The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ข้อสอบงานส่งกำลังรถยนต์ ชุด1

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by kriangsak, 2022-05-05 04:03:08

งานส่งกำลังรถยนต์

ข้อสอบงานส่งกำลังรถยนต์ ชุด1

แบบทดสอบ ชุดที่ 1

วชิ างานส่งกำลังรถยนต์รหัส 20101-2004

--------------------------------------------------------------------------------------

1. ข้อใดคือ ลกั ษณะของประแจแหวน
ก. ปากของประแจจะเปดิ ทง้ั สองขา้ ง
ข. เป็นแทง่ หกเหล่ยี ม
ค. คลา้ ยกับหัวของประแจปากตาย
ง. มหี ัวขบั เปน็ ส่ีเหล่ยี ม
จ. คอโค้งงอทำเป็นมุม 15 หรือ 45 องศา

2. ข้อใดกล่าวถูกต้อง เกย่ี วกับปรมิ าณแรงบิดที่ได้ของประแจแหวน
ก. ความถนัดของผู้ใช้
ข. แรงที่กระทำ
ค. ส่วนหวั ของประแจ
ง. ความยาวของประแจ
จ. ความเข้ากนั ของหัวโบลต์หรือนัต

3. ข้อใดกลา่ วถกู ต้อง เกย่ี วกับ วิธใี ชง้ านประเเจเเหวน
ก. เลือกขนาดของประแจแหวนให้พอดกี บั หัวนัตหรอื โบลต์
ข. สวมประแจแหวนให้ลงแนบสนิทกับหวั นัตหรอื โบลต์
ค. ถ้าจำเป็นต้องผลักออกใหใ้ ชอ้ งุ้ มือผลกั ออกเพ่ือป้องกนั อันตราย
ง. ถกู ทั้ง ก. และ ข.
จ. ถกู ทกุ ข้อ

4. ปากของประแจจะเปดิ ทงั้ สองขา้ ง คือลักษณะของประแจชนดิ ใด
ก. ประแจปากตาย
ข. ประแจรวม
ค. ประแจเลื่อน
ง. ประแจกระบอก
จ. ประแจแหวน

5. ปากของประแจปากตายจะออกแบบสว่ นหวั ใหเ้ อียงและทำมุมกี่องศา
ก. 10 องศา
ข. 20 องศา
ค. 15 องศา
ง. 25 องศา
จ. ถกู ทุกข้อ

6. Combination wrench คอื ข้อใด
ก. ประแจรวม
ข. ประแจกระบอก
ค. ประแจปากตาย
ง. ประแจเลอ่ื น
จ. ประแจแหวน

7. Box wrench คือข้อใด
ก. ประแจรวม
ข. ประแจกระบอก
ค. ประแจปากตาย
ง. ประแจเลือ่ น
จ. ประแจแหวน

8. เครอ่ื งมือชนดิ ใดสามารถปรับระยะหา่ งของปากให้พอดีกับขนาดของนตั หรือโบลต์ได้
ก. ประแจรวม
ข. ประแจกระบอก
ค. ประแจปากตาย
ง. ประแจเลือ่ น
จ. ประแจแหวน

9. ขอ้ ใดกล่าวถกู ต้องเกี่ยวกบั วิธีใชง้ านของประแจปากตาย
ก. เลอื กขนาดของปากประแจใหม้ ีขนาดเทา่ กับขนาดของหวั โบลต์หรอื นตั
ข. เลอื กขนาดของปากประแจใหม้ ขี นาดโตกว่าขนาดของหัวโบลตห์ รือนัต
ค. การขนั หรอื คลายนัตหรือโบลตใ์ หด้ งึ ออกจากตวั เสมอ
ง. ควรเพมิ่ แรงขันหรือคลายด้วยการใช้ประแจ 2 ตัวตอ่ กัน
จ. ควรใชท้ ่อสวมต่อเขา้ กับประแจปากตาย เพราะจะทำให้เกดิ ความปลอดภยั ตอ่ ผ้ใู ช้

10. ชดุ ประแจกระบอกประกอบดว้ ยอปุ กรณต์ ่อไปนี้ ยกเวน้ ข้อใด
ก. ด้ามขนั ยาว
ข. ด้ามขนั กรอกแกรก
ค. ขอ้ ต่ออ่อน
ง. ดา้ มขนั ตัวเอส
จ. ดา้ มขนั เรว็

11. เคร่อื งมือชนดิ ใดเป็นเคร่อื งมอื ในงานช่างเกือบทุกแขนง
ก. ไขควง
ข. ค้อน
ค. ประแจปากตาย
ง. ประแจเลื่อน
จ. คมี

12. ไขควงมีสว่ นประกอบหลักกีส่ ่วน
ก. 3 สว่ น
ข. 2 ส่วน
ค. 5 ส่วน
ง. 4 สว่ น
จ. 6 ส่วน

13. มีลกั ษณะท่ปี ลายด้านหน่ึงเปน็ แบบปากเปดิ และปลายอีกข้างหนึ่งเป็นแบบปากปิด คอื เครื่องมือชนดิ ใด
ก. ประแจรวม
ข. ประแจกระบอก
ค. ประแจปากตาย
ง. ประแจเลื่อน
จ. ประแจแหวน

14. เคร่ืองมือทส่ี ามารถใชส้ ำหรับงานทว่ั ไป คือข้อใด
ก. ประแจรวม
ข. ประแจกระบอก
ค. ประแจปากตาย
ง. ประแจเลือ่ น
จ. ประแจแหวน

15. ข้อใดกล่าวถูกต้อง เกี่ยวกับหนา้ ทขี่ องประแจรวม
ก. ด้านที่เป็นประแจปากตายจะใชข้ ันหรอื คลายนัตและโบลต์ เม่อื มีพืน้ ทค่ี ับแคบ
ข. ดา้ นทเ่ี ป็นประแจแหวนจะใช้เมื่อต้องการขนั ใหแ้ น่นหรือคลายออกครั้งแรก
ค. ดา้ นทีเ่ ปน็ ประแจแหวนจะใชเ้ ม่ือต้องการขัน ซึง่ จะทำให้เกิดความมนั่ คงมากกวา่ ประแจปากตาย
ง. ถกู ทัง้ ข้อ ก. ข. และ ค.
จ. ไม่มีข้อใดถูก

16. เครื่องมือชนิดใดใช้สำหรับขันหรือคลายนตั และโบลต์ที่แน่นมากๆ
ก. ดา้ มขนั กรอกแกรก
ข. ด้ามขนั ยาว
ค. ด้ามขนั ตวั ที
ง. ดา้ มขนั เรว็
จ. ก้านตอ่

17. เครื่องมือชนดิ ใดมีลกั ษณะเหมือนสวา่ น
ก. ด้ามขันกรอกแกรก
ข. ด้ามขันยาว
ค. ดา้ มขันตวั ที
ง. ด้ามขนั เร็ว
จ. ก้านตอ่

18. ข้อใดกลา่ วผิดเกี่ยวกบั ขอ้ ต่ออ่อน
ก. อยา่ ใชข้ ้อต่ออ่อนในลักษณะที่ดา้ มจับเอยี งมากๆ
ข. อย่าใช้กบั เคร่ืองมอื ลม
ค. ขอ้ ต่ออาจแยกออกจากกันเมอื่ ใชก้ ับเคร่อื งมือลม
ง. เมอ่ื ใช้กบั เครือ่ งมือลม อาจจะทำให้เกดิ ความเสียหาย
จ. ไม่มขี ้อใดถูก

19. ประแจชนดิ ใด ใช้สำหรับขนั หรือคลายสกรูทีม่ หี ัวลกึ ลงไป
ก. ประแจแอล
ข. ประแจกระบอกหัวเทียน
ค. ประแจที
ง. ประแจเล่อื น
จ. ประแจรวม

20. ไขควงชนดิ ใด ใชส้ ำหรบั ขันหรอื คลายสกรทู ี่มหี ัวผ่า
ก. ไขควงปากแบน
ข. ไขควงปากแฉก
ค. ไขควงปากแบนและไขควงปากแฉก
ง. ไขควงตอก
จ. ไขควงปากแบนและไขตอก

21. ข้อปฏิบัติในการใช้ไขควงด้วยความปลอดภยั ขอ้ ใดกล่าวถูกตอ้ ง
ก. เลอื กขนาดของปากไขควงให้พอเหมาะกบั ร่องของหัวสกรู
ข. ขณะหมนุ ขันต้องให้ก้านไขควงควรต้ังเอยี งอยใู่ นแนวศนู ยเ์ ดียวกนั กับหวั สกรู
ค. หา้ มใช้ไขควงตอก เคาะ หรอื งดั ถ้ามีความจำเปน็ ต้องตอกกใ็ หต้ อกแรงๆ
ง. ใช้คมี จบั ก้านไขควงที่เปน็ ก้านกลมเพ่ือช่วยการบดิ ตวั
จ. ใชไ้ ขควงแทนสกัด เหลก็ นำศูนย์ หรอื เหล็กงัด

22. คีมปากยาว (Long nose pliers) เรยี กอีกชอื่ หน่ึงว่าอะไร
ก. คีมปากขยาย
ข. คีมเลือ่ น
ค. คีมปากแหลม
ง. คมี ตดั
จ. คมี ล็อก

23. คมี ชนิดใดทใี่ ชใ้ นการปอกสายไฟ
ก. คมี ปากขยาย
ข. คมี เลอื่ น
ค. คมี ปากแหลม
ง. คมี ตดั
จ. คีมล็อก

24.เหลก็ ส่งทีน่ ิยมใช้ในงานช่างยนต์ คือข้อใด
ก. เหล็กส่งสลกั
ข. เหลก็ สง่ เรยี ว
ค. เหลก็ สง่ ปะเกน็
ง. ถกู ท้ังข้อ ก. และ ข.
จ. ถกู ทกุ ข้อ

25. ข้อใดไม่ใชเ่ ครื่องมอื ท่ใี ชเ้ ฉพาะอยา่ ง
ก. ประแจวัดแรงบดิ
ข. ปลอกรัดแหวนลูกสูบ
ค. เหล็กดดู
ง. อุปกรณย์ กรถ
จ. เหล็กนำศนู ย์

26. ตวั กลางทีท่ ำหน้าทีต่ ัดและตอ่ กำลังทส่ี ง่ จากเคร่ืองยนต์ไปยังห้องเกยี ร์ คือข้อใด
ก. กระปุกเกยี ร์
ข. คลัตช์
ค. เพลากลาง
ง. เพลาท้าย
จ. เฟอื งทา้ ย

27. อปุ กรณ์ที่ทำหน้าทใ่ี นการปรบั เปลีย่ นกำลงั งานทรี่ ับมาจากเครื่องยนต์ คือข้อใด
ก. กระปุกเกียร์
ข. คลัตช์
ค. เพลากลาง
ง. เพลาท้าย
จ. เฟอื งทา้ ย

28. ทำหน้าทีถ่ ่ายทอดกำลงั จากเพลากลางไปยังเพลาข้าง คอื ข้อใด
ก. กระปุกเกยี ร์
ข. คลัตช์
ค. เพลากลาง
ง. เพลาท้าย
จ. เฟืองท้าย

29. ขอ้ ดขี องระบบขบั เคล่ือนล้อหนา้ ข้อใดกล่าวผดิ
ก. พน้ื ทภี่ ายในลดลง
ข. นำ้ หนักรถเบากวา่ ระบบการขบั เคล่ือนล้อหลัง
ค. สูญเสยี กำลงั นอ้ ยกว่า
ง. ประหยัดนำ้ มนั เชอ้ื เพลิง
จ. การทรงตัวดีกวา่

30. ข้อเสียของระบบขับเคลือ่ นล้อหน้า คอื ข้อใด
ก. ความคงทนของรถยนตข์ ับเคล่อื นลอ้ หนา้ จะมีความคงทนนอ้ ยกว่าแบบขบั เคลื่อน ล้อหลงั
ข. การซอ่ มแซมลำบาก
ค.ตน้ ทนุ การผลิตสูง
ง. ข้อ ก. และ ค. ถูกต้อง
จ. ถกู ทกข้อ

31. ข้อใดกลา่ วถูกต้อง
ก. ระบบขับเคล่ือนล้อหนา้ ไม่มเี พลากลางและเฟืองทา้ ย
ข. ระบบขับเคล่ือนล้อหนา้ ไม่มีเพลาท้าย
ค. ระบบขับเคลื่อนล้อหนา้ มเี ฟอื งท้าย
ง. ระบบขับเคล่ือนลอ้ หนา้ มีเพลากลาง
จ.ระบบขับเคล่ือนลอ้ หน้ามเี พลากลางและเฟืองท้าย

32. การสง่ ถ่ายกำลงั จากเครอื่ งยนต์ผ่าน จะส่งถ่ายผ่านส่ิงใด
ก. คลัตช์
ข. กระปุกเกียร์
ค. เพลากลาง
ง. เฟืองท้าย
จ. เพลาทา้ ย

33. ชุดเฟอื งท้ายต่อกบั กระปุกเกยี ร์ไม่ต้องใช้ เพลากลาง เป็นการขบั เคลือ่ นประเภทใด
ก. การขับเคล่ือนลอ้ หลัง
ข. การขบั เคล่ือนล้อหน้า
ค. การขบั เคล่ือนส่ลี อ้
ง. การขับเคลือ่ นล้อหลงั และการขับเคลอ่ื นล้อหน้า
จ. การขับเคลื่อนล้อหนา้ และการขบั เคลื่อนส่ลี อ้

34. กระปกุ เกียร์จะสง่ ถา่ ยกำลงั ไปยงั เพลาขับล้อหนา้ โดยตรง เป็นการขับเคลื่อนประเภทใด
ก. การขับเคล่ือนล้อหลัง
ข. การขับเคล่ือนลอ้ หนา้
ค. การขบั เคล่ือนสล่ี อ้
ง. การขบั เคลอ่ื นล้อหลังและการขับเคลื่อนล้อหนา้
จ. การขบั เคลื่อนล้อหนา้ และการขับเคล่ือนสลี่ อ้

35. การขบั เคล่ือนประเภทใด เปน็ ระบบการขับเคล่ือนทีท่ ุกลอ้ ช่วยในการขบั เคลือ่ น
ก. การขับเคล่ือนล้อหลัง
ข. การขบั เคลื่อนลอ้ หน้า
ค. การขบั เคล่ือนสีล่ ้อ
ง. การขับเคลอื่ นล้อหลงั และการขับเคล่ือนล้อหน้า
จ. การขบั เคลอ่ื นล้อหนา้ และการขบั เคลื่อนสี่ล้อ

36. ในสภาวะปกตกิ ารขับเคล่ือนสลี่ ้อ (Four Wheel Drive) จะใชร้ ะบบขับเคลื่อนแบบใด
ก. การขับเคล่ือนล้อหลัง
ข. การขับเคลื่อนล้อหนา้
ค. การขับเคลื่อนส่ีลอ้
ง. การขับเคล่ือนล้อหลังและการขบั เคลื่อนล้อหนา้
จ. การขบั เคลอ่ื นล้อหนา้ และการขบั เคลื่อนส่ีล้อ

37. ระบบส่งกำลงั ของรถยนต์ ส่ิงใดทำหน้าที่รับกำลงั งานจากเคร่ืองยนต์ และเป็นตัวต่อกำลงั งาน
ก. คลัตช์
ข. กระปุกเกียร์
ค. เพลากลาง
ง. เฟอื งท้าย
จ. เพลาท้าย

38. การเปล่ียนอัตราความเร็วในแต่ละคร้ัง สิ่งใดทำหนา้ ท่ตี ัดและต่อการส่งกำลงั ของรถยนต์
ก. คลตั ช์
ข. กระปกุ เกยี ร์
ค. เพลากลาง
ง. เฟืองท้าย
จ. เพลาทา้ ย

39. ขอ้ ใดคอื ไม่ใช่หน้าทขี่ องคลัตช์
ก. ตัดตอ่ กำลงั งาน
ข. ป้องกันไม่ใหเ้ กดิ เสียงดังขณะเข้าเกยี ร์
ค. ป้องกนั การชำรดุ เสยี หายของฟันเฟือง
ง. สะดวกในการเปลี่ยนเกยี ร์
จ. ประหยัดนำ้ มันเชอ้ื เพลิง

40. สิง่ ใดคือตัวเชื่อมท่ีทำใหก้ ารสง่ กำลังงานระหว่างเคร่ืองยนตก์ ับเกยี ร์รถยนตผ์ ่านไปได้อย่างสะดวกและน่ิม
นวล

ก. คลัตช์
ข. กระปุกเกียร์
ค. เพลากลาง
ง. เฟืองท้าย
จ. เพลาท้าย
41. ข้อใดกลา่ วถกู ต้อง
ก. คลตั ช์เป็นอุปกรณ์ที่ติดตงั้ อย่รู ะหวา่ งเครอ่ื งยนต์กับเพลากลาง
ข. คลตั ช์เป็นอปุ กรณ์ท่ตี ดิ ตัง้ อยู่ระหวา่ งเครอื่ งยนต์กบั กระปุกเกยี ร์
ค. คลัตช์เปน็ อปุ กรณ์ทีต่ ดิ ตั้งอยรู่ ะหว่างเครือ่ งยนต์กบั เฟืองท้าย
ง. คลัตชเ์ ป็นอุปกรณ์ที่ตดิ ตั้งอย่รู ะหวา่ งเครื่องยนตก์ บั เพลาท้าย
จ. คลัตช์เปน็ อปุ กรณ์ทต่ี ิดตั้งอยรู่ ะหวา่ งเครือ่ งยนต์กับลอ้ ของรถยนต์

42. ขอ้ ใดคือคลัตช์แบบแผน่ ความฝดื
ก. Dry Clutch
ข. Clutch Running Oil
ค. Friction Clutch
ง. Hydrodynamic Coupling
จ. Automatic Clutch

43. คลัตชแ์ บบใด ทท่ี ำงานโดยอาศยั แรงเหวี่ยงของลกู ตุ้มเหล็กเลื่อนเขา้ กดแผน่ คลตั ช์
ก. Dry Clutch
ข. Clutch Running Oil
ค. Centrifugal Clutch
ง. Hydrodynamic Coupling
จ. Automatic Clutch

44. ข้อใดกลา่ วถกู เก่ยี วกบั คลัตชแ์ บบแห้ง
ก. มแี ผ่นความฝืดทท่ี ำจากสารกันความร้อนและแรงเสยี ดทานสูง
ข. ประกอบด้วยแผ่นคลตั ช์ ลักษณะเปน็ แผน่ จาน โลหะกลม
ค. ชุดคลัตช์จะแช่อยกู่ บั น้ำมันตลอดเวลา
ง. ขอ้ ก. และ ข. ถกู ตอ้ ง
จ. ขอ้ ข. และ ค. ถูกต้อง

45. คลัตช์เปยี ก ขอ้ ใดกล่าวไมถ่ กู ต้อง
ก. เป็นคลตั ชท์ ีน่ ำมาใช้กบั รถจกั รยานยนต์
ข. Centrifugal Clutch
ค. ชุดคลัตช์จะแช่อยกู่ ับนำ้ มันตลอดเวลา
ง. สามารถเพม่ิ จำนวนของแผน่ คลตั ช์ได้มาก
จ. Clutch Running Oil

46. ส่วนประกอบของคลัตชข์ ้อใด เปน็ ตวั ส่งกำลงั งานของเครอื่ งยนต์
ก. ฝาครอบคลตั ช์
ข. ลอ้ ช่วยแรง
ค. ลูกปนื คลตั ช์
ง. ป๊มั คลตั ชต์ วั บน
จ. ป๊ัมคลตั ช์ตวั ล่าง

47. ข้อใดคือสว่ นประกอบของป๊ัมคลัตช์
ก. ตวั แมป่ มั๊ คลัตช์
ข. กระปุกน้ำมนั
ค. ชดุ ลูกสบู
ง. ยางกันฝุ่น
จ. ถูกทุกข้อ

48. ข้อใดคือ ลนิ้ บังคบั น้ำมัน
ก. ป้องกนั ไมใ่ หน้ ้ำมันไหลกลับ
ข. มที างนำ้ มนั เขา้ ออกได้
ค. ดันใหน้ ำ้ มนั มแี รงดัน
ง. ชดเชยน้ำมนั ในระบบคลัตช์
จ. ถกู ทุกข้อ

49. ขอ้ ใดไมใ่ ชฝ่ าครอบคลตั ช์
ก. เป็นชน้ิ สว่ นท่ีหุ้มแผ่นคลตั ช์
ข. ทำจากโลหะประเภทเหลก็ หล่อ
ค. ถูกออกแบบใหย้ ดึ ตดิ ด้วยโบลตเ์ ขา้ กับล้อชว่ ยแรง
ง. Fly wheel
จ. ประกอบดว้ ยแขนกดคลตั ชแ์ ละจานกดคลัตช์

50. ข้อใดคอื ความหมายของ Clutch Disc
ก. แผน่ คลตั ช์
ข. ผา้ คลตั ช์
ค. ฝาครอบคลตั ช์
ง. ชุดกดแผ่นคลตั ช์
จ. ลกู ปืนคลตั ช์

51. สว่ นประกอบใดทำหนา้ ท่ีเป็นตัวถ่ายทอดกำลงั ทไ่ี ด้จากแผน่ คลตั ชไ์ ปยังกระปกุ เกยี ร์
ก. เพลาคลัตช์
ข. เพลากลาง
ค. เพลาท้าย
ง. ชดุ กดแผ่นคลัตช์
จ. ลูกปนื คลัตช์

52. หน้าที่ของลกู ปนื คลตั ช์ คือข้อใด
ก. ยดึ และติดตั้งชุดอปุ กรณ์ตา่ งๆ ของคลัตช์
ข. กดหวคี ลตั ช์ให้เคล่ือนที่ไปในแนวทิศทางเดียวกับลอ้ ชว่ ยแรง
ค. ควบคุมการทำงานของคลตั ช์เป็นคลัตช์น้ำมันหรือคลตั ช์ไฮดรอลกิ
ง. รับแรงดนั น้ำมันจากปั๊มตัวบนเมือ่ เหยยี บคันคลัตช์
จ. ถกู ทกุ ข้อ

53. ข้อใดไมใ่ ช่ข้อดีของคลัตช์แบบแผ่นไดอะแฟรม
ก. แรงกดทเี่ กดิ ขึ้นไดเ้ ท่าๆ กันทกุ จุด
ข. มคี วามสมดลุ ดีกวา่ แบบขดลวดสปริง
ค. ออกแรงกดมากกว่าแบบขดลวดสปริง
ง. ออกแรงกดน้อยกว่าแบบขดลวดสปริง
จ. แรงกดไม่เปลี่ยนแปลงขณะความเรว็ สงู

54. หนา้ ทีข่ องป๊ัมคลัตชต์ ัวล่าง คือข้อใด
ก. รบั แรงดันนำ้ มันจากปัม๊ ตัวบน
ข. บงั คบั ใหค้ ลัตช์ทำงาน
ค. ควบคมุ การทำงานของคลตั ช์
ง. ดนั ให้น้ำมันมีแรงดันเม่ือเวลาเหยียบคนั บงั คับ
จ. ปอ้ งกันไมใ่ ห้นำ้ มันไหลกลับ

55. การควบคุมการทำงานของคลตั ช์ มีกีแ่ บบ
ก. 2 แบบ
ข. 3 แบบ
ค. 4 แบบ
ง. 5 แบบ
จ. 6 แบบ

56. คลตั ช์อตั โนมตั ิ ทำงานได้โดยอาศยั ส่งิ ใด
ก. แรงดนั เคร่ืองยนต์
ข. ตวั ส่งกำลังงานของเครื่องยนต์
ค. ความเรว็ รอบเครื่องยนต์
ง. ตวั รบั กำลงั งานเครอ่ื งยนต์
จ. ความดันเคร่ืองยนต์

57. เมื่อแผ่นคลัตช์สกึ จะเกิดสิ่งใด
ก. คลัตช์สูงหรอื ตำ่
ข. คลัตช์สึก
ค. นำ้ มนั ไฮดรอลกิ ลด
ง. คลัตชล์ น่ื
จ. คลตั ช์ฝดื

58. แม่ป๊ัมคลัตชร์ วั่ ซึม เกิดจากสาเหตใุ ด
ก. คลัตช์สูงหรือต่ำ
ข. รอยขีดข่วน
ค. ลูกยางบวม
ง. ข้อ ก. ถกู ต้อง
จ. ข้อ ข. และ ค. ถกู ต้อง

59. ข้อควรระวงั การถอดแมป่ ั๊มคลัตช์ คอื ขอ้ ใด
ก. เมื่อถอดท่อทางน้ำมนั คลตั ช์ออกให้รองรับนา้ มนั คลัตช์
ข. ถอดสลกั ลอ็ กดันแม่ปม๊ั ออก
ค. ใช้ประแจปากตายคลายนอตท่อทางนำ้ มนั คลัตช์
ง. ถอดนอตยึดแมป่ ๊ัมคลตั ช์
จ. ดงึ แมป่ ๊มั ออก

60. การถอดแยกชนิ้ ส่วนแมป่ ั๊มคลตั ช์ ขอ้ ใดกลา่ วถูกที่สุด
ก. ใช้คอ้ นและเหลก็
ข. ถอดถว้ ยน้ำมันคลตั ช์และยางรอง
ค. ดึงยาง
ง. ดึงกา้ น
จ. ตรวจรอยแตก

61. การถอดและประกอบปมั๊ คลัตช์ตัวลา่ ง จะกระทำเม่ือใด
ก. เกิดการรัว่
ข. เกิดการไหล
ค. เกดิ การล่ืน
ง. เกิดการฝดื
จ. เกิดการต่ำหรือสูง

62. ถ้าขณะเหยียบคลัตช์มเี สียงดงั แสดงว่าเกิดสง่ิ ใด
ก. ลูกปืนกดคลตั ช์รว่ั
ข. ลูกปนื กดคลัตช์ลน่ื
ค. ลกู ปืนกดคลตั ชส์ ึก
ง. ลกู ปนื กดคลตั ช์ฝดื
จ. ลูกปนื กดคลตั ช์เกดิ การตำ่ หรอื สงู

63. ถา้ แผ่นผา้ คลัตชส์ กึ จะทำใหเ้ กดิ สิ่งใด
ก. เข้าเกียรง์ า่ ย
ข. เขา้ เกียร์ยาก
ค. เขา้ เกยี ร์ลืน่
ง. เข้าเกยี ร์เร็ว
จ. เขา้ เกยี ร์ต่ำ

64. คลัตช์ลืน่ เปน็ อาการท่เี กิดขนึ้ ขณะแผ่นคลตั ช์ถูกบบี ทำใหผ้ ลเสยี ในขอ้ ใด
ก. คลตั ชฝ์ ืด
ข. เกิดความร้อนสูง
ค. เกิดการสกึ หรอ
ง. ชำรุดเสียหาย
จ. ถูกทุกข้อ

65. ถ้าคลตั ช์อยใู่ นสภาพดี เครื่องยนตจ์ ะเป็นอยา่ งไร
ก. เครือ่ งยนตล์ ่ืน
ข. เคร่ืองยนต์เร็ว
ค. เครอ่ื งยนต์ช้า
ง. เคร่ืองยนต์ชำรุดเสยี หาย
จ. เครอ่ื งยนตส์ ั่นและดับ

66. ถ้าเครือ่ งยนตไ์ ม่ดับแสดงวา่ คลตั ช์เป็นอยา่ งไร
ก. คลตั ชส์ ูงหรือต่ำ
ข. คลัตช์สึก
ค. น้ำมนั ไฮดรอลกิ ลด
ง. คลตั ชล์ ่นื
จ. คลตั ช์ฝืด

67. แผ่นคลตั ชต์ ิดตงั้ อยู่ในตำแหนง่ ใด
ก. แผน่ กดกบั หวีคลตั ช์
ข. แผน่ กดคลัตช์กับกระปุกเกียร์
ค. ลอ้ ช่วยแรงกับแผน่ กดคลตั ช์
ง. ลอ้ ชว่ ยแรงกับกระปุกเกียร์
จ. หวคี ลตั ช์กบั กระปกุ เกียร์

68. ข้อใดไม่ใช่ความหมายของประปุกเกียร์
ก. เปน็ ตัวรับกำลังของเครื่องยนตจ์ ากคลัตช์
ข. เป็นตัวเพม่ิ กำลงั ฉดุ ลากของเคร่อื งยนต์
ค. เปน็ อุปกรณ์ทต่ี ดิ ตั้งอยรู่ ะหว่างเครื่องยนต์กับกระปุกเกียร์
ง. กระปกุ เกยี รซ์ ิงโครเมชเปลี่ยนเกยี ร์ง่าย เบาแรง
จ. เพ่ิมความเร็วของรถยนต์ให้ตรงกบั สภาพการใช้งาน

69. การขับขึน้ เนินหรือบรรทุกส่ิงของหนกั รถยนต์ต้องการแรงขบั แบบใด
ก. แรงขับนอ้ ย
ข. แรงขบั มาก
ค. แรงขบั ธรรมดา
ง. รถว่ิงด้วยความเร็วสงู
จ. รถวิง่ ด้วยความเรว็ ต่ำ

70. แรงขบั คือข้อใด
ก. แรงท่ีถา่ ยทอดจากเคร่ืองยนต์มายงั ล้อ
ข. แรงท่ีถ่ายทอดจากเครื่องยนตม์ ายงั เพลา
ค. แรงทีถ่ า่ ยทอดจากเคร่ืองยนตม์ ายงั เกยี ร์
ง. รถว่ิงดว้ ยความเรว็ สงู
จ. รถวิ่งดว้ ยความเรว็ ต่ำ

71. เมอื่ เร่ิมออกรถ รถยนตต์ ้องทำอยา่ งไร เพ่ือใหร้ ถยนต์เคลือ่ นที่
ก. แรงขบั นอ้ ย
ข. แรงขับมาก
ค. แรงบดิ มาก
ง. แรงบิดนอ้ ย
จ. ความเรว็ ต่ำ

72. ขอ้ ใดไมใ่ ชห่ นา้ ท่ีของกระปุกเกียร์
ก. การเพ่ิมแรงบดิ เม่ือเรมิ่ ออกรถ
ข. การนำเฟืองมาทดกำลงั ทำให้รถยนตว์ ิ่งเร็วข้ึน
ค. เกียร์จะเปน็ ตัวปรบั ทิศทางการหมุนของเพลา
ง. การขับเคลื่อนถอยหลังสามารถหมุนกลับทางได้
จ. การเคลอ่ื นท่ีถอยหลงั ทำได้โดยการเขา้ เกยี ร์ถอยหลงั

73. ในการขับข่รี ถยนตล์ งทางลาดชนั มากๆ การเบรกควรใช้เกยี ร์ใด เพื่อลดอัตราเรว็ ของรถยนต์
ก. เกียรต์ ำ่
ข. เกยี รส์ งู
ค. เกยี รธ์ รรมดา
ง. เกียร์ปกติ
จ. เกยี ร์แรง

74. ขอ้ ใดไมใ่ ชส่ ว่ นประกอบของกระปุกเกยี ร์
ก. คลัตช์
ข. เพลา
ค. เฟือง
ง. ลูกปืน
จ. ถูกทกุ ข้อ

75. ข้อใดคือเพลา
ก. Shaft
ข. Bearing
ค. Gear Shifting
ง. Gear Oil
จ. ถกู ทกุ ข้อ

76. ขอ้ ใดคือ ลกู ปืน
ก. Shaft
ข. Bearing
ค. Gear Shifting
ง. Gear Oil
จ. ถูกทุกข้อ

77. ขอ้ ใดคอื คันเกียร์
ก. Shaft
ข. Bearing
ค. Gear Shifting
ง. Gear Oil
จ. ถกู ทุกข้อ

78. ข้อใดคือ น้ำมนั เกยี ร์
ก. Shaft
ข. Bearing
ค. Gear Shifting
ง. Gear Oil
จ. ถูกทกุ ข้อ

79. เพลาในข้อใด ใช้รับกำลังขับจากเพลาคลัตช์
ก. เพลาคลัตช์
ข. เพลารอง
ค. เพลากลาง
ง. เพลากำลัง
จ. เพลาทา้ ย

80. ส่วนประกอบใด ทำหนา้ ทีส่ ง่ กำลงั และเพิ่มหรือลดอตั ราทดของเกยี ร์
ก. เพลา
ข. เฟอื ง
ค. ลกู ปืน
ง. คนั เกยี ร์
จ. น้ำมันเกยี ร์

81. ขอ้ ใดคอื ลักษณะของฟนั เฟอื งในชดุ เกยี ร์
ก. เฟอื งฟันตรง
ข. เฟอื งฟนั เฉยี ง
ค. ชุดเฟอื งบรวิ าร
ง. ข้อ ก. และ ข. ถูก
จ. ถกู ทกุ ข้อ

82. เฟืองฟนั ทีด่ ัดแปลงมาจากฟันเฟอื งตรง คือข้อใด
ก. เฟืองฟันตรง
ข. เฟอื งฟนั เฉียง
ค. ชุดเฟืองบริวาร
ง. ขอ้ ก. และ ข. ถูก
จ. ถูกทกุ ข้อ

83. เฟืองฟันในข้อใด ไมน่ ยิ มใชใ้ นระบบเกียรร์ ถยนต์
ก. เฟืองฟันตรง
ข. เฟอื งฟนั เฉียง
ค. ชดุ เฟืองบรวิ าร
ง. ขอ้ ก. และ ข. ถกู
จ. ถูกทกุ ข้อ

84. เมื่อความเรง่ สูงจะเกดิ การกระแทกเต็มหนา้ ฟนั จึงทำใหม้ เี สียงดัง คอื ข้อใด
ก. เฟืองฟนั ตรง
ข. เฟืองฟันเฉยี ง
ค. ชุดเฟอื งบริวาร
ง. เฟอื งฟนั ตรงและเฟืองฟนั เฉยี ง
จ. เฟอื งฟนั เฉยี งและชุดเฟืองบรวิ าร

85. เฟืองฟนั ใด นยิ มใช้กับเกียร์รถยนต์ในปจั จุบัน
ก. เฟอื งฟันตรง
ข. เฟืองฟนั เฉยี ง
ค. ชุดเฟืองบรวิ าร
ง. เฟอื งฟันตรงและเฟืองฟนั เฉียง
จ. เฟอื งฟนั เฉยี งและชดุ เฟืองบรวิ าร

86. สว่ นประกอบกระปุกเกยี ร์ใด เปน็ ตัวรองรับภาระแรงที่กระทำกบั เพลา
ก. เพลา
ข. เฟอื ง
ค. ลกู ปนื
ง. คันเกยี ร์
จ. นำ้ มันเกียร์

87. เกยี ร์ชนิดใด ทม่ี ีคนั เกียร์ตอ่ โดยตรงกับกระปุกเกียร์
ก. เกยี ร์กระปุก
ข. กระปุกเกยี ร์
ค. เกยี ร์พวงมาลัย
ง. พวงมาลยั เกยี ร์
จ. น้ำมันเกียร์

88. ขอ้ ใดกล่าวผดิ เก่ยี วกับนำ้ มันเกียร์
ก. Gear Shifting
ข. นำ้ มันหลอ่ ลืน่ ทใ่ี ช้หลอ่ ลื่นชิน้ สว่ นตา่ งๆ
ค. Gear Oil
ง. ช่วยระบายความร้อน
จ. ลดเสยี งดงั

89. ขอ้ ใดไม่ใชส่ ว่ นประกอบของซงิ โครเมชแบบเฟืองทองเหลือง
ก. ดุมคลัตช์
ข. ลม่ิ เลอ่ื นหรือตวั หนอน
ค. เฟอื งทองแดง
ง. ปลอกเลือ่ น
จ. เฟอื งเกยี ร์

90. หนา้ ที่ดนั ตา้ นกับเฟืองทองเหลืองใหส้ มั ผสั กบั กรวยเฟืองเกียร์ เมอื่ เขา้ เกยี ร์ คือขอ้ ใด
ก. ดุมคลัตช์
ข. ลม่ิ เลอื่ นหรอื ตัวหนอน
ค. เฟืองทองแดง
ง. ปลอกเล่ือน
จ. เฟอื งเกียร์

91. Synchronizer Ring หมายถงึ ข้อใด
ก. เฟอื งทองเหลือง
ข. แหวนซิงโครไนเซอร์
ค. เฟอื งทองแดง
ง. ข้อ ก. และ ข.
จ. ขอ้ ข. และ ค.

92. ข้อใดคอื การเข้าเกียร์
ก. ลอ็ กเกียร์เพ่ือให้รถยนต์แล่นตามความเรว็ ท่ตี ้องการ
ข. โยกเกียร์ไปตามตำแหน่งการเขา้ เกยี ร์
ค. กลไกคนั เกียรจ์ ะผลักดันให้กา้ มปเู ลื่อนปลอกเลือ่ นเปลย่ี นเกยี ร์
ง. ขอ้ ก. ข. และ ค. ผิด
จ. ขอ้ ก. ข. และ ค. ถูก

93. กลไกการเขา้ เกียร์ที่นยิ มใช้ ยกเวน้ ขอ้ ใด
ก. กลไกป้องกันเกยี ร์หลดุ
ข. การป้องกนั การเขา้ เกียรเ์ ลย
ค. กลไกลอ็ กเข้าเกยี ร์
ง. กลไกเลอื กตำแหน่งเขา้ เกยี ร์
จ. ไม่มขี ้อใดถูก

94. การถอดกระปกุ เกียรแ์ ละติดตงั้ กระปุกเกียรก์ ระทำโดยวิธกี ารใด
ก. ถอดขว้ั ลบแบตเตอรี่
ข. ยกรถให้ขึ้นสูง
ค. รองรับใหต้ ัวรถลอยอยู่อย่างปลอดภยั
ง. ถอดชุดชน้ิ สว่ นตา่ งๆ
จ. ถกู ทกุ ข้อ

95. ลำดบั ขน้ั การถอดกระปุกเกียรร์ ถขบั ล้อหนา้ ข้อใดกลา่ วผดิ
ก. ถอดข้ัวลบแบตเตอรี่ ออกขวั้ เดยี ว
ข. ถอดขว้ั บวกแบตเตอรี่ ออกขัว้ เดียว
ค. ถ่ายน้าระบายความรอ้ นออก
ง. ถอดชุดกรองอากาศออก
จ. ถอดหวั เสยี บสายไฟออกจากสวติ ชไ์ ฟถอยหลงั

96. ข้อใดกลา่ วถกู ต้อง
ก. การประกอบกระปุกเกยี ร์กับเครอ่ื งยนต์ ต้องแน่ใจวา่ ได้จัดดุมแผน่ คลตั ชต์ รงกับเพลาคลตั ช์
ข. การประกอบกระปุกเกยี ร์กับเคร่อื งยนต์ ต้องแน่ใจว่าได้จัดดุมแผ่นคลตั ช์ตรงกับเพลากลาง
ค. การประกอบกระปุกเกียร์กับเครือ่ งยนต์ ต้องแน่ใจว่าได้จัดดมุ แผ่นคลัตชต์ รงกับเพลาท้าย
ง. การประกอบกระปกุ เกียร์กับเครื่องยนต์ ต้องแน่ใจว่าได้จัดดมุ แผน่ คลตั ชต์ รงกับเพลาข้าง
จ. ไมม่ ขี ้อใดถูก

97. หนา้ ที่ของโอเวอร์ไดรฟ์ คือข้อใด
ก. เพมิ่ ความเรว็ ให้กบั เพลาส่งกำลัง
ข. เพ่ิมความเร็วให้กับเพลากลาง
ค. เพมิ่ ความเรว็ ให้กบั เพลาท้าย
ง. เพิ่มความเรว็ ให้กับเพลารอง
จ. ถกู ทกุ ข้อ

98. ข้อใดกลา่ วถูกต้อง
ก. โอเวอรไ์ ดรฟ์ เป็นอปุ กรณท์ ่ีทำหนา้ ท่ีเพ่ิมความเร็วให้กับเพลาท้าย
ข. เพลาส่งกำลังมคี วามเร็วมากกว่าเพลาท้าย
ค. โอเวอรไ์ ดรฟ์ เป็นอปุ กรณ์ท่ีทำหนา้ ที่เพิ่มความเร็วให้กับเพลากลาง
ง. เพลาสง่ กำลงั มีความเร็วมากกว่าเพลากลาง
จ. โอเวอรไ์ ดรฟ์ เปน็ อุปกรณท์ ี่ทำหนา้ ท่เี พิ่มความเร็วใหก้ ับเพลาสง่ กำลงั ให้มีความเร็วมากกวา่ เพลา
คลตั ช์

99. ข้อดขี องการนำชุดโอเวอรไ์ ดรฟม์ าใช้กับชุดสง่ ถ่ายกำลัง คอื ข้อใด
ก. อัตราการใชเ้ ชอื้ เพลิงต่ำลง
ข. ลดการสึกหรอของระบบส่งกำลัง
ค. ลดการสกึ หรอของเครือ่ งยนต์
ง. ความเร็วรอบตำ่ ลงเสียงเกิดขึ้นนอ้ ยลง
จ. ถกู ทกุ ข้อ

100. ถา้ เฟืองตวั เล็กขบั เฟอื งตัวใหญ่ จะทำให้เกดิ ผลอย่างไร
ก. แรงบิดเพิ่ม
ข. แรงบิดลด
ค. ความเร็วลด
ง. ความเร็วเพิ่ม
จ. แรงบดิ เพิ่มและความเร็วลด

เฉลยแบบทดสอบ ชุดท่ี 1

วิชางานส่งกำลังรถยนต์รหัส 20101-2004

ขอ้ ท่ี เฉลย

1 ตอบ จ. คอโคง้ งอทำเป็นมมุ 15 หรือ 45 องศา
เพราะประแจแหวนจะมีลกั ษณะคอโค้งงอทำเป็นมมุ 15 หรือ 45 องศากับดา้ มประแจ บรเิ วณส่วน
หัวเปน็ ลกั ษณะวงแหวน มีจุดสัมผัสทง้ั 6 เหลีย่ มและ 12 เหลย่ี ม

2 ตอบ ง. ความยาวของประแจ
เพราะ ประแจแหวนจะแตกต่างกันไปตามขนาดของโบลตท์ ่ีจะใช้ ปริมาณของแรงบิดที่ได้ก็จะ
ขนึ้ อยู่กับความยาวของประแจ

3 ตอบ จ. ถูกทุกข้อ
เพราะ วธิ ใี ชง้ านประเเจเเหวน จะเลือกขนาดของประแจแหวนให้พอดีกบั หวั นตั หรือโบลต์ ถา้ ใหญ่
เกนิ ไปจะทำให้มมุ นัตหรือโบลต์เสียหายได้ สว่ นการสวมประแจแหวนน้ันใหล้ งแนบสนทิ กับหวั นัต
หรือโบลต์ แลว้ ดึงเขา้ หาตัว และถา้ จำเป็นต้อง ผลักออกใหใ้ ช้องุ้ มือผลกั ออกเพ่อื ป้องกนั อันตราย

4 ตอบ ก. ประแจปากตาย
เพราะ ประแจปากตาย ปากของประแจจะเปดิ ท้งั สองขา้ ง มีทัง้ แบบ 1 ปากและ 2 ปาก โดยแบบ 2
ปาก แตล่ ะข้างจะมีขนาดแตกต่างกนั

5 ตอบ ค. 15 องศา
เพราะ ปากของประแจปากตายจะออกแบบส่วนหวั ใหเ้ อียงทำมมุ 15 องศากบั ด้าม ทำให้สามารถ
ขันนตั หรอื โบลตใ์ นพนื้ ทแี่ คบๆ ไดง้ า่ ย

6 ตอบ ก. ประแจรวม
เพราะ Combination wrench หมายถึง ประแจรวม

7 ตอบ จ. ประแจแหวน
เพราะ Box wrench หมายถงึ ประแจแหวน

8 ตอบ ง. ประแจเล่ือน
เพราะ ประแจเล่ือน สามารถเล่ือนปรบั ระยะห่างของปากได้พอดีกบั ขนาดของนตั หรือโบลต์ด้วย
การหมนุ สกรปู รบั ตั้ง

9 ตอบ ก. เลอื กขนาดของปากประแจให้มีขนาดเท่ากบั ขนาดของหวั โบลต์หรือนตั
เพราะ วธิ ีใชง้ านของประแจปากตาย จะต้องเลือกขนาดของปากประแจใหม้ ีขนาดเทา่ กบั ขนาดของ
หัวโบลตห์ รอื นัต ถ้าเลือกขนาดของปากประแจโตกวา่ ขนาดของหัวนตั หรือโบลตจ์ ะทำใหเ้ กดิ ความ
เสยี หาย หรอื อาจขันพลาดทำใหเ้ กิดอันตรายได้

10 ตอบ ง. ดา้ มขนั ตัวเอส
เพราะ ไมใ่ ช่ด้ามขันตวั เอส แต่เปน็ ด้ามขันตัวที (Sliding T - handle) มลี กั ษณะคล้ายตวั “ท”ี (T)
ใชส้ ำหรบั ขันหรอื คลายนัตหรือโบลตท์ ต่ี ้องการแรงกดท้ังสองด้านเทา่ ๆ กนั

ขอ้ ท่ี เฉลย
11 ตอบ ก. ไขควง

เพราะ ไขควงเป็นเคร่ืองมือในงานชา่ งเกอื บทกุ แขนง และเป็นท่รี จู้ ักกันทั่วๆ ไป อปุ กรณ์ชนิดน้ี
ออกแบบมาเพื่อขันสกรูให้แน่นหรือคลายสกรูออก
12 ตอบ ก. 3 สว่ น
เพราะ ไขควงมีสว่ นประกอบหลกั 3 ส่วน ดังน้ี ดา้ มถือ, ก้าน และปาก
13 ตอบ ก. ประแจรวม
เพราะ ประแจรวม มีลักษณะทีป่ ลายดา้ นหนงึ่ เปน็ แบบปากเปดิ เหมือนกบั ประแจปากตาย และ
ปลายอกี ข้างหนึง่ เปน็ แบบปากปิดเหมือนกบั ประแจแหวน ด้านปลายทง้ั สองข้างของประแจรวมจะ
มีขนาดเดยี วกนั
14 ตอบ ง. ประแจเล่ือน
เพราะ ประแจเล่ือนเป็นประแจที่สามารถใช้สำหรบั งานท่ัวไป ปากของประแจเลื่อนมปี ากที่เลอ่ื น
ได้ตามขนาดทตี่ ้องการ โดยปกตแิ ลว้ จะไมใ่ ช้ขนั หรือคลายนตั และโบลต์ ยกเว้นใชป้ ระแจอื่นและ
ปากของประแจเขา้ ไม่ได้
15 ตอบ ง. ถูกทั้งข้อ ก. ข. และ ค.
เพราะ หนา้ ที่ของประแจรวม คือ ด้านท่เี ป็นประแจปากตายจะใชข้ ันหรือคลายนตั และโบลต์ เมื่อมี
พน้ื ทคี่ บั แคบสว่ นดา้ นท่ีเป็นประแจแหวนจะใช้เม่อื ต้องการขนั ให้แนน่ หรอื คลายออกครัง้ แรกซึ่งจะ
ทำให้เกดิ ความมัน่ คงมากกวา่ ประแจปากตาย
16 ตอบ ข. ดา้ มขันยาว
เพราะ ดา้ มขันยาวใช้สำหรบั ขันหรอื คลายนัตและโบลต์ทแ่ี น่นมากๆ โดยท่ัวไปจะใชต้ อนคลายคร้ัง
แรก และตอนขนั ให้แนน่ ครั้งสุดทา้ ย
17 ตอบ ง. ดา้ มขนั เร็ว
เพราะ ดา้ มขนั เรว็ มีลกั ษณะเหมือนสวา่ น ด้ามขันแบบนใี้ ช้ตอ่ กบั ประแจกระบอกสำหรบั ขันหรอื
คลายนัตและโบลต์เพ่ือความรวดเรว็ แต่นัตและโบลตจ์ ะตอ้ งไมแ่ นน่ เกนิ ไปและต้องมีพื้นทใ่ี นการขนั
กวา้ งพอทดี่ ้ามขนั จะเคลื่อนที่ได้
18 ตอบ จ. ไม่มีข้อใดถกู
เพราะ ข้อควรระวงั เก่ียวกบั ข้อตอ่ อ่อน : อย่าใช้ข้อต่ออ่อนในลักษณะที่ดา้ มจบั เอียงมากๆ และอย่า
ใช้กบั เคร่อื งมือลมเพราะขอ้ ต่ออาจแยกออกจากกนั และข้อตอ่ ไมส่ ามารถรองรับแรงขบั ได้ ซ่งึ อาจจะ
ทำใหเ้ กดิ ความเสยี หายกับเครื่องมือและชน้ิ ส่วนของรถได้
19 ตอบ ก. ประแจแอล
เพราะ ประแจแอลใช้สำหรับขนั หรอื คลายสกรูทีม่ หี วั ลึกลงไปเปน็ รูปหกเหลย่ี มหรือรูปดาว ซ่งึ
ประแจธรรมดาไมส่ ามารถเข้าถึงได้ ในการขนั ควรเลือกใชป้ ระแจให้พอดีกับรขู องหวั สกรู
20 ตอบ ก. ไขควงปากแบน
เพราะ ไขควงปากแบนหรือไขควงแบบมาตรฐาน ปากของไขควง จะมีลักษณะแบนลาดเอยี งไปยัง
ปลายสดุ ของไขควงและแบน จงึ เหมาะกับการใชส้ ำหรบั ขนั หรือคลายสกรทู ี่มหี วั ผ่า
21 ตอบ ก. เลอื กขนาดของปากไขควงให้พอเหมาะกับรอ่ งของหวั สกรู
เพราะ ข้อปฏบิ ตั ิในการใช้ไขควงดว้ ยความปลอดภยั
1. เลือกขนาดของปากไขควงให้พอเหมาะกับร่องของหัวสกรู
2. ขณะหมนุ ขนั ต้องให้ก้านไขควงต้ังตรงเอยี งอยู่ในแนวศนู ย์เดยี วกันกับหวั สกรู
3. หา้ มใช้ไขควงตอก เคาะ หรอื งัด ถา้ มคี วามจำเปน็ ต้องตอกกใ็ ห้ตอกเพยี งเบาๆ
4. หา้ มใชค้ มี จับกา้ นไขควงท่ีเป็นกา้ นกลมเพ่ือชว่ ยการบดิ ตัว
5. ห้ามใช้ไขควงแทนสกดั เหล็กนำศนู ย์ หรือเหล็กงัด

ขอ้ ที่ เฉลย

22 ตอบ ค. คมี ปากแหลม
เพราะ คมี ปากยาว (Long nose pliers) หรอื บางครงั้ เรยี กวา่ คีมปากแหลม ปากของคมี จะมี
ลักษณะเล็กเรียวยาวและบาง เหมาะสำหรับใชง้ านในที่แคบไดส้ ะดวก

23 ตอบ ง. คมี ตัด
เพราะ คมี ตดั ปากจะมลี กั ษณะเปน็ ใบมีดต้ังแตป่ ลายปากลงมา ใช้ในการตัดหรือปอกสายไฟสามารถ
นำไปตัดสายไฟหรือเลอื กตดั สายไฟทีต่ อ้ งการ

24 ตอบ จ. ถูกทุกข้อ
เพราะ เหล็กสง่ มีอยู่หลายแบบ แต่ทน่ี ิยมใช้ในงานช่างยนต์ คอื เหล็กส่งสลัก, เหล็กส่งเรียวและ
เหลก็ ส่งปะเก็น

25 ตอบ จ. เหล็กนำศนู ย์
เพราะ เหลก็ นำศนู ย์ เป็นเครื่องมือทั่วไปทใ่ี ชท้ ำงานสำหรับขนั ตอก คลาย

26 ตอบ ข. คลตั ช์
เพราะ คลตั ช์ (Clutch) ทำหน้าที่ตดั และตอ่ กำลงั ที่ส่งจากเครอื่ งยนต์ไปยังห้องเกยี ร์ โดยอาศยั
ความฝืดระหวา่ งแผ่นคลตั ช์กับล้อชว่ ยแรงในการขับเคลอื่ นรถยนต์

27 ตอบ ก. กระปุกเกยี ร์
เพราะ กระปุกเกียร์ (Transmission) เปน็ อปุ กรณ์ทที่ ำหน้าท่ีในการปรบั เปล่ียนกำลงั งานท่รี ับมา
จากเคร่ืองยนตใ์ ห้เหมาะสมกับสภาพของการขับขร่ี ถยนต์ เกยี ร์สามารถให้อัตราทดหลายค่าและ
สามารถเปลย่ี นทิศทางการหมุนของเพลาได้ในกรณที ่ตี ้องการให้รถยนต์ถอยหลงั

28 ตอบ จ. เฟอื งท้าย
เพราะ เฟืองท้าย (Differential) เป็นชดุ เฟอื งที่อยูใ่ นเส้ือเพลาหลัง ทำหนา้ ท่ีถา่ ยทอดกำลังจาก
เพลากลางไปยงั เพลาข้างและส่งตอ่ ไปยังลอ้ อีกทหี นึ่ง

29 ตอบ ก. พืน้ ท่ภี ายในลดลง
เพราะ ระบบขับเคลอ่ื นล้อหน้า พ้นื ทีภ่ ายในจะเพ่ิมมากขึน้ จากการท่ีชน้ิ ส่วนขบั เคลอื่ นไปรวมกัน
อยทู่ ด่ี ้านหนา้ ของตวั รถหมดและเครื่องยนตว์ างในลักษณะขวาง ทำให้ได้เน้ือทใี่ นสว่ นทเ่ี ป็นห้อง
โดยสารเพ่ิมมากข้ึน และดสู วยงามขึน้ อีกท้ังด้านหลังกน็ ง่ั ได้อยา่ งสบายอกี ด้วย

30 ตอบ จ. ถูกทกข้อ
เพราะ ขอ้ เสียของระบบขับเคล่อื นลอ้ หน้า จากการพจิ ารณาจะพบข้อเสียคอื
1. ความคงทนของรถยนตข์ ับเคล่ือนลอ้ หน้าจะมีความคงทนน้อยกว่าแบบขับเคล่ือน ล้อหลงั
เนอ่ื งจากชิน้ สว่ นบางช้ินทำงานหนกั
2. การซ่อมแซมลำบาก เนือ่ งจากเนื้อท่ีว่างบริเวณห้องเครื่องจะเหลือนอ้ ยลง เพราะ ชิ้นส่วน
ขับเคล่อื นทง้ั หมดจะมารวมอย่ทู ่เี ดียวกนั
3. ตน้ ทุนการผลิตสูง ถงึ แม้วา่ ระบบขบั เคล่อื นล้อหน้าไดต้ ดั ชิน้ สว่ นบางชนิ้ ออกไปแลว้ ก็ตาม แต่
ช้นิ ส่วนท่ใี ช้กับระบบขบั เคลือ่ นล้อหน้านัน้ ต้องมีคุณภาพดี จึงมรี าคาที่แพงกว่า

31 ตอบ ก. ระบบขบั เคล่ือนล้อหนา้ ไมม่ ีเพลากลางและเฟืองท้าย
เพราะ ในระบบขับเคลื่อนล้อหนา้ ไมม่ ีเพลากลางและเฟืองท้าย

32 ตอบ ข. กระปุกเกียร์
เพราะ ระบบส่งกำลงั (Power Train) มหี น้าที่ส่งถ่ายกำลังจากเคร่ืองยนตผ์ ่านเกยี ร์ (Gear) โดย
อาศยั การขบกันของฟนั บนขอบล้อเฟือง

ขอ้ ที่ เฉลย

33 ตอบ ก. การขบั เคลื่อนล้อหลัง
เพราะ ขับเคลอ่ื นล้อหลงั โดยชุดเฟอื งท้ายจะต่อกบั กระปกุ เกยี รไ์ ม่ต้องใช้ เพลากลาง กระปุกเกยี ร์
จึงส่งถา่ ยกาลงั ขบั ชดุ เฟืองท้ายโดยตรง

34 ตอบ ข. การขับเคลอ่ื นล้อหน้า
เพราะ การขบั เคลอ่ื นด้วยล้อหน้า กระปุกเกยี ร์จะสง่ ถา่ ยกำลังไปยังเพลาขับลอ้ หน้าโดยตรง

35 ตอบ ค. การขับเคลื่อนสี่ล้อ
เพราะ การขบั เคล่อื นส่ีลอ้ (Four Wheel Drive) เปน็ ระบบการขบั เคล่อื นของรถยนต์ ท่ีทุกล้อช่วย
ในการขบั เคลอ่ื น โดยในสภาวะปกตริ ถเหลา่ นจ้ี ะใช้ระบบขับเคล่อื นลอ้ หลัง แต่เม่ือเปลี่ยน การ
ขับเคล่อื นส่ลี ้อโดยผ่านชดุ การถ่ายทอดกำลัง กำลงั ขบั เคร่ืองยนตก์ ็จะส่งไปยงั ลอ้ หน้าดว้ ย ทำให้
สามารถขับเคล่ือนได้ท้ังสล่ี ้อ

36 ตอบ ก. การขับเคล่อื นล้อหลัง
เพราะ การขบั เคลือ่ นสี่ลอ้ เป็นระบบการขับเคล่ือนของรถยนต์ ทท่ี ุกล้อช่วยในการขบั เคลือ่ น โดย
ในสภาวะปกตริ ถเหล่านจี้ ะใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหลงั

37 ตอบ ก. คลตั ช์
เพราะ ระบบส่งกำลังของรถยนตน์ ั้น คลัตช์จะเปน็ ตัวทำหน้าที่รับกำลงั งานจากเคร่ืองยนต์ และเป็น
ตัวต่อกำลังงานให้กับเกยี ร์ เพลากลาง และลอ้ ของรถยนต์

38 ตอบ ก. คลัตช์
เพราะ ในการเคลื่อนที่ของรถจะมีการเปลีย่ นอัตราความเรว็ ซ่ึงการเปล่ียนอตั ราความเรว็ แตล่ ะครั้ง
จะตอ้ งใช้คลตั ชท์ ำหน้าทต่ี ัดและตอ่ การส่งกำลังของรถยนต์ได้อย่างเหมาะสมกบั สภาพของงานท่ีผู้
ขบั รถจะเลือกใช้

39 ตอบ จ. ประหยดั นำ้ มนั เช้อื เพลงิ
เพราะ การประหยัดน้ำมันเชื้อเพลงิ คือ ข้อดขี องระบบขับเคลื่อนลอ้ หน้า

40 ตอบ ก. คลตั ช์
เพราะ การตอ่ และตัดการส่งกำลงั ระหว่างเคร่ืองยนตก์ ับเกยี ร์รถยนต์ โดยมีคลัตช์เปน็ ตวั เช่ือมนัน้
จะทำให้การส่งกำลังงานผ่านไปไดอ้ ย่างสะดวกและนมิ่ นวล จึงทำใหง้ ่ายต่อการควบคมุ

41 ตอบ ข. คลตั ช์เปน็ อุปกรณ์ท่ีติดตั้งอย่รู ะหวา่ งเคร่ืองยนต์กบั กระปุกเกียร์
เพราะ คลตั ช์ (Clutch) เป็นอุปกรณ์ที่ติดต้งั อยูร่ ะหวา่ งเคร่ืองยนตก์ ับกระปกุ เกยี ร์ ทำหน้าทใ่ี นการ
ตดั ตอ่ การถ่ายทอดแรงบดิ ท่สี ่งจากเคร่ืองยนต์ไปยงั กระปกุ เกียร์ ใหเ้ ป็นไปตามสภาวะของการ
ทำงาน เพื่อให้คลัตชท์ ำงานได้อยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ

42 ตอบ ค. Friction Clutch
เพราะ Friction Clutch หมายถงึ คลัตชแ์ บบแผน่ ความฝดื

43 ตอบ ค. Centrifugal Clutch
เพราะ คลตั ชแ์ บบแรงเหวยี่ ง (Centrifugal Clutch) เปน็ คลตั ช์ทท่ี ำงานโดยอาศัยแรงเหว่ียงของ
ลูกตมุ้ เหลก็ เลอ่ื นเขา้ กดแผน่ คลัตช์

44 ตอบ ง. ขอ้ ก. และ ข. ถกู ต้อง
เพราะ คลัตช์แบบแหง้ ประกอบดว้ ยแผน่ คลตั ช์ ลักษณะเป็นแผน่ จาน โลหะกลม และมีแผน่ ความ
ฝืดท่ที ำจากสารกันความร้อนและแรงเสียดทานสงู ยดึ ติดอยู่กับผวิ ของ แผ่นคลตั ช์ท้งั สองดา้ น

ข้อท่ี เฉลย

45 ตอบ ข. Centrifugal Clutch
เพราะ Centrifugal Clutch เปน็ คลัตช์แบบแรงเหวย่ี ง

46 ตอบ ข. ลอ้ ช่วยแรง
เพราะ ล้อชว่ ยแรง เปน็ ตัวสง่ กำลงั งานของเครือ่ งยนตท์ ี่ติดตั้งส่วนประกอบของคลตั ช์ เพื่อใช้ในการ
ตดั และต่อกำลังใหก้ บั เกียร์ โดยขอบของล้อช่วยแรงจะทำเป็นเฟอื งเพ่ือใช้ในการสตาร์ทเคร่ืองยนต์

47 ตอบ จ. ถูกทุกข้อ
เพราะ สว่ นประกอบของป๊ัมคลัตช์แบ่งออกได้ดงั นี้ 1) ตัวแม่ป๊มั คลัตช์ 2) ชุดลกู สบู (Piston) 3)
ลิ้นบงั คบั นำ้ มนั 4) กระปุกน้ำมนั 5) ยางกันฝุ่น

48 ตอบ ก. ปอ้ งกันไมใ่ หน้ ้ำมนั ไหลกลับ
เพราะ ลน้ิ บังคับนำ้ มนั เป็นล้ินป้องกนั ไม่ใหน้ ้ำมันไหลกลับ เม่ือเหยียบคนั บงั คับคลัตช์ลูกยางในแม่
ปั๊มจะเล่ือนไปปิดช่องทางน้ำมัน

49 ตอบ ง. Fly wheel
เพราะ Fly wheel คอื ลอ้ ช่วงแรง

50 ตอบ ก. แผ่นคลัตช์
เพราะ แผน่ คลตั ช์ คือ Clutch Disc

51 ตอบ ก. เพลาคลัตช์
เพราะ เพลาคลัตช์ ทำหนา้ ท่ีเปน็ ตัวถ่ายทอดกำลังที่ได้จากแผ่นคลัตชไ์ ปยังกระปกุ เกยี ร์ บนเพลา
คลตั ช์ มีลักษณะเป็นร่องทีแ่ ผ่นคลัตช์สวมไดพ้ อดี

52 ตอบ ข. กดหวคี ลตั ช์ใหเ้ คล่ือนท่ีไปในแนวทิศทางเดียวกบั ล้อชว่ ยแรง
เพราะ ลูกปนื คลัตช์ ทำหนา้ ทก่ี ดหวคี ลัตชใ์ หเ้ คลื่อนที่ไปในแนวทิศทางเดยี วกบั ลอ้ ชว่ ยแรง เพื่อดึง
แผน่ กดคลตั ช์ให้เคลื่อนที่ถอยออกมา

53 ตอบ ค. ออกแรงกดมากกวา่ แบบขดลวดสปรงิ
เพราะ ข้อดีของคลัตชแ์ บบแผ่นไดอะแฟรม จะออกแรงกดน้อยกว่าแบบขดลวดสปริง แรงกด
เปล่ยี นแปลงเล็กนอ้ ยเมื่อแผน่ คลตั ชส์ ึก

54 ตอบ ก. รับแรงดนั นำ้ มนั จากป๊มั ตัวบน
เพราะ ป๊ัมคลตั ชต์ ัวล่าง จะตดิ ตั้งอยกู่ บั ชุดคลัตช์ มหี นา้ ที่รบั แรงดนั น้ำมันจากปม๊ั ตวั บน เม่ือเหยียบ
คนั คลตั ช์ แรงดนั นำ้ มันจะถูกส่งไปตามท่อนำ้ มันทต่ี ่อรว่ มกัน

55 ตอบ ข. 3 แบบ
เพราะ วธิ กี ารควบคุมการทำงานของคลัตชแ์ บ่งได้ดังนี้ 1. แบบกลไก (Mechanical) 2. แบบสาย
3. แบบไฮดรอลิก (Hydraulic)

56 ตอบ ค. ความเร็วรอบเครื่องยนต์
เพราะ คลตั ช์อตั โนมัติ เปน็ คลัตช์ทที่ ำงานได้โดยอาศยั ความเร็วรอบ เครอื่ งยนต์เปน็ หลกั เมอ่ื
ความเรว็ รอบของเครอื่ งยนต์ในขณะเดนิ เบาคลตั ช์จะถกู เลื่อนจากออก และเม่ือความเรว็ รอบของ
เคร่อื งยนตเ์ พม่ิ สงู ขึน้

57 ตอบ ง. คลตั ชล์ ื่น
เพราะ เม่อื แผน่ คลัตชส์ ึกระยะห่าง ระหวา่ งลูกปนื คลัตชก์ บั ปลายหวดี ้านในหรือตีนผีจะลดลง และ
อาจทำให้คลัตช์ล่ืนได้

ขอ้ ท่ี เฉลย

58 ตอบ จ. ขอ้ ข. และ ค. ถูกตอ้ ง
เพราะ เม่ือแม่ป๊มั คลตั ช์เกิดการร่ัวซึมของน้ำมนั ไฮดรอลิก ซง่ึ อาจเกดิ จากรอยขดี ข่วนหรือลกู ยาง
บวม จำเป็นต้องเปล่ียนชน้ิ สว่ นตา่ งๆ เพื่อใหแ้ ม่ปั๊มคลัตชม์ สี ภาพท่ใี ชง้ านไดเ้ ป็นปกติ

59 ตอบ ก. เมอ่ื ถอดท่อทางน้ำมันคลัตช์ออกให้รองรบั น้ามันคลตั ช์
เพราะ ข้อควรระวัง เมอ่ื ถอดทอ่ ทางนำ้ มนั คลตั ช์ออกให้รองรบั น้ำมนั คลัตช์ดว้ ยเศษผา้ หรือภาชนะ
อื่น

60 ตอบ ข. ถอดถ้วยน้ำมนั คลตั ชแ์ ละยางรอง
เพราะ การถอดถว้ ยนำ้ มนั คลัตชแ์ ละยางรองเปน็ คำตอบท่ีถูกท่สี ดุ

61 ตอบ ก. เกดิ การรัว่
เพราะ การถอดและประกอบป๊ัมคลัตช์ตัวล่าง จะกระทำต่อเม่ือปั๊มคลตั ชต์ ัวล่างเกดิ การรั่ว ซึ่งมกั จะ
เกิดจากการท่ีลูกยางชำรดุ

62 ตอบ ค. ลูกปนื กดคลตั ชส์ ึก
เพราะ ถา้ ขณะเหยยี บคลตั ชม์ ีเสียงดงั แสดงวา่ ลกู ปนื กดคลัตช์สึกควรเปลย่ี นใหม่

63 ตอบ ข. เข้าเกียร์ยาก
เพราะ ถา้ แผน่ ผา้ คลตั ชส์ ึกจะทำใหเ้ ข้าเกียรย์ าก ต้องใช้แรงในการเหยียบคลตั ชม์ ากข้นึ

64 ตอบ จ. ถูกทุกข้อ
เพราะ คลตั ชล์ ่นื เปน็ อาการท่ีเกดิ ข้นึ ขณะแผน่ คลตั ชถ์ ูกบบี ทำให้แผ่นคลตั ช์ฝืด เกดิ ความรอ้ นสูง
ทำใหค้ ลตั ชเ์ กดิ การสกึ หรอและชำรดุ เสียหาย

65 ตอบ จ. เคร่ืองยนต์ส่ันและดับ
เพราะ ถ้าคลตั ช์อยู่ในสภาพดีเครื่องยนต์จะสนั่ และดบั ทันที

66 ตอบ ง. คลัตชล์ ืน่
เพราะ ถ้าเครื่องยนต์ดบั แสดงวา่ คลัตชอ์ ยูใ่ น สภาพดี ถา้ เครื่องยนตไ์ ม่ดับแสดงวา่ คลัตชล์ น่ื

67 ตอบ ค. ลอ้ ชว่ ยแรงกบั แผ่นกดคลตั ช์
เพราะ แผ่นคลัตชอ์ ยรู่ ะหวา่ งลอ้ ชว่ ยแรงกบั แผน่ กดคลตั ช์

68 ตอบ ค. เปน็ อุปกรณ์ท่ีติดต้งั อยู่ระหว่างเครื่องยนต์กบั กระปุกเกยี ร์
เพราะ อปุ กรณ์ที่ติดตั้งอยูร่ ะหว่างเคร่ืองยนต์กบั กระปกุ เกียร์ คอื คลัตช์ (Clutch)

69 ตอบ ข. แรงขบั มาก
เพราะ การขับขนึ้ เนนิ หรือบรรทุกสง่ิ ของหนัก รถยนต์ตอ้ งการแรงขับมาก

70 ตอบ ก. แรงท่ีถา่ ยทอดจากเครอ่ื งยนต์มายังล้อ
เพราะ แรงขบั คือ แรงที่ถ่ายทอดจากเคร่ืองยนต์มายังลอ้

71 ตอบ ค. แรงบิดมาก
เพราะ เมื่อเริ่มออกรถ รถยนต์ตอ้ งการแรงบิดอย่างมากเพ่ือให้รถยนตเ์ คลื่อนท่ี โดยใช้อตั ราทดของ
เกียรต์ ำ่

72 ตอบ ง. การขับเคลอ่ื นถอยหลังสามารถหมนุ กลบั ทางได้
เพราะ การขับเคลื่อนถอยหลัง เครือ่ งยนต์ไมส่ ามารถหมนุ กลับทางได้

ข้อท่ี เฉลย

73 ตอบ ก. เกยี รต์ ำ่
เพราะ การเบรกด้วยเคร่ืองยนต์ สามารถใช้เกียร์ต่ำ เพ่ือลดอตั ราเร็วของรถยนต์ได้ โดยเฉพาะใน
การขบั ขี่รถยนตล์ งทางลาดชันมากๆ

74 ตอบ ก. คลตั ช์
เพราะ คลัตช์ ไมใ่ ช่ส่วนประกอบของกระปกุ เกยี ร์

75 ตอบ ก. Shaft
เพราะ Shaft แปลว่า เพลา

76 ตอบ ข. Bearing
เพราะ Bearing แปลวา่ ลูกปืน

77 ตอบ ค. Gear Shifting
เพราะ Gear Shifting แปลวา่ คันเกียร์

78 ตอบ ง. Gear Oil
เพราะ Gear Oil แปลว่า นำ้ มันเกียร์

79 ตอบ ข. เพลารอง
เพราะ เพลารอง (Counter Shaft) เปน็ เพลาท่ีมีเฟืองเกยี ร์สวมอยูใ่ ช้รบั กำลังขับจากเพลาคลตั ช์
เพอื่ สง่ ถา่ ยกำลังในอตั ราทดต่างๆ

80 ตอบ ข. เฟือง
เพราะ ในกระปุกเกียรร์ ถยนต์ท่ัวไป เฟืองจะทำหนา้ ท่สี ่งกำลังและเพ่ิมหรอื ลดอัตราทดของเกยี ร์

81 ตอบ จ. ถูกทุกข้อ
เพราะ ลกั ษณะของฟันเฟืองในชดุ เกียร์ แบ่งออกได้ 3 ชนดิ คือ เฟืองฟันตรง เฟืองฟนั เฉยี งและ
ชุดเฟืองบรวิ าร

82 ตอบ ข. เฟืองฟันเฉียง
เพราะ เฟอื งฟันเฉยี ง เปน็ เฟืองท่ีได้ดัดแปลงมาจากฟนั เฟืองตรงใหม้ รี ูปร่างตวั ฟนั ของเฟืองให้เอียง
หรือเฉียง ใชง้ านความเรว็ สงู ไดด้ ี

83 ตอบ ก. เฟืองฟันตรง
เพราะ เฟอื งฟนั ตรง ไมน่ ยิ มใช้ในระบบเกียรร์ ถยนต์

84 ตอบ ก. เฟืองฟนั ตรง
เพราะ เฟืองฟันตรง ตวั ฟนั เฟืองสมั ผัสอยู่ตลอดเวลา ผวิ สมั ผัสของร่องฟนั เฟอื งจับได้เตม็ ฟันของ
เฟอื ง รบั แรงขับได้สงู เม่ือความเร่งสูงจะเกดิ การกระแทกเต็มหน้าฟนั จึงทำให้มีเสยี งดัง

85 ตอบ ข. เฟืองฟนั เฉียง
เพราะ ฟนั ตอ่ ฟันของเฟืองสมั ผสั กนั ไดด้ ตี ลอดแนว การเลือ่ นเฟืองเขา้ และออกง่ายไม่มเี สียงดงั นิยม
ใช้กบั เกียรร์ ถยนต์ในปจั จุบัน

86 ตอบ ค. ลกู ปนื
เพราะ ลูกปนื เปน็ ตวั รองรับภาระแรงท่ีกระทำกับเพลา ในขณะทเ่ี กิดการหมนุ ตวั ตลบั ลกู ปืนจะเป็น
ตวั รองรับการเสยี ดสแี ละการหล่อลื่นตามรูปทรงของเพลาและตลับลูกปืน

ขอ้ ท่ี เฉลย

87 ตอบ ก. เกยี รก์ ระปุก
เพราะ เกียร์กระปุก คือ เกยี ร์ชนิดทมี่ คี ันเกยี ร์ต่อโดยตรงกับกระปุกเกยี ร์ โดยยดึ อยู่ท่ฝี าครอบ
กระปุกเกียร์

88 ตอบ ก. Gear Shifting
เพราะ Gear Shifting คือ คันเกยี ร์

89 ตอบ ค. เฟืองทองแดง
เพราะ ไม่ใช่เฟอื งทองแดง แต่เป็นเฟอื งทองเหลือง หรือแหวนซิงโครไนเซอร์

90 ตอบ ข. ล่ิมเลอื่ นหรือตวั หนอน
เพราะ ล่มิ เลื่อนหรือตัวหนอน มีหนา้ ที่ดนั ตา้ นกับเฟืองทองเหลอื งให้สัมผสั กบั กรวยเฟอื งเกียร์ เมื่อ
เข้าเกยี ร์

91 ตอบ ง. ขอ้ ก. และ ข.
เพราะ Synchronizer Ring คือ เฟืองทองเหลือง หรอื แหวนซงิ โครไนเซอร์

92 ตอบ จ. ข้อ ก. ข. และ ค. ถูก
เพราะ การเข้าเกียร์ คือ การเลือกลอ็ กเกยี ร์สำหรบั ใหร้ ถยนตแ์ ลน่ ตามความเรว็ ท่ีต้องการ ดว้ ยการ
โยกเกียรไ์ ปตามตำแหน่งการเขา้ เกียร์ กลไกคนั เกยี รจ์ ะผลักดันแกนก้ามปูท่ีอยู่ในกระปุกเกยี รใ์ ห้
ก้ามปเู ลอื่ นปลอกเล่ือนเปลี่ยนเกียรห์ รอื ปลดเกียร์

93 ตอบ จ. ไมม่ ีขอ้ ใดถกู
เพราะ กลไกการเข้าเกยี รท์ ่ีนิยมใช้ คือ กลไกป้องกนั เกยี ร์หลุด การป้องกนั การเข้าเกยี ร์เลย
กลไกล็อกเขา้ เกยี ร์ และกลไกเลือกตำแหนง่ เขา้ เกียร์

94 ตอบ จ. ถูกทุกข้อ
เพราะ การถอดกระปกุ เกยี ร์และตดิ ตั้งกระปุกเกยี ร์กระทำได้ตามขั้นตอนดงั น้ี
1. ถอดขัว้ ลบแบตเตอร่ี
2. ยกรถให้ขึ้นสงู และรองรบั ให้ตัวรถลอยอยู่อย่างปลอดภยั
3. ถอดชดุ ชิ้นส่วนต่างๆ

95 ตอบ ข. ถอดขัว้ บวกแบตเตอร่ี ออกขวั้ เดยี ว
เพราะ ลำดบั ขั้นการถอดกระปุกเกียรร์ ถขับลอ้ หน้า จะถอดสายแบตเตอรี่ โดยใหถ้ อดสายแบตเตอรี่
ขั้วลบ (-) ออกเพยี งข้วั เดียว

96 ตอบ ก. การประกอบกระปกุ เกยี ร์กับเครื่องยนต์ ต้องแน่ใจวา่ ได้จัดดุมแผน่ คลัตช์ตรงกับเพลาคลตั ช์
เพราะ การประกอบกระปกุ เกียร์กับเครอื่ งยนต์ ก่อนประกอบจะตอ้ งแน่ใจว่าได้จัดดุมแผน่ คลตั ช์
ตรงกับเพลาคลัตช์

97 ตอบ ก. เพ่มิ ความเรว็ ให้กบั เพลาสง่ กำลงั
เพราะ โอเวอร์ไดรฟ์ ทำหน้าที่เพิ่มความเร็วใหก้ บั เพลาสง่ กำลังใหม้ คี วามเร็วมากกว่าความเรว็ ของ
เพลาคลตั ช์

98 ตอบ จ. โอเวอรไ์ ดรฟ์ เป็นอุปกรณ์ท่ที ำหนา้ ทเ่ี พิ่มความเรว็ ให้กับเพลาส่งกำลังใหม้ ีความเรว็ มากกว่า
เพลาคลตั ช์
เพราะ ชุดโอเวอร์ไดรฟ์ (Overdrives) เป็นอุปกรณท์ ่ีทำหน้าทีเ่ พมิ่ ความเรว็ ใหก้ ับเพลาสง่ กำลงั ให้มี
ความเรว็ มากกว่าความเร็วคลัตช์

ขอ้ ที่ เฉลย

99 ตอบ จ. ถูกทุกข้อ
เพราะ การนำชดุ โอเวอร์ไดรฟ์มาใช้กบั ชดุ ส่งถ่ายกำลังมีข้อดีดงั นี้
1. อัตราการใช้เชือ้ เพลงิ ต่ำลง
2. ลดการสกึ หรอของระบบส่งกำลงั
3. ลดการสึกหรอของเครอ่ื งยนต์
4. ลดเสยี งรบกวน

100 ตอบ จ. แรงบิดเพ่ิมและความเร็วลด
เพราะ ถ้าเฟืองตวั เล็กขับเฟืองตวั ใหญ่ จะทำให้ความเรว็ ท่ีส่งออกลด (แรงบิดเพ่มิ และความเรว็ ลด)


Click to View FlipBook Version