The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

การเขียนโต้แย้ง

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ขวัญ, 2023-07-31 02:15:35

การเขียนโต้แย้ง

การเขียนโต้แย้ง

การเขีย ขี นโต้แย้ง เสนอ นางอรสา เสาโกมุท ผู้จัดจัทำ นางสาวอรัญญา จันจัทอุดอุร นางสาวนงลักลัษณ์ แขวงกระทุ่ม รายงานฉบับบันี้เนี้ป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มลุ่สาระการเรียนรู้ภาษาไทย รายวิชวิาภาษาไทยรหัสวิชวิา ๓๓๑๐๑ ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๖ โรงเรียนหนองไผ่ อำ เภอหนองไผ่ จังจัหวัดวัเพชรบูรณ์


คำ นำ รายงานเล่มนี้จัดจัทำ ขึ้นเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของวิชวิาภาษาไทย ชั้นชั้มัธมัยมศึกษาปีที่ ๖ เพื่อให้ไห้ ด้ศึด้ศึกษาหาความรู้ในเรื่องการเขียนโต้ แย้ง ย้ และได้ศึด้ศึกษาอย่าย่งเข้า ข้ใจเพื่อเป็นประโยชน์กัน์บกัการเรียน ผู้จัผู้ดจัทำ หวังวัว่าว่รายงานเล่มนี้จะเป็นประโยชน์กัน์บกัผู้อ่ผู้อ่าน หรือ นักนัเรียน นักนัศึกษา ที่กำ ลังลัหาข้อ ข้ มูลเรื่องนี้อยู่ หากมีข้อ ข้ แนะนำ หรือข้อ ข้ ผิดผิพลาดประการใดผู้จัผู้ดจัทำ ขอน้อ น้ มรับไว้แ ว้ ละขออภัยภัมา ณ ที่นี้ด้ว ด้ ย นางสาวอรัญญา จันจัทอุดอุร นางสาวนงลักลัษณ์ แขวงกระทุ่ม ก


สารบัญ บั เรื่อง หน้า ข คำ นำ สารบัญบั การโต้แ ต้ ย้ง ย้ ตัวตัอย่าย่งการเขียนโต้แ ต้ ย้ง ย้ กระบวนการโต้แ ต้ ย้ง ย้ ลักลัษณะข้อ ข้โต้แ ต้ ย้ง ย้ การตัดตัสินข้อ ข้โต้แ ต้ ย้ง ย้ สรุปความรู้ อ้า อ้ งอิง ก ข ๑ ๒ ๓-๖ ๗ ๗ ๘ ๙


การโต้แย้ง การโต้แต้ย้ง อาจย้มีได้ในด้ทุกระดับดัตั้งแตั้ต่ระดับครอบคดัรัว โรงเรียน สถาบันบั และระดับประเทศ การโ ดัต้แต้ย้งควรจะย้ต้องต้มีเวลาตามกำ หนดและสิ้นสุดลงด้วยด้ เหตุผล เพราะทุกคนต่างมุมมอง ต่างจิตต่างใจ ดังดัคำ ที่ว่า นานาว่จิตตัง ฉะตันั้น การนั้ ที่เขามีความคิดเห็นไม่เหมือนกับเรา กัมิใช่ว่าเขาจะไ ว่ม่ดี แต่ต้องเต้ข้าใจม ข้นุษย์ว่ย์าว่ทุก คนก็มีก็มีมุมมองที่แตกต่างกันตามความกัรู้ ประสบการณ์ ความเชื่อ ค่านิยม และ ปัจจัยแวดจัล้อม ล้ผู้ฟัผู้ฟังทรรศนะต่างๆ ควรยอมรับ ถ้าทรรศนะของ ถ้อีกฝ่ายมีเหตุผลที่ เชื่อถือได้ เด้ป็นไปในทางสร้างสรรค์และเค์ ป็นประโยชน์ต่น์ ต่อสังคมโดย สัส่วนรวม การโต้แต้ย้ง ย้คือ การแสดงทรรศนะของบุคคล ๒ ฝ่าย โดยแต่ละฝ่ายมีข้อข้มูล หลักฐาน สลัถิติ เหตุผล และทรรศนะของผู้รู้ผู้รู้ เพื่อสนับสนันุนทรรศนะของตน และ คัดคัค้านทรรศนะของ ค้อีกฝ่ายหนึ่ง การโต้แต้ย้งย้ต่างกับการโ กัต้เต้ถียง คือ การโต้เต้ถียงเป็นการแสดงทรรศนะโดยใช้ อารมณ์ แต่การโต้เเต้ย้งแสดงทรรศนะของตนโดยใ ย้ช้เหช้ตุผลประกอบ การแสดง ทรรศนะของทั้งสองทั้ ฝ่ายจะต้องไ ต้ม่มีทิฐิ อคติหรือการเอาชนะกันเกั ป็นใหญ่ แต่ ต้องต้ ฟังและยอมรับโดยใช้เหช้ตุผลสนับสนันุนความคิดนั้นๆนั้ การโต้แต้ย้งย้จึงประกอบด้วยโครงส ด้ร้างของ ๒ ทรรศนะ ซึ่งมีข้อสข้นับสนันุน และข้อสข้รุปในทางตรงข้ามข้กันกั ๑


ตัว ตั อย่างการเขีย ขี นโต้แย้ง ๒ หัวข้อ“โรงเรียนควรเปิดเรียนวิชวิาภาษาจีนจีหรือญี่ปุ่ญี่ ปุ่นหรือไม่” ทรรศนะที่ ๑ ข้อสข้นับสนันุน ข้อสข้รุป (ควรเปิด) (การโต้แต้ย้ง)ย้ ทรรศนะที่ ๒ ข้อสข้นับสนันุน ข้อสข้รุป (ไม่ควรเปิด) ๑.๑ เพราะหลักลัสูตรใหม่เปิดกว้าว้งให้เห้รียน ๑.๒ เพราะต่อไปจะเป็นภาษาที่สำ คัญคั ในการติดต่อสื่อสาร ๑.๓ เพราะสามารถเชิญวิทวิยากรภายนอกมาสอน ๒.๑ เพราะไม่มีครูสอน ๒.๒ เพราะมีนักนัเรียนสนใจเรียนน้อน้ย ๒.๓ เพราะไม่มีห้อห้งเรียนว่าว่ง ทั้ง ๒ ทั้ ฝ่ายต้องหาหต้ลักฐาน เอกสาร ลัตัวเลข สตัถิติ มาสนับสนันุนความคิดของตน การตัดตัสิน การโต้แต้ย้งจะย้ยุติยุติลงด้วยความสมเห ด้ตุสมผล สร้างสรรค์ และเค์ ป็นประโยชน์ต่น์ ต่อส่วนรวม


กระบวนการโต้แย้ง มี ๔ ขั้นขั้ตอนดังดันี้ ๓ ๑. ประเด็นในการโ ด็ต้แต้ย้งย้ ๒. การให้คำห้คำนิยามของประเด็นการโ ด็ต้แต้ย้งย้ ๓. การค้นคค้ว้าและเว้ขียนเรียบเรียงข้อสข้นับสนันุนในทรรศนะของตน ๔. การรู้จักจัชี้ให้เห้ห็นจุดด้อยของทรรศนะ ด้ ฝ่ายตรงข้ามข้ ๑. ประเด็นในการโ ด็ต้แย้ง มี ๓ ประเภท คือ ๑.๑ การโต้แต้ย้งเย้กี่ยวกับกัข้อเข้ท็จจท็ริง ๑.๒ การโต้แต้ย้งเย้กี่ยวกับนโยบาย กั ๑.๓ การโต้แต้ย้งเย้กี่ยวกับกัคุณค่า ๑.๑ การโต้แย้งเกี่ยว กี่ กับกัข้อเท็จจท็ริง หมายถึง ประเด็นด็ที่นำ มานั้นนั้มีอยู่จยู่ริงหรือเป็นที่กล่าวอ้างจอ้ริงหรือไม่ จะทำ ได้หด้รือไม่ได้อด้ย่างไร ย่จึงเกิดเป็น ๒ ประเด็นใด็ห้โห้ต้แต้ย้งย้กันกั ตัวอตัย่าง การโต้แต้ย้งเย้กี่ยวกับกัข้อเข้ท็จจท็ริง หัวหัข้อ “ ข้ สิทธิเสรีภาพของผู้หผู้ ญิงและผู้ชายผู้ ในสังคมสั ปัจจุบัน”บั ทรรศนะที่ ๑ มีความเห็นว่า ว่สิทธิเสรีภาพของผู้หผู้ ญิงและผู้ชายในผู้สังคมสั ปัจจุบันบั ควรจะเท่าเทียมกันกั ทรรศนะที่ ๒ มีความเห็นว่า ว่สิทธิเสรีภาพของผู้หผู้ ญิงและผู้ชายในผู้สังคมสั ปัจจุบันบั ไม่ควรจะเท่าเทียมกันกั มี ๒ ทรรศนะโต้แต้ย้งย้กัน กัทั้งสองทั้ ฝ่ายจะต้องโ ต้ต้แต้ย้งย้ด้วยเหด้ตุผลในการแสดงทรรศนะ นั้นๆสนั้นับสนันุนความคิดของฝ่ายตน


กระบวนการโต้แย้ง ๔ นโยบายนั้นอาจนั้มีอยู่เยู่ดิม หรืออาจกำ หนดเป็นนโยบายอีก ๑๐ ปีข้างหข้น้าจะน้ทำ นโยบายอย่างไร เ ย่มื่อมีการโต้แต้ย้งย้ก็คืก็คือต้องการใ ต้ห้เปห้ลี่ยนแปลงนโยบายเดิม โดยมีข้อเสนอทรรศนะให ข้ม่เพื่อให้เปห้ลี่ยนแปลงสภาพเดิมนั้นๆนั้ ตัวอตัย่าง การโต้แต้ย้งเย้กี่ยวกับนโยบาย กัหัวหัข้อ “โรงเ ข้รียนควรมีนโยบายจัดโครงการ จั ค่ายคุณธรรมผู้นำผู้นำเยาวชนโดยไปทัศนทัศึกษานอกสถานที่ทุกปีหรือไม่” ทรรศนะที่ ๑ โรงเรียนควรจัดโครงการ จัค่ายคุณธรรมทุกปี ทรรศนะที่ ๒ โรงเรียนไม่ควรจัดโครงการ จัค่ายคุณธรรมทุกปี ๒ ทรรศนะโต้แต้ย้งย้กันในเ กัรื่องเกี่ยวกับนโยบายของโรงเ กัรียน แต่ละฝ่ายจะต้องต้อ้างอ้ เหตุผล เหตุการณ์ต่างๆสนับสนันุนฝ่ายตน เพื่อให้เห้กิดข้อเสนอใน ข้ทัศนะให ทัม่ หรือ เปลี่ยนแปลงสภาพเดิม โดยมีข้อสข้นับสนันุนหลายๆประเด็นพด็ร้อมเหตุผล และมีข้อข้ สรุปของแต่ละฝ่าย ๑.๒ การโต้แย้งเกี่ยว กี่ กับนโยบาย กั ๑.๓ การโต้แย้งเกี่ยว กี่ กับกัคุณค่า การโต้แต้ย้งย้นี้มีทรรศนะของสองฝ่ายที่แสดงทรรศนะโต้แต้ย้งย้กันกัว่าจะประเ ว่มิน สิ่งใดดี สิ่งใดด้อย ด้ สิ่งใดเป็นประโยชน์ หน์รือเป็นโทษ สิ่งใดเหมาะสมหรือไม่ เหมาะสม ซึ่งสิ่งเหล่านี้อาจเป็น บุคคล วัตวัถุกิจกรรม โครงการ วิธีวิธีการ ผู้โผู้ต้ แย้งอาจแสดงทรรศนะโดยการประเ ย้มินค่าในตัวตัมันเองหมัรือเปรียบเทียบกับกั สิ่งที่อยู่ในประเภทเยู่ดียวกันหกัรือเกณฑ์ทำฑ์ทำนองเดียวกันกั ตัวอตัย่าง การโต้แต้ย้งเย้กี่ยวกับกัคุณค่า หัวหัข้อ “ ข้วัยวัรุ่นควรแต่งกายตามสมัยมันิยมหรือไม่” ทรรศนะที่ ๑ วัยวัรุ่นควรแต่งกายตามสมัยมันิยม ทรรศนะที่ ๒ วัยวัรุ่นไม่ควรแต่งกายตามสมัยมันิยม เมื่อทรรศนะ ๒ ทรรศนะขัดแขัย้งย้กัน แกัต่ละฝ่ายจะยกเหตุผล เหตุการณ์จริง สนับสนันุนทรรศนะของตนว่าควรหว่รือไม่ควร เหมาะสมหรือไม่เหมาะสม


กระบวนการโต้แย้ง ๕ ในการตั้งประเ ตั้ด็นการโ ด็ต้แต้ย้งจะย้ต้องใ ต้ห้คำห้คำนิยามของประเด็นการโ ด็ต้แต้ย้งใย้ห้ รัดกุมและแกุจ่มชัด ชัวิธีวิธีการนิยามอาจใช้พจนาช้นุกรม หรือผู้นิผู้นิยามให้ขอบเขตห้ ความหมายของคำ นั้นๆ เองใ นั้ห้ครอบคห้ลุมเพื่อจะได้ได้ม่โต้แต้ย้งไปคนละ ย้ทิศ คนละทางและไม่ตรงประเด็น เด็ช่น ๒. การให้คำ นิยามของประเด็นการโ ด็ต้แย้ง ๓. การค้นคว้าและเขียนเขีรียบเรียงข้อสนับสนุนในทรรศนะของตน ผู้โผู้ต้แต้ย้งควรย้ค้นหาเค้รื่องที่โต้แต้ย้งจากย้ สื่อต่างๆเช่น หนังนัสือ วารสาร สิ่งพิมพ์ อินเทอร์เน็ต ตลอดจนประสบการณ์ที่พบเห็นจริงหรือจากผู้รู้ผู้รู้อื่นๆแล้วล้นำ มา เรียบเรียงเพื่อให้เห้ป็นข้อสข้นับสนันุนทรรศนะของตน รวมทั้งควรทั้อ้างอ้ข้อเข้ท็จจท็ริง สถิติหลักฐานการลัค้นคค้ว้าว้วิจัวิยประกอบเ จัพื่อให้ข้ห้อเสนอ ข้มีน้ำ หนักนัน่าเชื่อถือ อย่ากย่ล่าวอ้างเอ้ลื่อนลอยถ้าเสนอ ถ้น้อยไป น้ทำ ให้ข้ห้อเสนอขาด ข้น้ำ หนักไนัม่น่าเชื่อ ถือ ถ้าเสนอมากเ ถ้กินไปก็เก็กินพอดีควรเสนอให้พอเหมาะพอควรโดยอ ห้ยู่ในยู่ ดุลยพินิจของผู้เสนอผู้ ตัวอตัย่างข้อมูล จากการวิจัวิยของ ดร.เตจัรุโอะ คาวาดา กับคณะแกัห่งมหาวิทยาวิลัยเลักียวโต พบว่าว่ สารอาหารในมะเขือเทศมีคุณสมบัติบัติช่วยสกัดภาวะไข กัมันในเ มัลือดผิดปก ผิติ ความรู้คืออะไร จากพจนานุกรมฉบับราชบับัณบัฑิตยสถาน พ.ศ.๒๕๔๒ ให้ นิยามไว้ว่ว้าความว่รู้คือสิ่งที่สะสมมาจากการศึกษาเล่าเรียนการค้นคค้ว้าหว้รือ ประสบการณ์รวมทั้งความสามารถเทั้ชิงปฏิบัติบัติและทักษะจากการไ ทัด้ฟัด้ ฟังได้ยิด้นยิ คิดหรือปฏิบัติบัติ สุภาพบุรุษ หมายถึง บุรุษที่สุภาพให้เห้กียรติผู้หผู้ ญิงมีการกระทำ ที่สุภาพ ไม่ หยาบคาย ไม่โกหกหลอกลวง รัก คือกันกัมีใจผูกผูพันพัด้วยความด้ห่วงใยเช่น พ่อแพ่ม่รักลูกมีใจผูกผูพันพัด้วยความด้ เสน่หา มีใจผูกผูพันพัฉันฉัชู้สาวเ ชู้ช่น ชายรักหญิง หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ ฉบับวันวัที่ ๕ กุมกุภาพันธ์ ๒๕๕๓


กระบวนการโต้แย้ง ๖ โดยปกติควรชี้จุดอ่อนของทรรศนะฝ่ายตรงข้ามข้ดังดันี้ ๔. การรู้จักจัชี้ให้เห็นจุดด้อยของทรรศนะฝ่ายตรงข้าม ตัวอตัย่าง มีผู้เสนอทรรศนะผู้ว่า “ว่นักเนัรียนเรียนหลายวิชา ฉะวินั้นคนั้รูไม่ควรให้การห้ บ้านบ้นักเนัรียนทำ ทุกวิชาอาจใ วิห้ทำห้ทำในชั่วโมง ชั่ก็เก็พียงพอแล้ว” แ ล้ต่อาจมีข้อโข้ต้แต้ย้งย้ ได้ว่ด้าทรรศนะว่นี้เป็นการเปิดโอกาสให้คห้รูไม่ต้องตรวจการต้บ้านบ้นักเนัรียนและ นักเนัรียนถือโอกาสไม่ต้องต้ทำ การบ้านอาจใ บ้ช้เวลาช้ สิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ไน์ด้ข้ด้อข้ เสนอแนะนี้จึงมีจุดอ่อนไม่ควรยอมรับ จะต้องต้ชัดเจนแชัจ่มแจ้ง อาจจ้ชี้ให้เห้ห็นจุดด้อยของด้ ฝ่ายตรงข้ามเข้ช่น ใช้ ภาษาไม่ชัดเจน ใ ชัช้ภาษาเช้ข้าใจยาก วกวน ข้นิยามโดยมีอคติ เจตนาให้ เป็นประโยชน์แน์ก่ฝ่ายตน ๔.๑ การให้คำ นิยาม ๔.๒ ความถูกต้องของข้อมูล อาจชี้ข้อข้ด้อยของด้ ฝ่ายตรงข้ามในเ ข้รื่องข้อข้มูลไม่ทันสทัมัยไมัม่ถูกต้องป ต้ริมาณ น้อยเน้กินไปไม่น่าเชื่อถือไม่สามารถเป็นตัวแทนของกตัลุ่มข้อข้มูลทั้งหมดไ ทั้ด้ ๔.๓ ข้อสมมติฐานและติวิธีวิธีการ ควรชี้ข้อข้ด้อยของทรรศนะ ด้ ฝ่ายตรงข้ามใน ข้ด้านสมม ด้ติฐานว่าว่มีจุดอ่อนหรือ ไม่ สมมติฐานเลื่อนลอยหรือไม่ สมมติฐานสมเหตุสมผลหรือไม่


ลัก ลั ษณะข้อโต้แย้งที่ดี ที่ ดี มีลักลัษณะดังดันี้ ๗ ๑. ข้อโข้ต้แต้ย้งย้นั้นควรสนั้ร้างสรรค์และค์มีประโยชน์ต่น์ ต่อสังคมโดยรวม สัถ้าถ้ ประเด็นด็ที่โต้แต้ย้งแย้ล้วไล้ม่ก่อให้เห้กิดประโยชน์ก็น์ไก็ม่ควรนำ มาโต้แต้ย้งย้กันเกัช่น โลกเที่ยงหรือไม่เที่ยง ศาสนาใดดีกว่าว่กันพรรคการเกัมือง.. ดีกว่าว่ พรรคการเมือง... ไก่เกิดก่อนไข่หรือไข่เกิดก่อนไก่ ๒. ข้อโข้ต้แต้ย้งย้นั้นอาจจะนั้อ้างอ้ สัจธรรม หสัรือข้อข้มูลที่เป็นจริง พิสูจน์แน์ล้วล้ว่าว่ จริงโต้แต้ย้งไย้ม่ได้ รวมด้ทั้งทั้สำ นวน สุภาษิต พุทธภาพุษิต ที่จะทำ ให้ฝ่ห้ฝ่ายตรง ข้ามโ ข้ต้แต้ย้งไย้ม่ได้ เด้ช่นเวรย่อมระย่งับงัด้วยการไ ด้ม่จองเวร ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน ๓. ข้อโข้ต้แต้ย้งย้นั้นจะนั้ต้องต้มีข้อข้มูลถูกต้องเหต้ตุผลถูกต้องตามต้ข้อเข้ท็จจท็ริง มี หลักลัศีลธรรมประกอบซึ่งแล้วแล้ต่ประเด็นด็ที่โต้แต้ย้งย้นั้นนั้ ๔. ภาษาที่ใช้ในการโ ช้ต้แต้ย้งย้ต้องต้ สุภาพและให้เห้กียรติฝ่ายตรงข้ามโดยเฉพาะ ข้ การโต้แต้ย้งในย้ที่สาธารณะ การตัด ตั สินข้อโต้แย้ง ๑. ผู้ตัผู้ดตัสินต้องวางตนเต้ ป็นกลาง ตัดตัสินไปตามเหตุผลที่มีและพิจารณาข้อข้ โต้แต้ย้งตามเย้นื้อหาสาระที่ปรากฏไม่พิจารณานอกเหนือไปจากนั้นนั้ ๒.ผู้ตัผู้ดตัสินใช้ดุช้ดุลยพินิจของตนโดยอาศัยความศัรู้และประสบการณ์ที่มีอยู่ เป็นเครื่องช่วยตัดตัสินใจ


สรุปความรู้ ๘ ๑. การโต้แต้ย้งย้คือ การแสดงทัศนะของทับุคคล ๒ ฝ่ายโดยแต่ละฝ่ายมีข้อข้มูล หลักฐานสลัถิติ เหตุผลทรรศนะของผู้รู้ผู้รู้ เพื่อสนับสนันุนทัศนะของตน และทั คัดคัค้านค้ทัศนะของทั ฝ่ายตรงข้ามข้ ๒. โครงสร้างของการโต้แต้ย้ง ประกอบ ย้ด้วยทรรศนะ ด้ข้อสข้นับสนันุน ข้อข้ สรุปของทั้ง ๒ ทั้ ฝ่าย ๓. กระบวนการโต้แต้ย้งย้มี ๔ ขั้นตอนไ ขั้ด้แด้ก่ประเด็นการโ ด็ต้แต้ย้ง การใ ย้ห้คำห้คำ นิยาม การค้นคค้ว้า และเว้ขียนเรียบเรียงทรรศนะ และการชี้ให้เห้ห็นจุดเด่น ของฝ่ายตนหรือจุดด้อยของด้ ฝ่ายตรงข้ามข้ ๔. ประเด็นการโ ด็ต้แต้ย้ง ไย้ด้แด้ก่ ประเด็นด็ข้อเข้ท็จจท็ริงประเด็นเด็กี่ยวกับนโยบาย กั และประเด็นเด็กี่ยวกับกัคุณค่า ๕. ลักษณะลัข้อโข้ต้แต้ย้งย้ที่ดีคือประเด็นการโ ด็ต้แต้ย้งควรส ย้ร้างสรรค์ มีเหตุผล และมีข้อข้มูลถูกต้องภาษาต้ สุภาพ ๖. การตัดตัสินข้อโข้ต้แต้ย้งใย้ห้ตัห้ดตัสินจากเนื้อหาสาระและดุลยพินิจรวมทั้งทั้ ประสบการณ์ของผู้ตัผู้ดตัสิน


อ้างอิง อิ ๙ จิตต์นิต์ นิภา ศรีไสย์ และ ประนอม ย์วิบูวิบูลย์พัย์นพัธุ์ (๒๕๕๖) สถาบันบัพัฒนาพัคุณภาพวิชาการ (พว.) วิคู่มือจัดการเจัรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์องพ์ค์การค์ รับส่งสินค้าและค้พัสพัดุภัณภัฑ์ (ร.ส.พ.) ๒๕๔๔ ฑ์


Click to View FlipBook Version