บัตรภาพผลงานศิลปินตะวันตก

Marc Chagall

Arbre et maisons
ผลงานของ: มาร์ก ชากาล
(Marc Chagall)

ปีที่สร้าง: ค.ศ.1970

ทำมาจาก: สีน้ำมันบนผ้าใบ

ผลงานนี้อยู่ที่: Biennale Internazionale

dell'Antiquariato di Firenze
ประเทศอิตาลี่

รูปแบบงาน : รูปแบบตัดทอน

มุมมองของชากาลนั้น ภาพมิใช่วรรณกรรมที่จะต้องแปลความ

หมาย ภาพเป็นเพียงการจัดวางสิ่งต่างๆ ให้อยู่ด้วยกันในแบบ

sur-natural คือ เหนือธรรมชาติ เช่น ภาพนักดนตรีกำลังยืนสี

ไวโอลินอยู่บนหลังคาบ้านสีแดง วัวที่มีตาสีฟ้าสดใส ไก่ตัวสีแดง

ยืนเกาะคอนอยู่บนรั้วบ้าน และบ้านที่ทาหลากสีทำให้ดูคล้าย

บ้านตุ๊กตา ภาพที่ชากาลวาดจึงดูเหมือนภาพประกอบใน

เทพนิยาย ที่ทำให้คนดูภาพไร้สติสัมปชัญญะไปชั่วเวลาหนึ่ง

เวลาเห็นคนลอยในอากาศได้เหมือนไร้แรงโน้มถ่วง ชากาลก็

สามารถจัดให้ทั้งคนและสัตว์อยู่ร่วมกันได้อย่างกลมกลืน ภาพนี้

ชากาลใช้สีกลมกลืนกันด้วยโทนสีเหลือง และนำเสนอจุดเด่น


ของภาพด้ว
ยขนาด เล็กใหญ่

ลองสังเกตสีในภาพนี้

Edgar Degas

In a Café
ผลงานของ: แอดการ์ เดอ
กา (Edgar Degas)

ปีที่สร้าง: ค.ศ.1873
ทำมาจาก: สีน้ำมันบนผ้าใบ
ผลงานนี้อยู่ที่: Musée d’Orsay, Paris

ในปารีส ประเทศฝรั่งเศส

รูปแบบงาน : รูปแบบเหมือนจริง

ภาพนี้เขียนภาพถ่ายทอดวิถีชีวิตชาวปารีสในหลากหลายสถาน

ที่โดยเฉพาะบรรยากาศในคาเฟ่ ภาพผู้ชายและผู้หญิงที่นั่งกัน

อยู่อย่างอ้างว้างและเซื่องซึม เดอกามีผลงานการเขียนภาพ
เหมือนบุคคลด้วยเทคนิคการใช้สีพาสเทลมาใช้สร้างร่างกาย

และผิวพรรณอันงดงามของผู้หญิงได้อย่างยอดเยี่ยมและเป็น

เอกลักษณ์เฉพาะตัว เสมือนภาพถ่ายอาจกล่าวได้ว่า เป็น

ภาพถ่ายแบบเร็วๆ อย่างไม่ตั้งใจถ่าย (snapshot) ที่ถ่ายจังหวะ

ท่วงท่าต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันออกมาเป็นภาพวาด เขาใช้ความ

ประณีตงดงามแบบคลาสสิกผสมผสานกับอารมณ์โรแมนติก

สร้างสรรค์เป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมในหลากแนว

ลองสัง
เกตสีในภาพนี้

Edgar Degas

Swaying Dancer (Dancer in Green)
ผลงานของ: แอดการ์ เดอ
กา (Edgar Degas)

ปีที่สร้าง: ค.ศ.1877-1879

ทำมาจาก: สีพาสเทล และสีกวอชบนกระดาษ

ผลงานนี้อยู่ที่: Museo Nacional Thyssen-

Bornemisza
ในมาดริด ประเทศสเปน

รูปแบบงาน : รูปแบบเหมือนจริง

เดอกาเป็นศิลปินผู้โดดเด่นในยุคอิมเพรสชั่นนิสม์ ชอบเขียนภาพ

นักเต้นบัลเลต์เป็นพิเศษ ภาพนักเต้นที่มีท่วงท่าลีลาพริ้วไหว

งดงามคือหนึ่งในเอกลักษณ์ประจำตัวของเดอกา ความสามารถ

ในการวาดภาพ และเกิดการเคลื่อนไหวในภาพวาดเป็นจุดเด่น

ในการทำงานของเขา รวมถึงความเหมือนจริงในเรื่องโครงร่าง

และสัดส่วนของคนในงานของเขา แต่การนำเสนอสีของเดอกา

เน้นการใช้สีที่สดใส "พราว" โดยมุ่งเน้นไปที่เอฟเฟกต์ของแสง

เป็นหลัก อีกทั้งการจะทำให้ฉากมีความเคลื่อนไหว ฉับไว เป็น

รูปแบบที่เบลอและสีสดใส อาจกล่าวได้ว่า เป็นภาพหน้าชัดหลัง

เบลอแบบภาพถ่าย ที่ถ่ายจังหวะ ท่วงท่าต่าง ๆ ในชีวิตประจำ


วันออกมาเป
็นภาพวาด

ลองสังเกตสีในภาพนี้

Frida Kahlo

Untitled (Self-portrait with thorn


necklace and hummingbird)

ผลงานของ: ฟริดา กาโล
(Frida Kahlo)

ปีที่สร้าง: ค.ศ.1940
ทำมาจาก: สีน้ำมันบนผ้าใบ

ผลงานนี้อยู่ที่: Harry Ransom Center
ในออสติน สหรัฐอเมริกา

รูปแบบงาน : รูปแบบกึ่งเหมือนจริง

คาห์โลจะโดดเด่นด้วยเอกลักษณ์การวาดภาพเหมือน (self-

portrait) และภาพสัญลักษณ์มาแสดงตัวตนของเธอ ลงานของ

ฟรีดา คาห์โลก็ดูเหมือนจะไปตรงกับแนวคิวแบบเซอร์เรียลลิสม์

มากกว่า เพราะการนำภาพสัญลักษณ์และวัตถุที่ต่างกันโดยสิ้น

เชิงมาใส่ไว้ในภาพเดียวของเธอสามารถทำให้เกิดการตีความ

มากมายจากจินตนาการของผู้ชม รวมไปถึงการวาดภาพเหนือ

ความจริงมาสื่อถึงความเจ็บปวดภายในจิตใจของเธอ “ฉันมุ่ง

มั่นกับการทำงานแนว Self-Portrait (วาดรูปตนเอง) เพราะว่า

ฉันอยู่คนเดียวอยู่เสมอ ดังนั้น ฉันจึงรู้จักตนเองดีที่สุดในโลก”
นี่คือที่มาของฉายาของ Frida Kahlo ศิลปินหญิง ที่เสกสรรปั้ น


แต่งผลงาน
ในแนวภาพเหมือนตนเอง โดยนำองค์ประกอบอื่น ๆ


มาเสริมเติมแต่งตามจินตนาการ เช่นสัตว์หรือสิ่งของต่าง ๆ

ลองสังเกตสีในภาพนี้

Frida Kahlo

The Two Fridas
ผลงานของ: ฟริดา กาโล
(Frida Kahlo)

ปีที่สร้าง: ค.ศ.1940
ทำมาจาก: สีน้ำมันบนผ้าใบ
ผลงานนี้อยู่ที่: Harry Ransom Center

ในออสติน สหรัฐอเมริกา

รูปแบบงาน : รูปแบบกึ่งเหมือนจริง

ภาพวาดฟรีดาสองคน ที่มีเบื้องหลังอันแสนรวดร้าวเล่าถึงเรื่อง

ราวการหย่าร้าง และแยกจากกันของเธอ และสามี ดิเอโก ริเว

อรา ในปี 1939 หลังจากที่ทนความเจ้าชู้ของเขาไม่ไหว โดยภาพ
นี้สื่อให้เห็นตัวตนที่ขัดแย้งของเธอ ฟรีดาคนหนึ่งสวมเสื้อผ้า

แบบสากล ส่วนอีกคนสวมเสื้อผ้าพื้นเมืองแบบที่ดิเอโกชอบ โดย

เราสามารถเห็นหัวใจของฟรีดาทั้งสองได้อย่างชัดเจน ผลงานนี้

มีชื่อเสียงอย่างมาก โดยยกย่องให้ฟรีดาเป็นหนึ่งในศิลปินเซอร์

เรียลลิสม์ หรือ ศิลปะเหนือจริง “…ฉันไม่เคยวาดภาพความฝัน”

ฟรีดาเอ่ยถึงแนวคิดการสร้างสรรค์งานของกลุ่มเซอร์เรียลลิสม์

ที่อ้างอิงจากความฝันและจิตใต้สำนึก“ฉันวาดภาพความเป็น


จริงของตัวเ
อง” เธอกล่าว ภาพของเธอจึงเต็มเปี่ ยมไปด้วย


‘ชีวิต’

ลองสังเกตสีในภาพนี้

Keith Haring

Poster for Nuclear Disarmament
ผลงานของ: คีธ แฮริ่ง (K
eith Haring)

ปีที่สร้าง: ค.ศ.1982

ทำมาจาก: ปากกาดำบนกระดาษ
ผลงานนี้อยู่ที่: Nakamura Keith Haring


Collection
ในโฮคุโตะ ประเทศญี่ปุ่น

รูปแบบงาน : รูปแบบตามความรู้สึก

ผลงานป๊อปอาร์ตสไตล์กราฟฟิตี้ ที่เติบโตจากวัฒนธรรมบน

ท้องถนนของนิวยอร์กในช่วงยุค 1980s ด้วยการใช้เทคนิควาด

ภาพบนท้องถนนอย่างกราฟฟิตี้ และภาพวาดฝาผนังกำแพง

ด้วยสีสันที่สดใสจนสามารถดึงดูดสายตาและสร้างความ

เพลิดเพลินเจริญใจให้กับผู้ชม ด้วยการนำเสนอประเด็นทางเพศ

ที่พัฒนาไปสู่ประเด็นทางสังคมการเมือง ทั้งแนวคิดเรื่องการ

เกิด ความตาย ความรัก เซ็กซ์ และสงคราม ด้วยเส้นสายอัน

เรียบง่าย และการสื่อสารอย่างตรงไปตรงมา ทำให้เขาสามารถ
ดึงดูดผู้ชมในวงกว้าง และสามารถสื่อสารประเด็นต่างๆ ผ่าน

ภาพวาดได้อย่างทรงพลัง ผลงานชิ้นนี้แฮริ่งเลือกนำเสนอด้วย


ลายเส้นขา
วดำหนา รูปตัวการ์ตูนที่วาดด้วยลายเส้นง่ายๆ ไม่ซับ


ซ้อน

ลองสังเกตสีในภาพนี้

Keith Haring

Untitled (Fertility)

ผลงานของ: คีธ แฮริ่ง (K
eith Haring)

ปีที่สร้าง: ค.ศ.1983
ทำมาจาก: วาดภาพบนกำแพง

ผลงานนี้อยู่ที่: Nakamura Keith Haring

Collection
ในโฮคุโตะ ประเทศญี่ปุ่น

รูปแบบงาน : รูปแบบตามความรู้สึก

ผลงานของแฮริ่งจะออกเป็นลายเส้นการ์ตูนที่เข้าใจง่าย มีสีสัน

ไม่ซับซ้อน และสะดุดตา ถูกจำกัดความอยู่ในศิลปะแบบ Pop

Art (ป๊อปอาร์ต)เขาจะวาดโดยใช้เส้นโค้งมน สีสันสดใส ตัวคน

กระโดดโลดเต้น ท่าทางมีความสุข คนเหล่านั้นไม่มีหน้าตา ไม่มี

เพศ ไม่มีอายุ ไม่มีเชื้อชาติ เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นอันหนึ่ง

อันเดียวกันของมวลมนุษยชาติ ผลงานรูปตัวการ์ตูนที่วาดด้วย

ลายเส้นง่ายๆ ไม่ซับซ้อน ใช้สีสดใสไม่ว่าจะ เหลือง แดง น้ำเงิน

เขียว ส้ม ตัดด้วยลายเส้นหนาๆ สีดำ ผลงานหลายชิ้นของแฮริ่ง

สื่อให้เห็นถึงความรักแบบตรงๆ นั่นคือการวาดรูปหัวใจ รูปคน

อะไรต่างๆ ที่เข้าใจง่าย การต่อยอดผลงานตัวเองที่ไม่ได้แค่ทำ


บนกระดาษ
หรือฝาผนัง แต่ได้ประยุกต์ผลงานตัวเองในแบบ


ต่างๆ ร่วมงานกับแบรนด์สินค้าดังๆ มากมาย

ลองสังเกตสีในภาพนี้

Jackson Pollock

Convergence
ผลงานของ: แจ็กสัน พอล
ล็อก (Jackson Pollock)

ปีที่สร้าง: ค.ศ.1952
ทำมาจาก: สีอะครืลิคบนผ้าใบ

ผลงานนี้อยู่ที่: Albright-Knox Art Gallery
ในบัฟฟาโล สหรัฐอเมริกา

รูปแบบงาน : รูปแบบตามความรู้สึก

ศิลปินที่ใช้แนวทางการสาดสีในการทำงานอย่างโดดเด่นเป็น

เอกจนเรียกได้ว่าเป็น “ตัวพ่อแห่งการสาดสีในโลกศิลปะ” เป็น

กระแสเคลื่อนไหวทางศิลปะ แอ็บสแตรกต์เอ็กซ์เพรสชั่นนิสต์

(Abstract Expressionism) ผลงานของพอลล็อคมุ่งเน้นในการ

แสดงออกซึ่งการทำงานอย่างฉับพลันจากจิตไร้สำนึกถ่ายทอด

ออกมาเป็นผลงานศิลปะล้ำจินตนาการ ที่ไร้เรื่องราว เหตุผล

และตรรกะรองรับ เป็นการแสดงออกของอารมณ์ความรู้สึกผ่าน

การทำงานศิลปะที่ไม่ยึดติดกับความเป็นจริง และเน้นการ

สำแดงความเคลื่อนไหวแบบฉับพลันและรุนแรงตาม

สัญชาตญาณของศิลปะเอ็กซ์เพรสชั่นนิสต์(Expressionism)


ด้วยการวา
งผืนผ้าใบลงบนพื้น แล้วเยื้องย่างร่างกายไปรอบๆ


และหยด, สะบัด, ตวัด, สาด, เท สีลงบนผืนผ้าใบ

ลองสังเกตสีในภาพนี้

Jackson Pollock

Watery Paths (Sentieri ondulati)
ผลงานของ: แจ็กสัน พอล
ล็อก (Jackson Pollock)

ปีที่สร้าง: ค.ศ.1947

ทำมาจาก: สีอะครืลิคบนผ้าใบ

ผลงานนี้อยู่ที่: La Galleria Nazionale
ในโรม ประเทศอิตาลี่

รูปแบบงาน : รูปแบบตามความรู้สึก

ศิลปินที่ใช้แนวทางการสาดสีในการทำงานอย่างโดดเด่นเป็น

เอกจนเรียกได้ว่าเป็น “ตัวพ่อแห่งการสาดสีในโลกศิลปะ” เป็น

กระแสเคลื่อนไหวทางศิลปะ แอ็บสแตรกต์เอ็กซ์เพรสชั่นนิสต์

(Abstract Expressionism) ผลงานของพอลล็อคมุ่งเน้นในการ

แสดงออกซึ่งการทำงานอย่างฉับพลันจากจิตไร้สำนึกถ่ายทอด

ออกมาเป็นผลงานศิลปะล้ำจินตนาการ ที่ไร้เรื่องราว เหตุผล

และตรรกะรองรับ เป็นการแสดงออกของอารมณ์ความรู้สึกผ่าน

การทำงานศิลปะที่ไม่ยึดติดกับความเป็นจริง และเน้นการ

สำแดงความเคลื่อนไหวแบบฉับพลันและรุนแรงตาม

สัญชาตญาณของศิลปะเอ็กซ์เพรสชั่นนิสต์(Expressionism)


ด้วยการวา
งผืนผ้าใบลงบนพื้น แล้วเยื้องย่างร่างกายไปรอบๆ


และหยด, สะบัด, ตวัด, สาด, เท สีลงบนผืนผ้าใบ

ลองสังเกตสีในภาพนี้

Piet Mondrian

Composition with Red, Yellow, and Blue



ผลงานของ: พีต มองเดรียน (Piet Mondrian)

ปีที่สร้าง: ค.ศ.1935-1942

ทำมาจาก: สีน้ำมัน
ผลงานนี้อยู่ที่: British Fashion Council

ในลอนดอน ประเทศอังกฤษ

รูปแบบงาน : รูปแบบตามความรู้สึก

มองเดรียนตั้งกลุ่มเคลื่อนไหวทางศิลปะที่นำเสนอแนวคิดใหม่

เกี่ยวกับงานศิลปะนามธรรม รูปแบบการทำงานศิลปะนามธรรม

ด้วยการใช้เส้นแนวตั้งและแนวนอน และรูปทรงเรขาคณิตง่ายๆ

อย่างสี่เหลี่ยมจัตุรัส สี่เหลี่ยมผืนผ้า และแม่สีพื้นฐานไม่กี่สี เช่น

เหลือง น้ำเงิน แดง หรือเทา ดำ และเส้นตัดสีดำบนพื้นสีขาว
ซึ่งแนวทางนี้ได้รับอิทธิพลจากแนวคิดของลัทธิคิวบิสม์ แต่ละทิ้ง

รูปทรงและเรื่องราวออกไป และสร้างงานขึ้นจากจินตนาการ

ความคิดฝันของตัวศิลปินเองโดยไม่อ้างอิงจากธรรมชาติ มุ่ง

เน้นในการนำเสนอความงามของความสัมพันธ์ของเส้นสาย

สีสัน และองค์ประกอบของภาพแทน

ลองสัง
เกตสีในภาพนี้

Piet Mondrian

Composition in colour A
ผลงานของ: พีต มองเดรี
ยน (Piet Mondrian)

ปีที่สร้าง: ค.ศ.1917
ทำมาจาก: สีน้ำมันบนผ้าใบ

ผลงานนี้อยู่ที่: The Kröller-Müller Museum
ประเทศเนเธอร์แลนด์

รูปแบบงาน : รูปแบบตามความรู้สึก

ภาพนี้มีการใช้เส้นแนวตั้งและแนวนอน และรูปทรงเรขาคณิต

ง่ายๆ อย่างสี่เหลี่ยมจัตุรัส สี่เหลี่ยมผืนผ้า และแม่สีพื้นฐานไม่กี่สี

เช่น เหลือง น้ำเงิน แดง หรือเทา ดำ และเส้นตัดสีดำบนพื้นสี

ขาวได้รับอิทธิพลจากแนวคิดของลัทธิคิวบิสม์ แต่ละทิ้งรูปทรง

และเรื่องราวออกไป และสร้างงานขึ้นจากจินตนาการความคิด

ฝันของตัวศิลปินเองโดยไม่อ้างอิงจากธรรมชาติ มุ่งเน้นใน

การนำเสนอความงามของความสัมพันธ์ของเส้นสาย สีสัน และ

องค์ประกอบของภาพแทน มองเดรียนเชื่อว่าศิลปะจำต้องมี

ความเป็นอิสระจากการนำเสนอเรื่องราวใดๆ ก็ตาม และความ

เปลี่ยนแปลงของธรรมชาติก็สามารถลดทอนรูปแบบสู่การ


แสดงออก
ทางรูปทรงที่เรียบง่าย ชัดเจน แน่นอน และมีระเบียบ


แบบแผนเช่นเดียวกับคณิตศาสตร์

ลองสังเกตสีในภาพนี้

Andy Warhol

Flowers
ผลงานของ: แอนดี วอร์ฮ
อล (Andy Warhol)

ปีที่สร้าง: ค.ศ.1970
ทำมาจาก: สิ่งพิมพ์ซิลก์สกรีนบนกระดาษ

ผลงานนี้อยู่ที่: Pomona College Museum of

Art Claremont, สหรัฐอเมริกา

รูปแบบงาน : รูปแบบตามความรู้สึก

วอร์ฮอลมีการสร้างสรรค์เทคนิคใหม่ๆ มาใช้ในงานโฆษณา เช่น

งานภาพพิมพ์ ด้วยเทคนิคซิลก์สกรีน ภาพพิมพ์ซิลค์สกรีนซึ่งมี

กระบวนการทำงานแบบเดียวกับงานอุตสาหกรรม ที่ทำให้เขา

สามารถผลิตผลงานได้คราวละมากๆ อีกทั้งยังช่วยลดทอนรูป

ทรงและรายละเอียดของภาพที่เขานำเสนอให้เหลือแต่ความ

เรียบง่ายและลักษณะที่คนจดจำได้ง่าย จนกลายเป็นเอกลักษณ์

อันโดดเด่นของเขาในเวลาต่อมา เขาหันมาหยิบของรอบๆ ตัวที่

คุ้นตาคนทั่วๆ ไป อย่าง กระป๋องซุป ขวดโคคาโคล่า มาถ่ายทอด

ลงบนผืนผ้าใบหรือพิมพ์ลงบนรูปทรงสามมิติอย่างกล่อง ภาพนี้

คือ ภาพพิมพ์ซิลค์สกรีนรูปดอกไม้จากมุมมองด้านบนอันเรียบ


ง่ายแต่สีสัน
ฉูดฉาดสดใส

ลองสังเกตสีในภาพนี้

Andy Warhol

Campbell's Soup I
ผลงานของ: แอนดี วอร์ฮ
อล (Andy Warhol)

ปีที่สร้าง: ค.ศ.1968
ทำมาจาก: สิ่งพิมพ์ซิลก์สกรีนบนกระดาษ

ผลงานนี้อยู่ที่: Museum Folkwang
ประเทศเยอรมนี

รูปแบบงาน : รูปแบบเหมือนจริง

วอร์ฮอลมีการสร้างสรรค์เทคนิคใหม่ๆ มาใช้ในงานโฆษณา เช่น

งานภาพพิมพ์ ด้วยเทคนิคซิลก์สกรีน ภาพพิมพ์ซิลค์สกรีนซึ่งมี

กระบวนการทำงานแบบเดียวกับงานอุตสาหกรรม ที่ทำให้เขา

สามารถผลิตผลงานได้คราวละมากๆ อีกทั้งยังช่วยลดทอนรูป

ทรงและรายละเอียดของภาพที่เขานำเสนอให้เหลือแต่ความ

เรียบง่ายและลักษณะที่คนจดจำได้ง่าย จนกลายเป็นเอกลักษณ์

อันโดดเด่นของเขาในเวลาต่อมา เขาหันมาหยิบของรอบๆ ตัวที่

คุ้นตาคนทั่วๆ ไป อย่าง กระป๋องซุป ขวดโคคาโคล่า มาถ่ายทอด

ลงบนผืนผ้าใบหรือพิมพ์ลงบนรูปทรงสามมิติอย่างกล่อง ภาพนี้

คือ ภาพพิมพ์ซิลค์สกรีนรูปกระป๋องซุปแคมเบลล์ที่เขาเคยเห็น


เป็นประจำ
ยังติดตาตรึงใจจนเขาต้องถ่ายทอดลงบนผืนผ้าใบ

ลองสังเกตสีในภาพนี้

Georgia O'Keeffe

Petunia No. 2
ผลงานของ: จอร์เจีย โอค
ีฟ (Georgia O'Keeffe)

ปีที่สร้าง: ค.ศ.1924
ทำมาจาก: สีน้ำมันบนผ้าใบ
ผลงานนี้อยู่ที่: Georgia O'Keeffe Museum

ประเทศสหรัฐอเมริกา

รูปแบบงาน : รูปแบบตามความรู้สึก

ความโดดเด่นที่เรียกได้ว่าเป็นเอกลักษณ์ของโอคีฟ คือการวาด

ภาพระยะใกล้ ซึ่งสามารถมองเห็นรายละเอียดของสิ่งที่ถูดวาด

ได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นภาพวิวทิวทัศน์ ซากกะโหลกสัตว์

ผลไม้ และท้องฟ้า โอคีฟเลือกวาดภาพจากความประทับใจใน

ดอกไม้ และการได้รับแรงบันดาลใจสรรสร้างงานศิลป์จากเหล่า

ธรรมชาติ ภาพนี้เป็นภาพของดอกไม้ระยะใกล้ เป็นภาพที่

สวยงามแปลกตาคล้ายกับภาพจากจินตนาการ และการใช้สี

แบบกลมกลืนกัน โดยใช้เทคนิคเกลี่ยสีให้มีน้ำหนักไล่จากเข้มไป

อ่อน โทนสีม่วง และสีเขียวได้อย่างลงตัวสวยงาม



ลองสังเกตสีในภาพนี้

Georgia O'Keeffe

Cow's Skull with Calico Roses

ผลงานของ: จอร์เจีย โอค
ีฟ (Georgia O'Keeffe)

ปีที่สร้าง: ค.ศ.1931
ทำมาจาก: สีน้ำมันบนผ้าใบ

ผลงานนี้อยู่ที่: The Art Institute of Chicago
ประเทศสหรัฐอเมริกา

รูปแบบงาน : รูปแบบตามความรู้สึก

โอคีฟสร้างผลงานภาพเขียนแนวใหม่ที่มีกระดูกศีรษะและเขา

ของสัตว์เป็นองค์ประกอบหลัก มีภาพดอกไม้เข้ามาช่วยเพิ่มสีสัน
ความสดใส โดยมีพื้นหลังที่แตกต่างหลากหลายรวมทั้งทิวทัศน์
ของดินแดนแถบเม็กซิโก ภาพเขียนกระดูกสัตว์กลายเป็น

เอกลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของเธอ โอคีฟใช้เทคนิคผสมผสานสีสัน

รูปทรง และความรู้สึกถ่ายทอดความสวยงามของธรรมชาติออก

มาในหลากหลายรูปแบบทั้งเหมือนจริงและนามธรรม บางครั้งก็

ผสมผสานทั้งสองสิ่งเข้าด้วยกันอย่างลงตัว โอคีฟถือเป็นศิลปิน

หญิงสมัยใหม่ชาวอเมริกันซึ่งมีภาพวาดกึ่งนามธรรมที่โดดเด่น

นอกจากนี้ผลงานของเธอยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับศิลปินหญิง


จำนวนมาก
ทั่วโลก
ลองสังเกตสีในภาพนี้

Giorgio de Chirico

Solitary Orpheus
ผลงานของ: จอร์จิโอ เดอ ค
ิริโก (Giorgio de Chirico)

ปีที่สร้าง: ค.ศ.1973
ทำมาจาก: สีน้ำมันบนผ้าใบ

ผลงานนี้อยู่ที่: Museo Carlo Bilotti
ในโรม ประเทศอิตาลี่

รูปแบบงาน : รูปแบบตามความรู้สึก

คิริโกเป็นศิลปินแนวเซอร์เรียลลิสม์
ภาพนี้แสดงให้เห็นรูปร่างของคนที่ไร้ใบหน้า โดยร่างกายของ

เขาประกอบไปด้วยรูปร่างเรขาคณิตที่มีลักษณะคล้ายตึกและอา

คารทางสถาปัยกรรม ในหลากหลายสีสัน และองค์ประกอบ จุด

เส้น เส้นตรง เส้นโค้ง สี่เหลี่ยม สามเหลี่ยม ซ้อนทับกันไปมา มี

ลักษณะในการแสดงออกทางศิลปะตามจินตนาการ ในด้าน

เทคนิค รวมไปถึงกรรมวิธีต่างๆ แนวคิดของผลงานนั้นเกิดจาก

การที่ไม่มีกฎเกณฑ์ ไม่มีหลักเหตุผลและการจำกัดรูปแบบ หรือ

ที่เข้าใจกันง่ายๆคือศิลปะที่มาจากความฝัน หรือจิตใต้สำนึกที่

ถูกเก็บกดไว้ ผสมผสานรวมกับความจริงของโลกภายนอก โดย


เป็นความต
้องการแสดงออกความรู้สึกนึกคิดออกมาอย่างเสรี
ลองสังเกตสีในภาพนี้

Giorgio de Chirico

The solitary archaeologist
ผลงานของ: จอร์จิโอ เดอ ค
ิริโก (Giorgio de Chirico)

ปีที่สร้าง: ค.ศ.1937
ทำมาจาก: สีน้ำมันบนผ้าใบ

ผลงานนี้อยู่ที่: Museo Carlo Bilotti
ในโรม ประเทศอิตาลี่

รูปแบบงาน : รูปแบบตามความรู้สึก

คิริโกเป็นศิลปินแนวเซอร์เรียลลิสม์
ภาพนี้แสดงให้เห็นรูปร่างของคนที่ไร้ใบหน้า โดยร่างกายของ

เขาประกอบไปด้วยรูปร่างเรขาคณิตที่มีลักษณะคล้ายตึกและอา

คารทางสถาปัยกรรม ในหลากหลายสีสัน และองค์ประกอบ จุด

เส้น เส้นตรง เส้นโค้ง สี่เหลี่ยม สามเหลี่ยม ซ้อนทับกันไปมา มี

ลักษณะในการแสดงออกทางศิลปะตามจินตนาการ ในด้าน

เทคนิค รวมไปถึงกรรมวิธีต่างๆ แนวคิดของผลงานนั้นเกิดจาก

การที่ไม่มีกฎเกณฑ์ ไม่มีหลักเหตุผลและการจำกัดรูปแบบ หรือ

ที่เข้าใจกันง่ายๆคือศิลปะที่มาจากความฝัน การใช้สีในภาพนี้

เป็นการไล่น้ำหนักสี ด้วยสีโทนน้ำตาลสีเดียว ใช้น้ำหนักสีให้เกิด


แสงเงาที่ส
วยงาม เหมือนจริง

ลองสังเกตสีในภาพนี้

Edvard Munch

The Scream
ผลงานของ: เอ็ดวัด มุงก์ (E
dvard Munch)

ปีที่สร้าง: ค.ศ.1910
ทำมาจาก: สีน้ำมันบนผ้าใบ

ผลงานนี้อยู่ที่: The Munch Museum
ในออสโล ประเทศนอร์เวย์

รูปแบบงาน : รูปแบบตามความรู้สึก

มุงก์เป็นศิลปินคนสำคัญแห่งลัทธิแสดงพลังอารมณ์

(Expressionism) และลัทธิสัญลักษณ์นิยม (Symbolism) ผล

งานของมุงก์โดดเด่นด้วยการนำเสนอภาพความหวาดกลัวและ

ความทุกข์ระทมของมนุษย์เราได้อย่างตราตรึงใจ ภาพนี้เป็น

เหตุการณ์ที่เขาพบเจอแบบทันทีทันใดที่เมืองออสโล ขณะที่เขา

กำลังเดินไปตามถนนพร้อมกับเพื่อนสองคนในยามพระอาทิตย์

ตกดิน ทันใดนั้นท้องฟ้าก็เปลี่ยนเป็นสีแดงเลือด เขาหยุดและ

เอนกายพิงรั้วด้วยความรู้สึกเหนื่อยหมดเรี่ยวแรง จากนั้นเขา

ก็ได้ยินเสียงกรีดร้องดังสนั่นแบบไม่มีที่สิ้นสุดของธรรมชาติบาด

ลึกลงไปถึงจิตวิญญาณจนกลายเป็นแรงบันดาลใจให้เขาเขียน


ภาพนี้


ลองสังเกตสีในภาพนี้

Edvard Munch

Vampire
ผลงานของ: เอ็ดวัด มุงก์ (E
dvard Munch)

ปีที่สร้าง: ค.ศ.1895
ทำมาจาก: สีน้ำมันบนผ้าใบ

ผลงานนี้อยู่ที่: The Munch Museum
ในออสโล ประเทศนอร์เวย์

รูปแบบงาน : รูปแบบตามความรู้สึก

มุงก์เป็นศิลปินคนสำคัญแห่งลัทธิแสดงพลังอารมณ์

(Expressionism) และลัทธิสัญลักษณ์นิยม (Symbolism) ผล

งานของมุงก์โดดเด่นด้วยการนำเสนอภาพความหวาดกลัวและ

ความทุกข์ระทมของมนุษย์เราได้อย่างตราตรึงใจ มุงก์เขียน

ภาพเป็นบทกวีเกี่ยวกับชีวิต ความรัก และความตาย แสดง

อารมณ์และความรู้สึกต่างๆของมนุษย์ เช่น ความรัก, ความวิตก

กังวล, การนอกใจ, ความหึงหวง, การพลัดพราก, ความปวด

ร้าว, ความกลัว, ความตาย ฯลฯ ผ่านลายเส้นและสีสันในสไตล์

เฉพาะตัวที่ส่งพลังอารมณ์ความรู้สึกออกมา ภาพนี้เป็นภาพของ

หญิงสาวผมแดงผู้กำลังฝังริมฝีปากลงไปบนซอกคอของชาย


หนุ่มคู่รักผู้
ดูเศร้าสลด จุดเด่นของภาพเป็นเรื่องของการใช้สี


และการจัดวางภาพที่แสดงออกถึงความเศร้าสลด

ลองสังเกตสีในภาพนี้