กรณีศกึ ษา (Case study)
กรณีศกึ ษา
เร่อื ง Early-onset neonatal sepsis (การติดเชือ้ ในกระแสเลือดของทารกแรกเกิดภายใน 72 ชัว่ โมง)
เสนอ
อาจารย์รัชฎาภรณ์ จนั ทร์แจง้
นางสาว กนกวรรณ ชูประจิตร จัดทำโดย รหสั นกั ศกึ ษา 62114301002
นางสาว พทั ธนนั ท์ สอนสวัสดิ์ เลขที่ 2 รหสั นักศกึ ษา 62114301077
เลขที่ 75
รายงานฉบบั น้ีเปน็ ส่วนหน่ึงของรายวิชาปฏิบัติการพยาบาลเด็กและวยั รุ่น 2 พย.1315
ภาคเรียนท่ี 3 ปีการศกึ ษา 2565
วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สรุ าษฎรธ์ านี
ก
คำนำ
รายงานฉบบั นี้เป็นส่วนหน่ึงของรายวิชาปฏบิ ัติการพยาบาลเด็กและวยั รุ่น 2 จดั ทำขึ้นเพื่อศึกษาในผู้ป่วยโรค
Early-onset neonatal sepsis (การติดเชื้อในกระแสเลือดของทารกแรกเกิดภายใน 72 ชั่วโมง) อาจส่งผู้ให้เกิด
ภาวะแทรกซ้อนอืน่ ๆ ตามมา และอาจเป็นสาเหตกุ ารเสยี ชีวติ ทส่ี ำคัญของทารกแรกเกดิ
ซึ่งในรายงานประกอบไป กายวิภาคศาสตร์และพยาธิสรรี วิทยา ด้วยการรวบรวมข้อมูลท่ัวไปของผู้ป่วย การ
ทบทวนอาการตามระบบ ผลการตรวจร่างกายการระบุปัญหาการรวบรวมข้อมูล ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการ
ข้อมลู การรักษา และการวางแผนการพยาบาล
ผู้จัดทำหวังว่ารายงานฉบับนี้จะให้ความรู้และเป็น ประโยชน์แก่ผู้อ่านทุกๆท่านหากผิดพลาดประการใด
ผู้จัดทำขออภัย ณ ท่นี ดี้ ว้ ย
คณะผูจ้ ัดทำ
16 มกราคม 2565
ข
สารบัญ
เร่ือง หน้า ก
คำนำ ............................................................................................................................................ ข
สารบญั ......................................................................................................................................... 1
กายวิภาคและสรรี ะวิทยาในระบบทีเ่ กี่ยวขอ้ ง................................................................................
การประเมนิ สภาพผู้ป่วย ............................................................................................................... 4
4
ขอ้ มูลส่วนตวั .................................................................................................................. 4
ประวตั ิทางสขุ ภาพ......................................................................................................... 4
4
- อาการสำคญั ................................…………………………………………………………………. 5
- ประวตั ิการเจ็บป่วยปจั จุบนั .................................................................................. 5
- ประวัติการเจ็บปว่ ยในอดีต ................................................................................... 5
- ประวัติการเจ็บปว่ ยของครอบครวั ......................................................................... 5
- ประวตั ิการต้งั ครรภข์ องมารดา.............................................................................. 5
- ประวัติการคลอดของผูป้ ่วย .................................................................................. 6
- ประวัติไดร้ ับภูมิค้มุ กันโรคของผ้ปู ว่ ย..................................................................... 6
สภาพทัว่ ไปและการตรวจรา่ งกาย .................................................................................. 6
การตรวจพเิ ศษอื่นๆ……………………………………………………………………………………………… 9
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ .......................................................................................... 11
การรกั ษาและหตั ถการ.................................................................................................... 12
พยาธิสภาพ ..................................................................................................................... 17
สรุปอาการและการรกั ษาที่ผปู้ ่วยได้รบั ก่อนการรบั ไวใ้ นความดแู ลของนักศึกษา……….. 19
ปัญหาทางการพยาบาล การวางแผนการพยาบาล และประเมินผล .................................
สรปุ ผลปญั หา อาการของผูป้ ว่ ย การใหก้ ารพยาบาล และคำแนะนำ...............................
บรรณานุกรม................................................................................................................................
1
กายวิภาคและสรรี ะวิทยา
รก (placenta) คอื โครงสรา้ งทที่ ำหน้าทแี่ ลกเปลยี่ นสารอาหาร และออกซิเจนจากมารดาเข้าสูท่ ารก และ
แลกเปลี่ยนของเสียจากทารกออกมาสู่มารดา โดยส่งผ่านหลอดเลือดตามความยาวของ สายสะดือ รวมถึงทำหน้า
เป็นต่อมไร้ที่ในการผลิตฮอร์โมนที่ใช้ทำงานรว่ มกับฮอร์โมนเพศชนิดอื่นๆท่ีเกีย่ วข้องกับการตั้งครรภ์รกถกู สร้างขน้ึ
หลังการฝงั ตัวของไขท่ ีป่ ฏสิ นธิแลว้ และจะถกู สรา้ งขน้ึ ในปริมาณมาก และบางส่วนจะถูกขบั ออกมาทางปัสสาวะ ซ่งึ
สามารถใชท้ ดสอบการตง้ั ครรภไ์ ด้
ลักษณะและโครงสร้างของรก
รกมีลกั ษณะคลา้ ยจาน ประกอบด้วย villus chorion และ decidua basalis และแบง่ เป็น 2 ดา้ น คือ
1. รกส่วนของทารก (embryonic surface/fetal portion)
รกส่วนนี้ ประกอบด้วย chorionic plate, chorionic villi และ trophoblastic shell โดยจะถูกล้อมรอบด้วย
intervillous space
2. รกส่วนมารดา (maternal surface/maternal portion of the placenta) รกส่วนนี้ คือ decidual
basalis ซ่งึ เป็นช้ันในสุดของรกท่ปี ระกอบด้วยเซลล์ decidual ท่ีเป็นเซลลเ์ นือ้ เยอื่ เกย่ี วพนั ขนาดใหญ่ เซลล์มีรูปไข่
และรียาว มีนิวเคลยี ส 1-2 นิวเคลียสในเซลล์เดียวทีส่ ามารถย้อมติดสีเข้มได้ เซลล์ชนดิ นีจ้ ะมีมากในระยะแรกของ
การตงั้ ครรภ์ และจะสลายน้อยลงเม่อื อายุครรภ์มากขน้ึ
2
หน้าทข่ี องรก
ㆍ สารอาหาร (Nutrition) แลกเปลี่ยนสารอาหารและออกซิเจนจากแมส่ ่ลู กู ในท้อง
ㆍ หายใจ (Respiration) รกเปรยี บเสมอื นปอด คอื เปน็ จุดแลกเปลยี่ นออกซิเจนและคารบ์ อนใดออกไซต์ระหว่าง
แม่กบั ลูกน้อยในครรภ์
ㆍ ขับถ่ายของเสีย (Excretion) ทำหน้าที่คล้ายกับไต คือ เป็นที่ขับถ่ายของเสียที่เกิดจากกระบวนการเมตาโบลิ
ซมึ ของทารก
ㆍสร้างฮอร์โมน (Hormone Production) ทำหน้าที่คล้ายกับเป็นต่อมไร้ท่อชั่วคราวในมดลูกซึ่งสามารถผลิต
ฮอรโ์ มนมากมายทจ่ี ำเป็น ได้แก่ ฮอรโ์ มนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรน
ㆍป้องกันอันตราย (Protection) เป็นโครงสร้างที่ขัดขวางไม่ให้สารหรือ microorganism บางอย่างผ่านเข้าไป
ทำอนั ตรายต่อลกู ออ่ น
ㆍเป็นแหล่งเมตาโบไลด์สารบางอย่าง เช่น แอนติบอดี (Antibody) หรือยาบางอย่างที่ได้รับจากแม่จะถูกรก
ปรบั เปล่ยี นให้อย่ใู นรูปแบบท่ีไม่เป็นอันตราย
การควบคุมการสง่ ผ่านของรก Syncytiotrophoblast
Syncytiotrophoblast เป็นเนอื้ เยอ่ื ของทารกท่ีเป็นรอยต่อระหวา่ งระบบแลกเปลี่ยนของมารดากับทารก
ในการแลกเปลี่ยนสารผ่านรก (Placental arm) Syncytiotrophoblast ด้านมารดามีลักษณะเป็นโครงสร้าง
Microvilli ที่ซับซ้อนส่วนเยื่อบุเซลล์ด้านทารก (Basal) เป็นบริเวณที่มีเส้นเลือดฝอยจากทารกอยู่ จึงทำหน้าที่ส่ง
ตอ่ สารผ่าน Intravillous space ไปยงั ทารกหรือกลบั กัน
การสรา้ งฮอรโ์ มน
1. ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน
รก จะทำหน้าท่ใี นการผลติ ฮอรโ์ มนโปรเจสเตอโรนเพม่ิ ข้นึ ตลอดการต้ังครรภ์ โปรเจสเตอโรนมีความสำคัญ
3
มาก ทำให้การตั้งครรภ์สามารถดำเนินต่อไปได้ โดยการยับยั้งการหดรัดตัวของกล้ามเนื้อมดลูกทำให้ร่างกายไม่
กำจดั ทารกซ่ึงถอื ว่าเป็นสง่ิ แปลกปลอมของรา่ งกายออกมาโดยไปกดภมู ิค้มุ กนั ของร่างกาย
2. ฮอร์โมนเอสโตรเจน
ฮอรโ์ มนเอสโตรเจนถูกสร้างจากรกและต่อมหมวกไตของทารก ฮอร์โมนเอสโตรเจน มหี น้าท่เี สริมเย่ือเซลล์
ตา่ งๆ ของคุณแมต่ ั้งครรภ์ กระตุน้ การไหลเวยี นของเลือดไปหล่อเล้ยี งที่ขน้ึ เอสโตรเจนยังชว่ ยเปลีย่ นเนอ้ื เย่ือต่าง ๆ
ให้อ่อนนุ่มขึ้น ยืดขยายได้ดี เพื่อจะได้เหมาะแก่การคลอด นอกจากนี้ยังทำให้เต้านมขยาย เพื่อเตรียมสำหรับการ
ผลิตน้ำนม
การเพม่ิ ขึ้นของระดับฮอรโ์ มนโปรเจสเตอโรนขณะต้งั ครรภ์
มผี ลทำใหท้ ่อไตมีขนาดใหญ่ขึ้นและกระเพาะปสั สาวะมีความจุเพ่ิมขึ้นถงึ ประมาณ 1500มลิ ลลิ ิตร มดลูกจะ
เอียงไปบริเวณด้านขวาของช่องท้องเพราะว่าลำไส้ใหญ่ได้ผลักดันให้มดลูกไปในทิศทางนั้น ซึ่งส่งผลให้เกิดแรงดัน
บนดา้ นขวาของท่อไตซึ่งอาจนำไปสู่การหยุดนิ่งของปสั สาวะในท่อไต และกรวยไตอักเสบหากไม่ได้ระบายปัสสาวะ
ออก และยงั พบวา่ แรงดันบนท่อปัสสาวะอาจนำไปสู่ความยากลำบากในการขับปสั สาวะออกจากกระเพาะปัสสาวะ
ให้หมดไดแ้ ละ นำมาซงึ่ การติดเชื้อทก่ี ระเพาะปสั สาวะได้
การแลกเปลย่ี นสารระหวา่ งรกกับทารก
การแลกเปลยี่ นสารอาหาร และออกซเิ จนระหวา่ งมารดากับทารกจะนำออกจากรกผ่านทางหลอดเลือดดำ
1 เส้น (umbilical vein) ที่มีความดันเลือดประมาณ 20 มม. ปรอท และแลกเปลี่ยนของเสียผ่านทางหลอดเลือด
แดง 2 เสน้ (umbilical artery) เขา้ สรู่ ก ที่มีความดันเลอื ดประมาณ 50 มม.ปรอท ซึ่งหลอดเลอื ดทง้ั 3 เสน้ จะอยู่
ภายในสายสะดอื (umbilical cord)
การหมุนเวียนเลือดภายในรกจะมีเลือดหมุนเวียนประมาณ 600 ลูกบาศก์เซนติเมตร/นาที โดยเลือดที่มี
ออกซิเจนสูงจากมารดาจะไหลจาก spiral artery บริเวณรกของส่วนมารดา (decidual basalis) ที่มีความดัน
เลือดประมาณ 70 มม.ปรอท แล้วผ่านเลือดเข้าสู่รกในส่วนของทารก ซึ่งจะมีความดันลดลงเหลือ 10 มม.ปรอท
โดยจะถูกดันเข้าตามจังหวะของการเต้นของหวั ใจของมารดา และจะไหลเขา้ สู่รกในสว่ นของทารกอย่างช้าๆ ซ่ึงจะ
ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนสารอาหาร ก๊าซต่างๆ และของเสียเกิดขึ้นบริเวณนี้ โดยมีสารอาหาร และก๊าซต่างๆท่ี
แลกเปลี่ยนแล้วจะไหลเข้าสู่หลอดเลือดดำ (umbilical vein) ส่งไปยังทารก และของเสียที่ถ่ายเทแล้วจากหลอด
เลือดแดง (umbilical artery) ท่ีมาจากทารกจะกลับเขา้ สู่ระบบเลอื ดของมารดา
4
รายงานการวางแผนการพยาบาล
วิชา ปฏิบัตกิ ารพยาบาล เด็กและวยั รุน่ 2
สถานท่ีฝกึ ปฏิบตั ิงาน NICU โรงพยาบาลชุมพรเขตรอดุ มศักด์ิ
ตง้ั แต่วนั ที่ 10 เดือน มกราคม พ.ศ. 2565 ถงึ วันที่ 14 เดือน มกราคม พ.ศ. 2565
1.ข้อมูลส่วนตัว
ชื่อผูป้ ว่ ย บตุ รนางหทั ยา มณีรัตน์ อายุ 20 วนั เพศ หญิง เตยี งที่ 16
เชื้อชาติ ไทย ศาสนา พทุ ธ การศึกษา -
การวินิจฉัยครั้งแรก Transient Tachypnea of the Newborn
(ภาวะกลุ่มอาการหายใจลำบากช่วั ขณะ ในทารกแรกเกิด)
การวนิ จิ ฉัยครงั้ สดุ ท้าย Early-onset neonatal sepsis
(การติดเชอ้ื ในกระแสเลือดของทารกแรกเกิด ภายใน72 ช่ัวโมง)
การผา่ ตัด –
ช่ือบิดา – อายุ – ปี
ช่อื มารดา นาง หัทยา มณีรัตน์ อายุ 20 ปี
2.ประวตั ิทางสุขภาพ
อาการสำคัญที่มาโรงพยาบาล (Chief Complain)
Preterm birth
ประวัติการเจ็บป่วยปัจจบุ นั (Present Illness)
Preterm female newborn GA 33 weeks with Preterm with Maternal UTI with
Preterm RD after birth, Respiratory Distress Syndrome RDS, Early-onset neonatal sepsis EOS,
Transient Tachypnea of the Newborn TTNB, PR 68-72 bpm.
ประวัตกิ ารป่วยในอดีต (Past Illness)
-
ประวตั ิการเจ็บป่วยของครอบครัว
ปฏิเสธการเจ็บป่วยของครอบครัว
5
ประวัติการต้งั ครรภข์ องมารดา
ครรภ์ 2 G2P1A0 ขณะตง้ั ครรภ์มารดาอายุ 20 ปี ครรภ์แรกคลอดกอ่ นกำหนด GA 35 weeks
เพศชาย คลอดโดยวิธีธรรมชาติ Normal labor น้ำหนักแรกคลอด 2,390 กรัม ไม่มีภาวะแทรกซ้อนขณะ
ตั้งครรภ์ ตกเลือดหลังคลอด คลอดที่โรงพยาบาลชุมพร ปัจจุบันสมบูรณ์แข็งแรง ผู้ป่วยเป็นครรภ์ท่ี 2 คลอด
ก่อนกำหนด GA 35 weeks ฝากครรภ์ที่โรงพยาบาลชุมพร คลอดโดยวิธีธรรมชาติ Normal labor น้ำหนัก
แรกคลอด 1,730 กรัม มารดาเป็น Maternal UTI RD หลังคลอดมภี าวะแทรกซ้อน after birth, Respiratory
Distress Syndrome RDS, Early-onset neonatal sepsis EOS, Transient Tachypnea of the Newborn
TTNB, PR 68-72 bpm.
ประวตั ิการคลอดของผ้ปู ่วย
มารดาตั้งครรภ์ที่สอง ฝากครรภ์ที่โรงพยาบาลชุมพรเขตอุดมศักดิ์ คลอดก่อนกำหนด
คลอดโดยวิธีธรรมชาติ Normal labor น้ำหนักแรกคลอด 1,730 กรัม มารดาเป็น Maternal UTI RD หลัง
คลอดมีภาวะแทรกซ้อน after birth, Respiratory Distress Syndrome RDS, Early-onset neonatal
sepsis EOS, Transient Tachypnea of the Newborn TTNB, PR 68-72 bpm.
ประวัตไิ ด้รับภูมิคุ้มกนั โรคของผปู้ ว่ ย
ได้รับวัคซีน HB1 วัคซีนป้องกันโรคตบั อักเสบบี แรกเกดิ เม่อื วนั ที่ 22 เดอื น ธันวาคม 2564
3.การตรวจรา่ งกาย วนั ท่ี 10 เดือน มกราคม พ.ศ. 2565 เวลา 14.30 น.
นำ้ หนกั ผ้ปู ่วย 1,670 g สว่ นสงู /ความยาว 44 cm
การประเมินภาวะโภชนาการ น้ำหนักตัวน้อยกว่าเกณฑ์
ผลการตรวจร่างกายตามระบบ
Vital signs T=37oC, RR=48/min, HR=152/min
General appearance: Thai female 20 day
Skin: Normal skin, dry skin, not pale, no abnormal pigmentation, no cyanosis and jaundice
Head and neck: no bulging, normal shape and size symmetrical
Eyes: Conjunctive not pale normal eye movement
Ears: Normal hearing
Nose: Symmetrical, no septal deviation (deviation to Rt, Lt), mucosae membrane pink
Thorax: normal chest
Lung: Clear both lung
Heart: pulse fall, no murmur, no brady
Abdomen: Soft, no tenderness, no mass 6
Genitatial: Normal female type, no edema
Extremities: No pitting edema, no weakness, no deformity การแปลผล
Anus: no anal fissure, normal stool Normal
Normal
4.ผลการตรวจพเิ ศษอืน่ ๆ Normal
- CXR no ground glass Normal
Normal
5. ผลการตรวจทางห้องปฏิบตั กิ าร Normal
วันที่ ชนดิ การตรวจ ค่าปกติ ผลการตรวจ
6/1/65 Calcium 9.0-11.0 9.6 mmol/L
Sodium 136.0-146.0 138 mmol/L
Potassium 3.4-4.5 4.2 mmol/L
Chloride 101.0-109.0 110 mmol/L
17.024.0 17 mmol/L
Bicarbonate 6.0-18.0 13 mmol/L
Anion Gap
6.การรกั ษาและหตั ถการ
Order for one day
วนั ท่ี การรักษา/หตั ถการ เหตผุ ลการรักษาทสี่ อดคลอ้ งกบั ผูป้ ่วยรายน้ี
7/1/65
PF (24 ml / 20 ml) 15-18 ml * 8 เพอ่ื ใหไ้ ดร้ บั สารอาหารอยา่ งเพียงพอ
feed: OG (TV 68-81) PF: Premature formular เป็นอาหารทางการแพทย์
สำหรับทารกคลอดก่อนกำหนด อายุครรภ์น้อยกว่า 37
weeks หรอื มนี ้ำหนกั ตัวน้อยกว่า 1,800 g
10% DN/2 200 ml V 3.6 ml/hr. (TV เพื่อทดแทนสารน้ำและสารอาหาร เนื่องจาก feed รับได้
50) นอ้ ย
PF (24 kcal/on) (TV 108) 20-24 ml * เพอ่ื ใหไ้ ด้รับสารอาหารอย่างเพยี งพอ
8 feed
วนั ท่ี การรกั ษา/หตั ถการ 7
ลด Rate IV เดมิ 2 ml/hr. เหตุผลการรักษาท่สี อดคลอ้ งกับผปู้ ่วยรายน้ี
8/1/65 PF 20-24 ml * 8 feed (TV 108) PF: Premature formular เป็นอาหารทางการแพทย์
สำหรับทารกคลอดก่อนกำหนด อายุครรภ์น้อยกว่า 37
10/1/65 Obs สะดือแดง weeks หรือมนี ้ำหนักตวั นอ้ ยกว่า 1,800 g
ลด rate เนอื่ งจากรบั feed ไดด้ ี
เพื่อให้ไดร้ ับสารอาหารอยา่ งเพียงพอ
PF: Premature formular เป็นอาหารทางการแพทย์
สำหรับทารกคลอดก่อนกำหนด อายุครรภ์น้อยกว่า 37
weeks หรอื มนี ำ้ หนักตัวนอ้ ยกวา่ 1,800 g
เพื่อติดตามการติดเชือ้ ที่สายสะดอื เช่น มีน้ำหรือหนองออก
ทางสายสะดือ บวมแดง กดเจ็บบริเวณสะดือหรือผนังหน้า
ท้องบรเิ วณขา้ งเคยี ง
Order for continuation
วันที่ การรกั ษา/หตั ถการ เหตุผลการรกั ษาทส่ี อดคลอ้ งกบั ผูป้ ่วยรายน้ี
7/1/65
Emollient cream 10 g apply ทา bid เพื่อช่วยให้ผวิ นมุ่ ชุ่มชืน่
9/1/65
Emollient เป็นสารที่ให้ความนุ่มนวล มีลักษณะเหมือนกับ
10/1/65
ขี้ผึ้ง มีสารหล่อลื่นและเป็นสารเพิ่มความข้นหนืด โดยสาร
เหล่านี้ช่วยป้องกันการสูญเสียน้ำและมีผลทำให้ผิวอ่อนนุ่ม
รสู้ ึกผอ่ นคลาย
PF 20-24 ml * 8 feed (TV 108) เพอื่ ใหไ้ ดร้ บั สารอาหารอย่างเพยี งพอ
PF: Premature formular เป็นอาหารทางการแพทย์
สำหรับทารกคลอดก่อนกำหนด อายุครรภ์น้อยกว่า 37
weeks หรอื มีนำ้ หนักตัวน้อยกว่า 1,800 g
PF 24 ml * 8 feed (TV 108) เพอ่ื ให้ไดร้ ับสารอาหารอย่างเพยี งพอ
PF: Premature formular เป็นอาหารทางการแพทย์
สำหรับทารกคลอดก่อนกำหนด อายุครรภ์น้อยกว่า 37
weeks หรือมนี ำ้ หนกั ตัวนอ้ ยกว่า 1,800 g
MTV 0.5 ml po OD เพ่ือป้องกันการขาดวติ ามนิ ในร่างกาย
กลมุ่ ยา วิตามิน
ขอ้ บ่งช้ี รักษาหรอื ปอ้ งกนั การขาดวิตามินในรา่ งกาย
8
วนั ที่ การรักษา/หตั ถการ เหตุผลการรักษาทีส่ อดคลอ้ งกบั ผู้ป่วยรายนี้
11/1/65 กลไกการออกฤทธ์ิ ชว่ ยตอ่ ต้านสารอนมุ ลู อิสระที่คอยทำลาย
Off Aminophylline หรือก่อให้เกิดความเสื่อมต่อเซลล์ของร่างกาย เช่น ธาตุ
PF 26 ml * 8 feed (TV 120, TC 80) ทองแดง, สังกะสี, แมงกานิส, เซเลเนี่ยม, กลูตา, ไทโอน,
Fer-in-sol sry: 0.3 ml po OD วิตามินซีและอี, ฟลาโวนอยด์, แคโรทีนอยด์, ช่วยในการ
สังเคราะห์และซ่อมแซมสารพันธุกรรมดีเอ็นเอ เช่น โฟเสต,
วิตามินบี 6, บี 12 นอกจากนี้โฟลิกและวิตามินบี ยังช่วย
สนับสนุนการทำงานของสมองให้มีประสิทธิภาพมากข้ึน
กระตนุ้ ใหภ้ มู ิคุ้มกนั ตา้ นทานโรคของรา่ งกาย
ผลข้างเคียง อาจเกิดอาการคลื่นไส้ อาเจยีน ปวดศีรษะ
ท้องร่วง
อาการดีขนึ้ จึงให้ Off
เพอ่ื ให้ได้รับสารอาหารอย่างเพยี งพอ
PF: Premature formular เป็นอาหารทางการแพทย์
สำหรับทารกคลอดก่อนกำหนด อายุครรภ์น้อยกว่า 37
weeks หรอื มนี ้ำหนักตัวน้อยกว่า 1,800 g
เพ่ือเสริมธาตุเหล็กให้แก่ร่างกาย
กลมุ่ ยา อาหารเสรมิ
ขอ้ บง่ ชี้ เสริมธาตุเหลก็ หรอื ป้องกนั การขาดธาตเุ หล็ก
กลไกการออกฤทธิ์ โดยจะทำให้ฮีโมโกลบินท่ีอยู่ในเม็ดเลือด
แดง สามารถลำเลียงออกซิเจนไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆของ
ร่างกายได้ดีขึ้น นอกจากนี้ ยังทำให้ มัยโอโกลบิน
(Myoglobin) สารธาตุเหล็กที่อยู่ในกล้ามเนื้อ กักเก็บ
ออกซิเจนเพ่อื ใช้เปน็ พลงั งานของกล้ามเน้ือด้วยเชน่ กัน
ผลข้างเคียง อาจทำให้มีอุจจาระสีดำซึ่งเป็นสีของยา ไม่เป็น
อันตรายตอ่ รา่ งกาย
ยานี้อาจทำให้ผู้ป่วยเกิดอาการท้องผูก คลื่นไส้ ปวด
ท้อง ทอ้ งเสีย หรือมอี าเจยี น
ยานี้อาจทำให้ผู้ป่วยเกิดอาการท้องผูก คลื่นไส้ ปวด
ทอ้ ง ท้องเสีย หรือมีอาเจยี น
7.พยาธิสภาพ
- ทายา Mupirocin 2% 5 g ท่สี ะดือ สะดือแดง ทารกเพศหญงิ Preterm female n
- ทา triple dye ท่สี ะดือ
- สะดอื แฉะ 33 Weeks ̅ Maternal UTI , P
Keep warm on Incubator - ขอบสะดอื บวมแดงเลก็ นอ้ ย Respiratory Distress after
การสญู เสียความรอ้ น 4 อย่าง - Gentamicin 7 mg IV ̅ 3-6 hr. ผลการตรวจ CBC วนั ท่ี 22
1. การนาความรอ้ น conduction - Cefotaxime 90 mg v ̅ 8 hr.
2. การพาความรอ้ น convection - Ampicillin 180 mg IV ̅ 12 hr. WBC Count 19.08x
3. การระเหยของนา้ evaporation - Tazocin 180 mg v ̅ 12 hr. Platelets 357x10
4. การแผร่ งั สี radiation Neutrophil 56.6%
Lymphocyte 33.8
จะไวต่ออณุ หภมู สิ ่งิ แวดลอ้ ม
Preterm GA 33 we
ทารกจะสญู เสยี ความรอ้ นไดง้ ่าย
สภาพรา่ งกายและการเ
ศนู ยค์ วบคมุ อณุ หภมู ิ ทารกมพี นิ้ ท่ผี วิ กายมากเม่ือ
รา่ งกายท่ี Hypothalamus เทียบกบั นา้ หนกั ตวั และมี มีความไม่สมบรู ณใ์ นการ
ระบบตา่ งๆในรา่ ง
และ Central nevous ไขมนั ใตผ้ ิวหนงั นอ้ ย
systemเจรญิ เตบิ โตไมเ่ ต็มท่ี
อณุ หภมู ิรา่ งกาย
ปัญหาทางเดนิ หายใจ ระบบท
newborn GA Dx. Early-onset neonatal sepsis 9
Preterm
r birth (การตดิ เชือ้ ในกระแสเลือดของทารก การเจรญิ เตบิ โต
แรกเกิดภายใน 72 ช่วั โมง)
2 /12/64
x103 มารดาติดเชือ้ แบคทเี รยี ทางเดนิ ปัสสาวะ
03
% เชือ้ ท่อี ยใู่ นช่องคลอดเขา้ ไปในโพรงมดลกู
8%
ทารกตดิ เชือ้ ตงั้ แตใ่ นครรภ์
ทาใหก้ ระตนุ้ ใหถ้ กู นา้ ครา่ แตกกอ่ นกาหนด
eeks มารดาเจ็บครรภค์ ลอดกอ่ นกาหนด
เจรญิ เติบโตไม่เตม็ ท่ี
รทางานของ
งกาย
ทางเดินอาหาร ภาวะตวั เหลอื ง
Respiratory Distress Transient tachypnea of the ปกติ 2-3 weeks กอ่ นถงึ ระบบทางเดนิ
Syndrome newborn กาหนดคลอดจะมกี ารหล่งั สาร
Catecholamine เพมิ่ ขึน้ การเคลือ่ น
เกิดจากปอดยงั สรา้ งไม่สมบรู ณ์ ทารกไม่สามารถขบั นา้ ท่อี ยใู่ นปอด กระตนุ้ ใหม้ กี ารดดู กลบั ของ การไหลผ่านของ
ขาดสาร Surfactant ออกมาไดห้ มด สารนา้ ในปอด
คา้ งในกระ
ความยืดหยขุ่ องปอดลดลง มนี า้ ค่งั อยใู่ นปอด ทารกคลอดกอ่ นกาหนด
ทาใหเ้ ชือ้ จลุ ินทร
ปอดแฟบขณะหายใจออก การหายใจไมม่ ีประสทิ ธิภาพ GA 33 weeks เกดิ การส
ทารกตอ้ งใชแ้ รงในการหายใจ เกดิ ภาวะหายใจลาบากช่วั ขณะใน
มากขึน้ เพอ่ื ใหถ้ งุ ลมโป่งขนึ้ ทารกแรกเกิด
ทารกเกดิ ภาวะหายใจลาบาก - นวดกน้
- Mild Retraction - Lactulose 30
- หายใจเหน่อื ย RR 68/min On single ph
วนั ท่ี 22/12/64 + Jaundice
- On cannula 2 LPM
- CPAP PEEP 5 FiO2 0.4
- NCPAP PEEP 5 FiO2 0.35
10
นอาหารยงั ไม่สมบรู ณ์ เกิดจากเมด็ เลอื ดแดงหมดอายุ ทาใหเ้ มด็ ระบบทางเดินอาหารยงั ไมส่ มบรู ณ์
นไหวของลาไสไ้ ม่ดี เลือดแดงแตกและถกู ทาลาย
งนมชา้ ทาใหม้ นี มเหลือ กระเพาะอาหารมขี นาดเล็ก กลา้ มเนอื้
ะเพาะอาหารนาน ฮีโมโกบินจะสลายเป็น 2 ส่วน หนา้ ทอ้ งไม่แขง็ แรง
รียเ์ จรญิ เติบโตในลาไส้
สรา้ งแก๊สมากขึน้ globin heme ไดร้ บั สารอาหารไมเ่ พยี งพอ
ทอ้ งอดื จะนากลบั ไปใชไ้ ดอ้ กี จะถกู เปล่ียนเป็น biliverdin โดย การเจรญิ เตบิ โตลา่ ชา้
เอนไซม์ heme oxygenase และ
0 ml oral 2 cc ̅ 8 hr. นา้ หนกั แรกคลอด 1730 g
biliverdin จะถกู เปลยี่ นเป็น BW วนั ท่ี 10/1/65 1670 g
hototherapy bilirubin โดยเอนไซม์ BW วนั ท่ี 11/1/65 1710 g
e warm up BW วนั ท่ี 12/1/65 1740 g
biliverdin reductase BW วนั ท่ี 13/1/65 1760 g
มี bilirubin ในเลอื ดสงู กวา่ ปกติ - นมม PF 26 ml x 8 feed
- ยา fer-in sol 0.3 ml po O2 เสรมิ
ตบั ทาหนา้ ท่ขี บั สาร bilirubin ซ่งึ ธาตเุ หล็ก
ยงั ทาหนา้ ท่ไี ม่สมบรู ณ์ - MTV 0.5 ml po OD ใหว้ ิตามนิ รวม
ทารกมภี าวะตวั เหลอื ง การขบั bilirubin ออกจาก
รา่ งกายไดไ้ มด่ ี
มี bilirubin ค่งั คา้ งในรา่ งกาย
มากขึน้
11
8.สรปุ อาการและการรักษาทผี่ ู้ปว่ ยไดร้ บั กอ่ นรบั ไว้ในการดแู ลของนักศึกษา
ทารกเพศหญิง Preterm female newborn GA 33 weeks with Preterm with Maternal UTI
with Preterm RD after birth น้ำหนักแรกคลอด 1,730 กรัม มีอาการ Respiratory Distress Syndrome
RDS, Early-onset neonatal sepsis EOS, Transient Tachypnea of the Newborn TTNB,
PR=68-72 bpm. แรกรับมีอาการหายใจเหนื่อย เป็น Restation แพทย์ Dx เป็น Early-onset neonatal
sepsis EOS V/S แ ร ก ร ั บ T=36o C, RR=68/min, HR=164/min, SpO2=89% on cannula 2 LPM
SpO2=96% ดูแล NPO ให้ 10% DW V 4.4 ml มีอาการไม่ดีขึ้น เวลา 13.15 น. แพทย์ให้เปลี่ยนเป็น CPAP
PEEP 5 FiO2 0.4 หลังจากนั้นให้ยังคงมีอัตราการหายใจเร็วกว่าปกติ อัตราการหายใจ 66/min เป็น Mild
Retraction ใหย้ า Gentamicin 7 mg iv q 3-6 hr. เวลา 15.50 น. PR=70/min แพทย์เปลี่ยนเป็น NCPAP
PEEP 5 FiO2 0.35 หลังให้อัตราการหายใจปกติแพทย์ปรับ FiO2 ลดลงเรื่อย ๆ เป็น 0.3, 0.275, 0.25
วันที่ 23/12/64 แพทย์ให้ลอง Room air มีอาการ Mild Retraction แพทย์จึงให้ on cannula 2 LPM มี
ปญั หาเร่อื งตวั เหลอื ง แพทยใ์ ห้ on Single phototherapy + Jaundice warm up เวลา 18.30 น. อัตราการ
หายใจ 48/min แพทย์ให้ปรับ O2 cannula 1 LPM และ ลดเหลือ 0.5 LPM เวลา 4.45 น. อัตราการหายใจ
40/min off O2 ได้ keep warm on Incubator วันที่ 24/12/64 มี Coffee ground แพทย์ให้ CRX P
include abdomen, Omeprazole 1.5 mg V OD ด ู แ ล NPO ใ ห้ 10% D/W V 5.5 cc/hr. ร อ บ เ อ ว
27 cm BW 1,470 g ว ั น ท่ี 27/12/64 ม ี ป ั ญ ห า เ ร ื ่ อ ง Acute kidney injury ไ ม ่ มี ไ ข ้ T 36.5o C off
Gentamicin เปลี่ยนเป็น Cefotaxime 90 mg V q 8 hr. เวลา 17.00 น. Off Ampicillin, Cefotaxime
เปลี่ยนเป็น Piperacillin/Tazobactam 180 mg of Piperacillin V q 12 hr. ดูแล NPO ให้ 10% DN/5
200 ml IV 9.2 ml/hr. ว ั น ที่ 31/12/64 แ พ ท ย ์ ใ ห้ Tazocin 10 Day ร ั บ feed ไ ด้ แ พ ท ย ์ ใ ห้ PF (24
Kcal/130ml) 9ml * 8 feed on 10% DN/5 200 ml IV 6.5 ml/hr. วันที่ 4/1/65 ยังกินไม่เก่ง ท้องอืด ให้
PF 12 ml*8 feed, 10% DN/5 200 ml IV 5.5 ml/hr. วันที่ 5/1/65 สะดือแฉะ observe สะดือแดง
อาการปจั จบุ นั วันท่ี 10/1/65
Active ดี หายใจไม่เหนื่อย Room Air observe Apnea ไม่มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ลักษณะ
ขอบสะดือบวมแดงเล็กน้อย สะดือแฉะ ทายา ATB คือ Mupirocin Ointment 2% 5g ที่สะดือ เช้า-เย็น
Observe sign สะดือตดิ เช้อื observe sign sepsis ผิวสชี มพู Keep warm on Incubator รบั feed ได้ ดแู ล
ใหน้ ม PF 24 ml*8 feed ท้องไม่อืด ขับถา่ ยไดป้ กติ observe abdominal sign ถา่ ย 2 ครัง้ ลักษณะเป็นเนื้อ
สเี หลือง BW=1,670 g record V/S q 4 hr. V/S T =37oC, RR=48/min, HR=152/min
อาการปัจจุบันวนั ท่ี 11/1/65
Active ดี หายใจไม่เหนือ่ ย Room Air observe Apnea ไม่มภี าวะหยุดหายใจขณะหลับ ลักษณะ
ขอบสะดือแห้งดี สะดือแฉะ ทายา ATB คอื Mupirocin Ointment 2% 5g ท่ีสะดือ เช้า-เยน็ Observe sign
12
สะดือติดเชื้อ observe sign sepsis ผิวสีชมพู Keep warm on Incubator รับ feed ได้ ดูแลให้นม PF 26
ml*8 feed ท้องไม่อืด ขับถ่ายได้ปกติ observe abdominal sign ถ่าย 3 ครั้ง ลักษณะเป็นเนื้อสีเหลือง
BW=1,710 g record V/S q 4 hr. V/S T=36.8oC, RR=54/min, HR=140/min
อาการปจั จบุ ันวันที่ 12/1/65
Active ดี หายใจไม่เหนื่อย Room Air observe Apnea ไม่มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ลักษณะ
ขอบสะดือแห้งดี สะดือแฉะ ทายา ATB คือ Mupirocin Ointment 2% 5g ที่สะดือ เช้า-เย็น Observe sign
สะดือตดิ เชือ้ observe sign sepsis ผิวสีชมพู Keep warm on Incubator รบั feed ได้ ท้องโตกาง ตอ้ งนวด
ก้นกอ่ น feed ดูแลใหน้ ม PF 26 ml*8 feed ถา่ ย 2 ครง้ั ลกั ษณะเป็นเน้ือสเี หลอื ง BW=1,740 g record V/S
q 4 hr. V/S T=37.1oC, RR=40/min, HR=150/min
อาการปัจจบุ ันวันท่ี 13/1/65
Active ดี หายใจไม่เหนื่อย Room Air observe Apnea ไม่มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ สะดือแฉะ
ทา Triple dry ที่สะดือตอนเช้า Observe sign สะดือติดเชื้อ observe sign sepsis ผิวสีชมพู Keep warm
on Incubator รับ feed ได้ ท้องโตกาง ต้องนวดก้นก่อน feed ดูแลให้นม PF 26 ml*8 feed observe
abdominal sign ถ่าย 3 ครั้ง ลักษณะเป็นเนื้อสี เหลือง BW=1,760 g record V/S q 4 hr. V/S T=37.1oC,
RR=50/min, HR=148/min
9.ปญั หาทางการพยาบาล การวางแผนการพยาบาล และการประเมนิ ผล
ขอ้ วนิ ิจฉัยทางการพยาบาล
ปญั หาท่ี 1 เฝา้ ระวังภาวะตดิ เชอ้ื ซำ้ ในรา่ งกาย
ปัญหาที่ 2 เฝา้ ระวังภาวะติดเชอ้ื ซำ้ ในรา่ งกาย
ปัญหาท่ี 1 เฝ้าระวังภาวะติดเช้ือซ้ำในร่างกาย
ขอ้ มูลสนบั สนุน O: Preterm GA 33 weeks Day 20 BW 1,670 g.
O: หายใจไม่เหนือ่ ย RR=55/min, HR=160 bpm, T=37.2o C
O: ขอบสะดือบวมแดงเลก็ น้อย สะดอื แฉะ
O: Early-onset neonatal sepsis EOS
O: RD after birth, Respiratory Distress Syndrome RDS, Transient Tachypnea of
the Newborn TTNB, Early-onset neonatal sepsis EOS (วันท่ี 22/12/64)
O: Maternal UTI (วนั ที่ 22/1/64)
13
O: ผลการตรวจทางห้องปฏิบัตกิ าร CBC (วนั ท่ี 22/1/64)
WBC Count = 19.08*103 /uL
Platelet = 357*103 /uL
Neutrophil = 56.6%
Lymphocyte = 33.8%
O: นำ้ หนกั แรกคลอด 1,730 กรมั
การวิเคราะห์ข้อมลู
ทารกเกิดก่อนกำหนด โดยเฉพาะทารกที่มีน้ำหนักแรกเกิดน้อยมาก โดยน้ำหนักแรกเกิดของทารก
1,730 กรมั ทารกมักจะได้รบั ยา ABT หลงั เกิด เนือ่ งจากมีความเสีย่ งต่อการเกิด EOS และอาจมีอาการผดิ ปกติ
ของระบบหายใจ และการไหลเวียนเลือด ซึ่ง EOS เป็นการติดเชื้อในกระแสเลือดของทารกเกิดภายในอายุ
72 ช่ัวโมง
วัตถุประสงค์ทางการพยาบาล
เพื่อป้องกนั ภาวะตดิ เช้ือซ้ำในร่างกาย
เกณฑก์ ารประเมิน
1. น้ำหนักทารกอย่ใู นเกณฑ์ปกติ 2,500-3,000 กรัม
2. ไม่มีอาการหายใจเหนอื่ ย
3. V/S ปกติ RR=35-40/min, HR=120-160 bpm, BT 36.8-37.2o C
4. สะดือแห้งดี
5. EOS improves
6. ผลการตรวจทางห้องปฏิบตั ิการ `CBC อยใู่ นเกณฑ์ปกติ
WBC Count อย่ใู นชว่ ง 5 - 10*103 /uL
Platelet อยู่ในชว่ ง 140.0 – 400.0*103 /uL
Neutrophil อยใู่ นช่วง 55.5 – 75.0 %
Lymphocyte อยใู่ นชว่ ง 20.0 – 35.0 %
กจิ กรรมการพยาบาล
1. ทายา ABT ยา Mupirocin Ointment 2% 5g ทส่ี ะดือ เช้า-เย็น เวลา 9.00 น. เพือ่ ป้องกันการตดิ
เชื้อทีผ่ วิ หนัง
2. Keep warm on Incubator เพ่ือควบคมุ อณุ หภูมิกายทารกใหอ้ ยใู่ นอุณหภมู ปิ กติ
การใชต้ อู้ บสำหรับเดก็
1) ตง้ั อุณหภมู อิ ากาศในตู้อบใหเ้ หมาะสมกบั นำ้ หนักแรกเกดิ และอายุของทารกทีถ่ ือวา่ เป็น
14
Neutral thermal environment temperature NTE temperature ถ้าต่ำหรือสูงกว่าเป้าหมาย ให้ปรับ
อณุ หภมู ิในตคู้ รงั้ ละ 0.2o C
2) การตั้งอุณหภูมิผิวหนังให้ติด Skin probe แนบสนิทกบั ผิวหนังในตำแหน่งท่ีไมถ่ ูกกดทับ
โดยยอมให้อุณหภูมเิ ปลีย่ นแปลง จากเป้าหมายอณุ หภมู ิกายถงึ 37.0±1o C
3) ไมเ่ ปดิ ชอ่ งต้อู บไว้ ปดิ ใหส้ นทิ
4) วดั อุณหภมู ิทารกทกุ 4 ชว่ั โมง
5) หลังอาบน้ำเช็ดตวั ให้แหง้ หอ่ ตัวใสห่ มวกทกุ คร้ัง
6) ดูแลภายในตูอ้ บไม่ใหเ้ ปียกช้นื และเปล่ียนผ้าอ้อมเมอื่ เปียก
3. observe sign ของภาวะ sepsis เช่น มีไข้ มไี ข้ หนาวสั่นหายใจเรว็ หายใจลำบาก ซมึ ลง
ชีพจรเต้นเรว็ เพอื่ ดอู าการเปล่ยี นแปลงทเ่ี กิดขนึ้ กบั ผู้ป่วย
4. observe sign สะดอื ตดิ เชอ้ื เชน่ มนี ำ้ หรือหนองออกมาทางสายสะดอื บวมแดง กดเจบ็ ท่ีสะดอื หรอื
ผนังหน้าท้องบริเวณข้างเคยี งดว้ ย
5. observe V/S ทุก 4 hr. เพ่ือประเมนิ ความผิดปกติของร่างกาย
6. ใหก้ ารพยาบาลโดยใชห้ ลกั Aseptic technique โดยล้างมอื 7 ขนั้ ตอน 5 moment เพื่อปอ้ งกันการ
นำเชือ้ ไปสู่ทารก
ประเมินผล
11/1/65
Active ดี หายใจไมเ่ หนื่อย Room Air ไมม่ ีภาวะหยดุ หายใจขณะหลบั ขอบสะดือแห้งดี
สะดือแฉะ ไม่มีอาการ sepsis ผิวสีชมพู Keep warm on Incubator รับ feed ได้ ท้องไม่อืด ขับถ่ายปกติ
ถา่ ย 3 คร้งั ลกั ษณะเปน็ เนือ้ สีเหลือง BW=1,710 g V/S T 36.81oC, RR 54/ min, HR 140/ min
12/1/65
Active ดี หายใจไมเ่ หนอ่ื ย Room Air ไม่มภี าวะหยุดหายใจขณะหลับ สะดอื แฉะๆ ไมม่ ี
อาการ sepsis ผิวสีชมพู Keep warm on Incubator รับ feed ได้ ท้องโตกาง ต้องนวดกน้ ก่อน feed
ถ่าย 2 ครั้งเป็นเนื้อสีเหลือง BW=1,740 g V/S T=37.1oC, RR=40/ min HR 150/min
13/1/65
Active ดี หายใจไม่เหนื่อย Room Air ไม่มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ สะดือแฉะๆ ไม่มี
อาการ sepsis ผิวสีชมพู Keep warm on Incubator รับ feed ได้ ท้องโตกาง นวดก้น 1 ครั้ง ถ่าย 3 ครั้ง
เปน็ เนอ้ื สเี หลือง BW=1,760 g V/S T=37.1oC, RR=50/ min HR 148/min
15
14/1/65
Active ดี หายใจไม่เหนื่อย Room Air ไม่มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ สะดือแฉะๆ ไม่มี
อาการ sepsis ผิวสีชมพู Keep warm on Incubator รับ feed ได้ ท้องโตกาง นวดก้น 1 ครั้ง ถ่าย 2 ครั้ง
เปน็ เน้ือสีเหลือง BW=1,790 g V/S T=37oC, RR=54/ min HR 154/min
ปญั หาที่ 2 ส่งเสริมการเจริญเติบโต เน่ืองจากระบบทางเดินอาหารยังพัฒนาไม่เต็มที่
ข้อมูลสนบั สนุน O: Preterm GA 33 weeks Day 20 BW=1,710 g.
O: รับ feed ได้ ไม่มีอาการท้องอืด
การวิเคราะห์ข้อมลู
ทารกเกิดก่อนกำหนด ทำให้นำ้ หนักตัวนอ้ ย สังผลใหร้ ะบบทางเดินอาหารยังพฒั นาไมเ่ ต็มที่ ทำให้การ
ย่อยและการดดู ซึมสารอาหารตา่ งๆไดไ้ ม่ดี ทำให้ได้รับสารอาหารไม่เพยี งพอต่อการเจริญเติบโต
วัตถปุ ระสงคท์ างการพยาบาล
เพือ่ ส่งเสริมการเจรญิ เตบิ โตของผู้ป่วยใหอ้ ย่ใู นเกณฑป์ กติ
เกณฑก์ ารประเมิน
1. น้ำหนักทารกอยู่ในเกณฑป์ กติ 2,500-3,000 กรมั
2. ไม่มอี าการ และอาการอสดงท้องอืด เชน่ ร้องไหด้ นิ้ ตลอดเวลาหลงั จากดม่ื นม, อาเจียน, ทอ้ งแขง็ ,
ทอ้ งป่อง, หนา้ เรมิ่ เปลย่ี นเป็นสแี ดง
กิจกรรมการพยาบาล
1. ให้ MTV 0.5 ml po OD เวลา 12 น. เพือ่ ป้องกันการขาดวิตามินในรา่ งกาย
2. ให้นมโดย C/F เป็น PF 24 ml * 8 feed เวลา 9, 12, 15 น. เพ่ือใหไ้ ดร้ ับสารอาหารท่เี พยี งพอ
3. ใหย้ า Lactulose 30 ml กิน 2 cc q 8 hr. เวลา 14 น. เพอ่ื กระตุ้นการขบั ถ่าย
4. อาการท้องอดื และความสามารถในการรับนมของทารก เชน่ ร้องไหท้ ต่ี ลอดเวลาหลังจากด่มื นม,
อาเจียน, ทอ้ งแขง็ , ทอ้ งป่อง, หนา้ เร่ิมเปลย่ี นสีเปน็ สีแดง
5. ชง่ั นำ้ หนกั ทกุ วนั เพอ่ื ดกู ารเปลี่ยนแปลง BW ของผ้ปู ่วย
6.ป้องกันหรือหลีกเลี่ยงภาวะที่จะทำให้ทารกมีการใช้พลังงานในร่างกายมากกว่าปกติ เช่น อุณหภูมิ
ร่างกายตำ่ กวา่ ปกติ หายใจลำบาก
7. ส่งเสริมการดูดกลืน เพื่อรักษาภาวะแทรกซอน ชวยใหอวัยวะตางๆ ทํางานได้ดีขึ้นและเป็นการ
สง่ เสรมิ การไดร้ บั สารอาหาร
ขั้นตอนการนวด มีท้งั หมด 10 ข้ันตอน ดงั น้ี
16
1. การนวดกระพุงแกมดานนอก เพื่อชวยเพิ่มการเคลื่อนไหวและการยืดขยายของกลามเนื้อกระพุ้ง
แกม และชวยใหริมฝปากปดไดสนิทมากขึ้น เปนการนวดยืดกลามเนื้อบริเวณกระพุงแกม ปฏิบัติโดยใชน้ิว
หัวแมมือและนิ้วกลางวางบรเิ วณมุมปากของทารก ออกแรงกดบรเิ วณปลายนว้ิ ท้ังสองเบาๆ พรอมขยับน้ิวจาก
มุมปากไลขึน้ ไปยังใบหทู ้ัง 2 ขางเพอื่ ยดื กลามเนอ้ื กระพงุ แกม รวม 30 วนิ าที
2. การนวดกลามเนื้อรอบริมฝปากเพื่อชวยเพิ่มการเคลื่อนไหวของริมฝปาก และชวยใหทารกปดริม
ฝปากไดสนิทมากข้นึ เปนการนวดบรเิ วณกลามเนื้อ Obiculalis Oris รอบๆรมิ ฝปากของทารกปฏบิ ัตโิ ดยใช นิ้ว
หวั แมมอื นวดเบาๆ โดยบรเิ วณรมิ ฝปากบนนวดโดยการปดนิว้ ข้ึนและบริเวณริมฝปากลางนวดโดยการปดน้ิวลง
รวม 30 วินาที
3. การนวดริมฝปากบนและลาง เพื่อชวยเพิ่มการเคลื่อนไหว การยืดขยายและการปดของริมฝปาก
เปนการนวดบริเวณริมฝปากบนและลางปฏิบัติโดยวางนิ้วหัวแมมือและนิ้วชี้ไวตรงกลางริมฝปากบนหลัง
จากนั้นใหฉีกนิ้วทั้ง 2 แยกจากกันพรอมทั้งออกแรงกดนิ้วเบาๆ ไปยังมุมปากทั้ง 2 ขางของทารก ปฏิบัติ
เชนเดียวกับริมฝปากลาง รวม 30 วนิ าที
4. การนวดเหงือก เพื่อชวยเพิ่มการเคลื่อนไหวและความแข็งแรงของเหงือกปฏิบัติโดยวางนิ้วกอยไว
ตรงกลางเหงือกดานบน หลังจากนั้นลากนิ้วพรอมออกแรงกดนิ้วเบาๆ ไปทางดานซายจนสุดแนวเหงือก
ตอ่ จากน้นั ลากนว้ิ นวดตอไปทางดานขวาจนสดุ แนวเหงือกเชนกัน หลงั จากนนั้ ใหลากน้ิวยอนกลับมา จุดเริ่มต
นท่ีกึ่งกลางเหงือกเหมือนเดิม ทําซ้ำอีก1รอบ เสร็จแลวใหนวดเหงือกดานลาง ดวยวิธีการเดียวกัน รวม
30 วินาที
5. การนวดกระพุงแกมดานใน เพื่อชวยเพิ่มการเคลื่อนไหวและความแข็งแรงของกระพุงแกม เปน
การนวดบริเวณกระพุงแกมดานในของทารก ปฏิบัติโดยสอดน้ิวกอยเขาไปในชองปากใชสนั นิว้ กอยแตะบริเวณ
กลางกระพุงแกมนวดในทิศทางขึ้นลง ขางละ 3 คร้งั รวม 30 วนิ าที
6. การนวดลิ้นดานขาง เพื่อชวยเพิ่มการเคลื่อนไหว และความแข็งแรงของลิ้นเปนการนวดบริเวณลิ้น
ดานขางของทารก ปฏิบัติโดยใชปลายนิ้วกอยแตะดานขางของลิ้นทั้ง 2 ขางเปนพักๆ เพื่อเพิ่มการเคลื่อนไหว
ของลิ้น หลังจากนัน้ ใหใชน้ิวกอยนวดดานขางของลิ้นดานขวาในลกั ษณะถูเขา-ออก โดยเริ่มจากปลายลิ้นไปยงั
โคนลนิ้ เสรจ็ แลวใหนวดดานขางของลิ้นดานซายดวยวิธกี ารเดียวกันรวม 30 วินาที
7. การนวดตรงกลางลิ้น เพ่ือชวยเพิ่มการเคลื่อนไหวและความแข็งแรงของลิ้น เปนการนวดบริเวณ
กลางลิ้นและโคนลิน้ ปฏิบัติโดยวางน้ิวกอยไวตรงกลางลิ้นของทารก หลังจากนั้นออกแรงกดปลายนิ้วเล็กนอย
พรอมกันน้วิ ไปดานหลงั เกอื บถงึ โคนลิน้ รวม 30 วนิ าที
8. การนวดเพดานแข็งดานบน เพื่อกระตุน Sucking Reflex กระตุนการดูดของทารก ใหสามารถ
ดดู กลนื ไดตอเนอ่ื ง เป็นการนวดบริเวณเพดานแขง็ ดานบนวางนวิ้ กอยไวตรงขอบกลางเพดานออน แลวใชปลาย
นว้ิ กดเบาๆ ทําซ้ำๆ เพอื่ ใหทารกดูดอยางตอเนื่อง รวม 30 วนิ าที
17
9. การนวดกระตุนการกลืน ใชนิ้วหัวแมมือ นิ้วชี้ นิ้วกลาง ลูบพรอมออกแรงกดพอสมควรบริเวณด
านขางกลองเสยี งในทิศทางขึ้น เรมิ่ จากกระดกู ไหปลาราไปจนถึงใตคาง รวม 30 วินาที
10. การนวดแกมดานนอกเพอื่ เพ่ิมการเคลื่อนไหว กลามเนื้อรอบแกม ใชน้วิ ช้ีและนิว้ กลาง ลบู เบาจาก
แกมถึงมมุ ปากเปนลกั ษณะตัว C รวม 30 วนิ าที (เยาวภา พรมเสน, สริ ิพร วงควัชรไพบลู ย, อทุ ัยทิพย ไชยศลิ ป
และจุฑามาศ ไทนอ, 2564)
ประเมนิ ผล
11/1/65
BW=1,710 g Day 21 รับ feed ได้ ไมม่ ีอาการท้องอืด ถา่ ย 3 ครงั้ เป็นเนื้อสีเหลือง
12/1/65
BW=1,740 g Day 22 รับ feed ได้ ท้องโตกาง นวดกน้ 1 ครัง้ ถา่ ย 2 ครงั้ เปน็ เน้อื สเี หลอื ง
13/1/65
BW=1,760 g Day 23 รับ feed ได้ ท้องโตกาง นวดก้น 1 คร้ัง ถา่ ย 3 ครง้ั เปน็ เน้ือสเี หลอื ง
14/1/65
BW=1,790 g Day 24 รับ feed ได้ ท้องโตกาง นวดกน้ 1 ครั้ง ถา่ ย 2 ครั้ง เปน็ เน้ือสีเหลอื ง
10.สรุปผลปัญหา อาการ ของผ้ปู ่วย การให้การพยาบาล และคำแนะนำ
การวนิ จิ ฉัยครัง้ สดุ ท้าย Early-onset neonatal sepsis
(การติดเช้ือในกระแสเลือดของทารกแรกเกิดภายใจ 72 ช่วั โมง)
ทารกเพศหญิง Preterm female newborn GA 33 weeks with Preterm with Maternal UTI
with Preterm RD after birth น้ำหนักแรกคลอด 1,730 กรัม มีอาการ Respiratory Distress Syndrome
RDS, Early-onset neonatal sepsis EOS, Transient Tachypnea of the Newborn TTNB,
PR=68-72 bpm. แรกรับมีอาการหายใจเหนื่อย เป็น Restation แพทย์ Dx เป็น Early-onset neonatal
sepsis EOS V/S แ ร ก ร ั บ T=3 6 oC, RR=6 8 / min, HR=1 6 4 / min SpO2 8 9 % on cannula 2 LPM
O2sat 96% ดูแล NPO ให้ 10% DW V 4.4 ml มีอาการไม่ดีขึ้น เวลา 13.15 น. แพทย์ให้เปลี่ยนเป็น CPAP
PEEP 5 FiO2 0.4 หลังจากนั้นให้ยังคงมีอัตราการหายใจเร็วกว่าปกติ อัตราการหายใจ 66/min เป็น Mild
Retraction ใหย้ า Gentamicin 7 mg iv q 3-6 hr. เวลา 15.50 น. มอี ัตราหายใจ 70/min แพทยเ์ ปลี่ยนเปน็
NCPAP PEEP 5 FiO2 0.35 หลังใหอ้ ตั ราการหายใจปกตแิ พทยป์ รบั FiO2 ลดลงเรือ่ ย ๆ เปน็ 0.3, 0.275, 0.25
วันที่ 23/12/64 แพทย์ให้ลอง Room air มีอาการ Mild Retraction แพทย์จึงให้ on cannula 2 LPM มี
ปญั หาเร่ืองตัวเหลือง แพทย์ให้ on Single phototherapy + Jaundice warm up เวลา 18.30 น. อัตราการ
หายใจ 48/min แพทย์ให้ปรับ O2 cannula 1 LPM และ ลดเหลือ 0.5 LPM เวลา 4.45 น. อัตราการหายใจ
18
40/min off O2 ได้ keep warm on Incubator วันที่ 24/12/64 มี Coffee ground แพทย์ให้ CRX P
include abdomen, Omeprazole 1.5 mg V OD ดูแล NPO ให้ 10% D/W V 5.5 cc/hr. รอบเอว 27 cm
BW=1,470 g วันที่ 27/12/64 มีปัญหาเรื่อง Acute kidney injury ไม่มีไข้ T=36.5oC off Gentamicin
เปลี่ยนเป็น Cefotaxime 90 mg V q 8 hr. เวลา 17.00 น. Off Ampicillin, Cefotaxime เปลี่ยนเป็น
Piperacillin/Tazobactam 180 mg of Piperacillin V q 12 hr. ดแู ล NPO ให้ 10% DN/5 200 ml IV 9.2
ml/hr. วันที่ 31/12/64 แพทย์ให้ Tazocin 10 Day รับ feed ได้ แพทย์ให้ PF (24 Kcal/130ml) 9ml * 8
feed on 10% DN/5 200ml IV 6.5 ml/hr. วนั ที่ 4/1/65 ยงั กนิ ไมเ่ ก่ง ท้องอืด ให้ PF 12 ml*8 feed, 10%
DN/5 200 ml IV 5.5 ml/hr. วนั ท่ี 5/1/65 สะดือแฉะ observe สะดือแดง
วันท่ี 10-14 Active ดี หายใจไมเ่ หน่ือย Room Air observe Apnea ไมม่ ภี าวะหยุดหายใจขณะหลับ
ลักษณะขอบสะดือบวมแดงเล็กน้อย สะดือแฉะ ทายา ATB คือ Mupirocin Ointment 2% 5g ที่สะดือ เช้า-
เย็น Observe sign สะดือติดเช้ือ observe sign sepsis ผิวสีชมพู Keep warm on Incubator รับ feed ได้
ดูแลให้นม PF 24 ml*8 feed ท้องไม่อืด ขับถ่ายได้ปกติ observe abdominal sign ถ่าย 2 ครั้ง
ลักษณะเป็นเนื้อสีเหลือง BW=1,670 g record V/S q 4 hr. V/S T=37oC, RR=48/min, HR=152/min
วันที่ 11/01/65 ไม่มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ลักษณะขอบสะดือแห้งดี สะดือแฉะ ผิวสีชมพู Keep warm
on Incubator รับ feed ได้ ดูแลให้นม PF 26 ml*8 feed ท้องไม่อืด ขับถ่ายได้ปกติ observe abdominal
sign ถ่าย 3 ครั้ง ลักษณะเป็นเนื้อสีเหลือง BW=1,710 g V/S T=36.8oC, RR=54/min, HR=110/min
วนั ท่ี 12/01/65 ไม่มภี าวะหยุดหายใจขณะหลบั ลักษณะขอบสะดอื แหง้ ดี สะดือแฉะ ผิวสชี มพู Keep warm
on Incubator รับ feed ได้ ท้องโตกาง นวดก้น 1 ครั้ง ก่อนให้นม ดูแลให้นม PF 26 ml*8 feed
ถ่าย 2 ครั้ง ลักษณะเป็นเนื้อสีเหลือง BW=1,740 g V/S T=37.1oC, RR=40/min, HR 150/min
วันที่ 13/01/65 ไม่มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ลักษณะสะดือแฉะๆ ผิวสีชมพู Keep warm on Incubator
รับ feed ได้ ท้องโตกว้าง ต้องนวดก้นก่อน feed ให้นม PF 26 ml*8 feed ถ่าย 3 ครั้ง ลักษณะเป็นเนื้อสี
เหลอื ง BW=1,760 g V/S T=37.1oC, RR=50/min, HR 148/min
ผู้ป่วยมปี ญั หาทางการพยาบาล คอื
ปัญหาที่ 1 เฝ้าระวังภาวะตดิ เชื้อซ้ำในร่างกาย
ปัญหาท่ี 2 ส่งเสริมการเจริญเติบโต เนื่องจากระบบทางเดนิ อาหารยังพัฒนาไม่เต็มที่
19
บรรณนานกุ รม
กัณณิกา อยู่มั่น. (2564). ลักษณะการติดเชื้อในกระแสเลือดของทารกแรกเกิดในโรงพยาบาลพังงา .
สืบค้นเมื่อ 16 มกราคม 2565, จาก https://he02.tci- thaijo.org/index.php/Reg11MedJ/
article/download/247158/169723/.
ขวัญจิต เพ็งแป้น และ พรทิพย์ ศิริบูรณ์พิพัฒนา. (2564). การดูแลทารกเกิดก่อนกำหนดที่ได้รับอาหารผ่าน
ทางเดนิ อาหาร. สืบคน้ เม่ือ 16 มกราคม 2565, จาก https://he02.tci-thaijo.org/index.php/
RHPC9Journal/article/download/243738/169470/.
คณาจารยภ์ าควชิ าสรีรวทิ ยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั มหดิ ล. (2558). กายวิภาคศาสตรแ์ ละ
สรีรวิทยา (พมิ พ์ครั้งที่14). กรงุ เทพฯ : มหาวิทยาลยั มหิดล.
จุฬาภรณ์ ต้งั ภกั ดี. (2560). การประเมนิ เพ่อื ปอ้ งกัน และเฝา้ ระวังความกา้ วหนา้ ของภาวะตดิ เช้ือ5 ระยะใน
ผ้ปู ่วยเดก็ . สืบค้นเม่อื 16 มกราคม 2565, จาก https://gsbooks.gs.kku.ac.th/60/nigrc2017
/pdf/MMP23.pdf.
ทิฏฐิ ศรีวิสัย และวิมล อ่อนเส็ง. (2560).วารสารวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี อุตรดิตถ์ :ภาวะช็อกจาก
การติดเชอ้ื . อุตรดติ ถ์: วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี อตุ รดติ ถ์.
ประสาร เปรมะสกุล. (2561).คมู่ ือแปลผลตรวจเลือดเล่ม 2. พิมพ์ครง้ั ท2่ี . กรุงเทพฯ : อรุณการพมิ พ์ .
ปราณี ทไู้ พเราะ. (2561). คมู่ ือยา. พิมพ์คร้งั ที่ 14. กรงุ เทพฯ : N P Press limited partnership.
พรศริ ิ พนั ธสี. กระบวนการพยาบาล & แบบแผนสขุ ภาพ : การประยุกต์ใชท้ างคลนิ กิ .
พิมพค์ รงั้ ที่2. กรงุ เทพมหานคร : พิมพ์อักษร. 2558.
ศรัญญา ศรีจันท์ทองศิริ, ไกลตา ศรีสิงห์ และจิรนันท์ วีรกุล. (2015). ปัจจัยเสี่ยงที่มีความสมั พันธ์กับการติด
เช้ือในกระแสเลือดของทารกแรกเกดิ ในโรงพยาบาลมหาวทิ ยาลยั นเรศวร. สืบค้นเมื่อ 16 มกราคม
2565, จาก https://he02.tci-thaijo.org/index.php/jph/article/download/49141/40794/.
ศิริสุดา อัญญะโพธ์ิ. (2558). การติดเชื้อทารกแรกเกิดในโรงพยาบาลอ่างทอง. สืบค้นเมื่อ 16 มกราคม
2565, จาก http://www.ayhosp.go.th/ayh/images/ Knowledge/JOHS/johs-y17v03s02.pdf.