การศกึ ษาปญั หาความรกั ในวยั เรยี น ของนกั เรยี นชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 5
หอ้ งสายภาษาองั กฤษ-จีนโรงเรยี นภเู กต็ วิทยาลยั
จดั ทาโดย
นาย ธธี ชั เหล่าวิเศษกุล ม.5/12 เลขท่3ี
นาย ปรเมศวร์ บุญตันตราภิวัฒน์ ม.5/12 เลขท6่ี
นางสาว กชกร ทองอ่อน ม.5/12 เลขท1่ี 8
นางสาว อทติ ยา แซห่ ลี ม.5/12 เลขท3่ี 1
เสนอ
ครู ธนั ญากรณ์ เพ็งพศิ
กลุม่ สาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์โครงงานวิจยั IS I32202
โรงเรียนภเู ก็ตวทิ ยาลยั
บทคัดยอ่
ช่อื เรอ่ื ง : ความรกั ในวัยเรียน
ชอ่ื ผู้จดั ทา : นาย ธธี ัช เหลา่ วิเศษกลุ ม.5/12 เลขท3ี่
นาย ปรเมศวร์ บญุ ตันตราภวิ ัฒน์ ม.5/12 เลขที6่
นางสาว กชกร ทองออ่ น ม.5/12 เลขท1่ี 8
นางสาว อทิตยา แซ่หลี ม.5/12 เลขท3่ี 1
ปกี ารศึกษา : 2564
การศึกษาค้นควา้ เรอ่ื งนี้มีวตั ถปุ ระสงค์เพื่อใหค้ วามรู้เรือ่ งความรักในวัยเรยี นของนักเรยี นโรงเรยี นภูเกต็
วทิ ยาลัย ปีการศกึ ษา 2564 จานวน 15 คน โดยเปน็ นักเรยี นช้นั มธั ยมปลายทง้ั หมดการเก็บขอ้ มลู เครอ่ื งมอื ทีใ่ ช้ใน
การสอบถามคอื แบบสอบถามประเมนิ ค่า 5 ระดับ ผู้วจิ ยั ได้ใชเ้ คร่ืองคดิ เลขในการหาค่าเฉลี่ย ผลการศกึ ษาพบวา่
นกั เรยี นสว่ นใหญ่มสี ถานะ โสด นกั เรยี นสว่ นใหญไ่ ดร้ ับกาลังใจและการชว่ ยเหลอื ทางดา้ นการเรยี นจากคนรกั ใน
ระดบั ปานกลางทาใหพ้ บว่าการมีความรักไม่ได้มขี อ้ เสียเพยี งอย่างเดียว แตค่ วามรกั ยังมีข้อดอี ย่างเดียว เช่นกัน
ดงั นัน้ เราควรท่ีจะรักให้เปน็ รกั อยา่ งมขี อบเขตและพจิ ารณา
ข
กิตติกรรมประกาศ
งานวจิ ยั เรือ่ งความรกั ในวัยเรยี นไดร้ ับการบริการจากโรงเรียนภเู กต็ วิทยาลัยท้งั ในดา้ นสถานทีแ่ ละบคุ ลากร
ตา่ งๆ ทาให้โครงงงานไดส้ าเร็จลว่ งไปดว้ ยความเรยี บร้อย ไดร้ ับความช่วยเหลือการประมวลผลโดยใช้ โปรแกรม
คอมพวิ เตอร์ โดยมคี ุณครูท่ปี รึกษาและใหค้ วามชว่ ยเหลอื ในโครงงานนีค้ อื คุณครู ธันญากรณ์ เพ็งพิศ สดุ ท้ายนห้ี วงั
ผลของการวจิ ยั ครั้งนจี้ ะมปี ระโยชน์ต่อเด็กนักเรยี นให้ดยี ่งิ ขนึ้ ต่อไป
คณะผู้ทาวิจยั
พฤศจกิ ายน 2564
ก
คำนำ
รายงานฉบับนี้เป็นส่วนหน่ึงของรายวชิ าวทิ ยาศาสตร์โครงงานวิจยั IS I32202 เป็นโครงงานศึกษาเรอ่ื ง
ความรกั ในวัยเรียน เพือ่ รณรงคแ์ ละใหค้ วามร้เู ร่อื งความรกั ในวยั เรียนแกผ่ ้ทู ีต่ อ้ งการศกึ ษาหรือหาความรู้นาไป
อ้างอิงตา่ งๆ
กล่มุ เราหวังวา่ รายงานฉบบั นี้จะเป็นประโยชนแ์ กผ่ ู้อา่ นไม่มากกน็ ้อยหากมขี อ้ ผิดพลาดประการใดทัง้ กล่มุ
ของข้าพเจา้ ขอน้อมรับและขออภยั ไว้ ณ ท่ีนี้ดว้ ย
คณะผู้จัดทา
1
สำรบญั
สารบัญ หนา้
กติ ติกรรมประกาศ ก
บทคดั ย่อ ข
คานา 1
สารบัญ 2
บทท่ี 1 บทนา 3-4
บทท่ี 2 ทฤษฎีและงานวจิ ัยท่เี ก่ยี วขอ้ ง 5-8
บทที่ 3 วิธกี ารดาเนนิ งาน 9-10
บทที่ 4 ผลการวิเคราะห์ข้อมูล 11-15
บทที่ 5 ผลการสารวจ 16-17
ภาคผนวก 18
บรรณานุกรม 19
2
บทท่1ี
บทนำ
ท่มี ำและควำมสำคญั
ในปัจจบุ นั สังคมน้ันไดเ้ จรญิ รุดหนา้ ไปอยา่ งมาก ทง้ั เทคโนโลยี การสื่อสารต่างๆ รวมถึงโรงเรยี นในหลาย
พน้ื ทกี่ ็เปล่ียนจากโรงเรียนชายลว้ นหรอื โรงเรยี นหญงิ ลว้ น มาเปน็ โรงเรียนเดียวกัน ทาให้ผู้ชายและผูห้ ญิงมโี อกาส
เจอกนั ไดง้ า่ ยขน้ึ ดว้ ยปจั จยั ดงั กลา่ ง จงึ นาไปสูก่ ารมีความรกั ในวยั เรียน คนส่วนมากเร่มิ มีพฤติกรรมไมส่ นใจเรยี น
กา้ วร้าว เร่ิมชักชวนกันหนเี รยี นไปทากิจกรรมอนื่ ๆ ติดยาเสพติด ความสัมพนั ธใ์ นครอบครวั ลดลงหรอื อาจเกิดการ
ต้งั ครรภโ์ ดยไม่พึงประสงค์ ทาให้ต้องหยดุ เรยี นหรอื ลาออกจากสถานศึกษา จึงทาใหข้ าดความรู้ในการประกอบ
วิชาชีพในอนาคต รวมไปถงึ ประสบการณ์ตา่ งๆในห้องเรยี นทค่ี วรจะได้
ดว้ ยเหตผุ ลข้างต้นที่กลา่ วมานัน้ ทางกลุ่มเราไดต้ ระหนักถงึ ปัญหาดงั กลา่ ว จงึ จะศึกษาว่าปัจจัยใดบา้ งทมี่ ี
อทิ ธพิ ลต่อความรัก และนาขอ้ มลู ทง้ั หมดไปหาวิธีแก้ไขไม่ใหเ้ กดิ เหตกุ ารณ์ท่ีไดพ้ รรณามาแลว้ ในความเดมิ เพอ่ื ให้
ทัง้ เพศชายและเพศหญิงที่อยู่ในกลุม่ วัยรุ่นไดร้ ูถ้ ึงประโยชน์และโทษ รจู้ กั แยะแยะวา่ สงิ่ ใดถกู ส่งิ ใดผดิ ไมม่ ากกน็ ้อย
วตั ถุประสงค์ของกำรค้นควำ้
1.เพ่ือศกึ ษาวา่ ปจั จัยใดบ้างทมี่ ีอิทธพิ ลต่อความรกั ในวัยเรียน
2.เพ่อื ประชาสัมพันธ์ ป้ายนิเทศเชิงตกั เตอื นปิดประกาศไว้ตามส่วนตา่ งๆโรงเรียน
ขอบเขตกำรศกึ ษำ
ดำ้ นเน้ือหำ
-ศึกษาว่าปัจจัยใดบ้างที่มอี ิทธิพลตอ่ ความรักในวยั เรียน
3
ด้ำนสถำนที่
-โรงเรียนระดับมธั ยมศึกษาในเขตอาเภอเมืองภเู กต็ จานวน3แหง่ อันได้แก่ โรงเรียนภูเกต็ วทิ ยาลัย โรงเรียนสตรี
ภูเกต็ โรงเรียนปลกู ปัญญาในพระราชอปุ ถมั ภ์
ด้านเวลา
-ระยะเวลา 1 ภาคเรียน (1-31 กรกฎาคม พุทธศกั ราช 2564)
ผลท่ีคำดวำ่ นำ่ จะไดร้ บั
1. คนทว่ั ไปรบั รูข้ ่าวสารเก่ยี วกบั งานสารวจครัง้ นี้
2. นกั เรยี นไดค้ วามรเู้ กย่ี วกบั ความรกั ในวยั เรยี นมาก
3. ปัญหาการหนเี รียน ยาเสพติด หรือ การตั้งครรภ์ในวัยเรยี นลดลง
นยิ ำมศัพท์
-วยั รนุ่ หมายถงึ วัยทย่ี า่ งเขา้ สวู่ ัยหนุ่มสาว, วยั ทีเ่ ขา้ สวู่ ัยแรกรนุ่ จนถึงวัยกอ่ นเข้าสู่วยั ผ้ใู หญต่ ั้งแต่อายุ 13-19 ปี
เรยี กอกี อย่างวา่ วัยกาดัด โดยแบง่ ได้ 3 ช่วงดังน้ี
1.วยั แรกรนุ่ (10-13ป)ี เป็นชว่ งทม่ี ีการเปลยี่ นแปลงทางร่างกายทุกระบบ โดยจะมคี วามคิดหมกมุน่ กงั วลเกย่ี วกับ
การเปลย่ี นแปลงทางร่างกาย ซึ่งจะส่งผลกระทบไปยังจติ ใจ ทาใหอ้ ารมณห์ งุดหงิดและแปรปรวนง่าย
2.วยั รนุ่ ตอนกลาง(14-16 ปี ) เปน็ ช่วงท่วี ัยรุ่นจะยอมรับสภาพร่างกายท่มี ีการเปลีย่ นแปลงเปน็ หนุ่มเปน็ สาวได้
แล้ว มคี วามคดิ ทีล่ กึ ซง้ึ (abstract) จึงหันมาใฝ่หาอดุ มการณ์และหาเอกลักษณข์ องตนเอง เพือ่ ความเปน็ ตัวของ
ตวั เอง และพยายามเอาชนะความรู้สึกแบบเด็กๆ ทผี่ กู พันและอยากจะพง่ึ พาพอ่ แม่
3.วัยรุ่นตอนปลาย(17-19 ป)ี เป็นเวลาของการฝกึ ฝนอาชีพ ตัดสนิ ใจท่จี ะเลือกอาชพี ที่เหมาะสม และเป็นชว่ งเวลา
ทจี่ ะมคี วามผกู พนั แน่นแฟน้ (intimacy) กับเพื่อนต่างเพศ สภาพทางรา่ งกายเปล่ียนแปลงเติบโตโดยสมบรู ณเ์ ตม็ ท่ี
และบรรลนุ ิตภิ าวะในเชงิ กฎหมาย
-มธั ยมศกึ ษา หมายถึง การศกึ ษาระหว่างช้ันประถมศึกษากบั ชั้นอุดมศกึ ษา
4
บทที่2
เอกสำรที่เกยี่ วขอ้ ง
กำรเปลี่ยนแปลงในชว่ งวยั รนุ่ (Pubertal change) ไวด้ งั น้ี
ช่วงเวลาการเข้าสวู่ ัยรุ่น (adolescent) ร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงตา่ งๆ ทเี่ ป็นสญั ญาณทีม่ องเหน็ ได้และมี
ความสาคัญ บางครง้ั อาจเรียกว่าเปน็ ชว่ งวัยเจรญิ พันธ์ุหรอื วัยหนุ่มสาว (puberty) ทง้ั นี้ ยังไม่ทราบสาเหตชุ ัดเจน
วา่ อะไรเปน็ ตัวกระตุ้นทาใหเ้ ข้าสวู่ ยั รนุ่ โดยทว่ั ไปเด็กหญิงจะเรม่ิ เข้าสวู่ ยั สาวเรว็ กวา่ เด็กชาวเข้าสวู่ ยั หนมุ่ ปจั จุบัน
พบว่าเดก็ หญงิ เริม่ มีการพัฒนาเข้าสชู่ ว่ งน้ีตั้งแต่อายุเฉลี่ย 9.3-9.9 ปี และเพศชายเร่มิ เมือ่ อายุเฉลีย่ 10.6-10.8 ปี
โดยการเปลี่ยนแปลงต่างๆ มีการเปล่ียนแปลงตา่ งๆ ทีส่ งั เกตเหน็ ไดใ้ นช่วง Puberty ดังน้ี
กำรเจรญิ เตบิ โตและพัฒนำกำรทำงรำ่ งกำย (Physical growth and development)
ในช่วงวยั รุน่ มีการเจรญิ เตบิ โตทางร่างกายอันเปน็ ผลจากฮอร์โมนตา่ งๆ โดยชว่ ง growth spurt พบวา่ เป็น
ชว่ งทว่ี ัยรนุ่ มีการเพ่ิมของสว่ นสงู มากทีส่ ดุ ในช่วงชีวิต โดยพบวา่ ความสงู ที่เพ่มิ ในชว่ งนีค้ ดิ เปน็ ร้อยละ 20 -25 ใน
สว่ นสงู ในชว่ งวัยผ้ใู หญ่ โดยเพศหญงิ เรม่ิ ที่อายุ 9 ปี และเพศชายทอ่ี ายุ 11 ปโี ดยประมาณ สดุ ทา้ ยเพศชายจะสูง
กวา่ หญิงโดยประมาณ 12-13 เซนติเมตร เนอื่ งจากการปดิ ของกระดกู ชา้ กวา่ เพศหญงิ 2 ปี อันเป็นผลจากฮอร์โมน
เพศ (sex steroids) รวมไปถงึ การเปลยี่ นแปลงอ่นื ๆ ของรา่ งกาย เชน่ สดั สว่ นของร่างกายซ่งึ มมี วลกล้ามเนือ้
(lean mass) ในสัดส่วนทีม่ ากขน้ึ ในเพศชายและลดลงในเพศหญิง การเพ่ิมขน้ึ ของมวลรวมถึงการเจริญของกระดูก
ซึ่งทาใหไ้ หลก่ วา้ งขนึ้ ในเพศชายหรอื สะโพกผายเดน่ ข้ึนในเพศหญิง เปน็ ตน้
กำรพัฒนำด้ำนเพศ (sexual development)
พัฒนาการทางเพศทตุ ยิ ภมู ทิ ี่ปกติ ควรเปน็ ตามระยะของ Tanner staging หรือ sexual maturity rating
(SMR) ซง่ึ ภายหลังการเขา้ สวู่ ัยรนุ่ แล้ว ในเพศหญงิ และเพศชายจะมกี ารเปล่ียนแปลงของลกั ษณะทางเพศเข้าสู่
Tanner stage II ในช่วงวัยรุ่นโดยสงั เขปมีดังนี้
1. เพศหญงิ เริ่มคลาไดก้ อ้ นเตา้ นมใต้ลานนม (thelarche) มีขนหวั หนา่ วทส่ี ั้นและบางในระยะ Tanner
stage II (pubarche) และมีการพัฒนาจนคล้ายคลึงกบั วยั ผู้ใหญ่ โดยมีเต้านมเจริญเตม็ ท่ี รปู รา่ งหนา้ อกเหมือนกับ
5
ผู้ใหญ่ และมขี นหัวหน่าวกระจายตัวเปน็ รูปสามเหล่ยี มควา่ (Tanner stage V) และเริ่มมีประจาเดอื นเฉลย่ี อายุ
11.2 – 12.4 ปี โดยการตั้งครรภ์มกั เกิดขึ้นในชว่ ง 1-2 ปหี ลงั มีประจาเดอื น เนอ่ื งจากในช่วงแรกยงั ไม่มกี ารตกไข่
2. เพศชาย สามารถประเมนิ การเปลีย่ นแปลงทางเพศโดยอาศัยลกั ษณะอวยั วะเพศ (genital Tanner
staging) โดยเร่ิมมีการเพิ่มปรมิ าตรของอัณฑะโดยมีประมาตรตั้งแต่ 4 มลิ ลิลิตรขึ้นไปและถุงอัณฑะมลี ักษณะบาง
ลง รอยย่นชัดเจนข้ึนในระยะ Tanner stage II จนกระท่งั มีการพัฒนาขนาดและรูปร่างของ glans penis และ
pubic hair ที่มีความหยิกเหมอื นลักษณะในผูใ้ หญเ่ พศชาย (Tanner stage V)
-(นำยแพทย์ศภุ กร ศรีแผ้ว 2559)-
คนเรำตกหลมุ รกั โดยมอี ะไรเป็นปัจจัยบ้ำง
1.ความคลา้ ยคลงึ Similarity
ความคล้ายในที่น่ีหมายรวมถงึ ความเชอ่ื วัฒนธรรม ความคิด ความชอบ การศึกษา ความชอบ รสนยิ มท่ี
คล้ายกันของคนสองคน
2.ความใกล้กัน ของเวลาและสถานที่ Propinquity
เช่นการอาศัยอยู่ทเ่ี ดียวกนั คอนโดเดียวกัน ทท่ี างานเดยี วกนั ได้มโี อกาสทากิจกรรมรว่ มกัน เชน่
อาสาสมัคร เรยี นโท อบรม สัมนาเวลาที่เหมาะเจาะ ต่างคนกาลงั มองหาใครสกั คนเหมอื นกัน อยากแต่งงาน
เหมือนกัน หนมุ่ ฝร่ังคนนงึ กาลังชอบสาวเอเชียพึง่ ไปดู My Sassy Girl มา
3.บุคลิกภาพ หน้าตา แต่งตัวโดนใจ ตรงเสปคตอนนนั้ พอดี Desirable Characteristics
4.เรารวู้ ่าใครชอบเราอยู่เรากจ็ ะสนใจหรือชอบใครง่ายขึ้น Reciprocal liking
5.การเติมเตม็ ความตอ้ งการ Filling need
ถา้ คนคนหนึ่งสามารถท่จี ะตอบสนองความต้องการของเราในขณะนัน้ ได้ เช่นในตอนน้ันเราตอ้ งการใครสัก
คนทเ่ี ปน็ เหมอื นเพื่อน เราอาจจะจะตกหลมุ รักคนท่มี ลี กั ษณะเหมือนเพ่อื นเรา อย่ดู ้วยแล้วสบายใจ หรือ ตกหลุม
รักเพือ่ นตัวเองกเ็ ป็นได้
6
6.ตกอยใู่ นสภาพแวดลอ้ มท่ีผิดปกติ อยู่ในสภาวะไม่ปกติ ทาใหเ้ กดิ การเร้าอารมณ์ Arousal / Unusualness
เช่นอย่ใู นสถานการณโ์ ดนสุนัขไล่กดั อย่างหวั ซุกหัวซนุ อยดู่ ๆี หนุม่ คนนึงก็เขา้ มาชว่ ย เรากส็ ามารถตกหลุม
รกั ได้ ซ่ึงทไ่ี ด้กลา่ วไปในบทก่อนนี้นะคะว่า สารอะดรีนาลินหล่งั จะทาใหเ้ กิดเสน่ห์ หนุม่ คนนัน้ คงเห็นอะดรีนาลีน
หลง่ั สดุ ขดี เพราะโดนสนุ ขั ไล่ เลยตกหลุมรักกันท้ังสองฝา่ ย
7.ความพรอ้ ม Readiness พรอ้ มแต่งงานมาเจอคนอยากแต่งเหมือนกนั คบกนั ไมต่ อ้ งนานมากถ้าเป้าหมายตรงกัน
เวลากไ็ ม่ใช่สาระสาคัญอีกตอ่ ไป
8.ความโดดเดี่ยว Isolation
เม่อื เราอยู่กบั ใครสกั คนตามลาพังอาจจะเกิดการตกหลมุ รกั ง่ายขึน้
9.ความลึกลบั นา่ คน้ หา คาดเดาไม่ได้ Mystery
คนลกึ ลับ อา้ ววันน้ยี ิม้ ให้ วนั นี้ทาไมไมม่ อง แบบนีย้ ิง่ ทาใหเ้ ราสงสยั วา่ ตกลงชอบเราไหม ยงั ไง เดาไม่ถกู
จะทาให้เราตกหลุมรกั คนประเพศนไ้ี ดไ้ ม่ยาก ซง่ึ ก็ไดก้ ลา่ วไว้ในบทกอ่ นหนา้ น้ไี ปแลว้ วา่ ยง่ิ ลกึ ลบั คาดเดาไมไ่ ด้ ย่งิ
ดมู เี สน่ห์นะคะ
10.การเตมิ เต็มส่ิงที่ขาดหายไปของเรา หรือความผิดพลาดในอดตี
ตวั อยา่ ง นาย A.เคยอกหักมาตลอดกบั สาวผมบลอนด์ เมอื่ มาเจอสาวผมบลอนด์มักจะตกหลมุ รกั ง่ายกวา่
สาวผมดาเน่อื งจากจิตใตส้ านึกต้องการเติมเตม็ ความล้มเหลวในอดตี ทเี่ คยผดิ หวงั กับสาวผมบลอนด์
-(จิตและศิลป์ 28 มี.ค. 2564)-
การมีความรักถือว่าเปน็ ส่งิ ท่ีดี ถา้ เราร้จู กั ท่ีจะแยกแยะวา่ อะไรควรทาและอะไรไม่ควรทา โดยเฉพาะกบั
นกั เรยี น นกั ศกึ ษา ทม่ี คี วามรกั ในวยั เรยี น การมคี วามรกั ในวยั เรยี นถือวา่ ไมผ่ ดิ แตค่ วรมใี นกรอบทด่ี ี ไมอ่ อก
นอกลูน่ อกทาง ความรกั ไมใ่ ช่แฟชั่นที่สามารถนามาเปน็ เร่อื งสนุกๆ ยงิ่ กับวัยรุ่นเห็นเพือ่ นมีแฟน อยากมแี ฟนบา้ ง
เพราะถือวา่ ใครไม่มีแฟนถือวา่ เชย ความคดิ แบบนเี้ ปน็ ความคิดที่ผดิ ๆ สาหรับบางคนความรกั เป็นเหมอื นกาลงั ใจ
ท่ีจะผลกั ดันใหส้ ามารถทีจ่ ะทาอะไรก็ได้ให้สาเร็จ เปน็ การสง่ เสรมิ กนั และกนั และช่วยกันจนสามารถฝ่าฟัน
อปุ สรรคไปพร้อมกัน แตบ่ างคนกพ็ ากันออกนอกสูน่ อกทาง จนเกดิ เปน็ ปัญหาสงั คม เชน่ การชิงสกุ กอ่ นหา่ ม
7
การต้ังครรภ์โดยไม่พร้อม เพราะคิดเพียงแคค่ วามสนุกชั่วครู่ แตผ่ ลที่ตามมานัน้ อาจมคี วามรุนแรงและสง่ ผล
กระทบกับตัวเขาเอง ครอบครวั และสงั คมอยา่ งมาก ดังนัน้ ครอบครวั ต้องมีการดูแลบุตรหลานใหด้ ี ไมค่ วรปลอ่ ย
ปละละเลย ควรให้ความรกั ความอบอุ่น พอ่ แมบ่ างคนไมม่ เี วลา จนทาใหล้ กู ต้องหนั เข้าหาแฟน เพอื่ เป็นการลบ
ปมด้อยที่พ่อแม่ไม่คอ่ ยมีเวลาให้ จนเห็นแฟนมคี วามสาคญั มากกวา่ พอ่ แม่ พอ่ แมต่ อ้ งให้ความสาคญั กับลกู ใหม้ าก
เพ่อื ไมใ่ ห้ปัญหาตา่ งๆเหลา่ นั้นเกดิ ขึ้น
-(รอฮำนี มซี ำ 21 มิถนุ ำยน 2555)-
สังคมไทยไดร้ บั วัฒนธรรมตะวันตกในเรอ่ื งการอยกู่ อ่ นการสมรส ผา่ นสอื่ ตา่ ง ๆ ทาใหว้ ยั รุ่นไทยส่วนใหญ่
เปล่ียนเจตคติเดมิ ไป ควบคกู่ บั การมคี วามเช่อื ทางสงั คม
-(อมรรตั น์ เศวตนันท,์ 2529)-
8
บทท่ี 3
วธิ ีดำเนินงำนวิจยั
การวิจยั ครั้งนี้เปน็ การวจิ ัยเชงิ สารวจ โดยมีวตั ถปุ ระสงคเ์ พ่ือศกึ ษาปจั จยั ทมี่ อี ทิ ธพิ ลต่อความรักในวยั เรียน
ของนักเรียนในโรงเรียนภูเก็ตวทิ ยาลยั โดยผจู้ ดั ทาไดด้ าเนนิ การศกึ ษาตามหัวขอ้ ตอ่ ไปนี้
1. กลุม่ ประชากรตวั อย่าง
2. เครอ่ื งในการศึกษาวจิ ยั
3. ระยะเวลาในการเก็บขอ้ มลู
4. วิธกี ารเกบ็ รวบรวมข้อมลู
5. การวเิ คราะหข์ อ้ มูล
6. ระยะเวลาในการทาวจิ ยั
1.กลุม่ ประชำกร
-นกั เรยี นภเู กต็ วทิ ยาลยั จานวน 16 คน
-นกั เรยี นมธั ยมตอนปลาย 16 คน
2.เครือ่ งมือในกำรศกึ ษำวิจยั
เครอื่ งมอื ในการศกึ ษาวจิ ยั คอื แบบสอบถามออนไลน์ อยใู่ นรปู แบบของ Google From สง่ ผ่านระบบ
QR Code โดยแบง่ เป็น 2 ตอนดงั นี้
ตอนท่ี 1 : ขอ้ มลู ทั่วไป
ตอนท่ี 2 : ความพงึ พอใจเรอื่ งความรกั ในวัยเรยี น
9
3.ระยะเวลำในกำรเกบ็ ข้อมลู
ระยะเวลาวนั ที่ 1-31กรกฎาคม พ.ศ.2564 ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศึกษา 2564
4.วธิ กี ำรเกบ็ รวบรวมข้อมูล
ประเมนิ ระดับความพึงพอใจของนักเรียน
5.กำรวเิ ครำะหข์ ้อมลู
ใชก้ ารวิเคราะห์ข้อมูลความพึงพอใจของนักเรยี นโรงเรยี นภูเกต็ วทิ ยาลยั โดยตรวจขอ้ มูลที่ไดม้ าและใช้
เครอื่ งคิดเลขหาคา่ รอ้ ยละความพึงพอใจของนกั เรียน โดยพจิ ารณาจาก
5.1 ตรวจสอบความถูกต้องของขอ้ มูล
5.2 นาขอ้ มลู มาจากแบบสอบถามออนไลน์ใน Google From
6.ระยะเวลำทำกำรวิจัย
ปีการศกึ ษา 2564
10
บทท่ี4
ผลกำรวเิ ครำะห์ข้อมูล
จากการสารวจเรอ่ื งการมคี วามรักในวัยเรียน โดยมีจดุ ประสงคค์ ือ ปจั จยั ใดบ้างมีอิทธิพลตอ่ ความรักในวัย
เรียน โดยมที ั่วไป ขอ้ มูลความพึงพอใจ โดยมขี่ องเขตการสารวจคือ นกั เรยี นมธั ยมศกี ษาตอนตน้ จานวน 50 ของคน
นกั เรยี นมธั ยมปลายจานวน 50 คน ของโรงเรยี นภเู กต็ วทิ ยาลยั ดงั น้ี
มัธยมศึกษำตอนต้น
เพศ ชาย หญงิ (63%) อน่ื ๆ
(25%) (13%)
อายุ 13-15 16-18
88% 12%
รายการ ระดับความพงึ พอใจ
5 4321
1.คุณยอมโดดเรียนเพือ่ ไปหาคนรกั 0 2 0 1 13
(0%) (13%) (0%) (6%) (81%)
2.คณุ มีความรกั จนไม่สนใจการเรยี น 0 1 2 2 11
(0%) (6%) (13%) (13%) (69%)
3.คุณมกี าลังใจในการเรียนเมอื่ มีความรกั 1 3561
(6%) (19%) (31%) (38%) (6%)
4.คณุ ได้รบั การช่วยเหลือในดา้ นตา่ งๆจากคนรัก 1 2832
(6%) (13%) (50%) (19%) (13%)
5.คณุ คิดวา่ คนท่ไี มม่ แี ฟนเชย 11 4 1 0 0
(69%) (25%) (6%) (0%) (0%)
11
6.คุณมกั ใช้เงนิ ส่วนใหญ่ซ้อื ของใหค้ นรัก 7 2340
7.คุณเขา้ ใจความรกั (44%) (13%) (19%) (25%) (0%)
8.คุณใช้เวลารว่ มกบั ครอบครัวใน1สัปดาห์
9.คุณให้คนรักลอกขอ้ สอบหรือการบ้าน 4 4521
(25%) (25%) (31%) (13%) (6%)
10. เม่ือคุณมีปัญหาคุณเลือกที่จะปรึกษาใคร
1 1374
8 (6%) (6%) (19%) (44%) (25%)
7 0 0349
6 (0%) (0%) (19%) (25%) (56%)
5
4 เปอรเ์ซนต ์
3
2
1
0
12
11.คุณมีส่วนเกี่ยวข้อกับยาเสพติดหรือไม่ ไม่
ใช่ 100%
0%
ไม่เคย
12.คุณเคยอกหักหรือผิดหวงั กับความรักไหม 12.5
เคย
87.5%
13.จากข้อ12.หากคุณผิดหวงั กับความรัก สิ่งใดที่ช่วยบรรเทาจิตใจคุณได้คาตอบ 16 ข้อ โดยได้คาตอบมาดังน้ี
-การดหู นัง ฟงั เพลง
-ด่าคนในบา้ น
-ศิลปนิ ทชี่ อบเเละตัวเอง
-การตงิ่
-ตัวเอง แม่ เพื่อน
-เลน่ เกม+ทาใจไวแ้ ต่แรก
-ทาในสิง่ ท่ีชอบ เชน่ ฟังเพลงหรอื นอน
-ดูบงั ทนั บังทนั อสิ เดอะเบสฟอมี
-การท่ีได้คยุ กบั เหล่าเพื่อนๆ การออกไปสูดอากาศในที่ทเ่ี ราสบายใจ และการเสพเนื้อเรือ่ งเกมสกั เกมนึง
-ชว่ ยตวั เอง
-ตวั เราเอง
-ทากจิ กรรมทช่ี อบ
13
-ผชู้ ายหลอ่ ๆ
-กฟ็ งั เพลงใหก้ าลงั ใจสิคะ หรอื ไปเที่ยวกบั เพอื่ น
-ฟังเพลง มูฟออน
14. คณุ ชว่ ยนยิ ามความรกั ในแบบของคุณให้ทราบหนอ่ ยพอสงั เขป ได้คาตอบ 16 ข้อ โดยได้คาตอบมาดงั นี้
-ความเปน็ ห่วงเปน็ ใย
-รกั ในสงิ่ ทตี่ ัวเองชอบ
-การท่อี ยากให้ใครคนนึงมคี วามสุข
-ความรักคอื ความเขา้ ใจกัน คือคนทอ่ี ยดู่ ้วยแล้วรสู้ ึกสบายใจ ร้สู กึ ดกี ับตัวเองท่ไี ด้เป็นตัวเองแลว้ ก็เป็นเขาคนนนั้ ท่ี
เป็นคนรัก
-ความรัก=ความไม่มีเหตผุ ล
-ความรักกเ็ หมอื นดอกไม้ไฟ แรกเรมิ่ อาจสวยงามแตก่ ม็ อดหายไปได้เชน่ กัน
-ความรกั มันกม็ สี องดา้ น ดา้ นสุขและด้านทุกข์
-ความรักคอื การท่เี ราเห็นเขามีความสขุ เหน็ เขาย้ิมได้ ตอนเขารอ้ งไห้เรารสู้ ึกเจบ็
-ความหว่ งใยเหน็ ใจไมเ่ ห็นแก่ตัว รู้จกั กนั และกนั ยอมรบั ในตวั ตนของอกี ฝา่ ย
-รักมใิ ช่ดวงดาวเมื่อผา่ วแสง
-อยากเหน็ คนทีร่ ักมีความสขุ (ไมจ่ าเป็นต้องเปน็ คนรกั เเตอ่ าจจะเป็นพอ่ เเมเ่ พอื่ นๆหรอื มึกคนท่ีรักเเละหวังดีดว้ ย)
-ไม่ลา้ เสน้ เกินไป
-ความรกั มหี ลายรูปแบบ ไมจ่ าเปน็ ต้องเปน็ รักแบบชายหญิงเสมอไป
14
อยู่แล้วมคี วามสขุ อะพส. เขา้ ใจเรา
-ความรักกเ็ หมอื นแมว ซ่ึงแมวจะมีความออ้ นและดนู ่ารัก แต่กม็ เี ล็บไว้ขว่ น ซงึ่ เล็บเหมอื นใจคนทไ่ี ม่เหน็ คา่ ในความ
รัก
-การเป็นความสบายใจให้กัน การที่รูส้ กึ ดีเมอื่ อย่ใู กลๆ้ หรอื คยุ กบั คนนั้น การที่เราอยากเห็นเค้ามีความสุข ถึงแม้วา่
เราจะไม่ไดเ้ ป็นความสุขของเขาก็ตาม(แอบเศรา้ )
15
บทที่5
ผลกำรสำรวจ
ผลการสารวจการมีความรักในวัยเรียนของนักเรียนโรงเรียนภูเก็ตวทิ ยาลัย
จากการสารวจเร่ืองความรักในวัยเรียน ในชั้นมัธยมปลายตามวัตถุประสงค์ของการค้นคว้า (เพื่อศึกษาว่า
ปัจจัยใดบ้างที่มีอิทธพิ ลต่อความรักในวัยเรียน)และจากการท่ีมีผู้คนได้ทาแบบสอบถามจึงสรุปได้ดังน้ี
1.นักเรียนยอมโดดเรียนเพ่อื ไปหาคนรักอยู่ในช่องน้อยที่สุดจานวน81%มีความเห็นได้ว่านักเรียนส่วน
ใหญ่สามารถแยกแยะสิ่งที่สาคัญในตอนน้ันได้ดี
2.นักเรียนมีความรักจนไม่สนใจการเรียนอยู่ในช่องน้อยท่ีสุดจานวน69%อยู่ในช่องน้อยและปานกลาง
13%จึงสรุปได้ว่าเด็กส่วนใหญ่น้ันแยกแยะสิ่งสาคัญและหน้าท่ีตัวเองได้แต่ก็มีบางคร้ังที่ความรักก็มีอิทธิพลที่ทา
ให้ไม่สนใจการเรียนเช่นกัน
3.นักเรียนมีกาลังใจในการเรียนเม่ือมีความรักในช่องน้อยสุด6%ในช่องน้อย38%ในชอ่ งปานกลาง31%
ในช่องมาก19%ในชอ่ งมากที่สุด6%มีความเห็นว่าเด็กนักเรียนมีกาลังใจมากขึ้นเล็กน้อยถึงปานกลางเมื่อมีความ
รัก
4.นักเรียนไดร้ ับการช่วยเหลือในด้านต่างๆจากคนรักในชอ่ งน้อยท่ีสุด13%ในช่องน้อย19%ในชอ่ งปาน
กลาง50%ในช่องมาก13%ในช่องมากท่ีสุด6%มีความเห็นว่ายังมีนักเรียนที่มีปญั หาอะไรจะปรึกษากับคนรักแต่ก็
มีบางส่วน
5.นักเรียนคิดว่าคนไม่มีแฟนนั้นเชยหรือไม่ทันสมัย มากท่ีสุด69%น้อย25%ปานกลาง6%จึงสรุปได้วา่
นักเรียนส่วนมากคิดว่าการไม่มีแฟนน้ันเชยและอาจไม่ถูกยอมรับในกลมุ่ เพื่อนเรียนสว่ นนักเรียนมักใช้เงินส่วน
ใหญ่ซ้ือของให้คนรักมากท่ีสุด 44% มาก 13% ปานกลาง 19% น้อย 25% มีความเห็นว่าคนส่วนมากท่ีมีความ
รัก เงินก็เป็นอกี ปัจจัยท่ีสาคัญในการสร้างความสุขให้กับอีกฝ่าย
7.นักเรียนเข้าใจความรักน้อยที่สุด 6% น้อย 13% ปานกลาง 31% มาก 25% มากท่สี ุด 25% มี
ความเห็นว่านักเรียนยังเข้าใจความรักอยู่ในระดับมากหรือปานกลาง
16
8.นักเรียนใช้เวลาร่วมกับครอบครัวในหน่ึงสัปดาห์น้อยที่สุด 25% น้อย 44% ปานกลาง 19% มาก 6%
มากท่ีสุด 6% มีความเห็นว่านักเรียนยังให้ความสาคัญหรือใช้เวลาร่วมกับครอบครัวในหนึ่งสัปดาห์มีจานวนน้อย
9.นักเรียนให้คนรักน้อยท่ีสุด 56% น้อย 25% ปานกลาง 19% จึงสรุปได้ว่านักเรียนไม่ให้คนรักรบกวน
สอบหรือการบ้าน
10.เมื่อคุณมีปัญหาคุณเลือกที่จะปรึกษาใคร นักเรียนส่วนมากเลือกจะปรึกษาเพ่ือนรองลงมาคือ
ผู้ปกครอง จึงสรุปได้ว่าหากประสบปัญหานั้นก็ไม่ไดม้ ีแค่คนรักที่เป็นที่ปรึกษา
11.นักเรียนตดิ สารเสพตดิ หรือไม่ ท้ังหมดที่เข้ามาทาแบบสอบถามไม่มีส่วนเก่ียวข้องกับการเสพติดเลย
12.นักเรียนเคยอกหักหรือไม่ ผลตอบกลับเคย 87.5% และไม่เคย12.5 จึงสรุปได้ว่าทุกคนเคยผ่าน
ประสบการณ์มาก่อนแล้วและนาไปสู่ข้อ13
13.จากข้อ12.หากคุณผิดหวงั กับความรัก สิ่งใดที่ช่วยบรรเทาจิตใจคุณได้ คนส่วนมากจึงใช้เวลาปรึกษา
เพื่อน อยู่กับตวั เอง และพยายามทาตัวให้กลับสู่สภาวะปกติ
14.คุณช่วยนิยามความรักในแบบของคุณให้ทราบหน่อยพอสังเขป ทุกๆคนให้ความเห็นว่าความรักนั้น
คือความอบอุ่นในใจการมีครสักคนมาอยู่ข้างๆทาให้เรามีความสุขได้เพราะได้ช่วยเหลอื กัน อยู่ด้วยกันปรึกษาใน
ทุกๆเร่ือง
จากการสารวจนักเรียนในชั้นมัธยมศึกษาปลายโรงเรียนภูเก็ตวิทยาลัยสรุปได้ว่าในช่วงมัธยมปลายน้ันมีอตั รา
นักเรียนท่ีมีแฟนแล้วหรือแอบชอบอยู่พอสมควร ทาให้เกิดความรักในวัยเรียน จากสมมุตฐิ านว่าความรักในวัย
เรียนเกิดจากการที่ครอบครัวไม่มีเวลาให้เปน็ ปัจจัยที่ส่งผลให้เกิดความรักในวัยเรียนโดยความรักในวัยเรียนมีท้ัง
ข้อดีข้อเสียจากการสารวจนักเรียนส่วนใหญ่ได้รับประโยชน์จากความรักในวัยเรียนเชน่ การให้ความช่วยเหลือด้าน
การเรียนการได้รับกาลังใจจากคนรัก แต่มบี างส่วนก็ยอมที่จะโดดเรียนหรือให้แฟนลอกการบ้าน
ภำคผนวก
1.หาข้อมูลรวบรวมข้อมูลหาเอกสารท่ีเก่ียวข้อง
17
2.สรุปเอกสารท่ีได้มาและเขียนรายงาน
18
บรรณำนุกรม
แมวท่ีสีเทา. (2564). กำรต้งั ครรภ์ก่อนวัยอันควร. [ออนไลน์] เข้าถึงได้จาก :
https://momandbaby.net/pregnantmother/health/pregnant11042561/?fbclid=IwAR0zTr6sIMQt9
Mnjg6Nic-CMJBSIXWw1w27qWdckKkEn05YxNDTn-Y6vl_o สืบค้นวันท่ี 27 กรกฎาคม 2564.
Amam1000. (2564). ยินดีต้องรับเข้ำสู่วัยรุ่นวัยวุ่น. [ออนไลน์] เข้าถึงได้จาก :
https://amam100.wordpress.com สืบค้นวันที่ 27 กรกฎาคม 2564.
19