The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Pattama Jujiea, 2022-05-11 08:32:11

ภูมิศาสตร์ ป.4

1.ภูมิศาสตร์

ภูมศิ าสตร์

1

เครื่องมือทางภูมิศาสตร์

การศึกษาเรียนรู้ลกั ษณะของพ้นื ท่ีบนผิวโลกทางกายภาพน้นั มีขอ้ จากดั เร่ือง
ขนาด และระยะทางทก่ี วา้ งใหญ่ไพศาล จึงจาเป็นตอ้ งมีอุปกรณ์หรือเครื่องมือทีช่ ่วย
ใหเ้ กิดความเขา้ ใจ และรวบรวมขอ้ มลู ต่างๆของพ้นื ที่บนโลกไดส้ ะดวก ใกลเ้ คียงกบั
ความเป็นจริง ซ่ึงเรียกวา่ เครื่องมือทางภมู ิศาสตร์ เคร่ืองมือทางภูมิศาสตร์ท่ีนกั เรียน
ควรทราบมีดงั น้ี
1. ประเภทให้ข้อมลู
แผนผัง

แผนผงั คือ แบบท่ีเขียนยอ่ หรือขยายจากสถานที่จริงที่เป็นบริเวณแคบๆ ไม่
ตอ้ งการรายละเอียดมาก เพยี งแต่บอกที่ต้งั หรือตาแหน่งของสิ่งที่ตอ้ งการใหท้ ราบ
เท่าน้นั เช่น แผนผงั หอ้ งเรียน แผนผงั บา้ น แผนผงั โรงเรียน เป็นตน้

แผนผงั ชุมชน

2

แผนที่ แผนที่ภูมิภาคเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้
แผนที่ เป็นเครื่องมือทีใ่ หข้ อ้ มลู พ้ืนที่

และรายละเอียดของส่ิงต่างๆที่จาลองลกั ษณะ
ทางธรรมชาติ และสิ่งประดิษฐบ์ นพ้นื โลก
เช่น
ลกั ษณะภูมิประเทศ ภมู ิอากาศ ที่ต้งั เมืองหลวง
ขอบเขตประเทศ แผนที่จะมีขอ้ มลู เหมือนจริง
เพยี งแตย่ อ่ ส่วนลง

แผนที่ประเทศไทย 77 จงั หวดั

3

ลูกโลกจาลอง
ลกู โลกจาลอง คือ เคร่ืองมือทางภมู ิศาสตร์

ชนิดหน่ึงท่ีมีลกั ษณะคลา้ ยแผนที่แต่เป็นรูปทรงกลม
ลกู โลกจาลองแสดงขอบเขตที่ต้งั ของพ้ืนดินที่เป็นทวีป
และเกาะต่างๆ พ้ืนน้าที่เป็นทะเลและมหาสมทุ ร

ภาพถ่ายดาวเทยี ม
ภาพจากดาวเทียม (Satellite Imagery) ใหป้ ระโยชนอ์ ยา่ งมากในการศึกษา

ขอ้ มลู เพื่อสารวจแหล่งทรัพยากรธรรมชาติ ในปัจจุบนั ประเทศไทยมีสถานีรับ
สัญญาณภาพดาวเทียมลาดกระบงั ต้งั อยทู่ ี่เขตลาดกระบงั กรุงเทพมหานคร ทาให้
สิ้นเปลืองคา่ ใชจ้ ่ายนอ้ ยกวา่ ท่ีเคยพ่ึงพาตา่ งประเทศ

การทางานรับภาพของดาวเทียม เรียกวา่ กระบวนการรีโมทเซนซิง (Remote
Sensing) โดย ดาวเทียมจะเก็บขอ้ มูลของวตั ถหุ รือพ้ืนที่เป้าหมายบนพ้ืนผิวโลก จาก
รังสีท่ีสะทอ้ นข้ึนไปจากผิวโลกหรือจากอณุ หภมู ิของวตั ถนุ ้นั ๆ บนพ้นื ผวิ โลกจากน้นั
ดาวเทียมจะส่งขอ้ มูลเป็นคล่ืนแมเ่ หลก็ ไฟฟ้ามายงั สถานีภาคพ้นื ดิน ซ่ึงจะบนั ทึกเป็น
ขอ้ มูลเชิงตวั เลขในแถบบนั ทึกขอ้ มลู เพ่ือนาไปประมวลผลโดยคอมพิวเตอร์ และ
นาเสนอเป็นแผน่ ฟิลม์

ภาพถา่ ยดาวเทียมภมู ิภาคเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้

4

ภาพถ่ายทางอากาศ (Aerial Photography)
เป็นรูปภาพแสดงภมู ิประเทศที่ปรากฏบนพ้นื ผิวโลก ถา่ ยโดยใชก้ ลอ้ ง

ถ่ายรูปติดไวก้ บั เคร่ืองบิน ส่วนหน่วยงานท่ีจดั ทารูปถา่ ยทางอากาศ คือ กรมแผนท่ี
ทหาร กระทรวงกลาโหม การนาไปไปใชป้ ระโยชน์ มีหน่วยราชการอ่ืน ๆ นารูปถ่าย
ทางอากาศไปใชป้ ระโยชน์ทางดา้ นวชิ าการและการพฒั นาความเจริญของบา้ นเมอื ง
ดงั น้ี

1) ทาใหท้ ราบถึงความเปลี่ยนแปลงในลกั ษณะทางกายภาพของพ้นื ท่ีต่าง
ๆ โดยเปรียบเทียบจากรูปถ่ายท่ีถ่ายในระยะเวลาแตกตา่ งกนั เช่น การสูญเสียพ้ืนที่ป่ า
ชายเลน การพงั ทลายของตลิ่งริมแม่น้าที่เกิดจากการกดั เซาะของคลืน่ และการขยายตวั
ของชุมชนเมืองเขา้ ไปในพ้นื ท่ีเกษตรกรรม

2) การวางแผนพฒั นาการใชท้ ด่ี ิน โดยนารูปถา่ ยทางอากาศไปใชเ้ พอ่ื
จดั ทาแผนที่และจาแนกประเภทการใชท้ ่ดี ินของประเทศ โดยกาหนดโซนหรือแบง่
พ้นื ที่เป็นเขตอตุ สาหกรรม เขตเกษตรกรรม และเขตชุมชนท่ีอยอู่ าศยั

3) การอนุรักษพ์ ้นื ที่ป่ าไม้ รูปถา่ ยทางอากาศทาใหท้ ราบถึงสภาพความ
อุดมสมบรู ณ์ของป่ าไมใ้ นพ้ืนท่ี ตา่ ง ๆ เพ่อื กาหนดแนวทางการอนุรกั ษแ์ ละพฒั นา
ต่อไป

ภาพถา่ ยทางอากาศ
วชิราวธุ วิทยาลยั

5

เคร่ืองมือหาพกิ ดั ด้วยดาวเทียม(GPS)
GPS คือ ระบบบอกพกิ ดั บนพ้นื โลกโดยใชด้ าวเทียม การรับสัญญาณจาก

ดาวเทียมท่ีโคจรอยเู่ ตม็ ทอ้ งฟ้า 24 ดวงรับสญั ญาณอยา่ งนอ้ ยตอ้ ง 3 ดวง

กูเกลิ เอริ ์ธ (Google Earth)
เป็นซอฟตแ์ วร์ท่พี ฒั นาโดยบริษทั กเู กิล สาหรับการใชเ้ ครื่องคอมพวิ เตอร์ส่วนบุคคล
หรือในโทรศพั ทม์ ือถือ ดูภาพถา่ ยทางอากาศพร้อมท้งั แผนที่ เส้นทาง และผงั เมือง
ซอ้ นทบั ลงในแผนที่ รวมท้งั ระบบ จีไอเอส ในรูปแบบ 3 มติ ิ

6

2. ประเภทเคร่ืองมือและอปุ กรณ์

อุปกรณ์ทางภมู ิศาสตร์ หมายถึง อุปกรณ์ท่ีใชว้ ดั หรือเกบ็ ขอ้ มลู ทางภูมศิ าสตร์ในดา้ น
ต่าง ๆ เช่น ทิศ ระยะทาง ความสูง ตาแหน่งท่ีต้งั อณุ หภมู ิของอากาศ และปริมาณฝน
เป็นตน้ สรุปไดด้ งั น้ี

เขม็ ทศิ (Compass)
เป็นเครื่องมือบอกทิศอยา่ งง่าย ๆ โดยจะทาปฏิกิริยา
กบั แมเ่ หลก็ โลกและแสดงคา่ ของมุมบนหนา้ ปัด

เทปวดั ระยะทาง
ใชส้ าหรับวดั ระยะทางของพ้ืนที่ เม่ือลงไปสารวจหรือ
เก็บขอ้ มูลภาคสนาม เทปวดั ระยะทางมี 3 ชนิด ไดแ้ ก่
เทปท่ีทาดว้ ยผา้ เทปท่ที าดว้ ยโลหะ และเทปท่ีทาดว้ ย
โซ่

7

ทอร์โมมิเตอร์ (Thermometer)
เป็นอุปกรณ์ท่ีใชว้ ดั อณุ หภูมิของอากาศ โดยทว่ั ไปนิยม
ใชแ้ บบหลอดแกว้ ท่ีบรรจุปรอทหรือแอลกอฮอลไ์ ว้
ภายใน คา่ ของอุณหภมู ิมี 2 ระบบ ดงั น้ี

- ระบบเซลเซียส (0 – 100 องศา C)
- ระบบฟาเรนไฮต์ (32 – 212 องศา F)

มาตรวดั ลม (anemometer)
เป็นเคร่ืองมือวดั ความเร็วของลม ท่ีนิยมใชก้ นั มากเป็นมาตรวดั
ลม แบบรูปถว้ ย (cup anemometer)

เคร่ืองวดั น้าฝน (Rain Gauge)
เป็นเครื่องมือทชี่ ่วยในการวดั ปริมาณน้าฝนโดยใชอ้ ุปกรณ์ท่ีมี
ลกั ษณะเป็นรูปทรงกระบอก มีกรวยตอ่ ภาชนะรองรับ ภายใน
ปากภาชนะรองรับมีขนาดแคบและพอดีกบั กรวยเพ่ือลดการ
สูญเสียเนื่องจากการระเหย

8

ไฮโกรมิเตอร์ (Hygrometer)
ใชว้ ดั ความช้ืนของอากาศโดยมีเสน้ ผมเป็นอปุ กรณ์
สาคญั ถา้ อากาศมีความช้ืนสูงจะทาใหเ้ สน้ ผมยดื ตวั แต่
ถา้ มีความช้ืนนอ้ ยเส้นผมจะหดตวั ท้งั น้ีหนา้ ปัดจะ
แสดงค่าความช้ืนบนกระดาษกราฟใหเ้ ห็น

บาโรมิเตอร์ (Barometer)
เป็นอุปกรณ์ท่ีใชว้ ดั ความกดอากาศ

ไซโครมเิ ตอร์ (Psychrometer)
เป็นอปุ กรณ์ใชว้ ดั ความช้ืนของอากาศอีกแบบหน่ึง
ประกอบดว้ ยเทอร์โมมเิ ตอร์ 2 อนั คือ เทอร์โมมิเตอร์
ปรอท (เทอร์โมมิเตอร์ตมุ้ แหง้ ) และเทอร์โมมเิ ตอร์ที่ใช้
ผา้ มสั ลินหลอ่ น้าใหเ้ ปี ยกอยตู่ ลอดเวลา (เทอร์โมมิเตอร์
ตมุ้ เปี ยก)

9

แผนท่ี

แผนที่
ชนิดของแผนท่ี

ในระดบั ของนกั เรียน สามารถแบง่ ชนิดของแผนที่อยา่ งง่ายเป็น 3 ชนิดดงั น้ี
1) แผนที่กายภาพ แสดงลกั ษณะภมู ิประเทศ ภมู ิอากาศ ประวตั ิศาสตร์ เศรษฐกิจ

เป็ นตน้
2) แผนที่รัฐกิจ แสดงขอบเขตท่ีต้งั ของประเทศ ภูมิภาค จงั หวดั เมือง เป็นตน้
3) แผนท่ีเฉพาะกิจ แสดงรายละเอียดของเรื่องใดเรื่องหน่ึง เช่น เสน้ ทางเดินเรือ

เส้นทางหลวง (ถนน) เส้นทางรถไฟ เป็นตน้

แผนที่กายภาพจงั หวดั อบุ ลราชธานี

10

แผนที่รัฐกิจ อาเภอปากช่อง
จงั หวดั นครราชสีมา

แผนที่ทางหลวง
จงั หวดั นครราชสีมา

11

องค์ประกอบสาคญั ของแผนท่ี
1) ทิศ เม่ือนกั เรียนดูแผนท่ีชนิดใดก็ตามดา้ นบนของ
แผนท่ีจะกาหนดเป็นทศิ เหนือ ดา้ นลา่ งกาหนดเป็น
ทิศใต้ ดา้ นขวามือกาหนดเป็นทิศตะวนั ออกและ
ดา้ นซา้ ยมือกาหนดเป็นทิศตะวนั ตก
2) สัญลกั ษณ์ คือ เครื่องหมายตา่ งๆที่กาหนด
ข้ึนใชแ้ สดงความหมายในแผนที่ นอกจากจะ
แสดงความหมายในแผนที่ดว้ ยสญั ลกั ษณ์
แลว้ ยงั สามารถใชส้ ีแสดงความหมายได้
เช่นกนั เช่น

สีดา ใชแ้ สดงรายละเอียดที่เกิดจากแรงงาน
ของ มนุษย์ เช่น วดั โรงเรียน หมบู่ า้ น

สีแดง ใชเ้ ป็นสญั ลกั ษณ์ท่ีเป็นถนน
สีน้าเงิน ใชเ้ ป็นสญั ลกั ษณ์ท่ีเป็นน้า

เช่น แมน่ ้า ลาคลอง บงึ ทะเล ฯลฯ
สีน้าตาล ใชเ้ ป็นสญั ลกั ษณ์ที่เกี่ยวกบั ความสูง
สีเขียว ใชเ้ ป็นสัญลกั ษณ์ท่ีเก่ียวกบั ท่ีราบ

ป่ าไม้ บริเวณที่ทาการเพาะปลกู พชื สวน
สีเหลือง ใชเ้ ป็นสัญลกั ษณ์ที่เก่ียวกบั ท่ีราบสูง

3) มาตราส่วน คือ อตั ราส่วนเปรียบเทียบระหวา่ งระยะทางในแผนที่กบั ระยะทาง
จริงบนพ้นื โลก แบ่งออกเป็น 3 รูปแบบดงั น้ี

มาตราส่วนตวั เลข เช่น 1:1,000,000 นิ้ว หมายถึง ระยะทางในแผนท่ี 1 นิ้ว
เทา่ กบั ระยะทางจริงบนพ้นื โลก 1:1,000,000 นิ้ว

12

มาตราส่วนคาพูด เช่น 1 เซนติเมตร ตอ่ 10 กิโลเมตร 1 นิ้ว ตอ่ 1 ไมล์

มาตราส่วนเส้นบรรทดั

หมายถึง ระยะทางจริงบนพ้นื โลก 50 กิโลเมตร เทา่ กบั ระยะทางในแผนท่ี 1
เซนติเมตร

4) พกิ ดั ภูมศิ าสตร์ คือ การหาตาแหน่งท่ีต้งั ของบริเวณหรือสถานที่บน
แผนที่ โดยนกั ภมู ิศาสตร์ไดก้ าหนดเสน้ สมมติสาคญั 2 เสน้
คือ

เส้นละติจูด (เสน้ รุ้ง) เป็นเส้นสมมติในแนวนอน
เสน้ ละติจูดท่ียาวที่สุดคอื เสน้ ศนู ยส์ ูตร อยทู่ ่ี 0 องศา
แบ่งซีกโลกเป็นสองส่วนคือ ซีกโลกเหนือ ซีกโลกใต้
เส้นละติจูดแตล่ ะเสน้ ยาวไมเ่ ท่ากนั

เสน้ ลองจิจูด (เส้นแวง) เป็นเส้นสมมติใน
แนวต้งั
ลากจากข้วั โลกเหนือมายงั ข้วั โลกใตท้ กุ เส้น
ยาวเทา่ กนั

13

การหาพกิ ดั ภูมิศาสตร์ใชเ้ ส้นสมมติท้งั สองเสน้ ประกอบกนั ดงั ภาพ

ภาพจาลองการหาพิกดั ทางภูมิศาสตร์

14

การอ่านแผนทเี่ บือ้ งต้น แผนท่ีโลก
1. พจิ ารณาช่ือแผนที่ และชนิดของแผนท่ี
2. อ่านสญั ลกั ษณ์ต่างๆที่กาหนด
3. อา่ นทิศในแผนที่ หากไม่มีเคร่ืองหมายทิศ
4. กาหนดไวใ้ หเ้ ขา้ ใจวา่ ดา้ นบนคือ ทิศเหนือ
ดา้ นลา่ ง
คือ ทิศใต้ ดา้ นขวามือ คือ ทิศตะวนั ออก
และ
ดา้ นซา้ ยมือ คือ ทิศตะวนั ตก
5. ศึกษาโดยสงั เกตดูรายละเอียดอ่ืนๆที่กาหนด
ในแผนท่ี เช่น อาณาเขตติดต่อ ท่ีต้งั เมืองหลวง
เมืองสาคญั ภูเขา แมน่ ้า ความสูง-ต่าของพ้นื ท่ี

ประโยชน์ของแผนท่ี
1. ดา้ นการดาเนินชีวิตประจาวนั เช่น ใชใ้ นการเดินทาง การศึกษาสภาพดินฟ้า
อากาศ
2. ดา้ นการศึกษา ใชเ้ ป็นอุปกรณ์การเรียนการสอน ช่วยใหเ้ ขา้ ใจเน้ือหาขอ้ มูลได้
ง่ายและรวดเร็วข้ึน
3. ดา้ นการพฒั นาเศรษฐกิจ และสงั คม แผนท่ีจะใหข้ อ้ มลู เก่ียวกบั ลกั ษณะภมู ิ
ประเทศ ภมู อิ ากาศ และทรัพยากรธรรมชาติของทอ้ งถ่ินตา่ ง ๆ ซ่ึงจะเป็น
ประโยชน์ต่อการพฒั นาเศรษฐกิจ และสงั คมของภมู ิภาคและทอ้ งถิ่นต่าง ๆ ดงั น้ี
3.1 พฒั นาการทอ่ งเที่ยว ใชแ้ ผนที่เป็นเครื่องมือเดินทางทอ่ งเท่ียว

15

3.2 พฒั นาการสาธารณูปโภค เช่น ถนน ไฟฟ้า ประปา เป็นตน้
3.3 พฒั นาการอนามยั การสาธารณสุข และคุณภาพชีวติ ของประชากร
4. ดา้ นการปกครอง และงานราชการ
4.1 กาหนดอาณาเขตของจงั หวดั และประเทศใหแ้ น่นอน
4.2 การเดินทางไปปฏบิ ตั ิราชการยงั ทอ้ งถ่ินทรุ กนั ดาร มีความสะดวก
รวดเร็วยง่ิ
5. ดา้ นการทหาร แผนที่มีประโยชนด์ า้ นยทุ ธศาสตร์ การทหาร เช่น ทราบถึง
เสน้ ทาง การเดินทพั ทาเลท่ีต้งั และสภาพภมู ิประเทศของพ้นื ที่สงคราม เป็นตน้

16

สภาพแวดล้อมในจงั หวดั ต่างๆของประเทศไทย

ในแผนท่ี นกั เรียนไดเ้ รียนรู้วา่ มีสิ่งตแผา่ งนๆทท่ี ่ีอยพู่ ้นื โลกท่ีปรากฏเป็นสญั ลกั ษณ์ใน
แผนที่ ประกอบดว้ ยสิ่งแวดลอ้ มทางธรรมชาติ ซ่ึงหมายถึงส่ิงท่ีอยรู่ อบตวั เราท่ีเกิดข้ึน
เองตามธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดลอ้ มที่มนุษยส์ ร้างข้ึน

สภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ

สิ่งแวดลอ้ มทางธรรมชาติแบง่ ออกเป็น 2ชนิด คือ สิ่งแวดลอ้ มท่ีเกิดข้นึ เองตาม
ธรรมชาติท่ีเป็นสิ่งมชี ีวติ เช่น พืชในป่ า สตั วป์ ่ า และสิ่งแวดลอ้ มที่เกิดข้ึนเองตาม
ธรรมชาติที่เป็นสิ่งท่ีไมม่ ีชีวิต เช่น ดิน หิน แร่ ภูเขา แม่น้า อากาศ แสงแดด เป็นตน้

เนื่องจากประเทศไทยของเราแบ่งเขตการปกครองออกเป็นจงั หวดั ตา่ งๆ ที่
ประกอบดว้ ยกรุงเทพมหานครและจงั หวดั อ่ืนๆ รวม 76 จงั หวดั แตล่ ะจงั หวดั มีทาเลท่ี
แตกต่างกนั ออกไป ทาใหส้ ภาพแวดลอ้ มทางธรรมชาติแตกตา่ งกนั ออกไปดว้ ย

สภาพแวดลอ้ มทางธรรมชาติที่แตกตา่ งกนั ในแตล่ ะจงั หวดั ประกอบดว้ ยภูมิ
ประเทศ ภูมอิ ากาศ และ ทรัพยากรธรรมชาติ

ภูมปิ ระเทศหรือความสูงต่าของพื้นท่ี
ภมู ิประเทศ หรือความสูงต่าของพ้ืนที่ในแตล่ ะทอ้ งถ่นิ จะแตกตา่ งกนั เช่น
1. ทีร่ าบ หมายถึง พ้ืนท่ีท่ีมีลกั ษณะราบเรียบเป็นบริเวณกวา้ ง ไมม่ ีความสูงต่า
และความลาดชนั แตกตา่ งกนั มากนกั พ้ืนที่ที่เป็นท่ีราบเป็นท่ีสะสมตะกอนดิน เพราะ
น้าและลมพดั พาดินตะกอนจากที่ราบสูง และ ภเู ขามาสะสมไวบ้ ริเวณที่ราบ ทาใหเ้ ป็น
ดินอุดมสมบูรณ์ดว้ ยแร่ธาตุ เหมาะกบั การเพาะปลกู พชื พ้นื ท่ีราบส่วนใหญ่จึงเป็น
ที่ต้งั ถ่ินฐานของมนุษยแ์ ละเหมาะสาหรับสร้างเส้นทางคมนาคม ท่ีราบ มีหลายลกั ษณะ
เช่น ที่ราบลุม่ แมน่ ้า ที่ราบลอนคลื่น ที่ราบชายฝ่ังทะเล เป็นตน้

17

ที่ราบลุ่มแมน่ ้า ที่ราบชายฝั่งทะเล

2. ท่รี าบสูง หมายถึง พ้นื ท่ีที่เป็นราบที่มีระดบั ความสูงมากกวา่ ที่ราบโดยทว่ั ไป
มีความลาดชนั ไม่มาก อาจเกิดจากการท่ีเปลือกโลกยกตวั ข้ึน หรือเป็นราบสูงระหวา่ ง
เขา ทาใหม้ ีการสะสมดินตะกอนที่น้าพดั พามาจากภูเขา ดินเหลา่ น้ีระบายน้าไดด้ ี ใน
หนา้ แลง้ ดินจะแหง้ จึงเหมาะสาหรับปลกู พชื ท่ีตอ้ งการน้านอ้ ย ในบางทอ้ งถิ่นจะ
เรียกพ้ืนที่ราบสูงน้ีวา่ ท่ีดอน

บริ เวณท่ีดอนเหมาะสาหรับสาหรับปลูกพืชท่ี
ตอ้ งการน้านอ้ ย เช่น ขา้ วโพด ออ้ ย ถว่ั

18

3. ภูเขา หมายถึง พ้นื ท่ที ี่มีระดบั สูงจากบริเวณรอบๆมีความลาดชนั สูง ฝนจะ
พดั พาดินตะกอนดินจากไหล่เขาลงมาเชิงเขา ทาใหภ้ เู ขามีดินบางส่วนประกอบเป็นหิน
และกรวดเป็นส่วนใหญ่ จึงไม่เหมาะกบั การเพาะปลูก แตพ่ ้ืนท่ีภูเขาเป็นแหล่งกาเนิด
ของแม่น้า ลาธาร น้าตก และเป็นแหล่งทรพั ยากรธรรมชาติ เช่น ป่ าไม้ แร่ธาตุ เป็นตน้
ภเู ขามีหลายลกั ษณะ เช่น ทิวเขา เทือกเขา ภูเขาโดด เป็นตน้

ดอยอินทนนทเ์ ป็นยอดเขาที่สูงทีส่ ุดในประเทศไทย
สูงจาก ระดบั น้าทะเล 2, 565 เมตร

4. ภูมิอากาศ เครื่องมือวดั อณุ หภูมิของอากาศ
อุณหภมู ิ คือ ระดบั ความร้อน-เยน็ ท่ีรู้สึก เรียกวา่ "ไซโครมิเตอร์"
ได้ อุณหภูมิของแตล่ ะทอ้ งถิ่นข้ึนอยกู่ บั
สภาพแวดลอ้ มและการถา่ ยเทอณุ หภมู ิของผิว
โลกมาสู่คน ในเวลากลางวนั ดวงอาทิตยจ์ ะส่ง
พลงั งานความร้อนมายงั โลกเท่าๆกนั แตใ่ น
ทอ้ งถ่ินท่ีอยใู่ กลท้ ะเล หรือทอ้ งถ่ินท่ีมีพชื
พรรณไมป้ กคลมุ อุณหภมู ิของบริเวณน้นั ก็จะ
ไมส่ ูงเม่ือเทียบกบั บริเวณท่ีมีแต่หิน กรวด
ทราย เป็นตน้

19

ความกดอากาศ เกิดจากอุณหภูมิที่แตกตา่ งกนั บริเวณที่มีความร้อนสูง หรือ
อณุ หภูมิสูง อากาศจะลอยตวั สูงข้ึนสู่เบ้ืองบน บริเวณน้นั จะมีอากาศเบาบาง เรียก
ความกดอากาศตา่ ส่วนที่มีอณุ หภมู ิต่ากวา่ อากาศจะเยน็ และหนาแน่นเรียกวา่
ความกดอากาศสูง ความกดอากาศที่ตา่ งกนั จะทาใหอ้ ากาศเคล่ือนไหวจะทาใหเ้ กิดลม
และพายุ

เคร่ืองมือท่ใี ช้วดั ความกดอากาศคือ "บาโรมเิ ตอร์" (Barometer)

ลม คือ อากาศที่เคล่อื นไหว เกิดจากความกดอากาศท่ีแตกต่างกนั อากาศบริเวณ
ท่ีมีความหนาแน่นกวา่ หรือ มีความกดอากาศสูง จะเคลื่อนท่ีไปบริเวณที่มีความกด
อากาศต่า ลมที่สาคญั ในทอ้ งถ่นิ เช่น ลมบก ลมทะเล เป็นประโยชนใ์ นการนาเรือทา
การประมง

หยาดน้าฟ้า คือ น้าในบรรยากาศท่ีตกลงมาสู่พ้ืนผิวโลกในรูปแบบตา่ ง เช่นฝน
น้าคา้ ง หิมะ

แมค่ ะน้ิง คอื น้าคา้ งท่ีกลายเป็นเกร็ดน้าแขง็
เน่ืองจากความเยน็ จดั ของอุณหภมู ิ

20

เร่ืองน่ารู้
ประเทศไทยต้งั อยใู่ นเขตร้อน ทาใหพ้ ้นื ท่ีส่วนใหญ่ของประเทศมีอุณหภูมิสูงตลอดปี
ความแตกต่างระหวา่ งฤดูร้อน และฤดูหนาวมนี อ้ ย ในแต่ละจงั หวดั มอี ณุ หภมู ิที่
แตกต่างกนั ตามความสูงของพ้นื ท่ี จงั หวดั ท่ีมีภเู ขาสูงจะมีอณุ หภูมิลดต่าลงในบาง
เดือน เช่น จงั หวดั แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ น่าน เลย เป็นตน้ นอกจากน้ีปริมาณน้าฝน
ในแตล่ ะจงั หวดั จะแตกต่างกนั จงั หวดั ในภาคใตจ้ ะมีฝนตกชุกมากกวา่ จงั หวดั อ่ืนๆ
เนื่องจากมีลกั ษณะภมู ิประเทศเป็นคาบสมทุ ร มีทะเลขนาบสองดา้ น

ทรัพยากรธรรมชาติ
ทรัพยากรธรรมชาติ หมายถึงส่ิงตา่ งๆท่ีเกิดข้ึนเองตามธรรมชาติ ซ่ึงมนุษย์

สามารถนามาใชใ้ หเ้ กิดประโยชน์ เช่น ดิน น้า ป่ าไม้ สตั วป์ ่ า แร่ เป็นตน้ ซ่ึง
ทรัพยากรธรรมชาติในแต่ละจงั หวดั จะมีลกั ษณะแตกต่างกนั ตามลกั ษณะภูมิประเทศ
และภูมิอากาศ ซ่ึงทรพั ยากรธรรมชาติท่ีสาคญั ต่อการดารงชีวิตของคนในจงั หวดั มี
ดงั น้ี

1.ดิน เป็นทรพั ยากรธรรมชาติท่ีสาคญั ตอ่ การดารงชีวิตของสิ่งมีชีวิตท้งั หลาย
เช่น ตน้ ไมเ้ จริญเติบโตไดต้ อ้ งอาศยั ดิน บา้ นเรือนของมนุษยก์ ็ตอ้ งต้งั อยลู่ กั ษณะไม่
เหมือนกนั

2.น้า เป็นส่ิงจาเป็นตอ่ การดารงชีวติ ของมนุษย์ สตั ว์ และพชื สาหรับใชใ้ นการ
อปุ โภคบริโภค เกษตรกรรม อุตสาหกรรม เป็นตน้

แหลง่ ที่มาของน้ามาจากแหลง่ สาคญั 3 แหลง่ คือ
• น้าฝน เนื่องจากประเทศไทยต้งั อยใู่ นเขตอิทธิพลของลมมรสุมทา

ใหฝ้ นตกจากการนามาของลมมรสุม ฝนจะมากหรือนอ้ ยข้ึนอยกู่ บั อิทธิพลของลม
มรสุม ประชากรส่วนใหญ่ของไทยประกอบอาชีพดา้ นเกษตรกรรม โดยอาศยั แหลง่

21

น้าฝนเป็นสาคญั ดงั น้นั ถา้ ปี ใดมีฝนนอ้ ยเกินไปหรือมากเกินไปจะมีผลกระทบต่อ
เกษตรกรดว้ ย

• น้าผิวดิน ไดแ้ ก่ น้าตามแม่น้า ลาคลอง และหนองบึงทว่ั ไป
ปริมาณน้าในแหลง่ น้าเหล่าน้ีจะมีความสมั พนั ธก์ บั ปริมาณของน้าฝนดว้ ย คือ ถา้
บริเวณใดอยใู่ นเขตฝนตกชุก ระดบั น้าสะสมจะมีมากดว้ ย สาหรับแหลง่ น้าที่อยตู่ ามผิว
ดินน้ีเป็นแหลง่ น้าสาคญั เพราะจะตอ้ งใชน้ ้าจากแหลง่ ดงั กล่าวตลอดปี

• น้าใตด้ ิน ไดแ้ ก่ น้าท่ีอยภู่ ายใตพ้ ้นื ดินหรือเรียกวา่ "น้าบาดาล" ซ่ึง
เป็นส่วนหน่ึงของน้าฝนที่ซึมลงไปสะสมในช้นั ดินหรือช้นั หินเบ้ืองลา่ ง

เรื่องน่ารู้
แมน่ ้าเจา้ พระยา เป็นแม่น้าสายหลกั สายหน่ึงของประเทศไทย เกิดจากการ
รวมตวั ของแมน่ ้าสายหลกั 2 สายจากภาคเหนือ คือแม่น้าปิ งและแมน่ ้าน่าน
ที่ตาบลปากน้าโพ อาเภอเมืองนครสวรรค์ จงั หวดั นครสวรรค์
.

22

3.ป่ าไมเ้ ป็นทรัพยากรธรรมชาติท่ีมีประโยชนท์ ้งั ทางตรง และทางออ้ มต่อมนุษย์
ประโยชนท์ างตรง เช่น การนาไมม้ าสร้างเป็นบา้ นเรือน เครื่องมือเคร่ืองใช้ กระดาษ
เป็นตน้ ส่วนประโยชนท์ างออ้ ม เช่นป่ าไมช้ ่วยรักษาความอดุ มสมบูรณ์ของดิน ลด
การพงั ทลายของดิน ทาใหอ้ ากาศชุมช้ืนมีฝนตก ช่วยลดมลพษิ ทางอากาศเป็นตน้

4.แร่ เป็นทรพั ยากรที่เกิดข้ึนเองตามธรรมชาติ มีความสาคญั ต่อมนุษยท์ างดา้ น
อตุ สาหกรรมและพลงั งาน ความสาคญั และประโยชน์ของแร่ท่ีจะนามาใชข้ ้ึนอยกู่ บั ยคุ
สมยั ความเจริญทางเทคโนโลยี และความตอ้ งการในการนาไปใชข้ องมนุษย์

แร่บางชนิดใชส้ ิ้นเปลืองแลว้ หมดไป เช่น น้ามนั ปิ โตรเลียม กา๊ ซธรรมชาติ
ถา่ นหิน เป็นตน้ บางชนิดเม่ือใชแ้ ลว้ สามารถนากลบั มาใชใ้ หม่ไดอ้ ีก เช่น เหลก็ ตะกว่ั
เป็นตน้ โดยอาจนามาหลอมใหมไ่ ด้

เร่ืองน่ารู้
พิธีบวชตน้ ไมเ้ ป็นการเสริมสร้างความเป็นอนั หน่ึงอนั เดียวกนั ของชุมชน ซ่ึงมี
ประเดน็ ร่วม คือ การอนุรักษป์ ่ าไมข้ องหมู่บา้ น โดยใหช้ าวบา้ นเขา้ มามีส่วนร่วม

23

สภาพแวดล้อมท่ีมนุษย์สร้างขนึ้
ส่ิงแวดลอ้ มท่ีมนุษยส์ ร้างข้ึน ไดแ้ ก่ สาธารณูปการต่าง ๆ เช่น ถนน เขอ่ื นก้นั น้า

หรือระบบของสถาบนั สังคมมนุษยท์ ่ีดาเนินชีวติ อยู่ เป็นตน้ สภาพแวดลอ้ มทาง
ธรรมชาติมีความสัมพนั ธ์กบั สภาพแวดลอ้ มทม่ี นุษยส์ ร้างข้ึนในจงั หวดั ตา่ งๆ ดงั น้ี

ลกั ษณะภูมปิ ระเทศและภูมิอากาศส่งผลต่อการประกอบอาชีพ
ผคู้ นที่อาศยั อยใู่ นจงั หวดั ตา่ งๆของประเทศไทย มกั จะประกอบอาชีพตาม
สภาพแวดลอ้ มทางธรรมชาติ เช่น ทานา ทาสวน ทาไร่ ทาประมง เล้ียงสัตว์
จงั หวดั ที่ต้งั อยใู่ นบริเวณท่ีราบลมุ่ ท่ีมีแมน่ ้าลาคลองอุดมสมบรู ณ์ ผคู้ นส่วน
ใหญ่ก็จะประกอบอาชีพดว้ ยการทานาในบริเวณพ้นื ที่ราบกวา้ งใหญ่ และทาการ
ประมงน้าจืดตามแหลง่ น้า
จงั หวดั ท่ีราบลมุ่ ชายทะเล ผคู้ นส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทาการประมงน้าเคม็
เพาะเล้ียงสัตวน์ ้า เช่น หอย กงุ้ ปลาตามบริเวณชายฝ่ังทะเล
จงั หวดั ที่ต้งั อยบู่ ริเวณภเู ขาที่มีแหล่งแร่ ผคู้ นจะประกอบอาชีพในโรงงาน
อุตสาหกรรมถลงุ แร่ต่างๆ
จงั หวดั ที่ต้งั อยพู่ ้นื ที่ราบจะมีการคมนาคมสะดวก ทาใหม้ ีโรงงานอตุ สาหกรรม
ไปต้งั อยดู่ ว้ ย ผคู้ นที่อยใู่ นจงั หวดั จึงประกอบอาชีพรับจา้ งในโรงงานอุตสาหกรรม

24

ลกั ษณะภูมปิ ระเทศท่ีมผี ลต่อการสร้างเขื่อนและอ่างเกบ็ น้า
ในพ้นื ท่ีเป็นภเู ขาจะเป็นแหล่งกาเนิดแมน่ ้าลาธารเนื่องจากประเทศไทยต้งั อยใู่ น
ทิศทางลมมรสุม ในฤดูฝนลมมรสุมตะวนั ตกเฉียงใตจ้ ะพดั พาเอาความชุ่มช้ืนจากทะเล
และมหาสมทุ รพดั เขา้ มาในไทย ทาใหเ้ กิดฝนตกเป็นจานวนมาก ในบางคร้ังมพี ายุ
รุนแรงทาใหเ้ กิดน้าท่วมไร่นาเสียหาย ในฤดูหนาวลมมรสุมตะวนั ออกเฉียงเหนือจะ
พดั เอาความหนาวเยน็ เขา้ มาในไทย ทาใหอ้ ากาศหนาว ฝนจะมนี อ้ ยมากทาใหบ้ าง
จงั หวดั ไม่มีน้าในการใชเ้ พาะปลกู บางจงั หวดั เกิดภยั แลว้ เพราะฝนไม่ตกติดต่อกนั เป็น
เวลานาน ดงั น้นั มนุษยจ์ ึงตอ้ งปรับปรุงสภาพแวดลอ้ มทางธรรมชาติโดยการสร้าง
เข่ือน และอ่างเก็บน้าในบริเวณพ้นื ที่ท่ีเหมาะสม เพอื่ กกั เกบ็ น้าในหนา้ ฝนที่มีน้ามาก
และระบายน้าไปตามคูคลองชลประทานไปสู่ไร่นาของเกษตรกรในหนา้ แลง้ ท่ีไม่มีฝน
นอกจากน้ียงั สามารถนาพลงั งานน้าไปสร้างกระแสไฟฟ้าไดอ้ ีกดว้ ย

เรื่องน่ารู้
เขื่อนภมู ิพล เป็นเขื่อนอเนกประสงคแ์ ห่งแรกในประเทศไทย สร้าง

ปิ ดก้นั ลาน้าปิ ง ท่ีบริเวณเขาแกว้ อาเภอสามเงา จงั หวดั ตาก มีรัศมีความโคง้
250 เมตร สูง 154 เมตร ยาว 486 เมตร ความกวา้ งของสนั เข่ือน 6 เมตร
อา่ งเก็บน้าสามารถรองรับน้าไดส้ ูงสุด 13, 462 ลา้ นลูกบาศกเ์ มตร มีความจุ
สูงสุดในอาเซียน และเป็นอนั ดบั 8 ของโลก

25

ลกั ษณะภูมิประเทศทีม่ ตี ่อการคมนาคม
จงั หวดั ที่ต้งั อยบู่ นพ้ืนทร่ี าบ การสร้างเสน้ ทางคมนาคมจะทาไดส้ ะดวก ดงั น้นั
จึงมีการคมนาคมทางบก เช่น ถนน ทางรถไฟหลายสาย ก่อใหเ้ กิดความสะดวกสบาย
ในการติดตอ่ กนั และกนั การท่องเที่ยว และ การคา้ ขาย แต่จงั หวดั ท่อี ยใู่ นพ้นื ที่ที่มี
สภาพภมู ิประเทศเป็นภเู ขาการคมนาคมทางบกเป็นไปดว้ ยความยากลาบาก
นอกจากน้ีจงั หวดั ท่ีอยตู่ ามริมแมน่ ้ายงั ใชแ้ ม่น้าเป็นเส้นทางคมนาคมติต่อกนั
ภายในจงั หวดั และจงั หวดั อื่นๆ
ส่วนจงั หวดั ท่ีมีการคมนาคมทางอากาศ มีสานมบินต้งั อยใู่ นจงั หวดั น้นั
นอกจากน้ีจะตอ้ งมีภูมิประเทศเป็นท่ีราบแลว้ ยงั ตอ้ งมีจานวนประชากรอาศยั อยเู่ ป็น
จานวนมาก และเป็นจงั หวดั ท่ีมีความเจริญประกอบดว้ ย

เรื่องน่ารู้
สนามบินนานาชาติ 6 แห่ง ภายใตก้ ารดูแลของ การทา่ อากาศยานแห่ง

ประเทศไทย (ทอท.) ดงั น้ี
1.ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ
2.ทา่ อากาศยานดอนเมืองกรุงเทพ (ดอนเมือง)
3.ทา่ อากาศยานนานาชาติเชียงใหม่
4.ท่าอากาศยานนานาชาติหาดใหญ่
5.ทา่ อากาศยานนานาชาติภเู กต็
6.ท่าอากาศยานนานาชาติแมฟ่ ้าหลวง เชียงราย

26

ลกั ษณะภูมปิ ระเทศและภูมอิ ากาศส่งผลต่อวฒั นธรรมในท้องถิ่น
การท่ีทอ้ งถนิ่ ตา่ งๆมีลกั ษณะภมู ิประเทศ และภมู ิอากาศแตกต่างกนั ส่งผลใหแ้ ต่
ละทอ้ งถ่นิ มีวฒั นธรรมแตกต่างกนั ไปดว้ ย นอกจากน้ีความเป็นมาของชุมชนในแตล่ ะ
ทอ้ งถ่ินมีวฒั นธรรมแตกต่างกนั ไปดว้ ย นอกจากน้ีความเป็นมาของชุมชนในแตล่ ะ
ทอ้ งถิ่นกเ็ ป็นสาเหตุทที่ าใหว้ ฒั นธรรมประเพณีในแต่ละชุมชนแตกตา่ งเช่นกนั เช่น

ท้องถน่ิ ทตี่ ้ังอย่ใู นพน้ื ทภ่ี าคเหนอื มีพ้นื ที่ส่วนใหญเ่ ป็นภเู ขามีป่ าไมม้ ากและมี
ชาวเขาต้งั ถิ่นฐานอาศยั อยใู่ นบริเวณภเู ขาสูง เส้ือผา้ เครื่องแตง่ กายจะแตกต่างจากภาค
อื่นเน่ืองจากอากาศหนาวเยน็

การแตง่ กายของชนเผา่ อาข่าในภาคเหนือ

27

ท้องถน่ิ ท่ีตงั้ อยู่ในพน้ื ทภ่ี าคกลาง พ้ืนท่ีส่วนใหญเ่ ป็นที่ราบลุม่ ที่มีแมน่ ้าหลาย
สายไหลผา่ น วฒั นธรรมของชุมชนในภาคกลางจึงมีความผกู ผนั กบั กระแสน้า เช่น
การแข่งขนั เรือยาว

การแขง่ ขนั เรือยาวในภาคกลาง

ท้องถน่ิ ทต่ี ัง้ อยู่ในพนื้ ทภ่ี าคตะวันออกเฉียงเหนอื ซ่ึงพ้ืนท่ีส่วนใหญเ่ ป็นที่ราบ
สูงในหนา้ แลง้ น้าจะไมม่ ีเพยี งพอกบั การเพาะปลูก ชุมชนในภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ
จึงมีพธิ ีบุญบ้งั ไฟ ในฤดูแลง้

ประเพณีบญุ บ้งั ไฟ จงั หวดั ยโสธร

28

ท้องถน่ิ ทีต่ ั้งอยู่ในพนื้ ทภ่ี าคใต้ มีพ้นื ท่ีติดชายทะเลและตดิ กบั ประเทศมาเลเซีย
วฒั นธรรมประเพณีที่ไดร้ ับอิทธิพลมาจากประเทศมาเลเซีย ท้งั ดา้ นการแต่งกาย และ
ภาษาพดู ประเพณีของทอ้ งถ่ินเช่น ประเพณีชกั พระ

ประเพณีชกั พระของทอ้ งถิ่นภาคใต้

29

เรื่องน่ารู้
กรุ งเทพมหานครเป็ นเมืองหลวงแห่ง

ราชอาณาจกั รไทย เป็นเมืองหลกั ท่ีมีประชากรมากที่สุด
ในประเทศไทย รวมท้งั เป็นศูนยก์ ลางการปกครอง
การศึกษา การคมนาคมขนส่ง การเงิน การธนาคาร
การพาณิชย์ การสื่อสาร และความเจริญกา้ วหนา้ ดา้ น
อื่น ๆ ของประเทศไทย
นอกจากน้ียงั เป็นเมืองที่มีชื่อยาวท่ีสุดในโลกอีกดว้ ย มี
แมน่ ้าสาคญั คือ แมน่ ้าเจา้ พระยาไหลผา่ น ทาใหแ้ บ่ง
เมืองออกเป็น 2 ฝั่ง คือฝ่ังพระนครและฝ่ังธนบุรี (เดิม
ฝั่งตะวนั ตกของแม่น้าเป็นท่ีต้งั ของกรุงธนบุรีซ่ึงตอ่ มา
ภายหลงั ไดร้ วมเขา้ เป็นส่วนหน่ึงของกรุงเทพมหานคร)

กรุงเทพมหานคร มีชื่อเตม็ วา่ กรุงเทพมหานคร
อมรรัตนโกสินทร์ มหินทรายธุ ยา มหาดิลกภพ นพรัต
นราชธานีบูรีรมย์ อดุ มราชนิเวศนม์ หาสถาน อมร
พมิ านอวตารสถิต สกั กะทตั ติยวิษณุกรรมประสิทธ์ิ มี
ความหมายวา่ พระนครอนั กวา้ งใหญ่ ดุจเทพนคร เป็น
ท่ีสถิตของพระแกว้ มรกต เป็นมหานครที่ไม่มีใครรบ
ชนะได้ มีความงามอนั มน่ั คง และเจริญยง่ิ เป็นเมือง
หลวงท่ีบริบูรณ์ดว้ ยแกว้ เกา้ ประการ น่าร่ืนรมยย์ งิ่ มี
พระราชนิเวศใหญ่โตมากมาย เป็นวมิ านเทพทป่ี ระทบั
ของพระราชาผอู้ วตารลงมา ซ่ึงทา้ วสกั กเทวราชพระ
ราชทานให้ พระวษิ ณุกรรมลงมาเนรมิตไว้

30

อาณาเขตของกรุงเทพมหานคร

ทิศเหนือ มีอาณาเขตติดตอ่ กบั จงั หวดั นนทบุรี จงั หวดั

ปทุมธานี และจงั หวดั นครนายก

ทิศตะวนั ออก มีอาณาเขตติดต่อกบั จงั หวดั ฉะเชิงเทรา

ทิศใต้ มีอาณาเขตตดิ ต่อกบั จงั หวดั สมุทรปราการ และอา่ ว

ไทย

ทิศตะวนั ตก มีอาณาเขตติดตอ่ กบั จงั หวดั สมุทรสาครและจงั หวดั

นครปฐม

31

ข้อมูลทวั่ ไป
ช่ือภาษาไทย : กรุงเทพมหานคร
ตราประจากรุงเทพมหานคร : เป็นรูปพระอินทร์ทรงชา้ ง เอราวณั
คาขวญั : กรุงเทพฯ ดุจเทพสร้าง เมืองศนู ยก์ ลางการปกครอง วดั วงั
งามเรืองรอง เมืองหลวงของประเทศไทย

ตราประจากรุงเทพมหานคร

ไทรยอ้ ยใบแหลม สีประจากรุงเทพมหานคร : เขียว
ตน้ ไมป้ ระจากรุงเทพมหานคร : ไทรยอ้ ยใบแหลม
พ้ืนท่ี : 1,568.737 ตารางกิโลเมตร
การปกครอง : แบ่งออกเป็น 50 เขต คือ เขตพระนคร

เขตดุสิต เขตหนองจอก เขตบางรัก เขต
บางเขน เขตบางกะปิ เขตปทมุ วนั เขตป้อม
ปราบศตั รูพา่ ย เขตบางพลดั เขตพระโขนง

เขตมีนบุรี เขตลาดกระบงั เขตยานนาวา เขตสัมพนั ธวงศ์ เขตพญาไท เขตธนบรุ ี เขต
บางกอกใหญ่ เขตหว้ ยขวาง เขตคลองสาน เขตตล่ิงชนั เขตบางกอกนอ้ ย เขตบางขนุ เทียน
เขตภาษีเจริญ เขตหนองแขม เขตราษฎร์บรู ณะ เขตดินแดง เขตบงึ ก่มุ เขตสาทร เขตบางซื่อ
เขตจตุจกั ร เขตบางคอแหลม เขตประเวศ เขตคลองเตย เขตสวนหลวง เขตจอมทอง เขต
ดอนเมือง เขตราชเทวี เขตลาดพร้าว เขตวฒั นา เขตบางแค เขตหลกั ส่ี เขตสายไหม เขต
คนั นายาว เขตสะพานสูง เขตวงั ทองหลาง เขตคลองสามวา เขตบางนา เขตทววี ฒั นา เขต
ทุง่ ครุ เขตบางบอน

32

การเปลยี่ นแปลงของสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ
สิ่งแวดลอ้ มและทรัพยากรธรรมชาติในจงั หวดั มีการเปล่ียนแปลงอยมู่ ากมายซ่ึง

สาเหตสุ ่วนใหญล่ ว้ นมาจากการท่ีมนุษยน์ ามาใชอ้ ยา่ งตอ่ เน่ืองตลอดเวลา เช่น การใช้
น้าในการ ด่ืม และการชะลา้ ง การใชน้ ้ามนั มาเป็นเช้ือเพลิง เป็นตน้ ซ่ึงในการใช้
ส่ิงแวดลอ้ มและทรัพยากรธรรมชาติโดยขาดความระมดั ระวงั อาจทาใหส้ ิ่งแวดลอ้ ม
และทรัพยากรธรรมชาติเกิดจากการเปลี่ยนแปลงไปในทางท่ีลดนอ้ ยลง หรือส่งผล
กระทบตอ่ การดารงชีวติ ของมนุษยไ์ ด้ คือ

1.ความเส่ือมโทรมของทรัพยากรธรรมชาติ เช่น
- ป่ าไมถ้ ูกทาลาย เกิดจากการลกั ลอบตดั ไม้ ทาไร่เล่ือนลอย ไดส้ ่งผล

กระทบหลายประการ เช่น การเกิดน้าทว่ ม
- ดินเสื่อมโทรม อนั เนื่องจากการลกั ลอบตดั ไมท้ าลายป่ าทาใหด้ ินขาด

ตน้ ไมย้ ดึ ปกคลุม หรือยดึ เกาะหนา้ ดิน เมอื่ ฝนตกจึงเกิดการชะลา้ งพงั ทลายการปลกู พืช
ท่ีไมเ่ หมาะสมกบั ดิน การปลกู พชื ชนิดเดียวซ้าไปซ้ามา การไมฟ่ ้ื นฟสู ภาพดิน การใช้
ดินไม่ถูกวธิ ี การใชป้ ๋ ุยเคมี หรือสารเคมีจากยาฆ่าแมลงมากเกินไป

- การขาดแคลนน้าในฤดูแลง้ ส่งผลกระทบตอ่ การเพาะปลูกนอกฤดู
หรือทานาปรัง จึงตอ้ งใชน้ ้าจากระบบชลประทานเขา้ ช่วย

ภเู ขาหวั โลน้ เกิดจากการตดั ไมท้ าลายป่ า ขาดความอุดมสมบรู ณ์เนื่องจากการขาดแคลนน้า

33

2.การเกิดปัญหาส่ิงแวดลอ้ ม เช่น
- มลพิษทางน้า เกิดจากน้าเสียอาคารบา้ นเรือนและโรงงานอุตสาหกรรม

ตลอดจนการเพาะปลูก และการเล้ียงสตั ว์ การปลอ่ ยน้าเสียลงสู่แม่น้าลาคลอง ซ่ึง
ส่งผลกระทบตอ่ การดาเนินชีวติ ของมนุษยท์ ้งั ทางตรง และทางออ้ ม

น้าเสียท่ีถูกปลอ่ ยออกมาจากโรงงานอุตสาหกรรม ขยะในคลองแสนแสบ

- มลพิษทางอากาศ ส่วนใหญพ่ บในจงั หวดั ใหญ่ๆเช่นกรุงเทพ และ ปริมณฑล
เชียงใหม่ เป็นตน้ สาเหตเุ กิดจากควนั พษิ จากทอ่ ไอเสียและโรงงานอุตสาหกรรม
ตลอดจนควนั ท่ีเกิดจากการการเผาขยะและฝ่ นุ ละอองจากการสร้างอาคารสูง ที่ส่งผล
กระทบต่อสุขภาพของประชาชน เกิดโรคภูมิแพข้ องระบบทางเดินหายใจ เกิด
โรคมะเร็งในปอด

ควนั พิษจากท่อไอเสียและโรงงานอุตสาหกรรม

34

- มลพษิ จากขยะมลู ฝอย เกิดจากอตั รา

การเพ่มิ ของประชากร การเกบ็ ขยะและกาจดั

ขยะมลู ฝอย และส่ิงปฏกิ ูลเกิดการตกคา้ ง

ตลอดจนขยะบางชนิดยอ่ ยสลายยาก และการท่ี

ประชาชนขาดจิตสานึกในการรักษาความ

สะอาด ทาใหบ้ า้ นเมืองสกปรก

-มลพษิ ทางเสียง เกิดจากเสียงที่ดงั เกิน

ปกติจากยานพาหนะ จากสถานประกอบการ ขยะมลู ฝอยท่ีทิ้งจากบา้ นเรือน

และจากอาคารบา้ นเรือน เกิดผลกระทบต่อสุขภาพกาย โดยเฉพาะระบบการไดย้ นิ และ

สุขภาพจิตของประชาชน

การมีส่ วนร่ วมในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
เราในฐานะเป็นสมาชิกคนหน่ึงของประเทศ ควรมีส่วนร่วมในการส่งเสริมและ

อนุรักษส์ ่ิงแวดลอ้ มดงั น้ี
1. รวมกลุ่มกนั เพอ่ื สนบั สนุนและส่งเสริมการอนุรักษส์ ่ิงแวดลอ้ ม เช่น การช่วยกนั
ปลูกป่ าชายเลน หรือปลกู ตน้ ไม้ การเก็บขยะ
2. ดูแลชุมชนไม่ใหเ้ กิดแหลง่ เส่ือมโทรมท่ีเกิดจาการทงิ้ ขยะมลู ฝอย เศษอาหาร
3. การใชว้ สั ดุที่หางา่ ยแทน หรือใชว้ สั ดุอื่นทดแทนได้ เช่นการใชไ้ มอ้ ดั หรือ
กระดาษอดั แทนไมจ้ ริง
4. รวมกลุ่มศึกษาและติดตามข่าวสารเก่ียวกบั การป้องกนั และการอนุรักษ์
สิ่งแวดลอ้ มและทรัพยากรอยา่ งสม่าเสมอ เพอื่ ใหเ้ กิดความรู้ความเขา้ ใจ และ
สามารถถา่ ยทอดความรู้เร่ืองการอนุรักษส์ ิ่งแวดลอ้ มและทรัพยากรธรรมชาติท่ี
ถูกตอ้ งแก่คนอ่ืนได้

35

5. ร่วมกนั ใชท้ รัพยากรอยา่ งมีประสิทธิภาพ เช่นการใชก้ ระดาษอยา่ งคุม้ คา่ ใช้
น้าประปาและไฟฟ้าอยา่ งประหยดั

การปลกู ปะการังเทียม

36


Click to View FlipBook Version