หนว่ ยที่ 2 ตน้ ทนุ วตั ถดุ ิบ
Kru Kancharaporn
สาระการเรียนรู้
1. ความหมายและประเภทของวัตถุดิบ
2. การรับจ่ายวตั ถุดิบ
3. การบนั ทกึ รายการเกย่ี วกับวตั ถดุ ิบวิธีบัญชีสินคา้ คงเหลือแบบสิ้นงวดและ
แบบตอ่ เนือ่ ง
4. บตั รวตั ถดุ บิ
ความหมายและประเภทของวตั ถุดิบ
วตั ถดุ บิ (Materials) หมายถงึ สว่ นผสมหรอื สว่ น
ประกอบสาคญั ในการผลิตที่จะถกู เปล่ยี นสภาพกลาย
เป็นสนิ คา้ สาเรจ็ รูป ต้นทุนวตั ถุดบิ ท่ใี ชใ้ นการผลิต
สนิ คา้ แบง่ ออกเปน็ 2 ประเภท คือ
1.วตั ถดุ ิบทางตรง (Direct Materials)
2.วัตถดุ บิ ทางอ้อม (Indirect Materials)
วัตถดุ บิ ทางตรง (Direct Materials)
วตั ถุดบิ หลกั ท่ใี ชใ้ นการผลิตสนิ ค้าสาเร็จรูป และเป็นส่วนสาคัญทค่ี ดิ เปน็ ตน้ ทุนของ
หนว่ ยทผี่ ลิต เช่น
ไมแ้ ปรรูป เป็น วตั ถุดิบทางตรง ในการผลิต เฟอร์นิเจอร์
ผา้ เปน็ วตั ถดุ ิบทางตรง ในการผลิต เส้ือผ้าสาเรจ็ รูป
ดนิ เหนียว เปน็ วัตถุดบิ ทางตรง ในการผลติ ผลิตภณั ฑเ์ ซรามกิ
ผลไม้ เป็น วัตถุดิบทางตรง ในการผลิต นา้ ผลไม้
วตั ถดุ บิ ทางอ้อม (Indirect Materials)
วัตถุดิบท่ีใช้ในการผลิตสินค้าสาเร็จรูป แต่ใช้ในปริมาณไม่มาก วัตถุดิบทางอ้อมถือเป็นค่าใช้จ่ายการ
ผลติ เช่น
ตะปู กาว สกรู เปน็ วตั ถุดบิ ทางออ้ ม ในการผลติ เฟอร์นิเจอร์
ด้าย กระดมุ ซปิ ตะขอ เปน็ วัตถดุ ิบทางอ้อม ในการผลิต เสอื้ ผา้ สาเรจ็ รปู
สี น้ามันชักเงา เปน็ วัตถดุ บิ ทางออ้ ม ในการผลิต ผลติ ภณั ฑ์เซรามิก
นา้ ตาล เปน็ วตั ถุดิบทางอ้อม ในการผลติ นา้ ผลไม้
ในการพจิ ารณาวา่ รายการใดเป็นวตั ถุดิบทางตรงหรือวัตถุดิบทางอ้อมน้ัน ต้องพิจารณาถึง
ปัจจยั สาคัญ 2 ประการคือ วตั ถุดิบทางตรงนนั้ ต้องเปน็ ส่วนประกอบทส่ี าคญั ในการผลิตสินค้าโดยตรง
สามารถคานวณเขา้ เป็นต้นทุนของผลติ ภัณฑห์ รอื สินค้าได้โดยงา่ ย หากขาดปัจจัยข้อหนึ่งข้อใดย่อมถือ
วา่ รายการนน้ั เป็นวัตถดุ ิบทางอ้อม
การรบั จ่ายวตั ถุดิบ
การรับจ่ายวัตถุดิบ คือ การจัดหาวัตถุดิบ ไม่ว่าจะเป็นวัตถุดิบทางตรงหรือวัตถุดิบทางอ้อม
เพื่อให้มีวัตถุดิบในปริมาณเพียงพอต่อความต้องการของแผนกผลิต การดาเนินการต้องทาอย่างมี
ประสิทธิภาพเพ่ือให้ได้มาซึ่งวัตถุดิบที่มีคุณภาพ มีต้นทุนต่า ตรงตามความต้องการของแผนกผลิตหรือแผนก
อ่นื ที่ต้องการใช้และภายในกาหนดเวลาที่แผนกต่างๆ ต้องการ รวมทั้งการตรวจรับวัตถุดิบการเก็บรักษาและ
การควบคุมวัตถุดิบ การส่งคืนวัตถุดิบให้กับผู้ขาย การเบิกวัตถุดิบไปใช้ในการผลิต การส่งคืนวัตถุดิบให้กับ
แผนกคลังสนิ คา้ และการชาระหนีค้ า่ วัตถุดบิ
ขนั้ ตอนทกุ ขนั้ ตอน ตอ้ งทาด้วยความระมดั ระวัง รอบคอบ เพอ่ื ไมใ่ หเ้ กดิ การทุจริต หรือวัตถุดิบถูก
ยกั ยอก และตอ้ งมีการจัดทาเอกสาร โดยใหผ้ ูท้ ี่เก่ียวข้องลงนามเพือ่ เก็บไว้เปน็ หลักฐานอา้ งองิ
การรับจา่ ยวัตถุดบิ
ในการจัดหาวัตถุดิบ กิจการอุตสาหกรรมส่วนใหญ่ จะมีแผนกจัดซื้อ (Purchasing
Department)ทาหน้าท่ใี นการจดั ซือ้ วัตถุดิบ ผู้จัดการฝ่ายจดั ซื้อมีหน้าท่ีรับผิดชอบในการจัดซื้อ ให้
เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานและระเบียบที่กิจการกาหนดไว้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเงื่อนไข คุณภาพ
ของวัตถุดิบ และราคาของวัตถุดิบที่จะทาการจัดซื้อ เอกสารที่เกี่ยวข้องกับการจัดซ้ือวัตถุดิบ
ประกอบดว้ ย
1. ใบขอซื้อ (Purchase Requisition/PR)
2. ใบสั่งซอ้ื (Purchase Order/PO)
3. ใบรายงานการรับของ (Receiving Report/RR)
การขอซอ้ื
เม่อื วตั ถุดบิ ในแผนกคลงั สินคา้ ใกล้หมดหรือถึงจดุ สั่งซ้ือ (จดุ สั่งซื้อคือจุดที่เตือนให้ทราบ
ว่าถึงกาหนดท่ีจะส่ังซ้ือวัตถุดิบเพื่อมาแทนวัตถุดิบที่ใช้หมดไป) ผู้ทาหน้าที่ในการควบคุมดูแล
วัตถุดบิ จะจดั ทาเอกสารคอื ใบขอซ้ือ (Purchase Requisition/PR) ข้ึน 3 ฉบบั โดย
- ฉบบั ที่ 1 ส่งให้แผนกจัดซือ้ (ต้นฉบับ)
- ฉบับท่ี 2 ส่งใหแ้ ผนกบัญชี (สาเนา)
- ฉบบั ท่ี 3 เก็บไว้เปน็ หลกั ฐาน (สาเนา)
การสัง่ ซอ้ื
เมื่อแผนกจัดซื้อได้รับใบขอซื้อจากแผนกคลังสินค้า จะนาเสนอเพื่อขออนุมัติจากผู้มี
อานาจหากไม่ได้รับอนุมัติจะส่งเรื่องคืนแผนกคลังสินค้า เพื่อทบทวน หากได้รับอนุมัติจะติดต่อกับ
ผู้ขายหลายๆ รายเพอื่ ให้เสนอราคา และจัดทาเอกสารคือใบส่ังซ้ือ (Purchase Order/PO) ขึ้น 5
ฉบับ โดย
- ฉบับที่ 1 ส่งใหผ้ ูข้ าย (ตน้ ฉบับ)
- ฉบับที่ 2 สง่ ให้แผนกบัญชี (สาเนา)
- ฉบบั ท่ี 3 สง่ ใหแ้ ผนกรบั สินคา้ (สาเนา)
- ฉบับที่ 4 ส่งใหแ้ ผนกคลงั สนิ คา้ (สาเนา)
- ฉบับที่ 5 เกบ็ ไวเ้ ป็นหลกั ฐาน (สาเนา)
การตรวจรับวัตถดุ บิ
เมื่อแผนกตรวจรับสินค้าได้รับวัตถุดิบ จะตรวจสอบกับใบขอซื้อท่ีได้รับจากแผนกจดั ซ้ือ
ในเรอ่ื งของคุณภาพ ราคา และปริมาณ เม่ือตรวจสอบเรียบร้อยแล้วจะจัดทาเอกสารคือ ใบรายงาน
การรบั ของ(Receiving Report/RR) ข้นึ 5 ฉบบั โดย
- ฉบับท่ี 1 สง่ ให้ผูข้ าย (สาเนา)
- ฉบบั ท่ี 2 ส่งให้แผนกคลงั สินค้า (สาเนา) พร้อมวัตถดุ ิบ
- ฉบับท่ี 3 สง่ ให้แผนกจัดซ้อื (สาเนา)
- ฉบับท่ี 4 ส่งให้แผนกบญั ชี (สาเนา)
- ฉบับที่ 5 เก็บไวเ้ ป็นหลกั ฐาน (ตน้ ฉบบั )
การสง่ คนื วัตถุดิบให้กบั ผู้ขาย
ในกรณีท่ีแผนกตรวจรับสินค้า ทาการตรวจรับวัตถุดิบท่ีได้รับจากผู้ขายสินค้าแล้วพบว่า
วัตถุดิบมีคุณลักษณะหรือคุณภาพไม่ตรงกับท่ีแผนกจัดซ้ือได้ส่ังซื้อไป หรือวัตถุดิบมีตาหนิ แตกหัก
หรือเสยี หายแผนกตรวจรับสนิ คา้ จะตอ้ งแจง้ ใหแ้ ผนกจัดซ้อื ทราบ เพอ่ื จะได้ดาเนินการส่งวัตถุดิบคืน
ใหผ้ ูข้ ายสินค้าการคนื วัตถุดบิ อาจคืนท้ังหมดหรอื คืนบางส่วน แผนกจดั ซ้ือจะจัดทาเอกสารคือ ใบหัก
หน(ี้ Debit Memorandum/Dr.Memo) และใบส่งคนื วัตถดุ ิบ ข้ึน 3 ฉบับ (ชดุ ) โดย
- ฉบบั ที่ 1 ส่งใหแ้ ผนกบัญชี (ต้นฉบบั )
- ฉบับที่ 2 สง่ ใหแ้ ผนกตรวจรับสินค้า (สาเนา)
- ฉบบั ที่ 3 เก็บไว้เปน็ หลักฐาน (สาเนา)
การเก็บรักษา และ ควบคุมวตั ถดุ ิบ
เมื่อแผนกคลังสินค้าได้รับวัตถุดิบ
จากแผนกตรวจรับสินค้า พร้อมใบรายงานการ
รบั ของแล้วแผนกคลงั สนิ คา้ จะทาการตรวจสอบ
รายการวัตถดุ บิ ที่ไดร้ บั มาวา่ ถูกต้องตรงกับในใบ
รายงานการรับของหรือไม่ หากไม่ถูกต้องหรือ
ได้รับวัตถุดิบไม่ครบถ้วน จะได้ทาการทักท้วง
หากถูกต้องแล้วจะทาการบันทึกรายละเอียด
วัตถุดิบท่ีรับเข้ามาลงในบัตรวัตถุดิบ และ
ดาเนินการจัดเก็บและจัดเรียงให้เป็นหมวดหมู่
ให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้หรือพร้อมส่งให้แผนก
ผลิตตอ่ ไป
การเบิกวตั ถดุ ิบ
เม่ือแผนกผลิต หรือแผนกงานใดๆ แจ้งความต้องการใช้วัตถุดิบมายัง
แผนกคลังสินค้า แผนกคลังสินค้าจะจัดเตรียมวัตถุดิบตามท่ีขอเบิกพร้อมกับจัดทา
เอกสารคอื ใบเบกิ วตั ถดุ ิบ ข้ึน 3 ฉบับ โดย
- ฉบบั ท่ี 1 สง่ ให้แผนกบญั ชี (ต้นฉบบั )
- ฉบบั ที่ 2 สง่ ให้แผนกผลติ (สาเนา) พร้อมวตั ถุดบิ
- ฉบบั ท่ี 3 เก็บไว้เปน็ หลกั ฐาน (สาเนา)
การส่งคืนวตั ถดุ บิ ให้กบั แผนกคลงั สนิ คา้
เมื่อแผนกผลิตหรือแผนกอื่นๆ ได้รับวัตถุดิบท่ีขอเบิกจากแผนกคลังสินค้าแล้ว จะทาการ
ตรวจสอบหากพบว่าวัตถุดิบท่ีได้รับมาไม่ตรงกับท่ีขอเบิกไป หรืออาจเบิกวัตถุดิบมามากเกินไป จะต้อง
ดาเนินการสง่ คืนวัตถดุ บิ ใหก้ บั แผนกคลงั สนิ ค้า โดยจัดทาเอกสารคอื ใบนาสง่ คนื วัตถดุ ิบ จานวน 3 ฉบับ
พร้อมกบั วัตถดุ ิบ โดย
- ฉบับท่ี 1 ส่งใหแ้ ผนกบญั ชี (ต้นฉบบั )
- ฉบบั ที่ 2 สง่ ให้แผนกคลงั สินคา้ (สาเนา) พรอ้ มวตั ถุดบิ
- ฉบบั ท่ี 3 เกบ็ ไวเ้ ปน็ หลักฐาน (สาเนา)
การจ่ายชาระหนค้ี ่าวัตถุดิบ
ในกรณีที่กิจการซ้ือวัตถุดิบเป็นเงินเชื่อ
แผนกบัญชีและการเงินจะต้องพิจารณาเงื่อนไขหรือ
ข้อตกลงในการซ้ือวัตถุดิบ เช่น กาหนเวลาชาระหนี้
ส่วนลดรับ (ถา้ มี) ทั้งน้เี พ่ือประโยชน์สูงสุดของกจิ การ
โดยปกติผขู้ ายจะสง่ ใบขอเรียกเก็บเงิน (ใบ
วางบิล) มาให้กิจการ เมื่อแผนกบัญชีและการเงิน
ไดร้ ับแล้ว จะต้องตรวจสอบเอกสารท่ีเกย่ี วขอ้ งทั้งหมด
เช่น ใบส่ังซ้ือ ใบรายงานการรับของใบกากับสินค้า
หรอื ใบกากับภาษี เป็นต้น และพึงระมัดระวังในกรณีท่ี
กิจการส่งคืนวัตถุดิบหรือขส่วนลดกรณีวัตถุดิบชารุด
หรอื ไม่ตรงตามท่ีสง่ั ซ้ือ
การบันทึกรายการเกย่ี วกับวตั ถดุ ิบวิธบี ญั ชสี นิ ค้าคงเหลือแบบสนิ้ งวดและแบบตอ่ เน่อื ง
การบนั ทึกรายการเก่ียวกบั วัตถดุ บิ คงเหลอื
เหมือนกับการบนั ทกึ รายการเกีย่ วกบั สินค้าคงเหลอื ของกิจการซ้อื ขายสนิ ค้า ซ่ึงมี 2 วิธี คือ
1. วิธีบญั ชสี นิ ค้าคงเหลอื แบบสน้ิ งวด (Periodic Inventory Method)
2. วิธีบัญชีสนิ คา้ คงเหลอื แบบตอ่ เนอ่ื ง (Perpetual Inventory Method)
การบนั ทึกรายการเกย่ี วกบั วิธีน้ีกิจการจะบันทึกรายการเก่ียวกับวัตถุดิบ ใน
วตั ถุดิบวิธบี ัญชสี ินค้า บัญชีที่เก่ียวข้อง เช่น ซ้ือวัตถุดิบ ค่าขนส่งเข้าส่งคืนวัตถุดิบ
คงเหลือแบบสน้ิ งวด ส่วนลดรับ การบันทึกรายการเกี่ยวกับวัตถุดิบแยกออกจาก
กัน ทาใหก้ จิ การไมท่ ราบยอดคงเหลือของวัตถุดิบ ดังน้ันเม่ือ
ถึงวันส้ินงวดบัญชีกิจการจะต้องตรวจนับวัตถุดิบคงเหลือ
และคานวณต้นทุนวัตถุดิบคงเหลือ ตามวิธีที่กิจการเลือกใช้
ตามมาตรฐานการบัญชี ข้อดีของวิธีนีคือประหยัดเวลาใน
การบันทึกบัญชี ข้อเสียคือกิจการจะไม่ทราบยอดคงเหลือ
ของวัตถุดิบ ณ เวลาใดเวลาหนึ่งการบันทึกรายการแบ่ง
ออกเป็น 2 กรณีคือกรณีกิจการไม่จดทะเบียนเข้าสู่ระบ
ภาษีมูลค่าเพ่ิมและกรณีกิจการจดทะเบียนเข้าสู่ระบบ
ภาษมี ูลค่าเพ่ิม
การบนั ทึกรายการเก่ยี วกบั วตั ถดุ บิ วธิ บี ญั ชีสนิ คา้ คงเหลอื แบบส้นิ งวด
การบนั ทึกรายการเก่ยี วกบั วตั ถดุ บิ วธิ บี ญั ชีสนิ คา้ คงเหลอื แบบส้นิ งวด
การคานวณวัตถดุ ิบใช้ไปในการผลิต-วิธบี ญั ชีสินค้าคงเหลอื แบบสน้ิ
งวด
การคานวณวัตถุดิบใชไ้ ปในการผลติ คานวณได้ดังน้ี
การบนั ทึกรายการเกี่ยวกับวตั ถดุ บิ วธิ ีบญั ชสี ินค้าคงเหลือ
แบบต่อเน่ือง
วิธีน้ีกิจการจะบันทึกรายการเก่ียวกับวัตถุดิบ ในบัญชีวัตถุดิบ เช่น ซ้ือวัตถุดิบ ค่าขนส่ง
เข้าส่งคืนวัตถุดิบ ส่วนลดรับ การเบิกวัตถุดิบไปใช้ในการผลิตหรือการรับคืนวัตถุดิบท่ีเหลือจากการ
ผลิตดังน้ันบัญชีวัตถุดิบจะแสดงรายการเคลื่อนไหวของวัตถุดิบตลอดเวลา ข้อดีของวิธีน้ีคือทาให้
กิจการทราบยอดคงเหลือของวัตถุดิบ ณ วันใดวันหนึ่ง ข้อเสียคือ เสียเวลาในการบันทึกบัญชี การ
บันทึกรายการแบ่งออกเป็น 2 กรณี คือ กรณีกิจการไม่จดทะเบียนเข้าสู่ระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม และ
กรณกี ิจการจดทะเบียนเขา้ สรู่ ะบบภาษมี ูลค่าเพมิ่
การบนั ทึกรายการเก่ยี วกบั วัตถดุ บิ วิธบี ญั ชสี ินคา้ คงเหลอื แบบต่อเน่อื ง
บตั รวัตถุดบิ
บัตรวัตถุดิบ (Stock Card) เป็นบัตรที่ใช้บันทึกรายละเอียดเก่ียวกับวัตถุดิบ คือการรับ
และจ่ายวัตถุดิบ โดยแสดงรายละเอยี ดการเปล่ียนแปลงอย่างต่อเน่ืองตลอดเวลาท้ังใน
ส่วนของปริมาณการรับเข้า ปริมาณการเบิกใช้เข้างานแต่ละงาน และปริมาณของ
วัตถุดิบท่ีคงเหลืออยู่ในแต่ละช่วงเวลาบัตรวัตถุดิบ 1 บัตร ใช้กับวัตถุดิบ 1 ชนิด
ตัวอยา่ งรปู แบบบัตรวัตถุดิบ
ในการบนั ทึกบัญชเี กย่ี วกับวัตถดุ บิ ของกจิ การผลิต ไม่วา่ กิจการจะซ้อื วตั ถุดบิ ชนดิ
ใด ปกติจะบนั ทึกรวมอย่ใู นบญั ชเี ดยี วกนั ดงั น้นั บตั รวัตถดุ บิ จงึ เปรียบเสมือนบัญชีแยก
ประเภทยอ่ ยของบญั ชซี ้ือวตั ถดุ บิ หรอื บัญชวี ัตถุดิบ ดังตัวอยา่ ง
1. บนั ทกึ รายการในสมดุ รายวันท่วั ไป
2. ผา่ นรายการจากสมุดรายวนั ทั่วไปไปบญั ชแี ยกประเภทท่วั ไป (เฉพาะบญั ชีวตั ถุดบิ )