The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by satiya_puy26, 2021-12-27 22:37:13

โลกน่าอยู่

e-book1

ให้ความรู้เรื่องโลกแก่คุณ คำนำ

รายงานเลม่ นีเ้ ป็นสว่ นหนง่ึ ของรายวิชาวิทยาศาสตรแ์ ละวชิ าคอมพวิ เตอร์
มีเนือ้ หาเก่ียวกบั เรอ่ื งโลก มีวตั ถปุ ระสงคจ์ ดั ทาขนึ้ เพ่อื ใหผ้ ูท้ ่ีสนใจศกึ ษา ไดศ้ กึ ษา
เก่ียวกบั เรอ่ื งโลก ซง่ึ ผจู้ ดั ทาไดจ้ ดั ทาเนือ้ หาไวใ้ นรายงานทง้ั หมด ผจู้ ดั ทาหวงั เป็น
อยา่ งย่งิ วา่ รายงานเลม่ นีจ้ ะเป็นประโยชนต์ อ่ ผทู้ ่ีสนใจจะศกึ ษาเป็นอย่างย่งิ
หากรายงานเลม่ นีผ้ ิดพลาดประการใด ผจู้ ดั ทาก็ขออภยั มา ณ โอกาสนี้
คณะผจู้ ดั ทา

ถดั ไป

สารบญั )))))))))))))))))))))))))))))))))))) 10 วธิ ีลดปัญหำโลกร้อน

เรื่อง ภาวะโลกรอ้ นท่ีกาลงั ส่งผลกระทบรุนแรง คณุ สามารถช่วยกนั ลดภาวะโลกรอ้ นไดง้ ่ายๆ

10 วิธีลดปัญหาโลกรอ้ น หน้า ดว้ ย 10 วิธีตอ่ ไปนี้
โลกคืออะไร 1. เปล่ียนหลอดไฟ การเปล่ียนหลอดไปจากหลอดไสเ้ ป็นหลอดประหยดั ไฟหน่งึ ดวง จะ
รูปรา่ งของโลก
โครงสรา้ งภายในของโลก 1 ชว่ ยลด คารบ์ อนไดออกไซด์ ได้ 150 ปอนดต์ ่อปี
วงโคจร 2-3 2. ขบั รถใหน้ อ้ ยลง หากเป็นระยะทางใกลๆ้ สามารถเดินหรอื ข่ีจกั รยานแทนได้ การขบั
ส่วนประกอบของโลก 4 รถยนตเ์ ป็นระยะทาง 1 ไมลจ์ ะปล่อย คารบ์ อนไดออกไซด์ 1 ปอนด์
ประโยชนข์ องชน้ั บรรยากาศ 5 3. รไี ซเคิลของใช้ ลดขยะของบา้ นคณุ ใหไ้ ดค้ รง่ึ หน่งึ จะช่วยลด คารบ์ อนไดออกไซด์ ไดถ้ ึง
6-7 2400 ปอนด4์ . เชค็ ลมยาง การขบั รถโดยท่ียางมีลมนอ้ ย อาจทาใหเ้ ปลืองนา้ มนั ขนึ้ ไดถ้ ึง
8 3% จากปกติ
นา้ มนั ๆทกุ ๆแกลลอนท่ีประหยดั ได้ จะลด คารบ์ อนไดออกไซด์ ได้ 20 ปอนด์
9 5. ใชน้ า้ รอ้ นใหน้ อ้ ยลง ในการทานา้ รอ้ น ใชพ้ ลงั งานในการตม้ สงู มาก การปรบั เคร่อื งทา

นา้ อ่นุ ใหม้ ีอณุ หภมู ิและแรงนา้ ใหน้ อ้ ยลง จะลด คารบ์ อนไดออกไซดไ์ ด้ 350 ปอนดต์ ่อปี

หรอื การซกั ผา้ ในนา้ เยน็ จะลด คารบ์ อนไดออกไซด์ ไดป้ ีละ 500 ปอนด์

6. หลีกเล่ียงผลิตภณั ฑท์ ่ีมีบรรจภุ ณั ฑเ์ ยอะ เพยี งแคล่ ดขยะของคณุ เอง 10 % จะลด

7. ปรบั อณุ หภมู ิหอ้ งของคณุ (สาหรบั เมืองนอก) ในฤดหู นาว ปรบั อณุ หภมู ขิ อง

ใหต้ ่าลง 2 องศา และในฤดรู อ้ น ปรบั ใหส้ งู ขนึ้ 2 องศา จะลด คารบ์ อนไดออกไซด์ ได้ 2000

ปอนดต์ อ่ ปี

8. ปลกู ตน้ ไม้ การ ปลกู ตน้ ไม้ หนง่ึ ตน้ จะดดู ซบั คารบ์ อนไดออกไซดไ์ ด้ 1 ตนั ตลอดอายุ

ของมนั

9. ปิดเคร่อื งใชไ้ ฟฟา้ ท่ีไม่ใช่ ปิดทีวี คอมพวิ เตอร์ เคร่อื งเสียง และเคร่ืองใชไ้ ฟฟา้ ตา่ งๆ เม่ือ

ไมใ่ ช้ จะลดคารบ์ อนไดออกไซดไ์ ดน้ บั พนั ปอนดต์ ่อปีและอย่างสดุ ทา้ ย ถดั ไป
10. บอกเพ่อื นๆของคณุ เก่ียวกบั วธิ ีเหลา่ นี้

โลกคอื อะไร? )))))))))))))))))))))))))))))))))))))) แกนหมนุ ของโลกเอียงทาใหเ้ กิดฤดกู าลต่าง ๆ บนผวิ โลกอนั ตรกิรยิ าความโนม้ ถ่วง
ระหวา่ งโลกกบั ดวงจนั ทรก์ ่อใหเ้ กิดนา้ ขนึ้ ลงมหาสมทุ ร ทาใหก้ ารหมนุ บนแกนของโลก
โลก เป็นดาวเคราะหล์ าดบั ท่ีสามจากดวงอาทติ ย์ และเป็นวตั ถทุ างดาราศาสตร์ มีเสถียรภาพ และคอ่ ย ๆ ชะลอการหมนุ ของโลก โลกเป็นดาวเคราะหท์ ่ีมีความ
เพียงหน่ึงเดียวท่ีทราบว่ามีสง่ิ มชี ีวิต จากการวดั อายดุ ว้ ยกมั มนั ตรงั สี และแหลง่ หนาแนน่ สงู สดุ ในระบบสรุ ยิ ะและใหญ่สดุ ในดาวเคราะหค์ ลา้ ยโลก 4 ดวง
หลกั ฐานอ่ืนไดค้ วามวา่ โลกกาเนิดเม่อื ประมาณ 4,500 ลา้ นปีก่อน โลกมีอนั ตรกิริ
ยะเชงิ โนม้ ถ่วงกบั วตั ถอุ ่ืนในอวกาศโดยเฉพาะดวงอาทติ ย์ และ ดวงจนั ทร์ ซง่ึ เป็น ธรณีภาคของโลกแบ่งออกไดเ้ ป็นหลายๆ ส่วน เรยี กว่าแผ่นธรณีภาค ซง่ึ ยา้ ยท่ีตดั
ดาวบรวิ ารถาวรหน่งึ เดียวของโลก โลกโคจรรอบดวงอาทติ ยใ์ ชเ้ วลา 365.26 วนั ผ่านพนื้ ผวิ ตลอดเวลาหลายลา้ นปี รอ้ ยละ 71 ของพนื้ ผิวโลกปกคลมุ ดว้ ยนา้ ซง่ึ ส่วน
เรยี กวา่ ปี ซง่ึ ระหว่างนน้ั โลกโคจรรอบแกนตวั เองประมาณ 366.26 รอบ ใหญ่เป็นมหาสมทุ ร อีกรอ้ ยละ 29 ท่ีเหลือเป็นแผน่ ดินประกอบดว้ ยทวีปและเกาะซง่ึ มี
แกนหมนุ ของโลกเอียงทาใหเ้ กิดฤดกู าลตา่ ง ๆ บนผิวโลกอนั ตรกิรยิ าความโนม้ ทะเลสาบ แม่นา้ และแหลง่ นา้ อ่ืนจานวนมากเป็นอทุ กภาค บรเิ วณขว้ั โลกทงั้ สองปก
ถ่วงระหว่าง โลก กบั ดวงจนั ทร์ ก่อใหเ้ กิดนา้ ขนึ้ ลงมหาสมทุ ร ทาใหก้ ารหมนุ บน คลมุ ดว้ ยนา้ แข็งเป็นส่วนใหญ่ ไดแ้ ก่แผน่ นา้ แขง็ แอนตารก์ ตกิ และนา้ แข็งทะเลของแพ
แกนของโลกมเี สถียรภาพ และค่อย ๆ ชะลอการหมนุ ของโลก โลกเป็นดาว นา้ แขง็ ขวั้ โลก บรเิ วณภายในของโลกยงั คงมีความเคล่ือนไหวโดยมีแก่นชนั้ ในซง่ึ เป็น
เคราะหท์ ่ีมคี วามหนาแน่นสงู สดุ ในระบบสรุ ยิ ะและใหญ่สดุ ในดาวเคราะหค์ ลา้ ย เหล็กในสถานะของแขง็ มีแก่นเหลวชนั้ นอกซง่ึ กาเนดิ สนามแม่เหล็ก และชน้ั แมนเทลิ
โลก 4 ดวง พาความรอ้ นท่ีขบั เคล่ือนการแปรสณั ฐานแผน่ ธรณีภาค

1 2 ถดั ไป

รูปร่างของโลก )))))))))))))))))))))))))))))))))))))) โครงสร้างภายในของโลก

โลกมีรูปรา่ งประมาณทรงคลา้ ยทรงกลมแบนขวั้ โลกแบนลงบรเิ วณแกนทาง โครงสรา้ งภายในของโลกแบง่ ออกไดเ้ ป็นชนั้ ๆ ตามคณุ สมบตั กิ ายภาพ
ภมู ศิ าสตรแ์ ละโป่งบรเิ วณแถบศนู ยส์ ตู ร การโป่งนีเ้ ป็นผลมาจากการหมนุ รอบ (วิทยากระแส) หรอื เคมีเชน่ เดียวกบั ดาวเคราะหห์ ินดวงอ่ืน ชน้ั นอกของ
ตวั เองของโลก เสน้ ผา่ นศนู ยก์ ลางในแนวศนู ยส์ ตู รยาวกวา่ เสน้ ผา่ นศนู ยก์ ลางใน โลกเป็นเปลือกซลิ ิเกตแขง็ ซง่ึ แยกออกชดั เจนดว้ ยคณุ สมบตั ิทางเคมีโดยมี
แนวขว้ั เหนือ-ใตร้ าว 43 กิโลเมตร จดุ บนพนื้ ผิวโลกท่ีหา่ งจากจดุ ศนู ยก์ ลางมวล ชนั้ เนือ้ โลก (mantle) แข็งความหนืดสงู อยเู่ บือ้ งลา่ ง มีความไม่
ของโลกมากท่ีสดุ คือ ยอดภเู ขาไฟชมิ โบราโซแถบศนู ยส์ ตู รในประเทศเอกวาดอร์ ต่อเน่ืองของโมโฮโลวคิ ซคิ (Mohorovičić discontinuity) ค่นั
ภมู ปิ ระเทศในแตล่ ะทอ้ งท่ีมีการเบ่ียงเบนไปจากทรงกลมอดุ มคติ แตเ่ ม่ือมองใน ระหวา่ งเปลือกโลกจากเนือ้ โลก เปลือกโลกมีความหนาตงั้ แต่ประมาณ
ระดบั โลกทง้ั ใบการเบ่ียงเบนเหล่านีก้ ็ถือวา่ เลก็ นอ้ ย จดุ ท่ีถือว่ามีความเบ่ียงเบน 6 กิโลเมตร ใตม้ หาสมทุ รไปจนถงึ 30–50 กิโลเมตรใตท้ วีป เปลือกโลก
ทอ้ งถ่ินมากท่ีสดุ บนพนื้ ผิวหินของโลกก็คือ ยอดเขาเอเวอรเ์ รสตด์ ว้ ยระดบั ความ และสภาพแขง็ เยน็ ของยอดเนือ้ โลกชนั้ บนสดุ รวมเรยี กธรณีภาค
สงู 8848 เมตรจากระดบั นา้ ทะเลกลาง คดิ เป็นค่าความเบ่ียงเบนรอ้ ยละ 0.14 (lithosphere) ซง่ึ แผน่ ธรณีภาคนน้ั ประกอบขนึ้ จากธรณีภาคนีเ้ อง
และรอ่ งลกึ กน้ สมทุ รมาเรยี นาท่ีระดบั ความลกึ 10911 เมตรจากระดบั นา้ ทะเล ใตธ้ รณีภาคเป็นฐานธรณีภาค (asthenosphere) ซง่ึ เป็นชนั้ ความ
กลาง คิดเป็นค่าความเบ่ียงเบนรอ้ ยละ 0.17 หนืดค่อนขา้ งต่าท่ีธรณีภาคลอยอยู่ การเปล่ียนแปลงโครงสรา้ งผลกึ ในเนือ้
ในวิชาภมู มิ าตรศาสตร์ รูปทรงแทจ้ รงิ ของมหาสมทุ รโลกหากปราศจากแผ่นดนิ โลกเกิดท่ีระดบั ความลกึ 410 ถึง 660 กิโลเมตรใตพ้ นื้ ผิว เป็นเขตเปล่ียน
และอิทธิพลรบกวนอย่างกระแสนา้ และลม เรยี ก จีออยด์ กลา่ วคือ จีออยดเ์ ป็นผวิ ผ่านซง่ึ แยกระหว่างเนือ้ โลกชน้ั บนและล่าง ใตเ้ นือ้ โลกเป็นแก่นชนั้ นอกท่ี
สมศกั ยค์ วามโนม้ ถ่วง (surface of gravitational equipotential) เป็นของเหลวความหนืดต่ามากเหนือแก่นชนั้ ในท่ีเป็นของแขง็ [102] แก่น
ท่ีระดบั ทะเลปานกลาง ชน้ั ในของโลกอาจหมนุ ดว้ ยอตั ราเรว็ เชงิ มมุ สงู กวา่ ส่วนอ่ืนของดาวเคราะห์
เลก็ นอ้ ย โดยหมนุ 0.1–0.5° ตอ่ ปีรศั มีของแก่นชนั้ ในคดิ เป็นประมาณ
หนง่ึ ในหา้ ของรศั มีโลก

ถดั ไป

โลกโคจรรอบดวงอาทิตยด์ ว้ ยระยะหา่ งเฉล่ียประมาณ150ลา้ นกิโลเมตร โลกและดวงจนั ทรโ์ คจรรอบจดุ ศนู ยก์ ลางมวลรว่ มในทกุ ๆ 27.32 วนั
ในทกุ ๆ 365.2564 วนั สรุ ยิ ะกลาง หรอื หน่งึ ปีดาวฤกษ์ สมั พทั ธก์ บั ดาวฤกษพ์ นื้ หลงั เม่ือประกอบกนั เขา้ กบั วงโคจรรว่ มโลก–ดวง
สง่ ผลใหก้ ารเคล่ือนท่ีปรากฏของดวงอาทติ ยค์ ลอ้ ยไปทางตะวนั ออกเทียบ จนั ทรร์ อบดวงอาทติ ยแ์ ลว้ เกิดเป็นคาบของเดือนจนั ทรคตนิ บั จากอมาวสีหน่งึ
กบั ดาวฤกษฉ์ ากหลงั ในอตั ราราวหนง่ึ องศาต่อวนั หรอื เทียบเท่าขนาด ไปอีกอมาวสีหน่งึ ราว 29.53 วนั เม่ือมองจากขวั้ ฟา้ เหนือ การเคล่ือนท่ีของโลก
ปรากฏของดวงอาทิตยห์ รอื ดวงจนั ทรใ์ นทกุ ๆ 12 ช่วั โมง การเคล่ือนไป ดวงจนั ทร์ และการหมนุ รอบแกนดาวของทง้ั ค่ลู ว้ นเป็นไปในทศิ ทวนเข็ม
เช่นนีใ้ ชเ้ วลาเฉล่ียราว 24 ช่วั โมงหรอื หนง่ึ วนั สรุ ยิ ะสาหรบั การหมนุ รอบ นาฬกิ า เม่ือมองจากจดุ สงู เหนือขวั้ เหนือของทงั้ ดวงอาทติ ยแ์ ละโลก วงโคจร
ตวั เองตามแกนครบหน่งึ รอบของโลกซง่ึ ดวงอาทติ ยก์ ลบั ส่เู มอรเิ ดียนอีก ของโลกจะมีทศิ ทางทวนเข็มนาฬิการอบดวงอาทติ ย์ วงโคจรและระนาบแกน
ครงั้ ความเรว็ ของโลกในวงโคจรโดยเฉล่ียประมาณ 29.8 กิโลเมตรต่อ ไมไ่ ดว้ างตวั อยใู่ นแนวเดียวกนั โดยแกนหมนุ ของโลกมีการเอียงประมาณ 23.4
วนิ าที (107,000 กิโลเมตรต่อช่วั โมง) ซง่ึ เรว็ มากพอท่ีจะเคล่ือนผ่าน องศาจากแนวตงั้ ฉากกบั ระนาบโคจรของโลกรอบดวงอาทติ ย์ (หรอื สรุ ยิ วถิ ี)
ระยะทางเทา่ กนั กบั เสน้ ผ่านศนู ยก์ ลางของโลกท่ีประมาณ 12,742 และระนาบโคจรของดวงจนั ทรร์ อบโลกเอียง ±5.1 องศาเทียบกบั ระนาบโลก–
กิโลเมตรในเจด็ นาที และผา่ นระยะทางถงึ ดวงจนั ทรท์ ่ีประมาณ 384,000 ดวงอาทติ ย์ หากปราศจากการเอียงเชน่ นี้ จะเกิดอปุ ราคาทกุ สองสปั ดาห์
สลบั กนั ระหวา่ งจนั ทรุปราคาและสรุ ยิ ปุ ราคา[3][180]
กิโลเมตร ในเวลาราว 3.5 ช่วั โมง
ทรงกลมฮลิ ลห์ รอื ทรงกลมอิทธิพลโนม้ ถ่วงของโลกมีรศั มีประมาณ 1.5×106
กิโลเมตร[181][n 17] เป็นระยะทางสงู สดุ ท่ีแรงโนม้ ถ่วงของโลกมีอทิ ธิพล
เหนือกว่าดวงอาทิตยแ์ ละดาวเคราะหอ์ ่ืนท่ีอย่หู ่างออกไป วตั ถใุ ด ๆ ในรศั มีนี้
จะโคจรรอบโลก หรอื ไม่ก็หลดุ ลอยออกไปโดยการรบกวนเชิงโนม้ ถ่วงจากดวง
อาทิตย์

ถดั ไป

ส่วนประกอบของโลก ประโยคของชัน้ บรรยำกำศ

ส่วนประกอบของโลก ชนั้ บรรยากาศท่ีห่อหมุ้ โลกมีประโยชนต์ อ่ ส่ิงมีชีวิตบนโลก ดงั นี้
โลกเรามรี ูปร่างเป็นทรงกลมมเี สน้ ผ่านศูนยก์ ลางจากขวั้ โลกเหนือถงึ ขว้ั โลกใตย้ าว 1. ช่วยปรบั อณุ หภมู ิของโลกใหเ้ หมาะสมกบั การดารงชีวติ กลา่ วคือ โดยปกติในชว่ ง
กลางวนั ท่ีมีแสงแดด อากาศท่ีหอ่ หมุ้ โลกจะชว่ ยดดู กลืนความรอ้ นจากดวงอาทิตยไ์ ว้
ประมาณ 12,711 กิโลเมตรและเสน้ ผ่านศูนยก์ ลางในแนวเสน้ ศูนยส์ ูตรซง่ึ มคี ่าประมาณ บางส่วนทาใหโ้ ลกมีความอบอ่นุ ขนึ้ สว่ นชว่ งกลางคืนท่ีไม่มีแสงแดด อากาศจะช่วย
12,755 กโิ ลเมตรขณะทโ่ี ลกหมนุ รอบดวงอาทติ ยน์ น้ั แกนของโลกจะเอยี งทามมุ ประมาณ ระบายความรอ้ นทาใหโ้ ลกเย็นลง ถา้ ไมม่ ีอากาศหอ่ หมุ้ โลกไวแ้ ลว้ ในชว่ งกลางวนั อณุ หภมู ิ
23 องศาทาใหเ้กิดฤดูกาลต่างๆ นอกเขตรอ้ น บนผิวโลกจะสงู ถงึ ประมาณ 110 องศาเซลเซียส และในชว่ งกลางคืนอณุ หภมู บิ นผิวโลก
จะลดต่าลงจนถงึ ประมาณ -180 องศาเซลเซยี ส
1.เปลอื กโลก เป็นชนั้ นอกสุดของโลกมคี วามหนานอ้ ยทส่ี ุดประมาณ6-35กโิ ลเมตร 2. ช่วยปอ้ งกนั อนั ตรายจากรงั สีต่าง ๆ จากดวงอาทติ ย์ เชน่ รงั สีอลั ตราไวโอเลต (รงั สี
ประกอบดว้ ยแผ่นดนิ และแผ่นนา้ แบ่งเป็น 2 สว่ นคอื เปลอื กโลกสว่ นบนและเปลอื กโลก เหนือมว่ ง) จะถกู แก๊สโอโซนในบรรยากาศดดู ซบั ไวบ้ างส่วนและปล่อยรงั สีอลั ตราไวโอเลต
ส่วนลา่ ง ลงมายงั ผวิ โลกในปรมิ าณท่ีเหมาะสม สาหรบั มนษุ ยถ์ า้ รา่ งกายถกู รงั สีอลั ตราไวโอเลตท่ีมี
ความเขม้ มากเกินไป เซลลผ์ วิ หนงั จะถกู ทาลายและอาจทาใหเ้ ป็นมะเรง็ ท่ีผิวหนงั ได้
2.แมนเทลิ เป็นชนั้ ของโลกทอ่ี ยู่ลกึ จากชนั้ เปลอื กโลก ประกอบดว้ ยหนิ และแร่หลายชนิด 3. ชว่ ยปอ้ งกนั อนั ตรายจากอนภุ าคต่างๆ ท่ีมาจากนอกโลก เชน่ อกุ กาบาตหรอื สะเก็ด
เช่นหนิ อลั ตราเบสกิ หนิ เพรโิ ดไทต์ ซง่ึ เป็นหนิ อคั นี และหนิ หลอมเหลวซ่งึ เรยี กว่า"หนิ หนืด" จากดาวเคราะหต์ า่ ง ๆ เป็นตน้ โดยอนภุ าคเหล่านีจ้ ะเสียดสีกบั อากาศท่ีหอ่ หมุ้ โลกและ
มอี ณุ หภมู ปิ ระมาณ 2,000 องศาเซลเซยี ส มคี วามหนาประมาณ 3,000 กิโลเมตร เกิดการลกุ ไหมจ้ นหมด หรอื มีขนาดเล็กลงก่อนตกลงสผู่ วิ โลก
4. สว่ นผสมของแก๊สตา่ ง ๆ ในอากาศ ช่วยใหเ้ กิดกระบวนการบางอย่างท่ีจาเป็นต่อการ
3.แก่นโลก อยู่ชนั้ ในสุดหรอื เป็นแก่นกลางของโลก แบง่ ออกเป็น 2 ชนั้ คือ ชน้ั แก่นโลก ดารงชีวิตของส่ิงมีชีวติ เช่น แก๊สออกซเิ จนเป็นแก๊สท่ีใชใ้ นกระบวนการหายใจของ
นอกเป็นชน้ั ของเหลวทร่ี อ้ นจดั และแก่นโลกในเป็นชน้ั ของแขง็ ประกอบดว้ ยธาตเุ หลก็ และนิ ส่ิงมีชีวิตและ ช่วยใหไ้ ฟติดแก๊สคารบ์ อนไดออกไซดเ์ ป็นแก๊สท่ีใชใ้ นกระบวนการสงั เคราะห์
เกิล แก่นโลกมคี วามหนามากประมาณ 3,440 กิโลเมตรมอี ณุ หภูมสิ ูงประมาณ 5,000 องศา ดว้ ยแสงของพชื
เซลเซยี ส
ถดั ไป


Click to View FlipBook Version