เอกสารประกอบ แผ่นเปลือกโลก
การสอน
การเปลี่ยนแปลงทาง
ธรณีภาค
น า ง ส า ว พิ ม ช ภั ก ดิ์ ชั ย พ ล เ ด ช
PREPARED BY ครูผูสอน
Joseph WIlliams
Adam Hames
ใบความรู้ รายวชิ า ส 30221 ภมู ศิ าสตร์กายภาพ ผ้สู อนนางสาวพมิ ชภกั ดิ์ ชยั พลเดช
ทฤษฎแี ผ่นเปลอื กโลกเคลอื่ นที่
(Plate Tectonics)
การศึกษาสภาพธรณีวทิ ยาของพน้ื ผวิ โลกทาให้ยนื ยนั ไดว้ า่ ผวิ โลกตอ่ เน่ืองลงไปถึงดา้ นล่าง ไดเ้ กิดมี
การเคลื่อนทจ่ี ริงๆ การเคลื่อนที่มีท้งั ไปทางดา้ นขา้ งและข้นึ ลงตามแนวดิ่ง แต่การแปรเปล่ียน ของผวิ โลก
ตามทฤษฎีการแยกตวั ของทวปี ก็ยงั เป็นท่ีถกเถียงกนั อยมู่ ากโดยมีท้งั ผทู้ เ่ี ห็นดว้ ยและผทู้ ี่คดั คา้ น มีผเู้ สนอ
ทฤษฎีเก่ียวกบั การแยกตวั ของพ้นื มหาสมุทร (Seafloor spreading) เช่น B.C. Heezen, H.H. Hess และ R.S.
Dietz เป็นตน้ โดยทฤษฎีน้ีมีใจความสาคญั มาจากการแยกตวั ทพี่ น้ื มหาสมุทร ออกจากกนั เป็ นแนวยาวโดยมี
วสั ดุจากใตช้ ้นั เปลือกโลกแทรกข้นึ มา เยน็ ตวั แขง็ เกิดเป็ นพน้ื มหาสมุทร ใหม่แลว้ กแ็ ยกจากกนั ออกไปอีก
เรื่อย ๆ ในทศิ ทางต้งั ฉากกบั รอยแยกน้ี วสั ดุท่ีแทรกข้นึ มาทาใหเ้ กิดเป็ นโครงสรา้ งเทือกเขากลางสมุทร
(Mid-Oceanic Ridge) การเคล่ือนท่อี อกจากกนั ของพน้ื มหาสมุทรถูกนาไปสมั พนั ธก์ บั ลกั ษณะของเปลือก
โลกบริเวณร่องลึกทพ่ี ้นื มหาสมุทร (Trench) แนวภูเขาไฟรูปโคง้ (Volcanic arcs) และเทอื กเขาสูงใกลข้ อบ
ทวปี แลว้ จึงทาใหเ้ กิดเป็นแนวคิดต่อเน่ืองวา่ ช้นั ส่วนบนของโลกน่าจะมีลกั ษณะเป็ นแผน่ ประสานกนั แผน่ น้ี
มีท้งั ส่วนที่เป็ นทวปี และพน้ื มหาสมุทร มีการเกิดข้นึ ในบางส่วนของแผน่
การเคลอ่ื นตวั ของเปลอื กโลก( เพลทเทคโทนิคส์ : Plate tectonics)
เปลือกโลกเหมือนเปลอื กไข่แตกร้าว มีแผน่ หลายแผน่ เรียงชิดตดิ กนั เรียกวา่ “เพลต” (Plate) ซ่ึงมีอยปู่ ระมาณ
20 เพลต เพลตท่ีมีขนาดใหญ่ ไดแ้ ก่ เพลตแปซิฟิ ก เพลตอเมริกาเหนือ เพลตอเมริกาใต้ เพลตยเู รเซีย เพลต
แอฟริกา เพลตอินโด-ออสเตรเลีย และเพลตแอนตาร์กตกิ เป็นตน้ เพลตแปซิฟิ กเป็นเพลตทใี่ หญท่ ่ีสุดและไม่
มีเปลือกทวปี มอี าณาเขตหน่ึงในสามของพน้ื ผวิ โลก เพลตทกุ เพลตเคล่ือนตวั เปล่ียนแปลงขนาดและรูปร่าง
อยตู่ ลอดเวลา
1
ใบความรู้ รายวชิ า ส 30221 ภมู ศิ าสตร์กายภาพ ผ้สู อนนางสาวพมิ ชภกั ด์ิ ชยั พลเดช
การเคลื่อนตวั ของเพลต
เพลตประกอบดว้ ยเปลือกทวปี และเปลือกมหาสมุทรวางตวั อยบู่ นแมนเทิลช้นั บนสุด ซ่ึงเป็ นของแขง็ ในช้นั ลิ
โทสเฟี ยร์ ลอยอยบู่ นหินหนืดรอ้ นในช้นั แอสทโี นสเฟียร์อีกทีหน่ึง
หินหนืด (Magma) เป็ นวสั ดุเน้ืออ่อนเคล่ือนทีห่ มุนเวยี นดว้ ยการพาความร้อนภายในโลก คลา้ ยการเคล่ือนตวั
ของน้าเดือดในกาตม้ น้า การเคลื่อนตวั ของวสั ดุในช้นั แอสทีโนสเฟี ยร์ทาใหเ้ กิดการเคลื่อนตวั เพลต เราเรียก
กระบวนการเช่นน้ีวา่ “ธรณีแปรสณั ฐาน” หรือ “เพลตเทคโทนิคส์” (Plate Tectonics)
- การพาความร้อนจากภายในของโลกทาใหว้ สั ดุในช้นั แอสทีโนสเฟี ยร์ (Convection cell) ลอยตวั ดนั พน้ื
มหาสมุทรข้นึ มากลายเป็ น “สนั กลางมหาสมุทร” (Mid-ocean ridge) หินหนืดร้อนหรือแมกม่าซ่ึงโผล่ข้ึนมา
ผลกั พ้นื มหาสมุทรใหเ้ คลื่อนทข่ี ยายตวั ออกทางขา้ ง
- เน่ืองจากเปลือกมหาสมุทรมีความหนาแน่นมากกวา่ เปลือกทวปี ดงั น้นั เม่ือเปลือกมหาสมุทรชนกบั เปลือก
ทวปี เปลือกมหาสมุทรจะมุดตวั ต่าลงกลายเป็น “เหวมหาสมุทร” (Trench) และหลอมละลายในแมนเทลิ อีก
คร้ังหน่ึง
2
ใบความรู้ รายวชิ า ส 30221 ภมู ศิ าสตร์กายภาพ ผ้สู อนนางสาวพมิ ชภกั ดิ์ ชยั พลเดช
- มวลหินหนืดท่ีเกิดจากการรีไซเคลิ ของเปลอื กมหาสมุทรทจี่ มตวั ลงเรียกวา่ “พลูตอน”(Pluton) มคี วาม
หนาแน่นนอ้ ยกวา่ เปลือกทวปี จึงลอยตวั แทรกข้ึนมาเป็ นแนวภเู ขาไฟ เช่น เทือกเขาแอนดีสทางฝั่งตะวนั ตก
ของทวปี อเมริกาใต้
รอยต่อของขอบเพลต (Plate boundaries)
- เพลตแยกจากกนั (Divergent) เมื่อแมกม่าในช้นั แอสทีโนสเฟี ยร์ดนั ตวั ข้ึน ทาให้เพลตจะขยายตวั
ออกจากกนั แนวเพลตแยกจากกนั ส่วนมากเกิดข้นึ ในบริเวณสนั กลางมหาสมุทร
- เพลตชนกนั (Convergent) เม่ือเพลตเคล่ือนทเี่ ขา้ ชนกนั เพลตทีม่ ีความหนาแน่นสูงกวา่ จะมุดตวั ลง
และหลอมละลายในแมนเทิล ส่วนเพลตทม่ี ีความหนาแน่นนอ้ ยกวา่ จะถูกเกยสูงข้ึนกลายเป็ น
เทือกเขา เช่น เทือกเขาหิมาลยั เกิดจากการชนกนั ของเพลตอินเดียและเพลตเอเชีย เทอื กเขาแอพพา
เลเชียน เกิดจากการชนกนั ของเพลตอเมริกาเหนือกบั เพลตแอฟริกา
- เพลตเฉือนกนั (Transform fault) เป็นรอยเล่ือนขนาดใหญ่ มกั เกิดข้นึ ในบริเวณเทอื กเขากลาง
มหาสมุทร แตบ่ างคร้ังก็เกิดข้นึ บริเวณชายฝั่ง เช่น รอยเล่ือนแอนเดรียสท์ าใหเ้ กิดแผน่ ดินไหวในรฐั
แคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เกิดจากการเคล่ือนท่ีสวนกนั ของเพลตอเมริกาเหนือและเพลต
แปซิฟิ ก
3
ใบความรู้ รายวชิ า ส 30221 ภมู ศิ าสตร์กายภาพ ผ้สู อนนางสาวพมิ ชภกั ด์ิ ชยั พลเดช
ทวีปเลอื่ น
( Continental Drift )
ภาพ 1 แสดงให้เห็นวา่ เม่ือ 200 ลา้ นปี ก่อน ทางตอนใตข้ องทวปี อเมริกาใต้ แอฟริกา อินเดีย
ออสเตรเลีย เคยอยชู่ ิดตดิ กบั ทวปี แอนตาร์กติกในบริเวณข้วั ใต้ ซ่ึงเป็ นเขตหนาวเยน็ โดยมีหลกั ฐานเป็ น
ร่องรอยของธารน้าแขง็ ในอดีต ในขณะทีต่ อนใตข้ องทวปี อเมริกาเหนือ ยโุ รป และเอเชีย มีหลกั ฐานบ่งช้ีวา่
เคยเป็นเขตรอ้ นแถบศนู ยส์ ูตรมาก่อน เน่ืองจากอุดมสมบูรณ์ดว้ ยถ่านหินและน้ามนั ซ่ึงเกิดจากการทบั ถม
ของพชื ในอดีต และหลกั ฐานจากฟอสซิล
นกั ธรณีวทิ ยาเช่ือวา่ เปลือกโลกมีการเคล่ือนที่ ในปี 1908 Frank B. Taylor ไดอ้ ธิบายปรากฏการณ์
ของการทีม่ หาทวปี 2 แห่ง ซ่ึงเคยวางตวั อยใู่ กลข้ ้วั โลกเหนือและใตแ้ ตกแยกออกเป็นทวปี ขนาดเลก็ กวา่ และ
เคล่ือนทม่ี าทางเสน้ ศูนยส์ ูตร นนั่ คือมหาทวปี ลอเรเซีย (Laurasia) ซ่ึงอยทู่ างเหนือและมหาทวปี กอนดว์ านา
(Gondwanaland) ซ่ึงอยทู่ างใต้ โดยเป็ นการเคล่ือนท่ีเฉพาะของเปลือกโลกไซอลั และผลกั ดนั ตะกอนทาให้
เกิดแนวเทือกเขาทางดา้ นหนา้ ที่ทวปี เคล่ือนท่ีไปประกอบกบั ร่องรอยการแตกแยกของทวปี ทางดา้ นหลงั
สาหรบั แรงที่ทาใหเ้ กิดการเคลื่อนท่ีของทวปี น้นั อธิบายวา่ มาจากแรงดึงดูดของดวงจนั ทร์ซ่ึงเขา้ มาอยใู่ กลช้ ิด
โลกมาก ในยคุ ครีเทเชียส
ต่อมาในปี 1910 Alfred Wegener ไดส้ รา้ งแผนท่มี หาทวปี ใหม่เพยี งแห่งเดียว โดยอาศยั รูปร่างแผน
ทข่ี อง Snider และต้งั ช่ือวา่ มหาทวปี พนั เจยี ลอ้ มรอบอยดู่ ว้ ยมหาสมุทรแพนธาลาสซา (Panthalassa) แลว้ จงึ
แตกออกและเคล่อื นทไี่ ปอยู่ ณ ตาแหน่งทีเ่ ห็นอยใู่ นปัจจุบนั ขณะเคลื่อนท่ีกเ็ กิดเทอื กเขาดา้ นหนา้ การ
แตกแยกดา้ นหลงั เหมือนคาอธิบายของ Taylor นอกจากน้ียงั อธิบายวา่ รอยช้ินทวปี ท่ีขาดหล่นปรากฏเป็ น
เกาะแก่ง หรือรอยฉีกท่พี บเป็นร่องลึกยงั ปรากฏอยบู่ นพน้ื มหาสมุทร ขณะเดียวกบั ที่มีการแทรกดนั ข้ึนมา
ของเปลือกโลก ท่ีมีมวลต้งั ตน้ มาจากช้นั เน้ือโลก
4
ใบความรู้ รายวชิ า ส 30221 ภมู ศิ าสตร์กายภาพ ผ้สู อนนางสาวพมิ ชภกั ด์ิ ชยั พลเดช
5
ใบความรู้ รายวชิ า ส 30221 ภมู ศิ าสตร์กายภาพ ผ้สู อนนางสาวพมิ ชภกั ดิ์ ชยั พลเดช
ภูเขาไฟ (Volcano) เกิดจากหินหนืดในช้นั แมนเทิลซ่ึงอยใู่ ตผ้ วิ โลก มีความรอ้ นและความ ดนั สูงมาก
พยายามดนั ข้ึนมาตามรอยแตกและแทรกตวั ข้นึ มาสู่ผวิ โลก โดยจะมีแร่ปะทุหรือระเบดิ เกิดข้ึนทาใหห้ ินหนืด
ไหลออกมาสู่ผวิ โลก ทเ่ี รียกวา่ ลาวา (Lava) ไหลมาจากท่ีสูงลงสู่ทตี่ ่า สิ่งท่ี พงุ่ ออกมาจากปล่องภเู ขาไฟ
นอกจากลาวาแลว้ ยงั มีเถา้ ถ่าน ฝ่นุ ละออง เศษหิน ไอน้า ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ กา๊ ซคาร์บอนมอนอกไซด์
ก๊าซไนโตรเจน และกา๊ ซซลั เฟอร์ไดออกไซด์
บริเวณท่เี กิดภเู ขาไฟ แนวรอยตอ่ ระหวา่ งแผน่ เปลือกโลกจะเป็ นบริเวณทีม่ ีโอกาสเกิดภเู ขาไฟระเบิด
มากกวา่ บริเวณท่ีอยถู่ ดั เขา้ ไปภายในแผน่ ทวปี
การเคลอื่ นท่ขี องหินหนืด
หินหนืดหรือหินหลอมเหลวในช้นั แมนเทิลไดร้ ับความร้อนจากแก่นโลก เกิดการเคลื่อนทไ่ี หลวนอยา่ งชา้ ๆ
และส่งผลดนั แผน่ เปลือกโลกใหเ้ คลื่อนทไ่ี ปอยา่ งชา้ ๆ ตามหินหนืดไปดว้ ยแรงดนั ของหินหนืด ทาใหห้ ิน
หนืดในช้นั แมนเทิลทม่ี ีอุณหภูมิและแรงดนั สูงสามารถแทรกตวั ข้นึ มาตามรอยแยกระหวา่ งแผน่ เปลือกโลกที่
อยใู่ ตม้ หาสมุทร หินหนืดในช้นั แมนเทลิ จงึ ทาหนา้ ท่ีเป็นตวั ดนั และพยงุ ใหแ้ ผน่ เปลือกโลกใตม้ หาสมุทร
เคล่ือนท่ี และขยายตวั แยกออกจากกนั ทาใหเ้ กิดแนวหินใหม่
ผลท่เี กิดจากการเคลอื่ นท่ีของแผ่นเปลือกโลก
แผน่ เปลือกโลกมกี ารเคล่ือนท่ีเป็นไปอยา่ งชา้ ๆ ดว้ ยอตั ราเร็วทต่ี ่ามาก แตม่ ีแรงดนั อยา่ งมหาศาล ทาใหข้ อบ
อีกดา้ นหน่ึงของแผน่ เปลือกโลกเคลื่อนทเี่ ขา้ ไปชนกบั ขอบแผน่ เปลือกโลกอีกแผน่ หน่ึง เช่น แผน่
ออสเตรเลีย เคล่ือนทเ่ี ขา้ ชนแผน่ ยเู รเซีย การชนกนั ของแผน่ เปลือกโลกท้งั สองน้ี ทาใหบ้ างบริเวณเกิดการ
เปลี่ยนแปลง คอื แผน่ ออสเตรเลียมุดตวั เขา้ สู่ใตแ้ ผน่ ยเู รเซีย และมุดหายไปในส่วนแมนเทลิ ของโลกท่ีมีความ
ร้อนสูงจงึ ทาให้เกิดการหลอมตวั ของหินเปลือกโลก นอกจากน้นั การชนของแผน่ ออสเตรเลีย และแผน่ ยเู ร
เซียน้ียงั ส่งผลใหเ้ ปลือกโลกบางส่วนถูกดนั ตวั ข้นึ กลายเป็นภูเขาสูง เช่น บริเวณเทือกเขาหิมาลยั ซ่ึงอยทู่ าง
ตอนเหนือของประเทศอินเดีย
6
ใบความรู้ รายวชิ า ส 30221 ภมู ศิ าสตร์กายภาพ ผ้สู อนนางสาวพมิ ชภกั ด์ิ ชยั พลเดช
เมื่อกวา่ หลายทศวรรษทีผ่ า่ นมา นกั ทาแผนที่ไดส้ งั เกตเห็นวา่ แผน่ ทวปี ต่างๆ บนโลกน้นั สามารถนามาตอ่
กนั ไดร้ าวกบั วา่ คร้งั หน่ึงแผน่ ทวปี เหล่าน้ีเคยเป็ นแผน่ เดียวกนั มาก่อน จากการสงั เกตคร้งั น้นั ร่วมกบั การ
คน้ พบซากดึกดาบรรพช์ นิดเดียวกนั บนชายฝั่งอเมริกาเหนือและแอฟริกาในเวลาต่อมา ทาใหน้ กั วทิ ยาศาสตร์
ในช่วงตน้ คริสตศ์ ตวรรษท่ียส่ี ิบไดเ้ สนอความคิดวา่ แผน่ ทวปี ตา่ งๆ ที่เคยคิดวา่ อยนู่ ่ิงน้นั แทจ้ ริงแลว้ ไดม้ ีการ
เคลื่อนท่ีอยตู่ ลอดเวลา แต่อยา่ งไรกต็ ามในขณะน้นั ยงั ไม่มีใครสามารถอธิบายถึงสาเหตุทท่ี าใหแ้ ผน่ เปลือก
โลกเคล่ือนทไ่ี ด้
ในช่วงปี ค.ศ. 1950 ถึง 1960 ไดม้ ีการศึกษาทางสุมทรศาสตร์อยา่ งมากเพอ่ื หาขอ้ สนบั สนุนแนวความคิด
ตา่ งๆ ในอดีต และไดก้ อ่ ใหเ้ กิดทฤษฎีของ เพลตเทคโทนิก (plate tectonics) ข้นึ ในเวลาต่อมา ทฤษฎีดงั กล่าว
อธิบายวา่ การเคล่ือนทแ่ี ละปฏสิ มั พนั ธร์ ะหวา่ งกนั ของแผน่ หินแขง็ ท่เี รียกวา่ แผ่นเปลือกโลก (plates) น้นั มี
ความเก่ียวขอ้ งอยา่ งมากกบั การเปล่ียนแปลงพ้นื ผวิ โลกตลอดช่วงธรณีกาล แผน่ เปลือกโลกเหล่าน้ีหมายถึง
แผน่ ธรณภี าค (lithosphere) ทีป่ ระกอบดว้ ยเปลือกโลก (crust) และช้ันเนื้อโลกส่วนบน (upper mantle) โดย
แผน่ ธรณีภาควางตวั อยบู่ นช้นั หินหนืดร้อนทสี่ ามารถไหลไดค้ ลา้ ยของเหลวเรียกวา่ หินฐานธรณี
ภาค (asthenosphere) ซ่ึงสามารถเปล่ียนสภาพและเล่ือนไหลในอตั ราส่วนเป็ นน้ิวตอ่ ปี และกไ็ ดเ้ ป็นคาตอบ
ของสาเหตุทีท่ าใหแ้ ผน่ เปลือกโลกเคล่ือนท่นี นั่ เอง
การเคลอ่ื นทขี่ องแผ่นเปลอื กโลกมี 3 ลักษณะคอื เคลื่อนทแ่ี ยกออกจากกนั (divergent) เคลื่อนที่เขา้ ชนกนั
(convergent) และเคล่ือนผา่ นกนั ได้ (transform)
7
ใบความรู้ รายวชิ า ส 30221 ภมู ศิ าสตร์กายภาพ ผ้สู อนนางสาวพมิ ชภกั ด์ิ ชยั พลเดช
ภาพจาลองดดั แปลงจาก Cybu Richli (www.c2f.to)
เปลอื กโลกเคลอื่ นท่ีแยกออกจากกนั
เม่ือแผน่ เปลือกโลกเคลอื่ นที่แยกออกจากกนั ท่บี ริเวณแนวแผน่ เปลือกโลกแยกตวั (divergent boundaries)
หินหนืดร้อน (hot magma) จากช้นั แมนเทิลจะแทรกตวั ข้นึ มาตามช่องวา่ งตามแนวการแยกตวั เม่ือหิน
หนืดเยน็ ตวั ก็จะกลายเป็นแผน่ เปลือกโลกใหม่ การแทรกตวั ข้ึนมาของหินหนืดยงั ช่วยใหแ้ นวแยกตวั
น้นั สูงข้นึ กลายเป็น แนวเทือกเขากลางมหาสมทุ ร (mid-ocean ridges) ทด่ี ูเหมือนจะแสดงถึงขอบของแผน่
เปลือกโลกในมหาสมุทร เปลือกโลกใหม่ท่ีถูกสร้างข้ึนอยา่ งตอ่ เน่ืองมีอตั ราเร็วในการกาเนิดประมาณ 20 ลูก
บาศก์ กิโลเมตรตอ่ ปี
8
ใบความรู้ รายวชิ า ส 30221 ภมู ศิ าสตร์กายภาพ ผ้สู อนนางสาวพมิ ชภกั ดิ์ ชยั พลเดช
เปลอื กโลกเคลอื่ นทเี่ ข้าหากนั
เม่ือแผน่ เปลือกโลกมหาสมุทรใหม่มีการเยน็ ตวั เป็ นเวลามากกวา่ สิบกวา่ ลา้ นปี ความหนาแน่นกจ็ ะคอ่ ยๆ
เพมิ่ มากข้นึ จนมากกวา่ ช้นั หินหนืดที่อยดู่ า้ นล่าง จากน้นั ก็จะมุดตวั ลงไปใตโ้ ลกในกระบวนการท่ี
เรียกวา่ เปลอื กโลกมุดตัว (subduction) การมุดตวั น้ีจะเกิดข้นึ ในบริเวณ แนวแผ่นเปลอื กโลกลู่เข้าหา
กนั (convergent plate boundaries) ที่ซ่ึงแผน่ เปลือกโลกสองแผน่ มีการเคล่ือนท่เี ขา้ ชนกนั แผน่ เปลือก
โลกมหาสมุทรท่หี นกั กวา่ จะเขา้ ชนและมุดตวั ใตแ้ ผน่ เปลือกโลกภาคพ้นื ทวปี ทเี่ บากวา่
แผ่นดินไหวและภูเขาไฟ เมื่อแผน่ เปลือกโลกมุดตวั ลงไปในโลก การบดอดั ของแผน่ เปลือกโลกท้งั สองและ
หลอมเป็นบางส่วน (partially melting) เน่ืองจากอุณหภูมิและความดนั ทส่ี ูงข้ึน กอ่ ใหเ้ กิดแผน่ ดินไหวระดบั
ลึก และภูเขาไฟ ข้นึ เหนือบริเวณทีม่ ีการมุดตวั
ตวั การทีท่ าให้แผ่นเปลอื กโลกเคล่อื น
นกั ธรณีวทิ ยาเคยเชื่อวา่ ความร้อนจากภายในโลกคือตวั การหลกั ของแรงท่ที าใหแ้ ผน่ เปลือกโลกเคลื่อนที่
ปัจจบุ นั มีการคน้ พบวา่ เมื่อขอบของแผน่ เปลือกโลกมุดตวั แรงโน้มถ่วง (gravity) จะลากดึงส่วนที่เหลือของ
แผน่ เปลือกโลกลงไปดว้ ย แรงดึงน้ีเรียกวา่ แรงดึงจากการมุดตวั ของเปลือกโลก (slab pull) ซ่ึง
สามารถดึงใหแ้ ผน่ เปลือกโลกแยกออกจากกนั ในทบี่ ริเวณแนวแผน่ เปลือกโลกแยกตวั และดึงใหแ้ ผน่ เปลือก
โลกมุดลงในบริเวณแนวการมุดตวั ซ่ึงการสรา้ งและทาลายแผน่ เปลือกโลกโดยกระบวนการเพลตเทคโทนิก
น้ีเปรียบเสมือนกระบวนการรีไซเคิลเปลือกโลกอยา่ งชา้ ๆ นน่ั เอง
9
ใบความรู้ รายวชิ า ส 30221 ภมู ศิ าสตร์กายภาพ ผ้สู อนนางสาวพมิ ชภกั ดิ์ ชยั พลเดช
การสร้างเทอื กเขา
แรงดนั จากการมุดตวั ของแผน่ เปลือกโลกมหาสมุทรทาใหแ้ ผน่ เปลือกภาคพ้นื ทวปี ท่มี ี
ความหนาแน่นนอ้ ยกวา่ ทเี่ คล่ือนทีต่ า้ นแรงดงั กล่าวเกิดการโก่งตวั เกิดเป็นแนวเทือกเขาขนาด
ใหญ่ (mountain ranges) ดงั เช่น เทอื กเขาหิมาลยั
ร่องลึกมหาสมทุ รและหมู่เกาะ
เม่ือแผน่ เปลือกโลกมหาสมุทรสองแผน่ เคล่ือนทชี่ นกนั และการมุดตวั บริเวณทีม่ ีการมุดตวั จะเกิดร่อง
ลึกมหาสมุทร (oceanic trenches) และแนวหมู่เกาะภเู ขาไฟ (volcanic island chains)
10
ใบความรู้ รายวชิ า ส 30221 ภมู ศิ าสตร์กายภาพ ผ้สู อนนางสาวพมิ ชภกั ด์ิ ชยั พลเดช
เปลือกโลกเคลอ่ื นที่ผ่านกัน
แผน่ เปลือกโลกบางแผน่ มีการเคลื่อนท่ผี า่ นซ่ึงกนั และกนั ในบริเวณแนวรอยเลื่อนแปรสภาพขนาดใหญ่
(transform boundaries) ท่ซี ่ึงไม่มีการสรา้ งหรือทาลายแผน่ เปลือกโลกแนวแผน่ เปลือกโลกตามรอยเลื่อน
แปรสภาพขนาดใหญน่ ้ีมกั พบในแผน่ เปลือกโลกมหาสมุทร ซ่ึงเป็ นสาเหตทุ าใหแ้ นวเทือกเขากลาง
มหาสมุทรเลื่อนเหลื่อมออกจากกนั บางบริเวณกพ็ บวา่ ตดั ผา่ นแผน่ เปลือกโลกภาคพ้นื ทวปี ดว้ ย ใน
มหาสมุทรแนวดงั กล่าวน้ีมกั จะก่อใหเ้ กิดแผน่ ดินไหวขนาดเลก็ อยเู่ ป็ นประจา ส่วนในภาคพน้ื ทวปี แนว
ดงั กล่าวมกั ถูกจากดั ทาใหเ้ กิดการสะสมพลงั งานและก่อใหเ้ กิดแผน่ ดินไหวรุนแรงในเวลาตอ่ มาเม่ือเกิดการ
เล่ือนอยา่ งฉบั พลนั ซ่ึงก่อใหเ้ กิดความเสียหายได้ ดงั เช่น รอยเลื่อนซานแอนเดียส
เราสามารถแบ่งเปลือกโลกขนาดใหญ่ออกเป็นแผน่ ๆ ไดก้ วา่ 15 แผน่ โดยภูเขาไฟและแผน่ ดินไหวมกั
เกิดข้นึ ในบริเวณรอยตอ่ ของแผน่ เปลือกโลกตา่ งๆ ดงั เช่นบริเวณทเี่ รียกวา่ วงแหวนภูเขาไฟแปซิฟิ ก (the
Pacific Ring of Fire)
11
ใบความรู้ รายวชิ า ส 30221 ภมู ศิ าสตร์กายภาพ ผ้สู อนนางสาวพมิ ชภกั ดิ์ ชยั พลเดช
ภาพแผนท่ีจาก Müller et al. 2008
เม่ือมีการสรา้ งแผน่ เปลือกโลกใหม่ที่บริเวณแนวเทือกเขากลางมหาสมุทร แผน่ เปลือกโลกที่แก่กวา่ จะถูก
ผลกั ออกไปทางดา้ นขา้ งในกระบวนการทีเ่ รียกวา่ การเปิ ดออกของพน้ื มหาสมุทร (seafloor spreading) ดงั น้นั
เราสามารถเทียบอายขุ องเปลือกโลกไดจ้ ากกระบวนการน้ี แนวเทอื กเขากลางมหาสมุทรคอื บริเวณทเ่ี ป็ นเสน้
สีแถงตรงกลาง
ภาพสรุปลกั ษณะธรณแี ปรสัณฐานแผ่นธรณภี าค
12
ใบความรู้ รายวชิ า ส 30221 ภมู ศิ าสตร์กายภาพ ผ้สู อนนางสาวพมิ ชภกั ด์ิ ชยั พลเดช
13
Polaski & Chekov
Lithosphere &
Plate Tectonics
2020
www.polaski-chekov.com / +1 829 479 3794 / [email protected]