The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by GYPSY GROUP, 2019-05-30 23:58:46

แม่มด: ประวัติศาสต์แห่งไสยเวท

History

Keywords: witchcraft,history

üćãðÐāòâŞÑüÖèĀÐùĀÜ×òéèúèśāÐòÿãāø
ëĈśíăùðĀñČùöÖúāÓöāðòĈśČôÿïĈðăêŠÜÜāĎúðŚðāéòòâÐāòèĀÐüŚāè



แม่มด: ประวัติศาสตร์แห่งไสยเวท

Witchcraft History
อัคนี มูลเมฆ

Wแมitม cดhc:rปaรftะHวiตั stิศoาrสyตรแ หงไสยเวท

อคั นี มูลเมฆ: เขียน

พิมพค รงั้ ที่ 1 2561
พมิ พค ร้งั ท่ี 2 2562

ราคา 230 บาท

ขอ มูลทางบรรณานกุ รมของสำนักหอสมดุ แหงชาติ
National Library of Thailand Cataloging in Publication Data
อคั นี มูลเมฆ.

แมม ด: ประวตั ิศาสตรแหงไสยเวท Witchcraft History.-- พิมพค รงั้ ที่ 2.-- กรุงเทพฯ : ยิปซี กรุป, 2562.
256 หนา .
1. แมม ด. l. ชือ่ เร่อื ง.
133.4
ISBN 978-616-301-680-5

c ขอความในหนงั สอื เลม น้ี สงวนลิขสทิ ธิ์ตามพระราชบัญญตั ิลิขสทิ ธ์ิ (ฉบบั เพ่มิ เติม) พ.ศ. 2558

การคดั ลอกสว นใดๆ ในหนังสือเลม นไี้ ปเผยแพรไ มว า ในรูปแบบใดตองไดร บั อนุญาตจากเจา ของลิขสทิ ธก์ิ อ น
ยกเวน เพ่อื การอางอิง การวจิ ารณ และประชาสมั พนั ธ

บรรณาธิการอำนวยการ : คธาวุฒิ เกนุย
บรรณาธิการบรหิ าร : สุรชัย พงิ ชยั ภมู ิ
ผชู ว ยบรรณาธกิ ารบริหาร : วาสนา ชูรตั น
บรรณาธิการเลม : ธรรธร วีระสุรีย
กองบรรณาธิการ : คณติ า สุตราม พรรณกิ า ครโสภา ดารยี า ครโสภา
เลขากองบรรณาธกิ าร : อรทยั ดีสวัสดิ์
พสิ ูจนอ ักษร : ขมพร ไชยลอม
รูปเลม : คยี  ริชเนสส
ออกแบบปก : Rabbithood Studio
ผูอำนวยการฝายการตลาด : นุชนันท ทกั ษิณาบณั ฑิต
ผจู ดั การฝายการตลาด : ชติ พล จันสด
ผจู ดั การท่วั ไป : เวชพงษ รตั นมาลี
จดั พมิ พโ ดย : บริษัท ยิปซี กรุป จำกดั เลขที่ 37/145 รามคำแหง 98
แขวง/เขตสะพานสงู กรงุ เทพฯ 10240
พิมพท ่ี โทร. 0 2728 0939 โทรสาร. 0 2728 0939 ตอ 108
จดั จำหนา ย www.gypsygroup.net
: บรษิ ัท วิช่นั พรเี พรส จำกดั โทร. 0 2147 3175
: บริษทั ยปิ ซี กรุป จำกดั โทร. 0 2728 0939
www.facebook.com/gypsygroup.co.ltd
LINE ID : @gypzy

สนใจสั่งซอ้ื หนงั สือจำนวนมากเพ่อื สนบั สนุนทางการศกึ ษา สำนกั พิมพลดราคาพเิ ศษ ติดตอ โทร. 0 2728 0939

ค�ำน�ำจาก ส�ำนักพิมพ์

เรื่องราวที่เกิดข้ึนในอดีตให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้นั้นมีอยู่มากมาย แต่ละ
ภูมิปัญญาทั่วโลกต่างก็เป็นส่วนประกอบของอารยธรรมโดยรวมด้วยกันท้ังส้ิน
เพื่อการชมโลกท่ีครบถ้วน ขอน�ำเสนอเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของไสยเวท
หนง่ึ ในสงิ่ ท่ีจะเตมิ เตม็ ให้ความรอบร้ขู องเราไดข้ ยายขอบเขตออกไป

Witchcraft History แมม่ ด: ประวัติศาสตรแ์ หง่ ไสยเวท หนังสือเชงิ
ประวัติศาสตร์สังคม น�ำท่านไปรู้จักกับผู้ใช้ความรู้ทางไสยเวทที่สืบทอดกันมา
แต่โบราณ ไขปริศนาของลัทธแิ มม่ ดอันลล้ี ับ น�ำเสนอพร้อมเรอื่ งราวทเี่ กีย่ วโยง
อยู่กับศาสนา และความซับซ้อนของอ�ำนาจอันส่งผลให้เกิดการเปล่ียนแปลง
แท้จริงแล้วแม่มดคืออะไร? ต่างจากแม่มดที่เราเคยเข้าใจอย่างไร? หวังใจว่า
หนงั สอื เล่มนค้ี งเป็นท่พี อใจสำ� หรบั นักอ่านทกุ ทา่ น

ส�ำนกั พมิ พย์ ิปซี

อารัม ภ บ ท

ด้วยความสนใจส่วนตัวท�ำให้ข้าพเจ้าเริ่มค้นคว้าประวัติศาสตร์ของไสยลัทธิ
ในโลกตะวันตก ด้วยเดิมทใี ห้ความสนใจต่อการกวาดล้างแม่มดในยุโรป การ
คน้ ควา้ ทำ� ใหล้ ว่ งลกึ ไปยงั ทมี่ าเบอื้ งตน้ ของกลมุ่ ศาสนาโบราณ นน่ั ทำ� ใหต้ อ้ งสาว
ยอ้ นไปไกลกว่าท่คี ดิ

หนังสือเล่มน้ีจึงกอปรไปด้วยโครงสร้างของเน้ือหาที่เร่ิมต้นด้วยการ
อารัมภบทถึงที่มาของลัทธิแม่มด ความเช่ือเร่ืองลัทธิซาตานในคริสต์ศาสนา
เรอื่ ยไปถงึ การไตส่ วนและทรมานกลมุ่ นอกรตี กระทง่ั มาจบลงทคี่ วามเชอื่ ในไสย
ลทั ธยิ คุ ใหม่ เชอื่ วา่ โครงสรา้ งเชน่ นจ้ี ะทำ� ใหผ้ อู้ า่ นมองเหน็ ภาพรวมของประเดน็
ทัง้ หมด ท้ังอ�ำนวยให้เกดิ ความเขา้ ใจความเป็นมาแตต่ น้ จรดปลาย

เมื่อเปิดออกอา่ น ท่านจะพบวา่ เนอื้ หาระหว่างบรรทดั สะท้อนความรขู้ ้าง
เคียงเก่ียวกับประวัติศาสตร์คริสต์ศาสนา ความขัดแย้งทางความเชื่อในยุโรป
พฒั นาการของความขดั แยง้ กระทง่ั คลค่ี ลายมาสสู่ ถานการณป์ จั จบุ นั โดยเฉพาะ
สถานการณท์ างความคิดและความเชื่อในยุคหลงั สงครามโลกครง้ั ที่ 2 เมื่อโลก
ตะวันตกประกาศปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนท่ีมีผลครอบคลุมไปทั้ง
โลก

ไมว่ า่ อยา่ งไร สารคดเี ชงิ ประวตั ศิ าสตรเ์ ลม่ นใ้ี หภ้ าพแมม่ ดทแี่ ตกตา่ งจาก
โลกบนั เทงิ เชน่ ในนทิ านสำ� หรบั เดก็ ภาพยนตร์ หนงั สอื การต์ นู หรอื ในนวนยิ าย
ประโลมโลกย์ แมม่ ดในความเปน็ จรงิ แตกตา่ งจากประสบการณท์ ผ่ี อู้ น่ื ยดั เยยี ด
ให้ ประวัติศาสตร์ท่ีเขียนข้ึนมาจากมุมมองฝ่ายเดียวไม่อาจเรียกได้ว่าเป็น
ประวัติศาสตร์ท่ีถูกต้อง แต่เป็นบทโฆษณาชวนเช่ือที่มุ่งครอบง�ำหรือท�ำลายคู่
ปรปกั ษ์เท่านัน้

เช่นนั้นก็ตาม หนังสือเลม่ นี้ใหไ้ ดเ้ พยี งความรู้เบอ้ื งต้นเกย่ี วกับไสยลัทธิ
ทม่ี ิอาจหยั่งลกึ เขา้ ไปสรู่ ายละเอยี ดอนั มหาศาลบนทางผ่านของมนษุ ยชาติ ท่าน
ที่สนใจสามารถค้นคว้าด้วยตัวเองลงไปยังหุบเหวแห่งความรู้ด้วยเส้นเชือกอัน
เปราะบางทข่ี า้ พเจา้ ขงึ ไว้ และหากเปน็ ไปไดช้ ว่ ยแกไ้ ขหมดุ แหง่ ความผดิ พลาดท่ี
ขา้ พเจา้ ตอกไวบ้ นเสน้ ทาง เผอื่ วา่ อาจชว่ ยนกั คน้ ควา้ รายใหมใ่ หท้ ำ� งานไดส้ ะดวก
ยง่ิ ขึ้น

สุดท้าย การกล่าวถึงคู่ปฏิปักษ์ฝ่ายหนึ่งโดยธรรมชาติย่อมยากจะหลีก
เล่ียงการเปิดโปงความผิดพลาดของอีกฝ่ายหนึ่ง กระนั้นข้าพเจ้ามิได้จงใจจะ
ต�ำหนิคริสต์ศาสนาหรือคริสตจักรคาธอลิก อันท่ีจริงชาวคริสต์นั่นเองท่ีลุกข้ึน
มาแกไ้ ขความผดิ พลาดของพวกเขา ขณะผใู้ หค้ วามสนใจอยา่ งเราทำ� ไดเ้ พยี งแต่
เฝา้ สงั เกตการณอ์ ยู่รอบนอกเทา่ นน้ั .

อคั นี มลู เมฆ
บา้ นม่อนมายา อำ� เภอหางดง เชยี งใหม่

มนี าคม 2561



ส า ร บั ญ

บ ท ที่ห น่ึง

อรณุ ร่งุ ของไสยลัทธ.ิ ..10

บ ท ท่ีสอ ง

ปีศาจวิทยา...34

บ ท ท่ีสา ม

ลทั ธิซาตาน...68

บ ท ท่ี สี่

นอกรตี ...96

บ ท ท่ีห ้า

ลา่ แม่มด...122

บ ท ที่ห ก

สอบสวนและทรมาน...164

บ ท ท่ีเจ็ด

แม่มดยุคใหม่...196

ภาคผนวก

สมุนไพรและสตั วเ์ ลยี้ งของแมม่ ด...222

ภาพวาดแสดง
โคเวนของแม่มด
ยคุ โบราณ

อรณุ รงุ่
ของไสยลทั ธิ

The Dawn 
of Witchcraft

The Dawn of Witchcraft

บทท่ีหนึ่ง

แม่มดมาพร้อมกับมนตราและความลึกลับ มีความเป็นมายาวนานพร้อมกับ
การก�ำเนิดอารยธรรมของโลก เป็นความเชื่อที่สามารถสืบย้อนไปได้ไกลถึง
40,000 ป ี การใชเ้ วทมนตรเ์ ปน็ เครอื่ งมอื เพอื่ บรรลวุ ตั ถปุ ระสงคถ์ กู เรยี กในภาษา
สมัยใหม่ว่าลัทธิแม่มด หรือ ‘ไสยลัทธิ’ (witchcraft)1 ถือได้ว่าเป็นศาสนา
ดัง้ เดิมและเปน็ พืน้ ฐานกอ่ นทศี่ าสนาอ่นื ใดจะอุบัตขิ ึ้น

จากการสืบค้นของนักโบราณคดีพบว่าลัทธิแม่มดมีมาตั้งแต่ยุคหิน
เก่า (Paleolithic) ผู้คนในโลกบรรพกาลให้ความนับถือเทพเจ้าแห่งการล่า
(Hunter god) และเทพีแห่งความอุดมสมบูรณ์ (Fertility Goddess) มา
ยาวนาน ข้อพิสูจน์ของเร่ืองนี้คือภาพเขียนบนผนังถ้�ำที่มีอายุเก่าแก่กว่า
30,000 ป ี บนนน้ั วาดเปน็ รปู คนทม่ี ศี รี ษะเปน็ กวาง ทง้ั มภี าพสตรมี คี รรภย์ นื อยู่
ในวงล้อมของผู้คน 11 คน วงกลมนี้ชาวแม่มดสมัยใหม่เรียกว่า ‘โคเวน’
(Coven)2 การนับถอื เทพและเทพขี องแมม่ ดมีมากอ่ นเทพเจ้าองคใ์ ด

ในยุคโบราณ ‘witchcraft’ หมายถึง ‘craft of the wise’ (ทักษะ
ของผมู้ ปี ญั ญา) เปน็ ศาสตรอ์ นั กา้ วหนา้ และหลกั แหลม เนอื่ งจากผมู้ ปี ญั ญาคอื
ผู้รู้จักสังเกตธรรมชาติ ท้ังปฏิบัติตามแนวทางของธรรมชาติ มีความรู้เกี่ยวกับ
ยาและสมุนไพร เป็นผู้ให้ค�ำปรึกษาแก่ผู้คนจนได้รับการยกย่องเป็น ‘หมอยา’

อรุณรุ่งของไสยลัทธิ 11

Witchcraft History

(healer) เป็นผนู้ ำ� ทางจติ วญิ ญาณของหมูบ่ ้านและชมุ ชน
แมม่ ดเรยี นรจู้ ากธรรมชาต ิ พวกเขาเชอื่ วา่ ความเขา้ ใจธรรมชาตเิ ปน็ ความ

สูงส่งของมนุษย์ ขณะมนุษย์เองก็กอปรส่วนอยู่ในธรรมชาติหรือในองค์รวม
แม่มดมีคติท่ีว่ามนุษย์มิได้เป็นเจ้าของโลก แต่เป็นส่วนหน่ึงของโลก ชาวไสย
ลัทธิเข้าใจดีว่าเมื่อมนุษย์เอาประโยชน์จากธรรมชาติจักต้องคืนกลับไปให้
ธรรมชาติ เพ่ือด�ำรงไว้ซึ่งดุลยภาพ พวกเขาใช้ไสยเวทในฐานะเป็นศาสนาที่แท้
ของธรรมชาตแิ ละเทพเจ้า

ในภาษาลาติน ค�ำที่บ่งถึง ‘แม่มด’ คือ Maleficarum ขณะเพศชาย
หรือพ่อมดเรียกว่า Maleficus หรือ Malefica แต่บางกรณีใช้ค�ำ Malefi-
corum เพื่อบ่งเฉพาะผู้ชาย หรือท้ังชายและหญิงก็ได้หากจ�ำเป็นต้องบ่งถึง
รว่ มกัน

ในภาษาอังกฤษ witch หรือแม่มดมีมาก่อนภาษาของชาวแองโกล-
แซกซนั  (Anglo-Saxon) ในภาษาเกา่ ใชค้ ำ�  ‘Wicca’ เพอื่ บง่ ถงึ พอ่ มด และ
เรียกแม่มดว่า ‘Wicce’ ส่วนค�ำ ‘wicker’ เป็นภาษาเยอรมันโบราณหมายถึง
นักพยากรณ ์ (Soothsayer)

ตามปกติค�ำว่า witch หมายถึงแม่มดหรือนักไสยเวทสตรี กระน้ันใน
ภาษาอังกฤษยังมีค�ำ Wizard และ sorcerer ท่ีบ่งถึง ‘พ่อมด’ ในอดีต
‘witch’ มีความหมายคล้ายบุคคลทางศาสนาผู้สูงส่ง มีหัวใจบริสุทธ์ิท่ีสามารถ
ตดิ ตอ่ กบั จติ วิญญาณ แม่มดคอื ผ้มู ีจิตเมตตา ยึดม่นั ในหลักจริยธรรม มีพลงั
เหนือธรรมชาติเป็นพรสวรรค์ ท�ำงานเพื่อปัดเป่าความเจ็บปวดและความทุกข์
ยากใหก้ บั ผูค้ น

ทว่าโลกสมัยใหม่กลับมองแม่มดในทางร้าย ทั้งนี้อาจเนื่องมาแต่อคติท่ี
ติดมาจากยุคกลางของยุโรป เมื่อกล่าวถึงแม่มดผู้คนจะนึกถึงภาพหญิงชราที่
จมูกงองุ้ม มีไม้กวาดเป็นยานพาหนะ น่าตาเห่ียวย่นน่าเกลียดน่ากลัว กระท�ำ

12 แม่มด: ประวัติศาสตร์แห่งไสยเวท

The Dawn of Witchcraft

แตเ่ รอ่ื งเลวรา้ ย โดยใชเ้ วทมนตรเ์ ปน็ อาวธุ  อยา่ งไรกต็ าม ปจั จบุ นั  ‘witch’ ใช้
เรยี กชาวไสยลทั ธทิ ัง้ สองเพศ

ไสยเวทหรอื ไสยลทั ธถิ อื เปน็ ศาสนาโบราณ เปน็ การภกั ดตี อ่ ธรรมชาตใิ น
รปู แบบทบี่ รสิ ทุ ธ ์ิ เปน็  ‘Wicca’ หรอื วถิ ขี องผรู้ อบร ู้ ทำ� ใหผ้ ศู้ รทั ธาถอยหา่ งจาก
ความชว่ั รา้ ย แมม่ ดมองตวั เองวา่ เปน็ ผพู้ ทิ กั ษโ์ ลก เปน็ ผรู้ บั ใชเ้ ทพแี หง่ ธรรมชาติ
ผกู พนั ตวั เองเขา้ กบั ฤดกู าล-พชื พนั ธ-์ุ สรรพสตั ว ์ และโลกรอบกาย เพอ่ื แสวงหา
ความสมดุลของชีวิต ว่าไปแล้วพวกเขาท�ำตวั เหมอื นเป็นนักนเิ วศวิทยา

แมม่ ดทแี่ ทม้ ใิ ชผ่ นู้ บั ถอื ลทั ธซิ าตาน (Satanism), นบั ถอื ปศี าจ (devil)
หรอื คณุ ไสย (black magic) หรอื เปน็ หมอผ ี (shamanist) ทงั้ มใิ ชผ่ นู้ บั ถอื
ลัทธิวูดู (Voodoo) แมเ้ ขาเหล่านีจ้ ะมวี ธิ ที ่ีคลา้ ยคลงึ และถูกทำ� ให้เกีย่ วพนั กนั
กต็ าม

■ การรักษาตามวิธีดงั้ เดมิ
ของพอ่ มดพ้นื บ้าน
ชาวอนิ เดยี น

อรุณรุ่งของไสยลัทธิ 13

Witchcraft History

เป็นไปไม่ได้ท่ีจะท�ำความเข้าใจประวัติศาสตร์ของแม่มดโดยไม่รับรู้ถึง
ดา้ นมดื ของเวทมนตร ์ ถงึ อยา่ งนนั้ เปน็ เรอื่ งสำ� คญั ทตี่ อ้ งตระหนกั วา่ แมม่ ดไมไ่ ด้
ใช้มนตร์ด�ำ ทง้ั มีประเดน็ ตอ้ งทำ� ความเขา้ ใจวา่ ไสยเวทเปน็ ศาสตร์ทัว่ ไป ถูกน�ำ
ไปใช้ท้ังด้านบวกและลบโดยผู้คนต่างๆ แม้กระท่ังโดยผู้ท่ีอ้างตัวว่าเป็นแม่มด
หรือบุคคลทางศาสนา ในสมัยโบราณเวทมนตร์เป็นเรื่องสามัญท่ีแฝงอยู่ในวิถี
ชวี ติ และชมุ ชน ในยคุ แรกแมม่ ดเปน็ เพยี งหมอพน้ื บา้ น (Folk healer) คาถา
ท่ีใช้ก็เป็นเพียงคาถาพ้ืนบ้าน (Folk Magic) เวทมนตร์ในภาษาลาตินได้มา
ทีหลงั  จากโรมนั และครสิ ต์ศาสนานน่ั เอง

โฮมเมอร์ กวีกรกี
(900-850 ปกี ่อนครสิ ตศักราช)
14 แม่มด: ประวัติศาสตร์แห่งไสยเวท

The Dawn of Witchcraft

ในโลกโบราณ อาณาจักรต่างๆ เช่น อียิปต์ กรีก และโรม ผู้คนล้วน
ประกอบกิจกรรมด้านเวทมนตร์ เพราะส่ิงน้ีคือความสูงส่งเสมือนเป็นวิทยา
ศาสตรข์ องยคุ บรรพกาล ผคู้ งแกเ่ รยี นตอ้ งเรยี นรวู้ ธิ กี ารรกั ษาผปู้ ว่ ย รสู้ รรพคณุ
ของสมนุ ไพร รวู้ ธิ ใี ชข้ องมนั แมก้ ระทง่ั เพอื่ ทำ� ใหค้ นหลบั  ตอ้ งเขา้ ใจสมั ปชญั ญะ
ของมนษุ ย ์ ทง้ั สามารถเชอื่ มพธิ กี รรมเขา้ กบั การใชเ้ วทยม์ นตรแ์ ละการสวดออ้ นวอน

ผู้คงแก่เรียนของกรีกท่ีสมัยใหม่เรียกว่าปราชญ์ อย่างเช่น ไพธากอรัส
(Pythagoras)3 ซ่ึงปัจจุบันถือว่าเป็นนักคณิตศาสตร์, นักปรัชญา และเป็น
นักวิทยาศาสตร์ ทว่าแท้แล้วเขายังเป็นนักไสยเวทผู้หนึ่ง แม้ไม่ถูกเรียกว่าพ่อ
มดก็ตาม ไพธากอรัสมอี ิทธพิ ลทางความคิดต่อเพลโต (Plato) ในเวลาตอ่ มา

ในขอ้ เขยี นทช่ี อื่  Dialogues ของอรสิ โตเตลิ  (Aristotle) ไดก้ ลา่ วถงึ
อิทธิพลของทฤษฎีไสยเวทไว้ในบท History of Animal อันที่จริงในฐานะ
ผมู้ กี ารศกึ ษาและเฉลยี วฉลาดทง้ั เพลโตและอรสิ โตเตลิ รดู้ วี า่ แมม่ ดคอื อะไรเรอื่ ง
ราวของไสยลัทธิยังปรากฏชัดอยู่ใน ‘โอดีสซีย์’ (Odyssey)4 ของกวีโฮเมอร์
(Homer)

ก่อนหน้านั้นในอียิปต์ ยังมีนักบวชสตรีคอยท�ำหน้าที่อยู่ในวิหารแห่ง
เดลฟี (Oracle of Delphi) พวกเธออุทิศตัวให้กับเทพเจ้า ท้ังท�ำตัวเป็นนัก
พยากรณ์และโหราจารย์ สตรีเหล่าน้ีจะน่ังอยู่เหนือรอยแยกของหิน มีไอ
สมนุ ไพรลอยขน้ึ มาหอ่ หมุ้ อยรู่ อบกาย สมนุ ไพรชว่ ยใหเ้ กดิ สภาวะฌาน ทน่ี น่ั เอง
พวกเธอท�ำนายอนาคตระหว่างน้ันจะมีนักบวชอีกคนคอยอธิบายความหมายที่
เธอสื่อออกมา เน่ืองจากบ่อยครั้งมักซ่อนรหัสท่ีเข้าใจยาก กระน้ันค�ำท�ำนาย
หลายอย่างเป็นความจริง พิธีกรรมลักษณะน้ีด�ำเนินต่อเนื่องกันมาหลายพันปี
ในรปู แบบท่ีหลากหลาย

ในอดตี  สงั คมกรกี มแี มม่ ดผยู้ งิ่ ใหญม่ ากมาย อยา่ งเชน่  มเี ดยี  (Medea)5
แม่มดซ่ึงมีชื่อโด่งดังท่ีสุดในยุคนั้น เธอเข้มแข็งแต่บางครั้งอาจวิกลจริตและ

อรุณรุ่งของไสยลัทธิ 15

Witchcraft History

■ นกั บวชสตรใี นวหิ ารแห่งเดลฟี

โหดร้าย ฮีเคท (Hecate)6 เป็นเทพีแห่งดวงจันทร์คนแรก แต่ต่อมาถูกถือว่า
เป็นเทพีแห่งแม่มดผู้ปกครองรัตติกาล และเป็นนายแห่งปีศาจท่ีน่ากลัวท้ังปวง
สว่ นเซริ ซ์  (Circe) เปน็ แม่มดผ้สู าปเหลา่ คนรกั ของเธอไปเปน็ สุกรเมอื่ เธอเบื่อ
หนา่ ยพวกเขาแล้ว

แม่มดผู้เก่งกล้าเหล่าน้ีถูกมองว่าเป็นคนช่ัวร้าย น่ันบางทีอาจเน่ืองจาก
การที่พวกนางให้ความภักดีต่อเทพธิดาตามท�ำเนียมของศาสนาโบราณ เหล่า
ผู้นบั ถือศาสนาท่ีใหม่กว่าจึงมองแม่มดเหล่านนั้ วา่ เปน็ คูแ่ ข่งท่ีนา่ กลวั  เช่นเดยี ว
กบั ทท่ี ำ� กนั อยใู่ นวฒั นธรรมทง้ั หลาย ทวา่ ในการพสิ จู นค์ วามจรงิ พบวา่  ตำ� ราทงั้
ปวงต่างเน้นย�้ำถึงความรู้ด้านสมุนไพรและเวทมนตร์ของแม่มด อีกทั้งความรู้
ของพวกเธอได้รบั การสืบทอดตอ่ มาจนปัจจบุ นั โดยแม่มดยคุ ใหม่

แพน (Pan) คอื เทพเจา้ ดง้ั เดมิ ทสี่ ดุ ทไ่ี ดร้ บั การภกั ดจี ากแมม่ ด พระองค์
มีศีรษะเป็นกวางมีร่างเป็นมนุษย์ ทรงเป็นเทพแห่งธรรมชาติของชาวไสยลัทธิ

16 แม่มด: ประวัติศาสตร์แห่งไสยเวท

The Dawn of Witchcraft

เปน็ สว่ นหนงึ่ ของพชื และสตั วท์ ม่ี ชี วี ติ  ทรงสถติ อยกู่ บั เหลา่ เทพแี ละเหลา่ ผทู้ เ่ี รยี ก
ตัวเองว่า ‘ผพู้ ทิ ักษโ์ ลก’ (Guardians of Earth)

การแปลงรา่ ง (Shape Changing) เปน็ ความสามารถพเิ ศษประการ
หนึ่งที่เช่ือกันว่าสามารถท�ำได้โดยมนตราของแม่มด ไม่ว่าจะจริงหรือเท็จ แต่
การแปลงร่างถือเป็นเรื่องธรรมดาอยู่ในเทพปกรณัมและวรรณกรรมของกรีก
อย่างเช่นในต�ำนานรักของเทพซีอุส (Zeus) พระองค์ทรงแปลงร่างเป็นหงส์
และเป็นวัว หรือกระท่ังเป็นสายฝนทองค�ำ ว่าไปแล้วทรงท�ำทุกสิ่งทุกอย่างได้
ตามความปรารถนา ความเชอ่ื ซงึ่ มาทหี ลงั เชน่ นไ้ี ดร้ บั อทิ ธพิ ลมาจากแมม่ ดหรอื ไม?่

ในขอ้ เขยี นโบราณชอ่ื  Golden Ass (ลาทองคำ� ) เขยี นโดยอาปไู ลอสุ
แหง่ มาดอรา (Apuleius of Madaura) กก็ ล่าวถงึ การแปลงรา่ ง ในน้นั เปน็
ตำ� นานของชายชาวกรกี  ทเี่ ลา่ ถงึ หนมุ่ ผหู้ นง่ึ วา่ ภายใตค้ วามชว่ ยเหลอื ของแมม่ ด
ออ่ นหัด เขากลายไปเปน็ ลาโดยบงั เอิญ หลงั จากเท่ยี วออกไปผจญภยั มากมาย
เทพไี อซสิ  (Isis) ชว่ ยใหเ้ ขาเปลย่ี นรา่ งกลบั กลายมาเปน็ นกั บวชผภู้ กั ดขี องเธอ

เหล่านี้คือตัวอย่างชี้ถึงความเป็นสามัญของไสยลัทธิในยุคโบราณ ชาว
โรมันเองก็ใช้เวทมนตร์มากมายในชีวิตประจ�ำวัน พวกเขาใช้วิชาโหราศาสตร์,
เครอ่ื งราง, การเสกเป่า เพื่อการเยยี วยาและเพือ่ สาปแชง่

ในยคุ นน้ั ชาวโรมนั มเี ครอ่ื งมอื ทนี่ า่ สนใจอยา่ งหนงึ่  คลา้ ยกระดานผถี ว้ ย
แกว้  หรอื  Ouija board ทใี่ ชใ้ นการทรงเจา้ หรอื เรยี กภตู ผ ี เปน็ กระดานเหลก็
มีตัวอักษรและเครื่องหมายต่างๆ เขียนไว้ กระดานมีขาหยั่งสามขาท�ำด้วยไม้
ผทู้ ำ� พธิ กี รรมจะแขวนกระดงิ่ ไวด้ ว้ ยเสน้ ดา้ ยทางขวาเหนอื กระดาน เมอ่ื ปศี าจให้
คำ� ทำ� นาย กระดงิ่ จะแกวง่ คลา้ ยลกู ตมุ้ ไปตามตวั อกั ษรเหลา่ นน้ั เพอื่ ตอบคำ� ถาม
ของผปู้ ระกอบพธิ กี รรม

คัมภีร์ที่เรียกว่า ‘Aeneid’7 ของโรมัน พรรณนาถึงการใช้เวทมนตร์
อย่างเข้มข้น ในนั้นกล่าวถึง ‘ไดโด’ (Dido) ว่าเป็นแม่มดทรงอำ� นาจ แต่ท้าย

อรุณรุ่งของไสยลัทธิ 17

Witchcraft History

ที่สุดเธอหันมาต่อต้านตัวเองเช่นเดียวกับแม่มดมีเดียของกรีก ส่วนบทละครที่
เขียนโดยฮอเรซ (Horace)8 ให้ภาพแม่มดท่ีน่ากลัวและเต็มไปด้วยความชั่ว
ร้าย เชน่ พรรณนาถงึ พธิ ีกรรมอนั นา่ พรั่นพรงึ รวมทง้ั การสังหารเด็ก

กล่าวกันว่าชาวโรมันมักให้ภาพแม่มดไปในทางร้ายด้วยพึงใจในความ
โหดร้าย ผู้คนชอบดูเกมต่อสู้ในสังเวียน ระหว่างคนกับคนหรือมนุษย์กับสัตว์
รา้ ย ทง้ั ชนื่ ชอบความโหดรา้ ยในสงคราม เรอื่ งเลา่ ของแมม่ ดสะทอ้ นรสนยิ มแบบ
น้ไี ด้ดี ไมน่ ่าสงสยั ท่ีวา่ ทำ� ไมแมม่ ดโรมันจงึ มีแต่ดา้ นมืด เนอื้ เรือ่ งในตำ� นานมกั
ระบุว่าบ่อยคร้ังแม่มดใช้ยาพิษ ท�ำพิธีทรงเจ้าเข้าผี ปลุกวิญญาณ และสร้าง
ปีศาจซอมบี แม้จะมีข้อเท็จจริงท่ีว่ามีชาวโรมันมากมายเขียนมนตราไว้บน
แผ่นตะกั่วเพ่ือสาปแช่งปฏิปักษ์ของตน ทั้งหมดน้ีถือเป็นช่วงเวลาที่น่าเศร้า
ส�ำหรับสาวกของศาสนาโบราณอยา่ งแมม่ ด

ตรงกนั ขา้ มกบั ชาวอยี ปิ ต ์ ชนชาตผิ ใู้ หก้ ำ� เนดิ อารยธรรมในยคุ แรก ทนี่ น่ั
ผคู้ นเชอื่ ถอื มนตราดจุ ดง่ั วทิ ยาศาสตร ์ มนตราผสมผสานอยใู่ นศาสนา พธิ กี รรม
ต้องกระท�ำอย่างพิถีพิถัน ในเทพปกรณัมและต�ำรามนตราต่างๆ สะท้อนอย่าง
ชดั แจง้ วา่ พวกเขามรี ะบบความเชอ่ื ทว่ี างอยบู่ นวชิ าการ มกี ารแบง่ แยกตำ� ราออก
เปน็ วชิ าโหราศาสตร ์ (astrology), การแปรธาต ุ (alchemy) และสตู รทอ่ งจำ�

■ มเี ดยี
เทพขี องชาวกรีก

18 แม่มด: ประวัติศาสตร์แห่งไสยเวท

The Dawn of Witchcraft

ส�ำหรับมนตราที่ใช้ในชีวิตประจ�ำวัน เป็นต้น ผู้ประกอบพิธีกรรมต้องเป็น
ผเู้ ชย่ี วชาญ คนสามญั นอกจากตอ้ งปรกึ ษาผเู้ ชย่ี วชาญแลว้  ยงั ตอ้ งซอื้ เครอื่ งราง
และสมุนไพรเพ่ือปกป้องตวั เอง ทัง้ ต้องร่ายเวทด้วยตวั เองอกี ด้วย

ใน The Book of Dead หรือ ‘คัมภีร์แห่งความตาย’9 ของอียิปต์
ระบุว่าประตูของโลกแห่งความตายจะไม่เปิดให้กับผู้ไม่รู้จักช่ือลับของตน หรือ
ผู้ท่ีออกเสียงไม่ถูกต้อง แต่ละประตูต้องออกเสียงและอ่านชื่อประตูให้ถูกต้อง
ชาวอียิปต์มีต�ำรามากมายเกี่ยวกับสูตรมนตรา รวมท้ังการท�ำนายโชคชะตา,
ค�ำสาปแช่ง และเคร่อื งรางสำ� หรับใช้ในชวี ติ ประจำ� วัน

เครอ่ื งรางถอื เปน็ ของสำ� คญั ทข่ี าดไมไ่ ด ้ มนั ใชส้ วมสำ� หรบั ผยู้ งั มชี วี ติ และ
วางไวบ้ นรา่ งผตู้ าย เครอ่ื งรางอาจทำ� ดว้ ยวสั ดตุ า่ งๆ บางครง้ั จารกึ ไวด้ ว้ ยมนตรา
บางอันมีรูปร่างเปน็ ที่นยิ ม เชน่  รปู แมงสะคารับ (scarab) และรปู หัวใจ ชาว
อยี ปิ ตบ์ างคนมเี ครอ่ื งรางไวป้ กปอ้ งอวยั วะแตล่ ะสว่ น บางตำ� รากลา่ วถงึ ความฝนั
และการแปลงร่าง เช่น มีค�ำสาปอยู่ในต�ำรา Book of Dead สอนให้ผู้เพ่ิง
ตายแปลงร่างเปน็ นก, จระเข้ หรอื  อสรพษิ

ภาพเชิงบวกของแม่มดด�ำเนินมาหลายชั่วอายุคน อย่างไรก็ตาม ท้าย
ท่ีสุดลัทธิพระเจ้าองค์เดียว (Monotheism) เข้ายึดครองโลกตะวันตก แรก
สดุ คือลทั ธิยูดาย (Judaism) และตอ่ มาคือคริสตศ์ าสนา และแลว้ สถานภาพ
ของแม่มดกลายเป็นความเลวร้าย ไบเบิลกล่าวถึงแม่มดไปในทางลบ บางยุค
แมม่ ดถกู นกั บวชในครสิ ต์ศาสนาประหารอยา่ งโหดเหีย้ ม

แมม่ ดมชี อื่ รายหนงึ่ คอื  ‘แมม่ ดแหง่ เอน็ ดอร’์  (Witch of Endor)10 เธอ
เป็นหนึ่งในผู้รอดชีวิตหลังจากเหล่าแม่มดถูกเข่นฆ่าโดยกษัตริย์ซาอูล (King
Saul) ตามค�ำสง่ั ของซามูเอล (Samuel)-ศาสดาพยากรณ์

ในยคุ แรก โมเสส (Moses) และอารอน (Aaron) ตา่ งนบั ถอื มนตรา
ของอียิปต์ ดังพรรณนาอยู่ในคัมภีร์ Exodus เช่นกล่าวว่าโมเสสสามารถเสก

อรุณรุ่งของไสยลัทธิ 19

Witchcraft History

กิ่งไม้ให้เป็นงูในระหว่างแข่งขันกับผู้วิเศษชาวอียิปต์ เมื่อโรคระบาดเข้าจู่โจม
ชาวอยี ปิ ต ์ ผคู้ นเชอ่ื วา่ เปน็ ฝมี อื ของแมม่ ดผชู้ วั่ รา้ ย แตไ่ บเบลิ ของครสิ ตก์ ลา่ วถงึ
โรคระบาดเหลา่ น้ันว่าเปน็ การลงโทษของพระเจา้

กล่าวกันว่ากษัตริย์โซโลมอน (King Solomon) ราชบุตรของดาวิด
(David) ทรงเป็นผู้ฉลาดที่สุดในยุคของพระองค์ หรือกระท่ังฉลาดท่ีสุดใน
บรรดาสิ่งมีชีวิตบนผิวโลก ทรงเป็นพ่อมดผู้วิเศษเช่นเดียวกัน หนังสือ ‘The
Wisdom of Solomon’ (ปัญญาของโซโลมอน)11 เขียนขึ้นหลายปีหลังจาก
พระองค์สิ้นพระชนม์ แต่ข้อความไม่น้อยในน้ันได้มาจากปากค�ำของพระองค์
เอง ทรงกล่าวว่าพระเจ้ามอบอ�ำนาจและความรู้ให้พระองค์ และส่ิงท่ีพระองค์
เรยี นรมู้ ไิ ดม้ เี พยี งศาสตรต์ า่ งๆ เทา่ นนั้  แตร่ วมทงั้ มนตราดว้ ย ในภายหลงั ผคู้ น
ชนื่ ชมในพระองคว์ า่ ทรงเป็น ‘พอ่ มดขาว’ (white witch)

ตามตน้ ฉบบั เดมิ ระบวุ า่ กษตั รยิ โ์ ซโลมอนมอี ำ� นาจเหนอื ปศี าจ (demons)
แต่มาเขียนผิดเป็น ‘เหนือพายุ’ (wind) เพราะสองค�ำนี้คล้ายกันมากในภาษา
ฮีบรูว์ นอกจากน้ียังอ้างว่าทรงมีความรู้ด้าน ‘การไล่ผี’ (exorcism) ในคร้ัง
กระโน้นการไล่ผีมีบทบาทส�ำคัญ เพราะมีโรคภัยหลายชนิดท่ีท�ำให้ผู้ป่วยมี
อาการเหมอื นถูกผีเข้า 

โดยทว่ั ไปศาสนาใหมก่ ำ� เนดิ ขน้ึ จากอทิ ธพิ ลของศาสนาเกา่  ดว้ ยเหตนุ จ้ี งึ
มไี สยเวทและการพยากรณด์ วงชะตามากมายปรากฏอยใู่ นคมั ภรี ท์ างศาสนาของ
ฮีบรูว์ เช่นในพระคัมภีร์ ‘โทราห์’ (Torah) พระคัมภีร์เล่มนี้มีถ้อยค�ำจ�ำนวน
มากท่ีบง่ ถงึ มนตราและพธิ กี รรม 

ดังเชน่ :
nahash เปน็ นาม แปลวา่  ง ู (snake) เมอื่ เปน็ กรยิ า แปลวา่  สง่ เสยี งฟอ่
(hissing) หรอื อาจแปลวา่ เสียงกระซบิ  (whispering)
Onan แปลว่า เมฆ (clouds) มีนยั ยะถงึ การใชม้ นตรา

20 แม่มด: ประวัติศาสตร์แห่งไสยเวท

The Dawn of Witchcraft

Kashaph มีความหมายกำ� กวม กลา่ วคอื ตามรากศัพทแ์ ปลว่า พึมพ�ำ
(mutter) หากเป็น kash ค�ำเดียวแปลว่าสมุนไพร hapalah แปลว่าใช้
(using) รวมแลว้ แปลวา่ ใช้สมุนไพร

ba’alob แปลว่านายแหง่ วญิ ญาณ (master of spirits)
yidde’oni แปลว่าผู้รับข่าวสารจากปีศาจ (gainer of information
from ghosts)
เหล่านีค้ อื ตัวอย่างไสยลัทธิทีป่ รากฏอยใู่ นศาสนายูดายของชาวยิว

■ แพน
เทพเจา้ แหง่
ธรรมชาติ
อรุณรุ่งของไสยลัทธิ 21

Witchcraft History

แมก้ ระนนั้ ยงั มขี อ้ ความระบไุ วใ้ นพระคมั ภรี ไ์ บเบลิ วา่ ชาวครสิ ตต์ อ้ ง “ไม่
ยินยอมให้แม่มดมีชีวิตอยู่” (Do not allow a sorceress to live. /
Exodus 22: 18) เหตผุ ลนน้ั งา่ ยมาก นกั มานษุ ยวทิ ยาอธบิ ายวา่ แมม่ ดไมเ่ พยี ง
ภักดีต่อศาสนาคู่แข่ง แต่เป็นสัญลักษณ์ของสังคมที่สตรีมีอ�ำนาจ (Matriar-
chal Society) สังคมที่ปกครองโดยผู้หญิงเป็นภัยต่อยิวและคริสต์ที่ถือเอา
ผ้ชู ายเปน็ ใหญ่

คริสต์ศาสนายุคแรกมองสตรีว่าเป็นสาเหตุของบาปก�ำเนิด (Original
Sin) อันเน่ืองมาจากต�ำนานที่ว่าอีฟชักชวนอาดัมให้กินแอปเปิลของซาตาน
ครสิ ตจกั รยงั มองสตรวี า่ ออ่ นแอ, โงเ่ งา่ , ไรศ้ รทั ธา ออ่ นไหวตอ่ บาป สตรจี งึ ถกู
ริบสิทธิ, ไร้การปกป้อง และไร้เกียรติในทุกทาง ตรงกันข้ามกับศาสนาดั้งเดิม
อื่นๆ ที่สตรีสามารถเป็นนักบวช, เป็นแม่มด, เป็นหมอยา และเป็นครู อาชีพ
ท้งั หมดได้รับการยกยอ่ งในสังคม

การตง้ั รกรากในคานาอาน (Canaan) ของชาวอสิ ราเอลเปน็ จดุ ผกผนั
ทางประวัติศาสตร์ มันช้ีว่าอ�ำนาจของศาสนาเก่าหรืออ�ำนาจของไสยลัทธิเร่ิม

■ คัมภรี ์มรณะของชาวอียิปต์

22 แม่มด: ประวัติศาสตร์แห่งไสยเวท

The Dawn of Witchcraft

เสอื่ มคลาย แมใ้ ชเ้ วลาหลายศตวรรษและมกี ารสรู้ บอยา่ งดเุ ดอื ด ทวา่ ทา้ ยทสี่ ดุ
ศาสนาท่ีเป็นธรรมชาติและอ่อนโยนก็พ่ายแพ้แก่ศาสนาใหม่ท่ีทรงอ�ำนาจและมี
ก�ำลังทางทหารเหนือกว่า ความเช่ือแบบยิว-คริสเตียนได้ทำ� ลายล้างทุกส่ิงทุก
อยา่ งด้วยวถิ อี นั รุนแรงกระทัง่ สามารถพิชติ โลกตะวนั ตก

สำ� หรบั ชาวยวิ -ครสิ เตยี น แมม่ ดหรอื ไสยลทั ธเิ ปน็ ความเชอ่ื ทม่ี าจากลทั ธิ
นอกศาสนา (Paganism) ทงั้ ถอื วา่ แมม่ ดเปน็ หนง่ึ ในกลมุ่  ‘นอกรตี ’ (Heresy)
ทต่ี อ้ งถกู กำ� จดั แมว้ า่ ในสงั คมยโุ รปยคุ โนน้ ผคู้ นจำ� นวนมากยงั ประกอบไสยเวท
เปน็ อาชพี หรอื กงึ่ อาชพี  แมม่ ดในยโุ รปเชอื่ มน่ั ในการใชม้ นตราและสมนุ ไพรเพอื่
รักษาโรค ใช้เวทมนตร์ชี้รูปพรรณของคนร้าย ท�ำนายอนาคตล่วงหน้า ค้นหา
ทรัพย์สินท่ีสูญหาย ท้ังหมดนั้นเพ่ือแลกกับค่าจ้าง พวกเธอยังต่อต้านการใช้
ไสยเวทไปในทางช่ัวร้ายอีกดว้ ย

อยา่ งไรกต็ าม กจิ กรรมดงั กลา่ วเปน็ เพยี งการใชม้ นตราในระดบั ลา่ ง ใน
ยคุ ฟน้ื ฟศู ลิ ปะและวทิ ยาการ (Renaissance) เหลา่ ผคู้ งแกเ่ รยี นฝกึ การใชม้ น
ตราในระดบั สงู  เขาเหลา่ นนั้ ไดแ้ กน่ กั บวชในครสิ ตศ์ าสนา รวมทง้ั ผเู้ ชยี่ วชาญท่ี
ศึกษาด้านเทววิทยาภายใต้อิทธิพลของลัทธิเพลโตใหม่ (Neo-Platonism)
เปน็ ความซบั ซอ้ นทม่ี องการทำ� ไสยเวทวา่ เปน็ สว่ นหนงึ่ ของระบบทางจติ วญิ ญาณ

ระหว่างศตวรรษท่ี 12-15 ยามที่คริสต์ศาสนาได้รับการเผยแพร่ไปทั่ว
ยุโรปแล้ว กระน้ันโดยท่ัวไปยังปนเปอยู่กับความเชื่อแบบไสยเวท ผู้คนหลาก
หลายอาชีพยังคงใช้เวทมนตร์กันอยู่ในชีวิตประจ�ำวัน นักบวช, แพทย์, ศัลย-
แพทย์, หมอต�ำแย, หมอยา และโหราจารย์ เหล่าน้ีล้วนใช้คาถาอาคมอยู่ใน
วชิ าชีพทงั้ ส้นิ

หนงั สอื และตำ� ราตา่ งๆ ในสมยั นน้ั ผเู้ ขยี นสว่ นใหญเ่ ปน็ นกั บวชมากกวา่
เปน็ ฆราวาส ในยคุ ทคี่ นสว่ นใหญไ่ มร่ หู้ นงั สอื นกั บวชคอื ชนชนั้ ผอู้ า่ นออกเขยี น
ได้ พวกเขามีเวลาท�ำงานเขียนตลอดทั้งวัน ท้ังใช้มนตราเพื่อเยียวยารักษาโรค

อรุณรุ่งของไสยลัทธิ 23

Witchcraft History

ให้กับผู้คน อารามหรือโบสถ์แต่ละแห่งถูกคาดหวังว่าสามารถจะช่วยรักษา
เยียวยาผู้คนให้หายจากโรคภัยโดยใช้มนตรา หรือเครื่องราง หรือยาส่ัง เพ่ือ
ก�ำจดั อาการป่วยไข้

นกั บวชสามญั ในเขตปกครองใดๆ อาจมปี ระสบการณเ์ กย่ี วกบั ยา อยา่ ง
นน้ั กใ็ ชม้ นตราควบคไู่ ปดว้ ย เชน่  ในศตวรรษท ี่ 12 พระมหี นา้ ทตี่ อ้ งทำ� พธิ กี รรม
ทางด้านเกษตรเพ่ือความสมบูรณ์ของพืชพันธุ์ พิธีกรรมอาจต้องใช้เวลาทั้งวัน
เชน่  ขดุ ดนิ ประพรมนำ�้ ศกั ดสิ์ ทิ ธท์ิ ที่ ำ� ดว้ ยนำ้� มนั พชื , นม, นำ้� ผงึ้ , สมนุ ไพร ขณะ
สวดมนตไ์ ปดว้ ย สงิ่ นมี้ องวา่ เปน็ พธิ กี รรมแบบครสิ ต ์ เนอื่ งจากเปน็ มนตราทไี่ ด้
จากพระคัมภีร์ไบเบิล การใช้มนตราเช่นนี้แพร่หลายทั่วไป มันถูกมองว่าเป็น
กจิ กรรมภายใตร้ ม่ ของครสิ ตศ์ าสนา แมจ้ ะเกย่ี วพนั อยกู่ บั การใชเ้ วทมนตรก์ ต็ าม

การเยยี วยาในยคุ กลาง (Middle Age) บอ่ ยครง้ั อยใู่ นรปู ของ ‘มนตร์
ธรรมชาต’ิ  อยา่ งเชน่ ทปี่ รากฏใน ‘Leechbook’ หรอื  ‘คมู่ อื แพทย’์  ทรี่ วบรวม
ไวซ้ ง่ึ สมนุ ไพรทงั้ หลาย เปน็ ตน้ วา่ ในการรกั ษาโรคผวิ หนงั ซงึ่ ตอ้ งใชส้ มนุ ไพร แต่
ในน้ันมีค�ำแนะน�ำให้เจาะเลือดออกจากคอของผู้ป่วย แล้วเทลงในกระแสน�้ำ
ไหล หยดเลือดลงในน้ำ� สามคร้งั  ตามดว้ ยคาถาบางอยา่ ง เปน็ อันเสรจ็ พิธี

ในคู่มือแพทย์ที่ช่ือ ‘Lucnunga’ แนะน�ำให้ใช้ยารักษาโรคที่ได้จาก
วัฒนธรรมพ้ืนบ้านของยุโรป กระน้ันไม่วายเก่ียวโยงอยู่กับการใช้เวทมนตร์
เช่น ก�ำหนดให้มีผู้สวดมนตร์กลุ่มหนึ่งมานั่งสวดอยู่เบื้องหน้าส่วนผสมของยา
แลว้ นำ� สงิ่ นน้ั ไปผสมกบั ฟางทมี่ ชี อื่ ของนกั บญุ ตดิ อย ู่ เชน่ นกั บญุ  แมทธวิ , มารค์ ,
ลุ๊ค และ จอห์น เป็นต้น บ่อยคร้ังมีค�ำสวดคาถาในภาษาลาตินก�ำกับเคร่ืองยา
ไวด้ ้วย

กิจวัตรเหล่าน้ีเกิดข้ึนในขณะมีการประณามไสยลัทธิอยู่ในไบเบิล เช่น
ในพระคมั ภรี เ์ กา่ บททชี่ อ่ื  Deuteronomy ขอ้  18:11-12 ซง่ึ กลา่ วประณาม “ผู้
เสกมนตร์, ผู้เป็นร่างทรง, เป็นแม่มด, หรือหารือกับปีศาจ” ท้ังระบุว่า “ผู้ใด

24 แม่มด: ประวัติศาสตร์แห่งไสยเวท

The Dawn of Witchcraft

■ โมเสสเนรมิตอสรพิษเบอื้ งหนา้ ฟาโรห์

ปฏิบัติเช่นนี้ถือเป็นที่รังเกียจของพระเจ้า แลด้วยการปฏิบัติท่ีน่ารังเกียจนี้
พระเจา้ จะขับไล่เขาเหล่านน้ั ”

ว่าไปแล้วศาสดาของคริสต์ศาสนา คือพระเยซูยังถูกศาสนาเก่ามองว่า
แท้แล้วทรงเป็นพ่อมดคนหนึ่ง กล่าวคือตามประวัติพระเยซูรักษาคนป่วยด้วย
การ ‘วางมอื ’ ลงบนรา่ งกาย ทรงใหค้ ำ� ทำ� นาย สามารถทำ� ใหค้ นตายฟน้ื คนื  แม้
กระทั่งพระองค์เองเม่ือส้ินชีพแล้วยังฟื้นคืนข้ึนมาได้ ทรงก�ำเนิดมาจากเทพเจ้า
(ทรงเป็นพระบุตร) ทรงก�ำเนิดมาจากสตรีพรหมจรรย์ (Virgin Birth) ทรง
อ้างว่าพลังของพระองค์มาจากพระเจ้า คุณสมบัติเหล่าน้ีพระองค์จะเป็นอื่นไป
ไมไ่ ดน้ อกจากพอ่ มดผู้วเิ ศษ!

เห็นได้ชัดว่ามนตรา-ไสยเวท-และแม่มดเป็นวัฒนธรรมดั้งเดิมที่ทรง
อิทธิพลและแฝงฝังอยู่ในวิถีชีวิตจนยากจะขจัดออกไปได้ในเวลาอันสั้น มัน
ปรากฏอยู่ในความเช่ือ, ในคาถาอาคม, ต�ำนาน และเทพนิยาย กระท่ังพัฒนา
มาถึงโลกยุคใหม่ ไสยลัทธิท�ำหน้าท่ีเป็นหมอพื้นบ้าน, เป็นท่ีพ่ึงทางจิต

อรุณรุ่งของไสยลัทธิ 25

Witchcraft History

■ กษตั รยิ ์โซโลมอนแหง่ เยรซู าเลม็ ผู้ได้ชือ่ ว่าเปน็ พอ่ มดขาว

วญิ ญาณ, เปน็ พธิ กี รรมทางสงั คม เปน็ ความเรงิ รมยอ์ ยใู่ นบทละคร, นยิ าย และ
วรรณคดพี น้ื ถ่ิน

ว่าแต่ในความเป็นจริงแม่มดเป็นอย่างไร แน่นอน-เป็นมากกว่าการ
ร่ายมนตร์ มันคือศาสนา มีหลักค�ำสอน มีความยึดม่ันในหลักปฏิบัติ มี
พิธีกรรม มีการรับสมาชิกหรือศาสนิก มีความยึดม่ันและลึกซ้ึงต่อโลก มีการ
สบื ทอดความเชอ่ื กนั มายาวนาน แมม่ ดเป็นมากกว่าทบี่ ่งไว้ในนวนยิ าย

แม่มดคือผู้ใช้เวทมนตร์เพื่อสร้างพลัง เป็นผู้มีพรสวรรค์พิเศษที่อาจใช้
พลังไปสรา้ งคุณหรอื โทษ กระนนั้ แม่มดต้องไมย่ ุ่งเก่ยี วกบั กิจกรรมไรศ้ ลี ธรรม
แม่มดเชื่อว่าพลังในร่างกายมีอยู่จริง ผู้ฝึกตนจนส�ำเร็จร่างกายจะปลดปล่อย
สนามแมเ่ หลก็ ออกมาเปน็ รงั ส ี เรยี กกนั ในโลกสมยั ใหมว่ า่  ‘ออรา่ ’ (Aura) ทง้ั น้ี
เปน็ ไปตามการพสิ ูจนข์ องนักปรจติ วิทยา (Parapsychologist)

แมม่ ดยงั เชอื่ เรอ่ื งแยกจติ ออกจากกาย หรอื ปลอ่ ยใหจ้ ติ ไปมปี ระสบการณ์
นอกรา่ งกาย (out of body experience) เรยี กยอ่ ๆ วา่  OBE กระนน้ั บาง
คนเช่ือว่าส่ิงนี้เป็นเพียงความฝัน หรืออาการหลอน บ้างว่าเป็นส�ำนึกที่ยืดออก

26 แม่มด: ประวัติศาสตร์แห่งไสยเวท

The Dawn of Witchcraft

ไปจากตัวเอง แต่แม่มดเชื่อว่าตัวเองแยกจิตออกจากกายได้ ทั้งนี้โดยผ่านการ
ฝกึ ฝนอยา่ งเข้มงวด

คนทั่วไปเชื่อว่าแม่มดสามารถบินได้ แต่ในทางปฏิบัติพวกนางเหินบิน
ดว้ ยการถอดจติ ออกจากกาย ความจรงิ เรอื่ งนไี้ ดจ้ ากการสารภาพของแมม่ ดเมอื่
ถกู จบั ตวั มาทรมาน การบนิ สามารถทำ� ไดด้ ว้ ยการใชส้ มนุ ไพรหลอนประสาทบาง
อย่าง

อย่างไรก็ตาม ดร.ไอลิล อาร์เบล (Dr. Ilil Arbel) ผู้ค้นคว้าเกี่ยวกับ
แม่มด กล่าวถึงหลักความเช่ือของชาวไสยเวทไว้ใน Witchcraft Encyclo-
pedia Mythica ว่าในฐานะเป็นศาสนาโบราณ ชาวไสยลัทธิเช่ือว่าโลกและ
เอกภพเกดิ จากพลงั งานซงึ่ เปน็ สว่ นผสมระหวา่ งสสารกบั อเี ธอร ์ (Ether) ทง้ั เชอ่ื
วา่ ในไฟมชี วี ติ และความคดิ  องคภ์ วนั ตส์ งู สดุ  (Supreme Being) ใชห้ มอก
ควนั จากพลงั งานนคี้ วบแนน่ เปน็ นำ้� , ดนิ และอากาศ เมอ่ื ผนวกเขา้ กบั ไฟ สรรพ
ส่ิงไดก้ อปรข้นึ เป็นชีวติ ทางกายภาพและจิตวิญญาณ

ภวันต์ท่ีมีปัญญาต่างๆ ได้ก�ำเนิดมาเป็นชีวิต บางชนิดมีภาวะต่�ำกว่า
มนษุ ย ์ เชน่  สตั วแ์ ละพืช บางภวนั ตม์ ภี าวะสูงกวา่ มนษุ ย ์ เชน่  ปวงเทพและจติ
วญิ ญาณอนื่ ๆ ทง้ั หมดคอ่ ยพฒั นาตวั เองอยา่ งชา้ ๆ ผา่ นกาลเวลานบั ลา้ นป ี กลาย
เปน็ ภาวะซบั ซอ้ นและเปล่ยี นแปลงรูปร่างหน้าตา

สรรพส่ิงเหล่านี้เคยเกิดขึ้นและยังจะเกิดขึ้นต่อไป ใช่เพียงบนโลกของ
เราเท่านน้ั แต่ทว่ั ทงั้ เอกภพ พลังงานท่ยี ่งิ ใหญ่ภายใตก้ ารกำ� กบั ของภวันตส์ งู สุด
จะเตบิ โต ขยายตวั  และบงั เกดิ เปน็ สรรพสง่ิ  ตงั้ แตส่ ง่ิ เลก็ ทส่ี ดุ เรอื่ ยไปถงึ ระบบ
ของดวงดาว

นับแต่จิตวิญญาณปรากฏขึ้น ความคิดก็เป็นรูปแบบหนึ่งของสิ่งน้ี จาก
การถ่ายทอดความคิดท�ำให้มนุษย์สามารถสรรค์สร้างส่ิงต่างๆ ขึ้นจากพลังงาน
ส่วน ‘มนตรา’ ก็ท�ำหน้าที่สร้างสรรค์เช่นกัน มันก่อให้เกิดข้ึนซ่ึงเหตุการณ์และ

อรุณรุ่งของไสยลัทธิ 27

Witchcraft History

วัตถุต่างๆ ในแบบทีแ่ ตกตา่ งจากวถิ ีปกติ
แมม่ ดเชอ่ื ในความจรงิ ทวี่ า่ มนษุ ยก์ อปรดว้ ย 3 สว่ น ไดแ้ ก ่ กายซง่ึ เปน็

พาหะทางโลก จิตเป็นส่วนของเหตุผล วิญญาณเป็นส่วนของความเป็นอมตะ
วญิ ญาณองิ อาศยั อยใู่ นกายตา่ งๆ มากหลาย จนกวา่ จะเรยี นรพู้ อทจ่ี ะกลบั ไปสู่
ภวนั ตส์ ูงสุด

ชาวไสยเวทเชอื่ ในการกลบั ชาตมิ าเกดิ  (Reincarnation) ทงั้ เชอื่ วา่ การ
เกิดใหม่น้ีก่อให้เกิดความสืบเนื่องทางการเรียนรู้ ด้วยว่าชีวิตในร่างกายท่ียึด
ครองไว้ด้วยวญิ ญาณจะสอนและทำ� ใหว้ ิญญาณบริสทุ ธขิ์ ึน้  เปน็ การเตรยี มการ

■ พระเยซรู ักษาผ้ปู ว่ ย
ดว้ ยการวางมือ

28 แม่มด: ประวัติศาสตร์แห่งไสยเวท

The Dawn of Witchcraft

อย่างช้าๆ ของวิญญาณ เพื่อว่าในท้ายที่สุดเม่ือน�ำประสบการณ์เดิมกลับมาสู่
การเกิดใหม่ มันจะรวมตัวเข้ากับพลังสร้างสรรค์เพ่ือยกระดับคุณภาพของตัว
เอง

ดังนั้นธรรมชาติจึงคือท่ีมาของพลังชีวิต เราทุกคนเป็นส่วนหน่ึงของ
ธรรมชาต ิ การทำ� ลายสว่ นทเ่ี ลก็ ทส่ี ดุ ใดๆ กเ็ ทา่ กบั ทำ� ลายสว่ นทง้ั หมด ชาวลทั ธิ
แม่มดจึงงดเว้นการท�ำลายธรรมชาติ ตรงกันข้าม พวกนางเรียกตัวเองว่า ‘ผู้
พิทักษ์โลก’ (The Guardian of the Earth) แม่มดพยายามหาวิธีปกป้อง
และเยียวยาโลก ส�ำหรับพวกนางแล้ว ต้นไม้ ใบหญ้า หอยทาก หรือช้าง มี
ความสำ� คญั ทง้ั สนิ้  แมม่ ดทแี่ ทเ้ ชอื่ วา่ ตวั เองและระบบนเิ วศเปน็ สง่ิ เดยี วกนั  พวก
นางจะรสู้ กึ ปวดร้าวเมอื่ ธรรมชาตถิ ูกทำ� ลาย

ศาสนาโบราณน้ีไม่มีพระคัมภีร์ มีแต่หลักค�ำสอนท่ีสืบทอดกันมา หลัก
ค�ำสอนดังกล่าวมีพ้ืนฐานอยู่บนกฎธรรมชาติ ที่มุ่งเน้นความสมดุลของชีวิตใน
ธรรมชาติของโลก รวมท้ังของเอกภพที่หมุนวนเป็นวัฏสงสาร ส่วนความดีและ
ชว่ั นน้ั เปน็ เพยี งความคดิ ของมนษุ ย ์ พลงั ทแี่ มม่ ดยดึ ถอื มภี าวะเปน็ กลางตอ่ ความ
ดแี ละชวั่  พลงั อาจนำ� มาใชเ้ ยยี วยาหรอื ทำ� ลายลา้ งกไ็ ด ้ กระนนั้ ชาวไสยลทั ธดิ ำ� รง
ชวี ิตอยูใ่ นกฎเกณฑ์อย่างเคร่งครัด หลกี เล่ยี งการท�ำลายลา้ งสิ่งใดๆ

ชาวลทั ธแิ มม่ ดมงุ่ แสวงหาความดสี งู สดุ  (Absolute Good) โดยผา่ น
การค้นหาและแก้ไขความไม่สมบูรณ์ของตัวเอง ความดีภายในตัวมาจากองค์
ภวันต์สูงสุด ความช่ัวคือสิ่งต้องหลีกเลี่ยง การสมคบกับความชั่วร้ายจะฉุดร้ัง
การแสวงหาความดสี งู สดุ  อยา่ งไรกต็ าม เนอ่ื งจากสรรพสง่ิ ถกู สรา้ งขนึ้ โดยองค์
ภวนั ตส์ งู สดุ  จงึ มใิ ชห่ นา้ ทขี่ องแมม่ ดทจ่ี ะตดั สนิ พฤตกิ รรมของผอู้ น่ื  ปจั เจกชน
ตอ้ งรบั ผดิ ชอบการกระท�ำของตัวเอง

ดงั นแ้ี มม่ ดจงึ ไมส่ าปแชง่ หรอื ใหร้ า้ ยผใู้ ด เพราะสง่ิ นนั้ จะสง่ ผลรา้ ยกลบั
มาสู่ตัวนางเอง ธรรมชาติอยู่นอกเหนือการควบคุมของพวกเธอ แม่มดท�ำได้

อรุณรุ่งของไสยลัทธิ 29

Witchcraft History

เพียงหลีกเล่ียงหลุมพราง หลีกเลี่ยงการต�ำหนิหรือกล่าวโทษส่ิงแวดล้อมรอบ
ขา้ ง เชน่ เทพเจา้ หรอื มนษุ ยค์ นใดวา่ เปน็ เหตแุ หง่ ความโชครา้ ยของพวกนาง ทงั้
พยายามเรียนรู้สงิ่ ต่างๆ จากเหตุการณอ์ นั ยุง่ ยาก

ชาวไสยลัทธิไม่มีโบสถ์ แม่มดนับถือพลังสร้างสรรค์ที่แสดงตัวผ่าน
ธรรมชาต ิ หรือผา่ นเทพและเทพแี หง่ ธรรมชาติ กระนัน้ ในฐานะเป็นศาสนาของ
สตรี แม่มดยกย่องเทพีสูงกว่าเทพเจ้า ส�ำหรับเทพเจ้านั้นถือเป็นพลังฝ่ายบุรุษ
ผสู้ รา้ งโลกใหอ้ บอนุ่ และกอ่ ใหเ้ กดิ พชื พนั ธ ์ุ พระองคไ์ ดร้ บั การนบั ถอื วา่ เปน็ พลงั
แหง่ ดวงตะวนั  ทงั้ แฝงฝงั วญิ ญาณของพระองคไ์ วใ้ นปา่ , ตน้ ไมแ้ ละผนื นำ�้  สว่ น
เทพเี ปน็ มารดาของสง่ิ ทง้ั ปวง เปน็ สญั ลกั ษณแ์ หง่ ความอดุ มสมบรู ณ ์ ทรงแสดง
ตนออกมาเป็นดวงจันทราและวัฏจักรของมัน เทพเจ้าทั้งสองถือเป็นส่วนหนึ่ง
ของโลก ขณะองคภ์ วนั ตส์ งู สดุ สถติ อยเู่ หนอื สงิ่ อน่ื ใด มภี ารกจิ อยกู่ บั เอกภพทงั้
มวล

โดยผา่ นการทำ� สมาธ ิ แมม่ ดจะสามารถสมั ผสั กบั ภวนั ตท์ สี่ งู กวา่  ภวนั ต์
เหล่าน้ันช่วยแม่มดในการพัฒนาชีวิตตัวเอง กระนั้นก็มิได้น�ำไปสู่การพึ่งพา
มนุษย์แต่ละคนต้องรับผิดชอบการเติบโตของตนเอง ดังนั้นแม่มดจึงท�ำสมาธิ
และตดิ ตอ่ กบั ภวนั ตเ์ หลา่ นน้ั ในขอบเขตจำ� กดั  ตอ่ เมอ่ื จติ วญิ ญาณของตนพฒั นา
ไปจนก่อให้เกิดผลสะเทือนสูงขึ้น ท�ำให้ผู้นั้นเข้าใกล้องค์ภวันต์สูงสุดมากข้ึน
เม่ือน้นั มนตราของแม่มดจะประสบผลงา่ ยข้ึน

เปา้ หมายของแมม่ ดกค็ อื ความสามารถเหน็ ความเชอ่ื มโยงหรอื สมั พนั ธ-
ภาพในเอกภพ เนอื่ งจากเอกภพสรา้ งขนึ้ จากพลงั สรา้ งสรรคข์ องภวนั ตส์ งู สดุ  ทกุ
สง่ิ ทกุ อยา่ งจงึ เชอ่ื มโยงกนั  เมอ่ื รบั รถู้ งึ ความเชอ่ื มโยงดงั กลา่ วแมม่ ดยอ่ มสามารถ
ด�ำเนินการต่างๆ ได้ถูกต้อง นั่นคือเหตุผลท่ีมนุษย์ต้องตระหนักถึงความเป็น
หนงึ่ เดยี วของธรรมชาตแิ หง่ เอกภพ มนษุ ยเ์ ปน็ สว่ นหนง่ึ อยใู่ นนนั้  การประสาน
กลมกลืนเปน็ สิ่งส�ำคญั สำ� หรบั ชวี ิตทสี่ มดลุ

30 แม่มด: ประวัติศาสตร์แห่งไสยเวท


Click to View FlipBook Version