คู่มือมาตรฐานการบริหารการพยาบาล ตามมาตรฐานการพยาบาลในโรงพยาบาล กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล โรงพยาบาลพระนารายณ์มหาราช หน้า : 63 หน้า แนวทางปฏิบัติการพยาบาลเลขที่ : SM – NUR - 005 ทบทวน : ทุกปี เรื่อง : คู่มือมาตรฐานการบริหารการพยาบาล ตามมาตรฐานการพยาบาลในโรงพยาบาล วันบังคับใช้ : 16 มีนาคม 2566 วันที่ปรับปรุง : 14 มีนาคม 2566 แผนก : กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล แผนกที่เกี่ยวข้อง : ทุกหน่วยงานสังกัด กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล ผู้จัดทำ : (นางสาวพรทิพย์ จันทาทิพย์) ผช.หัวหน้าพยาบาลด้าน QA ผู้ทบทวน ( นางธารกมล อนุสิทธิ์ศุภการ ) รองหัวหน้าพยาบาลด้านบริการ ผู้อนุมัติ ......................................................... (นางมารยาท รัตนประทีป ) หัวหน้าพยาบาล
2 มาตรฐานการบริหารการพยาบาล ตามมาตรฐานการพยาบาลในโรงพยาบาล กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล หมวดที่ 1 การนำองค์กร มาตรฐานที่ 1 การนำองค์กร ก. การกำหนดทิศทางขององค์กรพยาบาล วัตถุประสงค์ 1. องค์กรพยาบาลมีวิสัยทัศน์ พันธกิจ ค่านิยม ทิศทางและผลการดำเนินงานที่คาดหวัง 2. บุคลากรทางการพยาบาลทุกระดับ รับรู้และเข้าใจ ปฏิบัติตามพันธกิจขององค์กร ขอบข่าย หอผู้ป่วย/หน่วยงานภายใต้การควบคุมกำกับของกลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล ตัวชี้วัด 1. ร้อยละแผนงาน/โครงการที่บรรลุตามเป้าหมาย 2. ร้อยละของตัวชี้วัดในแผนยุทธศาสตร์ขององค์กรพยาบาลที่ผ่านเกณฑ์ เครื่องมือประเมิน 1. แผนยุทธศาสตร์ โครงการ/แผนงานตามกลยุทธ์ 2. ตัวขี้วัดในแผนงาน/โครงการ แผนการประเมิน ทุก 3 เดือน เอกสารอ้างอิง มาตรฐานการพยาบาลในโรงพยาบาล กองการพยาบาล กระทรวงสาธารณสุข ปรับปรุงครั้งที่ 2 ความรับผิดชอบ ผู้บริหารทางการพยาบาล วิธีการดำเนินงาน มาตรฐานที่ 1 การนำองค์กร ก. การกำหนดทิศทางขององค์กรพยาบาล ผู้บริหารกลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล กำหนดทิศทางและขอบเขตการบริหารการพยาบาลชัดเจน มีการกำกับดูแลตนเองที่ดี มีการทบทวนผลการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง และบุคลากรทางการพยาบาลทุก หน่วยงานและทุกระดับในองค์กรมีส่วนร่วมรับผิดชอบกำหนดและนำไปปฏิบัติดังนี้ 1. หัวหน้าพยาบาลเป็นผู้นำในการจัดทำแผน โดยกำหนดวันประชุมเพื่อจัดทำแผนไตรมาสที่ 4 ของปี ผู้มีส่วนร่วมในการประชุมประกอบด้วย หัวหน้ากลุ่มงานการพยาบาลทุกสาขา หัวหน้าหอผู้ป่วย/ หัวหน้าหน่วยงานทุกคน APN 3 S และพยาบาลตัวแทนระบบงานสำคัญ โดยมีกระบวนการดังนี้ 1.1 หัวหน้าพยาบาล และผู้บริหารการพยาบาลทุกระดับร่วมกันกำหนดวิสัยทัศน์ พันธกิจ ค่านิยม และถ่ายทอดไปยังบุคลากรพยาบาลทุกระดับเพื่อนำไปปฏิบัติโดยกลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล ประกอบด้วย หัวหน้าพยาบาล และคณะกรรมบริหารกลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล หัวหน้าหอผู้ป่วย/ หน่วยงาน หัวหน้างาน APN 3 S และพยาบาลตัวแทนระบบงานสำคัญ มีการศึกษาแผนยุทธศาสตร์
3 กลยุทธ์ของกระทรวงสาธารณสุข กองการพยาบาล และโรงพยาบาลพระนารายณ์มหาราช ผลสรุปการ ปฏิบัติตามแผนปีที่ผ่านมา ข้อมูลตัวชี้วัดคุณภาพการดูแล ภาระงาน อุบัติการณ์ความเสี่ยง การขยายบริการ ความเพียงพอ พร้อมใช้ของอุปกรณ์ เครื่องมือ ร่วมกับการวิเคราะห์ข้อมูลสภาพแวดล้อม และการวิเคราะห์ AWOT โดยใช้ Balance score card, PEST, 7s McKinsey เป็นต้น แผนยุทธศาสตร์ได้กำหนดวิสัยทัศน์พันธกิจ ค่านิยม และถ่ายทอดไปยังบุคลากรพยาบาลทุก ระดับ เพื่อนำไปปฏิบัติดังนี้ วิสัยทัศน์ : กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาลที่มีคุณภาพ ทันสมัย บริการด้วยใจเพื่อประชาชนสุขภาพดี บุคลากรทางการพยาบาลมีความสุข พันธกิจ : ให้บริการพยาบาลแบบองค์รวมอย่างมีคุณภาพ ด้วยเทคโนโลยี จัดการระบบบริการ พยาบาล และบริหารทรัพยากรให้มีประสิทธิภาพ เครือข่ายมีส่วนร่วม เสริมสร้างความสุขของบุคลากร ทางการพยาบาล และธำรงไว้ซึ่งจรรยาบรรณวิชาชีพ ค่านิยม : MOPH KNH NURSES การถ่ายทอด สื่อสาร สร้างความเข้าใจวิสัยทัศน์ พันธกิจ และค่านิยม ทำโดยผ่านการประชุมหัวหน้า กลุ่มงาน หัวหน้างาน และหัวหน้าหอผู้ป่วย/หน่วยงาน เพื่อให้ทุกคนรับทราบนโยบาย วิสัยทัศน์ พันธกิจ ค่านิยม และนำไปสื่อสารแก่ผู้ปฏิบัติในหน่วยงาน รวมทั้งจัดทำเป็นเอกสารเผยแพร่แบบเป็นลายลักษณ์ อักษร และทาง QR Code เพื่อ Link ไปยัง Web page ของโรงพยาบาล และกลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล การนำไปปฏิบัติ โดยหัวหน้าพยาบาล หัวหน้ากลุ่มงาน หัวหน้างาน และหัวหน้าหอผู้ป่วย/หน่วยงาน เป็นผู้นำในการกระตุ้นจิตสำนึกการใช้ค่านิยมกระทรวงสาธารณสุข โรงพยาบาลพระนารายณ์มหาราช และ KNH NURSES คือ ทำงานเป็นทีม มุ่งมั่นพัฒนา เห็นคุณค่าของชีวิต ให้กับพยาบาลทุกคนในการทำงาน และการพัฒนาคุณภาพบริการพยาบาลให้สอดคล้องกับบริบทของแต่ละหน่วยงาน โรงพยาบาลคุณธรรม สะท้อนโดยค่านิยม MOPH โดยมีพฤติกรรมบริการที่ดี มีความอ่อนน้อมถ่อมตน มีความสามัคคีเสียสละ ใส่ ใจประชาชน เร่งสร้างสิ่งใหม่ทั้งนวัตกรรม และงานวิจัย บริการที่ดี สะท้อนโดยค่านิยม KNH NURSES โดย พยาบาลรับผิดชอบในการปฏิบัติงานตามมาตรฐานวิชาชีพ มีการทำงานเป็นทีมในการดูแลผู้ป่วยกลุ่มโรค สำคัญร่วมกับทีม PCT การปฏิบัติตนของผู้บริหารการพยาบาลที่สะท้อนความมุ่งมั่นต่อค่านิยมร่วม คือ การทำงานเป็นทีม โดยการตัดสินใจทางการบริหารจะออกมาในรูปของคณะกรรมการ เสียงจะออกมาเป็น หนึ่งเดียวเท่านั้น ทุกคนเห็นคุณค่าชีวิตผู้ป่วยทุกคน : ผู้บริหารทางการพยาบาลจะดูแลผู้ปฏิบัติในการ เจ็บป่วย ส่วนผู้ป่วยจะนิเทศติดตามทางคลินิกอย่างต่อเนื่อง การปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดีที่สะท้อนเอก สิทธิ์แห่งวิชาชีพ คือ (1) การนิเทศเพื่อให้ผู้ปฏิบัติมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นในการปฏิบัติการ พยาบาล ช่วยส่งเสริมการทำงานและยกระดับความมีเอกสิทธิ์ในการปฏิบัติการพยาบาล (2) สนับสนุนให้ พยาบาลมีการศึกษาอย่างต่อเนื่องในระดับปริญญาโท ปริญญาเอก และการพยาบาลเฉพาะทางสาขาต่าง ๆ ผู้บริหารทางการพยาบาลทุกคนจบ ปริญญาเอก 1 คน, ปริญญาโท และการพยาบาลเฉพาะสาขาทุกคน นอกจากนี้ส่งเสริมให้พยาบาลทุกคนมีความนุ่มนวลอ่อนโยน เสียสละ มีเอกภาพวิชาชีพ และสร้างเสริมการ ดูแลตนเองในผู้ป่วยโรคเรื้อรัง (NCD) 1.2 คณะกรรมการบริหาร กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล กำหนดผลการดำเนินงานขององค์กร โดยคำนึงถึงความต้องการหรือผลประโยชน์ของผู้ใช้บริการและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ด้วยการยึดหลักความ โปร่งใสและความชัดเจน รวมทั้งสอดคล้องกับพันธกิจและเป้าหมายของกลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล โดย คณะกรรมการบริหารกลุ่มภารกิจด้านการพยาบาลกําหนดตัวชี้วัดจากแผนกลยุทธ์แผนปฏิบัติการ และการ พัฒนางานด้านต่างๆ รวมถึงตัวชี้วัดด้านคุณธรรมตามค่านิยม MOPH KNH NURSES
4 1.2 การจัดทำแผนกลยุทธ์ กําหนดให้รองหัวหน้าพยาบาล ผู้ช่วยหัวหน้าพยาบาล หัวหน้า กลุ่มงานการพยาบาล และหัวหน้าหอผู้ป่วย/หน่วยงาน จัดทําแผนกลยุทธ์ครอบคลุมด้านบริหาร คุณภาพ บริการพยาบาล ด้านการพัฒนาองค์กร โดยคณะกรรมการบริหารกลุ่มภารกิจด้านการพยาบาลรวบรวม และร่างกำหนดวัตถุประสงค์ระยะสั้น ระยะยาว วิธีดำเนินการ ทรัพยากร งบประมาณ เป้าหมาย ตัวชี้วัด 1.2.1 ส่ง File แผนที่จัดทำเรียบร้อยแล้วใน Line ของหัวหน้ากลุ่มงานการพยาบาลทุก สาขาและ หัวหน้าหอผู้ป่วย/หัวหน้างาน เพื่อนำไปสื่อสารให้บุคลากรทุกระดับในหน่วยงานรับทราบ เป็น แนวทางในการจัดทำแผนระดับ กลุ่มงานและระดับหอผู้ป่วย/หน่วยงาน 1.2.2 ผู้รับผิดชอบในการด าเนินงานตามแผน/โครงการ บันทึกข้อมูลการขออนุมัติจัด ทำแผน 1.2.3 คณะกรรมการพิจารณาแผนโรงพยาบาลพระนารายณ์มหาราช นัดประชุม ผู้รับผิดชอบนำเสนองานแผน/ โครงการเพื่อพิจารณาอนุมัติ 1.2.4 หลังคณะกรรมการพิจารณา ฝ่ายแผนรวบรวมผลและแจ้งเป็นหนังสือเวียนใน ระบบ Intranet และ Line 1.2.5 ผู้รับผิดชอบดำเนินการ ตามแผนที่ได้รับอนุมัติ 1.3 การประเมินผลและการควบคุม 1.3.1 ติดตามประเมินผลการปฏิบัติตามแผนทุก 3 เดือน 1.3.2 ทบทวนปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสมและสถานการณ์(ปรับแผนทุก 6 เดือน) 2. กำหนดโครงสร้างการบริหารงานเป็น 16 กลุ่มงานการพยาบาล และกำหนดบทบาทหน้าที่ ความรับผิดชอบของกลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล 3. แต่งตั้งคณะกรรมการภายในกลุ่มภารกิจด้านการพยาบาลให้อยู่ภายใต้การควบคุม ดูแลของ หัวหน้าพยาบาล 4. กำหนดกลไกการสื่อสาร เพื่อให้บุคลากรทางการพยาบาลและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียได้รับทราบ และเข้าใจ ดังนี้ 4.1 การสอบถามความพึงพอใจต่อคุณภาพการดูแลและระบบบริการอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง 4.2 สอบถามความพึงพอใจของผู้มีส่วนได้ส่วยเสียอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง 4.3 เอกสาร/จดหมายเวียน แจ้งเวียนทาง Intranet 4.4 การเยี่ยมหน่วยงานโดยคณะกรรมการบริหารกลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล 4.5 แจ้งโดยวาจาทางโทรศัพท์ 4.6 การรับส่งเวรร่วมกับพยาบาลเวรตรวจการนอกเวลา 4.7 Line group หัวหน้ากลุ่มงาน, หัวหน้าตึก และ กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล (NSO) และ ระบบงานสำคัญต่าง ๆ ของโรงพยาบาล 4.8 ประชุมคณะกรรมการบริหารกลุ่มภารกิจด้านการพยาบาลสัปดาห์ละ 1 ครั้ง วันพฤหัสบดี 4.9 ประชุมหัวหน้าหอผู้ป่วย/หัวหน้างาน ร่วมกับคณะกรรมการบริหารกลุ่มภารกิจด้านการ พยาบาล เดือนละ 1 ครั้ง 4.10 กรรมการบริหารกลุ่มภารกิจด้านการพยาบาลประชุมร่วมกับคณะกรรมการบริหาร โรงพยาบาล เดือนละ 1 ครั้ง 4.11 QR code สายตรงถึงหัวหน้าพยาบาล 4.12 โปรแกรมรับข้อร้องเรียนของโรงพยาบาล
5 - กรณีเร่งด่วนหรือเกิดเหตุการณ์เร่งด่วนสามารถโทรศัพท์สายตรงถึงผู้รับผิดชอบได้ตลอด 24 ชั่วโมง 4.13 การเยี่ยมหน่วยงานโดยทีมนิเทศทางการพยาบาล 4.14 การรับส่งเวรร่วมกับพยาบาลตรวจการนอกเวลาราชการ 3. คณะกรรมการบริหารกลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล กำหนดกลไกการสื่อสารสองทิศทาง (Two-ways Communication) เพื่อให้บุคลากรทางการพยาบาลและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่สำคัญได้ รับทราบและเข้าใจถึงวิสัยทัศน์ ค่านิยม ทิศทาง ผลการดำเนินงานที่คาดหวัง นำไปปฏิบัติได้ รวมทั้ง สามารถให้ข้อคิดเห็นหรือข้อเสนอแนะสะท้อนกลับ โดย 1) กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล ตระหนักถึงความสําคัญของการสื่อสารได้ครอบคลุม จึงได้ กําหนดโครงสร้างเป็นแนวราบ มีรองหัวหน้าพยาบาล 4 คน และมีผู้ช่วยหัวหน้าพยาบาล 12 คน และ โครงสร้างตามสายการบังคับบัญชาแบ่งออกเป็น 16 กลุ่มงานการพยาบาล และมีการส่งเสริมการให้อํานาจ การตัดสินใจในเหตุการณ์ต่างๆ นอกเวลาราชการ โดย พยาบาลตรวจการ(Midnight Director) มีนโยบาย ให้พยาบาลตรวจการดูแลด้านคุณภาพ เรื่องที่เป็นพันธกิจ/งานนโยบาย ที่ต้องการสื่อสารให้ผู้ปฏิบัติทราบ และถือปฏิบัติ นำมารายงานต่อกรรมการบริหารกลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล และมุ่งเน้นวิธีการสื่อสาร ภายในกลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล และหน่วยงาน โดยยึดแนวทางการสื่อสารแบบสองทาง มุ่งเน้นให้ บุคลากรทางการพยาบาลเกิดความเข้าใจในทิศทางเดียวกัน และสามารถปฏิบัติตามแนวทางที่กําหนดได้ อย่างถูกต้องตามวัตถุประสงค์ โดยผ่านการสื่อสารหลายช่องทาง ได้แก่ - การประชุมคณะกรรมการต่างๆ เช่น คณะกรรมการบริหารกลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล คณะอนุกรรมการด้านบริหาร คณะอนุกรรมการด้านบริการพยาบาล คณะอนุกรรมการด้านวิชาการและ วิจัย และคณะอนุกรรมการด้านกิจกรรมพิเศษ เป็นต้น นอกจากนี้มีกิจกรรมผู้บริหารการพยาบาลพบ เจ้าหน้าที่ และการประชุมภายในหอผู้ป่วย โดยการประชุมทุกครั้งกําหนดให้มีการบันทึกมติที่ประชุมเพื่อ สื่อสารกับผู้ที่ไม่ได้เข้าประชุม - ตัวชี้วัดที่เป็นผลการดำเนินการ จะมีการนำเสนอในการประชุมกรรมการบริหารกลุ่มภารกิจด้าน การพยาบาลทุก 2 เดือน แต่ถ้ามีกรณีตัวชี้วัดที่เปลี่ยนแปลงในทางไม่ดีก็จะนำเสนอได้เลยทุกสัปดาห์เพื่อ เป็นการแลกเปลี่ยนและแก้ไขได้โดยเร็ว จากนั้นหัวหน้ากลุ่มงานการพยาบาลจะนำไปแจ้งกับหัวหน้าหอ ผู้ป่วย/หน่วยงาน และหัวหน้าหอผู้ป่วย/หน่วยงานจะนำไปแจ้งกับทีมงานทุก 1 เดือนในการประชุม ประจำเดือน 4. หัวหน้าพยาบาล กำหนดวิธีการเสริมสร้างบรรยากาศองค์กรที่เอื้ออำนวยให้เกิดการกระจาย อำนาจการตัดสินใจ การสร้างนวัตกรรม ความคล่องตัวในการปฏิบัติงาน การเรียนรู้ในระดับองค์กรและ ผู้ปฏิบัติงาน รวมทั้งการส่งเสริมให้บุคลากรทางการพยาบาลทำงานอย่างถูกต้องตามกฎระเบียบและหลัก จริยธรรม
6 ข . การกำกับดูแลตนเองที่ดี วัตถุประสงค์ เพื่อให้หอผู้ป่วย/หน่วยงานในความรับผิดชอบของกลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล มีการควบคุมกำกับดูแล ตนเองที่ดี ทั้งด้านการดำเนินงานขององค์กร ด้านการเงิน งบประมาณและการปฏิบัติตามมาตรฐานที่ กำหนด ขอบเขต หอผู้ป่วย/หน่วยงาน ที่อยู่ภายใต้การควบคุมกำกับของกลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล ตัวชี้วัด ร้อยละหัวหน้ากลุ่มงานการพยาบาลเฉพาะสาขา/หัวหน้าหอ หัวหน้างานที่มีการนิเทศตามแผน ≥ 80% แนวทางปฏิบัติ แบ่งระดับการกำกับดูแลหน่วยงานในความรับผิดชอบดังนี้ 1. ระดับทีมบริหารกลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล ประกอบด้วยหัวหน้าพยาบาล หัวหน้ากลุ่มงาน การพยาบาล มีแนวทางปฏิบัติดังนี้ 1.1 มอบหมายหัวหน้ากลุ่มงานการพยาบาลเฉพาะสาขา 16 กลุ่มงาน มอบหมายงาน โดยจัด ตารางหมุนเวียนทุกเดือนเพื่อปฏิบัติหน้าที่ผู้ช่วยหัวหน้าพยาบาล โดยร่วมรับฟังการสื่อสารส่งต่อข้อมูล ร่วมกับหัวหน้าพยาบาลทุกวัน เพื่อรับทราบปัญหาด้านอัตรากำลัง ความไม่เพียงพอพร้อมใช้ของเครื่องมือ อุบัติการณ์ความเสี่ยงและการจัดการแก้ไขปัญหาเบื้องต้น เป็นต้น 1.2 ทีมที่รับผิดชอบในการนิเทศ สรุปผลการนิเทศส่งหัวหน้าพยาบาล 2. หัวหน้ากลุ่มงานการพยาบาลเฉพาะสาขา ปฏิบัติดังนี้ 2.1 จัดตารางปฏิบัติงานในการลงนิเทศหัวหน้าหอผู้ป่วย ในประเด็นการนิเทศทางการ พยาบาล การบริหารจัดการอัตรากำลัง เครื่องมือเครื่องใช้ การจัดการความเสี่ยง การปฏิบัติตามกฎระเบียบ และนโยบายสำคัญ 2.2 ควบคุม ติดตามการปฏิบัติตามแผนงาน/โครงการของหอผู้ป่วยในความรับผิดชอบ 2.3 ติดตามตัวชี้วัดคุณภาพ ผลการนิเทศภายในกลุ่มงาน 2.4 ให้การสนับสนุน ช่วยเหลือ แก้ไขปัญหา 2.5 สรุปผลการปฏิบัติงานและผลการนิเทศส่งหัวหน้าพยาบาล 3. หัวหน้าหอผู้ป่วย/หัวหน้าหน่วยงาน 3.1 นิเทศการปฏิบัติการพยาบาลของบุคลากรทางการพยาบาลในความรับผิดชอบ ได้แก่ การ ปฏิบัติการพยาบาลตามรายโรคสำคัญ การปฏิบัติตามคู่มือแนวทาง ความรู้ทักษะของบุคลากร เครื่องมือ เครื่องใช้ สิ่งแวดล้อม ความเสี่ยงความปลอดภัย การปฏิบัติตามกฎระเบียบของโรงพยาบาลและองค์กร พยาบาล 3.2 ติดตามการปฏิบัติตามแผนงาน/โครงการ การบริหารจัดการวัสดุ ครุภัณฑ์ 3.3 ติดตามตัวชี้วัดสำคัญของหน่วยงาน 3.4 รวบรวมผลการนิเทศ ตัวชี้วัดคุณภาพบริการพยาบาล อุบัติการณ์ความเสี่ยง การติดตาม ประเมินผลการปฏิบัติตามแผนงานโครงการภายในวันที่ 10 ของทุกเดือน 4. ตรวจการพยาบาลนอกเวลาราชการ 4.1 มอบหมายผู้รับผิดชอบในการจัดตารางเวรตรวจการพยาบาลนอกเวลาราชการ
7 4.2 กำหนดหน้าที่ความรับผิดชอบในการนิเทศด้านการบริหารจัดการอัตรากำลังในแต่ละเวร การจัดการในสถานการณ์ฉุกเฉิน การบริหารจัดการความเสี่ยง ความเพียงพอพร้อมใช้ของอุปกรณ์เครื่องมือ เป็นต้น 4.3 สื่อสารส่งต่อข้อมูลระหว่างเวร กรณีมีเหตุการณ์เร่งด่วนวิกฤต รายงานตาม Flow การ บริหารจัดการความเสี่ยง กรณีเวรวันราชการ รายงานให้คณะกรรมการบริหารกลุ่มการพยาบาลที่ได้รับ มอบหมายให้มารับเวร ค. การทบทวนผลการดำเนินงาน แนวทางปฏิบัติ 1. ผู้บริหารกลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล กำหนดระบบในการทบทวนผลการดำเนินงานของ องค์กรอย่างสม่ำเสมอและทุกครั้งที่เกิดเหตุการณ์ในทุกระดับ โดยมีการกํากับติดตามการดําเนินงานตาม แผน โดยคณะกรรมการบริหารกลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล รวมทั้งมีการทบทวนตัวชี้วัด เป็นรายเดือน รายไตรมาส เช่น ตัวชี้วัดด้านบริหารความเสี่ยง3 P Safety มีการทบทวนทุกวัน ถ้าพบตัวชี้วัดไม่บรรลุตาม เกณฑ์ที่กําหนด หัวหน้ากลุ่มงานดําเนินการติดตามวิเคราะห์และแก้ไขปรับปรุง และนําเสนอในการประชุม ประจําเดือนของหัวหน้าหอผู้ป่วย/ หัวหน้าหน่วยงาน และในปี 2565 ได้เน้นในเรื่องนโยบายความปลอดภัย 3 P Safety และมาตฐานสำคัญจำเป็น 9 ข้อ มีการกระตุ้นให้รายงานอุบัติการณ์ผ่านระบบออนไลน์ทุกวัน มีผู้รับผิดชอบในการพิจารณาปรับปรุงแก้ไขอุบัติการณ์ทันที รวมทั้งกําหนดให้มีOwner ในแต่ละเรื่อง เพื่อ ติดตามรวบรวมข้อมูลนําเสนอวิเคราะห์หาแนวทางป้องกันร่วมกับคณะกรรมการบริหารความเสี่ยงของ โรงพยาบาล 2. การบริหารอัตรากำลังใช้โปรแกรมภาระงานที่พัฒนาขึ้นในการบริหารอัตรากำลังทุกเวร โดยมี หัวหน้าพยาบาล หัวหน้ากลุ่มงานการพยาบาลเฉพาะสาขา และเวรตรวจการนอกเวลา ติดตามตรวจสอบ ประสิทธิภาพของการบริหารจัดการ และคณะกรรมการบริหารกลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล ใช้ข้อมูลภาระ งานในการจัดสรรอัตรากำลังให้มีความเหมาะสม 3. กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาลรวบรวมข้อมูลการประเมินผลการปฏิบัติตามแผนงาน/โครงการ ตัวชี้วัด อุบัติการณ์ความเสี่ยง การประเมินความพึงพอใจของผู้ใช้บริการ ความสุข ความพึงพอใจในงาน ความผูกพันของบุคลากร นโยบาย สถานการณ์ที่มีผลกระทบต่อการให้บริการ ภาระงาน การขยายบริการ มาใช้ในการปรับเปลี่ยนแผน การดำเนินงานระหว่างปีและใช้ในการทบทวนและจัดทำแผนทั้งในระยะสั้น และยาวต่อไป มาตรฐานที่ 2 ความรับผิดชอบต่อสังคม กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล แสดงความรับผิดชอบต่อสาธารณะทั้งกรณีที่การปฏิบัติงานมี ผลกระทบต่อสังคมและสร้างความวิตกกังวลต่อสาธารณะ ด้วยการดำเนินงานภายในองค์กรอย่างมี จริยธรรม และให้การสนับสนุนต่อชุมชนที่สำคัญที่อยู่ในความรับผิดชอบของโรงพยาบาล ก. ความรับผิดชอบต่อสาธารณะ แนวทางปฏิบัติ 1.กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาลมีการแต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินงานภายใน 5 คณะกรรมการ ภายใต้การให้คำปรึกษา ดูแลโดยรองหัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล มีการกำหนดขอบเขตหน้าที่ ความรับผิดชอบ
8 2. กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล มีหัวหน้าพยาบาลและพยาบาลระดับหัวหน้ากลุ่มงานการพยาบาล เฉพาะสาขา หัวหน้าหอผู้ป่วย/ หัวหน้างาน เข้าร่วมทำงานในคณะกรรมการต่างๆที่สำคัญ ได้แก่ คณะกรรมการบริหารความเสี่ยง คณะกรรมการด้านจริยธรรม คณะกรรมการสิ่งแวดล้อม คณะกรรมการยา คณะกรรมการพัฒนาทรัพยากรบุคคล คณะกรรมการเครื่องมือ คณะกรรมการโรคอุบัติใหม่อุบัติซ้ำ คณะกรรมการป้องกันและควบคุมการติดเชื้อในโรงพยาบาล เป็นต้น 3. โรงพยาบาลมีการแต่งตั้งคณะกรรมการภายนอกในการมีส่วนร่วมให้ข้อเสนอแนะในการบริหาร จัดการ ของโรงพยาบาล 4. การจัดทำแผนยุทธศาสตร์ครอบคลุมประเด็นการให้บริการที่มีคุณภาพและกำหนดตัวชี้วัดด้าน ความปลอดภัย ที่สำคัญ สอดคล้องกับจุดเน้นของโรงพยาบาลเช่น อุบัติการณ์ความเสี่ยงที่เป็นศูนย์ได้แก่ อุบัติการณ์การให้เลือดผิด การแพ้ยาซ้ำ การผ่าตัดผิดคน ผิดชนิด ผิดตำแหน่ง การลืมสิ่งตกค้างจากการ ผ่าตัด การส่งบุตรผิดคน เป้นต้น ตัวชี้วัด ด้านสิ่งแวดล้อม เช่น น้ำเสียก่อนปล่อยออกจากระบบ กลิ่น 5. ทบทวน ปรับปรุง จัดท าคู่มือการปฏิบัติงานทั่วไปและเฉพาะสาขา ปีละ 1 ครั้ง สนับสนุนการ จัดท าแนว ปฏิบัติที่ดีรายโรคที่สำคัญสอดคล้องกับบริบทของหอผู้ป่วย/หน่วยงาน โดยใช้หลักฐานเชิง ประจักษ์ งานวิจัย นวัตกรรม 6. จัดทำคู่มือการบริหารความเสี่ยง 7. การบริหารความเสี่ยง ดำเนินการดังนี้ 7.1 แต่งตั้งคณะกรรมการบริหารความเสี่ยงระดับองค์กรพยาบาลและมอบหมายให้มีพยาบาลที่ รับผิดชอบ ติดตาม รวบรวมอุบัติการณ์ความเสี่ยงระดับหอผู้ป่วยทุกหอ 7.2 หัวหน้าพยาบาล หัวหน้ากลุ่มงานการพยาบาล หัวหน้าหอผู้ป่วย หัวหน้างานร่วมเป็น คณะกรรมการบริหารความเสี่ยงระดับโรงพยาบาล 7.3 กำหนดให้ทุกหอผู้ป่วย/หน่วยงานเก็บรวบรวมและรายงานอุบัติการณ์ความเสี่ยงแบบ Real time ความเสี่ยงระดับ E ขึ้นไป ให้ทำการทบทวน 8. กำหนดนโยบายการปฏิบัติตามจริยธรรมและจรรยาบรรณวิชาชีพ แต่งตั้งคณะกรรมการจริยธรรม ใน กานำนโยบายลงสู่การปฏิบัติและติดตามรายงานอุบัติการณ์ด้านจริยธรรม 9. การนิเทศ ติดตามการปฏิบัติตามนโยบาย แนวทาง รายงานผลการนิเทศต่อผู้บริหารตามลำดับ ข. การดำเนินงานอย่างมีจริยธรรม แนวทางปฏิบัติ 1. กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาลดำเนินงานด้านจริยธรรมตามมาตรฐานวิชาชีพ ดังต่อไปนี้ 1.1 กำหนดแนวทางการปฏิบัติตามจริยธรรมและจรรยาบรรณวิชาชีพของบุคลากร ทางการพยาบาล โดย หัวหน้าพยาบาลและผู้บริหารทางการพยาบาลทุกระดับ ปฏิบัติตนเป็นแบบอย่าง ภายใต้กฎหมาย และจริยธรรม จรรยาบรรณวิชาชีพ มาตรฐานวิชาชีพการพยาบาล และการผดุงครรภ์ตาม กรอบของสภาการพยาบาล และมีการสนับสนุนให้ผู้บริหารทุกระดับเข้ารับการอบรมเพื่อพัฒนาด้าน กฎหมาย จริยธรรม และจรรยาบรรณวิชาชีพอย่างต่อเนื่อง ส่งเสริมให้ผู้บริหารทุกระดับมุ่งเน้นใช้ค่านิยม MOPH KNH NURSES ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงจริยธรรมจรรยาบรรณวิชาชีพ นอกจากนี้กําหนดให้หัวหน้า หน่วยงานทุกคนเข้ารับการอบรมจริยธรรม และกฎหมายวิชาชีพ จัดระบบการบริการในหน่วยงานให้มีการ ปฏิบัติตามมาตรฐานวิชาชีพ และมีอิสระในการตัดสินใจเชิงวิชาชีพ สำหรับการปฏิบัติงานพยาบาลที่มา ทำงานใหม่จะมีการสอนเรื่องจริยธรรม พาไปไหว้พระพุทธรูปประจำโรงพยาบาล ไหว้ศาลพระภูมิ ในส่วน
9 ของหอผู้ป่วยจะมีพระพุทธรูปให้สักการะบูชา กฎหมายที่ผู้บริหารทางการพยาบาลมุ่งมั่นประพฤติปฏิบัติ ตาม ได้แก่ กฎหมายข้าราชการพลเรือน กับกฎหมายการพยาบาลและการผดุงครรภ์ 2540 คือ การทำงาน ด้วยความขยัน ตรงต่อเวลา ซื่อสัตย์สุจริตต่อหน้าที่ จริยธรรมที่ยึดปฏิบัติ คือการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความ เมตตา กรุณา โอบอ้อมอารี ปฏิบัติต่อผู้ป่วยทุกคนอย่างยุติธรรม ไม่คำนึงถึงความแตกต่าง เป็นตัวอย่างที่ดี ในด้านการดำเนินชีวิต ใจกว้างยอมรับฟังพร้อมที่จะปรับเปลี่ยนและพัฒนา 1.2 ติดตามตรวจสอบบุคลากรทางการพยาบาล ให้มีการปฏิบัติตามแนวทางที่กำหนด 1.3 จัดการข้อร้องเรียนด้านจริยธรรมของบุคลากรทางการพยาบาลอย่างรวดเร็วและ ทันต่อเหตุการณ์ 1.4 นำผลการติดตามตรวจสอบและข้อร้องเรียนด้านจริยธรรมของบุคลากรทางการ พยาบาลมาพัฒนาพฤติกรรมบริการและการให้บริการสุขภาพอย่างต่อเนื่อง มีการประเมินพฤติกรรมด้าน จริยธรรมทุก 1 ปี โดยใช้แบบฟอร์มการประเมินของสภาการพยาบาล ผลการประเมินด้านจริยธรรมทั่วไป ได้ 92.35% ข้อที่ได้คะแนนน้อยสุดคือ การปฏิบัติงานด้วยการใช้ชีวิตเรียบง่ายไม่ฟุ้งเฟ้อ กระตุ้นเตือนใน การประชุมทุก 1 เดือน และปฏิบัติตัวเป็นแบบอย่าง หัวหน้าพยาบาลติดตามช่วยเหลือ แก้ไขเป็นรายกรณีที่ พบปัญหา โดยการประสานหางานให้ทำเพื่อเพิ่มรายได้ ค.การให้การสนับสนุนต่อชุมชนที่สำคัญ แนวทางปฏิบัติ 1. โครงสร้างการบริหารกลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล มีสายประสานงานกับงานบริการปฐมภูมิในการ เชื่อมโยง การดูแลรักษาผู้ป่วยต่อเนื่องที่บ้านครอบคลุมการรักษา การส่งเสริมสุขภาพ การฟื้นฟูสภาพและ การป้องกันโรคในชุมชน ในเขตเมือง โดยประสานความร่วมมือผ่านอาสาสมัครในชุมชน องค์การบริหาร ตำบล ส่วนจังหวัด ส่วนท้องถิ่น เทศบาล เมือง 2. ร่วมกับกลุ่มงานเวชกรรมสังคมในการก าหนดเกณฑ์คัดเลือกชุมชนที่สำคัญในการจัดทำแผน สนับสนุน แก่ชุมชนในการดูแลสุขภาพภายในชุมชน 3. วิเคราะห์ปัญหา กำหนดแนวทางการสนับสนุนด้านทรัพยากรและวิชาการที่จำเป็นสอดคล้องกับ ปัญหาและ ความต้องการ 4. ประสานและสร้างความร่วมมือกับองค์กรในชุมชนและองค์กรอื่นๆ ในการจัดบริการชุมชน 5. ติดตามประเมินผลการดำเนินงาน มาตรฐานที่ 3 การจัดทำยุทธศาสตร์ กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล กำหนดกระบวนการจัดทำยุทธศาสตร์ เป้าประสงค์เชิงยุทธศาสตร์ และยกระดับความสามารถในการแข่งขัน รวมถึงการกำหนดผลการดำเนินการโดยรวมและความสำเร็จใน อนาคต ก. กระบวนการจัดทำยุทธศาสตร์ แนวทางปฏิบัติ 1. กระบวนการวางแผนเชิงกลยุทธ์ของกลุ่มภารกิจด้านการพยาบาลโรงพยาบาลพระนารายณ์ มหาราช มีกระบวนการวางแผนเชิงกลยุทธ์ นำโดยหัวหน้าพยาบาล ร่วมกับคณะกรรมการบริหารกลุ่ม ภารกิจด้านการพยาบาลร่วมจัดทำแผนยุทธศาสตร์ ระยะยาว 5 ปีตั้งแต่ ปี 2561–2565 และ ในปี 2566–
10 2570 ซึ่งเป็นแผนยุทธศาสตร์ในปัจจุบัน และจัดให้มีการทำแผนปฏิบัติการ (Action plan) ทุก 1 ปี แต่งตั้ง รองหัวหน้าพยาบาลด้านบริหาร มีหน้าที่กำกับติดตาม แผนงานและโครงการให้มีการปฏิบัติตามแผน ยุทธศาสตร์ได้อย่างต่อเนื่อง จัดทำวิธีปฏิบัติงาน (SOP) กำกับติดตามแผน โดยมีการทบทวนแผน ยุทธศาสตร์ทุก 5 ปี ในการจัดทำแผนยุทธศาสตร์ปี 2566-2570 คณะกรรมการบริหารกลุ่มภารกิจด้านการ พยาบาลได้ศึกษาแนวคิดยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ด้านสาธารณสุข แผนยุทธศาสตร์กองการพยาบาล และ เป้าหมายกระทรวงสาธารณสุข แผนยุทธศาสตร์โรงพยาบาลพระนารายณ์มหาราช วิเคราะห์สถานการณ์ องค์กร เพื่อนำมาจัดทำแผนยุทธศาสตร์ 2. คณะกรรมการบริหารกลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล มอบหมายผู้รับผิดชอบตามโครงสร้าง เช่น รองหัวหน้าพยาบาลด้านบริการพยาบาลรับผิดชอบการด้านบริการพยาบาล รองหัวหน้าพยาบาลด้าน บริหารรับผิดชอบด้านบุคลากร เป็นต้น จัดทำแผนยุทธศาสตร์ในงานที่รับผิดชอบเพื่อขับเคลื่อนให้บรรลุ วิสัยทัศน์ พันธกิจ เข็มมุ่ง ขององค์กร มีการกำหนดวัตถุประสงค์ ตัวชี้วัด และ แผนกลยุทธ์ กำหนด แผนปฏิบัติราชการ เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ 3. คณะกรรมการบริหารกลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล รวบรวมแผนงานจากผู้รับผิดชอบ เข้าพิจารณา ในวาระประชุมกลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล เมื่อมติที่ประชุมเห็นชอบ จัดทำเป็นแผนของกลุ่มภารกิจด้าน การพยาบาล หัวหน้าพยาบาลถ่ายทอดแผนให้ทุกหน่วยงานทราบในวาระประชุมหัวหน้าพยาบาลพบ หัวหน้าหอผู้ป่วย/หน่วยงาน และหัวหน้ากลุ่มงานการพยาบาล ถ่ายทอดในหน่วยงานที่รับผิดชอบในกลุ่ม งานการพยาบาลนั้นๆ เพื่อจัดทำแผนปฏิบัติการของกลุ่มงานการพยาบาล และของหอผู้ป่วย มีการนำแผน ลงสู่การปฏิบัติครอบคลุมตามหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับแผนนั้นๆ และติดตามประเมินผล 4. ระยะเวลาประเมินผลกำหนดให้ทุกกลุ่มงานการพยาบาลติดตามทุก 3 เดือน กลุ่มภารกิจด้านการ พยาบาลติดตามทุก 6 เดือน มีการปรับแผนเพื่อให้บรรลุตามเป้าหมาย และจัดทำแผนเพิ่มเติมใน สถานการณ์เร่งด่วน เช่น สถานการณ์โรคระบาด 5. การวางแผนเชิงกลยุทธ์ มีการวิเคราะห์ และกำหนดความท้าทายเชิงกลยุทธ์ และความได้เปรียบ เชิงกลยุทธ์ขององค์กร รวมถึงมีกระบวนการ/วิธีการที่ช่วยให้องค์กรทราบถึงจุดอ่อนหรือจุดบอดที่อาจ มองข้าม โดยคณะกรรมการบริหารการพยาบาล มีการวิเคราะห์จุดอ่อน จุดแข็ง ปัจจัยภายใน สถานการณ์ ภายใน โดยคำนึงถึงโรคทางยุทธศาสตร์ที่เป็นปัญหา ปัจจัยที่มีผลกระทบในด้านต่างๆของมาตรฐาน HA บูรณาการกับ MC Kinsey’s 7-S และสถานการณ์ภายนอกที่มีผลต่อความท้าท้ายเชิงกลยุทธ์ โดยใช้ PEST Model เช่น ด้านประชากร สังคม เศรษฐกิจและเทคโนโลยี การเมือง บริหาร ทำให้เห็นความได้เปรียบ เชิงกลยุทธ์ที่เป็นจุดแข็งของกลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล เช่น ความเชี่ยวชาญของ APN/NCM นโยบาย การพัฒนาคุณภาพที่เป็นเลิศเป็นนโยบายของกระทรวงสาธารณสุข และโรงพยาบาล นำผล SWOT มา วิเคราะห์เพื่อกำหนดความท้าทาย และความได้เปรียบเชิงกลยุทธ์ขององค์กร เพื่อให้องค์กรทราบถึง จุดอ่อนหรือจุดบอดโดยพิจารณาน้ำหนักความสำคัญแล้วนำมาจัดลำดับทั้งปัจจัยภายนอกและภายใน 6. กระบวนการวางแผนเชิงกลยุทธ์มีการวิเคราะห์ โดยนำผลการวิเคราะห์ SWOT เพื่อมาจัดลำดับ ความสำคัญ และร่วมกับการวิเคราะห์ชุมชน ผลการวิเคราะห์ พบว่า สถานการณ์ในองค์กรมีจุดแข็งและมี ภาวะคุกคาม มากกว่าจุดอ่อนและโอกาสพัฒนา ซึ่งภาวะคุกคามเกิดจากความต้องการ ของผู้ใช้บริการที่ เปลี่ยนไป ได้แก่ สถานการณ์โรคระบาด COVID-19 การเข้าสู่สังคม ผู้สูงอายุนำไปจัดทำแผนยุทธ์ศาสตร์ ได้แก่ ยุทธ์ศาสตร์ที่ 1 พัฒนาคุณภาพระบบบริการพยาบาล เป็นกลยุทธ์เชิงรุก มี 4 แผนงาน 9 โครงการ วิเคราะห์จากจุดแข็ง และโอกาสพัฒนา ยุทธ์ศาสตร์ที่ 2 พัฒนาการบริการทางการพยาบาลสู่ยุคดิจิทัล มี 3 แผนงาน 7 โครงการ เป็นกลยุทธ์เชิงรับ วิเคราะห์จากจุดแข็ง และความท้าท้ายหรืออุปสรรค กลยุทธ์แก้ไข
11 วิเคราะห์จาก จุดอ่อน และโอกาสพัฒนา มี 2 กลยุทธ์ได้แก่ ยุทธ์ศาสตร์ที่ 3 พัฒนาศักยภาพบุคลากร ทางการพยาบาลเพื่อก้าวสู่องค์กรสมรรถนะสูง และมีคุณภาพชีวิตในการทำงานที่ดีขึ้น พัฒนาควบคุมกำกับ นิเทศ ระบบบริการพยาบาลให้มีคุณภาพ มี4 แผนงาน 6 โครงการ และยุทธ์ศาสตร์ที่ 4 การสื่อสารมี ประสิทธิภาพ สร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพในทุกมิติ มี 3 แผนงาน 3 โครงการ สุดท้าย กลยุทธ์เชิงป้องกัน ยุทธศาสตร์ที่ 5บริหารจัดการด้านการเงิน และการคลังอย่างมีประสิทธิภาพ 2 แผนงาน 6 โครงการ เพื่อนำ แผนงาน โครงการเป็นแนวทางในการจัดทำแผนปฏิบัติการของกลุ่มภารกิจด้านการพยาบาลต่อไป 7. การกำหนดวัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ 7.1 จัดทำวัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ที่สำคัญ และกำหนดกรอบเวลาที่จะบรรลุวัตถุประสงค์ เชิงกลยุทธ์โดยกลุ่มภารกิจด้านการพยาบาลกำหนดทิศทางของกลยุทธ์ในการบริหารโดยใช้กรอบแนวคิด ของ Balance Score card : BSC แผนที่ยุทธศาสตร์ตาม BSC และได้จัดทำวัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ เพื่อให้การดำเนินการ มีเป้าหมาย ครอบคลุม 5 แผนกลยุทธ์ซึ่งมีทั้งหมด 13 แผนงาน 29 โครงการ กำหนดวัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ 7 ข้อ กำหนดกรอบระยะเวลาแผนกลยุทธ์ 5 ปีคือ ปี พ.ศ. 2566-2570 ดังนี้ 1. เพื่อลดความพิการ ลดป่วย เพิ่มคุณภาพชีวิตโรคตามยุทธศาสตร์และโรคสำคัญของแต่ละแผนก 2. เพิ่มความสามารถในการปฏิบัติกิจวัตรประจำวัน (ADL) 3. ใช้ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่ทันสมัย มาสนับสนุนระบบบริการสุขภาพ 4. การสื่อสารเข้าถึงง่าย ทันสมัย ทันเหตุการณ์ 5. บุคลากรทางการพยาบาลมีสมรรถนะสูง 6. ประชาชนภายในจังหวัดลพบุรีตระหนักรู้ในสุขภาพดีและสามารถดูแลตนเองเบื้องต้นได้ 7. บุคลากรทางการพยาบาลมีความสุขและมีคุณภาพชีวิตในการทำงานที่ดีขึ้น 7.2 กำหนดวัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ที่ตอบสนองความท้าทายโดยใช้สมรรถนะหลัก คือ ความเชี่ยวชาญขององค์กร มาจากนโยบายการจัดบริการสุขภาพในรูปแบบเขตสุขภาพ และการบริหาร จัดการในรูปแบบเครือข่ายนโยบายพัฒนาด้านความเป็นเลิศในสาขาต่างๆ และความได้เปรียบที่เป็นจุดแข็ง เช่น มีพยาบาลครอบคลุมทุกหน่วยงานในสาขาการพยาบาลเฉพาะทาง ที่สำคัญ มีพยาบาลผู้เชี่ยวชาญที่ เป็นต้นแบบที่ดี โดยนำมากำหนดให้เป็นวัตถุประสงค์กลยุทธ์เชิงรุกในยุทธศาสตร์ที่ 1 พัฒนาคุณภาพระบบ บริการพยาบาล มีวัตถุประสงค์ เชิงกลยุทธ์ คือลดความพิการ ลดป่วย เพิ่มคุณภาพชีวิตโรคตามยุทธศาสตร์ และโรคสำคัญของแต่ละแผนก เพิ่มความสามารถในการปฏิบัติกิจวัตรประจำวัน (ADL) กลุ่มภารกิจด้าน การพยาบาลได้นำมาจัดทำแผนปฏิบัติการโครงการในปี 2566 เช่น โครงการพัฒนาระบบการแบบบูรณา การในโรค 3S พัฒนาการดูแลผู้ป่วยประคับประคอง โครงการพัฒนาศักยภาพบุคลากรพยาบาลตามกลุ่ม โรคสำคัญ ทั้งนี้เพื่อตอบสนองความต้องการด้านสุขภาพของผู้ใช้บริการ และชุมชน 7.3 กำหนดวัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์เกี่ยวกับการสร้างเสริมสุขภาพ มุ่งที่ผลลัพธ์สุขภาพที่ดี ขึ้นของผู้ใช้บริการ ครอบครัว ชุมชน บุคลากร และสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการมีสุขภาพดีโดยวัตถุประสงค์ เชิงกลยุทธ์ที่เป็นการสร้างเสริมสุขภาพทั้งผู้ใช้บริการ และบุคลากร ด้านผู้ใช้บริการอยู่ในยุทธศาสตร์ที่ 4 การสื่อสารมีประสิทธิภาพ สร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพในทุกมิติ เพื่อให้การสื่อสารเข้าถึงง่าย ทันสมัย ทัน เหตุการณ์และประชาชนภายในจังหวัดลพบุรีตระหนักรู้ในสุขภาพดีและสามารถจัดการดูแลตนเองได้ นำมาจัดทำ แผนปฏิบัติการ เช่น โครงการ Health Literacy ในกลุ่มโรคสำคัญ ได้แก่ Preterm , NCD, 3S
12 ในเรื่องความรู้สู่ประชาชน สร้างสื่อข้อมูลทางการพยาบาล ประชาสัมพันธ์ และเผยแพร่ในทุกช่องทาง เช่น Line official, QR code เพื่อเสริมสร้างความรอบรู้ พัฒนาทักษะการดูแลตนเอง และประเมินความเสี่ยง ต่อโรคสำคัญ (3S) วัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ที่มุ่งผลลัพธ์ด้านบุคลากร อยู่ในยุทธศาสตร์ที่ 3 พัฒนาศักยภาพ บุคลากรทางการพยาบาลเพื่อก้าวสู่องค์กรสมรรถนะสูง และมีคุณภาพชีวิตในการทำงานที่ดีขึ้น มี วัตถุประสงค์บริหารจัดการบุคลากรโดยยึดหลักธรรมาภิบาล บุคลากรมีความสุข สุขภาพดี ได้จัดทำ โครงการการป้องกันการติดเชื้อจากการปฏิบัติงานของบุคลากร โครงการติดตาม และส่งเสริมภาวะสุขภาพ บุคลากร เป็นต้น ในการดูแลสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการมีสุขภาพดีในชุมชน มีแผนปฏิบัติการในกลุ่มผู้สูงอายุ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุจากการพลัดตกหกล้ม มาตรฐานที่ 4 การถ่ายทอดยุทธศาสตร์เพื่อนำไปปฏิบัติ กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล แปลงเป้าประสงค์เชิงยุทธศาสตร์และกลยุทธ์ไปสู่แผนปฏิบัติการ มีการสรุปแผนปฏิบัติการและตัวชี้วัดหลักของผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้อง และมีการคาดการณ์ผลการ ดำเนินการในอนาคตตามตัวชี้วัด ก.การจัดทำแผนปฏิบัติการและการถ่ายทอดแผนเพื่อนำไปปฏิบัติ แนวทางปฏิบัติ 1. มีการจัดทำแผนปฏิบัติการและถ่ายทอดแผนไปสู่การปฏิบัติ และสร้างความตระหนักให้บุคลากรมี บทบาท และมีส่วนร่วมในการปฏิบัติเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ที่สำคัญ โดยมีการจัดทำ Action plan และถ่ายทอดแผนไปสู่การปฏิบัติและสร้างความตระหนักให้บุคลากรมีบทบาท และมีส่วนร่วม คณะกรรมการบริหารการพยาบาล จัดทำแผนยุทธศาสตร์ 5 ปี และดำเนินการจัดทำแผนปฏิบัติการในปี 2566 มีแผนปฏิบัติการ โครงการที่สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ จำนวน 29 โครงการ ได้วางแนวทาง เพื่อให้ผู้บริหารทุกระดับ และบุคลากรได้มีส่วนร่วมในการปฏิบัติโดยมอบหมายให้คณะอนุกรรมการด้าน บริหาร และคณะอนุกรรมการด้านการพยาบาลเป็นผู้รับผิดชอบหลักในแต่ละโครงการ แผนปฏิบัติการ และ ถ่ายทอดแผนปฏิบัติการในการประชุมหัวหน้าหอผู้ป่วย/หน่วยงาน และให้หัวหน้าหอผู้ป่วย/หน่วยงาน ร่วมกับผู้ปฏิบัติวิเคราะห์หน่วยงาน จัดทำแผนปฏิบัติการให้สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ของกลุ่มภารกิจ ด้านการพยาบาล อย่างน้อยหน่วยงานละ 1 โครงการที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ที่ 1 ( 1 ward : 1 Plan) 2. มีระบบการวัดผลโดยรวมของแผนปฏิบัติการที่เสริมสร้างให้กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล ดำเนินการสอดคล้องไปในแนวทาง โดยกำหนดตัวชี้วัดเพื่อติดตามผลดำเนินการ ในการประชุม คณะกรรมการบริหารกลุ่มภารกิจด้านการพยาบาลทุกเดือนตามแผนปฏิบัติการของกลุ่มภารกิจด้านการ พยาบาล และกำหนดให้ทีมคณะอนุกรรมการด้านบริหารรับผิดชอบติดตามและวิเคราะห์ตัวชี้วัดทุก 3 เดือน มีการประเมินประสิทธิภาพและประสิทธิผลของแผนยุทธศาสตร์ และพิจารณาปรับเปลี่ยนเพื่อให้เกิดความ สอดคล้องกับกลยุทธ์ โดยปรับแผนปฏิบัติการ ทุก 6 เดือน 3. มีการทบทวน ปรับเปลี่ยนแผนปฏิบัติการ และนำแผนที่ปรับเปลี่ยนไปสู่การปฏิบัติ โดยกลุ่ม ภารกิจด้านการพยาบาลจัดทำแนวทางทบทวน ปรับเปลี่ยนแผนปฏิบัติการ โดยกำหนดให้มีการติดตาม ความก้าวหน้าในการปฏิบัติตามแผนกลางปีหน่วยงานจัดทำแผนปฏิบัติการครบถ้วนตามกำหนดเวลาร้อย ละ 100 แผนงานโครงการ ของหน่วยงานได้ดำเนินการแล้วและระหว่างดำเนินการ และกำหนดให้หัวหน้า กลุ่มงาน หัวหน้างานหัวหน้าหอผู้ป่วย/หน่วยงาน กำกับติดตามการปฏิบัติตามแผน และ ผลดำเนินการทุก 1 เดือน คณะอนุกรรมการด้านบริหาร ติดตามแผนปฏิบัติการทุก 3 เดือน เพื่อรายงานการปฏิบัติการตาม
13 แผนต่อคณะกรรมการบริหารกลุ่มภารกิจด้านการพยาบาลทุก 6 เดือน ปี 2565 มีการปรับกิจกรรม เช่น การปรับกิจกรรมในโครงการเตรียมความพร้อมในการบริหารการพยาบาลรองรับสถานการณ์การแพร่ ระบาดของ COVID-19 ในด้านการบริหารจัดการอัตรากำลังบุคลากร จำนวนหอผู้ป่วย แนวทางการรับ บริการเพื่อให้สอดคล้องตามสถานการณ์ COVID-19 จากระยะการติดเชื้อที่รุนแรงจนถึงการเตรียมความ พร้อมการจัดการบริการเพื่อเข้าสู่การเป็นโรคประจำถิ่น เป็นต้น 4. มีการจัดทำแผนด้านทรัพยากรบุคคลที่สำคัญ โดยกลุ่มภารกิจด้านการพยาบาลมีการจัดทำแผน อัตรากำลังทุก 5 ปีและแผนประจำปี โดยมีการวิเคราะห์ความต้องการพยาบาล พิจารณาจาก ผู้เกษียณ การขยายงานที่เพิ่มขึ้น การลาออกโอนย้าย ความต้องการพยาบาลตามเกณฑ์ของสภาการพยาบาล แผน ด้านขีดความสามารถของบุคลากร จัดทำ Training need เพื่อตอบสนองสมรรถนะหลักของโรงพยาบาล พระนารายณ์ มหาราชและการขยายบ ริการตาม Service Plan มอบ หมายผู้รับผิดชอบคือ คณะอนุกรรมการด้านบริหาร 5. กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาลมีการสร้างความมั่นใจเกี่ยวกับทรัพยากรด้านการเงินและด้านอื่น ๆ ให้มีความพร้อมใช้ในการสนับสนุนแผนปฏิบัติการจนประสบความสำเร็จโดย หัวหน้าพยาบาล คณะอนุกรรมการด้านบริหาร เข้าร่วมกับคณะกรรมการบริหารทรัพยากรบุคคลของโรงพยาบาลพระ นารายณ์มหาราชพิจารณาจัดสรรงบประมาณการจัดทำแผน และโครงการทุก 1 ปี ทำให้กลุ่มภารกิจด้าน การพยาบาลได้รับการสนับสนุนงบประมาณในการพัฒนางานอย่างต่อเนื่อง เช่น การอบรมศึกษาหลักสูตร ระยะสั้น เฉพาะทางการพยาบาลในสาขาต่างๆ โดยจัดลำดับความสำคัญตามการตอบสนองวิสัยทัศน์ พันธ กิจของโรงพยาบาล 6. กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาลมีการทบทวนเพื่อปรับเปลี่ยนแผนบุคลากรที่สำคัญ โดยมีการ ทบทวนในคณะกรรมการบริหารกลุ่มภารกิจด้านการพยาบาลทุก 6 เดือน โดยเฉพาะการอบรม 4 เดือน กรณีงดหลักสูตรหรือสอบไม่ผ่าน และทุกครั้งที่มีสถานการณ์ไม่ปกติ เช่น ในสถานการณ์ที่มีโรคระบาด COVID-19 ในระยะที่มีการระบาดรุนแรง ต้องปรับแผนบุคลากรโดยเกลี่ยอัตรากำลังจากหน่วยงานต่าง ๆ ในกลุ่มภารกิจด้านการพยาบาลและเตรียมความพร้อมขีดความสามารถในการดูแลผู้ป่วยโรคติดเชื้อ เพื่อ เพิ่มอัตรากำลังในหอผู้ป่วย cohort ward ด้านทรัพยากรบุคคลมีการปรับอัตรากำลังให้มีการใช้ร่วมกันในสาขาเดียวกัน ส่วนด้านวัสดุ อุปกรณ์ทางการแพทย์มีการปรับให้เหมาะสมกับวงเงินที่มีจำกัดของโรงพยาบาล ข.การคาดการณ์ผลการดำเนินงาน แนวทางปฏิบัติ 1. กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาลมีการคาดการณ์ผลดำเนินการมีการกำหนดเป้าประสงค์และการ เทียบเคียงตัวชี้วัด ที่เปรียบเทียบกับผลดำเนินการย้อนหลัง 3 ปี และตัวชี้วัดที่มีการกำหนดเป้าประสงค์ เปรียบเทียบกับ หน่วยงานภายนอก เช่น Thailand Hospital Indicator Program: THIP ของสถาบัน รับรองคุณภาพสถานพยาบาล (องค์การมหาชน) เช่น อัตราการเกิดแผลกดทับ อัตราการ ติดเชื้อที่มีรายงาน ใน Web link ของกลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล การกำหนดเป้าหมายตัวชี้วัดเทียบกับเป้าหมายของ กระทรวงสาธารณสุขและดูแนวโน้มเทียบเคียงกับที่ผ่านมา เทียบเคียงกับองค์กรภายนอกในเขตบริการ สุขภาพที่ 4 2. มีการติดตามกำกับความก้าวหน้าของผลการดำเนินการตามที่คาดการณ์ไว้โดยกลุ่มภารกิจด้านการ
14 พยาบาลจัดทำผังกำกับงานตามระยะเวลา ( Gantt chart) และมีการติดตามกำกับความก้าวหน้าของผล การดำเนินงานกลุ่มภารกิจด้านการ พยาบาล พยาบาลจัดทำแผนกำกับการติดตามการปฏิบัติตามแผน กำหนดให้คณะกรรมการกลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล มีการกำกับติดตามการปฏิบัติตามแผน และผล ดำเนินการ ทุก 3 เดือน 3. มีการกำหนดวิธีการตอบสนองต่อความแตกต่างของผลการดำเนินงาน โดยการตอบสนองต่อผล ดำเนินงานที่ไม่เป็นตามเป้าประสงค์ กำหนดให้ผู้รับผิดชอบ แต่ละแผนปฏิบัติการได้วิเคราะห์ เพื่อหาแนว ทางแก้ไข เช่น การติดตามแนวโน้มของผลการดำเนินงานเทียบเคียงกับโรงพยาบาลในระดับเดียวกัน ในเขต บริการที่ 4 เช่น โครงการ Sepsis, Stroke, STEMI, Multiple Trauma, Head Injury, DM, HT การตอบสนองต่อความแตกต่างของผลการดำเนินงาน ในการปรับระบบบริการร่วมกับสหสาขาวิชาชีพ เช่น จากการทบทวนการดูแลผู้ป่วย Sepsis พบว่าการคัดกรองผู้ป่วยเพื่อเข้าสู่ระบบการดูแลยังพบปัญหา ล่าช้า จึงปรับระบบการคัดกรองที่ ER โดยใช้ NEWS Score และในหอผู้ป่วยใช้ SOS score ทุกแผนก เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลตาม Early Goal Directed Therapy มาตรฐานที่ 5 ความรู้เกี่ยวกับผู้ใช้บริการและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล เรียนรู้เกี่ยวกับผู้ใช้บริการและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ด้วยการ คาดการณ์ความต้องการ/ความคาดหวัง และความนิยมชมชอบของผู้ใช้บริการและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอย่าง ต่อเนื่อง เพื่อให้บริการพยาบาลตอบสนองผู้ใช้บริการและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียมากที่สุด ก. ความรู้เกี่ยวกับผู้ใช้บริการและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย แนวทางปฏิบัติ 1.กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล เรียนรู้เกี่ยวกับผู้ใช้บริการและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ด้วยการดำเนินการ ดังนี้ 1.1 การรับฟังผู้ใช้บริการ 1)ระบุวิธีการจำแนกกลุ่มของผู้ใช้บริการและผู้รับผลงานอื่นที่เกี่ยวข้องและกำหนด ขอบเขตของบริการพยาบาลสำหรับกลุ่มผู้ใช้บริการและผู้รับผลงานอื่นที่เกี่ยวข้อง โดยกลุ่มภารกิจด้านการ พยาบาล ได้ระบุวิธีการจำแนกกลุ่ม และกำหนดขอบเขตบริการพยาบาลของกลุ่มผู้ใช้บริการ และผู้รับ ผลงานอื่นที่เกี่ยวข้อง ตามเข็มมุ่งของโรงพยาบาล ดังนี้ -กลุ่มผู้ใช้บริการ แบ่งเป็น ผู้ป่วยนอก ผู้ป่วยใน ญาติครอบครัว และ/ผู้ดูแล/ ชุมชน -กลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ภายใน ได้แก่แพทย์ ภายนอก ได้แก่ โรงพยาบาลชุมชน องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น - กำหนดขอบเขตของบริการพยาบาล ในกลุ่มผู้ป่วย 3S และโรคสำคัญแต่ละสาขาการพยาบาล 2) กำหนดวิธีการที่เหมาะสมในการรับฟังและเรียนรู้ความต้องการและความคาดหวังของ ผู้ใช้บริการและผู้รับผลงานอื่น โดยกลุ่มภารกิจด้านการพยาบาลมีนโยบายในการรับฟังความคิดเห็นของ ผู้ใช้บริการ และผู้รับผลงานอื่นต่อการพยาบาล โดยกำหนดวิธีการ/รูปแบบการรับฟังและเรียนรู้ความ ต้องการและความคาดหวัง ดังนี้ - แบบสอบถามความพึงพอใจของผู้ใช้บริการของกลุ่มภารกิจด้านการพยาบาลปีละ 2 ครั้ง (IP voice, OP voice) - Web page รับข้อร้องเรียนของโรงพยาบาลพระนารายณ์มหาราช จ.ลพบุรี
15 - Facebook ของโรงพยาบาลพระนารายณ์มหาราช จ.ลพบุรี - การรับฟังข้อคิดเห็นของผู้ใช้บริการผ่านทาง QR code - ตู้รับฟังความคิดเห็น - รับฟังเสียงสะท้อนทางวาจาจากผู้ใช้บริการ - Leadership walk round - แบบสำรวจความคิดเห็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียผ่าน QR Code จากการรับฟังความต้องการ และความคาดหวังของผู้ใช้บริการและผู้รับผลงานอื่น 3) ปรับปรุงวิธีการรับฟังและเรียนรู้ให้ทันกับความต้องการของผู้ใช้บริการและผู้รับ ผลงานอื่น โดยกลุ่มภารกิจด้านการพยาบาลมีการปรับปรุงรูปแบบ/วิธีการรับฟังจากผู้ใช้บริการใน หลากหลายช่องทาง ให้ทันกับความต้องการของผู้ใช้บริการ และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ได้แก่ติด QR code รับข้อคิดเห็นของทุกหน่วยงาน ติดเบอร์โทรศัพท์หอผู้ป่วย หน่วยงานจัดทำ /กระดานบอร์ด “ท่านถาม เราตอบ”มี Facebook ของโรงพยาบาล อีกทั้งยังเพิ่มช่องทางการรับฟัง เชิงรุกจากผู้ใช้บริการโดย การสอบถาม ตรวจเยี่ยมอาการ Morning round, Nursing round ของหัวหน้าหอผู้ป่วย/หน่วยงาน และทีมการพยาบาล ท ั้ งนี้เพ ื่อให้ทันกับความต้องการของผู้ใช้บริการ และการแก้ไขปัญหาหน้างานอย่าง ทันท่วงทีโดยกลุ่มภารกิจด้านการพยาบาลกำหนดให้มีการนำความคิดเห็น/ข้อเสนอแนะของผู้รับบริการมา ปรับปรุงแก้ไขอย่างต่อเนื่อง ดังต่อไปนี้ - ญาติผู้ป่วย Septic shock ต้องการให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลที่รวดเร็วปลอดภัยในงานห้อง ผู้ป่วยหนัก จึงได้ร่วมกับองค์กรแพทย์ปรับระบบการดูแลผู้ป่วย Septic shock แบบ Fast track เข้า ICU กรณี ICU เต็มมีระบบการจองเตียง ICU และ ให้การดูแลผู้ป่วยนอก ICU แบบพยาบาลเจ้าของไข้ (Nurse case manager) จนผู้ป่วยพ้นระยะวิกฤต- ญาติผู้ป่วย Stroke ขาดความมั่นใจและวิตกกังวลเกี่ยวกับอาการที่หลงเหลือ เมื่อกลับไปอยู่บ้าน จึงได้พัฒนาการวางแผนจำหน่ายผู้ป่วย Stroke โดยจัดรูปแบบการให้ความรู้ตามระดับ ADL - ผู้ป่วย STEMI โรงพยาบาลที่มีศักยภาพสูงกว่า Feed back ผู้ป่วยกลุ่ม STEMI พบปัญหา เตรียมผู้ป่วยเพื่อส่งต่อไม่พร้อม เช่น Desaturation จากได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอระหว่างนำส่ง จึงเพิ่มการ ตรวจสอบความพร้อมของออกซิเจนโดยพยาบาลนำส่งผู้ป่วย STEMI ที่ส่งไปสวนหัวใจโรงพยาบาลอนันทมหิดล พบปัญหาส่งผู้ป่วย STEMI ที่ได้รับยา Enoxaparin น้อยกว่า 12 ชั่วโมงไปสวนหัวใจ ทำให้ไม่สามารถสวนหัวใจ ได้ต้องส่งผู้ป่วยกลับส่งผลให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาล่าช้า จึงกำหนดแนวทางการสื่อสารเรื่องการได้รับยา Enoxaparin ทำสัญลักษณ์แจ้งเตือนการให้ยาติดหน้าป้ายและส่งต่อข้อมูล - จากนโยบาย Set zero MMR จึงได้กำหนดการเยี่ยมหญิงตั้งครรภ์กลุ่ม High risk pregnancy ในชุมชนโดยพยาบาล รพ.สต. ผ่าน Smart COC ได้รับ Feed back ว่าไม่มีความรู้และทักษะในการดูแลจึงได้ จัดทำแนวทางการเยี่ยมบ้านกลุ่ม High risk pregnancy ผลการดำเนินการหลังใช้แนวทางนี้ไม่พบอุบัติการณ์ มารดาเสียชีวิตจากโรคทางอายุรกรรม และพยาบาล รพ.สต. มีความพึงพอใจต่อแนวทาง ปฏิบัติรวมถึงขยายแนวทางปฏิบัตินี้ใช้ทั้งจังหวัดผ่าน MCH Board - จากการทบทวนข้อคิดเห็นของผู้ป่วยและผู้ดูแลที่ on colostomy พบว่าส่วนใหญ่ขาดความมั่นใจ ในการดูแล colostomy จึงได้ปรับระบบการดูแล สอน และสาธิตโดยใช้ Model ให้ญาติทำให้ดูจนเกิดความ มั่นใจในการดูแล colostomy ตั้งแต่ก่อนทำผ่าตัด โดย NCM เมื่อผู้ป่วยจำหน่ายกลับบ้านหากมีปัญหาให้
16 สอบถามมาทาง line group ostomy care เพื่อให้คำปรึกษากรณีที่ผู้ป่วยเดินทางมาโรงพยาบาลไม่สะดวกและ มีภาวะแทรกซ้อน NCM จะไปช่วยเหลือดูแลที่บ้าน กรณีนอกเขตอำเภอเมือง จะส่งต่อข้อมูลการดูแลผ่าน Smart COC - ผู้ป่วยในกลุ่ม Fracture around the hip ผู้ป่วยสูงอายุและญาติวิตกกังวลกลัวการผ่าตัดและการได้รับยา ระงับความรู้สึก จึงมีวิธีการให้ข้อมูลแบบบูรณาการโดยใช้กระบวนการกลุ่ม (Patient Experience) จากผู้ป่วย ที่ได้รับการผ่าตัดแล้วร่วมกับทีม Fracture Liaison Service โดยมีพยาบาลเป็นผู้ประสานกับทีมสหสาขาเพื่อ ลดภาวะแทรกซ้อน ผู้ป่วยได้รับการผ่าตัดภายใน 3 วันหลัง Admit ผลการดำเนินงานพบว่า ผู้ป่วยจำนวน 230 ราย ได้รับการผ่าตัดภายใน 3 วัน จำนวน 124 ราย คิดเป็น 53.91 % ผู้ป่วยได้รับผ่าตัดหลัง Admit 3 วัน จำนวน 106 ราย คิดเป็น 46.09 % เนื่องจากปัญหาทางอายุรกรรม - จากการทบทวนผู้ป่วยเด็ก Febrile convulsion ที่ชักซ้ำตั้งแต่ครั้งที่ 2 -3 ที่มา Admit ที่หอผู้ป่วยเด็กจากการ สอบถามผู้ดูแล/ผู้ปกครองพบว่าการดูแลเด็กขณะมีไข้ไม่ถูกวิธี ได้แก่ การเช็ดตัวลดไข้ การวัดปรอท การให้ยาลด ไข้ จึงได้พัฒนาการวางแผนจำหน่ายผู้ป่วยเด็กFebrile convulsion ดังนี้ โดยสอนผู้ดูแล/ผู้ปกครอง วัดปรอท ประเมินภาวะไข้จากแถบสี ถ้าอุณหภูมิขึ้นถึงแถบสีแดงให้เด็กรับประทานยาลดไข้ทันทีและเช็ดตัวลดไข้แซ่น้ำอุ่น 5 นาทีแล้วเช็ดตัวลดไข้ต่อ จากนั้นตั้งเวลาเตือนทุก 3 ชั่วโมง ให้เด็กรับประทานยา จนครบ 24 ชั่วโมง ถ้ามีไข้เช็ด ตัวลดไข้ร่วมด้วย - ผู้ป่วยไตวายเรื้อรังที่ได้รับการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมติดเชื้อ COVID-19 ถูกปฏิเสธจาก สถานบริการเดิม จำนวน 238 ครั้ง จึงได้จัดระบบการให้บริการโดยให้ผู้ป่วย Admit และจัดบริการฟอกเลือดที่ Cohort ward ได้ปรับปรุงสถานที่โดยปรับปรุงห้องแยกโรคฟอกเลือดสำหรับผู้ป่วย COVID – 19 ให้ได้มาตรฐาน โดยเพิ่มห้อง Ante room 2 ห้อง ระบบการกรองอากาศโดยใช้เครื่อง Hepa filter ผลลัพธ์ผู้ป่วยกลุ่มนี้ได้รับการ ฟอกเลือดใน Cohort ward จำนวน 238 ครั้ง - จากแบบสำรวจ OP voice ผู้ใช้บริการผู้ป่วยนอก พบว่ามีความพึงพอใจต่อบริการพยาบาล ร้อยละ 81.08 ปัญหาที่พบ คือ ห้องน้ำไม่สะอาด โถส้วมเป็นแบบนั่งยอง จึงได้ปรับปรุงตารางการทำความ สะอาดโดยใช้ Application Line Notify ควบคุมกำกับแม่บ้าน และเปลี่ยนโถส้วมเป็นแบบชักโครก พฤติกรรมบริการ พูดจาไม่ไพเราะ กำกับดูแลโดยหัวหน้างาน และจัดทำมาตรฐานการสนทนากับ ผู้ใช้บริการ (Dialog) ตัวอย่างบทสนทนา รอคิวรับบริการนานจากการทบทวนพบว่า ขั้นตอนการรับบริการ ซ้ำซ้อน จึงได้นำระบบ Lean & Lay out ทุก OPD และ การจองคิว Online ที่ห้องตรวจกระดูก ห้องตรวจ นรีเวช ทำให้ระยะเวลารอคอยจากเดิม ชั่วโมงลดเหลือ 7 ชั่วโมง 4 – 3 - จากเสียงสะท้อนของชุมชนมีความวิตกกังวลว่ามาโรงพยาบาลแล้วจะติดเชื้อ COVID– 19 จึงได้นำระบบบริการส่งยาทางไปรษณีย์,ส่งยาที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลในกลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรังที่มี อาการคงที่ส่งผลให้ผู้ใช้บริการเกิดความพึงพอใจและลดแออัด มาตรฐานที่ 6 ความสัมพันธ์และความพึงพอใจของผู้ใช้บริการและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล สร้างความสัมพันธ์และศึกษาความพึงพอใจของผู้ใช้บริการและผู้ มีส่วนได้ส่วนเสีย เพื่อให้ผู้ใช้บริการและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียพึงพอใจและนำไปสู่การกล่าวถึงในทางที่ดี ก. การสร้างความสัมพันธ์กับผู้ใช้บริการและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
17 แนวทางปฏิบัติ 1. กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาลมีวิธีสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ใช้บริการ และผู้รับผลงานอื่นที่ เกี่ยวข้องโดยมีการกำหนดแนวปฏิบัติเพื่อตอบสนองความต้องการ และเพื่อให้ได้รับความร่วมมือ ได้แก่ผู้รับ ผลงานอื่นที่เกี่ยวข้องโดยมีการกำหนดแนวปฏิบัติเพื่อตอบสนองความต้องการ และเพื่อให้ได้รับความร่วมมือ ได้แก่ 1.1 ผู้ใช้บริการ : ผู้ป่วยใน ผู้ป่วยนอก ญาติ/ผู้ดูแล/ครอบครัวและชุมชน ได้แก่ การ กำหนดแนวปฏิบัติพฤติกรรมบริการ และแนวปฏิบัติเพื่อพิทักษ์สิทธิ์ผู้ป่วย เพื่อตอบสนองความต้องการ และสร้างความเชื่อมั่นศรัทธา และการตอบรับในความร่วมมือทางการพยาบาล ด้วยวิธีการสื่อสารข้อมูลที่ เป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้บริการ นอกจากนี้กลุ่มภารกิจ ด้านการพยาบาลยังได้สร้างความสัมพันธ์กับ ผู้ใช้บริการในงานต่างๆ เช่น - งานผู้ป่วยอุบัติเหตุและฉุกเฉิน มีป้ายแสดงขั้นตอนการให้บริการที่ชัดเจน พยาบาล จุดคัดกรองประชาสัมพันธ์ให้ข้อมูลการให้บริการ แบ่งประเภทผู้ป่วยตามระดับความรุนแรง มอบหมาย พยาบาลหัวหน้าเวรให้ข้อมูลผู้ป่วยและญาติตามประเภทผู้ป่วย จอวีดีทัศน์แสดงสถานะผู้ป่วยโดยระบุสีเพื่อ แบ่งประเภทผู้ป่วย สีแดงผู้ป่วยประเภท 1 ต้องได้รับการตรวจทันที สีชมพูผู้ป่วยประเภท 2 ต้องได้รับการ ช่วยเหลือภายใน 10 นาที สีเหลืองผู้ป่วยประเภท 3 ต้องได้รับการช่วยเหลือภายใน 30 นาทีและมีบัตรสี แสดงประเภทผู้ป่วยแบ่งเป็น 3 ส่วน ส่วนที่ 1 ติดที่ OPD card ส่วนที่ 2 ติดป้ายท้ายเตียงผู้ป่วย ส่วนที่ 3 ให้ผู้ป่วย - งานห้องผู้ป่วยหนักมีระบบปฐมนิเทศผู้ป่วย/ญาติ แจ้งอาการผู้ป่วยผ่านระบบ VDO call โทรศัพท์แจ้งญาติกรณีผู้ป่วยมีอาการเปลี่ยนแปลง/วางแผนย้ายไปหอผู้ป่วยสามัญ และญาติสามารถ โทรศัพท์สอบถามอาการได้ - งานผู้ป่วยนอก มีพยาบาลคัดกรองและให้ข้อมูลผู้ใช้บริการ จัดรถนั่ง เปลนอนตาม สภาพผู้ป่วย การโทรเลื่อนนัด มีจอแสดงคิวหน้าห้องตรวจ ระหว่างรอตรวจ จัดมุมน้ำดื่มสำหรับที่มาตรวจ - งานผู้ป่วยในมีการสร้างความสัมพันธ์โดยการปฐมนิเทศผู้ป่วยและญาติแรกรับ การ ให้ข้อมูลระหว่างดูแลรักษา จัดมุมส่งเสริมสุขภาพ ให้คำปรึกษาภายในหน่วยงานอย่างมีระบบ วางแผน จำหน่ายและการดูแลต่อเนื่องในชุมชนโดยผ่านโปรแกรม Smart COC ทำให้รพ.สต.เข้าถึงข้อมูลในการดูแล ผู้ป่วย และมีระบบการมอบหมายงานแบบรายผู้ป่วยเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ป่วย เช่น พยาบาล ผู้ จั ดก ารราย ก รณี ผู้ ป่ วย Stroke ,STEMI ,Sepsis (3S) ,Pneumonia, Congestive heart failure ,Wound care ,Palliative care , Discharge plan - ห้องผ่าตัด มีจอแสดงสถานะรับบริการ และสถานะการผ่าตัดเพื่อให้ญาติรับทราบ ข้อมูล 1.2 กลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย : กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาลมีวิธีการสร้าง ความสัมพันธ์กับผู้รับผลงานอื่น ได้แก่ ร่วมกับองค์กรแพทย์ในการดูแลผู้ป่วยกลุ่มโรคสำคัญในแต่ละสาขา โดย APN/NCM เช่น มีการปรับแนวทางการดูแลผู้ป่วย 3S, Line group ดูแลเฉพาะโรค, M&M Conference, สูติ-เด็ก Conference, พยาบาลห้องผ่าตัดเป็นผู้นำการจัดวางระบบการผ่าตัดในผู้ป่วย COVID–19 ร่วมกับศัลยแพทย์และวิสัญญีแพทย์,ซ้อมแผนอัคคีภัยร่วมกับกลุ่มงานวิสัญญี,ห้องผ่าตัดและ วิสัญญีซ้อมการช่วยฟื้นคืนชีพทารกแรกเกิดโดยมีกุมารแพทย์เป็นวิทยากร,Teleconference , Smart COC ส่งข้อมูลดูแลต่อเนื่องในชุมชนที่อยู่ในเขตความรับผิดชอบของโรงพยาบาล
18 2. กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาลมีช่องทางและมีการกำหนดวิธีปฏิบัติการติดต่อในแต่ละรูปแบบ ของช่องทางสำหรับผู้ใช้บริการ และผู้รับผลงานอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อค้นหา ข้อมูลสารสนเทศเสนอข้อคิดเห็น และข้อร้องเรียนผ่านช่องทางต่าง ๆ ทั้งเชิงรุก และ เชิงรับ ได้แก่ บอร์ดประชาสัมพันธ์ เสียงตามสาย แผ่น พับต่าง ๆ และศูนย์รับเรื่อง ร้องเรียนทาง Web page โรงพยาบาล QR Code แสดงความคิดเห็น ตู้รับ ความคิดเห็น Teleconference ,Smart COC ทั้งนี้ผู้ใช้บริการและผู้รับผลงาน สามารถค้นหาข้อมูล สารสนเทศ เสนอข้อคิดเห็นย้อนกลับ และข้อร้องเรียนเมื่อพบปัญหา ได้ทุกช่องทางดังกล่าวได้ 3. กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาลมีวิธีการให้การสนับสนุนผู้ใช้บริการ ในการค้นหาข้อมูล สารสนเทศ การเข้ารับบริการ การดูแลตนเองหลังการจำหน่าย ได้แก่ ระบบนัด จองคิวตรวจออนไลน์ โทรศัพท์แจ้งล่วงหน้ากรณีการนัดหมายมีการเปลี่ยนแปลง และหน้าเพจข่าวประชาสัมพันธ์ ของ โรงพยาบาลพระนารายณ์มหาราช จ.ลพบุรี ที่นำเสนอข้อมูลข่าวสาร ตารางออกตรวจของแพทย์สาขาต่างๆ ในแต่ละวัน มีการแจกคู่มือการดูแลตนเองรายโรค ได้แก่ สมุดประจำตัวผู้ป่วยมะเร็ง ผู้ป่วยกลุ่มโรคเรื้อรัง ระบบ QR code การดูแลผู้ป่วยโรคต่างๆ หรือการดูแลผู้ป่วยหลังทำหัตถการต่างๆ นอกจากนี้ยังมีการ เชื่อมโยงข้อมูลกับหน่วยบริการปฐมภูมิผ่าน Smart COC เช่น ผู้ป่วย Stroke มีการติดตามข้อมูลการ ประเมิน Barthel index ภายหลังการจำหน่าย โดยส่งต่อข้อมูลการดูแล และติดตามอย่างต่อเนื่อง มี ช่องทางปรึกษาทางโทรศัพท์ตลอด 24 ชั่วโมงโดยพยาบาลเฉพาะทาง กลุ่มมารดาหลังคลอดมีระบบ Line open chat “แก๊งค์นมแม่ลพบุรี” ที่มารดาหลังคลอดสามารถค้นหาและแลกเปลี่ยนเรียนรู้โดยมีพยาบาล คลินิกนมแม่ ร่วมกับกุมารแพทย์ตอบข้อซักถาม กลุ่ม Stroke, STEMI, Sepsis มีสื่อประชาสัมพันธ์ อาการเตือนที่ต้องรีบมาโรงพยาบาลโดยถ้ามีอาการให้โทร. 1669 เพื่อให้ทัน Golden period 4. การจัดการข้อร้อง เรียนของผู้ใช้บริการ 4.1 กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาลมีการจัดการข้อร้องเรียนข้อคิดเห็น ข้อเสนอแนะที่ สามารถแก้ไขปัญหาอย่างได้ผล และทันท่วงที ซึ่งเมื่อมีอุบัติการณ์หรือเกิดข้อร้องเรียน ได้กำหนด 10 เหตุการณ์ ที่ต้องรายงานผู้บริหารทันทีเพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาได้ทันท่วงทีโดย Rapid Response Team กรณีข้อร้องเรียนไม่เร่งด่วนวิเคราะห์ แก้ไขปัญหาและรายงานโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามระบบโปรแกรม NRLS 4.2 กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาลมอบหมายให้คณะอนุกรรมการบริการพยาบาลทำหน้าที่ ในการรวมรวม วิเคราะห์ร่วมกับหน่วยงานที่ได้รับข้อร้องเรียน/ข้อคิดเห็น/ข้อเสนอแนะ นำผลที่ได้มา ปรับปรุงแนวทางปฏิบัติ/นโยบาย เพื่อให้เกิดคุณภาพการพยาบาล เช่น ข้อร้องเรียนผู้ป่วยห้องพิเศษมีภาวะ sepsis ในโรงพยาบาลไม่ได้รับการประเมินซ้ำจนผู้ป่วยมีอาการทรุดลง จึงมีการปรับแนวทางการประเมิน ภาวะSepsis กลุ่มเสี่ยงแต่ละสาขาในผู้ป่วยที่นอนโรงพยาบาล 4.3 กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาลมีการทบทวน และปรับปรุงวิธีการจัดการ ข้อร้องเรียน ให้ มีประสิทธิผลยิ่งขึ้น โดย จากการทบทวนวิธีการจัดการข้อร้องเรียนบางประเด็นมีความล่าช้า ตอบสนองต่อ ความต้องการของผู้ใช้บริการไม่ทันท่วงทีจึงได้ปรับปรุง วิธีการจัดการข้อร้องเรียนโดยกำหนดการรายงาน ให้หัวหน้าหอผู้ป่วย/หัวหน้าหน่วยงาน มีการรายงานอุบัติการณ์ข้อร้องเรียน หรือเสี่ยงร้องเรียนตามลำดับ ทุกวันทาง line ผู้บริหารทางการพยาบาลแบบ real time นอกจากนี้ยังได้มีการปรับการวิเคราะห์ข้อ ร้องเรียนโดยใช้รูปแบบการรายงานและวิเคราะห์แบบ 3 P
19 5. การพิทักษ์สิทธิผู้ป่วย 5.1 กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาลสร้างหลักประกันว่าผู้ปฏิบัติงานมีความตระหนักและ ทราบบทบาทของตนในการพิทักษ์สิทธิผู้ป่วยรวมถึงมีระบบและการดำเนินงาน พิทักษ์สิทธิผู้ป่วยตาม มาตรฐาน แยกตามประเภทผู้ป่วยทั่วไป และผู้ป่วยเฉพาะ ดังนี้ - กลุ่มผู้ป่วยเด็กและสตรีถูกกระทำรุนแรง มีการพิทักษ์สิทธิ์ผู้ป่วยร่วมกับทีมสหสาขาวิชาชีพ ได้แก่ จิตเวช สังคมสงเคราะห์ พัฒนาชุมชน โดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศปกปิดการเข้าถึงข้อมูลสามารถเข้าดูได้ เฉพาะผู้เกี่ยวข้องเท่านั้น - กลุ่มผู้ป่วยที่ถูกทำร้ายร่างกายหรือเป็นคดีความมีการปกปิดข้อมูลโดยส่งต่อข้อมูลทาง Line ทำ สัญลักษณ์แจ้งเตือนในโปรแกรม HosXp ไม่ติดป้ายชื่อหน้าหอผู้ป่วย - กลุ่มผู้ป่วย HIV จัดห้องให้คำปรึกษาเฉพาะเป็นสัดส่วนบริการแบบ One Stop Service ไม่ รายงานผล HIV ผ่านโปรแกรม HosXp รายงานผลเลือดโดยปิดผนึกส่งมอบโดยตรง กำหนดรหัสในการ สื่อสารระหว่างทีม - ผู้ป่วยที่อยู่ในภาวะวิกฤตฉุกเฉินมีสิทธิได้รับการดูแลช่วยเหลืออย่างรวดเร็วตามมาตรฐานวิชาชีพ โดยมี Nurse case manager รายโรคเป็นตัวแทนผู้ป่วยในการพิทักษ์การดูแลรักษา พยาบาลช่วยรับรอง และคุ้มครองผู้รับบริการหรือ เป็นการรักษาผลประโยชน์รวมทั้งช่วยให้ผู้รับบริการรับรู้ถึงความมีคุณค่าแห่ง ตนได้และถือว่าเป็นจริยธรรมของพยาบาล 5.2 กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาลมีการควบคุมกำกับ ติดตามการดำเนินงานเพื่อ พิทักษ์สิทธิผู้ป่วยทุกรายตามมาตรฐานหรือแนวทางที่กำหนด โดยกำหนดแนวทางปฏิบัติของบุคลากรในการ พิทักษ์สิทธิ์ผู้ป่วยกลุ่มทั่วไปผู้ป่วยเฉพาะประกาศเป็นนโยบายมอบหมายให้กลุ่มอนุกรรมการแต่ละด้าน ควบคุมกำกับให้ปฏิบัติตามแนวทางการพิทักษ์ที่วางไว้ กรณีที่ไม่ปฏิบัติตามการพิทักษ์สิทธิ์ผู้ป่วยจะมีการ ทบทวนสอนหน้างานโดยหัวหน้าหอผู้ป่วย/หัวหน้างาน/APN /NCM เช่น ในกลุ่มผู้ป่วยวิกฤตมีการตามรอย การดูแลผู้ป่วย Sepsis พบว่าไม่มีการประเมิน SOS Score ทำให้ผู้ป่วยเข้าสู่ภาวะ Septic shock ปรับระบบ การดูแลแบบเจ้าของไข้ 5.3 กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาลมีระบบการจัดการข้อร้องเรียนเกี่ยวกับการละเมิด สิทธิผู้ป่วยโดยคณะอนุกรรมการด้านบริการเป็นผู้รวบรวมข้อมูลข้อร้องเรียนเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิผู้ป่วย นำมาวิเคราะห์โดยทีมบริหารทางการพยาบาลรวม ทั้งพัฒนาแนวทางปฏิบัติงานและนำผลไปดำเนินการ พิทักษ์สิทธิผู้ป่วยอย่างต่อเนื่อง เช่น ผู้สูงอายุที่รักษาตัวในโรงพยาบาลเกิดอุบัติการณ์พลัดตกหกล้ม มีการ วางระบบการประเมินความเสี่ยงต่อการพลัดตกหกล้มทุกหอผู้ป่วย มีการนิเทศติดตามรับส่งเวรกลุ่มเสี่ยงเพื่อ ไม่ให้เกิดอุบัติการณ์ซ้ำ กรณีมีข้อร้องเรียนจากผู้ใช้บริการเรื่องการลัดคิวตรวจของเจ้าหน้าที่และนำข้อมูลโพสต์ลง Facebook ได้ปรับเพิ่มช่องทางสำหรับเจ้าหน้าที่ในทุกทุก OPD ข้อร้องเรียนพฤติกรรมผู้รับบริการ ไม่เหมาะสม พูดจาไม่ไพเราะ จัดเจ้าหน้าที่ ที่ให้บริการด่านหน้าเข้าอบรมพฤติกรรมบริการ BSC และจัด อบรม dialog และ โปรโมท Model คนดีศรีกาสะลอง 6. การพิทักษ์สิทธิผู้ป่วยที่มีความต้องการเฉพาะ 6.1 กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาลมีนโยบายที่ชัดเจนในการให้บริการพยาบาลผู้ป่วยที่มี ความต้องการเฉพาะด้วยความเคารพ ในสิทธิและศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์โดยสอดคล้องกับข้อบังคับ หรือกฎหมายความเชื่อ และวัฒนธรรม ด้วยการมีส่วนร่วมของ ผู้ป่วย และครอบครัว ผู้ป่วย ที่มีความ
20 ต้องการเฉพาะ เช่น ผู้ป่วยพิการ ผู้ป่วยระยะสุดท้าย ผู้ป่วยเด็ก ผู้สูงอายุผู้ป่วยที่จำเป็นต้องแยกหรือผูกยึด และผู้ป่วย COVID–19 เป็นต้น กลุ่มผู้ป่วย Palliative care มีแนวทางการพิทักษ์ผู้ป่วยระยะสุดท้าย แนว ทางการถอดท่อช่วยหายใจและการดูแลการตายอย่างสมศักดิ์ศรีผู้ป่วยที่จำเป็นต้องแยกหรือผูกยึด มี แนวทางปฏิบัติเรื่องการแยกและผูกยึดผู้ป่วย 6.2 กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาลมีแนวทางปฏิบัติในการให้บริการพยาบาลผู้ป่วยที่มี ความต้องการเฉพาะ ตามนโยบายที่กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาลกำหนด และมีการปฏิบัติตามแนวทางด้วย ความเคารพในสิทธิและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ดังนี้ - กลุ่มผู้ป่วย Palliative care มีแนวทางการทำหนังสือแสดงเจตนาไม่ประสงค์รับบริการ สาธารณสุข (Living will) เพื่อยืดการตายในวาระสุดท้ายของชีวิตตนเพื่อยุติการทรมานจากการเจ็บป่วย มีแนวทางการพิทักษ์สิทธิผู้ป่วยเพื่อสื่อสารเจตนาของผู้ป่วยให้ทีมรับรู้โดยแนบสำเนา Living will ใน OPD card และมี Pop up ในโปรแกรม HosXp - กลุ่มผู้ป่วยจิตเวชฉุกเฉินที่มีอาการคลุ้มคลั่งต้องได้รับการผูกยึดมีแนวทางการสื่อสารกับผู้ป่วยและ ญาติถึงความจำเป็นที่ต้องผูกยึดเพื่อความปลอดภัยของผู้ป่วยและผู้อื่น นอกจากนี้ยังมีการพัฒนานวตกรรม การผูกยึดโดยรักษาภาพลักษณ์ผู้ป่วย และมีการขยายบริการหอผู้ป่วยเมตตาจิตเพื่อดูแลผู้ป่วยจิตเวช โดยเฉพาะ - กลุ่มผู้ป่วยนักโทษที่ Admit จัดให้รักษาตัวในห้องราชทัณฑ์ปันสุข เพื่อคุ้มครองสิทธิของนักโทษให้ เป็นไปตามหลักพื้นฐานของรัฐธรรมนูญและหลักนิติรัฐและอำนวยความสะดวกให้กับ ผู้คุม บุคลากรทาง การแพทย์ และผู้รับบริการอื่น 6.3 กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาลมีการกำกับ ติดตาม ประเมินผลการดำเนินงาน และ พัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยมอบหมายหัวหน้าหอผู้ป่วย/หัวหน้างาน นิเทศ กำกับ ติดตาม ประเมินผลการ ปฏิบัติตามแนวทางพิทักษ์สิทธิผู้ป่วยที่มีความต้องการเฉพาะ กรณีพบอุบัติการณ์ไม่ปฏิบัติตามแนวทางที่ กำหนดให้รายงานผลต่อคณะอนุกรรมการด้านบริการพยาบาล เพื่อนำปัญหามาร่วมวิเคราะห์กับคณะ กรรมการบริหารทางการพยาบาลเพื่อหาแนวทางพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เช่น - กลุ่มผู้ป่วย Palliative care มีการประชุม PCWN ทุกไตรมาส และเมื่อมีกรณีเร่งด่วนที่ต้อง ทบทวนทันที มี NCM Palliative round เคสที่ยุ่งยากซับซ้อน เช่น กรณีที่ผู้ป่วยถูกละเลยไม่ปฏิบัติตาม เจตนา Living will ได้มีการปรับกระบวนการการดูแลในช่วงระยะสุดท้ายอีกครั้ง Family meeting ซ้ำ โดยสหสาขาวิชาชีพ จึงสร้างแนวทางการพิทักษ์ผู้ป่วยระยะสุดท้ายและแนวทางการถอดท่อช่วยหายใจ - กลุ่มผู้ป่วยวิกฤติกลุ่มโรค 3 S มี APN/NCM กำกับติดตามกระบวนการดูแลตาม CNPG ราย โรคโดยกำหนด Nursing Round สัปดาห์ละ 1 ครั้ง และเมื่อพบอุบัติการณ์สำคัญเร่งด่วนทบทวนและ ปรับระบบการดูแล เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการตอบสนองรวดเร็วปลอดภัย ข.การวัดความพึงพอใจของผู้ใช้บริการและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย แนวทางปฏิบัติ 1. การประเมินความพึงพอใจของผู้ใช้บริการ 1.1 กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาลมีการประเมินความพึงพอใจ และความไม่พึงพอใจ ของ ผู้ใช้บริการ และผู้รับผลงานอื่นโดยใช้วิธีการประเมินที่เหมาะสมในแต่ละกลุ่มและใช้ ผลการประเมินนี้ไป ปรับปรุงการดำเนินงานโดยผ่านระบบการประเมิน ดังนี้
21 กลุ่มผู้ใช้บริการ : กลุ่มผู้ป่วยโดยใช้แบบสำรวจ QR Code OP-IP voice ของกลุ่มภารกิจด้านการ พยาบาลปีละ 2 ครั้ง กลุ่มเปราะบาง เช่น ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยนักโทษ ผู้ป่วยติดเชื้อ HIV ผู้พิการ ผู้ป่วยจิตเวช การตรวจเยี่ยม และ สอบถามข้อมูลรายวันโดยหัวหน้าหอผู้ป่วย และ Incharge Nurse (IN) กลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย : สหวิชาชีพ และองค์กร/สถาบันอื่นๆ ใช้แบบประเมิน ความพึงพอใจของผู้ มีส่วนได้ส่วนเสีย กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาลประเมินปีละ 1 ครั้ง โดยใช้Google form เพื่อให้ผู้มีส่วนได้ ส่วนเสียแสดงความคิดเห็น นอกจากนี้กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาลนำผลการประเมินที่ได้มาวิเคราะห์ ปรับปรุงและพัฒนาคุณภาพการพยาบาลอย่างต่อเนื่อง จากการสำรวจความพึงพอใจพบว่า ห้องน้ำไม่ สะอาด โถส้วมเป็นแบบนั่งยอง จึงได้ปรับปรุงตารางการทำความสะอาดโดยใช้ Application Line Notify ควบคุมกำกับแม่บ้าน และเปลี่ยนโถส้วมเป็นแบบชักโครก ในกลุ่มผู้ป่วยนักโทษที่ต้องมาตรวจที่ OPD มีการจัดช่องทางด่วนเพื่อให้ผู้ป่วยได้รับบริการตรวจ และส่งกลับอย่างรวดเร็วเพื่อพิทักษ์สิทธิ์ผู้ป่วย ได้รับข้อคิดเห็นจากแพทย์ในการรายงานข้อมูลผู้ป่วยไม่ครอบคลุมทำให้การดูแลรักษาล่าช้า ไม่ตรงกับอาการ ผู้ป่วย จึงได้นำรูปแบบการสื่อสารแบบ ISBAR มาใช้ในการรายงานผู้ป่วยเพื่อความครอบคลุมในการรักษา ผู้ป่วย 1.2 กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาลมีการติดตามผลหลังการเข้ารับบริการจากผู้ใช้บริการ เพ ื่ อให้ได้ข้อมูลป้อนกลับที่เป็นประโยชน์ในการปรับปรุงคุณภาพ บริการพยาบาล โดยกลุ่มภารกิจด้าน การพยาบาลติดตามนำผลการประเมินที่ได้ มารวบรวมวิเคราะห์ ร่วมกับหอผู้ป่วย/หน่วยงานท ี่ เก ี่ ยวข้องเพ ื่ อหาแนวทางแก้ไขปรับปรุง และพัฒนาคุณภาพบริการพยาบาลอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ - กลุ่มผู้ป่วย Palliative ที่ญาติต้องการรับกลับไปดูแลระยะสุดท้ายที่บ้านมีการโทรศัพท์ ติดตาม พบปัญหาเรื่องการจัดการความเจ็บปวดจึงพัฒนาระบบการบริหารยา Morphine Syrup / Injection โดยพยาบาลชุมชนเป็นผู้ดูแลประสานงานร่วมกับโรงพยาบาลมะเร็ง - กลุ่มผู้ป่วยหลังคลอดมีการโทรศัพท์เยี่ยมหลังคลอด 7 วันเพื่อประเมินความต่อเนื่องของการ เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ พร้อมทั้งให้คำแนะนำกรณีมีปัญหาและประสานกับ “อสม.แม่นม” เพื่อลงเยี่ยมเสริมพลัง และกระตุ้นการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างมีประสิทธิภาพ 1.3 กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาลมีการพัฒนา / ปรับปรุงวิธีการประเมินความพึงพอใจ ให้ ทันสมัยและเหมาะสม กับผู้ใช้บริการและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียแต่ละกลุ่ม โดยมีการ พัฒนาวิธีการประเมิน ความพึงพอใจ เป็น QR Code, Google form ประเมินหลังรับบริการแบบ Real time เพื่อตอบสนองความ ต้องของผู้ใช้บริการและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียแต่ละกลุ่มอย่างทันท่วงที 2. การสร้างความผูกพันกับผู้ใช้บริการ 2.1 กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาลมีการนำความต้องการและความคาดหวังของผู้ใช้บริการ มาออกแบบระบบบริการ/กระบวนการบริการพยาบาล โดยจัดให้มีดังนี้ - กลุ่มผู้ป่วยระยะสุดท้ายมีการตอบสนองความต้องการของผู้ป่วยและญาติโดยการจัดมุม ที่สงบหรืออนุญาตให้อยู่ห้องพิเศษเพื่อให้ญาติดูแลใกล้ชิด ใช้เวลาร่วมกันกับครอบครัวก่อนจะเสียชีวิต จัด พิธีกรรมทางศาสนา เช่น การขอขมา ถวายสังฆทาน ฟังธรรมะ - ในสถานการณ์ COVID- 19 มีการ VDO call ให้ญาติสื่อสารกับผู้ป่วยเพื่อความสบาย ใจคลายความกังวล
22 - โครงการ Environment Modernization and Smart service (EMS) ทุกพื้นที่ใน โรงพยาบาล เช่น ร้านจำหน่ายอาหารสุขภาพ (Green shop) การจัดสวนหย่อม มุมพักผ่อนของญาติกับ ผู้ป่วย Free Wifi ที่คลินิก เจอ แจก จบ - กลุ่มมารดาหลังคลอดร่วมกับแพทย์แผนไทย มีบริการนวดและประคบเต้านมเพื่อ กระตุ้นการหลั่งน้ำนมและส่งเสริมความพร้อมในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ 2.2 กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาลมีการปรับปรุง/ พัฒนา/กระบวนการบริการพยาบาลเพื่อ ตอบสนอง ความต้องการและทำให้เหนือกว่าความคาดหวังของผู้ใช้บริการ โดยเทศกาลสำคัญมีการจัด กิจกรรม เช่น วันเด็กแจกของขวัญที่ OPD เด็กและหอผู้ป่วยเด็ก รดน้ำดำหัวผู้ป่วยสูงอายุวันสงกรานต์ จัด เค้กอวยพรวันเกิดให้ผู้ป่วยใน Cohort ward และ ICU วันลอยกระทงจัดหาเพื่อให้ผู้ป่วยได้ลอยกระทง คลินิก CAPD จัดบริการโทรศัพท์แจ้งเตือนวันนัดหมายเพื่อไม่ให้คนไข้ขาดนัดทุกราย และในสถานการน้ำ ท่วม จัดบริการส่งน้ำยาล้างไตทางหน้าท้องให้ผู้ป่วยที่บ้านโดย พยาบาลคลินิก CAPD 2.3 กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาลมีวิธีการใช้ประโยชน์จากสื่อสังคมออนไลนเพื่อเสริมสร้าง ความผูกพัน ของผู้ใช้บริการ หรือทำให้ผู้ใช้บริการกล่าวถึงในทางที่ดีโดยการ เข้าถึงข้อมูลด้านสุขภาพได้ เช่น มีระบบการใช้Lineopen chat“แก๊งค์นมแม่ลพบุรี”ในกลุ่มมารดาหลังคลอดเพื่อค้นหา และ แลกเปลี่ยนเรียนรู้การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ โดยมีพยาบาลคลินิคนมแม่ร่วมกับกุมารแพทย์ตอบข้อซักถามใน ช่องทาง Web page ข่าวประชาสัมพันธ์การสร้างคุณงามความดีของพยาบาล เข้ารับรางวัลคนดีศรี นารายณ์ คนดีศรีกาสะลอง เช่น การช่วยเหลือผู้ป่วยบนเครื่องบิน ช่วยฟื้นคืนชีพ (CPR) ผู้ป่วยที่ได้รับ บาดเจ็บกรณีเหตุการณ์ปล้นร้านทองที่โรบินสัน ส่งพยาบาลไปช่วยดูแลผู้ป่วย COVID – 19 ที่โรงพยาบาล บุษราคัม มาตรฐานที่ 7 การวัดและวิเคราะห์ผลการดำเนินงานของกลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล วัดและวิเคราะห์ผลการดำเนินงานขององค์กรให้ครอบคลุม สอดคล้อง เชื่อมโยง และไปในทิศทางเดียวกัน รวมทั้งมีการปรับปรุงข้อมูลและสารสนเทศจากผลการ ดำเนินงานขององค์กรอย่างต่อเนื่อง ก.การวัดผลการดำเนินงาน แนวทางปฏิบัติ 1. การวัดผลการดำเนินงาน 1.1 กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาลมีวิธีเลือก รวบรวม และเชื่อมโยงข้อมูลสารสนเทศ และ ตัวชี้วัดที่สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ พันธกิจขององค์กร รวมถึงเลือกและใช้ข้อมูลสารสนเทศจากเสียงของใช้ บริการ (Voice of Customer) เพื่อใช้ติดตามผลการดำเนินงานของกลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล และ ติดตามความก้าวหน้าตามวัตถุประสงค์เชิงยุทธศาสตร์และแผนปฏิบัติการทั้งระยะสั้นและระยะยาว รวมถึง สนับสนุนการสร้างนวัตกรรม โดยคณะกรรมการบริหารกลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล ได้รวบรวมผลลัพธ์ การดำเนินงานตัวชี้วัดโดยใช้ข้อมูลความต้องการ จากความต้องการของผู้ใช้บริการ ซึ่งจำแนกออกเป็น ผู้ป่วยนอก ผู้ป่วยใน ญาติ/ผู้ดูแล/ครอบครัว และชุมชน รวมถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย จากการทบทวนตัวชี้วัดที่ ตอบสนองต่อวิสัยทัศน์ พันธกิจของกลุ่มภารกิจด้านการพยาบาลและโรงพยาบาล จากประเด็นการพัฒนา ตามกลุ่มโรคที่สำคัญ 3S และ นโยบายมาตรฐานความจำเป็นปลอดภัย 9 ด้าน และตอบสนองต่อกลุ่มโรค ตาม Service plan ครอบคลุมผลลัพธ์ทางการพยาบาล 4 ด้าน 1. ตัวชี้วัดด้านประสิทธิผลตามพันธกิจขององค์กร
23 2. ตัวชี้วัดด้านคุณภาพการให้บริการพยาบาล 3. ตัวชี้วัดด้านประสิทธิภาพของการปฏิบัติการพยาบาล 4. ตัวชี้วัดด้านการพัฒนาองค์กร 2) กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาลมีการเลือกข้อมูล และสารสนเทศเชิงเปรียบเทียบที่สำคัญ และ ทำให้มั่นใจว่ามีการนำไปใช้สนับสนุนการตัดสินใจอย่างมีประสิทธิผลในระดับกลยุทธ์และระดับปฏิบัติการ โดยเลือกคู่เทียบเป็นโรงพยาบาลปทุมธานี เนื่องจากเป็นโรงพยาบาลที่มีจำนวนเตียงใกล้เคียงกัน และอยู่ใน เขตสุขภาพเดียวกัน เมื่อได้ข้อมูลเปรียบเทียบบริหารจัดการโดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัล แล้วมอบหมายให้ คณะกรรมการสารสนเทศทางการพยาบาล (ITN/ITWN) นำข้อมูลมาวิเคราะห์และนำเสนอคณะกรรมการ บริหารกลุ่มภารกิจด้านการพยาบาลเพื่อวางแผนเชิงกลยุทธ์ในการพัฒนาองค์กรอย่างต่อเนื่อง ข.การวิเคราะห์ผลการดำเนินงาน แนวทางปฏิบัติ 1.การวิเคราะห์ทบทวนและปรับปรุงผลการดำเนินงาน 1.1 มีการทบทวนผลการดำเนินงานและขีดความสามารถของกลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล และใช้ผลการทบทวนนี้เพื่อประเมินความก้าวหน้าตามวัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ แผนปฏิบัติการรวมถึง ความสำเร็จในการสร้างนวัตกรรม 1.2 กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาลนำผลการทบทวนการดำเนินการ ไปจัดลำดับความสำคัญ ในเรื่องที่ต้องปรับปรุงหาโอกาสในการสร้างนวัตกรรม และถ่ายทอดสู่การปฏิบัติภายในองค์กรโดยแบ่งระดับ ความรุนแรงของปัญหา ความถี่ที่เกิดขึ้น และโอกาสของความสำเร็จในการแก้ไขข้อมูลสารสนเทศที่ เกี่ยวข้องทางคลินิก ในด้านการบริการพยาบาล เช่น จำนวนครั้งอุบัติการณ์การระบุตัวผิดคน อุบัติการณ์ ความผิดพลาดในการให้เลือด เป็นต้น มีการแบ่งความรุนแรงออกเป็น 10 ระดับ คือ A-I โดยความรุนแรงที่ อยู่ในระดับ E ขึ้นไปจะนำมาแก้ไขวิเคราะห์หา RCA ตัวชี้วัดการประเมินสมรรถนะพยาบาลด้าน Specific functional competency ที่ยังไม่ผ่านตามเกณฑ์นำมาพัฒนา โอกาสในการสร้างนวัตกรรม โดยการใช้ เทคโนโลยีในการเรียนรู้สู่การปฏิบัติหน้างานในห้องผ่าตัด กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาลกำหนดการนิเทศ และตรวจเยี่ยมผู้ปฏิบัติงานเพื่อถ่ายทอดผลการทบทวนการดำเนินงานสู่การปฏิบัติดังนี้ - ทบทวนทันที เมื่อเกิดอุบัติการณ์ที่กำหนดเป็น sentinel event และความเสี่ยงระดับ E ขึ้นไป - ทบทวนทุกวัน อุบัติการณ์ด้านมาตรฐานจำเป็นปลอดภัย 9 ด้าน - ทบทวนทุกเดือน อุบัติการณ์ระดับ A-D - ทบทวนทุก 3 เดือน เกี่ยวกับความก้าวหน้าของแผนงานโครงการ - ทบทวนทุก 6 เดือน เกี่ยวกับการประเมินผลการปฏิบัติงานของบุคลากร - ทบทวนทุกปี เกี่ยวกับตัวชี้วัดผลการดำเนินงานด้านระบบงานและกระบวนการด้านบุคลากรเพื่อ วางแผนในการจัดทำแผนกลยุทธ์ 1.3 กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล นำผลการทบทวนการดำเนินการไปใช้ ในการประเมินและ ปรับปรุงกระบวนการสำคัญอย่างเป็นระบบ โดย นำผลลัพธ์การดำเนินงานมาทบทวน เปรียบเทียบกับ เป้าหมาย ใช้ออกแบบกระบวนการสำคัญอย่างเป็นระบบ เช่น ตัวชี้วัดด้านการระบุตัวผู้ป่วยผิดพลาด นำมา ปรับปรุงกระบวนการระบบการระบุตัวผู้ป่วยให้ถูกต้องโดยใช้ 3 ตัวบ่งชี้ และจากการทบทวนผลจากการ
24 รายงานตัวชี้วัดด้านความปลอดภัยทาง line NSO ที่รายงานอุบัติการณ์ ที่เกี่ยวกับการติดเชื้อโรคระบาด COVID-19 ทั้งในส่วนของบุคลากรและผู้ป่วยทุกวันทำให้สามารถนำมาใช้ปรับปรุงกระบวนการดูแลผู้ป่วย ทั้งในและนอก หน่วยงานเพื่อรองรับสถานการณ์ COVID-19 ตั้งแต่มีการจัด PC Zone ในหอผู้ป่วยเพื่อ ป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ COVID-19 การบริหารอัตรากำลัง การจัดการด้านทรัพยากร อุปกรณ์ป้องกัน ต่างๆ ได้อย่างเป็นระบบและทันท่วงที 1.4 กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาลมีการปรับปรุงระบบการวัดผลการดำเนินการให้ทันกับความ ต้องการของผู้ใช้บริการ ผู้รับผลงานอื่น และทิศทางของระบบบริการสุขภาพ โดยทบทวนผลการดำเนินงาน ที่ไม่ผ่านเป้าหมายนำมาทบทวน วิเคราะห์ และพัฒนาระบบการวัดผลการดำเนินงานให้ทันกับความ ต้องการของผู้ใช้บริการและทิศทางของระบบบริการสุขภาพ โดยมีพยาบาลสารสนเทศทางการพยาบาล ประจำหน่วยงาน (ITWN) ร่วมขับเคลื่อน ติดตามผล ดำเนินการ พัฒนาโปรแกรม ระบบงานมาใช้พัฒนา งานการพยาบาล ร่วมกับผู้รับผิดชอบงานหลัก โดยปรับปรุงจากการพิจารณาระบบการพยาบาลที่ ปรับเปลี่ยนหรือจากสถานการณ์ นโยบาย ที่เร่งด่วนจะมีการวัดผลการดำเนินการระยะสั้นเพื่อให้ทันต่อ เหตุการณ์ เช่น - การดำเนินงานในสถานการณ์ระบาดผู้ป่วยติดเชื้อ COVID – 19 การเตรียมสถานที่ ทรัพยากร ด้านต่างๆ ให้เพียงพอต่อการดำเนินงานการดูแลผู้ป่วยติดเชื้อ COVID – 19 โดยมีการวัดและประเมินผล และนำข้อมูลมาปรับเปลี่ยนระบบให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน - การดำเนินงานบริการฉีดวัคซีน COVID – 19 มีการวัดผลการดำเนินการเป็นระยะๆ ปรับปรุง โดยใช้ระบบ Lean และเทคโนโลยีการสื่อสาร เพื่อให้ทันต่อความต้องการของประชาชนที่มารับบริการ จำนวนมาก - จัดทำ Program สรุปรายงานสถานการณ์บริการพยาบาลประจำวัน (Summary Nursing Real Time Situation) เพื่อให้ผู้บริหารที่เกี่ยวข้องทุกระดับได้รับทราบผลการดำเนินงานด้านการพยาบาลและ นำไปเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาอย่างทันท่วงที - จากตัวชี้วัด Productivity ที่ไม่เป็นตามเกณฑ์ มีผลต่อการบริหารจัดการคุณภาพด้านการ พยาบาล ได้มีการวิเคราะห์ข้อมูล พบว่า มีเกณฑ์การแบ่งประเภทผู้ป่วยหลากหลายทุกกลุ่มผู้ป่วย การแบ่ง ประเภทผู้ป่วยขาดความเที่ยงตรง จึงได้ปรับปรุงเกณฑ์การจำแนกประเภทผู้ป่วยในตามแบบประเมินการ จำแนกประเภทผู้ป่วยใน กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาลประกอบด้วย 8 ด้าน และพัฒนาต่อเนื่องเพื่อลด ภาระงานของพยาบาลในการแบ่งประเภทผู้ป่วย โดยใช้โปรแกรมแบบประเมินการจำแนกประเภทผู้ป่วย ในทาง Google sheet สามารถประเมินโดยผ่าน Smart phone ได้และนำผลมาประกอบการบริหาร อัตรากำลังในแต่ละเวร จากคะแนนความสมบูรณ์ของเวชระเบียนในส่วนการบันทึกทางการพยาบาลปรับปรุงโปรแกรม เวชระเบียน Electronic Nurse note เริ่มในกลุ่มผู้ป่วย COVID-19 และกำลังนำร่องสู่ระบบผู้ป่วยใน โรงพยาบาล เพื่อให้มีการบันทึกทางการพยาบาลมีความครอบคลุมตามมาตรฐาน ง่ายต่อการเข้าถึงข้อมูล และสามารถวัดผลการดำเนินงานได้ทันกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง มาตรฐานที่ 8 การจัดการสารสนเทศและความรู้ กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล จัดการสารสนเทศทางการพยาบาลให้พร้อมใช้งานได้ตลอดเวลา ทั้ง ภาวะปกติและภาวะฉุกเฉิน รวมทั้งมีการจัดการความรู้ มีการวัดผลและประเมินผลการจัดการความรู้อย่าง เป็นระบบ
25 ก. ความพร้อมใช้งานของข้อมูลและสารสนเทศ แนวทางปฏิบัติ 1.กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล จัดระบบสารสนเทศทางการพยาบาลให้พร้อมใช้งานได้ทั้งภาวะ ปกติและภาวะฉุกเฉิน โดยการดำเนินการดังนี้ 1.1 กำหนดฐานข้อมูลที่จำเป็น (Minimum Data Set) ทางการพยาบาล ประกอบด้วย 1.1.1 ฐานข้อมูลด้านการบริหาร ได้แก่ การบริหารบุคคล ทะเบียนพัสดุ ครุภัณฑ์ การ พัฒนาบุคลากรทางการพยาบาลและการประเมินผลการปฏิบัติงาน อัตราการ ลาออก โอนย้ายของ บุคลากรทางการพยาบาล ค่าใช้จ่ายและงบประมาณ รวมทั้งองค์ความรู้ใหม่ทางการพยาบาล 1.1.2 ฐานข้อมูลด้านบริการ ได้แก่ ปริมาณภาระงาน จำนวนผู้ป่วย และผู้ใช้บริการแต่ละ ประเภท ปัญหาสุขภาพที่พบบ่อย การบำบัดทางการพยาบาลหรือกิจกรรมการบริการพยาบาล 1.1.3 ฐานข้อมูลด้านผลลัพธ์การบริการพยาบาล ได้แก่ ข้อมูลตามเกณฑ์ชี้วัดคุณภาพการ พยาบาลของกลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล และจำแนกตามหน่วยงาน 1.2 กำหนดระบบบันทึกและจัดเก็บฐานข้อมูลทางการพยาบาลที่ครบถ้วน ไม่ซ้ำซ้อน เป็น หมวดหมู่ โดย กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาลมีระบบการจัดการให้ข้อมูลและสารสนเทศที่จำเป็นสำหรับ บุคลากรพยาบาล มีความพร้อมใช้งาน และทำให้บุคลากรพยาบาลสามารถเข้าถึงข้อมูลและสารสนเทศ ดังกล่าว โดยคณะกรรมการสารสนเทศทางการพยาบาล มีหน้าที่กำหนดระบบการรวบรวม และจัดเก็บ ข้อมูล พัฒนาโปรแกรม เพื่อให้ได้สารสนเทศที่ช่วยสนับสนุนด้านการบริหาร บริการ วิชาการทางการ พยาบาล โดยสื่อสารให้ ITWN ประจำหอผู้ป่วย/หน่วยงานนำสู่การปฏิบัติและเข้าถึงข้อมูล ดังนี้ ด้านบริหารการพยาบาล ได้แก่ Program สรุปรายงานสถานการณ์บริการพยาบาลประจำวัน (Summary Nursing Real Time Situation) โปรแกรมคำนวณ Productivity เพื่อบริหารอัตรากำลัง โปรแกรมบริหารทรัพยากรบุคคล โปรแกรมการ ประเมินผลการปฏิบัติราชการ โปรแกรมค่าตอบแทน P4P ด้านปฏิบัติการพยาบาล ได้แก่ โปรแกรมพัฒนาคุณภาพการพยาบาลรายโรค (3S) โปรแกรม Nursing Service ระบบเวชระเบียน Electronic และ Electronic nurse note ในผู้ป่วยนอก โปรแกรม การจำแนกประเภทผู้ป่วย โปรแกรมบริการพยาบาลผู้ป่วย Palliative โปรแกรมบันทึกข้อมูลอุบัติการณ์ ผ่าน Smart phone และโปรแกรม Electronic Nursing document ด้านวิชาการทางการพยาบาล ได้แก่ เก็บรวบรวมข้อมูลและเผยแพร่ผลงานวิชาการต่างๆ ผ่าน Web page ของกลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล ประกอบด้วยคู่มือ/แนวปฏิบัติทางการพยาบาลครอบคลุมทุก สาขาการพยาบาล งานวิจัย CQI นวัตกรรม และผลงานวิชาการที่ได้รับการคัดเลือกนำเสนอในระดับต่าง ๆ นอกจากนี้ยังร่วมวางแผนกับคณะกรรมการเทคโนโลยีและสารสนเทศของโรงพยาบาลในการ พัฒนาโปรแกรมและจัดหาอุปกรณ์ Hard ware ให้เพียงพอต่อการใช้งาน เพื่อรองรับการบริการผู้ป่วยแบบ Smart Nursing Service และการใช้เวชระเบียนแบบ Electronic 1.3 วิเคราะห์และสังเคราะห์ข้อมูลและสารสนเทศเพื่อเป็นประโยชน์ในการบริหาร การ จัดบริการ และการพัฒนาคุณภาพการพยาบาล 1.4 กำหนดระบบการรายงานและเผยแพร่ข้อมูลและสารสนเทศให้กับหน่วยบริการในความ รับผิดชอบอย่างถูกต้อง เหมาะสม ทันเวลา และรูปแบบที่ง่ายต่อการนำไปใช้ 1.5 กำหนดกลไกการสื่อสารที่สามารถสื่อสารให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทราบและเข้าใจตรงกัน เกี่ยวกับวิธีการจัดเก็บข้อมูลและการรายงานข้อมูล
26 2. กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล กำหนดแนวทางปฏิบัติที่จะทำให้เกิดระบบการจัดการ สารสนเทศทางการพยาบาล มีลักษณะดังนี้ 2.1 ครอบคลุม : เชื่อมโยงกับหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิด เครือข่ายในการทำงาน ทำให้ได้ข้อมูลเชิงพลวัตรที่ทันสมัย 2.2 รวดเร็ว : จัดระบบฐานข้อมูลที่สามารถนำข้อมูลมาใช้ประโยชน์ได้อย่างรวดเร็ว และมี ประสิทธิภาพ 2.3 ถูกต้อง : มีระบบการตรวจสอบข้อมูลก่อนทำการจัดเก็บและภายหลังการจัดเก็บ 2.4 ทันสมัย : พัฒนาระบบการจัดเก็บข้อมูลโดยปรับปรุงแก้ไขข้อมูลให้มีความทันสมัยพร้อมที่ จะนำไปใช้ประโยชน์อยู่เสมอ มีการทำวิจัยและการประชุมร่วมกับหน่วยงานต่างๆ รวมทั้งนำเทคโนโลยี สารสนเทศที่ทันสมัยมาใช้ 2.5 เชื่อมโยงและบูรณาการ : มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลซึ่งกันและกัน รวมถึงการติดตาม ตรวจสอบข้อมูลร่วมกัน 2.6 น่าเชื่อถือ : มีการเปิดเผยข้อมูลให้บุคคลภายนอกรับทราบ มีการ ปรับปรุงระบบ เทคโนโลยีสารสนเทศให้มีความทันสมัยและน่าเชื่อถือสม่ำเสมอ 2.7 เข้าถึงได้ : มีระบบเครือข่ายข้อมูลข่าวสาร เพื่อให้ผู้ใช้บริการมีความสะดวก รวดเร็ว และ เข้าถึง 2.8 ตรวจสอบได้ : มีระบบการมีส่วนร่วมในการตรวจสอบข้อมูลต่างๆ กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง 2.9 มีความปลอดภัยของข้อมูล : ป้องกันไม่ให้ข้อมูลถูกแก้ไข ทำลาย หรือนำไปใช้ในทางที่ไม่ สมควร 2.10 การมีส่วนร่วมในกระบวนการข้อมูลและสารสนเทศของบุคลากรทางการพยาบาลและ ภาคีเครือข่าย : สร้างระบบการดำเนินงานร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ภายนอกทั้งภาครัฐ เอกชน และ รัฐวิสาหกิจ โดยกลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล สร้างความมั่นใจว่าข้อมูลและสารสนเทศ รวมทั้ง ฮาร์ดแวร์ ซอฟท์แวร์ มีความน่าเชื่อถือ โดยมีทีมพยาบาลสารสนเทศออกแบบระบบการจัดเก็บข้อมูลสารสนเทศ ร่วมกับคณะกรรมการเทคโนโลยีและสารสนเทศของโรงพยาบาลพัฒนาโปรแกรม มีการจัดประชุม ชี้แจง สอนหน้างาน ทำความเข้าใจกับบุคลากรก่อนการใช้งาน และมีการทดลองใช้/ประเมินผล ความครบถ้วน ถูกต้องของข้อมูลโดย กำหนดให้หัวหน้าหอผู้ป่วย/หน่วยงาน เป็นผู้นิเทศ ติดตาม ความถูกต้องและความ เป็นปัจจุบันของข้อมูล 3. กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล สนับสนุนให้ระบบสารสนเทศมีความคล่องตัว สะดวก และ ยืดหยุ่นต่อผู้ใช้ โดยการสนับสนุนด้านต่าง ๆ ดังนี้ 3.1 ซอฟท์แวร์ (Software) ให้มีประสิทธิภาพในการตอบสนองความต้องการของผู้ใช้บริการ และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย รวมทั้งการให้บริการที่คุ้มทุน 3.2 ฮาร์ดแวร์ (Hardware) ให้มีสมรรถนะและจำนวนเพียงพอต่อการ ใช้งาน และ อำนวยความสะดวกต่อผู้ใช้งาน 3.3 พีเพิลแวร์ (Peopleware) ให้มีความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ในการใช้ ฮาร์ดแวร์และซอฟท์แวร์ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 4. กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล นำข้อมูลและสารสนเทศทางการพยาบาลไปใช้ในการบริหาร จัดการ การปรับปรุงคุณภาพของหน่วยงาน ให้ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายแก่คณะกรรมการบริหาร
27 โรงพยาบาล พัฒนาด้านวิชาการและสร้างองค์ความรู้ใหม่ทางการพยาบาล รวมทั้งการสนับสนุนองค์กร ชุมชนและสังคมที่เกี่ยวข้อง 5. กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล มีการรักษากลไกที่ทำให้ข้อมูลและสารสนเทศรวมทั้งระบบ ฮาร์ดแวร์ ซอฟท์แวร์มีความพร้อมใช้งาน และทันกับความต้องการของบุคลากร โดยระบบ Hard ware ได้ มีการวางแผน สำรวจความต้องการและจัดสรรให้มีความเพียงพอต่อการปฏิบัติงาน ระบบ Soft ware มีทีม สารสนเทศทางการพยาบาล เป็นผู้นำการพัฒนาโปรแกรมให้ครอบคลุม ทั้งด้านบริหาร ด้านบริการ และ ด้านวิชาการ ระบบPeople ware มีการประเมินสมรรถนะในการใช้เทคโนโลยีดิจิตอลของบุคลากรทางการ พยาบาลแต่ละระดับ และนำมาวางแผน อบรม และฝึกการใช้โปรแกรมรวมถึงระบบรับปรึกษาปัญหาการใช้ งานของโปรแกรมต่างๆ โดยมีคณะกรรมการสารสนเทศทางการพยาบาล และมีเจ้าหน้าที่ของศูนย์ คอมพิวเตอร์ตลอด 24 ชั่วโมงในการแก้ไขปัญหาโปรแกรมต่างๆ เพื่อให้มีความพร้อมใช้งาน และทันกับ ความต้องการของบุคลากร นอกจากนี้ยังมีระบบการสำรองเครื่องคอมพิวเตอร์ทดแทนเมื่อเกิดการชำรุด เพื่อทำให้การทำงานในระบบบริหารการพยาบาลมีความคล่องตัว 6.กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาลมีวิธีสร้างความมั่นใจว่าข้อมูลและสารสนเทศทางการพยาบาลมี ความถูกต้องเชื่อถือได้และทันเหตุการณ์โดยมีการนำข้อมูลมาบริหารทางการพยาบาลทุกวัน มีระบบ ตรวจสอบการบันทึกข้อมูลในเวลาราชการโดยหัวหน้าหอผู้ป่วย/หน่วยงาน และนอกเวลาราชการโดย พยาบาลหัวหน้าเวร พยาบาลตรวจการและผู้ช่วยหัวหน้าพยาบาล คณะกรรมการสารสนเทศทางการ พยาบาลร่วมพัฒนาโปรแกรมออกแบบสารสนเทศที่เกี่ยวกับงานบริการพยาบาล โดยใช้ความรู้ทางวิชาการ และหลักฐานเชิงประจักษ์เพื่อใช้ในการบันทึกข้อมูล ได้ครบถ้วนถูกต้อง และสามารถค้นหาข้อมูลได้อย่าง รวดเร็ว มีการส่งเสริมทักษะการใช้โปรแกรมต่าง ๆ เพื่อทันต่อเหตุการณ์เช่น การรายงานสถานการณ์ บริการพยาบาลประจำวัน การใช้ Google sheet ในการประเมินผลการนิเทศทางการพยาบาล และ ส่งเสริมการใช้โปรแกรม word, excel ในการบันทึกและรวบรวมข้อมูลเพื่อใช้ในการทบทวน และวิเคราะห์ ผลการดำเนินงาน 7. กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาลมีกลไกการเชื่อมโยงระบบข้อมูลและสารสนเทศทางการพยาบาล มาใช้ประโยชน์ในการบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพการพยาบาล ครอบคลุมทั้งด้านบริหาร บริการ วิชาการ ด้านบริหาร มีการนำข้อมูลจากโปรแกรมบุคลากรทางการพยาบาลมาวิเคราะห์ วางแผนความ ต้องการอัตรากำลังและการวางแผนพัฒนาศักยภาพบุคลากรทางการพยาบาลให้ตอบสนองต่อเข็มมุ่งของ โรงพยาบาล (3S) ด้านบริการ มีการนำข้อมูลจากโปรแกรม การจำแนกประเภทผู้ป่วยมาเชื่อมโยงไปสู่การใช้ โปรแกรมการคำนวน Productivity เพื่อมอบหมายงานและบริหารอัตรากำลังพยาบาลตามประเภทผู้ป่วย อย่างเหมาะสม และเป็นข้อมูลช่วยตัดสินใจพิจารณาในการเกลี่ยอัตรากำลังระหว่างหน่วยงานในด้าน ปฏิบัติการพยาบาล และมีมาตรฐานการปฏิบัติงาน (SOP) ที่สามารถดึงออกมาใช้งานได้ทุกหน่วยปฏิบัติ ทางการพยาบาล และเมื่อมีอุบัติการณ์สามารถนำข้อมูลมาทบทวน RCA นำไปสู่การปรับระบบบริการ ใน รูปแบบ 8.กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาลมีการรักษาความปลอดภัยและลำดับชั้นความลับของข้อมูลและ สารสนเทศทางการพยาบาลโดยมีการวางระบบป้องกันในการเข้าถึงข้อมูลต่างๆ ดังนี้ มีการระบุตัวตนโดย การใช้รหัสของบุคคลก่อนเข้าใช้งานและให้ออกจากระบบทุกครั้งหลังใช้งานเพื่อป้องกันบุคคลอื่นเข้าถึง ข้อมูลในระบบ เช่น ระบบบริการผู้ป่วย HOS XP มีการเปลี่ยนรหัสทุก 45 วัน Internet ทุก 1 ปี ระบบแจ้ง
28 ข้อมูลข่าวสารทาง Intranet เวชระเบียนผู้ป่วย ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการ โปรแกรมเงินเดือน โปรแกรม ประเมินผลปฏิบัติราชการบุคลากร การเบิกจ่ายค่าตอบแทน โปรแกรม P4P โปรแกรมรายงานความเสี่ยง NRLS นอกจากนี้ได้กำหนดชั้นของการเข้าถึงข้อมูลในบางโปรแกรม เช่น โปรแกรมประเมินผลปฏิบัติ ราชการบุคลากรให้เข้าถึงได้เฉพาะหัวหน้าหอผู้ป่วย/หน่วยงาน ผลตรวจ HIV เข้าดูผลได้เฉพาะพยาบาลผู้ให้ คำปรึกษาและเจ้าหน้าที่ห้องตรวจปฏิบัติการ กำหนดให้มีพยาบาล ITWN เป็นผู้บริหารจัดการฐานข้อมูล ของแต่ละหน่วยงานเพื่อดูแลความปลอดภัยและป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายของฐานข้อมูล 8. ความพร้อมต่อภาวะฉุกเฉิน 8.1 กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาลมีการเตรียมความพร้อมของระบบงาน สถานที่ทำงาน วัสดุ ครุภัณฑ์ อุปกรณ์ เครื่องมือ รวมถึงระบบสารสนเทศเพื่อรองรับภัยพิบัติหรือภาวะฉุกเฉิน (ความพร้อมของ ระบบงาน เช่น ระบบไฟฟ้าสำรอง ระบบการสั่งการ) โดยร่วมกับคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมและความ ปลอดภัยของโรงพยาบาลในการจัดทำแผนเตรียมความพร้อมของระบบงาน สถานที่ วัสดุ รวมทั้งระบบ สำรองไฟฟ้า เพื่อรองรับภัยพิบัติหรือภาวะฉุกเฉิน มีระบบสั่งการในเวลาราชการดำเนินการโดยผู้ช่วย หัวหน้าพยาบาล นอกเวลาราชการโดยพยาบาลตรวจการ - มีแผนระบบไฟฟ้าสำรองอัตโนมัติทุกหอผู้ป่วย/หน่วยงาน สามารถใช้งานได้ภายใน 7 วินาที เมื่อ ไฟฟ้าดับ - แผนรองรับภัยพิบัติหรือภาวะฉุกเฉินของโรงพยาบาลพระนารายณ์มหาราช (BCP) - แผนอุบัติเหตุหมู่ มีการซ้อมแผนกับหน่วยงานภายในและภายนอกที่เกี่ยวข้องปีละ 1 ครั้ง - ระบบสำรองแก๊สทางการแพทย์ให้เพียงพอ มีระบบสัญญาณเตือนกรณีปริมาณลดระดับต่ำกว่า เกณฑ์ 8.2 มีระบบการป้องกันภัยพิบัติที่สามารถป้องกันได้ เช่น อัคคีภัยจากระบบไฟฟ้าภายใน อาคาร โดยร่วมกับคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยของโรงพยาบาล ตรวจสอบอุปกรณ์ทุก หน่วยงานที่มีเครื่องมืออุปกรณ์ทางการแพทย์ เช่น ห้องผ่าตัด ICU เพื่อป้องกันไฟฟ้าลัดวงจร กำหนดให้ทุก หน่วยงานมีแผนอัคคีภัยและอบรมซ้อมแผนป้องกันและระงับอัคคีภัย ร่วมกับคณะอนุกรรมการป้องกันและ ระงับอัคคีภัย ปีละ 1 ครั้ง ตรวจสอบความพร้อมใช้ของถังดับเพลิงทุก 6 เดือนหากพบความผิดปกติให้ ประสานฝ่ายซ่อมบำรุง 8.3 มีการเตรียมพร้อมด้านการบริหารจัดการที่คล่องตัวและความต่อเนื่องของการดำเนินงาน โดยร่วมกับคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยของโรงพยาบาล ดังนี้ - เมื่อไฟฟ้าดับระบบไฟฟ้าสำรองอัตโนมัติจะทำงานภายใน 7 วินาทีและมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายซ่อมบำรุง ดูแล 24 ชั่วโมง - ระบบ HosXp ล่มแจ้งเจ้าหน้าที่ IT ตลอด 24 ชั่วโมงในการรับปรึกษาปัญหาการใช้งาน คอมพิวเตอร์ โดยนอกเวลาราชการมอบหมายให้พยาบาลหัวหน้าเวรประสานเจ้าหน้าที่ IT เพื่อให้การใช้งาน เป็นไปอย่างต่อเนื่อง - ระบบ Data center ของกลุ่มภารกิจด้านการพยาบาลมีศูนย์คอมพิวเตอร์ช่วยดูแลความ ปลอดภัยฐานข้อมูลต่างๆ มีระบบสำรองฐานข้อมูล (Backup) และการกู้คืนฐานข้อมูล (Restore) ตลอด 24 ชั่วโมง
29 ข.การจัดการความรู้ แนวทางปฏิบัติ 1.กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล กำหนดวิสัยทัศน์ (Knowledge Vision) นโยบาย และแผนการ จัดการความรู้อย่างเป็นระบบ และต่อเนื่อง 2. ผู้บริหารสูงสุดของกลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล เป็นผู้นำและเป็นแบบอย่างที่ดี ในการสร้าง บรรยากาศและสนับสนุนให้เกิดการเรียนรู้ในองค์กร และการจัดการความรู้อย่างเป็นระบบ 3. กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล กำหนดทีมงานการจัดการความรู้ เพื่อทำหน้าที่วางแผน ดำเนินการและจัดกิจกรรมการจัดการความรู้ในองค์กร 4. กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล กำหนดวิธีการสื่อสารและถ่ายทอดความรู้ เพื่อก่อให้เกิดการ เรียนรู้และการจัดการความรู้ในองค์กร ทั้งด้านเนื้อหา กลุ่มเป้าหมาย ช่องทาง ระยะเวลา กิจกรรม 5. กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล กำหนดกระบวนการและเครื่องมือที่ใช้ในการจัดการความรู้ให้ เป็นระบบ ทั้งประเด็นการค้นหาความรู้ การสร้างและแสวงหาความรู้ การจัดการความรู้ให้เป็นระบบ การประมวลและกลั่นกรองความรู้ การเข้าถึงความรู้ การแบ่งปันความรู้ การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ การเรียนรู้ และการลองผิดลองถูกเพื่อให้เกิดความรู้ใหม่ 6. กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล กำหนดวิธีการที่จะทำให้เกิดระบบการจัดการความรู้และความรู้ ใหม่ ที่มีลักษณะ 6.1 ครอบคลุม : เชื่อมโยงกับหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อเกิดเครือข่ายการทำงาน 6.2 รวดเร็ว : สามารถนำความรู้มาใช้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ 6.3 ถูกต้อง : มีระบบการตรวจสอบความรู้ก่อนและหลังการจัดเก็บ 6.4 ทันสมัย : พัฒนาระบบการจัดการความรู้โดยปรับปรุงแก้ไขให้มีความทันสมัย พร้อมใช้ ประโยชน์ มีการทำวิจัยร่วมกับหน่วยงานต่างๆ 6.5 เชื่อมโยง : มีการแลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกัน รวมถึงการติดตามตรวจสอบความรู้ร่วมกัน 6.6 น่าเชื่อถือ : มีการเปิดเผยให้บุคคลภายนอกรับทราบ มีการปรับปรุงองค์ความรู้ให้มีความ ทันสมัยและน่าเชื่อถือ 6.7 เข้าถึงได้ : มีระบบเครือข่ายความรู้ เพื่อให้ผู้ใช้บริการมีความสะดวก รวดเร็ว และเข้าถึง 6.8 ตรวจสอบได้ : มีระบบการมีส่วนร่วมในการตรวจสอบความรู้ต่างๆ กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง 6.9 มีความปลอดภัย : ป้องกันไม่ให้ความรู้และข้อมูลถูกแก้ไข ทำลาย หรือนำไปใช้ในทางที่ไม่ สมควร 6.10 การมีส่วนร่วมในกระบวนการจัดการความรู้ของบุคลากรทางการพยาบาลทุกระดับและภาคี เครือข่าย : สร้างระบบการดำเนินงานร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ภายนอกทั้งภาครัฐ เอกชน และรัฐวิสาหกิจ 7.กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล กำหนดวิธีการวัดและประเมินผล ระบบการจัดการความรู้ใน ประเด็นเกี่ยวกับทรัพยากรสนับสนุน กิจกรรมต่าง ๆ ผลผลิต และผลลัพธ์ 8. กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล กำหนดวิธีการและหลักเกณฑ์ในการยกย่อง ชมเชย และให้รางวัล แก่บุคคลที่มีพฤติกรรมที่พึงประสงค์ในการสร้าง ถ่ายทอด แลกเปลี่ยนเรียนรู้ และเป็นแบบอย่างที่ดี รวมทั้งวิธีการ บูรณาการเข้ากับระบบการประเมินผลการปฏิบัติงานและค่าตอบแทน 9. กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาลจัดให้มีวิธีการ/กระบวนการจัดการความรู้ที่ครอบคลุมถึงการระบุ ความรู้ที่จำเป็น การสร้าง/แสวงหา ความรู้ด้านการพยาบาลและอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องการจัดเก็บความรู้ การ ถ่ายโอน/แลกเปลี่ยนความรู้ โดยคณะอนุกรรมการวิชาการกำหนดระบบการกระตุ้นสนับสนุนให้หน่วยงาน
30 สร้างผลงานด้านวิชาการ One ward one research เช่น R2R, นวตกรรม, Best practice มีตลาดนัด วิชาการให้นำเสนอผลงาน (ปี2565 นำเสนอ 23 หน่วยงาน รวม 38 เรื่อง R2R 2 เรื่อง CQI 21 เรื่อง นวัตกรรม 15 เรื่อง) มีเวทีนำเสนอผลงานทั้งในโรงพยาบาล/ระดับเขต/ระดับประเทศ/นานาชาติ เช่น นำเสนอผลงานระดับนานาชาติ 2 เรื่อง 1) Effect of nursing management for Corona virus 2019 care, King Narai Hospital, Lop Buri,Thailand 2 ) Improvement of COVID –19 care at King Narai Hospital ระดับประเทศ 2 เรื่อง 1) ผลลัพธ์ทางคลินิกของผู้ป่วยหัวใจล้มเหลวโรงพยาบาลพระ นารายณ์มหาราช 2)ประสิทธิผลของโปรแกรมการบริหารจัดการเวชภัณฑ์แบบเรียลไทม์ด้วย Application google sheet มี QR code link ไปที่ Web page การจัดการความรู้ทางการพยาบาลโดยเก็บเป็นคลังความรู้ใน KM Center เช่น ความรู้เรื่องผลสำเร็จในการดูแลบาดแผลเบาหวานที่มีความซับซ้อน การพัฒนาแนว ปฏิบัติในการดูแลและป้องกันการแพร่กระจายเชื้อในผู้ป่วยวัณโรคในหอผู้ป่วยอายุรกรรมชาย2 10. กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาลมีการรวบรวมและถ่ายทอดความรู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อใช้ในการ สร้าง นวตกรรมและใช้ในการวางแผนเชิงกลยุทธมีคณะอนุกรรมการวิชาการรวบรวมและถ่ายทอดความรู้ โดยจัดเก็บความรู้ ไว้ใน Web page กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล เพื่อให้บุคลากรทุกคนสามารถเข้าถึง ความรู้ และแลกเปลี่ยนความรู้สู่การปฏิบัติที่หน้างาน การจัดทำโครงการแลกเปลี่ยนและเผยแพร่ความรู้ โดยการ จัดประชุมวิชาการพยาบาลประจำปี (KM day) ปีละ 1 ครั้ง ร่วมนำเสนอผลงานวิชาการกับศูนย์ คุณภาพโรงพยาบาล นำผลงานที่เป็น Best practice กำหนดเป็นนโยบายเพื่อนำสู่การปฏิบัติ กำหนดเป็น วาระในการประชุมในคณะ กรรมการบริหารกลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล และมีการจัดเวทีถ่ายทอดความรู้ สอนหน้างาน นำมาวางแผนเชิงกลยุทธ์เพื่อให้สอดรับกับเป้าหมายขององค์กร 11. มีการประเมินผลระบบ/กระบวนการจัดการความรู้ของกลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล และ ปรับปรุงให้สอดคล้องกับสมรรถนะขององค์กร โดยมีการจัดเวที Community of Practice (CoP) ระหว่าง หน่วยงานแต่ละสาขา และ โรงพยาบาลในเครือข่ายของเขตสุขภาพ โดยแลกเปลี่ยนเรียนรู้ กำกับ นิเทศ ติดตาม ปัญหาและการดำเนินการตามกระบวนการจัดการความรู้ที่วางไว้ ได้แก่ CoP การพยาบาลผู้ป่วย Stroke, STEMI, Sepsis กลุ่มผู้ป่วย Trauma และผู้ป่วยที่มีภาวะ Rhabdomyolysis มีการประเมิน สมรรถนะเฉพาะโรคในแต่ละสาขา นำ Gap มาปรับปรุงพัฒนาให้ระบบการพยาบาลผู้ป่วยสำคัญของแต่ละ สาขาให้มีประสิทธิภาพและบรรลุเป้าหมายขององค์กร เช่น จัดเวที CoP ระดับเครือข่ายจังหวัดลพบุรี ปีละ 2 ครั้ง เพื่อทบทวนกระบวนการดูแลผู้ป่วย Sepsis พบว่ามีการประเมินผู้ป่วยล่าช้าจึงกำหนดให้มีการใช้ SOS score ในกลุ่มเสี่ยงทุกราย มาตรฐานที่ 9 ระบบการบริหารงานบุคคล กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล กำหนดระบบการบริหารงานบุคคล การประเมินผลการปฏิบัติงาน การบริหารค่าตอบแทน และความก้าวหน้าในการทำงานที่เอื้อให้บุคลากรทางการพยาบาล และกลุ่ม ภารกิจด้านการพยาบาลมีผลการดำเนินงานที่ดี ก. การจัดระบบการบริหารงานบุคคล แนวทางปฏิบัติ 1.กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาลจัดทำยุทธศาสตร์และแผนด้านทรัพยากรบุคคล ครอบคลุมและสอดคล้องกับพันธกิจ โครงสร้างองค์กร ทรัพยากร และความต้องการกำลังคนในปัจจุบัน และอนาคตโดยจัดทำแผนอัตรากำลังพยาบาลวิชาชีพในแต่ละปีเป็นแผนระยะยาว 5 ปี นำเสนอต่อเขต
31 สุขภาพท ี่4 แต่ละปีจะขอจัดสรรโควตานักเรียนทุนของโรงพยาบาลโดยคำนวณจาก งานใหม่ จำนวน ผู้ เกษียณ ผู้ลาออก และ กำหนดการดำเนินงานเชิงรุกในสถาบันการศึกษา และเพจโรงพยาบาลเพื่อเชิญชวน เข้ามาทำงาน และการเปิดรับสมัครพยาบาลวิชาชีพ โดยดำเนินการสอบคัดเลือกจากคณะกรรมการบริหาร กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล มีการตรวจสอบวุฒิการศึกษา และใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ ตั้งแต่ก่อน รับเข้าปฏิบัติงาน จ้างงานครั้งแรกในตำแหน่งลูกจ้างชั่วคราวรายวัน จะดำเนินการ บรรจุตำแหน่ง ข้าราชการเม ื่ อมีตำแหน่งข้าราชการโดยการสอบคัดเลือกตามระเบียบของกระทรวงสาธารณสุข 2.กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล จัดระบบการบริหารงานบุคคลที่ส่งเสริมให้เกิดความ ร่วมมือ ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ เปิดโอกาส ให้อำนาจการตัดสินใจ สร้างนวัตกรรม ก่อให้เกิด วัฒนธรรมองค์กรแห่งการเรียนรู้ เสริมสร้างขวัญและกำลังใจบุคลากรทางการพยาบาล มีความคล่องตัว ในการทำงาน และสร้างความพึงพอใจในการทำงานด้วยการกำหนดกลวิธีต่อไปนี้ 2.1 เมื่อรับบุคลากรใหม่ มีการจัดโครงการปฐมนิเทศก่อนการปฏิบัติงานทั้งในระดับกลุ่ม การพยาบาล และระดับโรงพยาบาล โดยให้ความรู้เกี่ยวกับนโยบายของกลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล ระเบียบต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงาน และมีการปฐมนิเทศในแต่ละหน่วยงานมีระบบ พยาบาลพี่ เลี้ยงของแต่ละหอผู้ป่วย/หน่วยงาน เพ ื่ อสอนงานในระหว่างทดลองฝึกปฏิบัติงานเป็นเวลา 1 เดือน และ ปฏิบัติงานภายใต้การนิเทศของพยาบาลวิชาชีพท ี่ มีประสบการณ์และผ่านการอบรมเฉพาะทางในสาขา การพยาบาลนั้น รวมทั้งมีการประเมินสมรรถนะก่อนและหลังการปฐมนิเทศ 2.2 ขณะปฏิบัติงานสนับสนุนให้มีการสอนงานโดยพี่เลี้ยงและให้ได้รับการอบรม ทั้งภายในและภายนอก โรงพยาบาล รวมทั้งสามารถเรียนเฉพาะทางในสาขาที่ปฏิบัติงานอยู่ เพื่อ เตรียมบุคลากรให้พร้อมกับการก้าวทันกับการพัฒนาแพทย์เฉพาะทาง และ New Service ที่บริการ 2.3 กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาลมีกระบวนการเตรียมอัตรากำลังพยาบาลเพื่อพร้อมรับ การเปลี่ยนแปลงให้เหมาะสมกับสถานการณ์ โดยวิเคราะห์ความต้องการอัตรากำลังเพื่อตอบสนอง New Service ความเชี่ยวชาญทางการแพทย์ตาม Service Plan และการเตรียมความพร้อมของผู้บริหาร ทางการพยาบาลเพื่อก้าวสู่ความก้าวหน้าตาม Career path อย่างมีประสิทธิภาพ มีการคำนวณ FTE เพื่อวางแผนอัตรากำลังล่วงหน้าระยะ 5 ปีให้สามารถจัดสรรอัตรากำลังให้เหมาะสมตามภาระงาน โดย 2.3.1 นำข้อมูลภาระงานของแต่ละหอผู้ป่วย/หน่วยงาน จำนวนผู้ป่วย จำนวนวัน นอนของผู้ป่วย อัตราการครองเตียง Active bed จำนวนเวรนอกเวลา การวางแผนขยายการบริการ และข้อมูลเกี่ยวกับบุคลากรในแต่ละปีได้แก่การเกษียณ การลาออก การย้าย ในแต่ละปีมาวิเคราะห์ ความต้องการอัตรากำลังพยาบาล เพ ื่ อจัดสรรอัตรากำลังให้เหมาะสมแก่หอผู้ป่วย/หน่วยงาน 2.3.2 การเตรียมความพร้อมของผู้บริหารทางการพยาบาลเพื่อก้าวสู่ความก้าวหน้า ตาม Career path อย่างมีประสิทธิภาพ โดยพัฒนาตามเกณฑ์ นร.148 ว่าด้วยหลักเกณฑ์และเงื่อนไข การกำหนดตำแหน่งพยาบาลวิชาชีพชำนาญการพิเศษในโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข 3. กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล กำหนดแผนภูมิโครงสร้างการบริหารการพยาบาล และสายการ บังคับบัญชาในลักษณะแนวราบ (Flat Organization) หรือให้มีชั้นการบังคับบัญชาน้อยที่สุด และเป็น ปัจจุบัน ระบุหน่วยงานในความรับผิดชอบชัดเจน โดยมีการกำหนดโครงสร้างการบริหารตามสายบังคับ บัญชา โดยกำหนดบทบาทหน้าที่และขอบเขตของงานการพยาบาลสอดคล้องตามมาตรฐานวิชาชีพ โดยมี หัวหน้าพยาบาลเป็นผู้บริหารสูงสุดขององค์กร มีการแบ่งสายงานตามโครงสร้างออกเป็น 16 กลุ่มงานการ พยาบาล (แผนภูมิที่ 1) นอกจากนี้มีการกำหนดโครงสร้างเพื่อการพัฒนาคุณภาพบริการพยาบาลซึ่งเป็นการ บริหารแบบมีส่วนร่วม มีรองหัวหน้าพยาบาลให้การดูแล กำกับ 4 ด้าน ดังนี้1) รองหัวหน้าพยาบาลด้าน
32 บริหาร 2) รองหัวหน้าพยาบาลด้านบริการ 3) รองหัวหน้าพยาบาลด้านวิชาการ 4) รองหัวหน้าพยาบาล ด้านกิจการพิเศษ นอกจากนี้มีผู้ช่วยหัวหน้าพยาบาล 12 คน ครอบคลุมงานด้านบริหาร บริการ วิชาการ ได้แก่ 1) ผู้ช่วยหัวหน้าพยาบาลด้านทรัพยากรบุคคล 2) ผู้ช่วยหัวหน้าพยาบาลด้านแผนและนโยบาย 3) ผู้ช่วยหัวหน้าพยาบาลด้านอัตรากำลังและสารสนเทศทางการพยาบาล 4) ผู้ช่วยหัวหน้าพยาบาลด้าน QA 5) ผู้ช่วยหัวหน้าพยาบาลด้านบริหารความเสี่ยง 6) ผู้ช่วยหัวหน้าพยาบาลด้านจริยธรรมและจรรยาบรรณ วิชาชีพ 7) ผู้ช่วยหัวหน้าพยาบาลด้านจัดการข้อร้องเรียน 8) ผู้ช่วยหัวหน้าพยาบาลด้านกิจการนักศึกษา วิจัย และนวัตกรรม 9) ผู้ช่วยหัวหน้าพยาบาลด้าน APN, NCM 10) ผู้ช่วยหัวหน้าพยาบาลด้าน KM 11) ผู้ช่วยหัวหน้าพยาบาลด้านสวัสดิการ และ 5 ส. 12) ผู้ช่วยหัวหน้าพยาบาลด้านงานพิธีและงานพิเศษ ดัง แผนภูมิที่ 2 และเพื่อให้การดำเนินงานของกลุ่มภารกิจด้านการพยาบาลมีประสิทธิภาพ มีการประสาน แนวราบ จึงแต่งตั้งคณะกรรมการ และอนุกรรมการทั้งหมด 9 คณะ ดังนี้ 1) คณะกรรมการบริหารกลุ่ม ภารกิจด้านการพยาบาล 2) คณะอนุกรรมการพัฒนางานบริการพยาบาล (QA) 3) คณะอนุกรรมการพัฒนา ทรัพยากรบุคคลทางการพยาบาล 4) คณะอนุกรรมการบริหารความเสี่ยงทางการพยาบาล 6) คณะอนุกรรมการวิจัยทางการพยาบาล 7) คณะอนุกรรมการด้านพยาบาลผู้ชำนาญการขั้นสูง (APN) และ ผู้จัดการรายกรณี (NCM) 8) คณะอนุกรรมการด้านบริการการศึกษา 9) คณะอนุกรรมการสารสนเทศ ทางการพยาบาล 10) คณะอนุกรรมการสวัสดิการและบ้านพักกลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล ซึ่ง คณะกรรมการและอนุกรรมการดังกล่าวมีรองหัวหน้าพยาบาล/ผู้ช่วยหัวหน้าพยาบาล เป็นประธาน อนุกรรมการ รับผิดชอบในการกำหนดแผนงาน โครงการต่างๆ และดำเนินงานตามแผนกลยุทธ์ของกลุ่ม ภารกิจด้านการพยาบาล แผนภูมิที่ 1 โครงสร้างการบริหารงานตามสายการบังคับบัญชา กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล
33 แผนภูมิที่ 2 โครงสร้างเพื่อการพัฒนาคุณภาพบริการพยาบาล 4. กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาลกำหนดกฎระเบียบต่างๆ โดยคำนึงถึงสิทธิมนุษยชนและความ ต้องการพื้นฐานของบุคคลเพื่อให้บุคลากรทางการพยาบาลยอมรับ เคารพในกฎระเบียบ และปฏิบัติตาม กฎระเบียบโดยมีข้อขัดแย้งน้อยที่สุด 5. กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล จัดทีมการพยาบาลในความรับผิดชอบให้มีความพร้อมในการ ให้บริการพยาบาลที่มีคุณภาพ ด้วยการจัดสรรอัตรากำลังอย่างเป็นระบบ เพียงพอ และสามารถให้บริการได้ ตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งภาวะปกติและฉุกเฉิน ด้วยการดำเนินการดังนี้ 5.1 ใช้แนวคิดการจัดอัตรากำลังตามประกาศของสภาการพยาบาลเรื่องนโยบายชั่วโมงการ ทำงานของพยาบาล เพื่อความปลอดภัยของผู้ป่วย โดย -กำหนดให้หอผู้ป่วย/หน่วยงานจัดตารางเวรของพยาบาลวิชาชีพปฏิบัติงาน ติดต่อกันได้ไม่เกิน 60 ชั่วโมงใน 7 วัน (นับรวมทั้งเวรปกติและเวรนอกเวลา) และไม่จัดเวรเช้าต่อบ่าย ติดต่อกันเกิน 3 วัน ใน 1 ล็อคเวร ยกเว้นในกรณีมีบุคลากร ลาป่วย ลาไปอบรม เป็นต้น - ทบทวนบทบาทของพยาบาลวิชาชีพที่เป็นงานของวิชาชีพอื่น เช่น การบันทึก ค่าบริการ การบันทึกข้อมูลต่าง ๆ ส่ง สปสช. - ใช้การผสมผสานอัตรากำลังพยาบาลโดยจัดสรรอัตรากำลังผู้ช่วยพยาบาลให้ หน่วยงานที่มีภาระงานมาก ได้แก่อายุรกรรม ศัลยกรรม ห้องฝากครรภ์ ห้องผ่าตัด เพ ื่ อช่วยการ ปฏิบัติการพยาบาลด้าน Non NursingTask - การปรับและบริหารอัตรากำลังในสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 มีการปรับอัตรากำลังตามแผน BCP COVID ของโรงพยาบาล จัดอัตรากำลังของพยาบาลวิชาชีพจากทุก กลุ่มงานการพยาบาล ไปช่วยดูแลผู้ป่วยที่ Cohort ward และพยาบาลวิชาชีพห้องผู้ป่วยหนักทุกสาขา ไปช่วยดูแลผู้ป่วยที่ห้องแยกโรคที่มีอาการวิกฤติ และจัดอัตรากำลังในการดูแลผู้ป่วยที่ โรงพยาบาลสนาม พัน สร 1 , โรงพยาบาลสนามวัดพระบาทน้ำพุ และจัดอัตรากำลังพยาบาลบริหารงานและปฏิบัติงาน
34 หน่วยวัคซีนภายนอกโรงพยาบาล ได้แก่ หน่วยวัคซีน ศูนย์การค้าโรบินสัน และหน่วยวัคซีนโลตัสลพบุรี รวมทั้งหน่วยวัคซีนตามโรงเรียนทั้งหมดในเขตอำเภอเมือง ลพบุรี 5.2 จัดอัตรากำลังขึ้นปฏิบัติงานในแต่ละรอบเวร มุ่งให้ผู้ป่วยได้รับการบริการอย่างมีคุณภาพ ตามเกณฑ์ชี้วัดคุณภาพการพยาบาล โดยพิจารณาถึงสัดส่วนของบุคลากรทางการพยาบาลแต่ละประเภท ต่อจำนวนผู้ป่วยในการปฏิบัติงานแต่ละรอบเวร อย่างน้อยควรมีอัตรากำลังตามมาตรฐานบริการพยาบาล และผดุงครรภ์ระดับทุติยภูมิและระดับตติยภูมิ พ.ศ. 2548 ของสภาการพยาบาล ดังนี้ ประเภท ชั่งโมงการพยาบาล สัดส่วน ต่อวันนอน พยาบาลวิชาชีพ : ผู้ป่วย ผู้ป่วยนอก 1 : 100 อุบัติเหตุ-ฉุกเฉิน 1 : 10 หอผู้ป่วยสามัญ กุมารเวชกรรม 6 1 : 4 สูติกรรม 4 1 : 6 นรีเวชกรรม 4 1 : 6 อายุรกรรม 6 1 : 4 ศัลยกรรม/ศัลยกรรมกระดูก 4.8 1 : 5 ศัลยกรรมอุบัติเหตุ/ศัลยกรรมประสาท 6 1 : 4 จิตเวช 6 1 : 4 หน่วยบำบัดเฉพาะ (ไตเทียม รังสีรักษาเคมี บำบัด) 3 ชั่วโมงต่อราย 1 : 2 ห้องผ่าตัด 2 : 1 พยาบาลวิสัญญี 2 : 1 หอผู้ป่วยพิเศษ 6 1 : 4 หอผู้ป่วยหนัก (ผู้ใหญ่) 12 1 : 2 หอผู้ป่วยหนักโรคหัวใจ (ผู้ใหญ่) 16 1 : 1.5 หอผู้ป่วยหนัก (เด็ก) 16 1 : 1.5 ห้องคลอด 2 : 1 การบริการปรึกษาสุขภาพ - 1 : 250 เตียง การป้องกันและควบคุมการติดเชื้อใน โรงพยาบาล - 1 : 200 เตียง หมายเหตุ : ถ้าใช้พยาบาลเวชปฏิบัติตรวจรักษาที่ OPD ต้องใช้พยาบาล 1 คนต่อผู้ป่วย 30 คน 5.3 กำหนดอัตรากำลังพยาบาลต้องไม่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของชั่วโมงการพยาบาล ต่อวันนอนตามระดับความหนักเบาของผู้ป่วย (Acuity Level) ในโรงพยาบาล ดังนี้
35 ระดับของ ทุติยภูมิ ตติยภูมิ โรงพยาบาล ระดับต้น Early Secondary ระดับสูง Late Secondary ทั่วไป Tertiary เฉพาะทาง Excellent Center IPD 3 4.5 6 6 ICU 12 12-16 16 5.4 Staff Mix อาจมี RN:Non RN ได้เป็น 100% :0 80%:20% 70%:30% 65%:35% หรือ 60%:40% ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนและความรุนแรงของผู้ป่วยที่ต้องการพยาบาล 5.5 Skill Mix อาจต้องคำนึงถึงความเชี่ยวชาญเฉพาะทางของ RN เช่น ผู้ที่ปฏิบัติงาน ในหน่วยงานพิเศษต่าง ๆ รวมทั้ง APN ซึ่งควรมีในบางพื้นที่ 5.6 ปัจจัยด้านความเพียงพอของอัตรากำลัง จากการวิเคราะห์ข้อมูล พบว่า มีการ ขาดอัตรากำลังพยาบาลสะสมอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับมีพยาบาลวิชาชีพลาออกและโอนย้ายเพิ่มขึ้นโดย ในปีงบประมาณ 2565-2566 มีพยาบาลลาออก 26 คน โอนย้าย 5 คน รวมทั้งมีการขยายบริการรองรับ ความเชี่ยวชาญทางการแพทย์เฉพาะทางที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ แพทย์เฉพาะทางที่เป็น Subboard อายุรกรรม ศัลยกรรมกระดูก CVT นรีเวช จักษุ เป็นต้น จึงมีการดำเนินการด้านอัตรากำลัง ดังนี้ - ปรับรอบการจัดอัตรากำลังให้ถี่ขึ้นจาก 2 ครั้ง/ปี ปรับเป็นทุก 1 เดือนเพื่อให้ทันต่อการ แก้ปัญหา - จัดสรรอัตรากำลังให้หอผู้ป่วย /หน่วยงาน ตามภาระงานทุกปีและมีการเกลี่ยอัตรากำลัง ประจำวัน โดยมีผู้ช่วยหัวหน้าพยาบาลประจำเดือน และพยาบาลตรวจการช่วยกระจายอัตรากำลัง คำนึงถึง Productivity ของหน่วยงานเป็นหลัก รวมทั้งมีการจัดอัตรากำลังเสริมและการลดอัตราตาม ภาระงาน - ปรับปรุงกระบวนการทำงานของพยาบาลวิชาชีพ โดยใช้ lean management เพื่อลด กิจกรรม non nursing - ใช้ staff mix ในการช่วยปฏิบัติงาน รวมทั้งขออนุมัติจ้างพยาบาล part time จากทั้ง ภายใน และภายนอกช่วยเข้าหมุนเวียนในตารางการปฏิบัติงาน และใช้ระบบให้คำปรึกษาในการดูแล ผู้ป่วยเฉพาะทางที่มีความซับซ้อน 6.กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล สื่อสารการจัดระบบการบริหารงานบุคคล และแลกเปลี่ยน ความรู้หรือทักษะระหว่างบุคลากรภายในกลุ่มภารกิจด้านการพยาบาลอย่างทั่วถึง เพื่อให้มีการปฏิบัติไปใน ทิศทางเดียวกัน 7.กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล นำเอาวัฒนธรรมและข้อคิดเห็นที่หลากหลายของผู้ใช้บริการและ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย รวมทั้งข้อคิดเห็นของชุมชนที่เกี่ยวข้องมาใช้ในการสร้างและปรับปรุงระบบการบริหาร การพยาบาล เพื่อความคล่องตัวและเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ผู้ใช้บริการ
36 ข. ระบบการประเมินผลการปฏิบัติงานของบุคลากรทางการพยาบาล แนวทางปฏิบัติ 1.กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล กำหนดระบบการควบคุมกำกับดูแลการปฏิบัติงานของบุคลากร ทางการพยาบาล ทั้งขณะและอยู่ระหว่างทดลองงาน การฝึกอบรม และการปฏิบัติงานจริง ดังนี้ 1.1 ระบบควบคุมกำกับดูแลการปฏิบัติงานของบุคลากรทางการพยาบาล ที่อยู่ระหว่างทดลองงาน และการฝึกอบรม ประกอบด้วย 1.1.1 การกำหนดขอบเขตหน้าที่และข้อจำกัดในการปฏิบัติงาน 1.1.2 ระบบการให้คำปรึกษา แนะนำ หรือสอนงาน 1.1.3 การประเมินความเหมาะสมของหน้าที่รับผิดชอบและภาระงานที่แต่ละคนได้รับ มอบหมาย 1.2 ระบบการควบคุมกำกับดูแลการปฏิบัติงานประจำของบุคลากรทางการพยาบาล ประกอบด้วย 1.2.1 การตรวจสอบความเหมาะสมของคุณวุฒิ ความรู้ความสามารถ 1.2.2 ระบบการให้คำปรึกษา แนะนำ หรือสอนงาน 1.2.3 การประเมินผลการปฏิบัติงานและความถูกต้องในการปฏิบัติงานตามที่ได้รับ มอบหมาย - ปรับรอบการจัดอัตรากำลังให้ถี่ขึ้นจาก 2 ครั้ง/ปี ปรับเป็นทุก 1 เดือนเพื่อให้ทันต่อการ แก้ปัญหา - จัดสรรอัตรากำลังให้หอผู้ป่วย /หน่วยงาน ตามภาระงานทุกปีและมีการเกลี่ยอัตรากำลัง ประจำวัน โดยมีผู้ช่วยหัวหน้าพยาบาลประจำเดือน และพยาบาลตรวจการช่วยกระจายอัตรากำลัง คำนึงถึง Productivity ของหน่วยงานเป็นหลัก รวมทั้งมีการจัดอัตรากำลังเสริมและการลดอัตราตาม ภาระงาน - ปรับปรุงกระบวนการทำงานของพยาบาลวิชาชีพ โดยใช้ lean management เพื่อลด กิจกรรม non nursing - ใช้staff mix ในการช่วยปฏิบัติงาน รวมทั้งขออนุมัติจ้างพยาบาล part time จากทั้ง ภายใน และภายนอกช่วยเข้าหมุนเวียนในตารางการปฏิบัติงาน และใช้ระบบให้คำปรึกษาในการดูแล ผู้ป่วยเฉพาะทางที่มีความซับซ้อน 2. กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล มีนโยบายให้มีระบบการประเมินผล การปฏิบัติงาน ตามรอบ การประเมินเพื่อเลื่อนขั้นเงินเดือน นอกเหนือจากการประเมิน Functional และ Specific competency ซึ่งประเมิน 1 ครั้ง/ปี 1. ด้านสมรรถนะ 1.1ด้านสมรรถนะหลักของวิชาชีพ - มีการประเมินผลการปฏิบัติงานโดยกำหนดเป็นตัวชี้วัดผลการปฏิบัติงาน ได้แก่ จำนวน อุบัติการณ์ความเสี่ยง อัตราความพึงพอใจของผู้ใช้บริการ คะแนนบันทึกทางการพยาบาล และผลสำเร็จ ของงานพิเศษที่ได้รับมอบหมาย กำหนดน้ำหนักคะแนนให้แตกต่างกันในความรับผิดชอบของแต่ละระดับ และผู้ปฏิบัติโดยหัวหน้าแต่ละหน่วยงานร่วมกำหนด 1.2 ด้านสมรรถนะหลักของ ก.พ. 5 ด้าน (ก.พ.) ดังนี้การมุ่งผลสัมฤทธิ์บริการที่ดีการ สั่งสมความเชี่ยวชาญในงานอาชีพ การยึดมั่นในความถูกต้องชอบธรรม และจริยธรรม การทำงานเป็นทีม
37 3. การประเมินผลการปฏิบัติงานของพยาบาลใหม่ - ประเมินผลการปฏิบัติงานของพยาบาลวิชาชีพใหม่ภายหลังการปฏิบัติงาน ครบ 3 เดือน 6 เดือน และ 1 ปี และ Feedback เพื่อพัฒนาตัวเองโดย มีพยาบาลพี่เลี้ยงดูแล ในระหว่างฝึกปฏิบัติงาน 4.การประเมินสมรรถนะของพยาบาลวิชาชีพ ได้แก่ Core competency Functional competency และ Specific competency ปีละ 1 ครั้งและนำผลการประเมินมาหา GAP แต่ละ ระดับ 5. มีระบบการจ่ายค่าตอบแทนตาม ภาระงาน P4P รวมทั้งสนับสนุนให้รางวัลคนดีศรีนารายณ์ซึ่ง เป็นรางวัลสำหรับบุคลากรที่ปฏิบัติงานดี และได้รับคำชมเชยจากผู้รับบริการโดยประกาศชมเชยในที่ ประชุมผู้บริหารโรงพยาบาล และชมเชยออกสื่อ Social 6. กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาลนำผลการประเมินผลงานของบุคลากร มาทำ Training need เพื่อพัฒนาเพิ่มขีดความสามารถของบุคลากร โดยนำผลจากการประเมินสมรรถนะหลัก และสมรรถนะเชิง วิชาชีพของพยาบาลวิชาชีพ ได้แก่ Core Competency, Functional Competency, Specific Functional Competency แล้วนำ GAP ของแต่ละระดับ มาวิเคราะห์เพื่อหาส่วนขาด รายบุคคล ( IDP : Individual Development Plan) ของสมรรถนะที่ควรมี และวางแผนพัฒนาสมรรถนะในรูปแบบ ต่าง ๆ เช่น การสอนงานโดยหัวหน้าหอผู้ป่วย /หัวหน้างาน การ Coaching การศึกษาด้วยตนเอง การ อบรมระยะสั้น อบรมระยะยาว การอบรมเฉพาะทาง 4 เดือน การศึกษาดูงาน 7. กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล กำหนดระบบการบริหารผลงาน (Performance Management) ของบุคลากรทางการพยาบาลที่ครอบคลุมทั้งการบริหารค่าตอบแทน รางวัล และ สิ่งจูงใจ ซึ่งระบบการ บริหารผลงานประกอบด้วย 7.1 การวางแผนเกี่ยวกับผลการปฏิบัติงาน โดยผู้บริหารและผู้ปฏิบัติวิเคราะห์ ทำความเข้าใจ และตกลงร่วมกันเกี่ยวกับผลการปฏิบัติงานที่ต้องการ 7.2 การรวบรวมข้อมูล สังเกตการณ์ จัดทำเอกสารและบันทึกข้อมูล ผลการ ปฏิบัติงานของ บุคลากรทางการพยาบาล ทั้งขณะและอยู่ระหว่างทดลองงาน การฝึกอบรม และการปฏิบัติงานจริง เพื่อใช้ ประกอบในการประเมินผลงานของบุคลากรทางการพยาบาล 7.3 การกำหนดระบบการประเมินผลการปฏิบัติงานของบุคลากรทางการพยาบาล โดย ดำเนินการดังนี้ 7.3.1กำหนดรูปแบบการประเมินผลแต่ละกลุ่ม ได้แก่การประเมินโดยใช้ดุลยพินิจของ ผู้ประเมิน (ผู้บังคับบัญชา) การประเมินโดยใช้การบันทึกพฤติกรรม 7.3.2 กำหนดเกณฑ์การประเมินผลการปฏิบัติงานของบุคลากรทางการพยาบาลแต่ละ กลุ่มไว้ชัดเจน 7.3.3 ประเมินผลการปฏิบัติงานร่วมกันระหว่างผู้บริหาร และผู้ปฏิบัติทั้งขณะอยู่ ระหว่างทดลองงาน การฝึกอบรม และการปฏิบัติงานจริง โดยการให้ข้อมูลย้อนกลับ เพื่อผู้ปฏิบัติได้รับ ทราบข้อดี ข้อด้อย เพื่อนำไปสู่การพัฒนาบุคลากร พัฒนางาน และพัฒนากลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล 7.4 การวินิจฉัยผลการปฏิบัติงานและการสอนงาน โดยผู้บริหารจะต้องวินิจฉัยผลการ ปฏิบัติงานตามสิ่งที่บรรลุผลสำเร็จใน 4 ด้าน คือ คุณภาพงาน ปริมาณงาน ทันตามเวลากำหนด และ การใช้ทรัพยากร
38 7.5 การสื่อสารผลการปฏิบัติงานแก่บุคลากรทางการพยาบาลอย่างต่อเนื่องตลอดปี โดยใช้ กระบวนการสื่อสารแบบสองทาง 7.6 การกำหนดวิธีการยกย่องชมเชย การให้รางวัล และสิ่งจูงใจ แก่ผู้ที่มีผลการปฏิบัติงานดี ทั้งวิธีการเลื่อนตำแหน่ง ให้เงินพิเศษ ทั้งเป็นทางการและไม่เป็นทางการ เป็นรายกลุ่มและรายบุคคล เพื่อ สนับสนุนให้บุคลากรมีขวัญ กำลังใจ มีการทำงานอย่างมีประสิทธิผล มีจิตสำนึกในการทำงานที่มุ่งเน้น ผลประโยชน์ ความต้องการของผู้ใช้บริการและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ค. การจ้างงานและความก้าวหน้าในงาน แนวทางปฏิบัติ 1. กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล ร่วมกับฝ่ายบริหารงานบุคคลโรงพยาบาลพระนารายณ์มหาราช กำหนดระบบการจ้างงาน และความก้าวหน้าในงานของบุคลากรทางการพยาบาล โดยดำเนินการดังนี้ 1.1 กำหนดคุณลักษณะและทักษะที่จำเป็นสำหรับบุคลากรทางการพยาบาล ทั้งด้าน การศึกษา การอนุญาตประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ทักษะ ความรู้ และ ความสามารถพิเศษ รวมทั้งกำหนดสัญญาจ้างเกี่ยวกับ เงื่อนไข ระยะเวลา บทบาท และความ รับผิดชอบต่อพันธกิจของกลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล 1.2 กำหนดกระบวนการที่มีประสิทธิผลในการสรรหาว่าจ้างและธำรงรักษาบุคลากร ทางการพยาบาลใหม่ โดยคำนึงถึงวัฒนธรรมและความคิดเห็นของบุคลากรและชุมชน 1.3 รวบรวม ตรวจสอบ และประเมินคุณลักษณะของบุคลากรทางการพยาบาลใน ด้านใบประกอบวิชาชีพ การศึกษา การฝึกอบรม และประสบการณ์ 1.4 กำหนดหน้าที่ความรับผิดชอบของตำแหน่งงาน และการมอบหมายงานตามความรู้ ความสามารถของผู้ประกอบวิชาชีพและข้อกำหนดในกฎหมาย 1.5 เก็บบันทึกประวัติและข้อมูลส่วนบุคคลของบุคลากรทางการพยาบาลให้สมบูรณ์ เป็นปัจจุบัน และเป็นความลับ 1.6 ประเมินและปรับปรุงกระบวนการเกี่ยวกับทรัพยากรบุคคลอย่างสม่ำเสมอ เพื่อ บรรลุผลดีทั้งผู้ใช้บริการและผู้รับผลประโยชน์ 2. กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล กำหนดเกณฑ์การสรรหาและคัดเลือกพยาบาลวิชาชีพเพื่อดำรง ตำแหน่งหัวหน้าพยาบาลและผู้บริหารทางการพยาบาลแต่ละระดับไว้เป็นลายลักษณ์อักษร โดยสอดคล้อง กับกฎระเบียบและแนวทางปฏิบัติของกระทรวงสาธารณสุข 3. กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล กำหนดหน้าที่ความรับผิดชอบหลักของพยาบาลวิชาชีพแต่ละ ระดับ ประกอบด้วย 3.1 สรุปลักษณะงาน (Summary Position) เป็นคำบรรยายลักษณะงาน ตาม ภาระหน้าที่โดยย่อของตำแหน่งงานในแต่ละระดับที่ผู้ปฏิบัติต้องทำให้สำเร็จ 3.2 หน้าที่รับผิดชอบหลัก (Accountability) เป็นรายละเอียดหน้าที่รับผิดชอบหลักที่ผู้ ปฏิบัติต้องทำ เพื่อให้ภารกิจของหน่วยงานบรรลุผลสัมฤทธิ์ ประกอบด้วยด้านต่างๆ คือ ปฏิบัติการ/งาน เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน การวางแผน การประสานงาน และบริการวิชาการ 4. กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล กำหนดมาตรฐานระดับความรู้ ทักษะ และประสบการณ์ที่ จำเป็นในงานของผู้บริหารทางการพยาบาล และพยาบาลวิชาชีพแต่ละระดับ
39 5. กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล กำหนดสมรรถนะ (Competency) ที่จำเป็นของพยาบาล วิชาชีพระดับปฏิบัติการและระดับผู้บริหารทั้งด้านสมรรถนะหลัก (Core Competency) สมรรถนะประจำ กลุ่มงาน (Functional Competency) และสมรรถนะด้านอื่น ๆ ตามความจำเป็นของหน่วยงาน 6. กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล สื่อสารหน้าที่ความรับผิดชอบและสมรรถนะให้บุคลากรทางการ พยาบาลทุกคนรับทราบ เข้าใจ และถือปฏิบัติ 7. กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล นำสมรรถนะไปใช้ในการประเมินบุคลากรทางการพยาบาลทุก ระดับเพื่อการพัฒนาบุคลากร 8. กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล กำหนดแผนและหลักเกณฑ์ในการสืบทอดตำแหน่ง (Succession Plan) ของบุคลากรทางการพยาบาลเพื่อการพัฒนาบันไดอาชีพของบุคลากร โดยดำเนินการ ดังนี้ 8.1 วางแผนการเลื่อนตำแหน่งอย่างมีหลักการ ชัดเจน เป็นระบบ รอบคอบและรัดกุม โดยการดำเนินการต่อไปนี้ 8.1.1 กำหนดนโยบายการเลื่อนตำแหน่งอย่างชัดเจน ทั้งด้านคุณสมบัติความรู้ ทักษะ และประสบการณ์และหลักเกณฑ์ในการเลื่อนบุคคลเข้าปฏิบัติงานในตำแหน่งนั้น ๆ 8.1.2 กำหนดขั้นตอนและแนวทางที่บุคคลจะได้รับการเลื่อนตำแหน่งตามลำดับชั้น ของงาน ความสามารถ และอาวุโส โดยกำหนดเป็นมาตรฐานไว้อย่างชัดเจน เพื่อให้เกิดความยุติธรรมกับ สมาชิกทุกคนที่มีโอกาสและไม่ก่อให้เกิดปัญหาความขัดแย้งตามมาในอนาคต 8.1.3 กำหนดเกณฑ์การคัดเลือกและพิจารณาบุคคลที่เหมาะสมโดยอาศัยข้อมูลจาก ประวัติของบุคลากร เช่น การศึกษา ประสบการณ์ ความสามารถ ความประพฤติ คุณลักษณะเฉพาะ บุคคล และการประเมินผลการปฏิบัติงาน 8.1.4 พัฒนาบุคลากรเพื่อเตรียมความพร้อมบุคลากรสำหรับการปฏิบัติหน้าที่และ เลื่อนตำแหน่งในอนาคต เพื่อให้บุคลากรมีความพร้อมในการปฏิบัติงานในตำแหน่งที่สูงขึ้นในทันทีที่ได้รับ การแต่งตั้ง ซึ่งจะทำให้องค์กรสามารถดำเนินงานได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่เสียจังหวะ 8.2 กำหนดหลักเกณฑ์ในการเลื่อนตำแหน่งโดยคำนึงถึงหลักเกณฑ์ทั้งหลัก ความสามารถ (Competence) หลักอาวุโสและประสบการณ์ (Seniority) และหลักเกณฑ์อื่นๆ ตาม ความจำเป็นของหน่วยงาน 9. ประเมินและปรับปรุงกระบวนการเกี่ยวกับทรัพยากรบุคคล อย่างสม่ำเสมอ เพื่อบรรลุผลดีทั้ง ผู้ใช้บริการและผู้รับผลประโยชน์ การจ้างงานและค่าตอบแทนลูกจ้างชั่วคราวรายวัน (1 เมษายน 2565) กลุ่มวิชาชีพ พยาบาลวิชาชีพ อัตราค่าจ้างขั้นสูง 18,000 บาท/เดือน อัตราค่าจ้างขั้นต่ำ 12,350 บาท/เดือน นักวิชาการสาธารณสุข อัตราค่าจ้างขั้นสูง 15,490 บาท/เดือน อัตราค่าจ้างขั้นต่ำ 11,910 บาท/เดือน ตำแหน่งอื่น ๆ ตามแนบท้ายคำสั่ง 418/2564 (30 ธันวาคม 2564) ผู้ช่วยพยาบาล อัตราค่าจ้าง(วันละ) 420 บาท เจ้าพนักงานธุรการ อัตราค่าจ้าง(วันละ) 350 บาท พนักงานช่วยเหลือคนไข้ อัตราค่าจ้าง(วันละ) 320 บาท ค่าตอบแทน เวร 8 ชั่วโมง พยาบาลวิชาชีพ 900 บาท ชั่วโมงละ 90 บาท
40 พยาบาลเทคนิค 560 บาท ชั่วโมงละ 70 บาท ผู้ช่วยพยาบาล 450 บาท ชั่วโมงละ 56.25 บาท พนักงานช่วยเหลือคนไข้ 330 บาท ชั่วโมงละ 41.25 บาท นักวิชาการสาธารณสุข 660 บาท ชั่วโมงละ 82.5 บาท 10. กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล กำหนดคุณสมบัติเฉพาะตำแหน่ง (Job Specification) ของ บุคลากรทางการพยาบาลไว้ชัดเจนทั้งตำแหน่งหัวหน้าพยาบาล หัวหน้ากลุ่มงานการพยาบาล หัวหน้าหอ ผู้ป่วย/หน่วยงาน และพยาบาลวิชาชีพระดับปฏิบัติการ หัวหน้าพยาบาล หน้าที่ความรับผิดชอบ 1. กำหนดปรัชญา นโยบายทางการพยาบาลที่สอดคล้องกับปรัชญา นโยบายของโรงพยาบาลเพื่อเป็น ทิศทาง การปฏิบัติงานของทุกหน่วยบริการพยาบาลในโรงพยาบาล 2. วางแผนการบริหารจัดการให้เอื้อต่อการปฏิบัติงานของบุคลากรพยาบาลทุกระดับและบรรลุพันธกิจ และ ตอบสนองต่อนโยบายขององค์กร 3. กำหนดแผนงาน แผนงบประมาณ รวมทั้งการติดตามผลการดำเนินงาน เพื่อให้มั่นใจว่าได้มีการนำแผน ไปปรับปรุงตามสภาพการณ์และสามารถปฏิบัติได้จริง 4. วิเคราะห์ต้นทุนบริการพยาบาลและความคุ้มทุนของกิจกรรมการพยาบาล เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการ บริหาร จัดการระบบบริการพยาบาล 5. วางแผนกำหนดอัตรากำลังบุคลากร ควบคุมกำกับการจัดสรรอัตรากำลังและการหมุนเวียนบุคลากร พยาบาล ในทุกสาขาการพยาบาลให้มีความเหมาะสมและเพียงพอต่อการปฏิบัติงาน 6. กำหนดคุณสมบัติ หลักเกณฑ์และแนวทางในการสรรหา/คัดเลือกบุคคลให้เข้าสู่ตำแหน่งสูงขึ้นทั้งด้าน บริหาร และวิชาการ 7. จัดให้มีระบบบริการพยาบาลที่ต่อเนื่องครบถ้วน เพื่อการช่วยเหลือดูแลทั้งในด้านการส่งเสริมสุขภาพ การป้องกันโรค การรักษาพยาบาลและการฟื้นฟูสภาพแก่บุคคล ครอบครัวและชุมชน บนพื้นฐานของการใช้ กระบวนการพยาบาล 8. ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการจัดบริการสุขภาพแก่ประชาชนในชุมชน 9. พัฒนาและส่งเสริมการใช้กระบวนการพยาบาลและองค์ความรู้ทางการพยาบาลและศาสตร์ที่เกี่ยวข้อง เพื่อคงไว้ซึ่งคุณภาพในระดับสูงสุดของระบบการดูแลทางคลินิกและการบริการพยาบาลอย่างต่อเนื่อง 10. ดำเนินการบริหารและพัฒนาบุคลากรทางการพยาบาล เพื่อให้บุคลากรทางการพยาบาลมีศักยภาพและ คุณสมบัติเหมาะสมเพียงพอต่อการให้บริการพยาบาลที่มีคุณภาพ 11. วางระเบียบปฏิบัติในหน่วยงาน สนับสนุนและกำกับให้มีการปฏิบัติการพยาบาลตามระเบียบ มาตรฐาน วิชาชีพบนพื้นฐานจริยธรรมและจรรยาบรรณวิชาชีพ 12. อำนวยการ ประสาน ควบคุม กำกับ นิเทศ ติดตาม ประเมินผลการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการ พัฒนาคุณภาพบริการพยาบาล คณะอนุกรรมการพัฒนาคู่มือและแนวทางปฏิบัติด้านการพยาบาลเพื่อให้ บรรลุวัตถุประสงค์ของ กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล องค์กรวิชาชีพ ที่เชื่อมโยงระดับประเทศ ระดับเขต และระดับจังหวัด
41 รองหัวหน้าพยาบาลด้านพยาบาลด้านบริหาร หน้าที่ความรับผิดชอบ 1. ร่วมกำหนด นโยบาย ปรัชญา วิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าหมายและแผนงานของกลุ่มการพยาบาล โดย สอดคล้อง กับโรงพยาบาล 2. ร่วมกำหนดมาตรฐานการบริการพยาบาลในภาพรวม 3. ร่วมกำหนดแผนและดำเนินการเกี่ยวกับบุคลากรทางการพยาบาล 3.1 ร่วมกำหนดหลักการและเกณฑ์การสรรหา คัดเลือกบุคลากรทางการพยาบาลในการเลื่อนขั้นสู่ ตำแหน่งที่สูงขึ้น รวมทั้งการพ้นจากงานของบุคลากรทุกระดับ 3.2 ร่วมวางแผนการกำหนดมาตรฐานการจัดอัตรากำลังตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งการจัดบุคลากรทางการ พยาบาลเสริมในคลินิกพิเศษต่างๆ 3.3 ร่วมกำหนดแบบพรรณนาลักษณะงานและคุณสมบัติของผู้ปฏิบัติงานในตำแหน่งต่างๆ 3.4 จัดทำทะเบียนประวัติบุคลากรทางการพยาบาล 3.5 ดูแล และ/หรือสนับสนุนการจัดสวัสดิการสำหรับบุคลากร เพื่อขวัญและกำลังใจของบุคลากร 3.5.1 ร่วมพิจารณาความดีความชอบ ระเบียบวินัย การลงโทษ 3.5.2 ตรวจสอบการเบิกจ่ายค่าตอบแทนของบุคลากรทางการพยาบาล 4. ร่วมดูแล ควบคุม ประเมินผลและสนับสนุนการปฏิบัติงาน เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ ตรวจสอบ วิเคราะห์ปริมาณ และคุณภาพการให้บริการพยาบาลของกลุ่มงาน 5. รวบรวมข้อมูลทางการพยาบาล เช่น กิจกรรมและหัตถการต่างๆ 6. ประสานงานทั้งภายในและภายนอกกลุ่มงาน 7. ร่วมจัดทำแผนการเยี่ยมตรวจทางการพยาบาล ร่วมตรวจเยี่ยม เป็นที่ปรึกษา นิเทศงาน และแก้ไขปัญหา ในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ 8. ดูแลอาคาร สถานที่ รวมทั้งความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ 9. ปฏิบัติงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องและ/หรือได้รับมอบหมาย รองหัวหน้าพยาบาลด้านพยาบาลด้านบริการพยาบาล หน้าที่ความรับผิดชอบ 1. ร่วมกำหนด นโยบาย ปรัชญา วิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าหมายและแผนงานของกลุ่มการพยาบาล โดย สอดคล้องกับโรงพยาบาล 2. กำหนดมาตรฐานการบริการพยาบาลในภาพรวม 3. ดำเนินการประกันคุณภาพการพยาบาล (QA) โดยนำมาตรฐานการพยาบาลในโรงพยาบาลลงสู่การ ปฏิบัติและดำเนินการประเมินคุณภาพบริการพยาบาลในทุกหน่วยบริการพยาบาล และร่วมมือกับเครือข่าย ทางการพยาบาลทั้งระดับประเทศ ระดับเขต และระดับจังหวัด 4. สนับสนุนงานบริการพยาบาล ส่งเสริมการพัฒนาระบบบริการพยาบาล 4.1 นิเทศ ติดตาม ช่วยเหลือและประเมินผลการบริการพยาบาลและการปฏิบัติงานของบุคลากรทาง การพยาบาล 4.2 ร่วมตรวจเยี่ยมหน่วยงานกับหัวหน้าพยาบาลและทีมบริหารการพยาบาล 4.3 สำรวจ วิเคราะห์ปัญหาและความต้องการบริการพยาบาล 4.4 วางแผน ดำเนินการพัฒนาคุณภาพบริการพยาบาลอย่างต่อเนื่อง
42 4.5 ส่งเสริมและ/หรือวางแผนร่วมกับเจ้าหน้าที่ทางการพยาบาลและเจ้าหน้าที่ทีมสุขภาพอื่นๆ เพื่อ ตอบสนองความต้องการ ความคาดหวังของผู้ใช้บริการ 4.6 แก้ปัญหาในการปฏิบัติงานของบุคลากรทางการพยาบาล 4.7 เสนอแนะการจัดหาอุปกรณ์ใหม่ๆ ที่เป็นประโยชน์และเอื้ออ านวยความสะดวกในการปฏิบัติงาน ของ บุคลากรทางการพยาบาล 5. ดูแลส่งเสริม สนับสนุน กำกับ ติดตามการปฏิบัติงานของพยาบาลให้อยู่ในกรอบกฎหมาย จริยธรรม จรรยาบรรณวิชาชีพการพยาบาล 6. ควบคุม กำกับระบบงานบริการพยาบาลและคุณภาพการพยาบาลของทุกหน่วยงาน 7. สนับสนุน ส่งเสริม ควบคุม กำกับและติดตามประเมินผล การนำกระบวนการพยาบาลไปใช้ในการ ปฏิบัติการ พยาบาลและบันทึกทางการพยาบาล เพื่อให้ผู้ใช้บริการได้รับบริการพยาบาลที่มีประสิทธิภาพ ปลอดภัยและพึงพอใจ 8. ติดตาม ประเมินผลระบบการจัดบริการพยาบาล การสนับสนุน ส่งเสริม ช่วยเหลือ ศึกษาปัญหาและ พัฒนาระบบบันทึกทางการพยาบาล และวิเคราะห์พิจารณาและจัดทำแบบฟอร์มบันทึกทางการพยาบาล 9. นิเทศติดตามประเมินผลการดำเนินงานด้านการพัฒนาและการประกันคุณภาพบริการพยาบาลในระดับ เขตและระดับจังหวัด 10. กำหนดแผนงานด้านการพัฒนาและการประกันคุณภาพบริการพยาบาลและการผดุงครรภ์ให้ สอดคล้องกับ โรงพยาบาล มาตรฐานวิชาชีพและการพัฒนาระบบสุขภาพ ( Service Plan) ที่เชื่อมโยง ระดับประเทศระดับเขตและ ระดับจังหวัด 11. ประสานงานและให้คำปรึกษาการดำเนินงานด้านการพัฒนาและประกันคุณภาพบริการพยาบาลใน เครือข่ายการพยาบาลระดับจังหวัด 12.สนับสนุนและติดตามประเมินผลการพัฒนาคุณภาพบริการพยาบาลที่เชื่อมโยงกับการพัฒนาระบบ สุขภาพ (Service Plan) ทุกสาขา 13. ประสานงานกับรองหัวหน้าพยาบาล คณะอนุกรรมการฝ่ายต่างๆตลอดจนทีมสหสาขาวิชาชีพทั้งในและ นอกโรงพยาบาล เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานด้านการพัฒนาคุณภาพ การประกันคุณภาพ ที่เชื่อมโยงทั้ง ระดับปฐมภูมิทุติยภูมิและตติยภูมิ 14. รวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ผลการดำเนินงานด้านการพัฒนาคุณภาพบริการพยาบาล ปัญหา อุปสรรค และกำหนดแผนพัฒนาคุณภาพอย่างต่อเนื่อง 15. สรุปรายงานผลการดำเนินงานด้านการพัฒนาคุณภาพการพยาบาล ที่สอดคล้องต่อการพัฒนาระบบ สุขภาพพยาบาล 16.ปฏิบัติงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องและ/หรือได้รับมอบหมาย รองหัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านพยาบาลด้านวิชาการ หน้าที่ความรับผิดชอบ 1. ร่วมกำหนด นโยบาย ปรัชญา วิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าหมายและแผนงานของ กลุ่มการพยาบาล โดย สอดคล้องกับโรงพยาบาล 2. ร่วมกำหนดมาตรฐานการบริการพยาบาลในภาพรวม 3. รับนโยบายการดำเนินงานจากหัวหน้ากลุ่มงานการพยาบาล 4. วางแผนปฏิบัติงานในความรับผิดชอบ
43 4.1 แผนพัฒนาบุคลากรทางการพยาบาล 4.2 แผนวิชาการทางการพยาบาล 4.3 แผนงบประมาณงานวิชาการ 5. เป็นที่ปรึกษา แก้ไขปัญหางานด้านวิชาการและอื่นๆ 6. จัดทำและจัดหาเอกสาร ตำรา ทางวิชาการ 7. วิเคราะห์ พิจารณาและจัดทำแบบฟอร์มบันทึกทางการพยาบาล 8. จัดทำเกณฑ์ประกอบการปฏิบัติงาน 8.1 เกณฑ์ตรวจสอบคุณภาพการพยาบาล 8.2 เกณฑ์การคัดเลือกบุคลากรเพื่อการศึกษาต่อเนื่อง 9. ดำเนินการจัดเสริมความรู้ให้กับเจ้าหน้าที่ทางการพยาบาลทุกระดับ 10. จัดทำ สนับสนุนการทำวิจัยและติดตามผลการวิจัยมาปรับปรุงการบริการพยาบาล 11. ปฐมนิเทศเจ้าหน้าที่ใหม่และผู้มาศึกษาดูงานในโรงพยาบาล 12. ร่วมตรวจสอบและประเมินคุณภาพบริการพยาบาล 13. ร่วมวิเคราะห์ และปรับปรุงเทคนิคบริการพยาบาล 14. ร่วมดำเนินการพัฒนาคุณภาพบริการ 15. ร่วมกำหนดแผนงานด้านการพัฒนาคุณภาพบริการและผดุงครรภ์กับคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพ การจัดบริการพยาบาลในระดับประเทศ ระดับเขตและระดับจังหวัด 16. ร่วมนิเทศติดตามประเมินผลการดำเนินงานด้านการพัฒนาและการประกันคุณภาพบริการพยาบาลใน ระดับ เขตและระดับจังหวัด 17. จัดกิจกรรมสนับสนุน ส่งเสริม การเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้และเพื่อให้เกิดการพัฒนาคุณภาพบริการ พยาบาลที่เป็นเลิศ ตอบสนองต่อวิสัยทัศน์ของกลุ่มภารกิจด้านการพยาบาลและโรงพยาบาล 18. ปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่ได้รับมอบหมาย รองหัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านพยาบาลด้านกิจกรรมพิเศษ หน้าที่ความรับผิดชอบ 1.รับนโยบายจากหัวหน้าพยาบาล 2. งานรับบริจาคโลหิตนอกสถานที่ และหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ สว. 3. บริหารจัดการเรื่องที่พัก การเบิกจ่ายค่าที่พักให้กับบุคลากรทางการพยาบาล 4. ประสานงานและบริหารจัดการกองทุนสวัสดิการชมรมพยาบาลจังหวัดลพบุรี 5. ประสานงานและบริหารจัดการด้านกิจกรรมพิเศษทั้งในกลุ่มภารกิจด้านการพยาบาลและนอก โรงพยาบาล ให้บรรลุวัตถุประสงค์ เช่น กิจกรรมเฉลิมพระเกรียติกิจกรรมทางศาสนา กิจกรรมเนื่องในวัน พยาบาล การเยี่ยมไข้บุคลากรทางการพยาบาลและครอบครัว 6. ปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่ได้รับมอบหมาย หัวหน้ากลุ่มงานการพยาบาลแต่ละสาขาการพยาบาล หน้าที่ความรับผิดชอบ ปฏิบัติงานในฐานะเป็นผู้บริหารการพยาบาลที่ได้รับมอบหมายอำนาจหน้าที่ความรับผิดชอบจาก หัวหน้าพยาบาล ตามความชำนาญในสาขาการพยาบาลเฉพาะทาง เช่น ศัลยกรรม อายุรกรรม สูติ- นรีเวช
44 กรรม ในการควบคุมกำกับ ดูแลช่วยเหลือ ให้คำแนะนำและเป็นที่ปรึกษาในการปฏิบัติงานของหัวหน้าหอ ผู้ป่วย/หน่วยงาน และเจ้าหน้าที่ทางการพยาบาลทุกระดับในสาขาที่รับผิดชอบ โดยเน้นหนักด้านการ บริหารบริการพยาบาล โดยผสมผสานประสบการณ์ ความรู้ ความสามารถทางการบริหารการพยาบาลกับ ความชำนาญทางคลินิกเฉพาะสาขา เพื่อให้เกิดการประสานงาน ประสานแหล่งประโยชน์ และเป็นผู้นำการ เปลี่ยนแปลงซึ่งจะส่งผลให้ระบบงานบริการในสาขาที่รับผิดชอบที่มีคุณภาพ 1. ด้านการบริหาร 1.1 กำหนดทิศทางการให้บริการพยาบาลและการพัฒนาบริการพยาบาลในภาพรวม เช่น ปรัชญา วิสัยทัศน์พันธกิจและเป้าหมายทางการพยาบาลของสาขาการพยาบาลที่รับผิดชอบ ให้สอดคล้องกับ จุดมุ่งหมายของ กลุ่มการพยาบาล 1.2 กำหนดมาตรฐานการบริการพยาบาลในสาขาที่รับผิดชอบให้สอดคล้องกับมาตรฐานส่วนกลางและ มาตรฐานวิชาชีพ รวมทั้งสนับสนุนและส่งเสริมการนำมาตรฐานไปใช้ 1.3 กำาหนดขอบเขตหน้าที่ความรับผิดชอบและคุณภาพการปฏิบัติของตำแหน่งบุคลากรทุกระดับใน สาขา ที่รับผิดชอบให้สอดคล้องกับบทบาทหน้าที่ทางการพยาบาลที่กลุ่มการพยาบาลกำหนดไว้ 1.4 ดำเนินการเกี่ยวกับการบริหารบุคคล 1.5 พิจารณาเสนอขอบำเหน็จความดีความชอบและการพิจารณาโทษทางวินัยของเจ้าหน้าที่ในสาขา ที่ รับผิดชอบ 1.6 ควบคุม กำกับระบบการบริการพยาบาลและคุณภาพการพยาบาล ให้บรรลุวัตถุประสงค์และเป้าหมาย ที่ก าหนด 1.7 ติดตามประเมินผลระบบการจัดบริการพยาบาลในสาขาที่รับผิดชอบ รวมทั้งให้การสนับสนุน ช่วยเหลือ ศึกษาปัญหาและบันทึกประสิทธิผลของกิจกรรมการพยาบาลทั้งหมดเพื่อให้ได้ข้อมูลไปใช้ในการวางแผน ต่อไป 1.8 เป็นผู้นำในการรวบรวม ตรวจสอบและจัดทำสรุปผลรายงานผลการบริการพยาบาลในสาขาที่ รับผิดชอบ ประจำปี รวมทั้งวิเคราะห์ข้อมูล สถิติ ผลงานและประเมินผลเพื่อการพัฒนา 1.9 ประสานงานภายในสาขาและระหว่างหน่วยบริการอื่นๆ รวมทั้งหน่วยที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เกิดการบริการ ที่คล่องตัว 1.10 เป็นที่ปรึกษา เป็นพี่เลี้ยงสำหรับเจ้าหน้าที่และผู้เกี่ยวข้องในสาขาที่รับผิดชอบ 1.10.1 เป็นที่ปรึกษา หัวหน้าหอผู้ป่วย/หน่วยงาน ในด้านการบริหารงาน 1.10.2 เป็นที่ปรึกษาเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติทุกระดับในเรื่องการพยาบาลที่ยุ่งยากซับซ้อน 1.10.3 เป็นที่ปรึกษานักศึกษา ผู้มาฝึกอบรม/ศึกษาดูงานในเรื่องการพยาบาลเฉพาะสาขา 1.10.4 ให้คำปรึกษาและสอนผู้ป่วย/ญาติ ในกรณีที่นอกเหนือความสามารถของเจ้าหน้าที่ 2. ด้านการนิเทศและสนับสนุนบริการ 2.1 นิเทศ ติดตามช่วยเหลือและประเมินผลการพยาบาลและการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ทางการ พยาบาลใน หน่วยงาน/หอผู้ป่วยที่อยู่ในความรับผิดชอบเป็นประจำทุกวัน 2.2 ร่วมในการเยี่ยมตรวจทางการพยาบาลกับหัวหน้าพยาบาล (Grand Round) 2.3 ร่วมในกิจกรรมเยี่ยมตรวจโรงพยาบาลกับผู้บริหารระดับสูงและคณะกรรมการบริหารโรงพยาบาล (Hospital Round) 2.4 สำรวจ วิเคราะห์ปัญหาและความต้องการการบริการพยาบาล 2.5 ให้คำแนะนำ ปรึกษาแก่หัวหน้าหอผู้ป่วย /หน่วยงาน เช่น การวางแผนงาน กลวิธีในการให้บริการ
45 พยาบาลผู้ป่วย เพื่อการส่งเสริมให้เกิดการดูแลตนเอง วิธีการประเมินคุณภาพการปฏิบัติการ พยาบาล ฯลฯ 2.6 ส่งเสริมให้เจ้าหน้าที่วางแผนร่วมกับแพทย์และเจ้าหน้าที่อื่นๆเพื่อสนอง ความต้องการการ รักษาพยาบาล ของผู้ป่วย 2.7 แก้ไขปัญหาในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ที่เกิดขึ้นอย่างปัจจุบันทันด่วน 2.8 เสนอแนะการจัดหาอุปกรณ์ใหม่ๆ เครื่องทุ่นแรงที่จะเป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติงาน ควบคุม ดูแล โดยให้คำแนะนำกับหัวหน้าหอผู้ป่วย/หน่วยงาน ในการจัดหา จัดเตรียมอุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้ในการให้การรักษาพยาบาลให้มีเพียงพอและพร้อมใช้งานได้ทันที ควบคุมกำกับการใช้ให้ เป็นไปโดยประหยัด 3. บริการพยาบาล 3.1 ใช้ความรู้ขั้นสูงในศาสตร์ทางการพยาบาล ศาสตร์ที่เกี่ยวข้องและผลงานวิจัย ประสานกับความ ชำนาญทางคลินิก ใช้ทักษะขั้นสูงในการสังเคราะห์เพื่อประเมินภาวะสุขภาพ ให้การวินิจฉัยทางการ พยาบาลและให้การพยาบาล จัดการกับปัญหาที่ยุ่งยาก ซับซ้อนหรือวิกฤตของผู้ป่วยและครอบครัวได้ อย่างมีประสิทธิภาพ ครอบคลุม ปัญหาด้านร่างกาย จิตสังคมและจิตวิญญาณ 3.2 ประสานความร่วมมือกับพยาบาล แพทย์และบุคลากรสุขภาพที่เกี่ยวข้องเพื่อร่วมปรึกษาหรือในการ วางแผน ให้การดูแลและประเมินผลการดูแลผู้ป่วยและครอบครัวที่มีปัญหาซับซ้อนหรือวิกฤตอย่าง ต่อเนื่อง 3.3 กระตุ้นและส่งเสริมให้มีการวางแผนการจำหน่ายผู้ป่วยและวางแผนจำหน่าย (Discharge Planning) เฉพาะกลุ่มผู้ป่วยที่มีปัญหายุ่งยาก ซับซ้อนปฏิบัติตามแผน ติดตาม ควบคุมกำกับให้ดำเนินการตาม แผนจำหน่ายผู้ป่วยเพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลและฟื้นฟูสภาพอย่างต่อเนื่อง โดยร่วมมือกับครอบครัว ของผู้ป่วย บุคลากรในทีมสุขภาพที่เกี่ยวข้อง พยาบาลชุมชนและแหล่งประโยชน์ในชุมชนเพื่อให้เกิด ประโยชน์สูงสุดแก่ผู้ป่วยและครอบครัว 3.4 ตรวจสอบ วิเคราะห์ผลการวางแผนจำหน่ายผู้ป่วย หรือกระบวนการต่างๆ ที่พัฒนาบริการพยาบาล 3.5 จัดการกับความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว 3.6 คาดการณ์ปัญหาที่ซับซ้อนจากอาการเปลี่ยนแปลงของผู้ป่วย วางแผนป้องกัน แก้ไขได้อย่างถูกต้องและ ทันเหตุการณ์ 3.7 ช่วยเหลือผู้ป่วยในภาวะฉุกเฉิน หรือเร่งด่วนให้รับความปลอดภัย 3.8 จัดระบบการติดต่อสื่อสารกับผู้ป่วย ครอบครัวหรือผู้ดูแลที่บ้าน เพื่อให้คำแนะนำตอบข้อสงสัยและ เป็น สื่อกลางในการติดต่อกับแพทย์หรือทีมสุขภาพที่เกี่ยวข้อง 3.9 เป็นผู้นำในการนำกระบวนการพัฒนาการบริการพยาบาลใหม่ๆ หรือนำแนวคิดและทฤษฎีทาง การ พยาบาล และ/หรือแนวคิดทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง มาใช้ในการให้บริการพยาบาลในระดับบุคคลและ ครอบครัว 3.10 กำหนดมาตรฐานการบริการ เกณฑ์การจำแนกผู้ป่วยและแนวทางการให้การพยาบาลโรคที่ยุ่งยาก ซับซ้อน ร่วมมือในการสร้างและใช้เกณฑ์มาตรฐานในการประเมินคุณภาพและผลลัพธ์ของการ พยาบาล 3.11 ควบคุมมาตรฐานการพยาบาล กำหนดมาตรฐานการพยาบาล จัดทำนโยบายและแนวทางปฏิบัติการ พยาบาลต่างๆ 3.12 นิเทศ ติดตาม ช่วยเหลือการปฏิบัติการพยาบาลเป็นประจำทุกวัน เพื่อเป็นการประกันคุณภาพของ
46 การบริการพยาบาล 3.12.1 จัดระบบสนับสนุนความปลอดภัยในการรักษาพยาบาล 3.12.2 ประเมินสิ่งที่ควรละเว้นหรือเพิ่มเติมจากแผนการรักษาพยาบาล โดยยึดผู้ป่วยเป็นเกณฑ์ 3.12.3 กำหนดกลไกการรายงานแพทย์ 3.13 เป็นแบบอย่างที่ดีในความเป็นเลิศทางการพยาบาล 4. งานด้านอื่นๆ 4.1 วางแผนร่วมกับสถาบันการศึกษา ในการจัดประสบการณ์การเรียนและการสอนภาคปฏิบัติของ นักศึกษา 4.2 ริเริ่มและสิ่งเสริมสนับสนุนให้เจ้าหน้าที่ มีความรู้ ความสามารถในการวิจัย ตลอดจนส่งเสริมให้มีการนำ ผลการวิจัยมาใช้ในการพัฒนางาน 4.3 มีส่วนร่วมและสิ่งเสริมให้สมาชิก /ผู้ใต้บังคับบัญชา เข้าร่วมกิจกรรม โครงการต่างๆ รวมทั้งกิจกรรม ของ สมาคม สภาการพยาบาล หน่วยงาน องค์กรที่เกี่ยวข้อง 4.4 ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 4.5 เผยแพร่และประชาสัมพันธ์ผลงานบริการพยาบาล 4.6 งานอื่นๆที่ผู้บริหารสูงสุดมอบหมาย พยาบาลตรวจการ ทำหน้าที่ เป็นผู้นิเทศงานการพยาบาล ความรับผิดชอบ ปฏิบัติงานในการตรวจ ควบคุม กำกับ แนะนำและเป็นที่ปรึกษาการปฏิบัติงานของ เจ้าหน้าที่ทางการพยาบาล ในหอผู้ป่วย/หน่วยงาน ที่รับผิดชอบนอกเวลาราชการและยามวิกาล โดยได้รับ การมอบหมายอำนาจหน้าที่ความรับผิดชอบจากหัวหน้าพยาบาล เป็นผู้นำนโยบายและแผนงานจาก ระดับสูงมาสู่ระดับปฏิบัติการ เพื่อให้เกิด การผสมผสานและดำเนินงานร่วมกันได้อย่างดี ด้วยการควบคุม กำกับ ติดตามสนับสนุน ช่วยเหลือและแก้ไข โดยสม่ำเสมอ ดังนี้ 1. นิเทศการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ทางการพยาบาลในหน่วยงานที่ได้รับมอบหมายนอกเวลาราชการ และยามวิกาล 2. สำรวจปัญหาและความต้องการการพยาบาล ให้ความช่วยเหลือแก่เจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงาน โดย การ ตรวจสอบข้อมูล สุ่ม วิเคราะห์คุณภาพการพยาบาลจากการบันทึกและรายงานการพยาบาล รวมทั้ง จากการสังเกต สอบถามและการนิเทศ 3. แก้ไขปัญหาในการปฏิบัติงานที่เกิดขึ้นอย่างปัจจุบันทันด่วน ทั้งที่เกี่ยวกับระบบงาน ผู้ให้บริการและ ผู้ใช้บริการ เช่น 3.1 อุบัติเหตุขัดข้องในการปฏิบัติงาน 3.2 เจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ 3.3 การติดต่อกับญาติ/ผู้ป่วยที่มีปัญหา 3.4 จัดเจ้าหน้าที่ทดแทนกรณีลาป่วย ขาดกะทันหันหรือให้ความช่วยเหลือด้วยตนเองแล้วแต่กรณี 4. พัฒนาคุณภาพการปฏิบัติการพยาบาลของเจ้าหน้าที่ โดยการนิเทศ ติดตามประเมินการจัดบริการ การ ปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ให้ปฏิบัติงานได้อย่างถูกต้อง มีประสิทธิภาพทั้งทางตรงและทางอ้อม สร้าง สัมพันธภาพที่ดีกับเจ้าหน้าที่ เพื่อให้เกิดการร่วมมือและเกิดการประสานงานที่มีประสิทธิภาพ 5. ประสานงานระหว่างหน่วยบริการพยาบาลทุกหน่วยในความรับผิดชอบและจัดหาอุปกรณ์เครื่องมือ
47 เครื่องใช้ในการรักษาพยาบาลผู้ป่วยที่ต้องการใช้ในยามฉุกเฉิน นอกเวลาราชการ หัวหน้าหอผู้ป่วย/หัวหน้าหน่วยงาน ทำหน้าที่ ผู้บริหารระดับต้น ความรับผิดชอบ ปฏิบัติงานในฐานะเป็นผู้บริการพยาบาลระดับต้น ดำเนินงาน การพยาบาลในระดับหน่วยงาน/หอผู้ป่วย ให้บรรลุวัตถุประสงค์ของกลุ่มภารกิจด้านการพยาบาลและ โรงพยาบาล ทำหน้าที่บังคับบัญชาเจ้าหน้าที่ทางการพยาบาลในระดับ หอผู้ป่วย/หน่วยงาน รวมทั้งเสมียน พนักงานทำความสะอาด เป็นผู้เชื่อมโยงงานระดับนโยบายสู่การปฏิบัติเป็นผู้นำในการปฏิบัติการพยาบาล ให้คำปรึกษาและวินิจฉัยสั่งการ โดยปฏิบัติงานดังนี้ 1. ด้านการปฏิบัติการพยาบาล 1.1 กำหนดทิศทางและเป้าหมายในการให้บริการพยาบาลแก่ผู้ป่วยในหน่วยงานและทีมการพยาบาล เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการบริการด้านการรักษาพยาบาลที่ตรงตามปัญหาและสามารถตอบสนองความต้องการ ของผู้ป่วยได้อย่างถูกต้องเหมาะสม 1.2 ปฏิบัติกิจกรรมการพยาบาล โดยใช้ความชำนาญทางคลินิกให้บริการพยาบาลแยกตามประเภท ผู้ป่วย เพื่อให้ผู้ใช้บริการได้รับการดูแลและแก้ไขปัญหาทางด้านสุขภาพได้อย่างรวดเร็วถูกต้อง ปลอดภัย และไม่มีภาวะแทรกซ้อน 1.3 ดำเนินการให้ความช่วยเหลือผู้ป่วยระยะวิกฤตฉุกเฉินด้วยการสั่งการในทีมการพยาบาลและ ประสานงาน กับสหสาขาวิชาชีพ เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการช่วยเหลือภาวะเสี่ยงต่อชีวิตและไม่มีความพิการ เกิดขึ้น 1.4 วางแผนการดูแลร่วมกับทีมการพยาบาลในหน่วยงานและทีมสหสาขาวิชาชีพในการดูแลผู้ป่วยแต่ละ ราย เพื่อให้ผู้ป่วยและครอบครัวได้รับการตอบสนองตามปัญหาและความต้องการที่ครอบคลุม 1.5 เฝ้าระวังอาการเปลี่ยนแปลงของผู้ป่วยในผู้ป่วยแต่ละรายที่อยู่ในความรับผิดชอบและสามารถ ประสานงานกับแพทย์หรือทีมสหสาขาวิชาชีพ เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการประเมินและแก้ไขปัญหาด้านสุขภาพ โดยการ สั่งการรักษาพยาบาลที่ทันท่วงที 1.6 ให้ข้อมูลแก่ผู้ป่วยและครอบครัวเกี่ยวกับพยาธิสภาพของโรค การรักษาที่ได้รับและตอบข้อสงสัย ตลอดการดูแลการรักษา พร้อมทั้งประสานงานกับแพทย์หรือทีมสหสาขาวิชาชีพที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ข้อมูล และแผนการ รักษา เพื่อให้ผู้ใช้บริการมีส่วนร่วมในการตัดสินใจและให้ความร่วมมือในการรักษา 2. ด้านการจัดการ 2.1 วางแผนด้านการจัดอัตรากำลังให้เพียงพอและเหมาะสมกับภาระงาน เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการดูแล ต่อเนื่อง ตลอด 24 ชั่วโมง 2.2 วางแผนจัดอาคารสถานที่ และสิ่งแวดล้อมให้เหมาะสม เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้บริการ 2.3 จัดหาอุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้ทางการแพทย์ ที่จำเป็น เพื่อจัดบริการด้านการรักษาพยาบาลได้ อย่างมีประสิทธิภาพและเหมาะสมตามความจำเป็นในการรักษาพยาบาลของผู้ป่วย 2.4 วางแผนการใช้งบประมาณด้านวัสดุ ครุภัณฑ์ในหน่วยงาน เพื่อควบคุมด้านค่าใช้จ่ายให้เกิดความ คุ้มค่า ในการให้บริการรักษาพยาบาล 2.5 ควบคุมกำกับการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานเกี่ยวกับการปฏิบัติตามแนวทางการ ให้บริการของ หน่วยงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการให้บริการเช่น การควบคุม และป้องกันการติดเชื้อในโรงพยาบาล การคัดกรอง / แยกผู้ป่วยติดเชื้อ
48 2.6 ควบคุมกำกับ การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในการประสานงาน เพื่อให้เกิดความเชื่อมโยง ในการดูแล รักษาที่ต่อเนื่องตั้งแต่แรกรับจนกระทั่งจำหน่าย ติดตามสถิติ ตัวชี้วัดประจำหน่วยงานเพื่อกำหนดเป้าหมาย ในการประกันคุณภาพอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำมาใช้เป็นข้อมูลในการพัฒนาระบบการให้บริการในหน่วยงาน 2.7 วางแผนการพัฒนาความรู้บุคลากรในหน่วยงานจากการวิเคราะห์ปัญหาและความต้องการการพัฒนา ความรู้เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลรักษาที่มีมาตรฐาน 3. ด้านการให้คำปรึกษาแนะนำ 3.1 ให้คำปรึกษาและช่วยเหลือทีมการพยาบาลในการวิเคราะห์ปัญหาผู้ป่วยแต่ละรายเพื่อให้ทีมสามารถ แผนการดูแลผู้ป่วยได้อย่างถูกต้องเหมาะสม 3.2 ให้คำปรึกษา และสอนภาคการปฏิบัติแก่นักศึกษาพยาบาลและผู้ขอเข้าฝึกอบรมและดูงาน เพื่อให้ เกิดความรู้และทักษะในการปฏิบัติงาน 3.3 จัดทำคู่มือและแนวทางในการปฏิบัติงาน เพื่อพัฒนาระบบการให้บริการมีความทันสมัยและทันต่อ วิทยาการใหม่ๆ 3.4 ส่งเสริมการทำวิจัยและนำผลการวิจัยมาใช้ในการพัฒนางานบริการพยาบาล เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการ ดูแลตามแนวทางปฏิบัติที่อาศัยหลักวิชาการ พยาบาลวิชาชีพหัวหน้าเวร หน้าที่ความรับผิดชอบ 1. ด้านการปฏิบัติการพยาบาล 1.1 ประเมินและวางแผนการพยาบาลร่วมกับทีมการพยาบาลให้บริการพยาบาลแก่ผู้ป่วยในหน่วยงาน และ ทีมการพยาบาล เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการบริการด้านการรักษาพยาบาลที่ตรงตามปัญหาและสามารถ ตอบสนอง ความต้องการของผู้ป่วยได้อย่างถูกต้องเหมาะสม 1.2 ปฏิบัติกิจกรรมการพยาบาล โดยใช้ความชำนาญทางคลินิก ให้บริการพยาบาลแยกตามประเภท ผู้ป่วย เพื่อให้ผู้ใช้บริการได้รับการดูแลและแก้ไขปัญหาทางด้านสุขภาพได้อย่างรวดเร็วถูกต้อง ปลอดภัย และไม่มีภาวะแทรกซ้อน 1.3 ดำเนินการให้ความช่วยเหลือผู้ป่วยระยะวิกฤตฉุกเฉินด้วยการสั่งการในทีมการพยาบาลและ ประสานงานกับสหสาขาวิชาชีพ เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการช่วยเหลือภาวะเสี่ยงต่อชีวิตและไม่มีความพิการ เกิดขึ้น 1.4 วางแผนการดูแลร่วมกับทีมการพยาบาลในหน่วยงานและทีมสหสาขาวิชาชีพในการดูแลผู้ป่วยแต่ละ ราย เพื่อให้ผู้ป่วยและครอบครัวได้รับการตอบสนองตามปัญหาและความต้องการที่ครอบคลุม 1.5 เฝ้าระวังอาการเปลี่ยนแปลงของผู้ป่วยแต่ละรายที่อยู่ในความรับผิดชอบและสามารถ ประสานงาน กับแพทย์หรือทีมสหสาขาวิชาชีพ เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการประเมินและแก้ไขปัญหาภาวะฉุกเฉิน โดยการสั่ง การรักษาพยาบาลที่ทันท่วงที 1.6 ให้ข้อมูลแก่ผู้ป่วยและครอบครัวเกี่ยวกับพยาธิสภาพของโรค การรักษาที่ได้รับและตอบข้อสงสัย ตลอดการดูแลการรักษา พร้อมทั้งประสานงานกับแพทย์หรือทีมสหสาขาวิชาชีพที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ข้อมูล และแผนการรักษา เพื่อให้ผู้ใช้บริการมีส่วนร่วมในการตัดสินใจและให้ความร่วมมือในการรักษา 2. ด้านการจัดการ 2.1 วางแผนร่วมกับหัวหน้าหอผู้ป่วยเพื่อจัดอัตรากำลังให้เพียงพอและเหมาะสมกับภาระงาน เพื่อให้ ผู้ป่วย ได้รับการดูแลต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง
49 2.2 ควบคุมกำกับการจัดอาคารสถานที่ และสิ่งแวดล้อมให้เหมาะสม เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ ผู้ใช้บริการ 2.3 ควบคุมกำกับการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในหน่วยงาน เกี่ยวกับการปฏิบัติตามแนวทางการ ให้บริการของหน่วยงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการให้บริการ เช่น การควบคุม และป้องกันการติดเชื้อในโรงพยาบาล การคัดกรอง / แยกผู้ป่วยติดเชื้อ 2.4 การประสานงานการดูแลผู้แลผู้ป่วยในแต่ละราย เพื่อให้เกิดความเชื่อมโยงในการดูแลรักษาที่ต่อเนื่อง กับทีมสหสาขาวิชาชีพตั้งแต่แรกรับจนกระทั่งจำหน่าย 2.5 กำหนดเป้าหมายร่วมกับทีมการพยาบาลในการประกันคุณภาพอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำมาใช้เป็นข้อมูลใน การพัฒนาระบบการให้บริการในหน่วยงาน 3. ด้านการให้คำปรึกษาแนะนำ 3.1 ให้คำปรึกษาและช่วยเหลือทีมการพยาบาลในการวิเคราะห์ปัญหาผู้ป่วยแต่ละราย เพื่อให้ทีมสามารถ วางแผนการดูแลผู้ป่วยได้อย่างถูกต้องเหมาะสม 3.2 ให้คำปรึกษาและสอนภาคการปฏิบัติแก่นักศึกษาพยาบาลและผู้ขอเข้าฝึกอบรมและดูงาน เพื่อให้เกิด ความรู้และทักษะในการปฏิบัติงาน 3.3 จัดทำคู่มือและแนวทางในการปฏิบัติงาน เพื่อพัฒนาระบบการให้บริการมีความทันสมัยและทันต่อ วิทยาการใหม่ ๆ 3.4 ส่งเสริมการทำวิจัยและนำผลการวิจัยมาใช้ในการพัฒนางานบริการพยาบาล เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการ ดูแลตามแนวทางปฏิบัติที่อาศัยหลักวิชาการ พยาบาลวิชาชีพ หัวหน้าทีมการพยาบาล หน้าที่ความรับผิดชอบ 1. ด้านปฏิบัติการพยาบาล 1.1 ประเมินปัญหาและความต้องการของผู้ใช้บริการตั้งแต่แรกรับและต่อเนื่องทุกช่วงเวรที่รับผิดชอบ เพื่อวางแผนการดูแลรักษาในผู้ป่วยแต่ละรายที่ได้รับมอบหมาย เป็นต้น 1.2 การดูแลความปลอดภัยเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมทางด้านกายภาพ ชีวภาพ รังสีและสารเคมี แสง สีและ เสียง เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุ การบาดเจ็บจากการใช้เครื่องมือ เป็นต้น 1.3 แยกประเภทเพื่อจัดบริการพยาบาลที่เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละรายอย่างเหมาะสม เพื่อให้ผู้ป่วย ได้รับการดูแลอย่างถูกต้อง 1.4 วางแผนการดูแลร่วมในทีมการพยาบาลด้วยการประชุมปรึกษาหารือ เพื่อวางแผนการดูแลผู้ป่วย ครอบคลุมตามปัญหาและความต้องการของผู้ใช้บริการในแต่ลรายและแต่ละวัน 1.5 ประสานงานกับหัวหน้าเวรและทีมการพยาบาลในการประเมินและวิเคราะห์ปัญหา เพื่อ ปรับเปลี่ยน แผนการดูแลให้เกิดความต่อเนื่องตั้งแต่แรกรับจนกระทั่งกลับบ้าน 1.6 จัดการกับอาการรบกวนของผู้ป่วย เพื่อช่วยเหลือหรือบรรเทาอาการรบกวนทั้งด้านร่างกายและ จิตใจ เช่น อาการเสี่ยงต่อชีวิต การบรรเทาอาการปวด คลื่นไส้อาเจียน นอนไม่หลับหรือวิตกกังวล 1.7 การจัดการกับเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์หรืออุปกรณ์ที่จำเป็นในการดูแลรักษา เพื่อให้ ผู้ป่วย ปลอดภัยจากภาวะแทรกซ้อน 1.8 ควบคุมกำกับ เจ้าหน้าที่ในความรับผิดชอบ ให้สามารถปฏิบัติตามมาตรฐานการดูแลเพื่อป้องกัน การเกิด ภาวะแทรกซ้อนระหว่างการดูแลรักษาผู้ป่วย
50 1.9 การจัดการดูแลที่ต่อเนื่องด้วยการวางแผนการจำหน่ายผู้ป่วยร่วมกับทีมการพยาบาล แพทย์และทีม สหสาขาที่เกี่ยวข้องร่วมกับครอบครัวผู้ป่วย เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลด้วยวิธีการส่งต่อไปยังหน่วยงาน ภายใน / ภายนอกโรงพยาบาล เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาพยาบาลอย่างเหมาะสม 2. การสนับสนุนการดูแลสุขภาพของผู้ป่วยและผู้ใช้บริการในครอบครัว 2.1 รับฟังและให้คำปรึกษากับครอบครัวผู้ป่วย เพื่อเผชิญปัญหาและเตรียมการเพื่อให้การดูแลผู้ป่วย ต่อเนื่องที่บ้าน 2.2 อธิบายและให้ข้อมูลเกี่ยวกับการเกิดโรค พยาธิสภาพของโรค แผนการรักษาพยาบาล เพื่อให้ ผู้ใช้บริการ มีความเข้าใจและสามารถตัดสินใจในการรักษาและให้ความร่วมมือในการดูแลรักษา 2.3 สอนและสาธิตวิธีการปฏิบัติในการดูแลผู้ป่วยแก่ญาติ เพื่อให้สามารถนำไปใช้ในการดูแลผู้ป่วย ต่อเนื่อง ที่บ้านและลดการเกิดภาวะแทรกซ้อนที่น าไปสู่การกลับเข้ารักษาซ้ำในโรงพยาบาล 2.4 แนะนำ / ประสานงานการดูแลที่เชื่อมโยงระหว่างโรงพยาบาลและชุมชน 3. ด้านการให้คำแนะนำหรือคำปรึกษาด้านวิชาการ 3.1 สอนและให้คำแนะนำแก่เจ้าหน้าที่ในระดับรองลงมา นักศึกษาพยาบาลและผู้เข้าฝึกอบรมหรือดู งาน เกี่ยวกับความรู้ที่เกี่ยวข้องในการปฏิบัติงาน เพื่อให้ผู้ใช้บริการได้รับการดูแลที่มีคุณภาพและปลอดภัย 3.2 ร่วมการทำวิจัยภายในหรือภายนอกหน่วยงานเพื่อช่วยในการพัฒนางานบริการพยาบาล มาตรฐานที่ 10 การเรียนรู้และการสร้างแรงจูงใจบุคลากรทางการพยาบาล กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล ค้นหาความต้องการที่จำเป็นในการพัฒนาบุคลากร สร้าง แรงจูงใจและพัฒนาความก้าวหน้าในงานของบุคลากรทางการพยาบาลอย่างต่อเนื่อง ก. การพัฒนาบุคลากร แนวทางปฏิบัติ กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล กำหนดวิธีการพัฒนาบุคลากรครอบคลุมผู้บริหารใหม่ ผู้ปฏิบัติงานใหม่ และในระหว่างประจำการ เกี่ยวกับการปฏิบัติการพยาบาลทั่วไป การปฏิบัติการพยาบาล เฉพาะทาง และการบริหารการพยาบาล โดยดำเนินการดังนี้ 1. กำหนดกระบวนการค้นหาความต้องการที่จำเป็น (Need Assessment) และสมรรถนะ (Competency) ของบุคลากรทางการพยาบาลอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากตัวบุคลากรและจาก ผู้บังคับบัญชาระดับเหนือขึ้นไป 2. วางแผนพัฒนาบุคลากรโดยการนำความจำเป็นและความต้องการในการ ฝึกอบรมมาใช้ 3. กำหนดแผนพัฒนาศักยภาพบุคลากรทางการพยาบาลทุกระดับ ครอบคลุม ประเด็นต่อไปนี้ 3.1 แผนการปฐมนิเทศผู้บริหารใหม่และบุคลากรทางการพยาบาลที่มา ปฏิบัติงานใหม่ 3.2 แผนการศึกษาต่อเนื่อง ทั้งหลักสูตรระยะสั้นและระยะยาว 3.3 แผนการฝึกอบรม/ประชุมวิชาการภายในและภายนอกโรงพยาบาล 3.4 แผนการจัดการความรู้ (Knowledge Management)