The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

วิชากระบวนการจัดทำบัญชี หน่วยที่ 1 พระราชบัญญัติการบัญชี พ.ศ. 2543

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ka.neve, 2021-10-31 08:55:10

หน่วยที่ 1 พระราชบัญญัติการบัญชี พ.ศ. 2543

วิชากระบวนการจัดทำบัญชี หน่วยที่ 1 พระราชบัญญัติการบัญชี พ.ศ. 2543

หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 1

พระราชบัญญตั ิ

การบัญชี พ.ศ.2543

หลกั การของพระราชบญั ญตั ิการบัญชี พ.ศ.2543

พระราชบัญญัติการบัญชี พ.ศ.2543 มีบทบัญญัติหลายมาตราที่มอบอานาจให้รัฐมนตรีหรืออธิบดีกรมพัฒนา
ธุรกจิ การคา้ ไปออกกฎกระทรวงหรอื ประกาศกาหนดหลักเกณฑป์ ฏบิ ัตเิ รื่องตา่ ง ๆ ในทางปฏบิ ัตกิ ารกาหนดหลักเกณฑ์ปฏิบัติตาม
กฎหมายว่าด้วยการบัญชี กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้มีการหารือร่วมกันกับหน่วยงานที่เก่ียวข้องและสถาบันวิชาชีพบัญชี โดย
แ ต่ ง ตั้ ง ค ณ ะ ท า ง า น ขึ้ น พิ จ า ร ณ า ด า เ นิ น ก า ร จึ ง เ ป็ น ห ลั ก ป ร ะ กั น ไ ด้ ว่ า ข้ อ ก า ห น ด ต่ า ง ๆ จ ะ เ ป็ น ไ ป
โดยรอบคอบ และสอดคล้องกับวิธีปฏบิ ัติของวิชาชพี และเปน็ ไปตามพระราชบญั ญัติการบัญชี พ.ศ.2543 ดังหลักการตอ่ ไปน้ี

1. แก้ไขหลักการจากเดิมที่กาหนดให้ธุรกิจทั้งนิติบุคคลและบุคคลธรรมดาที่ประกอบธุรกิจตามประเภทที่รัฐมนตรีประกาศ
กาหนดต้องจัดทาบัญชีเป็นกาหนดให้เฉพาะนิติบุคคลเท่านั้นท่ีมีหน้าท่ีจัดทาบัญชีและเพิ่มกิจการร่วมค้าตามประมวลรัษฎากรให้
เป็นผู้มีหน้าท่ีจัดทาบัญชีด้วยบุคคลธรรมดาและห้างหุ้นส่วนที่ไม่ได้จดทะเบียนไม่ต้องจัดทาบัญชี เว้นแต่รัฐมนตรีจะออกประกาศ
ใหเ้ ปน็ ผ้มู ีหน้าทจี่ ัดทาบัญชี

2. กาหนดให้ผู้ทาบัญชีต้องเข้ามามีส่วนรับผิดชอบในการจัดทาบัญชีของธุรกิจโดยแบ่งแยกหน้าท่ีและความรับผิดชอบ
ระหว่างผทู้ าบญั ชแี ละผู้มีหนา้ ทีจ่ ดั ทาบญั ชีให้ชดั เจน ซึ่งมกี ารเพมิ่ โทษจากกฎหมายเดิมโดยบทกาหนดโทษมีทั้งโทษปรับและจาคุก
สาหรบั ผูม้ หี นา้ ท่ีจดั ทาบญั ชแี ละผูท้ าบญั ชีท่ีกระทาความผิด

หลักการของพระราชบญั ญัตกิ ารบัญชี พ.ศ.2543

3. ให้อธิบดีโดยความเห็นชอบของรัฐมนตรีมีอานาจกาหนดคุณสมบัติและเง่ือนไขของการเป็นผู้ทาบัญชี รวมทั้งกาหนด
ข้อยกเว้นให้ผู้มีหน้าที่จัดทาบัญชีหรือผู้ทาบัญชีไม่ต้องปฏิบัติตามมาตรฐานการบัญชีในเรื่องใดเรื่องหน่ึงหรือส่วนใดส่วนหน่ึง โดย
ให้คานงึ ถึงมาตรฐานการบัญชี และขอ้ คิดเหน็ ของหน่วยงานทีเ่ กีย่ วข้องและสถาบันวชิ าชีพบญั ชปี ระกอบด้วย

4. กาหนดให้รัฐมนตรีมีอานาจออกกฎกระทรวง ยกเว้นให้งบการเงินของผู้มีหน้าท่ีจัดทาบัญชีซึ่งเป็นห้างหุ้นส่วน
จดทะเบียนท่ีมีทุน สินทรัพย์หรือรายได้ รายการใดรายการหน่ึงหรือทุกรายการไม่เกินที่กาหนดโดยกฎกระทรวง ไม่ต้องรับการ
ตรวจสอบและแสดงความเหน็ โดยผู้สอบบญั ชรี ับอนุญาต

5. ลดภาระของธุรกิจในการเก็บรักษาบัญชีและเอกสารประกอบการลงบัญชีจาก 10 ปี เหลือ 5 ปีเว้นแต่ในกรณีท่ีจาเป็นใน
การตรวจสอบบัญชี โดยมีอานาจกาหนดให้ผู้มีหน้าที่จัดทาบัญชีเก็บรักษาบัญชีและเอกสารประกอบการลงบัญชีไว้เกิน 5 ปี แต่
ตอ้ งไมเ่ กิน 7 ปี

6. กาหนดให้การจัดทาบัญชีต้องเป็นไปตามมาตรฐานการบัญชีและมีการรับรองมาตรฐานการบัญชีที่กาหนดขึ้น
ซึ่งคณะกรรมการควบคุมการประกอบวชิ าชพี สอบบญั ชไี ด้มมี ติให้ประกาศใช้แล้วเปน็ มาตรฐานการบัญชตี ามกฎหมาย

สรุปสาระสาคญั พระราชบัญญตั ิการบญั ชี พ.ศ.2543

ในพระราชบัญญัติน้ีมีการกาหนดแบ่งแยกหน้าท่ีและความรับผิดชอบของบุคคลที่เกี่ยวข้องในการจัดทาบัญชีของธุรกิจไว้ 2
ฝ่าย คอื ผมู้ ีหน้าท่ีจดั ทาบญั ชีกับผู้ทาบัญชี เพอ่ื ให้ท้งั 2 ฝา่ ย ได้มีหนา้ ทแี่ ละความรับผิดชอบท่ีชว่ ยทาใหก้ ารจัดทาบัญชีของธุรกิจ
ถกู ตอ้ งส่งผลใหข้ อ้ มลู ในงบการเงนิ เชื่อถือได้ และนาไปใช้ประโยชน์ในการตัดสินใจได้ ดังนั้น เพื่อให้มีความเข้าใจและนาไปปฏิบัติ
ให้ถกู ตอ้ งจึงขอสรปุ สาระสาคัญพรอ้ มยกตัวอย่างประกอบให้เข้าใจได้ง่ายขึน้ ท้งั น้ี จะต้องศึกษาตวั กฎหมายภายใต้พระราชบัญญัติ
ฉบับนร้ี วมทง้ั ประกาศ คาสงั่ ต่างๆ จะชว่ ยให้เขา้ ใจย่งิ ขึน้

ผมู้ หี น้าท่จี ัดทาบัญชี

หมายความว่า ผู้มีหน้าที่จัดให้มีการทาบัญชีตามพระราชบัญญัติการบัญชี พ.ศ.2543 (มาตรา 4) ผู้มีหน้าที่จัดทาบัญชี คือ
ประเภทของธุรกจิ ทม่ี หี น้าท่ีจดั ใหม้ ีการทาบัญชปี ระกอบด้วย

1) หา้ งหนุ้ ส่วนจดทะเบียน ซ่ึงได้แก่ หา้ งหุ้นส่วนจากดั และห้างหุ้นสว่ นสามญั นิติบคุ คล
2) บรษิ ทั จากัด
3) บรษิ ทั มหาชนจากดั
4) นิติบุคคลท่ีต้ังขึ้นตามกฎหมายต่างประเทศที่ประกอบธุรกิจในประเทศไทย ในกรณีน้ีรวมสานักงานผู้แทนและสานักงาน
ภมู ภิ าคด้วย

สรปุ สาระสาคัญพระราชบญั ญัติการบัญชี พ.ศ.2543

5) กจิ การรว่ มคา้ ตามประมวลรัษฎากร
6) สถานท่ีประกอบธุรกิจเป็นประจาซึ่งหมายถึง สถานท่ีประกอบการท่ีแยกออกไปจากสานักงานใหญ่โดยมีที่ต้ังถาวร ซึ่งมี
พนักงานประจาและมกี ารดาเนนิ กจิ การทีจ่ ะก่อให้เกิดรายได้ เชน่ โชว์รมู สาขาธนาคารพาณชิ ย์ เปน็ ตน้
7) บุคคลธรรมดาหรือห้างหุ้นส่วนที่มิได้จดทะเบียนท่ีประกอบธุรกิจในประเทศไทย เมื่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
ออกประกาศกาหนดให้เปน็ ผู้มีหนา้ ท่จี ดั ทาบญั ชี ได้แก่

- บคุ คลธรรมดาหรอื หา้ งหนุ้ ส่วนท่มี ิได้จดทะเบยี นทปี่ ระกอบธุรกิจเปน็ ผู้ผลติ ผจู้ าหน่าย ผู้มไี วเ้ พ่อื จาหน่าย ผ้นู าเข้ามาใน
ราชอาณาจกั ร หรือผ้สู ่งออกไปนอกราชอาณาจักร ซึง่ สินคา้ ประเภทแถบเสยี งเพลง แถบวดี ิทัศน์ และแผ่นซดี ี

- บุคคลธรรมดาหรือห้างหุ้นส่วนท่ีมิได้จดทะเบียนที่ประกอบธุรกิจ โรงงาน แปรสภาพ แกะสลัก และการทาหัตถกรรม
จากงาชา้ ง การค้าปลกี การค้าสง่ งาช้าง และผลติ ภณั ฑจ์ ากงาช้าง

ผ้มู หี นา้ ท่จี ดั ทาบัญชจี ะดาเนนิ การโดย “ผู้ทกี่ ระทาการแทน” นติ บิ ุคคลหรอื ธุรกิจหมายถึงบคุ คลดังต่อไปน้ี
1) หุ้นส่วนผ้จู ัดการ ของหา้ งหนุ้ สว่ นจดทะเบยี น
2) กรรมการบริษัท ของ บริษัทจากัด บริษัทมหาชนจากดั
3) ผูก้ ระทาการแทนทไ่ี ด้รบั แต่งตั้งจากนิติบุคคลตา่ งประเทศ ของนติ ิบคุ คลตา่ งประเทศทเี่ ขา้ มาประกอบธรุ กจิ ในไทย
4) ผกู้ ระทาการแทนท่ีได้รบั แต่งต้งั ของกจิ การร่วมค้าตามประมวลรัษฎากร
5) ผู้จดั การ ของสถานท่ปี ระกอบธรุ กจิ เปน็ ประจา

สรปุ สาระสาคัญพระราชบญั ญัติการบัญชี พ.ศ.2543

หน้าทแ่ี ละความรับผดิ ชอบของผ้มู หี นา้ ที่จัดทาบญั ชี
มีการกาหนดหน้าท่แี ละความรบั ผดิ ชอบของผมู้ หี นา้ ที่จัดทาบญั ชีไว้อยา่ งชัดเจน ดังนี้
1) จัดให้มีผู้ทาบัญชีซึ่งมีคุณสมบัติและเง่ือนไขของการเป็นผู้ทาบัญชีตามประกาศกรมทะเบียนการค้า (ม.19)
เวน้ แต่ผมู้ ีหนา้ ทีจ่ ดั ทาบัญชีซ่ึงเปน็ บุคคลธรรมดาจะเป็นผูท้ าบญั ชีสาหรบั กิจการของตนเองกไ็ ด้
2) จัดใหม้ กี ารทาบัญชนี ับแตว่ ันเรม่ิ ทาบัญชี (ม.8) ตามทีก่ าหนด ดังนี้

- ห้างหุ้นส่วนจากัด ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล บริษัทจากัด บริษัทมหาชนจากัด ให้เริ่มทาบัญชีนับแต่วันที่
ได้รบั การจดทะเบยี นเปน็ นติ บิ คุ คลตามกฎหมาย

- นิติบุคคลต่างประเทศท่ีประกอบธุรกิจในไทย ให้เร่ิมทาบัญชีนับตั้งแต่วันท่ีเร่ิมต้นประกอบธุรกิจ ซ่ึงหมายถึง
วนั เริ่มมีรายการทางบญั ชี

- กิจการร่วมค้าตามประมวลรัษฎากร ใหเ้ รม่ิ ทาบญั ชีนับแต่วนั เริ่มต้นประกอบกิจการซ่ึงหมายถึงวันเริ่มมีรายการ
ทางบญั ชี

- สถานท่ีประกอบธุรกิจเป็นประจา ให้เร่ิมทาบัญชีนับแต่วันเร่ิมประกอบกิจการซ่ึงหมายถึงวันเร่ิมมีรายการ
ทางบญั ชี

สรุปสาระสาคญั พระราชบญั ญัตกิ ารบัญชี พ.ศ.2543

3) โดยผู้มีหน้าท่ีจัดทาบัญชีต้องทาบัญชีให้ครบถ้วนและถูกต้อง โดยมีหลักเกณฑ์และวิธีการตามที่กฎหมายกาหนด

เกี่ยวกบั (ม.7 (1) – (4))

- ชนิดของบัญชีทต่ี อ้ งจัดทา - ขอ้ ความและรายการทต่ี อ้ งมใี นบัญชี

- ระยะเวลาที่ต้องบันทึกรายการในบัญชี - เอกสารทต่ี ้องใชป้ ระกอบการลงบัญชี

4) ควบคุมดูแลผู้ทาบัญชใี ห้จดั ทาบญั ชีให้ถกู ตอ้ งและตรงตามความจริง (ม.19)

5) จัดทาเอกสารประกอบการบันทึกบัญชี ได้แก่บันทึก หนังสือ หรือเอกสารใด ๆ ท่ีใช้เป็นหลักฐานในการบันทึกบัญชี

สามารถแยกไดเ้ ป็น 3 ประเภท คือ

- เอกสารท่ตี ้องใช้ประกอบการลงบญั ชีทีจ่ ดั ทาโดยบคุ คลภายนอก

- เอกสารทีต่ ้องใชป้ ระกอบการลงบัญชีท่ีจดั ทาโดยผูม้ หี นา้ ทีจ่ ัดทาบญั ชเี พือ่ ออกใหแ้ ก่บุคคลภายนอก

- เอกสารที่ต้องใช้ประกอบการลงบญั ชที ี่จดั ทาโดยผู้มีหนา้ ทจ่ี ดั ทาบญั ชีเพ่ือใช้ในกิจการ

เอกสารที่ต้องใช้ประกอบการลงบัญชีทุกประเภทต้องมีรายการตามประกาศกรมทะเบียนการค้าเร่ือง กาหนดชนิด

ของบัญชีท่ีต้องจัดทาข้อความและรายการท่ีต้องมีในบัญชี ระยะเวลาที่ต้องลงรายการในบัญชีและเอกสารที่ต้องใช้

ประกอบการลงบญั ชี พ.ศ.2544

6) ส่งมอบเอกสารท่ีต้องใช้ประกอบการลงบัญชี เช่น ใบเสร็จรับเงิน ใบส่งของ ใบสาคัญรับ-จ่าย ฯลฯ ให้ผู้ทาบัญชี

ครบถ้วน เพ่ือให้บัญชีท่ีจัดทาข้ึนสามารถแสดงผลการดาเนินงานฐานะการเงินหรือการเปล่ียนแปลงฐานะการเงินท่ีเป็นอยู่

ตามความเป็นจรงิ และตามมาตรฐานการบญั ชี

สรุปสาระสาคัญพระราชบัญญัติการบญั ชี พ.ศ.2543

7) ต้องปิดบัญชีคร้ังแรกภายใน 12 เดือนนับแต่วันเร่ิมทาบัญชีและปิดบัญชีคร้ังต่อไปทุกรอบ 12 เดือนนับแต่วัน
ปิดบัญชคี รั้งกอ่ น ทัง้ นี้ ผูม้ หี น้าท่จี ดั ทาบัญชจี ะปิดบัญชีโดยมีรอบปีบัญชีน้อยกวา่ 12 เดอื น ได้เพยี ง 2 กรณีเท่าน้ัน

- เปน็ รอบปีบัญชปี แี รก ซึ่งมรี อบปีบญั ชีนอ้ ยกวา่ 12 เดอื น
- รอบปบี ญั ชที ีไ่ ดร้ ับอนญุ าตเปล่ยี นรอบปีบญั ชจี ากสารวตั รใหญ่บญั ชหี รือสารวัตรบัญชี
8) จดั ทางบการเงนิ ซ่ึงมีรายการย่อตามทอี่ ธบิ ดีประกาศกาหนดตามประเภทธรุ กจิ มี 5 แบบ
แบบที่ 1 หา้ งหุ้นสว่ นจดทะเบียน
แบบท่ี 2 บรษิ ัทจากดั
แบบท่ี 3 บรษิ ทั มหาชนจากัด
แบบที่ 4 นติ บิ ุคคลตา่ งประเทศทีป่ ระกอบธรุ กิจในประเทศไทย
แบบที่ 5 กจิ การร่วมค้าตามประมวลรัษฎากร
(ศกึ ษาเพม่ิ เตมิ ไดท้ ่ปี ระกาศกรมพฒั นาธรุ กิจการค้า เรอ่ื ง กาหนดรายการย่อทีต่ อ้ งมใี นงบการเงนิ )
9) ต้องจัดให้งบการเงินได้รับการตรวจสอบและแสดงความเห็นโดยผู้สอบบัญชีรับอนุญาต ยกเว้นสาหรับงบการเงินของห้าง
หุ้นส่วนจดทะเบียน (ห้างหุ้นส่วนจากัด ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล ) ที่มีทุนไม่เกิน 5 ล้านบาท สินทรัพย์รวม
ไม่เกนิ 30 ล้านบาท และรายไดร้ วมไมเ่ กิน 30 ลา้ นบาทไม่ตอ้ งมผี ูส้ อบบญั ชีรบั อนญุ าตตรวจสอบงบการเงินได้

สรุปสาระสาคัญพระราชบัญญตั ิการบัญชี พ.ศ.2543

10) ต้องเก็บรักษาบัญชีและเอกสารท่ีต้องใช้ประกอบการลงบัญชีไว้เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 5 ปีนับแต่วันปิดบัญชี
โดยใหจ้ ดั เกบ็ ณ สถานทปี่ ระกอบธุรกจิ ซึ่งไดแ้ ก่สถานทที่ าการ สถานที่ผลิตสินค้าเป็นประจาสถานท่ีเก็บสินค้าเป็นประจา สถานท่ี
ใชท้ างานเปน็ ประจา

ผูท้ าบัญชี

หมายถึง ผูร้ ับผิดชอบในการทาบัญชีของผู้มีหน้าท่ีจัดทาบัญชี ไม่ว่าจะได้กระทาในฐานะเป็นลูกจ้างของผู้มีหน้าท่ีจัดทาบัญชี
หรือไม่ก็ตาม (มาตรา 4)

คุณสมบตั ขิ องผู้ทาบญั ชี ซ่งึ กฎหมายกาหนดไว้ ดงั นี้
1) มีภมู ลิ าเนาหรือถนิ่ ท่ีอยู่ในราชอาณาจักร
2) มคี วามรู้ภาษาไทยเพยี งพอทจ่ี ะทาหน้าที่เป็นผทู้ าบญั ชี
3) ไม่เคยต้องโทษจาคุกในความผิดตามกฎหมายบัญชี กฎหมายผู้สอบบัญชี หรือกฎหมายวิชาชีพบัญชี เว้นแต่
พ้นโทษมาแลว้ ไมน่ ้อยกว่า 3 ปี

สรุปสาระสาคัญพระราชบญั ญัติการบัญชี พ.ศ.2543

4) มีคุณสมบตั ิด้านคุณวฒุ กิ ารศึกษา ตามขนาดธรุ กิจทีก่ าหนดแตล่ ะกลมุ่ ดงั นี้
กลุ่ม 1 ผู้ทาบัญชีของห้างหุ้นส่วนจดทะเบียนและบริษัทจากัดที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย ซึ่ง ณ วันปิดบัญชี

ในรอบปที ผี่ า่ นมา มีทุนจดทะเบยี นไม่น้อยกว่า 5 ล้านบาท สินทรัพย์รวมไม่เกิน 30 ล้านบาท และรายได้รวมไม่เกิน 30 ล้านบาท
ต้องมีคุณ วุฒิไ ม่ต่ากว่ าอนุปริญ ญา หรือ ประ กาศ นีย บัตร วิชา ชีพ ช้ันสู ง ( ปวส .) ทา งกา รบัญ ชีหรือเ ทียบเท่ า
จา ก ส ถ า บั น ก า ร ศึ ก ษา ซึ่ง กร ะ ท ร ว งศึ กษ า ธิ กา ร ห รื อ ส า นั กง า น ค ณ ะ ก ร ร ม ก า ร ข้ า ร า ชก า ร พ ล เ รื อ น ( ก. พ . )
หรอื กระทรวงศกึ ษาธิการเทยี บว่าไมต่ า่ กวา่ อนุปริญญาหรือประกาศนียบัตรวิชาชีพชนั้ สงู (ปวส.) ทางการบัญชี

กลุ่ม 2 ผู้ทาบัญชีของธุรกิจ ต้องมีคุณวุฒิไม่ต่ากว่าปริญญาตรีทางการบัญชีหรือเทียบเท่าจากสถาบันการศึกษา
ท่ีกระทรวงศกึ ษาธิการหรอื สานักงานคณะกรรมการขา้ ราชการพลเรอื น (ก.พ.) หรือสานักงานคณะกรรมการการอดุ มศกึ ษา (สกอ.)
เทียบเทา่ ไมต่ ่ากวา่ ปริญญาตรที างการบัญชี

- ห้างหุ้นส่วนจดทะเบียนและบริษัทท่ีมีทุนจดทะเบียนหรือสินทรัพย์รวมหรือรายได้รวมรายการใดรายการหนึ่งเกินกว่าท่ี
กาหนดในกลมุ่ 1

- บรษิ ทั มหาชนจากัด
- นิตบิ คุ คลท่ีตง้ั ขึ้นตามกฎหมายตา่ งประเทศทปี่ ระกอบธุรกิจในประเทศไทย
- กิจการรว่ มคา้ ตามประมวลรัษฎากร
- ผู้ประกอบธุรกิจธนาคาร เงนิ ทุนหลกั ทรัพย์ เครดิตฟองซเิ อร์ ประกันชีวติ ประกนั วนิ าศภัย
- ผ้ปู ระกอบธุรกิจซึง่ ได้รบั การสง่ เสรมิ การลงทุนตามกฎหมายว่าด้วยการสง่ เสรมิ การลงทนุ

สรปุ สาระสาคัญพระราชบญั ญตั กิ ารบญั ชี พ.ศ.2543

กล่มุ 3 ผทู้ าบญั ชขี องบคุ คลธรรมดาหรอื ห้างห้นุ ส่วนท่มี ไิ ด้จดทะเบยี น ซ่ึงรัฐมนตรปี ระกาศใหเ้ ปน็ ผู้มีหน้าที่จัดทาบญั ชี
บุคคลธรรมดาจะเป็นผทู้ าบญั ชีสาหรับกจิ การของตนเองกส็ ามารถทาได้ แต่หากมอบให้ผู้อ่ืนจัดทาบัญชีคุณวุฒิของผู้ทาบัญชี
ให้เป็นไปตามทก่ี าหนดไว้ใน (ก) และ (ข) โดยอนุโลม
ห้างหุ้นส่วนที่มิได้จดทะเบียน คณุ วฒุ ขิ องผูท้ าบัญชใี หเ้ ปน็ ไปตามทีก่ าหนดไว้ใน (ก) หรอื (ข) โดยอนุโลม
5) มีคณุ สมบัติและไมม่ ลี ักษณะต้องห้ามทจ่ี ะประกอบวชิ าชีพเป็นผทู้ าบญั ชตี ามพระราชบญั ญตั กิ ารบัญชี พ.ศ.2547
ผู้ทาบัญชีของธุรกิจที่มีทุนจดทะเบียนไม่เกิน 5 ล้านบาท สินทรัพย์รวมไม่เกิน 30 ล้านบาทและรายได้รวมไม่เกิน 30 ล้าน
บาทนั้น หากทุนจดทะเบียนสินทรัพย์รวมหรือรายได้รวมเปลี่ยนแปลงไปจนทาให้ผู้ทาบัญชีเดิมไม่มีคุณสมบัติ
ของการเปน็ ผูท้ าบัญชีของธรุ กจิ นัน้ อีกตอ่ ไป ผทู้ าบัญชเี ดมิ สามารถเปน็ ผู้ทาบญั ชขี องผมู้ หี นา้ ทีจ่ ัดทาบญั ชีต่อไปอกี 2 ปีนบั ต้ังแต่วัน
สน้ิ รอบปบี ญั ชที ี่มกี ารเปลีย่ นแปลง
เง่ือนไขของการเปน็ ผู้ทาบญั ชี
ผทู้ าบญั ชีท่มี ีหนา้ ทีร่ ับผิดชอบในการทาบัญชขี องธรุ กิจ ต้องดาเนนิ การแจง้ รายละเอยี ดที่เก่ียวข้องกับการทาบัญชี พร้อมด้วย
เอกสารหลักฐานประกอบการแจ้งต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้าภายใน 60 วัน นับแต่วันเริ่มทาบัญชี ซ่ึงปัจจุบันกรมพัฒนาธุรกิจ
การค้าได้เปิดให้บรกิ ารผทู้ าบญั ชีผา่ นทางระบบอินเทอร์เน็ตทงั้ หมดซึง่ ผู้ทาบัญชตี ้องดาเนินการ

สรุปสาระสาคญั พระราชบัญญัตกิ ารบัญชี พ.ศ.2543

1) แจ้งการเป็นผู้ทาบัญชีพร้อมด้วยหลักฐานตามท่ีระบุไว้ในแบบ ส .บช.5* (แบบแจ้งการทาบัญชีของผู้ทาบัญชี
ตามมาตรา 7 (6) แห่งพระราชบัญญัติการบัญชี พ.ศ.2543) และแบบ ส.บช. 5-1* (แบบแจ้งข้อมูลเก่ียวกับธุรกิจ
ท่ีรบั ทาบัญช)ี ตอ่ กรมพัฒนาธรุ กิจการคา้ ภายใน 60 วนั นบั แตว่ นั เริม่ ทาบัญชี

2) แจ้งความประสงค์เพื่อรับหมายเลขผู้ใช้ (User ID) และรหัสผ่าน (Password)* กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าก่อนโดยจัดส่ง
แบบแจ้งความประสงค์ที่สานักกับดูแลธุรกิจ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า จังหวัดนนทบุรี และเมื่อได้ User ID และ Password แล้ว
ภายใน 3 วันทาการ สามารถดาเนินการแจ้งได้ทุกกรณีไม่ว่าจะแจ้งเพ่ิมและยกเลิกธุรกิจท่ีรับทาบัญชี แก้ไขข้อมูล แจ้งการพัฒนา
ความรู้ตอ่ เนื่องทางวิชาชีพบญั ชีของผทู้ าบัญชใี นทกุ รอบสามปี

3) แจ้งเพิ่มและยกเลิกธุรกิจที่รับทาบัญชีทางอินเทอร์เน็ต จะทาให้ผู้ทาบัญชีไม่ต้องส่งแบบแจ้งเพ่ิมยกเลิกธุรกิจ
ท่ีทาบัญชี

การแจง้ เปล่ยี นแปลงข้อมูลของผูท้ าบัญชใี นกรณีอน่ื เช่น การแจ้งเปล่ียนช่ือ-นามสกุล เปล่ียนคุณวุฒิการศึกษา ฯลฯ ให้ผู้ทา
บัญชีแจ้งเป็นเอกสารตามแบบ ส.บช.6* (แบบแจ้งการเปลี่ยนแปลงการทาบัญชีตามมาตรา 7 (6) และมาตรา 42 แห่ง
พระราชบัญญตั กิ ารบญั ชี พ.ศ.2543)

สรปุ สาระสาคัญพระราชบัญญัติการบัญชี พ.ศ.2543

การพัฒนาความรู้ตอ่ เนื่องทางวชิ าชีพบัญชี
ผทู้ าบญั ชตี อ้ งเขา้ รับการพัฒนาความรู้ต่อเน่ืองทางวิชาชีพตลอดระยะเวลาท่เี ปน็ ผู้ทาบญั ชี ดงั นี้

(1) การนับระยะเวลาและจานวนชว่ั โมง
การนับระยะเวลาให้นับเป็นรอบๆ รอบละสามปีปฏิทิน เรียกว่า “รอบระยะเวลาสามปี” โดยทุกรอบระยะเวลา
สามปีจะตอ้ งเขา้ รบั การพัฒนาความรูต้ ่อเนอื่ งทางวิชาชพี ในจานวนช่วั โมง ดงั น้ี

ก. รายปี จะตอ้ งเข้ารบั การพฒั นาความร้เู นือ่ งทางวิชาชีพไม่น้อยกวา่ ปีละ 6 ช่วั โมง
ข. ภาพรวมสามปี (ครบรอบระยะเวลาสามปี)
จะต้องมีจานวนชั่วโมงในการพัฒนาความรู้ต่อเน่ืองทางวิชาชีพไม่น้อยกว่า 27 ช่ัวโมง และต้องเป็นกิจกรรม
ที่มเี นือ้ หาเกย่ี วขอ้ งกับการบัญชไี มน่ อ้ ยกวา่ 18 ช่ัวโมง
การเร่ิมนับรอบระยะเวลาสามปี ให้นับตามปีปฏิทิน โดยให้เร่ิมนับตั้งแต่วันท่ี 1 มกราคมของปีถัดจากปีท่ีผู้ทาบัญชีแจ้ง
การเปน็ ผ้ทู าบัญชีเป็นต้นไป
(2) กิจกรรมทส่ี ามารถนบั เป็นชัว่ โมงการพัฒนาความรูต้ ่อเนือ่ งทางวิชาชพี
ก. การเข้าร่วมการอบรมหรือสัมมนาในหลักสูตรหรือเร่ืองซ่ึงจัดโดยสภาวิชาชีพบัญชีหรือการเข้าร่วม
การอบรมหรือสัมมนาในหลักสูตรหรือเร่ืองที่อธิบดีให้ความเห็นชอบ นับจานวนช่ัวโมงได้ตามระยะเวลาท่ีเข้าร่วมการอบรม
หรอื สัมมนา

สรุปสาระสาคญั พระราชบญั ญตั ิการบญั ชี พ.ศ.2543

ข. การเป็นวิทยากร ผู้บรรยาย ผู้ดาเนินการสัมมนา นับจานวนชั่วโมงได้สามเท่าของระยะเวลาการ
เป็นวทิ ยากร ผู้บรรยาย ผู้ดาเนินการสัมมนา

ค. การเป็นอาจารย์ในสถาบันการศึกษาของรัฐ หรือสถาบันการศึกษาของเอกชนตามกฎหมายว่าด้วย
สถาบันการศึกษาเอกชน ซ่ึงมีการสอนไม่ต่ากว่าระดับอนุปริญญาหรือประกาศนียบัตรวิชาชีพช้ันสูง (ปวส.) ทางการบัญชี หรือ
เทียบเท่าไมว่ ่าจะเป็นการสอนในฐานะอาจารย์ประจาหรืออาจารย์พิเศษ

นบั จานวนชว่ั โมงได้วิชาละ 9 ช่ัวโมง ในแต่ละรอบสามปีให้นับจานวนช่ัวโมงได้ไม่เกิน 18 ชั่วโมงไม่ว่าจะทาการสอนเกิน
กวา่ สองวิชาหรือไมก่ ต็ าม

ง. การสาเร็จการศกึ ษาในคณุ วฒุ ิทเี่ ก่ยี วข้องกับวิชาชพี บญั ชี ใหน้ ับจานวนชั่วโมงได้ตามปที ส่ี าเร็จการศึกษา ดงั น้ี
- กรณีสาเร็จการศึกษาในระดับทส่ี ูงกวา่ คณุ วุฒเิ ดิม
- ถ้าเปน็ คณุ วุฒทิ างการบัญชี นบั จานวนชั่วโมงได้ 27 ชัว่ โมง
- ถ้าเป็นคุณวุฒิทางด้านอื่น เช่น การเงิน บริหารธุรกิจ พาณิชยศาสตร์ การภาษีอากร หรือด้านอ่ืน

ทีม่ ีเนอื้ หาเกี่ยวข้องกับวชิ าชพี บญั ชี นับจานวนชวั่ โมงได้ 18 ชั่วโมง
กรณสี าเร็จการศึกษาในระดบั ท่ไี มส่ ูงกวา่ คุณวฒุ ิเดิม นบั จานวนช่ัวโมงได้ 9 ชว่ั โมง

สรปุ สาระสาคัญพระราชบัญญัตกิ ารบัญชี พ.ศ.2543

จ. การ ผ่า นกา รศึ กษา เฉ พา ะร าย วิ ชา ท่ีเ กี่ย ว ข้อ งกั บวิ ชา ชี พบั ญชี จา กสถาบั นการ ศึ กษาของรั ฐ
หรือสถาบันการศึกษาของเอกชนตามกฎหมายว่าด้วยสถาบันการศึกษาเอกชน ซ่ึงมีการสอนไม่ต่ากว่าระดับอนุปริญญา
หรือประกาศนียบตั รวชิ าชพี ชน้ั สูง (ปวส.) ทางการบัญชีหรอื เทียบเท่าใหน้ ับจานวนชวั่ โมงได้วิชาละ 6 ชวั่ โมง

ฉ. กจิ กรรมอ่ืน นอกจากที่ระบุตาม (ก) (ข) (ค) (ง) และ (จ) ตามทอี่ ธิบดปี ระกาศกาหนด
(3) การแจ้งข้อมูล และการเก็บหลักฐาน ผู้ทาบัญชีสามารถแจ้งผ่านระบบอินเทอร์เน็ตทางเว็บไซต์กรมพัฒนาธุรกิจ
การค้า (http://www.dbd.go.th) ต่ออธิบดีภายใน 60 วันนับแต่วันสิ้นปีปฏิทินของทุกปี และต้องจัดเก็บหลักฐาน
การพฒั นาความรูต้ อ่ เน่ืองทางวชิ าชีพไว้กับตนเองเปน็ เวลาไม่น้อยกวา่ 5 ปี นบั แต่วนั ส้ินสุดการอบรม
จานวนผูม้ ีหน้าทีจ่ ดั ทาบญั ชที ี่ผู้ทาบัญชีสามารถรับทาได้
ผู้ทาบัญชที ี่รับทาบญั ชีปีละเกนิ กว่า 100 ราย ต้องจัดให้มีผู้ช่วยผู้ทาบัญชีซ่ึงมีคุณวุฒิเช่นเดียวกับผู้ทาบัญชีอย่างน้อยหนึ่งคน
ในทุกๆ 100 รายท่ีเพมิ่ ขนึ้
การนับจานวนธุรกิจท่ีรับทาบัญชี ไม่ให้รวมธุรกิจที่ไม่ทาการค้าขายหรือประกอบการงาน หรือท่ียังไม่ได้เร่ิมทาการค้าขาย
หรือประกอบการงาน

สรปุ สาระสาคญั พระราชบัญญตั กิ ารบญั ชี พ.ศ.2543

หน้าทแ่ี ละความรับผิดชอบของผู้ทาบัญชี
1) จัดทาบัญชีเพื่อให้แสดงผลการดาเนินงาน ฐานะการเงิน หรือการเปลี่ยนแปลงฐานะการเงินของผู้มีหน้าที่จัดทาบัญชีที่
เปน็ อยตู่ ามความเป็นจริง และตามมาตรฐานการบัญชโี ดยมเี อกสารทต่ี ้องใชป้ ระกอบการลงบญั ชใี หถ้ ูกตอ้ งครบถ้วน
2) ลงรายการบัญชีเป็นภาษาไทย หากลงรายการเป็นภาษาต่างประเทศให้มีภาษาไทยกากับหรือลงรายการเป็น
รหสั บัญชใี ห้มีคู่มือคาแปลรหัสบญั ชที ่ีเปน็ ภาษาไทยไว้
3) เขยี นดว้ ยหมึก ดีดพมิ พ์ หรือตพี ิมพ์ หรือทาดว้ ยวธิ อี ่นื ใด ทไี่ ดผ้ ลในทานองเดยี วกนั
อานาจในการตรวจสอบบญั ชแี ละเอกสารท่ตี ้องใช้ประกอบการลงบญั ชี
กาหนดใหส้ ารวตั รใหญ่บัญชีและสารวัตรบญั ชี มอี านาจดงั น้ี
1) เข้าตรวจสอบบัญชีและเอกสารท่ีต้องใช้ประกอบการลงบัญชี ในสถานท่ีทาการหรือสถานท่ีเก็บรักษาบัญชี
และเอกสารทีต่ อ้ งใชป้ ระกอบการลงบัญชีหรอื สถานท่ีรวบรวมหรือประมวลขอ้ มลู ของผ้มู หี น้าทจ่ี ดั ทาบญั ชี
2) ส่ังเป็นหนังสือให้ผู้มีหน้าที่จัดทาบัญชี หรือผู้ทาบัญชีมาให้ถ้อยคาหรือส่งบัญชีและเอกสารที่ต้องใช้ประกอบการลงบัญชี
รวมทง้ั เชญิ บุคคลท่ีเก่ยี วข้องมาให้ถอ้ ยคาได้
3) ยดึ อายดั บัญชีและเอกสารทตี่ อ้ งใช้ประกอบลงบัญชไี ด้

สรปุ สาระสาคญั พระราชบัญญัติการบญั ชี พ.ศ.2543

บทกาหนดโทษ

ผู้กระทาความผิดตามพระราชบัญญัตินี้จะต้องรับโทษตามลักษณะความผิด ซ่ึงในกรณีที่เป็นความผิดต่อเน่ืองมีโทษปรับ
รายวนั จนกว่าจะปฏบิ ตั ิให้ถกู ต้อง เชน่

สรปุ สาระสาคญั พระราชบัญญตั กิ ารบญั ชี พ.ศ.2543


Click to View FlipBook Version