ชดุ กิจกรรมการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์ เร่อื ง ไฟฟ้าและวงจรไฟฟา้
ครศู ภุ ลกั ษณ์ เกดิ หนู
ชดุ กิจกรรมการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ เร่ือง ไฟฟ้าและวงจรไฟฟา้
ชดุ กิจกรรมการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์
เร่ือง ไฟฟา้ และวงจรไฟฟา้
ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 6
กล่มุ สาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
นางสาวศุภลักษณ์ เกิดหนู
ตำแหน่ง ครู
โรงเรยี นชมุ ชนบา้ นอา่ วลกึ เหนือ
สำนกั งานเขตพ้ืนท่กี ารศึกษาประถมศกึ ษากระบี่
ครศู ภุ ลกั ษณ์ เกิดหนู
ชดุ กจิ กรรมการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์ เรอ่ื ง ไฟฟา้ และวงจรไฟฟ้า
คำนำ
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง ไฟฟ้าและวงจรไฟฟ้า จัดทำขึ้นเพื่อ
ประกอบการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้ัน
ประถมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้กระบวนการเรียนแบบสืบเสาะความรู้ 5 ขั้นตอน (5E) และ
Active Learning เพื่อนำไปสู่กระบวนการคิด วิเคราะห์ สังเคราะห์ และประยุกต์ใช้ใน
ชวี ติ ประจำวัน ให้ผเู้ รยี นไดค้ ้นคว้า และลงมอื ปฏิบัติด้วยตนเอง พร้อมท้ังใช้กระบวนการ
กลุ่มในการส่งเสริม สนับสนุน พัฒนาผู้เรียนด้านทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ท่ี
เกยี่ วขอ้ งกับเรือ่ งไฟฟา้
ภายในชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง ไฟฟ้าและวงจรไฟฟ้า แบ่งเป็น 4 เรื่อง
ประกอบด้วย
• เรอ่ื งที่ 1 แรงไฟฟา้ และประจุไฟฟ้า
• เรอื่ งท่ี 2 วงจรไฟฟ้าอยา่ งงา่ ย
• เร่ืองท่ี 3 การต่อเซลล์ไฟฟา้
• เร่ืองท่ี 4 การตอ่ หลอดไฟฟา้
ผู้จัดทำหวังเป็นอย่างยิ่งว่าชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง ไฟฟ้าและ
วงจรไฟฟ้า เล่มนี้ จะเป็นแนวทางในการออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ให้แก่ผู้เรียน และ
เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยพัฒนาผู้เรียนได้ตามเจตนารมณ์ของหลักสูตรแกนกลางการศึกษา
ขน้ั พน้ื ฐานใหผ้ เู้ รยี นมคี วามรู้ ความสามารถทางวทิ ยาศาสตร์สอดคลอ้ งกับยุคปจั จุบัน
ศุภลกั ษณ์ เกดิ หนู
ครูศภุ ลักษณ์ เกิดหนู
ชดุ กิจกรรมการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์ เร่ือง ไฟฟา้ และวงจรไฟฟ้า
สารบัญ
เร่อื ง หนา้
คำช้แี จงสำหรบั ครูผ้สู อน 1
คำช้ีแจงสำหรับนกั เรยี น 2
สาระการเรยี นรู้ 3
มาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตัวช้วี ดั 4
แบบทดสอบก่อนเรียน เร่อื ง ไฟฟ้าและวงจรไฟฟา้ 5
เร่ืองท่ี 1 ไฟฟา้ และวงจรไฟฟ้า 7
8
ประจุไฟฟ้า 9
แรงไฟฟ้า 12
คำถามประลองยุทธ์ 13
สนุกกับการทดลองท่ี 1 : การเกิดแรงไฟฟา้ 15
สนุกกับการทดลองท่ี 2 : ผลของแรงไฟฟา้ 18
เรื่องท่ี 2 วงจรไฟฟ้าอย่างงา่ ย 20
การตอ่ วงจรไฟฟา้ อยา่ งง่าย 21
ฝกึ สมองประลองความรู้ 22
สัญลกั ษณ์ของอุปกรณ์ไฟฟา้ 23
แบบฝึกทกั ษะที่ 1 24
สนกุ กับการทดลองที่ 3 : แผนภาพของวงจรไฟฟ้าอย่างงา่ ยเป็นอยา่ งไร 26
เรื่องที่ 3 การตอ่ เซลล์ไฟฟา้ 27
เซลล์ไฟฟา้ 28
การต่อเซลลไ์ ฟฟ้าแบบอนุกรม 30
สนกุ กบั การทดลองท่ี 4 : การต่อเซลล์ไฟฟา้ แบบอนุกรม 34
แบบฝกึ ทกั ษะท่ี 2 35
เรอ่ื งที่ 4 การต่อหลอดไฟฟา้ 37
สนกุ กบั การทดลองที่ 5 : การต่อหลอดไฟฟ้าแบบอนกุ รมและแบบขนาน 41
การต่อหลอดไฟฟ้าแบบอนุกรม 43
การต่อหลอดไฟฟ้าแบบขนาน 46
แบบฝกึ ทักษะที่ 3
ครศู ภุ ลกั ษณ์ เกิดหนู
ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ เรือ่ ง ไฟฟ้าและวงจรไฟฟา้ หน้า
48
สารบญั (ตอ่ ) 50
เรอ่ื ง 52
แบบทดสอบหลงั เรยี น เรอื่ ง ไฟฟ้าและวงจรไฟฟ้า
บรรณานกุ รม
ภาคผนวก
เฉลยแบบทดสอบและแนวคำตอบใบกจิ กรรม
ประวตั ิผ้จู ดั ทำ
ครศู ุภลักษณ์ เกดิ หนู
ชดุ กิจกรรมการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์ เรือ่ ง ไฟฟ้าและวงจรไฟฟ้า 1
คำชแี้ จงสำหรบั ครูผสู้ อน
ชุดกิจกรรมการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ เรือ่ ง ไฟฟ้าและวงจรไฟฟา้
จดั ทำขึ้นเพือ่ ประกอบการจัดการเรยี นรู้ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้
วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้ันประถมศึกษาปีที่ 6 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3
เรื่อง ไฟฟ้าและวงจรไฟฟา้
ครคู วรใช้ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง ไฟฟ้าและ
วงจรไฟฟ้า ร่วมกับคู่มอื การจัดการเรียนรู้โดยใช้ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้
วิทยาศาสตร์ เรือ่ ง ไฟฟ้าและวงจรไฟฟ้า ซงึ่ ไดเ้ รียงลำดับเนือ้ หาและ
กำหนดแนวทางการจัดกจิ กรรมอย่างเป็นข้ันตอน
ครูควรศึกษาคำช้แี จงในการใช้ชุดกจิ กรรมให้เข้าใจก่อนทำกิจกรรม
ครตู ้องช้ีแจงขน้ั ตอนการใช้ชดุ กจิ กรรมการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์
เร่ือง ไฟฟ้าและวงจรไฟฟา้ ให้นกั เรยี นเข้าใจกอ่ นทำกจิ กรรม
ควรแนะในเพิ่มเตมิ ให้นักเรียนได้ปฏิบัตกิ ิจกรรมทั้งในและนอกเวลา
เรียน เพือ่ เสริมสร้างทักษะ ความรู้ ความเข้าใจ เกย่ี วกับเรอื่ งไฟฟ้าและ
วงจรไฟฟ้าให้กับนักเรียนมากขึ้น
ครูศภุ ลักษณ์ เกดิ หนู
ชดุ กิจกรรมการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์ เร่ือง ไฟฟ้าและวงจรไฟฟ้า 2
คำชี้แจงสำหรับนักเรยี น
ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์ เรือ่ ง ไฟฟ้าและวงจรไฟฟา้
สำหรับนกั เรียนช้ันประถมศึกษาปที ่ี 6 เลม่ น้ี มีเนอ้ื หา และกจิ กรรมการ
เรยี นรู้ เกยี่ วข้องกับหน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 3 เรื่อง ไฟฟ้าและวงจรไฟฟ้า
ขัน้ ตอนการใช้ชุดกิจกรรมการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ เรอื่ ง ไฟฟ้าและ
วงจรไฟฟ้า
- ทำแบบทดสอบกอ่ นเรยี น จำนวน 10 ขอ้
- ศกึ ษาตวั ชวี้ ดั และจุดประสงค์การเรียนรู้
- ศึกษาเนื้อหา และกิจกรรม ภายในชุดกิจกรรมการเรียนรู้
วิทยาศาสตร์ เรื่อง ไฟฟ้าและวงจรไฟฟ้า ซึ่งแบ่งเป็น 4 เรื่อง
ประกอบดว้ ย
• เร่ืองท่ี 1 แรงไฟฟา้ และประจุไฟฟ้า
• เรื่องที่ 2 วงจรไฟฟ้าอย่างง่าย
• เรอื่ งที่ 3 การต่อเซลลไ์ ฟฟา้
• เร่ืองท่ี 4 การตอ่ หลอดไฟฟ้า
- ปฏิบัติกจิ กรรมสนุกกับการทดลอง แบบฝกึ ทักษะและคำถาม
ประลองยทุ ธ์ ตามลำดับขน้ั ตอนในแตล่ ะเร่ือง
- ทำแบบทดสอบหลังเรียน จำนวน 10 ข้อ
นกั เรียนให้ความร่วมมอื ในการจดั การเรียนรู้ การปฏบิ ตั งิ านกลุ่ม
และการแสดงความคิดเหน็
นกั เรยี นใชแ้ ละเก็บรกั ษาชุดกจิ กรรมการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ เรอื่ ง
ไฟฟ้าและวงจรไฟฟ้า ด้วยความรบั ผดิ ชอบ ระมัดระวงั และไม่ทำสญู หาย
ครูศภุ ลักษณ์ เกดิ หนู
ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เร่ือง ไฟฟ้าและวงจรไฟฟ้า 3
สาระการเรียนรู้
ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง ไฟฟ้าและวงจรไฟฟา้ สำหรบั
นักเรียนช้ันประถมศึกษาปที ่ี 6 มีสาระการเรยี นรู้ ดงั น้ี
1. เรื่อง แรงไฟฟ้าและประจุไฟฟ้า ประกอบดว้ ย
1) ความรเู้ ร่อื งแรงไฟฟา้ และประจไุ ฟฟา้
2) คำถามประลองยทุ ธ์
3) สนกุ กับการทดลองท่ี 1 : การเกิดแรงไฟฟา้
4) สนุกกบั การทดลองท่ี 2 : ผลของแรงไฟฟ้า
2. เรื่อง วงจรไฟฟ้าอยา่ งงา่ ย ประกอบดว้ ย
1) ความร้เู รื่องวงจรไฟฟ้าอย่างงา่ ย
2) ฝึกสมองประลองความรู้
3) แบบฝกึ ทกั ษะที่ 1
4) สนกุ กบั การทดลองที่ 3 : แผนภาพวงจรไฟฟ้าอยา่ งง่ายเป็นอย่างไร
3. เร่ือง การตอ่ เซลลไ์ ฟฟ้า
1) ความรเู้ กี่ยวกบั การตอ่ เซลลไ์ ฟฟ้าแบบอนกุ รม
2) การทดลองที่ 4 : การตอ่ เซลล์ไฟฟ้าแบบอนุกรม
3) แบบฝึกทักษะที่ 2
4. เร่อื ง การต่อหลอดไฟฟา้
1) ความรูเ้ ร่อื งการต่อหลอดไฟฟ้าแบบอนุกรมและขนาน
2) สนกุ กบั การทดลองที่ 5 : การตอ่ เซลลไ์ ฟฟา้ แบบอนกุ รมและแบบขนาน
3) แบบฝึกทกั ษะที่ 3
ครูศุภลักษณ์ เกดิ หนู
ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ เรือ่ ง ไฟฟา้ และวงจรไฟฟา้ 4
มาตรฐานการเรยี นรู้
และตวั ชี้วัด
มาตรฐาน ว 2.2 เข้าใจธรรมชาติของแรงในชีวิตประจำวัน ผลของแรงที่กระทำตอ่ วตั ถุ
ลักษณะการเคลื่อนท่แี บบ ตา่ งๆ ของวตั ถุ รวมทั้งนำความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์
ตวั ชี้วดั
ว 2.2 ป.6/1 อธบิ ายการเกิดและผลของแรงไฟฟ้า ซง่ึ เกิดจากวัตถทุ ี่ผา่ นการขดั ถู โดยใช้
หลักฐานเชิงประจักษ์
มาตรฐาน ว 2.3 เข้าใจความหมายของพลงั งาน การเปลยี่ นแปลงและการถ่ายโอนพลังงาน
ปฏิสัมพันธร์ ะหว่างสสาร และพลังงาน พลงั งานในชีวิตประจาวัน ธรรมชาติของคล่ืน
ปรากฏการณท์ ่ีเก่ยี วข้องกบั เสียง แสง และคล่ืนแม่เหล็กไฟฟ้า รวมทง้ั นำความรูไ้ ปใช้ประโยชน์
ตัวชวี้ ดั
ว 2.3 ป.6/1 ระบสุ ่วนประกอบและบรรยายหนา้ ท่ีของแต่ละสว่ นประกอบของวงจรไฟฟ้า
ว 2.3 ป.6/2 อย่างงา่ ยจากหลกั ฐานเชิงประจักษ์
ว 2.3 ป.6/3 เขยี นแผนภาพและตอ่ วงจรไฟฟา้ อย่างงา่ ยได้
ว 2.3 ป.6/4 ออกแบบการทดลองและทดลองดว้ ยวธิ ที ีเ่ หมาะสมในการอธบิ ายวธิ กี ารและผล
ว 2.3 ป.6/5 ของการตอ่ เซลล์ไฟฟ้าแบบอนกุ รม
ว 2.3 ป.6/6 ตระหนักถงึ ประโยชน์ของความรขู้ องการตอ่ เซลลไ์ ฟฟา้ แบบอนกุ รมโดยบอก
ประโยชนก์ ารประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน
ออกแบบการทดลองและทดลองดว้ ยวธิ ที ี่เหมาะสมในการอธบิ ายการตอ่
หลอดไฟฟ้าแบบอนุกรมและแบบขนาน
ตระหนักถึงประโยชนข์ องความรู้ของการตอ่ หลอดไฟฟา้ แบบอนุกรมและ
แบบขนาน โดยบอกประโยชน์ และการประยุกต์ใชใ้ นชีวิตประจำวนั
ครศู ภุ ลกั ษณ์ เกิดหนู
ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ เร่ือง ไฟฟา้ และวงจรไฟฟ้า 5
แบบทดสอบก่อนเรยี น
เรื่อง ไฟฟา้ และวงจรไฟฟ้า
คำชแี้ จง 1. แบบทดสอบหลงั เรียนมี 10 ขอ้
2. ใหน้ ักเรียนเลอื กคำตอบทีถ่ กู ต้องทีส่ ดุ ตอบลงในสมุด
1. แรงไฟฟ้าเกิดขึ้นไดอ้ ยา่ งไร 4. แผนภาพขอ้ ใดแสดงสว่ นประกอบ
ก. นำวตั ถุบางชนิดทเ่ี ปียกขดั ถูกนั พน้ื ฐานของวงจรไฟฟ้าอยา่ งง่ายได้
ข. นำวตั ถุบางชนิดที่แห้งขดั ถกู ัน ครบถ้วน
ค. วางแมเ่ หลก็ ตา่ งขั้วไว้ใกลก้ นั
ง. วางแมเ่ หลก็ ข้ัวเดยี วไวใ้ กลก้ นั ก. ข.
ขณะท่ีเราหวีผมในวันท่ีมอี ากาศแห้ง เรา ค. ง.
รูส้ กึ ว่าเกิดแรงดึงดดู ระหว่างเส้นผมกับ
หวพี ลาสตกิ 5. ข้อใดเขียนแผนภาพของวงจรไฟฟ้าท่ี
แสดงในรูปได้ถูกตอ้ ง
2. คำอธบิ ายข้อใดไม่เกีย่ วข้องกับ
เหตุการณ์ดังกล่าว +-
ก. มกี ารถ่ายโอนประจุลบระหว่างหวี ก. ข.
กับเส้นผม ค. ง.
ข. เส้นผมกบั หวีมีประจุไฟฟ้าตา่ งชนดิ กนั
ค. มกี ารถ่ายโอนประจุบวกขณะหวีผม
ง. เกิดแรงไฟฟ้าระหว่างเส้นผมกับหวี
3.วตั ถุ A และวัตถุ B มปี ระจุไฟฟ้าเป็น
บวก เม่ือนำวัตถุ A และ B เข้าใกลก้ ัน
จะเกดิ แรงในข้อใด
ก. แรงสมั ผัส
ข. แรงดึงดูด
ค. แรงตงึ ผิว
ง. แรงผลัก
ครศู ภุ ลักษณ์ เกิดหนู
ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ เรื่อง ไฟฟ้าและวงจรไฟฟ้า 6
6. วตั ถุข้อใดทำหนา้ ทแี่ ทนสายไฟฟา้ ได้ 9. หากหลอดไฟฟ้าดวงที่ 5 ดับ ขอ้ ใด
ก. ไสด้ ินสอ ต่อไปนถี้ กู ต้อง
ข. ยางลบ
ค. ไม้บรรทดั พลาสตกิ ก. หลอดไฟฟ้าดวงที่ 1 และ 2 เท่านั้น
ง. ไมจ้ ้มิ ฟัน ทย่ี งั สว่างอยู่
7. ภาพใดที่หลอดไฟสว่างทส่ี ดุ ข. หลอดไฟฟ้าดวงท่ี 3 และ 4 เท่านั้น
ก. ภาพที่ 1 ที่ยงั สวา่ งอยู่
ข. ภาพที่ 2
ค. ภาพท่ี 3 ค. หลอดไฟฟ้าดวงท่ี 1 2 3 และ 4
ง. ภาพท่ี 2 และ 3 ทีย่ งั สว่างอยู่
8. ข้อใดกล่าวถงึ การตอ่ หลอดไฟฟ้าแบบ ง. หลอดไฟฟ้าดวงที่ 1 2 3 และ 4
อนุกรมได้ถกู ต้อง ดับทงั้ หมด
ก. เมื่อหลอดไฟฟ้าดวงหนงึ่ ชำรดุ หลอด 10. เราควรต่อเครอ่ื งใชไ้ ฟฟา้ ในบ้านแบบใด
ไฟฟ้าดวงอ่ืนจะดับดว้ ย ก. แบบอนกุ รม
ข. แบบขนาน
ข. ตอ้ งใช้อปุ กรณ์ในการตอ่ มากกวา่ ค. แบบผสม
แบบขนาน ง. แบบวงจรสลบั
ค. เลอื กเปดิ หลอดไฟฟ้าเฉพาะดวงที่
ต้องการใชไ้ ด้
ง. การตอ่ วงจรยุ่งยากกวา่ การตอ่
แบบขนาน
ครศู ุภลกั ษณ์ เกดิ หนู
ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ เรอ่ื ง ไฟฟ้าและวงจรไฟฟ้า 7
แรงไฟฟา้ และประจไุ ฟฟ้า
ตัวช้วี ดั
ว 2.2 ป.6/1 อธบิ ายการเกดิ และผลของแรง
ไฟฟา้ ซึ่งเกิดจากวตั ถุท่ีผา่ นการขดั ถู โดยใช้
หลกั ฐานเชงิ ประจักษ์
ชวนคดิ
ทีม่ า : https://www.scimath.org/images/2018/Article/July/8494/8494-2.jpg
จากภาพการเกิดปรากฏการณ์
ดังกล่าวเกิดจากอะไร?
ครูศุภลกั ษณ์ เกดิ หนู
ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ เร่ือง ไฟฟ้าและวงจรไฟฟา้ 8
นักเรียนคงเคยพบเหน็ ปรากฏการณเ์ กี่ยวกับ
ไฟฟ้าที่ทำให้เส้นผมของคนเราชี้ฟูได้มาแล้ว แท้จริงแล้ว
ปรากฏการณ์เชน่ นี้เกิดจากการทม่ี ีประจไุ ฟฟ้า
จำนวนมากสะสมอยภู่ ายในเสน้ ผม และประจไุ ฟฟ้าเหลา่ น้ี
ทำให้เกิดแรงผลกั ระหวา่ งเส้นผมแตล่ ะเส้นส่งผลให้
ผมของเราช้ีฟูไดน้ น่ั เอง
+ -ประจุไฟฟ้า Electrical charge
ในวัตถจุ ะมีประจไุ ฟฟ้าบวกกบั ประจุไฟฟา้ ลบนับลา้ นๆประจุ ถา้ จำนวนประจไุ ฟฟ้า
ท้งั สองชนดิ เท่ากนั หรือสมดุลกนั วัตถุน้นั จะอย่ใู นสภาพเป็นกลางทางไฟฟา้
- โดยวัตถุสามารถถ่ายโอนประจุไฟฟ้าลบกบั
วัตถุอื่นได้ หลังจากการถ่ายโอนประจุ วัตถุจะมี
จำนวนประจุไฟฟ้าบวก ลบ ในตัวเองไม่เท่ากัน
แ ล ะ จ ะ แ ส ด ง อ ำ น า จ ไ ฟ ฟ ้ า ต า ม ช น ิ ด ป ร ะ จ ุ ที่
มากกวา่
ทม่ี า https://www.pngarts.com/files/8/Red-
Balloons-PNG-Transparent-Image.png
วัตถุที่มีประจุไฟฟ้าลบมากกว่า ประจุ วัตถุที่ขาด ประจุไฟฟ้าลบจะแสดง
ไฟฟา้ บวกจะแสดง อำนาจไฟฟ้าบวก
อำนาจไฟฟา้ ลบ
ครศู ุภลักษณ์ เกิดหนู
ชดุ กจิ กรรมการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ เรือ่ ง ไฟฟา้ และวงจรไฟฟ้า 9
แรงไฟฟ้า Electric force
แรงไฟฟ้า คือ แรงที่เกิดขึ้นระหว่างประจุไฟฟ้าด้วยกัน มี 2 ชนิด คือ
แรงดูดและ แรงผลัก เกิดจากการนำวัตถุมาขัดถูกัน จนทำให้วัตถุเสียสมดุล
ของประจุไฟฟ้า และเกิดอำนาจไฟฟ้าหรือแรงไฟฟ้าขึ้น ซึ่งประจุไฟฟ้านั้นจะ
สะสมในวัตถุ เกิดแรงไฟฟ้าขึ้นบริเวณที่มีการขัดถูของวัตถุเท่านั้น เรียก
ปรากฏการณ์น้วี า่ ไฟฟา้ สถิต
ขอขอบคณุ ท่มี าของสอ่ื : ไฟฟา้ สถิต คืออะไร?
ชอ่ ง Ketchup Jo
https://www.youtube.com/watch?v=L3DFNgnivxE
เมื่อนำวัตถุที่มีประจุไฟฟ้าเข้าใกล้กันจะเกิดแรงไฟฟ้าซึ่งเป็นแรงกระทำ
ระหว่างประจุไฟฟ้า โดยวัตถุทั้งสองไม่จำเป็นต้องสัมผัสกัน แรงไฟฟ้าอาจเป็น
แรงดึงดดู หรอื แรงผลกั ก็ได้
ครศู ุภลกั ษณ์ เกิดหนู
ชดุ กจิ กรรมการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์ เรอื่ ง ไฟฟ้าและวงจรไฟฟ้า 10
ถา้ นำวัตถทุ ่ีมีประจุไฟฟา้ ต่างชนดิ เขา้ ใกลก้ นั จะเกิดแรงดงึ ดูดซึ่งกันและ
กัน แต่ถ้านำวัตถุท่ีมีประจุไฟฟ้าชนิดเดียวกันเข้าใกล้กันจะเกิดแรงผลักซึ่งกัน
และกนั
ประจุไฟฟ้าชนดิ เดียวกันเกิดแรงผลกั กนั ประจุไฟฟา้ ตา่ งชนิดกนั เกิดแรงดงึ ดดู กัน
การขดั ถูวัตถุชนิดเดยี วกนั ด้วยสิ่งเดียวกนั
จะทำใหเ้ กิดประจุไฟฟ้าชนิดเดียวกัน เกดิ แรงผลกั
ถลู ูกโป่งทง้ั 2 ใบ ด้วยผา้ แห้ง
การขัดถวู ัตถุชนิดเดยี วกนั ดว้ ยส่งิ ที่ตา่ งกัน
จะทำใหเ้ กิดประจุไฟฟ้าชนดิ ตา่ งกัน เกิดแรงดงึ ดดู ถูดว้ ยมือแห้ง ถดู ว้ ยผา้ แห้ง
นอกจากนี้เมื่อนำวัตถุที่มีประจุไฟฟ้า เข้าใกล้วัตถุที่มีสภาพเป็นกลางทาง
ไฟฟ้า จะเกดิ แรงไฟฟา้ ดงึ ดูด โดยวัตถุทมี่ ปี ระจุไฟฟ้าดึงดดู ประจไุ ฟฟ้าชนิดตรงข้าม
ของวตั ถทุ ่ีมสี ภาพเปน็ กลางทางไฟฟ้าให้มาอย่ใู กล้และผลักประจไุ ฟฟ้าชนิดเดียวกัน
ให้อยู่ไกล ทำให้วตั ถทุ ่ีมสี ภาพเป็นกลางทางไฟฟา้ เคล่ือนที่เข้าหาวัตถุที่มีประจุไฟฟ้า
ได้ดังรปู
ทม่ี า: สอ่ื 60 พรรษา สมเดจ็ พระเทพฯ
ครูศุภลักษณ์ เกดิ หนู
ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ เรอ่ื ง ไฟฟา้ และวงจรไฟฟา้ 11
ปจั จยั ท่ีส่งผลต่อการเกิดแรงไฟฟ้า
การเกิดแรงไฟฟ้าในชีวิตประจำวนั
ท่มี า: สอ่ื powerpoint บรษิ ทั อกั ษรเจรญิ ทัศน์
จากภาพ ปรากฏการณด์ ังกลา่ ว
เกดิ จากไฟฟา้ สถิตนั่นเองค่ะ
ครูศุภลกั ษณ์ เกดิ หนู
ชดุ กจิ กรรมการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์ เรือ่ ง ไฟฟา้ และวงจรไฟฟา้ 12
คำถามประลองยทุ ธ์
พิจารณาข้อความ แลว้ เตมิ ประจุ หรือ ในช่องวา่ งให้
ถูกตอ้ ง
1. ลูกโป่งมี 3 ประจบุ วก และ 5 ประจลุ บ ลูกโป่งน้มี ีอำนาจ
ไฟฟ้าเปน็
2. ลูกโปง่ ถา่ ยโอนประจุลบใหผ้ า้ ขนสตั ว์ ลกู โปง่ จะมอี ำนาจไฟฟา้
เป็น และผา้ ขนสตั ว์มอี ำนาจไฟฟา้ เปน็
3. ถา้ ประจบุ นแผน่ PVC เปน็ ลบ ออกแรงผลักแผน่ PVC อกี แผน่ ทม่ี ี
ประจุไฟฟ้าเป็น และออกแรงดงึ ดูดไมบ้ รรทดั พลาสติกท่มี ี
ประจเุ ปน็ 4.
4. วัตถุ A มีประจไุ ฟฟา้ เปน็ บวก สง่ แรงผลักกับวตั ถุ B แสดงว่า
วัตถุ B มปี ระจุไฟฟา้ เปน็
นำคำตอบมาคำนวณผลลัพธ์
ของตวั เลขปริศนากนั
91 20 14 8 23 6 41
เลขปรศิ นา คอื
ครูศุภลกั ษณ์ เกิดหนู
ชดุ กจิ กรรมการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์ เร่อื ง ไฟฟา้ และวงจรไฟฟ้า 13
สนกุ กับการทดลอง
การทดลองที่ 1 การเกดิ แรงไฟฟา้
จุดประสงค์ : ทดลองเพ่ืออธิบายการเกิดแรงไฟฟ้าเกดิ จากการนำวัตถมุ าขัดถกู ันได้
วัสด/ุ อุปกรณ์ 3. หลอดพลาสตกิ
1. ผา้ แห้ง 4. กระดาษช้ินเลก็ ๆ
2. ผา้ ชุบน้ำบดิ หมาด
ขนั้ ตอนการทดลอง
1. วางเศษกระดาษชิน้ เลก็ ๆ บนโต๊ะ แล้วใช้หลอดพลาสติกเข้าใกล้กับเศษ
กระดาษ สังเกตการเปลย่ี นแปลง บนั ทกึ ผล
2. ใช้ผ้าแห้ง ถูหลอดพลาสติกดา้ นหน่งึ หลาย ๆ ครัง้ แล้วนำไปเข้าใกล้
เศษกระดาษ สังเกตการเปลยี่ นแปลง บันทกึ ผล
3. ใช้ผ้าชบุ นำ้ บดิ หมาด ถูหลอดพลาสตกิ ดา้ นหนึง่ หลาย ๆ ครัง้ แล้วนำไป
เข้าใกล้เศษกระดาษ สังเกตการเปล่ยี นแปลง บันทกึ ผล
4. สรุปผลการทดลอง
ตัวแปรตน้ : ผ้าแห้ง ผา้ เปยี ก (ความชนื้ ของผ้า)
ตัวแปรตาม : ความสามารถในการดดู เศษกระดาษ (การเกดิ แรงไฟฟา้ )
ตวั แปรควบคุม : ชนิดหลอดพลาสติก จำนวนคร้งั ในการถผู ้ากับ
หลอดพลาสตกิ
ครศู ุภลักษณ์ เกดิ หนู
ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ เรอ่ื ง ไฟฟา้ และวงจรไฟฟ้า 14
การทดลอง เรื่อง การเกิดแรงไฟฟ้า
https://youtu.be/E16M0cw3h6g
ตารางบนั ทกึ ผลการทดลอง (การทดลองท่ี 1 การเกดิ แรงไฟฟ้า)
กิจกรรม ผลการทำกจิ กรรม
1. นำหลอดพลาสตกิ เข้าใกล้กระดาษ
2. ใชผ้ ้าแห้งถูหลอดพลาสติกหลายครงั้
แล้วนำเข้าใกล้เศษกระดาษ
3. ใช้ผา้ เปียกถูหลอดพลาสติกหลายครง้ั
แลว้ นำเข้าใกลเ้ ศษกระดาษ
สรปุ ผลการทดลอง
..................................................................................................................
..................................................................................................................
..................................................................................................................
..................................................................................................................
ครศู ุภลักษณ์ เกดิ หนู
ชดุ กจิ กรรมการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์ เร่ือง ไฟฟ้าและวงจรไฟฟา้ 15
สนกุ กบั การทดลอง
การทดลองที่ 2 ผลของแรงไฟฟา้
จุดประสงค์ : สังเกตและอธบิ ายแรงไฟฟ้าท่เี กิดจากการนำวัตถุมาขัดถูกันได้
วสั ด/ุ อุปกรณ์ 3. ผ้าแห้งหรือผ้าสักหลาด
1. หลอดพลาสตกิ 4. กระป๋องพลาสติก
2. ลูกโป่ง
ขนั้ ตอนการทดลอง
1. นักเรียนแบ่งกลุ่ม แต่ละกลุ่มรว่ มกนั
นำผ้าแห้งถูกบั หลอดพลาสติกแล้วนำ
ไปวางบนกระปอ๋ งพลาสติก
2. นำผ้าแหง้ ขดั ถูกบั หลอดพลาสตกิ
อกี 1 หลอดแล้วนำเข้าใกลห้ ลอดท่ี
วางบนแก้ว สังเกตการเปลย่ี นแปลง
และบนั ทึกผล
3. ทำช้ำข้อ 1-2 แต่เปลยี่ นเปน็ หลอดพลาสตกิ กบั ลกู โปง่ และลกู โป่งกับลกู โปง่
สังเกตการเปลย่ี นแปลง บนั ทึกผล
4. ตอบคำถามหลังทำกจิ กรรม
ครูศภุ ลักษณ์ เกดิ หนู
ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ เรอ่ื ง ไฟฟา้ และวงจรไฟฟ้า 16
ตัวแปรต้น : ประจุไฟฟา้ ในวตั ถแุ ตล่ ะชนดิ
ตัวแปรตาม : ลักษณะของแรงไฟฟา้ ท่ีเกิดขนึ้ เมื่อนำวตั ถทุ มี่ ีประจไุ ฟฟ้า
ตา่ งกันและเหมือนกนั เข้าใกลก้ นั
ตัวแปรควบคมุ : แก้วพลาสตกิ ผา้ แหง้ จำนวนคร้ังในการถผู ้า
การทดลอง เรื่อง ผลของแรงไฟฟ้า
https://youtu.be/ZILFW6yStlc
บนั ทึกผลการทดลอง การทดลองท่ี 2 ผลของแรงไฟฟ้า
ตาราง ลักษณะของแรงไฟฟา้ ทเ่ี กดิ ขึ้นเมือ่ นำวัตถุที่มปี ระจไุ ฟฟา้ ต่างกนั และ
เหมอื นกันเขา้ ใกลก้ นั (✓ลกั ษณะของแรงไฟฟา้ ท่ีสงั เกตเหน็ )
วัตถุทีน่ ำมาทดสอบ แรงดึงดูด แรงผลกั ไม่มแี รงกระทำ
1. หลอดพลาสตกิ กบั
หลอดพลาสติก
2. หลอดพลาสติกกบั
ลกู โป่ง
3. ลกู โปง่ กับลกู โป่ง
ครูศภุ ลักษณ์ เกดิ หนู
ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์ เรื่อง ไฟฟา้ และวงจรไฟฟ้า 17
ตอบคำถามหลงั ทำกิจกรรม
1. วตั ถุทม่ี ปี ระจุไฟฟ้าชนดิ เดียวกัน แรงไฟฟ้าจะเป็นอยา่ งไร
ตอบ..........................................................................................................
2. วตั ถุทีม่ ปี ระจุไฟฟ้าต่างชนิดกัน แรงไฟฟ้าจะเป็นอย่างไร
ตอบ..........................................................................................................
3. สรุปผลการทดลองไดว้ ่าอย่างไร
ตอบ..........................................................................................................
.................................................................................................................
.................................................................................................................
การขัดถูวตั ถุชนิดเดียวกัน ดว้ ยสงิ่ เดียวกัน
ทำใหไ้ ด้ประจไุ ฟฟา้ ชนิดเดยี วกัน เกดิ แรงผลัก
การขัดถวู ัตถุชนิดเดยี วกัน ด้วยสงิ่ ต่างกัน
ทำให้ไดป้ ระจุไฟฟา้ ต่างกัน เกิดแรงดึงดูด
เม่ือถูวัตถตุ า่ งชนดิ กันชนดิ ดว้ ยสง่ิ เดียวกัน เกิดการถ่ายโอนประจุ
อาจทำใหว้ ตั ถุ 2 ชนดิ น้นั มีประจไุ ฟฟ้าทต่ี ่างกัน หรือเหมือนกันก็ได้
1.........................................................................ช้นั ..............เลขที่..........
2.........................................................................ชน้ั ..............เลขท่ี..........
3.........................................................................ชัน้ ..............เลขที.่ .........
4.........................................................................ช้นั ..............เลขท่ี..........
5.........................................................................ช้นั ..............เลขท.ี่ .........
ครศู ุภลกั ษณ์ เกดิ หนู
ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง ไฟฟ้าและวงจรไฟฟา้ 18
2.วงจรไฟฟา้ อยา่ งง่าย
นอกจากประจุไฟฟ้าจะทำให้เกิดแรงทาง ตวั ช้วี ดั
ไฟฟ้าได้แล้ว เมื่อประจุไฟฟ้าเกิดการเคลื่อนที่จะ ว 2.3 ป.6/1 ระบุสว่ นประกอบและ
ทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า กระแสไฟฟ้า (electric บรรยายหนา้ ท่ขี องแตล่ ะสว่ นประกอบ
current ) โดยกระแสไฟฟา้ น้เี องท่ีทำให้เราสามารถ ของวงจรไฟฟา้ อยา่ งงา่ ยจากหลกั ฐาน
ใชป้ ระโยชน์จากพลงั งานไฟฟา้ ในชวี ติ ประจำวนั ได้ เชิงประจกั ษ์
ว 2.3 ป.6/2 เขียนแผนภาพและตอ่
วงจรไฟฟ้าอย่างง่ายได้
วงจรไฟฟ้า เป็นเสน้ ทางทกี่ ระแสไฟฟา้ ไหลมาจากแหลง่ กำเนิดไฟฟา้
ผ่านตัวนำไฟฟา้ และอปุ กรณไ์ ฟฟ้า แลว้ ไหลกลบั สแู่ หล่งกำเนดิ ไฟฟ้าเดมิ ได้
ครบวงจร
วงจรไฟฟ้าอย่างงา่ ยประกอบดว้ ย 3 ส่วนสำคัญ ดังน้ี
2 3
สายไฟฟา้ เครอื่ งใชไ้ ฟฟา้
ทำหน้าที่เชอ่ื มตอ่ ระหว่าง ทำหน้าท่ีเปลย่ี น
แหล่งกำเนดิ ไฟฟ้ากับ พลังงานไฟฟ้า
อปุ กรณไ์ ฟฟา้ เข้าดว้ ยกัน ไปเป็นพลงั งาน
รูปแบบต่าง ๆ
1 แหลง่ กำเนิดไฟฟา้
ทำหน้าทใ่ี ห้พลังงานไฟฟา้
ครศู ุภลักษณ์ เกดิ หนู
ชดุ กจิ กรรมการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์ เรอ่ื ง ไฟฟ้าและวงจรไฟฟา้ 19
สายไฟทำจากวัสดุท่ียอมใหก้ ระแสไฟฟ้า
ผา่ นได้ เรียกว่า ตวั นำไฟฟ้า เพอ่ื ให้
กระแสไฟฟ้าสามารถไหลผ่านในวงจรได้
เปลือกหมุ้ สายไฟทำจากวสั ดทุ ไี่ มย่ อมให้
กระแสไฟฟ้าไหลผา่ น เรยี กว่า ฉนวนไฟฟ้า
เพ่ือป้องกันไม่ใหก้ ระแสไฟฟ้าไหลมาสมู่ ือ
ในขณะจบั สายไฟ
วัสดุแต่ละชนิดมสี มบัติการนำ
ไฟฟา้ ท่แี ตกต่างกัน วสั ดชุ นดิ
ใดบ้างเป็นตวั นำไฟฟ้า และวัสดุ
ชนดิ ใดบ้างเป็นฉนวนไฟฟา้ ?
วัสดทุ ี่เป็นตัวนำไฟฟ้า วัสดทุ ี่เป็นฉนวนไฟฟา้
เช่น เงิน ทองแดง อะลูมเิ นียม เชน่ ยาง ผ้า แกว้ พลาสตกิ
ครศู ภุ ลกั ษณ์ เกิดหนู
ชดุ กจิ กรรมการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์ เร่อื ง ไฟฟ้าและวงจรไฟฟา้ 20
การต่อวงจรไฟฟา้ อย่างง่าย
เมื่อเราตอ่ วงจรไฟฟ้า จะเกดิ
กระแสไฟฟ้าไหลจากขว้ั บวก
ไปยงั ขัว้ ลบของเซลล์ไฟฟ้า
เมื่อต่อวงจรไฟฟา้ จะมีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านในวงจร โดยมีสวิตช์ทำหน้าท่ี
เปิด-ปดิ กระแสไฟฟา้ ในวงจร
หากตอ่ วงจรไฟฟา้ ครบวงจร หากตอ่ วงจรไฟฟา้ ไม่ครบวงจร โดย
กระแสไฟฟา้ ไหลผ่านได้ครบ และ ปลดสายไฟฟ้าเส้นใดเส้นหน่งึ ออกหรือ
เครื่องใช้ไฟฟา้ สามารถทำงานได้จะ ยกสวิตชข์ น้ึ และเครื่องใช้ ไฟฟา้ ไม่
เรียกว่า วงจรปิด สามารถทำงานได้จะเรียกว่า วงจรเปิด
ครูศภุ ลักษณ์ เกดิ หนู
ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ เรือ่ ง ไฟฟา้ และวงจรไฟฟ้า 21
ฝกึ สมอง กลมุ่ ท่ี......
ประลองความรู้ ภาพวงจรไฟฟา้ ต่อไปน้ี
เปน็ วงจรปดิ หรือวงจรเปิดกนั นะ
วงจรปิด
วงจรเปดิ
วงจรปิด วงจรปดิ
วงจรเปิด วงจรเปิด
วงจรปิด วงจรปิด
วงจรเปิด วงจรเปดิ
off วงจรปิด
on วงจรเปดิ
ครศู ภุ ลักษณ์ เกิดหนู
ชดุ กจิ กรรมการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ เรอื่ ง ไฟฟา้ และวงจรไฟฟา้ 22
เพอ่ื ความสะดวกในการเขียนวงจรไฟฟ้าทมี่ คี วามซบั ซ้อน เราสามารถใช้การเขียน
ภาพแทนการวาดรูป โดยนกั วทิ ยาศาสตร์ได้มกี ารกำหนดสัญลักษณท์ ่ีใช้เขียนแทน
อปุ กรณ์ตา่ ง ๆ ในวงจรไฟฟา้ ไวด้ ังน้ี
อุปกรณ์ไฟฟา้ สัญลักษณ์ อปุ กรณไ์ ฟฟ้า สญั ลักษณ์
1 เซลล์ M
หลายเซลล์
เซลล์ไฟฟ้า มอเตอร์ไฟฟา้
สายไฟฟา้ หรือ ออดไฟฟา้ ปดิ
หลอดไฟฟา้ สวิตช์ เปิด
มาสนกุ กับเกม !
สัญลักษณ์อุปกรณ์ไฟฟ้า
ทมี่ า : หนังสอื เรยี นวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี https://wordwall.net/
ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 6 บริษทั เลิรน์ เอ็ดดเู คชนั่ จำกดั play/20835/448/6532
ครศู ภุ ลกั ษณ์ เกดิ หนู
ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์ เร่อื ง ไฟฟา้ และวงจรไฟฟา้ 23
1. เขียนแผนภาพวงจรไฟฟ้าจากรูปที่กำหนดให้
2. ตอบคำถามต่อไปนี้
1. วงจรไฟฟา้ แบบวงจรปดิ และวงจรเปดิ มลี กั ษณะแตกตา่ งกนั อย่างไร
ตอบ..........................................................................................................
.................................................................................................................
................................................................................................................
2. แผนภาพขอ้ ใดแสดงส่วนประกอบพื้นฐานของวงจรไฟฟา้ อย่างง่ายได้ครบถว้ น
ช่ือ- สกุล.........................................................................ช้นั ..............เลขท่.ี .........
ครูศภุ ลกั ษณ์ เกดิ หนู
ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ เรือ่ ง ไฟฟ้าและวงจรไฟฟ้า 24
สนกุ กบั การทดลอง
การทดลองท่ี 3 แผนภาพของวงจรไฟฟา้ อยา่ งง่ายเป็นอย่างไร
จดุ ประสงค์ : เขียนแผนภาพวงจรไฟฟ้าอย่างงา่ ย
วสั ด/ุ อปุ กรณ์ 3. ออดไฟฟา้
1. หลอดไฟ 4. กระบะใสถ่ ่านไฟฉาย
2. ถ่านไฟฉาย 6. สายไฟ
3. มอเตอรต์ ดิ ใบพดั
ขัน้ ตอนการทดลอง
1. ต่อวงจรไฟฟ้าอยา่ งง่าย โดยใชอ้ ปุ กรณต์ า่ งๆ
1.1 วงจรไฟฟ้าทที่ ำให้หลอดไฟสวา่ ง
1.2 วงจรไฟฟ้าทีท่ ำให้มอเตอรต์ ดิ ใบพัดทำงาน
1.3 วงจรไฟฟ้าทท่ี ำใหอ้ อดไฟฟ้าดงั
2. เขยี นแผนภาพวงจรไฟฟา้ อย่างงา่ ยของแตล่ ะวงจร โดยใชส้ ญั ลกั ษณ์
แทนอปุ กรณไ์ ฟฟ้าตา่ ง ๆ
3. ตอบคำถามหลงั ทำกจิ กรรม
การทดลอง เรื่อง แผนภาพของวงจรไฟฟ้าอย่างง่ายเป็นอย่างไร
https://youtu.be/toBECHV3ASM
ครูศภุ ลกั ษณ์ เกดิ หนู
ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เร่ือง ไฟฟา้ และวงจรไฟฟา้ 25
บันทึกผลการทดลอง การทดลองท่ี 3 แผนภาพของวงจรไฟฟ้าอย่างง่ายเป็นอย่างไร
การทดลอง แผนภาพวงจรไฟฟ้าอย่างง่าย
1. วงจรไฟฟ้าที่ทำใหห้ ลอดไฟสวา่ ง
2. วงจรไฟฟ้าทท่ี ำให้มอเตอร์ติด ใบพัดหมนุ
3. วงจรไฟฟา้ ท่ีทำให้ออดไฟฟ้าดงั
ตอบคำถามหลังทำกิจกรรม
1. วงจรไฟฟ้า คอื อะไร
ตอบ..............................................................................................................................
2. วงจรไฟฟ้าอย่างงา่ ยที่ทำให้หลอดไฟฟ้าสว่างได้ประกอบด้วยอะไรบ้าง
ตอบ.............................................................................................................................
3. วงจรไฟฟา้ ท่ที ำให้ไฟฟา้ ไหลครบวงจร อปุ กรณ์ไฟฟ้าทำงาน เป็น
⃝ วงจรเปดิ ⃝ วงจรปิด
4. การเขียนแผนภาพวงจรไฟฟ้าอย่างง่ายมปี ระโยชนอ์ ยา่ งไร
ตอบ............................................................................................................................
...................................................................................................................................
1.........................................................................ช้นั ..............เลขท.่ี .........
2.........................................................................ช้นั ..............เลขท.ี่ .........
3.........................................................................ชัน้ ..............เลขที.่ .........
4.........................................................................ชนั้ ..............เลขที่..........
5.........................................................................ช้ัน..............เลขท่.ี .........
ครศู ุภลักษณ์ เกดิ หนู
ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ เรื่อง ไฟฟ้าและวงจรไฟฟ้า 26
3. การต่อเซลลไ์ ฟฟ้า
ตวั ชวี้ ัด
ว 2.3 ป.6/3 ออกแบบการทดลองและทดลองดว้ ยวิธที ีเ่ หมาะสม
ในการอธบิ ายวธิ กี ารและผลของการต่อเซลลไ์ ฟฟา้
แบบอนุกรม
ว 2.3 ป.6/4 ตระหนกั ถึงประโยชนข์ องความรขู้ องการตอ่
เซลล์ไฟฟ้าแบบอนุกรมโดยบอกประโยชน์
การประยกุ ตใ์ ช้ในชวี ิตประจำวัน
ครูศภุ ลักษณ์ เกิดหนู
ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรอ่ื ง ไฟฟ้าและวงจรไฟฟา้ 27
เซลล ์ ไฟฟ ้ า ค ื อ แหล ่ งกำเนิ ด เซลล์ไฟฟ้าทพ่ี บเห็นในชวี ิตประจำวนั
กระแสไฟฟ้าหรือแหล่งจา่ ยกระแสไฟฟา้ แบบ
หนึ่งที่ใช้ปฏิกิริยาเคมีทำให้เกิดกระแสไฟฟ้า
ได้ ตัวอย่างของเซลล์ไฟฟ้าที่เราพบเห็นได้
บอ่ ยท่สี ดุ ก็คอื ถ่านไฟฉาย น่นั เอง
ในเซลล์ไฟฟา้ ทุกแบบต้องมีขั้วบวก (+) และขัว้ ลบ (-)
เมือ่ เราตอ่ วงจรไฟฟ้า จะเกดิ
กระแสไฟฟ้าไหลจากขั้วบวก
ไปยังข้ัวลบของเซลลไ์ ฟฟา้
ถ่านไฟฉาย 1 ก้อน = เซลลไ์ ฟฟ้า 1 เซลล์
เซลล์ไฟฟ้าหลาย ๆ เซลล์ ที่ต่อเข้ากันเรียกว่า แบตเตอร่ี
ที่มา : สื่อพระเทพ 60 พรรษา วชิ าวทิ ยาศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 6
ครูศภุ ลักษณ์ เกดิ หนู
ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรูว้ ทิ ยาศาสตร์ เร่ือง ไฟฟา้ และวงจรไฟฟา้ 28
การต่อเซลล์ไฟฟ้าแบบอนุกรม คือ การนำเซลล์ไฟฟ้า หลาย ๆ เซลล์ มาเรียง
ต่อกันเพียงแถวเดียวทำให้กระแสไฟฟ้าเดินไปทิศทางเดียว โดยให้ขั้วบวกของเซลล์ไฟฟ้า
เซลล์หนึ่งต่อกับขั้วลบของอีกเซลล์หน่ึงเรียงกันไปเรื่อย ๆ ช่วยเพิ่มความความต่างศักย์
(โวลต์) หรอื แรงดนั ไฟฟ้า ทำใหม้ ีกระแสไฟฟ้าในวงจรมากข้นึ
ในกรณีที่ต่อหลอดไฟฟ้า โดยใช้ถ่านไฟฉายหลายก้อนจะส่งผลให้หลอดไฟมีความ
สว่างมากขึ้น
ทม่ี า : หนังสือเรยี นวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 6 บริษทั เลิรน์ เอด็ ดเู คชน่ั
จำกัด
- - +- +
+
แบบท่ี 2
+- แบบที่ 1
แบบที่ 1 และ 2 เป็นการต่อเซลล์ไฟฟ้าแบบอนุกรมเหมือนกัน
แบบที่ 1 นำเซลล์ไฟฟ้าใส่กระบะหรือรางถ่าน ช่วยให้เกิดความสะดวก
และประหยดั พน้ื ที่ในการต่อเซลล์ไฟฟา้ คะ่
ครศู ุภลักษณ์ เกิดหนู
ชดุ กิจกรรมการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ เร่ือง ไฟฟา้ และวงจรไฟฟ้า 29
การประยกุ ตใ์ ช้ เราสามารถนำความรู้เกี่ยวกบั การต่อเซลล์ไฟฟา้ แบบอนุกรม
ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ เนื่องจากมีอุปกรณ์ไฟฟ้าหรือเครื่องใช้ไฟฟ้า
ตา่ ง ๆ ที่ต้องใชเ้ ซลล์ไฟฟา้ หลายเซลลต์ อ่ เข้าดว้ ยกัน จึงจะทำงานได้ เชน่
นอกจากการต่อเซลลไ์ ฟฟ้าแบบอนกุ รมแลว้ ยงั มกี ารตอ่
เซลล์ไฟฟา้ อีกแบบหนงึ่ เรียกว่า การตอ่ เซลลไ์ ฟฟ้าแบบขนาน
เปน็ การนำเซลล์ไฟฟ้ามาวางขนานกัน โดยขว้ั บวกแตล่ ะกอ้ นต่อ
เขา้ ดว้ ยกนั และขั้วลบแต่ละก้อนตอ่ เข้าด้วยกนั แล้วจึงต่อเขา้ กบั
วงจรไฟฟ้า ดงั ภาพ
ซงึ่ การต่อเซลล์ไฟฟ้าแบบขนาน ไมช่ ่วยให้จ่ายพลงั งานไฟฟ้าไดม้ าก
ข้นึ แตจ่ ะทำให้เซลล์ไฟฟา้ มีอายกุ ารใช้งานนานขึ้น
ครูศภุ ลกั ษณ์ เกดิ หนู
ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง ไฟฟา้ และวงจรไฟฟ้า 30
สนุกกับการทดลอง
การทดลองท่ี 4 การต่อเซลลไ์ ฟฟ้าแบบอนกุ รม
จุดประสงค์ : ออกแบบการทดลองและทดลองเพ่ืออธิบายวิธีการและผลของการต่อ
เซลล์ไฟฟ้าแบบอนกุ รม
ปญั หา : จำนวนถา่ นไฟฉายทีเ่ รยี งตอ่ กันมคี วามสัมพันธ์กับความสวา่ งของหลอดไฟอย่างไร
วัสด/ุ อปุ กรณ์
1. หลอดไฟ LED 4. กระบะใสถ่ ่านไฟฉาย
2. ถา่ นไฟฉาย AA 4 กอ้ น 5. สวติ ช์
3. สายไฟพร้อมหัวหนีบปากจระเข้
ขัน้ ตอนการทดลอง
1. ให้นกั เรยี นแบ่งกลุ่ม กลมุ่ ละ 4-5 คน
2.ต้ังสมมติฐานเก่ียวกับความสมั พันธ์ของจำนวนถ่านไฟฉายที่เรียงตอ่ กัน
กับความสว่างของหลอดไฟฟา้ พรอ้ มกำหนดตวั แปรในการทดลองแล้ว
บันทกึ ผล
3. แต่ละกลมุ่ ชว่ ยกนั ออกแบบการทดลอง โดยเขยี นแผนภาพวงจรไฟฟ้า
อย่างง่ายที่ใชถ้ ่านไฟฉาย 1, 2, 3 และ 4 ก้อน เพ่ือตรวจสอบสมมติฐาน
4. ทดลองต่อวงจรตามแผนภาพ สงั เกตความสวา่ งของหลอดไฟ
แล้วบันทึกผล
การทดลอง เรอ่ื ง การตอ่ เซลล์ไฟฟ้าแบบอนุกรม
ครศู ภุ ลกั ษณ์ เกดิ หนู
ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ เร่อื ง ไฟฟา้ และวงจรไฟฟ้า 31
การทดลอง เรื่อง การต่อเซลลไ์ ฟฟา้ แบบอนุกรม
ปญั หา : จำนวนถ่านไฟฉายทีเ่ รยี งต่อกนั มีความสัมพนั ธก์ บั ความสวา่ งของหลอดไฟอยา่ งไร
สมมติฐาน : ..........................................................................................................................
...................................................................................................................................................
ตัวแปรต้น : ..........................................................................................................................
...................................................................................................................................................
ตวั แปรตาม : .........................................................................................................................
...................................................................................................................................................
ตวั ควบคุม : ............................................................................................................................
...................................................................................................................................................
https://st4.depositphotos.com/1642684/31286/v/600/de
positphotos_312865182-stock-illustration-simple-
electric-circuit-experiment-for.jpg
ครศู ภุ ลักษณ์ เกดิ หนู
ชดุ กจิ กรรมการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ เรื่อง ไฟฟา้ และวงจรไฟฟา้ 32
ออกแบบและบนั ทึกผลการทดลอง
การทดลองที่ 4 การตอ่ เซลล์ไฟฟา้ แบบอนุกรม
กิจกรรมการต่อ แผนภาพวงจรไฟฟ้า ผลการสงั เกต
เซลลไ์ ฟฟ้า ความสว่าง
ของหลอดไฟ
แบบที่ 1
ใชเ้ ซลลไ์ ฟฟ้า 1 ก้อน
แบบท่ี 2
ใชเ้ ซลลไ์ ฟฟ้า 2 กอ้ น
แบบท่ี 3
ใช้เซลลไ์ ฟฟ้า 3 กอ้ น
แบบท่ี 4
ใชเ้ ซลล์ไฟฟ้า 4 กอ้ น
ใสห่ มายเลขแสดงระดับความสว่างของหลอดไฟ
1 = สว่างเล็กนอ้ ย 3 = สวา่ งมาก
2 = สว่างปานกลาง 4 = สวา่ งมากที่สดุ
ครูศภุ ลกั ษณ์ เกิดหนู
ชดุ กจิ กรรมการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์ เรือ่ ง ไฟฟ้าและวงจรไฟฟา้ 33
ตอบคำถามหลงั ทำกิจกรรม
1. การต่อเซลล์ไฟฟ้าแบบใดทท่ี ำให้หลอดไฟสวา่ งมากท่สี ดุ มีลกั ษณะอย่างไร
และเราเรยี กการต่อเซลลไ์ ฟฟ้าแบบนวี้ า่ อยา่ งไร
ตอบ..........................................................................................................
2. หลอดไฟฟ้าในวงจรไฟฟา้ แบบใด ทีม่ ีกระแสไฟฟา้ มากท่ีสุด ทราบได้อยา่ งไร
ตอบ..........................................................................................................
3. ถา้ ตอ้ งการใหห้ ลอดไฟฟา้ สว่างมากข้ึนอีก จะมวี ิธกี ารอยา่ งไร
ตอบ..........................................................................................................
4. สรปุ ผลการทดลองไดว้ ่าอยา่ งไร
ตอบ..........................................................................................................
.................................................................................................................
.................................................................................................................
1.........................................................................ชน้ั ..............เลขท่.ี .........
2.........................................................................ชน้ั ..............เลขท่ี..........
3.........................................................................ชั้น..............เลขที.่ .........
4.........................................................................ช้นั ..............เลขท่ี..........
5.........................................................................ช้ัน..............เลขที่..........
ครูศุภลักษณ์ เกดิ หนู
ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ เรื่อง ไฟฟ้าและวงจรไฟฟ้า 34
1. สังเกตภาพแลว้ ตอบคำถาม
+ -+ -+ -
1.1 จากภาพวงจรใดทีห่ ลอดไฟฟ้ามคี วามสว่างมากทส่ี ุด เพราะเหตใุ ด
ตอบ.........................................................................................................................
1.2 เขียนแผนภาพการตอ่ เซลล์ไฟฟา้ ใหถ้ ูกตอ้ ง
12 3
2. ดภู าพแล้วตอบคำถามต่อไปนี้
2.1 จากภาพเป็นการตอ่ เซลลไ์ ฟฟา้ แบบอนกุ รมหรอื ไม่
เพราะเหตใุ ด ตอบ .......................................................
........................................................................................
2.2 ยกตวั อยา่ งการต่อเซลลไ์ ฟฟ้าแบบอนุกรมท่พี บใน
ชีวิตประจำวันมาอย่างนอ้ ย 2 ตวั อย่าง
ตอบ ..............................................................................
ชอื่ - สกลุ .........................................................................ชั้น..............เลขท.ี่ .........
ครูศุภลักษณ์ เกดิ หนู
ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ เรื่อง ไฟฟา้ และวงจรไฟฟ้า 35
4. การตอ่ หลอดไฟฟา้
ตวั ชวี้ ดั
ว 2.3 ป.6/5 ออกแบบการทดลองและทดลองด้วยวิธที เี่ หมาะสม
ในการอธิบายการตอ่ หลอดไฟฟา้ แบบอนุกรมและ
แบบขนาน
ว 2.3 ป.6/6 ตระหนกั ถงึ ประโยชนข์ องความรขู้ องการตอ่
หลอดไฟฟา้ แบบอนกุ รมและแบบขนาน โดยบอก
ประโยชน์ และการประยุกต์ใชใ้ นชีวติ ประจำวนั
ครศู ภุ ลกั ษณ์ เกิดหนู
ชดุ กจิ กรรมการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์ เร่อื ง ไฟฟ้าและวงจรไฟฟา้ 36
แบบที่ 1 การต่อหลอดไฟฟา้ แบบอนกุ รม
คือ การต่อหลอดไฟฟ้าแบบเรียงต่อกนั
แบบท่ี 2 การต่อหลอดไฟฟา้ แบบขนาน
คือ การตอ่ หลอดไฟฟา้ แตล่ ะดวงครอ่ มกนั
เพ่ือศึกษาวิธกี าร และผลของ
การตอ่ หลอดไฟฟา้ ทงั้ 2 แบบ
มาทำการทดลองสนุก ๆ กันคะ่
ครศู ุภลักษณ์ เกิดหนู
ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรูว้ ทิ ยาศาสตร์ เรือ่ ง ไฟฟา้ และวงจรไฟฟ้า 37
สนกุ กบั การทดลอง
การทดลองท่ี 5 การตอ่ หลอดไฟฟ้าแบบอนุกรมและแบบขนาน
จุดประสงค์
1. ทดลองและอธบิ ายการต่อหลอดไฟฟ้าแบบอนุกรมและแบบขนาน พร้อมทัง้ เขยี นแผนภาพ
วงจรไฟฟ้าได้
2. อภิปรายและอธิบายความแตกต่างระหว่างการตอ่ หลอดไฟฟ้าแบบอนุกรมและขนานได้
วสั ด/ุ อุปกรณ์
1. หลอดไฟฟ้า LED จำนวน 3 หลอด 3. แผน่ อลูมเิ นยี มฟอยล์
2. ถา่ นไฟฟ้า 9V จำนวน 1 ก้อน 4. แป้งโดว์
ขน้ั ตอนการทดลอง
ตอนท่ี 1
1. แบง่ กลุม่ กลุม่ ละ 4-5 คน แต่ละกลุ่มร่วมกนั หาวิธกี ารต่อหลอดไฟฟา้ 2 หลอด
แบบอนกุ รม โดยเลอื กอปุ กรณท์ ่ีกำหนดให้ และทำให้หลอดไฟฟ้าทกุ หลอดสว่าง
2. เขยี นแผนภาพการตอ่ หลอดไฟฟา้ แบบอนุกรม ท่ีทำให้หลอดไฟสวา่ งทั้ง 2 ดวง บันทกึ ผล
3. ทำการทดลองตามข้อ 1-2 โดยเปล่ียนเปน็ การต่อหลอดไฟฟ้าเป็นแบบขนาน
ตอนที่ 2
1. ต่อหลอดไฟฟ้าแบบอนุกรมเหมือนตอนท่ี 1 แต่เพมิ่ จำนวนหลอดไฟฟ้าอกี 1 หลอด
ในวงจร สงั เกตความสวา่ งของหลอดไฟท้งั 3 หลอด บนั ทึกผล
2. ถอดหลอดไฟฟ้าในวงจรออก 1 ดวง หลอดไฟฟ้าทเี่ หลือจะเป็นอย่างไร
จากนั้นบันทกึ ผล
3. ทำกิจกรรมตามข้อ 1-2 แตเ่ ปลย่ี นเปน็ การต่อหลอดไฟฟ้าแบบขนาน
สังเกตแลว้ บันทึกผล
4. ตอบคำถามหลงั ทำกจิ กรรม
5. แตล่ ะกลุ่มนำเสนอผลการทดลอง
ครศู ภุ ลักษณ์ เกดิ หนู
ชดุ กิจกรรมการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์ เรอื่ ง ไฟฟ้าและวงจรไฟฟา้ 38
การทดลองท่ี 5 การต่อหลอดไฟฟา้ แบบอนกุ รมและแบบขนาน
ตอนท่ี 1 ออกแบบการต่อหลอดไฟฟ้าแบบอนกุ รมและแบบขนาน
วิธกี ารต่อหลอดไฟ แผนภาพการตอ่ หลอดไฟ
แบบอนุกรม
แบบขนาน
ตอนท่ี 2 สงั เกตความสว่างของหลอดไฟฟ้า ท่ีตอ่ แบบแบบอนุกรมและแบบขนาน
วธิ กี ารต่อ ความสวา่ งของหลอดไฟเม่ือ
หลอดไฟ
แบบอนุกรม เพมิ่ หลอดไฟในวงจร 1 หลอด ถอดหลอดไฟออก 1 ดวง
แบบขนาน หลอดไฟทุกดวง หลอดท่ีเหลอื
⃝ สว่างเทา่ กัน ⃝ สว่าง
⃝ สว่างไม่เท่ากัน ⃝ ไม่สว่าง
⃝ ความสวา่ งแต่ละหลอดคอ่ ยๆ ลดลง
⃝ ความสว่างแต่ละหลอดเทา่ เดมิ
หลอดไฟทุกดวง หลอดที่เหลือ
⃝ สว่างเท่ากัน ⃝ สว่าง
⃝ สว่างไม่เท่ากนั ⃝ ไม่สว่าง
⃝ ความสว่างแต่ละหลอดค่อยๆ ลดลง
⃝ ความสว่างแตล่ ะหลอดเท่าเดิม
ครูศภุ ลกั ษณ์ เกิดหนู
ชดุ กิจกรรมการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ เรอื่ ง ไฟฟ้าและวงจรไฟฟา้ 39
ตอบคำถามหลงั ทำกจิ กรรม
1. การต่อหลอดไฟฟ้าแบบอนกุ รม และแบบขนาน แบบใดใหค้ วามสว่างของหลอดไฟ
มากกวา่ กัน
ตอบ...........................................................................................................................
2. การต่อหลอดไฟแบบอนุกรม ถ้าถอดหลอดไฟฟา้ ออก 1 หลอด ผลจะเป็นอย่างไร
เพราะเหตใุ ด
ตอบ............................................................................................................................
...........................................................................................................................
3. การต่อหลอดไฟแบบขนาน ถา้ ถอดหลอดไฟฟ้าออก 1 หลอด ผลจะเปน็ อย่างไร
เพราะเหตใุ ด
ตอบ............................................................................................................................
...........................................................................................................................
4. สรุปผลการทดลองไดว้ า่ อย่างไร
ตอบ........................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
5. นักเรียนคิดวา่ หลอดไฟทใ่ี หแ้ สงสว่างตามจุดตา่ ง ๆ ภายในบ้านของเรา มกี ารต่อ
วงจรไฟฟ้าลกั ษณะใด เพราะเหตุใด
ตอบ........................................................................................................................
...............................................................................................................................
1.........................................................................ชัน้ ..............เลขที.่ .........
2.........................................................................ชั้น..............เลขท่ี..........
3.........................................................................ช้นั ..............เลขท่.ี .........
4.........................................................................ชนั้ ..............เลขท.ี่ .........
5.........................................................................ช้นั ..............เลขท่.ี .........
ครูศภุ ลกั ษณ์ เกิดหนู
ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ เร่ือง ไฟฟ้าและวงจรไฟฟา้ 40
การต่อหลอดไฟฟา้ มี 2 แบบ คือ
การตอ่ หลอดไฟฟา้ แบบอนุกรม
คือ การต่อหลอดไฟฟ้าแบบเรียงต่อกัน โดยกระแสไฟฟ้าที่ผ่านหลอด
ไฟฟ้าแต่ละดวงจะมีปริมาณเดียวกัน เมื่อถอดหลอดไฟฟ้าดวงใดดวงหนึ่งออก
หรอื หลอดชำรดุ จะทำใหห้ ลอดไฟฟา้ ท่ีเหลือดับท้ังหมดเพราะทำใหว้ งจรไฟฟ้าไม่
ครบวงจรและไมม่ กี ระแสไฟฟ้าไหลผ่าน ดงั ภาพ
การต่อหลอดไฟฟา้ แบบอนกุ รม แสดงผลการตอ่ หลอดไฟฟา้ แบบอนกุ รม
เมอ่ื มีหลอดใดหลอดหน่ึงชำรดุ
เนื่องจากกระแสไฟฟ้าทีทิศทางการไหลเพียงทิศทางเดียว
กระแสไฟฟ้าฟ้าจะไหลผ่านหลอดไฟแต่ละดวงเป็นปริมาณเดียวกัน มี
การแชร์กระแสไฟฟ้ากัน ดังนั้นความสว่างของหลอดไฟจะน้อยกว่า
การตอ่ หลอดไฟแบบขนาน
ครศู ภุ ลกั ษณ์ เกิดหนู
ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ เรอื่ ง ไฟฟา้ และวงจรไฟฟ้า 41
ประโยชน์
• การต่อวงจรไม่ยุ่งยากซบั ซอ้ น
• สามารถเปดิ หลอดไฟฟ้าทกุ ๆ ดวงในวงจรไดพ้ ร้อมกัน
ขอ้ จำกดั
• หากหลอดไฟฟ้าดวงหนึ่งชำรุดหรือถูกถอดออกหลอดไฟฟ้า
ดวงทเี่ หลือจะดบั ทัง้ หมด (วงจรไฟฟ้าเปดิ )
การประยกุ ต์ใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั
• ใช้กับการต่อหลอดไฟฟ้าที่ต้องการให้สว่างพร้อมกนั เช่น โคมไฟ
หรือไฟประดับตามสถานที่ต่าง ๆ ไฟกะพริบตามงานรื่นเริง การ
ตอ่ ฟิวส์ภายในบ้านหรอื ในอาคารสถานที่ตา่ ง ๆ
ครศู ภุ ลักษณ์ เกิดหนู
ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เร่ือง ไฟฟ้าและวงจรไฟฟ้า 42
การตอ่ หลอดไฟฟา้ แบบขนาน
คอื การต่อหลอดไฟฟา้ แต่ละดวงครอ่ มกัน ทำให้มีปรมิ าณกระแสไฟฟ้าแยก
ผ่านแต่ละเส้นทางตามสายไฟฟ้าที่ผ่านหลอดไฟฟ้า แต่ละดวง เมื่อถอดหลอดไฟฟ้า
ดวงใดดวงหนึ่งออกหลอดไฟฟ้าที่เหลือยังคงสว่างอยู่ เพราะยังมีกระแสไฟฟ้าไหล
ผา่ นในเสน้ ทางอน่ื อยู่ เกดิ วงจรไฟฟา้ ปดิ ดังภาพ
การตอ่ หลอดไฟฟา้ แบบขนาน แสดงผลการต่อหลอดไฟฟา้ แบบขนาน
เมอ่ื มีหลอดใดหลอดหน่ึงชำรดุ
เนื่องจากมีทิศทางการไหลของกระแสไฟฟ้าฟ้าหลายทิศทาง ดังน้ัน
กระแสไฟฟ้าจะแยกผ่านหลอดไฟแต่ละดวงเหมือนกันทุกประการ ทำให้
ความสวา่ งของหลอดไฟมากกวา่ การตอ่ หลอดไฟแบบขนาน
ครศู ภุ ลกั ษณ์ เกิดหนู
ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ เรอื่ ง ไฟฟ้าและวงจรไฟฟา้ 43
ประโยชน์
• หลอดไฟฟา้ ทุกดวงสวา่ งเทา่ กนั
• เม่ือหลอดไฟฟ้าดวงหน่ึงเสยี หลอดไฟฟ้าดวงอ่นื จะยังคงทำงานไดต้ ามปกติ
• สามารถเปิดหรือปดิ หลอดไฟฟ้าเฉพาะดวงท่ีตอ้ งการใช้งานได้
ข้อจำกดั
• ต้องใชอ้ ปุ กรณ์ต่อหลอดไฟฟ้ามากกวา่ แบบอนกุ รม
• วิธีการต่อหลอดไฟฟ้าซับซอ้ นมากกว่าการตอ่ แบบอนุกรม
การประยกุ ต์ใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั
• การต่อหลอดไฟฟ้าแบบขนานถูกนำมาใช้ประโยชน์กับเครื่องใช้ไฟฟ้า
ภายในบ้าน โดยมีวิธีการต่อที่ซับซ้อนกว่าการต่อแบบอนุกรม แต่มี
ประสิทธิภาพในการใชง้ านดกี ว่าเพราะหากเครือ่ งใช้ไฟฟา้ ชนิดหน่ึงมีปัญหา
เครอื่ งใช้ไฟฟ้าชนิดอื่นจะยงั คงใช้งานไดต้ ามปกติ
การต่อวงจรไฟฟา้ ภายในบา้ น
ครูศุภลกั ษณ์ เกดิ หนู
ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ เร่อื ง ไฟฟา้ และวงจรไฟฟา้ 44
นอกจากการตอ่ วงจรไฟฟ้าแบบอนุกรมและขนานแล้ว ในบางครั้งเราอาจพบ
วงจรไฟฟ้าที่มีทัง้ การต่อแบบอนกุ รมและการต่อแบบขนานรวมอยู่ในวงจรเดียว เราเรียก
วงจรไฟฟ้าแบบนีว้ า่ วงจรผสม
ครศู ภุ ลักษณ์ เกดิ หนู
ชดุ กจิ กรรมการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ เร่ือง ไฟฟ้าและวงจรไฟฟ้า 46
1. พิจารณาภาพแล้วตอบคำถาม วงจร B
วงจร A
1.1 วงจร A เป็นวงจรแบบใด วงจร B เป็นวงจรแบบใด
ตอบ.........................................................................................................................
1.2 ถา้ หลอดไฟในวงจร A หลอดใดหลอดหนึง่ ดับ จะเกิดอะไรข้ึน เพราะเหตุใด
ตอบ.........................................................................................................................
1.3 ถา้ หลอดไฟในวงจร B หลอดใดหลอดหน่งึ ดบั จะเกิดอะไรขึ้น เพราะเหตใุ ด
ตอบ.........................................................................................................................
1.4 สงั เกตภาพวงจร A และวงจร B เปรียบเทยี บความเหมือนและความแตกตา่ งของ 2 วงจร
วงจร A วงจร B
ครศู ุภลักษณ์ เกดิ หนู