The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Kampanat Longlom, 2020-05-05 08:19:37

ศาสนาสากล

ศาสนาสากล

สำระท่ี ๑ ศำสนำ ศลี ธรรม จรยิ ธรรม

ศาสนาสาคัญของโลก

ความหมาย - หลักคำสอนท่ียึดเหน่ยี วจติ ใจใหป้ ฏิบัติ
และงดเว้นบำงอย่ำงเพ่ือให้พ้นทุกข์ โดยมุ่งหวังจุดมุ่งหมำยสูงสุด
ของชีวิต

Religion - ผูกพัน หมำยถึง ควำมผูกพันระหว่ำง
มนุษย์กบั พระเจ้ำ

มลู เหตกุ ารเกดิ
1. ควำมไมร่ ใู้ นปรำกฏกำรณ์ธรรมชำติ
2. ควำมกลัว
3. ควำมตอ้ งกำรที่พ่ึงทำงใจ
4. ควำมต้องกำรควำมสงบสขุ ของสังคม เป็นเครือ่ งขดั เกลำจิตใจ
ประเภท – จดั ตำมควำมเชื่อเก่ียวกับพระเจำ้

เทวนยิ ม อเทวนิยม

นบั ถอื พระเจำ้ แบง่ เปน็ ไม่นบั ถอื พระเจ้ำ
เชน่ พุทธ
เอกเทวนิยม (เทพองค์เดยี ว)
- ยิว ครสิ ต์ อสิ ลำม

พหเุ ทวนยิ ม (เทพหลำยองค์)
– พรำหมณ์

องคป์ ระกอบของศาสนา

องคป์ ระกอบศาสนา พราหมณ์-ฮินดู พุทธ ครสิ ต์ อสิ ลาม
ไมม่ ี พระพทุ ธเจำ้ พระเยซู นบีมูฮำหมัด
ศาสดา พระไตรปฎิ ก ไบเบิล อลั กรุ อำน
คัมภรี ์ พระเวท
บำทหลวง -
นกั บวช พรำหมณ์ พระสงฆ์ โบสถ์ มสั ยิด
วดั
ศาสนสถาน เทวำลัย เทวสถำน มสิ ซำ ละหมำด ฮจั ญ์

พธิ กี รรม พิธีศรำทธ์ ,สงั สกำร ทำบุญตกั บำตร

หลกั คาสอน ทกุ ศำสนำสอนให้ทำดี เว้นชวั่

ความศกั ด์ิสทิ ธ์ิ เปน็ สิง่ ท่ีศำสนิกชนบชู ำใครจะละเมดิ มไิ ด้

ศำสนำใหญ่ ๆ ที่มีองค์ประกอบครบท้ัง 6 ประกำร คอื ศำสนำพทุ ธ คริสต์ ส่วนศำสนำพรำหมณ์ขำด
องค์ประกอบที่ไม่ปรำกฏศำสดำ เพรำะเช่ือว่ำคัมภีร์พระเวทเป็นคำสอนที่ออกจำกโอษฐ์ของพระเจ้ำ แต่ก็ยัง
จดั เป็นศำสนำ ทั้งน้ีอำจใหเ้ หตผุ ลได้วำ่ ผู้ก่อต้งั ศำสนำไม่ใช่มนุษยห์ ำกแตเ่ ป็นพระเจ้ำ

ศาสนาพราหมณ-์ ฮนิ ดู

ควำมเป็นมำ - เป็นศำสนำเก่ำแก่ที่สุดของโลก ชำวอำรยันนำติดตัวเข้ำมำประยุกต์ควำมเชื่อของชำว
พนื้ เมอื งดรำวิเดยี น (มลิ กั ขะ, ฑรำวทิ ) มีวิวัฒนำกำรแบบวิญญำณนยิ ม (Animism)

วิวฒั นาการ
1. ยุคพระเวท (1000 - 100 ปีก่อน ค.ศ.)

• เรมิ่ ตง้ั แตม่ คี มั ภีรพ์ ระเวท
• เทพเจ้ำมี 3 กลมุ่ ๆ ละ 11 องค์ แบง่ เปน็

เทพพนื้ ดนิ - พระอัคนี พระพฤหสั บดี
เทพบนอำกำศ - พระอนิ ทร์ พระวำยุ
เทพบนสวรรค์ - พระวิษณุ พระสูรยะ
• เปน็ ยคุ พหุเทวนยิ ม
2. ยุคพรำหมณ์
• ยกย่องพระพรหมเปน็ เทพสูงสดุ
• เริ่มปลำยยุคพระเวท
• เชือ่ ว่ำพระพรหมเปน็ ผู้สร้ำงสรรพสิ่ง
• เมอ่ื เกดิ จำกพรหมจะกลบั ส่พู รหม จงึ เช่ือเรอื่ ง กำรเวยี นวำ่ ย ตำยเกิด
• เกดิ ระบบวรรณะ 4
3. ยุคมหำกำพย์
• เปน็ ยุคเกดิ พทุ ธศำสนำ
• มคี มั ภรี ม์ หำภำรตะและรำมำยณะ
• วิวฒั นำกำรนบั ถอื เทพ ตรีมรู ติ 3 องค์ คือ
พระพรหม - เทพผูส้ รำ้ ง
พระวษิ ณุ - เทพผรู้ กั ษำ
พระศวิ ะ - เทพผูท้ ำลำย
• กำรบชู ำเทพท้ัง 3 เปลง่ วำจำ “โอม”
คัมภีร์ – พระเวท แบ่งเปน็ 4 คัมภีร์ คอื
ฤคเวท - บทสวดสรรเสรญิ พระเจ้ำ (โศลก)
ยชุรเวท - ใชพ้ ธิ บี ชู ำยัญ มที งั้ รอ้ ยแกว้ รอ้ ยกรอง
สำมเวท - ใชใ้ นพิธถี วำยนำ้ โสมแก่พระอนิ ท์ ขบั กล่อมเทพเจ้ำ เปน็ ฉนั ท์
อำถรรพเวท - เวทมนตร์คำถำ

หลักความเช่ือ - คำสอน - ปฏิบัติ อำตมัน
หลกั ปรมาตมัน – โมกษะ

ปรมัตมนั

โมกษะ เวยี นวำ่ ย
ตำย เกิด

เพอื่ ต้องกำร
หลุดพน้

ปรมำตมัน (อำตมนั สำกล) เป็นวญิ ญำณสำกล ต้นกำเนิดสรรพสิ่ง
อำตมัน (ชวี ำตมัน) เป็นวิญญำณย่อยแยกมำจำกปรมำตมัน จะรวมกับปรมำตมันได้
เมื่อเขำ้ ถึง โมกษะ (กำรหลดุ พ้นสังสำรวัฏ)
หลกั อาศรม 4 เป็นกำรยกระดับชีวิตฮนิ ดใู ห้สูงขึน้ มีหลักปฏิบตั ิคอื
พรหมจำรี - เดก็ ชำย 3 วรรณะแรกไดเ้ รียนหนงั สอื
คฤหัสถ์ - กำรครองเรอื น
วำนปรสั ถ์ - ฝึกจิตใหบ้ รสิ ทุ ธโิ์ ดยออกสูป่ ำ่
สนั ยำสี - ม่งุ แสวงหำปรมตั ถธรรม
หลักปุรษุ ารถะ เป็นรำกฐำนสังคมฮนิ ดู ได้แก่
ธรรม - หลักศลี ธรรมในสงั คม
กำม - กำรหำควำมสขุ ในแนวทำงศำสนำ
อรรถ - กำรแสวงหำทรพั ย์ สวัสดภิ ำพของชวี ิต
โมกษะ - กำรหลุดพน้
นิกาย

 นกิ ำยพรหม - นบั ถอื พระพรหมเป็นใหญ่
 นิกำยไวษณพ - นับถอื พระวษิ ณุเป็นใหญ่
 นกิ ำยไศวะ – นบั ถอื พระศวิ ะเปน็ ใหญ่
 นกิ ำยศักติ – นบั ถือชำยำ 3 มหำเทพ
พิธกี รรม
พิธีเกีย่ วกบั วรรณะ
• พิธีสังสกำร - พิธีทำให้บรสิ ทุ ธ์ิ เช่น อุปนยัน ววิ ำห์
• พธิ ีศรำทธ์ - กำรทำพลกี รรมให้ดวงวญิ ญำณบรรพบรุ ษุ
• พิธบี ูชำเทวดำ - เชน่ ศิวำรำตรี

ศาสพุทธ

- พุทธประวัติ

- คัมภรี พ์ ระไตรปิฎก - ฉบบั ดั้งเดมิ เขียนดว้ ยภำษำบำลี ไทยเขียนในใบลำน

พิมพเ์ ป็นอักษรไทยคร้งั แรกรัชกำลท่ี 5 แบ่งได้ 3 หมวด คือ

พระวนิ ยั ปิฎก พระสตุ ตันตปฎิ ก พระอภิธรรมปฎิ ก

• ว่าด้วยสิกขาบทภกิ ษุ ภกิ ษณุ ี • รวบรวมพระธรรมเทศนำของ • เป็นธรรมข้ันสูงในแง่วิชำกำร

• แบง่ ได้ 3 หมวด เช่น พระพุทธ-เจ้ำ แบ่งเป็น 5 ส่วน ลว้ นๆ แบ่งเป็น 7 คัมภีร์

สตุ ตวิภังค์ - ข้อหา้ ม, วินัย (นิกำย) เช่น สังยุตตนิกำย -

ขันธกะ - พธิ ีกรรม เกีย่ วกับบคุ คล

- ความเป็นอยูส่ งฆ์ สถำนท่ี

หลกั คาสอนสาคญั

อริยสจั 4 แปลวำ่ ควำมจรงิ อนั ประเสรฐิ ถือเป็นหัวใจของพุทธศำสนำ มีดังนี้

1. ทกุ ข์ แปลวำ่ สภำพทท่ี นได้ยำก หมำยถงึ ควำมไม่สบำยกำย ไมส่ บำยใจ แบ่งเป็น

๑.๑ สภำวทุกข์ ทกุ ข์เกดิ จำก เกดิ แก่ เจ็บ ตำย

๑.๒ ปกิณกทุกข์ คอื ทกุ ขจ์ ร ทุกข์ทเ่ี กิดภำยหลัง

2. สมทุ ยั คือ เหตุทท่ี ำให้เกิดทกุ ข์ คอื ตัณหำ แบ่งเป็น

๒.๑ กำมตณั หำ คอื ควำมอยำกได้ อยำกมี เพลดิ เพลนิ ยนิ ดีในส่งิ น่ำใคร่ แบ่งได้ 2 อยำ่ ง คอื

กิเลสกำม ได้แก่ ควำมใคร่ ควำมรัก ควำมพอใจ วัตถุกำม ได้แก่ วัตถุหรือสิ่งท่ีชวนให้รู้สึกพอใจ เกิดจำก

อำยำตนะภำยใน

๒.๒ ภวตัณหำ ได้แก่ ควำมอยำกใหอ้ ย่ใู นสภำพนัน้ นำนๆ

๒.๓ วิภวตัณหำ ได้แก่ ควำมอยำกไม่เปน็ อยำกไม่มี ในสภำพทีเ่ ปน็ อยู่

3. นโิ รธ คอื กำรดับทุกข์ หมำยถึงนิพพำน

4. มรรค แปลว่ำ ทำงหรอื วิธีปฏบิ ัตใิ หถ้ ึงซงึ่ กำรดับทุกข์ คอื อริยมรรคซงึ่ เปน็ หนทำงเดียวที่ทำให้หลุด

พ้นจำกทกุ ขไ์ ด้ เรยี กเตม็ ๆ วำ่ ทกุ ขน์ โิ รธคำมินปี ฏปิ ทำ ไดแ้ ก่

- สัมมำทฐิ ิ คอื ควำมเหน็ ชอบ -สัมมำอำชีวะ คือ เลี้ยงชพี ชอบ

- สัมมำสงั กปั ปะ คือ ดำริชอบ -สมั มำวำยำมะ คือ เพยี รชอบ

- สมั มำวำจำ คือ เจรจำชอบ -สมั มำสติ คือ ระลกึ ชอบ

- สัมมำกมั มนั ตะ คอื กระทำชอบ -สัมมำสมำธิ คือ ต้งั ใจม่ันชอบ

มรรคมอี งค์ 8 แบ่งไดเ้ ป็น ศลี สมำธิ ปัญญำ เรยี กว่ำ ไตรสกิ ขำ

ศีล ประกอบด้วย สัมมำวำจำ สัมมำกัมมันตะ สัมมำอำชวี ะ

สมาธิ ประกอบดว้ ย สัมมำวำยำมะ สัมมำสติ สมั มำสมำธิ

ปญั ญา ประกอบด้วย สัมมำทิฐิ สัมมำสงั กปั ปะ

ไตรลกั ษณ์ แปลว่ำ ลกั ษณะ 3 อยำ่ ง หมำยถึง สำมัญลกั ษณะ ตำมธรรมชำติ 3 ส่งิ คอื

1. อนจิ จตำ ควำมไมเ่ ท่ียง เม่อื มีเกดิ ยอ่ มมดี ับ

2. ทุกขตำ ควำมทนอยู่ไมไ่ ด้ ไมเ่ ที่ยง สิ่งนน้ั เป็นทกุ ข์ (เหตุทีท่ ำให้เปลี่ยนแปลง)

3. อนัตตตำ ควำมไม่มีตัวตน ในพุทธศำสนำถือว่ำทุกอย่ำงในโลกเป็นอนัตตำ เป็นสภำวะท่ี

เกิดขึ้นและดำเนินไปตำมเหตุตำมปัจจัย (ศำสนำพรำหมณ์เช่ือว่ำสภำพที่แปรเปล่ียนไปต้องมีอะไรเป็นตัว

ควบคมุ กำรแปรสภำพ) มเี ฉพำะในพทุ ธศำสนำเท่ำนัน้

ขันธ์ 5 หมำยถึง องค์ประกอบชีวิตมนุษย์ แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ
รปู คอื สว่ นเหน็ ได้ด้วยตำ เช่น ร่ำงกำย ประกอบดว้ ยธำตุ 4 ดนิ นำ้ ลม ไฟ
นาม คอื ส่วนทีเ่ หน็ และสมั ผสั ไมไ่ ด้ แบ่งเป็น 4 สว่ น คอื
1. เวทนำ ไดแ้ ก่ ควำมรสู้ ึก 3 อยำ่ ง คอื สขุ เวทนำ ทุกขเวทนำ อุเบกขำเวทนำ
2. สัญญำ ได้แก่ กำรกำหนดหมำยรู้สงิ่ ใดส่ิงหน่ึง (ควำมจำ)
3. สังขำร ไดแ้ ก่ สภำพทป่ี รงุ แตง่ จัดให้คดิ ดี ชวั่ กลำง
4. วญิ ญำณ ได้แก่ กำรรบั รู้ผำ่ นประสำทสัมผสั โดยมีส่ือทีเ่ รียกวำ่ อำยตนะ 6 ไดแ้ ก่ ตำ หู จมกู ล
กำย ใจ

ศาสนาคริสต์

ความเป็นมา - ตำมคมั ภรี ไ์ บเบลิ กลำ่ วถึงชนชำติยวิ โมเสส บญั ญัติ 10 ประกำร ประวตั พิ ระเยซู

ครสิ ต์

วิวัฒนาการ - เป็นศำสนำประจำชำติของโรมนั ปี ค.ศ. 391

คมั ภรี ์ไบเบลิ หลกั คำสอนสำคัญ

ผ้เู ขียนไดร้ ับการดลใจจากพระเจา้ มี 2 ภาค คือ 1. ควำมรัก คำสอนท่ีเป็นหัวใจของ ศำสนำครสิ ต์

พนั ธะสญั ญำเดมิ เน้นรัก 2 ประกำร คือ พระเจ้ำ - มนุษย์

- กฎหมาย (โตรา) 2. พระตรเี อกำนภุ ำพ พระเจำ้ องค์เดยี ว

- การสรา้ งโลก ชาวยวิ ประกอบด้วย 3 พระบคุ คล คือ พระบดิ ำ พระบุตร

- บทสวด สดุดี พระจติ

พันธะสัญญำใหม่ 3. อำณำจกั รพระเจำ้ อำณำจักรแห่งควำมรกั ผูม้ ี

- ประวตั ิ คาสอนของพระเยซูและสาวก จิตใจบริสทุ ธจิ์ ะได้เป็นสมำชิกในอำณำจกั รพระเจ้ำ

ชาวคริสต์นบั ถอื ทั้ง 2 ภาค

พิธีกรรมทางศาสนาคริสต์ เรียก ศีลศกั ดิ์สิทธ์ิ คำทอลกิ มี 7 ศลี โปรเตสแตนทม์ ี 2 ศลี คอื ศลี ล้ำง
บำปและศลี มหำสนิท โรมันคำทอลกิ เรียกวำ่ พธิ ศี ีลศกั ด์ิสทิ ธิ์ 7 ประกำร คือ

1. ศลี ล้างบาป (ศลี จุ่ม) เปน็ การชาระลา้ งบาปทางจิต นับเปน็ ศีลท่สี าคัญที่สดุ ทคี่ รสิ ต์ศาสนกิ ชนทกุ
คนจะต้องได้รบั กอ่ นเข้าอยใู่ นศาสนจักร
2. ศลี กาลัง
พิธกี ระทำหลงั จำกไดร้ บั ศีลล้ำงบำปแลว้ มักทำกบั เด็กโตแล้ว เพ่ือเปน็ กำรยนื ยนั
3. ศีลมหาสนิท ว่ำตนยอมรบั นับถือครสิ ต์ศำสนำจรงิ ๆ เปน็ กำรอญั เชญิ พระจติ สถิตย์ในใจ
(มิสซา)
4. ศลี แกบ้ าป เป็นพธิ ีมงุ่ ให้ครสิ ต์ศำสนกิ ชนเกดิ ควำมรู้สกึ วำ่ เลอื ดเน้ือของตนรวมเปน็ อันหนึง่
(สารภาพบาป) อันเดยี วกนั กบั พระเยซู
5. ศีลเจมิ คนไข้
กำรสำรภำพบำปของตนตอ่ บำทหลวง ผกู้ ระทำบำปจะตอ้ งทำควำมดีเพอ่ื ชดใช้
6. ศีลบวช (ศีลอนุกรม) โทษบำปทไ่ี ด้กระทำลงไป
7. ศีลสมรส
พิธีนก้ี ระทำแก่คนไขเ้ จบ็ ปว่ ย เป็นกำรลดโทษบำป และชว่ ยใหส้ ติกำลงั สำมำรถ
ตอ่ สกู้ บั มำรรำ้ ยได้

เปน็ พิธบี วชบคุ คลให้เป็นบำทหลวง

เปน็ พิธสี ำหรับค่แู ต่งงำนที่กระทำตอ่ หนำ้ พระสงฆ์ ทง้ั นีเ้ พ่ือขอพรจำกพระเจำ้
ใหค้ ู่บำ่ วสำวอยรู่ ว่ มกันดว้ ยควำมสขุ ตลอดไป

พระรำชำคณะคริสตศำสนำชำวไทยรูปแรกที่ได้รับเลือกเป็นพระคาร์ดินัล คือ อัครสังฆรำช ไมเคิล
(มีชัย กิจบุญชู, 2524) พิธีกรรมท่ีระลึกถึงชีวิตและคำสอนของพระเยซู คือ ศีลมหำสนิท โดยกำรรับแผ่น
ขนมปัง + เหล้ำองุ่นเป็นตัวแทนของร่ำงกำยและเลือดศีลท่ีสังฆรำชเท่ำนั้นเป็นผู้กระทำ คือ ศีลกำลัง และศีล
บวช

โรมันคำทอลิก กรีกออร์โธดอกซ์ โปรเตสแตนท์ (ศตวรรษท่ี 16)

− วาติกัน กรุงโรมสันตะปาปาองค์ − แยกจำกโรมด้วยเหตุผลกำรเมือง − มำร์ตินลูเธอร์แยกจำกโรมใน

แรกนกั บุญปเี ตอร์ ในศตวรรษท่ี 5 ศตวรรษท่ี 16

− พระเยซูมี 2 สภาวะ คือ มนุษย์ − พระเยซูมี 2 สภำวะท่ีรวมเป็นหนึ่ง -
กบั พระเจา้ เปน็ พระเจำ้ ในร่ำงมนุษย์

− ยกยอ่ งพระแม่มาเรีย เป็นแม่พระ − พระนำงมำเรีย เปน็ มนุษย์ − ไมไ่ ดก้ ลำ่ วไว้

− ยกย่องผู้ทาดี นักบุญ เคารพรูป − ไมก่ ลำ่ วถึง − ไม่นบั ถอื นักบุญ

ปั้น รูปแกะสลัก ไม้กางเขนมีร่าง − ไม่มีกำรเคำรพรูปป้ัน เคำรพ − เคำรพไม้กำงเขนท่ีไม่มีพระ

พระเยซู ภำพวำด 2 มติ ิ เยซู

- พระ - ไมแ่ ตง่ งาน − พระชัน้ ผูน้ ้อยแต่งงำนได้ − ไม่มีนักบวช มีศำสนำจำรย์
− พระชั้นผู้ใหญแ่ ตง่ งำนไมไ่ ด้ ผสู้ อนศำสนำจึงมคี รอบครวั ได้

โรมนั คำทอลกิ กรกี ออรโ์ ธดอกซ์ โปรเตสแตนท์ (ศตวรรษท่ี 16)

- วิญญาณแยกจากร่าง บาปหนัก − ไมเ่ ช่อื ในไฟชำระ

ไปนรก บาปน้อยไปไฟชาระก่อน − วิญญำณจะรอพร้อมกันถึงวัน − ไมเ่ ชื่อในไฟชำระ
วันส้ินโลกทุกคนจะฟ้ืนคืนชีพ ฟัง พพิ ำกษำ ภำยหลังวนั สนิ้ โลก

คาพพิ ากษาอกี ครง้ั

-- − เชื่อว่ำทุกคนติดต่อกับพระเจ้ำ

ได้ โดยไม่ตอ้ งอำศัยนักบวช

อิตาลี ฝรั่งเศส สเปน โมนาโค ยุโรปตะวนั ออก - รัสเซีย ยโุ รปตะวนั ตก - เหนอื

นกิ ำยย่อยจำกโปรเตสแตนท์ คอื คลั วิน เพรสไบทเี รยี น แองกลกิ ัน แบบติส แอดเวนตสิ มอรม์ อน

ศาสนาอิสลาม

ความหมาย “อิสลำม” แปลว่ำ กำรยินยอม ผู้ยินยอมต่อพระประสงค์ของพระเจ้ำ จะนำมำซึ่งสันติ

แหง่ ชวี ิต

ความเปน็ มา เกิดในคำบสมุทรอำหรบั นบมี ูฮำหมัดไดร้ ับกำรแต่งต้ังเป็นศำสดำเมื่อพระชนมำยุ 40 ปี

(ตำมกำรคำนวณเช่ือว่ำประสตู ิ 20 เมษำยน พ.ศ. 1113) ที่นครเมกกะ

คัมภีร์อัลกรุ อ่าน เปน็ คัมภรี ศ์ ักด์ิสทิ ธ์ิ ถอื เปน็ โองกำรพระเจ้ำมอบใหน้ บมี ฮู ำหมัด

ควำมสำคญั - เป็นบทบัญญัตขิ องศำสนำ

- กล่ำวถึงพระเจำ้ ผูส้ ร้ำงจกั รวำล ระเบียบแบบแผนจักรวำล - มนุษย์

- วถิ ชี วี ิตเพอื่ ควำมสงบสุข เปน็ รำกฐำนกฎหมำยอิสลำม

- รวมวทิ ยำกำรต่ำงๆ ท้งั นิตศิ ำสตร์ ดำรำศำสตร์ ประวัตศิ ำสตร์

- รวมเรือ่ งศำสดำองค์ก่อนๆ ทปี่ รำกฏในคัมภีร์ไบเบลิ ฉบับเดมิ

หลกั คาสอนสาคัญ

1. หลักศรัทธา 6 ประการ ได้แก่

1. ศรัทธาในพระผูเ้ ป็นเจา้ ผู้มีพระนามว่า อัลเลาะห์ (ซุปห์) เพียงพระองค์เดียว ห้ามบูชาส่ิง

ใด ต้งั ภาคเี สมอพระองค์

2. ศรทั ธาในมลาอกิ ะห์ คือ บรรดำบริวำรของพระผู้เป็นเจ้ำ เช่น เทวทูตญบิ รออลี รับใช้พระ

เจ้ำ

3. ศรัทธาในบรรดาคัมภีร์ทั้งหมด เชน่ เตำรอด มอบใหม้ ซู ำ (โมเสส)

(104 เล่ม) ท่ีพระเจ้าประทานมา - ชำบูร์ มอบให้ ดำวดู (เดวิด)

ให้ - อินญลี มอบให้ อีชำ (เยซู)

- อัลกรุ อ่ำน มอบให้ นบีมูฮำหมัด

4. ศรัทธาในบรรดาศาสนทตู (รอชูล) ของอัลเลำะห์ 25 องค์

5. ศรัทธาในวันพิพากษา (กิยา ซ่งึ เป็นวันท่ีมนษุ ย์ทุกคนทั้งทีอ่ ย่แู ละตำยไปแล้วจะไดร้ บั กำรพพิ ำกษำ

มะห)์ กำรกระทำของตน และทุกชีวิตจะเกิดใหม่หลังกำรพิพำกษำ คงอยู่นิ

รันดร์ โลกใหมน่ ีเ้ รียกวำ่ โลกอำควี ัต

6. ศรัทธาในกฎสภาวะ (พระลิขติ ) พระเจำ้ กำหนดกฎสำหรบั โลก + มนุษยชำติ คอื

- กฎตำยตวั - ชำตพิ ันธ์ุ รปู รำ่ ง ธรรมชำติ

- กฎไมต่ ำยตัว - ดำเนินตำมเหตุ ปัจจัย ควำมดี - ช่วั

- มนุษยม์ สี ตปิ ญั ญำ มีเหตุผลที่จะเลอื กปฏบิ ตั หิ รือไม่

2. หลกั ปฏบิ ัติ 5 ประกำร ได้แก่

1. การปฏญิ าณ ยอมรบั พระอัลเลาะห์เป็นก้าวแรกนาไปสูค่ วามเปน็ มุสลมิ อยา่ งสมบรู ณ์

ตน

2. การละหมาด คือ กำรแสดงควำมเคำรพตอ่ พระเจ้ำทง้ั ร่ำงกำยและจติ ใจ นมัสกำรสรรเสรญิ พระเจำ้

วนั ละ 5 คร้ัง ทกุ คร้ังใหห้ นั หนำ้ ไปทำงทตี่ งั้ ของวหิ ำรกะบะหใ์ นนครเมกกะ

3. การบรจิ าค หรือกำรจ่ำยทำน เปน็ กำรเตอื นกำรสอนให้มนุษยไ์ ม่ตกเปน็ ทำสของวตั ถุ ลดควำมเหน็

(ซะกาต) แก่ตวั ตอ้ งบริจำค 2.5%

4. การถือศลี อด คอื กำรงดเวน้ กำรบริโภคอำหำร เคร่อื งด่มื กำรรว่ มสงั วำส กำรรกั ษำอวยั วะทุกสว่ น

ใหพ้ ้นจำกกำรทำควำมชว่ั ตงั้ แตร่ งุ่ สำงจนตะวันตกดิน ทำในเดือน 9 (รอมำดอน) ทำ

ใหร้ จู้ ักเหน็ ใจผ้อู ืน่ ฝกึ ตนดำ้ นรำ่ งกำยจิตใจ ควำมอดทน

5. พิธฮี ัจญ์ กำรไปประกอบศำสนกิจ ณ วิหำรกะบะหใ์ นประเทศซำอดุ ิอำระเบยี ถำ้ หำกมี

ควำมสำมำรถทจี่ ะไปได้ไม่บงั คับแกม่ สุ ลมิ ทุกคน ทำในเดอื นที่ 12 ของศำสนำอิสลำม

นกิ ายสาคญั

นกิ ำยซุนนี ยดึ ถือคาสอนแบบแผนโอวาทของพระศาสดาอย่างเครง่ ครดั และเห็นวา่ พระศาสดาจะ

เป็นผู้ที่พระเจา้ เลือกเป็นรอชูล แตย่ ังเปน็ ปุถุชน ใหค้ วามเคารพกาหลิบ 4 คือ อาบูบาก

โอมาน โอถมาน อาลี นับถือในอนิ โดนีเซยี มาเลเซยี ไทย

นิกำยชอี ะห์ เหน็ วำ่ ผู้นำมสุ ลิมจะตอ้ งเป็นทำยำทโดยกำรสืบสำยเลือดจำกพระศำสดำ นบั ถอื เฉพำะ อำลี

มีนิกำยเจ้ำเซ็นเป็นนกิ ำยยอ่ ย นับถอื ในอิหร่ำน อริ กั อินเดยี

คาถามท้ายบทเรียน

1. ขอ้ ใดจดั อย่ใู นศำสนำประเภทเดียวกนั

1. ฮินดู คริสต์ อสิ ลำม 2. ยูดำย พทุ ธ พรำหมณ์

3. ขงจ้ือ ฮนิ ดู อสิ ลำม 4. คริสต์ พทุ ธ ซกิ ข์

2. ศำสนำในขอ้ ใดจดั เป็นศำสนำเทวนิยมทัง้ หมด

1. ครสิ ต์ ยดู ำย อิสลำม 2. พทุ ธ อิสลำม คริสต์

3. ขงจอ้ื พทุ ธ พรำหมณ-์ ฮนิ ดู 4. พรำหมณ์-ฮินดู ซกิ ข์ พทุ ธ

3. องค์ประกอบของศำสนำทส่ี ำคัญทสี่ ดุ ทีจ่ ะขำดมิไดไ้ ดแ้ กข่ ้อใด

1. ศำสดำ 2. คำสอน

3. ศำสนสถำน 4. นกั บวช

4. องค์ประกอบของศำสนำในขอ้ ใดท่ีศำสนำอืน่ มแี ต่ศำสนำพรำหมณ์-ฮินดไู ม่มี

1. พธิ กี รรม 2. คมั ภรี ์

3. ศำสดำ 4. จุดมงุ่ หมำยสูงสดุ

5. กำรบรรลุโมกษะของศำสนำฮินดคู อื อะไร

1. กำรได้กลับไปรวมเป็นหนง่ึ กบั พระผ้เู ป็นเจำ้ 2. ควำมหลุดพน้ จำกทกุ ข์

3. กำรมชี วี ติ เป็นนิรันดรใ์ นสวรรค์ 4. ประสบกำรณท์ ำงจติ ซง่ึ เปน็ ผลจำกกำรภำวนำ

6. โมกษะในศำสนำฮนิ ดหู มำยถึงอะไร

1. กำรทจ่ี ติ หลดุ พน้ จำกกเิ ลส 2. ควำมหลดุ พน้ จำกชวี ติ ทีเ่ ปน็ ทกุ ขใ์ นโลกน้ี

3. กำรไดเ้ กดิ ในสวรรค์อนั เปน็ บรมสุข 4. วิญญำณบรสิ ทุ ธ์ไิ ม่เวยี นว่ำยตำยเกิด

7. ข้อใดทกี่ ลำ่ วถึงลัทธติ รีมูรติของศำสนำฮินดูถูกตอ้ ง

1. พระพรหมสร้ำงสรรค์ พระวิษณบุ ำรงุ เลีย้ งดู พระอัคนีทำลำย

2. พระพฆิ เนศวรผสู้ ร้ำง พระนำรำยณ์บำรุงเล้ยี งดู พระกฤษณะทำลำย

3. พระพรหมสรำ้ งสรรค์ พระวิษณุบำรุงเล้ียงดู พระศวิ ะทำลำย

4. พระอศิ วรสรำ้ งสรรค์ พระพรหมบำรุงเลย้ี งดู พระศิวะทำลำย

8. อรยิ มรรคใดเก่ียวขอ้ งกบั ไตรสกิ ขำท่วี ำ่ ดว้ ยปัญญำ

1. สมั มำทิฐิ 2. สัมมำสติ

3. สัมมำวำยำมะ 4. สมั มำกัมมนั ตะ

9. หลักธรรมข้อใดท่ีพระพุทธเจำ้ ทรงแสดงถงึ องคป์ ระกอบแห่งชวี ติ ของมนุษย์

1. อรยิ สจั 4 2. เบญจศีล

3. เบญจขนั ธ์ 4. ไตรลักษณ์

10. ทกุ ส่ิงในโลกลว้ นเป็นอนจิ จงั ตรงกับควำมหมำยของหลักธรรมใด

1. ไตรสิกขำ 2. ไตรลกั ษณ์

3. ไตรปฎิ ก 4. ไตรทวำร

๑๑. พระเยซูตำมควำมเขำ้ ใจของศำสนำอิสลำมคอื ใคร

1. บุตรพระเจำ้ 2. นะบีทำ่ นหนง่ึ

3. ผู้ไถ่บำปมนษุ ย์ 4. ทตู สวรรค์องคห์ น่ึง

๑2. คมั ภรี อ์ ลั กุรอำ่ นถือเปน็ คมั ภีร์ศักด์ิสิทธิ์เพรำะเหตใุ ด

1. นบีมฮู ำหมัดทรงเขียนข้ึนเอง 2. เปน็ คมั ภรี ์ทสี่ อนเกย่ี วกับกำรดำเนนิ ชวี ติ

3. เปน็ คัมภรี ท์ ่ีจำรกึ โดยพระเจำ้ 4. เปน็ กำรดลใจจำกพระเจำ้ โดยผ่ำนนบมี ูฮัมหมดั

๑๓. หลักคำสอนอสิ ลำมถอื เป็นวิถีชวี ติ กำรเป็นมสุ ลมิ ท่ีแทจ้ รงิ พึงปฏบิ ตั อิ ย่ำงไร

1. ยดึ หลกั ศรทั ธำและปฏบิ ตั พิ รอ้ มๆ กัน 2. ตอ้ งไปแสวงบุญทีเ่ มกกะ

3. ตอ้ งถือศีลอด 4. ศรทั ธำในพระเจำ้

๑๔. ขอ้ ควำมเกี่ยวกับศำสนำอิสลำมในข้อใดไม่ถกู ตอ้ ง

1. เทวทูตไมใ่ ช่มนษุ ย์แตศ่ ำสนทูตเป็นมนษุ ย์

2. คัมภรี อ์ ลั กุรอำ่ นถือเป็นคัมภรี ศ์ ักด์ิสิทธิค์ มั ภีรส์ ดุ ท้ำย

3. มสุ ลิมเชอื่ ว่ำโลกมนุษย์เปน็ โลกแห่งจรี ังยงั่ ยนื

4. อัลเลำะหท์ รงลขิ ิตมนษุ ยใ์ หโ้ ชคดีหรือมีเครำะหก์ รรม

๑๕. ควำมเช่อื ในวันกยิ ำมะห์ตรงกบั ศรัทธำข้อใด

1. ศรทั ธำในศำสนทตู 2. ศรัทธำในวันพพิ ำกษำ

3. ศรัทธำในกฎสภำวะ 4. ศรทั ธำในคัมภรี ์


Click to View FlipBook Version