การศกึ ษาค้นควา้ ดว้ ยตนเอง(Independent Study Is)
เร่ือง อาหารไทยทีถ่ กู ลมื
นายปฏิภาณ จรญู โสตร เลขที่ 1
นายศภุ วิชญ์ ดปี ระสทิ ธิ์ เลขที่ 3
นายณัฐพล สุพรรณศรี เลขท่ี 4
นายศุภกติ ต์ กองแกว้ เลขที่ 5
นกั เรียนชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี 5/1
เสนอ
คณุ ครยู วุ ดี ญาณสทิ ธ์ิ
รายงานนี้เป็นส่วนหนง่ึ ของวชิ าศกึ ษาคน้ ควา้ ด้วยตนเอง
ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2563
โรงเรียนเทพศิรินทร์ พุแค
สำนักงานเขตพืน้ ที่ การศกึ ษามัธยมศึกษา เขต4
สารบัญ
เรอ่ื ง หน้า
ประวตั ผิ ู้จัดทำ ก
บทคดั ยอ่ ข
บทที่ 1 1
บทที่ 2 3
บทที่ 3 11
บทท่ี 4 15
บทที่ 5 17
บรรณานุกรม 19
ภาคผนวก 20
ก
ประวัติผ้จู ดั ทำ
ชื่อเรอ่ื ง อาหารไทยทีถ่ กู ลืม
1.นาย ปฏิภาณ จรูญโสตร
ประวัตสิ ว่ นตวั
เกิดวนั ท่ี 12 กันยายน พ.ศ.2546 อายุ 17 ปี
ท่อี ยู่ บ้านเลขที่ 5 หมู่ 1 ต.ช่องสารกิ า อ.พัฒนานคิ ม จ.ลพบรุ ี
ประวัตกิ ารศกึ ษา
ปพี .ศ.2558 ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 6 โรงเรียนวัดดำรงบลุ
ปี พ.ศ.2563 ช้ันมธั ยมศึกษาปที ี่ 5/1 โรงเรียน เทพศิรนิ ทร์ พุแค
2.นาย ศุภวชิ ญ์ ดปี ระสทิ ธิ์
ประวตั สิ ่วนตัว
เกิดวันท่ี 8 พฤษภาคม พ.ศ.2547 อายุ 16 ปี
ทีอ่ ยู่ บา้ นเลขท่ี 52/328 หมู่ 10 ต.ห้วยบง อ.เฉลมิ พระเกยี รติ จ.สระบุรี
ประวัตกิ ารศึกษา
ปีพ.ศ.2558 ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนราษฏร์ศึกษา
ปี พ.ศ.2563 ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 5/1 โรงเรียนเทพศริ นิ ทร์ พุแค
3.นาย ณัฐพล สุพรรณศรี
ประวตั สิ ว่ นตวั
เกิดวนั ที่ 5 มกราคม พ.ศ.2547 อายุ 16 ปี
ท่ีอยู่ บ้านเลขที่ 172/19 หมู่ 3 ต.หน้าพระลาน อ.เฉลิมพระเกยี รติ จ.สระบุรี
ประวตั กิ ารศึกษา
ปีพ.ศ.2558 ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 6 โรงเรียนหน้าพระลานพบิ ลู สงเคราะห์
ปี พ.ศ.2563 ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 5/1 โรงเรียนเทพศริ ินทร์ พุแค
4.นาย ศุภกิตติ์ กองแกว้
ประวตั ิสว่ นตวั
เกิดวันที่ 1 พฤษภาคม 2547 อายุ 16 ปี
ทีอ่ ยู่ บ้านเลขท่ี 71/6 หมู่6 ต.พุแค อ.เฉลมิ พระเกียรติ จ.สระบรุ ี
ประวัตกิ ารศกึ ษา
ปพี .ศ.2558 ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 6 โรงเรียนบา้ นวังจนั่
ปี พ.ศ.2563 ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ 5/1 โรงเรียนเทพศริ ินทร์ พแุ ค
ข
ช่อื เร่ือง อาหารไทยทีถ่ ูกลืม
ผศู้ ึกษา นายปฏิภาณ จรูญโสตร
นายศุภวชิ ญ์ ดปี ระสิทธิ์
นายณัฐพล สุพรรณศรี
นายศุภกิตต์ กองแกว้
ครทู ่ปี รกึ ษา คุณครู ยุวดี ญานสทิ ธิ์
ระดับการศกึ ษา นักเรียนระดับชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 5/1โรงเรยี น เทพศริ นิ ทร์ พแุ ค สระบุรี
รายวิชา การศกึ ษาค้นควา้ ด้วยตนเอง
ปีการศกึ ษา 2563
บทคัดย่อ
เนอื่ งจากในปัจจุบันประเทศไทยไดม้ อี าหารจากชาติอน่ื เข้ามามากและได้รบั ความนิยม
เป็นอยา่ งมาก ทำให้อาหารไทยได้รับความนิยมลดลง และอาหารไทยบางอย่างก็อาจจะถูกลืมเลือนไป
คณะผู้จดั ทำจงึ จดทำโครงงานนีข้ ึน้ เพื่อศกึ ษาและเผยแพร่อาหารไทยให้คนในสงั คมได้รู้จกั และคงคง
เอกลักษณ์ เอกลักษณป์ ระจำชาติของไทยเอาไว้ใหค้ นรุ่นหลัง ไดร้ ู้จกั และสบื ทอดความรู้ตอ่ ไป
กลมุ่ เปา้ หมายเป็นนกั เรียนช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี 5/1 จำนวน 20 คน ได้มาโดยวิธีการ
เลอื ก
บทที่ 1
บทนำ
ความเป็นมาและความสำคญั ของปัญหา
อาหารไทย เป็นอาหารประจำของชนชาตไิ ทย ที่มกี ารสัง่ สมและถา่ ยทอดมา อย่างตอ่ เน่ืองตัง้ แต่
อดตี จนเป็นเอกลักษณ์ประจำชาติ
แตเ่ นอ่ื งจากปจั จบุ ันประเทศไทย มีอาหารจากชาตอิ น่ื เขา้ มาและได้รบั ความนยิ มอยา่ งมากมาย
ทำให้อาหารไทยหลายๆอย่างอาจถูกลมื เลือนไป
ดงั นั้นรายงานการศกึ ษาค้นควา้ ดว้ ยตวั เอง เรื่อง อาหารทีถ่ กู ลมื ฉบับนี้ จงึ มุ่งศกึ ษาและเผยแพร่
อาหารไทยให้ได้รู้จักกนั ได้มากข้ึน
วตั ถุประสงค์
1.เพอ่ื ศึกษาคุณคา่ ความสำคญั และความนิยมของอาหารไทย
2.เพอ่ื เปรียบเทยี บ ความนิยมของอาหารไทยและอาหารต่างชาติ
3.เพือ่ เผยแพร่และให้ความร้เู ก่ียวกบั อาหารไทยให้รจู้ กั กันมากขนึ้
ขอบเขตการศกึ ษา
1.กลุ่มเปา้ หมายนกั เรียนช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5/1
2.เนือ้ หา ศึกษาและให้ความรู้เกี่ยวกบั อาหารไทย
3.ระยะเวลา ภาคเรียนการศึกษาที่ 1/2563
2
สมมตฐิ านการศกึ ษา
ทำใหน้ ักเรยี น ชั้นม.5/1 ร้จู ักและอนรุ กั ษ์วฒั นธรรมไทย
นิยามศัพทเ์ ฉพาะ
1.อาหารชาววงั คอื อาหารทป่ี ระดิษฐค์ ิดค้นโดยคนในรั้ววัง มีเอกลกั ษณส์ ำคัญ คือความอุดม
สมบรู ณแ์ ละความสดใหม่ของวัตถดุ ิบในการประกอบอาหาร มวี ิธีการทำที่ซับซ้อน ประณตี ใชเ้ วลา
และกำลงั คนจำนวนมากมีรสชาติท่ีนุ่มนวล กลมกลอ่ ม
2.ซา่ หร่ิม หรือ ซาหริม่ เป็นขนมไทยประเภทหนง่ึ มลี ักษณะเป็นเส้นท่มี ักมหี ลายสีและ
รบั ประทานกับน้ำกะทโิ ดยมีรสชาติหอมมันและมกี ล่ินใบเตย
3.ไตรภมู ิพระรว่ ง เป็นวรรณกรรมศาสนาพุทธทแี่ ต่งในสมยั สุโขทัยประมาณ พ.ศ. 1888 โดย
พระราชดำรใิ นพระมหาธรรมราชาท่ี 1 รวบรวมจากคัมภรี ์ในศาสนาพุทธ มีเน้ือหาเกีย่ วกบั โลกสัณฐาน
ท่ีแบ่งเป็น 3 ส่วน หรอื ไตรภูมิ ไดแ้ ก่ กามภมู ิ รปู ภูมิ และอรูปภูมิ
ประโยชน์ทค่ี าดวา่ จะไดร้ ับ
1.เพอ่ื อนรุ ักษอ์ าหารไทยใหอ้ ยนู่ านมากขนึ้
2.เพื่อทราบถงึ ประเภทตา่ งๆของอาหารไทย
3.เพ่อื ทราบข้อมูลและเผยแพรอ่ าหารไทยทถ่ี กู ตอ้ ง
บทที่ 2
เอกสารท่ีเก่ยี วขอ้ ง
เอกสารท่ีใชใ้ นการศึกษา เร่ือง อาหารไทยทถ่ี กู ลืม จงั หวัดสระบรุ ีรายงานวชิ าการการสื่อสาร
และนำเสนอ รหัสวิชา ร30201 ผศู้ ึกษาไดศ้ กึ ษาตำราเอกสาร และงานวิจัยที่เก่ียวข้อง เพื่อเปน็ กรอบ
แนวคิดในการดำเนินการศึกษาค้นคว้าและอา้ งอิง ตามหวั ข้อต่อไปนี้
1.ความหมายของอาหารไทย
2.ความสำคัญของอาหารไทย
3.ความเป็นมาของอาหารไทย
4.ประเภทอาหารไทย
5.งานวิจัยทีเ่ กย่ี วข้อง
ความหมายของอาหารไทย
อาหารไทยเปน็ อาหารประจำชาติของชนชาติไทยท่มี กี ารสง่ั สมและถ่ายทอดมาอยา่ งต่อเนื่อง
ตั้งแตอ่ ดตี จนเปน็ เอกลกั ษณ์ประจำชาติทส่ี ำคัญของไทย
อาหารไทยนัน้ แบง่ ออกได้หลายประเภท เช่นการแบง่ ประเภทตามวิธีการทำ การแบ่งประเภท
ตามภูมภิ าค และการแบ่งตามการใช้ชีวติ เป็นต้น
4
ความสำคัญของหารไทย
อาหารไทยเป็นอาหารประจำชาติไทยทมี่ ีการสัง่ สมและถ่ายทอดมาอย่างตอ่ เนื่อง มาแตอ่ ดีต
จนเปน็ เอกลักษณ์ อาหารไทยไมไ่ ดถ้ กู ทำขนึ้ มาเพื่อทำให้อิ่มท้องเทา่ นั้น แต่ทำข้นึ เพ่ือให้เปน็ ทง้ั อาหาร
ตา อาหารใจให้เกดิ ความสุขความพอใจ ในการเหน็ และการลมิ้ ลองรสชาตขิ องอาหาร และยงั ชว่ ยทำ
ให้สุขภาพรา่ งกายแขง็ แรงขนึ้ และอาหารไทยยงั ทำให้ครอบครัวอบอนุ่ โดยสง่ ผลตอ่ การครองเรือนที่
ทำให้ คูช่ วี ติ เหน็ ถึงความต้ังใจของผู้ที่ทำอาหารให้เกิดความร้สู ึกดๆี ต่อกนั ท่สี ง่ ผลตอ่ สขุ ภาพจติ ทด่ี ขี อง
ทัง้ ผ้ทู ำและผ้รู ับประทาน นอกจากนี้อาหารไทยยังแสดงเอกลักษณไ์ ทยและความสวยงามในรูปแบบ
การจัดทำการตกแตง่ การปรุงแตง่ และการรบั ประทานที่เปน็ เอกลกั ษณข์ องอาหารไทยในการปรงุ แต่ง
กลิ่น รสใหก้ ลมกล่อมและรสจัดอย่างโดดเดน่ รวมถงึ สว่ นประกอบตา่ งๆในอาหารไทย ยงั ช่วย
เสรมิ สร้างสขุ ภาพร่างกายให้แขง็ แรงเพราะวา่ มที ้งั ผกั ผลไม้ เครอื่ งปรงุ และเน้อื สัตว์ตา่ งๆทีม่ ี
ประโยชน์และมคี ณุ ค่าทางโภชนาการต่อร่างกาย
ความเปน็ มาของอาหารไทย
อาหารไทยเป็นอาหารประจำชาตขิ องชนชาตไิ ทยที่มกี ารสั่งสมและถ่ายทอดมาอย่างตอ่ เน่ือง
ต้งั แต่อดตี จนเปน็ เอกลกั ษณป์ ระจำชาติ จุดกำเนิดอาหารไทยอาหารมีจดุ กำเนดิ พร้อมกบั การต้ังชน
ชาตไิ ทยและมกี ารพฒั นาอยา่ งตอ่ เนื่อง ตงั้ แตอ่ ดีตจนถงึ ปจั จุบนั ความเปน็ มาของอาหารไทยในสมัย
ต่างๆมีดงั นี้
5
1.สมยั สโุ ขทัย
อาหารไทยในสมยั สุโขทยั อาศัยหลกั ฐานจากศิลาจารกึ และวรรณคดที ส่ี ำคญั คือ ไตรภูมพิ ระ
ร่วงโดยกล่าวว่าอาหารไทยในสมยั นม้ี ีข้าวเปน็ อาหารหลักโดยกนิ รว่ มกับกบั ข้าวทีส่ ว่ นใหญ่ได้มาจาก
ปลามเี น้ือสตั ว์อน่ื ๆบ้าง การปรงุ อาหารได้ปรากฏคำว่า แกง ในไตรภมู พิ ระร่วงทีเ่ ปน็ ทีม่ าของคำวา่
ข้าวหม้อแกงหม้อ ผักท่กี ลา่ วถงึ ในศลิ าจารกึ คอื แฟง แตง และน้ำเต้า ส่วนอาหารหวานก็ใช้วตั ถุดบิ
พ้ืนบ้าน เช่นขา้ วตอก และน้ำผ้ึง บางสว่ นนิยมกนิ ผลไม้แทนอาหารหวาน
2.สมัยอยธุ ยา
ในยุคสมยั นี้ถือวา่ เป็นยคุ ทองของไทย ได้มีการตดิ ต่อกับชาวต่างชาติมากข้ึนทั้งตะวันตกและ
ตะวนั ออกจากบันทึกเอกสารของชาวตา่ งชาติพบว่าคนไทยทานอาหารแบบเรียบง่ายทีม่ ปี ลาเปน็ หลกั
มีการต้อม การแกง และการใชน้ ้ำมันในการประกอบอาหารซง่ึ เป็นนำ้ มันมะพร้าวและกะทิมากกวา่
ไขมนั หรอื น้ำมนั จากสัตว์มีการถนอมอาหารเช่นการตากแห้งมอี าหารประเภทเครือ่ งจ้ิมคอื น้ำพริก
กะปนิ ยิ มบริโภคสตั วน์ ้ำมากกวา่ สตั วบ์ ก โดยเฉพาะสัตว์ใหญ่ไม่นิยมมาทำอาหาร และมีการใช้
เคร่ืองเทศในการดับกล่นิ คาวของปลา นอกจากนี้หลักฐานจากบนั ทกึ ของบาทหลวงชาวตา่ งชาติทำให้
เห็นวา่ อาหารของชาตติ ่างๆเรม่ิ เข้ามาในประเทศไทยมากขึ้น เชน่ ญี่ป่นุ โปรตุเกส สเปน เปอร์เซยี และ
ฝรง่ั เศษ สำหรบั อิทธิพลของอาหารจนี นั้น คาดว่าเร่ิมมมี ากขึน้ ในช่วงกรุงศรีอยธุ ยาตอนปลายทไ่ี ทยตดั
สัมพนั ธ์กบั ชาตติ ะวันตก ดงั นั้นจึงสรุปไดว้ ่าอาหารไทยในสมัยอยุธยาได้รบั เอาวัฒนธรรมจากต่างชาติ
โดยผ่านทางการทสี มั พนั ธ์ไมตรที งั้ ทางการทูตและทางการค้ากับประเทศตา่ ง
6
3.สมยั ธนบรุ ี
จากหลักฐานทป่ี รากฏในหนงั สือแม่ครวั หัวปา่ ก์ ซึ่งเป็นตำราการทำกบั ข้าวเล่มท่ี 2 ของไทย
พบความตอ่ เน่ืองของวฒั นธรรมอาหารไทยจากกรงุ สุโขทัยมาถงึ สมัยอยุธยา และสมัยกรงุ ธนบุรี และ
ยังเชอ่ื ว่าเสน้ ทางอาหารไทยคงจะเช่ือมจากกรงุ ธนบุรีไปยังสมยั รัตนโกสินทร์ โดยผา่ นทางหน้าที่
ราชการและสงั คมเครือญาติ และอาหารไทยสมัยกรงุ ธนบรุ นี า่ จะคล้ายคลงึ กบั สมยั อยุธยา แตท่ พ่ี ิเศษ
เพิม่ เตมิ คอื มอี าหารประจำชาตจิ นี สมัยรัตนโกสนิ ทร์ การศึกษาความเปน็ มาของอาหารไทยในยุค
รัตนโกสนิ ทร์นีไ้ ด้จำแนกตามยคุ สมัยที่ นักประวตั ิศาสตรไ์ ด้กำหนดไว้ คอื ยคุ ท่ี 1 ตงั้ แต่สมัยรชั กาล
ที่ 1 จนถึงรัชกาลท่ี 3 และยคุ ที่ 2 ตั้งแตส่ มยั รัชกาลที่ 4 จนถึงรัชกาลปจั จุบนั
4.สมยั รัตนโกสินทร์ ยคุ ท่ี 1
ยคุ ที่ 1 อาหารไทยในยุคนี้เปน็ ลักษณะเดยี วกันกับสมัยธนบุรีแตม่ อี าหารไทยเพิ่มขึน้
อกี 1 ประเภท คอื นอกจากมอี าหารคาวอาหารหวานแลว้ ยังมอี าหารวา่ งเพิ่มขึ้น ในช่วงน้อี าหารไทย
ได้รบั อทิ ธพิ ลจากวัฒนธรรมอาหารของประเทศจนี มากขึ้น และมกี ารปรับเปลยี่ นเปน็ อาหารไทย ได้
แสดงใหเ้ หน็ วา่ รายการอาหารนอกจากจะมอี าหารไทย เชน่ ผัก น้ำพรกิ ปลาแห้ง หนอ่ ไมผ้ ดั แลว้ ยงั มี
อาหารท่ีปรุงดว้ ยเครื่องเทศแบบอสิ ลาม และมอี าหารจีนโดยสังเกตจากการใช้หมูเปน็ ส่วนประกอบ
เนื่องจากหมูเปน็ อาหารท่ีคนไทยไมน่ ยิ ม แต่คนจนี นยิ ม
สว่ นทีเป็นอาหารคาวไดแ้ ก่ แกงชนดิ ตา่ งๆ เครื่องจ้ิม ยำตา่ งๆ สำหรับอาหารวา่ งสว่ นใหญ่เป็น
อาหารว่างคาว ไดแ้ ก่ หมแู นม ลา่ เตียง หร่มุ รังนก ส่วนอาหารหวานส่วนใหญ่เป็นอาหารทีท่ ำดว้ ยแป้ง
และไขเ่ ป็นส่วนใหญ่ มขี นมที่มลี กั ษณะอบกรอบ เช่น ขนมผิง ขนมลำเจียก และมีขนมที่มีน้ำหวาน
และกะทเิ จืออยดู่ ว้ ย ไดแ้ ก่ ซ่าหรม่ิ บัวลอย เปน็ ตน้
7
5.สมยั รตั นโกสินทร์ ยุคที่ 2
ตำรบั อาหารการกนิ ของไทยเริ่มมกี ารบันทึกมากขึ้น และบันทกึ ทเี่ ปน็ ทางการอื่น ๆ ซงึ่ ข้อมลู
เหลา่ นีไ้ ดส้ ะทอ้ นให้เหน็ ลักษณะของอาหารไทย ทม่ี คี วามหลากหลายทั้งท่เี ป็น กบั ขา้ วอาหารจานเดยี ว
อาหารว่าง อาหารหวาน และอาหารนานาชาติท้งั ที่เปน็ วิธปี รงุ ของราชสำนัก และวิธปี รุงแบบชาวบ้าน
ทส่ี บื ทอดมาจนถงึ ปัจจบุ ัน แต่เปน็ ท่ีนา่ สงั เกตวา่ อาหารไทยบางชนิดในปจั จุบนั ได้มีวิธกี ารปรุงหรอื สว่ น
ประกอบของอาหารผิดเพี้ยนไปจากของดัง้ เดมิ จึงทำให้รสชาติของอาหารไมใ่ ช่ตำรบั ด้ังเดิม และขาด
ความประณีตท่นี ่าจะถือว่าเป็นเอกลกั ษณท์ ี่สำคัญของอาหารไทย
ประเภทอาหารไทย
อาหารไทยนน้ั มีหลากหลายอย่างที่ทง้ั แตกตา่ งและคลา้ ยกัน เพราะว่ามีวิธีการทำท่แี ตกต่างกนั จึง
ทำใหเ้ กิดอาหารหลากหลายประเภทขนึ้ มา
แบบท่ี 1 แบง่ ประเภทตามวธิ ีการทำ มดี ังน้ี
1. อาหารประเภทผดั เป็นวิธปี รงุ ที่ไดร้ บั อิทธพิ ลมาจากจีนแมไ้ ม่ได้วธิ ีไทยดั้งเดมิ แตไ่ ดเ้ ข้ามา
แพร่หลายในเมืองไทยนานกวา่ รอ้ ยปี และมกี ารดัดแปลงผสมผสานจนเข้ากับวัฒนธรรมไทยเป็นอย่าง
ดี อาทิ เชน่ ผดั เผ็ด ผดั พริกขิง เปน็ ตน้
8
2. อาหารประเภทแกง และต้ม อาจจำแนกยอ่ ยได้ตามจำนวนของเคร่ืองเทศที่ใช้ เช่น แกงเลยี ง จดั
ว่าเปน็ แกงที่มีเคร่อื งแกงน้อยที่สุด แต่เคร่อื งแกงนน้ั เปน็ ส่วนประกอบหลักพนื้ ฐานของเคร่อื งแกงกลุม่
แกงสม้ แกงปา่ แกงเผด็ จนถงึ แกงท่ถี ือวา่ มสี ่วนประกอบในเครอ่ื งแกงมากที่สุด คอื แกงกะหรี่ แกง
มสั มัน่ เปน็ ตน้ หรอื อาจจำแนกได้จากการใชห้ รอื ไมใ่ ช้กะทใิ นการปรุงอาหาร หรือการจำแนกตาม
รสชาตขิ องอาหาร เชน่ แกงเผด็ แกงส้ม ตม้ จดื หรือแม้แตก่ ารแบ่งตามสขี องอาหารเช่นแกงแดง แกง
เขียวหวาน เป็นตน้
3. อาหารประเภทยำ และพล่า สามารถจำแนกย่อยได้ต่าง ๆ กัน เชน่ การจำแนกตามวธิ ีการ
เตรยี มอาหาร เช่น ถา้ ทำเน้ือสัตวใ์ หส้ ุกจะจัดเปน็ พวกยำ ถา้ ดบิ ๆ สุก ๆ จะเรียกว่า พล่า โดยมกี ารใช้
เครื่องเทศทแี่ ตกตา่ งกันบา้ ง เพอื่ ดบั กล่นิ คาวของเนือ้ สตั ว์ การจำแนกตามลักษณะของการปรงุ เชน่
ยำใส่กะทิ หรือมะพร้าวค่ัว ไดแ้ ก่ ยำถว่ั พู ยำทวาย ยำหวั ปลี ยำส้มโอ และยำไมใ่ สก่ ะทิ ไดแ้ ก่ ยำใหญ่
ยำวนุ้ เสน้ ยำปลาดุกฟู นอกจากน้ยี งั มกี ารจำแนกตาม รสชาติของอาหารยำ เชน่ ยำทีม่ รี สหวานนำ
ยำทีม่ รี สเปร้ียวเคม็ นำ เป็นต้น
4. อาหารประเภทเคร่อื งจิม้ จำแนกออกเปน็ น้ำพริก และหลน นอกจากน้ี ยังมกี ารพิจารณาถงึ
การใชพ้ ชื ผกั มาเป็นของแนม โดยน้ำพริกแตล่ ะชนดิ จะมกี ารเตรียมผักทต่ี ่างกัน มีทั้งผกั ดิบ และผกั
ตม้ ผักตม้ ลวกราดกะทิ ผักผดั น้ำมนั และผักทอด ทง้ั ชบุ แปง้ และชุบไขท่ อด เชน่ การรับประทานผกั
ต้มกะทิ ผกั ชุบไขท่ อดกับนำ้ พริกกะปิ เป็นตน้
5. อาหารประเภทเคร่อื งเคยี ง เปน็ อาหารท่ีช่วยเสรมิ ให้อาหารในสำรบั อร่อย หรอื เด่นขน้ึ ไดแ้ ก่
ห่อหมก ทอดมัน หมก่ี รอบ ที่รบั ประทานร่วมกบั แกงมสั มัน่ ปลาดุกย่าง ปลาดุกฟู รับประทาน
รว่ มกบั นา้ํ พริก เน้ือเค็มทอด รบั ประทานร่วมกับแกงเผด็ เปน็ ต้น
9
2.แบง่ ประเภทตามภมู ภิ าค มดี ังนี้
1.อาหารภาคกลาง เปน็ อาหารท่มี คี วามหลากหลายทางด้านรสชาติ และมีการใช้กะทิและ
เครอ่ื งแกงมากที่สดุ อาหารไทยภาคกลาง ภูมิประเทศเปน็ ที่ราบลุ่ม มีภเู ขาบ้าง ส่วนมากเปน็ ภูเขา
เต้ียๆ มแี ม่น้ำหลายสายไหลผา่ น ท่ีสำคญั ไดแ้ ก่ แมน่ ้ำเจา้ พระยา แม่นำ้ ท่าจีน แม่น้ำแม่กลอง ภาค
กลาง ถือวา่ เปน็ ภาคทม่ี ีความอดุ มสมบูรณม์ ากท่ีสุด ทง้ั การดำรงชวี ิต และ การทำมาหากนิ ลกั ษณะ
เด่นของอาหารภาคกลาง จะมรี สชาตคิ รบ เปร้ยี ว หวาน มันเคม็ เผ็ด มีความปราณีต ตกแต่งจาน
อาหารสวยงาม และ อุดมไปดว้ ยเครอ่ื งแกงตา่ งๆ
2.อาหารภาคเหนือ เป็น อาหารทม่ี ีรสชาตแิ บบกลางๆ มีรสเคม็ นำเลก็ น้อย รสเปรี้ยว และ หวาน มี
นอ้ ยมากหรือแทบจะไม่นยิ มเลย ลกั ษณะเดน่ ของอาหารภาคเหนอื อาหารพื้นบ้านลา้ นนาไม่นิยมใส่
น้ำตาล ความหวานจะได้จากส่วนผสมที่นำมาทำอาหาร เชน่ ความหวานจากผัก จากปลา ไขมนั จะได้
จากนำ้ มนั ของสัตว์
3.อาหารภาคใต้ มลี กั ษณะผสมผสานระหวา่ ง อาหารไทยพ้ืนบา้ น กับ อาหารอินเดีย เช่น นำ้ บูดู ซงึ่
ได้มาจากการหมักปลาทะเลสดผสมกับเมด็ เกลอื อาหารปกั ษ์ใต้ เป็น อาหารทอ่ี รอ่ ย รสชาตจิ ัด ไมว่ ่า
จะเปน็ เผ็ดจดั เค็มจดั เปรย้ี วจดั นยิ มใช้เครื่องเทศมาก อาหารพนื้ บ้านภาคใต้ เป็น อาหารทีไ่ ดร้ บั
อทิ ธพิ ลจากอินเดีย
4.อาหารอสี าน มรี สชาตเิ ด่น คือ รสเคม็ จากน้ำปลาร้า รสเผด็ จากพรกิ สดและแหง้ อาหารอีสาน ส่วน
ใหญจ่ ะมลี ักษณะแห้ง ข้น และมีปลารา้ เปน็ สว่ นผสมของอาหารแทบจะทกุ เมนู อาหารพ้ืนบา้ น
อีสาน ส่วนมากจะเผ็ด เค็ม และ เปรีย้ ว คนอีสาน จะรับประทานข้าวเหนยี วเป็นหลกั ข้าวเหนียว จงึ
เป็นเหมอื น สัญลกั ษณข์ องอาหารอสี าน
10
3.แบ่งตามการใชช้ ีวติ ได้ดงั น้ี
1.อาหารพ้นื บ้าน คอื อาหารทนี่ ิยมรับประทานเฉพาะถิน่ เป็นอาหารท่ีทำขนึ้ ไดง้ า่ ยอาศยั
พืชผกั และเคร่ืองประกอบอาหารท่มี อี ย่บู นท้องถนิ่ และมีการสบื ทอดวธิ ปี รงุ และการรับประทานตอ่ ๆ
กันมาจนกลายเปน็ วฒั นธรรม
2.อาหารชาววงั คืออาหารท่ปี ระดิษฐค์ ิดค้นโดยคนในร้ัววงั มีเอกลกั ษณ์สำคญั คอื ความอดุ ม
สมบูรณ์และความสดใหม่ของวัตถุดิบในการประกอบอาหาร มีวิธีการทำท่ซี ับซ้อน ประณีต ใชเ้ วลา
และกำลังคนจำนวนมากมีรสชาติท่นี ่มุ นวล กลมกล่อม อาหารชาววงั ในแต่ละมือ้ จะประกอบดว้ ย
อาหารหลากหลายอยา่ ง ในสมยั รชั กาลท่5ี มีอาหารอยา่ งน้อยอยู่ 7ประเภท คอื 1.ข้าวเสวย 2.เครือ่ ง
คาว 3.เครอื่ งเคียงแกง 4.เครอื่ งเคียงแขก 5.เคร่ืองเคียงจม้ิ 6.เคร่อื งเคียงเกาเหลา 7.เครื่องหวาน
และอาหารชาววังมักจะทำเป็นสำรับเสมอ
งานวจิ ัยทเ่ี กี่ยวข้อง
เรื่องทคี่ วรร้เู ก่ียวกบั อาหารไทย
ปจั จุบนั นีอ้ าหารไทยกำลงั ไดร้ ับความนยิ มอยา่ งสูงและแพรห่ ลายไปส่ปู ระเทศต่างๆทว่ั โลกอย่าง
รวดเร็วเอกลกั ษณท์ บี่ ่งบอกถงึ ความเปน็ อาหารไทยที่ชดั เจนกค็ ือ กลน่ิ ฉนุ และรสชาติทเ่ี ผ็ดร้อน และท่ี
สำคัญกค็ ือมกี ารนำ สมนุ ไพรและเคร่ืองเทศมาเป็นส่วนผสมในการปรุง อาหารไทยในยคุ ปัจจุบัน ไดร้ ับ
อทิ ธิพลจากวัฒนธรรมทาง ด้านอาหารจากนานาประเทศ
บทที่ 3
วิธกี ารศกึ ษาคน้ ควา้
ในการศกึ ษาครัง้ นี้ ผู้ศึกษาไดก้ ารทำการศกึ ษาอาหารไทย ซงึ่ มวี ธิ กี ารดงั นี้
ระเบยี บวธิ ที ใี่ ชใ้ นการศกึ ษา
ในการศกึ ษาใชร้ ูปแบบ การสำรวจ การศกึ ษาคน้ ควา้ ด้วยวิธีการสืบคน้ ข้อมูล จากหนังสอื
อนิ เตอรเ์ น็ต และตอบแบบสอบถาม
ประชากรและกลุ่มตัวอยา่ งท่ใี ช้ในการศึกษา
ประชากรท่ใี ชใ้ นการศึกษาครั้งนี้ เป็นนกั เรยี นระดับชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 5/1 โรงเรียนเทพศริ นิ ทร์
พแุ ค จังหวดั สระบรุ ภี าคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563 จำนวน 1 หอ้ งเรียนเปน็ นักเรียน 20 คน ได้มา
โดยวธิ กี ารเลอื ก
ระยะเวลาท่ีใช้ในการศกึ ษา
ระยะเวลาที่ใชใ้ นการศึกษา คือ ตลอดภาคาเรยี นท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2563
12
ข้นั ตอนวิธกี ารดำเนินศกึ ษา
กำหนดเรอื่ งทีจ่ ะศึกษา
สำรวจปญั หาและเลอื กเร่ือง
ศึกษาแนวคิดและการแกใ้ ช้ปญั หา
ต้งั ชื่อเร่อื ง
ทจ่ี ะศึกษาพบครูท่ปี รึกษา(คุณครยู ุวดี ญาณสทิ ธิ์)
ศกึ ษาวธิ เี (ขคยีุ นบทนำ
สรา้ งเครอื่ งมอื แบบสอบถาม
รวบรวมข้อมลู
วิเคราะหข์ อ้ มูล
สรุปผลการศึกษา
13
เคร่อื งมอื ทใี่ ช้ในการศึกษา
เครือ่ งมือทีใ่ ช้ในการศึกษาครั้งน้ี คือ แบบสอบถาม 1 ฉบบั ซึง่ มรี าบละเอยี ดดังนี้
1.ออกแบบทดสอบ เรื่อง อาหารไทยทถี่ ูกลืม โดยขอคำแนะนำจาก คุณครูยุวดี ญาณสทิ ธ์ิ โดย
เตรียมร่างขอ้ ความมลี กั ษณะเปน็ คำถามจำนวน 5 ข้อ เปน็ แบบมาตฐาน 5 ระดับ คือ
5 หมายถงึ รู้จกั ชอ่ื หน้าตา เคยรบั ประทาน และ รวู้ ิธีการทำ
4 หมายถึง รู้จักชอื่ หนา้ ตา และ เคยรับประทาน
3 หมายถงึ รจู้ ักช่อื และหน้าตา
2 หมายถงึ รู้จักช่ือ
1 หมายถึง ไม่รู้จกั
การพิจารณาค่าเฉลีย่ ใช้เกณฑด์ ังน้ี
ค่าเฉลี่ย 4.51-5.00 หมายถงึ รูจ้ กั มากทสี่ ดุ
ค่าเฉลย่ี 3.51-4.50 หมายถงึ รจู้ กั มาก
คา่ เฉลีย่ 2.51-3.50 หมายถึง ร้จู ักนอ้ ย
คา่ เฉลี่ย 1.51-2.50 หมายถึง รู้จกั น้อยมาก
คา่ เฉลีย่ 0.00-1.50 หมายถึง ไมร่ ู้จักเลย
2.สรา้ งแบบสอบถาม เรื่อง อาหารไทยท่ีถูกลมื โดยขอคำแนะนำจาก คุณครูยวุ ดี ญาณสทิ ธ์ิ จากนั้น
นำมาปรับปรงุ แกไ้ ขแล้วนำไปตรวจสอบความเหมาะสม
3.สร้างแบบสอบถาม เร่อื ง อาหารไทยทถ่ี ูกลมื ที่แกไ้ ขปรบั ปรงุ แกไ้ ขแล้วนำไปตรวจสอบความ
เหมาะสม
14
การเกบ็ รวบรวมข้อมูล
การศกึ ษาครง้ั นีไ้ ดด้ ำเนินการโดยนำแบบทดสอบท่สี รา้ งขึ้นมาให้นักเรียนกล่มุ ตัวอย่าง จำนวน
20 คน และเก็บขอ้ มูลจากนักเรยี นกลมุ่ ตัวกยา่ ง โดยผศู้ กึ ษาทั้ง 4 คน ดำเนนิ การเก็บรวบรวมขอ้ มลู
ด้วยตนเอง
การวิเคราะห์ขอ้ มูล
ในการวิเคราะหข์ อ้ มูล ผูศ้ ึกษาได้วเิ คราะห์ขอ้ มูลดังน้ี
1.นำแบบสอบถามทง้ั หมดทต่ี อบโดยนักเรยี นกลมุ่ ตวั อยา่ งมาหาค่าคะแนนรวมท่ี
2.นำผลรวมมาคิดร้อยละ
สถติ ิที่ใชใ้ นการศึกษา
สถิตทิ ีใ่ ช้ในการศกึ ษาครงั้ นี้ คอื การหาค่าเฉลยี่
บทท่ี 4
ผลการศึกษาค้นควา้
การศกึ ษาค้นควา้ คร้ังนี้มวี ัตถุประสงค์เพือ่ ใหก้ ลุม่ เปา้ หมายรูจ้ กั และอนรุ ักษ์อาหารไทย โดย
นำเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูลตา่ งๆดงั นี้
กล่มุ เป้าหมายรู้จักและได้รบั ความรู้ที่ถูกตอ้ งของอาหารไทยท่ถี ูกต้องเพ่ือนำไปตอ่ ยอดในการ
อนรุ กั ษ์อาหารไทย
ตารางที่ 1 แสดงผลระดบั คะแนนการประเมณิ เรื่องอาหารไทยที่ถูกลืม จำนวนกลุ่มตวั อย่าง 20
คน
คะแนนร้อยละ
รายการประเมนิ
54 3 21
ช่อื อาหาร 15 5 20 10 50
(มา้ ฮ่อ)
ช่ืออาหาร 20 25 20 10 25
(แสรง้ วา่ )
ชื่ออาหาร 45 30 10 10 5
(หมสู ร่ง)
ชอื่ อาหาร 5 20 5 40 30
(ขนมพระพาย)
ชอ่ื อาหาร 35 10 10 20 25
(สะเดาน้ำปลาหวาน)
16
จากตารางที่ 1 พบว่ากลมุ่ เป้าหมายรู้จักม้าฮอ่ ในระดบั ท่ี 1 คิดเปน็ รอ้ ยละ 50 กลุ่มเป้าหมาย
รจู้ กั แสรง้ วา่ ในระดับที่ 4และระดับที่ 1 คดิ เป็นรอ้ ยละ25 กลมุ่ เป้าหมายรจู้ ักหมสู รง่ ในระดบั ที่ 5 คดิ
เปน็ ร้อยละ 45 กล่มุ เป้าหมายร้จู กั ขนมพระพาย ในระดับที่ 2 คดิ เป็นร้อยละ 40 และกล่มุ เป้าหมาย
รู้จกั สะเดาน้ำปลาหวาน ในระดับ ท่ี 5คิดเปน็ ร้อยละ 35
ตารางท่ี 2 แสดงผลการประเมนิ เรื่องอาหารไทยทถี่ กู ลืม
รายการประเมนิ คา่ เฉลย่ี ระดบั คุณภาพ
1.ชื่ออาหาร 0.5 นอ้ ยทสี่ ดุ
(ม้าฮ่อ)
2.ชื่ออาหาร 1 น้อยทสี่ ุด
(แสร้งว่า)
3.ช่อื อาหาร 2.25 นอ้ ย
(หมูสร่ง)
4.ชื่ออาหาร 0.8 น้อยท่สี ดุ
(ขนมพระพาย)
5.ช่ืออาหาร 1.75 นอ้ ย
(สะเดาน้ำปลาหวาน)
รวมทัง้ หมด 1.26 น้อยทสี่ ดุ
จากตารางที่ 2 พบว่า กลุ่มเป้าหมายรู้จักอาหารไทย ในระดับ น้อยท่ีสุด ค่าเฉล่ีย 1.26
บทท่ี 5
สรปุ อภปิ รายผลและขอ้ เสนอแนะ
จากการศกึ ษาครงั้ นี้ เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายรู้จักและช่วยอนุรักษ์อาหารไทยสามารถสรุปผล
อภปิ รายผล และข้อเสนอแนะไดด้ งั น้ี
วัตถุประสงค์
1.เพือ่ ศกึ ษาคุณค่า ความสำคัญ และความนยิ มของอาหารไทย
2.เพ่อื เปรียบเทียบ ความนิยมของอาหารไทยและอาหารต่างชาติ
3.เพื่อเผยแพร่และใหค้ วามรเู้ ก่ียวกับอาหารไทยให้รู้จักกนั มากขนึ้
ขอบเขตการศึกษา
1.กล่มุ เป้าหมายนกั เรียนชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 5/1 จำนวน 20 คน
2.เนอ้ื หา ศึกษาและใหค้ วามร้เู กี่ยวกบั อาหารไทย
3.ระยะเวลา ภาคเรยี นการศกึ ษาที่ 1/2563
เครอื่ งมอื ทใี่ ช้ในการศกึ ษา
เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ประกอบด้วยแบบสอบถาม จำนวน 1 ฉบับเรื่อง อาหารไทยที่ถูก
ลืม จำนวน 5 ข้อ
การวเิ คราะห์ข้อมูล
ในการวิเคราะห์ข้อมลู ผศู้ ึกษาได้วเิ คราะห์ข้อมูลของกลุ่มเป้าหมาย เร่ือง อาหารไทยท่ีถูกลืม
โดยการคิดคะแนนเฉลี่ย เปน็ ค่าร้อยละ 1.26
18
สรุปผลการศกึ ษา
ผลการศกึ ษาที่มตี ่อการศกึ ษา เรอื่ ง อาหารไทยท่ีถูกลืมอยใู่ นระดับคุณภาพน้อยท่ีสุด
การอภปิ รายผล
จากการศึกษาการศกึ ษาอาหารไทยพบว่ากลุ่มเป้าหมายรู้จักอาหารไทยอยู่ในระดับน้อยทีส่ ุด
คิดเป็นร้อยละ1.26
ข้อเสนอแนะ
ข้อเสนอแนะในการศกึ ษาครง้ั นี้
1.สามารถศกึ ษาข้อมลู ของอาหารไทยเพิ่มเติมได้ ตามความอยา่ งรู้
2.สามารถนำไปถา่ ยทอดให้ผู้อ่ืนได้รูจ้ กั อาหารไทยมากยิ่งข้นึ
3.สามารถแบง่ แยกประเภท ร้จู ักวธิ ีการทำอาหารไทยต่างๆในชวี ติ ประจำวันไดอ้ กี
19
บรรณานุกรม
ความเป็นมาของอาหารไทย จาก https://sites.google.com/site/foodthai0945/prawati-
khwam-pen-ma-khxng-xahar-th
ประเภทอาหารไทยตามภมู ภิ าค จาก https://sites.google.com/site/xaharthxngthin4phakh/
ความเป็นมาของอาหารไทย จาก https://sites.google.com/site/foodthai0945/prawati-
khwam-pen-ma-khxng-xahar-thi
20
ภาคผนวก
21
แบบสอบถาม เรอื่ ง อาหารไทยทถ่ี กู ลมื
มีเกณฑ์คะแนน ดังนี้
5 หมายถงึ มากทส่ี ุด
4 หมายถึง มาก
3 หมายถึง ปานกลาง
2 หมายถึง น้อย
1 หมายถงึ นอ้ ยทส่ี ดุ
รายการประเมิน คะแนน
54 3 21
ชื่ออาหาร
(ม้าฮ่อ)
ชื่ออาหาร
(แสรง้ วา่ )
ชอ่ื อาหาร
(หมูสรง่ )
ชอ่ื อาหาร
(ขนมพระพาย)
ชื่ออาหาร
(สะเดาน้ำปลาหวาน)