คมู่ ือ การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนโครงงานอาชพี
บทที่ 1
บทนา
ที่มาของโครงงาน
ใหก้ ลา่ วถงึ ความเป็นมาและแรงบันดาลใจทส่ี นใจโครงงานเรอื่ งน้ี และความสาคัญตลอดจนเหตผุ ล
ท่ีจดั ทาโครงงานน้ี โดยใหน้ าข้อความมาจากเคา้ โครงของโครงงานทมี่ ีอย่แู ล้ว และเพ่มิ เติมรายละเอียดที่ได้
จากการค้นคว้าเอกสารหรอื รายงานวิจยั ท่ีเกย่ี วข้อง โดยให้นาเร่ืองที่มคี วามสอดคล้องกับโครงงานเพื่อให้
ผู้อา่ นเห็นความสาคัญของโครงงานทีท่ า จะเปน็ การเพ่มิ ความสาคัญให้กับโครงงาน
สง่ิ สาคญั ของการเขยี นในส่วนนี้เปน็ การเขียนเพ่อื ใหผ้ ้อู ่านเห็นคล้อยตามวา่ มเี หตผุ ลน่าเชอ่ื ถือและ
เป็นโครงงานที่สาคัญและน่าสนใจมาก
วัตถปุ ระสงค์
ใหน้ าวัตถปุ ระสงคข์ องโครงงานทเี่ ขยี นไวใ้ นเค้าโครงฯ มาเขียนทัง้ หมด ไม่ต้องคิดใหม่
สมมติฐาน (ถา้ มี)
เปน็ การคาดเดาคาตอบล่วงหนา้ หากโครงงานเรื่องใดไม่มีสมมตฐิ าน ให้ตัดออก
ตัวแปร (ถา้ มี) หากโครงงานเรอ่ื งใดมีตวั แปรใหเ้ ขียนดว้ ย หากไม่มีตัวแปรใหต้ ัดออก
ตวั แปรต้น (เหตุ)…………………………………..
ตวั แปรตาม (ผลท่เี กิดตามมา)…………………….
ประโยชน์ท่คี าดว่าจะไดร้ ับ
ให้เขยี นถึงประโยชนข์ องโครงงาน หากโครงงานนส้ี าเรจ็ ตามวตั ถุประสงคแ์ ลว้ จะเกดิ ประโยชน์
อะไรได้บ้าง
นิยามศัพทเ์ ชงิ ปฏิบตั กิ าร
เป็นการเขยี นอธิบายตามหมายหมายของคา เพื่อใหท้ ุกคนมีความเขา้ ใจตรงกนั
อภิชัย นุชเนือ่ ง และพชั ญภณ สารสา สพป.ตาก เขต 1 | 46
คมู่ ือ การจดั กิจกรรมการเรยี นการสอนโครงงานอาชพี
บทท่ี 2
เอกสารและงานวจิ ัยทเ่ี กยี่ วข้อง
ในบทน้เี ปน็ การนาเอกสารที่เกี่ยวขอ้ งกบั รายงานมาเขยี นเพอ่ื สนบั สนุนรายงานให้มีความนา่ เชอ่ื ถือ
และคุณคา่ มากข้ึน รวมทั้งเป็นแนวทางในการทาโครงงานต่อไป
เอกสารและงานวจิ ัยท่เี กี่ยวข้อง หมายถงึ ตารา หนงั สือ เอกสารตา่ งๆ รายงานการวจิ ยั บทคดั ย่อ
วารสาร นติ ยสาร ฯลฯ ท่ีมีเนือ้ หาสาระที่เก่ยี วข้องและสอดคล้องกับโครงงานท่ีทา การนาเน้ือหาจาก
เอกสารใดๆ มาใชอ้ ้างอิงกต็ าม ผูเ้ ขยี นจะต้องบนั ทึกข้อมูลของหนงั สือไว้ดว้ ยเพื่อจะนาไปเขียน
“บรรณานกุ รม” อนั ได้แก่ ช่ือผู้แต่ง ช่ือหนังสือ เมืองท่ีพิมพ์ โรงพิมพ์ และ ปีทพ่ี ิมพ์
ความสาคญั ของบทที่ 2 ใชเ้ ขยี นสนบั สนุนโครงงานทที่ าในการอภปิ รายผลในบทที่ 5
อภชิ ยั นุชเน่อื ง และพัชญภณ สารสา สพป.ตาก เขต 1 | 47
คู่มอื การจดั กิจกรรมการเรียนการสอนโครงงานอาชีพ
บทท่ี 3
วธิ ดี าเนินการ
ในบทนเ้ี ปน็ เขยี นบรรยายถงึ ข้ันตอนการจดั ทาโครงงานโดยละเอยี ด โดยใหน้ าวิธีดาเนินงานทเ่ี ขียน
ไว้ในเค้าโครงของโครงงาน แลว้ นามาเพ่ิมเติมรายละเอียดในแตล่ ะสว่ น ซ่งึ รายละเอียดของโครงงานแตล่ ะ
ประเภท แต่ละเรื่องจะแตกต่างกัน เชน่
1. โครงงานทดลอง 2. โครงงานสารวจ 3. โครงงานประเภทประดษิ ฐ/์
พัฒนา ฯ
- วสั ดุ อปุ กรณ์ แหลง่ ขอ้ มลู / กลุ่มเป้าหมาย /
ประชากรและกล่มุ ตวั อยา่ ง - วัสดุ อปุ กรณ์
- เครือ่ งมือที่ใช้ในการบนั ทึกการ เครอื่ งมอื ที่ใชใ้ นการเกบ็ รวมรวม
ทดลอง ขอ้ มลู - ข้ันตอนการประดิษฐ์
- ขั้นตอนการทดลอง ขน้ั ตอนการสารวจ
- ปฏทิ ินการปฏิบัตงิ าน - ปฏทิ ินการปฏบิ ตั งิ าน - ขนั้ ตอนการทดลองใช้
- การรวบรวมขอ้ มูล - การรวบรวมขอ้ มลู - ปฏิทินการปฏบิ ตั งิ าน
- การวิเคราะห์ข้อมลู - การวิเคราะหข์ ้อมูล - การรวบรวมข้อมูล
- การวเิ คราะหข์ ้อมูล
ตวั อย่างโครงงานสารวจ
ประชากร ให้เขยี นจานวนประชากรทง้ั หมด เช่น ถา้ จะสารวจจากนักเรยี นในโรงเรยี น
ประชากรได้แก่ จานวนนักเรียนช้นั ป.4 – ป.6 ทุกห้องเรียน มจี านวน……….คน
กลุ่มตวั อยา่ ง ใหเ้ ขียนกลุ่มคนท่ีได้เลือกมาเพอ่ื ตอบคาถาม โดยเขียนวิธีการเลอื กดว้ ย เชน่
กลุม่ ตวั อย่างทใ่ี ชใ้ นโครงงานน้ีได้แก่ นักเรยี นชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ 4 - 6 จานวน………คน
ไดจ้ ากการจบั สลากทุกห้อง โดยเลอื กนักเรยี นที่เปน็ เลขคี่
เครอ่ื งมือที่ใช้ในการเกบ็ รวบรวมข้อมูล (แบบสอบถามท่ีใชเ้ กบ็ รวบรวมข้อมูล)
เครื่องมอื ที่ใช้ ได้แก่ แบบสอบถามเรื่อง………….จานวน 1 ฉบบั เปน็ แบบสอบถามท่ผี จู้ ัดทา
โครงงานสรา้ งข้ึนเอง
อภชิ ัย นชุ เนอ่ื ง และพัชญภณ สารสา สพป.ตาก เขต 1 | 48
คมู่ อื การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนโครงงานอาชพี
การสรา้ งเคร่อื งมือ (การสร้างแบบสอบถาม)
การสรา้ งเครื่องมือทใี่ ช้ในการเกบ็ รวมรวมขอ้ มลู นี้ ได้ดาเนนิ การสรา้ งดังน้ี
1. วิเคราะหว์ ตั ถุประสงค์ของโครงงาน
2. ศกึ ษาเอกสาร และศึกษาตัวอยา่ งแบบสอบถามเพิ่มเตมิ
3. รา่ งแบบสอบถามและนาใหค้ รทู ่ปี รกึ ษาโครงงานตรวจสอบ
4. ปรบั ปรงุ แก้ไขแบบสอบถาม
5. นาไปสอบถามกลุ่มตวั อย่าง
ปฏทิ นิ การปฏิบตั ิงาน กจิ กรรม สถานทด่ี าเนินการ
วนั เดือน ปี
การเก็บรวบรวมข้อมลู
การเกบ็ รวบรวมข้อมลู ผูจ้ ัดทาโครงงานได้นาแบบสอบถามแจกให้นักเรียนชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 4
ปที ี่ 6 และมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2 ตอบแบบสอบถามโดย..........................
การวิเคราะหข์ อ้ มูล
1. นาแบบสอบถามมานบั (แจกแจงความถ่ี) วา่ ในแต่ละข้อได้กี่คะแนน
2. นามาหาค่ารอ้ ยละ โดยหาคา่ รอ้ ยละเปน็ รายข้อ
3. นาผลท่ไี ดม้ าเทียบกบั เกณฑท์ ่ีกาหนดดงั น้ี
คะแนนร้อยละ 1 – 25 หมายถึง ไม่พอใจ
คะแนนร้อยละ 26 – 50 หมายถงึ พอใจ
คะแนนร้อยละ 51 – 75 หมายถึง พอใจมาก
คะแนนร้อยละ 76 – 100 หมายถึง พอใจมากทีส่ ุด
สถิตทิ ใี่ ช้ ไดแ้ ก่ ค่ารอ้ ยละ
อภชิ ัย นชุ เนอ่ื ง และพัชญภณ สารสา สพป.ตาก เขต 1 | 49
คู่มือ การจดั กจิ กรรมการเรียนการสอนโครงงานอาชพี
บทที่ 4
ผลการทดลอง
ใหน้ าผลจากการทดลองที่ได้จากการเก็บรวบรวมขอ้ มลู ไวม้ าจัดทาข้อมูล ให้ดูสวยงาม เป็นระเบยี บ
อ่านงา่ ย โดยอาจนาเสนอในรูปของตาราง แผนภูมิ หรือกราฟ หรอื อืน่ ท่เี หมาะสมกับข้อมูล แล้วใหอ้ า่ น
ข้อมลู ตามที่ปรากฏโดยไม่ต้องใส่ความคิดเหน็ ดังตัวอย่าง
บทท่ี 4
ผลการทดลอง
โครงงานน้เี ป็นโครงงานทดลองเรอื่ ง……………………………………………………………………….
นาเสนอผลการทดลองดงั ต่อไปน้ี
ตารางท่ี 1 แสดงผลการเจรญิ เตบิ โตของตน้ ถว่ั เขยี ว
ครงั้ ที่ วนั เดอื น ปี ปุ๋ยมูลวัว ปยุ๋ มูลไก่ ปยุ๋ มูล
ท่วี ัดความสูง สกุ ร
1 1 พ.ค. 2562 5 7 5
2 7 พ.ค. 2562 12 14 13
3 14 พ.ค. 2562 25 30 28
4
5
จากตารางท่ี 1 พจิ ารณาจากความสงู ครั้งสุดท้ายพบว่า ตน้ ถ่ัวทป่ี ลูกในปยุ๋ มูลไก่เจริญเตบิ โต
ไดด้ ที ่สี ดุ มคี วามสูงเท่ากับ 30 ซม. รองลงมาไดแ้ ก่ ปลูกในปุ๋ยมูลสุกร ความสูงเท่ากับ 28 ซม. และ
ปยุ๋ มลู วัว ความสูง 25 ซม.
อภิชัย นุชเน่ือง และพชั ญภณ สารสา สพป.ตาก เขต 1 | 50
คมู่ ือ การจดั กจิ กรรมการเรียนการสอนโครงงานอาชีพ
บทท่ี 5
สรปุ อภิปรายและขอ้ เสนอแนะ
รายงานโครงงานเร่ือง…………………………………………………………….....................................................
ได้จัดทาขนึ้ โดยมวี ตั ถุประสงค์ดังตอ่ ไปนี้
วตั ถปุ ระสงค์ (ให้นาวตั ถปุ ระสงค์ในบทที่ 1 มาเขียนทั้งหมด)
1. ………………………….........................................................................................................................
2. ………………………….........................................................................................................................
3. ………………………….........................................................................................................................
วิธีดาเนินการ (ให้นาวิธกี ารดาเนนิ การทดลองในบทที่ 3 มาเขียน โดยควรเขยี นสรุปใหผ้ อู้ า่ นรูว้ ่า ทาอย่างไร
และเก็บรวบรวมข้อมูลอย่างไร
สรุปผล
ใหน้ าข้อความการอา่ นตารางในบทที่ 4 มาเขียน เรียบเรียงให้อ่านง่าย เข้าใจและกระชับ
โดยมุ่งเนน้ ใหต้ อบวัตถปุ ระสงคก์ ารทดลอง และควรสรุปด้วยว่าเปน็ ไปตามทีส่ มมตฐิ านต้ังไว้หรอื ไม่
อภิปรายผล
อภปิ รายผล ควรนาประเด็นที่สาคัญหรือน่าสนใจมาอภปิ รายผล ว่าผลการทดลองคร้งั น้ีเป็นเช่นนี้
เนื่องจาก……………ซง่ึ สอดคล้องกับผลการทดลอง หรือผลการวิจัยของใครอยา่ งไร มีข้อจากัดท่ีอาจทาใหผ้ ล
การศกึ ษาบกพร่องอย่างไรบา้ ง มขี ้อน่าสงั เกตอะไรบ้างหรือไม่ (ผู้ทาโครงงานเสนอความคิดเหน็ ตอ่ ประเดน็
ทนี่ ามาอภิปรายดว้ ย)
ขอ้ เสนอแนะ
กลา่ วถงึ ข้อเสนอแนะท่ีได้จากการทาโครงงาน เชน่ ผลของการศึกษาจะนาไปใชป้ ระโยชนอ์ ะไรได้
บ้าง อย่างไร และหรือควรปรับปรุงอย่างไรบา้ ง แลว้ ควรมขี ้อเสนอแนะ สาหรับการศกึ ษาทดลองเร่ือง
ทานองนต้ี ่อไปในอนาคตอย่างไร
อภชิ ยั นชุ เน่อื ง และพชั ญภณ สารสา สพป.ตาก เขต 1 | 51
คมู่ อื การจัดกจิ กรรมการเรยี นการสอนโครงงานอาชีพ
ตัวอยา่ งบรรณานกุ รม
คณะกรรมการการประถมศึกษาแหง่ ชาติ. (2542). แนวการจัดกจิ กรรมการเรียนร้โู ดยโครงงาน. กรุงเทพฯ
: โรงพิมพ์คุรสุ ภาลาดพรา้ ว.
คณะกรรมการการประถมศึกษาแหง่ ชาต.ิ (2543). เอกสารเจาะลกึ การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้. กรงุ เทพฯ
: โรงพมิ พค์ รุ ุสภาลาดพร้าว.
นายกรฐั มนตรี, สานัก. (2542). พระราชบญั ญตั ิการศกึ ษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542. กรงุ เทพฯ
: โรงพิมพค์ รุ ุสภาลาดพรา้ ว.
วชิ าการ , กรม. กระทรวงศึกษาธิการ. (2543). การปฏริ ปู การเรยี นรู้ เน้นผเู้ รยี นสาคัญที่สดุ
: แนวทางสู่การปฏบิ ตั ิ. กรงุ เทพฯ : โรงพิมพ์ครุ สุ ภาลาดพร้าว.
อภิชยั นชุ เนื่อง. (2545). โครงงานประเภททดลอง. จังหวดั ตาก : หนว่ ยศกึ ษานิเทศก์ สานักงาน
การประถมศึกษาจงั หวัดตาก.
อภชิ ยั นุชเนอื่ ง. (2545). โครงงานประเภทสารวจ. จังหวดั ตาก : หนว่ ยศึกษานิเทศก์ สานักงาน
การประถมศึกษาจงั หวัดตาก.
อภชิ ัย นุชเนอ่ื ง. (2545). โครงงานประเภทสง่ิ ประดิษฐ์. จงั หวดั ตาก : หนว่ ยศึกษานิเทศก์ สานักงาน
การประถมศึกษาจังหวดั ตาก.
อภชิ ยั นุชเนอ่ื ง และพัชญภณ สารสา สพป.ตาก เขต 1 | 52
คู่มือ การจดั กิจกรรมการเรยี นการสอนโครงงานอาชพี
การจัดแสดงโครงงาน
การจดั ทาผังโครงงาน
เม่ือนักเรยี นได้จัดทาโครงงานสิ้นแล้ว ครูควรจัดเวทใี ห้นักเรียนไดแ้ สดงผลงาน โดยก่อนท่ีจะมีการ
จัดแสดงผลงานควรใหน้ กั เรียนจัดทาผังโครงงานกอ่ น เพราะผลการจัดทาโครงงานของนักเรียนที่เปน็
หลักฐานหรือร่องรอยสาคญั คือ รายงานโครงงานและผังแสดงโครงงาน ซง่ึ นักเรียนจะได้นาหลักฐานดังกลา่ ว
เสนอต่อผู้อ่ืนได้อยา่ งเข้าใจ
การจัดทาผังโครงงานเป็นการแสดงออกของนักเรยี นท้งั ด้านทักษะการส่ือสาร ทักษะ การเขียน
การสาธิต ความคดิ รเิ รม่ิ สรา้ งสรรค์ ซึง่ สอดคล้องกบั การวดั และประเมินทก่ี าหนดใหม้ ีการประเมนิ การอา่ น
คดิ วเิ คราะห์ เขียน ดังนน้ั ครูผู้สอนควรฝึกให้นักเรยี นจัดทาผงั โครงงาน โดยควรให้ครอบคลุมประเด็น
ต่อไปนี้
1. ช่ือโครงงาน ช่ือคณะผู้จัดทา ชอ่ื อาจารย์ทป่ี รึกษา
2. คาอธบิ ายโดยย่อ ถงึ ทีม่ า หรอื ความสาคัญของโครงงาน
3. วิธดี าเนินการ เขียนให้กระทัดรัด เน้นประเดน็ ท่ีสาคัญๆ
4. ผลการทดลอง ควรเขยี นให้กระทัดรดั เข้าใจงา่ ยและจัดตงั้ แสดงผลการทดลองไว้
5. สรุปผลการทดลอง ใหร้ ะบุผลสรุปของโครงงานโดยใชข้ ้อความที่สน้ั กระทดั รดั
รปู แบบการจดั ผงั โครงงานโดยท่ัวไป มีลกั ษณะและขนาดโดยประมาณ ดังน้ี
ชื่อเรอื่ ง
ผลการทดลอง วธิ ีดาเนินการ สมมติฐาน
100 ซม. สรปุ ผล
รปู ภาพ
60 ซม. 120 ซม. 60 ซม.
หมายเหตุ ขนาดผังของโครงงานท่จี ะส่งเข้าประกวดตอ้ งเป็นไปตามผจู้ ัดกาหนด
อภิชยั นุชเนือ่ ง และพัชญภณ สารสา สพป.ตาก เขต 1 | 53
คมู่ อื การจดั กิจกรรมการเรยี นการสอนโครงงานอาชพี
การนาเสนอโครงงาน
การนาเสนอโครงงาน สามารถนาเสนอในรปู แบบต่างๆ ได้ตามความเหมาะสม ซ่ึงโดยทั่วไปนิยมจัด
แสดงดงั ตอ่ ไปน้ี
1. การจดั แสดงผลงานในชน้ั เรยี นหรอื ในโรงเรยี น ควรจัดแสดงผังโครงงาน และรายงานโครงงาน
เพราะควรจัดแสดงผลงานไว้เป็นเวลานานๆ โดยไมต่ อ้ งมคี นคอยอธบิ าย ให้ผู้เข้าชมผลงานไดศ้ ึกษาเอง
เช่น งานสปั ดาห์วทิ ยาศาสตร์ ของโรงเรยี น เปน็ ตน้
2. การจัดแสดงในงานมหกรรมวชิ าการต่างๆ ควรจัดแสดงผังโครงงาน รายงานโครงงานและวสั ดุ
อปุ กรณ์ท่ีใช้ และควรมีคณะผู้จดั ทาโครงงานคอยอธบิ ายและตอบข้อซักถามของผเู้ ข้าชมงาน และอาจมีการ
สาธิตประกอบด้วยก็ได้
3. การจัดแสดงเพ่ือการประกวดแข่งขัน เพือ่ ให้คณะกรรมการตัดสินการประกวดเห็นภาพการ
ทางานโครงงานของนกั เรยี น มแี นวทางนาเสนอดงั น้ี
- การนาเสนอโดยใชร้ ายงานโครงงาน ผังโครงงานและวัสดุอปุ กรณ์ นักเรียน ต้องอธบิ ายตั้งแต่
ตน้ เร่ิมทาจนถึงสรปุ ผล โดยใช้เวลาประมาณ 10 นาที และหลงั จากนัน้ คณะกรรมการจะซักถาม
- การนาเสนอโดยใชร้ ายงาน ผงั โครงงานและคอมพิวเตอร์ ผ้จู ัดทาโครงงานสามารถถ่ายทาภาพ
การจัดทาโครงงานไว้เพ่ือจะได้นาภาพมานาเสนอด้วยคอมพิวเตอร์ หากเป็นภาพเคลื่อนไหว หรอื ถ่ายทา
ด้วยวดี ิทศั น์ จะสง่ ผลให้ผู้เขา้ ชมเห็นกระบวนการ ขั้นตอนการทางานของนกั เรยี นชดั เจนยิ่งข้นึ
ข้อควรคานึงในการจัดนิทรรศการแสดงโครงงาน
1. ความปลอดภัย
2. ความเหมาะสมกับเนื้อที่ใช้จดั แสดงผลงาน
3. คาอธบิ ายในผงั โครงงาน ควรเขยี นแสดงเน้นประเด็นสาคัญๆ และนา่ สนใจ โดยให้มขี ้อความ
กระทัดรัด
4. ใช้รปู แบบการแสดงทนี่ ่าสนใจ ดึงดดู ความสนใจของผ้เู ขา้ ชม มสี สี นั สดใส มีจดุ เนน้
5. จดั ตาราง รปู ภาพได้อย่างเหมาะสม
6. สิ่งทีน่ ามาแสดงต้องถูกต้อง ทง้ั ดา้ นหลกั การและข้อความ
7. โครงงานสงิ่ ประดษิ ฐ์ สิง่ ประดิษฐ์ต้องอยู่ในสภาพที่พรอ้ มจะสาธิตได้
อภชิ ัย นชุ เน่ือง และพชั ญภณ สารสา สพป.ตาก เขต 1 | 54
คมู่ อื การจดั กจิ กรรมการเรยี นการสอนโครงงานอาชีพ
การประเมนิ โครงงาน
การประเมินผลโครงงานเปน็ การประเมนิ ผลการเรียนการสอนของครู เพ่ือศึกษาผลสาเร็จของงาน
ปัญหาและอุปสรรคทเ่ี กิดข้ึนในระหวา่ งการทางาน และส้ินสดุ การปฏิบัติงาน การประเมินผลจะประเมนิ
ตามจุดประสงค์ของการปฏบิ ัติงาน ซึ่งจะต้องทาอยา่ งต่อเนื่องสมา่ เสมอ และให้ข้อมลู ยอ้ นกลับตอ่
ผู้ปฏิบตั งิ าน คือการนาผลการประเมินไปปรับปรงุ และพัฒนาตอ่ ไป
ในกรณีท่ีครมู อบหมายให้นักเรยี นทาโครงงาน ซงึ่ เปน็ สว่ นหน่งึ ของการจดั กจิ กรรมการเรยี นการ
สอนตามปกติ และส่งเสริมให้นกั เรียนทาตามความสมัครใจ ครูควรใชผ้ ลงานของนักเรียนในการประเมนิ
ดงั นี้
1. เพอื่ ประเมินการอ่าน คิด วเิ คราะห์ เขียนสื่อความ และนาคะแนนไปเป็นผลการประเมินปลาย
ภาคเรยี น / ปลายปกี ็ได้
2. เพอ่ื เป็นข้อมูลย้อนกลบั ให้กบั นักเรียนไดป้ รับปรงุ หรือพัฒนางานในโอกาสตอ่ ไป
3. เพื่อคดั เลอื กโครงงานฯ ทดี่ ี สมบูรณแ์ ละน่าสนใจไปร่วมแสดงในงานต่างๆ หรือการประกวดใน
ระดับตา่ งๆ ซ่ึงในกรณนี ้ีอาจประเมนิ ในรปู ของคณะกรรมการหรือกรรมการผทู้ รงคุณวฒุ ทิ ่ีโรงเรยี นเชญิ มาก็
ได้
หลกั การประเมินโครงงาน หลักการสาคัญสาหรับการประเมนิ โครงงาน มดี งั นี้
1. ความคดิ ริเริ่มสร้างสรรค์ ไดแ้ กค่ วามแปลกใหม่ วิธีการศึกษาคน้ ควา้ เครอื่ งมือหรอื วัสดอุ ปุ กรณ์
ในการจดั ทาโครงงานฯ โดยเน้นความแปลกใหม่ตามระดบั ความสามารถของนกั เรียน ผู้ทาโครงงาน
2. ความถกู ต้องและความเหมาะสมของวธิ กี ารศึกษาค้นควา้ ใหพ้ ิจารณาการนาวธิ กี ารกระบวนมา
ใชใ้ นการจดั ทาโครงงานได้ถกู ตอ้ งเหมาะสมเพียงไร
3. การเขยี นรายงานโครงงาน พิจารณาถงึ ความถกู ต้อง ความชัดเจน การส่ือความหมายให้ผ้อู นื่
เขา้ ใจโครงงาน เชน่ รูปแบบการเขยี น ความถูกต้องครบถ้วนตามหลักการเขียนรายงานโครงงานเปน็ ต้น
4. การจัดแสดงโครงงาน ช่วยให้ผ้ทู ่ชี มโครงงาน มีความเข้าใจเพยี งใด รวมทัง้ ความชดั เจน ความ
สวยงามและการดึงดดู ความสนใจ
5. การอธบิ ายโครงงานด้วยวาจา พจิ ารณาถึงความสามารถในการพูดอธิบายโครงงานและการตอบ
ข้อซักถามตา่ งๆ ได้อย่างถูกต้อง รวดเรว็ และเหมาะสม
อภชิ ยั นุชเนอ่ื ง และพชั ญภณ สารสา สพป.ตาก เขต 1 | 55
ค่มู อื การจัดกิจกรรมการเรยี นการสอนโครงงานอาชพี
เกณฑ์การประเมินคุณคา่ ของโครงงานนีม้ ผี ู้ใช้แตกตา่ งกนั ไปบา้ งในรายละเอยี ดแต่ในประเด็นหลกั
แล้วมีลักษณะคล้ายคลึงกนั เกณฑ์การใหค้ ะแนนก็ตา่ งกนั ไป ซึง่ ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการประกวดโครงงาน
จะกาหนดขน้ึ และประกาศให้ทราบโดยท่วั กัน โดยท่ัวไปแล้วน้าหนกั ของคะแนนมักจะเป็นเรอ่ื งของความคดิ
รเิ ร่ิมสรา้ งสรรค์และความถูกตอ้ งเหมาะสมของวธิ กี ารศกึ ษาค้นควา้
ประโยชน์ของการประเมนิ โครงงาน
1. ทาใหท้ ราบข้อบกพร่องและความสาเรจ็ ของงาน
2. ทาใหม้ กี ารปรบั ปรุงแก้ไขตลอดเวลาขณะปฏบิ ตั ิงาน
3. ผูป้ ฏิบตั งิ านมคี วามกระตือรือรน้ ทีจ่ ะทางานดว้ ยความต้งั ใจ เสียสละและจริงใจ
4. ทาให้ทราบว่า ผลของโครงงานไดร้ บั ความสาเรจ็ มากน้อยเพียงไร ซึ่งหากสาเร็จเปน็ อยา่ งดีจะได้
นาไปเป็นแบบอยา่ งและพัฒนางานอ่ืนๆ ต่อไป ถา้ ยังไมส่ มบูรณ์จะได้หาแนวทางแก้ไขปรับปรงุ ตอ่ ไป
ดงั น้ันการประเมินโครงงานของนกั เรยี นควรประเมินจากสภาพจริง (Authentic Assessment)
ซึง่ เปน็ การประเมนิ ความสามารถท่ีแท้จรงิ ของนักเรยี นจากผลงานหรอื การกระทา เพื่อสร้างความรู้ด้วย
ตนเองในสภาพทเี่ ปน็ จรงิ ซงึ่ สามารถสะทอ้ นให้เห็นถึงกระบวนการคิด กระบวนการทางานที่ซบั ซ้อนและ
ความสามารถในการแกป้ ญั หา การตดั สนิ ใจ
การประเมนิ ตามสภาพจริงจะมปี ระสิทธิภาพก็ต่อเมื่อมีการประเมินหลายๆ ด้าน หลายๆ วิธีการ
และในสถานการณ์ท่ีสอดคลอ้ งกบั ชีวิตจรงิ ทัง้ นตี้ ้องมกี ารประเมินอยา่ งต่อเนื่อง เพ่ือจะได้ข้อมลู ทมี่ ากพอใน
การสะท้อนความสามารถทแ่ี ท้จริงของนกั เรยี นได้
เพือ่ ใหก้ ารประเมินผลสะท้อนความสามารถที่แทจ้ ริงของนักเรยี น ขอ้ มลู ทจี่ ะนามาอาจได้มาจาก
แหล่งข้อมลู และวิธกี ารต่อไปน้ี
1. การสงั เกตพฤติกรรมนักเรียนทงั้ รายบุคคลหรือเปน็ กลุ่ม
2. จากช้ินงาน ผลงาน รายงาน และจากการสมั ภาษณผ์ ูเ้ รียน
3. ขอ้ มลู จากการบันทึกของผู้เรียน
4. ข้อมลู จากการประชมุ ปรกึ ษาหารอื ร่วมกนั ระหวา่ งครูกบั นกั เรยี น
5. การประเมนิ ภาคปฏิบตั ิ
6. การประเมินจากแฟม้ สะสมงาน
ฯลฯ
อภชิ ัย นุชเน่ือง และพัชญภณ สารสา สพป.ตาก เขต 1 | 56
คมู่ ือ การจัดกจิ กรรมการเรยี นการสอนโครงงานอาชพี
ลกั ษณะสาคัญของการประเมินตามสภาพจริง
1. สามารถประเมินกระบวนการคิดทซี่ บั ซ้อน ความสามารถในการปฏิบัตขิ องนกั เรียนโดยเน้น
กระบวนการที่ได้ผลผลิต มากกวา่ การประเมนิ ความรู้ความจา
2. ประเมินความสามารถของนกั เรียนเพื่อวเิ คราะห์จุดเด่น จุดด้อยเพื่อพฒั นานกั เรยี นไดเ้ ตม็
ศักยภาพและความต้องการของบคุ คล
3. ประเมนิ การมีสว่ นร่วม เพื่อส่งเสรมิ ให้นกั เรยี นร้จู ักตนเอง เช่อื มัน่ ในตนเองและสามารถพฒั นา
ตนเองได้
4. ข้อมลู ที่ได้จากการประเมินจะสะท้อนให้เหน็ ถงึ กระบวนการเรยี นการสอนและการวางแผนการ
สอนของครวู า่ สามารถสนองตอบตามความสนใจและความแตกตา่ งระหวา่ งบคุ คลหรือไม่
5. ประเมนิ จากความสามารถทน่ี ักเรยี นสามารถเชอ่ื มโยงหรือถา่ ยโอนความรู้ ไปสชู่ วี ติ จรงิ ได้
6. เป็นการประเมินหลายๆ ด้าน หลายๆ วธิ กี าร ในหลายๆ สถานการณ์อยา่ งต่อเนื่อง
ตวั อย่างเกณฑก์ ารประเมนิ โครงงานเพ่ือพัฒนาการเรียนการสอน
รายการประเมิน 1 ระดบั คณุ ภาพ 3
1. ความคดิ ริเรมิ่ สร้างสรรค์ โครงงานคล้ายคลึง 2 โครงงานแสดงถึง
กบั สงิ่ ทม่ี ีผู้อ่ืนเคยทา ความคดิ ริเรมิ่
2. การกาหนดปญั หาและ มาแลว้ มบี างส่วนทแ่ี ปลก สรา้ งสรรค์
การตั้งสมมติฐาน สมมตุ ิฐานไม่ ใหมจ่ ากสิง่ ทีเ่ คยมี สมมุตฐิ าน
สอดคลอ้ งกับปญั หา ผู้อื่นทามาแลว้ สอดคล้องกบั
3. ขอ้ มูลหรอื ขอ้ เทจ็ จรงิ สมมตุ ฐิ าน ปญั หาและแสดง
ประกอบการทาโครงงาน ไมม่ ีการศึกษาหา สอดคล้องกับ ความสมั พนั ธก์ ัน
ข้อมูลหรือข้อเทจ็ จรงิ ปญั หา อยา่ งชัดเจน
ตา่ งๆ มกี ารศึกษา
มกี ารศึกษาแต่ไม่ ข้อเทจ็ จรงิ
ครอบคลุมประเด็น ครอบคลุมทกุ
ทศ่ี ึกษา ประเดน็
อภิชัย นชุ เนือ่ ง และพชั ญภณ สารสา สพป.ตาก เขต 1 | 57
คู่มอื การจดั กิจกรรมการเรียนการสอนโครงงานอาชพี
รายการประเมนิ ระดบั คุณภาพ
4. การออกแบบการทดลอง
1 23
5. อุปกรณ์และเครื่องมือท่ีใช้
ในการทดลอง สอดคลอ้ งกบั สอดคลอ้ งกบั สอดคล้องกบั
6. การดาเนินการทดลอง
สมมตฐิ านแตไ่ ม่มีการ สมมตฐิ านแต่การ สมมติฐานและ
7. การบนั ทึกข้อมูล
ควบคมุ ตวั แปร ควบคมุ ตวั แปรไม่ ควบคุมตัวแปร
8. การจัดกระทาข้อมลู
ครบถว้ น ถกู ต้องครบถว้ น
9. การแปลความหมายข้อมูล
และการสรปุ ผลข้อมูล เลอื กใชอ้ ุปกรณ์ไม่ เลอื กใช้อุปกรณ์ เลือกใช้อุปกรณ์
10. การเขียนรายงาน ถกู ต้อง ถูกต้องบางสว่ น ถกู ต้องเหมาะสม
ดาเนินการทดลองไม่ ดาเนนิ การทดลอง ดาเนนิ การทดลอง
ถกู ต้องเป็นส่วนใหญ่ ได้ถูกต้องเป็นส่วน ได้ถูกต้องสมบรู ณ์
ใหญ่
บันทึกข้อมลู ตรง บันทึกข้อมูลตรง บันทกึ ข้อมลู ตรง
จุดประสงค์ที่ตอ้ งการ จดุ ประสงค์ท่ี จุดประสงค์ท่ี
ศึกษา ตอ้ งการศึกษาและ ต้องการศกึ ษา
ถกู ต้อง ถกู ต้องและละเอียด
มีการจดั กระทา มีการจดั กระทา มีการจดั กระทา
ขอ้ มูลถูกต้อง ข้อมลู ถูกต้อง ข้อมลู ถูกต้อง
บางสว่ น ชัดเจน
การแปลความหมาย การแปล การแปล
ถกู ต้องบางสว่ น ความหมายถูกต้อง ความหมายถูกต้อง
แต่สรุปผลไม่ และสรปุ ผล
สอดคลอ้ งกับข้อมูล สอดคล้องกบั ข้อมูล
มกี ารนาเสนอเป็น มีการนาเสนอเป็น มกี ารนาเสนอเปน็
ขั้นตอนบ้าง ขัน้ ตอนแต่ยังไม่ ข้นั ตอนสมบรู ณ์
ชดั เจน และ ชัดเจน
จากตวั อย่างแบบประเมินโครงงานดงั กลา่ วขา้ งต้นนั้น หากครูผู้สอนหรือผู้ประเมินเห็นวา่ ยังไม่
ครอบคลุม สามารถปรับใช้ได้ตามความเหมาะสม หรือผปู้ ระเมินอาจใช้วิธีการ หรือแบบประเมนิ อ่ืนๆ
มาใช้ในการประเมินได้ นอกจากน้ใี นการประเมนิ โครงงานผู้ประเมนิ สามารถกาหนดเกณฑก์ ารประเมินได้
ตามความเหมาะสม แต่ควรให้ผู้ถกู ประเมินไดร้ ู้และเข้าใจเกณฑ์การประเมินดว้ ย
อภิชัย นุชเน่ือง และพัชญภณ สารสา สพป.ตาก เขต 1 | 58
คมู่ อื การจัดกจิ กรรมการเรียนการสอนโครงงานอาชพี
การประเมินโครงงานผู้ประเมินอาจตอ้ งใช้วิธีการอย่างหลากหลาย ใช้ขอ้ มลู ทม่ี ีอยู่ใหม้ าก มองอย่าง
รอบด้าน โดยเฉพาะการประเมินตามสภาพจรงิ จะต้องมีการประเมินอย่างต่อเนอ่ื งจึงจะสามารถสะท้อน
ความสามารถทีแ่ ทจ้ ริงของนกั เรยี นได้
เกณฑก์ ารประกวดโครงงานอาชพี ในงานศลิ ปหัตถกรรมนกั เรยี นคร้ังที่ 69
1. วธิ ีดาเนินการและรายละเอียดหลักเกณฑก์ ารแขง่ ขัน
1.1 เป็นผลงานโครงงานอาชีพที่ดาเนนิ การแลว้ เสรจ็ ในปที ี่ผา่ นมาหรือปกี ารศกึ ษาปจั จบุ ัน
และมรี ายงานโครงงานอาชพี 5 บท
1.2 ให้นาเสนอโครงงานอาชีพ โดยการจัดแสดงนิทรรศการโครงงานและนาเสนอปากเปลา่ ใน
เวลา 5 นาที
1.3 มกี ารนามาจาหน่ายจริงในบรเิ วณนทิ รรศการของตนเองในระดับภาค
1.4 สง่ รายงานโครงงานอาชีพในขอ้ 1.1 ให้คณะกรรมการจัดการแข่งขนั ล่วงหน้า 1 สปั ดาห์
จานวน 5 ชุด พร้อมบันทึกลงบนแผน่ ซีดี จานวน 1 แผน่ เพอ่ื ประกอบการพจิ ารณาเผยแพร่
1.5 อปุ กรณ์ทจ่ี ดั ให้ไดแ้ ก่ โต๊ะ เกา้ อ้ที ีมละ 1 ชดุ
1.6 การตดั สินของคณะกรรมการถือเป็นทส่ี ้นิ สดุ
2. เกณฑ์การให้คะแนน 100 คะแนน
2.1 กระบวนการของโครงงานอาชีพ 20 คะแนน
2.2 รายงานโครงงานอาชพี (40 คะแนน)
- การวิเคราะหโ์ ครงงาน 10 คะแนน
- การวางแผน 10 คะแนน
- การดาเนนิ งาน 10 คะแนน
- การสรปุ และรายงานผล 10 คะแนน
2.3 ผลสาเร็จของโครงงาน (30 คะแนน)
- มีเงินทุนหมนุ เวียนในการดาเนนิ งาน 10 คะแนน
- นาสู่การประกอบอาชพี 20 คะแนน
2.4 การนาเสนอโครงงานดว้ ยวาจา 10 คะแนน
อภิชยั นชุ เน่อื ง และพัชญภณ สารสา สพป.ตาก เขต 1 | 59
คมู่ อื การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนโครงงานอาชีพ
บรรณานุกรม
คณะกรรมการการประถมศกึ ษาแห่งชาต.ิ (2542). แนวการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้โดยโครงงาน. กรงุ เทพฯ
: โรงพมิ พค์ รุ สุ ภาลาดพรา้ ว.
คณะกรรมการการประถมศกึ ษาแหง่ ชาต.ิ (2543). เอกสารเจาะลึกการจัดกิจกรรมการเรียนรู้. กรุงเทพฯ
: โรงพมิ พค์ ุรุสภาลาดพร้าว.
นายกรฐั มนตรี, สานัก. (2542). พระราชบัญญตั ิการศึกษาแหง่ ชาติ พ.ศ. 2542. กรุงเทพฯ
: โรงพิมพค์ รุ ุสภาลาดพร้าว.
วิชาการ , กรม. กระทรวงศกึ ษาธกิ าร. (2543). การปฏิรปู การเรยี นรู้ เน้นผ้เู รียนสาคัญท่ีสุด
: แนวทางสูก่ ารปฏบิ ัติ. กรุงเทพฯ : โรงพมิ พ์คุรุสภาลาดพร้าว.
สถาบนั ส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี. (2541). โครงงานวิทยาศาสตร์. กรุงเทพฯ
เอกสารโรเนียว,
อภชิ ัย นุชเนื่อง. (2545). โครงงานประเภททดลอง. จงั หวดั ตาก : หน่วยศกึ ษานิเทศก์ สานักงาน
การประถมศึกษาจังหวัดตาก.
อภชิ ยั นชุ เนอื่ ง. (2545). โครงงานประเภทสารวจ. จังหวัดตาก : หนว่ ยศึกษานิเทศก์ สานกั งาน
การประถมศึกษาจังหวดั ตาก.
อภชิ ยั นุชเนือ่ ง. (2545). โครงงานประเภทสงิ่ ประดิษฐ์. จังหวัดตาก : หนว่ ยศกึ ษานิเทศก์ สานักงาน
การประถมศึกษาจังหวดั ตาก.
อภิชยั นชุ เนื่อง และพชั ญภณ สารสา สพป.ตาก เขต 1 | 60
คณะกรรมกำรทีป่ รกึ ษำ คมู่ อื การจดั กิจกรรมการเรียนการสอนโครงงานอาชพี
นางสาวมนิดา อดศิ ัยสกลุ
คณะทำงำน
นายสมคดิ มาหลา้
ผูอ้ านวยการสานกั งานเขตพน้ื ที่
ผ้เู ขยี น รวบรวมและเรยี บเรียง การศึกษาประถมศกึ ษาตาก เขต 1
ดร.อภิชยั นชุ เน่อื ง รองผู้อานวยการสานกั งานเขตพนื้ ที่
นายพชั ญภณ สารสา การศึกษาประถมศกึ ษาตาก เขต 1
ออกแบบปกและรูปเล่ม ศึกษานิเทศกเ์ ชี่ยวชาญ สพป.ตาก เขต 1
นายพชั ญภณ สารสา ศึกษานิเทศกช์ านาญการ สพป.ตาก เขต 1
ศกึ ษานเิ ทศกช์ านาญการ สพป.ตาก เขต 1
อภชิ ยั นุชเน่ือง และพชั ญภณ สารสา สพป.ตาก เขต 1 | 61
คูม่ อื การจัดกจิ กรรมการเรียนการสอน
โครงงานอาชีพ
สาหรับครูผสู้ อน
กลมุ่ สาระการเรียนรู้การงานอาชีพ
ดร.อภชิ ยั นชุ เนอื่ ง ศกึ ษานิเทศกเ์ ชีย่ วชาญ สพป.ตาก เขต 1
พัชญภณ สารสา ศึกษานิเทศกช์ านาญการ สพป.ตาก เขต 1
กลุ่มนิเทศ ติดตามและประเมินผลการจัดการศกึ ษา
สานักงานเขตพ้ืนทกี่ ารศึกษาประถมศึกษาตาก เขต 1
สานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน
กระทรวงศึกษาธิการ