หนว่ ยท่ี 8
การบนั ทกึ และวเิ คราะหข์ อ้ มลู การผลติ
ครูคธั รียา มะลิวลั ย์
แผนกวชิ าสตั วศาสตร์ วทิ ยาลยั เกษตรและเทคโนโลยีฉะเชิงเทรา
หน่วยท่ี 8
การบันทกึ และวิเคราะห์ขอ้ มลู การผลติ
หัวข้อเรือ่ ง
1. ประโยชนข์ องการจดบนั ทึกข้อมลู
2. การบันทกึ ข้อมลู การเล้ียงไก่เนอ้ื
3. การวิเคราะหข์ ้อมลู การเลย้ี งไกเ่ น้ือ
จุดประสงค์การเรยี นรู้
1. บอกประโยชน์ของการจดบนั ทกึ ข้อมลู ได้
2. อธิบายการบันทึกข้อมูลการเลีย้ งไกเ่ น้ือได้
3. สามารถวิเคราะห์ขอ้ มลู การเลยี้ งไก่เน้ือได้
เนอ้ื หาการสอน
การจัดการข้อมูลของฟาร์มไก่เนื้อเป็นการบันทึกข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการจัดการ อาหาร
การให้อาหาร ยา วัคซีน ผลผลิต แล้วนาข้อมูลท่ีได้ไปคานวณค่าต่าง ๆ ลงบันทึกในกราฟเพ่ือเทียบกับ
มาตรฐาน และจัดเก็บรวบรวมข้อมูล เพ่ือเป็นประโยชน์ในการจัดการฟาร์ม ทาให้ทราบข้อมูลต่างๆ
ในการเลี้ยง เช่น ผลผลิตที่ได้รับ ผลผลิตที่เสียหาย จานวนไก่ตาย ไก่คัดท้ิง และต้นทุนการผลิต
กรณีเกิดการผิดปกติสามารถค้นหาข้อมูลท่ีบันทึกไว้ วิเคราะห์หาสาเหตุ และหาทางแก้ไขปัญหาได้อย่าง
ถูกต้อง ช่วยลดความเสี่ยงจากการสูญเสีย นอกจากน้ียังใช้เป็นข้อมูลในการวางแผนการผลิต จัดเตรียม
งบประมาณสาหรับเลยี้ งไก่รุ่นต่อไป
การบันทึกข้อมูลการเลี้ยงสัตว์เป็นสิ่งความสาคัญมาก ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อผู้เล้ียงการ
เก็บรวบรวมขอ้ มูลการเล้ียงสัตว์ปีกแตล่ ะรุ่นสามารถใชเ้ ป็นหลกั ฐานแสดงถึงความสามารถของผเู้ ลยี้ งว่าเป็น
อย่างไร นอกจากน้ียังทาให้ทราบถึงการเปล่ียนแปลงที่เกิดขึ้นในการเล้ียงไก่แต่ละรุ่นในแต่ละช่วงเวลา
การจดบันทึกขอ้ มลู เปน็ งานท่ตี อ้ งการความละเอยี ดรอบคอบ ผู้เล้ียงจะตอ้ งจดบันทกึ ข้อมลู ลงในแบบฟอร์ม
ที่กาหนดไว้ทุกวัน ไม่ควรจดบันทึกข้อมูลย้อนหลังเพราะจะทาให้เกิดความผิดพลาดได้สิ่งสาคัญในการ
บนั ทึกข้อมูลคอื ความถูกต้องและความสมบูรณข์ องข้อมูลที่บันทกึ เพราะจะทาให้การสรุปขอ้ มูลและผลการ
เลีย้ งไม่ผิดพลาด
1. ประโยชน์ของการจดบนั ทึกขอ้ มลู การบนั ทกึ ข้อมลู การเล้ียงสัตว์ปกี มีประโยชน์ ดงั น้ี
1) เป็นการทาประวัติการเล้ยี งสัตว์แตล่ ะรุ่น
2) สามารถทาให้ต้นทุนการผลิตลดลงได้ เช่น การจดบันทึกสถิติการไข่รายวันของแม่ไก่ไข่แต่ละ
ตัว ทาให้ผเู้ ลยี้ งสามารถคัดไก่ตวั ท่ใี ห้ไขไ่ มด่ ีออกจากฝงู ได้
3) ทาให้ทราบถึงสมรรถภาพการผลิตที่แท้จริงในฟาร์มเมื่อเปรียบเทยี บกับมาตรฐานของสายพันธ์ุ
นนั้ ๆ ทีแ่ นะนาโดยบริษัทผู้ผลติ
4) ทาใหเ้ ห็นถงึ ความแตกต่างในการเล้ียงสตั ว์เนอื้ แต่ละรนุ่ ในแตล่ ะฤดกู าล
5) ทาให้ทราบถึงสภาพการเปลี่ยนแปลงของสัตว์เน้ือท่ีกาลังเลี้ยงอยู่ได้ในทันทีทันใด เช่น การจด
บนั ทกึ การกินอาหารในแตล่ ะวันของไก่ที่เล้ียงในแต่ละโรงเรือน ถ้าพบว่าไก่กินอาหารลดลงแสดงวา่ จะต้อง
มีความผิดปกติเกิดข้ึน ผู้เล้ียงจะต้องรีบหาสาเหตุและแก้ไขโดยทันที ทาให้สามารถหลีกเล่ียงหรือบรรเทา
ปญั หาต่างๆ ทจ่ี ะเกิดข้นึ ได้
6) สามารถติดตามสาเหตุของความผิดปกติที่เกิดขึน้ ได้จากข้อมูลต่างๆ ท่ีมอี ยู่ เช่น การตรวจสอบ
รายละเอียดของวัคซีนท่บี นั ทกึ ไว้ในกรณเี กิดโรคชนดิ น้ันหลังจากทาวัคซีน
7) สามารถประเมินประสทิ ธภิ าพการปฏบิ ัติงานของคนงานประจาแต่ละโรงเรอื นได้
8) ข้อมูลต่างๆ ท่ีได้จากการเล้ียงสัตว์เนื้อแต่ละรุ่นสามารถใช้เป็นแนวทางในการปรับปรุง
ประสทิ ธภิ าพการผลติ ในรุน่ ต่อไป
9) ข้อมูลท่ีต้องบันทึกทุกวัน ได้แก่ ปริมาณอาหารที่กิน ผลผลิตไข่ อัตราการตาย แต่ข้อมูลบาง
ประเภทไม่จาเป็นต้องบันทึกทุกวัน เช่น น้าหนักตัว ข้อมูลทบี่ ันทึกในแต่ละวันจะต้องรวบรวมและสรุปเก็บ
ไว้ทุกๆ สัปดาห์ ข้อมูลต่างๆ ท่ีได้บันทึกไว้จะนามาใช้ในการคานวณหาค่าต่างๆ เช่น ประสิทธิภาพการ
เปลย่ี นอาหาร ปรมิ าณอาหารทก่ี นิ ตอ่ 100 ตัว เปอรเ์ ซน็ ตไ์ ข่ จานวนไขฟ่ กั ตอ่ แม่ไก่ทมี่ ีอยใู่ นวนั น้นั เปน็ ต้น
2. ประเภทของการบนั ทกึ ขอ้ มูล การบันทกึ ข้อมลู อาจแบ่งออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่
1) การบันทึกการเจริญเติบโต เป็นการบันทึกน้าหนักตัวและพฤติกรรมของฝูงตั้งแต่อายุ 1 วัน
จนถึงเม่ือโตเต็มวัยหรือจับจาหน่าย ข้อมูลที่ได้จะต้องนาไปเปรียบเทียบการเจริญเติบโตมาตรฐานของ
สัตว์ปกี สายพันธ์น้ันในแตล่ ะสปั ดาห์ ซึง่ จะทาให้ผู้เลี้ยงทราบถงึ การเจริญเติบโตทีเ่ ป็นจริงในสภาพฟาร์มของ
เรากับมาตรฐานประจาสายพันธุ์ ตารางที่ใช้ในการจดบันทึกจะต้องประกอบด้วย จานวนไก่มีชีวิต จานวน
ไก่ที่ปลดหรือคัดท้ิง จานวนไก่ที่ปลดออกสะสม ปริมาณอาหารที่กิน โปรแกรมการทาวัคซีน สภาพอากาศ
หรืออณุ หภูมิและปญั หาตา่ งๆ ทีเ่ กดิ ขน้ึ
2) การบันทึกผลผลิตไข่ ข้อมูลท่ีจดบันทึกจะต้องประกอบด้วยจานวนสัตว์ปีก ผลผลิตไข่ทั้งหมด
เปอร์เซ็นต์ไข่ในแต่ละวัน จานวนไข่ฟัก ปริมาณอาหารท่ีกิน น้าหนักตัว น้าหนักไข่เฉลย่ี ต่อฟอง ข้อมูลที่ได้
ควรจะมีการเปรียบเทียบข้อมูลผลผลิตมาตรฐานของสัตว์ปีกแต่ละสายพันธุ์ด้วย ข้อมูลสาคัญท่ีจะต้อง
คานวณออกมาในแตล่ ะสัปดาห์ ได้แก่
- ปรมิ าณอาหารท่ีกนิ เฉลย่ี ต่อไก่ 100 ตัวตอ่ วันในแต่ละสปั ดาห์
- ปริมาณอาหารที่ใช้ต่อผลผลิตไข่ 1 โหล ข้อมูลที่คานวณออกมาทั้ง 2 ค่านี้ จะเป็นตัว
ชใี้ ห้เหน็ ถงึ ปริมาณอาหารที่ไกน่ าไปใช้ในการดารงชีพและใหผ้ ลผลติ ไข่
3) การบันทึกอัตราการฟักออก อตั ราการฟักออกในแต่ละสปั ดาห์เปน็ ตวั ช้ใี ห้เห็นถึงประสิทธิภาพ
การผลิตของพ่อแม่พันธ์ุสัตว์ปีก ซ่ึงจะต้องประกอบด้วย จานวนไข่ฟัก จานวนไข่ตายโคม จานวนไข่ลม
จานวนลูกสตั วป์ ีกทฟ่ี ักออกท้ังหมด อัตราการฟกั ออก เปอร์เซ็นตล์ ูกสัตว์ปกี ท่ขี ายท้ังหมด ข้อมูลท่ไี ด้เหลา่ นี้
จะต้องนาไปเปรียบเทียบกับข้อมูลมาตรฐานของสัตว์ปีกแต่ละชนิด เน่ืองจากมีค่าสหสัมพันธ์โดยตรง
ระหว่างอัตรา การฟักออกกับผลผลิตไข่ การฟักไข่เพื่อการค้านั้นจะฟักไข่จานวนมากในแต่ละครั้ง ถ้าหาก
ความสมบูรณ์หรืออัตราการฟักออกลดลงเพียงเล็กน้อยย่อมหมายถึงการสูญเสียเงินทุนไปเป็นจานวนมาก
ดังน้ันการจดบันทึกข้อมูลท่ีเก่ียวข้องกับไข่ฟักเพ่ือนามาคานวณหาความสมบูรณ์พันธ์ุและอัตราการฟักออก
จะช่วยใหผ้ ้เู ลยี้ งทราบถึงสาเหตุของความผิดปกติที่เกดิ ขนึ้ ได้
4) การบันทึกการคัดไข่ ผู้เล้ียงไก่ที่ต้องการขายไข่ไก่จะต้องทาการประเมินขนาดไข่และคุณภาพ
ไข่ที่ผลิตได้ ควรบันทึก น้าหนักไข่ทุกสัปดาห์ และเปรียบเทียบกับมาตรฐานประจาพันธุ์น้ัน ๆ นอกจากน้ี
น้าหนักไข่ และจานวน ไข่ท้ังหมดที่ผลิตได้จะนามาคานวณหาน้าหนักไข่เฉลี่ยเพ่ือใช้เป็นเกณฑ์ในการ
คานวณหาความต้องการโภชนะ และทาการคานวณหาประสิทธิภาพการเปล่ียนอาหารโดยคิดจากน้าหนัก
อาหารต่อนา้ หนกั ไข่
3. การสร้างกราฟ
เพื่อให้ง่ายต่อการติดตามประสิทธิภาพการผลิตของฝูงสัตว์ปีกที่เลี้ยง ข้อมูลต่างๆ ที่บันทึกจะถูก
ปรับใหอ้ ยู่ในรูปของขอ้ มูลต่อสัปดาห์ แตถ่ ึงกระน้นั การวเิ คราะหแ์ ละติดตามผลยังคอ่ นข้างยุง่ ยาก ดงั นั้นเรา
จึงต้องนาข้อมูลดังกล่าวมาสร้างให้อยู่ในรูปของกราฟพร้อมกับทากราฟมาตรฐานสาหรับข้อมูลต่างๆ ท่ีได้
บันทึกไว้ เพ่ือให้ง่ายต่อการเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างสภาพการผลิตท่ีเป็นจริงในฟาร์มกับ
มาตรฐานประจาพันธ์ุ ซึ่งจะเป็นตัวชี้ให้เห็นถงึ สมรรถภาพการผลติ ของผเู้ ลี้ยง และสิ่งตา่ งๆ ทีเ่ ป็นปจั จยั ผัน
แปรทีท่ าใหผ้ ลผลติ ทไ่ี ด้แตกตา่ งไปจากมาตรฐานควรทาการบนั ทึกไว้ กราฟท่ีสาคญั ๆ ได้แก่
- กราฟแสดงผลผลติ ไข่ เพอื่ ติดตามดคู วามสมา่ เสมอของผลผลิตไข่ โดยปกตเิ ม่ือฝูงไก่เร่ิม
ให้ผลผลติ ได้ 5 % ของฝูงจะกาหนดให้เป็นสัปดาห์แรกของการใหผ้ ลผลิตไข่
- กราฟแสดงปรมิ าณอาหารที่กนิ เป็นการแสดงปริมาณอาหารที่ไก่กินในแต่ละสัปดาห์ต่อ
แมไ่ ก่ 100 ตัว เพื่อนามาเปรยี บเทยี บกบั ผลผลิตไขท่ ีไ่ ด้
- กราฟแสดงน้าหนักตัวไก่ เป็นการแสดงน้าหนักตัวไก่ในแต่ละระยะเร่ิมต้ังแต่ลูกไก่อายุ
1 วนั จนถงึ ปลดจาหนา่ ย
4. การบันทึกขอ้ มูลการเลี้ยงไกก่ ระทง ขอ้ มลู ทจ่ี ะตอ้ งบันทึกประกอบดว้ ย
1) วนั ที่รับลูกไก่และพันธ์ไุ กท่ ่เี ลย้ี ง
2) จานวนไก่ทั้งหมดและน้าหนกั เฉลย่ี เม่ือเรม่ิ ตน้ เลยี้ ง
3) จานวนไก่ตายและคัดท้งิ ในแต่ละวัน
4) ปรมิ าณอาหารทกี นิ ในแต่ละวัน
5) การให้ยาและไวตามิน
6) การทาวัคซีน จะต้องบันทึกชื่อทางการค้า บริษัทที่ผลิต วันหมดอายุ วิธีการให้ และวันที่ทา
วัคซีน
7) นา้ หนักไกท่ ัง้ หมดที่ขาย
8) จานวนไก่ทั้งหมดทข่ี าย
9) ความยาวแสงท่ใี ชแ้ ละเวลาให้แสง
10) อณุ หภมู ิสูง-ตา่ สดุ ในแต่ละวัน
11) ความชื้นสัมพทั ธ์ในแตล่ ะวัน
จากข้อมลู ตา่ งๆ ดงั กล่าวนามาคานวณหาค่าต่างๆ ดังนี้
(1) อัตราการเจริญเติบโต (Average daily gain) หมายถึง เฉลี่ยน้าหนักตัวที่เพิ่มข้ึนเป็น
กโิ ลกรมั ตอ่ ระยะเวลาการเลีย้ งเปน็ วนั
(2) อัตราการเปลี่ยนอาหาร (Feed conversion ratio) หมายถึง ปริมาณอาหารท่ีใช้มี
หนว่ ยเปน็ กิโลกรมั ตอ่ การเพ่ิมของน้าหนกั ตัว 1 กิโลกรมั
(3) ต้นทุนค่าอาหารต่อการเพ่ิมน้าหนักตัว 1 กิโลกรัม (Feed cost of production)
คิดจากประสิทธิภาพการเปลย่ี นอาหารคณู ด้วยราคาอาหารท่ีใช้เลย้ี งไก่
(4) เฉล่ยี น้าหนักส่งตลาดต่อไก่ 1 ตัว คดิ จากน้าหนักไกท่ ้ังหมดท่ีขายตอ่ จานวนไกท่ ้ังหมด
ทขี่ าย
(5) อัตราการตาย (Mortality) หมายถึง จานวนไก่ตายและคัดทง้ิ ตง้ั แต่วันเร่ิมเลี้ยงจนถึง
วันทจ่ี ับจาหนา่ ยเปรียบเทียบกับจานวนไก่เมือ่ เรมิ่ ตน้ เลีย้ ง
5. สตู รการคานวณสมรรถภาพการใหผ้ ลผลิต
1. น้าหนักตัวทเ่ี พิม่ /ตวั (Weight gain) = นน. ตวั สนิ้ สดุ - นน. ตัวเร่ิมตน้
2. นา้ หนักตวั ทเ่ี พมิ่ /วนั (Average daily gain, ADG)
= นน. ตัวส้นิ สุด - นน. ตวั เร่มิ ตน้ เล้ียง
จานวนวันท่ีเลี้ยง
3. ปริมาณอาหารทก่ี นิ /ตวั (Feed intake) = นน. อาหารที่ให้ - นน. อาหารท่ีเหลอื
จานวนไกท่ ่เี ลีย้ ง
4. อตั ราการเปลีย่ นอาหาร (Feed conversion ratio, FCR) = นน. อาหารที่กนิ ท้ังหมด
นน. ตวั ท่เี พมิ่ ข้นึ
หรือ = นน. อาหารที่กินท้ังหมด
นน. ตวั สุดทา้ ย - นน.ตวั ที่เริ่มเล้ยี ง
5. อัตราการตาย (Mortality rate ; (%) = จานวนไกต่ าย + คัดท้ิง X 100
จานวนไก่เร่มิ ต้นเลย้ี ง
หรือ = จานวนไก่เร่มิ ตน้ เล้ียง – จานวนไก่เม่ือสนิ้ สุดการเล้ียง X 100
จานวนไกเ่ ริม่ ต้นเลยี้ ง
6. อัตราการเลย้ี งรอด (Liveability ; (%) = จานวนไกเ่ มื่อส้ินสุดการเล้ยี ง X 100
จานวนไก่เริ่มตน้ เล้ยี ง
7. คา่ ประสิทธภิ าพการผลติ = อัตราการเล้ียงรอด x นา้ หนักตวั เฉลีย่ (กก.) X 100
(Production Efficiency Factor, PEF) อายุ (วนั ) x FCR
8. ตน้ ทุนอาหารต่อการผลิตไก่ 1 กก. = FCR X ราคาอาหาร (บาท/กก.)
(Feed cost of production)