The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

อิศรญาณภาษิต ฉบับสมบูรณ์

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ครูต้นกล้า, 2022-02-24 21:33:20

อิศรญาณภาษิต ฉบับสมบูรณ์

อิศรญาณภาษิต ฉบับสมบูรณ์

เน้ือหา

ถอดความได้วา่ ...
แมว้ ่าเราจะรู้จริงเรากไ็ ม่ตอ้ งอวดว่าเรารู้
เดี๋ยวเขากจ็ ะสรรเสรญิ เอง ไม่ควรทาอะไรเกินหน้าเกินตาคนอ่ืน
เพราะคนเกลยี ดเรามมี ากกวา่ คนรกั เรา

สุภาษิตทีเ่ ก่ียวขอ้ ง
เกินหน้าเกนิ ตา , คนรกั เทา่ ผนื หนงั คนชังเท่าผืนเสื่อ ,

คนชงั มีนักคนรักมนี อ้ ย

เน้ือหา บทท่ี ๒๒

วาสนาไมค่ ู่เคยี งเถยี งเขายาก ถึงมีปากมเี สยี เปลา่ เหมือนเต่าหอย
ผเี รือนตัวไมด่ ีผีอนื่ พลอย พูดพล่อยพล่อยไม่ดีปากขรี้ ้วิ
คาศัพทท์ นี่ า่ สนใจ
ผเี รือน หมายถึง ผที ่ีอยู่ประจาเรือน
พูดพลอ่ ยพล่อย หมายถึง อาการที่พดู ง่าย ๆ โดยไมต่ ริตรอง
ปากขรี้ ิว้ หมายถึง คาพดู ทไ่ี มส่ ภุ าพ

เน้ือหา ถอดความไดว้ า่ ...

ถ้าไมม่ ียศถาบรรดาศักดิ์เสมอเขา
ไปโต้เถียงกับเขากไ็ ม่มปี ระโยชนเ์ พราะไม่มีใครเชอ่ื

คนในบ้านนัน่ แหละเปน็ ใจช่วยใหค้ นนอกบ้าน
เข้ามาทาความเสียหาย การพูดพล่อย ๆ โดยไมค่ ิด

เป็นสิ่งที่ไม่ควรทา
สภุ าษิตทีเ่ กย่ี วข้อง
ผบี ้านไม่ดผี ีป่าก็พลอย , ปลาหมอตายเพราะปาก

เน้ือหา บทที่ ๒๓

แต่ไม้ไผอ่ ันหน่งึ ตนั อนั หนงึ่ แขวะ สีแหยะแหยะตอกตะบันเป็นควนั ฉวิ
ช้างถีบอย่าว่าเล่นกระเด็นปลวิ แรงหรือหวิ ชง่ั ใจดจู ะส้ชู า้ ง
คาศพั ท์ท่นี ่าสนใจ
แขวะ หมายถงึ เอาของมคี มแขวะควา้ นให้กวา้ ง
แหยะแหยะ หมายถึง ชา้ ๆ
ตะบัน หมายถงึ ทิ่ม หรือแทง หรือกดลงไป
แรง หมายถงึ มีกาลงั
หวิ หมายถงึ อ่อนแรง หมดแรง

ถอดความได้ว่า...

เน้ือหา แมไ้ มไ้ ผ่อันหน่งึ ตันกับอีกอันหนึ่งผ่าครึ่งออก

เมอื่ นามาสกี ันเบา ๆ อาจเกิดควันได้
ฉะนั้นจงอย่าได้ประมาทการกระทาท่ีดูเหมอื นจะไม่
เปน็ พษิ เป็นภยั ชา้ งเปน็ สตั ว์ท่มี ีพลงั เมื่อมนั ถบี เรารับรองว่า
กระเด็นแนน่ อน ฉะนนั้ หากจะสกู้ บั ช้างกค็ วรประเมินกาลัง
ของเราเสียกอ่ นวา่ อยู่ในภาวะใดมกี าลัง หรอื อ่อนแรง
จะเตรยี มสู้ หรอื หนี ดใู หเ้ หมาะแก่สถานการณ์

สุภาษติ ทเี่ ก่ยี วขอ้ ง
ไมซ้ ีกงดั ไมซ้ ุง

เน้ือหา

บทท่ี ๒๔
ลอ้ งเู ห่าเล่นกไ็ ด้ใจกลา้ กลา้ แต่วา่ อยา่ ยักเย้ืองเขา้ เบื้องหาง
ต้องว่องไวในทานองคล่องท่าทาง ตบหวั ผางเดียวม้วนจึงควรลอ้
คาศัพท์ท่นี ่าสนใจ
ยักเยอ้ื ง หมายถึง เลี่ยงไป ไมต่ รงไปตรงมา

เน้ือหา ถอดความไดว้ ่า...

การล้อเล่นกบั งเู ห่าซ่ึงเป็นสตั ว์ทีม่ ีอนั ตรายมาก
ทาได้แต่ตอ้ งเปน็ คนใจกลา้ แต่อยา่ ไปเข้าขา้ งหาง
เพราะอาจเกดิ อันตรายได้ และต้องทาดว้ ยความว่องไว
อย่างเด็ดขาดทันที จึงจะไมต่ กอยใู่ นฐานะท่เี พล่ยี งพล้า

สภุ าษิตท่ีเกีย่ วข้อง
จบั งขู ้างหาง คอื ทาสงิ่ ทเี่ ส่ียงตอ่ อันตราย

เน้ือหา บทที่ ๒๕

ถึงเพื่อนฝูงที่ชอบพอขอกนั ได้ ถ้าแม้ให้เสยี ทกุ คนกลวั คนขอ
พ่อแม่เลยี้ งปดิ ปกเปน็ กกกอ จนแลว้ หนอเหมอื นเปรตดว้ ยเหตจุ น
คาศัพทท์ น่ี ่าสนใจ
ปดิ ปกเป็นกกกอ หมายถงึ โอบอุ้มทะนุถนอมไว้
เปรต หมายถงึ อมนุษย์จาพวกหนึ่ง

เน้ือหา ถอดความได้ว่า...

การจะขออะไรกับเพ่อื นฝงู ทชี่ อบพอกันก็สามารถขอกนั ได้
แต่จะให้ทกุ คนทีข่ อคงไมไ่ ดพ้ ่อแม่เล้ยี งดูทะนถุ นอมมาเป็นอย่างดี

ถ้าหากเป็นคนจนก็จะเหมอื นเปรตท่ีเที่ยวขอส่วนบุญ
สภุ าษิตทีเ่ กี่ยวขอ้ ง

เปรตขอส่วนบุญ , ตนเป็นท่พี ง่ึ ของตน , พึ่งลาแขง้ ตัวเอง

เน้ือหา บทที่ ๒๖

ถึงบญุ มีไมป่ ระกอบชอบไม่ได้ ตอ้ งอาศยั คดิ ดจี งึ มผี ล
บุญหาไมแ่ ลว้ อยา่ ไดท้ ะนงตน ปุถุชนรกั กับชังไมย่ ั่งยืน
คาศัพทท์ ่ีน่าสนใจ
ปุถุชน หมายถึง สามัญชน คนท่ยี ังมีกเิ ลส

เน้ือหา ถอดความได้ว่า...

ถงึ มีบญุ วาสนาไม่ทาการงานใด ๆ กไ็ ม่ดี
ตอ้ งเปน็ ผูท้ คี่ ิดดีทาดบี ญุ จึงสง่ ผล

เมอ่ื หมดบญุ ลงแลว้ อยา่ ทะนงตนว่าเป็นผูม้ บี ญุ บารมี
ขอใหค้ นเราคดิ ว่าความรกั ความชงั น้ันเปน็ สง่ิ ท่ีไมจ่ ีรังยั่งยนื

เทา่ การทาความดี
สุภาษิตท่ีเกย่ี วขอ้ ง

ทาดีไดด้ ี

คุณค่า ๑.๑ สมั ผสั พยัญชนะ ดงั บทต่อไปน้ี
ทางวรรณศิลป์

การเลน่ เสยี ง สาหรบั คนเจอื จิตจริตเขลา ด้วยมัวเมาโมห์มากในซากผี
ต้องหามา้ มโนมยั ใหญย่ าวรี สาหรบั ขเี่ ปน็ มา้ อาชาไนย
จากบทประพันธข์ า้ งตน้ จะพบการเล่นเสียงสมั ผสั พยญั ชนะ ไดแ้ ก่
เจอื -จติ -จริต , มวั -โมห์-เมา-มาก , มา้ -มโนมัย

คุณค่า ๑.๒ สมั ผัสสระ ดงั บทตอ่ ไปนี้
ทางวรรณศิลป์

การเลน่ เสยี ง วาสนาไมค่ ู่เคียงเถียงเขายาก ถงึ มปี ากมีเสียเปลา่ เหมอื นเต่าหอย
ผเี รือนตวั ไม่ดผี อี น่ื พลอย พดู พล่อย ๆ ไมด่ ปี ากข้รี ้วิ
จากบทประพนั ธ์ข้างต้น จะพบการเลน่ เสียงสมั ผสั สระ ไดแ้ ก่
เคยี ง-เถยี ง , เปล่า-เต่า , ดี-ผี

คุณคา่ รกั ยาวนนั้ อย่าให้เย่นิ เกนิ กฎหมาย
ทางวรรณศิลป์ รักสนั้ นนั้ ใหร้ อู้ ยู่เพยี งสัน้ แหงนดฟู ้าอย่าใหอ้ ายแกเ่ ทวดา

มิใชต่ ายแตเ่ ขาเราก็ตาย

การซา้ คา จากบทประพนั ธข์ า้ งต้น จะพบการซา้ คา ไดแ้ ก่ รัก, สัน้ , ตาย

คุณคา่ ๑. อปุ มาโวหาร การเปรียบสิง่ หน่งึ ให้เหมอื นกับสิง่ หนง่ึ เช่น
ทางวรรณศิลป์ ชายข้าวเปลอื กหญิงข้าวสารโบราณว่า น้าพึง่ เรอื เสอื พงึ่ ป่าอัชฌาสยั
เรากจ็ ิตดเู ลา่ เขาก็ใจ รกั กนั ไว้ดีกว่าชงั ระวงั การ

โวหาร จากบทประพนั ธข์ า้ งตน้ จะพบคาการใชอ้ ุปมาโวหาร คอื เปรียบให้

ผชู้ ายเหมอื นข้าวเปลือกเม่ือตกไปอยู่ทีใ่ ดกส็ ามารถเจริญงอกงามขน้ึ
ได้ สว่ นผูห้ ญงิ เปรียบเหมอื นขา้ วสารทต่ี กไปอยทู่ ่ใี ดก็ไม่สามารถ
เจริญงอกงามขนึ้ ได้

คุณคา่ ๒. อปุ ลกั ษณโ์ วหาร มีการเปรียบสง่ิ หน่ึงให้เปน็ อีกสิ่งหน่ึง เชน่
ทางวรรณศิลป์
ของส่ิงใดเจ้าว่างามต้องตามเจา้ ใครเลยเลา่ จะไมง่ ามตามเสด็จ
จาทุกสง่ิ จริงหรอื เท็จ พริกไทยเม็ดนดิ เดียวเค้ยี วยังร้อน

โวหาร จากบทประพันธ์ขา้ งต้น เปน็ การใชอ้ ปุ ลกั ษณ์โวหารเปรยี บเทยี บ

พรกิ ไทยกบั การกระทาเร่อื งราวต่างๆถึงแม้จะเป็นเรือ่ งเล็กๆ
กไ็ ม่ควรทา้ ทายอานาจของผ้ทู ่ีมอี านาจสูงกวา่ เพราะอาจจะเดือดรอ้ น

คุณคา่ ๓. สัญลักษณ์ การเปรียบเทียบท่ีเรยี กส่ิงใดสงิ่ หน่ึงโดยใชค้ ่าอื่น
ทางวรรณศิลป์ แทนไม่เรยี กตรง ๆ เช่น

คอ่ ยดาเนนิ ตามไตผ่ ไู้ ปหน้า ใจความว่าผู้มคี ณุ อย่าหุนหวน

โวหาร เอาหลังตากแดดเปน็ นิจคดิ คานวณ รถู้ ่ถี ว้ นจงึ สบายเมอื่ ปลายมอื

จากบทประพนั ธ์ขา้ งตน้ จะพบคาวา่ หลงั ตากแดด เปน็ สญั ลักษณ์
ของความยากลาบาก ตรากตราทางานหนักตากแดดเหมอื นชาวนา

คณุ คา่ ๑. สะท้อนค่านิยมความคดิ เรือ่ งความแตกต่างระหว่างผูช้ าย
ทางสังคม กับผู้หญงิ ดังทีว่ า่
และวฒั นธรรม

ชายข้าวเปลอื กหญงิ ขา้ วสารโบราณวา่ น้าพ่งึ เรือเสอื พึ่งปา่ อชั ฌาสัย
เราก็จิตดเู ล่าเขาก็ใจ รกั กนั ไว้ดกี วา่ ชงั ระวังการ

คณุ คา่ ๒. สะท้อนใหเ้ ห็นถงึ การให้สาคัญต่อการเคารพเชอ่ื ฟงั คาสัง่ สอน
ทางสังคม ของผ้ใู หญ่ ดงั ทว่ี ่า
และวฒั นธรรม

คอ่ ยดาเนนิ ตามไต่ผไู้ ปหนา้ ใจความวา่ ผู้มีคุณอยา่ หนุ หวน
เอาหลงั ตากแดดเปน็ นิจคดิ คานวณ รถู้ ถี่ ้วนจึงสบายเม่ือปลายมอื

คณุ คา่ ๓. สะท้อนใหเ้ หน็ ว่าสงั คมไทยในอดีตเปน็ สงั คมที่เคารพและยกยอ่ ง
ทางสังคม สถาบันพระมหากษตั รยิ ์พระมหากษตั รยิ เ์ ปน็ ผ้มู สี ทิ ธ์ขิ าดอานาจสูงสุด
และวฒั นธรรม ดงั ที่ว่า

ของส่งิ ใดเจา้ วา่ งามต้องตามเจ้า ใครเลยเล่าจะไม่งามตามเสด็จ
จาไวท้ กุ ส่งิ จริงหรือเทจ็ พริกไทยเมด็ นิดเดียวเคีย้ วยงั รอ้ น

คณุ คา่ ๔. สะทอ้ นให้เหน็ ว่าคนในสงั คมสมยั นน้ั มคี วามเชอื่ เรื่องบุญกรรม
ทางสังคม ความดคี วามชว่ั ดงั ทวี่ ่า
และวฒั นธรรม ถงึ บญุ มีไม่ประกอบชอบไมไ่ ด้ ต้องอาศัยคิดดจี ึงมผี ล
บญุ หาไม่แลว้ อย่าได้ทะนงตน ปุถุชนรักกบั ชังไม่ยั่งยนื

อย่าดถู กู บุญกรรมวา่ ทา้ นอ้ ย น้าตาลยอ้ ยมากเมอ่ื ไรได้หนักหนา
อยา่ นอนเปลา่ เอากระจกยกออกม ส่องดหู น้าเสยี ทหี นงึ่ แล้วจงึ นอน

ขอ้ คิด อิศรญาณภาษิตเปน็ ค่าสอนในการใช้ชีวิตและการอยู่รว่ มกนั ในสงั คม
อย่างเหมาะสม ดังนี้
๑. การพึง่ พาอาศยั และชว่ ยเหลอื ซง่ึ กันและกนั ดังทว่ี ่า

ชายข้าวเปลือกหญิงขา้ วสารโบราณว่า น้าพึ่งเรือเสือพ่งึ ปา่ อชั ฌาสัย
เรากจ็ ติ ดูเลา่ เขากใ็ จ รักกันไว้ดกี วา่ ชังระวงั การ

ขอ้ คิด

๒. รู้จกั ระมดั ระวงั คาพูด ใหค้ ิดก่อนพูด ดงั ทีว่ ่า
เหน็ ตอหลกั ปกั ขวางหนทางอยู่ พิเคราะหด์ คู วรท้ึงแลว้ จึงถอน
เหน็ เตม็ ตาแลว้ อย่าอยากทาปากบอน ตรองเสียกอ่ นแล้วจงึ ทากรรมท้ังมวล

ขอ้ คิด

๓. ต้องมีใจหนักแน่น ไม่หลงเช่ือค่าพดู ยุยงโดยงา่ ย ดงั ท่วี า่

อันเสาหินแปดศอกตอกเป็นหลัก ไปมาผลักบอ่ ยเขา้ เสายังไหว
จงฟังหไู วห้ คู อยดไู ป เชอ่ื นา้ ใจดีกวา่ อยา่ เชอ่ื ยุ

ขอ้ คิด ต้องอาศัยคิดดีจงึ มผี ล
ปถุ ชุ นรักกับชังไม่
๔. การหมน่ั ทาความดี ดงั ที่วา่
ถงึ บุญมีไม่ประกอบชอบไม่ได้
บญุ หาไม่แลว้ อย่าได้ทะนงตน

กลอนเพลงยาว กลอนทีบ่ ังคบั บทขนึ้ ต้นเพยี ง ๓ เกรด็ ความรู้
วรรค

จัดเป็นกลอนข้นึ ตน้ ไม่เตม็ บท

ลงด้วยคาว่าเอย กลอนเพลงยาวปรากฏขึ้นสมยั
กรงุ ศรีอยุธยาตอนปลาย

สานวนไทย น้าพ่งึ เรือเสอื พง่ึ ปา่
ในอิศรญาณภาษติ หมายถงึ

การพง่ึ พาอาศยั กัน

สานวนไทย เดนิ ตามผู้ใหญห่ มาไม่กดั
ในอศิ รญาณภาษิต หมายถึง

ประพฤติตามอยา่ งผใู้ หญ่
ย่อมปลอดภัย

สานวนไทย คมในฝกั
ในอศิ รญาณภาษิต หมายถงึ
มคี วามรู้ความสามารถแต่
เมือ่ ยังไม่ถึงเวลาก็ไม่
แสดงออกมาให้ปรากฏ

สรุปคาสอน เปน็ ข้อแนะนา และคาสอนในปฏิบตั ติ นตอ่ ผู้อ่นื
อิศรญาณภาษติ ในสงั คมเพ่อื ให้อยูร่ ่วมกันไดอ้ ย่างมคี วามสขุ

เช่น
๑. ใหพ้ ง่ึ พาอาศยั กนั “น้าพ่งึ เรอื เสือพึ่งปา่ อชั ฌาสยั ”
๒. ใหส้ ารวจตนเอง
“อยา่ นอนเปล่าเอากระจกยกออกมา ส่องดหู น้าเสยี ทหี นึ่งแลว้ จึงนอน”

สรปุ คาสอน
อิศรญาณภาษิต

การพดู
ใหค้ ิดใครค่ รวญ ไตรต่ รองเสียก่อนจะพดู หรือทาสิ่งใด
“เหน็ เตม็ ตาแล้วอยา่ อยากทาปากบอน ตรองเสียก่อนจึงค่อยทากรรมท้งั มวล”

สรปุ คาสอน
อศิ รญาณภาษิต

การฟัง
ใหม้ ีใจคอหนักแนน่ ไมห่ ลงเชอ่ื คาพูดยยุ งโดยง่าย ใหร้ ูจ้ กั ไตร่ตรองให้ดี

“จงฟงั หไู ว้หูคอยดูไป เชื่อน้าใจดกี ว่าอยา่ เชอื่ ย”ุ

สรปุ คาสอน
อิศรญาณภาษิต

การเรื่องการกระทา
ใหท้ าความดลี ะเว้นความชั่ว อย่าทาผิดกฎหมาย ให้รักกันนานๆ

“รกั ยาวนัน้ อยา่ ให้เยนิ่ เกินกฎหมาย”

จบแล้วครบั


Click to View FlipBook Version