การใช้เครื่องมือช่างให้ปลอดภัย การใช้เครื่องมือช่างให้ปลอดภัย ความปลอดภัยในการใช้เครื่องมือช่างการใช้เครื่องมือช่างไม่ว่าสาขาใดๆ ก็ตาม ล้วนแล้วแต่มี ความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย สิ่งส าคัญอย่างยิ่งที่ผู้ปฏิบัติงานจะต้องทราบ และค านึงถึงก็ คือ"ความปลอดภัย" ซึ่งควรจะท าความเข้าใจและเรียนรู้ก่อนที่จะลงมือปฏิบัติงาน รวมทั้งการใช้ เครื่องมือช่างอุปกรณ์และเครื่องจักรที่ถูกต้องความปลอดภัยในการปฏิบัติงานจึงเป็นหัวใจส าคัญใน การปฏิบัติงาน ที่ผู้ปฏิบัติงานทุกคนต่องระมัดระวังไม่ให้เกิดแก่ตนเองและเพื่อนร่วมงาน เพราะ การเกิดอุบัติเหตุจะท าให้เกิดความสูญเสียทางร ่างกายและทรัพย์สิน รวมถึงเสียเวลาในการ ปฏิบัติงานด้วย ความปลอดภัยทั่ว ๆ ไปของเครื่องมือช่างในการปฏิบัติงาน 1. ไม่ควรน าเครื่องมือช่าง ใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อหรือกระเป๋ากางเกงขณะปฏิบัติงานนั้นๆ เพราะปลายแหลมคมอาจท าอันตรายทั้งต่อตนเองและผู้อื่นได้ 2. ไม่หยอกล้อกันในขณะปฏิบัติงาน เพราะอาจท าให้ได้รับอันตรายจากเครื่องมือช่าง 3. ไม่น าเครื่องมือช่าง ที่ช ารุดมาใช้งาน เพราะเครื่องมือช่าง ที่ช้ารุดจะท าให้เกิดอุบัติเหตุ ทั้งต่อตนเองและผู้อื่นได้ 4. เครื่องมือช่าง จะต้องมีอุปกรณ์ป้องกันอันตราย ให้ครบ ได้แก่ กระจกป้องกันประกาย ไฟ และน ้าหล่อเย็น ผู้ปฏิบัติงานจะต้องสามแว่นตา นิรภัยเพื่อป้องกันอันตราย 5. ควรท าการแต่งหน้าหินด้วยยอุปกรณ์การแต่งหน้าล้อหินเจียระไน หากเห็น ว่าด้านหน้า ของล้อหินไม่เรียบ 6. ต้องแต่งกายให้เหมาะสม และรัดกุมในขณะปฏิบัติงาน อาจเกิดอันตรายจากเครื่องจักร หรือ เครื่องมือช่างหมุนดึงเข้า เครื่องได้เพราะการแต่งกายรุมร่าม 7. อย่าใช้มือจับชิ้นงานเจาะรูเพราะจะท าให้เกิดอันตรายจากแรงบิดของเครื่องเจาะต้องจับ ด้วยปากกาจับเจาะ 8. การใช้งานล้อหินเจียระไนที่แท่นรองรับงานและหน้าล้อหินเจียระไนต้องไม ่ห ่างมาก เพราะอาจท าให้เกิดอันตรายขึ้นได้ โดยระยะห่างระหว่างแท่นรองรับงานกับหน้าล้อเจียระไนตอง ไม่เกิน 3 มิลลิเมตร
9. ไม่สวมถุงมือหรือใช้ผ้าจับชิ้นงานขณะปฏิบัติงาน เจียระไน เพราะล้อหินเจียรอาจดึงผ้า เข้าไปได้ 10 ห้ามสวมรองเท้าแตะเข้ามาปฏิบัติงานในโรงงาน เพราะอาจท าให้เกิดอันตรายขึ้น 11. พื้นที่ปฏิบัติงานต้องสะอาด ไม่ปล่อยให้สกปรก รกรุงวัง ชงเป็นสาเหตุที่ ท าให้เกิด อันตรายต่อผู้ปฏิบัติงาน 12. พื้นที่ปฏิบัติงานต้องมีแสงสว่างเพียงพอ 13. ตรวจสอบความพร้อมของเครื่องจ้าริก่อนใช้งานทาครั้ง หากพบว่าเครื่องจักรชารุดห้าม ใช้งานเด็ดขาด 14. อย่าจับเศษโลหะที่ถูกตัดเฉือนจากงานกลึงด้วยมือเปล่า เพราะจะท าให้เศษโลหะ 15. ไม่ควรใช้เครื่องมือผิดประเภท เพราะนอกจากจะท าให้เครื่องมือได้รับเสียหายแล้ว ยัง อาจท าให้เกิดอันตรายกับผู้ปฏิบัติงานได้ 16 การคลายนัตด้วยประแจ ควรด้เข้าหาตัวทุกครั้งเพอป้องกันการกระแทกที่รุนแรงขณะ ใช้ประแจ ถ้าเครื่องมือไม่สามารถดึงเข้าหาตัวได้เพราะพื้นที่จ ากัด ให้ผลักด้ามประแจด้วยฝ่ามือ 17. ขณะปฏิบัติงานเจาะสายตาตองมองที่ชิ้นงานเพราะถ้าไม่มีสมาธิในขณะ ปฏิบัติงานจะ ท าให้ได้รับอันตรายในขณะปฏิบัติงานได้ อุปกรณ์ป้องกันอันตรายส าหรับเครื่องมือช่างในการปฏิบัติงาน อุปกรณ์ป้องกันอันตรายเป็นอุปกรณ์ที่ผู้ปฏิบัติงานสวมใส่ขณะปฏิบัติงาน เพื่อป้องกัน อันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากสภาพ และสิ่งแวดล้อมการท างาน การใช้อุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วน บุคคลเป็นวิธีหนึ่งในหลายวิธีการป้องกันอันตรายจากการท างาน ซึ่งมีหลายชนิด
1. อุปกรณ์ป้องกันศีรษะหรือหมวกนิรภัย สวมไว้เพื่อปังกันศีรษะจากการถูกชนหรือกระแทก แต่ หมวกนิรภัยนี้จะไม่สามารถรับแรงกระแทกอย่างรุนแรงจากวัตถุที่ตกจากที่สูงมากระทบต่อศีรษะ ได้อย่างสมบูรณ์เหมาะเฉพาะส าหรับป้องกันศีรษะจากการได้รับบาดเจ็บในกรณีที่มีวัสดุเล็กๆ ตก ใส่ เช่น นอต ท่อนไม้ และท่อนเหล็กเป็นตัน 2. อุปกรณ์ป้องกันใบหน้าและดวงตา ช่วยป้องานอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากวัตถุ สารเคมีเคมี กระเด็นเข้าตาหรือใบหน้า หรือป้องกันรังสีที่ท าลายดวงตา แบ่งเป็น 2 ประเภทคือ 2.1 แว่นตาป้องกันเศษโลหะ ส าหรับป้องกันอันตรายที ่เกิดขึ้นกับดวงตา เช ่น งานสกัด งาน เจียระไน และป้องกันเศษโลหะกระเด็นเข้าตาในขณะกลึงชินงาน
2.2 กระบังป้องกันใบหน้า เป็นวัสดุโค้งครอบใบหน้า เพื่อป้องกันใบหน้าและล าคอจากการ กระเด็นหรือกระแทกของวัตถุหรือสารเคมี 3. หน้ากากเชื่อมโลหะ เป็นหน้ากากที่ใช้ในการเชื่อมไฟฟ้า มีรูปร่างและแบบที่แตกต่างกัน หน้ากากเชื่อมมีหน้าที่ป้องกันใบหน้าและดวงตาเพื่อป้องกันเเสงจ้า รังสีจากการเชื่อม และจากการ กระเด็นของโลหะท าจากวัสดุทนความร้อน ไม่ติดไฟ และมีน ้าหนักเบา
4. อุปกรณ์ป้องกันหูเป็นอุปกรณ์โที่สวมใส่เพื่อปังกันความดังของเสียงที่จะมากระทบต่อแก้วหูใน สภาพแวดล้อมที่มีเสียงดังเกินกว่า 90 เดซิเบล การสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันหูจะสามารถลดเสียงได้ ประมาณ 20-30 เดซิเบล 5. อุปกรณ์ป้องกันล าตัว เป็นชุดที่สามใส่เพื่อป้องกันอันตรายจากการท างานในที่ที่มีความร้อนสูง หรือมีลูกไฟกระเด็น เป็นตัน
6. อุปกรณ์ป้องกันมือ ในการปฏิบัติงานอุตสาหกรรมทุกลักษณะต้องใช้มือในการปฏิบัติงาน เพื่อ ป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้นบนมือจึงควรสวมถุงมือขณะปฏิบัติงาน ถุงมือท าจากวัสดุได้หลายชนิด และแต่ละชนิดมีคุณสมบัติเฉพาะตัว จึงควรเลือกถุงมือให้เหมาะสมกับลักษณะงาน 7.อุปกรณ์ป้องกันเท้า ใช้สวมใส่ในโรงงานเพื่อป้องกันอวัยวะส่วนเท้าไม่ให้สัมผัสกับอันตรายจาก การปฏิบัติงานที่มีความร้อนหรือของ มีคม ที่อาจเกิดขึ้นกับเท้า ที่มา : https://itoolmart.com/blog/content/7ct8r
การปฐมพยาบาลเบื้องต้น การปฐมพยาบาล คือ การให้ความช ่วยเหลือขั้นแรกในทันทีทันใดในที ่เกิดเหตุ โดยใช้ เครื่องมืออุปกรณ์เท่าที่จะพอหาได้ เพื่อลดความรุนแรงของการบาดเจ็บก่อนที่จะน าผู้ป่วยไปพบ แพทย์ ขั้นตอนการปฏิบัติเมื่อเกิดการบาดเจ็บ แจ้งคุณครูให้ทราบทันที หรือติดต่อเจ้าหน้าที่พยาบาล หากพบเห็นผู้บาดเจ็บ ถ้าสามารถ พยาบาลเบื้องต้นได้ให้ด าเนินการทันที ค าเตือน ผู้ที่ไม่มีความรู้ในการปฐมพยาบาล อาจเพิ่มความรุนแรงของการบาดเจ็บได้ การปฐมพยาบาลคนเป็นลม ปฏิบัติได้ดังนี้ 1. เมื่อผู้ป่วยรู้สึกเวียนศีรษะ หน้ามืด ต้องให้ผู้ป่วยสูดหายใจยาวๆ และน าผู้ป่วยไปอยู่ในที่ ที่มีอากาศบริสุทธิ์ 2. ถ้าผู้ป่วยหมดสติควรให้ผู้ป่วยนอนหงาย โดยให้ศีรษะต ่ากว่าล าตัวเล็กน้อย หรือนอน ราบก็ได้ และปฏิบัติดังนี้ o คลายเสื้อผ้าให้หลวม o กันคนอย่าให้มุงเพื่อให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก o ให้ดมยาดมหรือแอมโมเนีย o เช็ดเหงื่อผู้ป่วยให้แห้ง o ถ้ายังไม่ฟื้นต้องให้ความอบอุ่น ผายปอด และรีบพาไปพบแพทย์ทันที หลักการปฐมพยาบาลเบื้องต้นผู้ได้รับสารเคมี มีดังต่อไปนี้ 1. ถ้าได้รับอันตรายจากสารเคมีโดยการรับประทาน 1.1 ลดอัตราการดูดซึมและท าให้สารเคมีเจือจางลง โดยให้ผู้ป่วยรีบดื่มนม หรือไข่ดิบ หรือ ดื่มน ้าเปล่าทันทีและในกรณีที่ผู้ได้รับสารเคมีก าลังชักหรือสลบอย่าให้ดื่มอะไรทั้งสิ้น 1.2 ท าให้อาเจียน โดยใช้นิ้วแหย่แถวเพดานคอ หรือให้ดื่มน ้าเกลืออุ่นจัด ๆ (ผสมเกลือ 1 ช้อนโต๊ะในน ้า 1 แก้ว) หรือทั้งดื่มและล้วงคอ เพื่อให้อาเจียนเอาสารพิษออกมา ข้อควรระวังในการท าให้อาเจียน คือ อย่าพยายามท าให้อาเจียนถ้าผู้ได้รับสารเคมีมีอาการชัก หรือสลบเพราะจะท าให้เศษอาหารทะลักเข้าไปในหลอดลมและเกิดการอักเสบของปอดได้
ในกรณีที่ดื่มกรด ด่างหรือน ้ายาฟีนอล (ยาดับกลิ่น) ถ้าดื่มกรดให้ดื่มน ้าปูนใสเพื่อช่วยท าให้เป็น กลางแล้วให้ดื่มนม เพื่อลดการระคายเคืองก่อน แล้วจึงท าให้อาเจียน ถ้าดื่มด่างให้ดื่มน ้าผลไม้ เช่น น ้าส้ม หรือน ้าผสมน ้าส้มสายชู เล็กน้อย แล้วดื่มนมหรือไข่ตีก่อนท าให้อาเจียน 2. ถ้าได้รับอันตรายจากสารเคมีที่ผิวหนัง ให้ล้างผิวหนังในบริเวณที่ถูกสารเคมี โดยใช้น ้า สะอาดล้างให้มากที่สุด เพื่อท าให้เจือจาง ถ้าสารเคมีหกรดเสื้อผ้าให้รีบถอดเสื้อผ้าออกก่อน ห้ามใช้ สารแก้พิษใด ๆ เทลงไปบนผิวหนัง เพราะอาจเกิดความร้อนจากปฏิกิริยาเคมีท าให้แผลกว้างและ เจ็บมากขึ้น 3. ถ้าได้รับอันตรายจากสารเคมีที ่ตา ให้ล้างตาด้วยน ้าสะอาดให้มากที ่สุดทันที โดยเปิด เปลือกตาขึ้นให้น ้าไหลผ่านตาอย่างน้อย 15 นาที ป้ายขี้ผึ้งป้ายตา แล้วรีบน าส่งห้องพยาบาล 4. ถ้าได้รับอันตรายจากสารเคมีในการสูดดม ให้ย้ายผู้ได้รับสารเคมีนั้นออกจากบรรยากาศ ของสารเคมี ไปที่ที่มีอากาศบริสุทธิ์ช่วยผายปอด หรือกระตุ้นการหายใจ