èĀÐùĀÜ×òéèúèśāÐòÿãāø
ëĈśČùöÖúāÓöāðòĈśČôÿïĈðăêŠÜÜāðāéòòâāÐāòèĀÐüŚāè
BRITISH EAST INDIA COMPANY
บรษิ ทั อินเดยี ตะวันออกองั กฤษ
���� � ����� ���� ���� �
���� ��� ���
��� ������������������������������ ��������
National Library of Thailand Cataloging in Publication Data
ปรีดี �งษส� ตน� .
British East India Company บริษทั อินเดยี ตะวนั ออกอังกฤษ.-- กรงุ เทพฯ : ยปิ �ี กรปุ� � 2562.
208 �น�า.
1. บรษิ ทั อนิ เดยี ตะวันออก. 2. อนิ เดยี --ประวตั ิศาสตร.� I. ช่ือเร่ือง.
954.031
ISBN 978-616-301-693-5
©ขอ� ความ�น�นงั สอื เล�มน�ี สงวนลขิ สิทธต์ิ ามพระราชบัญญัตลิ ิขสิทธ์ิ (ฉบบั เพม่ิ เตมิ ) พ.ศ. 2558
การคดั ลอกส�วน�ด� �น�นังสือเลม� นี�� ปเ�ยแพร�� ม�ว�า�นรูปแบบ�ดตอ� ง�ด�รบั อนุญาตจากเจา� ของลขิ สิทธ์ิก�อน
ยกเว�นเพอื่ การอ�างอิง การวจิ ารณ� และประชาสัมพันธ�
�������� ���������� : คธาว�ุ ิ เกนุ�ย
�������� ������ �� : สุรชัย พงิ ชยั ภูมิ
����� ��������� ������ �� : วาสนา ชรู ตั น�
�������� ������ : วิชญดา ทองแดง
����������� �� : คณิตา สตุ ราม พรรณกิ า ครโสภา ดารียา ครโสภา
��������������� �� : อรทยั ดีสวสั ด์ิ
��� ����� �� �� : รีดเดอรป� ารต� ี
��� ���� : ประเสริฐศักด์ิ ประดษิ ฐเกษร
�������� : Rabbithood Studio
��������������������� : นุชนันท� ทกั ษิณาบัณ�ติ
��� �� �������������� : ชติ พล จันสด
����������� �� : เวชพงษ� รัตนมาลี
����������� : บริษทั ยปิ �ี กรุป� จำกดั เลขที่ 37/145 รามคำแ�ง 98
แขวง/เขตสะพานสูง กรุงเทพฯ 10240
��� ��� � โทร. 0 2728 0939 โทรสาร. 0 2728 0939 ต�อ 108
��������� � www.gypsygroup.net
: บริษัท วชิ ั่น พรเี พรส จำกัด โทร. 0 2147 3175-6
: บริษัท ยปิ �ี กรุ�ป จำกดั โทร. 0 2728 0939
www.facebook.com/gypsygroup.co.ltd
LINE ID : @gypzy
สน�จสั่ง��อื �นังสอื จำนวนมากเพื่อสนบั สนนุ ทางการศ�กษา สำนักพิมพล� ดราคาพเิ ศษ ติดตอ� โทร. 0 2728 0939
บรษิ ัทอนิ เดยี ตะวันออกอังกฤษ
BRITISH
EAST INDIA COMPANY
ปรีดี หงษส์ ต้น
เสมอื นคำ� น�ำสำ� นกั พิมพ์
ทันทีท่ีได้รับต้นฉบับ British East India Company: บริษัท
อินเดียตะวันออกอังกฤษ ข้าพเจ้าอ่านรอบแรกอย่างรวดเร็ว ผลพวง
ก็คือสถานที่เกิดเหตุการณ์ส�าคัญหลายแห่งในงานเขียนช้ินน้ียังคง
เตน้ เร่าและเรยี กร้องให้เดินทางไปทา� ความรู้จัก ทง้ั ทีอ่ ยนู่ อกแผนการ
เยอื นอินเดยี ที่กา� หนดไวแ้ ล้วกอ่ นหน้า
เพียงราว 3 ช่ัวโมงเศษ เท่ียวบินโดยสารจากกรุงเทพฯ ก็มุ่ง
ตรงตัดอ่าวเบงกอลสู่นครเจนไน เมืองหลวงแห่งรัฐทมิฬนาฑู ภาพ
จินตนาการทไี่ ดอ้ ่านจากผลงานของอาจารย์ ดร. ปรดี ี หงษ์สตน้ นกั
ประวตั ศิ าสตรร์ นุ่ ใหมไ่ ฟแรง ชวนใหป้ ระหวดั เหน็ เหตกุ ารณช์ ว่ งสามสี่
ร้อยปีก่อนตอนท่ีกองเรือสินค้าของบริษัทอินเดียตะวันออกอังกฤษ
ขน้ึ ฝง่ั โคโรมนั เดล นบั จากคนอกี ซกี โลกทมี่ าพรอ้ มกบั ความฝนั ความ
หวัง และการเส่ียงโชค พากันประทับก้าวแรกลงในประเทศเขตร้อน
มากด้วยทรัพยากรและอารยธรรมเก่าแก่ ชาวอังกฤษก็ไม่ใช่คน
แปลกหนา้ ในอนิ เดียอีกตอ่ ไป
รอยเท้าของชาวตะวันตกท่ีมาพร้อมทุนนิยมเต็มรูปแบบย่�าลึก
และแผท่ ว่ั แผน่ ดนิ ภายในทุกถิน่ แม้แต่ยา่ นทีน่ ักท่องเทย่ี วในทกุ วันน้ี
เห็นเป็นเมืองรองก็ไม่เว้น ขนาดไกด์ยังท�าหน้าฉงนเม่ือข้าพเจ้าแจ้ง
เพิม่ เมอื งประวตั ศิ าสตร์ทีป่ ระสงค์จะไดเ้ ยอื น
หา่ งเจนไนไปทางตะวนั ตกราว 100 กโิ ลเมตร พระราชวงั จนั ทรครี ี
ตั้งตระหง่าน ท่ีนี่เจนนัปปะ เจ้าผู้ครองนครสมัยจักรวรรดิโมกุลท�า
สญั ญาอนญุ าตใหอ้ งั กฤษสรา้ งปอ้ มเซนตจ์ อรจ์ และสถานกี ารคา้ ทนุ นยิ ม
เสกสร้างใหห้ มบู่ ้านประมงเล็กๆ นามว่ามทั ราสกลายรา่ งเป็นมหานคร
เจนไน เมอื งขนาดใหญอ่ นั ดบั สขี่ องอนิ เดยี โดยคอ่ ยๆ ซอ่ นเงาอา� นาจ
เดิมของ “เจนนปั ปะ” ไว้ใตช้ อื่ เมอื งจนบดบงั แทบมดิ
ตรงด่ิงลงใตข้ องจนั ทรคีรีอีก 100 กโิ ลเมตร คอื เมืองอารค์ อต
ทโ่ี รเบิรต์ ไคลฟ์ แสดงแสนยานุภาพและอิทธิพลของทนุ นิยมองั กฤษ
เหนอื ฝรงั่ เศส แมท้ กุ วนั นจี้ ะเหลอื เพยี งเศษซากกา� แพงชายขอบตวั เมอื ง
ปัจจบุ ันไม่กรี่ อ้ ยเมตร แต่กเ็ พียงพอเปน็ ประจกั ษ์พยานความยงิ่ ใหญ่
ของ “ไคล์ฟแหง่ อินเดีย” ท่เี คยลือชื่อไปถึงยุโรป
ไม่เฉพาะทุนนิยมอังกฤษเท่านั้น ร่องรอยที่ฝรั่งเศสทิ้งไว้ให้
พอนดเิ ชอรร์ เี ปน็ “ฝรงั่ เศสนอ้ ย” ยงั คงเนอื้ หอมในหมนู่ กั ทอ่ งเทย่ี วทงั้
ในและนอกอินเดยี หรือแม้แต่ป้อมดตั ช์ท่นี าคปตินมั กย็ งั ไม่ว่างเว้น
ผมู้ าเยอื นจากแดนไกล มพิ กั จะตอ้ งกลา่ วถงึ เมอื งนอ้ ยใหญอ่ กี มากมายที่
อทิ ธพิ ลทนุ นยิ มองั กฤษแผไ่ ปโดยมบี อมเบยแ์ ละกลั กตั ตาเปน็ ศนู ยก์ ลาง
แน่ละว่า การได้อ่าน British East India Company: บริษัท
อินเดียตะวันออกอังกฤษ งานเขียนที่รุ่มรวยข้อมูล แยบยลชวนคิด
ละมนุ ดว้ ยภาษาเรยี บงา่ ย สอื่ ประเดน็ หลกั ชดั เจน ทง้ั ยงั มจี งั หวะจะโคน
ในการพงุ่ เปา้ โถมเขา้ ใสท่ นุ นยิ มอยา่ งกลา้ หาญ ยอ่ มนา� พาใหข้ า้ พเจา้ ได้
เห็น “รอ่ งรอย” การปะทะสงั สรรค์ระหวา่ ง “เจา้ ถิ่น” กับ “ผ้มู าเยือน
ชาวตะวนั ตก” ทแ่ี นบแนน่ บนแผน่ ดนิ ชมพทู วปี เดน่ ชดั ขนึ้ อกี มาก และ
หลายช่วงตอนในหนังสือเล่มนี้ ท�าให้เข้าใจประวัติศาสตร์ได้มากกว่า
การไปถึงสถานทจ่ี ริงในวันคืนท่ีวิญญาณของเร่ืองเล่าเลอื นราง
กลับจากอินเดีย ข้าพเจ้าอ่าน British East India Company:
บริษัทอนิ เดียตะวนั ออกอังกฤษ อกี หลายรอบ ช่วงเวลาราว 300 ปีที่
องั กฤษเรอื งอา� นาจเตม็ ในอนิ เดยี ผา่ นพน้ ไปแลว้ แตม่ รดกอนั สา� คญั ที่
ทุนนยิ มองั กฤษมอบใหช้ าวอนิ เดยี อกี มากมาย ไม่วา่ จะเป็นรสชาตอิ นั
หอมหวานของอินเดียเอลที่จิบตามหลังข้าวคิชารีได้อย่างกลมกล่อม
คริกเกตที่เมื่อมีแข่งนัดใหญ่เมื่อไรชาวบ้านชาวเมืองก็พากันเกาะขอบ
สนามหรือหน้าจอทีวีจนแทบลืมโลก หรือแม้แต่ประชาธิปไตยท่ี
มหาตมะคานธีนักเรียนเก่าอังกฤษเคยน�าชาวอินเดียหลักล้านถามหา
จากเจ้าอาณานิคม
โชคดหี รอื โชครา้ ยกไ็ มอ่ าจรไู้ ด้ เมอื่ กองเรอื โกลบ ทป่ี เี ตอร์ ฟอรสิ
น�ามาสู่สยามไม่ประสบผลส�าเร็จทางการค้านัก และสาขาของบริษัท
อินเดียตะวันออกอังกฤษที่เข้ามาต้ังสถานีการค้ายังปัตตานีและกรุง
ศรีอยุธยาในช่วงรัชสมยั พระเจา้ ทรงธรรมเป็นแค่ระยะสน้ั ๆ เพราะไม่
อาจสู้อ�านาจทุนนิยมชาติอ่ืนที่เข้ามาครองพื้นท่ีอยู่ก่อน ท�าให้คนไทย
สว่ นหนง่ึ ภาคภมู ใิ จและพดู ไดเ้ ตม็ ปากวา่ ไมเ่ คยตกเปน็ อาณานคิ มของ
อังกฤษและชาติใดๆ “อย่างเป็นรูปธรรม” แต่เราจะปฏิเสธได้หรือว่า
ไทยไม่เคยเปน็ เมอื งขึน้ ของทนุ นิยม...แม้ในยุคปจั จุบนั
British East India Company: บริษทั อนิ เดยี ตะวันออกองั กฤษ
สา� หรับข้าพเจ้าจึงไมใ่ ช่หนังสือท่บี อกเล่าแต่เพยี งประวัติศาสตร์การค้า
หรือประวัติศาสตร์ของคนอื่น บ้านอื่น เมืองอ่ืน แต่คือเร่ืองเล่าถึง
แบบอย่างทุนนิยมท่ีวนเวยี นรอบตวั เราและบางคร้งั อาจสิงอยู่ในจติ ใจ
โดยไม่รู้ตัว
วิชญดำ ทองแดง
ค�ำนำ� ผเู้ ขยี น
ท่านผู้อ่านที่มีความสนใจทางด้านประวัติศาสตร์อยู่บ้าง อาจ
จะมีความสงสัยอยู่ครามครันว่า เราในประเทศไทยผู้ไม่เคยเป็น
เมอื งขน้ึ ของใครนนั้ จะตอ้ งอา่ นเรอ่ื งราวของบรษิ ทั ซง่ึ เปน็ สว่ นหนงึ่ ของ
เจา้ อาณานิคมองั กฤษไปทา� ไม
แต่ผมอยากจะขอเรียนว่า เรื่องราวเหล่าน้ีอาจจะเกี่ยวข้องกับ
เรากว่าที่คิด หากเราพิจารณาเส้นทางการเคลื่อนไหวและการค้าของ
บริษัทท่ีย่ิงใหญ่เกรียงไกรในยุคทุนนิยมอังกฤษเป็นศูนย์กลางแห่งนี้
เราอาจจะพบว่าในความเป็นจริงแล้ว นิสัยของทุนน้ันคือ ไม่รู้จัก
เส้นแบ่งประเทศน้ันประเทศน้ี คนศาสนานั้นศาสนาน้ี เพศน้ันเพศนี้
หรือชาติพันธุ์น้ันชาติพันธุ์น้ี ทุนนิยมจึงไม่ต้องสนใจว่าใครเป็น
เมอื งขน้ึ หรือไมแ่ ตอ่ ย่างใด
การขยายตัวของทุนนิยมจึงมีแต่ผู้ขูดรีดและผู้ถูกขูดรีด หาก
ท่ใี ดคุม้ คา่ แกก่ ารลงทุน ทนุ ก็ไปทีน่ ่ัน และหากเกิดแรงต่อตา้ น ทุนก็
เดนิ ทางไปพรอ้ มๆ กบั อาวธุ พรอ้ มจะหา�้ หนั่ ประหตั ประหารใครกต็ าม
ทีข่ ัดขวาง และในขณะเดียวกนั ใครที่ขยับตัวปรบั ตัวไดเ้ รว็ ไวกวา่ ก็
ย่อมจะได้รบั ประโยชน์จากทนุ น้ี
ทุนนยิ มน้นั เป็นลทั ธิท่ีมนษุ ย์เราสร้างข้นึ ทนุ นิยมจงึ มเี รอื่ งราว
ของชีวิตมนุษย์อันหลากหลาย ต้ังแต่ผู้ครองนคร พ่อค้าวาณิช เจ้า
ทด่ี นิ ทาส ฯลฯ ไปจนกระทง่ั ถงึ วณพิ ก ยาจก และโสเภณี ซง่ึ ทกุ คนอยู่
ภายในระบบเดยี วกนั ผมไดน้ า� เรอื่ งราวหลากหลายของคนมาบรรจเุ อา
ไว้ เพราะมที ง้ั เรอื่ งนา่ ยนิ ดแี ละนา่ ขมขน่ื ปะปนกนั ตามธรรมดาในฐานะ
มนุษย์ หวงั ว่าผอู้ ่านจะไดร้ บั ความเพลิดเพลินไม่มากก็น้อย
หนังสือ British East India Company: บริษัทอินเดียตะวัน
ออกอังกฤษ เล่มนี้เรียบเรียงขึ้นด้วยความตั้งใจจะให้เป็นประโยชน์
ตอ่ ท่านผอู้ ่านท่ีเป็นเยาวชน นกั เรยี น นักศกึ ษา และประชาชนผสู้ นใจ
ทั่วไปเป็นหลัก หากมีความผิดพลาดประการใด ผมขอน้อมรับเพื่อ
นา� ไปปรับแก้ไขตอ่ ไป
ปรีดี หงษส์ ต้น
สำรบัญ
คำ� นำ� 19
ล�ำดบั เหตกุ ำรณ์ส�ำคัญ 27
1. กำ� เนิดบรษิ ทั อินเดยี ตะวันออกองั กฤษ
2. กำรคำ้ ในเอเชยี ค.ศ. 1600–1640: ตะวนั ออกไกล 43
ญปี่ ุ่น 53
สยาม
ทะเลอาระเบีย
การปรบั โครงสร้างการลงทนุ
3. ยุคสมยั ใหม่ กำรปรับโครงสร้ำงและกำรขยำยตวั
ของบรษิ ัทในอินเดีย ค.ศ. 1640-1710
ฝา้ ย
ชายฝ่ังตะวันตกของอนุทวปี อนิ เดีย
4. บรษิ ทั อนิ เดียตะวันออกองั กฤษกับอนิ เดยี
มทั ราส
บอมเบย์
กัลกตั ตา
5. โรเบริ ต์ ไคลฟ์ 63
ภาวะอดอยากในเบงกอล ค.ศ. 1770 81
การรกุ เข้าไปในกัลกตั ตาและเบงกอล
การเสรมิ ความมน่ั คงแกม่ ัทราส 97
111
6. กำรคำ้ ในเอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใต้
การควบคมุ เสน้ ทางเดนิ ทะเล
ลักษณะทั่วไปในสาขาของบริษทั อนิ เดยี
ตะวนั ออกองั กฤษ
มะนิลา
ปีนงั
ชวา
สิงคโปร์
7. กำรค้ำในแถบทะเลจนี ใต้
กว่างโจว: ทา่ การค้าสา� คัญของบรษิ ทั
เครื่องกระเบอ้ื ง
ชา
กา� เนิดชาเอริ ์ลเกรย์
ผ้าไหม
สินค้าอน่ื ๆ กับตลาดจีน
8. ชีวติ ประจ�ำวันของลกู จำ้ งบรษิ ัทในอินเดีย
คา่ ยและสโมสรเจ้าอาณานิคม
“เมมซาฮิบ”
อาหารการกิน
อาหารในหนึ่งวนั
อาหารกระป๋อง
กิจกรรมยามเชา้
ก�าเนิด “เคตชัป” (ซอสมะเขือเทศ) และซอสอน่ื ๆ
บรวิ ารรับใช้
กจิ กรรมบนั เทงิ ในบ้าน
การออกล่าสัตว์ การขี่ม้า และการแขง่ ม้า
คริกเกต
โปโล
กอลฟ์ และกิจกรรมอน่ื ๆ
9. ชีวิตอภิรมย์ของลูกจำ้ งบรษิ ัท
131
ก�าเนดิ อนิ เดียเอล
จินผสมโทนคิ
ฮูกาห์และเชอรตู
ความรอ้ น
โรคระบาด การรักษา มรณกรรม
บา้ นตากอากาศ
กองตกปลา
10. บรษิ ทั อินเดียตะวนั ออกองั กฤษกับจักรวรรดิโมกลุ : 143
จุดหันแหเข้ำสอู่ ินเดีย
ทา่ การคา้ ทมี่ อคคา
บริษัทอนิ เดยี ตะวันออกองั กฤษกับการค้าทางตะวนั ตก
กลุม่ ตอ่ ต้านชาจากองั กฤษแห่งบอสตนั
การค้าผา้ ขนสัตวท์ ่แี วนคูเวอร์
11. กำรค้ำผสมผสำนกบั กำรเขำ้ ยดึ เปน็ เมืองขึ้น 153
คริสตจกั รและมิชชันนารี
พิธีสตี
การศกึ ษาและกา� เนิดของผนู้ �าชาตินิยม
การปลกู ชาและธุรกจิ อ่ืนๆ ของเจ้าอาณานคิ ม
การปลกู ฝนิ่
12. กบฏครง้ั ใหญ่ ค.ศ. 1857
165
การสังหารหมทู่ ี่คาวน์ ปอร์
การยึดเมืองลัคเนา
13. มรดกของบริษัทอนิ เดยี ตะวนั ออกอังกฤษ
173
ต่อปจั จบุ นั
14. ส่งทำ้ ย: อินเดยี ช่วงปลำยอำณำนคิ ม
179
จนกระท่งั เปน็ เอกรำช
สงครามโลกคร้ังที่ 1 และอินเดยี
อินเดยี หลงั สงครามโลกครง้ั ที่ 1 กับวิกฤตเศรษฐกิจโลก
วิธแี ก้ปัญหาเศรษฐกจิ แบบอาณานิคมๆ
15. ชำตินิยมในอนิ เดีย
191
ความเคลื่อนไหวชาตนิ ิยมทนี่ �าโดยมหาตมะคานธี
สรปุ 203
อำ้ งอิง 207
14
ลำ� ดบั เหตกุ ำรณ์สำ� คัญ (ค.ศ.)
1600 สมเด็จพระราชินนี าถเอลซิ าเบธท่ี 1
1608 พระราชทานตราตั้งบรษิ ัทอนิ เดยี ตะวันออก
1611 วิลเลยี ม ฮอวก์ นิ ส์ น�ากองเรอื บรษิ ทั อินเดีย
1698 ตะวนั ออกองั กฤษไปบกุ เบิกทา่ เรือท่สี ุรตั
1702 กองเรือของบรษิ ัทถูกส่งไปญป่ี ุน่ ครัง้ แรก
น�าโดยจอห์น ซารีส บนเรอื โคลฟ (Clove)
1746 มพี ระบรมราชานุญาตใหต้ ้ังบริษทั อินเดยี
ตะวนั ออกใหม่
ก.ย.-ต.ค. 1751 มกี ารตกลงรวมหลายบรษิ ทั เข้าเปน็
สหบริษทั แห่งวาณิชยอ์ ินเดยี ตะวนั ออก
(United Company of Merchants of
England Trading to the East Indies)
ฝรัง่ เศสยึดเมืองมัทราสทางตอนใตข้ อง
อนิ เดยี
โรเบิรต์ ไคลฟ์ ชาวองั กฤษของบริษัท
อนิ เดยี ตะวันออกสาขามัทราสยดึ เมอื ง
อารค์ อตทางตอนใตข้ องอินเดยี
บรษิ ทั อินเดยี ตะวนั ออกอังกฤษ
15
20 มิ.ย. 1756 กัลกตั ตาถกู ยดึ โดยสิรัจอดุ ดอลาห์ ขา้ หลวง
แห่งจักรวรรดโิ มกุลผเู้ ปน็ พันธมติ รกับ
2 ม.ค. 1757 ฝรง่ั เศส
23 ม.ี ค. 1757 กัลกตั ตาถกู ยึดกลบั มาภายใตก้ องทพั ท่ีนา�
23 ม.ิ ย. 1757 โดยโรเบริ ์ต ไคลฟ์
โรเบิร์ต ไคลฟ์ ยดึ เมืองจนั ทนครทางตอน
ธ.ค. 1758 - ก.พ. 1759 เหนือของกลั กัตตาจากฝรง่ั เศสไดอ้ ีก
สมรภมู ิปลาซี ผลคือโรเบริ ์ต ไคลฟ์
22 ม.ค. 1760 เอาชนะกองทัพของสิรจั อุดดอลาหไ์ ด้
15 ม.ค. 1761 องั กฤษเปน็ ผปู้ กครองเบงกอล
ฝร่งั เศสน�าโดยบารอนลลั ลีรุกตอบโต้ โดย
23 ต.ค. 1764 พยายามเขา้ ยดึ เมืองมัทราสทอ่ี ังกฤษมี
อ�านาจอยู่ แตพ่ า่ ยแพ้
1767 - 1769 สมรภูมิวันดวิ อช ผลคือเซอร์แอร์ คูต
เอาชนะบารอนลัลลีได้
บารอนลลั ลียอมยกเมืองพอนดิเชอรร์ ที าง
ตอนใตข้ องอนิ เดียทฝ่ี ร่ังเศสยึดครองให้
กลายเปน็ ขององั กฤษ
สมรภมู ิบูซารก์ องทัพของบริษทั อนิ เดยี ตะวนั
ออกมชี ยั ชนะตอ่ ขา้ หลวงแหง่ จกั รวรรดโิ มกลุ
สงครามไมซอร์ครง้ั แรกจบลงด้วยไฮเดอร์
อลั ลี ผู้ปกครองเมืองขอเปน็ พนั ธมติ รกับ
บรษิ ทั อนิ เดียตะวนั ออกอังกฤษเพื่อคาน
อ�านาจกับมราฐา
BRITISH EAST INDIA COMPANY
16 สงครามมราฐา ยงั ไม่มผี แู้ พ้ผู้ชนะ
สงครามไมซอรค์ ร้งั ที่ 2 ฝร่งั เศสถอยทัพ
1775 - 1782 ออกไป จกั รวรรดิโมกุลขอเจรจาหยุดยิงกบั
1780 - 1784 องั กฤษ
มพี ระราชบญั ญตั ิอินเดียเพอ่ื ใหบ้ รษิ ัทอยู่
1784 ภายใตก้ ารควบคมุ โดยรัฐบาลองั กฤษ
1790 - 1792 สงครามไมซอร์ครงั้ ที่ 3 ขุนนางแหง่ เมือง
ไมซอรพ์ า่ ยแพ้ต่อนายพลคอร์นวัลลสิ ของ
1796 อังกฤษ
มีการปฏิรปู กองทพั ของบรษิ ทั เพมิ่ กอง
4 พ.ค. 1799 ก�าลงั และเจ้าหน้าทช่ี าวยุโรปมากข้ึน
สงครามไมซอรค์ รงั้ ท่ี 4 การรุกเมอื ง
1803 - 1806 ศฤงคปฏมั รัฐกรณาฏกะ โดยกองกา� ลงั
ของบริษทั และของรฐั บาลองั กฤษ
23 ก.ย. 1803 สงครามมราฐาคร้งั ที่ 2
สมรภูมิอัสเซย กองทัพองั กฤษและบริษทั
1 พ.ย. 1803 อินเดียตะวันออกองั กฤษภายใตก้ าร
บญั ชาการของนายพล เซอรอ์ าร์เธอร์
1814 - 1816 วลั เลสลีย์ มชี ัย
1817 - 1819 สมรภมู ิลัสวาริ บริษทั อนิ เดียตะวนั ออก
1824 - 1826 อังกฤษชนะอีก
สงครามกุรข่า
สงครามมราฐาครง้ั ท่ี 3
สงครามอังกฤษ-พม่าครัง้ ที่ 1
บรษิ ทั อินเดียตะวนั ออกองั กฤษ
1825 - 1826 17
1834 การยดึ เมอื งภารตปุระ
การบกุ ยดึ เมืองคูร์จ
1838 - 1842 สงครามอังกฤษ-อฟั กานิสถานครง้ั แรก
การบุกยึดเมืองสินธ์
1843 การบกุ ยดึ เมอื งกวาลโิ อร์
สงครามซกิ ห์ครง้ั แรก
1843 สงครามซกิ หค์ ร้งั ท่ี 2
สงครามองั กฤษ-พม่าครั้งที่ 2
1845 - 1846 เกดิ กบฏในมีรตุ ทางตอนเหนือของอินเดีย
รัฐบาลอังกฤษเขา้ ปกครองอินเดียโดยตรง
1848 - 1849 รฐั บาลองั กฤษเข้าแทนท่บี ริษัทอินเดยี
ตะวันออก
1851 - 1858
10 พ.ค. 1857
2 ส.ค. 1858
ม.ิ ย. 1862
BRITISH EAST INDIA COMPANY
1
ก�ำเนดิ บรษิ ัทอินเดยี ตะวนั ออกองั กฤษ
BRITISH
EAST INDIA COMPANY
“อินเดีย” (India) หรือ “อินดีส์” (Indies) น้ันปรากฏอยู่ใน
จนิ ตภาพของชาวตะวนั ตกมายาวนานหลายรอ้ ยปแี ลว้ จนิ ตภาพนแ้ี สดง
ดนิ แดนลึกลับและเตม็ ไปด้วยความพศิ วง น่าหวาดกลวั อันตราย ใน
ขณะเดยี วกนั กเ็ ปน็ ดนิ แดนท่นี า่ คน้ หา มีเสน่ห์เย้ายวน รวมทงั้ เตม็ ไป
ด้วยโอกาสของการทา� การค้าขายจากสนิ ค้าหลากหลาย
ไมน่ า่ แปลกใจวา่ ในครสิ ตศ์ ตวรรษที่ 15 ครสิ โตเฟอร์ โคลมั บสั
เรยี กหมเู่ กาะคารบิ เบยี นวา่ “อนิ ดสี ต์ ะวนั ตก” (West Indies) ทงั้ ๆ ทอ่ี ยู่
คนละซกี โลกกบั อนทุ วปี อนิ เดยี ทงั้ นี้ กเ็ พอื่ บง่ บอกวา่ ดนิ แดนทพี่ บเจอ
ใหมน่ นั้ อยทู่ ศิ ทางใดจากดนิ แดนทนี่ กั สา� รวจและพอ่ คา้ รจู้ กั กนั ในยคุ นนั้
การเรยี กคนพนื้ เมอื งในทวปี อเมรกิ าเหนอื วา่ ชาวอนิ เดยี กแ็ สดง
ใหเ้ หน็ วา่ ชาวตะวนั ตกรจู้ กั อนทุ วปี อนิ เดยี มานานอยา่ งนอ้ ยตง้ั แตค่ รสิ ต์
ศตวรรษท่ี 15-16 พอ่ คา้ วาณชิ ชาวยโุ รปรถู้ งึ โอกาสทจี่ ะมจี ากการคา้ ของ
ตลาดตะวันออกและทุนนยิ มยโุ รปกเ็ รม่ิ ขยายเส้นทางการคา้ มีการต้งั
บรษิ ทั การคา้ บนเสน้ ทางตะวนั ออกมากมายหลายสญั ชาติ เชน่ ฝรง่ั เศส
ดตั ช์ เดนมารก์ สวเี ดน ฯลฯ
BRITISH EAST INDIA COMPANY
20
แตไ่ มม่ บี รษิ ทั อนิ เดยี ตะวนั ออกของยโุ รปชาตใิ ดจะมขี นาดใหญ่
เท่ากบั บรษิ ทั อินเดยี ตะวนั ออกอังกฤษ (British East India Company)
ซงึ่ กอ่ ตัง้ ขน้ึ ใน ค.ศ.1600 ผา่ นการออกพระบรมราชานุญาตให้บรษิ ัท
คา้ ขายบนเสน้ ทางใดกต็ ามทางทศิ ตะวนั ออกของแหลมกดู๊ โฮป (ประเทศ
แอฟริกาใต้ในปจั จบุ นั )
วนั ที่ 31 ธนั วาคม ค.ศ. 1600 สมเด็จพระราชินีนาถเอลซิ าเบธ
ที่ 1 ลงพระนามในตราตั้งพระราชทานอนุญาตให้บริษัทอินเดีย
ตะวนั ออกอังกฤษถือก�าเนิดขนึ้ โดยมีสมาชิกเริ่มตน้ จา� นวน 218 คน
เป็นพ่อค้าวาณิชผู้ช่�าชอง หลายคนยังมีหุ้นในบริษัทอ่ืนๆ ท่ีถือ
กา� เนดิ ในช่วงเวลากอ่ นหนา้ นี้ดว้ ย
การเรมิ่ ตน้ ของบรษิ ทั อนิ เดยี ตะวนั ออกองั กฤษจะวา่ ไปแลว้ กไ็ ด้
รบั พลงั ผลกั ดนั จากสภาวะแวดลอ้ มของยคุ สมยั ดว้ ยเปน็ อยา่ งมาก ใน
ยุคสมัยนี้อังกฤษมีพัฒนาการของความสัมพันธ์ทางการผลิตอันแยก
แตกตา่ งออกไปจากบรเิ วณอนื่ ๆ ของยโุ รปและของโลก ความสมั พนั ธ์
ทางการผลิตแบบเฉพาะนี้อาจจะเป็นสาเหตุที่ท�าให้บริษัทอินเดีย
ตะวนั ออกสญั ชาตอิ งั กฤษสามารถขยายอา� นาจทางการคา้ และการเมอื ง
ไดม้ ากกว่าชาตยิ โุ รปอื่นๆ กเ็ ป็นได้
เราลองมาไล่เรียงพัฒนาการของความสัมพันธ์ทางการผลิตท่ี
พลกิ โลกเชน่ นด้ี ู
ในประวตั ศิ าสตรม์ นษุ ยชาติ มนษุ ยต์ อบสนองความตอ้ งการทาง
ด้านวัตถุของตนจากหยาดเหง่ือแรงงานบนท่ีดิน เช่น ปลูกพืชเพ่ือใช้
บรโิ ภค เปน็ ตน้ ในสถานการณเ์ ชน่ นี้ เราแยกคนออกไดเ้ ปน็ สองชนชนั้
คือชนชั้นท่ีใช้แรงงานบนที่ดินและชนชั้นท่ีตักตวงผลจากแรงงานของ
คนอน่ื ไมว่ า่ จะดว้ ยการบงั คบั ขเู่ ขญ็ สรา้ งเงอื่ นไขใหแ้ รงงานจา่ ยหนสี้ นิ
บรษิ ัทอนิ เดียตะวนั ออกอังกฤษ
21
จากการใชแ้ รงงาน หรอื เกบ็ ภาษี เปน็ ตน้ ทผี่ า่ นมาความสมั พนั ธร์ ะหวา่ ง
ผกู้ ดขก่ี ับผถู้ กู กดขมี่ กั จะเปน็ ไปในลกั ษณะเชน่ นี้
แต่ในยุคสมัยของการก�าเนิดบริษัทอินเดียตะวันออกอังกฤษ
เกิดความสัมพันธ์ทางการผลติ แบบใหม่ นน่ั คอื ทุนนยิ ม
ความสัมพันธ์ระหว่างผู้ใช้แรงงานกับผู้เก็บเกี่ยวดอกผลจาก
การใช้แรงงานน้ันเปลี่ยนแปลงในลักษณะถึงราก คือผู้เก็บเกี่ยว
ดอกผลของการผลิตท�าการเก็บเกี่ยวดอกผลน้ันๆ จากผู้ผลิตที่ไม่ได้
ติดอยู่กับความสัมพันธ์แบบฟิวดัล (เทียบได้กับระบบเจ้าขุนมูลนาย
ถา้ จะพากษไ์ ทย) เปน็ ผผู้ ลติ ทมี่ อี สิ ระพน้ ไปจากความสมั พนั ธแ์ บบเดมิ
ผู้ผลิตกลายเปน็ ผใู้ ชแ้ รงงานที่ไมม่ ีทด่ี นิ ทา� กินเป็นของตนเองอีกตอ่ ไป
เรม่ิ ทา� งานรบั จ้างเพ่อื เงินล้วนๆ ไม่เก่ียวข้องกับความสัมพนั ธ์ทวี่ างอยู่
บนเรื่องอ่ืนใด ผู้ตักตวงเอาผลประโยชน์ก็ไม่จ�าเป็นต้องบังคับขู่เข็ญ
เพราะลูกจา้ งเหลา่ นมี้ ่งุ ใช้แรงงานตวั เองแลกเงิน
ในระบบทุนนิยมความสัมพันธ์ของผู้ใช้แรงงานและผู้จ้างเกิด
ขึ้นผ่านตลาด (ไม่ได้หมายความถึงตลาดค้าขายแลกเปล่ียนเท่านั้น)
ตลาดในท่ีนี้หมายถึงพื้นท่ีที่ผลักดันให้เกิดการแข่งขัน การสะสมทุน
การวางแผนเพ่ือให้การค้าการลงทุนเกิดก�าไรสูงสุด ฯลฯ น�าไปสู่การ
ผลกั ดนั ใหเ้ กดิ พลงั การผลติ ใหมๆ่ มหาศาลเพราะกลไกของการแขง่ ขนั
ก�าเนิดของบริษัทอินเดียตะวันออกอังกฤษจึงเป็นส่วนหนึ่งของก�าเนิด
พลังการผลิตใหมๆ่ ในโลกทุนนิยม
พลงั ของตลาดจะทา� ใหเ้ หน็ ไดต้ อ่ ไปวา่ บรษิ ทั อนิ เดยี ตะวนั ออก
องั กฤษระดมทนุ สง่ กองเรอื ไปยงั บรเิ วณตา่ งๆ ของโลกเพอ่ื เฟน้ หาสนิ คา้
อนั จะกลายมาเปน็ “ของติดตลาด” อยา่ งไมล่ ดละ พลังของตลาดยัง
ท�าให้บริษัทขยายการลงทุนและการเสริมสร้างความแข็งแกร่งของ
BRITISH EAST INDIA COMPANY
22
กองเรอื เพอื่ เปลยี่ นแปลงบรเิ วณตา่ งๆ ของอนทุ วปี อนิ เดยี ใหเ้ ขา้ มาเปน็
ส่วนหนงึ่ ของระบบทนุ นิยม บา้ งก็ดว้ ยก�าลงั บ้างก็ดว้ ยการเจรจา
อังกฤษในยุคของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธท่ี 1 น้ี
เปล่ยี นแปลงจากดินแดนท่ียังออกจะป่าเถอ่ื น ไม่ศวิ ิไลซ์ ไปส่ดู นิ แดน
ทีท่ ะเยอทะยาน มง่ั คัง่ มีวัฒนธรรม และเป็นมหาอา� นาจแถวหนา้ ของ
ยุโรป
การปฏริ ปู ศาสนาขององั กฤษกม็ สี ว่ นสา� คญั ทท่ี า� ใหก้ ระบวนการนี้
พัฒนาการไปได้ พระเจ้าเฮนรีที่ 8 ประกาศคัดง้างความสัมพันธ์กับ
ศาสนจักรคาทอลิกและสืบมาจนยุคสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธ
ที่ 1 ทา� ใหอ้ งั กฤษหลกี เลย่ี งไมต่ อ้ งรบั ผลเสยี หายมหาศาลอยา่ งทป่ี ระเทศ
คริสต์คาทอลิกและคริสต์โปรเตสแตนต์ได้รับในช่วงสงคราม 30 ปี
(ค.ศ. 1618-1648) ซง่ึ มคี นตายหลายลา้ นคนและสง่ ผลใหเ้ กดิ การลงนาม
ในสนธสิ ญั ญาเวสตฟ์ าเลยี อนั วา่ กนั วา่ เปน็ จดุ เรม่ิ ตน้ ของรฐั ชาตสิ มยั ใหม่
การปฏิรูปศาสนาของอังกฤษเช่นนี้ก็คือการปฏิเสธอ�านาจของ
พระสนั ตะปาปาผคู้ รองอา� นาจเหนอื การออกกฎบตั รแกอ่ าณาจกั รครสิ ต์
ในยุโรปต่างๆ มีสิทธิเหนือเส้นทางการค้าได้ เช่น อาณาจักรใน
คาบสมุทรไอบเี รยี สองแห่งคือสเปนและโปรตุเกส เป็นตน้
แตไ่ มว่ า่ จะเกดิ พลวตั อยา่ งไรกต็ ามในยโุ รปชว่ งเวลาน้ี ควรเปน็
ทเ่ี ขา้ ใจกนั โดยพนื้ ฐานวา่ เสน้ ทางการคา้ ในบรเิ วณตา่ งๆ ของโลกนอก
ภูมิภาคยุโรปก็มีพลวัตและความคึกคักเป็นของตนเองมาต้ังแต่ไหน
แต่ไรแล้ว
นบั เพยี งตวั อยา่ งจากเมอื งจนี กไ็ ด้ ตง้ั แตช่ ว่ งรอ้ ยกวา่ ปกี อ่ นหนา้
อังกฤษจะหักหาญกับคริสตจักร กองเรือของเจ้ิงเหอก็ครองเส้นทาง
การคา้ ในแอฟริกาตะวันออกและทะเลอาระเบียเปน็ ท่เี รยี บร้อย
บริษทั อนิ เดยี ตะวนั ออกอังกฤษ
23
แต่ถ้าจะถามว่ายุโรปชาติใดไปถึงอินเดียก่อน ตามที่ผู้รู้ว่ากัน
มาก็น่าจะเป็นวาสโก ดา กามา ชาวโปรตุเกสที่เดินทางไปถึงบริเวณ
ตะวันตกเฉียงใต้ของอินเดีย เพ่ือต้องการซ้ือหาเครื่องเทศและสา� รวจ
สุดท้ายกองเรือเล็กๆ ของเขาก็ขัดแย้งกับผู้น�าท้องถิ่น เกิดการรบพุ่ง
กนั สญู เสยี คนไปมาก
หลังจากถึงอินเดียแล้ว โปรตุเกสก็ไปต่อท่ีซีลอน (ประเทศ
ศรีลังกาปัจจุบัน) มะละกา และมาเก๊าในที่สุด จนสามารถมีลู่ทางใน
การค้าเคร่อื งเทศและผ้าไหมได้กอ่ นใครในหมู่พ่อค้ายุโรป นอกจากน้ี
ยงั พบแหลง่ ปลกู กานพลแู ละจนั ทนเ์ ทศทห่ี มเู่ กาะโมลกุ กะ (ในประเทศ
อินโดนีเซยี ปจั จุบัน)
โปรตเุ กสและสเปนถอื วา่ เปน็ “รนุ่ พ”ี่ ของการบกุ เบกิ เสน้ ทางการ
ค้า แต่สักพักก็มีประเทศมหาอ�านาจอ่ืนก้าวข้ึนมาได้หลังจากสงคราม
30 ปี หน่ึงในนั้นคือดัตช์ซึ่งก้าวขึ้นมาค่อนข้างรวดเร็วและถือว่าเป็น
ไม้เบอ่ื ไม้เมากับอังกฤษในชว่ งแรกๆ ท้ังสองประเทศตั้งบริษทั อินเดยี
ตะวนั ออกเหมอื นกนั และเขา้ สเู่ สน้ ทางการคา้ ทางไกลแขง่ ขนั กนั เรอื่ งที่
จะปรากฏตอ่ ไปกจ็ ะมพี อ่ คา้ ดตั ช์ โปรตเุ กส และชาตอิ น่ื ๆ เปน็ ครง้ั คราว
เรื่องราวของบริษัทอินเดียตะวันออกอังกฤษอุปมาเป็นดังคลื่น
ลมในมหาสมทุ รกวา้ งใหญ่ คอื มขี นึ้ มลี ง ไมแ่ น่ไมน่ อน
บางครั้งบริษัทก็ได้โชคจากการค้าขายสินค้าท่ีมีความต้องการ
ของตลาดสูง บางครั้งก็ประสบความฝดื เคอื งเน่อื งจากสนิ คา้ ลน้ ตลาด
บางคร้ังเกลือเป็นหนอน คนในบริษัทกลายเป็นผู้ค้าอิสระแข่ง
การคา้ กบั บรษิ ทั เสยี เอง บางครง้ั กลายเปน็ โจรสลัดดว้ ยซา้� ไป
บางคร้ังชาวท้องถ่ินที่บริษัทไปเจรจาการค้าก็ลุกขึ้นต่อต้าน
อย่างกว้างขวาง หรือศัตรูของบริษัทกลับกลายเป็นราชส�านักอังกฤษ
BRITISH EAST INDIA COMPANY
24
เองเน่อื งจากผลประโยชนอ์ นั มหาศาล
จะอย่างไรก็ตาม ประวัติศาสตร์หลายร้อยปีของบริษัทอินเดีย
ตะวันออกอังกฤษท้ิงร่องรอยหลายต่อหลายอย่างเอาไว้ให้คนในรุ่น
หลงั ๆ ได้เหน็ บ้างกน็ า่ ตลกขบขัน บ้างกน็ ่าอัศจรรยใ์ จ
ตอ่ ไปนเี้ ปน็ เรอ่ื งราวของบรษิ ทั หนง่ึ ทเ่ี ตบิ โตและเปลย่ี นแปลงไป
พรอ้ มกบั ระบบทนุ นยิ มของโลกทค่ี รง้ั หนง่ึ เคยมลี อนดอนเปน็ ศนู ยก์ ลาง
บริษทั อินเดียตะวนั ออกองั กฤษ