42 บทที่ 3 วิธีด าเนินการวิจัย การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อหาประสิทธิภาพของแผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง จังหวัด ของเรา วิชาภูมิศาสตร์ โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (5E) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนอนุบาลอุดรธานีส าหรับการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนให้มีประสิทธิภาพ 80/80 และ เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์การเรียน เรื่อง จังหวัดของเรา วิชาภูมิศาสตร์ โดยใช้กระบวนการสืบ เสาะหาความรู้ (5E) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนอนุบาลอุดรธานีระหว่างก่อนเรียน และหลังเรียน ทั้งนี้ ผู้วิจัยได้ด าเนินตามขั้นตอนดังต่อไปนี้คือ ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง แบบ แผนการวิจัย เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย การเก็บรวบรวมข้อมูล และการวิเคราะห์ข้อมูล ซึ่งมี รายละเอียดดังนี้ 3.1 ประชากรและกลุ่มเป้าหมาย 3.1.1 ประชากร ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ปีการศึกษา 2566 มีจ านวนนักเรียนทั้งหมด 484 คน จ านวน 12 ห้อง 3.1.2 กลุ่มเป้าหมาย กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/9 ได้มาจาก การแบบกลุ่มเดียว (One Group Pretest – Posttest Design) 1 ห้องเรียน จ านวนนักเรียน 40 คน 3.2 รูปแบบในการทดลอง ในการวิจัยครั้งนี้ผู้วิจัยได้ใช้รูปแบบในการทดลองแบบกลุ่มเดียว (One Group Pretest – Posttest Design) โดยมีการทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน ดังนี้ (พวงรัตน์ ทวีรัตน์, 2540 : 60) T1 แทน การทดสอบก่อนเรียน (Pretest) X แทน แผนการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) T2 แทน การทดสอบหลังเรียน (Posttest) T1 X T2
43 3.3 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย 3.3.1. ประเภทของเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยในครั้งนี้ ประกอบด้วย 3.3.1.1 แผนการจัดการเรียนรู้วิชาภูมิศาสตร์ ที่ใช้กิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้แผนการ จัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) 3.3.1.2 แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภูมิศาสตร์ 3.3.2. การสร้างและการหาคุณภาพเครื่องมือ การสร้างและหาคุณภาพเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย มีรายละเอียด ดังนี้ 3.3.2.1) แผนการจัดการเรียนรู้ แผนการจัดการเรียนรู้วิชาภูมิศาสตร์ที่จัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมการ เรียนรู้โดยใช้แผนการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) มีขั้นตอนการด าเนินการ ดังนี้ 1) ศึกษาทฤษฎี หลักการ และแนวคิดที่เกี่ยวกับการจัดกิจกรรม การเรียนรู้โดยใช้แผนการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) 2) ศึกษาหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานรายวิชาภูมิศาสตร์ พุทธศักราช 2551 (ปรับปรุงพุทธศักราช 2560) หลักสูตรสถานศึกษา คู่มือครู แบบเรียน ชั้น ประถมศึกษาชปีที่ 4 ของกระทรวงศึกษาธิการและเอกสารที่เกี่ยวข้อง 3) วิเคราะห์มาตรฐาน / ตัวชี้วัด 4) สร้างแผนการจัดการเรียนรู้วิชาภูมิศาสตร์ที่จัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ กิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้แผนการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) เรื่อง จังหวัดของเรา จ านวน 2 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ จ านวน 7 แผน แผนละ 1 ชั่วโมง รวมทั้งหมดใช้เวลา 7 ชั่วโมง ซึ่งมีสาระ การเรียนรู้ ดังนี้ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 ลักษณะภูมิประเทศภาคเหนือ จ านวน 1 ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 ลักษณะภูมิประเทศภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ านวน 1 ชั่วโมง
44 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3 ลักษณะภูมิประเทศภาคกลางและภาคตะวันออก จ านวน 1 ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 4ลักษณะภูมิประเทศภาคตะวันตก และภาคใต้ จ านวน 1 ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 5 ลักษณะภูมิอากาศ จ านวน 1 ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 6 ทรัพยากรธรรมชาติ จ านวน 1 ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 7 ทรัพยากรและสถานที่ส าคัญทางธรรมชาติ และมนุษย์สร้างขึ้น จ านวน 1 ชั่วโมง ซึ่งแต่ละแผนการจัดการเรียนรู้ ประกอบด้วย สาระส าคัญ จุดประสงค์การเรียนรู้(รายชั่วโมง) สาระ การเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ สื่อการเรียนรู้และการวัดและประเมินผล 5) น าแผนการจัดการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ที่สร้างขึ้นเสนอต่อหัวหน้ากลุ่ม สาระที่ปรึกษาแล้วน าเสนอต่อผู้เชี่ยวชาญด้านการสอนสังคมศึกษาเพื่อตรวจสอบความสอดคล้อง ระหว่างผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้และการวัดและประเมินผลโดยใช้ ผู้เชี่ยวชาญแต่ละท่านพิจารณาลงความคิดเห็นแล้วให้คะแนน ดังนี้ ให้คะแนน +1 หมายถึง แน่ใจว่ามีความเหมาะสมและสอดคล้องกับ จุดประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ และการวัดผลประเมินผล ให้คะแนน 0 หมายถึง ไม่แน่ใจว่ามีความเหมาะสมและสอดคล้องกับ จุดประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ และการวัดผลประเมินผล ให้คะแนน -1 หมายถึง แน่ใจว่ามีความเหมาะสมแล ะสอดคล้องกับ จุดประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ และการวัดผลประเมินผล แล้วน าคะแนนที่ได้มาหาค่าดัชนีความสอดคล้องขององค์ประกอบของแผนการจัดการเรียนรู้ (Index of Item-objective Congruence : IOC) โดยมีค่าดัชนีความสอดคล้องตั้งแต่ 0.67 - 1 6) ปรับปรุงแก้ไขแผนการจัดการเรียนรู้วิชาภูมิศาสตร์ตามข้อเสนอแนะ 7) น าแผนการจัดการเรียนรู้วิชาภูมิศาสตร์ ที่จัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ กิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้แผนการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ไปใช้กับกลุ่มเป้าหมาย
45 3.3.3 แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภูมิศาสตร์ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภูมิศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 เรื่อง จังหวัดของเรา ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นมีลักษณะเป็นแบบปรนัยชนิดเลือกตอบมี 4 ตัวเลือก จ านวน 30 ข้อ ในการสร้างแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภูมิศาสตร์ ผู้วิจัยได้ด าเนินการสร้าง ตามล าดับขั้นตอน ดังนี้ 1) ศึกษาเอกสารหลักสูตร ได้แก่ คู่มือครู คู่มือวัดและประเมินผลวิชา ภูมิศาสตร์ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 การสร้างตารางวิเคราะห์หลักสูตรเอกสารที่เกี่ยวข้องเทคนิค การเขียนข้อสอบ การสร้างแบบทดสอบแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 2) วิเคราะห์เนื้อหา เรื่อง จังหวัดของเรา เพื่อแบ่งเนื้อหาออกเป็นเนื้อหาย่อย ๆ แล้วเขียนจุดประสงค์การเรียนรู้ 3) สร้างแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาวิชาภูมิศาสตร์ แบบ ปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จ านวน 30 ข้อ ให้ครอบคลุมเนื้อหาและจุดประสงค์การเรียนรู้ตาม ตารางวิเคราะห์หลักสูตร 4) น าแบบทดสอบที่ผู้ศึกษาสร้างขึ้นเสนอต่อผู้เชี่ยวชาญเพื่อตรวจสอบ คุณภาพและด้านความเที่ยงตรงของแบบทดสอบพร้อมด้วยแบบประเมินและให้ผู้เชี่ยวชาญประเมิน ความสอดคล้องระหว่างข้อสอบกับจุดประสงค์การเรียนรู้โดยผู้เชี่ยวชาญพิจารณาตรวจสอบให้คะแนน ดังนี้ 0000000000000000 ให้คะแนนเป็น +1 เมื่อแน่ใจว่าสอดคล้อง 000000000000000 ให้คะแนนเป็น 0 เมื่อไม่แน่ใจว่าสอดคล้อง 0000000000000000 ให้คะแนนเป็น -1 เมื่อไม่เหมาะสมและสอดคล้อง จากนั้นน าคะแนนมาหาค่าดัชนีความสอดคล้อง (Index of Item-Objective Congruence: IOC) ของแผนการจัดการเรียนรู้ โดยมีค่าดัชนีความสอดคล้องตั้งแต่ 0.66 – 1 5) น าข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญมาวิเคราะห์หาค่าดัชนีความสอดคล้องระหว่าง ข้อสอบกับจุดประสงค์การเรียนรู้โดยเลือกข้อสอบที่มีค่าดัชนีความสอดคล้อง IOC ตั้งแต่ 0.66-1.00 ขึ้นไป
46 6) น าแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โดยน าไปทดลองใช้ (try out) จ านวน 27 ข้อ ไปหาคุณภาพของแบบทดสอบ โดยน าไปทดลองใช้กับนักเรียนชั้นประถมศึกษา ปีที่5/6 จ านวน 31 คนที่เคยเรียนเนื้อหา เรื่อง จังหวัดของเรามาแล้ว 7) น าข้อมูลที่ได้จากการทดลองใช้ข้อสอบมาวิเคราะห์หาค่าความยากง่าย (p) มีค่าอยู่ระหว่าง 0.4 ถึง 0.7 และค่าอ านาจจ าแนก (r) มีค่าอยู่ระหว่าง 0.2 ขึ้นไป จากข้อสอบ จ านวน 27 ข้อ 8) น าผลที่ได้จากการทดสอบมาวิเคราะห์แบบทดสอบรายข้อ เพื่อวิเคราะห์ หาค่าความยากง่าย (p) และค่าอ านาจจ าแนก (r) ของข้อสอบแต่ละข้อ จากนั้นคัดเลือกข้อสอบ จ านวน 20 ข้อ ซึ่งได้ ค่าความยากง่าย (p) และค่าอ านาจจ าแนก (r) และน าข้อสอบไปค านวณหาค่า ความเชื่อมั่น โดยใช้สูตรของคูเดอร์ - ริชาร์ดสัน (Kuder Richardson) จากวิธี 20 โดยมีค่า ตั้งแต่ 0.72 ขึ้นไป 9) น าแบบทดสอบที่ปรับปรุงแก้ไขจ านวน 20 ข้อ เพื่อใช้เป็นแบบทดลอง ก่อนเรียและหลังเรียนฉบับจริงกับกลุ่มตัวอย่าง โดยจากใช้ข้อสอบชุดเดิมแต่จะสลับข้อเพื่อป้องกัน การจ าข้อสอบได้ 3.4 การเก็บรวบรวมข้อมูล การด าเนินการวิจัยครั้งนี้ ผู้วิจัยด าเนินการทดลองและเก็บข้อมูลกับนักเรียนชั้นประถมศึกษา ปีที่ 4/9 การด าเนินการทดลองและเก็บข้อมูลในแต่ละขั้น มีดังนี้ 1) ท าการทดสอบก่อนเรียน (Pretest) โดยใช้แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการ เรียนวิชาภูมิศาสตร์และเตรียมนักเรียนก่อนด าเนินการสอน โดยแนะน าวิธีการเรียนโดยใช้กิจกรรม การเรียนรู้โดยใช้แผนการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ให้นักเรียนทราบ รวมถึงการสร้าง ข้อตกลงเบื้องต้นเกี่ยวกับการเรียน ขั้นตอนการเรียนและบทบาทวิธีการปฏิบัติตนในการเรียนวิชา สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม สาระการเรียนรู้ภูมิศาสตร์ใช้เวลา 1 ชั่วโมงในสัปดาห์แรก 2) ด าเนินการทดลองการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนวิชาภูมิศาสตร์ โดยใช้ แผนการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) เรื่อง จังหวัดของเรากับนักเรียนตามแผนการ จัดการเรียนรู้ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น จ านวน 7 แผน ใช้เวลา 7 ชั่วโมง 3) ท าการทดสอบหลังเรียน (Posttest) หลังจากการทดลองสอนสิ้นสุดลง โดยใช้ แบบทดสอบวัด ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภูมิศาสตร์ฉบับเดียวกันกับที่ใช้ทดสอบก่อน การทดลอง โดยใช้เวลา 1 ชั่วโมง
47 4) น าคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและคะแนนจากแบบวัดความสามารถในการ แก้โจทย์ปัญหา โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้ที่เรียนด้วยกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ใช้แผนการจัดการ เรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) วิเคราะห์ทางสถิติโดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ส าเร็จรูปทางสถิติ ส าหรับวิเคราะห์ข้อมูลทางสังคมศาสตร์ (SPSS for Windows) 3.5 การวิเคราะห์ข้อมูล ผู้วิจัยได้น าคะแนนจากแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและจากแบบฝึกทักษะมา วิเคราะห์ข้อมูลด้วยวิธีการทางสถิติ ดังนี้ 1) สถิติพื้นฐาน ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ใช้ในการหาค่า ร้อยละของผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาภูมิศาสตร์ เรื่อง จังหวัดของเรา โดยใช้โปรแกรม คอมพิวเตอร์ส าเร็จรูปทางสถิติส าหรับวิเคราะห์ข้อมูลทางพฤติกรรมศาสตร์และสังคมศาสตร์ (SPSS for window) 2) การทดสอบสมมติฐาน โดยน าคะแนนที่ได้จากการท าแบบทดสอบมาเปรียบเทียบ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภูมิศาสตร์และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน หลังจากที่ได้รับกิจกรรมการเรียนการสอน ด้วยแผนการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) โดยใช้การทดสอบที่แบบไม่อิสระ (Dependent Sample t-test) ด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ส าเร็จรูปทางสถิติส าหรับวิเคราะห์ข้อมูลทางพฤติกรรมศาสตร์และสังคมศาสตร์ (SPSS for Windows) 3.6 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล 3.6.1) สถิติในการหาคุณภาพของเครื่องมือ 3.6.1.1) ค่าดัชนีความสอดคล้อง IOC โดยการให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบเที่ยงตรงของ เนื้อหา กับวัตถุประสงค์ โดยแปลงระดับความสอดคล้องเป็นคะแนน (ไพศาล วรค า, 2552, น. 257) ดังนี้ IOC = ∑ R N เมื่อ IOC แทน ดัชนีความสอดคล้องระหว่างค าถามกับจุดประสงค์ ∑ R แทน ผลรวมคะแนนความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญทั้งหมด N แทน จ านวนผู้เชี่ยวชาญ
48 3.6.1.2) การหาความยากของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ค านวณจากสูตรดังนี้ (อรัญ ชุยกระเดื่อง, 2557, น. 69) P = R N เมื่อ P แทน ค่าความยากของข้อสอบ R แทน จ านวนคนตอบถูก N แทน จ านวนคนสอบทั้งหมด 3.6.1.3) การหาค่าอ านาจจ าแนกของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน (สมนึก ภัททิยธนี, 2558, น. 215) R = U n1 − L n2 เมื่อ R แทน ค่าอ านาจจ าแนก U แทน จ านวนนักเรียนที่ตอบถูกในกลุ่มเก่ง L แทน จ านวนนักเรียนที่ตอบถูฏในกลุ่มอ่อน N1 แทน จ านวนนักเรียนที่ได้คะแนนสูงกว่าคะแนนจุดตัด N2 แทน จ านวนนักเรียนที่ได้คะแนนต่ ากว่าคะแนนจุดตัด
49 3.6.1.4) ค่าความเชื่อมั่น KR-20 โดยวิธีของคูเดอร์ ริชาร์ดสัน (Kuder Richardson: KR) เป็นสูตรในการหาค่าความเชื่อมั่นที่เหมาะส าหรับแบบทดสอบที่มีค่าความยากง่ายในลักษณะ กระจายสูตรที่ใช้ในการหามีรูปแบบดังนี้ (บุญชม ศรีสะอาด, 2552: 103) Rt = n n−1 {1 − ∑ pq St 2 } St 2 = N ∑ X 2−(∑ x) 2 N2 เมื่อ rt แทน สัมประสิทธิ์ความเชื่อมั่นของแบบทดสอบทั้งฉบับ n แทน จ านวนข้อของแบบทดสอบ p แทน สัดส่วนของผู้เรียนที่ท าข้อสอบข้อนั้นถูกกับผู้เรียนทั้งหมด q แทน สัดส่วนของผู้เรียนที่ท าข้อสอบข้อนั้นผิดกับผู้เรียนทั้งหมด St 2 แทน ความแปรปรวนของคะแนนสอบทั้งหมด N แทน จ านวนผู้เรียน 3.7 สถิติพื้นที่ใช้ในการวิเคราะห์คุณภาพเครื่องมือ 3.7.1) ร้อยละ (อรัญ ชุยกระเดื่อง, 2557, น. 69) P = f N × 100 เมื่อ P แทน ร้อยละ f แทน จ านวนใดๆ ที่ต้องการหาร้อยละ n แทน จ านวนทั้งหมด
50 3.7.2) ค่าเฉลี่ย x̅ (บุญชม ศรีสะอาด, 2545, น. 105) x̅ = ∑ x N เมื่อ x̅แทน ค่าเฉลี่ย ∑ x แทน ผลรวมของคะแนนทั้งหมดในกลุ่ม N แทน จ านวนนักเรียนในกลุ่มเป้าหมาย 3.7.3) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) ใช้สูตรดังนี้ (บุญชม ศรี สะอาด, 2545, น. 107) S.D. = √ n ∑ x 2−(∑ x) 2 n(n−1) เมื่อ S.D. แทน ค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน ∑ x แทน ผลคะแนนรวมในกลุ่ม (∑ x) 2 แทน ผลคะแนนของคะแนนทั้งหมดยกก าลังสอง N แทน จ านวนนักเรียนในกลุ่มเป้าหมาย 3.7.4) การหาประสิทธิภาพของแผนการจัดการเรียนรู้โดยกระบวนการสืบเสาะหา ความรู้ (5E) ใช้ตามเกณฑ์ 80/80 จากสูตร (เผชิญ กิจระการ, 2544: 49) สูตร 1 ประสิทธิภาพของกระบวนการ E1 = ∑ x N ×100 A เมื่อ E1 แทน ประสิทธิภาพของกระบวนการเรียนการสอนที่จัดไว้ใน แผนการจัดการ เรียนรู้โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (5E) คิดเป็นร้อยละของคะแนนเฉลี่ย ที่ได้จากการท า ชิ้นงานและกิจกรรมระหว่างเรียนของนักเรียน
51 ∑ x แทน คะแนนรวมจากการท าชิ้นงานและกิจกรรมระหว่างเรียน ของนักเรียน A แทน คะแนนเต็มของชิ้นงานและกิจกรรมระหว่างเรียนของ นักเรียน N แทน จ านวนนักเรียนทั้งหมด สูตร 2 ประสิทธิภาพของผลลัพธ์ E2 = ∑ x N ×100 B เมื่อ E2 แทน ประสิทธิภาพของผลลัพธ์ คิดเป็นร้อยละของคะแนนเฉลี่ย ที่ได้จากการท าแบบทดสอบหลังเรียน ∑ x แทน คะแนนรวมจากการท าแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ หลังเรียน B แทน คะแนนเต็มของแบบทดสอบหลังเรียน N แทน จ านวนนักเรียนทั้งหมด 3.7.5) สถิติที่ใช้ในการทดสอบสมมติฐาน 1) เปรียบเทียบผลคะแนนการวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างก่อนเรียน และหลังเรียน โดยการทดสอบทีแบบไม่อิสระ (t-test for Dependent Sample) (ล้วน สายยศ และ อังคณา สายยศ, 2543: 248 - 249) = ∑ √ ∑ 2−(∑ )2 −1 เมื่อ t แทน การแจกแจงแบบที D แทน ความแตกต่างของคะแนนหลังเรียน N แทน จ านวนนักเรียน
52 บทที่ 4 ผลการวิเคราะห์ข้อมูล การวิจัยการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาภูมิศาสตร์ เรื่อง จังหวัดของเรา ของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดยใช้แผนการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะค้นหา (5E) มีวัตถุประสงค์เพื่อหา ประสิทธิภาพของแผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง จังหวัดของเรา วิชาภูมิศาสตร์ โดยใช้กระบวนการสืบ เสาะหาความรู้ (5E) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ส าหรับการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนให้ มีประสิทธิภาพ 80/80 และเพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์การเรียน เรื่อง จังหวัดของเรา โดยใช้ กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (5E) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ระหว่างก่อนเรียนและหลัง เรียน ซึ่งผลการวิเคราะห์ข้อมูล ดังรายละเอียดต่อไปนี้ 4.1 ล าดับขั้นในการวิเคราะห์ข้อมูล 4.2 ผลการวิเคราะห์ข้อมูล 4.1 ล าดับขั้นในการวิเคราะห์ข้อมูล ตอนที่ 1 ผลการวิเคราะห์หาประสิทธิภาพของแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอน แบบสืบเสาะค้นหา (5E) รายวิชาภูมิศาสตร์ เรื่อง จังหวัดของเรา ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 ตอนที่ 2 ผลการเปรียบเทียบและวิเคราะห์ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาภูมิศาสตร์ เรื่อง จังหวัดของเรา ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดยใช้แผนการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะค้นหา (5E) ก่อนเรียนและหลังเรียน
53 4.2 ผลการวิเคราะห์ข้อมูล ตอนที่ 1 ผลการวิเคราะห์หาประสิทธิภาพของแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอน แบบสืบเสาะค้นหา (5E) รายวิชาภูมิศาสตร์ เรื่อง จังหวัดของเรา ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 ผู้วิจัยได้น าแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะค้นหา (5 E) รายวิชาภูมิศาสตร์ เรื่อง จังหวัดของเรา ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ตามเกณฑ์ 80/80 ท าการ ทดลองกับนักเรียนกลุ่มตัวอย่าง โดยน าแผน การจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะ ค้นหา (5E) รายวิชาภูมิศาสตร์เรื่อง จังหวัดของเรา ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ประกอบด้วย เนื้อหาสาระ จ านวน 7 เรื่อง คือ 1) เรื่อง ลักษณะภูมิประเทศภาคเหนือ 2) เรื่อง ลักษณะภูมิประเทศ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 3) เรื่อง ลักษณะภูมิประเทศภาคกลางและภาคตะวันออก 4) เรื่อง ลักษณะ ภูมิประเทศภาคตะวันตกและภาคใต้5) เรื่อง ลักษณะภูมิอากาศ 6) ทรัพยากรธรรมชาติและ 7) ทรัพยากรและสถานที่ส าคัญทางธรรมชาติและมนุษย์สร้างขึ้น มาใช้สอนจนครบทุกแผนและท า การประเมินผู้เรียนโดยใช้ชิ้นงาน ที่ท าในกิจกรรมการเรียนการสอนและให้ท าแบบทดสอบหลังเรียน จ านวน 20 ข้อ จากนั้นผู้วิจัยได้น า ผลการทดสอบของนักเรียนรายบุคคลมาวิเคราะห์หาประสิทธิภาพ ของแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะค้นหา (5E) แสดงผลการวิเคราะห์ ข้อมูล ตารางที่ 1 สูตร 1 ประสิทธิภาพของกระบวนการ และ สูตร 2 ประสิทธิภาพของผลลัพธ์ E1 = ∑ x N ×100 A , E2 = ∑ x N ×100 B
54 ตารางที่ 1 ผลรวมของคะแนนก่อนเรียน ระหว่างเรียน และคะแนนหลังเรียนด้วยการพัฒนาแผนการ จัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอนแบบสิบเสาะค้นหา (5E) เรื่องจังหวัดของเรา ของชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 เลขที่ ผลการวัด ก่อนเรียน (20) ผลการวัดระหว่างเรียน รวม (35) ผลการวัด หลังเรียน (20) เรื่องที่ 1 (5) เรื่องที่ 2 (5) เรื่อง ที่3 (5) เรื่อง ที่4 (5) เรื่องที่ 5 (5) เรื่องที่ 6 (5) เรื่องที่ 7 (5) 1 9 4 4 5 5 5 5 5 33 16 2 12 4 5 5 5 4 5 5 33 17 3 10 4 5 3 5 5 5 5 32 14 4 12 5 5 5 5 5 5 5 35 16 5 12 5 5 5 4 5 5 5 35 18 6 9 5 5 5 5 5 5 5 35 16 7 6 5 5 5 5 5 5 5 35 17 8 10 4 5 5 5 4 5 5 33 15 9 8 5 5 4 5 5 5 5 34 17 10 8 5 5 5 3 5 4 5 34 16 11 11 5 5 5 5 5 5 5 35 14 12 11 5 5 5 5 3 5 4 32 15 13 10 4 5 5 5 5 5 5 34 15 14 11 5 5 5 5 4 5 5 34 17 15 8 5 5 5 5 4 5 5 34 16
55 ตารางที่ 1 ผลรวมของคะแนนก่อนเรียน ระหว่างเรียน และคะแนนหลังเรียนด้วยการพัฒนาแผนการ จัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอนแบบสิบเสาะค้นหา (5E) เรื่องจังหวัดของเรา ของชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 เลขที่ ผลการวัด ก่อนเรียน (20) ผลการวัดระหว่างเรียน รวม (35) ผลการวัด หลังเรียน (20) เรื่องที่ 1 (5) เรื่องที่ 2 (5) เรื่องที่ 3 (5) เรื่อง ที่4 (5) เรื่องที่ 5 (5) เรื่องที่ 6 (5) เรื่องที่ 7 (5) 16 9 5 5 5 5 5 5 4 34 18 17 10 5 4 5 5 5 5 5 34 17 18 12 5 5 5 5 5 5 5 35 19 19 9 5 5 5 5 5 5 5 35 16 20 11 5 4 5 5 5 5 5 34 15 21 11 4 5 5 5 4 5 5 33 16 22 10 4 5 5 5 5 5 5 34 16 23 11 5 5 5 5 5 3 5 32 17 24 9 5 5 5 5 5 5 5 35 16 25 10 5 5 4 5 5 5 4 33 15 26 8 4 5 5 5 5 5 5 34 18 27 11 5 5 5 5 5 5 5 35 17 28 9 5 5 5 5 5 5 5 35 16 29 14 5 5 5 5 5 4 5 35 18
56 ตารางที่ 1 ผลรวมของคะแนนก่อนเรียน ระหว่างเรียน และคะแนนหลังเรียนด้วยการพัฒนา แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอนแบบสิบเสาะค้นหา (5E) เรื่องจังหวัดของ เรา ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 (ต่อ) เลขที่ ผลการวัด ก่อนเรียน (20) ผลการวัดระหว่างเรียน รวม (35) ผลการวัด หลังเรียน (20) เรื่องที่ 1 (5) เรื่องที่ 2 (5) เรื่องที่ 3 (5) เรื่องที่ 4 (5) เรื่องที่ 5 (5) เรื่องที่ 6 (5) เรื่องที่ 7 (5) 30 8 5 5 5 5 3 5 4 32 17 31 10 5 5 5 5 5 5 5 35 18 32 13 5 5 5 5 5 5 5 35 16 33 11 5 5 5 4 5 5 5 35 18 34 10 5 5 5 5 5 5 4 34 16 35 12 5 5 4 5 5 5 5 34 17 36 10 5 5 5 5 5 5 5 35 18 37 8 5 5 5 5 5 5 5 35 18 38 10 5 5 5 5 4 5 5 34 17 39 11 5 4 5 5 5 5 5 34 16 40 9 5 5 5 4 5 5 5 35 17 ∑ 403 192 196 195 195 190 196 195 1364 661 ̅ 10.07 4.80 4.90 4.87 4.87 4.75 4.90 4.87 34.10 16.52 S.D. 1.60 1.58 1.57 1.59 1.57 1.61 1.59 1.57 0.98 1.17 ประสิทธิภาพ ()= 97.42 ()= 82.62
57 จากตารางที่ 1 พบว่า นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ได้คะแนนเฉลี่ยจากการท าใบงาน ระหว่างการเรียนรู้ทั้ง 7 แผน คะแนนเต็ม 35 คะแนน เรื่อง จังหวัดของเรา เท่ากับ 34.10 คิดเป็นร้อย ละ 97.42 และคะแนนเฉลี่ยจากการท าแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียน เท่ากับ 16.52 คิดเป็นร้อยละ 82.62 และค่าส่วนเบี่ยงเบนจากการท าใบงานระหว่างการเรียนรู้ทั้ง 7 แผน คะแนนเต็ม 35 คะแนน เรื่อง จังหวัดของเรา เท่ากับ 0.98 คิดเป็นร้อยละ 97.42 และส่วนเบี่ยงเบน จากการท าแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียน เท่ากับ 1.17 คิดเป็นร้อยละ 82.62 ดังนั้น แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะค้นหา (5 E) เรื่อง จังหวัดของเรา ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์80/80 ตารางที่ 2 ประสิทธิภาพของแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะค้นหา (5E) เรื่อง จังหวัดของเรา ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จ านวน นักเรียน (N) คะแนนระหว่างเรียน (1) คะแนนวัดผลสัมฤทธิ์หลังเรียน (2) คะแนนเต็ม คะแนนเฉลี่ย (̅) ร้อยละ (%) คะแนนเต็ม คะแนนเฉลี่ย (̅) ร้อยละ (%) 40 35 34.10 97.42 20 16.52 82.62 จากตารางที่ 2 พบว่า แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะค้นหา (5E) เรื่อง จังหวัดของเรา ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 97.42/82.62 แสดง ว่า แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอนแบบ สืบเสาะค้นหา (5E) เรื่อง จังหวัดของเรา ของ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่ผู้วิจัยได้พัฒนาขึ้นมามีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 ที่ได้ตั้งไว้
58 ตอนที่ 2 ผลการเปรียบเทียบและวิเคราะห์ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาภูมิศาสตร์ เรื่อง จังหวัดของเรา ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดยใช้แผนการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะค้นหา (5E) ก่อนเรียนและหลังเรียน ผู้วิจัยได้น าคะแนนผลสัมฤทธิ์ก่อนเรียนและผลสัมฤทธิ์หลังเรียนโดยใช้แผน การ จัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะค้นหา (5E) เรื่อง จังหวัดของเรา ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จ านวน 40 คน คะแนนเต็ม 20 คะแนน มาวิเคราะห์หา ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ดังแสดง ในตารางที่ 8 สูตร เปรียบเทียบคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน โดยการทดสอบที่แบบไม่อิสระ (t-test for Dependent Sample) = ∑ √ ∑ 2−(∑ )2 −1 เมื่อ t แทน การแจกแจงแบบที D แทน ความแตกต่างของคะแนนหลังเรียน N แทน จ านวนนักเรียน
59 ตารางที่ 3 คะแนนเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของผลสัมฤทธิ์ก่อนเรียนและผลสัมฤทธิ์หลังเรียน โดยใช้แผนการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะค้นหา (5E) เรื่อง เรื่อง จังหวัดของเรา ของ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 เลขที่ คะแนนก่อนสอบ (20) คะแนนหลังสอบ (20) 1 9 16 7 49 2 12 17 5 25 3 10 14 4 16 4 12 16 4 16 5 12 18 6 36 6 9 16 7 49 7 6 17 11 121 8 10 15 5 25 9 8 17 9 81 10 8 16 8 64 11 11 14 3 9 12 11 15 4 14 13 10 15 5 25 14 11 17 6 36 15 8 16 8 64 16 9 18 9 81
60 ตารางที่ 3 คะแนนเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของผลสัมฤทธิ์ก่อนเรียนและผลสัมฤทธิ์หลังเรียน โดยใช้แผนการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะค้นหา (5E) เรื่อง เรื่อง จังหวัดของเรา ของ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 (ต่อ) เลขที่ คะแนนก่อนสอบ (20) คะแนนหลังสอบ (20) 17 10 17 7 49 18 12 19 7 49 19 9 16 7 49 20 11 15 4 16 21 11 16 5 25 22 10 16 6 36 23 11 17 6 36 24 9 16 7 49 25 10 15 5 25 26 8 18 8 64 27 11 17 6 36 28 9 16 7 49 29 14 18 4 16 30 8 17 9 81 31 10 18 8 64 32 13 16 3 9 33 11 18 7 49
61 ตารางที่ 3 คะแนนเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของผลสัมฤทธิ์ก่อนเรียนและผลสัมฤทธิ์หลังเรียน โดยใช้แผนการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะค้นหา (5E) เรื่อง จังหวัดของเรา ของ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 (ต่อ) เลขที่ คะแนนก่อนสอบ (20) คะแนนหลังสอบ (20) 34 10 16 6 36 35 12 17 5 25 36 10 18 8 64 37 8 18 10 100 38 10 17 7 49 39 11 16 7 49 40 9 17 8 64 ∑ 403 661 - - ̅ 10.07 16.52 - - S.D. 1.60 1.17 - - ร้อยละ 50.00 82.62 ∑ = 258 ∑ 2 = 1800 จากตารางที่ 3 พบว่า นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีผลสัมฤทธิ์การเรียนรู้โดยใช้แผน การ จัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะค้นหา (5E) เรื่อง จังหวัดของเรา พบว่า ก่อนเรียนผลรวมคะแนนเท่ากับ 403 ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 10.07 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 1.60 คิดเป็นร้อยละ 50.00 หลังเรียน ผลรวมคะแนนเท่ากับ 661 ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 16.52 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 1.17 คิดเป็นร้อย ละ 82.62 มีความแตกต่างของคะแนนก่อนเรียนและ หลังเรียนเท่ากับ 258 ซึ่งคะแนนเฉลี่ยหลังเรียน สูงกว่าก่อนเรียน
62 ตารางที่ 4 การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้โดยใช้แผนการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะค้นหา (5E) เรื่อง จังหวัดของเรา ของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ก่อนเรียนและหลังเรียน การทดสอบ N X S.D. df T sig ก่อนเรียน 40 10.10 2.62 39 20.25* 0.00 หลังเรียน 40 16.53 1.41 * มีนัยส าคัญทางสถิติที่ระดับ .05 จากตารางที่ 4 พบว่า นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดย ใช้แผนการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะค้นหา เรื่อง จังหวัดของเรา มีคะแนนเฉลี่ยหลังเรียนสูงกว่าก่อน เรียนอย่างมีนัยส าคัญที่ระดับ .05
63 บทที่ 5 สรุปผล อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ การวิจัยครั้งนี้ เป็นการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนรายวิชาภูมิศาสตร์เรื่อง จังหวัด ของเรา ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดยใช้แผนการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะค้นหา (5E) มี วัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะคันหา (5E) รายวิชาภูมิศาสตร์ เรื่อง จังหวัดของเรา ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาาปีที่ 4 ให้มีประสิทธิภาพตาม เกณฑ์80/80 และเพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาภูมิศาสตร์ เรื่อง จังหวัดของเรา ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาาปีที่ 4 โดยใช้แผนการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะค้นหา (5E) ก่อนเรียน และหลังเรียน กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/9 โรงเรียนอนุบาลอุดรธานี อ าเภอเมือง จังหวัดอุดรธานีปีการศึกษา 2566 มีจ านวนนักเรียน 40 คน จ านวน 1 ห้อง ใช้วิธีการสุ่ม กลุ่มตัวอย่างโดยใช้การเลือกแบบเฉพาะเจาะจง ( Purposive Sampling) นวัตกรรม คือ แผนการ จัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะค้นหา (5E) รายวิชา ภูมิศาสตร์ เรื่อง จังหวัดของเรา เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะค้นหา (5E) รายวิชาภูมิศาสตร์เรื่อง จังหวัดของเรา ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาาปีที่ 4 จ านวน 7 แผ่น เวลา 7 ชั่วโมง และแบบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง จังหวัดของเรา ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาาปีที่ 4 ที่จัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบ การสอนแบบสืบเสาะค้นหา (5E) จ านวน 20 ข้อ ค่าความเชื่อมั่นทั้ง ฉบับ เท่ากับ 0.72 ซึ่งมีความ เชื่อมั่นสูง วิเคราะห์ข้อมูลโดยหาค่า ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบน มาตรฐาน และค่า t test Dependent 5.1 สรุปผลการวิจัย 1. การจัดท าแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะค้นหา (5E) รายวิชา ภูมิศาสตร์ เรื่อง จังหวัดของเรา ของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 97.42/82.62 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ก าหนดไว้ 80/80 2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยใช้ แผนการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะค้นหา (5E) เรื่อง จังหวัดของเรา ของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ได้คะแนนเฉลี่ยก่อนเรียนเท่ากับ 10.07 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 50.00 คะแนนเฉลี่ยหลังเรียนเท่ากับ 16.52 คิดเป็นร้อยละ 82.62 ซึ่งผลสัมฤทธิ์การ เรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยส าคัญ ทางสถิติที่ระดับ .05
64 5.2 อภิปรายผลการวิจัย จากการจัดท าแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะค้นหา (5 E) รายวิชา ภูมิศาสตร์ เรื่องเรื่อง จังหวัดของเรา ของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีข้อควรน ามาอภิปรายผล ดังนี้ 5.2.1. การจัดท าแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะค้นหา (5E) รายวิชาภูมิศาสตร์ เรื่อง จังหวัดของเรา ของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 พบว่ามีประสิทธิภาพ เท่ากับ 97.42/82.62 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ก าหนดไว้ 80/80 ตามที่ตั้งสมมติฐานไว้ ทั้งนี้อาจเป็นเพราะ แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะ ค้นหา (5E) รายวิชาภูมิศาสตร์ เรื่องเรื่อง จังหวัดของเรา ของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ซึ่งผู้วิจัยได้สร้างแผนการจัดการเรียนรู้ขึ้นตาม ขั้นตอนของการท าแผนอย่างจริงจัง เป็นระบบและน าไปให้ผู้เชี่ยวชาญจ านวน 3 ท่านตรวจสอบและ ประเมินก่อนที่จะน าไปทดลองจริง แล้วน าไปปรับปรุงแก้ไขตามค าแนะน าของผู้เชี่ยวชาญ นอกจากนี้ แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะค้นหา (5 E) ยังช่วยให้ผู้เรียนได้ค้นหา ความรู้ด้วยตนเอง สร้างทั้งความสนใจ กระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้ และปูทางให้กับการพัฒนาทักษะโดย ใช้การตั้งค าถาม (inquiry) เป็นพื้นฐานในการให้ผู้เรียนได้น าประสบการณ์ที่เรียนรู้หรือฝึกฝนมา ทดลองปฏิบัติหรือ แสวงหาค าตอบ เกิดเป็นการเรียนรู้จากความเข้าใจที่ผู้เรียนค่อย ๆ สร้างสมขึ้นมา และผู้เรียน สนุกสนานกับการเรียน เนื่องจากได้ลงมือค้นคว้า ท ากิจกรรม หาความรู้ด้วยตัวเอง โดย อาศัย การท างานทั้งกลุ่มและเดี่ยว ซึ่งจากเหตุผลที่กล่าวมาท าให้แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบ การสอนแบบสืบเสาะค้นหา (5E) รายวิชาภูมิศาสตร์ เรื่อง จังหวัดของเรา ของนักเรียน ชั้น ประถมศึกษาปีที่ 4 มีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ซึ่งสอดคล้องกับงานวิจัยของติณณ์ณภัทร เพชรศิริวรรณ์ (2563 : บทคัดย่อ) ได้ท าการวิจัยเรื่อง การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้แบบ 5E เรื่อง ภูมิศาสตร์ทวีปยุโรป รายวิชาสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ส าหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ผลการศึกษาพบว่า กิจกรรมการเรียนรู้ที่พัฒนาขึ้น มีประสิทธิภาพ เท่ากับ 82.70/86.80 ซึ่งผ่าน เกณฑ์ที่ตั้งไว้ที่ 80/80 สอดคล้องกับงานวิจัยของเดือนเพ็ญ สังข์งาม (2563 : บทคัดย่อ) ได้ท าการ วิจัยเรื่อง การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน สาระภูมิศาสตร์ เรื่อง ทวีปอเมริกาเหนือที่จัดการเรียนรู้ แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ส าหรับนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ผลการศึกษาพบว่า ประสิทธิภาพ ส าหรับการจัดการเรียนรู้สาระภูมิศาสตร์ เรื่อง ทวีปอเมริกาเหนือ ที่จัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหา ความรู้ (5E) ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 3 มีค่าเท่ากับ 85.61/82.61 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้ และสอดคล้องกับงานวิจัยของ วาทินี เพชรดี และ ปียลักษณ์ โพธิวรรณ์ (2564 : บทคัดย่อ ได้ท าการวิจัยเรื่อง การพัฒนากิจกรรม การเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ เรื่องเศรษฐกิจ
65 พอเพียงกับการผลิตสินค้าและบริการ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ผลการศึกษาพบว่า ผลการพัฒนากิจกรรม การเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้มีประสิทธิภาพ E1 /E2 เท่ากับ 90.05/85.11 5.2.2. การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง จังหวัดของเรา ของนักเรียน ชั้นประถมศึกษา ปีที่ 4 ได้คะแนนเฉลี่ยก่อนเรียน 10.07 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 50.00 คะแนนเฉลี่ยหลังเรียนเท่ากับ 16.52 คิดเป็นร้อยละ 82.62 เมื่อเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างค่าเฉลี่ยพบว่านักเรียนมีคะแนน ผลสัมฤทธิ์การเรียนรู้หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยส าคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ซึ่งเป็นไปตาม สมติฐานที่ตั้งไว้ที่เป็นเช่นนี้อาจเป็นเพราะการสืบเสาะหาความรู้ช่วยกระตุ้นให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้ ได้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งนักเรียนได้ลงมือค้นคว้าท ากิจกรรมหาความรู้ด้วยตนเอง เป็นการสร้างประสบการณ์ ให้กานักเรียนและกระตุ้นให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ส่งผลให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนสูงขึ้น กว่าก่อนเรียน สอดคล้องกับงานวิจัยของ พุทธิพงษ์ ศุภมัสดุอังกูร (2559 : บทคัดย่อ) ได้ท าการวิจัย เรื่อง การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความสามารถในการคิดวิเคราะห์เรื่องภัยพิบัติทาง ธรรมชาติของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ด้วยการจัดการเรียนรู้แบบวัฏจักรการสืบเสาะหาความรู้ (5E) ผลการศึกษาพบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง ภัยพิบัติทางธรรมชาติของนักเรียน ชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่เรียนด้วยการจัดการเรียนรู้แบบวัฎจักรการสืบเสาะหาความรู้ (5E) สูงกว่าก่อน เรียนอย่างมีนัยส าคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และสอดคล้องกับงานวิจัยของสุกัญญา เพ็ชรนาค ( 2562 : บทคัดย่อ) ได้พัฒนาแผนการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) รายวิชาภูมิศาสตร์เรื่องทวีปแอฟริกา ของนักเรียนขั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ผลการวิจัยพบว่า นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนจากกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5E รายวิชาภูมิศาสตร์ หลังเรียนสูงกว่า ก่อนเรียน อย่างมีนัยส าคัญทางสถิติที่ระดับ .05 5.3 ข้อเสนอแนะ 5.3 1. ข้อเสนอแนะในการน าผลการวิจัยไปใช้ 5.3.1.1. แผนการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะค้นหา (5E) ที่ผู้วิจัยได้จัดท าขึ้นนั้นใน การน ามาใช้ในการจัดการเรียนการสอน ครูผู้สอนจะต้องเตรียมการจัดการเรียนการสอนให้พร้อม โดย การศึกษาและท าความเข้าใจกิจกรรมในการจัดการเรียนการสอนเพื่อให้เป็นไปตามขั้นตอนที่ก าหนด ไว้ก่อนจะน าไปใช้ในการจัดการเรียนการสอนจริง 5.3.1.2. ความพร้อมของห้องเรียน สื่อการเรียนการสอน และแหล่งเรียนรู้ มีผลต่อ ความสนใจของผู้เรียน ดังนั้นครูจึงต้องมีการวางแผนและจัดเตรียมให้พร้อมก่อนที่จะด าเนิน การ จัดการเรียนการสอนจริง
66 5.3.1.3. จากการวิจัยพบว่า รูปแบบสืบเสาะหาความรู้(5E) ครูผู้สอนควรเลือก เนื้อหาใกล้ตัวเพื่อสร้างความสนใจ และท าให้ผู้เรียนมองเห็นภาพได้ชัดเจน อันเป็นสิ่งที่จะกระตุ้น ความต้องการแสวงหาค าตอบด้วยตนเอง และเกิดการร่วมมือในการท ากิจกรรมการเรียนรู้ 5.3 2. ข้อเสนอแนะในการท าวิจัยครั้งต่อไป 5.3.2.1 ควรมีการศึกษาผลของการจัดการเรียนการสอนโดยใช้แผนการจัดการ เรียนรู้แบบสืบเสาะค้นหา (5E) พร้อมพัฒนารูปแบบของแผนการจัดการเรียนรู้ให้มีความหลากหลาย เพื่อให้สอดคล้องกับเนื้อหาสาระรายวิชาในแต่ละหน่วยเรียนที่มีความแตกต่างกันไป และน าไป ปรับ ใช้กับเนื้อหาการเรียนการสอนในหน่วยการเรียนอื่นที่สามารถเอื้อต่อการจัดการเรียนรู้ในรูปแบบนี้ 5.3.2.2 ควรศึกษาตัวแปรอื่นๆ จากการสอนโดยใช้แผนการจัดการเรียนรู้แบบ สืบเสาะค้นหา (5E) ว่าสามารถพัฒนาทักษะด้านต่างๆ ของผู้เรียนได้อีกหรือไม่ เช่น คิดสร้างสรรค์คิด แก้ปัญหา คิดสังเคราะห์ การท างานกลุ่ม ทักษะชีวิต เป็นต้น 5.3.2.3 ควรศึกษารูปแบบการสอนด้วยแผนการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะค้นหา (5E) โดยการเปรียบเทียบผลที่ได้ 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่เรียนรู้รูปแบบการสอนโดยใช้เกมและรูปแบบ ปกติว่ามีความแตกต่างกันหรือไม่
67 เอกสารอ้างอิง กชกร คงเพชรดี , ศุภวัฒน์ วิสิฐศิริกุล และครรชิต กอเฮง. (2560). ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของ นักเรียน เรื่อง โลกและการเปลี่ยนแปลง โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (5E). ก าแพงเพชร : มหาวิทยาลัยราชภัฏก าแพงเพชร. กรมวิชาการ. (2545). คู่มือการสอนสาระการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและ กระทรวงศึกษาธิการ. (2545). พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และที่แก้ไข เพิ่มเติม กระทรวงศึกษาธิการ. (2551). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย. กระทรวงศึกษาธิการ. (2551). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. มปท. กระทรวงศึกษาธิการ. (2560). ตัวชี้วัตและสาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระภูมิศาสตร์ (ฉบับ ปรับปรุง พ.ศ. 2560) กองวิจัยทางการศึกษา. (2536). การพัฒนานวัตกรรมการเรียนการสอนที่มีประสิทธิภาพต่อการ เรียนรู้ของ. นักเรียน. กรุงเทพฯ : กรมวิชาการ กระทรวงศึกษาธิการ. กัมปนาท ศรีเชื้อ. (2550). “การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน”. วิทยานิพนธ์ กศ.ม. มหาสารคาม: ขณิษฐา บุญกักดี. (2552), การศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักศึกษาระดับ ชัยวัฒน์ สุทธิรัตน์. (2552). 80 นวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นส าคัญ. กรุงเทพฯ: แด เน็กซ์ อินเตอร์คอร์ปอเรชั่น. ณฐกรณ์ ด าชะอม. (2563). ผลของการจัดการเรียนรู้ด้วยกระบวนการสืบเสาะหาความรู้แบบ 5E และวิธีการทางประวัติศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการ เรียนประวัติศาสตร์และการคิดอย่างมีวิจารณญาณ. กรุงเทพฯ : มหาวิทยาลัย ศรีนครินท รวิโรฒ เดือนเพ็ญ สังข์งาม. (2563). การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียน สาระภูมิศาสตร์ เรื่อง ทวีป อเมริกาเหนือที่จัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ส าหรับนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 3. มหาสารคาม : โรงเรียนโกสุมวิทยาสรรค์. ติณณ์ณภัทร เพชรศิริวรรณ์. (2563). การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้แบบ 5E เรื่อง ภูมิศาสตร์ทวีป ยุโรป รายวิชาสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ส าหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2. สกลนคร : มหาวิทยาลัยราชภัฎสกลนคร.
68 เอกสารอ้างอิง (ต่อ) ปฏิภาณ สร้างค า และธัชชัย จิตรนันท์. (2562). การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียน เรื่อง พัฒนาการทางประวัติศาสตร์ไทยสมัยประชาธิปไตย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยการจัดการ เรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5E). สารคาม : มหาวิทยาลัยมหาสารคาม. ประภัสรา โคตะขุน. (2555). การจัดท าแผนการเรียนรู้หรือแผนการสอน. ปริญญาตรี คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรมและเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอม เกล้าธนบุรี. (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี). ปวีณวัสสา บ ารุงอุดมรัชต์ และอัมพร วัจนะ. (2564). การศึกษาผลการจัดการเรียนรู้แบบ สืบ เสาะหา ความรู้ (5E) ร่วมกับบทเรียนออนไลน์โดยใช้ Google Sites เรื่อง สมดุลเคมี ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5. กรุงเทพฯ : มหาวิทยาลัยรามค าแหง. พุทธิพงษ์ ศุภมัสดุอังกูร. (2559). การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความสามารถในการคิด วิเคราะห์เรื่องภัยพิบัติทางธรรมชาติ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ด้วยการจัดการ เรียนรู้แบบวัฏจักรการสืบเสาะหาความรู้ (5E). กรุงเทพฯ : มหาวิทยาลัยศิลปากร มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ มหาสารคาม. วัฒนธรรม. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์องค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์. วาทินี เพชรดี และ ยลักษณ์ โพธิวรรณ์. (2564). การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหา ความรู้ เรื่องเศรษฐกิจพอเพียงกับการผลิตสินค้าและบริการ ชั้นมัธยมศึกษปีที่ 2. สารคาม : มหาวิทยาลัยราชภัฎมหาสารคาม. สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. (2546). การจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน. กรุงเทพฯ สมบัติ การจนารักพงศ์. (2549). นวัตกรรมการศึกษา ชุดคู่มือการประเมินทักษะการคิด ตาม หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2544. กรุงเทพฯ : ซีเอ็ดยูเคชั่น. สุกัญญา เพ็ชรนาค. (2562). การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5E รายวิชา ภูมิศาสตร์นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3. สารคาม : มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม. สุนันทา มั่นเศรษฐวิทย์. (2544). การวัดผลการศึกษา. มหาสารคาม : ภาควิชาวิจัยและพัฒนา การศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
69 เอกสารอ้างอิง (ต่อ) สุวัฒก์ นิยมค้ า. (253 1). ทฤฎีและแนวทางปฏิบัติในการสอนสังคมศึกษาแบบสืบเสาะหาความรู้ เล่ม 2. กรุงเทพฯ: เจเนอรัล บุ๊คส์ เซ็นเตอร์. อนุรักษ์ สวัสดี (2561). การพัฒนาการคิดวิเคราะห์การเรียนรู้โดยใช้การสืบเสาะหาความรู้ในวิชา สังคมศึกษาของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4. ปริญญานิพนธ์ ศึกษาศาสตร์มหาบัณฑิต. กรุงเทพฯ : วิทยาลัยครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรุกิจบัณฑิตย์ อุทุมพร จามรมาน. (2549). การพัฒนาแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน. นนทบุรี : มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.
70 ภาคผนวก
71 ภาคผนวก ก รายชื่อผู้เชี่ยวชาญที่ตรวจสอบเครื่องมือที่ใช้ในงานวิจัย
72 รายชื่อผู้เชี่ยวชาญในการตรวจสอบคุณภาพเครื่องมือ ผู้เชี่ยวชาญท่านที่ 1 นางทิติภา อิ้มพัฒน์ : วิทยฐานะช านาญการพิเศษ : หัวหน้ากลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม : โรงเรียนอนุบาลอุดรธานี ต าบลหมากแข้ง อ าเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี : ส านักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต 1 ผู้เชี่ยวชาญท่านที่ 2 นางสาวจิดาภา พันชะโก : วิทยฐานะช านาญการ : ครูพี่เลี้ยง : โรงเรียนอนุบาลอุดรธานี ต าบลหมากแข้ง อ าเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี : ส านักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต 1 ผู้เชี่ยวชาญท่านที่ 3 นางสาวนลินี พลแย้ม : วิทยฐานะช านาญการพิเศษ : ครูกลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม : โรงเรียนอนุบาลอุดรธานี ต าบลหมากแข้ง อ าเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี : ส านักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต 1
73 ภาคผนวก ข เครื่องมือที่ใช้ในงานวิจัย - แผนการจัดการเรียนรู้ - แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
74 ตัวอย่างแผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 สาระการเรียนรู้ที่ 5 ภูมิศาสตร์ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 เวลา 7 ชั่วโมง เรื่อง ลักษณะภูมิประเทศภาคเหนือ เวลา 1 ชั่วโมง วันที่……..เดือน…………………..พ.ศ……………. นางสาวธิดารัตน์ ดีสุข ผู้สอน 1.มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ ส 5 .1 เข้าใจลักษณะของโลกทางกายภาพและความสัมพันธ์ของสรรพสิ่งซึ่งมีผลต่อกันและ กันในระบบของธรรมชาติ ใช้แผนที่และเครื่องมือทางภูมิศาสตร์ ในการค้นหา วิเคราะห์ สรุปและใช้ ข้อมูลภูมิสารสนเทศอย่างมีประสิทธิภาพ ตัวชี้วัด ป.4/1 ใช้แผนที่ ภาพถ่าย ระบุลักษณะส าคัญ ทางกายภาพของจังหวัดตนเอง 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. นักเรียนสามารถอธิบายลักษณะภูมิประเทศภาคเหนือได้(K) 2.นักเรียนสามารถวิเคราะห์จังหวัดของภาคเหนือและทิวเขาของภาคเหนือได้ (P) 3. นักเรียนมีความกระตือรือร้นในการเรียนการสอน (A) 3.คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. ใฝ่เรียนรู้ 2. มุ่งมั่นในการท างาน 3. มีจิตสาธารณะ 4. สาระส าคัญ ภาคเหนือ เป็นภูมิภาคที่อยู่ด้านบนสุดของไทย มีลักษณะภูมิประเทศอันประกอบไปด้วย เทือกเขาสลับซับซ้อน ต่อเนื่องมาจากทิวเขาชานในประเทศพม่าและประเทศลาว ภาคเหนือมี ภูมิอากาศแบบทุ่งหญ้าสะวันนา เหมือนกับพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศ 5.สาระการเรียนรู้ - ลักษณะภูมิประเทศภาคเหนือ - จังหวัดในภาคเหนือ
75 6.การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ กระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ขั้นที่ 1 น าเข้าสู่บทเรียน 1. ครูให้นักเรียนถอนรหัสภาพจังหวัดของภาคเหนือว่าคือจังหวัดอะไร โดยรหัสภาพจะมีค า ใบ้เป็นรูปภาพและพยางค์ให้นักเรียนช่วยกันตอบ 2. ครูถามค าถามกระตุ้นความคิดโดยให้นักเรียนร่วมกันตอบค าถามเกี่ยวกับรูปภาพที่ครู ก าหนดให้เกี่ยวกับลักษณะภูมิประเทศในภาคเหนือ ดังต่อไปนี้ - ภาคเหนือมีลักษณะภูมิประเทศเป็นอย่างไร - มีทิวเขาอะไรบ้าง - นักเรียนรู้จักดอยอินทนนท์ไหม อยู่ภาคใด 3. ครูอธิบายค าตอบนักเรียน และเชื่อมโยงเข้าสู่เนื้อหา ขั้นที่ 2 ขั้นสอน ขั้นส ารวจและค้นหา (Exploration) 4.นักเรียนศึกษาและสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับลักษณะภูมิประเทศของภาคเหนือ ตามที่ครู ก าหนด - ลักษณะภูมิประเทศของภาคเหนือมีลักษณะอย่างไร - ภาคเหนือมีทิวเขาใดบ้าง - ภาคเหนือประกอบไปด้วยจังหวัดใดบ้าง - ภาคเหนือมีแม่น้ าสายไหนไหลผ่านบ้าง นักเรียนสามารถศึกษาจากหนังสือเรียนวิชาสังคมศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 และแหล่ง สารสนเทศอื่น ๆ รวมถึง Power point หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 จังหวัดของเรา 5.นักเรียนทุกคนร่วมกันน าข้อมูลที่ได้จากการศึกษาและสืบค้นข้อมูลมาวิเคราะห์ และ ร่วมกันตรวจสอบความถูกต้อง โดยครูคอยเป็นผู้ชี้แนะเพิ่มเติม
76 ขั้นที่ 3 ขั้นสรุป ขั้นอธิบายและลงข้อสรุป (Explanation) 6.ครูและนักเรียนในชั้นเรียนช่วยกันสรุปความรู้เกี่ยวกับลักษณะภูมิประเทศของภาคเหนือ 7.ครูถามค าถามเพื่อทบทวนความรู้โดยให้นักเรียนร่วมกันตอบค าถาม ดังนี้ - ภาคเหนือมีทิวเขาอะไรบ้าง - ภาคเหนือมีแม่น้ าสายใดบ้าง ขั้นที่ 4 ขั้นฝึกฝนผู้เรียน ขั้นขยายควารู้ (Elaboration) 8. นักเรียนท าใบงาน เรื่อง ลักษณะกายภาพภาคเหนือ ขั้นประเมิน (Evaluation) 9. ครูเฉลยใบงาน เรื่อง ลักษณะกายภาพภาคเหนือ ขั้นที่ 5 น าไปใช้ 10.นักเรียนน าความรู้เรื่องลักษณะทางกายภาพของภาคเหนือมากยิ่งขึ้น ภูมิใจและเห็น คุณค่าในประเทศและภูมิภาคของตนเอง 7. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 1. ภาพถอดรหัสจังหวัดในภาคเหนือ 2. Power point หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 จังหวัดของเรา 3. หนังสือเรียนวิชาสังคมศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 4. สื่อสารสนเทศ ภาระงาน 1. ใบงาน เรื่อง ลักษณะกายภาพภาคเหนือ
77 8.กระบวนการวัดและประเมินผล จุดประสงค์การ เรียนรู้ ชิ้นงาน/ภาระ งาน เครื่องมือวัด วิธีวัด เกณฑ์การวัดผล และประเมินผล 1. นักเรียนสามารถ อธิบายลักษณะภูมิ ประเทศภาคเหนือ ได้(K) การท าใบงาน เรื่อง ลักษณะกายภาพ ภาคเหนือ แบบประเมินใบ งาน เรื่อง ลักษณะกายภาพ ภาคเหนือ ตรวจแบบ ประเมินใบงาน เรื่อง ลักษณะ กายภาพ ภาคเหนือ ท าถูกต้อง ร้อย ละ 60 ขึ้นไป ผ่านเกณฑ์ 2.นักเรียนสามารถ วิเคราะห์จังหวัดของ ภ าคเหนือและทิว เขาของภาคเหนือได้ (P) 3. นักเรียนมีความ กระตือรือร้นในการ เรียนการสอน (A) การสังเกต พฤติกรรม แบบประเมินการ สังเกตพฤติกรรม ตรวจแบบ ประเมินการ สังเกตพฤติกรรม ระดับคุณภาพ 2 ขึ้นไป ผ่านเกณฑ์
78 10 บันทึกหลังการสอน 1) ปัญหาที่เกิด ………………………………………………….………………………………………………….……………………………………… ………….………………………………………………….………………………………………………….…………………………… ………………………………………………….………………………………………………….……………………………………… ………….………………………………………………….………………………………………………….…………………………… 2) วิธีการแก้ไขปัญหา ………………………………………………….………………………………………………….……………………………………… ………….………………………………………………….………………………………………………….…………………………… …………………….………………………………………………….………………………………………………….………………… ……………………………….………………………………………………….………………………………………………….……… 3) ผลการแก้ไขปัญหา ………………………………………………….………………………………………………….……………………………………… ………….………………………………………………….………………………………………………….…………………………… …………………….………………………………………………….………………………………………………….………………… ……………………………….………………………………………………….………………………………………………….……… (ลงชื่อ)……………………………………ผู้สอน (นางสาวธิดารัตน์ ดีสุข) นักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพ ………../…….…./……….
79 11. ความคิดเห็นของครูพี่เลี้ยง ………………………………………………….………………………………………………….……………………………………… ………….………………………………………………….………………………………………………….…………………………… …………………….………………………………………………….………………………………………………….………………… ……………………………….………………………………………………….………………………………………………….……… (ลงชื่อ)……………………………………………. (นางสาวจิดาภา พันชะโก) ครูพี่เลี้ยง ………../…….…./……….. 12. ความคิดเห็นของผู้บริหาร ………………………………………………….………………………………………………….……………………………………… ………….………………………………………………….………………………………………………….…………………………… …………………….………………………………………………….………………………………………………….………………… ……………………………….………………………………………………….………………………………………………….……… (ลงชื่อ)……………………………………………. (นายจีรศิกดิ์ แสงสวัสดิ์) รองผู้อ านวยการโรงเรียนอนุบานอุดรธานี ………../…….…./……….
80 แบบสังเกตพฤติกรรมการท างานรายบุคคล ค าชี้แจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ ลงในช่อง ที่ตรงกับระดับคะแนน ล าดับ ที่ ชื่อ-สกุล ของผู้รับการประเมิน ตอบค าถามและ ปฏิบัติตามได้ถูกต้อง ความรับผิดชอบ ให้ความร่วมมือการ เรียน กระตือรือร้นในการ ท ากิจกรรม รวม 8 คะแนน 2 1 0 2 1 0 2 1 0 2 1 0 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24
81 25 26 27 28 29 30 ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ................ /................ /................ เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ าเสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ต่ ากว่า 8 ปรับปรุง
82 รายละเอียดเกณฑ์การให้คะแนนแบบสังเกตพฤติกรรม (rubrics) ประเด็น การประเมิน เกณฑ์การให้คะแนน 2 1 0 1. ตอบค าถามและ ปฏิบัติตามได้ถูกต้อง ให้ความร่วมมือ ในการ ตอบค าถาม เสียงดัง ฟังชัด มีความมั่นใจ และปฏิบัติได้ถูกต้อง ตอบบางค าถาม ตอบ เสียงค่อยไม่ค่อยอ้า ปากตอบ และปฏิบัติ ตามได้เพียงบางข้อ ไม่ตอบค าถาม ไม่อ้า ปากท่องตามเพื่อน ปฏิบัติตามค าสั่งไม่ได้ เลย 2. ให้ความร่วมมือ ในการเรียน ให้ความร่วมมือ ในทุก ขั้นตอน แสดงสีหน้าที่ พอใจ ให้ความร่วมมือในการ ท ากิจกรรม เบื่อหน่าย ในบางครั้ง ไม่ให้ความร่วมมือ เฉย ชาและแสดงสีหน้าไม่ พอใจ 3. อยู่ในกฎระเบียบ มีความเรียบร้อย ไม่วิ่งรอบห้องขณะที่ สอน ไม่รบกวนผู้อื่น นั่งอยู่กับที่อย่าง เรียบร้อย นั่งอยู่กับที่ของตนเอง เสียงดังรบกวนใน บางครั้ง เคลื่อนไหวรอบห้อง ขณะที่ครูสอน ท า กิริยาที่เสียงดังรบกวน ผู้อื่น 4. กระตือรือร้น ในการท ากิจรม มีความกระตือรือร้น อยากท ากิจกรรม ตั้ง หน้าตั้งตาท า ไม่แสดงความรู้สึกดีใจ แต่ปฏิบัติตามทุกอย่าง แสดงสีหน้าหรืออาการ ทางลบ ไม่พอใจ เบื่อ หน่าย เกณฑ์การให้คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่าวงชั้นคะแนน ระดับคุณภาพ ดี = 2 6– 8 ดี ปานกลาง = 1 3 – 5 ปานกลาง ปรับปรุง = 0 0 – 2 ปรับปรุง เกณฑ์การผ่านตั้งแต่ระดับ ดี ขึ้นไป สรุป ผ่าน ไม่ผ่าน หมายเหตุ : ผู้สอนอาจประเมินเป็นภาพรวมได้ในกรณีที่นักเรียนมีจ านวนมากไม่สามารถถาม ได้ครบทุกคน
83 ตัวอย่างชิ้นงาน
84 แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้สุงคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 รายวิชาภูมิศาสตร์ หน่วยการเรียนรู้ที่2 จังหวัดของเรา ค าชี้แจง 1. แบบทดสอบมีจ านวน 2 หน้า ตอนที่ 1 เป็นแบบปรนัย (เลือกตอบ) จ านวน 20 ข้อ ใช้เวลา 40 นาที มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด/ผลการเรียนรู้ ที่น ามาจัดท าแบบทดสอบ ส 1.1 ป. ป.4/1 ใช้แผนที่ ภาพถ่าย ระบุลักษณะส าคัญ ทางกายภาพของจังหวัดตนเอง ส 1.1 ป.4/2 ระบุแหล่งทรัพยากรและสิ่งต่าง ๆ ในจังหวัดของตนเองด้วยแผนที่ ตอนที่ 1 เลือกค าตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียง 1 ตัวเลือกแล้วกากบาท X ลงในกระดาษค าตอบ 1. ทิวเขาที่กั้นระหว่างภาคกลางและภาคอีสานคือทิวเขาใด ก. ทิวเขาแดนลาว ข. ทิวเขาเพชรบูรณ์ ค. ทิวถนนธงชัย ง. ทิวเขาภูเก็ต 2. ภาคใต้มีลักษณะอย่างไร ก. มีพื้นที่เป็นแนวยาวเป็นที่ราบสูงและเป็นด้ามขวานของประเทศไทย ข. พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นทิวเขาแนวยาวมีพื้นที่ราบและที่ราบชายฝั่งทะเล ค. จังหวัดภูเก็ตเป็นเกาะเล็กๆ ของภาคใต้ ง. ไม่มีข้อถูก 3. แม่น้ าในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ คือแม่น้ าสายใด ก. แม่น้ าปิง แม่น้ าชี ข. แม่น้ าโขง แม่น้ าวัง ค. แม่น้ ามูล แม่น้ าชี ง. แม่น้ ายม แม่น้ ามูล 4. หากมะปรางต้องการเดินทางไปเที่ยว เกาะเสม็ด มะปรางต้องเดินทางไปจังหวัดใด ก. จังหวัดชลบุรี ข. จังหวัดระยอง ค. จังหวัดสตูล ง. จังหวัดกระบี่
85 5. จังหวัดเลยมีลักษณะเป็นอย่างไร ก. มีพื้นที่เป็นที่ราบสูงโคราช ท่ามกลางภูเขาสลับซับซ้อน ข. มีพื้นที่เป็นที่ราบลุ่ม มักเกิดอุทกภัยบ่อยครั้ง ค. มีพื้นที่เป็นที่ราบสูงและมีแม่น้ าโขงเป็นตัวกั้นระหว่างประเทศพม่า ง. มีพื้นที่ส่วยใหญ่เป็นทิวเขาสูง ช่วงฤดูหนาวมักมีหิมะตก 6. ข้อใดต่อไปนี้ผิด ก. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีพื้นที่เป็นที่ราบและที่ราบสูง ข. ภาคกลางมีพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขาสูงและมีทิวเขาแดนลาวอยู่กั้นกลาง ค. ภาคใต้มีพื้นที่เป็นชายฝั่งติดกับทะเลอันดามันและทะเลอ่าวไทย ง. ภาคเหนือมีพื้นที่ส่วนมากเป็นภูเขาสูงและมีทิวเขาหลวงพระบาง 7.ข้อใดไม่ใช่ปัจจัยที่ส่งผลให้เกิดภูมิอากาศ ก. ความสูงของพื้นที่ ข. ทิศทางลมประจ า ค. ที่ตั้งตามละติจูด ง. การเกิดสุริปราคา 8. ลักษณะสภาพอากาศของประเทศไทยมีลักษณะอย่างไร ก. อากาศร้อนชื้นและอบอ้าว ข. อากาศหนาวและมีหิมะตลอดปี ค. อากาศร้อนและมีฝนตกตลอดปี ง. ฝนตกเกือบทั้งปีและมีอากาศหนาว 9. เดือนพฤศจิกายน-มกราคม ประเทศไทยอยู่ในช่วงฤดูใด ก. ฤดูร้อน ข. ฤดูหนาว ค. ฤดูใบไม้ผลิ ง. ฤดูฝน 10. ประเทศไทยมีกี่ฤดูและมีฤดูอะไรบ้าง ก. 2 ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง ข. 2 ฤดูฝน ฤดูหนาว ค. 3 ฤดูร้อน ฤดูฝน ฤดูหนาว ง. 3 ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ผลิฤดูฝน 11. ทรัพยากรประเภทใด สามารถน ามาใช้ในงานอุตสาหกรรมได้ ก. ป่าไม้ ข. แร่ ค. น้ ามันเชื้อเพลิง ง. ถ่านหิน
86 12. ข้อใดต่อไปนี้สัมพันธ์กัน ก. ทิวเขาแดนลาว จังหวัดล าปาง ข. เกาะเสม็ด จังหวัดระยอง ค. แหลมพรหมเทพ จังหวัดกระบี่ ง. น้ าตกนางรอง จังหวัดนครปฐม 13. ทรัพยากรธรรมชาติ หมายถึง ก. สิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นกลางป่าเขา ข. สิ่งที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติและสามารถมามาใช้ประโยชน์ด้านต่างๆได้ ค. สิ่งที่เทพเจ้าเนรมิตสร้างขึ้นตามธรรมชาติ ง. สิ่งที่พบเจอทุกๆที่ และสามารถจับต้องได้ 14. ใครต่อไปนี้เป็นคนท าลายทรัพยากรทางน้ า ก. ต้นชวนพ่อไปตกปลาที่สวนหลังบ้าน ข. แก้วทิ้งเศษอาหารลงคลองหลังบ้านทุกวัน ค. ปันปันร่วมกิจกรรมปลูกป่ากับชุมชน ง. ณเดชเก็บผักตบชวาขึ้นจากคลองในชุมชน 15. นักเรียนมีวิธีการอนุรักษ์ทรัพยากรทางธรรมชาติอย่างไร ก. ช่วยกันปลูกป่าทดแทนต้นไม้ที่ถูกตัด ข. ไม่ทิ้งขยะลงในแม่น้ า ค. ไม่ลักลอบตัดไม้ท าลายป่า ง. ถูกทุกข้อ 16. ข้อใดคือสถานที่ทางธรรมชาติในจังหวัดอุดรธานี ก. น้ าตกธารงาม ข. ค าชะโนด ค. เขื่อนห้วยหลวง ง. สวนสาธารณะหนองประจักษ์ 17.ข้อใดคือสถานที่ส าคัญที่มนุษย์สร้างขึ้น ก. ท่าเรือ ข. เชื่อนอุบลรัตน์ ค. ที่พักตากอากาศ ง. ข้อ ก และ ข ถูก 18. ทรัพยากรที่น่าจะมากที่สุดในภาคเหนือคือทรัพยากรประเภทใด ก. ป่าไม้ ข. แร่. ค. สัตว์ป่าสงวน ง. ไม่มีข้อถูก
87 19. ข้อใดต่อไปนี้ผิด ก. ท่าเรือคลองเตย เป็นท่าเรือที่มนุษย์สร้างขึ้น ข. .น้ าตกถ้ าพระ จังหวัดบึงกาฬเป็นน้ าตกที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ค. เกาะพีพี เป็นเกาะที่สวยและมีนักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยว ง. ทิวเขาถนนธงชัย เป็นทิวเขาในภาคกลาง 20. หากนักเรียนอยากไปด าน้ าดูปะการัง นักเรียนจะเลือกไปเที่ยวสถานที่ใด ก. ดอยสุเทพ ข. น้ าตกนางรอง ค. เกาะเชือก ง. สวนสัตว์เขาสวนกวาง
88 ภาคผนวก ค คุณภาพของเครื่องมือที่ใช้ในการวัด
89 การตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย - สรุปผล แบบประเมินความสอดคล้อง ของแผนการจัดการเรียนรู้โดยผู้เชี่ยวชาญ (IOC) - สรุปผล แบบประเมินความสอดคล้อง ของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์โดยผู้เชี่ยวชาญ (IOC) - สรุปผล วิเคราะห์คุณภาพข้อสอบโดยใช้เทคนิค 27% หาค่าความยาก (p) และหาค่าอ านาจจ าแนก (r) - สรุปผล การหาค่าความเชื่อมั่นข้อสอบ ของคูเดอร์ – ริชาร์ดสัน โดยการหาค่า KR20
90 สรุปผลแบบประเมินความสอดคล้อง ของแผนการจัดการเรียนรู้โดยผู้เชี่ยวชาญ (IOC)
91 ตารางที่4 สรุปผลแบบประเมินความสอดคล้องของแผนการจัดการเรียนรู้โดยผู้เชี่ยวชาญ แผนการจัดการเรียนรู้ รายการ ผู้เชี่ยวชาญ ค่า IOC การแปล ผล คนที่1 คนที่2 คนที่3 1 ลักษณะภูมิประเทศ ภาคเหนือ 1.มาตราฐานการเรียนรู้ +1 +1 +1 1 ใช้ได้ 2.ตัวชี้วัด +1 +1 +1 1 ใช้ได้ 3.สาระส าคัญ +1 +1 +1 1 ใช้ได้ 4.จุดประสงค์การเรียนรู้ +1 +1 +1 1 ใช้ได้ 5.คุณลักษณะอันพึ่งประสงค์ +1 +1 +1 1 ใช้ได้ 6.สาระการเรียนรู้ +1 +1 +1 1 ใช้ได้ 7.การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ +1 +1 +1 1 ใช้ได้ 8.สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ +1 +1 +1 1 ใช้ได้ 9.กระบวนการวัดและประเมินผล +1 +1 +1 1 ใช้ได้ 2 ลักษณะภูมิประเทศภาค ตะวันออกเฉียงเหนือ 1.มาตราฐานการเรียนรู้ +1 +1 +1 1 ใช้ได้ 2.ตัวชี้วัด +1 +1 +1 1 ใช้ได้ 3.สาระส าคัญ +1 +1 +1 1 ใช้ได้ 4.จุดประสงค์การเรียนรู้ +1 +1 +1 1 ใช้ได้ 5.คุณลักษณะอันพึ่งประสงค์ +1 +1 +1 1 ใช้ได้ 6.สาระการเรียนรู้ +1 +1 +1 1 ใช้ได้ 7.การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ +1 +1 +1 1 ใช้ได้ 8.สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ +1 +1 +1 1 ใช้ได้ 9.กระบวนการวัดและประเมินผล +1 +1 +1 1 ใช้ได้