คู่มือสาหรบั ฝ่ายบุคลากร
โรงเรียนบ้านโนน ตาบลขามป้อม
อาเภอวาปีปทุม จงั หวดั มหาสารคาม
สานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษามหาสารคามเขต 2
สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขนั้ พื้นฐาน
กระทรวงศึกษาธิการ
สารบญั หนา้
คานา 1
วิสัยทศั น์ พนั ธกิจ เป้าหมาย 2
คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 3
อัตลักษณ์ เอกลักษณ์ของสถานศึกษา 4
แผนผงั โครงสรา้ งการบริหารงานบุคลากร 5
บทนำ ๕
วตั ถุประสงค์
ขอบข่ายงานกลุ่มบรหิ ารงานบุคลากร ๖
๖
-การแสวงหาบุคลากร ๖
-การบารงุ รักษาบคุ ลากร ๖
- การพัฒนาบคุ ลากร
-การให้บคุ ลากรพ้นจากงาน ๘
ภารกิจงานบคุ ลากร ๘
-การวางแผนอัตรากาลงั และกาหนดตำแหน่ง ๙
-การสรรหาและบรรจแุ ตง่ ต้งั ๙
-การเสริมสร้างประสิทธภิ าพในการปฏิบัติราชการ 1๐
-วนิ ัยและการรักษาวินยั
- งานออกจากราชการ
ภาคผนวก แผงผงั ขั้นตอนการลา
คานำ
คู่มือการบริหารงานฝ่ายบุคคลของโรงเรียนบ้านโนน เล่มนี้ จดั ทาขึน้ เพื่อประสานความเข้าใจใหค้ ณะครูทีอ่ ยู่ในฝ่ายและบุคลากร
ในโรงเรียน ได้ศึกษากฎระเบียบ ข้อบังคบั คาชีแ้ จง ข้อมลู ตลอดจนแนวปฏิบัติงานของการบริหารฝา่ ยบคุ คลโรงเรียนบ้านโนน เพื่อจะได้นาไปปฏิบตั ิให้
ถูกต้อง และสามารถอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ประสบความสำเร็จในการบริหารงานตา่ งๆ
ทางโรงเรียนหวังเป็นอยา่ งยง่ิ ว่าการบริหารงานฝ่ายบุคคลของโรงเรียนบ้านโนน เล่มนี้ จะ เกิดประโยชน์ต่อครู นักเรียน ผู้ปกครองและ
ผู้ทีเ่ กย่ี วขอ้ งต่อไป
นายกรกฏ เนื่องไชยยศ
หวั หน้าฝ่ายบริหารบุคคล
วสิ ยั ทัศน์ พันธกิจ เปา้ หมาย อตั ลักษณ์ และเอกลกั ษณ์ของสถานศึกษา วิสัยทัศนข์ องโรงเรียน
วิสัยทัศน์
โรงเรียนบ้านโนน จัดการศึกษาและพัฒนาศักยภาพผู้เรียนโดยให้ทุกภาคส่วน มีส่วนร่วม สร้างโอกาส ความเสมอ
ภาค เพื่อให้ผู้เรียนเข้าถึงการบริการทางการศึกษา และสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21
พันธกิจ
1. พัฒนาหลักสูตรและการเรียนการสอนโดยเน้นผู้เรียนเป็นสาคัญ มีกิจกรรมที่หลากหลาย ใช้สื่อ เทคโนโลยีและแหล่ง
เรียนรู้ที่เหมาะสม
2. ส่งเสริมผู้เรียนให้มีคุณธรรมจริยธรรมและค่านิยมที่พึงประสงค์ เปิดโอกาสให้นักเรียนได้แสดงศักยภาพของตนเอง
อย่างเหมาะสม
3. ส่งเสริมให้โรงเรียนมีมาตรฐานการศึกษาโดยระบบการประกันคุณภาพการศึกษา และการบริหารจัดการศึกษาแบบ
มีส่วนร่วมท้ังครู นักเรียน ชุมชน องค์กรในชุมชน
4. จัดโครงสร้างการบริหารงานที่เป็นระบบอย่างชัดเจนเน้นการมีส่วนร่วม และความรับผิดชอบ บุคลากรได้รับการ
พัฒนาศักยภาพให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ
5. ปลูกฝังส่งเสริมให้บุคลากร นักเรียนและผู้ที่เกี่ยวข้อง ให้เห็นคุณค่าของธรรมชาติและท้องถิ่น ร่วมกันอนุรักษ์
พัฒนางานอาชีพให้เป็นเอกลักษณ์ทีโ่ ดดเด่นของชุมชน
6. นักเรียนสามารถนาหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวันได้อย่างเหมาะสม
เอกลักษณ์
“ สุขภาพดี มีเงินออม”
อัตลักษณ์
“ออมเด่น เน้นคุณธรรม นาสู่ศตวรรษที่ 21”
คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
เม่อื ผู้เรียนจบการศึกษาขนั้ พื้นฐาน โรงเรียนบ้านโนนมีความมุ่งหวงั ให้ผู้เรียนเกดิ คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ดงั นี้
1.รกั ชาตศิ าสน์ กษัตริย์
2.ซื่อสตั ยส์ จุ ริต
3.มีวินัย
4. ใฝ่เรียนรู้
5. อยู่อย่างพอเพียง
6. มุ่งมน่ั ในการทางาน
7. รกั ความเปน็ ไทย
8.มีจติ สาธารณะ
สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน
ในการพัฒนาผู้เรียนตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนบ้านโนน พุทธศักราช 255๑ (ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช
25๖๓)ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พื้นฐาน พุทธศักราช 2551 มุ่งเน้นพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพตามมาตรฐานที่กำหนด ซ่ึงจะช่วยให้
ผ้เู รียนเกิดสมรรถนะ สำคัญ ดงั นี้
1.ความสามารถในการส่ือสารเป็นความสามารถในการรับและส่งสาร มีวัฒนธรรมในการ ใช้ภาษาถ่ายทอดความคิด ความรู้ความ
เข้าใจ ความรู้สึก และทัศนะของตนเองเพื่อแลกเปลยี่ นข้อมูล ข่าวสารและประสบการณ์อันจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาตนเองและสังคม รวมท้ังการ
เจรจาต่อรอง เพื่อขจัดและลดปัญหาความขัดแย้งต่าง ๆ การเลือกรับหรือไม่รับข้อมูลข่าวสารด้วยหลักเหตุผลและ ความถกู ต้อง ตลอดจนการ
เลือกใช้วิธีการสือ่ สาร ที่มีประสทิ ธิภาพโดยคานงึ ถึงผลกระทบทีม่ ีต่อตนเอง และสงั คม
2. ความสามารถในการคิด เป็นความสามารถในการคดิ วิเคราะห์ การคดิ สงั เคราะห์ การคิด อย่างสร้างสรรค์ การคดิ อย่างมี
วิจารณญาณ และการคดิ เป็นระบบ เพ่ือนาไปส่กู ารสร้างองคค์ วามรู้ หรือสารสนเทศเพื่อการตัดสินใจเก่ยี วกบั ตนเองและสงั คมได้อย่างเหมาะสม
3. ความสามารถในการแก้ปัญหา เป็นความสามารถในการแก้ปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ที่เผชิญได้อย่างถูกต้องเหมาะสมบน
พื้นฐานของหลักเหตุผล คุณธรรมและข้อมูลสารสนเทศเข้าใจ ความสัมพันธ์และการเปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์ต่าง ๆ ในสังคม แสวงหาความรู้
ประยุกต์ความรู้มา ใช้ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาและมีการตัดสินใจที่มีประสิทธิภาพโดยคำนึงถึงผลกระทบที่เกิดขึ้น ต่อตนเอง สังคมและ
สิง่ แวดล้อม
4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ เป็นความสามารถในการนากระบวนการต่าง ๆ ไปใช้ ในการดำเนินชีวิตประจำวัน การเรียนรู้
ด้วยตนเอง การเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง การทำงาน และการอยู่ ร่วมกันในสังคมด้วยการสร้างเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างบุคคล
การจัดการปญั หาและความขดั แย้ง ต่าง ๆ อย่างเหมาะสม การปรับตัวให้ทนั กับการเปลี่ยนแปลงของสังคมและสภาพแวดล้อม
และการ รู้จกั หลีกเลี่ยงพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ที่ส่งผลกระทบต่อตนเองและผู้อื่น
5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยีเป็นความสามารถในการเลือก และใช้ เทคโนโลยีด้าน ต่างๆ และมีทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี
เพื่อการพัฒนาตนเองและสังคม ในด้านการเรียนรู้ การสื่อสารการทำงาน การแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ถูกต้องเหมาะสมและมี
คุณธรรม
อัตลักษณ์
“ออมเด่น เนน้ คุณธรรม นาส่ศู ตวรรษที่ 21”
เอกลกั ษณ์
“ สุขภาพดี มีเงินออม”
ขอบข่ายงานกลุ่มบริหารงานบคุ คล
การบริหารงานบุคคล
การบริหารงานบุคคลโรงเรียนบ้านโนน เปน็ ภารกิจสาคญั ที่มุ่งสง่ เสริมให้โรงเรยี น
สามารถปฏิบตั ิงานเพือ่ ตอบสนองภารกิจของโรงเรียน เพี่อดาเนนิ การด้านการบริหารงานบคุ คล
ให้ เกิดความคล่องตวั อิสระภายใตก้ ฎหมาย ระเบียบ เปน็ ไปตามหลักธรรมาภิบาลข้าราชการครู
และบคุ ลากรทางการศกึ ษาได้รับการพฒั นา มีความรู้ ความสามารถ มีขวญั กาลังใจ ได้รบั การยก
ย่องเชิดชเู กียรตมิ ีความมน่ั คงและก้าวหน้าในวิชาชีพ ซึง่ จะส่งผลตอ่ การพัฒนาคุณภาพการศึกษา
ของผ้เู รียนเปน็ สาคัญ
วัตถุประสงค์
1. เพือ่ ให้การดาเนินงานด้านการบริหารงานบุคคลถกู ตอ้ ง รวดเร็วเปน็ ไปตามหลกั ธรรมาภิบาล
2. เพื่อส่งเสรมิ บคุ ลากรให้มีความร้คู วามสามารถและมีจิตสานึกในการปฏิบตั ิภารกิจที่รบั ผิดชอบ
ให้เกิดผลสาเรจ็ ตามหลกั การบริหารแบบมุ่งผลสมั ฤทธิ์
3. เพื่อส่งเสรมิ ให้ครแู ละบุคลากรทางการศึกษาปฏิบตั ิงานเตม็ ตามศักยภาพโดยยึดม่นั ใน ระเบียบ
วินยั จรรยาบรรณ อย่างมีมาตรฐานแห่งวิชาชีพ
4. เพื่อให้ครูและบุคลากรทางการศกึ ษาที่ปฏบิ ัติงานได้ตามมาตรฐานวิชาชีพไดร้ บั การยกย่องเชิด
ชเู กียรติ มีความม่ันคงและความก้าวหน้าในวิชาชีพ ซึ่งจะส่งผลต่อการพฒั นาคณุ ภาพการศกึ ษา
ของผ้เู รียนเปน็ สาคัญ
5. เพื่อเปน็ การวางแผนปฏิบตั ิงาน การควบคุม กากบั ดแู ลเกีย่ วกบั ฝ่ายบริหารงานบคุ คล
ความหมายและความสาคญั ของงานบุคลากร
การบริหารบคุ ลากร เปน็ กระบวนการเกยี่ วกับบคุ คล เพื่อให้ได้มาซึง่ บุคคลดี มีความรู้
ความสามารถ เหมาะสมกับงาน เข้ามาทางานใหไ้ ด้ผลดีที่สดุ โดยหน่วยงานสามารถดึงดดู ธารง
รักษา และพฒั นาให้มีความรู้ ความสามารถ ท้ังน้ี เพือ่ ให้หน่วยงานสามารถทาภารกิจได้อย่างมี
ประสิทธิภาพ และประสิทธผิ ลตามความมุ่งหมาย
งานบคุ ลากร เปน็ งานสาคญั งานหนึ่ง ที่จะทาให้โรงเรยี น ประสบความสาเรจ็ ในการ
ดาเนินงาน เพราะงานบคุ ลากรเป็นกาลงั สาคัญในการบริหารงานด้านอืน่ ๆ ให้บรรลุ เป้าหมาย
อย่างมีประสิทธิภาพได้
ขอบเขตการบริหารบคุ ลากรในโรงเรียนกาหนดไว้ 4 ประการ ดงั น้ี
1. การแสวงหาบุคลกร
2. การบารุงรกั ษาบคุ ลกร
3. การพัฒนาบุคลกร
4. การให้บุคลากรพ้นจากงาน
ขอบเขตเหล่านี้อธิบายโดยสงั เขป ดงั น้ี
1. การแสวงหาบคุ ลากร หมายถึง วิธีการใหไ้ ด้บคุ คล ทีเ่ หมาะสมกับงาน โดยปกติ หมายถึง
กระบวนการรับสมคั ร และบรรจุแต่งต้ังบุคลากร ในการบริหารโรงเรียนในระบบ การศึกษาไทย
ครูใหญ่มบี ทบาทน้อยมาก ในด้านการรับสมัคร หรือบรรจุแต่งต้ังบุคลากร อานาจเหล่านี้ มกั จะ
เปน็ อานาจในระดบั สูง เช่น ระดบั ผ้วู ่าราชการจงั หวดั หรือระดบั กรม เจ้าสงั กัด ครูใหญ่ไมม่ ีโอกาส
พิจารณาคดั เลือกบคุ ลากรเท่าทีค่ วร อยา่ งไรก็ตาม ผ้บู ริหารโรงเรยี นทีม่ ีโอกาสในการคัดเลือก
บคุ ลากรควรมีหลกั เกณฑ์ในการคดั เลือก หลกั เกณฑ์โดย ทั่วไป คอื
1.1 ควรคดั เลือกบคุ ลากรที่มีความรบั ผิดชอบ มีระเบียบ เสียสละ รักษา เกียรติยศ
ชื่อเสียง สนใจในงานบริหาร และมีความภูมิใจในโรงเรียน
1.2 ควรคดั เลือกบคุ ลากรทมี่ ีความสามารถ ซึ่งแบง่ ออกเปน็ 2 อย่าง คือ ความสามารถ
ทัว่ ไป และความสามารถเฉพาะ
2. การบารงุ รกั ษาบุคลากร ผบู้ ริหารโรงเรียนมีหน้าทีด่ แู ลบุคลากรในโรงเรยี นเพื่อให้
บุคลากรในโรงเรียนมีประสิทธิภาพในการทางานสิง่ จงู ใจในรกั ษาบุคลกรมีหลายประการเช่น
2.1 สิ่งจงู ใจทเี่ ปน็ วตั ถุ เช่น เงนิ รางวลั สิ่งจงู ใจทีเ่ ป็นวตั ถนุ ้ผี ้บู ริหารต้อง พิจารณาอย่าง
รอบคอบ ว่าควรให้ลกั ษณะใด เมื่อไร และใช้หลกั อะไรในการพิจารณา
2.2 สิ่งจงู ใจทเี่ ป็นสภาพของการทางาน เช่น สวัสดิการของครู บรรยากาศใน การทางาน
2.3 สิ่งจูงใจทเี่ ปน็ โอกาส หมายถึงการให้โอกาสได้รับความก้าวหน้าในหน้าที่ การงาน
2.4 สิ่งจูงใจทเี่ ปน็ การพฒั นาวิชาชีพ เช่น การเปิดโอกาสให้ไปดงู าน การอบรม ศึกษาตอ่
3. การพัฒนาบุคลากร คือ การกระตุ้นให้บุคลากรในโรงเรยี นทางานในหน้าที่ด้วย ความ
ขยันหมน่ั เพียร มีพลังใจในการทางาน การพัฒนาบุคลากรทางด้านการสอน อาจจะทา ได้โดยการ
ส่งเสริมการลาศึกษาต่อ การอบรม การสัมมนา การประชมุ ปรึกษาหารือ การวิจยั การศึกษาด้วย
ตนเอง เปน็ ต้น
4. การให้บุคลากรพ้นจากหน้าที่การงาน เปน็ กระบวนการสุดท้ายของการบริหาร บุคลากร
การให้บุคลากรพน้ จากงานมีสาเหตหุ ลายประการ เช่น การลาออก การย้าย หรือโอน การให้ออก
เกษียณอายุ หรือการลดจานวนบคุ ลกรให้เหมาะสมกับปริมาณงาน เปน็ ต้น การให้พ้นจากงาน
ด้วยสาเหตปุ กติ เช่น การเกษียณอายไุ ม่ใครม่ ีปัญหา แต่การให้บุคลากรพ้น จากงานด้วยสาเหตุ
พิเศษ เช่น การขอโอน การให้ออกเพราะผิดวินัย การลดจานวนบุคลกร ผ้บู รหิ ารโรงเรียนต้อง
พิจารณาอย่างรอบคอบ และตดั สินใจโดยให้กระทบกระเทือนต่อการดาเนนิ งานในโรงเรียนให้
น้อยที่สดุ
สถาบนั พฒั นาผ้บู ริหารการศกึ ษา กระทรวงศึกษาธิการ (2528 : 18-19) ได้ให้ ความหมาย
ขอบข่ายและหน้าที่ของบคุ ลากรไว้ดงั น้ี
ขอบข่ายงานบุคลกรในโรงเรียนจะประกอบด้วยภาระงานหลัก 4 ประการ คือ
1. การจดั บุคลากรเข้าปฏิบตั ิงาน
2. การพฒั นาและธารงรกั ษาบุคลากร
3. การรักษาระเบียบวินยั
4. การประเมินผลการปฏบิ ัติงานของบุคลากร
บทบาทหนา้ ที่โดยทั่วไปของงานบุคลากรมีดงั ต่อไปนี้
1. จัดโครงสร้าง การบรหิ ารบคุ ลากรให้เป็นระบบ
2. ปฐมนิเทศเกีย่ วกบั การปฏิบตั ิตามระเบยี บการปฏิบตั ิงานในโรงเรียน
3. กาหนดบทบาทหน้าทขี่ องบคุ ลากรแต่ละคนให้ชดั เจน
4. มอบหมายงานตามความรู้ความสามารถของบุคลากร
5. ควบคมุ กากบั ติดตามและนิเทศบคุ ลากรให้ปฏิบตั ิงานเต็มความสามารถและ เปน็ ไปตาม
จุดประสงคข์ องโรงเรียน
6. ส่งเสรมิ ขวัญและกาลังใจในการปฏิบัติงานของบุคลากร
7. ส่งเสรมิ และสนบั สนนุ ให้บุคลากรศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมและพฒั นาทุกรปู แบบ
8. ดูแลและดาเนินการเกี่ยวกับสวัสดิการของบุคลากร
9. ดาเนินการประเมนิ ผลเปน็ ระยะ ๆ ตามลกั ษณะของงาน
10. ดาเนินการเกีย่ วกบั การเข้ารบั ราชการและออกจากราชการของบคุ ลากรในโรงเรียน
ภารกิจงานบคุ ลากร
1. การวางแผนอตั รากาลังและกาหนดตาแหนง่
1.1 การวิเคราะห์และวางแผนอัตรากาลงั คน
แนวทางการปฏิบตั ิ
1) วิเคราะห์ภารกจิ และประเมินสภาพความต้องการกาลงั คนกบั ภารกิจของสถานศกึ ษา
2) จดั ทาแผนอัตรากาลังข้าราชการครูและบคุ ลากรทางการศึกษาของสถานศึกษา โดยความ
เห็นชอบของคณะกรรมการสถานศึกษาข้นั พื้นฐานตามเกณฑท์ ี่ ก.ค.ศ.กาหนด
3) นาเสนอแผนอตั รากาลงั เพือ่ ขอความเหน็ ชอบต่อสานกั งานเขตพนื้ ที่
4) นาแผนอัตรากาลังของสถานศึกษาส่กู ารปฏบิ ัติ
1.2 การกาหนดตาแหน่ง
แนวทางการปฏิบตั ิ
1) สถานศึกษาจดั ทาภาระงานสาหรับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
2) นาแผนอัตรากาลังมากาหนดตาแหน่งข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษาของ
สถานศกึ ษาเพื่อนาเสนอ ตอ่ สานักงานเขตพ้นื ที่
1.3 การขอเลือ่ นตาแหนง่ บุคลากรทางการศึกษาและวิทยฐานะขา้ ราชการครู
แนวทางการปฏิบตั ิ
1) สถานศึกษาขอปรับปรงุ การกาหนดตาแหน่ง/ขอเลื่อนวิทยฐานะ/ขอเปลี่ยนแปลงเงือ่ นไข
ตาแหน่ง/ขอกาหนดตาแหนง่ เพิ่มจาก ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาของสถานศกึ ษาไป
ยังสานกั งานเขตพื้นที่
2) ประเมินเพื่อขอเลื่อนวิทยฐานะ/ขอเปลี่ยนแปลงเงือ่ นไขตาแหน่ง/ขอกาหนดตาแหน่งเพิม่
ข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษาตามหลกั เกณฑ์ที่ ก.ค.ศ.กาหนด
3) ส่งคาขอปรบั ปรุงกาหนดตาแหนง่ /เพื่อเลื่อนวิทยฐานะ/ขอเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขตาแหน่ง/ขอ
กาหนดตาแหน่งเพิม่ จากข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษาตอ่ สานกั งานเขตพ้นื ที่
เพือ่ นาเสนอ อ.ก.ค.ศ. พิจารณาอนมุ ตั ิและเสนอผ้มู ีอานาจแต่งต้งั
2. การสรรหาและบรรจุแต่งตั้ง
2.1 ดาเนินการสรรหาเพื่อบรรจบุ ุคคลเขา้ รับราชการเปน็ ข้าราชการครแู ละบุคลากร
ทางการศึกษาในสถานศึกษาเปน็ อานาจหน้าที่ของผ้มู ีอานาจตามมาตรา53
แนวทางการปฏิบัติ
1) การสอบแข่งขนั การสอบคดั เลือกและการคดั เลือกในกรณีจาเปน็ หรือมีเหตุพิเศษใน
ตาแหน่งครูผ้ชู ่วย ครู และบคุ ลากรทางการศึกษาอืน่ ในสถานศกึ ษา ให้ดาเนินการตามหลกั เกณฑ์
และวิธีการที่ ก.ค.ศ.กาหนด
2.2 การจา้ งลกู จา้ งประจาและลกู จา้ งชวั่ คราว
แนวทางการปฏิบตั ิ
1) กรณีการจ้างลกู จ้างประจาและลกู จ้างช่วั คราวโดยใช้งบประมาณให้ดาเนินการตาม
หลักเกณฑ์และวิธีการทีก่ ระทรวงการคลงั หรือตามหลกั เกณฑ์และวิธีการที่ก.ค.ศ. กาหนด
2) กรณีการจ้างลูกจ้างประจาและลกู จ้างชั่วคราวกรณีอื่นนอกเหนือจากข้อ 1) สถานศึกษา
สามารถดาเนนิ การจ้างลูกจ้างประจาและลูกจ้างช่วั คราวของสถานศึกษาได้ โดยใช้เงินรายได้ของ
สถานศกึ ษา ภายใต้หลกั เกณฑ์และวิธีการที่สถานศกึ ษาได้ โดยใช้เงนิ รายได้ของสถานศกึ ษา
ภายใต้หลกั เกณฑ์และวิธีการทีส่ ถานศกึ ษากาหนด
2.5 การรกั ษาราชการแทนและรกั ษาการในตาแหนง่
แนวทางการปฏิบตั ิ
กรณีที่ไม่มีผู้ดารงตาแหน่งผ้อู านวยการสถานศกึ ษา หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบตั ริ าชการได้ให้
รองผ้อู านวยการสถานศกึ ษารกั ษาราชการแทน ถ้ามีรองผ้อู านวยการสถานศกึ ษาหลายคนให้
ผ้อู านวยการสานกั งานเขตพื้นทกี่ ารศึกษา แต่งต้งั รองผ้อู านวยการสถานศกึ ษาคนใดคนหนึ่งรกั ษา
ราชการแทน ถ้าไมม่ ีผ้ดู ารงตาแหน่งรองผ้อู านวยการ ให้สถานศกึ ษาเสนอข้าราชการทเี่ หมาะสม
ให้ผ้อู านวยการสานกั งานเขตพื้นที่การศึกษา แต่งต้งั ข้าราชการในสถานศกึ ษาคนใดคนหนึง่ เปน็
ผ้รู กั ษาราชการแทน (มาตรา 54 แห่งกฎหมายระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ
กรณีตาแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศกึ ษาตาแหน่งใดว่างลงหรือผ้ดู ารง
ตาแหน่งไม่สามารถปฏบิ ัติหน้าทรี่ าชการได้ ให้ผ้มู ีอานาจส่งั บรรจแุ ละแต่งตั้งตามมาตรา 53 สงั่
ให้ข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษารักษาการในตาแหน่ง (มาตรา 68 แห่งกฎหมายว่า
ด้วยระเบียบข้าราชการครูและบคุ ลากรทางการศึกษา)
3. การเสริมสรา้ งประสิทธิภาพในการปฏิบัติราชการ
3.1 การพฒั นาขา้ ราชการครแู ละบุคลากรทางการศึกษา
1) การพัฒนากอ่ นมอบหมายการปฏิบตั ิหนา้ ที่
แนวทางการปฏบิ ตั ิ
(1) ผ้อู านวยการสถานศกึ ษาดาเนินการปฐมนิเทศ แก่ผ้ทู ีไ่ ด้รับการสรรหา และบรรจุ
แต่งต้งั เปน็ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในสถานศกึ ษา
(2) แจ้งภาระงานมาตรฐานคณุ ภาพงาน มาตรฐานวิชาชีพ จรรยาบรรณวิชาชีพ เกณฑ์การ
ประเมินผลงาน ฯลฯ แก่ข้าราชการครูและบคุ ลากรทางการศึกษาในสถานศกึ ษา ก่อนมีการ
มอบหมายหนา้ ทีใ่ หป้ ฏบิ ัติงาน
(3) ดาเนินการติดตาม ประเมินผลและจัดให้มีการพัฒนาตามความเหมาะสมและต่อเนอื่ ง
3.2 การเลื่อนข้ันเงินเดือนข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษา
1) การเลื่อนขัน้ เงินเดือนกรณีปกติและกรณีพิเศษ
แนวทางการปฏิบตั ิ
(1) ผ้อู านวยการสถานศกึ ษาแต่งต้งั คณะกรรมการพิจารณาความดีความชอบของ
ข้าราชการครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษาในสถานศกึ ษา
(2) คณะกรรมการพิจารณาความดีความชอบพิจารณาตามกฎ ก.ค.ศ.ว่าด้วยการเลื่อนข้นั
เงินเดือน
(3) ผ้อู านวยการสถานศึกษาพิจารณาส่ังเลื่อนข้นั เงินเดือนข้าราชการครแู ละบคุ ลากร
ทางการศึกษา กรณีสงั่ ไม่เลือ่ นข้นั เงนิ เดอื นใหแ้ ก่ข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษาใน
สถานศกึ ษา ต้องชี้แจงเหตุให้ข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษาดงั กล่าวทราบ
กรณีเลือ่ นข้นั เงินเดือนกรณีพิเศษ แก่ข้าราชการครูและบคุ ลากรทางการศึกษาที่ถึงแก่ความ
ตายอนั เนื่องมาจากการปฏิบตั ิหน้าทีร่ าชการให้รายงานไปยังสานักงานเขตพ้นื ทีก่ ารศึกษา เพือ่
ดาเนินการตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.ค.ศ.กาหนด
(4) รายงานการส่งั เลื่อนและไม่เลื่อนข้นั เงนิ เดือนของข้าราชการครูและบุคลากรทางการ
ศึกษาไปยังสานกั งานเขตพืน้ ทีก่ ารศึกษา เพือ่ จัดเกบ็ ข้อมลู ลงในทะเบียนประวตั ิต่อไป
3.3 การเพิ่มคา่ จา้ งลูกจา้ งประจาและลกู จ้างช่ัวคราว
แนวทางการปฏิบตั ิ
กรณีการเพิ่มค่าจ้างลูกจ้างประจาและลกู จ้างชั่วคราวโดยใช้เงินงบประมาณให้ดาเนินการ
ตามหลักเกณฑ์และวิธีการทีก่ ระทรวงการคลังหรือตามหลกั เกณฑ ์และวิธีการทีส่ านกั งาน
คณะกรรมการการศึกษาข้นั พื้นฐานกาหนด
กรณีการเพิ่มค้าจ้างลูกจ้างประจาและลูกจ้างชั่วคราวกรณีอื่นนอกเหนือจากสถานศึกษา
สามารถดาเนนิ การ จ้างลูกจ้างประจาและลกู จ้างช่ัวคราวของสถานศึกษาได้ โดยใช้เงินรายได้ของ
สถานศกึ ษา ภายใต้หลักเกณฑ์และวิธีการที่สถานศกึ ษากาหนด
3.4 การดาเนินการเกี่ยวกบั บัญชีถอื จ่ายเงินเดือน
แนวทางการปฏิบตั ิ
ดาเนินการตามทกี่ ระทรวงการคลงั กาหนด
3.5 เงินวิทยฐานะและคา่ ตอบแทนอืน่
แนวทางการปฏิบตั ิ
ดาเนินการตามทกี่ ระทรวงการคลงั กาหนด
3.6 งานทะเบียนประวตั ิ
1) การจดั ทาและเกบ็ รกั ษาทะเบียนประวตั ิข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาและ
ลกู จ้าง
แนวทางการปฏิบัติ
(1) สถานศกึ ษาจดั ทาทะเบียนประวตั ิของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา จานวน
2 ฉบับ
(2) สถานศกึ ษาเกบ็ ไว้ 1 ฉบับ ส่งไปเกบ็ รกั ษาไว้ที่สานักงานเขตพ้นื ที่ 1 ฉบับ
(3) เปลีย่ นแปลง บนั ทกึ ข้อมูล ลงในทะเบียนประวตั ิ
3.7 งานเครื่องราชอิสริยาภรณ์
แนวทางการปฏิบตั ิ
1) ตรวจสอบผ้มู ีคณุ สมบตั ิครบ สมควรไดรบั การเสนอขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์
2) ดาเนินการในการเสนอขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์และเหรียญจักรพรรดิมาลา
แก่ข้าราชการครแู ละบุคลากรทางการศึกษาในสังกดั ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กฎหมายกาหนด
3) จดั ทะเบียนผู้ได้รับเครือ่ งราชอิสริยาภรณ์และเหรียญจกั รพรรดิมาลา
เครือ่ งราชอิสริยาภรณ์ดิเรกคุณาภรณแ์ ละผ้คู ืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์
3.8 การขอมีบตั รประจาตัวเจา้ หนา้ ที่ของรฐั
แนวทางการปฏิบตั ิ
1) ผ้ขู อมีบตั รกรอกรายละเอียดข้อมูลส่วนบุคคลต่าง ๆ โดยมีเอกสารหลกั ฐานที่เกีย่ วข้อง
2) ตรวจสอบเอกสารความถกู ต้อง
3) นาเสนอผ้มู ีอานาจลงนามในบตั รประจาตวั โดยผ่านผู้บงั คับบญั ชาตามลาดบั โดยคุม
ทะเบียนประวตั ิไว้
4) ส่งคืนบตั รประจาตัวถึงสถานศึกษา
3.9 งานขอหนงั สือรับรอง งานขออนญุ าตให้ขา้ ราชการไปตา่ งประเทศ งานขออนญุ าต
ลาอุปสมบท งานขอพระราชทานเพลงิ ศพ การลาศึกษาตอ่ ยกยอ่ งเชิดชูเกียรติและให้
ไดร้ ับเงินวิทยพัฒน์ และการจดั สวัสดิการ ดาเนินการตามกฎหมาย ระเบียบ หลักเกณฑ์
และวิธีการทีเ่ กีย่ วขอ้ ง
4. วินัยและการรกั ษาวินยั
4.1 กรณีความผิดวินยั ไมร่ ้ายแรง
แนวทางการปฏิบตั ิ
1) ผ้อู านวยการสถานศึกษาแต่งตง้ั คณะกรรมการ เพือ่ ดาเนินการสอบสวนให้ได้ความจริง
และความยุตธิ รรมโดยไม่ชักช้าเมือ่ มีกรณีอันมีมูล ทคี่ วรกล่าวหาว่าข้าราชการครูและบคุ ลากร
ทางการศึกษาในสถานศึกษากระทาผิดวินยั ไม่ร้ายแรง
2) ผ้อู านวยการสถานศึกษาส่งั ยตุ เิ รือ่ งในกรณที ีค่ ณะกรรมการสอบสวนแล้วพบว่าไม่ได้
กระทาผิดวินยั หรือสง่ั ลงโทษภาคทัณฑ์ ตดั เงนิ เดือน หรือลดข้นั เงนิ เดือน ตามที่คณะกรรมการ
สอบสวนแล้วพบว่ามีความผิดวินัยไม่ร้ายแรง
3) รายงานการดาเนนิ งานทางวินยั ไม่ร้ายแรงไปยงั สานกั งานเขตพ้นื ที่การศึกษา
4.2 กรณีความผิดวินัยรา้ ยแรง
แนวทางการปฏิบตั ิ
1) ผ้มู ีอานาจสัง่ บรรจุและแต่งต้งั ตามมาตรา 53 แห่งกฎหมายระเบียบข้าราชการครแู ละ
บุคลากรทางการศึกษาแตง่ ต้ังคณะกรรมการสอบสวนกรณีอนั มีมลู ว่าข้าราชการครแู ละบคุ ลากร
ทางการศึกษากระทาผิดวินยั อย่างร้ายแรง ตามหลกั เกณฑแ์ ละวิธีการทกี่ าหนดในกฎ ก.ค.ศ.
2) ผ้มู ีอานาจสั่งบรรจุและแต่งต้งั ตามมาตรา 53 แห่งกฎหมายระเบียบข้าราชการครแู ละ
บคุ ลากรทางการศึกษา เสนอผลการพิจารณาให้ อ.ก.ค.ศ.เขตพ้นื ทพี่ ิจารณาลงโทษ
3) ผ้มู ีอานาจสั่งบรรจแุ ละแต่งต้งั ตามมาตรา 53 แห่งกฎหมายระเบียบข้าราชการครแู ละ
บคุ ลากรทางการศึกษา ส่งั ลงโทษปลดออกหรือไล่ออกตามผลการพิจารณาของ อ.ก.ค.ศ.เขต
พื้นที่
4) รายงานการดาเนนิ งานทางวินยั ไปยังสานกั งานเขตพ้ืนทกี่ ารศึกษา
4.3 การอุทธรณ์
1) การอุทธรณก์ รณีความผิดวินัย
แนวทางการปฏิบตั ิ
กรณีการอทุ ธรณ์ความผิดวินัยทีไ่ มร่ ้ายแรง ให้ข้าราชการครูและบคุ ลากรทางการศึกษา
ยื่นเรือ่ งขออทุ ธรณ์ต่อ อ.ก.ค.ศ.เขตพ้นื ทภี่ ายใน 30 วนั นบั แต่วันที่ได้รับแจ้งคาสง่ั ตามหลักเกณฑ์
และวิธีการที่ ก.ค.ศ.กาหนด
กรณีการอุทธรณ์ความผิดวินัยร้ายแรง ให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษายื่น
เรือ่ งขออทุ ธรณ์ต่อ ก.ค.ศ. ภายใน 30 วนั นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคาสง่ั ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่
ก.ค.ศ.กาหนด
4.4 การรอ้ งทกุ ข์
แนวทางการปฏิบตั ิ
กรณีข้าราชการครแู ละบุคลากรทางการศึกษาถกู สง่ั ให้ออกจากราชการให้ร้องทุกข์ต่อ
ก.ค.ศ. ภายใน 30 วันนับแต่วนั ที่ได้รบั แจ้งคาสงั่
กรณีข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษาไม่ได้รบั ความเป็นธรรมหรือมีความคบั ข้อง
ใจเนือ่ งจากการกระทาของผ้บู งั คบั บญั ชา หรือการแต่งต้งั คณะกรรมการสอบสวนทางวินัย ให้ร้อง
ทุกข์ต่อ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นทหี่ รือ ก.ค.ศ.แล้วแต่กรณี
4.5 การเสริมสร้างและการปอ้ งกนั การกระทาผิดวินยั
แนวทางการปฏิบตั ิ
1) ให้ผ้อู านวยการสถานศึกษาปฏิบตั ิตนเปน็ แบบอย่างทีด่ ีต่อผ้ใู ตบ้ งั คบั บัญชา
2) ดาเนินการให้ความรู้ ฝึกอบรมการสร้างขวญั และกาลังใจการจงู ใจ ฯลฯ ในอนั ทจี่ ะ
เสริมสร้างและพัฒนาเจตคติ จติ สานกึ และพฤติกรรมของผ้ใู ต้บังคบั บัญชา
5. งานออกจากราชการ
5.1 การลาออกจากราชการ
แนวทางการปฏิบตั ิ
1) ผ้อู านวยการสถานศึกษาพิจารณาอนุญาตการลาออกจากราชการของครูผ้ชู ่วย ครู และ
บคุ ลากรทางการศึกษาอื่น
2) รายงานการอนุญาตการลาออกไปยงั สานกั งานเขตพ้นื ทกี่ ารศึกษา
5.2 การใหอ้ อกจากราชการ กรณีไมพ่ น้ ทดลองปฏิบัติหนา้ ที่ราชการหรอื ไม่ผ่านการ
เตรียมความพรอ้ มและพฒั นาอย่างเขม้ ตา่ กวา่ เกณฑ์ที่ ก.ค.ศ.กาหนด
แนวทางการปฏิบตั ิ
1) ดาเนินการให้ข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษา ทดลองปฏิบัติหน้าทรี่ าชการ หรือ
เข้ารบั การพฒั นาอย่างเข้มตามหลักเกณฑ์และวิธีการตามที่กาหนดในกฎ ก.ค.ศ.กาหนด
2) ดาเนินการประเมนิ ผลการปฏิบตั งิ านตามหน้าทีแ่ ละความรับผิดชอบทกี่ าหนดไว้ใน
มาตรฐานกาหนดตาแหน่ง
3) ผ้อู านวยการสถานศึกษาส่งั ใหผ้ ้ทู ีไ่ ม่ผ่านการประเมนิ การทดลองปฏบิ ัติราชการหรือเตรียม
ความพร้อมและพฒั นาอย่างเข้มออกจากราชการ
4) รายงานสานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาทราบ
ภาคผนวก
แผงผงั ข้ันตอนการลาป่วย/ลากิจ
โรงเรียนบ้านโนน ตาบลขามปอ้ ม อาเภอวาปปี ทมุ จงั หวดั มหาสารคาม