11.ขอ้ ใด คอื การบรรยายผลงานทศั นศลิ ป์ 16. ขอ้ ใด คอื เครอ่ื งพมิ พ์
ก. พจิ ารณา สงั เกต บรรยาย ก. แท่นพมิ พท์ ม่ี ลี กู กลง้ิ เหลก็ ดา้ นบน
ข. คดิ วเิ คราะหส์ ง่ิ ทเ่ี หน็ กอ่ น ข. แทน่ พมิ พท์ ม่ี ลี กู กลง้ิ เหลก็ ดา้ นลา่ ง
ค. ฝึกทกั ษะการคดิ สรา้ งสรรค์ ค. แท่นพมิ พท์ ม่ี ลี กู กลง้ิ ควบคมุ ดว้ ยคอมพวิ เตอร์
ง. ใชค้ าศพั ทท์ างทศั นศลิ ป์ ประกอบ ง. แท่นพมิ พท์ ม่ี ลี กู กลง้ิ เหลก็ ขนาบดา้ นบนและดา้ นลา่ ง
12.ขอ้ ใด คอื การบรรยายจดุ ประสงค์ 17. สถาปัตยกรรมเป็นงานทศั นศลิ ป์ ประเภทใด
ก. จาแนกแยกแยะทศั นธาตุ ก. การออกแบบสง่ิ กอ่ สรา้ ง
ข. เน้นคณุ ค่าทางสนุ ทรยี ภาพ ข. การออกแบบรปู ร่างรปู ทรง
ค. แรงบนั ดาลใจในการสรา้ งสรรคผ์ ลงาน ค. การใชท้ ศั นธาตุสรา้ งสรรคง์ าน
ง. ความมุ่งหมายในการสรา้ งสรรคผ์ ลงาน ง. การใชห้ ลกั การจดั องคป์ ระกอบศลิ ป์
13.ขอ้ ใด คอื ประโยชน์ของการใชค้ าศพั ทท์ างทศั นศลิ ป์ 18. ขอ้ ใดคอื รปู ลกั ษณ์ใหม่ของงานสถาปัตยกรรม
บรรยายผลงานทางทศั นศลิ ป์ ก. การใชว้ สั ดุใหมๆ่ ตามวทิ ยากร
ก. เพ่อื ใหไ้ ดร้ บั การพฒั นาเตม็ ตามศกั ยภาพ ข. การรกั ษารปู แบบอทิ ธพิ ลจากจนี
ข. เพอ่ื ใหม้ ที กั ษะและกระบวนการปฏบิ ตั งิ าน ค. การรกั ษารปู แบบอทิ ธพิ ลจากอนิ เดยี
ค. เพอ่ื ฝึกใหส้ ามารถคน้ หาสง่ิ สาคญั ในผลงาน ง. การรกั ษารปู แบบอทิ ธพิ ลจากตะวนั ตก
ง. เพอ่ื ใหเ้ กดิ ความรคู้ วามเขา้ ใจในองคค์ วามรู้
19. การบรรยายงานสถาปัตยกรรมเน้นเรอ่ื งใด
14.ขอ้ ใด คอื เทคนคิ การพมิ พภ์ าพภาพเทคนิคแกะไม้ ก. เน้นเรอ่ื งความคดิ สรา้ งสรรค์
ก. การพมิ พจ์ ากสว่ นนูน ข. เน้นเร่อื งการสอ่ื ความคดิ จนิ ตนาการ
ข. ใชเ้ คร่อื งอดั ดว้ ยแท่นพมิ พ์ ค. เน้นเร่อื งรปู ทรงและประโยชน์ใชส้ อย
ค. ใชส้ ว่ นทเ่ี ป็นรอ่ งของแมพ่ มิ พ์ ง. เน้นเร่อื งการใชห้ ลกั การจดั องคป์ ระกอบศลิ ป์
ง. เสน้ หรอื ลวดลายต่างๆ ชดั เจน
20. งานสถาปัตยกรรมจะใชศ้ พั ทเ์ ฉพาะดา้ นใด
15.รากฐานของศพั ทภ์ าพพมิ พม์ าจากภาษาใด ก. การออกแบบโครงสรา้ ง
ข. สนุ ทรยี ภาพงานออกแบบ
ก. กรกี ข. อยี ปิ ต์ ค. การใชว้ สั ดุ สถาปัตยกรรม
ง. การก่อสรา้ งและประโยชน์ใชส้ อย
ค. อติ าลี ง. องั กฤษ
ข้อสอบกลางภาคเรยี นที่ 1
กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ศลิ ปะ
สาระวิชาพนื้ ฐาน รายวิชาทศั นศลิ ป์ รหสั วชิ า ศ 33101 ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ 6
1. สว่ นใดเป็นสว่ นสาคญั ของศลิ ปะขอม 6. ผลงานทางทศั นศลิ ป์ สามารถบ่งบอกในเรอ่ื งใด
ก.เขยี นสี ก.ช่วงเวลาในแต่ละสมยั
ข. ทบั หลงั ข. แหล่งกาเนิดของผลงาน
ค.ลวดลาย ค. การออกแบบรปู รา่ ง รปู ทรง
ง.รปู ทรงแปลก ง.รปู แบบและลกั ษณะของผลงาน
2. พระพทุ ธรปู ทเ่ี ป็นเอกลกั ษณ์เด่นของศลิ ปะสโุ ขทยั 7. แหลง่ โบราณคดบี า้ นเชยี ง มเี คร่อื งปัน้ ดนิ เผา
คอื ขอ้ ใด ลกั ษณะใด
ก.พระปางนาคปรก
ข. พระพุทธรปู ปางลลี า ก.เครอ่ื งปัน้ ดนิ เผาภาชนะทรงสงู
ค.พระพุทธรปู ปางมารวชิ ยั ข. เคร่อื งปัน้ ดนิ เผาภาชนะเขยี นสี
ง. พระพุทธรปู ปางสมาธิ ค. เครอ่ื งปัน้ ดนิ เผาภาชนะเคลอื บสี
ง.เครอ่ื งปัน้ ดนิ เผาเขยี นลวดลายเคลอื บ
3. ในรชั กาลท่ี 5 อาคารบา้ นเรอื นรบั อทิ ธพิ ลจากทใ่ี ด
ก.จนี ข. พม่า 8. ความพเิ ศษของผลงานทศั นศลิ ป์ ยุคโลหะ คอื ขอ้ ใด
ค.อนิ เดยี ง.ตะวนั ตก ก.สง่ิ ศกั ดสิ์ ทิ ธใิ์ นธรรมชาตปิ ่าเขา
ข. คตนิ ิยมตามความเชอ่ื ของทอ้ งถน่ิ
4. ขอ้ ใดคอื ววิ ฒั นาการทางทศั นศลิ ป์ ในดนิ แดน ค. เครอ่ื งปัน้ ดนิ เผาเขยี นสแี บบบา้ นเชยี ง
ประเทศไทย ง.การประกอบพธิ กี รรมแบบชมุ ชนเลก็ ๆ
ก.ความเชอ่ื เกย่ี วกบั พธิ กี รรม การบชู า
ข. ความเช่อื เกย่ี วกบั ความศรทั ธาเลอ่ื มใส 9. ภาพเขยี นผนงั ถ้ามกั เขยี นเรอ่ื งใด
ค.ความเช่อื เกย่ี วกบั ความศกั ดสิ์ ทิ ธใิ์ นธรรมชาติ ก.ศาสนา
ง. ความเช่อื เกย่ี วกบั การเซ่นไหวด้ ว้ ยวธิ กี าร ข. ธรรมชาติ
ค. การลา่ สตั ว์
ต่างๆ ง.รปู ทรงเรขาคณติ
5. อทิ ธพิ ลจากทใ่ี ดทม่ี บี ทบาทต่องานทศั นศลิ ป์ ไทย 10.นิยมสรา้ งธรรมจกั รกบั กวางหมอบเพอ่ื เรอ่ื งใด
มากทส่ี ดุ ก.คตคิ วามคดิ
ก.จนี ข. ขอม ข. บชู าธรรมชาติ
ค.พธิ กี รรม เซน่ ไหว้
ค.อนิ เดยี ง. ตะวนั ตก
ง. ประกาศพระพทุ ธศาสนา
2
ไดค้ ะแนน คะแนนเตม็
10