แบบฟอร์มวิจัยในชั้นเรียนโรงเรียนเทพศิรินทร์ นนทบุรี

วจิ ัยในช้ันเรียน
[คลิกที่นี่ เพื่อเร่ิมพมิ พ]์

(ช่ือเรื่องถ้าช่ือเรื่องยาวให้พมิ พ์เป็ น 2 บรรทัด หรือจัดให้เป็ นรูปสามเหลยี่ มหน้าจวั่ หัวกลบั )

[คลิกที่น่ี เพื่อเร่ิมพมิ พ]์

ชื่อ - สกุล ไม่ต้องมีคานาหน้า

วิจัยนเี้ ป็ นส่วนหน่ึงของการ[คลิกท่ีนี่ เพอ่ื เริ่มพมิ พ]์
กลุ่มสาระการเรียนรู้[คลิกท่ีนี่ เพือ่ เร่ิมพมิ พ]์

โรงเรียนเทพศิรินทร์ นนทบุรี ปี การศึกษา[คลิกท่ีน่ี เพื่อเร่ิมพมิ พ]์
ลขิ สิทธ์ิเป็ นของโรงเรียนเทพศิรินทร์ นนทบุรี

วจิ ยั ในช้ันเรียน
[คลิกที่นี่ เพื่อเร่ิมพิมพ]์

(ช่ือเรื่องถ้าช่ือเร่ืองยาวให้พมิ พ์เป็ น 2 บรรทดั หรือจัดให้เป็ นรูปสามเหลยี่ มหน้าจ่ัวหัวกลบั )

[คลิกที่น่ี เพื่อเร่ิมพมิ พ]์

ชื่อ - สกุล ไม่ต้องมีคานาหน้า

วิจัยนเี้ ป็ นส่วนหนึ่งของการ[คลิกที่น่ี เพอ่ื เริ่มพมิ พ]์
กลุ่มสาระการเรียนรู้[คลิกที่น่ี เพ่ือเร่ิมพมิ พ]์

โรงเรียนเทพศิรินทร์ นนทบุรี ปี การศึกษา[คลิกท่ีน่ี เพ่ือเร่ิมพิมพ]์
ลขิ สิทธ์ิเป็ นของโรงเรียนเทพศิรินทร์ นนทบุรี

สถานศึกษา ใบรับรองวจิ ัยในช้ันเรียน
ผ้วู ิจัย [คลิกท่ีนี่ เพือ่ เร่ิมพมิ พ]์
[คลิกท่ีนี่ เพือ่ เร่ิมพิมพ]์

ได้รับการพจิ ารณาเห็นชอบโดย

หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ .................................วนั ท่ี..........เดือน...................พ.ศ.........
(......................................................)

รองผ้อู านวยการกลุ่มบริหารวิชาการ ...........................วนั ที่..........เดือน..................พ.ศ.........
(......................................................)

ผู้อานวยการโรงเรียน ..................................................วนั ท่ี..........เดือน..................พ.ศ.........
(......................................................)

วจิ ยั น้ีเป็นส่วนหน่ึงของการศึกษา
กลุม่ สาระการเรียนรู้[คลิกที่นี่ เพอ่ื เริ่มพิมพ]์

หัวข้อวิจัย [คลิกท่ีน่ี เพอ่ื เริ่มพมิ พ์ หวั ขอ้ บณั ฑิตนิพนธ์ภาษาไทย]
ช่ือ-สกลุ [คลิกท่ีน่ี เพื่อเริ่มพิมพ]์
กลุ่มสาระการเรียนรู้ [คลิกท่ีนี่ เพอ่ื เร่ิมพิมพ]์
หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ [คลิกที่นี่ เพอ่ื เร่ิมพมิ พ]์
ปี การศึกษา [คลิกที่นี่ เพ่อื เริ่มพมิ พ]์

บทคดั ย่อ

การวจิ ยั คร้ังน้ีมีวตั ถปุ ระสงคเ์ พ่ือ [คลิกท่ีน่ี เพอื่ เร่ิมพมิ พ]์ กลมุ่ ตวั อยา่ งคือ [คลิกท่ีน่ี เพื่อเร่ิมพิมพ]์
โดยใช้ [คลิกท่ีนี่ เพื่อเริ่มพิมพ]์ เป็นเครื่องมือในการเกบ็ ขอ้ มลู และสถิติท่ีใชใ้ นการวิเคราะหข์ อ้ มลู ไดแ้ ก่
[คลิกที่น่ี เพื่อเริ่มพมิ พ]์

ผลการวิจยั พบวา่ [คลิกที่น่ี เพ่ือเร่ิมพมิ พ]์

กติ ติกรรมประกาศ

[คลิกที่น่ี เพอื่ เริ่มพมิ พเ์ น้ือหา]

[คลิกท่ีนี่ เพ่อื พมิ พช์ ื่อผวู้ ิจยั ]

(ตวั อย่าง) แนวการเขยี นกติ ตกิ รรมประกาศ

กติ ตกิ รรมประกาศ

วิ จั ย ฉ บั บ น้ี ส า เ ร็ จ อ ย่ า ง ส ม บู ร ณ์ ไ ด้ ด้ ว ย ค ว า ม ช่ ว ย เ ห ลื อ อ ย่ า ง ดี ยิ่ ง จ า ก
……………………………….. ที่ไดก้ รุณาใหค้ าแนะนาปรึกษา และขอ้ มลู ต่างๆ ขอกราบขอบพระคุณ
เป็นอยา่ งสูงไว้ ณ โอกาสน้ี

ข อ ข อ บ พ ร ะ คุ ณ ………………………………………….. หั ว ห น้ า ก ลุ่ ม ส า ร ะ ก า ร
เ รี ย น รู้ ……………โ ร ง เ รี ย น เ ท พ ศิ ริ น ท ร์ น น ท บุ รี …………………….
ข อ ข อ บ พ ร ะ คุ ณ ………………………………………………..ต า แ ห น่ ง …………………….
โรงเรียน………………………………… ท่ีไดก้ รุณาใหค้ าแนะนาตลอดจนตรวจสอบเคร่ืองมือท่ีใชใ้ น
การวิจยั

ข อ ข อ บ คุ ณ ผู้อ า น ว ย ก า ร ………………………………. โ ร ง เ รี ย น …………………..
อาเภอ……………………จงั หวดั ………………………. ขอขอบคณุ ครู………………… และนกั เรียน
โรงเรียน…………………………………… . ท่ีได้ให้ความอนุเคราะห์อานวยความสะดวก และให้
ความร่วมมือเป็นอยา่ งดียง่ิ ในการทดลองและเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล

คุณค่าและประโยชน์อนั พึงมีจากการศึกษาวิจยั น้ี ผูว้ ิจยั ขอน้อมบูชาพระคุณบิดามารดาและ
บรู พาจารยท์ กุ ท่านท่ีไดอ้ บรมสั่งสอนวิชาความรู้ และใหค้ วามเมตตาแก่ผวู้ ิจยั มาโดยตลอด เป็นกาลงั ใจ
สาคญั ที่ทาใหก้ ารศึกษาวจิ ยั ฉบบั น้ีสาเร็จลลุ ว่ งไดด้ ว้ ยดี

ชื่อ สกลุ ผทู้ าวิจยั

(ไม่ใส่คานาหนา้ )

สารบัญ หน้า
ก
บทคัดย่อภาษาไทย....................................................................................................... ข
กติ ติกรรมประกาศ ....................................................................................................... ค
สารบญั ......................................................................................................................... ง
สารบัญตาราง............................................................................................................... จ
สารบัญภาพ..................................................................................................................
xx
บทที่ 1 บทนา ............................................................................................................ xx
ความเป็นมาและความสาคญั ของปัญหา........................................................ xx
วตั ถุประสงคข์ องการวจิ ยั .............................................................................. xx
สมมติฐานของการวิจยั .................................................................................. xx
ขอบเขตการวิจยั ............................................................................................ xx
ประโยชนท์ ่ีไดร้ ับจาการวิจยั ......................................................................... xx
นิยามศพั ทเ์ ฉพาะ........................................................................................... xx
กรอบแนวคดิ ในการวจิ ยั ...............................................................................
xx
บทที่ 2 เอกสารและงานวจิ ัยทเ่ี กีย่ วข้อง..................................................................... xx
ประมวลเอกสารที่เกี่ยวขอ้ งกบั งานวจิ ยั (เรียงลาดบั ตามกรอบแนวคิด) ......... xx
บริบทของหน่วยงาน (ใส่ช่ือหน่วยงาน) ....................................................... xx
งานวจิ ยั ที่เกี่ยวขอ้ ง ........................................................................................
xx
บทที่ 3 วธิ ีดาเนนิ การวิจยั .......................................................................................... xx
ประชากรและกล่มุ ตวั อยา่ ง ...........................................................................
xx
บทที่ 4 ผลการวเิ คราะห์ข้อมูล................................................................................... xx
ความนา......................................................................................................... xx
ผลการวิเคราะห์ขอ้ มูล...................................................................................

สารบญั (ต่อ)

บทที่ 5 สรุปผล อภิปราย และข้อเสนอแนะ .................................................................... หน้า
สรุปผลการวิจยั ............................................................................................. xx
อภิปรายผล.................................................................................................... xx
ขอ้ เสนอแนะ................................................................................................. xx
xx
บรรณานุกรม.....................................................................................................................
xx
ภาคผนวก ......................................................................................................................
ภาคผนวก ก ผลการวิเคราะห์เครื่องมือ (ถา้ มี) .................................................. xx
ภาคผนวก ข เครื่องมือท่ีใชใ้ นการวิจยั ............................................................. xx
ภาคผนวก ค อื่นๆ (ถา้ มี) .................................................................................. xx
xx
ประวัติผู้วจิ ยั .....................................................................................................................
xx

สารบัญภาพ

หน้า xx
xx
1. [คลิกท่ีน่ี เพ่ือเร่ิมพิมพ]์ ............................................................................................ xx
2. [คลิกที่นี่ เพ่อื เร่ิมพมิ พ]์ ............................................................................................ xx
3. [คลิกที่น่ี เพอื่ เริ่มพิมพ]์ ............................................................................................ xx
4. [คลิกท่ีนี่ เพอ่ื เริ่มพมิ พ]์ ............................................................................................
5. [คลิกที่น่ี เพอ่ื เริ่มพมิ พ]์ ............................................................................................

สารบัญตาราง

ตาราง หน้า

1. แสดง[คลิกท่ีน่ี เพือ่ เร่ิมพิมพ]์ .................................................................................. xx xx
2. แสดง[คลิกที่น่ี เพือ่ เร่ิมพิมพ]์ ................................................................................... xx xx
3. แสดง[คลิกท่ีนี่ เพือ่ เริ่มพิมพ]์ ................................................................................... xx xx
4. แสดง[คลิกท่ีนี่ เพื่อเร่ิมพิมพ]์ ................................................................................... xx xx
5. แสดง[คลิกที่นี่ เพ่อื เริ่มพิมพ]์ ................................................................................... xx xx

ตวั อย่างสารบัญตาราง

สารบญั ตาราง

ตาราง หน้า

1 แสดงลกั ษณะของผทู้ ่ีมีเชาวอ์ ารมณ์สูงและต่า………….………………......……... 5
2 แสดงจานวนประชากรและกลุม่ ตวั อยา่ งของนิสิต ช้นั ปี ที่ 1 ของแต่ละคณะ......... 15
3 แสดงจานวนและค่าร้อยละ ของตวั แปรจดั ประเภท………………………..………. 20
4 แสดงคา่ เฉล่ียและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของตวั แปรพยากรณ์และ
25
ตวั แปรเกณฑ์ ….…….......................................................................……. 40
5 แสดงค่าสัมประสิทธ์ิสหสมั พนั ธ์ระหวา่ งตวั แปรพยากรณ์กบั ตวั แปรเกณฑ.์ ….........
6 แสดงผลการวเิ คราะหก์ ารถดถอยพหุคณู แบบปกติ เม่ือใชค้ ะแนนเชาวอ์ ารมณ์ 65

เป็นตวั แปรเกณฑ์ …........................................................................……. 82
7 แสดงผลการวิเคราะห์การถดถอยพหุคณู ข้นั ตอน เมื่อใชค้ ะแนน เชาวอ์ ารมณ์

เป็นตวั แปรเกณฑ์ …………………………………………………..……......

บทที่ 1

บทนา

ความเป็ นมาและความสาคญั ของปัญหา

คลิกท่ีน่ี เพ่อื เริ่มพิมพเ์ น้ือหา

วัตถุประสงค์การวิจยั

การวจิ ยั คร้ังน้ีผวู้ จิ ยั ไดก้ าหนดวตั ถปุ ระสงค์ ไวด้ งั น้ี
1. พมิ พว์ ตั ถุประสงคข์ อ้ ท่ี 1 ที่น่ี
2. พมิ พว์ ตั ถุประสงคข์ อ้ ที่ 2 ที่นี่
3. พมิ พว์ ตั ถปุ ระสงคข์ อ้ ที่ 3 ท่ีน่ี
4. พิมพว์ ตั ถุประสงคข์ อ้ ท่ี 4 ที่นี่

สมมติฐานการวิจยั

คลิกท่ีน่ี เพือ่ เร่ิมพมิ พ์

ขอบเขตของการวิจยั

ประชากรและกลุม่ ตวั อยา่ งท่ีใชใ้ นการวิจยั
ประชากร
คลิกท่ีนี่ เพือ่ เริ่มพมิ พ์

กล่มุ ตวั อยา่ ง
คลิกที่นี่ เพอ่ื เริ่มพมิ พ์

ตวั แปรที่ศึกษา
คลิกท่ีนี่ เพือ่ เร่ิมพิมพ์

ประโยชน์ท่ีได้รับจากการวจิ ัย

คลิกท่ีนี่ เพื่อเร่ิมพมิ พ์

นยิ ามศัพท์เฉพาะ

คลิกที่นี่ เพอ่ื เร่ิมพิมพ์

กรอบแนวคดิ ในการวิจยั

คลิกที่นี่ เพือ่ เร่ิมพิมพ์

( ตวั อย่าง) แนวทางการเขยี นบทท่ี 1
บทที่ 1
บทนา

ความเป็ นมาและความสาคัญของปัญหา

เร่ืองท่ีจะนามาทาวิจยั น้ีสาคญั อย่างไร สอดคลอ้ งกบั พ.ร.บ. การศึกษาแห่งชาติ / หลกั สูตร
การศึกษาข้นั พ้ืนฐาน / นโยบายของ สพฐ. / สพท. / โรงเรียน / หลกั สูตรสถานศึกษา / กลุ่มสาระการ
เรียนรู้ ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน ฯลฯ โดยการเขียนเรียบเรียงให้เห็นถึงความเป็ นมาของปัญหา ให้
ต่อเนื่องกนั หลายพารากราฟ (Paragraph) เรียงลาดบั จากเน้ือหาสาระใหญ่ ลงสู่เน้ือหาสาระเล็ก เขียน
กวา้ งๆ เหมือนรูปปิ ระมิดหัวคว่า (ระดับชาติ→ระดับหน่วยงาน/โรงเรียน→ระดับช้ันเรียน สิ่งที่
ระดบั ชาติและระดบั หน่วยงาน/โรงเรียน ตอ้ งการ เปรียบเทียบกบั สภาพความเป็นจริงที่พบในช้นั เรียนว่า
มีปัญหาอะไรหรือตอ้ งพฒั นาอะไร จะแกป้ ัญหาหรือพฒั นาดว้ ยวิธีการ/เทคนิค/นวตั กรรมอะไร)

(ความตอ้ งการระดบั ชาติ/ แผนฯ11 / พ.ร.บ.การศึกษา 2542/หลกั สูตรการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน
พ.ศ.2551 เป็ นต้น)………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………….

(ความต้องการ ความรับผิดชอบของหน่วยงาน)…………………………………………...
……………………………………………………………………………………………………….

(ความสาคัญของวิชา / เรื่ องท่ีจะทาวิจัย)………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………

(ปัญหาท่ีเกิดกับผูเ้ รียนในวิชาที่จะทาวิจัย)…………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………

(และความสาคญั ของปัญหา)สรุปความตอ้ งการที่จะทาวิจยั จากปัญหาดังกล่าวผูว้ ิจยั ในฐานะ
ครูผสู้ อนจึงมีความสนใจท่ีจะนาชุดการสอน/ชุดฝึก/วิธีการ/เทคนิค/นวตั กรรมมาใชแ้ กป้ ัญหาหรือพฒั นา
.................................................... เพื่อ .......................................................................

วตั ถปุ ระสงค์ของการวจิ ัย (จะตอ้ งกาหนดใหช้ ดั เจนวา่ จะศึกษาอะไร กบั ใคร ดว้ ยวิธีใด)

1. เพ่ือสร้างหรือพฒั นาชุดการสอน/ชุดฝึ ก/วิธีการ/เทคนิค/นวตั กรรม เร่ือง ..........................
สาหรับนกั เรียนระดบั ช้นั ...................... ใหม้ ีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ ...............................................

2. เพ่ือเปรียบเทียบผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน/พฤติกรรม/ทกั ษะ เรื่อง ................ ของนักเรียน
ระดบั ช้นั .............. ก่อนและหลงั การใชช้ ุดการสอน/ชุดฝึก/วธิ ีการ/เทคนิค/นวตั กรรม เรื่อง ......

3.เพื่อศึกษาความพึงพอใจ/ความคิดเห็นของผูเ้ รียนที่มีต่อ(ชุดการสอน/ชุดฝึ ก/วิธีการ/เทคนิค/
นวตั กรรม)…………

สมมตฐิ านของการวจิ ยั (ถา้ มี)

1. ประสิทธิภาพของชุดการสอน/ชุดฝึก/วิธีการ/เทคนิค/นวตั กรรมเป็นไปตามเกณฑท์ ี่ต้งั ไว้ คือ
E1 / E2 = ....... / ......

2. ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน/พฤติกรรม/ทกั ษะของนักเรียนหลงั การใช้ (ชุดการสอน/ชุดฝึ ก/
วิธีการ/เทคนิค/นวัตกรรม)……..สู งกว่าก่อนการใช้(ชุดการสอน/ชุดฝึ ก/วิธีการ/เทคนิ ค/
นวตั กรรม)………

ขอบเขตของการวจิ ยั

ประชากรและกล่มุ ตัวอย่าง
ประชากร
ประชากรของการวิจยั คร้ังน้ี คือ นกั เรียนระดบั ช้นั .............. โรงเรียน..............ใน

ภาคเรียนที่ ...... ปี การศึกษา ............ จานวน ........ คน

กลุม่ ตวั อยา่ ง
กลุม่ ตวั อยา่ งของการวจิ ยั คร้ังน้ี คือ นกั เรียนระดบั ช้นั .............. โรงเรียน..............ใน
ภาคเรียนท่ี ...... ปี การศึกษา ............ จานวน ........ คน ไดม้ าจากการสุ่มแบบ..................

ตวั แปรที่ศึกษา
ตวั แปรอิสระ ไดแ้ ก่ .....................(ชุดการสอน/ชุดฝึก/วิธีการ/เทคนิค/นวตั กรรม)
ตวั แปรตาม ไดแ้ ก่
• ………(ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน/พฤติกรรม/ทักษะท่ีต้องการแก้ปัญหา)
• ………(ความพึงพอใจ/ความคิดเห็นของนกั เรียน)

เนื้อหาเรื่องอะไร / สาระการเรียนรู้ที่ศึกษา
เน้ือหาเรื่อง........................................................สาระการเรียนรู้............................. โดย

มีหวั ขอ้ ยอ่ ยดงั น้ี
• ……………………………………

• …………………………………….

ประโยชน์ทไ่ี ด้รับจากการวิจยั

เป็นการนาเสนอวา่ ผลการวจิ ยั ที่กาลงั ศึกษาน้ีจะเป็นประโยชน์อยา่ งไร กบั ใครบา้ ง ควรเขียนให้
สอดคลอ้ งกบั วตั ถปุ ระสงคก์ ารวจิ ยั ไม่ควรเขยี นเกินขอบเขตของการวจิ ยั เช่น

1.ไดช้ ุดแบบฝึกที่มีประสิทธิภาพสามารถนาไปใชพ้ ฒั นาทกั ษะ………………………ได้
2.ทราบค่าความกา้ วหนา้ ของพฒั นาการทางทกั ษะ………โดยใชแ้ บบฝึกทกั ษะ อนั จะเป็น
แนวทางในการพฒั นาส่ือการเรียนการสอนวชิ า...............................ที่มีผลต่อการพฒั นาทกั ษะในดา้ นอื่น
ๆ ของนกั เรียน เช่น ............................................ ใหด้ ีข้ึนต่อไป

นิยามศัพท์เฉพาะ

(ชุดการสอน/ชุดฝึก/วิธีการ/เทคนิค/นวตั กรรม) หมายถึง………….………………………..
.........................................................................ประกอบดว้ ย.................................................

ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน / ผลการเรียนรู้ หมายถึง ..............................................................
................................................................................................................................................ ทักษะ /
ความสามารถ/พฤติกรรม หมายถึง.................. ........................ .................................
………………………………………………………………………………….

ความพงึ พอใจ/ความคิดเห็น หมายถึง ...................................................................................
...............................................................................................................................

ประสิทธิภาพของนวัตกรรม หมายถึง นวตั กรรมที่ไดป้ ระเมินตามเกณฑท์ ่ีกาหนด 80/80 ซ่ึงมี
ความหมายดงั น้ี

80 ตัวแรก (E1) หมายถึง ค่าเฉลี่ยร้อยละ 80 ของคะแนนที่นักเรียนทาได้จาก
แบบทดสอบระหวา่ งการใชน้ วตั กรรม

80 ตัวหลัง (E2) หมายถึง ค่าเฉลี่ยร้อยละ 80 ของคะแนนที่นักเรียนทาได้จาก
แบบทดสอบหลงั การใชน้ วตั กรรม

กรอบแนวคดิ ในการวิจัย

นารายละเอียดเก่ียวกับตัวแปรท่ีต้องการศึกษามากาหนดกรอบความคิด เป็ นการกาหนด
ขอบเขตของการวิจยั และทาให้เกิดภาพสรุปสุดทา้ ยของการศึกษาเอกสารและงานวิจยั ท่ีเก่ียวขอ้ งกบั
เร่ืองที่ศึกษา เป็นผลรวมความคิดของนกั วิจยั เขา้ กบั เร่ืองราวทฤษฎีต่างๆ เชื่อมโยงให้เห็นความสัมพนั ธ์

ระหวา่ งตวั แปรที่ตอ้ งการศึกษา แสดงลาดบั การเกิดก่อนหลงั ของตวั แปร โดยอาจเขียนแผนภูมิที่แสดง
ความเป็นเหตเุ ป็นผล ซ่ึงนาไปสู่การใชเ้ ทคนิคทางสถิติที่เหมาะสมในการวิเคราะห์ตอ่ ไป ตวั อยา่ งเช่น

จากตวั อยา่ ง ตวั แปรการเรียนรู้ร่วมกนั การเรียนรู้ผา่ น Tablet และแบบฝึกทกั ษะการอา่ น
แตล่ ะตวั มีผลต่อทกั ษะการอ่านของนกั เรียน

บทที่ 2

เอกสารและงานวจิ ัยท่ีเกย่ี วข้อง

การศึกษาเร่ือง เร่ิมพิมพ์ท่ีน่ี หากมีการกล่าวนาของเน้ือหาในบทน้ี (มีหรือไม่มีก็ได้) ผูว้ ิจยั ได้
ศึกษาเอกสารและงานวจิ ยั ที่เก่ียวขอ้ งเพือ่ ใชเ้ ป็นแนวทางในการทาวิจยั ดงั น้ี

1. [คลิกท่ีนี่ เพื่อเร่ิมพมิ พ]์
1.1 คลิกที่นี่ เพอ่ื เริ่มพมิ พ์
1.2 คลิกท่ีนี่ เพ่อื เริ่มพมิ พ์

2. [คลิกท่ีน่ี เพื่อเร่ิมพิมพ]์
2.1 คลิกท่ีน่ี เพ่ือเร่ิมพิมพ์

3. [คลิกท่ีน่ี เพ่อื เร่ิมพมิ พ]์
3.1 คลิกที่น่ี เพอื่ เร่ิมพมิ พ์

พมิ พ์หวั ข้อใหญ่ทนี่ ่ี
คลิกที่นี่ เพอื่ เริ่มพิมพเ์ น้ือหา
1. พมิ พ์หัวข้อรองท่นี ี่ โดยมีเลขกากบั หัวข้อหรือไม่กไ็ ด้
คลิกท่ีน่ี เพอื่ เริ่มพมิ พเ์ น้ือหา

หัวข้อย่อย ในกรณีที่หวั ขอ้ รองมีเลขกากบั หวั ขอ้ หวั ขอ้ ยอ่ ยให้เริ่มหัวขอ้ หรือเลขกากบั หัวขอ้ ที่อกั ษร
ตวั แรกของหวั ขอ้ รอง ดงั น้ี (เครื่องหมาย  แทนการเวน้ 1 ช่วงตวั อกั ษร)
1..........................................................

1.1...................................................
1.1.1.........................................
1).........................................

"การอา้ งอิง ใชร้ ะบบ นาม-ปี (ช่ือ, พ.ศ.: เลขหนา้ ) เช่น (ศรีเพญ็ ทรัพยช์ ยั , 2536, หนา้ 10)"

"ถา้ ระบุผแู้ ตง่ ในเน้ือความแลว้ ระบุเฉพาะปี และเลขหนา้ เช่น เสนา ติเยาว์ (2534, หนา้ 113)"

"การพมิ พต์ าราง ใหพ้ มิ พล์ าดบั ท่ี และชื่อ ท่ีหวั ตาราง"

ตาราง ใส่หมายเลข ช่ือตาราง (เช่น -> ตาราง 1 แสดงกลุ่มตวั อย่างจาแนกตามเพศ)

ตาราง 1 แสดงกล่มุ ตวั อย่างจาแนกตามเพศ

เพศ จานวนตวั อยา่ ง (คน) ร้อยละ

ชาย 600 60

หญิง 400 40

รวม 1,000 100

หมายเหต:ุ ใส่หมายหตุ (ถา้ มี)
ที่มา: ใส่ท่ีมา (ถา้ มี)

กรณีที่ไมส่ ามารถพิมพต์ ารางในแนวต้งั ได้ ใหจ้ ดั พมิ พใ์ นแนวนอน แต่ตอ้ งอยภู่ ายในก้นั ระยะที่กาหนด
คาอธิบายตารางใหพ้ ิมพเ์ ป็นแนวต้งั

กรณีช่ือตารางมีความยาวมากกว่า 1 บรรทดั อกั ษรตวั แรกในบรรทดั ต่อๆ ไป ให้วางตรงกบั อกั ษรตวั
แรกของชื่อตาราง

เส้นตาราง ประกอบดว้ ยเส้นแนวนอน ไม่ใช้เส้นแนวต้งั เส้นบนและเส้นล่างของตารางเป็ นเส้นทึบ
ขนาด 1.5 พ. ส่วนเสน้ แนวนอนอ่ืนๆ ภายในตารางใหใ้ ชเ้ สน้ ขนาดปกติ

"การพมิ พภ์ าพ ใหพ้ ิมพล์ าดบั ท่ี และชื่อ ที่ดา้ นลา่ งของรูป จดั วางก่ึงกลาง"

ภาพ 1 ความสัมพนั ธ์ของกล่มุ ตัวอย่าง
ภาพ ใส่หมายเลข ช่ือภาพ (เช่น -> ภาพ 1 ความสัมพนั ธ์ของกลุ่มตัวอย่าง)
หมายเหต:ุ ใส่หมายหตุ (ถา้ มี)
ที่มา: ใส่ที่มา (ถา้ มี)
กรณีชื่อภาพมีความยาวมากกวา่ 1 บรรทดั อกั ษรตวั แรกในบรรทดั ต่อๆ ไปให้วางตรงกบั อกั ษรตวั แรก
ของช่ือภาพ
ส่วนของการแสดงภาพใหเ้ วน้ บรรทดั 1.5 จากขอ้ ความส่วนบนและส่วนล่าง

ตวั อย่าง

แนวการเขียนบทท่ี 2

บทท่ี 2

เอกสารและงานวจิ ยั ทีเ่ กยี่ วข้อง

เป็นการศึกษาเอกสาร ตารา งานวิจยั แนวคิด ทฤษฏี ท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั เร่ืองที่ทาวิจยั ท้งั วิธีการท่ี
นามาแกไ้ ข เร่ืองที่ตอ้ งการแกป้ ัญหาหรือพฒั นาผเู้ รียน ซ่ึงควรศึกษาเอกสารที่เก่ียวขอ้ งที่ทนั สมยั ในช่วง
10 ปี และนาเสนอวรรณกรรมในลกั ษณะของการเขียนเรียบเรียงเชิงสังเคราะห์ เช่น

1. การเรียนรู้ร่วมกนั
2. แทป็ แลต็ เพื่อการเรียนการสอน
3. แบบฝึกทกั ษะ
4. ทกั ษะการอา่ น
5. งานวจิ ยั ท่ีเกี่ยวขอ้ ง

การเรียนรู้ร่วมกนั (Collaborative Learning)

การเรียนรู้ร่วมกนั มีหลายรูปแบบแต่สิ่งที่เป็ นปรัชญาร่วมกนั คือ .........................................
...........................................................................................................................................................

รูปแบบการเรียนรู้ร่วมกนั (Collaborative Learning)
สมพงษ์ สิงหะพล(2542) ไดอ้ ธิบายว่าการเรียนรู้ร่วมกนั มีเทคนิควิธีการต่างๆที่สามารถ

นามาใชไ้ ดผ้ ลอยหู่ ลายวิธีคือ
1. วธิ ใี ห้เรียนรู้เป็ นกล่มุ (Student team) ไดแ้ ก่
1.1 แบบทีมสัมฤทธ์ิ (Student team-achievement divisions)……………..

………………………………………………………………………………………………………
1.2 แบบทีมแข่งขนั (Team games tournament) ........................................

............................................................................................................................................
1.3 แบบทีมรายบุคคล (Team assisted individualization) ………………..

……………………………………………………………………………………………………….
2. วธิ ีให้เรียนรู้ร่วมกนั แต่แบ่งงานกนั ศึกษาเฉพาะเรื่อง (Task specialization method)
2.1 แบบกลุ่มสื บสวนค้นคว้า (Group investigation) …………………….

………………………………………………………………………………………………………
2.2 แบบร่วมมือร่วมกลุ่ม (Co-op Co-0p).................................................

..........................................................................................................................................................

งานวิจัยท่ีเกย่ี วข้อง (งานวิจยั ท่ีเก่ียวขอ้ ง อยา่ งนอ้ ย 3 เร่ือง และสรุปเป็นของตนเอง)

งานวจิ ยั ในประเทศ
…………………………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………………………...………….
งานวิจัยต่างประเทศ
.....................................................................................................................................................
……………………………………………………………………………………………………………
(สรุปการศึกษาเอกสารที่เก่ียวข้อง) ......................................................................................
...........................................................................................................................................................
(สรุปงานวิจัยที่เก่ียวขอ้ ง)........................................................................... ......................
...............................................................................................................................................

บทที่ 3

วธิ ีดาเนินงานวจิ ยั

การศึกษาวิจยั คร้ังน้ี เป็นการวิจยั เริ่มพิมพท์ ี่น่ี หากมีการกล่าวนาของเน้ือหาในบทน้ี (มีหรือไม่มี
กไ็ ด)้ ซ่ึงผวู้ ิจยั ไดด้ าเนินและเกบ็ รวบรวมขอ้ มูลในการศึกษาคน้ ควา้ โดยมีข้นั ตอนดาเนินงานดงั น้ี

1. ประชากรและกลมุ่ ตวั อยา่ ง
2. เครื่องมือท่ีใชใ้ นการวจิ ยั
3. ข้นั ตอนในการสร้างเครื่องมือ
4. การเก็บรวบรวมขอ้ มลู
5. การวิเคราะหข์ อ้ มูล
6. สถิติท่ีใชใ้ นการวเิ คราะหข์ อ้ มูล

ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง

ประชากร
คลิกที่น่ี เพอ่ื เริ่มพมิ พเ์ น้ือหา

กลุ่มตัวอย่าง
คลิกท่ีน่ี เพื่อเริ่มพิมพเ์ น้ือหา

เคร่ืองมือท่ใี ช้ในการเกบ็ รวมรวมข้อมูล

คลิกท่ีน่ี เพื่อเร่ิมพมิ พเ์ น้ือหา

ข้นั ตอนการสร้างเครื่องมือ

คลิกท่ีน่ี เพื่อเร่ิมพมิ พเ์ น้ือหา

การเกบ็ รวมรวมข้อมูล

คลิกท่ีนี่ เพ่ือเริ่มพิมพเ์ น้ือหา

การวิเคราะห์ข้อมูล

คลิกท่ีน่ี เพื่อเร่ิมพิมพเ์ น้ือหา

สถิติท่ใี ช้ในการวจิ ัย

คลิกที่น่ี เพ่ือเร่ิมพมิ พเ์ น้ือหา

(ตวั อย่าง) แนวทางการเขยี นบทที่ 3

บทที่ 3
วธิ ีดาเนนิ การวจิ ัย

ในการวิจยั คร้ังน้ีมุง่ ศึกษาเรื่อง........................................................................ผวู้ จิ ยั ไดด้ าเนินการ
ตามข้นั ตอนดงั น้ี

1. ประชากรและกลุ่มตวั อยา่ ง
2. เคร่ืองมือที่ใชใ้ นการวิจยั
3. การเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล
4. สถิติท่ีใชใ้ นการวิเคราะห์ขอ้ มูล

2.

ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง

ประชากร
ประชากรของการวิจยั คร้ังน้ีคือ นกั เรียนช้นั .................ปี ท่ี.......... โรงเรียน....................
ภาคเรียนที่................ปี การศึกษา..........................จานวน.............................คน

กลุ่มตวั อย่าง (ถ้ามี)
กลุม่ ตวั อยา่ งคอื นกั เรียนช้นั .................................ปี ที่.......... โรงเรียน..................................ภาค
เรียนที่................ปี การศึกษา..........................จานวน.............................คน ที่เลือกโดย
.......................................................................................................................................................

เคร่ืองมือทใี่ ช้ในการวจิ ัย

1. (นวตั กรรม) .....................................................................................................
2. แบบทดสอบผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียน / ผลการเรียนรู้ /เร่ือง ………………
3. แบบประเมินนวตั กรรม / ผลงาน (สาหรับผเู้ ช่ียวชาญ)......................................
4. แบบสอบถาม ความพงึ พอใจ/ความคิดเห็นของนกั เรียนที่มีต่อนวตั กรรม.......................

ข้นั ตอนในการสร้างเคร่ืองมือ (ทเี่ ป็ นนวตั กรรรม)

(นวตั กรรม)..................................สาหรับนกั เรียนช้นั ..........................ปี ที่..............

โดยมีข้นั ตอนการสร้างดงั น้ี

1. ศึกษาหลกั สูตร เอกสาร ตารา ขอบข่าย สาระกลุม่ วชิ า.............. ช้นั .............

2. กาหนดจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ใหส้ อดคลอ้ งกบั อธิบายรายวิชาและจุดประสงค์

การเรียนรู้ในหลกั สูตรและเน้ือหา

3. ดาเนินการสร้าง (นวตั กรรม/สื่อ).......เร่ือง....................................................

4. นา (นวตั กรรม) เร่ือง.......................................ท่ีสร้างข้ึนเสนอต่อผเู้ ชี่ยวชาญ

จานวน 3 คน ไดแ้ ก่ 1) ดา้ นนวตั กรรม 2) ดา้ นการสอน 3) ดา้ นการวดั และประเมินผล เพอ่ื ขอ

คาแนะนามาปรับปรุงแกไ้ ขในส่วนที่บกพร่อง

5. ดาเนินการแกไ้ ขและปรับปรุง.....(นวตั กรรม)..........ตามท่ีปรึกษาแลว้ นาไปให้

ผเู้ ช่ียวชาญดา้ นหลกั สูตร เน้ือหา กระบวนการ ภาษาและการวดั ผลประเมินผลตรวจสอบ เพื่อตรวจสอบ

คุณภาพและความเท่ียงตรงเชิงเน้ือหา (IOC : Index of Item Objective Congruence) โดย กาหนดเกณฑ์

การพจิ ารณา คือ

เห็นวา่ สอดคลอ้ ง ใหค้ ะแนน +1

ไม่แน่ใจ ใหค้ ะแนน 0

เห็นวา่ ไม่สอดคลอ้ ง ใหค้ ะแนน -1

การวเิ คราะห์ขอ้ มลู ความเหมาะสมสอดคลอ้ งของ(นวตั กรรม)..................โดยใช้

ดชั นีความสอดคลอ้ ง(IOC) คานวณค่าตามสูตร R
N
IOC =

R = ผลรวมคะแนนความคิดเห็นของผเู้ ชี่ยวชาญ

N = จานวนผเู้ ชี่ยวชาญ

นาขอ้ มลู ท่ีรวบรวมจากความคิดเห็นของผเู้ ชี่ยวชาญมาคานวณหาค่า IOC โดยใชด้ ชั นี
ความสอดคลอ้ ง (Index of Item Objective Congruence) ของผเู้ ช่ียวชาญมาคานวณค่าดชั นีความ
สอดคลอ้ ง แลว้ เลือกคา่ ดชั นีความสอดคลอ้ งต้งั แต่ 0.5 ข้ึนไป

6. หาประสิทธิภาพของ (นวตั กรรม)..............................โดยทดลองใชก้ บั นกั เรียนช้นั
..................โรงเรียน................................อาเภอ............จงั หวดั ………......จานวน…..คน โดยใชว้ ธิ ีการ
เลือกแบบเจาะจง (Pursier sampling) จากนกั เรียนกลุ่มเก่ง กล่มุ ปานกลาง และกลุ่มอ่อน ในอตั ราส่วน

เท่าๆ กนั แลว้ หาคา่ E1 เทา่ กบั ............. และคา่ E2 เท่ากบั ..............เพื่อการแกไ้ ขปรับปรุงนวตั กรรม/
สื่อ (จนกระทงั่ ไดค้ ่า E1 และคา่ E2 เทา่ กบั เกณฑท์ ี่กาหนด)

80 ตวั แรก (E1) หมายถึง ค่าเฉลี่ยร้อยละ…………(ตามเกณฑท์ ี่กาหนด) ของคะแนน
ท่ีนกั เรียนทาไดจ้ ากแบบทดสอบระหวา่ งการใช.้ .....(นวตั กรรม)..........................

80 ตวั หลงั (E2) หมายถึง ค่าเฉล่ียร้อยละ ………….(ตามเกณฑท์ ี่กาหนด) ของ
คะแนนท่ีนกั ศึกษาทาไดจ้ ากแบบทดสอบหลงั การใช้ (นวตั กรรม)..........................

ข้นั ตอนในการสร้างเคร่ืองมือ (ทเี่ ป็ นแผนจดั การเรียนรู้)
1. วเิ คราะห์หลกั สูตรการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช 2544 และหลกั สูตร

สถานศึกษา กล่มุ สาระการเรียนรู้…………………………มาตรฐานการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ที่คาดหวงั
สาระการเรียนรู้

2. ศึกษาเอกสาร แนวคิด และเอกสารงานวิจยั ที่เก่ียวกบั วธิ ีสอน
3. ศึกษาเอกสาร แนวคิด เกี่ยวกบั วิธีการ และข้นั ตอนการสร้างแผนการจดั การเรียนรู้
4. นาแผนการจดั การเรียนรู้เรื่อง……………………….………ไปใหผ้ เู้ ชี่ยวชาญ
ดา้ นวธิ ีสอน / นวตั กรรม……….ดา้ น……………ดา้ น…….….เพ่ือใหข้ อ้ คิดเห็นและขอ้ เสนอแนะ ซ่ึง
แผนการจดั การเรียนรู้ มีคา่ ดชั นีความสอดคลอ้ ง (IOC) เท่ากบั ………
5. นาแผนการจดั การเรียนรู้ เรื่อง…………………………ดว้ ยเทคนิค/วิธีสอน/
นวตั กรรม………………………นาไปสอนเพื่อแกป้ ัญหา/พฒั นานกั เรียน

ข้นั ตอนการสร้างเครื่องมือ (ท่ีเป็ นแบบทดสอบ)
1. วเิ คราะห์ผลการเรียนรู้ท่ีคาดหวงั สาระการเรียนรู้ ตวั ช้ีวดั ตามหลกั สูตรแกนกลาง

การศึกษาข้นั พ้ืนฐาน 2551 กลมุ่ สาระการเรียนรู้………………………
2. สร้างแบบทดสอบวดั ผลการเรียนรู้เรื่อง………………………………….เป็น

แบบทดสอบแบบปรนยั จานวน…….ขอ้ อตั นยั จานวน…….ขอ้ รวม……ขอ้

3. นาแบบทดสอบไปใหผ้ เู้ ช่ียวชาญ จานวน…………..คน ตรวจสอบ เพือ่ ให้

ขอ้ คิดเห็นและขอ้ เสนอแนะ โดยมีคา่ ดชั นีความสอดคลอ้ ง (IOC) เทา่ กบั ..................
4. นาแบบทดสอบวดั ผลการเรียนรู้ เรื่อง…………………ไปทดลองใช้ (try out) กบั

นกั เรียน..............................จานวน..... คน ซ่ึงไมใ่ ช่กลุ่มเป้าหมายไปหาค่าความยากง่ายไดค้ ่าเทา่ กบั
.........และหาค่าอานาจจาแนกไดเ้ ท่ากบั ……………........(ถา้ ทา)

5. นาแบบทดสอบวดั ผลการเรียนรู้ เรื่อง…………………..……………..ไปใชเ้ กบ็
รวบรวมคะแนนนกั เรียน..............................................................

ข้นั ตอนการสร้างเร่ืองมือ (ท่เี ป็ นแบบสอบถามความคิดเห็น/ความพงึ พอใจ)

แบบสอบถามความคดิ เห็น/ความพึงพอใจของนกั เรียนท่ีมีตอ่ . ..............มีลกั ษณะเป็น

แบบสอบถามแบบมาตรส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดบั โดยสอบถามความพึงพอใจ/ความ

คดิ เห็นของนกั เรียน จานวน 1 ฉบบั มีข้นั ตอนการสร้างดงั น้ี

1. ศึกษาหลกั การสร้างแบบสอบถามความพึงพอใจ/ความคิดเห็น....จากเอกสารการ

วดั และประเมินผลตา่ ง ๆ

2. สร้างแบบสอบถามความพึงพอใจ/ความคิดเห็น.............. เป็นมาตราส่วนประมาณ

ค่า (Rating Scale) 5 ระดบั ขอ้ คาถามจานวน ......ขอ้ โดยกาหนดค่าระดบั ความพึงพอใจ/ความคิดเห็น

แต่ละช่วงคะแนนและความหมาย ดงั น้ี

ระดบั 1 หมายถึง เหมาะสม / เห็นดว้ ย / พงึ พอใจอยใู่ นระดบั นอ้ ยท่ีสุด

ระดบั 2หมายถึง เหมาะสม / เห็นดว้ ย / พึงพอใจอยใู่ นระดบั นอ้ ย

ระดบั 3หมายถึง เหมาะสม / เห็นดว้ ย / พึงพอใจอยใู่ นระดบั ปานกลาง

ระดบั 4หมายถึง เหมาะสม / เห็นดว้ ย / พึงพอใจอยใู่ นระดบั มาก

ระดบั 5หมายถึง เหมาะสม / เห็นดว้ ย / พงึ พอใจอยใู่ นระดบั มากท่ีสุด

สาหรับการใหค้ วามหมายของค่าที่วดั ได้ ผคู้ น้ ควา้ ไดก้ าหนดเกณฑท์ ่ีใชใ้ นการใหค้ วามหมาย โดยการ

ใหค้ ่าเฉลี่ยเป็นรายดา้ นและรายขอ้ ดงั น้ี

1.00 - 1.50 หมายถึง เหมาะสม / เห็นดว้ ย / พึงพอใจอยใู่ นระดบั นอ้ ยท่ีสุด

1.51 - 2.50 หมายถึง เหมาะสม / เห็นดว้ ย / พงึ พอใจอยใู่ นระดบั นอ้ ย

2.51 - 3.50 หมายถึง เหมาะสม / เห็นดว้ ย / พงึ พอใจอยใู่ นระดบั ปานกลาง

3.51 - 4.50 หมายถึง เหมาะสม / เห็นดว้ ย / พงึ พอใจอยใู่ นระดบั มาก

4.51 - 5.00 หมายถึง เหมาะสม / เห็นดว้ ย / พงึ พอใจอยใู่ นระดบั มากที่สุด

3. นาแบบสอบถามความคิดเห็นให้ผเู้ ช่ียวชาญ 3 คน ไดแ้ ก่ ..............................เพอ่ื

ตรวจสอบความเท่ียงตรงของเน้ือหา (Content Validity) ภาษาที่ใช้ และการประเมินท่ีถูกตอ้ ง และ

นามาหาค่าดัชนีความสอดคลอ้ งของเคร่ืองมือ IOC (Index of Item Objectives Congruence) โดย

กาหนดเกณฑก์ ารพิจารณา คือ

เห็นวา่ สอดคลอ้ ง ใหค้ ะแนน +1

ไม่แน่ใจ ใหค้ ะแนน 0

เห็นวา่ ไม่สอดคลอ้ ง ใหค้ ะแนน -1

การวเิ คราะหข์ อ้ มลู ความเหมาะสมสอดคลอ้ งของแบบสอบถามความคดิ เห็นโดยใช้

ดชั นีความสอดคลอ้ ง(IOC) คานวณค่าตามสูตร

IOC = R
N
R = ผลรวมคะแนนความคิดเห็นของผเู้ ช่ียวชาญ

N = จานวนผเู้ ช่ียวชาญ

นาขอ้ มูลที่รวบรวมจากความคดิ เห็นของผเู้ ชี่ยวชาญมาคานวณหาคา่ IOC โดยใช้

ดชั นีความสอดคลอ้ ง (Index of Item Objective Congruence) ของผเู้ ชี่ยวชาญ มาคานวณคา่ ดชั นีความ

สอดคลอ้ ง แลว้ เลือกคา่ ดชั นีความสอดคลอ้ งต้งั แต่ 0.5 ข้ึนไป

4.นาแบบสอบถามความคิดเห็น / ความพงึ พอใจ ท่ีปรับปรุงแลว้ ไปสอบถามนกั เรียน

ช้นั .....................โรงเรียน....................... ภาคเรียนที่ ............... ปี การศึกษา ................. จานวน........ คน

การเกบ็ รวบรวมข้อมูล

ในการวิจยั คร้ังน้ี ผรู้ ายงานไดด้ าเนินการทดลอง กบั กลุ่มตวั อยา่ งตามลาดบั ดงั น้ี
1. ก่อนการทดลองใหน้ กั เรียนทาแบบทดสอบวดั ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนวิชา.........................

ช้นั .......

2. ผูร้ ายงานดาเนินการสอนกลุ่มตวั อย่างดว้ ยแผนการจดั การเรียนรู้ที่สร้างข้ึนจานวน...........
แผนโดยให้นักเรียนเรียนและปฏิบตั ิกิจกรรมต่างๆ ตามข้นั ตอนการจดั การเรียนรู้โดยใช้ วิธีการ/สื่อ
นวตั กรรม

3. เมื่อสิ้นสุดการทดลองสอนแลว้ นาแบบทดสอบวดั ผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนวิชา...................
ไปทดสอบนกั เรียนอีกคร้ัง จากน้นั นาผลที่ไดไ้ ปวิเคราะหข์ อ้ มลู ทางสถิติต่อไป

4. ให้นกั เรียนทาแบบสอบถามความพึงพอใจท่ีมีต่อ.................................... จากน้ันนาผลท่ี
ไดร้ ับไปวเิ คราะหข์ อ้ มูลทางสถิติตอ่ ไป

การวเิ คราะห์ข้อมูล

ในการวเิ คราะห์ขอ้ มลู การจดั การเรียนรู้วิชา............... โดยใชว้ ธิ ีการ/ส่ือนวตั กรรม ของนกั เรียน
ช้นั ......................….. ผวู้ จิ ยั ดาเนินการโดยใชโ้ ดยใชโ้ ปรแกรมสาเร็จรูปทางสถิติสาหรับขอ้ มูลทาง
สงั คมศาสตร์ ตามข้นั ตอนดงั น้ี

1. ศึกษาผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนวชิ า........... ช้นั ..................ปี ท่ี.....โดยการหาคะแนนเฉลี่ย
ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐานและร้อยละ

2. เปรียบเทียบผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนวิชา........... ช้นั ....................ระหวา่ งคะแนนหลงั เรียนกบั
เกณฑร์ ้อยละ 75 ดว้ ยการทดสอบทีแบบกลุม่ เดียว (t – test for One Sample)

3. เปรียบเทียบผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนวชิ า......... ช้นั ................. .....ระหวา่ งก่อนเรียนและหลงั
เรียน ดว้ ยการทดสอบทีแบบไมอ่ ิสระ (t – test for Dependent Sample)
...หรือ...

1. ค่าประสิทธิภาพของ....................... (นวตั กรรม)............................ ใหม้ ีประสิทธิภาพตาม
เกณฑ์ โดยใชร้ ้อยละ (Percentage)

2. ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน หลงั เรียนด้วย.................. (นวตั กรรม)............ โดยใช้ร้อยละ
(Percentage) ค่าเฉล่ีย (Mean) ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) และสถิติทดสอบค่าที
(t-test)

3. สอบถามความคิดเห็น/ ความพึงพอใจ ของนักศึกษาที่เรียนดว้ ย...... (นวตั กรรม).............โดย
ใชร้ ้อยละ(Percentage) คา่ เฉลี่ย (Percentage) ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน(Standard Deviation)

สถติ ทิ ใี่ ช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล

สสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสส

สสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสส

1. ค่าเฉลย่ี

X = X
N
X = ค่าเฉล่ียของคะแนน

 X = ผลรวมของคะแนน
N = จานวน

2. ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

S.D. = N x2 − ( x)2

N(N −1)

S.D. = ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน

(X - X) = ผลรวมของคะแนนลบดว้ ยคะแนนเฉล่ีย

N = จานวน

3. ค่าดชั นีความสอดคล้อง

IOC = R
N

IOC = ดชั นีความสอดคลอ้ งของเครื่องมือ

R = ผลรวมคะแนนความคดิ เห็นของผเู้ ช่ียวชาญ
N = จานวนของผเู้ ช่ียวชาญ

4. สถิติทดสอบค่าที แบบ t-pair (เปรียบเทยี บผลการเรียนรู้ก่อนและหลงั )

t= D
n D2 − ( D)2

n −1

t = คา่ ที

D = ผลตา่ งของคะแนน

n = จานวนคน

5. หาประสิทธภิ าพของนวัตกรรม

ประสิทธิภาพของกระบวนการ (E1)

X

E1 = N 100
A
E1 = ประสิทธิภาพของกระบวนการ

X = คะแนนแบบฝึกหดั ในแต่ละหน่วยของ(นวตั กรรม )......................................

A = คะแนนเตม็ ของแบบฝึกหดั ในแตล่ ะหน่วยของ(นวตั กรรม )...........................

N = จานวนผเู้ รียน

ประสิทธภิ าพของผลผลติ (E2)

Y

E2 = N 100
B
E2 = ประสิทธิภาพของผลผลิต

Y = คะแนนของหลงั เรียน

B = คะแนนเตม็ ของคะแนนสอบหลงั เรียน

N = จานวนผเู้ รียน

หมายเหตุ สามารถเพิ่มเติมตามบริบทของสาขาวชิ าตามความเหมาะสม

บทท่ี 4

ผลการวเิ คราะห์ข้อมูล

การศึกษาวิจยั เร่ือง เร่ิมพมิ พท์ ่ีน่ี หากมีการกล่าวนาของเน้ือหาในบทน้ี (มีหรือไม่มีกไ็ ด)้ ผวู้ จิ ยั ได้
เสนอผลการวิเคราะหข์ อ้ มลู ตามลาดบั ดงั น้ี

4.1 สญั ลกั ษณ์ท่ีใชใ้ นการวเิ คราะหข์ อ้ มูล
4.2 การนาเสนอผลการวเิ คราะหข์ อ้ มลู
4.3 ผลการวิเคราะหข์ อ้ มูล

สัญลกั ษณ์ทใี่ ช้ในการวเิ คราะห์ข้อมูล
ผวู้ จิ ยั ไดก้ าหนดใชส้ ัญลกั ษณ์ตา่ ง ๆ ในการวิเคราะหข์ อ้ มูลดงั น้ี
คลิกที่นี่ เพือ่ เร่ิมพิมพเ์ น้ือหา

การนาเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูล
การศึกษาคน้ ควา้ คร้ังน้ีผวู้ จิ ยั ไดแ้ บง่ การนาเสนอผลการวิเคราะห์ขอ้ มูลดงั น้ี
ตอนท่ี 1 คลิกท่ีน่ี เพือ่ เร่ิมพมิ พเ์ น้ือหา

ผลการวเิ คราะห์ข้อมูล
ตอนที่ 1 คลกิ ทน่ี ่ี เพื่อเริ่มพมิ พ์เนื้อหา

ตาราง 1 คลิกที่น่ี เพือ่ เร่ิมพมิ พเ์ น้ือหา

จากตาราง 1 พบวา่ คลิกท่ีน่ี เพื่อเริ่มพมิ พเ์ น้ือหา

ตอนท่ี 2 คลกิ ทนี่ ี่ เพื่อเร่ิมพมิ พ์เนื้อหา
ตาราง 2 คลิกท่ีนี่ เพ่อื เร่ิมพมิ พเ์ น้ือหา

จากตาราง 2 พบวา่ คลิกท่ีนี่ เพือ่ เร่ิมพมิ พเ์ น้ือหา

"การพิมพต์ าราง ใหพ้ ิมพล์ าดบั ที่ และช่ือ ท่ีหวั ตาราง"
กรณีท่ีไมส่ ามารถพิมพต์ ารางในแนวต้งั ได้ ใหจ้ ดั พิมพใ์ นแนวนอน แตต่ อ้ งอยภู่ ายในก้นั ระยะที่กาหนด
คาอธิบายตารางใหพ้ ิมพเ์ ป็นแนวต้งั
กรณีช่ือตารางมีความยาวมากกว่า 1 บรรทดั อกั ษรตวั แรกในบรรทดั ต่อๆ ไป ให้วางตรงกบั อกั ษรตวั
แรกของชื่อตาราง
เส้นตาราง ประกอบดว้ ยเส้นแนวนอน ไม่ใช้เส้นแนวต้งั เส้นบนและเส้นล่างของตารางเป็ นเส้นทึบ
ขนาด 1.5 พ. ส่วนเส้นแนวนอนอ่ืนๆ ภายในตารางใหใ้ ชเ้ ส้นขนาดปกติ

(ตวั อย่าง ) แนวทางการเขียนบทท่ี 4

บทที่ 4

ผลการวเิ คราะห์ข้อมูล

การวิจยั แกป้ ัญหาการขาดทกั ษะดา้ น.................................................................. ของ นกั เรียน
ช้นั .................................โรงเรียน ..........................จานวน....................คน ในคร้ังน้ี มีวตั ถุประสงค์เพื่อ
1) หาประสิทธิภาพของแบบฝึ ก.....................(นวตั กรรม) 2) เพื่อเปรียบเทียบทกั ษะการอา่ นก่อนและ
หลงั เรียน 3) เพอ่ื ศึกษาความพงึ พอใจของผเู้ รียนท่ีมีตอ่ ..........(นวตั กรรม)

ผลการวเิ คราะห์ข้อมูล

ผวู้ ิจยั ไดน้ าเสนอผลการวิเคราะห์ขอ้ มลู โดยแบ่งออกเป็น 3 ตอน ดงั น้ี (ในการนาเสนอผลการ
วิเคราะหข์ อ้ มูล ตอ้ งสอดคลอ้ งและหาตาตอบใหก้ บั วตั ถปุ ระสงคข์ องการวิจยั ถา้ วตั ถปุ ระสงคม์ ี 3 ขอ้
ผลการวิเคราะหข์ อ้ มูลตอ้ งมี 3 ขอ้ เช่นกนั )

ตอนท่ี 1 ผลการคานวณหาประสิทธิภาพของ (นวตั กรรม)
ตอนท่ี 2 ผลการเปรียบเทียบทกั ษะ..................ของนกั เรียนช้นั ...........โรงเรียน..............

ก่อนและหลงั การใช้ (นวตั กรรม).................................
ตอนท่ี 3 ผลการวิเคราะหค์ วามพงึ พอใจของนกั เรียนท่ีมีต่อการใช้ (นวตั กรรม)..............
ตอนที่ 1 ผลการคานวณหาประสิทธิภาพของ (นวตั กรรม) ...........................................

การหาประสิทธิภาพของชุดแบบฝึ ก…………………………………………….
จานวน 3 ชุด ไดแ้ ก่

1)…………………………………………………………………………….
2) …………………………………………………………………………….
3) …………………………………………………………………………….
รายละเอียดดงั ปรากฏ ในตารางที่ …….
ตารางที่ ........ การหาประสิทธิภาพของ (นวตั กรรม)....................................................

จานวน แบบฝึ กหดั / แบบฝึ ก ทดสอบหลงั เรียน ประสิทธภิ าพ
กลุ่มทดลอง คะแนนเตม็ คะแนนเฉลย่ี คะแนนเตม็ คะแนนเฉลยี่ E1 / E2

(คน) 50 48.2 50 26.83 80.33 / 89.44
6

จากตารางที่ ......... สามารถนามาวเิ คราะห์หาประสิทธิภาพของ (นวตั กรรม) ท่ีสร้างข้ึนตาม
เกณฑม์ าตรฐาน 80/80 ไดด้ งั น้ี

E1 หมายถึง คา่ ประสิทธิภาพของพฤติกรรมท่ีเปล่ียนในตวั นกั เรียน คดิ เป็นร้อยละ …… ของ
คะแนนเฉล่ียจากการทาแบบฝึกระหวา่ งเรียนของแตล่ ะชวั่ โมง

E2 หมายถึง คา่ ประสิทธิภาพของกระบวนการเรียนการสอนจากชุดแบบฝึก คิดเป็นร้อยละ
……….. ของคะแนนเฉล่ียจากการทดสอบหลงั เรียน

ดงั น้นั สรุปไดว้ า่ (นวตั กรรม) ที่ผวู้ จิ ยั สร้างข้นึ มีคา่ E1/E2 เท่ากบั …………/………… แสดง
วา่ (นวตั กรรม) ท่ีสร้างข้นึ มีประสิทธิภาพเป็นไปตามเกณฑม์ าตรฐานที่กาหนดไว้

ตอนท่ี 2 การเปรียบเทียบทกั ษะการอา่ นก่อนและหลงั เรียนโดยใช้ (นวตั กรรม) ...........
เร่ือง………………………………….... วเิ คราะหก์ ารทดสอบค่าที (t – test)

ตารางท่ี…. แสดงผลการเปรียบเทียบทกั ษะการอา่ นของนกั เรียนก่อนและหลงั การใช้ (นวตั กรรม)

กลุ่มตวั อยา่ ง N df คะแนนเตม็ ก่อนอบรม หลงั อบรม t
ผเู้ รียน X S.D. X S.D.

* ค่า t มีนยั สาคญั ทางสถิติท่ีระดบั .05 (คา่ วกิ ฤตของท่ี t ที่ระดบั .05, df….. เทา่ กบั .....)

จากตารางท่ี ........พบว่าผลการเปรียบเทียบทกั ษะการอ่านก่อนและหลงั การใช้ (นวตั กรรม)

………………………พบว่า เมื่อเปรียบเทียบ ค่า t ที่คานวณไดค้ ือ………กบั ค่าวิกฤตของ t ในตาราง

เท่ากบั ........ ค่า t ที่คานวณไดม้ ีค่ามากกว่าค่าวิกฤตของ t ในตาราง แสดงว่าคะแนนการทดสอบหลงั

เรียนสูงกวา่ คะแนนการทดสอบก่อนเรียน อยา่ งมีนยั สาคญั ทางสถิติท่ีระดบั .05

ตอนที่ 3 การศึกษาความพึงพอใจของนกั เรียนท่ีมีตอ่ การใช้ (นวตั กรรม) ..........................ซ่ึง
เป็นแบบมาตราส่วนประมาณคา่ (Rating Scale) 5 ระดบั วเิ คราะห์โดยการหาคา่ เฉลี่ย และความ
เบ่ียงเบนมาตรฐาน เกณฑใ์ นการแปลค่าระดบั ความคดิ เห็น มีดงั น้ี (บญุ ชม ศรีสะอาด. 2545)

ค่าเฉลยี่ ความหมาย

4.51 – 5.00 มีความพึงพอใจระดบั มากท่ีสุด
3.51 – 4.50 มีความพงึ พอใจระดบั มาก
2.51 – 3.50 มีความพงึ พอใจระดบั ปานกลาง
1.51 – 2.50 มีความพงึ พอใจระดบั นอ้ ย
1.00 – 1.50 มีความพึงพอใจระดบั นอ้ ยที่สุด

รายการ N = คน ระดับ
 S.D. ลาดับท่ี

ความพงึ พอใจ

1.

2.

3.

4.

5.

6.

7.

8.

9.

10.

11.

12.

13.

14.

15.

รวมเฉลี่ย

จากตาราง ....... แสดงใหเ้ ห็นวา่ ผตู้ อบแบบสอบถามมีความคดิ เห็นเกี่ยวกบั ...................
............................................……….โดยรวมอยใู่ นระดบั ……… ( = …….) เมื่อพจิ ารณาแต่ละ
รายการ พบวา่ อยใู่ นระดบั มากท่ีสุด จานวน…….รายการ อยใู่ นระดบั มาก จานวน…….รายการ อยใู่ น
ระดบั ปานกลาง จานวน ……. รายการ อยใู่ นระดบั นอ้ ย จานวน……. รายการ อยใู่ นระดบั นอ้ ยที่สุด
จานวน……. รายการ สาหรับ รายการที่มีคะแนนเฉล่ียสูงสุด คือ ……………………
( = …….) รายการท่ีมีคะแนนเฉลี่ยนอ้ ยที่สุด คอื …………………………( = …….)

บทท่ี 5

สรุปผลการวจิ ัย การอภิปรายผลและข้อเสนอแนะ

เริ่มพมิ พท์ ี่น่ี หากมีการกลา่ วนาของเน้ือหาในบทน้ี (มีหรือไม่มีก็ได)้

วตั ถปุ ระสงค์การวจิ ยั
คลิกที่นี่ เพือ่ เร่ิมพิมพเ์ น้ือหา

เคร่ืองมือที่ใช้ในการวจิ ัย
คลิกท่ีนี่ เพื่อเร่ิมพมิ พเ์ น้ือหา

วิธีการดาเนนิ การวิจัย (โดยย่อ)
คลิกท่ีนี่ เพอ่ื เร่ิมพิมพเ์ น้ือหา

การเกบ็ รวบรวมข้อมูล
คลิกที่น่ี เพือ่ เริ่มพมิ พเ์ น้ือหา

สรุปผลการวิจัย
คลิกที่น่ี เพอื่ เริ่มพมิ พเ์ น้ือหา

อภปิ รายผล
คลิกท่ีนี่ เพ่ือเร่ิมพิมพเ์ น้ือหา

ข้อเสนอแนะ
1. ขอ้ เสนอแนะในการนาผลการวิจยั ไปใช้
คลิกที่นี่ เพอ่ื เริ่มพมิ พเ์ น้ือหา
2. ขอ้ เสนอแนะในการศึกษาคน้ ควา้ คร้ังต่อไป
คลิกที่นี่ เพื่อเริ่มพิมพเ์ น้ือหา

( ตวั อย่าง ) แนวทางการเขียนบทที่ 5

บทที่ 5
สรุปผล อภปิ รายผล และข้อเสนอแนะ

การสรุปผลการวิจยั เร่ือง ……………………………….……………………………………
ประกอบดว้ ยสาระท่ีสาคญั ดงั น้ี

1. จุดมงุ่ หมายของการวจิ ยั
2. ประชากรและกลมุ่ ตวั อยา่ ง
3. เครื่องมือในการรวบรวมขอ้ มลู
4. สรุปผลการวิเคราะห์ขอ้ มลู
5. อภิปรายผล
6. ขอ้ เสนอแนะ

จุดมุ่งหมายของการวจิ ยั (คดั ลอกจากบทท่ี 1)

1. เพ่ือ …………………………………………………………..……………………………..
…………………………………………………………………………………………………...

2. เพ่ือ…………………...……………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………..

3. เพื่อ ………………...……………………………………..………………………………...
…………………………………………………………………………………………………..

ประชากรและกลุ่มตวั อย่าง (คดั ลอกจากบทท่ี 1)

ประชากร คือ ……………………………………….…………………………………………
…………………………………………………………………………………………………

กลุ่มตวั อยา่ ง คือ …………………………………….……………….………………………..
…………………………………………………………………………………………………

เครื่องมือทใ่ี ช้ในการรวบรวมเครื่องมือ (คดั ลอกจากบทที่ 3)

1. ………………………………………………………………………………………
2. .………………………………………………………………………………..……

สรุปผลการวิเคราะห์ข้อมูล (สรุปผลการวิเคราะห์ขอ้ มูลจากบทท่ี 4)

(สรุปเป็นขอ้ ๆ ตามวตั ถุประสงคก์ ารวิจยั ถา้ วตั ถุประสงคม์ ี 3 ขอ้ ตอ้ งมีผลการวิจยั 3 ขอ้ ดว้ ย
เช่นกนั ) เช่น

1. ประสิทธิภาพ(นวตั กรรม) ที่ผูว้ ิจยั สร้างข้ึนมีค่า E1/E2 เท่ากบั …………/………… แสดงวา่
(นวตั กรรม) ที่สร้างข้นึ มีประสิทธิภาพเป็นไปตามเกณฑม์ าตรฐานท่ีกาหนดไว้

2. คะแนนการทดสอบหลงั เรียนสูงกวา่ คะแนนการทดสอบก่อนเรียน อยา่ งมีนยั สาคญั ทางสถิติ
ที่ระดบั .05

3. ผูต้ อบแบบสอบถามมีความพึงพอใจต่อ...........(การใช้นวตั กรรม)............................

โดยรวมอยู่ในระดับ……… ( = …….) รายการที่มีคะแนนเฉลี่ยสูงสุด คือ ………………...

( = …….) รายการท่ีมีคะแนนเฉลี่ยนอ้ ยท่ีสุด คือ …………………………( = …….

อภิปรายผล
(เนน้ การนาผลการวจิ ยั มาใหเ้ หตผุ ลวา่ ที่ผลการวิจยั พบเช่นน้ีเป็นเพราะอะไรและสอดคลอ้ งหรือ

ขดั แยง้ กบั แนวคดิ ของนกั วิชาการ ผลงานวิจยั ของใครบา้ ง อยา่ งไร
จากผลการวิจยั พบวา่ ...........................................................................................................

........................................................................................................................................................
ท้งั น้ีอาจเป็นเพราะวา่ ...........................................................................................................

....................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................

ซ่ึงสอดคล้องกบั แนวคิด/งานวิจัยของ ..........................................................................
ท่ีวา่ ...................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................

ข้อเสนอแนะ

ข้อเสนอแนะในการนาไปใช้ (เป็ นข้อแนะนาในการนาผลการวิจัยหรือนวตั กรรม) ที่
พฒั นาข้นึ ไปใชก้ บั กล่มุ อื่นๆ)

1. จากผลการวิจยั พบวา่ ..........................................................................................................
.............................................................................................................................................................
ดงั น้นั (ใครควรทาอะไรกบั ใครอย่างไร) .............................................................. .............................
.............................................................................................................................................................

2. การนาชุดแบบฝึ กการพฒั นาทกั ษะ.....................................ไปใชใ้ นการเรียนการสอนใน

เน้ือหาและระดบั ช้นั เดียวกนั กบั งานวิจยั ควรจดั เวลาท่ีใชใ้ ห้ยืดหยุ่นและเหมาะสมโดยคานึงถึงความ
แตกต่างในดา้ นความรู้ความสามารถระหวา่ งบคุ คลเป็นสาคญั เพ่ือประโยชน์ต่อการพฒั นาของนกั เรียน
อยา่ งเตม็ ตามศกั ยภาพ

ข้อเสนอแนะในการวจิ ยั คร้ังต่อไป (ขอ้ เสนอแนะสาหรับผสู้ นใจทาวจิ ยั ในลกั ษณะน้ี)
ตวั อยา่ ง

1. ควรมีการพฒั นาชุดแบบฝึ กและศึกษาผลการสอนกลุ่มประสบการณ์ต่าง ๆ ในระดบั ช้นั อื่น
ควรมีการศึกษาเปรียบเทียบพฒั นาการทกั ษะดา้ น.....................ดว้ ยชุดแบบฝึกกบั การสอนวิธีอ่ืนๆ

2. ควรมีการศึกษารูปแบบการจัดกิจกรรมและวิธีสอนท่ีเหมาะสมต่อความสามารถทาง
การเรียนในแต่ละระดบั

บรรณานุกรม

[คลิกท่ีน่ี เพื่อเริ่มพมิ พ]์
[คลิกท่ีน่ี เพอ่ื เร่ิมพมิ พ]์
[คลิกท่ีนี่ เพื่อเริ่มพิมพ]์
[คลิกท่ีน่ี เพอ่ื เริ่มพิมพ]์
[คลิกที่นี่ เพื่อเร่ิมพิมพ]์
[คลิกท่ีน่ี เพือ่ เร่ิมพมิ พ]์
[คลิกท่ีน่ี เพอ่ื เร่ิมพมิ พ]์

ภาคผนวก

ชื่อ-สกุล ประวตั ผิ ้วู จิ ัย
วัน เดือน ปี
ท่อี ยู่ [คลิกที่นี่ เพื่อเร่ิมพิมพ]์
ประวัตกิ ารศึกษา [คลิกท่ีน่ี เพ่ือเริ่มพมิ พ]์
[คลิกท่ีนี่ เพือ่ เริ่มพมิ พ]์
[คลิกท่ีนี่ เพอื่ เริ่มพมิ พ]์
[คลิกท่ีน่ี เพอ่ื เร่ิมพมิ พ]์
[คลิกท่ีนี่ เพื่อเริ่มพิมพ]์