The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by golfzxc, 2021-10-08 08:42:08

Articles and Book Review

Articles and Book Review

-1-

นาย จริ ายุ สาเนียงดี รหสั นักศกึ ษา 635158090016

Articles Reviews

ชื่อเร่ือง : ปัจจัยท่ีมีผลต่อพฤติกรรมการเรียนผ่านระบบออนไลน์ของนักศึกษา วิทยาลัยเซนต์หลุยส์
จากสถานการณโ์ ควดิ 19

การวิจัย : การวจิ ยั เชิงพรรณนาและแบบเชงิ ทานาย

จัดพิมพ์โดย : วารสารสขุ ภาพกบั การจัดการสขุ ภาพปี 2564

ผวู้ ิจัย : มาลวี ัล เลิศสาครศริ ิ และคณะ

การสรุปใจความสาคัญ : ผู้ดาเนินการวิจัยจัดทาวิจัยน้ีข้ึนเพ่ือศึกษาปัจจัยท่ีมีผลต่อพฤติกรรมการ
เรียนผ่านระบบออนไลน์ ของนักศึกษา วิทยาลัยเซนต์หลุยส์จากสถานการณ์โควิด-19 ณ ปัจจุบันท่ีเกิดขึ้น
โดยมีวัตถุประสงค์การวิจัยดังน้ี 1. เพ่ือศึกษาพฤติกรรมการเรียนผ่านระบบ ออนไลน์ของนักศึกษา วิทยาลัย
เซนต์หลุยส์ 2. เพื่อศึกษาความสัมพันธ์และความสามารถใน การทานายพฤติกรรมการเรียนผ่านระบบ
ออนไลน์ของ นักศึกษา วิทยาลัยเซนต์หลุยส์ และได้กาหนดสมมติฐานการวิจัยครั้งน้ี ประกอบด้วย
ปัจจัยภายใน คือ เจตคติต่อการเรียนผ่านระบบออนไลน์ การปรับตัวของนักศึกษา ส่วนปัจจัยภายนอก
คือ พฤติกรรมการสอนของอาจารย์ สภาพแวดล้อมทางกายภาพ ความพร้อมของสื่อ/เทคโนโลยี เพื่อหา
ความสัมพันธ์และสามารถร่วมทานายพฤติกรรมการเรียนผ่านระบบออนไลน์จากสถานการณ์โควิด-19 และ
การวิจัยครั้งนี้ผู้วิจัยมีการทบทวนวรรณกรรมในประเทศและต่างประเทศเก่ียวกับพฤติกรรมการเรียนของ
นักศึกษาและใช้แนวคิดแบบสารวจพฤติกรรมการเรียน The Learning and Study Strategies Inventory
(LASSI) ของ Weinstein & Palmer (2002) ทั้ง 10 ด้านดังน้ี 1 ด้านทัศนคติในการเรียน 2 ด้าน แรงจูงใจ
ในการเรยี น 3 ดา้ นการจัดเวลาในการเรียน 4 ดา้ นความวติ กกังวลในการเรียน 5 ด้านการมีสมาธิ และการเอา
ใจใส่ตอ่ การเรยี น 6 ด้านกระบวนการสร้างและใชค้ วามรู้ 7 ด้านการเลือกใจความสาคัญ 8 ด้านการใช้เทคนิค
อุปกรณช์ ่วยเหลือในการเรยี น 9 ด้านการทดสอบตนเอง 10 ด้านกลยุทธ์ในการสอบ เป็นเคร่ืองมือในการเก็บ
รวบรวมข้อมูลซึ่งจะนาไปสู่ความสาเร็จในการเรียนและผลลัพธ์การเรียนรู้ท่ีดี วิธีดาเนินการวิจัย มีสุ่มกลุ่ม
ตัวอยา่ ง คณะพยาบาลศาสตร์ คณะกายภาพบาบดั และคณะจิตวิทยา จานวน 257 คน ปีการศึกษา2563 ใช้
เคร่ืองมือวิจัยเป็นแบบสอบถามประกอบด้วยข้อมูลส่วนบุคคล ปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมการเรียนของ
นกั ศึกษา ใช้ระยะเวลาการเก็บข้อมูล ตง้ั แต่เดือนตุลาคม-ธนั วาคม 2563

การวิเคราะห์ : วิเคราะห์ข้อมูลโดยหาค่าสถิติพื้นฐานได้แก่ ความถี่ ร้อยละ คะแนนเฉลี่ย ส่วน
เบี่ยงเบนมาตรฐาน หาความสัมพันธ์โดยใช้สัมประสิทธ์ิสหสัมพันธ์เพียร์สัน (Pearson’s product moment
correlation coefficient) วิเคราะห์การถดถอยพหุคูณแบบขั้นตอน (Stepwise multiple regression) และ
ใช้สถิติไคส แควร์ทดสอบความเป็นโค้งปกตขิ องข้อมูล (Test for goodness of fit)

-2-

การวิจารณ์เปรียบเทียบ ซ่ึงต้องอาศัยพ้ืนฐานทางทฤษฎีท่ีเก่ียวข้อง เพ่ือช้ืให้เห็นข้อโต้แย้งจากผู้รีวิวได้
อย่างหนักแน่น : ผู้วิจัยได้ใช้แนวคิดทฤษฎีแบบสารวจพฤติกรรมการเรียน The Learning and Study
Strategies Inventory (LASSI) ของ Weinstein & Palmer (2002) เพ่ือมาทานายพฤติกรรมของนักศึกษา
ของวทิ ยาลัยเซนต์หลุยส์ และหาปจั จยั ท่สี ่งผลกระทบต่อการเรยี นออนไลน์ไดด้ ังต่อไปนี้

1. เพ่ือหาค่าเฉล่ียและส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐานพฤติกรรมการเรียนของนักศึกษาช้ันปี 1 ถึงปี 4
คณะกายภาพบาบัด คณะจิตวิทยา คณะพยาบาลศาสตร์วิทยาลัยเซนต์หลุยส์รายด้านและโดยรวม ผู้วิจัย
ต้องการทราบถึงพฤติกรรมของนักศึกษากลุ่มตัวอย่างท้ัง 10 ด้าน ท่ีมีความสัมพันธ์และส่งผลต่อการเรียน
ระบบของนกั ศกึ ษาอยูร่ ะดบั ใดบ้าง

2. เพ่ือหาความสัมพันธ์ระหว่างเจตคติต่อการเรียนผ่านระบบออนไลน์การปรับตัวของนักศึกษา
พฤติกรรม การสอนของอาจารย์สภาพแวดล้อมทางกายภาพ ความพร้อมของสื่อ/เทคโนโลยีกับพฤติกรรม
การเรียนของนักศึกษาช้ันปี1 ถึงปี4 วิทยาลัยเซนต์หลุยส์ ผู้วิจัยต้องการทราบทราบถึงปัจจัยภายในและ
ปัจจัยภายนอกทสี่ ่งผลและมีความสมั พนั ธ์ตอ่ การเรียนระบบออนไลนแ์ ละการปรับตวั ของนักศึกษาอย่างไรบ้าง

3. ความสามารถในการทานายพฤติกรรมการเรียนของนักศึกษา วิทยาลัยเซนต์หลุยส์ ผู้วิจัยต้อง
มีการนาตัวแปร การปรับตัวของนักศึกษา พฤติกรรมการสอนของอาจารย์ และเจตคติต่อการเรียนผ่าน
ระบบ ออนไลน์ ผู้วิจัยต้องการทราบว่า ตัวแปรและปัจจัยไหนบ้างที่ส่งผลต่อการปรับตัวของนักศึกษาในการ
เรยี นผา่ นระบบออนไลน์ และเพือ่ จัดลาดบั ความสาคญั ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง

สรุปผลการวิจัย : พบว่าพฤติกรรมการเรียนของนักศึกษาโดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง ค่าเฉล่ีย
เท่ากับ 3.27 (SD=.33) ปัจจัยภายใน ได้แก่ เจตคติต่อการเรียนผ่านระบบออนไลน์การปรับตัวของนักศึกษา
และปัจจัยภายนอก ได้แก่ พฤติกรรมการสอนของอาจารย์สภาพแวดล้อมทางกายภาพ และความพร้อมของ
ส่ือ/เทคโนโลยีมีความ สัมพันธ์ทางบวกระดับปานกลางกับพฤติกรรมการเรียนของนักศึกษาอย่างมีนัยสาคัญ
ทางสถิติที่ระดับ .01(r=.237, .409, .525, .407,และ.301) ตามลาดับ โดยตัวแปรการปรับตัวของ
นักศึกษา พฤติกรรมการสอนของอาจารย์ และ เจตคติต่อการเรียนผ่านระบบออนไลน์สามารถร่วมกันอธิบาย
พฤติกรรมการเรียนของนักศึกษาอย่างมีนัยสาคัญทาง สถิติที่ระดับ .01และ.001อานาจการทานายร้อยละ
35.0จากผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่าผู้บริหารและคณาจารย์ ควรตระหนักและดาเนินการส่ิงท่ีเกี่ยวข้องเพ่ือ
พฒั นาให้นักศกึ ษามีพฤตกิ รรมการเรยี นผา่ นระบบออนไลนท์ ี่ดี

ข้อแสนอแนะจากการศึกษาวิจัย : การวิจัยคร้ังน้ีผู้วิจัยควรศึกษาในลักษณะ Mixed method
research ท่ีผสมผสานระหว่างการวิจัยเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ เก่ียวกับพฤติกรรมการเรียนของนักศึกษา
เพราะจะทาให้ได้รับข้อมูลเชิงลึกจากนักศึกษาและอาจารย์ เก่ียวกับการพัฒนาการจัดการเรียนการสอนผ่าน
ระบบออนไลน์ เพ่ือส่งเสริมใหน้ กั ศึกษามพี ฤตกิ รรม การเรยี นท่ีดขี ้ึนได้

เอกสารอ้างอิง : กระทรวงศึกษาธิการ. (2552). กรอบมาตรฐานคุณวุฒิ ระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ
พ.ศ. ๒๕๕๒.ราชกจิ จา นเุ บกษา เลม่ ๑๒๖ ตอนพิเศษ ๑๒๕ วันท่ี ๓๑ สิงหาคม ๒๕๕๒. สืบค้นจาก https://
www. acad.nu.ac.th/devcourse/docs

-3-

Book Reviews

ช่ือเรอื่ ง : ตอบโจทย์ ฟา้ ทะลายโจรกระชายดา สุดยอดสมุนไพรดา่ นหนา้ ต้านโควิด 19

จัดพิมพ์โดย : สานักพมิ พเ์ พชรประกาย ปี 2564

ผ้รู วบและเรียบเรียง : พนิ จิ จันทร

สรุปใจความสาคัญ : จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเช้ือไวรัสโคโรน่า 2019 ซึ่งทาให้คนทั่วโลกทั้งผู้ที่
ติดเชื้อและคนในครอบครัวที่มีความเสี่ยงสูง ผู้ร่วมงานและแม้กระทั่งคนท่ีไม่รู้จักกัน ไวรัสตัวนี้ก็สามารถ
แพร่กระจายเช้อื จากอกี คนไปยังอีกคนหน่ึงได้โดยง่าย ทาให้แต่ละประเทศเกิดผลกระทบความเสียหายตามมา
หลายด้านท้ังด้านร่างกายท่ีต้องเจ็บป่วย ภูมิคุ้มกันลดลง ด้านจิตใจท่ีต้องอยู่ในความวิตกกังวล ความกลัว
ความคิดถึงคนใกล้ชิดเนื่องจากต้องมีการกักตัวและการสูญเสียคนรักในที่สุด ตามมาด้วยการขาดรายได้ในแต่
ละครอบครวั ทาให้คุณภาพชวี ิตของแต่ละคนแย่ลงไปด้วย สาหรับประเทศไทยเม่ือเกิดการระบาดของเชื้อไวรัส
โคโรน่า 2019 ขึน้ ทุกคนต้องปรบั ตัวและแก้ไขปัญญาด้านสุขภาพนีไ้ ปให้ได้ ระบบสาธารณสุขไทยมีการรักษา
ผู้ป่วยแบบแพทย์แผนปัจจุบันโดยการใช้ยา Favipiravir ในการฆ่าเชื้อไวรัสแต่ในผู้ป่วยหน่ึงคนนั้นต้องใช้ยา
Favipiravir คดิ เปน็ จานวนเงินทง้ั สิ้น 4,800 บาท ตอ่ คนซ่ึงมากเกินไปกบั การทจ่ี ะต้องรักษาผู้ป่วยทั้งหมดโดย
ใชย้ า Favipiravir วิธีเดียว ดังนนั้ จงึ ทาใหเ้ กิดการนาการแพทยท์ างเลือกโดยใชส้ มนุ ไพรไทยตามหลักการแพทย์
แผนไทยมาสนับสนุนการแพทย์เพื่อบรรเทาอาการเจ็บป่วยของผู้ป่วยที่มีอาการไม่รุนแรง นั้นคือ การนา
สมุนไพรไทย “ฟ้าทะลายโจร” ท่ีมีสารแอนโดรกราโฟไลด์ (Andrographolide) มาสกัดและใช้ในการรักษา
ต้านการอักเสบของร่างกาย ลดไข้ ฆ่าเช้ือไวรัส ลดการเจ็บคอ ซึ่งคิดค่าใช้จ่ายต่อคนหากใช้ฟ้าทะลายโจรใน
การรักษาน้ันอยูท่ ี่ 180 บาทต่อคน ถือว่าคุ้มค่าแก่การรักษาในผู้ป่วยท่ีอาการไม่รุนแรงและยังไม่เป็นอันตราย
ต่อผรู้ ับประทานเนือ่ งจากฟ้าทะลายโจรจะออกฤทธิใ์ นร่างกายจนหมด จากการวิจัยพบว่าไม่มีสารพิษตกค้างใน
ร่างกายภายหลังและผู้ป่วยท่ีได้รับฟ้าทะลายโจรทาให้การเกิดปอดอักเสบลดลงได้ แต่ห้ามใช้ฟ้าทะลายโจรใน
หญิงต้ังครรภ์ ในผู้ท่ีมีความดันโลหิตต่าและในผู้ป่วยท่ีรับประทานยาละลายล่ิมเลือด เนื่องจากฟ้าทะลายโจร
สามารถยับย้ังไวรัสโคโรน่า 2019 ได้แต่ไม่สามารถป้องกันโรคโคโรน่า 2019 ได้ ดังนั้นทุกคนจึงต้องได้รับ
การฉดี วคั ซีนปอ้ งกันโรคโคโรน่า 2019 เพอื่ ลดการเจ็บปว่ ยรุนแรงและเสยี ชีวติ ปัจจบุ ันฟ้าทะลายโจรจึงเป็นท่ี
ต้องการของตลาดและองค์กรทางการแพทย์จึงเป็นโอกาสท่ีดีของเกษตรกร คนว่างงานและภาคธุรกิจ ในการ
ปลูกฟ้าทะลายโจรเพ่ือส่งออกสาหรับทางการแพทย์โดยเฉพาะ ทาให้การรักษาอาการป่วยของคนไทยมี
แนวโน้มดีข้ึนได้โดยใช้ต้นทุนการรักษาที่ไม่แพงผู้ผลิตเอง คนขาดรายได้ โอกาสน้ีอาจทาให้บางส่วนกลับมามี
คุณภาพชีวิตท่ีดีได้อีกครั้งท่ามกลางวิกฤตการระบาดของโรคครั้งน้ี สาหรับกระชายขาวสมุนไพรไทยอีกชนิด
หน่ึงท่ีเป็นคาถามว่ารักษาโรคโคโรน่า 2019 ได้หรือไม่คาตอบคือยังคงอยู่ในการทดลองวิจัยในหลอดทดลอง
อยู่นกั วิจัยคาดว่ากระชายขาวจะช่วยลดการอักเสบได้แต่ต้องใช้เวลาอย่างน้อยอีก 1 ปี ในการวิจัยและพัฒนา
ความสาเร็จต่อไป แตเ่ บือ้ งต้นแน่ชัด คือ กระชายขาวสามารถช่วยแก้ปวดท้องขับปัสสาวะแก้โรคในปาก บารุง
หัวใจ แก้ท้องอืดและรักษาริดสีดวงทวารได้ ซึ่งอาการเหล่าน้ีไม่ค่อยเกิดในผู้ป่วยที่เป็นโรคโคโรน่า 2019
นัก ต่างจากฟ้าทะลายโจรทช่ี ว่ ยลดการอักเสบ ลดไข้ แกไ้ อ แกเ้ จบ็ คอ ลดน้ามูก ไดซ้ ง่ึ ผปู้ ่วยโรคโคโรน่า 2019
มกั มอี าการเหลา่ นม้ี ากกวา่ อยแู่ ล้วจงึ เปน็ การชว่ ยบรรเทาและสนบั สนุนการรักษาได้ดยี ่งิ ข้ึน

-4-

จดุ เดน่ : หนงั สอื เล่มนี้มีการออกแบบตัวอักษรให้น่าอ่านเน้นตัวอักษรเข้มในข้อความที่สาคัญและเป็นประเด็น
หลัก ใช้สีตัวอักษรและขนาดที่อ่านได้ชัดและสบายตาในการอ่าน มีรูปภาพประกอบท่ีเข้าใจง่ายและน่าเช่ือถือ
เป็นปัจจุบันล่าสุด ไม่ล้าหลัง มีการอ้างอิงถึงหน่วยงานและบุคลากรทางการแพทย์ที่ทางานในปัจจุบันและ
น่าเช่ือถือได้

จดุ ด้อย : ผูร้ วบรวมยังมีการพิสูจน์อักษรท่ีไม่ละเอียดมาก ยังมีการสะกดคาผิดในบางคาอาจทาให้ผู้อ่านเข้าใจ
ผดิ ได้ ภาษาไทยอาจมกี ารเขยี นทีผ่ ดิ เพย้ี นต่อไปได้

ประโยชน์ที่ได้จากการอ่านและการนาไปใช้ : ได้ทาให้ทราบถึงสรรพคุณของสมุนไพรไทย ได้แก่ ฟ้าทะลาย
โจรและกระชายขาว ได้ศึกษาและเรียนรู้กับการรักษาโรคโคโรน่า 2019 ในปัจจุบันว่ามีการใช้ทั้งศาสตร์และ
ศิลป์หลายแขนงในการช่วยชีวิตคนในแต่ละชีวิต ข้อมูลข่าวสารในยุคน้ีมีท้ังข้อมูลจริงและข้อมูลเท็จ ดังนั้นเรา
ควรหาข้อมูลจากหลายๆด้าน จากบุคคลหรือแหล่งที่มาที่เป็นท่ียอมรับและเชื่อถือได้ เพ่ือพิจารณาในการ
ตัดสนิ ใจ เชือ่ และปฏิบัตติ ามหรือเลือกวถิ ีทางในการดารงชวี ติ ประจาวันทด่ี ีของตนเองและครอบครัวได้


Click to View FlipBook Version