The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

เล่มที่-2-การอ่านอย่างมีวิจารณญาณ-วรรณคดีโคลนติดล้อ.

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Jutamas Choochaiyoung, 2023-09-25 06:46:07

เล่มที่-2-การอ่านอย่างมีวิจารณญาณ-วรรณคดีโคลนติดล้อ.

เล่มที่-2-การอ่านอย่างมีวิจารณญาณ-วรรณคดีโคลนติดล้อ.

ค ำแนะน ำส ำหรับกำรใช้แบบฝึ กของนักเรียน แบบฝึกทักษะการอ่านอย่างมีวิจารณญาณ โดยใช้วิธีการสอนอ่านแบบ SQ4R ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 เล่มที่ 2 การอ่านอย่างมีวิจารณญาณจากวรรณคดีในบทเรียน เรื่อง โคลนติดล้อ แบบฝึกทักษะการอ่านอย่าง มีวิจารณญาณ เล่มนี้ ใช้ประกอบการเรียนการสอน เพื่อฝึกทักษะการอ่านอย่างมีวิจารณญาณ นักเรียนสามารถ ศึกษาได้ด้วยตนเอง โดยให้นักเรียนอ่านค าแนะน าและปฏิบัติกิจกรรมแต่ละขั้นตอน นักเรียนจะได้รับความรู้ อย่างครบถ้วนและปฏิบัติตามขั้นตอนดังต่อไปนี้ 1. ศึกษามาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัด จุดประสงค์การเรียนรู้ให้เข้าใจ 2. ท าแบบทดสอบก่อนเรียน แบบเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จ านวน 10 ข้อ 3. ฝึกทักษะการอ่านการอ่านอย่างมีวิจารณญาณตามวิธีการอ่านแบบ SQ4R ซึ่งมีกิจกรรม ๖ ขั้นตอน ดังนี้ กิจกรรมที่ 1 ขั้นที่ 1 S (Survey) การอ่านเนื้อเรื่องอย่างคร่าว ๆเพื่อหาจุดส าคัญของเรื่อง กิจกรรมที่ 2 ขั้นที่ 2 Q (Question) การตั้งค าถาม กิจกรรมที่ 3 ขั้นที่ 3 R1 (Read) การอ่านอย่างละเอียดเพื่อหาค าตอบของค าถามที่ตั้งไว้ กิจกรรมที่ 4 ขั้นที่ 4 R2 (Record) การจดบันทึกข้อมูลต่างๆตามความเข้าใจของตนเอง กิจกรรมที่ 5 ขั้นที่ 5 R3 (Recite) การเขียนสรุปใจความส าคัญโดยใช้ส านวนโวหารของตนเอง กิจกรรมที่ 6 ขั้นที่ 6 R4 (Reflect) การวิเคราะห์วิจารณ์เรื่องที่อ่าน แล้วแสดงความคิดเห็น หากนักเรียน ไม่เข้าใจ หรือตอบค าถามไม่ได้ให้ย้อนกลับไปอ่านเนื้อหาแบบฝึกทักษะใหม่พร้อมทั้ง ตอบใหม่ หรือท ากิจกรรม นั้นอีกครั้งและขอค าแนะน าจากครู 4. ท าแบบทดสอบหลังเรียน เพื่อวัดความรู้ความเข้าใจอีกครั้งหนึ่ง 5. นักเรียนแต่ละคนต้องมีความซื่อสัตย์ต่อตนเอง ไม่เปิดดูเฉลยก่อนเรียน หลังเรียน และเฉลยแบบฝึก ทักษะทุกแบบฝึก 6. นักเรียนและผู้สนใจที่ต้องการเนื้อหาเพิ่มเติมจากแบบฝึก สามารถค้นคว้าได้จากบรรณานุกรม


1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด มาตรฐาน ท 1.1 ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อน าไปใช้ตัดสินใจ แก้ปัญหาใน การด าเนินชีวิตและมีนิสัยรักการอ่าน ตัวชี้วัด ม.4-6/3 วิเคราะห์และวิจารณ์เรื่องที่อ่านในทุกๆด้านอย่างมีเหตุผล ม.4-6/7 วิเคราะห์และประเมินการใช้ภาษาจากสื่อสิ่งพิมพ์และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ม.4-6/8 สังเคราะห์ความรู้จากการอ่านสื่อสิ่งพิมพ์ สื่ออิเล็กทรอนิกส์และแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ มาพัฒนาตน พัฒนาการเรียนและพัฒนาความรู้ทางอาชีพ ด้านความรู้ (K) 1) มีความรู้เรื่องการอ่านอย่างมีวิจารณญาณจากข่าว โดยใช้เทคนิค SQ4R และอธิบาย สาระส าคัญที่ปรากฏในวรรณคดีได้ 2) ตอบค าถามจากการอ่านวรรณคดีในบทเรียน ภายในเวลาที่ก าหนดได้ 3) แยกข้อเท็จจริง ข้อคิดเห็น และแสดงความคิดเห็นอย่างมีเหตุผล 4) อ่านวรรณคดีเรื่องโคลนติดล้อ ตอนความนิยมเป็นเสมียน แล้วน ามาเขียนแผนผังความคิดได้ ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) 1) มีทักษะในการอ่านอย่างมีวิจารณญาณจากวรรณคดีในบทเรียนได้ถูกต้อง 2) มีทักษะในการเขียนสรุปความรู้และข้อคิดจากวรรณคดีในบทเรียนที่ก าหนดได้ถูกต้อง 3) มีทักษะในการสร้างความรู้และความคิดจากการอ่านอย่างมีวิจารณญาณ เพื่อน าไปใช้ในการ ตัดสินใจและแก้ปัญหาต่าง ๆ ในชีวิตประจ าวันได้ถูกต้อง ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A) 1) ซื่อสัตย์สุจริต 2) ใฝ่เรียนรู้ 3) มุ่งมั่นในการท างาน ด้านสมรรถนะผู้เรียน (C) 1) ความสามารถในการสื่อสาร 2) ความสามารถในการคิด มำตรฐำนกำรเร ี ยนร ู้และตวัช ี้วดั จุดประสงค ์ กำรเร ี ยนร ู้


ค าชี้แจง นักเรียนเลือกค าตอบที่ถูกต้อง และท าเครื่องหมาย × ทับข้อที่ถูกต้องที่สุด 1. ชื่อบทความ โคลนติดล้อ เป็นการใช้โวหารภาพพจน์ประเภทใด ก.ปฏิพากย์ ข. อุปลักษณ์ ค. อธิพจน์ ง. อุปมา 2. “..... เราจะเห็นได้ว่าโคลนเหล่านี้บางก้อนได้ติดมานานแล้วและเป็นการล าบาก ที่จะเปลื้องออกให้เกลี้ยงได้ใน คราวเดียวแต่ถ้าประกอบด้วยวิริยภาพและความบากบั่น เราก็จะสามารถที่จะชาระโคลนนั้นออกได้หมดในเวลา อันควรเหมือนกัน.........” ข้อความดังกล่าวแสดงเจตนาของผู้เขียนเด่นชัดในเรื่องใดมากที่สุด ก. มุ่งหวังให้ประเทศเกิดความสันติสุข ข. มุ่งหวังให้คนในชาติร่วมใจกันพัฒนาชาติ ค. มุ่งหวังให้ค านึงปัญหาที่เหนี่ยวรั้งความเจริญของชาติ ง. มุ่งหวังให้สังคมรับผิดชอบในหน้าที่ 3.. การตั้งโรงเรียนทั่วพระราชอาณาจักร ให้โอกาสแก่บรรดาชายหญิง ทุกๆชั้นให้ศึกษาให้รู้ให้อ่านรู้เขียนหนังสือ นั้นกลับให้ผลที่ท าให้เป็นที่ร าคาญและ อาจท าให้ร าคาญยิ่งกว่าที่เป็นอยู่เดี๋ยวนี้ก็เป็นได้ สาระส าคัญของข้อความข้างต้นคืออะไร ก. ปัญหาเกี่ยวกับการจัดการด้านการศึกษาในยุคแรก ข. การได้รับการศึกษาของประชาชนท าให้เกิดปัญหาสังคม ค. การขยายโอกาสทางการศึกษาให้แก่ประชาชนทั่วประเทศ ง. การศึกษาท าให้เกิดความเบื่อหน่ายแก่เยาวชน 4. “ในเงินเดือน 15 บาทนี้ พ่อเสมียนยังอุตส่าห์จ าหน่าย จ่ายทรัพย์ได้ต่างๆ เช่น นุ่งผ้าม่วงสี ใส่เสื้อขาว สวมหมวกสักหลาด และในเวลาที่กลับจากออฟฟิศ แล้วต้องสวมกางเกงแพรจีนด้วย และจะต้องไปดูหนังอีกอาทิตย์ละ 2 ครั้ง เป็นอย่างน้อย” การใช้จ่ายลักษณะนี้ตรงกับส านวนไทยว่าอย่างไร ก. คางคกขึ้นวอ ข. กระเชอก้นรั่ว ค.เกี่ยวแฝกมุงป่า ง. เห็นช้างขี้ขี้ตามช้าง 5. . “ถ้าจะเปรียบพืชที่ท าให้งอก ต้องนับว่าน้อยกว่าผลที่เขาได้กินเข้าไป” ข้อความนี้ใช้กลวิธีทางวรรณศิลป์แบบใดเด่นชัดที่สุด ก. ใช้การเปรียบเทียบ ข. ใช้ภาษาไพเราะ ค. ใช้ประโยคค าถาม ง. ใช้ค าสร้างอารมณ์ความรู้สึก แบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน แบบฝึกทักษะการอ่านอย่างมีวิจารณญาณ SQ4R เล่มที่ 2 การอ่านอย่างมีวิจารณญาณจากวรรณคดีในบทเรียน


6. “...เด็กที่ออกมาจากโรงเรียนเหล่านี้ย่อมเห็นว่ากิจการอย่างอื่นไม่สมเกียรติยศ นอกจากการเป็นเสมียน...” ข้อความข้างต้นสอดคล้องกับเรื่องใด ก. ความเชื่อ ข. ค่านิยม ค. วิถีชีวิต ง. ขนบประเพณี 7. “...ถ้าเขาเป็นผู้ที่มีนิสัยสุจริตเขาก็เลี่ยงไปตายอยู่ในที่ลับ ๆ แห่ง 1 ไม่มีใครเห็น ไม่มีใครรู้จัก ไม่มีใครรัก ไม่มี ใครอาลัย เป็นการลงเอยอย่างมืด แห่งชีวิตที่มืดไม่มีสาระ...” ข้อความนี้เป็นการใช้ค าลักษณะใด ก. การใช้ค าง่าย ข. การเน้นค า ค. การเล่นค า ง. การซ้ าค า 8. “อันประเทศอย่างเมืองไทยของเรานี้ ชาวนาชาวสวนอาจจะท าประโยชน์ให้แก่บ้านเมืองได้มากกว่าเสมียน ซึ่งเป็นแต่เครื่องมือเท่ากับปากกาและพิมพ์ดีด” ข้อความนี้สะท้อนสภาพสังคมไทยได้อย่างไร ก. คนสมัยก่อนนิยมท าอาชีพชาวนาชาวสวนมากกว่า ข. คนสมัยก่อนให้ความเคารพชาวนาชาวสวนมากกว่า ค. คนสมัยก่อนคิดว่า อาชีพเสมียนเป็นอาชีพที่ท าประโยชน์ได้น้อย ง. ประเทศไทยเป็นเมืองเกษตรกรรมจึงต้องการชาวนาชาวสวนมากกว่า 9. “เมื่อไหร่หนอพวกหนุ่มๆ ของเราจึงจะเข้าใจได้ว่า การเป็นชาวนา ชาวสวน หรือคนท างานการอื่น นั้นก็มี เกียรติยศ เท่ากับที่จะเป็นผู้ที่ท างานด้วยปากกาเหมือนกัน เมื่อไรจึงจะบังเกิดความรู้สึกเกียรติยศแห่งการงานอื่นๆ นอกจากงานที่ท าด้วยปากกาและพิมพ์ดีด” ข้อความนี้ใช้กลวิธีในการเขียนอย่างไร ก. ตั้งค าถามที่ต้องการค าตอบ เพื่อให้ผู้อ่านคิดตาม ข. สร้างปมปัญหาเพื่อให้เกิดข้อสังเกตในเนื้อเรื่อง ค. เสนอแนวทางในการแก้ปัญหาให้กับผู้อ่านได้น าไปปฏิบัติ ง. ตั้งค าถามที่ไม่ต้องการค าตอบ แต่เพื่อเน้นให้ผู้อ่านคิด 10. ข้อความต่อไปนี้ต้องการโน้มน้าวใจเรื่องใด “หากพวกเราทั้งหลายอยากให้ลูกหลานของเราเจริญเติบโตเป็นคนดีที่มีความฉลาด มีความเพียร ก็จงหมั่น จัดหาหนังสือดีๆให้พวกเขาได้อ่านกัน และร่วมสร้างกุศลจัดซื้อหนังสือบริจาคส่งไปให้ห้องสมุด เพื่อลูกหลานของเรา ได้มีโอกาสอ่านเถอะ เพราะเด็กที่ฉลาดมีความเพียรย่อมส่งผลให้ประเทศชาติเจริญ” ก. การรักการอ่าน ข. การบริจาคหนังสือ ข. การส่งเสริมให้เด็กฉลาด ง. การพัฒนาประเทศด้วยการอ่าน


ค าชี้แจง ให้นักเรียนพิจารณาค าตอบที่ถูกต้อง แล้วท าเครื่องหมาย X ลงในกะดาษค าตอบ ข้อ ก ข ค ง 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 กระดาษค าตอบแบบทดสอบก่อนเรียน แบบฝึกทักษะการอ่านอย่างมีวิจารณญาณ SQ4R เล่มที่ 2 การอ่านอย่างมีวิจารณญาณจากวรรณคดีในบทเรียน


วิธีการอ่านแบบ SQ4R มี 6 ขั้นตอน คือ 1. อ่านอย่างคร่าวๆ Survey (S) เพื่อหาจุดส าคัญของเรื่อง การอ่านในขั้นนี้ ผู้สอนควรจ ากัดเวลา ให้ไม่ควรใช้เวลาเกินไป ผู้สอนสอนการเรียบเรียงแนวคิดต่างๆ จากสิ่งที่ได้อ่านคร่าวๆ 2 การตั้งค าถาม Question (Q) ขั้นนี้ท าให้ผู้อ่านมีความอยากรู้อยากเห็น ดังนั้น จึงเพิ่มความ เข้าใจในการอ่านมากยิ่งขึ้น ค าถามจะช่วยให้ผู้อ่านระลึกถึงความรู้เดิม ที่มีอยู่เกี่ยวกับเรื่องที่อ่าน ค าถามจะช่วย ให้ผู้อ่านเข้าใจเรื่องได้เร็ว และที่ส าคัญคือ ค าถามจะต้อง สัมพันธ์กับเรื่องราวที่ก าลังอ่าน ในเวลาเดียวกันก็ควร จะต้องถามตัวเองดูว่าใจความส าคัญที่ผู้เขียนก าลัง พูดถึงอยู่นั้นคืออะไร ท าไมจึงส าคัญ ส าคัญอย่างไร และ เกี่ยวข้องกับอะไรหรือใครบ้าง ตอนไหน และเมื่อไร อย่างไรก็ตามควรพยายามตั้งค าถามให้ได้เพราะจะช่วยให้ การอ่านในขั้นต่อไปเป็นไปอย่างมี จุดมุ่งหมายและสามารถจับประเด็นส าคัญได้ถูกต้องไม่ผิดพลาด 3 การอ่านอย่างละเอียด Read (R) ข้อความในบทหรือตอนนั้นซ้ าๆ อย่างละเอียดและใน ขณะเดียวกัน ก็ค้นหาค าตอบส าหรับค าถามที่ได้ตั้งไว้ ในขั้นนี้จะเป็นการอ่านเพื่อจับใจความและจับประเด็น ส าคัญๆ โดยแท้จริงขณะที่ก าลังอ่านอยู่ ถ้านึกถึงค าถามได้อีกก็ อาจใช้วิธีจดบันทึกไว้ในที่ว่างริมหน้าหนังสือ ก่อนแล้วตั้งใจอย่างต่อไปจนกว่าจะได้ค าตอบที่ต้องการ 4 จดบันทึก Record (R) ให้ผู้เรียนจดบันทึกข้อมูลต่างๆ ที่ได้อ่านจาก ขั้นตอนที่ 3 โดยมุ่งจดบันทึก ในส่วนที่ส าคัญและสิ่งที่จ าเป็น โดยใช้ข้อมูลอย่างรัดกุมหรือย่อๆตามความเข้าใจของผู้เรียน 5 เขียนสรุปใจความส าคัญ Recite (R) สอนผู้อ่านให้เขียนสรุปใจความส าคัญ โดยพยายาม ใช้ ภาษาของตนเองถ้ายังไม่แน่ใจในบทใดหรือตอนใดให้กลับไปอ่านซ้ าใหม่ 6 วิเคราะห์ วิจารณ์ Reflect (R) ให้ผู้เรียนวิเคราะห์ วิจารณ์ บทอ่านที่ผู้เรียน ได้อ่านแล้วแสดง ความคิดเห็นในประเด็นที่ผู้เรียนมีความคิดเห็นสอดคล้องหรือความคิดเห็นไม่สอดคล้องบางครั้งอาจขยายความ สิ่งที่ได้อ่านโดยการเชื่อมโยงความคิดจากบทอ่านกับความรู้เดิมโดยใช้ภาษา อย่างถูกต้อง ใบความรู้ที่ 1 วิธีการอ่านแบบ SQ4R


ใบความรู้ที่ 2 การอ่านอย่างมีวิจารณญาณ ความหมาย หมายถึง การอ่านที่ผู้อ่านน าเอาวิธีคิดอย่างมีวิจารณญาณ มาใช้ในการรับสารจากการอ่าน ทั้งนี้ เพื่อประเมินสิ่งที่อ่าน และ ตัดสินใจว่าสิ่งที่ผู้เขียนน าเสนอมีเหตุผลน่าเชื่อถือหรือไม่ เพียงใด การอ่าน อย่างมีวิจารณญาณเป็นทักษะการอ่านขั้นสูง ที่ผู้อ่านจ าเป็นต้องมีความรู้เกี่ยวกับเรื่องที่อ่านเพื่อเป็นพื้นฐานใน การวิเคราะห์วิจารณ์ในขั้นสูงต่อไป ทักษะการอ่านอย่างมีวิจารณญาณเป็นสิ่งที่มีความส าคัญ โดยเฉพาะอย่าง ยิ่งในโลกของข้อมูลข่าวสารเช่นในปัจจุบัน ทั้งนี้เพราะจะช่วยให้ผู้อ่านรู้จักวิเคราะห์ ตรวจสอบ และเลือกรับ ข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ได้อย่างมีเหตุผล ล าดับขั้นการอ่านอย่างมีวิจารณญาณ ๑. จ าความหมายของค า ข้อความ หรือประโยค ๒. เข้าใจเนื้อเรื่องที่อ่าน สรุปมโนทัศน์ของเรื่อง เรียงล าดับเหตุการณ์ หรือ เล่าเรื่องได้ ๓. น าเหตุการณ์และถ้อยค า หรือ ประโยคที่ได้จากการอ่านไปเทียบเคียงหรือแก้ปัญหาใน ชีวิตประจ าวัน ๔. วิเคราะห์แยกแยะรายละเอียดของเนื้อเรื่อง เช่น บุคลิกภาพของตัวละคร หรือ ลักษณะพิเศษที่ ท าให้เกิดเหตุการณ์ส าคัญของเรื่อง ๕. สังเคราะห์โดยการเปรียบเทียบกับสถานการณ์ คติส านวน สุภาษิตที่เกี่ยวข้อง ๖. ประเมินค่า พิจารณาตัดสินข้อเท็จจริง หรือข้อคิดเห็น รวมทั้งคุณค่าเหตุผล และ ความ ประทับใจที่ได้รับจากการอ่าน หลักปฏิบัติในการอ่านอย่างมีวิจารณญาณ ๑. นั่งในท่าสบาย ล าตัวตรง ๒. กะระยะสายตาห่างจากหนังสือประมาณ ๑ ฟุต ๓. ไม่เอียงคอ หรี่ตา หรือส่ายหน้าตามบรรทัด ๔. ไม่ท าปากขมุบขมิบ หรือออกเสียงขณะอ่าน ๕. กวาดสายตาตลอดบรรทัด ไม่มองย้อนกลับ ๖. ไม่ใช้นิ้วชี้ตามตัวอักษร ๗. มีสมาธิและปฏิบัติตามล าดับขั้นการอ่านอย่างมีวิจารณญาณ การอ่านงานเขียนโดยทั่วไปนั้น ต้องรู้จักคิด พิจารณาไตร่ตรองให้รอบคอบ การอ่านอย่างมี วิจารณญาณต้องอาศัยการวิเคราะห์เป็นพื้นฐาน ผนวกกับการประเมินค่าเรื่องที่เราอ่านอีกขั้นหนึ่ง คือ สามารถ วิจารณ์เรื่องนั้น แสดงความคิดเห็นอย่างมีเหตุผล วิเคราะห์ถ้อยค า ประโยค วิเคราะห์ทรรศนะของผู้แต่งและ เนื้อหาได้


ค าชี้แจง นักเรียนอ่านข้อความจากวรรณคดี โคลนติดล้อ ตอนความนิยมเป็นเสมียน ที่ก าหนดให้ แล้วท ากิจกรรม ตามล าดับต่อไปนี้ ผลแห่งการบูชาหนังสือจนเกินเหตุ ตามที่ข้าพเจ้าได้กล่าวมาแล้วนั้น มีอยู่อีกอย่างหนึ่งซึ่งข้าพเจ้าจะขอ เรียกว่า ความนิยมเป็นเสมียน เพราะจะหาค าให้สั้นกว่านี้ไม่ได้ การตั้งโรงเรียนขึ้นทั่วทั้งพระราชอาณาจักร ให้โอกาสแก่บรรดาชายหญิงทุก ๆ ขั้นได้ศึกษาให้รู้อ่านรู้เขียนหนังสือนั้น กลับให้ผลที่ท าให้เป็นที่ร าคาญ และอาจจะท าให้ร าคาญยิ่งกว่าที่เป็นอยู่เดี๋ยวนี้ก็เป็นได้ โดยไม่กล่าวถึงความเสียหาย อย่างอื่นซึ่งจะพึงมีมาในไม่ช้าวัน เด็กทุก ๆ คนซึ่งเล่าเรียนส าเร็จออกมาจากโรงเรียนล้วนแต่มีความหวังฝังอยู่ว่าจะได้มาเป็นเสมียน หรือเป็น เลขานุการ และจะได้เลื่อนยศเลื่อนต าแหน่งขึ้นเร็ว ๆ เป็นล าดับไป เด็กที่ออกมาจากโรงเรียนเหล่านี้ย่อมเห็นว่ากิจการ อย่างอื่นไม่สมเกียรติยศนอกจากการเป็นเสมียน ข้าพเจ้าเองได้เคยพบเห็นพวกหนุ่ม ๆ ชนิดนี้หลายคนเป็นคนฉลาด และว่องไว และถ้าหากเขาทั้งหลายนั้นไม่มีความกระหายจะท างานอย่างที่พวกเขาเรียกกันว่า "งานออฟฟิศ" มากีด ขวางอยู่แล้ว เขาก็อาจจะท าประโยชน์ได้มาก การที่จะบอกให้เขาเหล่านี้กระท าตัวของเขาให้เป็นประโยชน์โดยกลับไป บ้านและช่วยบิดามารดาเขาท าการเพาะปลูกนั้นเป็นการป่วยกล่าวเสียเวลา เขาตอบว่าเขาเป็นผู้ที่ได้รับความศึกษามา จากโรงเรียนแล้ว ไม่ควรจะเสียเวลาไปท างานชนิดซึ่งคนที่ไม่รู้หนังสือก็ท าได้ และเพราะเขาไม่อยากจะลืมวิชาที่เขาได้ เรียนรู้มาจากโรงเรียนนั้นด้วย เพราะเหตุนี้เขาสู้สมัคร อดอยากอยู่ในกรุงเทพฯ ได้เงินเดือนเพียงเดือนละ 15 บาท หรือ 20 บาท ยิ่งกว่าที่จะกลับไปประกอบการเพื่อเพิ่มพูนความสมบูรณ์แห่งประเทศในภูมิล าเนาเดิมของเขา นึกไปก็น่าประหลาดที่สุด ที่คนจ าพวกนี้สู้อดทนต่อความล าบากเพื่อแสวงหาและรักษาต าแหน่งเสมียนของเขา ในเงินเดือน 15 บาทนี้พ่อเสมียนยังอุตส่าห์จ าหน่ายจ่ายทรัพย์ได้ต่าง ๆ เช่นนุ่งผ้าม่วงสี ใส่เสื้อขาว สวมหมวก สักหลาด และในเวลาที่กลับจากออฟฟิศแล้วก็ต้องสวมกางเกงแพรจีนด้วย และจะต้องไปดูหนังอีกอาทิตย์ละ 2 ครั้ง เป็นอย่างน้อย ต้องไปกินข้าวตามกุ๊ก ช๊อป แล้วยังมิหน าซ้ าจะต้องเสียค่าเช่าห้องอีกด้วย (หรือบางทีเขาจะไม่เสียก็ไม่ ทราบ) ครั้นเมื่อเงินเดือนขึ้นเป็นเดือนละ 20 บาท เขาก็คิดอ่านแต่งงานทีเดียว (ข้าพเจ้าต้องขออธิบายค าว่าแต่งงาน ไว้ในวงเล็บในที่นี้ว่า ที่ข้าพเจ้าเรียกว่าแต่งงานนั้น ข้าพเจ้าพูดอย่างละม่อม เพราะว่าการแต่งงานชนิดนี้มักเป็นการ ชั่วคราวโดยมาก ซึ่งข้าพเจ้าจะได้กล่าวต่อไปในบทหน้า เพราะว่าเป็นโคลนก้อนหนึ่งซึ่งจะได้ยกขึ้นให้ท่านพิจารณา ต่อไป) ข้าพเจ้าย่อมเข้าใจอยู่ว่า ชายหนุ่มซึ่งได้ฝึกตัวให้คุ้นแก่ความสนุกสนานในเมือง ย่อมจะรู้สุกเบื่อหน่ายถิ่นฐาน บ้านเดิมของเขาตามบ้านนอก และที่จะกล่าวว่าถ้าเขาอยู่ในเมือง เขาอาจจะท าประโยชน์ให้แก่บ้านเกิดเมืองนอนของ เขาดีกว่าอยู่บ้านนอกนั้น เป็นความเหลวไหลโดยแท้ ท่านผู้มีความคิดคงจะเข้าใจได้ดีว่า อันประเทศอย่างเมืองไทย ของเรานี้ ชาวนา ชาวสวน อาจจะท าประโยชน์ให้แก่บ้านเมืองได้มากกว่าเสมียน ซึ่งเป็นแต่เครื่องมือเท่ากับปากกา และพิมพ์ดีด ซึ่งเขาใช้(หรือใช้ผิด) ถ้าจะเปรียบพืชที่เขาได้ท าให้งอกต้องนับว่าน้อยกว่าผลที่เขาได้กินเข้าไป แต่ถึง กระนั้นเขาก็ยังนึกว่าตัวเขาดีกว่าชาวนา และข้อที่ร้ายนั้น พวกเราทั้งหลายก็พลอยยอมให้เขาคิดเห็นเช่นนั้นเสียด้วย เมื่อไรหนอ พวกหนุ่ม ๆ ของเราจึงจะเข้าใจได้บ้างว่า การเป็นชาวนา ชาวสวน หรือคนท างานการอื่น ๆ นั้น ก็ การอ่านวรรณคดีในบทเรียน


มีเกียรติยศเท่ากับที่จะเป็นผู้ท างานด้วยปากกาเหมือนกัน? เมื่อไรจึงจะบังเกิดความรู้สึกเกียรติยศแห่งการงานอื่น ๆ นอกจากงานที่ท าด้วยปากกาแลพิมพ์ดีด? ค าตอบแห่งปัญหาข้อนี้ ก็เป็นดังที่กล่าวมาแล้วนั้นเอง กล่าวคือเป็นความผิดของเราทั้งหลายด้วยกัน มิใช่ ความผิดของพวกหนุ่ม ๆ โดยเฉพาะเท่านั้นหามิได้ ถ้าเรายังคงแสดงความเห็นโดยประการต่าง ๆ ว่าเสมียนเป็นบุคคล ชั้นที่สูงกว่าชาวนา ชาวสวน หรือพ่อค้าอยู่ตราบใด พวกหนุ่ม ๆ ของเราก็คงจะทะเยอทะยานฝักใฝ่ในทางเป็นเสมียน อยู่ตราบนั้น ใช่แต่เท่านั้น ยังมีคนอยู่เป็นอันมากที่ช่วยเปิดทางหาการงานให้แก่ผู้ที่อยากจะเป็นเสมียน ส่วนผู้ที่ ปรารถนาจะช่วยให้คนได้ตั้งตัวเป็นชาวนา ชาวสวน หรือคนท างานอื่น ๆ ที่เป็นประโยชน์เหมือนกันนั้นมีน้อยนัก ข้อ ที่ว่าบรรดากระทรวงทบวงการมีเสมียนมากกว่าความจ าเป็นนั้น ถึงแม้ผู้ที่ดูแต่เผิน ๆ ก็เห็นได้ว่าเป็นความจริง เพราะฉะนั้นสถานที่เหล่านั้นจึ่งต้องจัดการถ่ายเทพวกที่เกินต้องการออกเสียเป็นครั้งคราว เพื่อได้รับคนใหม่ ๆ ต่อไป ส่วนพวกที่ถูกคัดออกนั้นเล่าเป็นอย่างไรบ้าง? ข้อนี้แหละเป็นที่น่าสังเวชยิ่งนัก คนเราที่ปล่อยให้ชีวิตล่วงไป โดยท าการเป็นเสมียนเสียนานแล้ว จะไปท างานการอะไรอื่นก็ไม่สามารถจะท าได้ ถ้าเขาเป็นคนที่ท าประโยชน์ได้อยู่ เขาก็คงจะได้เลื่อนขึ้นไปในต าแหน่งอื่น ไม่ต้องถูกคัดออก ก็เช่นนั้นเขาจะไปท าอะไรเล่า? เขาจะไปเป็นชาวนาไม่ได้ ด้วยเหตุผลหลายประการ ประการ 1 ก็เพราะความหยิ่งอันหามูลมิได้ของเขานั้นเอง เขาเห็นว่าไม่สมเกียรติยศที่จะไป หาการงานท ากับชาวนา ซึ่งเขาเห็นว่าเป็นคนชั้นต่ าและสามัญ ครั้นเขาจะเป็นเจ้าของเองก็ไม่ได้ ด้วยเหตุว่าเป็นการ เหลือวิสัยที่เขาจะเก็บหอมรอมริบไว้ได้จากเงินเดือนอันน้อย ซึ่งเขาต้องจับจ่ายซื้อสิ่งของซึ่งเขาถือว่าเป็นของจ าเป็นใน ระหว่างที่เขาท าการเป็นเสมียนอยู่ แต่เหตุส าคัญที่เขาจะเป็นชาวนาไม่ได้นั้นก็คือ เขาตกลงใจไม่ได้ที่จะทิ้งเมืองไปอยู่ ตามบ้านนอกขอกนา เพราะฉะนั้น พวกเสมียนที่เกินอัตราเหล่านี้จึงคงอยู่ในเมือง เที่ยวพยายามแสวงหาต าแหน่ง เสมียนต่อไป และถ้าโชคดีก็คงจะเข้าได้ชั่วคราว แต่ไม่ช้าก็ต้องเปิดออกไปอีก ในระหว่างนี้อายุของเขาก็ล่วงเข้าไปทุก วัน และผู้ที่เป็นนายหรือก็ชอบใช้แต่เสมียนที่หนุ่ม เพราะฉะนั้นโอกาสที่จะหางานท าก็มีน้อยเข้าทุกวันจนเป็นที่น่า อัศจรรย์ว่าเขาหาเลี้ยงชีพอยู่ได้อย่างไร ถ้าเขาเป็นผู้ที่มีนิสัยสุจริตเขาก็เลี่ยงไปตายอยู่ในที่ลับ ๆ แห่ง 1 ไม่มีใครเห็น ไม่มีใครรู้จัก ไม่มีใครรัก ไม่มีใครอาลัย เป็นการลงเอยอย่างมืดแห่งชีวิตที่มืดไม่มีสาระ! แต่ถ้าความยากจนข้นแค้นของ เขาน าเขาไปสู่ทางทุจริต เขาอาจจะได้ความสนุกสนานอยู่พัก 1 แล้วเขาก็คงจะต้องยาตราเข้าสู่ศาลพระราชอาญาและ ไม่ช้าก็คงจะได้เข้าไปอยู่ในคุก แล้วต่อไปก็เท่ากับอันตรธาน ตกลงเป็นลงเอยอย่างน่าสังเวชทั้ง 2 สถาน ดังนี้จะไม่เป็นการสมควรแลหรือ ที่เราจะสอนให้พวกหนุ่ม ๆ ของเราปรารถนาหาการงานอื่น ๆ อันพึงหวัง ประโยชน์ได้ดีกว่าการเป็นเสมียน ถ้าเราจะสอนเขาทั้งหลายให้รู้สึกเกียรติยศแห่งการที่จะเป็นผู้เพาะความสมบูรณ์ ให้แก่ประเทศ เช่น ชาวนา ชาวสวน พ่อค้าและช่างต่าง ๆ จะไม่ดีกว่าหรือ? ท่านเชื่อหรือว่าพวกหนุ่ม ๆ ของเราจะท า ประโยชน์ให้แก่บ้านเมืองโดยทางการเป็นเสมียนมากกว่าทางอื่น ๆ? เราจะมีข้าวของเครื่องใช้อื่น ๆ ได้อย่างไร ถ้าเรา ไม่อุดหนุนคนจ าพวกที่จะเพาะสิ่งของนั้น ๆ ขึ้น? ท่านทั้งหลายจะช่วยได้เป็นอันมากด้วยความเห็นของท่าน เพราะว่าถึงแม้พวกหนุ่ม ๆ นั้นจะมีความคิดเห็นว่า ตัวส าคัญปานใด ก็คงจะต้องฟังความเห็นของผู้อื่น ถ้าความเห็นของสาธารณชนเห็นว่าชาวนา ชาวสวน พ่อค้าและช่าง ต่างๆ มีเกียรติยศเสมอเสมียนและไม่ยกเสมียนขึ้นลอยไว้ในที่อันสูงเกินกว่าควร ก็จะเป็นประโยชน์ช่วยเหลือได้มาก เพราะฉะนั้นท่านจะไม่ช่วยกันในทางนี้บ้างหรือ?


แบบฝึกหัดที่ 1 ขั้นที่ 1 Survey (S) อ่านส ารวจ ค าชี้แจง นักเรียนอ่านส ารวจวรรณคดี“โคลนติดล้อ ตอน ความนิยมเป็นเสมียน อย่างรวดเร็วแล้วท า เครื่องหมาย / หน้าข้อที่ถูก 1.เด็กที่จบแล้วไม่อยากกลับไปท างานในภูมิล าเนาเดิมของตนเพราะอับอายต่อผู้พบเห็น 2. เงินเดือนของราชการสมัยรัชกาลที่ 6 เริ่มต้นที่ 15 – 16 บาท 3. ความนิยมเป็นเสมียนเป็นสาเหตุให้เกิดการบูชาหนังสือเป็นเหตุ 4. คนท างานต่างอาชีพ ต่างหน้าที่กัน ย่อมมีเกียรติยศแตกต่างกัน 5. ในสมัยนั้นผู้คนมีความนิยมงานรับราชการมากกว่าการประกอบอาชีพเกษตรกรรม 6. ผู้ที่ประกอบอาชัพเกษตรกรรมมักใช้จ่ายฟุ่มเฟือย 7. ผู้ที่มีการศึกษาสูงถ้าประกอบอาชีพเสมียนอยู่ในเมืองจะสามารถน าความรู้ของตนมาท าประโยชน์ ได้มากกว่าการกลับไปท างานที่บ้านนอก 8. เสื้อผ้าเครื่องประดับ หรือสิ่งของเครื่องใช้ราคาแพง เป็นสิ่งจ าเป็นส าหรับอาชีพเสมียน เพราะ ช่วยท าให้ มีหน้ามีตาในสังคม และช่วยสร้างเกียรติยศชื่อเสียงได้ 9. รัชกาลที่ 6ทรงเสนอแนวคิดให้บรรดาผู้ใหญ่ในบ้านเมืองช่วยกันสนับสนุนให้เด็กๆได้เรียนหนังสือ สูง ๆ จะได้อาชีพอื่น ไม่ได้เป็นเสมียนอย่างเดียว 10. รัชกาลที่6 จบเรื่องแบบตั้งค าถามโดยไม่ต้องการค าตอบ แต่เน้นให้ผู้อ่านคิด


แบบฝึกหัดที่ 2 ขั้นที่ 2 Question (Q) การตั้งค าถาม ค าชี้แจง นักเรียนตั้งค าถามจากการอ่านวรรณคดีในบทเรียน “โคลนติดล้อ ตอนความนิยมเป็นเสมียน” ให้ครอบคลุมเนื้อหา โดยใช้ค าถาม ใคร ท าอะไร ที่ไหน เมื่อไร อย่างไร จ านวน 10 ค าคาม ( 5 คะแนน) ค าถามที่ 1................................................................................................................... ............................................... ค าถามที่ 2.................................................................................................................................................................. ค าถามที่ 3................................................................................................................... ............................................... ค าถามที่ 4................................................................................................................... ................................................ ค าถามที่ 5................................................................................................................................................................... ค าถามที่ 6................................................................................................................... ............................................... ค าถามที่ 7................................................................................................................... ............................................... ค าถามที่ 8......................................................................................................................................................... ......... ค าถามที่ 9.............................................................................................................. ..................................................... ค าถามที10.................................................................................................................... .............................................


แบบฝึกหัดที่ 3 ขั้นที่ 3 Read (R) การอ่านอย่างละเอียด ค าชี้แจง นักเรียนอ่านเนื้อเรื่อง “โคลนติดล้อ ตอนความนิยมเป็นเสมียน” อย่างละเอียดรอบคอบ แล้วหาค าตอบ ที่ได้ตั้งค าถามไว้ (5 คะแนน) ค าตอบที่ 1............................................................................................................................ ...................................... ค าตอบที่ 2.................................................................................................................................................................. ค าตอบที่ 3................................................................................................................... ............................................... ค าตอบที่ 4................................................................................................................... ............................................... ค าตอบที่ 5.................................................................................................................................................................. ค าถามที่ 6................................................................................................................... ............................................... ค าถามที่ 7................................................................................................................... ............................................... ค าถามที่ 8.................................................................................................................................................................. ค าถามที่ 9................................................................................................................... ................................................ ค าถามที10.................................................................................................................... .............................................


ค าชี้แจง นักเรียนจดบันทึกข้อความที่ส าคัญอย่างย่อ “โคลนติดล้อ ตอนความนิยมเป็นเสมียน” ตามความเข้าใจ ของตนเอง (5 คะแนน) แบบฝึกหัดที่ 4 ขั้นที่ 4 Record (R) จดบันทึกข้อมูล ............................................................................................................................. ............................................................. ..................................................................................................................................................................... ..................... .............................................................................................................. ............................................................................ ............................................................................................................................. ......................................................... ............................................................................................................................. ............................................................. .......................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ............................................................. ............................................................................................................................. ............................................................ .................................................................................................................................................. ........................................ .......................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ............................................................. ............................................................................................................................. ............................................................


ค าชี้แจง นักเรียนสรุปใจความส าคัญ “โคลนติดล้อ ตอนความนิยมเป็นเสมียน” โดยใช้ส านวนการเขียนของ ตนเอง (5 คะแนน) แบบฝึกหัดที่ 5 ขั้นที่ 5 Recite (R) สรุปใจความส าคัญ ............................................................................................................................. ............................................................. .......................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ............................................................. ............................................................................................................................. ......................................................... ............................................................................................................................. ............................................................. .......................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ............................................................. ............................................................................................................................. ............................................................ ..................................................................................................................................................... ..................................... .......................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ............................................................. ............................................................................................................................. ............................................................


ค าชี้แจง นักเรียนวิเคราะห์ วิจารณ์ และแสดงความคิดเห็นจากการอ่านวรรณคดีในบทเรียน “โคลนติดล้อ ตอน ความนิยมเป็นเสมียน” ในประเด็นที่ก าหนดให้ (5 คะแนน) 1. สาเหตุที่ท าให้เกิดอุปสรรคและปัญหาจาก “โคลนติดล้อ ตอนความนิยมเป็นเสมียน” เกิดจากสาเหตุใดบ้าง .................................................................................................. .......................................................................... ............................................................................................................................. ................................................ ............................................................................................................................. ................................................. 2. พฤติกรรมการวางแผนการใช้ชีวิตของเสมียนมีลักษณะเป็นอย่างไรบ้าง (ตอบเป็นข้อๆ 1. การแต่งกาย ............................................................................................................................. ............................................... ............................................................................................................................................................................. 2. การพักผ่อนในวันหยุด ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................................ 3. การแต่งงาน ............................................................................................................................. ............................................... ............................................................................................................................................................................. 4. การวางแผนอนาคต .................................................................................................................... ........................................................ ............................................................................................................................. ................................................ 5. การเปลี่ยนงาน ............................................................................................................................. ............................................... แบบฝึกหัดที่ 6 ขั้นที่ 6 Reflect (R) วิเคราะห์ วิจารณ์


3. “อาชีพทุกอาชีพมีเกียรติยศเท่ากัน” นักเรียนเห็นด้วยหรือไม่ เพราะอะไร ................................................. ........................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. 4. ถ้านักเรียนเกิดในยุครัชกาลที่ 6 นักเรียนจะประกอบอาชีพเสมียนหรืออาชีพอื่น เพราะอะไร ............................................................................................................................. ............................................... ............................................................................................................................. ................................................ .................................................................................................................................................................... .......... .................................................................................................................... ........................................................ ............................................................................................................................. ................................................ .............................................................................................................................................. ................................ 5. นักเรียนคิดว่าอาชีพเสมียนในอดีต กับอาชีพเสมียนในปัจจุบันมีความเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไรบ้าง ............................................................................................................................. ............................................... ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ............................................... ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. .................................................


ค าชี้แจง นักเรียนเลือกค าตอบที่ถูกต้อง และท าเครื่องหมาย × ทับข้อที่ถูกต้องที่สุด 1. ชื่อบทความ โคลนติดล้อ เป็นการใช้โวหารภาพพจน์ประเภทใด ก.ปฏิพากย์ ข. อุปลักษณ์ ค. อธิพจน์ ง. อุปมา 2. “..... เราจะเห็นได้ว่าโคลนเหล่านี้บางก้อนได้ติดมานานแล้วและเป็นการล าบาก ที่จะเปลื้องออกให้เกลี้ยงได้ใน คราวเดียวแต่ถ้าประกอบด้วยวิริยภาพและความบากบั่น เราก็จะสามารถที่จะชาระโคลนนั้นออกได้หมดในเวลา อันควรเหมือนกัน.........” ข้อความดังกล่าวแสดงเจตนาของผู้เขียนเด่นชัดในเรื่องใดมากที่สุด ก. มุ่งหวังให้ประเทศเกิดความสันติสุข ข. มุ่งหวังให้คนในชาติร่วมใจกันพัฒนาชาติ ค. มุ่งหวังให้ค านึงปัญหาที่เหนี่ยวรั้งความเจริญของชาติ ง. มุ่งหวังให้สังคมรับผิดชอบในหน้าที่ 3.. การตั้งโรงเรียนทั่วพระราชอาณาจักร ให้โอกาสแก่บรรดาชายหญิง ทุกๆชั้นให้ศึกษาให้รู้ให้อ่านรู้เขียนหนังสือ นั้นกลับให้ผลที่ท าให้เป็นที่ร าคาญและ อาจท าให้ร าคาญยิ่งกว่าที่เป็นอยู่เดี๋ยวนี้ก็เป็นได้ สาระส าคัญของข้อความข้างต้นคืออะไร ก. ปัญหาเกี่ยวกับการจัดการด้านการศึกษาในยุคแรก ข. การได้รับการศึกษาของประชาชนท าให้เกิดปัญหาสังคม ค. การขยายโอกาสทางการศึกษาให้แก่ประชาชนทั่วประเทศ ง. การศึกษาท าให้เกิดความเบื่อหน่ายแก่เยาวชน 4. “ในเงินเดือน 15 บาทนี้ พ่อเสมียนยังอุตส่าห์จ าหน่าย จ่ายทรัพย์ได้ต่างๆ เช่น นุ่งผ้าม่วงสี ใส่เสื้อขาว สวมหมวกสักหลาด และในเวลาที่กลับจากออฟฟิศ แล้วต้องสวมกางเกงแพรจีนด้วย และจะต้องไปดูหนังอีกอาทิตย์ละ 2 ครั้ง เป็นอย่างน้อย” การใช้จ่ายลักษณะนี้ตรงกับส านวนไทยว่าอย่างไร ก. คางคกขึ้นวอ ข. กระเชอก้นรั่ว ค.เกี่ยวแฝกมุงป่า ง. เห็นช้างขี้ขี้ตามช้าง 5. . “ถ้าจะเปรียบพืชที่ท าให้งอก ต้องนับว่าน้อยกว่าผลที่เขาได้กินเข้าไป” ข้อความนี้ใช้กลวิธีทางวรรณศิลป์แบบใดเด่นชัดที่สุด ก. ใช้การเปรียบเทียบ ข. ใช้ภาษาไพเราะ ค. ใช้ประโยคค าถาม ง. ใช้ค าสร้างอารมณ์ความรู้สึก แบบทดสอบหลังเรียน แบบฝึกทักษะการอ่านอย่างมีวิจารณญาณ SQ4R เล่มที่ 2 การอ่านอย่างมีวิจารณญาณจากวรรณคดีในบทเรียน


6. “...เด็กที่ออกมาจากโรงเรียนเหล่านี้ย่อมเห็นว่ากิจการอย่างอื่นไม่สมเกียรติยศ นอกจากการเป็นเสมียน...” ข้อความข้างต้นสอดคล้องกับเรื่องใด ก. ความเชื่อ ข. ค่านิยม ค. วิถีชีวิต ง. ขนบประเพณี 7. “...ถ้าเขาเป็นผู้ที่มีนิสัยสุจริตเขาก็เลี่ยงไปตายอยู่ในที่ลับ ๆ แห่ง 1 ไม่มีใครเห็น ไม่มีใครรู้จัก ไม่มีใครรัก ไม่มี ใครอาลัย เป็นการลงเอยอย่างมืด แห่งชีวิตที่มืดไม่มีสาระ...” ข้อความนี้เป็นการใช้ค าลักษณะใด ก. การใช้ค าง่าย ข. การเน้นค า ค. การเล่นค า ง. การซ้ าค า 8. “อันประเทศอย่างเมืองไทยของเรานี้ ชาวนาชาวสวนอาจจะท าประโยชน์ให้แก่บ้านเมืองได้มากกว่าเสมียน ซึ่งเป็นแต่เครื่องมือเท่ากับปากกาและพิมพ์ดีด” ข้อความนี้สะท้อนสภาพสังคมไทยได้อย่างไร ก. คนสมัยก่อนนิยมท าอาชีพชาวนาชาวสวนมากกว่า ข. คนสมัยก่อนให้ความเคารพชาวนาชาวสวนมากกว่า ค. คนสมัยก่อนคิดว่า อาชีพเสมียนเป็นอาชีพที่ท าประโยชน์ได้น้อย ง. ประเทศไทยเป็นเมืองเกษตรกรรมจึงต้องการชาวนาชาวสวนมากกว่า 9. “เมื่อไหร่หนอพวกหนุ่มๆ ของเราจึงจะเข้าใจได้ว่า การเป็นชาวนา ชาวสวน หรือคนท างานการอื่น นั้นก็มี เกียรติยศ เท่ากับที่จะเป็นผู้ที่ท างานด้วยปากกาเหมือนกัน เมื่อไรจึงจะบังเกิดความรู้สึกเกียรติยศแห่งการงานอื่นๆ นอกจากงานที่ท าด้วยปากกาและพิมพ์ดีด” ข้อความนี้ใช้กลวิธีในการเขียนอย่างไร ก. ตั้งค าถามที่ต้องการค าตอบ เพื่อให้ผู้อ่านคิดตาม ข. สร้างปมปัญหาเพื่อให้เกิดข้อสังเกตในเนื้อเรื่อง ค. เสนอแนวทางในการแก้ปัญหาให้กับผู้อ่านได้น าไปปฏิบัติ ง. ตั้งค าถามที่ไม่ต้องการค าตอบ แต่เพื่อเน้นให้ผู้อ่านคิด 10. ข้อความต่อไปนี้ต้องการโน้มน้าวใจเรื่องใด “หากพวกเราทั้งหลายอยากให้ลูกหลานของเราเจริญเติบโตเป็นคนดีที่มีความฉลาด มีความเพียร ก็จงหมั่น จัดหาหนังสือดีๆ ให้พวกเขาได้อ่านกัน และร่วมสร้างกุศลจัดซื้อหนังสือบริจาคส่งไปให้ห้องสมุด เพื่อลูกหลานของเรา ได้มีโอกาสอ่านเถอะ เพราะเด็กที่ฉลาดมีความเพียรย่อมส่งผลให้ประเทศชาติเจริญ” ก. การรักการอ่าน ข. การบริจาคหนังสือ ข. การส่งเสริมให้เด็กฉลาด ง. การพัฒนาประเทศด้วยการอ่าน


ค าชี้แจง ให้นักเรียนพิจารณาค าตอบที่ถูกต้อง แล้วท าเครื่องหมาย X ลงในกะดาษค าตอบ ข้อ ก ข ค ง 1 2 3 4 5 6 7 8 กระดาษค าตอบแบบทดสอบหลังเรียน แบบฝึกทักษะการอ่านอย่างมีวิจารณญาณ SQ4R เล่มที่ 2 การอ่านอย่างมีวิจารณญาณจากวรรณคดีในบทเรียน


ภาคผนวก


ข้อ ก ข ค ง 1 x 2 x 3 x 4 x 5 x 6 x 7 x 8 x 9 x 10 x เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน


เฉลยแบบฝึกหัดที่ 1 ขั้นที่ 1 Survey (S) อ่านส ารวจ ค าชี้แจง นักเรียนอ่านส ารวจวรรณคดี“โคลนติดล้อ ตอน ความนิยมเป็นเสมียน อย่างรวดเร็วแล้วท า เครื่องหมาย หน้าข้อที่ถูก 1.เด็กที่จบแล้วไม่อยากกลับไปท างานในภูมิล าเนาเดิมของตนเพราะอับอายต่อผู้พบเห็น .........2. เงินเดือนของราชการสมัยรัชกาลที่ 6 เริ่มต้นที่ 15 – 16 บาท .........3. ความนิยมเป็นเสมียนเป็นสาเหตุให้เกิดการบูชาหนังสือเป็นเหตุ .........4. คนท างานต่างอาชีพ ต่างหน้าที่กัน ย่อมมีเกียรติยศแตกต่างกัน .5. ในสมัยนั้นผู้คนมีความนิยมงานรับราชการมากกว่าการประกอบอาชีพเกษตรกรรม .........6. ผู้ที่ประกอบอาชัพเกษตรกรรมมักใช้จ่ายฟุ่มเฟือย .........7. ผู้ที่มีการศึกษาสูงถ้าประกอบอาชีพเสมียนอยู่ในเมืองจะสามารถน าความรู้ของตนมาท าประโยชน์ ได้มากกว่าการกลับไปท างานที่บ้านนอก .8. เสื้อผ้าเครื่องประดับ หรือสิ่งของเครื่องใช้ราคาแพง เป็นสิ่งจ าเป็นส าหรับอาชีพเสมียน เพราะ ช่วยท าให้ มีหน้ามีตาในสังคม และช่วยสร้างเกียรติยศชื่อเสียงได้ .9. รัชกาลที่ 6 ทรงเสนอแนวคิดให้บรรดาผู้ใหญ่ในบ้านเมืองช่วยกันสนับสนุนให้เด็กๆ ที่ได้เรียน หนังสือสูง ๆ จะได้ประกอบอาชีพอื่น ไม่ได้เป็นเสมียนอย่างเดียว .10. รัชกาลที่6 จบเรื่องแบบตั้งค าถามโดยไม่ต้องการค าตอบ แต่เน้นให้ผู้อ่านคิด


เฉลยแบบฝึกหัดที่ 2 ขั้นที่ 2 Question (Q) การตั้งค าถาม ค าชี้แจง นักเรียนตั้งค าถามจากการอ่านวรรณคดีในบทเรียน “โคลนติดล้อ ตอนความนิยมเป็นเสมียน” ให้ครอบคลุมเนื้อหา โดยใช้ค าถาม ใคร ท าอะไร ที่ไหน เมื่อไร อย่างไร จ านวน 10 ค าคาม (10 คะแนน) แนวค าตอบ ค าถามที่ 1 โคลนติดล้อ หมายความว่าอย่างไร ค าถามที่ 2 ความนิยมเป็นเสมียน กล่าวถึงสิ่งใด ค าถามที่ 3 การจัดตั้งโรงเรียนทั่วพระราขอาณาจักรส่งผลกระทบใด ค าถามที่ 4 ท าไมคนในยุคสมัยนั้นจึงอยากประกอบอาชีพเสมียน ค าถามที่ 5 พฤติกรรมการใช้ชีวิตของเสมียนเป็นอย่างไรบ้าง ค าถามที่ 6 ท าไมคนที่จบการศึกษาออกมาถึงไม่ประกอบอาชีพอื่นนอกจากอาชีพเสมียน ค าถามที่ 7 เสมียนที่ถูกคัดออกจากงานชีวิตจะเป็นอย่างไร ค าถามที่ 8 อาชีพทุกอาชีพมีความส าคัญอย่างไรต่อประเทศชาติ ค าถามที่ 9 ใครที่มีบทบาทส าคัญในการปลูกฝังเด็กรุ่นใหม่ให้เห็นความส าคัญของอาชีพอื่น ค าถามที่ 10 เหตุใดความนิยมเป็นเสมียนจึงเป็นปัญหาของประเทศ


เฉลยแบบฝึกหัดที่ 3 ขั้นที่ 3 Read (R) การอ่านอย่างละเอียด ค าชี้แจง นักเรียนอ่านเนื้อเรื่อง “โคลนติดล้อ ตอนความนิยมเป็นเสมียน” อย่างละเอียดรอบคอบ แล้วหา ค าตอบที่ได้ตั้งค าถามไว้ แนวค าตอบ ค าตอบที่ 1 อุปสรรคและปัญหาที่ถ่วงความเจริญของประเทศชาติ ค าตอบที่ 2 ค่านิยมในการรับราชการ ค าตอบที่ 3 เมื่อจบการศึกษาออกมาแล้วมุ่งหวังแต่จะประกออบอาชีพเสมียน ค าตอบที่ 4 แสดงให้เห็นถึงความมีการศึกษา ค าตอบที่ 5. ใช้จ่ายสุรุยสุร่าย ท าตัวโก้หรู นุ่มผ้าม่วงศรี สวมหมวกสักหลาด กินอาหารนอกบ้าน ค าตอบที่ 6 เพราะมองว่าอาชีพอื่นว่าเป็นอาชีพที่ต่ าต้อย ไม่มีเกียรติยศ ค าตอบที่ 7 ไม่สามารถท างานอย่างอื่นได้ ชีวิตลงเอยอย่างมืด ไม่มีสาระ ค าตอบที่ 8 อาชีพใด ๆ ก็ล้วนแต่ท าประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติได้ทั้งสิ้น ค าตอบที่ 9 ผู้หลักผู้ใหญ่ร่วมปลูกฝังให้เด็กที่จบการศึกษาในภายภาคหน้าจบมาท างานพัฒนาบ้านเกิด ค าตอบที่ 10 เพราะคนนิยมประกอบอาชีพเสมียนไม่ยอมกลับมาพัฒนาบ้านเกิด


ค าชี้แจง นักเรียนจดบันทึกข้อความที่ส าคัญอย่างย่อ “โคลนติดล้อ ตอนความนิยมเป็นเสมียน” ตามความเข้าใจ ของตนเอง แนวการตอบ เฉลยแบบฝึกหัดที่ 4 ขั้นที่ 4 Record (R) จดบันทึกข้อมูล โรงเรียนที่ก่อตั้งขึ้นมาดูเหมือนจะเป็นปัญหาน่าร าคาญมากมาย เด็กๆที่เรียน มีเป้าหมายที่จะเป็นเสมียน เป็นพนักงานออฟฟิศ เลือกที่จะใช้ชีวิตอยู่ในเมือง ด้วยเงินเดือนเพียงน้อยนิด 15 บาท เอาเวลาไปดูหนังอาทิตย์ละ สองครั้ง จ่ายค่าเช่าบ้าน ค่าเครื่องแต่งกาย ไปกินอาหารฝรั่งตามภัตตาคาร ดูหนังอาทิตย์ละสองครั้ง และเมื่อ เงินเดือนขึ้นเป็น 20 บาท ก็คิดจะลงหลักปักฐาน แต่งงาน(ชั่วคราว)กันเลยทีเดียว ไม่ยอมกลับไปบ้านเกิด ไปท าสวน ท านา ทั้งๆที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ ด้วยเห็นว่า อาชีพชาวสวน ชาวนา เป็นอาชีพส าหรับผู้ไม่มีการศึกษา เป็นอาชีพที่ต่ าต้อย แต่ความเป็นจริงแล้ว ชาวนาชาวสวน ท าประโยชน์ได้มากกว่าพวกเสมียนที่ใช่แค่ปากกาและ พิมพ์ดีด เมื่อเสมียนที่ไม่มีความสามารถถูกไล่ออกไป เพื่อเปิดรับคนใหม่ คนพวกเก่าๆก็ยังวนเวียนใช้ชีวิตไฮโซอยู่ ในเมือง หางานท าแบบเร่ร่อน เป็นเสมียนชั่วคราวเหมือนเดิม หากเข้าตาจนก็ทุจริต จนถูกลงโทษทางกฎหมาย ดังนั้นจะเป็นการสมควรที่พวกหนุ่มๆ จะหางานที่ท าประโยชน์ได้มากกว่าเสมียน หากใครๆไม่ยกยอเสมียนลอยไว้ ในอาชีพที่มีเกียรติ และช่วยกันยกยออาชีพอื่นๆ ยกยอชาวสวนชาวนา ก็จะช่วยลดโคลนก้อนนี้ออกไปได้บ้าง แล้วทุกท่านจะไม่ช่วยกันบ้างเลยเหรอ?


ค าชี้แจง นักเรียนสรุปใจความส าคัญ “โคลนติดล้อ ตอนความนิยมเป็นเสมียน” โดยใช้ส านวนการเขียนของ ตนเอง เฉลยแบบฝึกหัดที่ 5 ขั้นที่ 5 Recite (R) สรุปใจความส าคัญ แนวการตอบ เด็กที่จบการศึกษาหรือผู้ที่มีการศึกษา ไม่สนใจกลับไปพัฒนาบ้านเกิดของตนเอง ในชนบท กลับเลือกการท างานเป็นเสมียนในเมืองหลวง เพราะรักความสบาย จึงชี้ให้เห็นความ บกพร่องของค่านิยมการเป็นเสมียน ทั้งที่อาชีพชาวนาชาวสวนก็มีเกียรติเหมือนกัน จึงควร ปลูกฝังให้หนุ่มสาวคนรุ่นใหม่ที่จบการศึกษาออกมา หันกลับมาประกอบอาชีพชาวนาชาวสวน หรืออาชีพอื่นๆ ให้มากขึ้น เพราะทุกอาชีพเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศ


ค าชี้แจง นักเรียนวิเคราะห์ วิจารณ์ และแสดงความคิดเห็นจากการอ่าน*ข่าว “โคลนติดล้อตอนความนิยมเป็น เสมียน” ในประเด็นที่ก าหนดให้ (5 คะแนน) 1. สาเหตุที่ท าให้เกิดอุปสรรคและปัญหาจาก “โคลนติดล้อ ตอนความนิยมเป็นเสมียน” เกิดจากสาเหตุใดบ้าง (ค าตอบอยู่ในดุลพินิจครูผู้สอน) 2. พฤติกรรมการวางแผนการใช้ชีวิตของเสมียนมีลักษณะเป็นอย่างไรบ้าง (ตอบเป็นข้อๆ 2.1 การแต่งกาย (ค าตอบอยู่ในดุลพินิจครูผู้สอน) 2.2 การพักผ่อนในวันหยุด (ค าตอบอยู่ในดุลพินิจครูผู้สอน) 2.3 การแต่งงาน (ค าตอบอยู่ในดุลพินิจครูผู้สอน) 2.4 การวางแผนอนาคต (ค าตอบอยู่ในดุลพินิจครูผู้สอน) 2.5 การเปลี่ยนงาน (ค าตอบอยู่ในดุลพินิจครูผู้สอน) 3. “อาชีพทุกอาชีพมีเกียรติยศเท่ากัน” นักเรียนเห็นด้วยหรือไม่ เพราะอะไร (ค าตอบอยู่ในดุลพินิจครูผู้สอน) 4. ถ้านักเรียนเกิดในยุครัชกาลที่ 6 นักเรียนจะประกอบอาชีพเสมียนหรืออาชีพอื่น เพราะอะไร (ค าตอบอยู่ในดุลพินิจครูผู้สอน) 5. นักเรียนคิดว่าอาชีพเสมียนในอดีต กับอาชีพเสมียนในปัจจุบันมีความเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไรบ้าง (ค าตอบอยู่ในดุลพินิจครูผู้สอน เฉลยแบบฝึกหัดที่ 6 ขั้นที่ 6 Reflect (R) วิเคราะห์ วิจารณ์


ข้อ ก ข ค ง 1 x 2 x 3 x 4 x 5 x 6 x 7 x 8 x 9 x 10 x เฉลยแบบทดสอบหลังเรียน


ชื่อ...........................................................ชั้น......................เลขที่...................... รายการที่วัด คะแนนเต็ม คะแนนที่ได้ ร้อยละของคะแนนที่ท าได้ ระดับคุณภาพ แบบทดสอบก่อนเรียน แบบทดสอบหลังเรียน แบบฝึกหัดที่ 1 แบบฝึกหัดที่ 2 แบบฝึกหัดที่ 3 แบบฝึกหัดที่ 4 แบบฝึกหัดที่ 5 แบบฝึกหัดที่ 6 แบบบันทึกผลการเรียนรู้ แบบฝึกทักษะเล่มที่ 2 การอ่านอย่างมีวิจารณญาณวรรณคดีในบทเรียน


บรรณานุกรม


บรรณานุกรม กรมวิชาการ กระทรวงศึกษาธิการ. 2551. ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลาง กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์ การเกษตรแห่งประเทศไทย. จิตต์นิภา ศรีไสย์ และคณะ. 2563. วรรณคดีและวรรณกรรม. กรุงเทพฯ : สถาบันพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.). ธารทิพย์ แก้วเหลี่ยม. วิธีการอ่านแบบ SQ4R. http//gotoknow.org/blog/244531. เข้าถึงเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2564. ประภัสสรา โคตะขุน. การ0yfการเรียนรู้แบบ SQ4R. https://prapasara.blogspot.com/2018/09/sq4r.html. เข้าถึงเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2564. วาสนา ทองพูน. 2555. แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความส าคัญโดยใช้วิธีการอ่านแบบ SQ4R ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6. https://www.slideshare.net/ssuser89487a/ss-13390455. เข้าถึงเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2564.


Click to View FlipBook Version