อาหาร 4 ภาค
—Pr—es—en—t : —ชัญ—ญ—า จ—ุลพ—ง—ษ์ 4—/5—#—3
——ภ—า—ข—ค้—า—เว—หซ——นอ—ืย—อ—ไ-ก่
อาหารพื้นเมืองทางภาคเหนือ เดิมเรียกว่า
"ก๋วยเตี๋ยวฮ่อ" เป็นอาหารที่ได้รับอิทธิพลมา
จากชาวจีนยูนนานหรือฮ่อ มีลักษณะคล้ายเส้น
บะหมี่ ในน้ำซุปที่ใส่เครื่องแกง รสจัดจ้าน มี
เครื่องเคียง ได้แก่ ผักกาดดอง หอมหัวแดง
ยำกะหล่ำปลีและมีเครื่องปรุงรส เช่น พริกผัด
น้ำมัน น้ำมะนาว น้ำปลา น้ำตาล
ข้าวซอยไก่
เครื่องแกงสำหรับทำข้าวซอยไก่ วัตถุดิบในการทำข้าวซอยไก่
พริกแห้งเม็ดใหญ่ 10 เม็ด น่องไก่ 1 กิโลกรัม
พริกแห้งเม็ดเล็ก 15 เม็ด หัวกะทิ ½ กิโลกรัม
กระเทียม 5 กลีบ หางกะทิ ½ กิโลกรัม
หอมแดง 10 หัว เส้นข้าวซอย ½ กิโลกรัม
ลูกกระวาน 5 เม็ด แผ่นเกี๊ยว 200 กรัม
ข่า 5 แว่น ผงกะหรี่ 1 ช้อนชา
ตะไคร้ 2 ต้น ซีอิ้วดำ 1 ช้อนโต๊ะ
ลูกผักชี 1 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลปี๊ บ 1 ช้อนโต๊ะ
ผิวมะกรูด ½ ลูก น้ำมันพืช 1 ถ้วย
ขมิ้น 3 แว่น ต้นหอมผักชี 1 กำ
กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ ผักกาดดองหั่น 1 ถ้วยเล็ก
เกลือ 1 ช้อนชา มะนาว 2 ลูก
น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ น6่อ.งต5จ4กััไ้.กดกอ.่ใขเปนแึสใ้ส่นห้รลนลุ้น้ใงละงำหบนรก้มวไ้สัะปสกำะนหะแทดทจเิลม้กดีทอวน่ี็งท่งดยีเดเ่ใหลสทนนซีใก้่ีล้วนนเกอืำอิคอก๊ีนมสรว่บัุ้ยอแกะนดำีทวกมลำแ้ัไสะวน่ลว1ซจ้วใีจะสาอปนิถเ่นิ๊ก้ถหวดบว้เนขนวัหทยะ้ี้นยาหยลลาวืนมยวอีตง่ำแนอดงไุาี้่บปลมกมวกะะยกดรหเ้้ตหออวมิีมมบ่นยี่1หัว
1. น3ำเถหร้ิ่วมม้ยอแเแคตตีั่ล้ยงกะเวมหตััตนว่าอกเจปะปาทิริดกะ2ไนมัฟ้นาถก้ณใวสลย่นา1่งเอ0คีงใ่ยสนไ่กวหา่จทลาีนงงกกไปะะททิิ
2ไหหฟ. อมตก้ัมอกลทามจี่ังเานรกใกาสนก่ัะพ้ำทนิลรเตัิลักง็กกเแพคนีก่้ยรอ
งิกวยขน้แใา่สอกว่ลซงงงไอทีก่ใย่ผนัคลดกงนแรไใะลปห้ท้วผเะัขล้ดเางปจกิใัดนนน
3เ.จคีป่นยรกวับวต่่ไาอฟน่ปเอปร็งนะไมกไ่ฟาจณอะ่สอุ1กนแชัป่ลวิดโะมเฝปืง่าอหหยรมื้ดออี
ไส้อั่ว
ไส้อั่ว เป็นอาหารพื้นเมืองทางภาค
เหนือของประเทศไทย อั่ว หมายถึง
ใส่ไส้, แทรก, ยัดไว้ตรงกลาง ปกติ
ทำจากเนื้อหมูบด ผสมพริกแห้ง
กระเทียม ขมิ้น ข่า ใบมะกรูด
หอมแดง และเครื่องปรุงรส แล้วก
รอกลงไปในไส้อ่อนของหมูที่เกลา
จนบางแล้ว บิดหัวท้ายเพื่อแบ่งให้
เป็นท่อนขนาดพอประมาณ จากนั้น
นำไปย่างให้สุกเกรียม
วัตถุดิบ วิธีทำ
เนื้อหมูบด 1 กิโลกรัม 1. โขลกเครื่องแกงรวมกันให้ละเอียด
ไส้หมู 300 กรัม 2. ล้างไส้หมูให้สะอาด โดยใส่น้ำลงในไส้ แล้วกลับด้านใน
ใบมะกรูด 10 ใบ ออกมาด้านนอก นำไปแช่น้ำใส่เกลือ ประมาณ 10 นาที
ผักชีซอย 2 ช้อนโต๊ะ แล้วกลับด้านนอกออกเหมือนเดิม
ต้อนหอมซอย 2 ช้อนโต๊ะ 3. ใส่เครื่องแกงลงคลุกเคล้ากับเนื้อหมูบดให้เข้ากัน
พริกแห้ง 10 เม็ด 4. ใส่ผักชีต้นหอมซอย ใบมะกรูดซอย คลุกเคล้าให้เข้ากัน
ข่าหั่น 1 ช้อนโต๊ะ 5. นำหมูที่คลุกเคล้าเรียบร้อยแล้ว มากรอกใส่ไส้หมู โดย
ตะไคร้ซอย 2 ช้อนโต๊ะ ใช้กรวยช่วยในการกรอกหมูใส่ไส้
หอมแดง 10หัว 6. เมื่อกรอกไส้จนเต็มแล้ว มัดปากไส้
กระเทียม 20 กลีบ 7. นำไส้อั่วที่ได้มาย่างไฟอ่อนๆ จนสุกเหลืองทั่ว ประมาณ
กะปิ 2 ช้อนโต๊ะ 45 นาที
เกลือ 1 ช้อนชา
น้ำพริกหนุ่มกับแคบหมู
ใช้พริกหนุ่มนำมาย่างกับหอมแดง
และกระเทียม พริกหนุ่ม คือพริก
เม็ดใหญ่ที่มีขนาดเล็กกว่าพริก
หยวก จะมีลักษณะยาว ๆ เรียว ๆ
บางทีก็เรียกกันว่าพริกหอม หรือ
พริกอ่อนด้วยค่ะ เอามาตำเป็นน้ำ
พริกหนุ่มกินคู่กับผักและแคบหมู
กรอบ
วัตถุดิบ วีธีทำ
พริก 15 เม็ด 1.นำพริกหนุ่ม หอมแดง
หอมแดง 10 หัว กระเทียม ไปคั่วในกระทะจน
กระเทียม 5 หัว เกรียม
เกลือ 1/2 ช้อนชา 2. ลอกส่วนที่เกรียมของพริกหนุ่ม
มะนาว 2 ลูก หอม กระเทียมออก
น้ำตาล 1/2 ช้อนชา 3.นำพริกหนุ่ม กระเทียมและ
ผงคนอร์ 1 ช้อนโต๊ะ หอมแดงที่ปลอกเปลือกเสร็จ
ผงชูรส 1/2 ช้อนชา แล้ว มาโขลกรวมกันให้ละเอียด
เมื่อส่วนผสมเข้าดีแล้ว เติม
4.
น้ำตาล มะนาวและน้ำปลา ผงคน
อร์(รสหมู) ผงชูรสลงไป คลุก
เคล้าให้เข้ากัน ปรุงรสตามชอบ
ภาคอีสาน
ส้มตำ
ส้มตำคือการนำผักผลไม้หลากชนิดมาตำใน
ครกดินให้พอบุบ แล้วตำเคล้าเพื่อให้น้ำปรุง
รสซึมเข้าไปในเนื้อผักผลไม้
ส้มตำ เป็นอาหารปรุงมาจากการทำตำส้ม
คือการทำให้เปรี้ยว ในลาวจะเรียกว่า ตำ
หมากหุ่ง ปรุงโดยนำมะละกอดิบที่สับแล้ว
ฝานหรือขูดเป็นเส้นมาตำในครกเป็นหลัก
พร้อมด้วยวัตถุดิบอื่น ๆ คือ มะเขือเทศลูก
เล็ก มะเขือสีดา มะเขือเปราะ พริกสดหรือ
พริกแห้ง ถั่วฝักยาว กระเทียม และปรุงรส
ด้วยน้ำตาลปี๊ บ น้ำปลา และมะนาว
วัตถุดิบ 1.มะละกอ 2 กำมือ
2.ถั่วฝักยาว 3-4 ฝัก
วิธีทำ 3.พริกสด 3-4 เม็ด
4.พริกแห้ง 3-4 เม็ด
5.มะนาว 1 ลูก
6.น้ำปลา 2 ช้อนชา
7.น้ำปลาร้าต้มสุก 3 ทัพพี
8.น้ำตาล 1 ช้อนชา
1.สับมะละกอ
2.ตำพริกสด และพริกแห้งรวมกัน
3.หั่นถั่วฝักยาวเป็นชิ้นๆ ตำรวมลงไป
ให้พอแหลก
4.ใส่มะเขือเทศ มะนาว มะขามเปียก
มะกอกสุก คลุกเคล้าให้เข้ากัน
5.ใส่ปลาร้าต้มสุก น้ำปลา น้ำตาล คลุก
เคล้าให้เข้ากัน
6.ตักใส่จาน ทานกับขนมจีนและผัก
ต่างๆ
ไส้กรอกอีสาน
ไส้กรอกอีสาน เป็นภูมิปัญญาในการถนอมอาหาร
ประเภทเนื้อสัตว์ของคนโบราณ โดยมีเรื่องเล่าต่อๆ
กันมาว่า เมื่อครั้งอดีตในสมัยที่ ป่าภูเขียว ยังอุดม
สมบูรณ์ไปด้วยสัตว์ป่านานาชนิด ชาวอีสานในแถบ
จังหวัดชัยภูมิและขอนแก่นได้อาศัยพึ่ งพิ งป่า
ภูเขียวเป็นแหล่งอาหาร
ไส้กรอกอีสาน จะแตกต่างจากไส้อั่วของลาวและ
ภาคเหนือตรงที่ ไส้กรอกอีสาน จะใส่ข้าวและ
กระเทียมลงไปหมักเป็นส่วนผสม ทำให้ได้รสชาติ
แตกต่างออกไป รสชาติจะออกเค็มๆ นิยมนำมาปิ้ ง
หรือทอด กินกับเครื่องเคียง เช่น ขิง ขิงดอง
พริกขี้หนู และผักต่างๆ
วัตถุดิบ หมูและมันหมู 1 กก.
• ข้าวสุก 2 ถ้วย (พักไว้จนเย็น)
• ไส้หมูสำหรับยัดไส้ 100 กรัม
• รากผักชี 3 ราก
• กระเทียม 20 กลีบ
• พริกไทยดำ 1 ช้อนโต๊ะ
• พริกไทยขาว 1 ช้อนโต๊ะ
• น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
• เกลือ 1/2 ช้อนโต๊ะ
• ผงปรุงรส 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ 5. นำเชือกมามัดแบ่งตามขนาดที่ต้องการ หากมีลมเยอะ ให้ใช้ไม้จิ้มฟัน
จิ้มให้ลมออก ไม่อย่างนั้นเวลานำไปย่างไส้จะแตก
1.นำรากผักชีและพริกไทยดำ โขลกเข้ากันให้ละเอียด นำใส่ชามผสม 6.จากนั้นนำไส้กรอกไปตากแดด หรือไปแขวนในที่โปร่งประมาณ 1-2 วัน
2.ตามด้วยเนื้อหมูบดติดมัน มันหมูแข็งไม่ติดหนังสับละเอียด กระเทียมไทย 7.นำไปย่างด้วยไฟกลาง ย่างไปเรื่อยๆ จนสีเข้มจนสุกดี
สับละเอียด เกลือป่น น้ำตาลทราย ซอสหอยนางรม ผงปรุงรสหมู ผงชูรส
3.ขยำให้ทุกอย่างเข้ากันดี ตามด้วยข้าวสวยหุงสุก คลุกเคล้าให้เข้ากันอีกครั้ง
แต่ไม่ต้องนวดแรง
4.นำไส้หมักเกลือมาล้างให้สะอาด นำไส้ขึ้นมาหนึ่งเส้น ผูกที่โคนด้านหนึ่ง นำ
กรวยสำหรับยัดไส้ใส่ในไส้อีกด้านหนึ่ง นำเนื้อหมูที่หมักไว้ค่อยใส่ลงไป
เสือร้องไห้ เสือร้องไห้ เป็นชื่อของอาหารประเภทกับแกล้ม
โดยใช้เนื้อวัว บริเวณส่วนอกที่อ่อนนุ่มมีมันปน
เล็กน้อย แล่เป็นชิ้นหนาตามยาว หมักด้วย
ซอสปรุงรส ย่างด้วยไฟอ่อนๆ นำมาหั่นให้
พอดีคำ เวลารับประทานจิ้มด้วยน้ำจิ้ม หรือ
แจ่ว
เสือร้องไห้ คือ เนื้อส่วนอก (Brisket) ของวัว
ประกอบด้วยกล้ามเนื้อ 2 ส่วน คือ ส่วนยอด
อกกับส่วนแฟลต โดยระหว่างก้อนเนื้อมีไขมัน
สีขาวก้อนหนาคั่นไว้ เนื้อยอดอกเป็นส่วนที่มีไข
มันมากที่สุด ทำให้ดูเป็นลายหินอ่อนสวยงาม
ส่วนเนื้อแฟลตเป็นส่วนที่มีไขมันน้อยกว่า
วัตถุดิบ วิธีทำ
เนื้อเสือร้องไห้ วิธีหมักเนื้อ
ซอสปรุงรส
น้ำตาลทราย นำเนื้อเสือร้องไห้หมักกับเครื่องปรุง นวดจนเข้ากัน พัก
พริกไทย ทิ้งไว้ในตู้เย็นประมาณ 2 ชั่วโมง หรือข้ามคืน นำไปย่างจน
น้ำมันหอย สุกตามชอบ หั่นเป็นชิ้น เสิร์ฟพร้อมผักสดและน้ำจิ้มแจ่ว
ผักเคียงตามชอบ
น้ำตาลปี๊ บ วิธีทำน้ำจิ้ม
น้ำมะขามเปียก
น้ำมะนาว ใส่น้ำตาลปี๊ บลงในถ้วย ตามด้วยน้ำมะขามเปียก น้ำมะนาว
พริกป่น พริกป่น และน้ำปลา คนให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ ใส่หอมแดง
น้ำปลา ซอย ผักชีฝรั่งซอย และข้าวคั่ว คนให้เข้ากัน
หอมแดง
ผักชีฝรั่งซอย
ภาคกลาง วัตถุดิบ
ห่อหมกปลา เนื้อปลาช่อน 500 กรัม
เนื้อปลากรายขูด 500 กรัม
ไข่ไก่ 1 ฟอง
พริกแกงเผ็ด 150 กรัม
กะทิถุงพาสเจอร์ไรส์ "ชาวเกาะ" 800 กรัม
น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปี๊ บ 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
ใบยอ 50 กรัม
ใบโหระพา 10 กรัม
ใบมะกรูด 2 กรัม
พริกชี้ฟ้าแดง 20 กรัม
กะทิถุงพาสเจอร์ไรส์ "ชาวเกาะ" 200 กรัม
แป้งข้าวเจ้า 1 ช้อนชา
วิธีทำ
1.เตรียมครกกับสาก ตำพริกแกง โดยใส่พริกชี้ฟ้าแดงแห้ง ข่าสับ ตะไคร้สับ กระเทียม หอมแดง
กะปิ พริกไทย ตำส่วนผสมทุกอย่างให้เข้ากัน จนกว่าจะละเอียด
2.เตรียมชามผสม ใส่เนื้อปลาดอลลี่ พริกแกงที่ตำไว้ ไข่ไก่ น้ำตาลปี๊ บ น้ำปลา คลุกเคล้าส่วนผสม
ทุกอย่างให้เข้ากัน
3.ค่อย ๆ เติมหัวกะทิลงไปทีละน้อย คนให้เข้ากัน ไปในทิศทางเดียวกัน จนหัวกะทิหมด เสร็จแล้ว
เติมใบโหระพาสับ ใบมะกรูดสับ ลงไป คนให้เข้ากัน
4.ตักพริกแกงส่วนหนึ่งมาคลุกเคล้ากับกะหล่ำปลี แล้ววางรองในถ้วยหรือกระทงใบตองที่จะจัด
เสิร์ฟ จากนั้น นำเนื้อปลาดอลลี่แล่เป็นชิ้น วางตามลงไป แล้วตักพริกแกงที่เหลือโปะไว้ด้านบน
5.ต้มน้ำในซึ้งนึ่งให้เดือด พอน้ำเดือดดีแล้ว ให้นำห่อหมกไปนึ่งด้วยไฟแรง ใช้เวลา 15 – 20 นาที
6.พอห่อหมกสุกดีแล้ว ให้ตักหัวกะทิหยอดลงไปด้านบนเล็กน้อย ตกแต่งด้วยพริกชี้ฟ้าแดงซอย
และใบมะกรูดซอย เป็นอันเสร็จ
แกงเทโพ
แกงเทโพเป็นอาหารโบราณปรากฏ
อยู่ใน กาพย์เห่เรือชมเครื่องคาว
หวาน พระราชนิพนธ์ในพระบาท
สมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย โดย
มีตอนหนึ่งกล่าวถึงแกงเทโพว่า
"เทโพพื้นเนื้อท้อง เป็นมันย่องล่อง
ลอยมัน น่าซดรสครามครัน ของ
สวรรค์เสวยรมย์"
วัตถุดิบ วิธีทำ
ผักบุ้งไทย(เลือกเฉพาะอ่อนๆ) 500 กรัม 1.เตรียมวัตถุดิบ โดยการบีบผักบุ้งให้ทั่วก้าน
หมูสามชั้น 300 กรัม แล้วหั่นขนาดพอดี หมูสามชั้นให้เป็นชิ้น พับ
ลูกมะกรูด 2 ลูก ครึ่งมะกรูดแล้วดึงก้านออก หั่นพริกชี้ฟ้าเป็น
ใบมะกรูด 6 ใบ แว่นๆ และผ่าครึ่งลูกมะกรูด แคะเม็ดออกจน
พริกชี้ฟ้าแดง 2 เม็ด หมด
หัวกะทิ 500 ml.
หางกะทิ 300 ml. 2.ตั้งกระทะใช้ไฟกลาง นำหัวกะทิใส่ลงไป เมื่อเริ่ม
พริกแกงเผ็ด 2 1/2 ช้อนโต๊ะ ร้อนให้ผัดหัวกะทิไปเรื่อยๆ จนแตกมันได้ที่ แล้ว
น้ำตาลปี๊ บ 2 1/2 ช้อนโต๊ะ จึงใส่พริกแกงลงไปผัดกับหัวกะทิให้หอม
น้ำมะขามเปียก 3 1/2 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ 3.เมื่อพริกแกงหอมได้ที่ ให้ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊ บ
น้ำมะขามเปียก และน้ำปลา ผัดให้เครื่องปรุงทุก
อย่างเข้ากัน
4.ปรุงรสได้ที่แล้วจึงใส่หมูสามชั้นลงไป เร่งไฟ
แรงขึ้น ผัดหมูสามชั้นให้เข้ากับพริกแกง
5. เมื่อหมูสุกระดับนึงแล้ว ใส่หางกะทิลงไปผัด รอให้
น้ำแกงเดือดแล้วจึงใส่ผักบุ้งลงไป ใช้ไฟแรงแล้วคน
ผักบุ้งไปเรื่อยๆ ถ้าน้ำแกงน้อยเกินไป สามารถเติม
หางกะทิลงไปได้ แล้วผัดคลุกเคล้าให้เข้ากัน ใช้ไฟ
แรงต่อเนื่องจนน้ำแกงเดือดดี แล้วค่อยเบาลงไฟลง
เหลือไฟกลาง
6. ชิมรสชาติอีกหนึ่งรอบ เคี่ยวให้ผักบุ้งนิ่มตาม
ต้องการ ถ้าน้ำน้อยเกินไปสามารถเติมน้ำลงไปได้
7. เมื่อเคี่ยวจนเดือดสุดดีแล้ว ให้บีบน้ำมะกรูด ใส่
มะกรูดลงไปทั้งลูก แล้วเร่งไฟแรงให้น้ำเดือด ใส่พริก
ชี้ฟ้าและใบมะกรูดลงไป คลุกเคล้าให้เข้ากัน แล้วจึง
ปิดไฟ ตักเสิร์ฟ
ต้มยำกุ้งตก้นมปิลเอยปยเราปอคมงำะร็ีรกเม้รกปยทุัะน้เบแงรวท้ปศำ็ปละแานใเไเะสรปนทลภ็หะ2นะยกททแวัเอบผตปลาาเ็้ปานนขดมะร็้หานเไะเยตลปาวปเ้อ็ำ็ภรมแกทนาุไทซยลนกึหทห่้ำงะอภาคยลนเืัรมย้าปกภอีท็ำครีนผาข่แตร้สใคั้นทสนบบีม่่มงยำ
วัตถุดิ
บ กุ้งสด 6 ขีด
เห็ดฟาง 250 กรัม
ข่า ตระไคร้ ใบมะกรูด 1 มัด
พริกขี้หนู 10 เม็ด
น้ำพริกเผา 1 ช้อนโต๊ะ
นมสด 50 กรัม
น้ำปลา 2 ช้อน
น้ำตาลทราย 1 ช้อน
มะนาว 1 ลูก
หอมแดง 6 หัว
ผักชีฝรั่ง 1 ถ้วยเล็ก
น้ำเปล่า 400 มิลลิลิตร
วิธีทำ นำกุ้งที่เตรียมไว้มาล้างทำความสะอาด และปอกเปลือกออก และต้องไม่ลืมผ่า
เอาเส้นดำ ๆ บริเวณหลังออก เพราะหากทานเข้าไปจะให้รสที่ขมจนต้มยำเสีย
รสชาติ จากนั้นล้างน้ำเปล่าซ้ำอีกครั้ง
นำชุดข่าตะไคร้ใบมะกรูด และผักชีฝรั่ง ล้างและหั่นเป็นท่อน ๆ
ปอกเปลือกหอมแดงทุบให้พอแตก และนำพริกขี้หนูมาทุบให้พอแตกเช่นกัน
จากนั้นนำเห็ดฟางมาล้างเอาดินหรือคราบเปื้ อนออกให้หมดก่อนนำไปผ่าครึ่ง
เตรียมไว้
ตั้งเตาไฟแรงต้มน้ำจนเดือด จากนั้นใส่เครื่องต้มยำลงไป ไม่ว่าจะเป็นข่า
ตะไคร้ ใบมะกรูด หอมแดง ทิ้งไว้สักครู่
มาสู่ขั้นตอนการปรุงรส เริ่มด้วยใส่พริกเผาลงไป ตามด้วยนมสด น้ำปลา
น้ำตาลทราย ปิดท้ายด้วยพริกขี้หนูทุบ ปรุงจนได้รสชาติที่ถูกใจ
ใส่เห็ดฟาง และกุ้งสดลงไปคนเล็กน้อย และเมื่อกุ้งเปลี่ยนเป็นสีส้มสดใส ให้
ปิดไฟ ใส่น้ำมะนาวให้ได้รสเปรี้ยวตามชอบ และโรยผักชีฝรั่ง
ภาคใต้ แกงไตปลา
แกงไตปลา หรือแกงพุงปลา เป็นแกง
ที่มีไตปลาเป็นส่วนประกอบ ไตปลา
หรือ พุงปลา เป็นการถนอมอาหารของ
ชาวไต้ โดยนำกระเพาะของปลา เช่น
ปลาทู ปลาลัง ปลาดุก ปลาช่อน หรือ
ปลาอื่นๆ มาหมัก กับเกลือจนได้ที่
กลายเป้นของเหลวและมีมัน นำไปทำ
เป็นอาหารได้หลายชนิด แกงไตปลา
สูตรนี้เป็นแกงแบบ ที่นิยมกันแถบ
พัทลุง สงขลา เป็นแกงไม่ใส่กะทิ
วัตถุดิบ พริกแห้งเม็ดใหญ่ 10 เม็ด
ข่า 4 แว่น
ไตปลา หรือพุงปลา 300 กรัม ตะไคร้ซอย 3 ช้อนโต๊ะ
ผักต่างๆเช่นฟักทอง ถัวพู กระเทียมกลีบเล็ก 15 กลีบ
ถั่วฝักยาว หน่อไม้ อย่างละ 1 ถ้วย พริกไทยเม็ด 1 ช้อนชา
ใบมะกรูด 5 ใบ ขมิ้นชันยาว 2 นิ้ว 2 แง่ง
ปลาทูย่าง แกะเอาเฉพาะเนื้อ 1 ถ้วย ผิวมะกรูดซอย 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำเปล่า 6 ถ้วย กะปิดี 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา ปลาทู แกะเอาเฉพาะเนื้อ 2 ตัว
วิธีทำ
1. โขลกส่วนผสมน้ำพริกแกงรวมกันให้
ละเอียด ใส่กะปิ และเนื้อปลาทู โขลกให้
เข้ากันอีกครั้ง
2.เทน้ำใส่หม้อ ยกขึ้นตั้งไฟให้เดือด ใส่
ไตปลาลงต้ม พอเดือดอีกครั้งช้อนฟอง
ออก
3.ใส่พริกแกงที่โขลกไว้ รอจนเดือด
4.จากนั้นใส่หน่อไม้ ฟักทอง และปลาทู รอ
สักพัก จึงใส่ถั่วพู และถั่วฝักยาว เติม
น้ำตาลทราย และใบมะกรูด
5.รอจนเดือด ยกลง ตักใส่ชาม
คั่วกลิ้ง
ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการนำเครื่องเทศและ
สมุนไพร (herb) เช่น หอมแดงกระเทียม
ข่าตะไคร้ใบมะกรูด ขมิ้นมาผัดกับกะปิจน
หอม เติมเนื้อสัตว์ เช่น เนื้อหมู เนื้อวัว
กระดูกหมู เนื้อปลา แล้วผัดรวมกัน ปรุง
รสด้วยเครื่องปรุงรส เช่น น้ำตาล น้ำปลา
นมสด กะทิ ผัดคั่วจนแห้ง
วัตถุดิบ วิธีทำ
เนื้อหมูสับ 250 กรัม 1.ตั้งกระทะโดยใช้ไฟกลาง พอกระทะร้อนใส่น้ำมัน
พริกแกงคั่วกลิ้ง 1 ½ ช้อนโต๊ะ ลงไปตามด้วยพริกแกงคั่วกลิ้ง ผัดให้มีกลิ่นหอม
ตะไคร้ซอย 1 ช้อนโต๊ะ 2. นำหมูสับที่เตรียมไว้ใส่ลงไปค่ะ ผัดให้หมูสับเข้า
พริกชี้ฟ้าแดงหั่น 1 เม็ดใหญ่ กับน้ำพริกแกง ระหว่างนี้เติมน้ำเปล่าต้มสุกที่
ใบมะกรูดหั่นฝอย 1 ช้อนโต๊ะ เตรียมไว้ค่ะ จะได้ผัดได้ง่ายขึ้น
พริกไทยอ่อน 1 ช้อนโต๊ะ 3. เมื่อส่วนผสมเข้ากันดีแล้ว ปรุงรสด้วยผงปรุงรส
น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ และน้ำปลา ผัดให้เข้ากันอีกครั้ง
ผงปรุงรส 1/2 ช้อนชา 4. นำพริกไทยอ่อน ตะไคร้ซอย ใบมะกรูดซอย และ
น้ำมันรำข้าว 1 ช้อนโต๊ะ พริกชี้ฟ้าแดง ใส่ลงไปผัดให้เข้ากัน เมื่อหมูสุกและ
น้ำเปล่า 3 ช้อนโต๊ะ ทุกอย่างเข้ากัน
แกงส้มหน่อไม้ดอง
แกงส้มรสชาติเข้มข้น จัดจ้าน ที่มีความ
เปรี้ยวจากหน่อไม้ดอง ใส่ปลาน้ำดอกไม้
ปรุงรสให้กลมกล่อมด้วยน้ำปลา น้ำตาล
น้ำมะขามเปียกเเละน้ำมะนาว
วัตถุดิบ วิธีทำ
หน่อไม้ดอง 1.ตั้งน้ำให้เดือด ใส่พริกแกงส้มที่ผสมกัปิแล้ว ลง
น้ำพริกแกงส้ม ไปคนให้เข้ากัน
ปลาสด หรือกุ้งสด 2.ปรุงรสโดยใช้น้ำตาลมะพร้าว น้ำปลา เกลือ น้ำ
มะขามเปียก น้ำมะนาว
(ตามชอบ) 3.ใส่หน่อไม้ลงไป ชิมรสอีกครั้ง หากรสยังไม่จัด
ใบมะกรูด สามารถปรุงเพิ่มได้ตามชอบ
4.รอน้ำเดือดจัดอีกครั้ง ใส่ปลาลงไป ค่อยๆคน และ
น ้ำปลา ไม่ต้องคนบ่อยเพราะปลาจะเละ รอเดือด
น้ำตาลปี๊ บ
น้ำมะขามเปียก