The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by okj0880136595, 2021-03-19 04:27:40

พรบ.คอม-2560

พรบ.คอม-2560

พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทาความผดิ เกยี่ วกับคอมพวิ เตอร์ (ฉบบั ที่ 2)
พ.ศ.2560

พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทาความผิดเก่ียวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับท่ี 2) พ.ศ.2560 หรอื ท่ีค้นุ หูในช่ือ
พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ผา่ นการพจิ ารณาของสภานิติบัญญตั ิแห่งชาติ (สนช.) เม่อื วันท่ี 16 ธันวาคม 2559
ประกาศลงราชกิจจานเุ บกษาเม่อื วันท่ี 24 มกราคม 2560 และมผี ลบังคับใชเ้ ม่อื วันท่ี 24 พฤษภาคม 2560
หากจากันได้สาหรับ พ.ร.บ.คอมพวิ เตอร์ฯ ฉบับน้ี เคยถูกคัดค้านอย่างหนัก ก่อนการพจิ ารณาในวาระท่ี 2
และ 3 ในท่ีประชุมของ สนช. ช่วงปลายปี 2559 โดยมผี ู้ร่วมลงช่อื กว่า 300,000 คนในเว็บไซต์
change.org เรียกรอ้ งใหส้ นช.ชะลอการพิจารณากฎหมายดังกล่าว

กฎหมายดังกล่าวเป็นการแก้ไขกฎหมายเดิมอยา่ ง พ.ร.บ.คอมพิวเตอรฯ์ ปี 2550
โดยหน่งึ ในประเด็นท่ีมีการแก้ไขใหม่ คือ การแก้ไขมาตรา 14 เพ่ือป้องกันการนามาใชฟ้ อ้ งหมนิ่ ประมาท
เน่อื งจากในอดีต มาตราดังกล่าวนามาสู่การฟอ้ งร้องดาเนนิ คดีเอาผดิ กับ "เน้ือหา" บนโลกออนไลน์
ท้ังท่ีเจตนารมณข์ องกฎหมายมีข้ึนเพ่อื การเอาผิดการกระทาต่อ "ระบบ" คอมพวิ เตอร์

อยา่ งไรก็ดี ภายหลังการแก้ไขกฎหมายของ สนช. พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ
ยงั ถูกนามาใช้เปน็ เคร่ืองมือสาหรับการจากัดการใชเ้ สรีภาพการแสดงความคิดเหน็ บนโลกออนไลนเ์ หมือนเ
ดิม โดยเฉพาะกล่มุ คนท่ีออกมาวิพากษ์วิจารณก์ ารทางานของรัฐบาล

สาหรับบทบัญญัติใหม่ของมาตรา 14 พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ปี 2560 มดี ังนี้

มาตรา 14 ผู้ใดกระทาความผิดท่ีระบุไว้ดังต่อไปนี้ ต้องระวางโทษจาคุกไมเ่ กินห้าปี
หรอื ปรบั ไมเ่ กินหน่งึ แสนบาท หรือท้ังจาท้ังปรบั

(1) โดยทจุ ริต หรอื โดยหลอกลวง
นาเขา้ สรู่ ะบบคอมพิวเตอร์ซ่ึงข้อมูลคอมพวิ เตอร์ท่ีบิดเบือนหรือปลอมไมว่ ่าท้ังหมดหรอื บางส่วน
หรือขอ้ มลู คอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการท่ีน่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน
อันมิใช่การกระทาความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา

(2) นาเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซ่ึงขอ้ มูลคอมพวิ เตอร์อันเปน็ เท็จ
โดยประการท่ีนา่ จะเกิดความเสยี หายต่อการรักษาความม่นั คงปลอดภัยของประเทศ
ความปลอดภัยสาธารณะ ความม่นั คงในทางเศรษฐกิจของประเทศ
หรือโครงสรา้ งพ้นื ฐานอันเปน็ ประโยชนส์ าธารณะของประเทศ
หรือก่อให้เกิดความต่ืนตระหนกแก่ประชาชน

(3) นาเขา้ สู่ระบบคอมพวิ เตอรซ์ ่ึงขอ้ มูลคอมพิวเตอรใ์ ดๆ
อันเป็นความผดิ เก่ียวกับความม่นั คงแห่งราชอาณาจักรหรอื ความผิดเก่ียวกับการก่อการร้ายตามประมวลก
ฎหมายอาญา

(4) นาเขา้ สรู่ ะบบคอมพิวเตอร์ซ่งึ ข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ
ท่ีมีลักษณะอันลามกและขอ้ มูลคอมพวิ เตอรน์ ้ันประชาชนท่ัวไปอาจเข้าถึงได

(5) เผยแพรห่ รือส่งต่อซ่งึ ข้อมูลคอมพวิ เตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นขอ้ มูลคอมพวิ เตอร์ตาม (1) (2) (3) หรือ
(4) ถ้าการกระทาความผิดตามวรรคหน่ึง (1) มิได้กระทาต่อประชาชน
แต่เปน็ การกระทาต่อบุคคลใดบุคคลหน่งึ ผูก้ ระทา
ผ้เู ผยแพร่หรอื สง่ ต่อซ่งึ ข้อมูลคอมพวิ เตอรด์ ังกล่าวต้องระวางโทษจาคุกไมเ่ กินสามปหี รือปรบั ไม่เกินหกหม่ื
นบาท หรอื ท้ังจาท้ังปรับ และให้เปน็ ความผิดอันยอมความได้

โดยรายละเอียดการแก้ไขในมาตรา 14 พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ได้แก่

หน่งึ การเพ่มิ คาว่า “ท่ีบิดเบือน”
เข้าไปเป็นสว่ นหน่งึ ของข้อมูลคอมพวิ เตอรท์ ่ีนาเข้าสู่ระบบอันเปน็ ความผดิ

สอง การเพ่ิมคาว่า “โดยทุจรติ หรือ โดยหลอกลวง” เข้ามาเปน็ องค์ประกอบความผดิ ตามมาตรา 14 (1)
ด้วย ซ่งึ คาว่า "โดยทจุ รติ " มีคานยิ ามอยูใ่ นมาตรา 2 ของประมวลกฎหมายอาญา หมายความว่า
เพ่ือแสวงหาประโยชนท์ ่ีมคิ วรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสาหรบั ตนเองหรอื ผู้อ่ืน

สาม การเพิม่ วรรคสอง โดยกาหนดให้การกระทาความผิดมาตรา 14(1)
ท่ีมีผู้เสียหายเป็นบุคคลใดบุคคลหน่ึง ไมไ่ ด้จงใจหลอกลวงประชาชนท่ัวไป
“เป็นความผิดอันยอมความได้”

สี่ การเพิ่มวรรคสอง โดยกาหนดใหก้ ารกระทาความผิดมาตรา 14(1) ท่ีมีผูเ้ สียหายเปน็ บุคคลใดบุคคลหน่ึง
ไม่ได้จงใจหลอกลวงประชาชนท่ัวไป ให้มีอัตราโทษลดลง คือ จาคุกไม่เกินสามปี หรอื ปรับไมเ่ กิน 60,000
บาท

ห้า การเพม่ิ คาว่า “ความปลอดภัยสาธารณะ” “ความม่ันคงทางเศรษฐกิจ” และ
“โครงสร้างพ้ืนฐานอันเป็นประโยชน์สาธารณะของประเทศ”
เป็นองค์ประกอบความผดิ ฐานนาเข้าขอ้ มลู เท็จเข้าส่รู ะบบตามมาตรา 14 (2)

จากการแก้ไขกฎหมายในคร้งั น้ขี อง สนช. พบว่า ยังมชี ่องโหว่ในการตีความกฎหมายเพ่อื ใช้ดาเนินคดี
‘เน้ือหา’ บนโลกออนไลนไ์ ด้อยู่ เช่น การเพ่มิ คาว่า ‘บดิ เบอื น’ เข้าไปเป็นองค์ประกอบความผดิ
ซ่งึ การเพิม่ คานี้เข้ามาแสดงให้เห็นว่า ผู้ร่างกฎหมายจงใจจะให้นามาตรา 14(1)
มาใช้ฟอ้ งคดีต่อการแสดงความคิดเหน็ ท่ีไม่ตรงกับความจรงิ ท้ังหมด ทาให้มาตรา 14(1)
ถกู เขียนให้ตีความได้กว้างข้ึนมาก
หา่ งไกลออกไปจากเจตนารมณ์เดิมท่ีมุ่งเอาผิดกับเพยี งหนา้ เว็บไซต์ปลอม
จนครอบคลุมไปถึงการแสดงความคิดเห็นได้หลายรูปแบบ

ในขณะเดียวกัน ในมาตรา 14 (2) มกี ารเพิ่มคาว่า “ความปลอดภัยสาธารณะ”
“ความม่ันคงทางเศรษฐกิจ” และ “โครงสร้างพ้ืนฐานอันเป็นประโยชน์สาธารณะของประเทศ”
จากฉบับเดิมระบุไว้ให้ มาตรา 14(2) เอาผดิ การนาเข้าข้อมูลคอมพิวเตอรอ์ ันเป็นเท็จ สองลักษณะ คือ 1)
นา่ จะเกิดความเสยี หายต่อความม่ันคงของประเทศ 2) น่าจะก่อให้เกิดความต่ืนตระหนกแก่ประชาชน
ซ่งึ ก็สามารถตีความเอาผิดกับเน้อื หาบนโลกในออนไลน์ได้อยู่แล้ว ดังน้ัน
การเพ่ิมนิยามใหม่ท่ีมีลักษณะตีความได้กว้างก็จะย่งิ ทาใหก้ ฎหมายบงั คับใช้กับการจากัดการแสดงความคิ
ดเหน็ บนโลกออนไลนไ์ ด้กว้างขวางด้วยเชน่ กัน และคาว่า ก่อใหเ้ กิดความต่ืนตระหนกแก่ประชาชน
ยังถือว่าเป็นเร่ืองท่ีพสิ ูจน์กันได้ยาก
และไม่ชดั เจนว่าประชาชนท่ีได้รบั ข้อมูลแล้วต่ืนตระหนกตกใจกันแค่ไหน

นกั ขา่ วเนช่ัน ผู้ต้องหา ‘บิดเบอื นข้อมูล’ รายแรก หลังแก้กฎหมายใหม่

หลังกฎหมายผ่านความเห็นชอบจากสนช. ได้ไม่ประมาณ 4 เดือน
บรษิ ัทเมยี นมาร์พงพิพทั ธไ์ ด้ฟ้องผู้ส่อื ข่าวของหนังสือพิมพ์ The Nation
ในข้อหาหมิน่ ประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา และบดิ เบือนข้อมลู ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา
14(1)

โดยคาบรรยายฟ้องระบุว่า บทความของผสู้ ่อื ขา่ ว The Nation เร่อื ง "เหมอื งแร่ไทยทาลายแหล่งนา้ พม่า"
ท่ีตีพิมพ์ในหนังสอื พิมพ์ Nation Online บิดเบอื นให้รา้ ยบรษิ ัท

ทาให้โจทก์ได้รับความเสียหายและอาจถูกเพิกถอนใบอนญุ าตการประกอบเหมืองแรด่ ีบุกในประเทศเมียน
มาร์ได้

แต่สุดท้ายคดีก็จบลงท่ีกระบวนการไกล่เกล่ียในช้ันศาลโดยได้ข้อสรุปใหผ้ ู้ส่ือข่าว The Nation
เขียนขา่ วและลงข่าวแก้ไขข้อมลู ท่ีถูกต้องตามฝา่ ยโจทก์ต้องการในบางประเด็น

การฟ้องร้องในคร้ังนีเ้ ป็นบทพสิ ูจนท์ ่ีทาใหเ้ หน็ ว่า การแก้ไขของสนช.
เพ่ือพยายามจะป้องกันการฟ้องร้องต่อประชาชนหรือส่อื มวลชนท่ีทาหนา้ ท่ีตรวจสอบภาครัฐและภาคเอก
ชน ไม่ประสบผลสาเรจ็ สุดท้าย พ.ร.บ.คอมพวิ เตอรฯ์ มาตรา 14 (1)
ก็ยงั กลายเป็นเคร่ืองมือในการเอาผิดคนจากการแสดงความคิดเห็นหรือเผยแพรข่ อ้ มูลสู่สาธารณะในโลกอ
อนไลน์

นักการเมือง-นกั วิชาการ-นักเคล่ือนไหว ทยอยถูกต้ังข้อหาหลังวิจารณ์ คสช.

นอกจาก มาตรา 14 (1) พ.ร.บ.คอมพิวเตอรฯ์ ซ่งึ เป็นข้อหายอดนิยมในการฟอ้ งรอ้ งดาเนินคดีแล้ว
ยงั พบอีกว่า ภาครัฐมแี นวโน้มบังคับใช้มาตรา 14 (2) มากข้นึ โดยเฉพาะกับนกั วิชาการ ประชาชน หรือ
นักการเมือง ท่ีออกมาวิพากษ์วิจารณน์ โยบายหรือการทางานของรัฐบาล ซ่งึ จากการเก็บข้อมูลจนถึงวันท่ี
8 สิงหาคม 2561 พบว่า มีบุคคลอยา่ งน้อย 5 คน ถูก ต้ังข้อกล่าวหาตาม มาตรา 14 (2) ดังน้ี

๐ หมวดเจ๊ียบ ถกู ต้ังข้อหาตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ 12 กระทง จากการวิจารณ์รฐั บาล

ร.ท.หญิงสณุ ิสา เลิศภควัต หรอื 'หมวดเจ๊ียบ' อดีตโฆษกพรรคเพ่อื ไทย ถูก บก.ปอท.
เรยี กรายงานตัวเพ่ือรบั ทราบขอ้ กล่าวหาถึง 3 คร้งั รวมขอ้ หาท้ังหมด 12 กระทง โดยเรมิ่ จาก

คร้งั แรก วันท่ี 13 ธนั วาคม 2560 หมวดเจ๊ียบ เดินทางเข้าพบเจ้าพนักงาน บก.ปอท.
เพ่ือรับทราบข้อกล่าวหาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 และความผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอรฯ์
มาตรา 14(2) รวมหกกระทงการการโพสต์ข้อความบนเพจเฟซบ๊กุ หมวดเจ๊ียบ1
รวมข้อสามข้อความโดยหน่งึ ในน้นั เป็นขอ้ ความท่ีเธอวิพากษ์วิจารณ์การดาเนนิ งานของรัฐบาลท่ีละเมิดสิ
ทธิมนษุ ยชนกรณจี ับกมุ ผู้ชุมนุมคัดค้านโรงไฟฟ้าเทพา
ส่วนอีกสามกระทงเกิดจากการท่ีตัวเธอแชรข์ ้อความท่ีเปน็ เหตแุ ห่งคดีน้ที ้ังสามข้อความไปท่ีเฟซบุ๊กสว่ นตั
วของเธอ ซ่งึ มีเจ้าหน้าท่ีฝา่ ยกฎหมายของคสช. เปน็ ผู้แจ้งความดาเนินคดี

คร้งั ท่ีสอง วันท่ี 20 ธันวาคม 2560 หมวดเจ๊ียบ เข้าพบ เจ้าพนักงาน บก.ปอท. อีกคร้งั
เพ่ือรับทราบข้อกล่าวหาตามท่ีเจา้ หน้าท่ีฝ่ายกฎหมายของ คสช. แจ้งความดาเนินคดีอีกสามกระทง
ในความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพวิ เตอรฯ์ มาตรา 14(2)
และขอ้ หายุยงปลกุ ป่ นั ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 โดยนาเอกสารคือข้อความการโพสต์เก่าๆ
ซ่งึ โพสต์เม่อื วันท่ี 30 กันยายน 2560 ละวันท่ี 4 ตุลาคม 2560
ซ่ึงเปน็ การวิจารณก์ ารไปเยือนสหรฐั อเมริกาของนายกรัฐมนตรี ในประเด็นการซ้ืออาวุธ,
ความขดั แย้งในคาบสมุทรเกาหลี และผลกระทบท่ีเกิดข้ึนกับไทยเน่ืองจากการเจรจาการค้าไทย-สหรัฐ

คร้งั ท่ีสาม วันท่ี 24 มกราคม 2561 หมวดเจ๊ียบ เขา้ พบ เจ้าพนักงาน บก.ปอท. เป็นคร้งั ท่ีสาม
เพ่ือรบั ทราบข้อหาความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพวิ เตอร์ฯ ม.14 (2) จานวน 3 กระทง
หลังโพสต์วิจารณเ์ ร่ืองการใช้งบประมาณของรัฐบาล
ซ่ึงในคร้ังนี้พนักงานสอบสวนเป็นผ้แู จ้งขอ้ กล่าวหาเพ่มิ เติมจากสองคร้ังท่ีผา่ นมา

๐ อาจารยช์ าญวิทยถ์ ูกแจ้งความจากการวิจารณ์กระเปา๋ ภริยานายก หว่ันก่อใหเ้ กิดความต่ืนตระหนก

วันท่ี 31 มกราคม 2561 เวลา13.00 น. ศ.พเิ ศษ ดร. ชาญวิทย์ เกษตรศิริ
อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เข้าพบ เจ้าพนักงาน บก.ปอท.

เพ่ือรบั ทราบขอ้ กล่าวหาในความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ จากกรณแี ชร์โพสต์ท่ีมีภาพ นราพร
จันทร์โอชา ภรรยาหัวหน้า คสช. ถือกระเป๋า และเขยี นข้อความประกอบโพสต์ "ผู้นาต้องใช้ของแพงๆ
Thai leaders must look expensive not cheap…" โดยคดีนี้ พ.ต.อ.โอฬาร สขุ เกษม ผู้กากับการ 3
บก.ปอท. เปน็ ผ้รู ้องทุกข์ว่า การแชรโ์ พสต์ภาพภรรยา หัวหน้า คสช.
ถือกระเปา๋ และเขยี นขอ้ ความดังท่ีระบุข้างต้นว่าเข้าขา่ ยความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14(2),
(5) ซ่งึ โพสต์ดังกล่าวมีเน้ือหาท่ีอาจทาให้เกิดความต่ืนตระหนกและอันตรายต่อประเทศ

๐ วัฒนา ขาประจา บก.ปอท. ถูกเรยี กตัว หลังโพสต์วิจารณ์รฐั บาล

วันท่ี 4 กรกฎาคม 2561 วัฒนา เมืองสขุ อดีต ส.ส.พรรคเพ่ือไทย เดินทางเขา้ พบ เจ้าพนักงาน บก.ปอท.
เพ่ือรบั ทราบข้อกล่าวหา ในฐานความผิด ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ม.14 (2)
นาขอ้ มูลอันเปน็ เท็จเขา้ สรู่ ะบบคอมพิวเตอร์ กรณีวิจารณร์ ัฐบาลท่ีดาเนนิ คดีกับเจ้าของเพจ
“KonthaiUk” (คนไทยยูเค) ท่ีแสดงความเหน็ ในเร่อื งการซ้ือดาวเทียมไธอา (THEIA)
จากสหรฐั อเมรกิ ามูลค่า 91,200 ล้านบาท และผทู้ ่ีแชรโ์ พสจากเพจดังกล่าว ซ่งึ พ.อ.บุรนิ ทร์ ทองประไพ
นายทหารปฏิบตั ิการประจากองบญั ชาการกองทัพบก
ปฎิบัติหนา้ ท่ีฝ่ายกฎหมายคณะรกั ษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มาแจ้งความร้องทุกข์ บก.ปอท.
กรณเี ม่ือวันท่ี 13 มิถุนายน 2561

๐ แอดมินเพจ ธนาธร และ พรรคอนาคตใหม่ ถกู เรยี กตัวหลัง live พูดถึงพลังดดู ส.ส.

วันท่ี 31 กรกฎาคม 2561 ธนาธร จึงรุง่ เรืองกิจ ว่าท่ีหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ พร้อมกับ ไกลก้อง ไวทยการ
ว่าท่ีนายทะเบยี นพรรค และจารุวรรณ ศรณั ย์เกตุ ว่าท่ีกรรมการบริหารพรรค
เดินทางเขา้ ให้ปากคาต่อเจ้าพนักงานสอบสวน บก.ปอท. เพ่ือเป็นพยานจากกรณที ่ี พ.อ.บุรินทร์
ทองประไพ ฝ่ายกฎหมายของ คสช. ฟ้องเจ้าของแฟนเพจธนาธร จึงรุ่งเรอื งกิจ และแฟนเพจ อนาคตใหม่
– The Future We Want จากการท่ีตนจัดรายการ ‘คืนวันศกุ รใ์ หป้ ระชาชน’ บนเฟซบุก๊ ไลฟ์เม่ือวันท่ี 29
มถิ นุ ายนท่ีผา่ นมา โดยตนกับนายไกลก้อง และ น.ส.จารุวรรณ ได้ร่วมกันพดู ถึงประเด็นการดูด ส.ส.
รวมถึงปัญหาจากการลงพ้ืนท่ีพูดคุยกับประชาชน ในข้อหานาเข้าข้อมูลเท็จลงในข้อมูลคอมพิวเตอร์
ตามกฏหมาย พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 (2)

๐ พิชัย ถกู เรียกตัวหลังพดู ถึงพลังดูด ส.ส. 2 สงิ หาคม 2561 พชิ ยั นริพทะพนั ธุ์
อดีตรฐั มนตรวี ่าการกระทรวงพลังงาน มอบอานาจให้ทนายความเข้าพบเจ้าพนักงาน บก.ปอท.
เพ่ือขอเล่ือนการเขา้ พบเจ้าพนกั งานเปน็ วันท่ี 16 สิงหาคม 2561 เวลา 13.00 น. หลังจากท่ีพิชยั ถกู
บก.ปอท. ออกหมายเรยี กให้ไปพบ ภายหลังจาก พ.อ.บุรนิ ทร์ ทองประไพ เปน็ ผรู้ ับมอบอานาจจาก
คสช.เข้าร้องทกุ ข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนในความผิดฐาน
นาเขา้ ขอ้ มลู สู่ระบบคอมพิวเตอรอ์ ันเป็นเท็จ
โดยประการท่ีนา่ จะเกิดความเสียหายต่อการรักษาความม่ันคงปลอดภัย ของประเทศ
ความม่นั คงทางเศรษฐกิจของประเทศ หรอื ก่อให้เกิดความต่ืนตระหนกแก่ประชาชน ตาม
พ.ร.บ.คอมพิวเตอรฯ์ มาตรา 14 (2)

พิชัย โพสต์ในเฟซบุ๊กของตัวเองแจ้งว่า สาเหตทุ ่ีทาให้ถูกแจ้งความดาเนินคดีมาจาก 2 เร่อื ง คือ
เร่อื งแรกเป็นรูปปกนติ ยสารไทม์ ท่ีมีรูปพลเอกประยุทธ์ จันทรโ์ อชา หัวหน้าคสช.และมีข้อเขียนในเชิงว่า
ถกู แบนห้ามขาย อีกเร่ืองหนึง่ เป็นรูปท่ีมาจากการสัมมนาทางวิชาการท่ีสมาคมนักข่าว
นกั หนังสือพมิ พแ์ หง่ ประเทศไทย จัดโดย คณะกรรมการญาติวีรชนเดือนพฤษภาคม 35 ในหัวข้อ
“พรรคการเมืองกับแนวทางการสามัคคีปรองดองแห่งชาติ” ซ่งึ มีการพูดถึงการดูด ส.ส.
ท่ีอาจจะทาลายความปรองดองได้

จัดทาโดย

นาย ธนา โคติบุญโล


Click to View FlipBook Version