การควบคุมทางสงั คม กระบวนการทมี่ งุ่ หมายให้สมาชิกในสงั คมยอมรบั
และปฏิบตั ิตามบรรทดั ฐาน มี 2 แบบ คือ
หากทาตามบรรทดั ฐาน ให้รางวลั
หากไม่ทาตามบรรทดั ฐาน ลงโทษ
- ฝา่ ฝืนวถิ ีประชา ถูกตฉิ นิ นินทา
- ฝ่าฝืนจารตี โดนรมุ ประชาทัณฑ์
- ฝา่ ฝืนกฎหมาย ถูกลงโทษตามกฎหมาย
การขดั เกลาทางสังคม การสอนให้คนทาตามบรรทัดฐาน
รจู้ กั สถานภาพและบทบาทของตนเอง
สถาบนั พน้ื ฐานในการขดั เกลาทางสังคม คือ ครอบครวั
ปัจจบุ นั นี้ผู้ทม่ี ีบทบาทมากในการขดั เกลาสังคมวัยรนุ่ ไดแ้ ก่ กลุ่มเพอ่ื น
ส่ือสารมวลชน สอ่ื อเิ ล็กทรอนกิ ส์
ผลการจัดระเบียบสังคม
สังคมมีระเบียบ สงั คมอยู่อยา่ งสงบสขุ + เรียบร้อย
กระบวนการปลูกฝงั บรรทดั ฐานของกลมุ่
ให้เกดิ ข้นึ ในตัวบคุ คล ซ่งึ เป็นสมาชกิ ของสงั คม
เพ่ือให้สามารถอยู่ร่วมกบั ผอู้ นื่ ในสังคมได้ดว้ ยดี
ฉะนนั้ การขดั เกลาทางสงั คม
จึงเปน็ วธิ กี ารถา่ ยทอดวัฒนธรรม
ข้นั ปฐมภูมิ ข้นั ตอน ขั้นทุตยิ ภูมิ
ขัดเกลาในวยั เดก็ การขัดเกลา ขดั เกลาในชว่ ง
โดยได้จากครอบครวั ทางสงั คม ประกอบอาชีพ
โรงเรยี น เพื่อน เพ่อื เปลย่ี นแปลง
ทาให้เกดิ บคุ ลกิ ภาพ บคุ ลิกภาพของตน
เปน็ ของตนเอง เชน่ เป็นครู แพทย์
โดยเฉพาะ นักธุรกจิ
ปลูกฝงั ระเบยี บวนิ ัยแก่สมาชิกในสังคม การขดั เกลา
ปลกู ฝงั ความมงุ่ หวังทีส่ ังคมยกย่อง ทางสงั คม
ใหส้ มาชิกรจู้ ักบทบาทและหนา้ ที่
สมาชิกเกิดทกั ษะทีจ่ ะร่วมกิจกรรมกับผู้อ่นื
เครอ่ื งมือทใี่ ช้ในการอบรมสงั่ สอนหรอื ขัดเกลาทางสงั คม ไดแ้ ก่
บรรทดั ฐาน (Norms) คา่ นยิ ม (Values) ความเชือ่ (Beliefs)
จัดเปน็ การขดั เกลาสังคม การคบหาสมาคมกนั
โดยทางออ้ ม การเลยี นแบบพฤตกิ รรมซ่งึ กนั และกนั
เกิดข้นึ จากการเรยี นรู้ บคุ ลกิ ภาพต่างๆ ของบุคคล
ระหวา่ งกันและกัน จึงมผี ลสบื เนือ่ งมาจาก
การคบหาสมาคมกบั เพือ่ น
เรยี นร้วู ิถกี ารดาเนนิ ชวี ติ ตา่ ง ๆ กลุ่มอาชีพครู
ตามรูปแบบของกลุม่ อาชีพ มักเคร่งครัดในเรอื่ ง
ระเบียบกฎเกณฑ์
มีผลต่อบคุ ลกิ ภาพของบคุ คล กลุ่มทหาร
มักเป็นผยู้ ดึ มน่ั ในระเบียบวนิ ยั
พฤติกรรมการเลียนแบบต่าง ๆ
หนงั สอื พมิ พ์ วทิ ยุ โทรทศั น์ มักเกิดจากการเลียนแบบ
จากสอ่ื ท้ังสิ้น
มีอิทธพิ ลต่อบคุ คล
เป็นอยา่ งมาก บคุ คลตอ้ งใช้วิจารณญาณ
ในการเลือกบริโภคสื่อต่าง ๆ
สังคมไทยตงั้ แตส่ มยั โบราณถงึ ปจั จบุ นั จะมกี ารเปลย่ี นแปลงเรือ่ ยมา
เพ่อื ใหเ้ หมาะสมกับสภาพการณใ์ นแต่ละยคุ แตล่ ะสมยั
- สมยั สุโขทยั ลกั ษณะ - สมัยอยุธยา มกี ารกาหนด
สังคมไทยจะมคี วามเรียบงา่ ย ระบบของความสมั พนั ธ์
ประชาชนยดึ มัน่ ระหว่างสมาชกิ ในสังคม
ในขนบธรรมเนียมประเพณี ไว้อย่างชัดเจน ไดแ้ ก่
มกี ารแบง่ ชนชั้นในสงั คม ระบบศกั ดินา และ
แตไ่ มเ่ ปน็ ระบบชัดเจน ระบบมลู นาย ไพร่
ชนช้นั ปกครอง พระมหากษตั รยิ ์ ชนชั้นพระสงฆ์
ชนชนั้ ใตป้ กครอง เจ้านาย
ขนุ นาง
- การเขา้ มาติดตอ่ ค้าขาย - การใชแ้ ผนพฒั นา
ของชาติตะวนั ตก เศรษฐกิจและสงั คม
ในการพัฒนาประเทศ
เปน็ ผลให้สงั คมไทยไดร้ บั
อิทธิพลจากวัฒนธรรม ทาให้ทิศทาง
ตะวนั ตกโดยเฉพาะ การเปลย่ี นแปลง
หลังสมยั รชั กาลที่ 4
ทางสงั คม
เป็นระบบมากขึ้น
ปัจจบุ นั สังคมไทยไดเ้ ปลี่ยนแปลงมากขน้ึ โดยมวี ัฒนธรรม
ตะวันตกเป็นปจั จยั สาคญั ในการเปลย่ี นแปลง
สรุปแผนพฒั นาเศรษฐกิจและสงั คมแหง่ ชาติ 1- 11
ฉบบั ท่ี 1 ฉบบั ท่ี 2 ฉบบั ที่ 3
2504-2509 2510-2514 2515-2519
เนน้ เฉพาะ ยึดแนวทางแผนฯ 1 ยกระดับการผลิต
ด้านเศรษฐกิจ ขยายการลงทุน เรง่ รดั การสง่ ออก
โดยเฉพาะ ไปยงั เขตทุรกันดาร ลดอัตราการเพม่ิ ประชากร
เชน่ โครงการ กระจายรายได้
การลงทนุ เรง่ รัดพัฒนาชนบท กระจายบรกิ าร
รฐั ท่มุ เททรพั ยากร ทางเศรษฐกิจและสงั คม
เพอื่ ปูพนื้ ฐานการลงทนุ
สูช่ นบท
ฉบบั ที่ 4 ฉบบั ท่ี 5 ฉบบั ท่ี 6
2520-2524 2525-2529 2530-2534
กระจายรายได้ เร่งระดมเงินออม เนน้ การพฒั นาฝมี อื
และการมีงานทา สรา้ งวนิ ัย แรงงานและ
คณุ ภาพชวี ิต
ในภมู ิภาค ทางเศรษฐกิจ การเงนิ พัฒนาเมืองและ
เรง่ บรู ณะและ เน้นการแก้ปญั หา พ้ืนทเ่ี ฉพาะ
ปรบั ปรงุ ความยากจน กระจายความเจริญ
การบริหาร ในชนบทลา้ หลัง สู่ภูมิภาค
ทรัพยากรหลัก
ของชาติ
โดยยึดหลักทางสายกลาง
เพือ่ ให้ประเทศรอดพน้ จากวกิ ฤต
ฉบบั ที่ 7 ฉบับท่ี 8 ฉบับท่ี 9
2535-2539 2540-2544 2545-2549
เนน้ การกระจาย มุ่งให้ ได้อญั เชญิ
รายได้ “คนเป็นศูนย์กลาง “ปรชั ญาของ
เศรษฐกจิ พอเพียง”
เนน้ การพฒั นา การพฒั นา” มาเป็นปรัชญา
ทรัพยากรมนุษย์ ปรบั เปลย่ี นวธิ กี าร นาทางในการพัฒนา
คุณภาพชีวติ พัฒนาแบบแยกสว่ น และบริหารประเทศ
และส่งิ แวดลอ้ ม มาเป็นบูรณาการ
แบบองคร์ วม
ฉบับท่ี 10 ฉบับท่ี 11
2550-2554 2555-2559
ยงั คงอัญเชิญ “ปรชั ญา วสิ ัยทศั น์ " ประเทศ
ของเศรษฐกจิ พอเพียง” มีความม่ันคงเปน็ ธรรม
มาเป็นแนวปฏิบัติ และมีภมู คิ ุ้มกนั ตอ่
ในการพัฒนาแบบบรู ณาการ การเปล่ยี นแปลง“
เศรษฐกิจมีความเขม้ แขง็
เปน็ องคร์ วมทีม่ ี สมดลุ ความสามารถ
“คนเปน็ ศนู ยก์ ลาง ในการแข่งขันสูงขน้ึ
มีหลักประกนั สงั คมทที่ ่วั ถงึ
การพฒั นา” และสังคมไทยมีความสุข
อย่างมธี รรมาภิบาล
ฉบบั ที่ 12
2560-2564
วิสยั ทศั น์ " สู่ความมน่ั คง
มงั่ คง่ั และยัง่ ยืน”
ใหค้ วามสาคัญกบั การ
กาหนดทิศทางการพัฒนา
ท่ีม่งุ สกู่ ารเปลีย่ นผ่าน
ประเทศไทยจากประเทศท่ี
มรี ายได้ปานกลางไปสู่
ประเทศทมี่ รี ายได้สูงมี
ความมั่นคงและย่ังยืน
สังคมอยู่รว่ มกนั อย่างมี
ความสุข
นกั เรียนศึกษารูปภาพต่อไปนี้วา่
ภาพใดบ้างเป็นลักษณะทัว่ ไปของสงั คมไทย
จากภาพท่ีเกีย่ วขอ้ งกบั ลักษณะท่วั ไปของสงั คมไทย
นกั เรยี นคดิ วา่ ...มีปัจจัยอะไรบา้ ง
ท่กี าหนดลักษณะของสงั คมไทย
- ลักษณะภูมปิ ระเทศ ลกั ษณะภูมิอากาศ และ
ทรพั ยากรธรรมชาติ
- อิทธิพลจากศาสนา วรรณคดี ขนบธรรมเนียมประเพณี
สังคมไทย (Thai Society) เป็นสังคมที่รวมชนทุกกลุ่ม ทุกเชื้อชาติ ศาสนา
และวัฒนธรรมไว้ด้วยกัน โดยมีวัฒนธรรมไทยเป็นพื้นฐานในการดารงชีวิต
ลกั ษณะทวั่ ไปของสังคมไทย สรุปได้ดังนี้
สงั คมเกษตรกรรม สงั คมท่ีเทดิ ทูนสถาบนั พระมหากษตั รยิ ์
สังคมทก่ี ารศึกษาคอ่ นขา้ งตา่ สังคมพุทธศาสนา
สังคมท่รี วมอานาจไว้ทส่ี ่วนกลาง
สงั คมทม่ี ีการเปลย่ี นแปลงอย่างรวดเร็ว
สังคมทมี่ ีโครงสรา้ งแบบหลวม (ไม่ยดึ กฎเกณฑ์ตายตัว)
ลักษณะภมู ิประเทศ อทิ ธพิ ลจากศาสนา วถิ ชี วี ิต
ลักษณะภมู อิ ากาศ วรรณคดี ความเชอ่ื อุดมการณ์
และทรัพยากรธรรมชาติ ขนบธรรมเนียมประเพณี วทิ ย์ + เทคโนโลยี
ส่งิ แวดลอ้ ม สิ่งแวดล้อม ส่ิงแวดลอ้ ม
ทางธรรมชาติ ทางวฒั นธรรม ทางสังคม
ปัจจยั ท่ีกาหนดลักษณะของสังคมไทย
นกั เรยี นนาเสนอขา่ วหรอื สถานการณก์ ารเปลย่ี นแปลงทางสงั คม
และวฒั นธรรม
เช่น การเลียนแบบเกาหลี การแสดงออกซง่ึ ความมีสัมมา
คารวะของนกั เรียน การรบั ประทานอาหารประเภทจานดว่ น
วิเคราะหส์ าเหตขุ องการเปลย่ี นแปลงทางสงั คมและวัฒนธรรม
ตลอดจนผลกระทบทีจ่ ะเกิดขึน้ ทั้งในระยะสัน้ และระยะยาว
สาเหตุของการเปลย่ี นแปลงทางสงั คมและวฒั นธรรม
ปจั จัยภายในสงั คม ปัจจยั ภายนอก
-ปจั จัยทางธรรมชาติ นา้ ทว่ ม การตดิ ตอ่ ระหวา่ งสงั คม
ฝนแลง้ สึนามิ หลากหลายประเภท
-ปจั จัยทางเศรษฐกิจ เช่น การเผยแผศ่ าสนา
การขยายตวั ของการผลติ
ภาคอตุ สาหกรรมและบริการ การศกึ ษาอบรม
-ปัจจยั ทางเทคโนโลยี การคา้ ขาย
-การเพ่มิ หรอื ลดจานวน
ประชากร ความแตกตา่ ง
ดา้ นเช้ือชาติ ศาสนา
เน่ืองจากความเจริญก้าวหน้าทางวิทยาการและเทคโนโลยีต่างๆ
ทาให้เกิดการประดษิ ฐ์คิดค้นเครื่องมือ เครื่องใช้ท่ีอานวยความสะดวก
ให้มนุษย์นานัปการ เป็นผลให้ชีวิตของคนในสังคมเปล่ียนไป มนุษย์
มีความสะดวกสบายมากข้ึน มีคุณภาพชีวิตดีขึ้น โดยเฉพาะความเจริญ
ก้าวหน้าของเทคโนโลยีการส่ือสารอย่างไม่จากัด ทาให้คนในสังคม
สามารถติดตอ่ สัมพนั ธก์ นั ได้สะดวกรวดเร็วทั่วถงึ
เน่ืองจากความเจริญก้าวหน้าทางวิทยาการและเทคโนโลยีต่างๆ
โดยเฉพาะทางด้านเศรษฐกิจทาให้มนุษย์สามารถผลิตวัตถุเพ่ืออานวย
ความสะดวกในทุกวิถีทาง จึงทาให้คนในสังคมเห็นคุณค่าของวัตถุ
มากกว่าคุณธรรมและจริยธรรม ดังนั้นค่านิยมของสังคมไทยจึง
เปล่ียนไปมาก ทาให้ระบบความสัมพันธ์ของบุคคลในสังคม
เปล่ียนแปลงไป จากสังคมท่ีเอื้อเฟ้ือเกื้อกูลกัน เป็นสังคมตัวใครตัว
มนั เอารัดเอาเปรยี บเบยี ดเบยี นซง่ึ กนั และกัน
แนวโนม้ การเปลย่ี นแปลงของสังคมไทยในอนาคต
1. ดา้ นสังคมและวฒั นธรรม ผู้หญงิ มีสถานภาพบทบาททดั เทียม
ผู้ชาย เช่น เปน็ ผนู้ าครอบครัว ระดับการศึกษา การประกอบอาชพี และ
รายได้
2. ดา้ นเศรษฐกิจ สงั คมเกษตร สังคมอุตสาหกรรม
สงั คมชนบท สังคมเมอื ง
3. ด้านการเมืองการปกครอง ประชาชนมสี ว่ นร่วม
ในทางการเมืองมากข้ึน เชน่ สนใจตดิ ตามข่าวสารบา้ นเมือง
วพิ ากษว์ ิจารณก์ ารทางานของรัฐบาล ฯลฯ
บทสรุป
สังคมมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ท้ังการเปล่ียนแปลงตามธรรมชาติ
และการเปล่ียนแปลงแบบวางแผน สาหรับสังคมไทยก็ได้เกิด
การเปล่ียนแปลงท้ังด้านโครงสร้างประชากร โครงสร้างทางสังคม และด้าน
วฒั นธรรมและพฤตกิ รรม การเปล่ยี นแปลงดังกล่าวก่อให้เกิดปัญหาทางสังคม
หลายประการ อาทิ ปญั หาผู้พิการ ปญั หาสุขภาวะของประชาชน ปัญหา
ความรู้ความเข้าใจ ในเรื่องสิทธิของประชาชน ปัญหาเหล่านี้ล้วนมีผลต่อ
การพัฒนาประเทศทงั้ สิน้ ดังนั้นจึงเปน็ หน้าที่ของคนในสังคมไทยทุกคนท่ีตอ้ ง
ร่วมมือกันแก้ไข รวมท้ังต้องช่วยกันพัฒนาสังคมไทย โดยอาจยึดตาม
แนวทางของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ซึ่งฉบับปัจจุบัน คือ
ฉบบั ท่ี 12 พ.ศ.2560 – 2564 เพ่อื ดารงชวี ิตอยรู่ ว่ มกนั อยา่ งสนั ติสุข
นกั เรียนเลอื กวเิ คราะห์ปัญหาสังคมไทย และการเสนอแนว
ทางแก้ไข คนละ 1 ปญั หา โดยมภี าพประกอบ
1. ภาพเกยี่ วกับปญั หาสงั คมไทยในเรอ่ื งใด
.................................................................................................
.................................................................................................
2. สาเหตขุ องปัญหาในขา่ ว คอื อะไร
.................................................................................................
.................................................................................................
3. นักเรียนมีแนวทางแก้ไขปญั หาอยา่ งไร
.................................................................................................
.................................................................................................