• การเขียนเซต
การเขยี นเซตนิยมใชต้ วั อกั ษรภาษาองั กฤษพิมพใ์ หญ่แทนช่ือเซต และใชต้ วั อกั ษรพิมพเ์ ล็ก
แทนสมาชิกของเซต ซ่ึงการเขียนเซตสามารถเขยี นได้ 2 แบบ คือ
1. แบบแจกแจงสมาชิกของเซต
เขียนสมาชิกทุกตวั ลงในเครื่องหมายวงเลบ็ ปี กกา และใชเ้ ครื่องหมายจุลภาค (,) คนั่
ระหวา่ งสมาชิกแต่ละตวั
จงเขยี นเซตแบบแจกแจง
ตัวอย่างท่ี 1 กาหนดให้ A แทนเซตซ่ึงประกอบดว้ ยจานวน 2, 3, 5 และ 7
เขยี นเซตแบบแจกแจงสมาชิกได้ A = {2, 3, 5, 7}
ตวั อย่างที่ 2 กาหนดให้ B แทนตวั อกั ษรในภาษาองั กฤษ
เขียนเซตแบบแจกแจงสมาชิกได้ B = {a, b, c,..., y, z}
ตวั อย่างท่ี 3 กาหนดให้ C แทนเซตซ่ึงประกอบดว้ ยจานวนนบั
เขยี นเซตแบบแจกแจงสมาชิกได้ C = {1, 2, 3,...}
ตัวอย่างท่ี 4 กาหนดให้ H = {x | x I และ x2 - x -12 = 0}
วิธที า จากสมการ x2 - x -12 = 0
(x – 4)(x + 3) = 0
x = 4, -3
ดงั น้นั H = {-3, 4}
จาก ตัวอย่างที่ 1 สงั เกตเห็นไดว้ า่ การเขยี นแบบแจกแจงสมาชิกในกรณีที่ไม่สามารถเขียน
สมาชิกทุกตวั ได้ เน่ืองจากมีการแจกแจงสมาชิกมากและใชเ้ วลาในการเขียนแจกแจงมากเกินไปให้
เราใช้ “...” เพ่ือแสดงวา่ มีตวั อกั ษรอ่ืน ๆ หรือมีสมาชิกตวั อื่น ๆ รวมอยใู่ นเซตน้ีดว้ ยไดแ้ ก่ d, e, f, g,
h, i, j, k, l, m, n, o, p, q, r, s, t, u, v, w และ x ซ่ึงช่วยใหก้ ารเขียนเซตแบบแจกแจงสมาชิกสะดวก
มากยง่ิ ข้นึ และถา้ ทราบตวั สุดทา้ ยของสมาชิกใหใ้ ส่กากบั ดว้ ย เพราะทาใหท้ ราบวา่ ตอ้ งการศึกษา
สมาชิกตวั ไหนบา้ งภายในเซต แตถ่ า้ ในกรณี ตัวอย่างท่ี 2 ไม่สามารถบอกตวั สุดทา้ ยไดใ้ หใ้ ส่ “...”
แลว้ ปิ ดดว้ ยปี กกาไดเ้ ลย แสดงวา่ มีจานวนสมาชิกไมจ่ ากดั
ในการเขยี นสมาชิกเราสามารถเขยี นสมาชิกตวั ใดก่อนหรือหลงั ได้ และถา้ สมาชิกตวั ใด ๆ
ซ้ากนั มากกวา่ 1 คร้ังนกั เรียนสามารถเขยี นเพยี งคร้ังเดียวได้ เพราะถือวา่ มีสมาชิกตวั น้นั มีเพียงตวั เดียว
เท่าน้นั
2. แบบบอกเงื่อนไขของสมาชิกในเซต
การเขยี นแบบบอกเงื่อนไขของสมาชิกในเซต เหมาะสาหรับการเขยี นแทนเซตเมื่อมีจานวน
มากหรือนบั ไม่ได้
สัญลกั ษณ์ที่ใชแ้ ทนเซตของจานวนต่าง ๆ มีดงั น้ี
R แทนเซตของจานวนจริง (Real number)
ประกอบดว้ ยจานวนตรรกยะ และจานวนอตรรกยะ
R− แทนเซตของจานวนจริงลบ (Negative Real number)
ประกอบดว้ ย จานนวนตรรกยะที่เป็นจานวนลบ
R+ แทนเซตของจานวนจริงบวก (Positive Real number)
ประกอบดว้ ย จานนวนตรรกยะท่ีเป็นจานวนบวก
Q แทนเซตของจานวนอตรรกยะ (Irrational number)
ประกอบดว้ ย 3.14… , e 2.76…, 2 1.414…, 3 1.732
จานวนทศนิยมไมซ่ ้า เช่น 0.121221222…, 2.010010001…
Q แทนเซตของจานวนตรรกยะ (Rational number)
ประกอบดว้ ย จานนวนเตม็ เศษส่วนที่ไมใ่ ช่จานวนเตม็ โดยตวั ส่วนไมเ่ ทา่ กบั
ศนู ย์ และจานวนที่เป็นทศนิยมซ้า
I แทนเซตของจานวนเตม็ (Integers)
ประกอบดว้ ย ... , -5, -4, -3, -2, -1, 0, 1, 2, 3, 4, 5,…
I − แทนเซตของจานวนเตม็ ลบ (Negative Integers)
ประกอบดว้ ย -1, -2, -3, -4, -5,…
I + แทนเซตของจานวนเตม็ บวก (Positive Integers)
ประกอบดว้ ย 1, 2, 3, 4, 5,…
I 0 แทนเซตของ ศูนย์ (Zero)
ประกอบดว้ ย 0
N แทนเซตของจานวนนบั (Countingnumber)หรือจานวนธรรมชาติ (Naturalnumber)
ประกอบดว้ ย 1, 2, 3, 4, 5,…
P แทนเซตของจานวนเฉพาะที่เป็นบวก (Prime number)
ประกอบดว้ ย 2, 3, 5, 7, 11, 13, 17, 19…
C แทนเซตของจานวนเชิงซอ้ น (Positive Complex number)
ประกอบดว้ ย 2+3i, 4i, 5+7i
O แทนเซตของจานวนค่ี (Odd number)
ประกอบดว้ ย 1, 3, 5, 7, 9,…
E แทนเซตของจานวนคู่ (Even number)
ประกอบดว้ ย 2, 4, 6, 8, 10,…
ให้เขียนตวั แทนของสมาชิกในเซตตวั หน่ึงไว้ในวงเล็บปี กกา แลว้ จึงบรรยายสมบตั ิของ
สมาชิกไวด้ ว้ ยการคนั่ ตวั แทนของสมาชิก กบั คาบรรยายสมบตั ิของสมาชิกไวด้ ว้ ยเคร่ืองหมาย ; หรือ
: หรือ | ซ่ึงในที่น้ีเรามกั จะใชเ้ คร่ืองหมาย | และเราจะอ่านเคร่ืองหมาย | วา่ “โดยท่ี ”
จงเขยี นเซตแบบบอกเง่ือนไข
ตวั อย่างที่ 5 กาหนดให้ A แทนเซตซ่ึงประกอบดว้ ย 2, 4, และ6
เขียนเซตแบบบอกเงื่อนไขได้ A = {x | x เป็นเลขคบู่ นหนา้ ของลูกเต๋า}
ตวั อย่างที่ 6 กาหนดให้ B แทนเซตซ่ึงประกอบดว้ ย 2, 3, 5, 7, 11, 13,…
เขียนเซตแบบบอกเงื่อนไขได้ B = {x I + | x เป็นจานวนเฉพาะ}
ถา้ สมาชิกตวั ใดตวั หน่ึงอยใู่ นเซต ๆ หน่ึง เรียกสมาชิกตวั น้นั วา่ “เป็นสมาชิกของเซต นั้น” เขยี น
แทน ดว้ ยสัญลกั ษณ์ อา่ นวา่ เป็นสมาชิกของ ในทางกลบั กนั ถา้ สมาชิกที่กาหนดใหไ้ มอ่ ยใู่ นเซต น้นั เราจะ
เรียกสมาชิกตวั น้นั วา่ “ไม่เป็นสมาชิกของเซต ๆ นน้ั ” เขียนแทนดว้ ย อา่ นวา่ ไม่เป็นสมาชิกของ
ตัวอย่างที่ 7 จงใส่เครื่องหมาย แสดงวา่ เป็นสมาชิกของเซตและใส่เครื่องหมาย แสดงวา่ ไม่
เป็ นสมาชิกของเซตท่ีกาหนดให้
1. 2 {2,3,4,5}
2. 3 {3456}
3. {1,2} {1, 2, {1, 2}}
4. -2, -1, 0, 1, 2 {x | x เป็นจานวนเตม็ }
5. ก, ล, บ, ร {x | x เป็นพยญั ชนะของคาวา่ “กหุ ลาบเพชร”}
1. เอกภพสัมพทั ธ์ (Universal Set)
บทนิยาม เซตท่ีกาหนดขอบข่ายท่ีจะพิจารณาโดยมีขอ้ ตกลงวา่ จะไมก่ ล่าวถึงสมาชิกใดท่ี
นอกเหนือไปจากสิ่งใดนอกเหนือไปจากสมาชิกของเซตท่ีกาหนดข้นึ น้ี และ
เขยี นแทนดว้ ยสญั ลกั ษณ์ “U ”
ตวั อย่างท่ี 8 กาหนดให้ U คอื เซตของจานวนจริง
A = { x | x2 – 4 = 0 }
B={x|x+5=0}
ดงั น้นั A = { -2 , 2 }
และ B = { -5 }
แตถ่ า้ กาหนดให้ U คือ เซตของจานวนเตม็ บวก
ดงั น้นั A = { 2 }
และ B = { }
หมายเหตุ ถา้ กลา่ วถึงเซตของจานวนและไม่ไดก้ าหนดวา่ เซตเอกภพสมั พทั ธ์ในระดบั ช้นั น้ี
ถือวา่ เอกภพสัมพทั ธ์ คอื เซตของจำนวนจริง
2. เซตว่าง (Empty Set)
บทนยิ าม เซตไมม่ ีจานวนสมาชิกเลย หรือจานวนสมาชิกเท่ากบั 0 เขยี นแทนดว้ ยสัญลกั ษณ์ , { }
ดงั น้นั สรุปไดว้ า่ เซตว่างเป็นเซตจากดั เพราะสามารถบอกจานวนสมาชิกไดแ้ ตไ่ ม่มีสมาชิกของเซต จึงทาให้
เซตน้นั มีจานวนสมาชิกเทา่ กบั 0
ตัวอย่างที่ 9 พิจารณา A = { x I− | x −1 = 0 } วา่ เซตที่กาหนดใหเ้ ป็ นวา่ งหรือไม่
จากสมการ x – 1 = 0
x = 1 ซ่ึง 1 I −
แสดงวา่ เซต A ไมม่ ีจานวนสมาชิก
ดงั น้นั A เป็นเซตจากดั และ n(A) = 0
ตัวอย่างที่ 10 พจิ ารณา B = { x I | x2 + 5 = 0 } วา่ เซตท่ีกาหนดใหเ้ ป็ นวา่ งหรือไม่
จากสมการ x2 + 5 = 0
x2 = -5
x = −5 ซ่ึง −5 I
แสดงวา่ เซต B ไม่มีจานวนสมาชิก
ดงั น้นั B เป็นเซตจากดั และ n(B) = 0
แบบฝึ กหดั ที่ 1 ช้ันมธั ยมศึกษาปี ที่ 4
รายวชิ า คณิตศาสตร์พืน้ ฐาน 1 (ค31101) ประกอบแผนการจดั การเรียนรู้ที่ 1
เรื่อง สมาชิกของเซต การเขียนเซต และเซตว่าง
1. จงพจิ ารณาการเป็ นสมาชิกหรือไม่เป็ นสมาชิกของเซตในแต่ละข้อต่อไปนแี้ ล้วใส่เครื่องหมาย
หน้าข้อท่ีถกู และใส่เคร่ืองหมาย หน้าข้อที่ผดิ
_____ 1) 3 { 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7 }
_____ 2) 2, 7 { x | x เป็นแตม้ บนลูกเต๋า }
_____ 3) { 5 } { 1, 3, 5 }
_____ 4) { 1, { 2 } } { { { 1 }, 2 } , { 1, { 2 } } }
_____ 5) { 1, 2 } { 1, 2, 3 }
_____ 6) 1, 2, 3, … { x | x เป็นจานวนเตม็ }
_____ 7) -1, -2, -3, … { x | x เป็นจานวนนบั }
_____ 8) 1 { 12345 }
_____ 9) , { } { { , { } }
_____ 10) { { { }, }, }
2. จงเขียนเซตทก่ี าหนดให้ต่อไปนแี้ บบแจกแจงสมาชิก
1. เซตของสีประจาวนั ใน 1 สัปดาห์
_______________________________________________________
2. เซตของจงั หวดั ในประเทศไทยที่ลงทา้ ยดว้ ยคาวา่ “บรุ ี”
_______________________________________________________
3. เซตของพยญั ชนะภาษาองั กฤษในประโยคท่ีวา่ “MY NAME IS TOY.”
_______________________________________________________
4. เซตของพยญั ชนะในคา “โรงเรียนสวนกหุ ลาบนนทบุรี”
_______________________________________________________
5. เซตของจานวนเตม็ บวกที่มีค่านอ้ ยกวา่ หรือเท่ากบั 50
_______________________________________________________
6. เซตของจานวนเตม็ ที่มีค่านอ้ ยกวา่ หรือเท่ากบั 50
_______________________________________________________
7. เซตของจานวนเตม็ ลบที่มีค่ามากกวา่ หรือเท่ากบั -10
_______________________________________________________
8. เซตของจานวนคู่บวกท่ีมากกวา่ 10
_______________________________________________________
9. เซตของจานวนเตม็ ระหวา่ ง 1 ถึง 50 ท่ีหารดว้ ย 7 ลงตวั
_______________________________________________________
10.เซตของจานวนนบั เมื่อนามาหารดว้ ย 5 แลว้ ลงตวั
_______________________________________________________
3. จงเขยี นเซตท่กี าหนดให้ต่อไปนแี้ บบแจกแจงสมาชิก
1. A = {x | x เป็นจานวนเตม็ บวกที่มากกวา่ 5 และนอ้ ยกวา่ หรือเทา่ กบั 15}
_______________________________________________________
2. B = {x | x เป็นจานวนเตม็ บวกที่เป็นจานวนเฉพาะที่มีคา่ นอ้ ยกวา่ 20}
_______________________________________________________
3. C = {x | x เป็นจานวนเตม็ ค่ที ี่อยรู่ ะหวา่ ง 2 กบั 4}
_______________________________________________________
4. D = {x | x I และ1 x 5}
_______________________________________________________
5. E = {x | x N ซ่ึง x 100 และ x N }
_______________________________________________________
6. F = {x | x I+ และ 3 หารลงตวั }
_______________________________________________________
7. G = {x | x P และ x2 -15x +44 = 0}
_______________________________________________________
8. H = {x | x I− และ x2 +4x + 4 = 0}
_______________________________________________________
9. I = {x | x R และ 3x2 – 10x + 3 = 0}
_______________________________________________________
10. I = {x | x R และ x2 – 16 = 0}
_______________________________________________________
4. จงเขยี นเซตที่กาหนดให้ต่อไปนแี้ บบบอกเง่ือนไขของสมาชิกในเซต
1. A = { สีแดง, สีขาว, สีน้าเงิน }
_______________________________________________________
2. B = { วนั มาฆบูชา, วนั วสิ าขบูชา, วนั อาสาฬหบชู า, วนั เขา้ พรรษา, วนั ออกพรรษา }
_______________________________________________________
3. C = { 2, 3, 5, 7, 11, 13, 17, 19, … }
_______________________________________________________
4. D = { 1, 2, 3, 4, 5, … }
_______________________________________________________
5. E = { …,-5, -4, -3, -2, -1 }
_______________________________________________________
6. F = { 11, 13, 17, 19, 23, 29, 31, 37, 41, 43, 47 }
_______________________________________________________
7. G = { 10, 20, 30, 40, 50, 60, 70, 80, 90 }
_______________________________________________________
8. H = { 4, 7, 10, 13, 16, 19, … }
_______________________________________________________
9. I = { -1, 1 }
_______________________________________________________
10. J = { 0 }
_______________________________________________________
5. จงพจิ ารณาเซตทก่ี าหนดให้ต่อไปนี้ ว่าเป็ นเซตใดเป็ นเซตว่างและเซตใดเป็ นเซตไม่ว่าง
1. เซตของจงั หวดั ในประเทศไทยท่ีลงทา้ ยดว้ ยคาวา่ “นคร”
2. เซตของสระในภาษาองั กฤษคาวา่ “MATHEMATICS”
3. เซตของจานวนเตม็ ระหวา่ ง 1 ถึง 2
4. A = { 0 }
5. B = { }
6. C = {x | x I+ และ 2 หารไมล่ งตวั }
7. D = {x | x Nและ x + 1 < 0}
8. E = {x | x I+ และ x + 7 = 7}
9. F = {x | xIและ x + x = x2}
10. G = {x | xIและ x2 + x = x}
เอกสารแนะแนวทางที่ 1
รายวชิ า คณติ ศาสตร์พืน้ ฐาน 1 (ค31101) ช้ันมัธยมศึกษาปี ที่ 4
เรื่อง “ว่างไหมจ๊ะ” ประกอบแผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 1
จงพจิ ารณาตารางเซตทกี่ าหนดให้ และใส่เคร่ืองหมายถกู ลงในตารางถกู ต้อง
เซต จานวนสมาชิก เซตว่าง
1. A = เซตของเลขโดด n(A) = 10 เป็ น ไม่เป็ น
2. B = { xP+ | 20 x 30 } n(B) = 2
3. C = { xI | 0 < x < 1 } ไมม่ ีจานวนสมาชิก / n(C) = 0
4. D = { xR | x 0 } ไมส่ ามารถระบจุ านวนได้
5. E = { 11, 22, 33, 44, 55,... } ไม่สามารถระบจุ านวนได้
6. F = { 1234 }
7. G = { 2, 3, 5, 7, 11, 13, 17, 19 }
8. H = { xI+ | x2 = 2x }
9. I = { x I | x3 < 0 }
10. J = { x I | x2 + 1 = 0 }
11. K = { xN | x = 3 x }
12. L = { x I- | x2 = 0 }
13. M = { x | x เป็นจานวนเฉพาะที่เป็นจานวนคู่ }
14. N = { xI | x 0 }
15. M = { x I | x < 0 }
สรุปได้ว่า คือ ......................................................................................................
เซตว่าง
• เซตจากดั (Finite Set)
บทนยิ าม เซตท่ีมีจานวนสมาชิกเทา่ กบั จานวนเตม็ บวกใดๆหรือศนู ย์
• เซตอนนั ต์ (Infinite Set)
บทนยิ าม เซตท่ีไมใ่ ช่เซตจากดั หรือเซตท่ีไม่สามารถระบุจานวนสมาชิกได้
จงหาจานวนสมาชิกของเซตและชนิดของเซตท่กี าหนดให้ เซตใดเป็ นเซตจากดั หรือเซตอนันต์
ตวั อย่างท่ี 1 กาหนดให้ A={3,7,11,19,21}
สมาชิกของเซต 3, 7, 11, 19, 21
แสดงวา่ เซต A มีจานวนสมาชิก 5 ตวั
เขยี นแทนดว้ ย n(A)= 5
ดงั น้นั เซตAเป็นเซตจากดั
ตัวอย่างที่ 2 กาหนดให้ B={x|xเป็นจานวนเตม็ ลบมีคา่ มากกวา่ 0}
สมาชิกของเซต ไม่มี
แสดงวา่ เซต A มีจานวนสมาชิก 0 ตวั
เขียนแทนดว้ ย n(B)= 0
ดงั น้นั เซตAเป็นเซตจากดั
ตวั อย่างท่ี 3 กาหนดให้ C={0,2,4,6,8,…}
สมาชิกของเซต 0,2,4,6,8,10,…
แสดงวา่ เซต A มีจานวนสมาชิกมากมาย
เขยี นแทนดว้ ย n(C)= หาค่าไม่ได้
ดงั น้นั เซตCเป็นเซตอนนั ต์
ตัวอย่างท่ี 4 กาหนดให้ D={x|xเป็นจานวนเตม็ ที่นอ้ ยกวา่ 0}
สมาชิกของเซต -1, -2, -3, -4, -5, -6,…
แสดงวา่ เซต D มีจานวนสมาชิกมากมาย
เขยี นแทนดว้ ย n(D)= หาคา่ ไม่ได้
ดงั น้นั เซตDเป็นเซตอนนั ต์
• เซตที่เท่ากนั (Equal Sets And Identical Sets)
บทนยิ าม เซต A จะเท่ากับเซต B ก็ต่อเมื่อ เซตท้ังสองเซตมีสมาชิกเหมือนกัน กล่าวคือ
ถา้ สมาชิกทุกตวั ของเซต A เป็ นสมาชิกของเซต B และสมาชิกทุกตวั ของเซต B
เป็นสมาชิกของเซต A ใชส้ ัญลกั ษณ์ A = B
ดงั น้นั เซต A ไม่เท่ากับ เซต B หมายความว่า สมาชิกอย่างน้อยหน่ึงตวั ของเซต A ที่ไม่ใช่
สมาชิกของเซต B หรือมีสมาชิกอยา่ งนอ้ ยหน่ึงตวั ของเซต B ท่ีไม่ใช่สมาชิกของเซต A
ตัวอย่างท่ี 5 กาหนดให้ A = {1,3,5,7,9 } และ B = {5,3,1,9,7 }
จงหาวา่ เซตท่ีกาหนดใหเ้ ป็นเซตที่เทา่ กนั หรือเซตท่ีไม่เท่ากนั
พจิ ารณา เซต A มีจานวนสมาชิก 5 ตวั คอื 1, 3, 5, 7, 9
เซต B มีจานวนสมาชิก 5 ตวั คอื 1, 3, 5, 7, 9
ดงั น้นั A = B
จากตวั อยา่ งที่ 5 เราตอ้ งตกลงท่ีจะสร้างสัจพจน์ข้ึนสองสัจพจน์ คือ สจั พจนแ์ รกเป็นการ
เท่ากนั ของเซตสองเซต และสัจพจน์ที่สองเป็นการยอมรับวา่ มีเซตวา่ ง
สัจพจน์เอกซ์เทนชัน ( Extension Axiom )
สัจพจน์น้ีกลา่ ววา่ เม่ือกาหนดเซต A และเซต B จะได้ เซต A เทา่ กบั เซต B กต็ ่อเมือ
เซตท้งั สองมีสมาชิกเหมือนกนั ทุก ๆ ตวั
กล่าวไดอ้ ีกแบบหน่ึงวา่ เซต A เทา่ กบั เซต B ก็ตอ่ เมื่อ สมาชิกทกุ ตวั ในเซต A เป็น
สมาชิกในเซต B และสมาชิกทุกตวั ในเซต B เป็นสมาชิกในเซต A
เขียนเป็นสัญลกั ษณ์ในเชิงตรรกศาสตร์ไดด้ งั น้ี xx A x B
• เซตทเี่ ทยี บเท่ากนั (Equivalent Sets)
บทนยิ าม เซต A เทียบเท่ากบั เซต B ก็ต่อเมื่อ เซตท่ีมีสมาชิกภายในเซตมีความสัมพนั ธ์แบบหน่ึงต่อหน่ึง
พอดี หรืออาจกล่าวไดว้ า่ เซต A เทียบเท่ากบั เซต B ก็ตอ่ เม่ือ กรณีท่ี 1 ถา้ เซตท้งั
สองเซตเป็ นเซตจากดั แลว้ เซตท้งั สองมีจานวนสมาชิกเท่ากนั กรณีท่ี 2 ถา้ เซตท้งั สองเซต
เป็นเซตอนนั ต์ แลว้ เซตท้งั สองมีความสัมพนั ธ์แบบ1-1 เซต A เทียบเท่ากบั เซต B เขียนแทนดว้ ย
A ~ B หรือ A B
ตัวอย่างท่ี 6 กาหนดให้ A = {x | x เป็นจานวนเตม็ บวกท่ีนอ้ ยกวา่ 10}
ตวั อย่างท่ี 7 และ B = {xI | 1 x 10}
ตวั อย่างที่ 8 พิจารณา เซต A มีจานวนสมาชิก 9 ตวั คอื 1, 2, 3,…, 9
เซต B มีจานวนสมาชิก 10 ตวั คือ 1, 2, 3,…, 10
ดงั น้นั A B
กาหนดให้ A = {1, 4, 9} และ B = {2, 4, 8}
พจิ ารณา เซต A มีจานวนสมาชิก 3 ตวั คือ 1, 4, 9
เซต B มีจานวนสมาชิก 3 ตวั คือ 2, 4, 8
ดงั น้นั A B
กาหนดให้ A = {2, 4, 6,…} และ B = {3, 6, 9,…}
พิจารณา A = {2, 4, 6,…,2n,…}
B = {3, 6, 9,…,3n,…}
เพราะฉะน้นั A และ B มีความสมั พนั ธแ์ บบ 1-1 ภายใต้ 2n 3n เมื่อ nN
ดงั น้นั A B
เอกสารแนะแนวทางท่ี 2 ก
รายวิชา คณิตศาสตร์พื้นฐาน 1 (ค31101) ช้ันมธั ยมศึกษาปี ท่ี 4
เร่ือง “นับได้ไหมจ๊ะ” ประกอบแผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2
จงพจิ ารณาตารางเซตทกี่ าหนดให้ และใส่เครื่องหมายถูกลงในตารางถกู ต้อง
เซต จานวนสมาชิก ชนดิ ของเซต
1. A = เซตของเลขโดด n(A) = 10 เซตจากดั เซตอนนั ต์
2. B = { xP+ | 20 x 30 } n(B) = 2
3. C = { xI | 0 < x < 1 } ไมม่ ีจานวนสมาชิก / n(C) = 0
4. D = { xR | x 0 } ไมส่ ามารถระบุจานวนได้
5. E = { 11, 22, 33, 44, 55,... } ไมส่ ามารถระบุจานวนได้
6. F = { 1234 }
7. G = { 2, 3, 5, 7, 11, 13, 17, 19 }
8. H = { xI+ | x2 = 2x }
9. I = { x I | x3 < 0 }
10. J = { x I | x2 + 1 = 0 }
11. K = { xN | x = 3 x }
12. L = { x I- | x2 = 0 }
13. M = { x | x เป็นจานวนเฉพาะท่ีเป็นจานวนคู่ }
14. N = { xI | x 0 }
15. M = { x I | x < 0 }
สรุปได้ว่า คือ ......................................................................................................
เซตจากดั คือ ......................................................................................................
เซตอนนั ต์
เอกสารแนะแนวทางท่ี 2 ข
รายวชิ า คณติ ศาสตร์พื้นฐาน 1 (ค31101) ช้ันมัธยมศึกษาปี ท่ี 4
เรื่อง “หน้าตาเหมือนฉันไหมจ๊ะ” ประกอบแผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2
จงพจิ ารณาตารางเซตท่กี าหนดให้ และใส่เคร่ืองหมายถกู ลงในตารางถกู ต้อง
เซต ชนดิ ของเซต
เซตเท่ากัน เซตเทียบเท่ากนั
1. A = { 1, 2, 3 } B = { 3, 2, 1 }
2. A = { 1, 2, 3 } B = { 2, 4, 6 }
3. A = { 1, 2, 3, 3 } B = { 3, 3, 2, 2, 1, 1 }
4. A = { 2, 4, 6 } B = { 1, 3, 5 }
5. A = { 2, 4, 6, 8, 10 } B = { 10, 8, 6, 4, 2 }
6. A = { -1, -2, -3 } B = { 3, 2, 1 }
7. A = { -1, -2, -3 } B = { -3, -2, -1 }
8. A = { 1 , 4 , 9 } B = { 1, 2, 3 }
9. A = { 1 , 4 , 9 } B = { 3 1 , 3 8 , 3 27 }
10. A = { 1+1, 2+1, 3+1 } B = { 3-1, 4-1, 5-1 }
สรุปได้ว่า คือ ......................................................................................................
เซตเท่ากนั คือ ......................................................................................................
เซตเทยี บเท่า
แบบฝึ กหดั ท่ี 2 ช้ันมธั ยมศึกษาปี ท่ี 4
รายวชิ า คณติ ศาสตร์พืน้ ฐาน 1 (ค31101) ประกอบแผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2
เรื่อง ชนิดของเซต
1. จงพจิ ารณาเซตท่กี าหนดให้ต่อไปนี้ ว่าเป็ นเซตใดเป็ นเซตจากดั และเซตใดเป็ นเซตอนันต์
________________ 1. เซตของจงั หวดั ในประเทศไทย
________________ 2. เซตของจานวนเตม็ ลบ
________________ 3. เซตของจานวนเตม็ บวกที่ 2 หารลงตวั แต่ 3 หารไมล่ งตวั
________________ 4. A = { 0.123… }
________________ 5. B = { 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9 }
________________ 6. C = {x | xเป็นจานวนเฉพาะบวก}
________________ 7. D = {x | xIและ x > 1}
________________ 8. E = {x | x I+ และ x = 7}
________________ 9. F = {x | xIและ (x + 1)(x + 2) =0}
________________ 10. G = {x | xIและ x + 2 > 2 + x}
2. จงพจิ ารณาเซตทก่ี าหนดให้ ว่าเป็ นเซตใดเป็ นเซตเท่ากันหรือไม่เท่ากนั หรือเซตเทยี บเท่ากนั
____ 1. A = {0, 1} B = {0, 0, 0, 1, 1,}
____ 2. A = {2, 4, 6, 8, 10} B = {-2, -4, -6, -8, -10}
____ 3. A = {{1},{2}} B = {1, 3, 5}
____ 4. A = {x | xNและ 1 x 10} B = {1, 2, 3, 4, 5, 6,…,10}
____ 5. A = {x | xN และ 5 หารลงตวั } B = {x | xN และ 7 หารลงตวั }
____ 6. A = {x | xI+ และ จานวนเฉพาะคู่} B = {x | xI และ x = 2}
____ 7. A = {x | xN และ 3 หารตวั และ x < 30}
B = {x | xN และ 2 หารแลว้ เหลือเศษ 1 และ x < 30}
____ 8. A = {x | xI และ (x – 1)(x – 2) = 0} B = {x | xI และ (x – 2)(x – 1) = 0}
____ 9. A = {x | xI และ x2 – 4x + 4 = 0} B = {x | xI และ (x – 2)2 = 0}
____ 10. A = {x | xI และ x2 – 1 = 0} B = {x | xI และ x – 1 = 0}
3. จงพจิ ารณาเซตทีก่ าหนดใส่เคร่ืองหมายถูก หน้าข้อท่ีเป็ นจริง และใส่เครื่องหมาย หน้าข้อที่เป็ นเท็จ
_______ 1. {} =
_______ 2. A = { x | xI- } และ B = { x | xI+ } เซต A เทียบเท่ากบั เซต B
_______ 3. { 1, 2, 3, 4, 5 } = { x | xN และ 1 x 5 }
_______ 4. A = { 2, 3, 5, 7 } และ B = { x | x เป็นจานวนเฉพาะบวกที่ไม่เกิน 10 } เป็นเซตที่เท่ากนั
_______ 5. A = { x | x เป็นพยญั ชนะในคา “กรรมกร” }
และ B = { x | x เป็นพยญั ชนะในคา “กรรมการ” } เป็นเซตที่เทา่ กนั
_______ 6. A = { x | xIและ 3 หารลงตวั } และ B = { x | x N และ 2 หารลงตวั }
เซต A เทียบเท่ากบั เซต B
_______ 7. { x | xI และ x2 = 81 } = { 9 }
_______ 8. A = { x | xI และ x2+ 2x-3=0 } และ B = {x | xIและ x2- 2x+3=0 }
เซต A เทียบเทา่ กบั เซต B
_______ 9. ถา้ เซต A และเซต B เป็นเซตท่ีเทา่ กนั แลว้ เซต A เทียบเทา่ กบั เซต B
_______ 10. ถา้ เซต A และเซต B เป็นเซตที่เทียบเท่ากนั แลว้ เซต A เท่ากบั เซต B
• สับเซต (Subsets)
บทนิยาม เซต A จะเป็นสับเซตของเซต B ถา้ สมาชิกทกุ ตวั ในเซต A เป็นสมาชิกของเซต B
ใชส้ ัญลกั ษณ์ A B อ่านวา่ A เป็นสับเซตของเซต B
แสดงว่า เซต A จะเท่ากบั เซต B กต็ อ่ เม่ือ เซตท้งั สองเซตมีสมาชิกเหมือนกนั กล่าวคือ ถา้
สมาชิกทุกตวั ของเซต A เป็นสมาชิกของเซต B และสมาชิกทกุ ตวั ของเซต B เป็น
สมาชิกของเซต A
A B และ B A กต็ ่อเมอ่ื A=B
เซต A ไม่เป็นสับเซตของเซต B หมายความวา่ สมาชิกอยา่ งนอ้ ยหน่ึงตวั ของเซต A
ท่ีไม่ใช่สมาชิกของเซต B ใชส้ ญั ลกั ษณ์ A B อา่ นวา่ A ไม่เป็นสับเซตของเซต
B
บทนยิ าม เซต A จะเป็นสับเซตแท้ ของเซต B กต็ อ่ เมื่อ เซต A เป็นสับเซตของเซต B
แต่เซต B ไม่เป็นสับเซตของเซต A
จงเขียนสับเซตต่อไปนี้ ก, ข, ค
ตัวอย่างที่ 1 กาหนดให้ A = {ก, ข, ค} {ก}, {ข}, {ค}, {ก,ข}, {ก,ค}, {ข,ค}, {ก, ข, ค},
สมาชิกของเซต A ไดแ้ ก่
สับเซตท้งั หมดของ A ไดแ้ ก่
ตัวอย่างที่ 2 กาหนดให้ B = ,
สมาชิกของเซต B ไดแ้ ก่ และ
สบั เซตท้งั หมดของ B ไดแ้ ก่ , , , ,
ตวั อย่างที่ 3 กาหนดให้ A = {a, b, c} B = {a, b, d} และ C = {a, b, c, d}
จงหาวา่ เซตใดเป็นสบั เซตของเซตใดบา้ ง
จากโจทยท์ ่ีกาหนดใหส้ ามารถสรุปไดว้ า่
จะไดว้ า่ A C เพราะสมาชิกทกุ ตวั ของเซต A เป็นสมาชิกของเซต C
C A เพราะ d C แต่ d A
สรุปไดว้ า่ A C และเซต A เป็นสับเซตแทข้ องเซต B
และ B C เพราะสมาชิกทุกตวั ของเซต B เป็นสมาชิกของเซต C
C B เพราะ c C แต่ c B
สรุปไดว้ า่ B C และเซต B เป็นสับเซตแทข้ องเซต C
แต่ A B เพราะ c A แต่ c B
B A เพราะ d B แต่ d A
หมายเหตุ 1. เซตทุกเซตเป็นสับเซตของตวั มนั เอง ถา้ เซต A เป็นเซตใด ๆ แลว้ A A
2. เซตวา่ งเป็นสบั เซตของเซตทุกเซตนน่ั คอื ถา้ เซต A เป็นเซตใด ๆ แลว้ A
การหาจานวนสมาชิกของสับเซต
ถา้ A เป็นเซตท่ีมีสมาชิก n จานวน แลว้ จานวนสมาชิกของสับเซตท้งั หมดของเซต A จะ
เทา่ กบั 2n(A) สับเซต และในจานวนน้ีเราสามารถหาจานวนสมาชิกของสับเซตแทไ้ ดเ้ ทา่ กบั 2n(A)- 1
สบั เซต (นน่ั คือ จานวนสมาชิกของสบั เซตแท้ เทา่ กบั จานวนสับเซตท้งั หมด ยกเวน้ เซตของตวั มนั เอง
เพราะฉะน้นั เซตของตวั มนั เอง เรียกวา่ สบั เซตไม่แท)้
เอกสารแนะแนวทางท่ี 3
รายวชิ า คณิตศาสตร์พืน้ ฐาน 1 (ค31101) ช้ันมัธยมศึกษาปี ที่ 4
เร่ือง “สับเซต...เสร็จสับจ๊ะ” ประกอบแผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 3
จงพจิ ารณาสับเซตต่อไปนจี้ ากเซตทก่ี าหนดให้ สบั เซต
เซต
1. A = { 1 }
2. A = { 1, 2 }
3. A = { 1, 2, 3 }
4. A = { 1, 2, 3, 4 }
5. A = { 1, 2, 3, 4, 5 }
จงพจิ ารณาจานวนสับเซตจากจานวนสมาชิกของเซตทีก่ าหนดให้ต่อไปนี้
เซต จานวนสมาชิก จานวนสับเซต
2
1. A = { 1 } n(A) = 1 4
8
2. A = { 1, 2 } n(A) = 2
3. A = { 1, 2, 3 } n(A) = 3
4. A = { 1, 2, 3, 4 }
5. A = { 1, 2, 3, 4, 5 }
6. A = { 1, 2, 3, 4, 5, 6 }
7. A = { 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7 }
8. A = { 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8 }
9. A = { 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9 }
10. A = { 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9, 10 }
จานวนสบั เซต = __________________
แบบฝึ กหดั ที่ 3 ช้ันมธั ยมศึกษาปี ท่ี 4
รายวิชา คณติ ศาสตร์พืน้ ฐาน 1 (ค31101) ประกอบแผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3
เร่ือง สัญลกั ษณ์และการหาจานวนสับเซต
1. กาหนดให้ U = { x | x เป็ นจานวนเต็ม }
จงพจิ ารณาข้อความต่อไปนแี้ ล้วใส่เครื่องหมาย หน้าข้อท่ีถกู และใส่เครื่องหมาย หน้าข้อที่ผิด
______ 1. จานวนนบั U ______ 2. 5 U
______ 3. { 2, 3, 5, 7 } U U______ 4. 1 , 2, 3
______ 5. {0} U 2
______ 6. {x | x เป็นจานวนเฉพาะ} U
______ 7. {5} U ______ 8. 1, 2, 3, 4,… U
U______ 9. 2, 3 ______ 10. { } U
2. กาหนดให้ A= { 1, { 2 }, 34, { { 5 } } }
จงพจิ ารณาข้อความต่อไปนแี้ ล้วใส่เคร่ืองหมาย หน้าข้อท่ถี ูก และใส่เครื่องหมาย หน้าข้อทีผ่ ดิ
______ 1. { { 5 } } A ______ 2. { 1, 34 } A
______ 3. { 3, 4 } A ______ 4. 2 A
______ 5. { { 2 } } A ______ 6. { { 2 }, { { 5 } } } A
______ 7. 1 A ______ 8. 3, 4 A
______ 9. { 2 } A ______ 10. A
3. กาหนดให้ A= {a, b, c, d} B = {a, b, c} C = {b, c} D = {a, c, d}
จงพจิ ารณาข้อความต่อไปนแี้ ล้วใส่เคร่ืองหมาย หน้าข้อทถ่ี กู และใส่เครื่องหมาย หน้าข้อที่ผดิ
______ 1. B A ______ 2. A B
______ 3. D A ______ 4. B D
______ 5. D C ______ 6. D B
______ 7. A C ______ 8. A D
______ 9. B C ______ 10. C A
สมบตั เิ กย่ี วกบั สับเซต
กาหนดให้ A, B และ C เป็นเซตใด ๆ
1. A A กล่าวคอื เซต A ย่อมเป็นสับเซตของตวั มนั เอง
2. A กล่าวคือ เซตวา่ ง เป็นสบั เซตของทุกเซต
3. A U กลา่ วคือ เซต A เป็นสับเซตของเอกภพสัมพทั ธ์
4. ถา้ A แลว้ A =
5. A = B ก็ตอ่ เม่ือ A B และ B A
6. ถา้ A B และ B C แลว้ A C
7. ถา้ A และ B เป็นเซตจากดั และ A B แลว้ n(A) n(B)
8. ถา้ A เป็นเซตใด ๆ ท่ีไมใ่ ช่เซตวา่ งแลว้ สามารถหาสบั เซตแทข้ องเซต A ไดเ้ สมอ
9. ถา้ เซต A เป็นสับเซตแทข้ องเซต B แลว้ n(A) < n(B)
แบบฝึ กหดั ท่ี 4 ช้ันมัธยมศึกษาปี ท่ี 4
รายวิชา คณิตศาสตร์พื้นฐาน 1 (ค31101) ประกอบแผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 4
เร่ือง สัญลกั ษณ์และการหาจานวนสับเซต
4. จงหาสับเซตท้งั หมดของเซตต่อไปนี้
1. A = { 0, 1 }
สับเซตท้งั หมดของ A ไดแ้ ก่____________________________________________________________
2. B = { 1, 3, 5 }
สับเซตท้งั หมดของ B ไดแ้ ก่___________________________________________________________
3. C = { { 1 }, 2 }
สับเซตท้งั หมดของ C ไดแ้ ก่___________________________________________________________
4. D = { 1, { 2 }, { { 3 } } }
สบั เซตท้งั หมดของ D ไดแ้ ก่___________________________________________________________
5. E = { , { } }
สับเซตท้งั หมดของ E ไดแ้ ก่___________________________________________________________
5. กาหนดให้ A = { 2, 3, 5, 7 } จงตอบคาถามต่อไปนี้
1. สบั เซตของ A ที่มีสมาชิก 0 ตวั
_______________________________________________________________________________
2. สบั เซตของ A ท่ีมีสมาชิก 1 ตวั
_______________________________________________________________________________
3. สับเซตของ A ที่มีสมาชิก 2 ตวั
_______________________________________________________________________________
4. สับเซตของ A ที่มีสมาชิก 3 ตวั
_______________________________________________________________________________
5. สับเซตของ A ท่ีมีสมาชิก 4 ตวั
_______________________________________________________________________________
6. สับเซตท้งั หมดของ A
_______________________________________________________________________________
7. สบั เซตแทข้ อง A
_______________________________________________________________________________
8. จานวนสบั เซตท้งั หมดของ A
_______________________________________________________________________________
9. จานวนสบั เซตแทข้ อง A
_______________________________________________________________________________
10.สับเซตของ A ท่ีไมใ่ ช่สับเซตแท้
_______________________________________________________________________________
6. กาหนดให้ A เป็นเซตท่ีมีสมาชิก 5 สมาชิก จงหาจานวนสับเซตของ A ที่มีสมาชิก 1 สมาชิก
__________________________________________________________________________________
__________________________________________________________________________________
7. กาหนดให้ A เป็นเซตท่ีมีสมาชิก n สมาชิก จงหาจานวนสับเซตของ A ที่มีสมาชิก 1 สมาชิก
__________________________________________________________________________________
__________________________________________________________________________________
8. กาหนดให้ A เป็นเซตท่ีมีสมาชิก n สมาชิก จงหาจานวนสับเซตท้งั หมดท่ีมีสมาชิกอยา่ งนอ้ ย 1 สมาชิก
__________________________________________________________________________________
__________________________________________________________________________________
9. กาหนดให้ A เป็นเซตท่ีมีสมาชิก n สมาชิก จงหาจานวนสับเซตท้งั หมดของ A
__________________________________________________________________________________
__________________________________________________________________________________
10. กาหนดให้ A เป็นเซตท่ีมีสมาชิก n สมาชิก จงหาจานวนสับเซตแทท้ ้งั หมดของ A
__________________________________________________________________________________
__________________________________________________________________________________
• เพาเวอร์เซต (Power Set)
บทนยิ าม เซตของสับเซตท้งั หมดของ A เรียกวา่ เพาเวอร์เซตของเซต A เขียนแทนดว้ ย P(A)
จงหาเพาเวอร์เซตและจานวนสมาชิกของเพาเวอร์เซต
ตวั อย่างท่ี 1 กาหนดให้ A = {1, 2, 3}
สมาชิกของเซต A ไดแ้ ก่ 1, 2, 3
สบั เซตท้งั หมดของ A ไดแ้ ก่ {1}, {2}, {3}, {1,2}, {1,3}, {2,3}, {1, 2, 3},
จะได้ P (A) = { {1}, {2}, {3}, {1,2}, {1,3}, {2,3}, {1, 2, 3}, }
ดงั น้นั จานวนสมาชิกของเพาเวอร์เซต A เทา่ กบั 8
ตัวอย่างท่ี 2 กาหนดให้ B = {{ }, }
สมาชิกของเซต A ไดแ้ ก่ { },
สบั เซตท้งั หมดของ A ไดแ้ ก่ {{ }}, { }, {{ }, },
จะได้ P (A) = { {{ }}, { }, {{ }, }, }
ดงั น้นั จานวนสมาชิกของเพาเวอร์เซต A เท่ากบั 4
ตัวอย่างท่ี 3 กาหนดให้ C = {a, b} จงหา P(P(C))
สมาชิกของเซต A ไดแ้ ก่ a, b
สบั เซตท้งั หมดของ A ไดแ้ ก่ { a }, { b }, { a, b },
จะได้ P (C) = { {a}, {b}, {a, b}, }
ซ่ึงสมาชิกของ P(P(C))ไดแ้ ก่ { {{a}}, {{b}}, {{a, b}}, { }, {{a},{b}},
{{a},{a, b}}, {{a}, }, {{b},{a, b}}, {{b}, },
{{a, b}, }, {{a}, {b},{a, b}}, {{a}, {b}, },
}{{a}, {a, b}, }, {{b}, {a, b}, } , {{a}, {b}, {a, b}, },
ดงั น้นั จานวนสมาชิกของ P(P(C)) = 16
การหาจานวนสมาชิกของเพาเวอร์เซต
ถา้ A เป็นเซตจากดั ใด ๆ และ n เป็นจานวนสมาชิกในเซต
จะไดว้ า่ จานวนสบั เซตท้งั หมดของ A คือ 2n(A)
ใหจ้ านวนสมาชิกของเพาเวอร์เซตของเซต A เขียนแทนดว้ ย n(P(A))
แต่ จานวนสมาชิกของเพาเวอร์เซตของเซต A เทา่ กบั จานวนสับเซตท้งั หมดของเซต A
ดงั น้นั n(P(A)) = 2n(A)
เอกสารแนะแนวทางที่ 5
รายวชิ า คณิตศาสตร์พื้นฐาน 1 (ค31101) ช้ันมัธยมศึกษาปี ท่ี 4
เร่ือง “มเี พาเวอร์” ประกอบแผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 5
จงพจิ ารณาสับเซตและเพาเวอร์เซต์ต่อไปนจี้ ากเซตท่ีกาหนดให้
1. A = {a} สับเซต {a},
เพาเวอร์เซต A = { {a}, }
2. B = {a, b} สับเซต
เพาเวอร์เซต
3. C = {a, b, c} สบั เซต
เพาเวอร์เซต
4. D = {a, b, c, d} สบั เซต
เพาเวอร์เซต
5. E = {a, b, c, d, e} สบั เซต
เพาเวอร์เซต
เพาเวอร์เซต คือ __________________________________________________________
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
แบบฝึ กหดั ที่ 5 ช้ันมัธยมศึกษาปี ที่ 4
รายวิชา คณติ ศาสตร์พื้นฐาน 1 (ค31101) ประกอบแผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 5
เร่ือง สัญลกั ษณ์และจานวนสมาชิกของเพาเวอร์เซต
1. จงตอบคาถามต่อไปนี้
1. กาหนดให้ A = { { } } จงหา P(A)
______________________________________________________________________________
2. กาหนดให้ B = { , { }, { { } } } จงหา P(B)
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
3. กาหนดให้ C = { { 1, 2, 3, 4, 5 } } จงหา P(C)
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
4. กาหนดให้ A = { x | x เป็นสระในภาษาองั กฤษคาวา่ “MATHEMATICS” } จงหา P(A)
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
5. กาหนดให้ A = { xN | x2 -7x +12 = 0 } จงหา P(P(A))
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
6. กาหนดให้ D = { a } จงหา P(P(D))
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
7. กาหนดให้ E = จงหา P(P(P(E)))
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
8. ถา้ กาหนดเซต A มีจานวนสมาชิก n สมาชิก แลว้ เพาเวอร์เซตของเซต A มีสมาชิกเท่าไร
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
9. ถา้ P(P(A)) มีจานวนสมาชิกท้งั หมด 16 สมาชิก แลว้ n(A) มีจานวนสมาชิกเท่าไร
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
10. ถา้ P(P(P(P(P(A))))) มีจานวนสมาชิกท้งั หมด 22223 สมาชิก
แลว้ n(A) มีจานวนสมาชิกเท่าไร
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
สมบตั ขิ องเพาเวอร์เซต
ถา้ ให้ A และ B เป็นสับเซต และเอกภพสมั พทั ธเ์ ป็น U
1. P(A)
2. P(A)
3. A P(A)
4. A B ก็ตอ่ เม่ือ P(A) P(B)
5. ถา้ A เป็นเซตอนนั ตแ์ ลว้ P(A) เป็นเซตอนนั ต์
6. ถา้ A เป็นเซตจากดั ซ่ึง n(A) = n แลว้ n(P(A)) = 2n(A)
7. ถา้ A เป็นเซตจากดั ซ่ึง n(A) = n แลว้ n(P(P(A))) = 22n(A)
แบบฝึ กหัดท่ี 6 ช้ันมธั ยมศึกษาปี ท่ี 4
รายวชิ า คณติ ศาสตร์พื้นฐาน 1 (ค31101) ประกอบแผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 6
เร่ือง สัญลกั ษณ์และจานวนสมาชิกของเพาเวอร์เซต
1. กาหนดให้ A และ B เป็ นเซตใด ๆ
จงพจิ ารณาข้อความต่อไปนแี้ ล้วใส่เคร่ืองหมาย หน้าข้อท่ีถูก และใส่เครื่องหมาย หน้าข้อทผ่ี ิด
________ 1. P(A)
________ 2. P(A)
________ 3. P(A)
________ 4. P(A)
________ 5. A P(A)
________ 6. ถา้ A = แลว้ P(A) =
________ 7. ถา้ A B แลว้ P(A) P(B)
________ 8. ถา้ P(A) P(B) แลว้ A B
________ 9. ถา้ เซต A มีจานวนสมาชิกเป็นจานวนค่ีแลว้ n(P(P(A))) มีสมาชิกเป็นจานวนคู่
________ 10. มีเซต A ซ่ึงทาให้ n(P(A)) = 31
3. กาหนดให้ A = { , a, { b }, { a, b } }
จงพจิ ารณาข้อความต่อไปนแี้ ล้วใส่เครื่องหมาย หน้าข้อท่ถี กู และใส่เคร่ืองหมาย หน้าข้อทผ่ี ดิ
_______ 1. P(A) _______ 2. P(A)
_______ 3. P(A) _______ 4. P(A)
_______ 5. {a} P(A) _______ 6. a P(A)
_______ 7. {b} P(A) _______ 8. {{b}} P(A)
_______ 9. { ,a ,b} P(A) _______ 10. {{ ,{a ,b}}} P(A)
• แผนภาพของเวนน์ - ออยเลอร์ (Venn – Euler Diagram)
วิธีการแสดงความสัมพนั ธ์ระหว่างเซตและกระบวนการของเซตโดยใชแ้ ผนภาพ โดย
จะแทน เอกภพสัมพทั ธ์ (Universal Set) ดว้ ยรูปสี่เหล่ียมผืนผา้ และเซตอื่น ๆ ดว้ ยรูปวงกลม
หรือวงรีภายในกรอบของรูปส่ีเหลี่ยมผนื ผา้ ดงั รูป
เซต A และเซต B ไม่มีสมาชิกร่วมกนั เซต A และ เซต B มีสมาชิกร่วมกนั
เซต A เทา่ กบั เซต B สมาชิกทกุ ตวั ในเซต B เป็นสมาชิกในเซต A
สมาชิกทุกตวั ในเซต A เป็นสมาชิกในเซต B
บริเวณท่ีแรเงาในแผนภาพเวนน์-ออยเลอร์ต่อไปน้ีแสดงเซต A หรือเซต B (A B) ในรูปแบบตา่ ง ๆ
AB AB
U U
เซต A และเซต B ไมม่ ีสมาชิกร่วมกนั เซต A และเซต B มีสมาชิกร่วมกนั
A B A U
A=B กต็ อ่ เมื่อ B
U ก็ตอ่ เม่ือ
และ U
B
A
กต็ อ่ เม่ือ
บริเวณที่แรเงาในแผนภาพเวนน์-ออยเลอร์ต่อไปน้ีแสดงเซต A และเซต B (A B) ในรูปแบบต่าง ๆ
เซตAและเซตBไม่มีสมาชิกร่วมกนั AB =
A=B กต็ ่อเมื่อ A B = Aและ A B = B B A กต็ ่อเมื่อ A B = A
A B กต็ ่อเม่ือ A B = B
บริเวณที่แรเงาในแผนภาพเวนน์-ออยเลอร์ต่อไปน้ีแสดงคอมพลีเมนตข์ องเซต A (A) ไดด้ งั น้ี
บริเวณท่ีแรเงาในแผนภาพเวนน์-ออยเลอร์ต่อไปน้ีแสดงผลตา่ งของเซต A และเซต B (A − B) ใน
รูปแบบตา่ ง ๆ กลา่ วคือ สมาชิกของเซต A ท่ีไม่อยใู่ นเซต B
เซตAเซตBไมม่ ีสมาชิกร่วมกนั A − B = A เซต A และเซต B มีสมาชิกร่วมกนั A - B
A=B กต็ อ่ เมื่อ A − B = และB − A = B A กต็ ่อเมื่อ A − B = A B
A B กต็ ่อเม่ือ A − B =
ตัวอย่างที่ 1 กาหนดให้ U = {a, b, c, d, e, f}
วิธที า
A = {a, b, c}
B = {a, d, f}
จงเขยี นแผนภาพเวนน์-ออยเลอร์ พร้อมเติมสมาชิกลงในแผนภาพท้งั หมด
เขียนแผนภาพเวนน์ – ออยเลอร์ไดด้ งั น้ี
ตัวอย่างท่ี 2 กาหนดให้ U = {x N | x < 10}
วิธที า
A = {x I+ | x เป็นเลขโดดและเป็นจานวนคี่}
B = {x N | x เป็นจานวนเฉพาะท่ีมีคา่ นอ้ ยกวา่ 11}
C = {x I | x2 - 8x + 15 = 0}
จงเขยี นแผนภาพเวนน์-ออยเลอร์ พร้อมเติมสมาชิกลงในแผนภาพท้งั หมด
แสดงวา่ สามารถเขยี นเซตแบบแจกแจงสมาชิกไดด้ งั น้ี
กาหนด U = {x N | x < 10}
A = {x I+ | x เป็นเลขโดดและเป็นจานวนคี่}
B = {x N | x เป็นจานวนเฉพาะท่ีมีค่านอ้ ยกวา่ 11}
C = {x I | x2 - 8x + 15 = 0}
เขยี นแผนภาพเวนน์ – ออยเลอร์ไดด้ งั น้ี
แบบฝึ กหดั ที่ 7
รายวชิ า คณติ ศาสตร์พืน้ ฐาน 1 (ค31101) ช้ันมัธยมศึกษาปี ท่ี 4
เร่ือง แผนภาพเวนน์ – ออยเลอร์ ประกอบแผนการจัดการเรียนรู้ที่ 7
จงเตมิ สมาชิกของเซตทกี่ าหนดให้ลงในแผนภาพเวนน์ ออยเลอร์ให้ถกู ต้อง
1. U = { a, b, c, d, e, f, g } 2. U = { 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9 }
A = { a, e, f } A = { 1, 2, 3, 5, 8, 9 }
B = { a, b, c, d, e } B = { 3, 4, 5, 6, 7 }
3. U = { 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9 } 4. U = { 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9 }
A = { 1, 3, 5, 7, 9 } A = { 2, 3, 5, 7 }
B = { 2, 4, 6, 8 } B = { 7, 8, 9 }
5. U = { 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9 } 6. U = { 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9 }
A = { 3, 6, 9 } A = { 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7 }
B = { 2, 4, 6, 8 } B = { 1, 2, 3, 4, 5 }
7. U = { 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9 } 8. U = { 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9 }
A = { 1, 2, 3, 4, 5 } A = { 1, 2, 3, 4, 5, 8 }
B = { 1, 2, 3, 4, 5 } B = { 1, 2, 3, 5, 6, 7 }
C = { 1, 2, 3, 4, 6, 9 }
9. U = { 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9 } 10. U = { 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9 }
A = { 3, 4, 5, 6, 7 } A = { 2, 3, 5, 7 }
B = { 1, 2, 3 } B = { 5, 6, 7, 8, 9 }
C ={2} C = { 2, 4, 6, 7, 8, 9 }