เศรษฐศาสตร์ ป.4

เศรษฐศาสตร์

37

เงิน

ความหมายของเงิน
เงิน คือ สื่อกลางในการแลกเปล่ียนท่ียอมรับกนั โดยทว่ั ไปตามกฎหมาย

สามารถจ่ายชาระหน้ี หน่วยมาตรฐานของและช่ือของเงินแตกตา่ งกนั ไปในแต่ละ
ประเทศ เช่น ประเทศไทยใชห้ น่วยเงินบาท ประเทศสหรัฐอเมริกาใชห้ น่วยเงิน
ดอลลาร์ เป็นตน้
ประเภทของเงิน

1.เหรียญกษาปณ์ คือเงินที่ทาจากโลหะ โดยมีกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลงั
เป็นหน่วยงานที่ผลิต เหรียญกษาปณ์หมนุ เวยี นท่ีนิยมใชใ้ นปัจจุบนั มมี ลู คา่ ดงั น้ี 25
สตางค์ 50 สตางค์ 1 บาท 2 บาท 5 บาท และ 10 บาท

เหรียญกษาปณ์หมุนเวียน

38

ลวดลายบนเหรียญกษาปณ์หมุนเวียน ชาติ พระมหากษตั ริย์
ชุดปัจจุบนั เป็นลวดลายที่แสดงถึงสถาบนั ชาติ
ศาสนา และพระมหากษตั ริย์ โดยดา้ นหนา้ เป็น พระมหากษตั ริ
พระบรมรูปพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั
เพื่อแสดงถึงสถาบนั พระมหากษตั ริย์ มีคาวา่ ศาสนา
“ประเทศไทย” แสดงถึงสถาบนั ชาติ และดา้ นหลงั
เป็นรูปวดั แสดงถึงสถาบนั ศาสนา โดยเหรียญแต่ละ
ชนิดราคาจะมีรูปวดั สาคญั ต่างๆในประเทศไทย
แตกตา่ งกนั ไป

2. ธนบัตร คือเงินทพี่ ิมพล์ งในกระดาษพเิ ศษ ผลิตโดยธนาคารแห่งประเทศ
ไทย กระทรวงการคลงั ธนบตั รหมุนเวียนที่ใชใ้ นปัจจุบนั มีมูลคา่ ดงั น้ี 20 บาท 50
บาท 100 บาท 500 บาท และ 1,000 บาท

39

ธนบัตรแบบ 16
ธนบตั รแบบน้ี มีจดุ มงุ่ หมายเพ่อื เฉลิมพระเกียรติพระมหากษตั ริยไ์ ทย ต้งั แต่
สมยั สุโขทยั อยธุ ยา ธนบุรี และรัตนโกสินทร์ ท่ีทรงบาเพญ็ พระราชกรณียกิจอนั เป็น
คุณูปการแก่ประเทศชาติ

40

ธนบัตรแบบ 17
ธนบตั รแบบ17มีแนวคดิ ในการออกแบบเพ่อื เทิดพระเกียรติพระมหากษตั ริยท์ กุ
พระองคแ์ ห่งราชวงศจ์ กั รี ที่ทรงประกอบพระราชกรณียกิจ ในทุกดา้ น เพื่อบาบดั ทกุ ข์
บารุงสุข นาความร่มเยน็ มาสู่อาณาประชาราษฎร์และชาติบา้ นเมือง

41

จุดสังเกตในธนบตั รรัฐบาลไทย

ธนบตั รเป็นสิ่งพมิ พม์ ีคา่ ประเภทหน่ึง มีความพเิ ศษแตกตา่ งจากสิ่งพมิ พม์ ีค่า
ประเภทอื่น เพราะนอกจากลกั ษณะตอ่ ตา้ นการปลอมแปลงท่ีตอ้ งบรรจุไวใ้ นพ้นื ที่
พิมพอ์ นั จากดั แลว้ ลวดลายในธนบตั รยงั ตอ้ งมคี ุณค่าทางศิลปะ มีความประณีต
สวยงาม และเนน้ เอกลกั ษณ์ความเป็นไทย

ดงั น้นั เพ่อื คงไวซ้ ่ึงความน่าเช่ือถือสมเป็นส่ือกลางสาหรับใชใ้ นการแลกเปลี่ยน
ธนบตั รตอ้ งมีลกั ษณะพิเศษท่ียากตอ่ การปลอมแปลง แต่ง่ายตอ่ การสงั เกตและ
ตรวจสอบ ซ่ึงมีวิธีสงั เกตง่ายๆ 3 วิธี ไดแ้ ก่ สมั ผสั ยกส่อง และพลิกเอียง อยา่ งไรก็ดี
เพ่ือความมน่ั ใจจึงควรสงั เกตจุดสาคญั ต่างๆ บนธนบตั รอยา่ งนอ้ ย 3 จุดข้ึนไป

สัมผสั

1. กระดาษธนบตั ร ทาจากกระดาษท่ีมีใยฝ้ายเป็นส่วนประ
กอบหลกั จึงมีความแกร่งทนทานและไมย่ ยุ่ งา่ ย

2. ลายพมิ พเ์ สน้ นูน คาวา่ "รัฐบาลไทย" ตวั อกั ษรและ
ตวั เลขแจง้ ชนิดราคา เม่ือสมั ผสั ดว้ ยปลายนิ้วมือ จะรู้สึก
สะดุด

42

ยกส่ อง

3. ลายน้า ธนบตั รไทยมีลายน้าเป็นพระบรมฉายาสาทิสลกั ษณพ์ ระบาทสมเด็จพระ
เจา้ อยหู่ วั เม่ือยกส่องกบั แสงสวา่ งจะเห็นไดอ้ ยา่ งชดั เจนท้งั ดา้ นหนา้ และดา้ นหลงั
ของธนบตั ร

4. แถบสีโลหะ ฝังแถบพลาสติกขนาดเลก็ เคลือบดว้ ยสีโลหะ
ไวใ้ นเน้ือกระดาษตามแนวต้งั และมีบางส่วนของแถบ
ปรากฎใหเ้ ห็นเป็นระยะท่ีดา้ นหลงั และจะเปลี่ยนสีเมื่อ
เปลี่ยนมุมมอง

5. ภาพซอ้ นทบั ลวดลายที่ออกแบบไวใ้ นตาแหน่ง
ตรงกนั ท้งั ดา้ นหนา้ และดา้ นหลงั ซอ้ นทบั กนั สนิท
หรือประกอบกนั ข้ึนเป็นลวดลายหรือภาพที่สมบูรณ์
สามารถสังเกตไดด้ ว้ ยการยกธนบตั รข้ึนส่องดกู บั
แสงสวา่ ง

43

พลกิ เอยี ง

6. หมึกพมิ พพ์ ิเศษสลบั สี เป็นหมึกพิมพซ์ ่ึงสามารถเปล่ียน
จากสีหน่ึงสลบั เป็นอีกสีหน่ึงเม่ือมองจากตา่ งมมุ
สามารถสังเกตเห็นไดด้ ว้ ยการพลิกเอียงธนบตั ร

7. แถบฟอยล์ 3 มิติ ผนึกไวต้ ามแนวต้งั ภายในมภี าพท่ีเป็น
มิติ เมื่อพลิกเอียงธนบตั รไปมาจะเห็นองคป์ ระกอบต่างๆ
ในแถบฟอยลเ์ คล่ือนไหว และเปล่ียนสีสะทอ้ นแสงวาววบั
สวยงาม

8. ตวั เลขแฝง เป็นตวั เลขท่ีซ่อนอยใู่ นลวดลายเส้น
นูน จะมองเห็นไดเ้ ม่ือพลิกเอียงธนบตั รเขา้ หา
แสงสวา่ ง โดยมองผา่ นจากมุมลา่ งซา้ ยเขา้ หา
ก่ึงกลางธนบตั ร

44

9. ตวั เลขจ๋ิว ลวดลายบางส่วนออกแบบใหม้ ีตวั เลข
หรือตวั อกั ษรขนาดจ๋ิวซ่อนไวอ้ ยา่ งกลมกลืน
เพือ่ ใหย้ ากตอ่ การปลอมแปลง จะมองเห็นได้
อยา่ งชดั เจนเมื่อใชแ้ วน่ ขยาย

10. ลกั ษณะพิเศษภายใตร้ ังสีเหนือม่วงพมิ พด์ ว้ ย
หมึกพิมพพ์ เิ ศษเรืองแสง เป็นหมึกพมิ พซ์ ่ึงสามารถ
มองเห็นการเรืองแสงเมื่ออยภู่ ายใตร้ ังสีเหนือมว่ ง
ซ่ึงนามาใชบ้ ริเวณลวดลายสีพ้ืน หมวดอกั ษรและ
เลขหมายของธนบตั ร

45

การใช้อุปกรณ์

นอกจากน้ียงั สงั เกตจากเน้ือ
กระดาษและใชร้ ังสีเหนือมว่ งหรือ
ท่ีเรียกวา่ รังสีแบลก็ ไลนต์ รวจสอบ
เส้นใยเรืองแสงในธนบตั รได้ โดย
เครื่องตรวจสอบธนบตั ร ใชร้ ังสี
เหนือม่วง หากเป็นธนบตั รจริงจะ
มองเห็นเส้นใยเรืองแสงในเน้ือ
กระดาษ

ปากกาตรวจสอบธนบตั รเป็นเครื่องมือ
ในการตรวจสอบอีกชนิดหน่ึง เมื่อขีด
ปากกาลงบนเน้ือกระดาษหากเป็ นสี
เหลืองหรือไมม่ ีสี ธนบตั รใบน้นั คือ
ธนบตั รจริง หากเปลี่ยนเป็น สีน้าตาล
เขม้ หรือดาแสดงวา่ เป็น ธนบตั รปลอม

46

3.ฝากเผ่ือเรียก คือเงินท่ีเกิดจากความเชื่อถือระหวา่ งผผู้ ลิตสินคา้ และผบู้ ริโภค
สินคา้ ซ่ึงมีการแลกเปล่ียนกนั โดยมีลกั ษณะเป็นคาสั่งจ่ายโอนในรูปของตว๋ั แลกเงิน
หรือเช็ค โดยผา่ นสถาบนั การเงิน รวมท้งั การใชบ้ ตั รเครดิตในการซ้ือสินคา้ และบริการ
ตา่ งๆ

เช็ค

ตวั๋ แลกเงิน บตั รเครดิต

47

หน้าทีเ่ บือ้ งต้นของเงนิ
1. เป็นสื่อกลางในการแลกเปล่ียน เป็นหนา้ ท่ีหลกั พ้ืนฐานอนั ดบั แรกท่มี ี

ความสาคญั เนื่องจากการหมุนเวียนของเงินจะช่วยกระตนุ้ การผลิต การบริโภค
และการลงทุนของประเทศช่วยใหร้ ะบบเศรษฐกิจมีการขยายตวั
2. เป็นหน่วยวดั มูลคา่ เช่น หนงั สือเลม่ น้ี ราคา 60 บาท การวดั ค่าและเปรียบเทียบ
ค่าของส่ิงของตา่ งๆ ทาใหง้ ่ายข้ึนและสะดวก ช่วยใหก้ ารตดั สินใจซ้ือขายทาไดเ้ ร็ว
ข้ึน
3. เป็นเครื่องรักษามูลค่า ประชาชนนิยมเกบ็ ออม หรือสะสมเป็นเงินมากกวา่ ตวั
สินคา้ และบริการ เพราะสินคา้ อาจเสื่อมสภาพทาใหม้ ลู คา่ ลดลงเรื่อยๆ
4. เป็นมาตรฐานการชาระหน้ีในอนาคต การกยู้ มื หรือการแลกเปลี่ยนสินคา้ กนั
โดยตรง อาจมีขอ้ จากดั ในการชาระหน้ีวา่ ตอ้ งชาระสินคา้ ชนิดเดียวกนั ดงั น้นั การ
ชาระหน้ีดว้ ยเงินจะช่วยอานวยความสะดวกท้งั แก่ลูกหน้ีและเจา้ หน้ี ก่อใหเ้ กิดการ
ใชจ้ ่ายและการลงทนุ เพม่ิ ข้ึน ส่งผลใหเ้ ศรษฐกิจขยายตวั

48

สกุลเงนิ ในประเทศต่างๆ

ดอลลาร์สหรัฐ

ปอนดส์ เตอร์ลิง

ยโู ร เยน
วอน
หยวน

49

สินเช่ือ

ระบบสินเช่ือเกิดข้นึ เน่ืองจากมนุษยม์ ีความตอ้ งการไม่ สญั ญาสินเชื่อ
สิ้นสุด เช่น ตอ้ งการส่ิงที่จาเป็นตอ่ การดารงชีวติ ที่ขาดไม่ได้
ซ่ึงเรียกวา่ ปัจจยั สี่ ไดแ้ ก่ อาหาร ที่อยู่ เครื่องนุ่งห่ม และยา
รักษาโรค และสิ่งที่ไมจ่ าเป็น แต่เพื่ออานวยความสะดวก เช่น
เคร่ืองประดบั รถยนตท์ ี่มีราคาแพง ซ่ึงเป็นการใชจ้ ่ายอยา่ ง
ฟ่ มุ เฟือย หากมีความตอ้ งการส่ิงที่ไม่จาเป็นในขณะไมม่ ีเงินก็
ตอ้ งกูย้ มื จากบุคคลหรือสถาบนั การเงินต่างๆ ทาใหเ้ กิดภาวะ
หน้ีสิน

การให้สินเช่ือ คือ การที่บุคคลหรือหน่วยธุรกิจซ่ึงเรียกวา่ ผ้ใู ห้กู้ยืม ใหเ้ งินกู้
ยมื กบั บคุ คลหรือหน่วยธุรกิจซ่ึงเรียกวา่ ผู้ก้ยู ืม โดยมีการทาสญั ญาการใชค้ ืนเงิน
จานวนท่ีกยู้ มื ไป และผลตอบแทนท่ีผใู้ หก้ ยู้ มื จะไดร้ ับโดยมีระยะ
เวลาที่แน่นอน

50

ผลดขี องระบบสินเช่ือ ผลเสียของระบบสินเช่ือ

1. บริโภคสินคา้ และบริการไดร้ วดเร็ว 1. ปลูกฝังคา่ นิยมที่ฟ่ ุมเฟือย

2. การบริโภคสินคา้ และบริการมีมาก 2. สินคา้ และบริการท่ีซ้ือโดยใชส้ ินเชื่อ

ข้ึน มีราคาแพงกวา่ เงินสด

3. การซ้ือขายสินคา้ มีความคลอ่ งตวั 3. หากไมส่ ามารถจ่ายเงินจ่ายเงินตาม

4. ธุรกิจขยายตวั อยา่ งต่อเนื่อง กาหนดเวลาอาจทาใหเ้ กิดความ

5. ไดร้ ับสินคา้ และบริการโดยไม่ตอ้ ง เสียหาย

จ่ายเงินสดทนั ที 4. หากมีรายไดไ้ ม่แน่นอนอาจไมม่ ีเงิน

ชาระหน้ีตามกาหนด

ตวั อยา่ งบตั รเครดิตสาหรับเบิกเงินสด
และใชซ้ ้ือสินคา้ และบริการในระบบสินเชื่อ

51

การบริโภค

การบริโภค คือ การกินหรือใชส้ ินคา้

และบริการเพอ่ื สนองความตอ้ งการของมนุษย์ ผู้บริ โภคคือ ผู้ท่ีกินหรื อใช้
ทกุ คนลว้ นอยใู่ นฐานะผบู้ ริโภค ลกั ษณะ สินคา้ และบริการ
การบริโภคมี 2 รูปแบบคือ

1. การบริโภคสินคา้ เช่น อาหาร น้า ยา

เคร่ืองนุ่งห่ม รถยนต์ เป็นตน้

2. การบริโภคบริการ คือ การไดร้ ับการอานวย

ความสะดวกสบาย เช่น บริการทางการแพทย์ การคมนาคมขนส่ง เป็นตน้

สิ่งท่ีมนุษยบ์ ริโภคสามารถแบ่งไดเ้ ป็น 2 ประเภทคือ
1. สิ่งจาเป็นพ้ืนฐาน ไดแ้ ก่ ปัจจยั สี่ (อาหาร ท่อี ยอู่ าศยั ยารักษาโรค และ
เคร่ืองนุ่งห่ม)
2. ส่ิงสนองความตอ้ งการ ไดแ้ ก่ รถยนต์ โทรทศั น์ โทรศพั ทม์ ือถอื
คอมพวิ เตอร์ เคร่ืองเลน่ ดีวดี ี เป็นตน้

52

ปัจจัยท่ีมีผลต่อการบริโภค
1. รายได้ ผมู้ ีรายไดต้ า่ งกนั กย็ อ่ มบริโภค
สินคา้ หรือบริการที่ตา่ งกนั เช่น ผทู้ ี่มีรายไดน้ อ้ ย
กจ็ ะซ้ือสินคา้ หรือบริการที่จาเป็นตอ่ การดาเนินชีวติ
ผทู้ ่ีมีรายไดม้ ากอาจจะซ้ือสินคา้ ฟ่ ุมเฟือยเพิ่มข้ึน

2. ราคาสินคา้ ราคาสินคา้ มีผลต่อการ
ซ้ือ สินคา้ และบริการ ถา้ สินคา้ ถูกและมี
คุณภาพ ผบู้ ริโภคมกั จะตดั สินใจซ้ือ
มากกวา่ สินคา้ ท่ีมีราคาสูงแตค่ ุณภาพ
เหมือนกนั

3. รสนิยมของผบู้ ริโภค หมายถึง
ความนิยม ชอบในสินคา้ และบริการ
ซ่ึงมกั จะเป็นไปตามนิสยั ฐานะ หากผผู้ ลิต
ทราบรสนิยมของผบู้ ริโภคกจ็ ะสามารถ
ผลิตสินคา้ และบริการท่ีถกู ใจผบู้ ริโภค

53

4. การศึกษาของผบู้ ริโภค ผบู้ ริโภคท่ีมีการศึกษาสูงมกั จะเลือกสินคา้ ที่มีประโยชน์
คุม้ คา่ ไมห่ ลงเชื่อโฆษณา มีการวางแผน ไตร่ตรองก่อนท่ีจะเลือกซ้ือสินคา้ และ
บริการ

หลกั การซื้อสินค้า และบริการ หากไมไ่ ดร้ ับความเป็น
ธรรมในการซ้ือสินคา้ และ
1. ความจาเป็นผบู้ ริโภคควรคานึงถึงความจาเป็น บริการสามารถร้องเรียนได้
วา่ ตนเองจาเป็นตอ้ งซ้ือสินคา้ หรือบริการ ที่สานกั งานคุม้ ครอง
ใดบา้ ง ส่ิงใดมีความจาเป็นมากที่สุด ก็ควรจะ ผบู้ ริโภค (สคบ) โทรสาย
ซ้ือสิ่งน้นั ก่อน ส่ิงใดไม่จาเป็นกไ็ ม่ควรซ้ือ ด่วน 1166 ไดเ้ ลยครับ
หรือซ้ือเม่ือรายไดท้ ่ีมากข้ึน

2. คุณภาพของสินคา้ คุณภาพของสินคา้ และบริการเป็นสิ่งสาคญั

ท่ีผบู้ ริโภคควรพิจารณาก่อนที่จะตดั สินใจซ้ือ สิทธิผ้บู ริโภค 5 ประการ
หากซ้ือสินคา้ หรือบริการที่มีคุณภาพ กจ็ ะใช้ 1. ไดร้ ับขา่ วสารเกี่ยวกบั สินคา้
ประโยชน์ไดค้ ุม้ คา่ ปลอดภยั
และ บริการที่ถกู ตอ้ ง

2. มีอิสระในการเลือกซ้ือสินคา้

3. ราคาของสินคา้ สินคา้ หรือบริการท่ีมีราคาแพง และ บริการ
อาจจะไม่ใช่สิ่งท่ดี ีท่ีสุดเสมอ ผบู้ ริโภคควร 3. ไดร้ ับความปลอดภยั จากสินคา้
เลือกสินคา้ และบริการที่มีราคาเหมาะสมกบั
คุณภาพ สินคา้ หรือบริการท่ีลดราคาหรือมีของ และ บริการ
แถมอาจจะเส่ือมคุณภาพ ใกลห้ มดอายุ 4. ไดร้ ับความเป็นธรรม
ก่อใหเ้ กิดอนั ตรายแก่ผบู้ ริโภค 5. ไดร้ ับคา่ ชดเชยเม่ือไดร้ ับความ

เสียหาย

54

สรุปหลกั การซื้อสินค้าและบริการ

ควมจาเป็ น ประโยชน์ ประหยัด

55

เคร่ืองหมายรับรองสินค้าและบริการ

เครื่องหมายรับรองสินคา้ และบริการ หมายถึงสัญลกั ษณ์ที่บง่ บอกถึงคุณภาพ
และมาตรฐานของสินคา้ และบริการ

เคร่ืองหมายมาตราฐานทวั่ ไป เครื่องหมายอย.

เครื่องหมายOTOP เครื่องหมายฮาลาล

เคร่ืองหมายประหยดั ไฟเบอร์5 56

อทิ ธิพลของการโฆษณาทมี่ ผี ลต่อการเลือกซื้อสินค้า และบริการ
โฆษณา คือ การประกาศ สื่อขอ้ ความ ตราสญั ลกั ษณ์ ภาพ และภาพยนตร์

จากผผู้ ลิต เพื่อทาใหผ้ บู้ ริโภคเกิดความตอ้ งการสินคา้ หรือบริการน้นั ๆท้งั โดยทางตรง
และทางออ้ ม

การส่งเสริมการตลาด เป็นการสื่อสารกบั ผบู้ ริโภคท้งั โดยทางตรง และ
ทางออ้ มเพอื่ ใหเ้ กิดการรับรู้ และยอมรับในสินคา้ และบริการของผผู้ ลิต ซ่ึงสามารถ
แบง่ วธิ ีการส่งเสริมการตลาดได้ 5 กลุม่ ดงั น้ี

1. โฆษณา เป็นการโฆษณากบั กลุ่ม
ผบู้ ริโภคในวงกวา้ งเพอ่ื ใหผ้ บู้ ริโภค
ตอ้ งการสินคา้ และบริการเช่น
โฆษณาทางโทรทศั น์ วทิ ยุ ส่ิงพมิ พ์
ต่างๆ

57

2. การใชต้ วั แทนจาหน่าย เป็นวธิ ีการส่งเสริมการตลาดที่ใหต้ วั แทนจาก
บริษทั ผผู้ ลิตสินคา้ และบริการไดส้ ่ือสารโดยตรงกบั ผบู้ ริโภค เช่น การขายตรง

3. การสร้างการรับรู้ใหก้ บั สงั คม เป็นวธิ ีการ
ส่งเสริมการตลาดดว้ ยการจดั กิจกรรมที่ให้
ผบู้ ริโภคไดร้ ับรู้ขอ้ มลู ของสินคา้ และบริการ
เช่น ขา่ วการสัมภาษณ์เจา้ ของบริษทั ขา่ ว
ของบริษทั ผผู้ ลิตสินคา้ ท่ีออกไปทา
ประโยชนใ์ หก้ บั ชุมชน

4. การส่งเสริมการขาย เป็นวธิ ีการส่งเสริมการตลาดวิธี
หน่ึงที่กระตนุ้ ใหผ้ บู้ ริโภคตอ้ งการซ้ือสินคา้ และบริการ
แตใ่ นระยะส้นั เทา่ น้นั เช่น การลด แลก แจก แถม
การแจกตวั อยา่ งสินคา้ เพอ่ื ใหท้ ดลองฟรี การสะสม
แตม้ เพอื่ แลกของสมนาคุณ

5. กิจกรรมมวลชนสมั พนั ธ์ เป็นการสร้างความสมั พนั ธก์ บั
กลุ่มลกู คา้ ตวั แทนจาหน่าย เพอื่ ใหเ้ กิดความสัมพนั ธท์ ี่ดี
ต่อกนั เป็นวธิ ีการส่งเสริมการตลาดที่เนน้ สร้าง
ความสัมพนั ธร์ ะยะยาว เช่น การจดั แถลงขา่ ว การเล้ียง
ขอบคุณ การจดั งานเปิ ดตวั สินคา้

58

อาชีพ

อาชีพ หมายถึง การทางานเพือ่ ใหไ้ ดม้ าซ่ึงรายไดท้ ี่เป็นตวั เงินหรือสิ่งอื่นที่
จาเป็นตอ่ การดารงชีวติ โดยการทางานน้นั จะตอ้ งสุจริต ไมข่ ดั ตอ่ กฎหมาย และ
ศีลธรรมอนั ดี กลุ่มอาชีพในสงั คมไทยสามารถแบ่งออกไดด้ งั น้ี

1. อาชีพลกู จ้างพนกั งาน ขา้ ราชการทหาร

เป็นอาชีพท่ีมหี นา้ ท่ีการงานประจา มีรายไดค้ ือ เงินเดือน
ค่าจา้ งรายวนั หรือรายชว่ั โมงท่ีแน่นอน อาชีพน้ีเป็นส่วน
หน่ึงของกิจการ แตไ่ ม่ใช่เจา้ ของ เช่น ขา้ ราชการ
พนกั งานในบริษทั พนกั งานขายของในหา้ งสรรพสินคา้
เป็ นตน้

พนกั งานเสริฟอาหารในร้านคา้

59

2. อาชีพผ้ปู ระกอบการแบบลงมือทาเอง ชาวนา
เป็นอาชีพที่ตอ้ งใชฝ้ ีมือ และความสามารถของ
ตนเองในการประกอบอาชีพ เป็นผลู้ งทนุ
ตดั สินใจเก่ียวกบั กิจการท้งั หมด ผทู้ ่ีอยใู่ นกลมุ่
อาชีพน้ีรายไดจ้ ะข้ึนอยกู่ บั ความขยนั คือ หาก
ขยนั มากทางานดี กจ็ ะมีรายไดม้ าก เช่น
เกษตรกร แม่คา้ ดารา นกั ร้อง แพทยท์ ่ีเปิ ด
คลินิกของตนเอง ครูสอนพเิ ศษ นกั กีฬาอาชีพ
เป็ นตน้

การคา้ ขาย การทาฟาร์มหมู

3. อาชีพผู้ประกอบการแบบเป็ นเจ้าของกจิ การ บริษทั ขายรถยนต์

เป็นอาชีพท่ีตอ้ งใชฝ้ ีมือและความสามารถในการ 60
บริหารงานบริหารเงิน และบริหารคน เป็นผู้
ลงทุน ตดั สินใจในกิจการท้งั หมด และ
รับผิดชอบหากกิจการลม้ เหลวแต่ไม่ตอ้ งลงมือ
ทางานดว้ ยตนเอง จะจา้ งคนท่ีมีความสามารถใน
แตล่ ะดา้ นมาทางานแทน รายไดค้ ือ กาไรหรือผล
ประกอบการสูงสุดเช่น เจา้ ของกิจการ บริษทั
ตา่ งๆ เป็นตน้

โรงงานทาเครื่องประดบั โรงงานส่งออกอาหารแช่แขง็

4. อาชีพนักลงทุน เป็ นกล่มุ อาชีพทีจ่ ัด

เป็นเจา้ ของกิจการอีกประเภทหน่ึง แตจ่ ะเนน้ เรื่องการบริหารเงินนกั ลงทุนจะเขา้ ไป
เป็นหุน้ ส่วนโดยการลงเงินทนุ ในกิจการตา่ งๆ และหวงั รายไดจ้ ากการแบง่ กาไรของ
กิจการน้นั ๆ กลุ่มอาชีพน้ีจะมีความเส่ียงตอ่ การสูญเสียเงินคอ่ นขา้ งสูงเพราะตอ้ งนาเงิน
ไปลงทนุ ก่อนโดยยงั ไม่ทราบวา่ กิจการที่ตนเอาเงินไปร่วมลงทุนดว้ ยน้นั จะมีกาไร
หรือไม่

61

ท่มี าของรายได้

เม่ือมนุษยป์ ระกอบอาชีพ ผลตอบแทนท่ีไดค้ ือ รายได้ ท่ีนามาเล้ียงดตู นเอง ซ่ึง
สามารถแบง่ ประเภทแหลง่ ที่มาของรายไดด้ งั น้ี

1. เงินเดือน เป็นเงินรายไดป้ ระจาท่ีพนกั งานลกู จา้ งจะ
ไดร้ ับเมื่อทางานครบ 1 เดือน

2. คา่ จา้ งรายวนั เป็นเงินรายไดท้ ่ีพนกั งานลูกจา้ งจะ
ไดร้ ับเมื่อมาทางานครบ 1 วนั

3. คา่ จา้ งรายชว่ั โมง เป็นรายไดท้ ี่พนกั งาน ลูกจา้ งจะ
ไดร้ ับเมื่อทางานครบ 1 ชว่ั โมง โดยอาจมีการตกลงกนั
ระหวา่ งนายจา้ งและลูกจา้ งวา่ วนั หน่ึงจะตอ้ งทางานก่ีชว่ั โมง

4. คา่ จา้ งตามงานท่ีจา้ ง เป็นรายไดท้ ี่พนกั งานลกู จา้ งจะไดร้ ับเมื่อทางานเสร็จสิ้นตามท่ี
ตกลงกนั ไว้ เช่น ค่าจา้ งวาดรูป คา่ จา้ งซ่อมแซมบา้ น เป็นตน้

5. ส่วนแบง่ รายไดจ้ ากการทางาน เป็นรายไดท้ ี่เกิดจากการทางานโดยคิดแบ่งจาก
สดั ส่วนของงานท่ีทาได้ เช่น พนกั งานขายรถยนต์ พนกั งานขายที่ดิน เป็นตน้

6. กาไรจากการลงทนุ เป็นรายไดท้ ี่เกิดจากการลงทนุ และทางานดว้ ยตนเองของ
เจา้ ของกิจการ เจา้ ของกิจการจะมีรายไดม้ ากหรือนอ้ ยข้ึนอยกู่ บั สินคา้ และบริการที่
ขายได้ เช่น พอ่ คา้ แมค่ า้ เกษตรกร เป็นตน้

7. ส่วนแบ่งรายไดจ้ ากการลงทุน เป็นรายไดท้ ่ีเกิดจากการนาเงินไปร่วมลงทุนใน
กิจการต่างๆ เมอื่ กิจการเหล่าน้นั ไดก้ าไร ผนู้ าเงินไปลงทุนกจ็ ะไดส้ ่วนแบ่งจาก
กาไรน้นั ๆโดยไม่ตอ้ งทางานดว้ ยตนเอง เช่นหุน้ ส่วนในบริษทั ตา่ งๆ นกั ลงทุนใน
ตลาดหลกั ทรัพย์ เป็นตน้

62

การออม

เม่ือมนุษยม์ ีรายไดจ้ ากการประกอบอาชีพ ส่ิงท่ีเราควรคานึงคือ จะนารายไดม้ า
ใชจ้ ่ายใหเ้ หมาะสมไดอ้ ยา่ งไร จะใชจ้ ่ายเท่าไหร่ และเกบ็ ออมเทา่ ไหร่

การออม หมายถึง การเก็บสะสมเงินใหเ้ พิ่มพูนข้ึนเมื่อเวลาผา่ นไป เพอื่ นาเงิน
ส่วนน้ีไวใ้ ชใ้ นอนาคตหรือในยามฉุกเฉิน การออมส่วนมากนิยมฝากเงินกบั ธนาคาร
ซ่ึงธนาคารจะใหผ้ ลตอบแทนที่เรียกวา่ ดอกเบ้ีย
ประเภทของเงินฝาก

1. เงินฝากออมทรัพย์ หรือ เงินฝากเผ่ือเรียก หรือ เงินฝากสะสมทรัพย์ เป็นเงิน
ฝากท่ีจะฝากถอนก่ีคร้ังต่อวนั ก็ได้ คิดดอกเบ้ียเป็นรายวนั ไมต่ อ้ งเสียภาษี
ดอกเบ้ียเงินฝาก อตั ราการฝากข้นั ต่าแลว้ แตธ่ นาคารกาหนด เช่น 100 บาท 200
บาท 500 บาท

2. เงินฝากประจา การฝากประจามีกาหนดระยะเวลา เช่น ฝากประจา 3 เดือน 6
เดือน 12 เดือน 24 เดือน โดยธนาคารจะคิดดอกเบ้ียใหต้ ามระยะเวลาท่ีกาหนด
และสูงกวา่ เงินฝากออมทรัพย์ ดอกเบ้ียที่ไดร้ ับจะตอ้ งเสียภาษี หากถอนก่อน
ระยะเวลาที่กาหนดดอกเบ้ียท่ีไดร้ ับจะเทา่ กบั ดอกเบ้ียเงินฝากออมทรัพย์

63

ตวั อย่างใบนาฝากเงนิ ธนาคารไทยพานชิ ย์จากดั (มหาชน)

1. ใส่ช่ือสาขาของธนาคารท่ีเขา้ ไปฝากเงิน
2. ใหเ้ ชค็ เครื่องหมายถูกใน ช่อง “เงินสด” และช่อง “ออมทรพั ย"์
3. ใส่วนั ที่ เดือน ปี ที่นาเงินมาฝาก
4. ใส่เลขที่บญั ชี
5. ใส่ชื่อบญั ชี
6. ใส่จานวนเงินท่ีจะฝากโดยเขียนเป็นตวั หนงั สือ
7. ใส่จานวนเงินท่ีจะฝากโดยเขียนเป็นตวั เลข
8. ใส่ช่ือผนู้ าเงินมาฝาก
9. ใส่เบอร์โทรศพั ทผ์ นู้ าเงินมาฝาก

64

หลกั การออมทดี่ ี

1. ตอ้ งมีความกระตือรือร้น ขยนั ขนั แขง็ ในการประกอบอาชีพ เพราะการประกอบ
อาชีพจะทาใหม้ ีรายได้ และสามารถนาเงินรายไดม้ าเก็บออม

2. ปลกู ฝังนิสยั รักการออม ฝึกฝนการใชจ้ ่ายของตนเองใหร้ ู้คุณคา่ ของเงิน ใชจ้ ่าย
ส่ิงของท่ีจาเป็น ราคาเหมาะสม รู้จกั เกบ็ ออมเงินทุกคร้ังใหเ้ คยชินจนเป็นนิสยั หาก
มีเงินเหลือมากก็เกบ็ ออมมาก หากมีเงินเหลือนอ้ ยก็เก็บออมนอ้ ย พจิ ารณาตาม
กาลงั ทรัพยข์ องตนเอง

3. วางแผนการใชจ้ ่ายเงินอยา่ งมีประสิทธิภาพ แยกคา่ ใชจ้ ่ายเป็นส่วน เช่น เงิน
สาหรับจ่ายคา่ เดินทาง เงินสาหรับจ่ายค่าอาหาร เงินสาหรับจ่ายค่าการกุศล เงิน
สาหรับเกบ็ ออม เป็นตน้ เมื่อแบง่ เงินค่าใชจ้ ่ายเป็นส่วนแลว้ กค็ วรจะใชเ้ งินตามที่
วางแผนไว้

65

เศรษฐกจิ พอเพยี ง

ความเป็ นมาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง

เมื่อวนั ที่ 4 ธนั วาคม พ.ศ. 2540 และ พ.ศ.
2541 พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ วั ภมู ิพลอดลุ ยเดช
ไดพ้ ระราชทานกระแสพระราชดารัสแก่ปวงชนชาว
ไทยตอนหน่ึงที่เก่ียวกบั เศรษฐกิจพอเพียง เพอ่ื เป็น
แนวทางใหป้ ระชาชนนาไปปฏิบตั ิเพอ่ื การดารงชีวติ
ในยามท่ีประเทศประสบภาวะวกิ ฤตทางเศรษฐกิจ

แนวคิดเร่ืองเศรษฐกิจพอเพยี ง เป็นหลกั การพ่งึ ตนเอง ช่วยตนเองใหม้ ากที่สุด โดยใช้
ชีวิตอยา่ งเรียบงา่ ยไมฟ่ ่ มุ เฟื อยและเหลือออมไวไ้ ดบ้ า้ ง จากน้นั ก็ร่วมกนั สร้างเศรษฐกิจ
ของชุมชนใหเ้ ขม้ แขง็

66

แนวคิดเร่ืองเศรษฐกิจพอเพียงเป็นแนวทางทบ่ี คุ คลในทกุ สาขาอาชีพสามารถ
นาไปปฏิบตั ิได้ สามารถช่วยใหส้ งั คมและชุมชนของตนเกิดการพฒั นาอยา่ งเป็น
ข้นั ตอนและมน่ั คง

67

การปฏบิ ตั ิตามแนวเศรษฐกจิ พอเพยี ง
1. ยดึ ความประหยดั ตดั ทอ่ นค่าใชจ้ า่ ยฟ่ มุ เฟื อย
2. ยดึ ถือประกอบอาชีพดว้ ยความถกู ตอ้ ง สุจริต
3. ละเลยการแกง่ แยง่ ผลประโยชน์ และ การแขง่ ขนั ในการคา้ ขายอยา่ งรุนแรง
4. พฒั นาตนเองใฝ่ หาความรู้ใหเ้ กิดรายไดเ้ พิม่ พนู ข้ึน
5. ปฏิบตั ิตนในแนวทางทีด่ ีลดละสิ่งชวั่ ใหห้ มดสิ้น

68