The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รายงานโรคซึมเศร้่่า-ศิวานันท์-074 (1)

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by runlovebee24, 2022-05-24 08:32:08

รายงานโรคซึมเศร้่่า-ศิวานันท์-074 (1)

รายงานโรคซึมเศร้่่า-ศิวานันท์-074 (1)

Keywords: รายงานโรคซึมเศร้่่า-ศิวานันท์

รายงาน

เร่อื ง โรคซึมเศร้า

เสนอ

อาจารย์ สาโรช สะอาดเอ่ียม

จดั ทาโดย

นายศิวานันท์ รตั นแพทย์
รหสั 6410530432074 นักศึกษาชนั้ ปี ท่ี 1 ภาคพิเศษ ห้อง 2

รายงานฉบบั นี้เป็นส่วนหน่ึงของการศกึ ษา
วิชาเทคโนโลยสี ารสนทศเพอ่ื การศกึ ษาค้นคว้า
รหสั วิชา GE4005 ภาคเรยี นท่ี1 ปี การศกึ ษา2565
มหาวิทยาลยั มหามกฎุ ราชวิทยาลยั วิทยาเขตล้านนา



คานา
รายงานเล่มน้ีเป็นส่วนหน่ึงของรายวชิ า เทคโนโลยีสารสนเทศเพ่อื การศึกษาค้นคว้า รหสั วชิ า
GE4005 ชนั้ ปีท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2565 สาขาวชิ าการปกครอง มหาวทิ ยาลยั มหามกุฏราชวทิ ยาลยั วทิ ยา
เขตล้านนา โดยมจี ุดประสงคเ์ พ่อื รวบรวมเน้ือหาและศกึ ษาเก่ยี วกบั โรคซมึ เศรา้ ขอขอบคุณ ผศ.สาโรช
สอาดเอย่ี ม อาจารยป์ ระจาวชิ าทใ่ี ห้คาปรกึ ษาและแนะแนวทางในการศึกษาการรวบรวมขอ้ มูลตลอดจน
การจดั ทารูปเล่ม และขอขอบคุณเพอ่ื นๆทุกท่านทใ่ี หค้ วามช่วยเหลอื มาโดยตลอด ผูจ้ ดั ทาหวงั ว่ารายงาน
เลม่ น้ี จะใหค้ วามรแู้ ละเป็นประโยชน์แก่ผทู้ ต่ี อ้ งการศกึ ษาทกุ ๆท่าน

ผ้จู ดั ทา
นายศวิ านนั ท์ รตั นแพทย์ 6410530432074

ภาคพเิ ศษ หอ้ ง 2

สารบญั ข

เร่อื ง หน้า
คานา ก
สารบญั ข
โรคซมึ เศรา้ 1-2
การเปลย่ี นแปลงในผทู้ เ่ี ป็นโรคซมึ เศรา้ 3-4
เกณฑก์ ารวนิ จิ ฉยั 5-6
โรคอ่นื ทม่ี อี าการคลา้ ยคลงึ กบั โรคซมึ เศรา้ 7
สาเหตุ 8
การรกั ษา 9
ขอ้ ควรทราบเกย่ี วกบั การรกั ษาดว้ ยยาแก้ซมึ เศรา้ 10-11
แพทยร์ กั ษาอยา่ งไร 12-14
บรรณานุกรม 15
ภาคผนวก 16
ประวตั ผิ จู้ ดั ทา 17

1

โรคซึมเศรา้

โรคซมึ เศรา้ เป็นโรคทางจติ เวชทม่ี ผี เู้ ป็นจานวนไม่น้อย แตย่ งั มผี รู้ จู้ กั โรคน้ไี ม่มากนกั บางคน

เป็นโดยทต่ี วั เองไมท่ ราบคดิ ว่าเป็นเพราะตนเองคดิ มากไปเองกม็ ี ทาใหไ้ มไ่ ดร้ บั การรกั ษาทเ่ี หมาะสม

และทนั ท่วงทผี มเขยี นหนงั สอื เลม่ น้ดี ว้ ยหวงั ว่าจะชว่ ยใหผ้ อู้ ่านเขา้ ใจโรคน้มี ากขน้ึ เพราะพบว่าหลายๆ

คนสงสยั วา่ ตวั เองจะเป็นโรคน้หี รอื เปล่า บา้ งกร็ กั ษามาบา้ งแลว้ และอยากจะรเู้ กย่ี วกบั โรคทต่ี วั เองเป็น

มากขน้ึ แต่กไ็ มร่ ูจ้ ะหากขอ้ มลู จากไหน จะถามแพทยก์ เ็ กรงใจ เน้อื หาทเ่ี ขยี นสว่ นหน่งึ ไดม้ าจากคาถาม

หรอื ขอ้ สงสยั ทผ่ี ปู้ ่วยมกั ถามผมคดิ ว่าคนอน่ื ๆ กน็ ่าจะมขี อ้ สงสยั คลา้ ยๆ กนั

เอ็ดเวริ ์ด มุงค์ เป็นศิลปินชาวนอร์เวย์ท่ีมชี ่ือเสยี ง ผลงานของเขาส่งอิทธิพลสาคญั ต่อศิลปะ
แบบเอ็กเพรสชนั่ นิสซึมในช่วงต่อมาเช่นเดยี วกบั แวนก๊อก และโกแกง ท่อี ยู่ในยุคเดยี วกนั มุงคเ์ กิดปี
1860 มชี วี ติ ท่มี คี วามทุกข์ ขมข่นื ตงั้ แต่วยั เดก็ แม่เสยี ชวี ติ เม่อื เขาอายุ 5 ขวบ และพ่สี าวเสยี ชวี ติ เม่อื
เขาอายุ 14 ปี พอ่ เป็นหมอดูแลคนไขท้ บ่ี า้ น สุขภาพของเขาแย่มาตลอดตงั้ แต่วยั เดก็ เม่อื เขา้ สวู่ ยั หนุ่มก็
มชี วี ติ รกั ทต่ี งึ เครยี ด ตดิ เหล้า ชวี ติ มแี ต่การเดนิ ทางจากแห่งหน่ึงไปอกี แห่งหน่ึง ภาพวาดของเขาในยุค
ตน้ สะทอ้ นถงึ ความทุกขค์ วามปวดรา้ วต่างๆ เหล่าน้ี เม่อื อายปุ ระมาณ 45 ปีเขามอี าการซมึ เศรา้ ครงั้ แรก
ใชเ้ วลากวา่ 8 เดอื นทส่ี ถานพกั ฟ้ืนในเดนมารก์ หลงั จากนนั้ เขากลบั ใชช้ วี ติ สว่ นใหญอ่ ยใู่ นนอรเ์ วย์
ในทศวรรษ 1890 มุงคไ์ ดใ้ ชเ้ วลาช่วงฤดูรอ้ นหลายครงั้ ท่เี มอื ง Asgardstrand ร่วมกบั เพ่อื นๆ จากกลุ่ม
Kristiania bohemian คนท่ีเป็นต้นแบบรูปคนซบหน้ากับแขนในภาพวาดคือ Jappe Nilssen ซ่ึงเป็น
นักเขยี นและนักวจิ ารณ์ศลิ ปะ จะเหน็ สาเหตุซ่งึ ทาให้เขาเศรา้ โศกจากฉากหลงั ท่เี ป็นสะพานยาวทท่ี อด
ยน่ื ไปในทะเล ครู่ กั ของเขากาลงั เดนิ ไปขน้ึ เรอื กบั ชายอ่นื
ภูมทิ ศั น์สะท้อนถงึ บรรยากาศของความเงยี บสงดั และหม่นหมอง โครงภาพไม่ซบั ซ้อนและก้อนหนิ ท่ีอยู่
ดา้ นหน้ามรี ปู ลกั ษณ์เฉพาะตวั สว่ นทเ่ี ป็นแนวลกึ แสดงโดยใชช้ ายหาดเวา้ โคง้ เขา้ ออก และภาพทอ่ี ย่สู ว่ น

Melancholy, (1892) Edvard Munch1

2

หลงั ทม่ี ขี นาดเลก็ ลงบ่งถงึ การตวดั พกู่ นั อย่างรวดเรว็ ในช่วงปีทใ่ี ชช้ วี ติ อย่ใู นปารสี มุงคไ์ ดร้ บั อทิ ธพิ ลจาก
กระแสความคิดต่างๆ ในยุคนัน้ และรวมถึงแนวการใช้โครงร่างแบบ Art Nouveau รูปปั้นช่ือ “The
Thinker” ท่ีมีช่ือเสียงของโรแดง ได้ทาให้ท่าทางท่ีบ่งถึงการครุ่นคานึงท่ีมอี ายุยาวนานกว่าศตวรรษ
กลบั มาไดร้ บั ความนิยมอกี คลา้ ยคลงึ กบั ภาพแกะสลกั นูนMelancholy ทม่ี ชี ่อื เสยี งของ D rer ท่ี
Melancholia แสดงรูปลกั ษณ์ออกมาโดยการซบศรี ษะไปบนแขนซ้ายของเธอ Melancholy เป็นงานช้นิ
สาคญั ในชุดภาพวาด Frieze of Life ของมุงค์ มดี ้วยกนั หลายๆ แบบและเป็นจุดเรม่ิ ต้นของการหนั เห
ไปสภู่ าพพมิ พล์ ายไมท้ ม่ี ชี ่อื เสยี งของเขา
โรคซึมเศรา้ คืออะไร

สาหรบั คนส่วนใหญ่แลว้ คาว่าโรคซมึ เศรา้ ฟังดูไม่คุ้นหู ถ้าพูดถงึ เร่ืองซึมเศรา้ เรามกั จะนึกกนั ว่าเป็น
เร่อื งของอารมณ์ความรสู้ กึ ทเ่ี กดิ จากความผดิ หวงั หรอื การสูญเสยี มากกว่าทจ่ี ะเป็นโรค ซ่งึ ตามจรงิ แลว้
ท่ีเราพบกันในชีวิตประจาวันส่วนใหญ่ก็จะเป็ นเร่ืองของอารมณ์ความรู้สึกธรรมดาๆ ท่ีมีกันใน
ชวี ติ ประจาวนั มากบา้ งน้อยบา้ ง อย่างไรกต็ ามในบางครงั้ ถา้ อารมณ์เศรา้ ทเ่ี กดิ ขน้ึ นนั้ เป็นอย่นู านโดยไม่
มที ที ่าว่าจะดขี น้ึ หรอื เป็นรุนแรง มอี าการต่างๆ ตดิ ตามมา เช่น นอนหลบั ๆ ต่นื ๆ เบ่อื อาหาร น้าหนัก
ลดลงมาก หมดความสนใจต่อโลกภายนอก ไม่คิดอยากมชี ีวติ อยู่อีกต่อไป ก็อาจจะเข้าข่ายของโรค
ซมึ เศรา้ แลว้

คาว่า “โรค” บ่งว่าเป็นความผดิ ปกตทิ างการแพทย์ ซ่งึ จาเป็นต้องได้รบั การดูแลรกั ษาเพ่อื ให้อาการ
ทุเลา ต่างจากภาวะอารมณ์เศรา้ ตามปกติธรรมดาท่ถี ้าเหตุการณ์ต่างๆ รอบตวั คล่คี ลายลง หรอื มคี น
เข้าใจเห็นใจ อารมณ์เศร้าน้ีก็อาจหายได้ ผู้ท่ีป่ วยเป็นโรคซึมเศร้านอกจากมอี ารมณ์ซึมเศร้าร่วมกบั
อาการต่างๆ แล้ว การทางานหรอื การประกอบกจิ วตั รประจาวนั ก็แย่ลงด้วย คนทเ่ี ป็นแม่บ้านกท็ างาน
บ้านน้อยลงหรอื มงี านบา้ นคงั่ ค้าง คนทท่ี างานนอกบา้ นก็อาจขาดงานบ่อยๆ จนถูกเพ่งเลง็ เรยี กว่าตวั
โรคทาใหก้ ารประกอบกจิ วตั รประจาวนั ต่างๆ บกพร่องลง หากจะเปรยี บกบั โรคทางร่างกายกค็ งคลา้ ยๆ
กนั เชน่ ในโรคหวั ใจ ผทู้ เ่ี ป็นกจ็ ะมอี าการตา่ งๆ ร่วมกบั การทาอะไรตา่ งๆ ไดน้ ้อยหรอื ไม่ดเี ท่าเดมิ

ดงั นนั้ การเป็นโรคซมึ เศรา้ ไม่ไดห้ มายความว่า ผทู้ เ่ี ป็นเป็นคนออ่ นแอ คดิ มาก หรอื เป็นคนไม่สปู้ ัญหา
เอาแต่ทอ้ แท้ ซมึ เซา แต่ทเ่ี ขาเป็นนนั้ เป็นเพราะตัวโรค กล่าวไดว้ ่าถ้าไดร้ บั การรกั ษาทถ่ี ูกตอ้ งเหมาะสม
โรคกจ็ ะทเุ ลาลง เขากจ็ ะกลบั มาเป็นผทู้ จี ติ ใจแจม่ ใส พรอ้ มจะทากจิ วตั รต่างๆ ดงั เดมิ

ผู้ท่ปี ่ วยเป็นโรคซึมเศร้าจะมกี ารเปล่ยี นแปลงไปจากเดมิ ค่อนข้างมาก การเปล่ยี นแปลงหลกั ๆ จะ
เป็นในดา้ นอารมณ์ ความรสู้ กึ นกึ คดิ พฤตกิ รรม ร่วมกบั อาการทางรา่ งกายต่างๆ ดงั จะไดก้ ล่าวต่อไป
กลบั ไปตน้ ฉบบั

3

การเปลี่ยนแปลงในผ้ทู ี่เป็นโรคซึมเศร้า
การเปลย่ี นแปลงตา่ งๆ ทเ่ี กดิ ขน้ึ ในผทู้ เ่ี ป็นโรคซมึ เศรา้ ดงั ทจ่ี ะกล่าวต่อไปน้ี อาจเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป
เป็นเดอื นๆ หรอื เป็นเรว็ ภายใน 1-2 สปั ดาห์เลยก็ได้ ซ่ึงข้นึ อยู่กบั หลายๆ ปัจจยั เช่น มเี หตุการณ์มา
กระทบรุนแรงมากน้อยเพยี งได บุคลกิ เดิมของเจ้าตวั เป็นอย่างไร มกี ารช่วยเหลอื จากคนรอบขา้ งมาก
น้อยเพียงได เป็นต้น และผู้ท่ีเป็นอาจไม่มีอาการตามน้ีไปทงั้ หมด แต่อย่างน้อยอาการหลักๆ จะมี
คลา้ ยๆ กนั เชน่ รสู้ กึ เบ่อื เศรา้ ทอ้ แท้ รสู้ กึ ตนเองไรค้ า่ นอนหลบั ไม่ดี เป็นตน้
ลกั ษณะการเปลี่ยนแปลงท่ีสาคญั

1. อารมณ์เปลย่ี นแปลงไป ทพ่ี บบ่อยคอื จะกลายเป็นคนเศรา้ สรอ้ ย หดหู่ สะเทอื นใจง่าย รอ้ งไห้
บ่อย เร่อื งเลก็ ๆน้อยๆ กด็ ูเหมอื นจะอ่อนไหวไปหมด บางคนอาจไม่มอี ารมณ์เศรา้ ชดั เจนแต่จะบอกว่า
จติ ใจหม่นหมอง ไม่แจม่ ใส ไม่สดช่นื เหมอื นเดมิ บางคนอาจมคี วามรสู้ กึ เบ่อื หน่ายไปหมดทุกสงิ่ ทุกอย่าง
สง่ิ ท่เี ดมิ ตนเคยทาแลว้ เพลนิ ใจหรอื สบายใจ เช่น ฟังเพลง พบปะเพ่อื นฝงู เขา้ วดั กไ็ ม่อยากทาหรอื ทา
แลว้ กไ็ ม่ทาให้สบายใจขน้ึ บ้างกร็ สู้ กึ เบ่อื ไปหมดตงั้ แต่ต่นื เชา้ มา บางคนอาจมอี ารมณ์หงุดหงดิ ฉุนเฉียว
งา่ ย อะไรกด็ ขู วางหขู วางตาไปหมด กลายเป็นคนอารมณ์รา้ ย ไม่ใจเยน็ เหมอื นกอ่ น

2. ความคดิ เปล่ียนไป มองอะไรก็รูส้ กึ ว่าแย่ไปหมด มองชีวติ ท่ีผ่านมาในอดีตก็เห็นแต่ความ
ผดิ พลาดความลม้ เหลวของตนเอง ชวี ติ ตอนน้กี ร็ สู้ กึ ว่าอะไรๆ กด็ แู ยไ่ ปหมด ไม่มใี ครชว่ ยอะไรได้ ไมเ่ หน็
ทางออก มองอนาคตไม่เหน็ รูส้ ึกท้อแท้หมดหวงั กบั ชวี ติ บางคนกลายเป็นคนไม่มนั่ ใจตนเองไป จะ
ตดั สนิ ใจอะไรกล็ งั เลไปหมด รู้สกึ ว่าตนเองไรค้ วามสามารถ ไรค้ ุณค่า เป็นภาระแก่คนอ่นื ทงั้ ๆ ท่ญี าติ
หรอื เพ่อื นๆ กย็ นื ยนั ว่ายนิ ดชี ่วยเหลอื เขาไม่เป็นภาระอะไรแต่กย็ ังคงคดิ เช่นนนั้ อยู่ ความรสู้ กึ ว่าตนเอง
ไรค้ ่า ความคบั ขอ้ งใจ ทรมานจติ ใจ เหลา่ น้ีอาจทาใหเ้ จา้ ตวั คดิ ถงึ เร่อื งการตายอย่บู ่อยๆ แรกๆ กอ็ าจคดิ
เพยี งแค่อยากไปให้พ้นๆ จากสภาพตอนน้ี ต่อมาเรม่ิ คดิ อยากตายแต่ก็ไม่ได้คดิ ถงึ แผนการณ์อะไรท่ี
แน่นอน เม่อื อารมณ์เศรา้ หรอื ความรูส้ ึกหมดหวงั มมี ากขน้ึ กจ็ ะเรมิ่ คดิ เป็นเร่อื งเป็นราวว่าจะทาอย่างไร
ในชว่ งน้หี ากมเี หตกุ ารณ์มากระทบกระเทอื นจติ ใจกอ็ าจเกดิ การทารา้ ยตนเองขน้ึ ไดจ้ ากอารมณ์ชวั่ วบู

3. สมาธคิ วามจาแย่ลง จะหลงลมื ง่าย โดยเฉพาะกบั เร่อื งใหม่ๆ วางของไว้ท่ไี หนก็นึกไม่ออก
ญาตเิ พงิ่ พูดดว้ ยเม่อื เชา้ กน็ ึกไม่ออกว่าเขาสงั่ ว่าอะไร จติ ใจเหม่อลอยบ่อย ทาอะไรไม่ไดน้ านเน่ืองจาก
สมาธไิ ม่มี ดูโทรทศั น์นานๆ จะไม่รู้เร่อื ง อ่านหนังสอื ก็ได้ไม่ถงึ หน้า ประสทิ ธภิ าพในการทางานลดลง
ทางานผดิ ๆ ถกู ๆ
4. มีอาการทางร่างกายต่างๆ ร่วม ท่ีพบบ่อยคือจะรู้สกึ อ่อนเพลีย ไม่มเี ร่ยี วแรง ซ่ึงเม่ือพบร่วมกับ
อารมณ์รสู้ กึ เบ่อื หน่ายไม่อยากทาอะไร กจ็ ะทาใหค้ นอ่นื ดวู ่าเป็นคนขเ้ี กยี จ ปัญหาดา้ นการนอนกพ็ บบอ่ ย
เช่นกนั มกั จะหลบั ยาก นอนไม่เตม็ อม่ิ หลบั ๆต่นื ๆ บางคนต่นื แต่เชา้ มดื แลว้ นอนต่อไม่ได้ ส่วนใหญ่จะ
รสู้ กึ เบอ่ื อาหาร ไมเ่ จรญิ อาหารเหมอื นเดมิ น้าหนักลดลงมาก บางคนลดลงหลายกโิ ลกรมั ภายใน 1 เดอื น

4

นอกจากน้ียงั อาจมอี าการท้องผูก อดื แน่นทอ้ ง ปากคอแหง้ บางคนอาจมอี าการปวดหวั ปวดเม่อื ยตาม
ตวั

5. ความสมั พนั ธ์กบั คนรอบขา้ งเปล่ยี นไป ดงั กล่าวบ้างแลว้ ขา้ งต้น ผู้ท่เี ป็นโรคน้ีมกั จะดูซมึ ลง
ไม่ร่าเรงิ แจ่มใส เหมอื นก่อน จะเก็บตวั มากขน้ึ ไม่ค่อยพูดจากบั ใคร บางคนอาจกลายเป็นคนใจน้อย
อ่อนไหวง่าย ซง่ึ คนรอบขา้ งกม็ กั จะไม่เขา้ ใจว่าทาไมเขาถงึ เปลย่ี นไป บางคนอาจหงุดหงดิ บ่อยกว่าเดมิ
แมบ่ า้ นอาจทนทล่ี ูกๆ ซนไมไ่ ด้ หรอื มปี ากเสยี งระหว่างค่คู รองบอ่ ยๆ

6. การงานแย่ลง ความรบั ผดิ ชอบต่อการงานก็ลดลง ถ้าเป็นแม่บา้ นงานบา้ นกไ็ ม่ได้ทา หรอื ทา
ลวกๆ เพยี งใหผ้ ่านๆ ไป คนทท่ี างานสานักงานกจ็ ะทางานทล่ี ะเอยี ดไม่ไดเ้ พราะสมาธไิ มม่ ี ในช่วงแรกๆ
ผูท้ เ่ี ป็นอาจจะพอฝืนใจตวั เองให้ทาได้ แต่พอเป็นมากๆ ขน้ึ กจ็ ะหมดพลงั ทจ่ี ะต่อสู้ เรมิ่ ลางานขาดงาน
บ่อยๆ ซง่ึ หากไมม่ ผี เู้ ขา้ ใจหรอื ใหก้ ารชว่ ยเหลอื กม็ กั จะถกู ใหอ้ อกจากงาน

7. อาการโรคจติ จะพบในรายทเ่ี ป็นรุนแรงซง่ึ นอกจากผทู้ เ่ี ป็นจะมอี าการซมึ เศรา้ มากแลว้ จะยงั
พบว่ามอี าการของโรคจติ ได้แก่ อาการหลงผดิ หรอื ประสาทหลอนร่วมด้วย ทพ่ี บบ่อยคอื จะเช่อื ว่ามคี น
คอยกลนั่ แกลง้ หรอื ประสงคร์ า้ ยต่อตนเอง อาจมหี แู ว่วเสยี งคนมาพดู คุยดว้ ย อยา่ งไรกต็ ามอาการเหล่าน้ี
มกั จะเป็นเพยี งชวั่ คราวเทา่ นนั้ เม่อื ไดร้ บั การรกั ษา อารมณ์เศรา้ ดขี น้ึ อาการโรคจติ กม็ กั ทเุ ลาตาม

จะร้ไู ด้อย่างไรว่าเป็นโรคนี้หรอื เปล่า
บางคนท่ีอ่านถึงตอนน้ีอาจรู้สกึ ว่าตนเองก็มีอะไรหลายๆ อย่างเข้ากันได้กบั โรคซึมเศร้าท่ีว่า แต่ก็มี
หลายๆ อยา่ งทไ่ี ม่เหมอื นทเี ดยี วนกั ทาใหอ้ าจสงสยั วา่ จะรไู้ ดอ้ ย่างไรว่าตนเองเป็นหรอื เปล่า
อาการซมึ เศรา้ นนั้ มดี ว้ ยกนั หลายระดบั ตงั้ แต่น้อยๆ ทเ่ี กดิ ขน้ึ ไดใ้ นชวี ติ ประจาวนั ไปจนเรม่ิ มผี ลกระทบ
ต่อการดารงชวี ติ ประจาวนั และบางคนอาจเป็นถงึ ระดบั ของโรคซึมเศรา้ อาการทพ่ี บร่วมอาจเรมิ่ ตงั้ แต่
รสู้ กึ เบอ่ื หน่าย ไปจนพบอาการต่างๆ มากมาย ดงั ไดก้ ลา่ วในบทตน้ ๆ

แบบสอบถามภาวะอารมณ์เศรา้ (Patient Health Questionnaire; PHQ9) เป็นแบบสอบถามที
ใชเ้ พอ่ื ช่วยในการประเมนิ ว่าผตู้ อบมมี ภี าวะซมึ เศรา้ หรอื ไม่ รุนแรงมากน้อยเพยี งใด เป็นมากจนถงึ ระดบั
ท่ีไม่ควรจะปล่อยท้ิงไว้หรอื ไม่ แบบสอบถามน้ีไม่ได้บอกว่าเป็นโรคอะไร เพยี งแต่ช่วยบอกว่าภาวะ
ซมึ เศรา้ ท่มี อี ยู่ในระดบั ไหนเท่านัน้ ในการวนิ ิจฉัยว่าเป็นโรคซมึ เศรา้ หรือไม่นัน้ ผทู้ ่มี อี ารมณ์ซมึ เศรา้ ยงั
ตอ้ งมอี าการทเ่ี ขา้ ตามเกณฑก์ ารวนิ ิจฉยั ดา้ นลา่ ง ขอ้ ดอี ย่างหน่งึ ของแบบสอบถามน้คี อื สามารถใชช้ ว่ ยใน
การประเมนิ ระดบั ความรุนแรงของอาการได้ ว่าแต่ละขณะเป็นอย่างไร อาการดขี น้ึ หรอื เลวลง การรกั ษา
ได้ผลหรือไม่ ผู้ป่ วยอาจทาและจดบันทึกไว้ทุก 1-2 สัปดาห์ โดยถ้าการรกั ษาได้ผลดีก็จะมีการ
เปลย่ี นแปลงในทางทด่ี ขี น้ึ โดยมคี า่ คะแนนลดลงตามลาดบั

5

เกณฑก์ ารวินิจฉัย
มอี าการดงั ตอ่ ไปน้ี 5 อาการหรอื มากกว่า
1.มอี ารมณ์ซมึ เศรา้ แทบทงั้ วนั (ในเดก็ และวยั ร่นุ อาจเป็นอารมณ์หงดุ หงดิ กไ็ ด)้
2.ความสนใจหรอื ความเพลนิ ใจในกจิ กรรมตา่ งๆ แทบทงั้ หมดลดลงอยา่ งมากแทบทงั้ วนั
3.น้าหนกั ลดลงหรอื เพมิ่ ขน้ึ มาก (น้าหนักเปลย่ี นแปลงมากกว่ารอ้ ยละ 5 ต่อเดอื น) หรอื มกี ารเบ่อื อาหาร
หรอื เจรญิ อาหารมาก
4.นอนไม่หลบั หรอื หลบั มากไป
5.กระวนกระวาย อยไู่ ม่สุข หรอื เช่อื งชา้ ลง
6.ออ่ นเพลยี ไรเ้ รย่ี วแรง
7.รสู้ กึ ตนเองไรค้ ่า
8.สมาธลิ ดลง ใจลอย หรอื ลงั เลใจไปหมด
9.คดิ เร่อื งการตาย คดิ อยากตาย
* ตอ้ งมอี าการในขอ้ 1 หรอื 2 อยา่ งน้อย 1 ขอ้
* ตอ้ งมอี าการเป็นอย่นู าน 2 สปั ดาหข์ น้ึ ไป และต้องมอี าการเหล่าน้อี ย่เู กอื บตลอดเวลา แทบทกุ วนั ไมใ่ ช่
เป็นๆ หายๆ เป็นเพยี งแค่วนั สองวนั หายไปแลว้ กลบั มาเป็นใหม่

แพทยว์ ินิจฉัยอย่างไร
เหตุทเ่ี ราจาเป็นตอ้ งพบแพทยเ์ พ่อื ใหก้ ารวนิ ิจฉยั ว่าเป็นโรคซมึ เศรา้ หรอื ไม่เน่อื งจาก มโี รคทางจติ เวชอ่นื
หลายโรคทม่ี อี าการคลา้ ยคลงึ กบั โรคซมึ เศรา้ โรคทางร่างกายหลายโรคและยาบางตวั กส็ ามารถก่อใหเ้ กดิ
อาการซึมเศร้าได้ ดงั ตัวอย่างในตารางท่ี * แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าการป่ วยเป็นโรคหรอื กาลงั ได้ยา
เหล่าน้ี จะตอ้ งเป็นสาเหตขุ องโรคซมึ เศรา้ เสมอไป ผปู้ ่วยบางคนอาจป่วยเป็นโรคซมึ เศรา้ จากสาเหตอุ น่ื ๆ
กไ็ ด้ การวนิ ิจฉยั จงึ เป็นเร่อื งละเอยี ดออ่ น และอาศยั ทกั ษะในการตรวจพอสมควร มพี บบา้ งเหมอื นกนั ว่า
ผปู้ ่วยมาดว้ ยอาการของโรคซมึ เศรา้ แต่พอรกั ษาไปไดร้ ะยะหน่ึงเรมิ่ มอี าการของโรคทางกายใหเ้ หน็ พอ
สง่ ตรวจเพมิ่ เตมิ กพ็ บเป็นโรคทางกายตา่ งๆ

6

ตารางท่ี 1 โรคหรอื ยาทอ่ี าจทาใหเ้ กดิ อาการคลา้ ยคลงึ กบั โรคซมึ เศรา้

โรค ยา

1. โรคสมองอกั เสบ โรคตบั อกั เสบ 1. ยาลดความดนั เลอื ด (เชน่ alphamethyldopa,

clonidine, propanolol)

2. โรคระบบประสาท เน้อื งอกในสมอง 2. ยารกั ษาโรคพารก์ นิ สนั (เช่น levodopa,

amantadine)

3. โรคเอส แอล อี (SLE) วณั โรค โรคเอดส์ 3. ยากลุ่มสเตยี รอยดแ์ ละฮอรโ์ มน (เช่น ยาคุม, เพรด

นิโซโลน)

4. โรคฮอรโ์ มนไทรอยดต์ ่า โรคคชุ ชง่ิ 4. ยารกั ษามะเรง็ (vincristine, vinblastine)

5. โรคขาดไวตามนิ (เช่น เพเลกรา เบอรเิ บอร)่ี 5. ยาอน่ื ๆ เช่น ไซเมทดิ นี , cyproheptadine

ในการวินิจฉัย โดยทวั่ ไปแพทยจ์ ะมขี นั้ ตอนดงั ต่อไปนี้

1.ถามอาการหรอื การเปล่ียนแปลงต่างๆ ท่ีเกิดข้นึ โดยเรมิ่ ตงั้ แต่เริ่มมีอาการครงั้ แรกไล่มา
ตามลาดบั จนปัจจุบนั ยง่ิ ผปู้ ่วยเลา่ อาการต่างๆ ทม่ี ไี ดล้ ะเอยี ด เลา่ ปัญหาทางจติ ใจทเ่ี กดิ ขน้ึ ไดม้ ากเท่าไร
แพทยก์ จ็ ะยงิ่ เขา้ ใจผปู้ ่วมากขน้ึ เท่านนั้

2.การซกั ถามในขนั้ ตอนน้ีนอกจากเพอ่ื ดวู ่าผปู้ ่วยเป็นโรคซมึ เศรา้ ไดห้ รอื ไม่แลว้ ยงั เพอ่ื พจิ ารณา
ว่าผู้ป่ วยอาจเป็นโรคทางจิตเวชอ่ืนๆ ท่ีมีลกั ษณะคล้ายคลึงกับอาการเหล่าน้ีหรอื ไม่ ขั้นตอนน้ีเป็น
ขนั้ ตอนทต่ี อ้ งอาศปั ระสบการณ์ในการดูแลผปู้ ่วย โดยเฉพาะในรายทอ่ี าการไมช่ ดั เจน เป็นประสบการณ์
และทกั ษะทต่ี อ้ งผ่านการฝึกฝนและการดแู ลผปู้ ่วยมาจานวนหน่งึ

3.ถามประวตั ิการเจ็บป่ วยต่างๆ ในอดีต โรคประจาตัว และยาท่ีใช้ประจา เพ่ือดูว่าอาจเป็น
สาเหตุของโรคซมึ เศรา้ ไดห้ รอื ไม่

4.ถามประวตั ิความเจ็บป่ วยในญาติสายเลือดเดียวกนั เพราะโรคซึมเศร้าเก่ียวข้องกับเร่อื ง
กรรมพนั ธเุ์ หมอื นกนั

5.ตรวจร่างกาย และส่งตรวจพเิ ศษทจ่ี าเป็น ในกรณีทส่ี งสยั ว่าผู้ป่วยอาจมโี รคทางร่างกายอ่นื ๆ
ทอ่ี าจเป็นสาเหตุของอาการต่างๆ ทพ่ี บ

6.แพทยอ์ าจซกั ประวตั เิ พม่ิ เตมิ จากญาตหิ รอื ผใู้ กลช้ ดิ เพอ่ื ทจ่ี ะไดท้ ราบเร่อื งราวหรอื าการต่างๆ
ไดช้ ดั เจนขน้ึ เพราะบางครงั้ คนรอบขา้ งอาจสงั เกตเหน็ อะไรไดช้ ดั เจนกวา่ ตวั ผทู้ ม่ี อี าการเอง

7

โรคอ่ืนที่มีอาการคล้ายคลงึ กบั โรคซึมเศรา้

ภาวะอารมณ์ซึมเศร้าจากการปรบั ตวั ไม่ได้กบั ปัญหาท่ีมากระทบ เป็นภาวะท่เี กดิ จากการ
ปรบั ตวั ไม่ไดก้ บั ปัญหาต่างๆ ทเ่ี ขา้ มากระทบ เช่น ย้ายบา้ น ตกงาน เกษียน เป็นต้น โดยจะพบอาการ
ซมึ เศรา้ ร่วมดว้ ยได้ แต่มกั จะไม่รุนแรง ถา้ มคี นมาพูดคุย ปลอบใจกจ็ ะดขี น้ึ บา้ ง อาจมเี บ่อื อาหารแต่เป็น
ไม่มาก ยงั พอนอนได้ เม่อื เวลาผ่านไป ค่อยๆ ปรบั ตัวได้กบั สถานการณ์ท่ีเปล่ียนไป ภาวะอารมณ์
ซมึ เศรา้ ทม่ี กี จ็ ะทเุ ลาลง

โรคอารมณ์สองขวั้ ในโรคอารมณ์สองขวั้ ผปู้ ่วยจะมอี าการเหมอื นกบั โรคซมึ เศรา้ อยู่ช่วงหน่ึง
และมอี ย่บู างช่วงทม่ี อี าการออกมาในลกั ษณะตรงกนั ขา้ มกบั อาการซึมเศรา้ เช่น อารมณ์ดเี บกิ บานมาก
ผดิ ปกติ พูดมาก ขยนั มาก เช่อื มนั่ ตวั เองมากกว่าปกติ ใช้เงนิ เปลอื ง เป็นต้น ซ่ึงทางการแพทย์เรยี ก
ระยะน้ีว่า ระยะแมเนีย ผทู้ เ่ี ป็นโรคอารมณ์สองขวั้ บางครงั้ จะมอี าการของโรคซมึ เศรา้ บางครงั้ กม็ อี าการ
ของภาวะแมเนยี

โรควิตกกงั วล พบบ่อยว่าผูท้ ่เี ป็นโรคซึมเศรา้ มกั จะมอี าการวติ กกงั วล ห่วงโน่นห่วงน่ี ซ่งึ เป็น
อาการหลกั ของโรควติ กกงั วล ท่ีต่างกนั คือในโรควติ กกงั วลนัน้ จะมอี าการหายใจไม่อมิ่ ใจสนั่ สะดุ้ง
ตกใจง่าย ร่วมด้วย อาการเบ่อื อาหารถงึ มกี เ็ ป็นไม่มาก น้าหนักไม่ลดลงมากเหมอื นผู้ป่วยโรคซึมเศรา้
และโรคซมึ เศรา้ นนั้ นอกจากอาการวติ กกงั วลแลว้ กจ็ ะพบอาการซมึ เศรา้ ทอ้ แท้ เบ่อื หน่ายชวี ติ ร่วมดว้ ย
โดยทอ่ี าการอารมณ์เศรา้ น้จี ะเหน็ เด่นชดั กว่าอาการวติ กกงั วล

8

สาเหตุ

ปัจจุบนั แนวคดิ เก่ยี วกับสาเหตุของโรคซึมเศร้านัน้ เช่ือกันว่าสมั พันธ์กบั หลายๆ ปัจจยั ทงั้ จากด้าน
กรรมพนั ธุ์ การพลดั พรากจากพอ่ แม่ในวยั เดก็ พฒั นาการของจติ ใจ รวมถงึ ปัจจยั ทางชวี ภาพ เช่น การ
เปลย่ี นแปลงของระดบั สารเคมใี นสมองบางตวั เป็นตน้
ปัจจยั สาคญั ๆ ทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั การเกดิ โรคซมึ เศรา้ ไดแ้ ก่

1.กรรมพนั ธ์ุ พบว่ากรรมพนั ธุ์มีส่วนเก่ียวข้องสูงในโรคซึมเศร้าโดยเฉพาะในกรณีของผู้ท่ีมี
อาการเป็นซ้าหลายๆ ครงั้

2.สารเคมีในสมอง พบว่าระบบสารเคมใี นสมองของผู้ป่วยโรคซึมเศรา้ มกี ารเปล่ยี นแปลงไป
จากปกติอย่างชัดเจน โดยมีสารท่ีสาคัญ ได้แก่ ซีโรโทนิน (serotonin) และนอร์เอพิเนฟ ริน
(norepinephrine) ลดต่าลง รวมทงั้ อาจมีความผดิ ปกติของเซลล์รบั ส่อื เคมเี หล่าน้ี ปัจจุบันเช่อื ว่าเป็น
ความบกพรอ่ งในการควบคุมประสานงานร่วมกนั มากกว่าเป็นความผดิ ปกตทิ ร่ี ะบบใดระบบหน่ึง ยาแก้
ซมึ เศรา้ ทใ่ี ชก้ นั นนั้ กอ็ อกฤทธโิ์ ดยการไปปรบั สมดุลยข์ องระบบสารเคมเี หลา่ น้ี

3.ลกั ษณะนิสยั บางคนมแี นวคดิ ทท่ี าใหต้ นเองซมึ เศรา้ เช่น มองตนเองในแงล่ บ มองอดตี เหน็
แต่ความบกพร่องของตนเอง หรอื มองโลกในแง่รา้ ย เป็นต้น บุคคลเหล่าน้ีเม่อื เผชญิ กบั สถานการณ์ท่ี
กดดนั เช่น ตกงาน หย่ารา้ ง ถูกทอดท้งิ กม็ แี นวโน้มทจ่ี ะเกดิ อาการซมึ เศรา้ ไดง้ ่าย ซ่งึ หากไม่ได้รบั การ
ช่วยเหลอื ทเ่ี หมาะสมอาการอาจมากจนกลายเป็นโรคซมึ เศรา้ ได้
โรคซมึ เศรา้ นนั้ ไม่ไดม้ สี าเหตุจากแต่เพยี งปัจจยั ใดปัจจยั หน่งึ เท่านนั้ เหมอื นกบั การป่วยเป็นไขห้ วดั กม็ กั
เป็นจากร่างกายอ่อนแอ จากพักผ่อนน้อย ไม่ได้ออกกาลงั กาย ขาดสารอาหาร ถูกฝน อากาศเย็น
ร่วมกับการได้รบั เช้ือไวรสั ท่ีทาให้เกิดไข้หวดั ถ้าเราแขง็ แรงดี แม้จะได้รบั เช้อื หวดั ก็ไม่เป็นอะไร ใน
ทานองเดียวกนั ถ้าร่างกายเราอ่อนแอ แต่ไม่ได้รบั เช้อื หวดั ก็ไม่เกดิ อาการ การเรมิ่ เกดิ อาการของโรค
ซมึ เศรา้ นนั้ มกั มปี ัจจยั กระตุน้ มากบา้ งน้อยบา้ ง บางครงั้ อาจไม่มกี ไ็ ดซ้ ง่ึ พบไดน้ ้อย อย่างไรกต็ าม การมี
สาเหตุท่เี หน็ ชดั ว่าเป็นมาจากความกดดนั ดา้ นจติ ใจน้ี มไิ ดห้ มายความว่าสงิ่ ท่เี กดิ ขน้ึ นัน้ เป็นเร่อื งปกติ
ธรรมดาของคนเราไม่ว่าจะรุนแรงแค่ไหน การพจิ ารณาว่าการเปลย่ี นแปลงทเ่ี กดิ ขน้ึ นัน้ ผดิ ปกตหิ รอื ไม่
เราดูจากการมีอาการต่าง ๆ และความรุนแรงของอาการเป็ นหลัก ผู้ท่ีมีอาการเข้ากับเกณฑ์การ
วนิ ิจฉยั โรคซมึ เศรา้ นนั้ บ่งถงึ ภาวะของความผดิ ปกตทิ จ่ี าตอ้ งไดร้ บั การช่วยเหลอื

9

การรกั ษา

โรคซึมเศรา้ น้ีหากไดร้ บั การรกั ษาผูท้ เ่ี ป็นจะอาการดขี ้นึ มาก อาการซมึ เศรา้ รอ้ งไหบ้ ่อยๆ หรอื
รสู้ กึ ทอ้ แทห้ มดกาลงั ใจ จะกลบั มาดขี น้ึ จนผทู้ เ่ี ป็นบางคนบอกว่าไม่เขา้ ใจว่าตอนนนั้ ทาใมจงึ รสู้ กึ เศรา้ ไป
ไดถ้ งึ ขนาดนัน้ ขอ้ แตกต่างระหว่างโรคน้ีกบั โรคจิตทส่ี าคญั ประการหน่ึงคอื ในโรคซึมเศรา้ ถ้าไดร้ บั การ
รกั ษาจนดแี ล้วก็จะกลบั มาเป็นปกตเิ หมอื นเดมิ ขณะท่ใี นโรคจติ นัน้ แม้จะรกั ษาได้ผลดีผูท้ ่เี ป็นก็มกั จะ
ยงั คงมอี าการหลงเหลอื อยู่บ้าง ไม่สามารถทาอะไรไดเ้ ต็มท่เี หมอื นแต่ก่อน ยงิ่ หากมารบั การรกั ษาเรว็
เท่าไรกย็ ง่ิ จะอาการดขี น้ึ เรว็ เท่านนั้ ยงิ่ ป่วยมานานกย็ ง่ิ จะรกั ษายาก

การรกั ษาทส่ี าคญั ในโรคน้ีคอื การรกั ษาดว้ ยยาแกซ้ มึ เศรา้ โดยเฉพาะในรายทอ่ี าการมาก สว่ นใน
รายท่ีมอี าการไม่มาก แพทย์อาจรกั ษาด้วยการช่วยเหลือช้แี นะการมองปัญหาต่างๆ ในมุมมองใหม่
แนวทางในการปรบั ตวั หรอื การหาสง่ิ ท่ชี ่วยทาใหจ้ ติ ใจผ่อนคลายความทุกข์ใจลง ร่วมกบั การให้ยาแก้
ซมึ เศรา้ หรอื ยาคลายกงั วลเสรมิ ในชว่ งทเ่ี หน็ วา่ จาเป็นการรกั ษาดว้ ยยาแก้ซมึ เศรา้
ยาแกซ้ มึ เศรา้ มสี ว่ นช่วยในการรกั ษาโรคน้ี แมผ้ ทู้ ป่ี ่วยบางคนอาจรู้สกึ ว่าความทุกขใ์ จหรอื ปัญหาตา่ งๆท่ี
เกดิ ขน้ึ กบั ตนเองนนั้ เป็นเร่อื งของจติ ใจแต่ดงั ทไ่ี ดก้ ล่าวมาแลว้ ว่าถา้ เป็นโรคซมึ เศรา้ แลว้ แสดงว่าไดม้ กี าร
เปลย่ี นแปลงเกดิ ขน้ึ ในร่างกายของคนเราจนทาใหเ้ กดิ มอี าการต่างๆ เช่น น้าหนกั ลด อ่อนเพลยี นอนไม่
หลบั ร่วมอกี หลายๆ อาการ ไม่ใช่มแี ต่เพียงอารมณ์เศรา้ อย่างเดียว ซ่ึงยาจะมสี ่วนช่วยในการบาบัด
อาการต่างๆ เหล่าน้ี อีกทงั้ ยงั สามารถทาให้อารมณ์ซึมเศร้า ความวติ กกงั วลใจทุเลาลงได้ด้วย จ าก
การศกึ ษาพบว่าผปู้ ่วยทเ่ี ป็นโรคซมึ เศรา้ 10 คนหากไดร้ บั การรกั ษาดว้ ยยาแก้ซมึ เศรา้ อาการจะดขี น้ึ จน
หายถงึ 8-9 คน ในขณะทห่ี ากไม่รบั การรกั ษานนั้ อาการจะดเี องขน้ึ เพยี ง 2-3 คนเท่านนั้ (เฉพาะในรายท่ี
อาการไมร่ ุนแรง หากอาการรนุ แรงอาจจะกลา่ วไดว้ า่ ยากทจ่ี ะหายเอง)

10

ขอ้ ควรทราบเกี่ยวกบั การรกั ษาด้วยยาแก้ซึมเศร้า

1.อาการของโรคไม่ไดห้ ายทนั ทที ่กี นิ ยา โดยเฉพาะอาการซึมเศรา้ โดยส่วนใหญ่แลว้ จะใชเ้ วลา
ประมาณ 1-2 สปั ดาหข์ ้นึ ไปอาการจงึ จะดขี น้ึ อย่างเหน็ ชดั แต่ยาก็ยงั มสี ว่ นช่วยในระยะแรกๆ โดยทาให้
ผู้ป่ วยหลับได้ดีข้ึน เจรญิ อาหารข้ึน เร่ิมรู้สึกมีเร่ยี วแรงจะทาอะไรมากข้ึน ความรู้สึก กลัดกลุ้มหรือ
กระสบั กระสา่ ยจะเรม่ิ ลดลง

2.ยาทกุ ชนิดสามารถทาใหเ้ กดิ อาการขา้ งเคยี งไดท้ งั้ สน้ิ ไมว่ ่าจะเป็นยาแกป้ วด ยาแกแ้ พ้ หรอื ยา
ระบาย กต็ าม แม้ว่าโอกาสท่เี กดิ อาการขา้ งเคยี งจะมากน้อย และมคี วามรุนแรงต่างกนั ไป การใชย้ าจงึ
ควรใชใ้ นขนาดและกนิ ตามเวลาทแ่ี พทยส์ งั่ เท่านนั้ หากมคี วามจาเป็นทท่ี าใหก้ นิ ยาตามสงั่ ไมไ่ ด้ และควร
แจง้ แพทยท์ ุกครงั้ หากเกดิ อาการใดๆ ทไ่ี ม่แน่ใจวา่ เป็นอาการขา้ งเคยี งหรอื ไม่

3.ผู้ป่ วยจานวนไม่น้อยท่ไี ม่กล้ากินยามากตามท่แี พทย์สงั่ แพทย์สงั่ กนิ 4 เมด็ ก็กนิ แค่ 2 เม็ด
หรอื กนิ บา้ งหยุดกนิ บ้าง เพราะกลวั ว่าจะตดิ ยา หรอื กลวั ว่ายาจะไปสะสมอย่ใู นร่างกาย แต่ตามจรงิ แล้ว
ยาแก้ซมึ เศร้าไม่มกี ารตดิ ยา ถ้าขาดยาแลว้ มอี าการไม่สบาย นัน่ เป็นเพราะว่ายงั ไม่หายจากอาการของ
โรค การกนิ ๆ หยดุ ๆ หรอื กนิ ไมค่ รบขนาดกลบั จะยง่ิ ทาใหก้ ารรกั ษาไมไ่ ดผ้ ลดี และรกั ษายากมากขน้ึ

4.ยาแก้ซึมเศร้ามอี ยู่เป็นสิบขนาน จากการศึกษาไม่พบว่าตวั ไหนดีกว่าตวั ไหนอย่างชดั เจน
เรยี กว่าผู้ป่วยคนไหนจะถูกกบั ยาตวั ไหนเป็นเร่อื งเฉพาะตวั หรอื ลางเน้ือชอบลางยา ซ่งึ โดยรวมแลว้ ก็
มกั จะรกั ษาไดผ้ ลทุกตวั การใชย้ าขน้ึ อย่กู บั ว่าแพทยม์ คี วามชานาญ คุน้ เคยกบั การใชย้ าขนานไหน และ
ผู้ป่ วยมีโรคทางกายหรอื กาลงั กินยาอ่ืนๆ ท่ีทาให้ใช้ยาบางตัวไม่ได้หรือไม่ ส่วนใหญ่แล้วผู้ป่ วยจะ
ตอบสนองต่อยาแก้ซมึ เศรา้ ตวั แรกทใ่ี ห้ หากอาการยงั ไม่ดใี นระยะแรกๆ อาจเป็นเพราะยงั ปรบั ยาไม่ได้
ขนาด หรอื ยงั ไม่ไดร้ ะยะเวลาทย่ี าออกฤทธิไ์ ด้เตม็ ทเ่ี สยี มากกว่า ถ้าแพทยร์ กั ษาไประยะหน่ึงแลว้ และ
เหน็ ว่าใหย้ าในขนาดทพ่ี อเพยี งแลว้ ผปู้ ่วยยงั อาการดขี น้ึ ไม่มาก กอ็ าจเปลย่ี นไปใชย้ าตวั อ่นื ต่อไป

อาการข้างเคียงท่ีพบได้ในยาแก้ซึมเศร้ากล่มุ เก่า

ยากลุ่มน้ีท่ีเดิมใช้กันบ่อยได้แก่ amitriptyline และ nortriptyline แต่เน่ืองจากมีอาการข้างเคียง
ค่อนขา้ งมาก โดยเฉพาะเม่อื ใชใ้ นขนาดรกั ษาโรคซมึ เศรา้ (amitriptyline เมด็ ละ 25 มก. วนั ละ 2-3 เมด็ )
ปัจจุบนั จงึ ไม่นิยมใช้กนั แลว้ แพทย์ทวั่ ไปอาจมกี ารสงั่ ใชย้ า 2 ขนานน้ีอยู่ในการรกั ษาผู้ป่วยท่มี ภี าวะ
ปวดเรอ้ื รงั หรอื เพอ่ื ป้องกนั ปวดศรี ษะไมเกรน ซง่ึ ขนาดจะไมส่ งู มาก (10-25 มก.ตอ่ วนั )
1.ง่วง เพลยี ซมึ ๆ ยาแต่ละตวั มฤี ทธทิ์ าใหง้ ่วงมากน้อยแตกต่างกนั ยาทพ่ี บบ่อยไดแ้ ก่ อะมทิ รปิ ไทลนี
และดอ็ กเซปิน แพทยจ์ งึ มกั ใหย้ าเหล่าน้กี นิ ตอนเยน็ หรอื ก่อนนอน ซง่ึ กเ็ หมาะกบั โรค เพราะโรคน้ีผทู้ เ่ี ป็น
มกั จะนอนหลบั ไม่ดอี ย่แู ลว้ ยาจงึ ช่วยใหห้ ลบั ไดโ้ ดยไม่ต้องใชย้ านอนหลบั ในชว่ งแรกของการรกั ษาหา้ ม
ขบั รถและควรหลกี เลย่ี งการทางานกบั เคร่อื งจกั ร เน่ืองจากการงว่ งซึมแม้จะมเี พยี งเลก็ น้อยกอ็ าจทาให้

11

การตดั สนิ ใจ หรอื การเคล่อื นไหวท่ตี ้องการความรวดเรว็ นัน้ เช่อื งช้าลงไดม้ าก หากสงั เกตว่ากนิ ยาแล้ว
ง่วงมาก ซึมแทบทงั้ วนั ควรแจง้ แพทยเ์ พ่อื จะไดพ้ จิ ารณาปรบั ยา แต่พบว่าบางครงั้ พอกนิ ยาไปนานๆ
เขา้ กลบั ไม่มงี ว่ งเหมอื นเดมิ อกี กม็ ี
2.อาการปากคอแหง้ เป็นอาการขา้ งเคยี งทพ่ี บไดบ้ อ่ ย แกโ้ ดยใหจ้ บิ น้าบอ่ ยๆ
3.ตามวั มองเหน็ ไมช่ ดั อาการพวกน้จี ะค่อยๆ ดขี น้ึ เอง ไมต่ ้องตดั แว่นใหม่
4.ทอ้ งผกู กนิ อาหารจาพวกผกั ผลไมท้ ม่ี กี ากมากๆ หรอื อาจกนิ มะขามเปียกช่วยในการระบาย
5.เวยี นศรี ษะ หน้ามดื จากยาไปทาใหห้ ลอดเลอื ดขยายตวั เลอื ดจงึ คา้ งอย่ใู นร่างกายมาก ไปเล้ยี งสมอง
น้อย อาการน้ีมกั เป็นเวลาเปลย่ี นอริ ยิ าบท เช่น นอนนานๆ นัง่ นานๆ แลว้ ลุกกระทนั หนั หากมอี าการ
บ่อยๆ อาจแก้โดยรบั ประทานของเคม็ ๆ บอ่ ยขน้ึ เพ่อื ทาใหค้ วามดนั เลอื ดเพมิ่ มากขน้ึ (ผทู้ เ่ี ป็นโรคความ
ดนั สูงอยู่ไม่ควรใชว้ ธิ นี ้ี) การเปล่ยี นท่าทางต้องค่อยๆ ทา หากจะลุกจากต่นื นอน ให้ลุกนัง่ สกั พกั หน่ึง
ขยบั แขนขาไปมา ใหเ้ ลอื ดไหลเวยี นดี แลว้ จงึ ค่อยๆ ลุกขน้ึ หากมอี าการเวยี นศรี ษะขณะยนื อย่ใู หร้ บี นัง่
พงิ พนักหรอื นอนทนั ที ถา้ ยง่ิ นอนในท่าทส่ี ว่ นศรี ษะต่ากว่าส่วนลาตวั และยกขาสงู ไดก้ ย็ งิ่ ดี หากมอี าการ
เชน่ น้บี ่อยๆ แกไ้ ขแลว้ ยงั ไม่ดขี น้ึ ควรแจง้ แพทย์ ซง่ึ แพทยอ์ าจปรบั ลดยาลงหรอื เปลย่ี นยา

อาการข้างเคียงที่พบได้ในยาแก้ซึมเศร้ากลุ่มใหม่
ยาแก้ซมึ เศร้ากลุ่มใหม่น้ี มอี าการขา้ งเคยี งน้อยกว่ายากลุ่มเก่า โดยเฉพาะอาการปากคอแห้ง ทอ้ งผูก
หรอื อาการหน้ามดื เวยี นศรี ษะ ในทน่ี ้ีจะกล่าวเฉพาะยากลุ่มใหม่ทอ่ี อกฤทธเิ์ ฉพาะระบบซโี รโตนนิ (กลุ่ม
ทม่ี เี คร่อื งหมาย * ในตาราง) เน่ืองจากเป็นยาทใ่ี ชข้ นานแรกในการรกั ษาโรคซมึ เศรา้ ยากลุ่มน้ีออกฤทธิ์
ในการรกั ษาโดยไปปรบั สารเคมีในสมองเฉพาะระบบซีโรโตนิน ยาแต่ละขนานจะมอี าการข้างเคยี ง
ต่อไปน้มี ากน้อยตา่ งกนั

1.กระวนกระวาย บางคนกนิ ยาแลว้ มอี าการกระวนกระวาย ซ่งึ พบได้กบั ยาแก้ซมึ เศรา้ กลุ่มใหม่
ขนานอน่ื บางตวั เหมอื นกนั (ดใู นตาราง) ถ้ากนิ ยาแลว้ รสู้ กึ ว่าตนเองหงุดหงดิ งา่ ยขน้ึ กระวนกระวาย รสู้ กึ
เหมอื นอย่ไู ม่สขุ ตอ้ งทาโน่นทาน่ี ใหบ้ อกแพทย์ ซง่ึ แพทยอ์ าจใหย้ าคลายกงั วลร่วม ลดขนาดยาลง หรอื
เปลย่ี นไปใชย้ าขนานอ่นื

2.นอนไม่หลบั ขอ้ ดขี องยาเหล่าน้ีคอื ไม่ทาใหง้ ว่ งนอน แพทยจ์ งึ มกั นิยมใหต้ อนเชา้ หากกนิ ก่อน
นอนแลว้ อาจจะทาใหห้ ลบั ไม่ดไี ด้

3.คล่นื ไส้ บางคนกนิ ยาแลว้ มอี าการพะอดื พะอม คล่นื ไส้ จุก แน่นทอ้ ง ส่วนใหญ่มกั จะเป็นช่วง
สนั้ ๆ หลงั กนิ ยา ถา้ มอี าการใหล้ องเปลย่ี นมากนิ ยาตอนทอ้ งวา่ ง (ก่อนกนิ อาหาร) ถา้ เป็นมอ้ื เชา้ กค็ อื ต่นื
มาสกั ครกู่ ก็ นิ ยาเลย ถา้ ยงั ไม่ดขี น้ึ ใหแ้ จง้ แพทย์

4.ปวดหวั มกั เป็นไมน่ าน ดขี น้ึ เอง

12

แพทยร์ กั ษาอยา่ งไร

หลงั จากแพทยป์ ระเมนิ อาการจนค่อนขา้ งแน่ใจแลว้ ว่าผู้ป่วยเป็นโรคซึมเศรา้ โดยไม่มสี าเหตุมาจากโรค
ทางร่างกายอ่ืนๆ ก็จะเรมิ่ ให้การรกั ษาโดยให้ยาขนาดต่าก่อน นัดติดตามการรกั ษาอกี ประมาณ 1-2
สปั ดาห์ต่อมา ถา้ ผู้ป่วยไม่มอี าการขา้ งเคยี งอะไรก็จะค่อยๆ ปรบั ยาขน้ึ ไปทุกๆ 1-2 สปั ดาหจ์ นไดข้ นาด
ในการรกั ษา

แพทยจ์ ะรบั ไวใ้ นโรงพยาบาลเม่ือ
1.ผปู้ ่วยมอี าการรุนแรงต้องการการดูแลอย่างใกลช้ ดิ เช่น ไม่กนิ อาหารเลย อยู่นิ่งๆ ตลอดวนั คดิ อยาก
ตายหรอื พยายามฆา่ ตวั ตาย
2.แพทยต์ อ้ งการตรวจเพมิ่ เตมิ อยา่ งละเอยี ด เพอ่ื การวนิ จิ ฉยั และรกั ษาทถ่ี กู ตอ้ ง
3.แพทยเ์ หน็ วา่ การรกั ษาดว้ ยยาตอ้ งดแู ลใกลช้ ดิ เช่น ผปู้ ่วยทม่ี โี รคทางกาย ผปู้ ่วยสงู อายุ เป็นตน้

ระยะเวลาในการรกั ษา
หลงั จากทร่ี กั ษาจนผปู้ ่วยอาการดขี น้ึ แลว้ แพทยจ์ ะใหย้ าในขนาดใกลเ้ คยี งกบั ขนาดเดมิ ต่อไปอกี นาน 4-
6 เดอื น เน่อื งจากพบวา่ ในช่วงน้ีผปู้ ่วยทห่ี ยุดยาไปกลบั เกดิ อาการกาเรบิ ขน้ึ มาอกี สงู เมอ่ื ใหย้ าไปจนครบ
6 เดอื นโดยท่ผี ู้ป่ วยไม่มอี าการเลยในระหว่างน้ี แพทย์จึงจะค่อยๆ ลดยาลงโดยใช้เวลาประมาณ 1-2
เดอื นจนหยดุ ยาในทส่ี ุด
แมว้ า่ จะหายจากการป่วยในครงั้ น้ีแลว้ ยงั พบว่ามผี ปู้ ่วยจานวนหน่ึงทม่ี โี อกาสเกดิ กลบั มาป่วยซ้าอกี โดย
พบว่าเกอื บคร่งึ หน่ึงของผู้ป่ วยท่ปี ่ วยครงั้ แรกมโี อกาสท่ีจะเกิดป่ วยซ้าอกี ได้ บางคนหายปี 2-3 ปีแล้ว
กลบั เป็นใหม่ ในขณะท่ีบางคนหายไปเป็น 5-7 ปีก็มี ซ่ึงบอกยากว่าใครจะกลบั มาเป็นอกี และจะเป็น
เม่อื ไร หลกั การโดยทวั่ ๆ ไปคอื ถา้ เป็นครงั้ ทส่ี อง โอกาสเกดิ เป็นครงั้ ทส่ี ามกส็ งู ขน้ึ และถา้ เป็นครงั้ ทส่ี าม
โอกาสเป็นครงั้ ทส่ี ก่ี ย็ งิ่ สงู ขน้ึ ไปอกี และการกาเรบิ ในครงั้ ต่อๆ ไปจะกระชนั้ เขา้ ดงั นนั้ ถ้าป่วย 3 ครงั้ แลว้
จาเป็นตอ้ งกนิ ยากนั ไม่ให้กลบั เป็นซ้าไปนานเป็นปีๆ แต่ถ้าเป็น 2 ครงั้ และมลี กั ษณะต่างๆ ทแ่ี พทยเ์ หน็
วา่ มคี วามเสย่ี งกอ็ าจใหย้ าป้องกนั เช่นกนั
ขอ้ บ่งชี้ในการป้องกนั ระยะยาว
1.มอี าการมาแลว้ 3 ครงั้
2.มอี าการมาแลว้ 2 ครงั้ ร่วมกบั มภี าวะตอ่ ไปน้ี
3.ญาตใิ กลช้ ดิ สายเลอื ดเดยี วกนั มปี ระวตั ปิ ่วยเป็นโรคน้ีซ้าๆ หลายครงั้ หรอื ป่วยเป็นโรคอารมณ์สองขวั้
4.มปี ระวตั กิ ลบั มาป่วยซา้ อกี ภายใน 1 ปี หลงั จากหยดุ การรกั ษา
5.เรมิ่ มอี าการครงั้ แรกขณะอายุยงั น้อย (ต่ากว่า 20 ปี)
6.มอี าการทเ่ี ป็นเรว็ รุนแรง หรอื อนั ตรายมา 2 ครงั้ ภายในช่วงเวลา 3 ปี

13

ผปู้ ่วยท่กี นิ ยาป้องกนั มกั จะกนิ ไปนานประมาณ 3-5 ปี ผปู้ ่วยทไ่ี ดร้ บั ยาป้องกนั มไิ ดห้ มายความว่าจะไม่
เกดิ อาการอกี เลย พบว่าผปู้ ่วยสว่ นน้อยอาจเกดิ อาการเหมอื นเดมิ อกี ผปู้ ่วยบางคนเกดิ อาการอกี แต่เป็น
น้อยและเป็นแคช่ ่วงสนั้ ๆ เม่อื เพม่ิ ยาขน้ึ อาการกห็ ายไป ในขณะทผ่ี ปู้ ่วยสว่ นใหญไ่ ม่มอี าการอกี การทก่ี าร
กนิ ยาป้องกนั ระยะยาวมคี วามสาคญั เพราะจากการศกึ ษาในระยะหลงั ๆ น้ีทราบค่อนขา้ งแน่ชดั แลว้ ว่า
หากผปู้ ่วยมอี าการกาเรบิ ขน้ึ บ่อยๆ การรกั ษาจะยงุ่ ยากมาขน้ึ ในระยะหลงั ๆ และอาการอาจเป็นถม่ี ากขน้ึ

คาแนะนาสาหรบั ผ้ปู ่ วย
ผูท้ ่ปี ่ วยเป็นโรคน้ีมกั รู้สกึ ว่าตนเองไม่มคี ่า ไม่มใี ครสนใจ ต้องรบั ความกดดนั ต่างๆ แต่ผูเ้ ดยี ว รูส้ กึ ส้นิ
หวงั ไม่อยากจะสปู้ ัญหาอะไรๆ อกี แลว้ แต่ขอใหค้ วามมนั่ ใจวา่ ความรสู้ กึ เชน่ น้ีไม่ไดเ้ ป็นอยตู่ ลอดไป โรค
น้ีรกั ษาใหห้ ายขาดได้ เม่อื อาการของโรคดขี น้ึ มุมมองต่อสง่ิ ต่างๆ ในแง่ลบจะเปล่ยี นไป ความมนั่ ใจใน
ตนเองจะมเี พม่ิ ขน้ึ มองเหน็ ปัญหาตา่ งๆ ในมมุ มองอน่ื ๆ ทแ่ี ตกตา่ งออกไปจากเดมิ มากขน้ึ
ในขณะทค่ี ุณกาลงั ซมึ เศรา้ อย่นู นั้ มขี อ้ แนะนาดงั ตอ่ ไปน้ี

1.การออกกาลงั กาย การออกกาลงั กายนอกจากจะช่วยทางร่างกายแลว้ จติ ใจกย็ งั จะดขี ้นึ ด้วย
โดยในผูท้ ม่ี อี าการซมึ เศรา้ ไม่มาก จะรสู้ กึ ว่าจติ ใจคลายความเศรา้ และแจ่มใสขน้ึ ได้ การออกกาลงั กายท่ี
ดจี ะเป็นการออกกาลงั แบบแอโรบกิ เช่น วง่ิ เดนิ ว่ายน้า ซ่งึ จะช่วยให้หลบั ไดด้ ขี น้ึ การกนิ อาหารดขี น้ึ
การขบั ถ่ายดขี น้ึ ถา้ ไดอ้ อกกาลงั กายร่วมกบั ผอู้ ่นื ดว้ ยกจ็ ะยงิ่ ช่วยเพม่ิ การเขา้ สงั คม ไม่รสู้ กึ ว่าตนเองโดด
เดย่ี ว

2.อย่าตงั้ เป้าหมายในการทางานและการปฏิบัติตัวท่ียากเกินไป ช่วงน้ีเป็นช่วงเวลาท่ีเรายงั
ต้องการการพกั ผ่อน ทงั้ ทางร่างกายและจติ ใจ การกระตุน้ ตนเองมากไปกลบั ยงิ่ จะทาใหต้ วั เองรสู้ กึ แย่ท่ี
ทาไม่ไดอ้ ยา่ งทห่ี วงั

3.เลือกกิจกรรมท่ีทาให้เกิดความรู้สึกท่ีดีๆ โดยมักจะเป็ นส่ิงท่ีเราเคยชอบ เช่น ไปเท่ียว
สวนสาธารณะ ไปเทย่ี วชายทะเล ชวนเพอ่ื นมาทบ่ี า้ น พยายามทากจิ กรรมทท่ี าร่วมกบั คนอ่นื มากกว่าท่ี
จะอยู่คนเดียว หลักการเก่ียวกับอารมณ์ความรู้สึกอย่างหน่ึงก็คือ ความรู้สกึ ท่ีเกิดข้ึนน้ีจะไม่คงอยู่
ตลอดไป แต่จะขน้ึ ๆ ลงๆ ในแตล่ ะช่วง คนทม่ี คี วามโศกเศรา้ มกั จะรสู้ กึ หมดหวงั คดิ ว่าความรสู้ กึ น้ีจะคง
อยกู่ บั ตนเองตลอดเวลา ในความเป็นจรงิ แลว้ จะมอี ยบู่ างช่วงทอ่ี ารมณ์เศรา้ น้เี บาบางลง ซง่ึ จะเป็นโอกาส
ทใ่ี หเ้ ราเรม่ิ กจิ กรรมทส่ี รา้ งสรรค์ เพอ่ื ใหม้ คี วามรสู้ กึ ทด่ี ขี น้ึ

4.อย่าตดั สนิ ใจเร่อื งท่สี าคญั ต่อชวี ติ เช่นการหย่า การลาออกจากงาน ณ ขณะท่เี รากาลงั อย่ใู น
ภาวะซมึ เศรา้ น้กี ารมองสงิ่ ตา่ งๆ ในแงล่ บอาจทาใหก้ ารตดั สนิ ใจผดิ พลาดไปได้ ควรเลอ่ื นการตดั สนิ ใจไป
ก่อน หากจาเป็นหรอื เห็นว่าปัญหานัน้ ๆ เป็นสง่ิ ท่กี ดดนั เราทาให้อะไรๆ แย่ลวงจรงิ ๆ ก็ควรปรกึ ษาผู้
ใกลช้ ดิ หลายๆ คนใหช้ ่วยคดิ

14

5.การมองปัญหาโดยไม่แยกแยะจะทาใหเ้ กดิ ความรสู้ กึ ทอ้ แท้ ไมร่ จู้ ะทาอย่างไร การแกป้ ัญหาให้
แยกแยะปัญหาใหเ้ ป็นสว่ นย่อยๆ จดั เรยี งลาดบั ความสาคญั วา่ เร่อื งไหนควรทาก่อนหลงั แลว้ ลงมอื ทาไป
ตามลาดบั โดยทง้ิ ปัญหาย่อยอ่นื ๆ ไวก้ ่อน วธิ นี ้ีจะพอชว่ ยใหร้ สู้ กึ ว่าตนเองยงั ทาอะไรไดอ้ ยู่

คาแนะนาสาหรบั ญาติ
ญาตมิ กั จะรสู้ กึ หว่ งผทู้ เ่ี ป็น ไม่เขา้ ใจวา่ ทาไมเขาถงึ ไดซ้ มึ เศรา้ มากขนาดน้ี ทงั้ ๆ ทเ่ี ร่อื งทม่ี ากระทบกด็ ไู ม่
หนกั หนานก ทาใหบ้ างคนพาลรสู้ กึ โกรธ ขนุ่ เคอื ง เหน็ ว่าผปู้ ่วยเป็นคนออ่ นแอ เป็นคน “ไม่ส”ู้ ทาไมเร่อื ง
แคน่ ้ถี งึ ตอ้ งเศรา้ เสยี ใจขนาดน้ี ท่าทเี ชน่ น้ีกลบั ยง่ิ ทาใหผ้ ทู้ เ่ี ป็นรสู้ กึ วา่ ตวั เองยง่ิ แย่ขน้ึ ไปอกี เกดิ ความรสู้ กึ
วา่ ตนเองเป็นภาระแก่ผอู้ ่นื ทาใหจ้ ติ ใจยง่ิ ตกอย่ใู นความทุกขแ์ ต่ทงั้ น้ี ภาวะทเ่ี ขาเป็นน้ีไม่ใช่อารมณ์เศรา้
ธรรมดา หรอื เป็นจากจติ ใจอ่อนแอ หากแต่เป็นภาวะของความผดิ ปกติ เขากาลงั “เจบ็ ป่วย” อยู่ หากจะ
เปรยี บกบั โรคทางกายเช่น โรคปอดบวม อาจจะทาให้พอเหน็ ภาพชดั ขน้ึ คนเป็นโรคปอดบวมจะมกี าร
อกั เสบของปอด เสมหะเหนยี วอุดตนั ตามหลอดลม ทาใหม้ อี าการหอบเหน่ือย เจบ็ หน้าอก มไี ข้ สงิ่ ทเ่ี ขา
เป็นนนั้ เขาไม่ไดแ้ กลง้ ทา หากแต่เป็นเพราะมคี วามผดิ ปกตอิ ยู่ภายในร่างกาย เขากาลงั เจบ็ ป่วยอยู่ กบั
โรคซมึ เศรา้ กเ็ ป็นเช่นเดยี วกนั ความกดดนั ภายนอกทร่ี ุมเรา้ ร่วมกบั ปัจจยั เสย่ี งหลายๆ อย่างในตวั เองทงั้
ทางร่างกายและจิตใจ ทาให้มีการเปล่ียนแปลงของสารเคมีและระบบฮอร์โมนต่างๆ ในสมอง เกิดมี
อาการต่างๆ ตามมาทงั้ ทางกายและใจนอกเหนือไปจากความเศรา้ โศก ณ ขณะนัน้ นอกจากอารมณ์ท่ี
เปล่ยี นไปแล้ว ยงั พบมอี าการทางร่างกาย ต่างๆ นาๆ รวมด้วย ความคดิ เห็น มุมมองต่อสง่ิ ต่างๆ ก็
เปลย่ี นไปดว้ ย การมองสงิ่ ต่างๆ ในแงล่ บ กก็ ลบั จะยง่ิ ไปส่งเสรมิ ใหจ้ ติ ใจเศรา้ หมอง กลดั กลุม้ มากขน้ึ ไป
อกี เขาหา้ มใหต้ วั เองไม่เศรา้ ไม่ได้ ทงั้ หมดน้ีเป็นปรากฏการณ์ของความเจบ็ ป่วย ซ่งึ เม่อื ไดร้ บั การรกั ษา
หายแลว้ อารมณ์เศรา้ หมองกจ็ ะดขี น้ึ จติ ใจแจ่มใสขน้ึ การมองสงิ่ รอบตวั กจ็ ะเปลย่ี นไป อาการต่างๆ จะ
คอ่ ยๆ หายไปหากญาตมิ คี วามเขา้ ใจผทู้ เ่ี ป็น โรคซมึ เศรา้ มองว่าเขากาลังไม่สบาย ความคาดหวงั ในตวั
เขาก็จะลดลง ความหงุดหงดิ คบั ข้องใจก็ลดลง เรามกั จะให้อภัยคนท่ีกาลงั ไม่สบาย มขี ้อยกเว้นให้
บางอย่าง เพราะเราทราบดวี า่ เขาไม่ไดแ้ กลง้ ทา ไม่มใี ครอยากป่วย

ข้อควรทราบ
1.โรคน้ีไม่ได้อาการดขี น้ึ ทนั ทที ก่ี นิ ยา การรกั ษาตอ้ งใช้เวลาบา้ ง ส่วนใหญ่จะเป็นสปั ดาห์ อาการจงึ จะดี
ขน้ึ อยา่ งเหน็ ชดั จงึ ไม่ควรคาดหวงั จากผปู้ ่วยมากเกนิ ไป
2.การรกั ษาด้วยยามคี วามสาคญั ควรช่วยดแู ลเร่อื งการกนิ ยา โดยเฉพาะในช่วงแรกทผ่ี ู้ป่วยยงั ซึมเศร้า
มาก หรอื อาจมคี วามคดิ อยากตาย
3.การตดั สนิ ใจในชว่ งน้ีจะยงั ไม่ดี ควรใหผ้ ปู้ ่วยเลย่ี งการตดั สนิ ใจในเร่อื งสาคญั ๆ ไปกอ่ นจนกว่าจะเหน็ ว่า
อาการเขาดขี น้ึ มากแลว้

15

บรรณานุกรม
มหาวทิ ยาลยั มหดิ ลคณะแพทยศาสตรโ์ รงพยาบาลรามาธบิ ดี (2557) โรคซมึ เศรา้ มหาวทิ ยาลยั มหดิ ล
โรงพยาบาลรามาธบิ ดศี นู ยก์ ารแพทยส์ ริ กิ ติ ศิ์ ูนยก์ ารแพทยส์ มเดจ็ พระเทพรตั น์สถาบนั การแพทยจ์ กั รี
นฤบดนิ ทร์ สบื คน้ 24 พฤษภาคม 2565,
https://www.rama.mahidol.ac.th/ramamental/generalknowledge/general/09042014-1017
บทความโดย: ศ.นพ.มาโนช หล่อตระกูล
เครดติ รปู ภาพ:
1. http://st-listas.20minutos.es/images/2014-06/383351/4465786_640px.jpg?14...
2. http://www.peterboroughfht.com/wp-content/uploads/2013/06/Anxiety-and-De...

16

ภาคผนวก

17

ประวตั ิผ้จู ดั ทา

ชื่อ – นามสกลุ นายศวิ านนั ท์ รตั นแพทย์ รหสั 6410530432074
วนั เดือน ปี เกิด 29 กนั ยายน 2542
ภมู ิลาเนา (ท่ีอย่)ู เลขที่ 72/46 หมู่ 4 ต.เวยี งใต้ อ.ปาย จ.แม่ฮอ่ งสอน 58130
การศกึ ษา
ระดบั ประถมศึกษา ป.1 – ป.3โรงเรยี นวชิรวิทย์ จงั หวดั เชียงใหม่
ป.4 – ป.6 โรงเรียนโกวิทธารง จงั หวดั เชียงใหม่
ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนต้น ม.1 โรงเรยี นบา้ นแมจ่ นั เชยี งแสนประชานุสาสน์ อาเภอแม่จนั จงั หวดั
เชยี งราย
ม.2-ม.3 โรงเรยี นอนุบาลปายเวยี งใต้ อาเภอปาย จงั หวดั แม่ฮอ่ งสอน
ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย การศกึ ษานอกระบบ อาเภอน้าแพร่ จงั หวดั เชยี งใหม่
ปัจจบุ นั กาลงั ศกึ ษา ระดบั ปริญญาตรี ชนั้ ปีท่ี 1 สาขาการปกครอง คณะสงั คมศาสตร์
มหาวทิ ยาลยั มหามกุฏราชวทิ ยาลยั มหามกฏุ ราชวทิ ยาลยั
วทิ ยาเขตลา้ นนา
การทางาน อาชพึ อสิ ระ และ นกั ศกึ ษา


Click to View FlipBook Version