พระมณฑป
วัดพระศรีรัตนศาสดาราม
สถานที่ตั้ง
พระมณฑป ตั้งอยู่ภายในวัดพระ
ศรีรัตนศาสดาราม หรือวัดพระแก้ว อยู่ในเขต
พระบรมมหาราชวัง เขตพระราชฐานชั้นนอก
ทางทิศตะวันออก ติดท้องสนามหลวง ถนน
หน้าพระลาน แขวงพระบรมมหาราชวัง เขต
พระนคร กรุงเทพมหานคร
ตำแหน่งที่ตั้ง
พระมณฑป ตั้งอยู่ทางด้านทิศใต้ของพระอุโบสถ บนฐาน
ไพทีตรงกลางระหว่างพระศรีรัตนเจดีย์ และปราสาทพระ
เทพบิดร
ประวัติพระมณฑป
พระมณฑปหรือห้องสมุดมีตู้หนังสือประดับประดาหลายเล่มซึ่งบรรจุคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ พระมณฑปเป็นสถานที่เก็บคัมภีร์
ศักดิ์สิทธิ์ บางครั้งเรียกว่าห้องสมุด หรือหอไตร พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช โปรดเกล้า ฯ ให้สร้างขึ้นเมื่อ
พ.ศ. 2331 ตรงตำแหน่งที่ตั้งของหอพระมณเฑียรธรรมองค์เดิม ที่ถูกเพลิงไหม้ เพื่อประดิษฐานพระไตรปิฎกทองใหญ่ ที่พระองค์
โปรดเกล้า ฯ ให้สังคายนาขึ้นไว้สำหรับแผ่นดิน
การก่อสร้างและปฏิสังขรณ์พระมณฑป
สมัยรัชกาลที่ 1 พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงสร้างและทรงปฏิสังขรณ์ในระยะหลัง คือ พ.ศ. 2331
สร้างพระมณฑป แทนหอมณเฑียรธรรมซึ่งถูกไฟไหม้สำหรับเก็บรักษาพระไตรปิฎกฉบับสังคายนา
สมัยรัชการที่ 2 พระบาทสมเด็จระพุทธเลิศหล้านภาลัย ไม่มีการก่อสร้างหรือปฏิสังขรณ์อาคารใด ๆ ในวัดพระ
ศรีรัตนศาสดาราม
สมัยรัชกาลที่ 3 พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้า ฯ ให้บูรณะและปฏิสังขรณ์พระมณฑป ในปี พ.ศ. 2374
พระมณฑป ปฏิสังขรณ์เครื่องบน และผนังภายนอก ภายในมุม พระมณฑปด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ประดิษฐานเจดีย์พระแก้ว มุม
ด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือประดิษฐานพระเจดีย์แบบจีนทำด้วยศิลา บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ด้านใต้ตัวเก๋งศิลารูปปราสาท 5 ชั้น 2
หลัง ภายนอกรอบพระมณฑปตั้งกระถางเคลือบปลูกดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมเพื่อบูชาพระมณฑปและพระไตรปิฎก
สมัยรัชกาลที่ 4 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้า ฯ ให้ปฏิสังขรณ์ ปี พ.ศ. 2398 พระมณฑป เปลี่ยน
เครื่องไม้เครื่องบนที่ผุ พื้นภายในพระมณฑปเดิม คาดเป็นแผ่นเงิน ให้เปลี่ยนเป็นปูเสื่อเงิน
สมัยรัชกาลที่ 5 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้า ฯ ให้ปฏิสังขรณ์ ปี พ.ศ. 2423 ทั่วทั้งพระอาราม แต่
พระมณฑป ไม่เป็นที่เด่นชัดในการปฏิสังขรณ์
สมัยรัชกาลที่ 6 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้า ฯ ให้ปฏิสังขรณ์ ในปี พ.ศ. 2461 ทั่วทั้งพระ
อาราม แต่พระมณฑป ไม่เป็นที่เด่นชัดในการปฏิสังขรณ์ เช่นเดียวกับสมัยรัชกาลที่ 5
สมัยรัชกาลที่ 7 พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ในปี พ.ศ. 2474 ปฏิสังขรณ์ สมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 150 ปี
พระมณฑป ซ่อมเครื่องบน เสา ฐาน ซุ้มประตูลงรักปิดทอง ประดับกระจกสี ซ่อมเพดาน บานประตู นาคพนักบันไดและยักษ์หัว
บันได พระเจดีย์ทรงเครื่องเล็กบนกำแพง 4 องค์ ประดับกระจกที่ชำรุด
สมัยรัชกาลที่ 8 เนื่องด้วยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล ทรงรับราชสมบัติตั้งแต่ยังทรงเยาว์ และมิทันได้
เสด็จบรมราชาภิเษก ก็สิ้นรัชกาลเสียก่อนการบูรณปฏิสังขรณ์พระอารามจึงมีไม่มากนัก
สมัยรัชกาลที่ 9 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช การปฏิสังขรณ์ในวโรกาศสมโภชกรุง
รัตนโกสินทร์ 200 ปี และฉลองวัดพระศรีรัตนศาสดาราม การบูรณปฏิสังขรณ์พระมณฑป เครื่องบนหลังคา เสา ผนังภายนอก ซุ้ม
พระทวารทางเข้า ฐาน ฐานไพที ผนังภายใน พื้น
สถาปัตยกรรมพระมณฑป
เดิมคือหอมณเฑียรธรรม ซึ่งตั้งอยู่กลางสระน้ำ แต่ถูกไฟไหม้เมื่อ พ.ศ. 2332 รัชกาลที่ 1 ได้สั่งให้ยกเอาตู้ประดับ
มุกทรงมณฑป พร้อมทั้งพระไตรปิฎกฉบับทองใหญ่ ซึ่งได้ทำการสังคายนาในสมัยนั้นออกมาได้ จึงโปรดเกล้า ฯ ให้สร้างที่
ประดิษฐานพระไตรปิฎกใหม่ โดยถมสระเดิมสร้างฐานไพทีให้สูง เป็นที่ประดิษฐานพระมณฑป พระมณฑปเป็นอาคารสี่เหลี่ยม
ทรงมณฑป มีขนาดกว้าง 15.50 เมตร ยาว 15.70 เมตร
องค์ประกอบสถาปัตยกรรมพระมณฑป
พระมณฑปมีลักษณะสถาปัตยกรรม เป็นอาคารยอดมณฑป ตั้งอยู่บนฐานสูงมีเสารองรับชายคาโดยรอบ มีบันไดทางขึ้น 4
ทิศ ผนังก่ออิฐถือปูน รองรับเครื่องยอดโครงไม้ ผังอาคารรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส มุมผนังย่อออกมา 4 มุม ทำเป็นเสาอิง
บรรไดทางขึ้น 4 ทิศ
การตกแต่งองค์ประกอบสถาปัตยกรรมพระมณฑป
บันได
ฐานชั้นล่าง
1. ฐานชั้นล่าง 2. บันได
เป็นฐานสิงห์สูง 3 ศอก 6 นิ้ว ยาว 8 วา มีบันได ทางขึ้นฐานชั้นล่าง ทั้ง 4 ด้าน ทำเป็นรูป
ทางขึ้น 7 ชั้น สองข้างพนักราวบันไดประดับด้วยนาคพลสิงห์ คนสวมมงกุฎนาค ที่เรียกว่า นาคจำแลง ซุ้มประตู
5 เศียรเป็นนาคจำแลง คือ ตัวเป็นนาคหัวเป็นมนุษย์สวม ทรงมณฑป บันไดทางขึ้นประดับนาคพลสิงห์ และ
มงกุฎ สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ทรงวิจารณ์ ยักษ์จตุโลกบาล
ว่าเป็นแบบโบราณ ฝีมือครูดำ ประติมากรสมัยรัชกาลที่ 1
ตัวนาคหล่อด้วยทองแดงปิดทองที่สันหลังทำเป็น
ลายรักร้อยประดับกระจกสีแดง เกล็ดประดับกระจกสีเขียว
ครีบสีทองอยู่ระหว่างสันหลังและเกล็ด หางโลหะทำเป็นลาย
กระหนก ลงรักปิดทอง
3. ยักษ์บนปลายพลสิงห์บันได
ยืนถือกระบอง ตั้งอยู่บนฐานปัทม์บุหินอ่อนสีเทาขนาดเท่าคนจริงสูง 4 ศอก 2 นิ้ว หล่อด้วยสำริดปิดทองประดับ
กระจก กระบองทำด้วยไม้จำหลักลงรักปิดทองประดับกระจก เป็นยักษ์ประจำทิศ
พระพุทธรูปศิลา เป็นพระพุทธรูปหินทราย ศิลปะศรีวิชัย 4 องค์ ประดิษฐานอยู่ที่มุมชาน ซึ่งแล่นรอบพระมณฑป
ทั้ง 4 มุม
4. พื้นห้อง 5. ผนังภายในพระมณฑป
ปูเสื่อสานด้วยเส้นเงินลายสามเต็มทั้ง พื้นห้องเขียนลายฉลุปิดทองลาย
ห้องถึงฐานที่ประดิษฐานพระไตรปิฎกตอนริม พุ่มข้าวบิณฑ์ก้านแย่ง เชิงผนังตอนล่างเป็น
เหล็กขนาด 1 นิ้วโดยรอบ ลายกรวยเชิง พื้นผนังทาสีสมอ (สีเขียว
ขี้ม้า)
6. เพดานภายในพระมณฑป
ทำเป็นฝ้าเพดาน 2 ชั้นเพดานพื้น
ทาสีแดงตัดขอบดำเขียนลายทองที่คอสอง
เขียนลายก้าน แย่งปิดทองบนพื้นชาด ฝ้า
เพดานชั้นบนเจาะลึกเป็นรูปแปดเหลี่ยมชั้นล่าง
เป็นส่วนขอบรอบบนรูปแปดเหลี่ยมประดับ
ดาวไม้จำหลักปิดทองประดับกระจกขาวเป็น
ดาวดวงใหญ่รูปดาวจงกลอยู่กึ่งกลางล้อมด้วย
ดวงดาวเล็กรูปดอกจอก 8 ดวงฝ้าเพดานชั้น
ล่างบริเวณตรงกลางเพดานห้อยโคมมุมทั้งสี่
ประดับดาวดอกเล็กละ 5 ดอกตรงกลาง
เพดานห้อยโคมแก้วหกเหลี่ยมใส่ประทีป
7. ฐานชั้นบน ฐานชั้นบนพระมณฑป เป็นฐานสิงห์ประดับเทพนม
อยู่ส่วนล่างสุดของผนังอาคาร มีฐานชั้นล่างรองรับ ฐานเสาพระมณฑป เป็นฐานสิงห์
อีกชั้นหนึ่ง ฐานชั้นบนก่อเป็นฐานสิงห์ ทำเป็นลายปูนปั้น ปิด
ทองประดับกระจกสีที่ท้องไม้ติดตั้งประติมากรรมรูปครุฑนั่ง
พนมมือสลับกับยักษ์พนมสูงตัวละ 1 ศอก 5 นิ้วด้านละ 18
ตัว
ชั้นเทพนม เทพนมหล่อด้วยทองแดงปิดทอง สูงองค์
ละ 1 ศอก 6 นิ้ว ตั้งอยู่บนขอบของหน้ากระดานชั้นบน
ขอบบนของหน้ากระดานชั้นบนติดตั้งรูปเทพนมขนาด
เล็ก หล่อปิดทองประดับกระจกตั้งเรียงรายโดยรอบ
กระหนกเท้าสิงห์ ประดับกระจกสีเขียวและสีขาว
ขอบล่างสุดบุหินอ่อนสีเทา
8. กรอบเช็ดหน้าประตู
ด้านนอกเขียนลายรดน้ำทรงข้าวบิณฑ์
ก้านแย่งตอนริมเป็นลายก้ามปูด้านในล่องชาด
บานประตูประดับมุก ที่อกเสาพนมเชิงล่าง
ประดับมุกภาพท้าวกุเวรราช ทรงคธาวุธ ประทับ
บนแท่นสี่เหลี่ยมลายมังกร ส่วนหัวหุ้นลงด้าน
ล่างส่วนหางเป็นกระหนกเครือเถา
ลายมุกตรงกลางอกเลาทำเป็นรูปวายุ
บุตรแบกวิมาน ภายในวิมานมีแท่นอุณาโลม
ประดับด้วยฉัตร 2 ข้าง ลายมุกอกเขาพนมบน
เป็นภาพ วายุบุตรถือพระขรรค์
บานประตูด้านนอกประดับมุกเป็นลาย
กระหนกก้านขดนกคาบตรงกลางเป็นราชสีห์
9. เพดานซุ้มประตู 10. ซุ้มประตู
ทำเป็นรูปดาวล้อมเดือนประดับกระจกสี ทรงมณฑป เสาข้างประตูด้านละ 3
ขาวตรงกลางเป็นดาวใหญ่ล้อมด้วยดาว เสาซ้อนกันบัวหัวเสาเป็นบัวจงกลส่วนล่างของ
รังแตน ภายในกรอบแว่น นอกกรอบแว่น เสาประดับกาบพรหมศรรองรับด้วยฐานสิงห์ ตัว
ประดับดาวเรียงรายพื้นเพดานซุ้มปิดทองล่อง เสาติดกระจกสีลายก้านแย่งดอก 4 กลีบ มุม
ซาด เสาเป็นปูนปั้นปิดทองประดับกระจกลายรักร้อย
กลางมุมเสาประดับดอกประจำยาม
11. ผนังภายนอก 12. เสาอิง
ประดับลายพุ่มข้าวบิณฑ์ ตามมุมผนังเป็นเสาย่อมุม
เทพนมก้านแย่งทำด้วยโลหะ ประดับตกแต่งแบบเดียวกับ
ปิดทอง พื้นผนังประดับกระจก เสาหาน
สีเขียว
13. เสา 14. เพดานภายนอก
สี่เหลี่ยมจัตุรัส ย่อมุมไม้สิบสอง จำนวน 20 ต้นมี เป็นลายกระหนกก้านแย่งปิดทองบนพื้นชาด
ลายปูนปั้นตรงมุมลายรักร้อยส่วนกลางเสาประดับกระจกสี
ลายก้านแย่งดอกประจำยาม เชิงเสาเป็นฐานสิงห์ ประดับ
แก้วสีเขียวและขาว บัวจงกลหัวเสาแต่ละ ละด้าน ประดับ
กระจกสีขาว สีเขียว และสีแดง
15. เครื่องยอด
ทรงมณฑปทำด้วยเครื่องไม้ย่อมุมไม้สิบสอง ปิด
ทองประดับกระจกช้อนกัน 7 ชั้น
แต่ละชั้นประกอบด้วยนาคปัก 3 เศียร และซุ้มบันแถลง
ปิดทองประดับ กระจกสีเขียวรองรับองค์ระฆังทรงจอม
แห ย่อมุมไม้สิบสองชั้นเหนือขึ้นไปเป็นบัลลังก์ ชั้นเหม
บัวกลีบขนุนช้อน 3 ชั้น ประดับกระจกสีขาวและสีแดง
บัวกลุ่ม 7 ชั้น กลีบดอกกึ่งกลางแทรกด้วยบัวลูกแก้วสี
ทอง 5 ชั้น ตัวปลียอดประดับกระจกสีขาว สีเหลือง
และสีแดงทำเป็นลายกริช
ส่วนยอดสุดปักพุ่มข้าวบิณฑ์ เป็นโลหะโปร่งปิด
ทอง
ฝ้าไขราประดับลายฉลุปิดทองบนพื้นแดง เชิง
กลอนติดกระดิ่งใบโพธิ์เล็ก ๆ เรียงรายโดยรอบจำนวน
180 ใบ
สรุป
พระมณฑป สร้างในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ปี พ.ศ. 2331 เป็นอาคารสี่เหลี่ยมทรงมณฑป มีขนาดกว้าง
15.50 เมตร ยาว 15.70 เมตร ภายในตั้งตู้ไม้ประดับมุกประดิษฐานพระไตรปิฎกฉบับทองใหญ่ ผนังด้านนอกทำลายเทพพนมทรงพุ่ม
ข้าวบิณฑ์ ปิดทองประดับกระจก มีบันไดทางขึ้น 4 ด้าน รวมบันไดทำรูปนาค 5 เศียร มีใบหน้ามนุษย์ บานพระทวารทั้ง 4 ด้านประดับมุก
ฐานพระมณฑปบริเวณหน้าพระทวารตั้งแต่งรูปยักษ์ทวารบาล ด้านละ 1 คู่ และบริเวณมุมทั้ง 4 ก่อแท่นเพื่อประดิษฐานพระพุทธรูปศิลาทำ
ด้วยหินอัคนี สร้างขึ้นแบบสถาปัตยกรรมทรงไทย เลียนแบบพระมณฑปที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทในจังหวัดสระบุรี
สมาชิกกลุ่ม
1. นางสาวศิญาภรณ์ วิชัยโย รหัสนักศึกษา 61811003005
2. นางสาวจิรัญญา สุดหล้า รหัสนักศึกษา 61811003017
3. นางสาวอภิญญา ชมปากเกี้ยง รหัสนักศึกษา 61811004005
4. นางสาวกรรณิการ์ แก้วสวนจิก รหัสนักศึกษา 61811004013
5. นางสาวอลิชา ศรีสุหา รหัสนักศึกษา 61811004014