกตความมวี ินยั
6) คณุ ลกั ษณะ ใฝ่เรยี นรู้ และมุ่งมนั่ การทางานกลุ่ม ผ่านเกณฑ์
อนั พงึ ประสงค์ ในการทางาน
- แบบประเมิน - ระดบั คุณภาพดี
คณุ ลกั ษณะ ผา่ นเกณฑ์
อนั พงึ ประสงค์
8. สือ่ /แหล่งการเรยี นรู้
8.1 สือ่ การเรียนรู้
1) หนงั สือเรียนรายวชิ าเพมิ่ เติมวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชีววทิ ยา ม.6 เล่ม 1 หน่วยการเรยี นรู้
ที่ 5 พฤตกิ รรมของสัตว์
2) แบบฝึกหัดรายวิชาเพ่ิมเติมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชีววิทยา ม.6 เล่ม 1 หน่วยการเรยี นรู้
ที่ 5 พฤติกรรมของสตั ว์
3) แบบทดสอบกอ่ นเรียน หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 5 พฤติกรรมของสัตว์
4) ใบงานท่ี 5.1 เร่อื ง ความสมั พนั ธ์ของระบบประสาทกับพฤติกรรมของสัตว์
5) PowerPoint เรอื่ ง พฤติกรรมของสตั ว์
6) วดิ ที ศั น์ เรอื่ ง พฤติกรรมของแมงมมุ
8.2 แหลง่ การเรียนรู้
1) หอ้ งเรียน
2) ห้องสมดุ
3) หอ้ งปฏบิ ัตกิ าร
4) สอื่ อิเล็กทรอนกิ ส์
ใบงานที่ 5.1
เรอื่ ง ความสมั พันธ์ของระบบประสาทกับพฤตกิ รรมของสตั ว์
คาช้แี จง : จงอธบิ ายลกั ษณะของระบบประสาทและพฤติกรรมท่สี าคัญของสตั ว์
สิง่ มชี ีวติ ระบบประสาท พฤติกรรมที่สาคญั
พารามเี ซียม ............................................................................... .......................................................
............................................................................... .......................................................
............................................................................... .......................................................
.............................................................................. .......................................................
ไส้เดอื นดิน ............................................................................... .......................................................
............................................................................... .......................................................
............................................................................... .......................................................
.............................................................................. .......................................................
............................................................................... .......................................................
แมลง ............................................................................... .......................................................
............................................................................... .......................................................
.............................................................................. .......................................................
............................................................................... .......................................................
นก ............................................................................... .......................................................
............................................................................... .......................................................
.............................................................................. .......................................................
ชิมแปนซี ............................................................................... .......................................................
............................................................................... .......................................................
............................................................................... .......................................................
.............................................................................. .......................................................
ใบงาน1ที่ 5.1 เฉลย
เรื่อง ความสมั พนั ธข์ องระบบประสาทกบั พฤตกิ รรมของสตั ว์
คาช้แี จง : จงอธบิ ายลักษณะของระบบประสาทและพฤตกิ รรมทส่ี าคญั ของสตั ว์
ส่งิ มชี ีวติ ระบบประสาท พฤตกิ รรมท่สี าคญั
พารามีเซยี ม ...ไ.ม...่ม..ี.เ.ซ..ล...ล..์.ป..ร...ะ..ส...า..ท....แ..ต...่ม...ีร..่า..ง..แ...ห..ป...ร..ะ...ส..า...ท..ห...ร..ือ..... ......................ไ..ค..น...ซี ..สิ........................
...เ.ส..้น...ใ..ย..ป...ร..ะ..ส..า..น...ง..า..น..อ...ย..ู่ใ..ต..้เ..ย..ื่อ...ห..ุ้ม...เ.ซ...ล..ล..์เ..ช..่ือ...ม..โ..ย..ง.... .......................................................
...โ.ค..น...ซ..ิเ..ล..ีย..ใ..ห...้ท..า..ง..า..น...ป..ร..ะ..ส...า..น..ก...ัน.............................. .......................................................
.............................................................................. .......................................................
ไส้เดอื นดนิ .ม...ปี...ม..ป...ร..ะ..ส..า..ท...ส..ม...อ..ง...2....ป..ม....แ...ล..ะ..เ.ส...น้ ..ป...ร..ะ..ส...า.ท...ร..อ..บ..... ......................แ..ท...ก..ซ..สิ........................
.ค...อ..ห...อ...ย....2...เ..ส..้น...โ.อ...บ...ร..อ..บ...ค...อ..ห...อ..ย....แ...ล..้ว..เ..ช..่ือ...ม..เ..ป..็.น.... .....................ร..ีเ.ฟ...ล...็ก..ซ..์.....................
.ป...ม...ป..ร..ะ..ส...า..ท..ใ..ต..้ค...อ..ห...อ..ย....2...ป...ม....แ..ล..ะ...เ.ส..น้...ป...ร..ะ..ส..า..ท...ค..ู่.. .......................................................
.ด...า้ ..น..ท...้อ..ง....อ..ีก..ท...้งั..ม..ีป...ม..ป...ร..ะ..ส...า..ท..ท...ปี่...ล..อ้..ง..ท...ุก..ป...ล..้อ...ง...... .......................................................
..ม..ีป...ม...ป...ร..ะ..ส...า..ท..บ...ร..ิเ..ว..ณ...ส...่ว..น...ห..ั.ว...6....ค..ู่..(.3....ค..ู่ร..ว...ม..ก...ัน.... .....................แ...ท..ก...ซ..สิ........................
แมลง ..เ.ป...็น..ส...ม..อ...ง...3....ค..ู่ร..ว..ม...เ.ป...็น..ป...ม..ป...ร..ะ..ส...า..ท..ใ..ต..้ส...ม..อ...ง..)..ซ...่ึง... .....................ร..เี.ฟ...ล..็ก...ซ..์.....................
..เ.ช...ื่อ..ม...ก..ับ...ป...ม...ป..ร..ะ...ส..า..ท...ต...า..ม..ป...ล...้อ..ง..ต...ล..อ...ด..แ...น...ว..ย..า..ว.... ...........ฟ...ิก..แ..อ...ก..ช..ัน...แ..พ...ท...เ.ท...ริ ..น์ .............
..ข..อ...ง.ล...า..ต..ัว....แ..ล..ะ..ม...ีเ.ส...น้ ..ป...ร..ะ..ส..า..ท...แ..ย...ก..ไ..ป..ส...่ว..น..ต...า่ ..ง...ๆ.... .......................................................
...เ.ป...็น..ส...ัต..ว..์.ม..ีก...ร..ะ..ด..ู.ก..ส..ัน...ห...ล..ัง....ม..ีส...ม..อ...ง..ข..น...า..ด..ใ..ห...ญ...่..ม..ี. ...........ฟ...กิ..แ...อ..ก..ช...นั ..แ...พ..ท...เ.ท...ิร..์น.............
นก ...ไ.ข...ส..ัน...ห...ล..ั.ง..ท..อ...ด...ต..า..ม...ล...า..ต..ัว...ท...า..ง..ด..้า..น...ห...ล..ั.ง...แ...ล..ะ...ม..ี. .................แ...ฮ..บ...บ..ชิ...ูเ.อ..ช...ัน...................
...เ.ส..้น...ป...ร..ะ..ส...า..ท..แ...ย..ก...อ..อ...ก..จ...า..ก..ส...ม..อ...ง..แ..ล...ะ..ไ.ข...ส..ัน...ห...ล..ัง... .....................ก..า..ร..ฝ..งั..ใ..จ......................
...ไ.ป...ย..ัง..อ..ว..ยั...ว..ะ..ต..่า..ง....ๆ................................................ ..................ก..า..ร..ม..ีเ..ง.ื่อ...น..ไ..ข...................
ชมิ แปนซี ..เ..ป..็น...ส...ัต...ว..์ม..ี.ก..ร..ะ...ด..ู.ก..ส...ัน...ห...ล..ัง....ม..ีส...ม...อ..ง..ข...น...า..ด...ใ.ห...ญ....่ . .................ก...า..ร..ใ.ช...้เ.ห..ต...ผุ..ล...................
..(.ส...ม...อ..ง..ส..่.ว..น...ห..น...้า..เ..จ..ร..ิญ....ด..ี)...ม...ีไ.ข...ส..ัน...ห...ล..ั.ง..ท..อ...ด...ต..า..ม.... .......................................................
..ล...า..ต..ัว..ท...า..ง..ด..้า..น...ห..ล...ัง...แ..ล...ะ..ม...ีเ.ส..้น...ป...ร..ะ..ส..า..ท...แ...ย..ก..อ...อ..ก.... .......................................................
..จ..า..ก...ส..ม...อ..ง..แ..ล..ะ...ไ.ข..ส...ัน..ห...ล..งั..ไ..ป..ย...งั ..อ..ว..ัย..ว...ะ..ต..่า..ง...ๆ........... .......................................................
9. ความเห็นของผ้บู รหิ ารสถานศกึ ษาหรอื ผ้ทู ไี่ ดร้ ับมอบหมาย
ขอ้ เสนอแนะ
ลงชื่อ .................................
( ................................ )
ตาแหนง่ .......
10. บนั ทกึ ผลหลงั การสอน
ดา้ นความรู้
ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น
ด้านคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
ด้านความสามารถทางวิทยาศาสตร์
ดา้ นอ่ืน ๆ (พฤตกิ รรมเดน่ หรือพฤตกิ รรมทีม่ ปี ญั หาของนกั เรยี นเป็นรายบคุ คล (ถา้ มี))
ปญั หา/อุปสรรค
แนวทางการแก้ไข
แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 2 ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศกึ ษา 2565
กลุ่มสาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตรเ์ พิ่มเติม หน่วยที่ 5 พฤตกิ รรมของสตั ว์
สาระ ชีววิทยา (ว33256) ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 6
เรื่อง ประเภทพฤตกิ รรมของสัตว์
เวลา 4 ชว่ั โมง ผู้สอน นางสาวธดิ ารตั น์ โพนกลาง
1. ผลการเรียนรู้
1. สบื ค้นข้อมูล อธิบาย เปรียบเทียบ และยกตัวอย่างพฤติกรรมที่เป็นมาแต่กาเนิดและพฤติกรรมท่ีเกิดจาก
การเรียนรขู้ องสัตว์
2. สืบค้นขอ้ มูล อธบิ าย และยกตัวอยา่ งความสัมพนั ธร์ ะหว่างพฤติกรรมกับวิวฒั นาการของระบบประสาท
2. จุดประสงค์การเรียนรู้
1. สบิ ค้นขอ้ มูล อธบิ าย และยกตัวอยา่ งพฤตกิ รรมของสตั ว์ (K)
2. สรุป แปลความหมาย และเปรียบเทยี บพฤติกรรมทีพ่ บในส่งิ มชี ีวติ ชนดิ ตา่ ง ๆ (K)
3. อธบิ ายความสัมพนั ธ์ระหวา่ งวิวฒั นาการของระบบประสาทกับพฤติกรรมของสตั ว์ (K)
4. ใชอ้ ุปกรณแ์ ละเคร่อื งมือทางวิทยาศาสตร์ได้ถูกต้อง (P)
5. สนใจใฝ่ร้ใู นการศึกษาและมุง่ มน่ั ในการทางาน (A)
3. สาระการเรียนรู้ สาระการเรียนรทู้ ้องถน่ิ
พิจารณาตามหลกั สตู รของสถานศกึ ษา
สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
- พันธุกรรมและสิ่งแวดล้อมมีผลต่อการแสดง
พฤติกรรม
- พฤติกรรมท่ีเป็นมาแต่กาเนิดแบ่งออกได้เป็น
หลายชนิด เช่น โอเรียนเตชัน (แทกซสิ และไคนีซิส)
รเี ฟลก็ ซ์ และฟิกแอกชนั แพทเทริ น์
- พฤติกรรมท่ีเกิดจากการเรียนรู้ แบ่งได้เป็น
แฮบบิชูเอชัน การฝังใจ การเช่ือมโยง (การลอง
ผิดลองถกู และการมเี งื่อนไข) และการใช้เหตุผล
- ระดับการแสดงพฤติกรรมท่ีสัตว์แต่ละชนิด
แ ส ด ง อ อ ก จ ะ แ ต ก ต่ า ง กั น ซ่ึ ง เ ป็ น ผ ล ม า จ า ก
ววิ ฒั นาการของระบบประสาทที่แตกตา่ งกนั
4. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
พฤตกิ รรมของสตั วเ์ ป็นผลจากพนั ธุกรรมและสิ่งแวดล้อม แบง่ ออกเป็น 2 ประเภท ดงั นี้
- พฤติกรรมท่ีเป็นมาแต่กาเนิด แบ่งออกเป็นหลายชนิด ได้แก่ โอเรยี นเตชันเป็นพฤติกรรมตอบสนอง
ต่อปัจจัยทางกายภาพทาให้เกิดการวางตัวที่เหมาะสมต่อการดารงชีวิต แบ่งออกเป็น 2 ประเภท
ได้แก่ ไคนีซิสเปน็ การตอบสนองต่อสง่ิ เร้าแบบมีทิศทางไมแ่ น่นอนและแทกซสิ เป็นการตอบสนองต่อ
ส่ิงเร้าแบบมีทิศทางท่ีแน่นอน รีเฟล็กซ์เป็นพฤติกรรมตอบสนองของระบบประสาทที่อยู่ภายนอก
อานาจจิตใจ และฟิกแอกชันแพทเทิรน์ เป็นพฤติกรรมตอบสนองที่เกิดจากพันธุกรรม ซ่ึงมีแบบแผน
ท่ีแนน่ อนและมลี ักษณะจาเพาะของสิง่ มีชีวติ แต่ละชนดิ
- พฤติกรรมท่ีเกิดจากการเรียนรู้ ประกอบด้วยแฮบบิชูเอชันเป็นพฤติกรรมที่อาศัยการกระตุ้น
ซา้ ๆ จนสัตว์ลดและหยุดตอบสนองต่อส่ิงเร้าท่ีไม่ส่งผลต่อการดารงชวี ิต การฝังใจเป็นพฤติกรรม
ท่ีตอบสนองตอ่ สง่ิ เรา้ ในช่วงแรกของชวี ติ การเชือ่ มโยงแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ การลองผดิ
ลองถูกเปน็ พฤตกิ รรมที่แสดงออกโดยมกี ารลองผดิ ลองถกู จนมีประสบการณ์และการมเี งอ่ื นไขเปน็
พฤติกรรมท่ีสัตว์ตอบสนองต่อสิ่งเรา้ ท่ีมีเง่ือนไขเช่นเดียวกับสง่ิ เร้าไม่มีเงอื่ นไข และการใช้เหตุผล
เปน็ พฤติกรรมที่สตั ว์นาประสบการณ์มาใชแ้ ก้ปญั หา
พฤติกรรมท่ีสัตว์แต่ละชนิดแสดงออกจะแตกต่างกันซ่ึงเป็นผลมาจากวิวัฒนาการของระบบประสาทท่ี
แตกตา่ งกนั
5. สมรรถนะสาคญั ของผูเ้ รยี นและคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน คุณลักษณะอนั พึงประสงค์
1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 1. มวี ินยั
2. ความสามารถในการคิด 2. ใฝเ่ รยี นรู้
1) ทกั ษะการสงั เกต 3. มุ่งมนั่ ในการทางาน
2) ทักษะการสารวจค้นหา
3) ทักษะการจาแนกประเภท
4) ทักษะการเปรยี บเทียบ
5) ทกั ษะการลงความเห็นจากขอ้ มลู
3. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
6. กจิ กรรมการเรยี นรู้
โดยใชก้ ารสอนตามรปู แบบการสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ 5Es
ขัน้ สรา้ งความสนใจ (Engagement) (10 นาท)ี
1. แจ้งผลการเรยี นรู้ของหน่วยการเรยี นรู้ที่ 5 พฤติกรรมของสัตว์ ให้นักเรียนทราบ
2. นักเรียนทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี น หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 5 พฤตกิ รรมของสตั ว์
3. นักเรียนทา Check for Understanding เพื่อตรวจสอบความเขา้ ใจของตนเองก่อนเรียน
4. นาภาพหรือวิดทิ ัศนแ์ สดงพฤตกิ รรมของสัตวม์ าให้นักเรียนดู เช่น
- การวางไขข่ องเตา่
- การชกั ใยของแมงมมุ
- การขดตัวของกง้ิ กอื เม่ือถกู สัมผสั
- การหนผี ลู้ า่ ของเหยื่อ
- การล่าเหย่อื ของผู้ล่า
- การหาอาหารของสตั ว์
5. ถามคาถาม Big Question เพ่ือให้นักเรียนร่วมกันวเิ คราะห์ว่า “พฤตกิ รรมที่สตั ว์แสดงออกมีความสาคัญ
อยา่ งไร”
(แนวตอบ: พฤติกรรมต่าง ๆ ท่ีสัตว์แสดงออกเป็นไปเพ่ือความอยู่รอดและป้องกันการสูญพันธุ์ เช่น
พฤติกรรมการฟักไช่ของสัตว์ปีก ซ่ึงไข่ที่มีตัวอ่อนเจริญอยู่ภายในจาเป็นต้องได้รับอุณหภูมิท่ี
เหมาะสมต่อการพัฒนาของตวั ออ่ นในช่วงท่ีอยูใ่ นไข่ และหลังจากฟักออกมาจะถูกเลยี้ งดูและ
คุ้มกันภัยจากแม่จนกวา่ จะเจริญเติบโตหาอาหารกินไดเ้ องและป้องกนั ตัวเองจากศัตรูได)้
6. ทบทวนความรู้ เรื่อง การตอบสนองต่อสิ่งเร้าของสัตว์ ซึ่งนักเรียนได้ศึกษาในหน่วยการเรียนรู้ที่ 2 เร่ือง
ระบบประสาทและอวัยวะรบั ความร้สู กึ วา่ “เม่อื มีสิ่งเรา้ มากระตุน้ หนว่ ยรบั ความรู้สกึ จะสง่ สัญญาณผ่าน
เซลล์ประสาทรับความรู้สกึ หน่วยแปลความรสู้ ึก เซลล์ประสาทส่ังการ และส่งไปยังหน่วยปฏิบตั ิงานเพ่ือ
ตอบสนองต่อส่งิ เร้าท่ีมากระตุ้น ซ่ึงแสดงออกในรูปของพฤติกรรม” ดงั แผนภาพ
∆ กลไกการตอบสนองของสตั ว์
7. ถามคาถาม Key Question กับนักเรียนว่า “สัตว์ต่าง ๆ มีพฤติกรรมตอบสนองต่อสิ่งเร้าในรูปแบบ
ใดบา้ ง”
(แนวตอบ: สัตว์แต่ละชนิดแสดงพฤติกรรมตอบสนองต่อสิ่งเร้าในรูปแบบที่แตกต่างกัน แบ่งออกเป็น 2
ประเภท ได้แก่ พฤติกรรมท่ีเป็นมาแต่กาเนิดเป็นพฤติกรรมที่แสดงออกโดยไม่จาเป็นต้องมี
ประสบการณ์หรือผ่านการเรียนรู้มาก่อน และพฤตกิ รรมท่ีเกิดจากการเรียนรู้เป็นพฤตกิ รรมที่
ที่แสดงออกโดยอาศัยประสบการณ์และการเรียนรู้ท่ีผ่านมา (นักเรียนอาจยังไม่สามารถตอบ
ได้))
ขัน้ สารวจและค้นหา (Exploration) (90 นาที)
1. นาวดี ทิ ัศนแ์ สดงตวั อยา่ งพฤตกิ รรมทเี่ ปน็ มาแต่กาเนดิ มาเปิดใหน้ กั เรียนดู เช่น การเคลอ่ื นทีข่ องแมลงสาบ
ในที่โล่งแจ้ง การเคล่ือนที่เข้าหาแสงไฟของแมงเม่า การบินของนก การชักใยของแมงมุม แล้วอธิบายให้
นักเรียนฟังว่า พฤติกรรมท่ีสัตว์เหล่าน้ีแสดงออกมาเป็นพฤติกรรมท่ีเป็นมาแต่กาเนิด ซึ่งเป็นพฤติกรรม
รูปแบบง่าย ๆ ถูกควบคุมโดยพันธุกรรม ซ่ึงไม่ต้องผ่านการเรียนรู้หรือมีประสบการณ์มาก่อน
แบ่งออกเปน็ โอเรียนเตชัน รเี ฟลก็ ซ์ และฟกิ แอกชันแพทเทิรน์
2. นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4-5 คน สืบค้นข้อมูลหรือศึกษาพฤติกรรมโอเรียนเตชัน ประกอบด้วยไคนีซิส
เปน็ การตอบสนองต่อสิง่ เรา้ แบบมีทิศทางไม่แนน่ อนและแทกซิสเปน็ การตอบสนองต่อสง่ิ เรา้ แบบมีทศิ ทาง
ที่แน่นอน จากสื่ออิเล็กทรอนิกส์หรือจากหนังสือเรียนรายวิชาเพ่ิมเติมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ชวี วิทยา ม.6 เล่ม 1 หน้า 162-165
3. นักเรียนแต่ละกลมุ่ ทากิจกรรม พฤติกรรมของพารามเี ซียม เพือ่ สงั เกตพฤตกิ รรมการตอบสนองของพารา-
มีเซียมต่อสารละลายโซเดียมคลอไรด์และสารละลายกรดแอซิติกเจือจาง จากหนังสือเรียนรายวิชา
เพิม่ เตมิ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชีววทิ ยา ม.6 เลม่ 1 หน้า 163-164
4. สมุ่ เลือกนักเรียนอย่างน้อย 3 กลมุ่ นาเสนอผลกิจกรรม พฤติกรรมของพารามีเซียม แล้วถามคาถามท้าย
กจิ กรรมกับนกั เรียน ดังนี้
- พารามีเซียมมีพฤติกรรมตอบสนองต่อสารละลายโซเดียมคลอไรด์และสารละลายกรดแอซีติกเจือจาง
อย่างไร
(แนวตอบ: พารามีเซียมจะเคล่ือนที่เข้าหาสารละลายกรดแอซีติกเจือจาง แต่จะเคลื่อนท่ีหนี
สารละลายโซเดยี มคลอไรด์)
- พฤติกรรมการตอบสนองตอ่ ส่งิ เรา้ ของพารามีเซียมมีประโยชน์ตอ่ พารามีเซียมอย่างไร
(แนวตอบ: มีผลต่อการอยู่รอดของพารามีเซียม เน่ืองจากในธรรมชาติบริเวณท่ีมีแบคทีเรียซึ่งเป็น
อาหารของพารามีเซียมเป็นบริเวณที่มีสภาพเป็นกรดอ่อน ๆ ดังนั้น การเคลื่อนที่เข้าหา
บรเิ วณทมี่ สี ภาพเปน็ กรดอ่อน ๆ จงึ มีโอกาสท่ีพารามีเซียมจะพบแบคทเี รยี ได้)
5. นักเรียนและครูร่วมกันอภิปรายผลกิจกรรม พฤติกรรมของพารามีเซียม เพ่ือให้ได้ข้อสรุป ดังนี้ พารา-
มีเซียมเคล่ือนที่เขา้ หาสารละลายกรดแอซีติก แต่จะเคลือ่ นท่ีหนีสารละลายโซเดียมคลอไรด์ เน่ืองจากใน
ธรรมชาติบริเวณท่ีเป็นกรดเจือจางจะพบแบคทีเรียท่ีเป็นอาหารของพารามีเซียมอยู่ พารามีเซียมจึง
เคล่อื นทีเ่ ขา้ หาบรเิ วณทีม่ สี ภาวะเปน็ กรดเจอื จาง แตจ่ ะเคลอื่ นทีอ่ อกห่างจากบริเวณท่มี สี ภาวะเป็นด่าง
6. จัดกิจกรรมกลุ่มเพ่ือขยายความรู้ของนักเรียน โดยทาการทดลองพฤติกรรมการตอบสนองต่อส่ิงเร้า
ตา่ ง ๆ ของพารามีเซียม ดงั นี้
1) ศกึ ษาพฤตกิ รรมตอบสนองของพารามเี ซียมต่อชนิดของประจุไฟฟ้า โดยหยดน้าที่มพี ารามีเซยี มลง
บนสไลด์ แล้วนาขั้วไฟฟ้าท่ีต่อถ่านไฟฉายมาแตะที่หยดน้าที่มีพารามีเซียม แล้วสังเกต
ความหนาแนน่ ของพารามเี ซยี มทีบ่ ริเวณขว้ั ไฟฟ้า
2) ศกึ ษาพฤติกรรมตอบสนองของพารามีเซียมต่ออณุ หภูมิ โดยนาพารามีเซียมใสใ่ นหลอดทดลองท่ีมี
น้าอยู่ ¾ ของหลอดทดลอง แลว้ นาหลอดทดลองไปจุม่ ในบกี เกอรท์ ่ีมนี ้าแข็งอยู่ประมาณ 2-3 นาที
แลว้ สงั เกตความหนาแนน่ ของพารามเี ซียมที่บริเวณส่วนต่าง ๆ ของหลอดทดลอง
7. นักเรียนและครูร่วมกันอภิปรายผลกิจกรรม พฤติกรรมการตอบสนองต่อส่ิงเร้าต่าง ๆ ของพารามีเซียม
เพือ่ ใหไ้ ด้ข้อสรุป ดังน้ี
- พฤติกรรมตอบสนองของพารามีเซียมต่อชนิดของประจุไฟฟ้า โดยพารามีเซียมจะเคล่ือนท่ีจาก
ดา้ นทีม่ ปี ระจบุ วกไปยงั ด้านทีม่ ปี ระจบุ ลบเม่ือเกดิ กระแสไฟฟา้
- พฤติกรรมตอบสนองของพารามีเซียมต่ออุณหภูมิ โดยพารามีเซียมจะเคล่ือนท่ีหนีบริเวณท่ีมี
อุณหภูมิสูงไปยังบริเวณที่มีอุณหภูมิต่า จึงอาจพบพารามีเซียมอยู่หนาแน่นบริเวณด้านล่างหลอด
ทดลอง
8. นักเรียนแต่ละกลุ่มสืบค้นข้อมูลหรือศึกษาพฤติกรรมแบบรีเฟล็กซ์เป็นพฤติกรรมตอบสนองของระบบ
ประสาทที่อยู่ภายนอกอานาจจิตใจ และพฤติกรรมแบบฟิกแอกชันแพทเทิร์นเป็นพฤติกรรมตอบสนองที่
เกิดจากพันธุกรรม ซึ่งมีแบบแผนที่แน่นอนและมีลักษณะจาเพาะของสิ่งมีชีวิตแต่ละชนิด จากส่ือ
อิเล็กทรอนิกส์หรือจากหนังสือเรียนรายวิชาเพ่ิมเติมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีชีววิทยา ม.6 เล่ม 1
หน้า 166
9. ถามคาถามเพอ่ื ตรวจสอบความเขา้ ใจของนักเรียน เชน่
- พฤติกรรมของสัตว์มกี ลไกการเกดิ อยา่ งไร
(แนวตอบ: เมื่อมีสิ่งเร้ามากระตุ้น หน่วยรับความรู้สึกจะส่งสัญญาณผ่านเซลล์ประสาทรับความรู้สึก
หน่วยแปลความรูส้ กึ เซลล์ประสาทสง่ั การ และสง่ ไปยงั หน่วยปฏิบตั งิ านเพือ่ ตอบสนองตอ่
สิง่ เรา้ ท่ีมากระตุน้ ซึ่งแสดงออกในรปู ของพฤติกรรม)
- การตอบสนองแบบแทกซิสแตกตา่ งจากไคนีซิสอยา่ งไร
(แนวตอบ: ไคนีซิสเป็นพฤติกรรมตอบสนองต่อสิ่งเร้าแบบมีทิศทางไม่แน่นอน แต่แทกซิสเป็น
พฤติกรรมตอบสนองตอ่ ส่งิ เรา้ แบบมีทิศทางท่ีแน่นอน)
- พฤตกิ รรมแบบไคนซี สิ และแทกซิสมผี ลดีตอ่ ส่งิ มีชีวิตอยา่ งไร
(แนวตอบ: ส่งผลต่อการอยู่รอดของส่ิงมีชีวิต เน่ืองจากพฤติกรรมท้ัง 2 รูปแบบจะใช้ในการปรับตัว
เพื่อความอนู่รอด โดยการเคลื่อนท่ีเข้าหาบริเวณท่ีเหมาะสมต่อการดารงชีวิต ทั้งด้าน
อาหาร การสืบพนั ธ์ุ แตจ่ ะเคลอ่ื นทีห่ นีจากบรเิ วณที่ไมเ่ หมาะสมต่อการดารงชวี ติ )
- จงยกตวั อยา่ งการแสดงพฤติกรรมแบบรีเฟลก็ ซ์ท่พี บเห็นในชวี ิตประจาวนั ของนกั เรยี น
(แนวตอบ: คาตอบขึน้ อยู่กับดลุ ยพินิจของครผู ู้สอน เช่น การกระพรบิ ตาเม่อื มีผงเขา้ ตา การยกมอื หนี
เมอ่ื สมั ผสั กับของร้อน)
11. อธิบายให้นกั เรยี นฟงั เกี่ยวกับพฤติกรรมที่เกิดจากการเรียนรู้ ซง่ึ เป็นพฤติกรรมท่ีเกิดขึ้นจากวฒุ ิภาวะและ
ประสบการณ์ทีส่ ตั วไ์ ด้รบั แบง่ ออกเปน็ แฮบบิชเู อชัน การฝังใจ การเช่อื มโยง และการใช้เหตุผล
12. นักเรียนแต่ละกลุ่มแบ่งสมาชิกในกลุ่มออกเป็น 4 กลุ่มย่อย ให้นักเรียนกลุ่มย่อยไปร่วมกันสืบค้นข้อมูล
เก่ยี วกบั พฤติกรรมทเี่ กิดจากการเรยี นรู้ และและยกตัวอยา่ งพฤติกรรมทเ่ี กิดจากการเรยี นรปู้ ระเภทตา่ ง ๆ
พฤติกรรมละ 5 ตวั อยา่ ง จากสื่ออิเลก็ ทรอนกิ ส์หรือจากหอ้ งสมดุ ดงั นี้
- กลมุ่ ย่อยท่ี 1 แฮบบิชูเอชัน
- กล่มุ ย่อยท่ี 2 การฝงั ใจ
- กลุม่ ย่อยที่ 3 การเชอ่ื มโยง
- กลุ่มย่อยที่ 4 การใช้เหตุผล
โดยให้นักเรียนกลุ่มย่อยไปศึกษาเรื่องที่ได้รับมอบหมาย จากนั้นกลับมารวมกลุ่มของตนเอง แล้วร่วมกัน
อธิบายและวเิ คราะห์ถึงขอ้ มูลที่ได้ไปศึกษา
13. นักเรียนจับคู่กับเพ่ือนทากิจกรรม การลองผิดลองถูก เพื่อเปรียบเทียบระยะเวลาในการเกิดพฤติกรรม
แบบลองผิดลองถูกของการทดลองครั้งแรกและครั้งต่อ ๆ ไป จากหนังสือเรียนรายวิชาเพิ่มเติม
วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชวี วทิ ยา ม.6 เลม่ 1 หนา้ 170
14. สุ่มเลือกนักเรียนอย่างน้อย 5 คู่ ออกมานาเสนอผลกิจกรรม แล้วถามคาถามท้ายกิจกรรมกับนักเรียน
ดงั น้ี
- วิธีการและเวลาท่ใี ช้ในการทากจิ กรรมในคร้งั แรกและคร้งั หลงั ๆ แตกตา่ งกนั อย่างไร
(แนวตอบ: ในครง้ั แรก ๆ ของการทากจิ กรรม จะใช้เวลามากกวา่ ในครัง้ หลงั ๆ)
- นกั เรียนสามารถสรุปผลของกิจกรรมนไ้ี ดอ้ ยา่ งไร
(แนวตอบ: ในครั้งแรก ๆ ของการทากิจกรรม จะใช้เวลามากกว่าในครั้งหลัง ๆ เน่ืองจากการทา
กิจกรรมในครง้ั หลัง ๆ นักเรียนจะมีประสบการณ์และความเช่ียวชาญเพ่มิ มากขึ้น)
15. นกั เรยี นและครรู ่วมกันอภิปรายผลกิจกรรม การลองผดิ ลองถูก เพ่ือใหไ้ ด้ขอ้ สรุป ดงั น้ี ในช่วงแรกของการ
แสดงพฤติกรรม นักเรียนจะใช้เวลามากในการหาทางออกจากแผนภาพแสดงเส้นทางวกวน แต่เม่ือลอง
ทาซ้าหลาย ๆ คร้ัง นักเรียนใช้เวลาน้อยลงในการหาทางออก เน่ืองจากมีประสบการณ์และความเช่ียว
ชาญเพมิ่ ข้ึน
16. นักเรยี นแต่ละกลมุ่ สืบคน้ ขอ้ มลู และศึกษาเกีย่ วกบั ระบบประสาทของสัตว์กลุ่มต่าง ๆ แล้วนามาวเิ คราะห์
ถึงความสมั พนั ธ์ของระบบประสาทกบั พฤติกรรมของสตั ว์ จากสื่ออิเล็กทรอนิกส์หรอื จากหอ้ งสมดุ
17. นักเรียนแต่ละกลุ่มจับสลากเลือกและส่งตัวแทนออกมานาเสนอผลการสืบค้นข้อมูลและยกตัวอย่าง
พฤติกรรมทเี่ กิดจากการเรียนรปู้ ระเภทตา่ ง ๆ ดังนี้
- หมายเลข 1 แฮบบชิ เู อชัน
- หมายเลข 2 การฝงั ใจ
- หมายเลข 3 การเชื่อมโยง
- หมายเลข 4 การใช้เหตุผล
โดยระหว่างท่ีนกั เรยี นนาเสนอให้นักเรียนในชั้นเรียนร่วมกันเสนอแนะ และครูคอยเพม่ิ เตมิ ประเด็นที่ขาด
หายไป
18. นกั เรียนทาใบงานที่ 5.2 เรื่อง ประเภทของพฤติกรรมของสัตว์
19. นักเรียนจับคู่กับเพื่อนท่ีนั่งข้างกัน ศึกษาสถานการณ์ที่กาหนดให้ในกิจกรรม Apply Your Knowledge
จากหนังสือเรียนรายวิชาเพ่ิมเติมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชีววิทยา ม.6 เล่ม 1 หน้า 182 ร่วมกัน
วิเคราะห์และตอบคาถามในกรอบ Apply Your Knowledge ว่า “นักเรียนคิดว่า ส่ิงมีชีวิต A และ B
แสดงพฤตกิ รรมประเภทใด และเป็นสงิ่ มีชวี ติ กล่มุ ใด
(แนวตอบ: ส่ิงมีชีวิต A แสดงพฤติกรรมโอเรียนเตชันแบบแทกซิส เน่ืองจากเคลื่อนเข้าหาสิ่งเร้า (แสง
สว่าง) แบบมีทิศทางท่ีแน่นอน ซึ่งส่ิงมีชีวิต A จะเป็นส่ิงมีชีวิตกลุ่มส่ิงมีชีวิตเซลล์เดียว ส่วน
สิ่งมีชีวิต B แสดงพฤติกรรมการเชื่อมโยงแบบการลองผิดลองถูก เน่ืองจากในช่วงแรกจะ
เคล่ือนที่ไปทั้ง 2 ด้าน ในจานวนคร้ังที่เท่า ๆ กัน แต่เม่ือเคลื่อนท่ีหลาย ๆ คร้ัง จนมี
ประสบการณ์ก็จะเคล่ือนท่ีไปด้านที่มีความช้ืนและมีสภาพเป็นกรดอ่อน ๆ เป็นส่วนใหญ่ ซ่ึง
สงิ่ มีชีวติ B จะเป็นส่งิ มีชีวติ กลุม่ สตั ว์ไม่มกี ระดูกสันหลังหรอื สตั วม์ ีกระดูกสนั หลงั ช้ันต่า)
20. ส่มุ เลือกนักเรียนอย่างน้อย 3 คู่ ออกมาเฉลยคาตอบในกรอบ Apply Your Knowledge ทหี่ น้าช้ันเรียน
โดยระหว่างที่นกั เรยี นนาเสนอให้นกั เรียนในช้ันเรียนร่วมกันเสนอแนะ และครคู อยเพ่มิ เตมิ ประเด็นที่ขาด
หายไป
21. นักเรียนแต่ละกลุ่มจับสลากเลือกตัวอย่างส่ิงมีชีวิต ร่วมกันอธิบายถึงระบบประสาทของส่ิงมีชีวิตและ
ประเภทของพฤตกิ รรมท่สี ่งิ มีชวี ติ น้ันแสดงออกมา ตัวอยา่ งส่งิ มีชวี ติ เชน่
- พารามเี ซียม - ไฮดรา
- พลานาเรยี - ไสเ้ ดือนดิน
- หอยทาก - ตกั๊ แตน
- ปลา - กบ
- งู - นก
- สนุ ขั - มนุษย์
(ครูสามารถทาสลากตวั อย่างสตั วท์ ่นี อกเหนือจากตัวอยา่ งข้างต้น)
22. ถามคาถามเพอื่ ตรวจสอบความเขา้ ใจของนักเรียน เช่น
- พฤตกิ รรมแบบแฮบบิชูเอชันสง่ ผลต่อการดารงชีวิตของสัตว์อยา่ งไร
(แนวตอบ: พฤติกรรมแบบแฮบบิชูเอชันส่งผลต่อสัตว์ในช่วงทีก่ าลังเจริญเติบโต ซ่ึงเป็นการละเลยต่อ
สิง่ เร้าท่ีมากระตุ้นตลอดเวลา ทาใหป้ ระหยัดพลงั งานที่ใช้ในการตอบสนองตอ่ สิง่ เร้า ซ่งึ จะ
มผี ลต่อพฒั นาการของระบบประสาทของสัตวด์ ว้ ยเชน่ กัน)
- พฤตกิ รรมการฝังใจสง่ ผลต่อโอกาสอย่รู อดและการดารงเผ่าพนั ธุ์ของสัตว์อย่างไร
(แนวตอบ: พฤติกรรมการฝังใจมผี ลต่อการอยูร่ อดและดารงเผ่าพันธ์ขุ องสตั ว์ ซ่งึ ทาใหส้ ตั วม์ โี อกาสอยู่
รอดไดม้ ากขึ้นเพราะไดรับการดแู ลจากพอ่ แม่ และการท่ีเลือกค่ผู สมพันธ์ุกับสตั ว์ในสปีชีส์
เดยี วกันได้จึงทาให้ไม่มกี ารผสมพันธุต์ ่างสปชี ีส์ แต่ละสปีชสี ์จงึ ดารงเผ่าพนั ธุ์อยู่ได้)
- พฤติกรรมการเรยี นรู้แบบการมีเง่ือนไขสามารถนามาประยุกตใ์ ชป้ ระโยชนด์ ้านใดได้บา้ ง
(แนวตอบ: การฝึกสัตวใ์ นละครสตั ว์ การฝึกสุนขั ตารวจ)
- เพราะเหตุใดพฤตกิ รรมการเรียนรู้แบบใชเ้ หตผุ ลจึงพบในสัตวเ์ ลย้ี งลูกดว้ ยน้านมเทา่ น้ัน
(แนวตอบ: เนื่องจากพฤติกรรมการเรียนรู้แบบใช้เหตุผลจะพบในสัตว์ที่มีสมองส่วนหน้าเจริญดี
โดยเฉพาะสมองส่วนเซรีบรัมที่ทาหน้าที่ควบคุมความคิดและสติปัญญา ซ่ึงสัตว์เลี้ยงลูก
ด้วยนา้ นมเป็นกลุม่ สัตวท์ ่ีมีสมองสว่ นน้เี จรญิ ดีที่สดุ )
- นกั เรยี นสรปุ ความสัมพนั ธ์ของระบบประสาทกบั พฤติกรรมของส่ิงมชี ีวติ ไดอ้ ย่างไร
(แนวตอบ: การแสดงพฤติกรรมของส่ิงมีชีวติ ขน้ึ อยู่กับระบบประสาทของสง่ิ มีชีวติ น้นั ๆ ซ่งึ ส่ิงมีชีวติ ท่ี
ระบบประสาทไม่เจริญจะแสดงพฤติกรรมท่ีเป็นมาแต่กาเนิดซ่งึ มีแบบแผนของพฤติกรรม
ทีแ่ น่นอน แต่สัตวท์ ี่มีระบบประสาทเจริญขึ้นมาจะแสดงพฤติกรรมที่เป็นมาแต่กาเนิดหรือ
พฤติกรรมท่ีเกิดจากการเรียนรู้ในรูปแบบง่าย ๆ แต่สาหรับสัตว์ท่ีมีระบบประสาทเจริญ
มาก โดยเฉพาะสมองสว่ นหน้า จะแสดงพฤติกรรมการเรียนรูใ้ นรูปแบบท่ซี ับซ้อนขน้ึ )
23. นักเรียนทา Topic Question ท้ายหัวข้อ ประเภทของพฤติกรรม และเรื่อง ความสัมพันธ์ระหว่าง
พฤติกรรมกับพัฒนาการของระบบประสาท จากหนังสือเรียน รายวิชาเพ่ิมเติมวิทยาศาสตร์และ
เทคโนโลยี ชีววทิ ยา ม.6 เลม่ 1 หนา้ 172 และ 174 โดยบนั ทึกลงสมดุ บนั ทึกของนักเรยี น
24. นักเรียนทาแบบฝึกหัด เร่ือง ประเภทของพฤติกรรม และเรื่อง ความสัมพันธ์ระหว่างพฤติกรรมกับ
พัฒนาการของระบบประสาท ในแบบฝึกหัดรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชีววิทยา ม.6
เล่ม 1 (อาจสงั่ ให้นักเรยี นทาเปน็ การบ้าน)
ขนั้ อธบิ ายและลงขอ้ สรปุ (Explanation) (20 นาท)ี
1. นักเรียนและครูรว่ มกันสรุปเก่ียวกบั พฤติกรรมของสัตว์ เพ่ือให้ได้ขอ้ สรุป ดังนี้ พฤติกรรมเปน็ ผลจากการ
ทางานรว่ มกันของพันธกุ รรมและสง่ิ แวดล้อม แบง่ ออกเปน็ 2 ประเภท ดงั น้ี
- พฤติกรรมที่เป็นมาแต่กาเนดิ แบง่ ออกเป็นหลายชนิด ได้แก่ โอเรยี นเตชันเป็นพฤติกรรมตอบสนอง
ต่อปัจจัยทางกายภาพทาให้เกิดการวางตัวท่ีเหมาะสมต่อการดารงชีวิต แบ่งออกเป็น 2 ประเภท
ได้แก่ ไคนีซิสเปน็ การตอบสนองต่อสิง่ เร้าแบบมีทิศทางไมแ่ น่นอนและแทกซสิ เป็นการตอบสนองต่อ
สิ่งเร้าแบบมีทิศทางท่ีแน่นอน รีเฟล็กซ์เป็นพฤติกรรมตอบสนองของระบบประสาทที่อยู่ภายนอก
อานาจจิตใจ และฟิกแอกชันแพทเทิรน์ เป็นพฤติกรรมตอบสนองท่ีเกิดจากพันธุกรรม ซ่ึงมีแบบแผน
ทแ่ี น่นอนและมลี ักษณะจาเพาะของสิง่ มชี ีวติ แตล่ ะชนดิ
- พฤติกรรมที่เกิดจากการเรียนรู้ ประกอบด้วยแฮบบิชูเอชันเป็นพฤติกรรมท่ีอาศัยการกระตุ้น
ซ้า ๆ จนสัตวล์ ดและหยุดตอบสนองต่อส่ิงเร้าท่ีไม่ส่งผลต่อการดารงชวี ิต การฝังใจเป็นพฤติกรรม
ทตี่ อบสนองต่อส่ิงเร้าในชว่ งแรกของชวี ติ การเช่ือมโยงแบง่ ออกเปน็ 2 ประเภท ได้แก่ การลองผดิ
ลองถูกเป็นพฤตกิ รรมทีแ่ สดงออกโดยมีการลองผดิ ลองถกู จนมปี ระสบการณ์และการมเี งอ่ื นไขเปน็
พฤติกรรมท่ีสัตว์ตอบสนองต่อสิ่งเร้าที่มีเงื่อนไขเช่นเดียวกับส่ิงเร้าไม่มีเงือ่ นไข และการใช้เหตุผล
เปน็ พฤติกรรมที่สตั ว์นาประสบการณม์ าใช้แก้ปัญหา
พฤติกรรมที่สัตว์แต่ละชนิดแสดงออกจะแตกต่างกันซงึ่ เป็นผลมาจากวิวฒั นาการของระบบประสาทท่ีแตกต่าง
กนั ของสัตว์
ข้นั ขยายความรู้ (Elaboration) (30 นาที)
นกั เรียนสรปุ ผังมโนทศั น์ เรอ่ื ง ประเภทของพฤติกรรมของสัตว์ พรอ้ มยกตวั อยา่ งพฤตกิ รรมของสตั ว์
ประกอบ
ข้นั ประเมิน (Evaluation)
1. ประเมินความรู้เกี่ยวกับ เรื่อง ประเภทของพฤติกรรม โดยสังเกตพฤติกรรมการตอบคาถาม ตรวจ
แบบทดสอบก่อนเรียน ตรวจแบบฝึกหัด ตรวจผงั มโนทศั น์ และตรวจรายงาน
2. ประเมินทักษะและกระบวนการ โดยสังเกตพฤติกรรมการทากิจกรรมกลุ่ม การใช้เครื่องมือและอุปกรณ์
ทางวทิ ยาศาสตร์ และการนาเสนอผลงาน
3. ประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ โดยสังเกตพฤติกรรมความสนใจใฝ่รู้ในการศึกษาและความมุ่งมั่นใน
การทางาน
7. การวดั และการประเมนิ ผล
รายการวัด วิธวี ดั เครือ่ งมอื เกณฑก์ ารประเมนิ
7.1 การประเมินกอ่ นเรียน
- แบบทดสอบกอ่ น - ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบ - ประเมนิ ตาม
เรียน หนว่ ยการ กอ่ นเรยี น กอ่ นเรยี น สภาพจรงิ
เรียนรู้ที่ 5
7.2 การประเมนิ ระหว่าง
การจดั กิจกรรม
1) ประเภทของ - ตรวจใบงานท่ี 5.2 - ใบงานท่ี 5.2 - ร้อยละ 60
พฤติกรรม ผ่านเกณฑ์
- รอ้ ยละ 60
- ตรวจ Topic Questions - Topic Questions
ผ่านเกณฑ์
- ตรวจแบบฝกึ หัด - แบบฝกึ หดั - รอ้ ยละ 60
ผ่านเกณฑ์
- ตรวจรายงาน เร่อื ง - แบบประเมนิ - ระดบั คุณภาพดี
พฤติกรรมของสัตว์ รายงาน ผ่านเกณฑ์
- ตรวจผังมโนทศั น์ เรื่อง - แบบประเมิน - ระดับคุณภาพดี
พฤตกิ รรมของสัตว์ ผงั มโนทัศน์ ผ่านเกณฑ์
2) การปฏบิ ตั กิ าร - ประเมินการปฏบิ ตั ิการ - แบบประเมนิ - ระดับคณุ ภาพดี
การปฏิบตั กิ าร ผา่ นเกณฑ์
3) การนาเสนอ - ประเมินการนาเสนอ - ผลงานทนี่ าเสนอ - ระดับคุณภาพดี
ผลงาน ผลงาน ผา่ นเกณฑ์
4) พฤตกิ รรม - สงั เกตพฤตกิ รรม - แบบสังเกตพฤติกรรม - ระดับคุณภาพดี
การทางาน การทางานรายบคุ คล การทางานรายบคุ คล ผ่านเกณฑ์
รายบคุ คล
5) พฤติกรรม - สังเกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤติกรรม - ระดับคุณภาพดี
การทางานกลมุ่ การทางานกลมุ่ การทางานกลุ่ม ผา่ นเกณฑ์
6) คณุ ลกั ษณะ - สังเกตความมีวินยั - แบบประเมนิ - ระดบั คณุ ภาพดี
อนั พงึ ประสงค์ ใฝเ่ รยี นรู้ และมงุ่ มั่น คุณลกั ษณะ ผา่ นเกณฑ์
ในการทางาน อันพงึ ประสงค์
8. สือ่ /แหล่งการเรียนรู้
8.1 สือ่ การเรยี นรู้
1) หนงั สือเรยี นรายวชิ าเพิ่มเตมิ วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชีววทิ ยา ม.6 เล่ม 1 หนว่ ยการเรียนรู้
ที่ 5 พฤตกิ รรมของสตั ว์
2) แบบฝึกหัดรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชีววิทยา ม.6 เล่ม 1 หน่วยการเรียนรู้
ที่ 5 พฤตกิ รรมของสตั ว์
3) แบบทดสอบก่อนเรียน หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 5 พฤติกรรมของสตั ว์
4) ใบงานที่ 5.2 เรอื่ ง ประเภทของพฤติกรรมสัตว์
5) PowerPoint เรอ่ื ง พฤตกิ รรมของสตั ว์
6) QR Code เรอื่ ง พฤติกรรมการเชื่อมโยงแบบการมีเงือ่ นไข
7) วดิ ที ัศน์ เรอื่ ง พฤติกรรมทีเ่ ปน็ มาแตก่ าเนิด
8) บตั รภาพพฤติกรรมของสัตว์
8.2 แหลง่ การเรยี นรู้
1) ห้องเรียน
2) ห้องสมดุ
3) หอ้ งปฏบิ ัติการ
4) สอ่ื อิเล็กทรอนกิ ส์
ใบงานที่ 5.2
เรอื่ ง ประเภทของพฤตกิ รรม
คาชี้แจง : จงระบปุ ระเภทและลักษณะของพฤติกรรมของสัตว์ตอ่ ไปน้ี
ประเภทของพฤตกิ รรม ....................................... ประเภทของพฤตกิ รรม .......................................
ลกั ษณะของพฤตกิ รรม ....................................... ลักษณะของพฤตกิ รรม .......................................
.............................................................................. ..............................................................................
.............................................................................. ..............................................................................
.............................................................................. ..............................................................................
ประเภทของพฤตกิ รรม ....................................... ประเภทของพฤติกรรม .......................................
ลักษณะของพฤติกรรม ....................................... ลกั ษณะของพฤติกรรม .......................................
.............................................................................. ..............................................................................
.............................................................................. ..............................................................................
.............................................................................. ..............................................................................
ประเภทของพฤตกิ รรม ....................................... ประเภทของพฤติกรรม .......................................
ลักษณะของพฤติกรรม ....................................... ลกั ษณะของพฤติกรรม .......................................
.............................................................................. ..............................................................................
.............................................................................. ..............................................................................
.............................................................................. ..............................................................................
ประเภทของพฤตกิ รรม ....................................... ประเภทของพฤติกรรม .......................................
ลกั ษณะของพฤตกิ รรม ....................................... ลักษณะของพฤติกรรม .......................................
.............................................................................. ..............................................................................
.............................................................................. ..............................................................................
.............................................................................. ..............................................................................
ใบงานท่ี 5.2 เฉลย
เรื่อง ประเภทของพฤติกรรม
คาชี้แจง : จงระบปุ ระเภทและลักษณะของพฤติกรรมของสัตวต์ อ่ ไปนี้
ประเภทของพฤตกิ รรม ..ก..า..ร..ฝ...ัง.ใ..จ......................... ประเภทของพฤตกิ รรม ..แ...ฮ..บ...บ..ิช...ูเ.อ..ช..ัน...................
ลักษณะของพฤติกรรม ..ป...ล..า...แ..ซ...ม...อ..น...จ...ะ...ฝ..ัง..ใ..จ.... ลักษณะของพฤตกิ รรม ..น...ก..ก...า..จ..ะ..ก...ล..ัว...ห..ุ่น...ไ..ล..่ก...า...
.ก..ับ...ก..ล...่ิน..ท...ี่ไ..ด..้ร..ับ...ต..อ...น..แ...ร..ก..เ..ก..ิด..แ...ล..ะ...จ..ะ..ว..่า..ย...ท...ว..น..น...้า.... .ใ..น..ช...่ว..ง..แ..ร..ก..เ..ท..่า..น...น้ั ....แ..ต...่เ.ม..ื่อ...เ.ร..ีย..น...ร..ู้ว..า่ ..ห...ุ่น..ไ..ล..่ก...า..ไ.ม...่ม..ี ..
.เ.พ...ือ่ ..ก...ล..บั...ไ.ป...ว..า..ง..ไ.ข..ท่...สี่..ถ...า..น..ท...่เี.ก...ิด............................... .ผ...ล..ต..่อ...ก..า..ร..ด...า..ร..ง..ช..ีว..ิต...ก..็จ..ะ...ไ.ม...่แ..ส...ด..ง..อ..า..ก...า..ร..ก..ล...ัว..ห..ุ่.น....
.ไ..ล..ก่..า..อ...กี ..................................................................
..............................................................................
ประเภทของพฤตกิ รรม ฟ...ิก..แ...อ..ก..ช...นั ..แ...พ...ท..เ.ท...ริ..์น........ ประเภทของพฤตกิ รรม .ก..า..ร..ม...ีเ.ง..ื่อ..น...ไ.ข....................
ลักษณะของพฤติกรรม .ห...่า..น...จ..ะ...ใ.ช...้จ..ะ...ง..อ..ย...ป...า..ก.... ลกั ษณะของพฤติกรรม .โ.ล...ม..า...จ..ะ..ต...อ...บ..ส...น...อ..ง..ต...่อ....
.ล..า่ ..ง..แ..ต..ะ...ก..ับ...ไ.ข..่แ...ล..ะ..ก...า..ร..ย..ดื..ค...อ..เ.พ...อ่ื...พ..ย...า..ย..า..ม..ก...ล..้ิง..ไ.ข...่ .. .ส...่งิ .เ..ร..้า..ไ.ม...่แ..ท...จ้ ..ร..ิง...(.เ.ช...่น....อ..ุป...ก..ร..ณ....์ข..อ..ง..ค...ร..ฝู ..ึก..)...แ..ม...จ้ ..ะ....
.เ.ข..้า..ส...ู่ร..ัง...ซ...ึ่ง..จ..ะ..แ...ส..ด...ง..พ...ฤ..ต..ิ.ก..ร..ร..ม...เ.ช..่.น..น...้ีจ..น...ก...ว..่า..จ..ะ..... .ไ..ม..่ม...สี ..งิ่..เ.ร..า้..แ..ท...้จ..ร..ิง...(.เ..ช..่น....อ..า..ห...า..ร..)...อ..ย..ู่ก...ต็ ..า..ม...............
.น..า..ไ..ข..่ก..ล...บั ..เ.ข...้า..ส..ู่ร..ัง..ไ.ด...้ ..............................................
..............................................................................
เฉลย
ประเภทของพฤตกิ รรม ...ก..า..ร..ใ.ช...เ้ .ห...ต..ผุ..ล.................. ประเภทของพฤตกิ รรม ..แ..ท...ก..ซ..สิ............................
ลักษณะของพฤตกิ รรม ..ล...ิง..จ...ะ...ใ..ช..้ก...ิ่ง..ไ..ม...้แ...ห...ย..่.ร..ู . ลักษณะของพฤติกรรม ...ผ..ีเ..ส..้ือ...ก..ล...า..ง..ค..ื.น..จ...ะ..บ...ิน.....
.ข...อ...ง..แ..ม...ล..ง....(.เ..ช..่น....ป...ล...ว..ก...)..เ..พ...ื่อ..ใ..ห...้แ...ม..ล...ง..เ.ก...า..ะ..ไ..ม..้.. เ..ข..้า..ห...า..แ..ส..ง..ส...ว..่า..ง.อ...ย..า่..ง..ม..ที...ศิ..ท...า..ง..ท...่ีแ..น..น่...อ...น.................
.อ...อ..ก...ม..า...แ...ล..ว้ ..จ..ึง..จ..ับ...แ..ม...ล..ง..ก..นิ...เ.ป...น็ ...อ..า..ห...า.ร...................
..............................................................................
..............................................................................
..............................................................................
ประเภทของพฤติกรรม ..ฟ...กิ..แ...อ..ก...ช..นั ..แ...พ...ท..เ.ท...ริ..์น...... ประเภทของพฤติกรรม ..แ..ฮ..บ...บ...ิช..ูเ.อ..ช...นั ...................
...ล...กั ..ษ...ณ....ะ..ข..อ...ง..พ...ฤ..ต...กิ .รรม ..น...ก...จ..ะ...บ...ิน...อ...อ...ก...ไ.ป...ห....า... ลักษณะของพฤตกิ รรม ...ล..ูก...ห..ม...ูอ...า..จ..จ..ะ...ก..ล...ัว..แ..ม...่ ..
.ว..ัส...ด..ุม...า..ส..ร..้า..ง..ร..ัง...เ.ม...่ือ..พ...บ...แ..ล..้ว...จ..ะ..ต...ร..ว..จ..ส..อ...บ..ว...่า..เ.ป..็.น.... .เ.ส..ือ...ใ..น..ช...่ว..ง..แ..ร..ก....แ...ต..่จ...า..ก..น...้ัน...จ..ะ...ไ.ม...่ก..ล...ัว..เ.น...ื่อ...ง..จ..า..ก.....
.ว..สั...ด..ุท...ี่เ.ห...ม..า..ะ...ส..ม..ห...ร..ือ...ไ.ม...่ .แ..ล...้ว..น..า..ม...า..ป...ร..ะ..ก..อ...บ...เ.ป..็.น.... แ...ม..เ่..ส..อื..ใ..ห..น้...ม...ล..กู..ห...ม..กู...นิ .............................................
.ร..งั...ซ...ึ่ง.จ...ะ..ท...า..พ..ฤ...ต..กิ..ร..ร..ม...เ.ช..่น...น...จี้ ..น...ส..ร..า้..ง..ร..งั .เ..ส..ร..จ็...........
..............................................................................
พฤตกิ รรมของสัตว์
พฤตกิ รรมของสัตว์
9. ความเห็นของผ้บู รหิ ารสถานศกึ ษาหรอื ผ้ทู ไี่ ดร้ ับมอบหมาย
ขอ้ เสนอแนะ
ลงชื่อ .................................
( ................................ )
ตาแหนง่ .......
10. บนั ทกึ ผลหลงั การสอน
ดา้ นความรู้
ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น
ด้านคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
ด้านความสามารถทางวิทยาศาสตร์
ดา้ นอ่ืน ๆ (พฤตกิ รรมเดน่ หรือพฤตกิ รรมทีม่ ปี ญั หาของนกั เรยี นเป็นรายบคุ คล (ถา้ มี))
ปญั หา/อุปสรรค
แนวทางการแก้ไข
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 3 ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2565
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตรเ์ พม่ิ เติม หน่วยที่ 5 พฤติกรรมของสัตว์
สาระ ชีววิทยา (ว33256) ระดับชั้น มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 6
เร่อื ง การสื่อสารระหว่างสตั ว์
เวลา 2 ชว่ั โมง ผูส้ อน นางสาวธิดารัตน์ โพนกลาง
1. ผลการเรยี นรู้
1. สืบคน้ ขอ้ มูล อธิบาย และยกตัวอยา่ งการส่อื สารระหว่างสตั วท์ ่ที าใหส้ ตั วแ์ สดงพฤติกรรม
2. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
1. อธิบายและยกตัวอยา่ งการสื่อสารประเภทต่าง ๆ ของสตั ว์ (K)
2. ปฏิบตั ิงานตามหน้าทีท่ ไ่ี ด้รับมอบหมายได้ครบถ้วน (P)
3. สนใจใฝร่ ู้ในการศกึ ษาและมุง่ ม่ันในการทางาน (A)
3. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรทู้ อ้ งถนิ่
พิจารณาตามหลักสูตรของสถานศึกษา
สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
- การส่ือสารเป็นพฤติกรรมทางสังคมแบบหน่ึง
ซ่ึงมีหลายวิธี เช่น การสื่อสารด้วยท่าทาง
การสื่อสารด้วยเสียง การส่ือสารด้วยสารเคมี
และการส่ือสารดว้ ยการสัมผัส
4. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
การสื่อสารของสัตว์เป็นพฤติกรรมท่ีสัตว์ตัวหน่ึงแสดงแล้วมีผลต่อพฤติกรรมของสัตว์ตัวอ่ืนที่มีสปีชีส์
เดียวกันหรอื ต่างสปชี สี ์กัน แบง่ ออกเป็นหลายประเภท ได้แก่
- การสื่อสารด้วยเสียง เป็นการเปล่งเสียงของสัตว์เพื่อตอบสนองต่อสิ่งเร้า ทั้งด้านการสืบพันธ์ุ
การรวมกลุ่ม และการเตอื นภยั
- การส่ือสารด้วยท่าทาง เป็นการแสดงท่าทางของสัตว์เพื่อการป้องกันตัว การสืบพันธ์ุ และการ
หาอาหาร
- การสื่อสารด้วยสารเคมี เป็นการส่ือสารด้วยฟีโรโมน ซ่ึงสัตว์สร้างข้ึนและหลั่งออกมาภายนอก
รา่ งกาย เพอ่ื การป้องกันตวั การปลกุ ระดม การสบื พนั ธุ์ และการตามรอย
- การสื่อสารด้วยการสัมผัส เป็นการสื่อสารโดยใช้อวัยวะสัมผัสกับสัตว์ชนิดเดียวกัน เพื่อแสดง
อาการต่าง ๆ เชน่ ความรัก ความน้อบนอ้ ม ความเคารพ
5. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี นและคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์
1. ความสามารถในการส่อื สาร 1. มวี นิ ัย
2. ความสามารถในการคิด 2. ใฝ่เรยี นรู้
1) ทักษะการสังเกต 3. มงุ่ ม่นั ในการทางาน
2) ทักษะการสารวจค้นหา
3) ทักษะการจาแนกประเภท
4) ทักษะการลงความเหน็ จากขอ้ มูล
3. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
6. กิจกรรมการเรียนรู้
โดยใชก้ ารสอนตามรูปแบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es
ขน้ั สรา้ งความสนใจ (Engagement) (15 นาที)
การใชค้ วามรู้เดมิ เชอื่ มโยงความรู้ใหม่ (Prior Knowledge)
1. ทบทวนความรู้ เรอื่ ง ฟีโรโมน ท่นี ักเรียนไดศ้ กึ ษาในหน่วยการเรียนรู้ที่ 3 ระบบต่อมไรท้ อ่ วา่ ฟีโรโมนเปน็
สารสารเคมที ่ีผลิตจากต่อมมีท่อของสตั ว์ ซึ่งสารเคมดี ังกลา่ วจะไม่มีผลต่อรา่ งกายของสัตวเ์ อง แต่จะมีผล
ตอ่ สัตว์ตัวอ่ืน ๆ ที่อยู่ในสปีชีส์เดียวกัน ซ่ึงฟีโรโมนท่ีสัตว์ปล่อยออกมาให้กับสัตว์ตัวอ่ืนได้รับรู้จัดเป็นการ
สอ่ื สารระหว่างสตั ว์รปู แบบหนึ่ง
2. นาบตั รภาพหรอื วดี ิทัศนแ์ สดงการสอ่ื สารของสตั วม์ าใชป้ ระกอบการสอน เช่น
- การเก้ียวพาราสขี องงูหรอื นกยงู
- เสยี งรอ้ งของกบเพศผู้ในฤดผู สมพันธ์ุ
- การจิกจะงอยปากของลูกนกนางนวลเพ่อื ของอาหารจากแมน่ ก
- การปัสสาวะของสนุ ขั ในบรเิ วณเดิมซ้า ๆ
- การคารามของสิงโต
- การหาเหาของแม่ลงิ ให้กับลูกลงิ
ใหน้ ักเรยี นร่วมกนั อภปิ รายเพือ่ นามาสู่ข้อสรุปวา่ การอยรู่ วมกนั เป็นหมู่หรือกลุ่มของสัตว์ สัตว์จาเปน็ ต้อง
แสดงพฤติกรรมเพื่อใช้สอ่ื สารกันเพื่อทาใหเ้ กิดการสบื พันธุ์ การป้องกนั ตวั หรือการหาอาหาร
3. ถามคาถาม Key Question กบั นักเรยี นว่า “การสือ่ สารมีผลต่อพฤตกิ รรมของสตั วอ์ ยา่ งไร”
(แนวตอบ: การส่ือสารเป็นพฤติกรรมทางสังคมของสัตว์ เมื่อสัตวต์ ัวหนึ่งส่งสัญาณออกไปจะทาให้สัตว์ท่ี
ได้รบั สญั ญาณมีพฤตกิ รรมที่เปล่ียนแปลงไป (นักเรยี นอาจยงั ไม่สามารถตอบคาถามได้))
ขน้ั สารวจและคน้ หา (Exploration) (50 นาที)
1. นกั เรยี นแบง่ กลุ่มออกเป็น 8 กลุ่ม สบื คน้ ขอ้ มูล เร่อื ง การสอ่ื สารระหว่างสัตว์ ดงั น้ี
- กลุม่ ที่ 1-2 การสอ่ื สารดว้ ยเสยี ง
- กลุม่ ท่ี 3-4 การสือ่ สารดว้ ยทา่ ทาง
- กลุม่ ที่ 5-6 การส่ือสารด้วยสารเคมี
- กล่มุ ที่ 7-8 การสือ่ สารดว้ ยการสัมผสั
นาขอ้ มูลท่ีสบื คน้ มาจัดทารายงานและปา้ ยนิเทศเพอ่ื นาเสนอหน้าช้นั เรียน
2. นักเรียนแตล่ ะกล่มุ นาเสนอปา้ ยนเิ ทศ เร่อื ง การสื่อสารระหวา่ งสตั ว์ ทหี่ น้าชัน้ เรยี น โดยระหว่างท่นี ักเรียน
นาเสนอให้นักเรยี นกลุม่ อ่ืน ๆ ร่วมกันเสนอแนะ และครูคอยเพิม่ เติมประเด็นท่ีขาดหายไป
3. ถามคาถามเพอื่ ตรวจสอบความเขา้ ใจของนกั เรยี น ดงั นี้
- การสื่อสารดว้ ยเสียงมีประโยชนต์ อ่ การดารงชวี ิตของสตั วอ์ ยา่ งไร
(แนวตอบ: การสอื่ สารด้วยเสียงของสัตว์ถกู ใช้ในวตั ถุประสงคท์ ่ีแตกต่างกัน เชน่ ใช้เตือนภยั เพ่ือหลบ
หลีกหรือป้องกันตัวจากศัตรู ใช้เรียกคู่ผสมพันธ์ุเพ่ือการสืบพันธ์ุ ใช้บอกอาณาเขตเพื่อ
แสดงความเปน็ เจา้ ของพ้ืนท่ีซ่งึ เปน็ แหล่งที่อย่อู าศยั หรือแหลง่ อาหาร)
- เพราะเหตุใดเราจงึ มกั เห็นมดเดินตอ่ กนั เป็นแถว
(แนวตอบ: มดที่อยู่ด้านหน้าจะปล่อยเคมีจากต่อมดูเฟอร์ไปตามทางเดิน ซึ่งสารเคมีชนิดน้ีทาหน้าท่ี
เป็นฟีโรโมนจึง ซ่ึงมดตัวหลังท่ีเดินตามมาจะใช้หนวดรับนัมผัสสารเคมีดังกล่าวและเดิน
ตามมดตัวหนา้ จึงทาให้เห็นมดเดนิ ตอ่ กนั เปน็ แถว)
- การกระตนุ้ ใหเ้ กดิ พฤตกิ รรมของฟโี รโมนมลี กั ษณะเหมือนแตกต่างจากของฮอร์โมนหรอื ไม่ อย่างไร
(แนวตอบ: ไม่แตกต่างกนั เน่ืองจากท้ังฟีโรโมนและฮอร์โมนจัดเป็นสารเคมีซึ่งเป็นสิ่งเรา้ ให้สัตว์แสดง
พฤติกรรมออกมา แต่ต่างกันที่ฟีโรโมนเป็นส่ิงเร้าภายนอกท่ีมีผลต่อสัตว์ตัวที่ได้รับ ส่วน
ฮอร์โมนเป็นส่ิงเร้าภายในทีผ่ ลติ จากต่อไน้ท่อและจะมผี ลตอ่ ตัวสัตว์เอง)
- การสอื่ สารดว้ ยการสัมผสั มคี วามสาคญั ตอ่ การดารงชวี ติ ของสตั ว์อย่างไร
(แนวตอบ: การส่ือสารด้วยการสัมผัสทาให้สัตว์มีความรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย ซึ่งเมื่อสัตว์ได้รับ
การโอบกอดหรอื การเลี้ยงดจู ากแมจ่ ะทาให้เม่ือโตข้นึ ไม่เปน็ สตั ว์ท่ีตกใจง่าย กลัวง่าย ซึ่งมี
ผลตอ่ พฒั นาการและการทางานของร่างกาย)
- การหาอาหารของผงึ้ ใชก้ ารสอ่ื สารประเภทใด อย่างไร
(แนวตอบ: ใช้การส่ือสารด้วยท่าทางและการส่ือสารด้วยสารเคมี โดยการสื่อสารด้วยท่าทางเป็นการ
เต้นราของผ่ึงเพอ่ื บอกระยะทางและปริมาณของแหล่งอาหาร ส่วนการสอื่ สารดว้ ยสารเคมี
เปน็ การใช้สารเจรานิออลทส่ี ะสมจากดอกไมใ้ นการตามรอย)
4. นกั เรยี นทาใบงานที่ 5.3 เรอื่ ง การสือ่ สารระหวา่ งสตั ว์
5. นักเรียนทา Topic Questions ท้ายหัวข้อ การสื่อสารระหว่างสัตว์ จากหนังสือเรียนรายวิชาเพิ่มเติม
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชีววิทยา ม.6 เลม่ 1 หนา้ 179 โดยบนั ทึกลงในสมุดบันทึกของนกั เรียน
6. นักเรียนทาแบบฝึกหัด เรื่อง การส่ือสารระหว่างสัตว์ ในแบบฝึกหัดรายวิชาเพ่ิมเติมวิทยาศาสตร์และ
เทคโนโลยี ชีววิทยา ม.6 เล่ม 1 (อาจสั่งให้นักเรียนทาเป็นการบา้ น)
7. นักเรียนทา Self-Check หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 จากหนังสือเรียนรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตร์และ
เทคโนโลยี ชีววทิ ยา ม.6 เล่ม 1 หนา้ 182
7. นักเรียนทา Unit Questions ท้ายหน่วยการเรียนรู้ที่ 5 พฤติกรรมของสัตว์ จากหนังสือเรียนรายวิชา
เพ่ิมเติมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชีววิทยา ม.6 เล่ม 1 หน้า 183 โดยบันทึกลงในสมุดบันทึกของ
นกั เรยี น (อาจสง่ั ให้นกั เรียนทาเปน็ การบ้าน)
8. นักเรียนทา Test for U ท้ายหน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 พฤติกรรมของสัตว์ จากหนังสือเรียนรายวิชาเพ่ิมเติม
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชีววิทยา ม.6 เล่ม 1 หน้า 184 โดยบันทึกลงในสมุดบันทึกของนักเรียน
(อาจสัง่ ให้นกั เรียนทาเป็นการบ้าน)
9. นักเรยี นทาแบบทดสอบหลังเรียน ท้ายหน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 5 พฤตกิ รรมของสัตว์
10. นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4-5 คน ทากิจกรรม Fun Science Activity เรื่อง พฤติกรรมการสืบพันธ์ุของ
ปลากัด เพ่ืออธิบายพฤติกรรมการสืบพันธุแ์ ละการสอ่ื สารท่ีเกิดข้ึนระหวา่ งการสืบพันธ์ุ จากหนังสือเรียน
รายวิชาเพ่ิมเติมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชีววิทยา ม.6 เล่ม 1 หน้า 185 โดยครูอาจสั่งให้นักเรียน
สืบคน้ ข้อมลู และเร่ิมทากจิ กรรมต้งั แตช่ ่วั โมงแรกของการเรียน หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 5 พฤตกิ รรมของสัตว์
ข้นั อธบิ ายและลงขอ้ สรปุ (Explanation) (30 นาที)
1. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปเกี่ยวกับการสื่อสารระหว่างสัตว์ เพื่อให้ได้ข้อสรุป ดังนี้ การส่ือสารของสัตว์
เป็นพฤติกรรมท่ีสัตว์ตัวหน่ึงแสดงแล้วมีผลต่อพฤติกรรมของสัตว์ตัวอ่ืนท่ีมีสปีชีส์ เดียวกันหรือต่างสปีชีส์
กัน แบ่งออกเปน็ หลายประเภท ดังนี้
- การสื่อสารด้วยเสียง เป็นการเปล่งเสียงของสัตว์เพ่ือตอบสนองต่อส่ิงเร้า ทั้งด้านการสืบพันธุ์
การรวมกล่มุ และการเตือนภยั
- การส่ือสารด้วยท่าทาง เป็นการแสดงท่าทางของสัตว์เพ่ือการป้องกันตัว การสืบพันธุ์ และการ
หาอาหาร
- การส่ือสารด้วยสารเคมี เป็นการสื่อสารด้วยฟีโรโมน ซ่ึงสัตว์สร้างขึ้นและหลั่งออกมาภายนอก
รา่ งกาย เพอ่ื การป้องกนั ตวั การปลกุ ระดม การสบื พันธุ์ และการตามรอย
- การสื่อสารด้วยการสัมผัส เป็นการสื่อสารโดยใช้อวัยวะสัมผัสกับสัตว์ชนิดเดียวกัน เพ่ือแสดง
อาการต่าง ๆ เช่น ความรัก ความนอ้ บนอ้ ม ความเคารพ
ขน้ั ขยายความรู้ (Elaboration) (20 นาท)ี
นกั เรยี นสรปุ ผังมโนทัศน์ เร่ือง การสื่อสารระหว่างสตั ว์ พรอ้ มยกตัวอย่างการส่ือสารของสัตว์
ประกอบ ลงในกระดาษ A4
ขั้นประเมนิ (Evaluation)
1. ประเมินความรู้เกี่ยวกับ เรื่อง การส่ือสารระหว่างสัตว์ โดยสังเกตพฤติกรรมการตอบคาถาม ตรวจ
แบบทดสอบหลงั เรยี น ตรวจแบบฝกึ หดั ตรวจผงั มโนทศั น์ และตรวจรายงาน
2. ประเมินทกั ษะและกระบวนการ โดยสังเกตพฤติกรรมการทางานกลุม่ และการนาเสนอ
3. ประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ โดยสังเกตพฤติกรรมความสนใจใฝ่รู้ในการศึกษาและความมุ่งม่ันใน
การทางาน
7. การวัดและการประเมินผล
รายการวัด วิธวี ดั เครือ่ งมือ เกณฑ์การประเมิน
7.1 การประเมนิ ระหว่าง
การจัดกิจกรรม
1) การเคลื่อนทข่ี อง - ตรวจใบงานที่ 5.3 - ใบงานท่ี 5.3 - รอ้ ยละ 60
มนุษย์ ผา่ นเกณฑ์
- ตรวจ Topic Questions - Topic Questions - รอ้ ยละ 60
ผา่ นเกณฑ์
- ตรวจแบบฝกึ หดั - แบบฝึกหดั - ร้อยละ 60
ผ่านเกณฑ์
- ตรวจผงั มโนทศั น์ เรอ่ื ง - แบบประเมนิ - ระดับคุณภาพดี
การสอื่ สารระหวา่ งสัตว์ ผังมโนทศั น์ ผ่านเกณฑ์
- ตรวจรายงาน เร่อื ง - แบบประเมิน - ระดับคุณภาพดี
พฤติกรรมการสบื พนั ธ์ุ รายงาน ผ่านเกณฑ์
ของปลากัด
2) การนาเสนอ - ประเมนิ การนาเสนอ - ผลงานท่ีนาเสนอ - ระดบั คณุ ภาพดี
ผลงาน ผลงาน ผ่านเกณฑ์
3) พฤติกรรม - สังเกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤติกรรม - ระดบั คุณภาพดี
การทางานกลุม่ การทางานกลุ่ม การทางานกลมุ่ ผา่ นเกณฑ์
4) คณุ ลักษณะ - สังเกตความมีวนิ ัย - แบบประเมิน - ระดับคุณภาพดี
อนั พงึ ประสงค์ ใฝเ่ รยี นรู้ และมุ่งมั่น คุณลกั ษณะ ผา่ นเกณฑ์
ในการทางาน อนั พงึ ประสงค์
7.2 ประเมนิ หลังเรียน
รายการวัด วิธวี ดั เครอ่ื งมือ เกณฑ์การประเมิน
- Unit Questions - ตรวจ Unit Questions
- Unit Questions - ร้อยละ 60
หนว่ ยการเรยี นรู้ หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5
ที่ 5 หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 ผา่ นเกณฑ์
- Test for U - ตรวจ Test for U
หนว่ ยการเรยี นรู้ หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 5 - Test for U - ร้อยละ 60
ที่ 5
- แบบทดสอบ - ตรวจแบบทดสอบ หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 5 ผ่านเกณฑ์
หลังเรยี น หน่วย หลังเรยี น
การเรียนรทู้ ่ี 5 - แบบทดสอบหลังเรียน - ร้อยละ 60
ผ่านเกณฑ์
8. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 สอื่ การเรียนรู้
1) หนังสือเรียนรายวิชาเพ่ิมเติมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชีววิทยา ม.6 เล่ม 1 หน่วยการเรียนรู้
ท่ี 5 พฤตกิ รรมของสัตว์
2) แบบฝึกหัดรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชีววิทยา ม.6 เล่ม 1 หน่วยการเรียนรู้
ท่ี 5 พฤติกรรมของสัตว์
3) แบบทดสอบหลังเรยี น หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 พฤตกิ รรมของสตั ว์
4) ใบงานท่ี 5.3 เร่ือง การสอ่ื สารระหว่างสัตว์
5) PowerPoint เรื่อง พฤติกรรมของสตั ว์
6) บัตรภาพการสื่อสารระหวา่ งสตั ว์
8.2 แหล่งการเรียนรู้
1) ห้องเรียน
2) ห้องสมุด
3) หอ้ งปฏิบตั ิการ
4) สื่ออิเล็กทรอนกิ ส์
ใบงานท่ี 5.3
เรอื่ ง การสอ่ื สารระหวา่ งสัตว์
คาชี้แจง : ระบปุ ระเภทของการสอื่ สารของสตั วใ์ ห้ถูกต้อง ประเภทของการสือ่ สาร
พฤติกรรมของสตั ว์
1. สนุ ัขตวั เลก็ เลียปากสนุ ขั ตวั ใหญ่ ..............................................................
2. โลมาปลอ่ ยคลืน่ โซนาร์ ..............................................................
3. มดใช้ปลายท้องแตะพ้ืนเพอ่ื ปล่อยสารเคมอี อกมา ..............................................................
4. เสือดาวถ่ายปสั สาวะไวใ้ นบริเวณต่าง ๆ ..............................................................
5. ผงึ้ เตน้ ราและเคลอื่ นที่ในลกั ษณะเปน็ เลขแปด ..............................................................
6. องึ่ อ่างพองตวั ใหญข่ ึ้นเม่อื ถูกรบกวน ..............................................................
7. ยุงตัวเมียขยับปกี เพอื่ เรียกยุงตัวผู้ ..............................................................
8. แม่ลงิ หาเหบ็ ให้กบั ลูกลงิ ..............................................................
9. จิ้งหรีดตวั ผจู้ ะสปี ีกเพอ่ื เรยี กรอ้ งความสนใจของตวั เมีย ..............................................................
10. สนุ ขั ตัวเลก็ จะนอนหงายเมือ่ เจอกับสุนขั ตวั ใหญก่ วา่ ..............................................................
11. ปลากัดเปลี่ยนสตี วั ในขณะตอ่ สู้ ..............................................................
12. เสอื ชีตารป์ ัสสาวะรดบริเวณก้อนหนิ ..............................................................
13. แมลงสาบใชห้ นวดตรวจสอบสภาพแวดลอ้ มโดยรอบ ..............................................................
14. ปลากัดเพศผูโ้ อบรัดปลากดั เพศเมยี ในระหว่างผสมพนั ธุ์ ..............................................................
15. ชมิ แพนซียื่นมือให้หวั หนา้ ฝงู จบั ในลกั ษณะหงายมอื ..............................................................
ใบงานท่ี 5.3 เฉลย
เร่ือง การส่ือสารระหวา่ งสัตว์
คาชแ้ี จง : ระบุประเภทของการสอ่ื สารของสตั วใ์ ห้ถกู ตอ้ ง ประเภทของการส่ือสาร
พฤตกิ รรมของสัตว์ ............ก...า..ร..ส..่อื ..ส...า..ร..ด..ว้ ..ย..ก...า..ร..ส..ัม...ผ..สั ............
1. สนุ ัขตวั เลก็ เลียปากสุนัขตวั ใหญ่
การสื่อสารดว้ ยเสยี ง
การส่อื สารดว้ ยสารเคมี
2. โลมาปล่อยคลืน่ โซนาร์ ..............................................................
3. มดใชป้ ลายทอ้ งแตะพ้นื เพอื่ ปล่อยสารเคมีออกมา ..............................................................
4. เสอื ดาวถ่ายปสั สาวะไวใ้ นบริเวณต่าง ๆ ..............................................................
5. ผ้ึงเตน้ ราและเคลื่อนที่ในลกั ษณะเป็นเลขแปด ..............................................................
6. อง่ึ อา่ งพองตวั ใหญ่ขน้ึ เมอ่ื ถกู รบกวน ..............................................................
7. ยงุ ตัวเมียขยบั ปีกเพอื่ เรยี กยงุ ตัวผู้ ..............................................................
8. แมล่ งิ หาเหบ็ ใหก้ บั ลกู ลงิ ..............................................................
9. จง้ิ หรดี ตัวผจู้ ะสีปกี เพอื่ เรยี กร้องความสนใจของตวั เมีย ..............................................................
10. สุนขั ตวั เลก็ จะนอนหงายเมอื่ เจอกบั สนุ ขั ตัวใหญก่ วา่ ..............................................................
11. ปลากัดเปลย่ี นสีตวั ในขณะตอ่ สู้ ..............................................................
12. เสอื ชีตาร์ปสั สาวะรดบรเิ วณก้อนหนิ ..............................................................
13. แมลงสาบใชห้ นวดตรวจสอบสภาพแวดลอ้ มโดยรอบ ..............................................................
14. ปลากดั เพศผู้โอบรดั ปลากดั เพศเมยี ในระหวา่ งผสมพนั ธุ์ ..............................................................
15. ชิมแพนซียนื่ มอื ให้หวั หนา้ ฝูงจบั ในลักษณะหงายมอื ..............................................................
การส่อื สารระหว่างสตั ว์
การสื่อสารระหวา่ งสตั ว์
9. ความเหน็ ของผ้บู รหิ ารสถานศึกษาหรอื ผ้ทู ี่ไดร้ บั มอบหมาย
ขอ้ เสนอแนะ ลงช่อื .................................
( ................................ )
10. บันทกึ ผลหลงั การสอน
ตาแหน่ง .......
ด้านความรู้
ดา้ นสมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น
ด้านคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
ด้านความสามารถทางวิทยาศาสตร์
ดา้ นอ่นื ๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤตกิ รรมท่มี ปี ญั หาของนกั เรยี นเปน็ รายบุคคล (ถา้ มี))
ปัญหา/อุปสรรค
แนวทางการแก้ไข