The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการสอนศิลปะ ศ32101 สบันนา มหาวรรณ์ 1-2565

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ครูบุ้งกี๋ สบันนา, 2022-06-22 05:25:15

แผนการสอนศิลปะ ศ32101 สบันนา มหาวรรณ์ 1-2565

แผนการสอนศิลปะ ศ32101 สบันนา มหาวรรณ์ 1-2565

แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวชิ า ศ32101ศลิ ปศกึ ษา

ระดบั ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 5

จดั ทำโดย
นำงสบันนำ มหำวรรณ์
ตำแหนง่ ครูชำนำญกำรพิเศษ
กลุม่ สำระกำรเรยี นรศู้ ลิ ปะ โรงเรยี นบญุ วำทยว์ ทิ ยำลัย
สงั กัดสำนักงำนเขตพนื้ ท่ีกำรศกึ ษำมธั ยมศกึ ษำลำปำง ลำพนู
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกำรศกึ ษำขัน้ พนื้ ฐำน กระทรวงศกึ ษำธกิ ำร

ศลิ ปศึกษา กล่มุ สาระการเรียนรศู้ ลิ ปะ
ศ32101

ระดับช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 5

คานา

ตำมที่กระทรวงศึกษำธิกำร ไดป้ ระกำศหลกั สูตรแกนกลำงกำรศกึ ษำขั้นพนื้ ฐำนพุทธศกั รำช 2551 เพอ่ื ให้กำรจัด
กำรศกึ ษำของสถำนศกึ ษำดำเนนิ ไปด้วยดี ผจู้ ัดทำจงึ ไดด้ ำเนนิ กำรจัดทำแผนกำรจดั กิจกรรมกำรเรยี นรรู้ ำยวชิ ำ ศ32101 ศลิ ปศึกษำ
(สำระทศั นศลิ ป์) สำระกำรเรียนรพู้ ืน้ ฐำน กล่มุ สำระกำรเรียนรู้ศลิ ปะ ตำมหลักสตู ร ระดบั ชนั้ มธั ยมศึกษำปที ่ี 5 ภำคเรียนท่ี 2 ปี
กำรศึกษำ 2565

โดยมีวัตถุประสงค์เพ่ือมงุ่ พฒั นำผู้เรียนให้มคี วำมรู้ควำมสำมำรถท้งั ดำ้ นวชิ ำกำรและทักษะกระบวนกำรทำงศิลปะ
สรำ้ งสรรค์ผลงำนไดต้ ำมวุฒิภำวะ และเกดิ ควำมรู้ควำมเข้ำใจในควำมสมั พันธร์ ะหวำ่ งทศั นศลิ ป์ ประวัติศำสตร์และวฒั นธรรม ภมู ปิ ญั ญำ
ทอ้ งถน่ิ ภมู ปิ ญั ญำไทยและสำกล มีควำมคดิ ตอ่ งำนศลิ ปะอย่ำงอสิ ระ ชน่ื ชมเหน็ คณุ คำ่ และประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันตำมหลกั กำรของ
เศรษฐกิจพอเพียงเพ่ือกำรดำรงชีวติ อย่ำงมีควำมสุข
ใชเ้ วลำในกำรเรียน 6 สัปดำห์ 5 ชว่ั โมง

แผนกำรจดั กจิ กรรมกำรเรยี นรฉู้ บับน้ี ใชจ้ ดั กจิ กรรมกำรเรียรรูใ้ นภำคเรยี นท่ี 2 ในปกี ำรศกึ ษำ 2565

สบันนำ มหำวรรณ์

โรงเรยี นบญุ วาทย์วิทยาลยั
สานกั งานเขตพน้ื ที่การศึกษามธั ยมศกึ ษา ลาปาง ลาพนู

ศิลปศกึ ษา กลมุ่ สาระการเรียนรศู้ ลิ ปะ
ศ32101

ระดบั ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 5

ทาไมต้องเรยี นศลิ ปะกลุ่มสำระกำรเรยี นรู้ศลิ ปะเปน็ กลมุ่ สำระท่ีชว่ ยพัฒนำใหผ้ ู้เรยี นมีควำมคิดรเิ ร่ิมสรำ้ งสรรค์ มี

จินตนำกำรทำงศลิ ปะ ช่นื ชมควำมงำม มีสุนทรียภำพ ควำมมคี ุณค่ำ ซึง่ มีผลตอ่ คณุ ภำพชีวิตมนุษย์ กจิ กรรมทำงศิลปะชว่ ยพัฒนำผ้เู รยี นท้ัง
ดำ้ นร่ำงกำย จิตใจ สตปิ ญั ญำ อำรมณ์ สังคม ตลอดจน กำรนำไปสูก่ ำรพฒั นำสง่ิ แวดลอ้ ม สง่ เสรมิ ให้ผเู้ รียนมคี วำมเช่ือมนั่ ในตนเอง อันเปน็
พ้นื ฐำน ในกำรศกึ ษำต่อหรอื ประกอบอำชีพได้

เรียนรอู้ ะไรในศลิ ปะกลุม่ สำระกำรเรียนร้ศู ลิ ปะมงุ่ พัฒนำให้ผเู้ รียนเกดิ ควำมรคู้ วำมเขำ้ ใจ มีทกั ษะวิธกี ำรทำงศิลปะ

เกดิ ควำมซำบซ้งึ ในคณุ คำ่ ของศิลปะเปดิ โอกำสใหผ้ เู้ รยี นแสดงออกอยำ่ งอสิ ระในศลิ ปะแขนงต่ำง ๆประกอบด้วยสำระสำคัญ คือ

•ทัศนศลิ ป์ มคี วำมรคู้ วำมเข้ำใจองค์ประกอบศิลป์ ทัศนธำตุ สรำ้ งและนำเสนอผลงำนทำงทศั นศลิ ป์จำกจินตนำกำร โดยสำมำรถใช้

อปุ กรณ์ทีเ่ หมำะสม รวมทัง้ สำมำรถใช้เทคนคิ วิธีกำร ของศิลปนิ ในกำรสรำ้ งงำนไดอ้ ยำ่ งมปี ระสิทธภิ ำพ วิเครำะห์ วิพำกษ์ วจิ ำรณ์คณุ ค่ำงำน

ทศั นศิลป์ เขำ้ ใจควำมสัมพนั ธ์ระหว่ำงทศั นศลิ ป์ ประวตั ิศำสตร์ และวฒั นธรรม เห็นคุณคำ่ งำนศลิ ปะที่เปน็ มรดกทำงวัฒนธรรม ภมู ปิ ัญญำ

ทอ้ งถิน่ ภูมปิ ัญญำไทยและสำกล ชนื่ ชม ประยุกตใ์ ช้ในชีวิตประจำวนั

•ดนตรี มคี วำมรูค้ วำมเขำ้ ใจองคป์ ระกอบดนตรีแสดงออกทำงดนตรอี ย่ำงสร้ำงสรรค์ วเิ ครำะห์ วิพำกษ์ วิจำรณค์ ณุ ค่ำดนตรี

ถ่ำยทอดควำมรสู้ กึ ทำงดนตรีอย่ำงอสิ ระ ชน่ื ชมและประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ ประจำวนั เข้ำใจควำมสมั พนั ธร์ ะหว่ำงดนตรี ประวัติศำสตร์ และวัฒนธรรม

เหน็ คณุ ค่ำดนตรี ทเ่ี ปน็ มรดกทำงวฒั นธรรม ภูมปิ ัญญำทอ้ งถ่ินภูมิปญั ญำไทยและสำกล ร้องเพลง และเลน่ ดนตรีในรูปแบบตำ่ ง ๆ แสดงควำม

คดิ เห็นเก่ยี วกบั เสยี งดนตรี แสดงควำมร้สู กึ ท่มี ตี อ่ ดนตรีในเชงิ สนุ ทรียะ เข้ำใจควำมสมั พันธ์ระหว่ำงดนตรีกบั ประเพณวี ฒั นธรรม และ

เหตกุ ำรณ์ในประวตั ิศำสตร์

•นาฏศลิ ป์ มคี วำมรู้ควำมเขำ้ ใจองคป์ ระกอบนำฏศลิ ป์ แสดงออกทำงนำฏศลิ ป์อย่ำสรำ้ งสรรค์ ใชศ้ พั ทเ์ บือ้ งตน้ ทำงนำฏศลิ ป์

วเิ ครำะหว์ ิพำกษ์ วจิ ำรณ์คุณคำ่ นำฏศลิ ป์ ถ่ำยทอดควำมรสู้ กึ ควำมคิดอยำ่ งอิสระ สรำ้ งสรรค์กำรเคลอ่ื นไหวในรปู แบบตำ่ ง ๆ ประยกุ ต์ใช้

นำฏศลิ ปใ์ นชีวติ ประจำวันเข้ำใจควำมสมั พนั ธร์ ะหว่ำงนำฏศิลปก์ บั ประวตั ิศำสตร์วัฒนธรรม เหน็ คุณค่ำของนำฎศลิ ป์ที่เป็นมรดกทำงวัฒนธรรม

ภมู ิปัญญำทอ้ งถ่นิ ภมู ปิ ญั ญำไทย และสำกล โรงเรยี นบุญวาทย์วิทยาลยั
สานกั งานเขตพนื้ ที่การศึกษามธั ยมศึกษา ลาปาง ลาพูน

ศิลปศึกษา กลุ่มสาระการเรยี นรศู้ ลิ ปะ
ศ32101

ระดบั ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 5

สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้

สาระท่ี 1 ทศั นศิลป์

มาตรฐาน ศ 1.1 สรำ้ งสรรคง์ ำนทศั นศิลป์ตำมจนิ ตนำกำร และควำมคิดสรำ้ งสรรค์ วิเครำะห์ วิพำกษ์วจิ ำรณ์คณุ คำ่
งำนทัศนศลิ ป์ ถำ่ ยทอดควำมรสู้ กึ ควำมคิดต่องำนศิลปะอยำ่ งอสิ ระ ชนื่ ชม และประยุกตใ์ ชใ้ นชีวติ ประจำวัน

มาตรฐาน ศ 1.2 เข้ำใจควำมสมั พนั ธ์ระหว่ำงทัศนศลิ ป์ ประวตั ศิ ำสตร์ และวัฒนธรรม เหน็ คณุ คำ่ งำนทศั นศลิ ป์ทเี่ ป็นมรดก
ทำงวฒั นธรรม ภูมิปญั ญำท้องถิน่ ภูมิปญั ญำไทย และสำกล

สาระท่ี 2 ดนตรี

มาตรฐาน ศ 2.2 เขำ้ ใจและแสดงออกทำงดนตรีอยำ่ งสรำ้ งสรรค์ วเิ ครำะห์ วิพำกษว์ ิจำรณ์คณุ ค่ำดนตรีถำ่ ยทอด
ควำมรู้สึก ควำมคดิ ตอ่ ดนตรอี ย่ำงอิสระ ชนื่ ชม และประยุกต์ใช้ ในชีวิตประจำวัน

มาตรฐาน ศ 2.2 เข้ำใจควำมสมั พันธร์ ะหว่ำงดนตรี ประวตั ศิ ำสตร์ และวฒั นธรรม เหน็ คณุ ค่ำของดนตรีที่
เปน็ มรดกทำงวฒั นธรรม ภูมิปัญญำท้องถิน่ ภูมิปัญญำไทยและสำกล

สาระที่ 3 นาฏศิลป์

มาตรฐาน ศ 3.1 เขำ้ ใจ และแสดงออกทำงนำฏศิลปอ์ ย่ำงสรำ้ งสรรค์ วิเครำะห์ วิพำกษ์วิจำรณ์คุณค่ำนำฏศลิ ป์
ถ่ำยทอดควำมรูส้ ึก ควำมคดิ อยำ่ งอิสระ ชืน่ ชม และประยกุ ต์ใช้ในชีวติ ประจำวัน

มาตรฐาน ศ 3.2 เข้ำใจควำมสัมพนั ธร์ ะหวำ่ งนำฏศิลป์ ประวตั ิศำสตร์และวัฒนธรรม เหน็ คุณค่ำของนำฏศลิ ป์
ท่เี ป็นมรดกทำงวฒั นธรรม ภมู ปิ ญั ญำท้องถิ่น ภูมิปญั ญำไทยและสำกล

ศิลปศึกษา กลมุ่ สาระการเรียนรูศ้ ลิ ปะ
ศ32101

ระดับชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ 5

จบช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 6

• รู้และเขำ้ ใจเกีย่ วกบั ทศั นธำตแุ ละหลกั กำรออกแบบในกำรสื่อควำมหมำย สำมำรถใช้ศัพท์ทำงทศั นศิลป์ อธบิ ำยจุดประสงค์และเนอื้ หำของ

งำนทัศนศิลป์ มีทักษะและเทคนคิ ในกำรใช้วสั ดุ อปุ กรณ์และกระบวนกำรท่สี งู ขึ้นในกำรสร้ำงงำนทัศนศิลป์ วเิ ครำะหเ์ นือ้ หำและแนวคดิ เทคนิควธิ ีกำร

กำรแสดงออกของศลิ ปินทงั้ ไทยและสำกล ตลอดจนกำรใช้เทคโนโลยตี ำ่ ง ๆ ในกำรออกแบบสร้ำงสรรคง์ ำนทีเ่ หมำะสมกบั โอกำส สถำนที่ รวมทัง้ แสดง

ควำมคิดเห็นเก่ียวกบั สภำพสงั คมด้วยภำพล้อเลียนหรือกำรต์ นู ตลอดจนประเมินและวจิ ำรณค์ ุณค่ำงำนทัศนศิลปด์ ้วยหลักทฤษฎีวิจำรณศ์ ลิ ปะ

• วเิ ครำะห์เปรยี บเทยี บงำนทศั นศิลป์ในรูปแบบตะวันออกและรปู แบบตะวันตกเข้ำใจอิทธพิ ล ของมรดกทำงวัฒนธรรมภูมปิ ญั ญำระหวำ่ ง

ประเทศทีม่ ผี ลต่อกำรสร้ำงสรรค์ งำนทศั นศลิ ป์ในสงั คม

• รู้และเข้ำใจรูปแบบบทเพลงและวงดนตรแี ต่ละประเภท และจำแนกรูปแบบ ของวงดนตรที ัง้ ไทยและสำกล เข้ำใจอทิ ธิพลของวฒั นธรรม

ตอ่ กำรสร้ำงสรรค์ดนตรี เปรยี บเทยี บอำรมณ์และควำมรูส้ ึกทีไ่ ด้รบั จำกดนตรีทมี่ ำจำกวัฒนธรรมตำ่ งกนั อำ่ น เขยี น โนต้ ดนตรีไทยและสำกล ใน

อัตรำจงั หวะตำ่ ง ๆ มที ักษะในกำรร้องเพลงหรือเล่นดนตรีเด่ียวและรวมวงโดยเนน้ เทคนคิ กำรแสดงออกและคณุ ภำพของกำรแสดง สรำ้ งเกณฑ์

สำหรบั ประเมนิ คุณภำพกำรประพนั ธ์ กำรเลน่ ดนตรขี องตนเองและผู้อนื่ ไดอ้ ยำ่ งเหมำะสม สำมำรถนำดนตรีไประยกุ ต์ใช้ในงำนอ่ืน ๆ

• วิเครำะห์ เปรียบเทียบรูปแบบ ลักษณะเด่นของดนตรีไทยและสำกลในวัฒนธรรมต่ำง ๆ เข้ำใจบทบำทของดนตรีที่สะท้อนแนวควำมคิดและ

คำ่ นิยมของคนในสังคม สถำนะทำงสังคม ของนกั ดนตรีในวฒั นธรรมต่ำง ๆ สร้ำงแนวทำงและมสี ่วนร่วม ในกำรสง่ เสริมและอนุรักษ์ดนตรี

• มีทกั ษะในกำรแสดงหลำกหลำยรูปแบบ มีควำมคิดรเิ ริ่มในกำรแสดงนำฏศิลปเ์ ป็นคู่ และเปน็ หมู่ สร้ำงสรรค์ละครสัน้ ในรูปแบบที่ชน่ื ชอบ

สำมำรถวิเครำะหแ์ ก่นของกำรแสดงนำฏศิลปแ์ ละละครท่ตี อ้ งกำรส่ือควำมหมำยในกำรแสดง อทิ ธิพลของเครื่องแตง่ กำย แสง สี เสยี ง ฉำก อปุ กรณ์

และสถำนท่ีทม่ี ีผลตอ่ กำรแสดง วจิ ำรณก์ ำรแสดงนำฏศลิ ป์และละคร พัฒนำและใชเ้ กณฑ์ กำรประเมนิ ในกำรประเมนิ กำรแสดง และสำมำรถวิเครำะห์

ท่ำทำงกำรเคล่อื นไหวของผูค้ นในชวี ติ ประจำวัน และนำมำประยุกต์ ใช้ในกำรแสดง

• เข้ำใจววิ ฒั นำกำรของนำฏศลิ ปแ์ ละกำรแสดงละครไทย และบทบำทของบคุ คลสำคัญ ในวงกำรนำฏศิลปแ์ ละกำรละครของประเทศไทยใน

ยุคสมัยต่ำง ๆ สำมำรถเปรยี บเทยี บกำรนำกำรแสดงไปใช้ในโอกำสต่ำง ๆ และเสนอแนวคดิ ในกำรอนุรกั ษ์นำฏศิลปไ์ ทย

ศลิ ปศกึ ษา กลุ่มสาระการเรียนรศู้ ลิ ปะ
ศ32101

ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5

การวิเคราะหห์ ลกั สูตร มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวช้วี ดั

ศิลปศึกษา ศ32101 (ทศั นศลิ ป)์ กลุม่ สาระการเรยี นรศู้ ิลปะ ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5

สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง / ทอ้ งถิ่น

ความร/ู้ สาระแกนกลาง ทกั ษะกระบวนการ คุณลักษณะ สมรรถนะทีส่ าคัญ

มาตรฐาน/ตัวช้ีวัด K (Key Concept) ตัวบ่งช้ีพฤตกิ รรม อันพึงประสงค์ competence

( P) (A) ( C )

ศ 1.1 ม.4-6/3 วเิ ครำะห์กำรเลือกใช้วสั ดุ หลกั กำรเลือกใชว้ ัสดุ อุปกรณ์ และ กำรคดิ เชงิ วิเครำะห์ 4. ใฝเ่ รียนรู้ 1.กำรคิด

อุปกรณ์ และเทคนิคของศิลปนิ ในกำรแสดงออก เทคนคิ ของศิลปนิ ในกำรแสดงออกทำง

ทำงทศั นศลิ ป์ ทัศนศลิ ป์

ศ 1.1 ม.4-6/4มที กั ษะและเทคนคิ ในกำรใช้วัสดุ ทักษะและเทคนิคในกำรใชว้ สั ดุ กำรคดิ สร้ำงสรรค์ 7.รกั ควำมเป็นไทย 4.กำรใชท้ กั ษะชีวติ
5.กำรใช้
อุปกรณ์ และกระบวนกำรทส่ี งู ขึน้ ในกำรสร้ำงงำน อปุ กรณ์ และกระบวนกำรสรำ้ งงำน เทคโนโลยี

ทัศนศลิ ป์ ทัศนศลิ ป์

ศ 1.1 ม.4-6/7วเิ ครำะห์และอธิบำยจุดมุ่งหมำย จุดมุ่งหมำยของศิลปินในกำรเลือกใช้ กำรคดิ เชงิ วิเครำะห์ 4. ใฝเ่ รียนรู้ 2. กำรคิด
ของศลิ ปนิ ในกำรเลอื กใชว้ ัสดุ อุปกรณ์ เทคนิค วัสดุ อุปกรณ์ เทคนิคและเนื้อหำ
และเนือ้ หำ เพื่อสรำ้ งสรรค์งำนทัศนศลิ ป์ เพอ่ื สร้ำงสรรค์งำนทศั นศลิ ป์

ศ 1.1 ม.4-6/8ประเมนิ และวิจำรณ์งำน กำรประเมนิ และวจิ ำรณ์งำนทศั นศลิ ป์ กำรคิดอยำ่ งมีเหตุผล 2.ซ่ือสตั ย์ 3.กำรแกป้ ญั หำ
ทัศนศิลป์โดยใช้ทฤษฎีกำรวิจำรณศ์ ลิ ปะ
ศ 1.2 ม.4-6/2ระบุงำนทศั นศลิ ป์ของศลิ ปินท่มี ี 5. อยู่อยำ่ งพอเพียง
ชื่อเสียง และบรรยำยผลตอบรับของสงั คม
งำนทศั นศลิ ป์ของศลิ ปนิ ทมี่ ชี ื่อเสยี ง กำรคดิ เชิงวเิ ครำะห์ 4. ใฝเ่ รียนรู้ 2. กำรคดิ

ศิลปศกึ ษา กลมุ่ สาระการเรียนรู้ศลิ ปะ
ศ32101

ระดบั ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 5

การวิเคราะห์หลักสูตร มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชี้วัด
ศิลปศกึ ษา ศ32101 (ดนตร)ี กลุม่ สาระการเรียนรูศ้ ลิ ปะ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 5

สาระการเรียนรแู้ กนกลาง / ทอ้ งถน่ิ

มาตรฐาน/ตวั ช้ีวดั ควำมรู้/สำระแกนกลำง ทักษะกระบวนการ คุณลกั ษณะ สมรรถนะทีส่ าคัญ
competence
ศ 2.1 ม.4-6/1 เปรยี บเทยี บรูปแบบของบท K (Key Concept) ตวั บง่ ช้พี ฤตกิ รรม อนั พงึ ประสงค์ (C)
เพลงและ วงดนตรแี ต่ละประเภท
ศ 2.1 ม.4-2/2 จาแนกประเภทและรปู แบบ ( P) (A) 1.กำรส่อื สำร
ของ วงดนตรที ้งั ไทยและสากล
-รูปแบบของบทเพลงและ วง กำรคดิ เชิงวเิ ครำะห์ 2. ซือ่ สตั ยส์ จุ ริต 2.กำรคดิ

ดนตรีแต่ละประเภท

-ประเภทและรปู แบบของ วง กำรคิดเชิงวเิ ครำะห์ 7. รกั ควำมเป็น

ดนตรีทง้ั ไทยและสำกล ไทย

ศ 2.1 ม.4-6/7 เปรียบเทยี บอารมณ์ และ -กำรถำ่ ยทอดอำรมณ์ กำรคดิ เชงิ วเิ ครำะห์ 4.ใฝเ่ รยี นรู้ 3. กำรแกป้ ัญหำ
ความรสู้ กึ ท่ีไดร้ ับจากงานดนตรที ี่มาจาก ควำมรสู้ กึ ทำงดนตรีจำกแต่ 5.อยอู่ ย่ำงพอเพยี ง
วฒั นธรรมตา่ งกัน ละวัฒนธรรม

ศลิ ปศึกษา กลุ่มสาระการเรยี นรูศ้ ลิ ปะ
ศ32101

ระดับชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ 5

การวเิ คราะหห์ ลกั สูตร มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ชี้วัด

ศิลปศึกษา ศ32101 (นาฎศิลป์) กลุ่มสาระการเรยี นรศู้ ลิ ปะ ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 5

สาระการเรียนรู้แกนกลาง / ทอ้ งถิ่น

มาตรฐาน/ตัวชว้ี ัด ความร/ู้ สาระแกนกลาง ทกั ษะกระบวนการ คุณลกั ษณะ สมรรถนะท่สี าคัญ
competence
ศ 3.1 ม.4-6/3 ใช้ควำมคดิ รเิ รมิ่ ในกำร K (Key Concept) ตัวบ่งชี้พฤติกรรม อนั พงึ ประสงค์ (C)
แสดงนำฏศลิ ป์เปน็ คู่ และหมู่
( P) (A) กำรคดิ
ศ 3.1 ม.4-6/4 วจิ ำรณก์ ำรแสดงตำม
หลักนำฏศลิ ป์ และกำรละคร กำรประดิษฐท์ ำ่ รำทเ่ี ป็นคแู่ ละหมทู่ เี่ ก่ยี วกบั กำรคิดสรำ้ งสรรค์ 4.ใฝเ่ รียนรู้ กำรสื่อสำร

ควำมหมำย ประวัตคิ วำมเป็นมำ ทำ่ ทำงทใ่ี ช้

ในกำรประดิษฐ์ทำ่ รำและเพลงทีใ่ ช้

หลักกำรสร้ำงสรรคก์ ำรวจิ ำรณแ์ ละหลกั กำรชม กำรคิดอย่ำงมเี หตผุ ล 2.ซื่อสัตย์สุจรติ

กำรแสดงนำฏศลิ ปแ์ ละกำรละคร

ศ 3.1 ม.4-6/8 วิเครำะห์ทำ่ ทำง และ กำรสรำ้ งสรรค์ผลงำนได้แก่ กำรจัดกำรแสดง กำรคดิ เชงิ วิเครำะห์ 5.อยอู่ ยำ่ ง กำรใช้
พอเพยี ง ทักษะชีวติ
กำรเคล่อื นไหวของผู้คนในชีวติ ประจำวัน ในวันสำคญั ของโรงเรียน หรอื ชุดกำรแสดงประจำ

และนำมำประยุกต์ใช้ในกำรแสดง โรงเรียน

ศ 3.2 ม.4-6/1 เปรยี บเทียบกำรนำกำร กำรแสดงนำฏศิลป์ในโอกำสตำ่ งๆ กำรคดิ เชิงวิเครำะห์ 7.รกั ควำมเป็น กำรใชเ้ ทคโนโลยี
ไทย
แสดงไปใช้ในโอกำสต่ำงๆ

ศลิ ปศกึ ษา กลมุ่ สาระการเรียนรู้ศิลปะ
ศ32101

ระดับช้นั มัธยมศึกษาปีที่ 5

คาอธิบายรายวิชาพ้นื ฐาน ศิลปศึกษา ศ32101 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ศิลปะ

ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 ภาคเรียนที่ 1 จานวน 0.5 หน่วยกติ

ศกึ ษำวสั ดุอุปกรณ์ และเทคนิคของศลิ ปนิ ในกำรแสดงออกทำงทัศนศลิ ป์ กระบวนกำรในกำรสร้ำงงำน ทัศนศิลป์ จดุ มุ่งหมำยของศลิ ปินในกำรเลือกใช้

วัสดุ อุปกรณ์ เทคนิคและเนอ้ื หำ เพ่ือสร้ำงสรรค์งำนทศั นศลิ ป์ทฤษฎีกำรวจิ ำรณศ์ ิลปะ กำรจดั ทำแฟ้มสะสมงำนเพอ่ื สะทอ้ นพฒั นำกำรและควำมก้ำวหน้ำ

ของตนเองศกึ ษำรปู แบบของบทเพลงและวงดนตรแี ตล่ ะประเภทจำแนกประเภทและรปู แบบของวงดนตรที ัง้ ไทยและสำกลเหตผุ ลทค่ี นตำ่ งวฒั นธรรม

สร้ำงสรรคง์ ำนดนตรแี ตกต่ำงกัน ศกึ ษำกำรแสดงนำฏศลิ ปเ์ ปน็ คู่ และหมู่ หลักกำร กำรวิจำรณ์ หลกั กำรชมกำรแสดงนำฏศิลปแ์ ละละครเพ่อื สรำ้ งสรรค์

ผลงำนกำรแสดงนำฏศิลป์ในโอกำสตำ่ ง ๆ

โดยกระบวนกำรสร้ำงองคค์ วำมรูด้ ว้ ยทกั ษะกำรจดั กล่มุ กำรวเิ ครำะห์ จำแนกประเภท กำรเปรยี บเทียบ กำรตงั้ หลกั เกณฑ์ กำรประเมนิ กำร

อภปิ รำย ทักษะกำรปฏบิ ตั ิ กำรนำควำมรไู้ ปใช้กำรสรำ้ งสรรค์งำนทศั นศลิ ป์ ดนตรีและนำฏศลิ ปต์ ำมจนิ ตนำกำร และควำมคิดสร้ำงสรรค์ วิพำกษ์

วจิ ำรณ์ คณุ ค่ำงำน และบูรณำกำรสรำ้ งสรรคก์ ับกลมุ่ สำระกำรเรยี นรอู้ ่นื ๆ

เพื่อใหเ้ กิดควำมรคู้ วำมเขำ้ ใจในงำนทัศนศลิ ป์ ดนตรี และนำฏศลิ ป์ ประวัตศิ ำสตรแ์ ละวัฒนธรรม ภมู ิปญั ญำท้องถน่ิ ภูมปิ ัญญำไทยและสำกล

มคี ุณธรรมจรยิ ธรรม มีวินยั มคี วำมซื่อสตั ยส์ ุจริต รักควำมเป็นไทย มจี ิตสำธำรณะ รู้หลกั ในกำรดำเนนิ ชวี ิตอยู่อย่ำงพอเพียง และมุง่ มั่นในกำรทำงำน

มคี วำมคิดตอ่ งำนงำนทัศนศลิ ป์ ดนตรี และนำฏศลิ ป์ อย่ำงอิสระ ช่นื ชม เห็นคณุ ค่ำ มีสนุ ทรียภำพ มคี วำมคิดสรำ้ งสรรค์

รหัสตวั ชวี้ ดั (รวมทง้ั หมด 13 ตวั ชีว้ ัด)

สาระท่ี 1: ทัศนศิลป์ สาระที่ 2: ดนตรี

ศ 1.1 ม.4-6/3 วิเครำะห์กำรเลือกใชว้ สั ดุอปุ กรณ์ และเทคนคิ ของศลิ ปนิ ศ 2.1 ม.4-6/1 เปรยี บเทยี บรูปแบบของบทเพลงและ วงดนตรีแต่ละประเภท

ในกำรแสดงออกทำงทศั นศลิ ป์ ศ 2.1 ม.4-2/2 จำแนกประเภทและรูปแบบของ วงดนตรที ั้งไทยและสำกล

ศ 1.1 ม.4-6/4 มที กั ษะและเทคนคิ ในกำรใชว้ ัสดอุ ปุ กรณแ์ ละกระบวนกำรทส่ี ูงขึน้ ศ 2.1 ม.4-๖/7 เปรยี บเทียบอำรมณ์ และควำมรูส้ กึ ท่ีไดร้ บั จำกงำนดนตรีทมี่ ำจำกวฒั นธรรมต่ำงกัน

ในกำรสรำ้ งงำนทศั นศิลป์ สาระท่ี 3: นาฏศิลป์

ศ 1.1 ม.4-6/7 วเิ ครำะหแ์ ละอธิบำยจดุ มุ่งหมำย ของศลิ ปินในกำรเลือกใช้วสั ดุ ศ 3.1 ม.4-6/3 ใชค้ วำมคดิ รเิ ริ่มในกำรแสดงนำฏศลิ ป์เป็นคู่ และหมู่

อปุ กรณเ์ ทคนิคและเน้ือหำเพ่อื สร้ำงสรรค์งำนทศั นศิลป์ ศ 3.1 ม.4-6/4 วจิ ำรณ์กำรแสดงตำมหลกั นำฏศลิ ป์ และกำรละคร

ศ 1.1 ม.4-6/8 ประเมินและวจิ ำรณง์ ำนทศั นศลิ ป์โดยใช้ทฤษฎกี ำรวจิ ำรณศ์ ิลปะ ศ 3.1 ม.4-6/8 วเิ ครำะหท์ ำ่ ทำง และกำรเคลือ่ นไหวของผคู้ นในชวี ิตประจำวนั และนำมำประยกุ ต์ใช้ในกำรแสดง

ศ 1.2 ม.4-6/2 ระบงุ ำนทศั นศิลปข์ องศิลปนิ ทมี่ ชี ่อื เสยี ง และบรรยำยผลตอบรับของสังคม ศ 3.2 ม.4-6/1 เปรยี บเทยี บกำรนำกำรแสดงไปใช้ในโอกำสตำ่ ง

ศลิ ปศึกษา กล่มุ สาระการเรยี นรู้ศิลปะ
ศ32101

ระดบั ชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ 5

โครงสรา้ งรายวิชา ศิลปศกึ ษา ศ32101 กล่มุ สาระการเรยี นร้ศู ิลปะ

ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 5 ภาคเรียนที่ 1 จานวน 0.5 หน่วยกติ

หนว่ ยท่ี รหัสตัวชวี้ ัด แผนการเรยี นรู้ท.ี่ ..เรื่อง สปั ดาหท์ ่ี เวลาเรยี น/ชม. นา้ หนักคะแนน

ศ 1.1 ม.4-6/3 กจิ กรรมท่ี 1 Discussion แลกเปล่ียนเรยี นรู้สร้ำงแรงบนั ดำลใจ 1 00:50 8
1.ทศั นศิลป์ ศ 1.1 ม.4-6/7 ศ 1.2 ม.4-6/2 -เรียนรงู้ ำนทศั นศลิ ป์ของศลิ ปนิ 2 00:50
กจิ กรรมที่ 2 Design ออกแบบกำรเรียนรู้ดว้ ยควำมรว่ มมือ 8
ศ 1.1 ม.4-6/4 -ออกแบบงำนทัศนศิลปด์ ว้ ยเทคนิคสนี ำ้
16
ศ 1.1 ม.4-6/8 กจิ กรรมที่ 3 Doing ลงมือปฏิบัติ ด้วยควำมรบั ผดิ ชอบ 3-4 01:40
-สนี ้ำสร้ำงสรรค์ พันธุ์พฤกษำ 8
ศ 2.1ม.4-6/1 5-6 01:40
2 ดนตรี ศ 2.1ม.4-6/2 กจิ กรรมท่ี 4 Display นำเสนอผลกำรเรียนร้ดู ้วยตนเอง 10
-Art Exhibition “สีสัน พนั ธ์ุพฤกษำ” 7-8 01:40 10
ศ 2.1ม.4-6/7 กจิ กรรมที่ 5 Destination ตอ่ ยอดกำรเรียนรู้ 9-10 01:40 10
3 นาฏศิลป์ ศ 3.1 ม.4-6/3ศ 3.2 ม.4-6/1 -NFT Art บนโลกดิจิทัล 11-12 01:40 10
13-14 01:40 15
ศ 3.1 ม.4-6/8 2.1 รปู แบบของบทเพลงและวงดนตรี 15-16 01:40 5
ศ 3.1 ม.4-6/4 2.2 ประเภทของวงดนตรที ้ังไทยและสำกล 17-18 01:40 100
2.3 อำรมณ์ และควำมรสู้ กึ จำกงำนดนตรี
3.1 กำรแสดงนำฏศลิ ป์
3.2. กำรแสดงทำ่ ทำงกำรเคลอ่ื นไหวประกอบเพลง
3.3 กำรแสดงนำฏศิลป์และกำรละคร

รวม

ศลิ ปศึกษา กล่มุ สาระการเรียนร้ศู ลิ ปะ
ศ32101

ระดับชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ 5

การวเิ คราะหต์ วั ช้ีวัดเพ่อื กาหนดภาระงานและการวัดผลการออกแบบหนว่ ยการเรยี นรู้

ศลิ ปศกึ ษา ศ32101 กลุ่มสาระการเรยี นร้ศู ลิ ปะ ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 5

ช่อื แผนการเรียนร/ู้ หลักฐานชน้ิ งาน/ บุคคล กระบวนการจัดการเรียนรู้
ภาระงานทส่ี าคัญ /กล่มุ
ตวั ชีว้ ัด กจิ กรรม ขน้ั ท่ี/เทคนคิ เครีองมอื สอื่ การเรียนการสอน

ศ 1.1 ม.4- 1.เรยี นร้งู ำนทัศนศิลปข์ อง -ทดสอบทกั ษะกำรคดิ บคุ คล 1.Discussion แลกเปลี่ยนเรยี นรู้ -ห้องเรียนศิลปะ-แผนกำรเรยี นรู้
6/3 ศลิ ปิน
เชงิ วเิ ครำะห์ สรำ้ งแรงบันดำลใจ คลิบวดี ิโอ https://www.youtube.
ศ 1.1 ม.4- -เขยี นผลลพั ธก์ ำรเรียนรู้ -EPoC Test com/watch?v=DHe9Q0woAaM
“สมมตฐิ ำน วำระ
6/7

ศ 1.2 ม.4- สดุ ท้ำยของ แวนโกะ๊ ” -Linear -reflect: exit slip -E-book “เรยี นรู้งำนทัศนศิลปข์ องศลิ ปนิ ”
6/2 -เวป็ ไซตท์ ำงกำรศกึ ษำ

ศ 1.1 ม.4- 2.ออกแบบงำนทัศนศิลป์ -ผลงำนศิลปะ บุคคล 1.Design ออกแบบกำรเรียนรดู้ ว้ ย -อปุ กรณว์ ำดรปู

6/4 ด้วยเทคนคิ สนี ำ้ ด้วยเทคนคิ สนี ำ้ กลุ่ม ควำมรว่ มมือ -Forced connection

-FILA MAP -Forced connectio -อุปกรณ์วำดรูป

3.สีน้ำสร้ำงสรรค์ -ผลงำนสนี ้ำสร้ำงสรรค์ กลุม่ 3.Doing ลงมือปฏิบตั ิดว้ ยควำม -Pedagogy and Rubric Form

พันธพุ์ ฤกษำ พันธพุ์ ฤกษำ รบั ผิดชอบ

ศ 1.1 ม.4- - Art Exhibition “สสี ัน -กำรนำเสนอผลงำน กลุ่ม Display นำเสนอผลกำรเรียนรู้ -Spidergram

6/8 พันธพ์ุ ฤกษำ” ศิลปะ ด้วยตนเอง

“สีสัน พันธุ์พฤกษำ”

-NFT Art บนโลกดจิ ทิ ัล - NFT Art บุคคล Destination ตอ่ ยอดกำรเรยี นรู้ -Reminding Quest

ศิลปศกึ ษา กลุ่มสาระการเรยี นรศู้ ลิ ปะ
ศ32101

ระดับช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 5

การวิเคราะหต์ วั ชี้วัดเพอ่ื กาหนดภาระงานและการวัดผลการออกแบบหนว่ ยการเรียนรู้
ศิลปศึกษา ศ32101 กลมุ่ สาระการเรยี นรศู้ ิลปะ ชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 5

ตัวช้วี ดั ช่ือแผนการเรยี นรู้กิจกรรม หลกั ฐานชิ้นงาน/ภาระงานทส่ี าคัญ บุคคล กระบวนการจัดการเรยี นรู้
/กลุม่

ขนั้ ท/ี่ เทคนคิ เครอี งมือ ส่ือการเรยี นการสอน

ศ 2.1ม.4-6/1 2.1รปู แบบของบทเพลงและวงดนตรี แบบบันทึกรปู แบบของบทเพลงและวงดนตรี บุคคล 1.ประเมนิ ระดบั ควำมคดิ ของ EPoC Test
ผู้เรียน
ศ 2.1ม.4-6/2 2..2ประเภทของวงดนตรที ้ังไทยและ -แผนภำพประเภทของวงดนตรีทง้ั ไทยและสำกล - FILA Mapping
ศ 2.1ม.4-6/7 สำกล -คลิบ VDO เพลงทอ่ี ำรมณ์ และควำมรู้สึก จำกงำนดนตรี กลมุ่ 2.สรำ้ งแรงบันดำลใจ High Functioning Class
2.3 .อำรมณ์ และควำมร้สู ึก จำกงำน กลมุ่ 4.เรียนร้ผู ำ่ นกำรปฏบิ ัติ
ดนตรี Room

ตวั ชี้วัด ชอื่ แผนการเรยี นร/ู้ กจิ กรรม หลกั ฐานชิ้นงาน/ บคุ คล กระบวนการจดั การเรียนรู้
ภาระงานทีส่ าคญั /กลุ่ม

ขั้นท่ี/เทคนิคเครีองมอื สอื่ กำรเรยี นกำรสอน

ศ 3.1 ม.4-6/3 3.1 กำรแสดงนำฏศลิ ป์ ใบงำน เรอ่ื ง กำรแสดงนำฏศิลปเ์ ป็นคู่ และหมู่ใบงำน ตำรำง บุคคล 1.ประเมินระดบั ควำมคิดของ -EPoC Test
ศ 3.2 ม.4-6/1 กำรเปรยี บเทยี บกำรนำกำรแสดงใชใ้ นโอกำสตำ่ ง ๆ ผูเ้ รียน 2.สรำ้ งแรงบันดำลใจ -Forced connection
ศ 3.1 ม.4-6/8 3.2. กำรแสดงทำ่ ทำงกำรเคลอ่ื นไหว กำรแสดงทำ่ ทำงกำรเคลือ่ นไหวประกอบเพลง กลุ่ม
ประกอบเพลง รำยบคุ ค 3.วำงแผนพัฒนำตนเองร่วมกนั - FILA Mapping
ศ 3.1 ม.4-6/4 3.3 กำรแสดงนำฏศลิ ปแ์ ละกำรละคร วิจำรณ์กำรแสดงของเพื่อนกลุ่มอื่นตำมหลักกำรวิจำรณ์กำร ล/กลุ่ม 4.เรยี นรู้ผ่ำนกำรปฏิบัติ -High Functioning Class Room
แสดงนำฏศิลป์
5.ผู้เรียนประเมนิ ตนเอง -Spidergream/Linear
6.คดิ ต่อยอด -Reminding Quest

ศิลปศึกษา กลุม่ สาระการเรยี นรศู้ ิลปะ
ศ32101
การประเมินผลสาระพ้ืนฐาน ศิลปศกึ ษา ศ32101
ระดบั ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5

กลุม่ สาระการเรยี นรู้ศลิ ปะ ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 5

อตั ราส่วนคะแนน ระหวา่ งกลางภาคเรียน : ต่อปลายภาคเรยี น 80. : .20

หนว่ ยท่ี หน่วยการเรยี น ตวั ช้วี ดั ชั่วโมง คะแนนหนว่ ย กลางภาค ปลายภาค รวมคะแนนแตล่ ะด้าน

1. K P A รวม K P รวม K P รวม K P A รวม

ทัศนศลิ ป์ ศ 1.1 ม.4-6/3 00:50 2 22

ศ 1.1 ม.4-6/7 2 22

ศ 1.2 ม.4-6/2 22 22 4

ศ 1.1 ม.4-6/4 02:30 20 4 20 4 24

ศ 1.1 ม.4-6/8 01:40 88 8
8 4 30 40
รวม 4 22 6 2 253 6 10
2 253 2 10
2 ดนตรี ศ 2.1ม.4-6/1 01:40 3 3 2 8 2 253 2 10
6 6 15 9 2 30
ศ 2.1ม.4-6/2 01:40 3 3 2 8 4 47 6 10
3
ศ 2.1ม.4-6/7 01:40 3 3 2 8 15

รวม 9 9 6 24

3 นำฏศิลป์ ศ 3.1 ม.4-6/3 01:40 3 36

ศ 3.2 ม.4-6/1

ศ 3.1 ม.4-6/4 01:40 5 5 5 15 55 5

ศ 3.1 ม.4-6/8 01:40 2 13 2 24 15
รวม
10 5 9 24 6 16 5 9 30

รวม 23 36 21 48 0 0 0 12 8 12 35 44 21 100

ศลิ ปศกึ ษา กลุม่ สาระการเรยี นร้ศู ลิ ปะ
ศ32101
ออกแบบหนว่ ยการเรียนรู้ ศิลปศึกษา ศ32101
ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 5 กลมุ่ สาระการเรยี นรูศ้ ิลปะ ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 5

ศลิ ปศกึ ษา (Visual Art)
ศ32101
ครผู สู้ อน นางสบนั นา มหาวรรณ์
ระดับชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 5

สาระ:มาตรฐานการเรียนรู้ สาระ : ทัศนศิลปะ แผนการเรียนรู้ /ช้ินงาน/ภาระงาน/กระบวนการจดั การเรยี นรู้

มาตรฐาน ศ1.1 สรา้ งสรรคง์ านทศั นศลิ ป์ ตามจนิ ตนาการ และ ช่ือแผนการเรยี นรู้/ หลักฐานชนิ้ งาน/ บุคคล กระบวนการจดั การเรยี นรู้
ความคดิ สรา้ งสรรค์ วเิ คราะห์ วพิ ากษ์ วจิ ารณ์คณุ คา่ งานทัศนศลิ ป์ ตวั ชวี้ ดั ภาระงานที่สาคญั /กลุม่
ถา่ ยทอดความรสู ้ กึ ความคดิ ตอ่ งานศลิ ปะอยา่ งอสิ ระ ชน่ื ชม และประยกุ ตใ์ ช ้ ขนั้ ท่ี/เทคนิคเครีองมือ สอ่ื การเรยี นการสอน
ในชวี ติ ประจาวนั กิจกรรม

มาตรฐาน ศ1.2 เขา้ ใความสมั พันธร์ ะหวา่ งทัศนศลิ ป์ ประวตั ศิ าสตร์ ศ 1.1 ม.4-6/3 1.เรยี นรูง้ ำนทศั นศิลป์ของ -ทดสอบทักษะกำรคิดเชิง บคุ คล 1.Discussion แลกเปล่ยี นเรยี นรู้สร้ำงแรงบนั ดำลใจ ห้องเรียนศิลปะ
และวฒั นธรรม เห็นคณุ คา่ งานทัศนศลิ ป์ ทเ่ี ป็ นมรดกทางวฒั นธรรม ภมู ิ -EPoC Test -Forced connection -แผนกำรเรยี นรู้
ปัญญาทอ้ งถนิ่ ภมู ปิ ัญญาไทยและสากล ศ 1.1 ม.4-6/7 ศิลปนิ วิเครำะห์ -Linear -คลิบวดี ิโอ-E-book
-reflect: exit slip -เว็ปไซต์ทำงกำรศึกษำ
ตวั ชวี้ ดั ศ 1.2 ม.4-6/2 -เขียนผลลพั ธ์กำรเรียนรู้
ศ 1.1 ม.4-6/3 วเิ คราะหก์ ารเลอื กใชว้ สั ดอุ ปุ กรณ์ และเทคนคิ ของศลิ ปิน บุคคล 1.Design ออกแบบกำรเรียนรดู้ ว้ ยควำมร่วมมือ -อุปกรณว์ ำดรูป
ในการแสดงออกทางทศั นศลิ ป์ “สมมตฐิ ำน วำระสุดท้ำยของ กลมุ่ -Forced connection

ศ 1.1 ม.4-6/4 มที กั ษะและเทคนคิ ในการใชว้ สั ดอุ ปุ กรณ์และ แวนโกะ๊ ”
กระบวนการทส่ี งู ขน้ึ ในการสรา้ งงานทัศนศลิ ป์
ศ 1.1 ม.4-6/4 2.ออกแบบงำนทัศนศิลป์ -ผลงำนศลิ ปะ ดว้ ยเทคนคิ สนี ้ำ
ศ 1.1 ม.4-6/7 วเิ คราะหแ์ ละอธบิ ายจดุ มงุ่ หมาย ของศลิ ปินใน
การเลอื กใชว้ สั ดุ อปุ กรณเ์ ทคนคิ และเนอื้ หา เพอื่ ด้วยเทคนคิ สีน้ำ -FILA MAP
สรา้ งสรรคง์ านทศั นศลิ ป์
3.สนี ำ้ สรำ้ งสรรค์ -ผลงำนสีน้ำสร้ำงสรรค์ กลุ่ม 3.Doing ลงมือปฏบิ ตั ิด้วยควำมรบั ผิดชอบ -อปุ กรณ์วำดรูป
ศ 1.1 ม.4-6/8 ประเมนิ และวจิ ารณ์งานทัศนศลิ ป์ โดยใชท้ ฤษฎี -Pedagogy and Rubric Form
การวจิ ารณศ์ ลิ ปะ พนั ธุ์พฤกษำ พนั ธุ์พฤกษำ -อปุ กรณว์ ำดรปู
กลุ่ม Display นำเสนอผลกำรเรียนรู้ด้วยตนเอง
ศ 1.2 ม.4-6/2 ระบงุ านทศั นศลิ ป์ ของศลิ ปินทมี่ ชี อื่ เสยี ง และบรรยายผล ศ 1.1 ม.4-6/8 - Art Exhibition “สีสนั -กำรนำเสนอผลงำนศลิ ปะ -Spidergram -Reminding Quest
ตอบรับของสงั คม -เวป็ ไซต์ทำงกำรศกึ ษำ
พันธ์ุพฤกษำ” “สสี ัน พนั ธ์ุพฤกษำ” บคุ คล Destination ตอ่ ยอดกำรเรยี นรู้
สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด
วสั ดอุ ปุ กรณ์ และเทคนคิ ของศลิ ปินในการแสดงออก -NFT Art บนโลกดิจิทัล - NFT ArtArt บนโลกดิจทิ ลั
ทางทศั นศลิ ป์ กระบวนการในการสรา้ งงานทัศนศลิ ป์ จดุ มงุ่ หมายของศลิ ปิน
ในการเลอื กใชว้ สั ดุ อปุ กรณ์ เทคนคิ และเนอื้ หา เพอื่ สรา้ งสรรคง์ าน
ทศั นศลิ ป์ ทฤษฎกี ารวจิ ารณ์ศลิ ปะ การจัดทาแฟ้ มสะสมงานเพอ่ื สะทอ้ น
พัฒนาการและความกา้ วหนา้ ของตนเอง

ความรู้ (Knowledge)
1.การแสดงออกทางทศั นศลิ ป์
2. กระบวนการในการสรา้ งงานทัศนศลิ ป์
3.จดุ มงุ่ หมายของศลิ ปินในการสรา้ งสรรคง์ านทัศนศลิ ป์
4.การประเมนิ และวจิ ารณง์ านทศั นศลิ ป์
5.งานทัศนศลิ ป์ ของศลิ ปินทม่ี ชี อ่ื เสยี งฆ

ทกั ษะกระบวนการ(Process)
1.การคดิ เชงิ วเิ คราะห์ 2.การคดิ สรา้ งสรรค์ 3.การคดิ อยา่ งมเี หตผุ ล

คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ (Attributes)

คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงคต์ ามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขัน้ กระบวนการจดั การเรยี นรู้
พน้ื ฐาน พ.ศ. 2551 “หอ้ งเรยี นศลิ ปะ KID-D
ขอ้ 2.ซอื่ สตั ย์ ขอ้ 4.ใฝ่ เรยี นรู ้ ขอ้ 5.อยอู่ ยา่ พอเพยี งขอ้ 7.รักความเป็ นไทย
คณุ ลักษณะของผเู ้ รยี น ตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
ขอ้ 1. แบง่ ปัน
คณุ ลักษณะของผเู ้ รยี น งานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น
ขอ้ 11. มสี มาธิ
คณุ ลกั ษณะของผเู ้ รยี น ตามหลกั สตู รโรงเรยี นมาตรฐานสากล
ขอ้ 2. ผลติ งานอยา่ งสรา้ งสรรค์
สวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น
ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
การ อ่าน คิดวเิ คราะหแ์ ละเขยี น โรงเรยี นมาตฐานสากล

การอา่ น  การคดิ วเิ คราะห์ การเขยี น

ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน

 ความสามารถในการสอ่ื สาร  ความสามารถในการคดิ โรงเรียนบุญวาทย์วทิ ยาลัย
 ความสามารถในการแกป้ ัญหา  ความสามารถในการใชท้ ักษะ สานักงานเขตพน้ื ท่ีการศกึ ษามัธยมศกึ ษา ลาปาง ลาพนู

 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

ศิลปศึกษา “เรียนรู้งานทศั นศิลปข์ องศลิ ปิน” 1
ศ32101
ครผู สู้ อน นางสบนั นา มหาวรรณ์
ระดับช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 5

สาระ:มาตรฐานการเรียนรู้ แลกเปลีย่ นเรียนรู้สร้างแรงบันดาลใจ

สาระ : ทัศนศลิ ปะ 1.รู้สึกถงึ ควำมตนื่ เต้นกบั กำรได้เรียนร้เู รอื่ งงำนทศั นศิลปข์ องศลิ ปนิ ระดับโลก
2.มคี วำมสนใจงำนทัศนศลิ ป์ของศลิ ปินเพิ่มมำกขน้ึ สำมำรถถ่ำยทอดเนอื้ หำหรอื เล่ำให้ผอู้ ่นื ฟังได้
มาตรฐาน ศ 1.1 สรา้ งสรรคง์ านทศั นศลิ ป์ ตามจนิ ตนาการ และ เปา้ หมาย
ความคดิ สรา้ งสรรค์ วเิ คราะห์ วพิ ากษ์ วจิ ารณ์คณุ คา่ งานทัศนศลิ ป์
ถา่ ยทอดความรสู ้ กึ ความคดิ ตอ่ งานศลิ ปะอยา่ งอสิ ระ กจิ กรรมการเรยี นการสอน สอ่ื การสอน/
ชนื่ ชม และประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ติ ประจาวนั
เวลา กจิ กรรมและเนอ้ื หาการเรยี นรู้ Q=การถามคาถามของครู S=การสนบั สนุนจากครู
มาตรฐาน ศ 1.2 เขา้ ใความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งทัศนศลิ ป์ ประวตั ศิ าสตร์
และวฒั นธรรม เห็นคณุ คา่ งานทัศนศลิ ป์ ทเี่ ป็ นมรดกทางวฒั นธรรม
ภมู ปิ ัญญาทอ้ งถนิ่ ภมู ปิ ัญญาไทย และสากล

ตวั ชี้วัด นาที่ คาบเรยี นท่ี 1 L=การเรยี นการสอน E=การประเมนิ ผลของครู เครอื่ งมอื
ศ 1.1 ม.4-6/3 วเิ คราะหก์ ารเลอื กใชว้ สั ดอุ ปุ กรณ์ และเทคนคิ ของ
ศลิ ปินในการแสดงออกทางทัศนศลิ ป์ R=ปฏกิ ริ ยิ าของนกั เรยี น
ศ 1.1 ม.4-6/7 วเิ คราะหแ์ ละอธบิ ายจดุ มงุ่ หมาย ของศลิ ปินใน
การเลอื กใชว้ สั ดุ อปุ กรณ์เทคนคิ และเนอื้ หา เพอื่ สรา้ งสรรคง์ านทัศนศลิ ป์ 1.ทักทายนักเรยี นในชว่ั โมงแรกของการเรยี น Q=ถามถงึ สงิ่ ทเี่ คยเรยี นมา เพอ่ื ตรวจสอบพน้ื ฐาน S=ใชค้ าถามนาเพอ่ื พนื้ ฐานความรขู ้ อง -หอ้ งเรยี นศลิ ปะ
ศ 1.2 ม.4-6/2 ระบงุ านทศั นศลิ ป์ ของศลิ ปินทมี่ ชี อื่ เสยี ง และบรรยายผล ตรวจสอบรายชอื่ การเขา้ หอ้ งเรยี น และประสบการณ์การเรยี นศลิ ปะ นักเรยี น -แผนการเรยี นรู ้
ตอบรับของสงั คม 2.สรา้ งขอ้ ตกลงการเรยี นรรู ้ ว่ มกัน R=จาได ้ วา่ เรยี นอะไรมาบา้ ง E=สงั เกตจานวนนักเรยี นทกี่ ารตอบคาถาม
สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด 10 3. เป้ าหมายการเรยี นรู ้ เมอื่ จบบทเรยี นน้ี นักเรยี น Q=ถามถงึ สงิ่ ทกี่ าลงั จะไดเ้ รยี นรู ้ เพอื่ ตรวจสอบวา่ นักเรยี นรจู ้ กั ของนักเรยี น ทาใหร้ วู ้ า่ นักเรยี น มคี วามสนใจ -EPoC Test
สามารถวเิ คราะหง์ านทัศนศลิ ป์ ของศลิ ปินระดับ ของศลิ ปินระดบั โลกทส่ี รา้ งงานศลิ ปะ คนไหนบา้ ง ? และมผี ลงาน ใฝ่ เรยี นรู ้
ศลิ ปิน คอื ผสู ้ รา้ งงานศลิ ปะโดยมจี ดุ มงุ่ หมายในการถา่ ยทอดความคดิ โลก ะมคี วามสนใจงานทศั นศลิ ป์ มากขนี้ มารถ อะไร บา้ ง ?
ความรสู ้ กึ ทม่ี ตี อ่ ธรรมชาติ สงั คม สงิ่ แวดลอ้ มออกมาเป็ นผลงานศลิ ปะ โดยใช ้ ถา่ ยทอดเนอื้ หาหรอื เลา่ ใหผ้ อู ้ นื่ ฟังได ้ E=สามารถทาแบบทดสอบได ้ อยา่ ง
เทคนคิ วสั ดอุ ปุ กรณ์ ตามความถนัดและประสบการณ์ ศลิ ปินสามารถ Q=นักเรยี นรสู ้ กึ อยา่ งไร? กบั การทาแบบทดสอบวดั ทกั ษะ คลอ่ งแคลว่ ผา่ น/ไมผ่ า่ น การใชเ้ ครอื่ งมอื ฝึก
สรา้ งสรรค์ นาเสนอสง่ิ แปลกใหมท่ ไี่ มเ่ คยมมี ากอ่ น ในทางศลิ ปะ สามารถ -ทดสอบทกั ษะการคดิ วเิ คราะหข์ องผเู ้ รยี น โดย การคดิ ทต่ี อ้ งใชก้ ารจับเวลาสนั้ ๆ (พงึ พอใจ/ไมพ่ งึ พอใจ) ใชท้ ักษะการคดิ วเิ คราะห์
กระทาโดยการนาวธิ จี ดั รปู แบบองคป์ ระกอบศลิ ปะโดยใชท้ ศั นะธาตุ เชน่ เสน้ 10 แบบทดสอบ 2 ชดุ ใชเ้ วลาทาชดุ ละไมเ่ กนิ 5 R= กระตอื รอื รน้ สนกุ สนาน /ตนื่ เตน้ คดิ ไมอ่ อกทาไดค้ อ่ นขา้ ง
นาที
สี น้าหนัก พนื้ ผวิ รปู รา่ ง รปู ทรง เป็ นสอื่ ในการถา่ ยทอด และผา่ นเทคนคิ
ตา่ ง ๆ ในทางจติ รกรรมอาจใช ้ ดนิ สอสี สนี ้ามัน สนี ้า สอี ะครลิ คิ สฝี ่ นุ หรอื
เทคนคิ ผสม เป็ นตน้ นอ้ ย /ไมพ่ รอ้ มรว่ มกจิ กรรม S=ใหค้ าแนะนักเรยี นทที่ าไดค้ อ่ นขา้ งนอ้ ย

ความรู้ (Knowledge) L=นักเรยี นทาแบบทดสอบวดั ทกั ษะการคดิ สาหรับนักเรยี นไมพ้ รอ้ มรว่ มกจิ กรรม บนั ทกึ
1.การเลอื กใชว้ สั ดุ อปุ กรณ์ และเทคนคิ ของศลิ ปิน
2.จดุ มงุ่ หมายของศลิ ปินในการเลอื กใชว้ สั ดุ อปุ กรณ์ เทคนคิ และเนอื้ หา ผลกรณศี กึ ษา นัดหมายการเรยี นซอ่ มเสรมิ
3.งานทัศนศลิ ป์ ของศลิ ปินทม่ี ชี อ่ื เสยี ง และบรรยายผลตอบรับของสงั คม
15 -สรา้ งแรงบนั ดาลใจใหน้ ักเรยี นเกดิ ความใฝ่ เรยี นรู ้ Q=นักเรยี นไดแ้ รงบนั ดาลใจอยา่ งไร ? หรอื เกดิ ขอ้ คาถาม ขอ้ E=การตอบคาถามของนักเรยี นและผลลพั ธ์ -คลบิ วดี โิ อ https://
ทกั ษะกระบวนการ(Process) 5
1.การคดิ เชงิ วเิ คราะห์ โดยใหช้ มคลปิ วดี โิ อ “สมมตฐิ าน วาระสดุ ทา้ ย สงสยั อะไรบา้ ง ระหวา่ งศลิ ปะ กบั วทิ ยาศาสตร์ การเรยี นรู ้ www.youtube.
คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (Attributes)
1.คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคต์ ามหลกั สตู รแกนกลางฯ ของ 'แวนโก๊ะ” L=คาถาม มมุ มองทแี่ ตกตา่ ง ความคดิ โตแ้ ยง้ คณุ คา่ ทซ่ี อ่ นอยู่ S=รว่ มวเิ คราะหใ์ หข้ อ้ มลู เพมิ่ เตมิ กรณี com/watch?v=

-ใฝ่ เรยี นรู ้ -เขยี นวเิ คราะหผ์ ลลพั ธก์ ารเรยี นรู ้ วา่ และแรงบนั ดาลใจ นักเรยี นมขี อ้ สงสยั DHe9Q0woAaM

การ อ่าน คดิ วิเคราะหแ์ ละเขียน “ศลิ ปะ กบั วทิ ยาศาสตร์ “ เกย่ี วขอ้ ง/มคี วาม R=ความน่าสนใจของคาถาม /ผลลพั ธก์ ารเรยี นรทู ้ ี่ นร.เขยี น -Forced connection
การอา่ น การคดิ วเิ คราะห์ การเขยี น
สมั พนธก์ นั ไดอ้ ยา่ งไร
-ตัวอยา่ งผลงานของศลิ ปิน ระดบั โลกคนอนื่ ๆ ทม่ี ี Q=มนี ักเรยี นสนใจอยากรเู ้ รอ่ื งศลิ ปินระดับโลก/ศลิ ปินของไทย E=การเปิดโอกาสใหน้ ักเรยี นไดเ้ ลา่
-E-book “เรยี นรงู ้ าน

ชอื่ เสยี งเพมิ่ เตมิ เชน่ ดา วนิ ชี ปี กสั โซ และ คนไหนอกี บา้ ง ?/ตอ้ งการแลกเปลย่ี นเรยี นรู ้ กบั ผลงานศลิ ปินที่ ประสบการณ์หรอื แสดงความคดิ เห็น จะเป็ น ทัศนศลิ ป์ ของศลิ ปิน”

ไมเคลิ แองเจโล และศลิ ปินแหง่ ชาตขิ องไทยใน ประทบั ใจ ขอ้ มลู ในการประเมนิ ดา้ นความแตกตา่ ง ใหเ้ รยี นรเู ้ พมิ่ เตมิ

สาขาทศั นศลิ ป์ R=นักเรยี นเลา่ /นาเสนอศลิ ปินทตี่ นเองชน่ื ชอบ ระหวา่ งบคุ คล -เวป็ ไซตท์ างการศกึ ษา

L=แลกเปลย่ี นเรยี นรู ้ เพอ่ื สรา้ งแรงบนั ดาลใจ S=รว่ มวเิ คราะหใ์ หข้ อ้ มลู เพมิ่ เตมิ กรณี

ด้านสมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน นักเรยี นมขี อ้ สงสยั
E=เปิดโอกาสใหน้ ักเรยี นไดม้ สี ว่ นรว่ มประเมนิ -ประเมนิ ผล Linear
 ความสามารถในการคดิ 10 ถอดบทเรยี น reflect: Q1= I learn อะไรบา้ ง ? ทฉี่ ันไดเ้ รยี นรู ้ ในวนั น้ี
กจิ กรรมการเรียนรู้
-I learn - I like -I wish I- wonder Q2= I like –ฉันชอบ อะไร ? ในคาบนี้ ตนเอง
1. ใชร้ ปู แบบการเรยี นรหู ้ อ้ งเรยี นศลิ ปะ KID-D
ขนั้ ที่ 1 Discussion แลกเปลยี่ นเรยี นรสู ้ รา้ งแรงบนั ดาลใจ เพอื่ พฒั นาทักษะ -สรปุ และประเมนิ ผลกจิ กรรมรว่ มกัน Q3= I wish –ฉันคาดหวงั ในคาบตอ่ ไป...คอื อะไร? S=ครสู รปุ ผลการเรยี นรแู ้ ละแนะนาการเรยี นรู ้ -reflect: exit slip
กระบวนการคดิ วเิ คราะห์
-แนะนาการเรยี นรใู ้ นชว่ั โมงตอ่ ไป Q4= I wonder – สง่ิ ทฉี่ ันสงสยั ...? ในคาบเรยี นน้ี ในชว่ั โมงตอ่ ไป
2.จัดกระบวนการเรยี นรแู ้ บบ Active Learning ·เพอื่ ทกั ษะการคดิ แบบ
DIVERGENT และ CONVERGENT L=สรปุ และประเมนิ ผลกจิ กรรมรว่ มกนั

3.สรา้ งแรงบนั ดาลใจ ดว้ ยการ ชมคลปิ วดี โิ อ “สมมตฐิ าน วาระสดุ ทา้ ย R=มสี ว่ นรว่ มในกจิ กรรมการเรยี นอยา่ งเป็ นธรรมชาติ
ของ 'แวนโก๊ะ
4.เขยี นผลลัพธก์ ารเรยี นรู ้ และประเมนิ ทกั ษะการคดิ กระตอื รอื รน้ แสดงออกถงึ ความใฝ่ เรยี นรแู ้ ละ

มคี วามรับผดิ ชอบ โรงเรียนบญุ วาทย์วทิ ยาลัย

สานักงานเขตพ้นื ท่ีการศกึ ษามัธยมศึกษา ลาปาง ลาพนู

ศลิ ปศึกษา “เรียนรงู้ านทศั นศลิ ปข์ องศิลปนิ ” 1
ศ32101
ครผู สู้ อน นางสบนั นา มหาวรรณ์
ระดบั ชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 5
วัดทักษะการคิดเชิงวิเคราะห์
ใหน้ กั เรยี นวาดภาพลายเสน้ ทก่ี าหนด ไดม้ ากทส่ี ดุ
(เวลา 5 นาท)ี ใหน้ กั เรยี นาตวั อยา่ งภาพลายเสน้
มาจดั องคป์ ระกอบสรา้ งสรรคเ์ ป็ นผลงานศลิ ปะ (เวลา 5 นาท)ี
คาแนะนา วำดภำพอย่ำงมีควำมสขุ ด้วยควำมซอื่ สัตยต์ อ่ ตนเอง
คาแนะนา วำดภำพอย่ำงมคี วำมสขุ ด้วยควำมซือ่ สัตย์ต่อตนเอง

โรงเรียนบญุ วาทยว์ ิทยาลยั
สานักงานเขตพน้ื ที่การศึกษามธั ยมศึกษา ลาปาง ลาพนู

ศลิ ปศึกษา “เรียนร้งู านทัศนศลิ ปข์ องศิลปนิ ” 1
ศ32101
ครผู ้สู อน นางสบนั นา มหาวรรณ์
ระดับชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ 5

ชมคลปิ วีดิโอ “สมมติฐาน วาระสุดทา้ ยของ 'แวนโก๊ะ

https://www.youtube.

com/watch?v
=DHe9Q0woAaM

เขียนวิเคราะห์ผลลัพธก์ ารเรยี นรู้

ศิลปศึกษา “เรยี นรู้งานทศั นศลิ ปข์ องศลิ ปนิ ” 1
ศ32101
ครูผูส้ อน นางสบนั นา มหาวรรณ์
ระดับช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ 5

5 จติ กรเอกและผลงานชน้ิ เอกของโลก

1.เลโอนารโ์ ดดาวนิ ชี
(Leonardo da Vinci)
ผมู้ ชี อื่ เสียงมากทส่ี ุดแห่งยุคเรอเนสซองส์
เกดิ ทห่ี มบู่ า้ น Vinci ใกลเ้ มอื งฟลอ
เรนซ์ ประเทศอติ าลี ดา วนิ ชไี ด ้
เรยี นรงู ้ านศลิ ปะทบ่ี า้ นเกดิ ของ
ตนเอง และผลงานทม่ี ชี อ่ื เสยี งมาก
ทส่ี ดุ ในโลกคอื ภาพเขยี น
Mona Lisa ทใ่ี ชเ้ วลาการเขยี นภาพ
นนี้ านหลายปี ทาใหไ้ ดร้ ับตาแหน่ง
จติ รกรเอกและวศิ วกรของราชสานัก
ฝร่ังเศส ในปี 1515 ดา วนิ ชี ไดท้ ง้ิ
ผลงานชนั้ ยอดไวก้ อ่ นเขาจะเสยี ชวี ติ
ทงั้ ผลงานดา้ นศลิ ปะและดา้ น
วทิ ยาศาสตร์ และไดร้ ับสมญานามวา่

“บุรุษแห่งยคุ เรอเนสซองส์”

ศิลปศกึ ษา “เรียนรู้งานทศั นศลิ ปข์ องศลิ ปนิ ” 1
ศ32101
ครผู ู้สอน นางสบนั นา มหาวรรณ์
ระดับชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ 5

5 จติ กรเอกและผลงานช้นิ เอกของโลก

2. ปาโบล ปี กสั โซ
(Pablo Picasso)

เป็นผู้ทรงอทิ ธพิ ลแหง่ ศิลปะสมยั ใหม่

เกดิ ทเี่ มอื งมาลากา ประเทศสเปน ในปี
1900 ปีกสั โซ ไดย้ า้ ยไปอาศยั อยทู่ ี่
ปารสี อยา่ งถาวร ผลงานของปีกสั โซมี
ความพัฒนาและมแี นวคดิ ทส่ี รา้ งสรรค์
ตามชว่ งเวลา การคลมุ โทนสภี าพใน
การสอื่ อารมณต์ า่ งๆ เชน่

ภาพเขยี น Boy with a Pipe โดยจะ
สอ่ื อารมณท์ สี่ ดใส ปีกสั โซไดร้ ับการ

ยกยอ่ งใหเ้ ป็ น “ศลิ ปินทม่ี ีพรสวรรค์

ในการสร้างสรรค์มากทสี่ ดุ ใน
ศตวรรษที่ 20” กอ่ นจะเสยี ชวี ติ ได ้

ฝากผลงานอนั ทรงคณุ คา่ กวา่ 13,000
ภาพและงานศลิ ปะอน่ื อกี มากมาย

ศลิ ปศึกษา “เรียนรู้งานทศั นศลิ ปข์ องศลิ ปนิ ” 1
ศ32101
ครผู สู้ อน นางสบนั นา มหาวรรณ์
ระดับชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 5
5 จติ กรเอกและผลงานชิน้ เอกของโลก

3. ไมเคลิ แองเจโล
(Michelangelo)
เป็ นทงั้ จติ รกร ประตมิ ากร และสถาปนกิ
เกดิ ทเ่ี มอื งอาเรซโซ ประเทศอติ าลี
เป็ นศลิ ปินแหง่ ยคุ เรอเนสซองสท์ ัดเทยี ม
กบั เลโอนารโ์ ด ดา วนิ ชี ไมเคลิ แอง
เจโลไดเ้ ตบิ โตและเลา่ เรยี นอยทู่ เ่ี มอื ง
ฟลอเรนซ์ จนอายุ 15 ปีก็เรมิ่ มผี ลงาน
ดา้ นประตมิ ากรรม ไมเคลิ แองเจโล
ยังไดส้ รา้ งผลงานอกี หลายชนิ้ ทงั้ งาน
แกะสลกั ภาพเขยี น และผลงานสาคญั
ยง่ิ ใหญอ่ กี มากมายและผลงานชนิ้ เอกท่ี
ทาใหไ้ มเคลิ แองเจโล มชี อื้ เสยี ง คอื

“งานแกะสลกั รูปป้ันเดวดิ ”

ศลิ ปศกึ ษา “เรยี นร้งู านทศั นศลิ ปข์ องศลิ ปนิ ” 1
ศ32101
ครผู ูส้ อน นางสบนั นา มหาวรรณ์
ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5

5 จติ กรเอกและผลงานชิ้นเอกของโลก

4. วนิ เซนต์ แวนโกะ๊
(Vincent van Gogh)

เป็นศิลปินที่มชี ื่อเสยี งและมีอิทธพิ ลใน

ประวตั ศิ าสตร์ศิลปะตะวันตกมากทสี่ ดุ

เกดิ ทป่ี ระเทศเนเธอรแ์ ลนด์ ผลงานของ
เขา โดดเดน่ ทัง้ ความงดงาม อารมณ์
ความรสู ้ กึ และสสี นั สดใส แวนโกะ๊ เป็ น
เดก็ ทจี่ รงิ จังและคดิ มากในการทางาน
ตา่ งๆ จนถงึ อายุ 27 ปี หนั มาสนใจและ
เรมิ่ ตน้ เขยี นภาพ ในปี 1886 ไดย้ า้ ยไปอยู่
ทกี่ รงุ ปารสี ทาใหไ้ ดเ้ รยี นรเู ้ ทคนคิ และ
แนวทางตา่ งๆ ในการเขยี นภาพ และได ้
สรา้ งผลงานชนั้ ยอดมากมาย ผมงานทม่ี ี
ชอื่ เสยี งมากทส่ี ดุ คอื The Starry
Night มผี ลงานภาพเขยี นกวา่ 800 ภาพ
เป็ นผลงานทถ่ี า่ ยทอดอารมณ์ความรสู ้ กึ ได ้
อยา่ งดี และผลงานของแวนโกะ๊ เป็ นที่
ตอ้ งการและถกู ขายในราคาทส่ี งู มาก

ศิลปศึกษา “เรยี นร้งู านทัศนศลิ ปข์ องศลิ ปนิ ” 1
ศ32101
ครูผสู้ อน นางสบนั นา มหาวรรณ์
ระดบั ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 5

5 จติ กรเอกและผลงานชน้ิ เอกของโลก

5. โกลด มอแน
(Claude Monet)

เป็นผู้รเิ ริ่มศลิ ปะอมิ เพรสชนั่ นิสม์

เกดิ ทก่ี รงุ ปารสี เป็ นจติ รกรคนสาคญั
ของฝร่ังเศส และไดเ้ ตบิ โตและเรยี น
ศลิ ปะทเ่ี มอื งเลออาฟวร์ จนในปี 1865
มอแนไดพ้ บกบั Camille Doncieux
ซงึ่ มาเป็ นนางแบบใหแ้ ละตอ่ มาไดเ้ ป็ น
ภรรยาคนแรกของเขา มอแนเขยี นภาพ
ทมี่ ภี รรยาอยใู่ นภาพดว้ ยอยเู่ สมอ
และในปี 1883 มอแนยา้ ยไปอยทู่ เ่ี มอื ง
จแิ วรน์ ยี ์ และไดเ้ ขยี นชดุ ภาพ Water
Lilies ซง่ึ ไดแ้ บบมาจากสวนหลงั บา้ น
ของมอแน ซง่ึ ภาพนมี้ ชี อ่ื เสยี งมากทสี่ ดุ
กอ่ นเสยี งชวี ติ มอแนไดท้ ง้ิ ผลงานใหผ้ คู ้ น
ไดช้ น่ื ชมดว้ ยความประทบั ใจมากมาย

ศิลปศึกษา “เรยี นรู้งานทศั นศิลป์ของศลิ ปนิ ” 1
ศ32101
ครูผสู้ อน นางสบันนา มหาวรรณ์
ระดับชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 5
5 อนั ดบั ภาพท่แี พงที่สุด
อนั ดับ 5 Irises by Vincent van Gogh
ราคาประมาณ $78,400,000 อนั ดบั ที่ 2 Bal au
moulin de la
อนั ดบั ที่ 4 Dora Maar
au Chat by Pablo Galette by Pierre-
Auguste
Picasso
ราคาประมาณ Renoir ราคา
$95,216,000 ประมาณ

$110,420,000

อันดับที่ 3 Garcon a la อนั ดบั ที่ 1 Portrait of Dr. Gachet by Vincent van Gogh
Pipe by Pablo Picasso
ราคาประมาณ $116,790,000 Mona Lisa ภาพทป่ี ระเมินค่ามิได้
ราคาประมาณ $106,910,000

https://www.youtube.com/watch?v=OKOPA5fDvOs

ศลิ ปศึกษา “ออกแบบงานทศั นศิลปด์ ว้ ยเทคนคิ สีน้า” 2
ศ32101
ครผู ้สู อน นางสบันนา มหาวรรณ์
ระดับชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 5

สาระ:มาตรฐานการเรยี นรู้ ออกแบบการเรยี นรูด้ ้วยความร่วมมอื

สาระ : ทัศนศลิ ปะ เปา้ หมาย 1.นักเรยี นรูส้ ึกต่นื เต้น สนุกสนำนเพลดิ เพลนิ กับกำรไดล้ งมือสมั ผัสเทคนคิ สนี ำ้
มาตรฐาน ศ 1.1 สรา้ งสรรคง์ านทัศนศลิ ป์ ตามจนิ ตนาการ และ
ความคดิ สรา้ งสรรค์ วเิ คราะห์ วพิ ากษ์ วจิ ารณ์คณุ คา่ งานทัศนศลิ ป์ กจิ กรรมการเรยี นการสอน สอ่ื การ
ถา่ ยทอดความรสู ้ กึ ความคดิ ตอ่ งานศลิ ปะอยา่ งอสิ ระ
ชน่ื ชม และประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ติ ประจาวนั เวลา กจิ กรรมและเนอ้ื หาการเรยี นรู้ Q=การถามคาถามของครู S=การสนบั สนนุ จากครู
นาท ่ี
ตวั ช้วี ัด คาบเรยี นที่ 2 L=การเรยี นการสอน E=การประเมนิ ผลของครู สอน/
ศ 1.1 ม.4-6/4 มที กั ษะและเทคนคิ ในการใชว้ สั ดอุ ปุ กรณแ์ ละ 5
กระบวนการทสี่ งู ขนึ้ ในการสรา้ งงานทัศนศลิ ป์ 10 R=ปฏกิ ริ ยิ าของนกั เรยี น เครอื่ งมอื
20
สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด 1.ทกั ทายนักเรยี น และตรวเชค็ ยชอื่ นักเรยี น Q=ถามถงึ สง่ิ ทเ่ี คยเรยี นมา เพอ่ื ตรวจสอบพนื้ ฐานและ S1=ใชค้ าถามนาเพอื่ กระตนุ ้ ความสนใจใฝ่ -หอ้ งเรยี น
10
กระบวนการสรา้ งสรรค์ สามารถแสดงออก พรอ้ มแนะนาวสั ดุ อปุ กรณ์ ทจ่ี ะใชใ้ นการปฏบิ ตั ิ ประสบการณก์ ารเรยี นศลิ ปะ เรยี นรู ้ ศลิ ปะ
ไดห้ ลายวธิ กี ารดงั นี้ 5
การสรา้ งสรรคแ์ บบรปู ธรรม (Realistic)การสรา้ งสรรคก์ ง่ึ นามธรรม กจิ กรรม และการจัดเกบ็ เมอ่ื หมดคาบเรยี นแลว้ R=จาได ้ วา่ เรยี นอะไรมาบา้ ง S2=นัดหมายการเรยี นซอ่ มเสรมิ สาหรบั -แผนการเรยี นรู ้
(Semi Abstract)การสรา้ งสรรคน์ ามธรรม (Abstract) ประเภท
ความคดิ สรา้ งสรรคค์ วามคดิ สรา้ งสรรคแ์ บง่ ออกเป็ น 3 ประเภท 2.แจง้ เป้าหมายการเรยี นรู ้ ในคาบเรยี นนี้ Q=ถามถงึ สงิ่ ทก่ี าลงั จะไดเ้ รยี นรู ้ เพอื่ ตรวจสอบวา่ นักเรยี นทข่ี าดเรยี นในคาบทผี่ า่ นมา
ไดแ้ ก่ ความคดิ สรา้ งสรรคท์ างความคดิ (Creative in thinking)
ความคดิ สรา้ งสรรคท์ างความงาม(Creative in beauty) ความคดิ “นักเรยี นรสู ้ กึ ตน่ื เตน้ สนุกสนานเพลดิ เพลนิ กบั ทกั ษะพนื้ ฐานและขอ้ มลู ผเู ้ รยี น E=สงั เกตจานวนนักเรยี นทก่ี ารตอบคาถาม
สรา้ งสรรคท์ างประโยชนใ์ ชส้ อย (Creative in function) เป็ นตน้
คณุ สมบตั ขิ องผทู ้ ม่ี คี วามคดิ สรา้ งสรรคเ์ ป็ นผทู ้ ห่ี มั่นศกึ ษาหาความรู ้ การไดล้ งมอื สมั ผสั เทคนคิ สนี ้า” ของนักเรยี น ทาใหร้ วู ้ า่ นักเรยี น มพี น้ื ฐานและ
และประสบการณต์ า่ งๆ อยเู่ สมอ กลา้ คดิ กลา้ ทาอยา่ งมกี ระบวนการ
เป็ นนักแกป้ ัญหา ชอบสรา้ งสรรคส์ ง่ิ ใหมท่ แ่ี ปลกแหวกแนว ไม่ 3.ใหน้ ักเรยี นแบง่ กลมุ่ ตามความสมคั รใจ แบง่ ประสบการณก์ ารเรยี นศลิ ปะ อยใู่ นระดบั ใด
เหมอื นผอู ้ นื่ การสรา้ งสรรคง์ านศลิ ปะมกี ระบวนการหรอื ขนั้ ตอน
ตามลาดับ ดงั นก้ี ารรับรู ้ (Perception) ประสบการณ์ (Experience) หนา้ ทจี่ ัดเตรยี มและจัดเกบ็ วสั ดุ อปุ กรณใ์ น
จนิ ตนาการ (Imagination)
การระบายสนี ้า ตามทตี่ กลงกนั ไว ้
ความรู้ (Knowledge) 4.อธบิ ายขนั้ ตอนและหลกั การใชว้ สั ดอุ ปุ กรณ์ Q=นักเรยี นมคี วามเขา้ ใจ ลาดบั ขนั้ ตอนและจะสามารถ EE=การตอบคาถามของนักเรยี นเพอื่ สารวจ -อปุ กรณร์ ะบาย
-กระบวนการสรา้ งสรรค์ งานทศั นศลิ ป์
5. สรา้ งแรงบนั ดาลใจ โดยครสู าธติ เทคนคิ สี ปฏบิ ตั งิ านตามขนั้ ตอนได ้ มากกวา่ 75 % ? (ทาได/้ ทา ความพรอ้ มและความสนใจ สนี ้า
ทักษะกระบวนการ(Process)
-การคดิ สรา้ งสรรค์ น้าใหน้ ักเรยี นชม ไมไ่ ด)้ S=ใหน้ ักเรยี นไดถ้ ามกอ่ นลงมอื ทางาน

คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ (Attributes) R= สนใจ ตงั้ ใจ กระตอื รอื รน้
1.คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงคต์ ามหลกั สตู รแกนกลางฯ
–มงุ่ มั่นในการทางาน 6.ลงมอื สมั ผสั เทคนคิ สนี ้า ตามขนั้ ตอนดว้ ย L=นักเรยี นทกุ คนไดเ้ หน็ ขนั้ ตอนการใชเ้ ทคนคิ สนี ้า

การ อา่ น คดิ วิเคราะห์และเขียน R= กระตอื รอื รน้ สนุกสนาน ตนื่ เตน้ EE=การตอบของนักเรยี นเพอื่ ดคู วามพรอ้ ม -อปุ กรณร์ ะบาย
การอา่ น การคดิ วเิ คราะห์ การเขยี น
ความรบั ผดิ ชอบ L=นักเรยี นทกุ คนลงมอื ไดล้ งมอื สมั ผสั เทคนคิ สนี ้า S1=ครเู สรมิ แรง ใหค้ าแนะนักเรยี นทไ่ี มค่ อ่ ย สนี ้า
ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน
 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ กลา้ ลงสี เพราะกลวั งานเลอะขาดความมน่ั ใจ

กจิ กรรมการเรยี นรู้ ในทกั ษะ
1. ศกึ ษาผลงานทศั นศลิ ป์ ทสี่ รา้ งสรรคด์ ว้ ยเทคนคิ สนี ้า
2. รว่ มกันวางแผนสรา้ งงานทศั นศลิ ป์ ดว้ ยเทคนคิ สนี ้า S2=ครชู น่ื ชม ผลงานนักเรยี นทกี่ ลา้ คดิ นอก

บรู ณการกบั แหลง่ เรยี นรสู ้ วนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น กรอบและมคี วามแปลก ใหม่ -อปุ กรณ์ระบาย
7.ปรบั ปรงุ พฒั นา สะทอ้ นผลการปฏบิ ตั งิ าน Q=นักเรยี นเจอปัญหา /มขี อ้ สงสยั ระหวา่ งปฏบิ ตั งิ าน E=การเปิดโอกาสใหน้ ักเรยี นไดเ้ ลา่

อะไรบา้ ง ประสบการณ์หรอื แสดงความคดิ เหน็ จะเป็ น สนี ้า

R=นักเรยี นเลา่ /นาเสนอผลงานตนเอง ขอ้ มลู ในการประเมนิ ดา้ นความแตกตา่ งระหวา่ ง

L=แลกเปลย่ี นเรยี นรู ้ เพอื่ ปรบั ปรงุ พฒั นาเทคนคิ วธิ กี าร บคุ คล

S=รว่ มวเิ คราะหใ์ หข้ อ้ มลู เพม่ิ เตมิ กรณีนักเรยี น

8สรปุ และประเมนิ ผลกจิ กรรมรว่ มกนั Q=รสู ้ กึ อยา่ งไรบา้ ง กบั กจิ กรรมในวนั น้ี มขี อ้ สงสยั
E=เปิดโอกาสใหน้ ักเรยี นไดม้ สี ว่ นรว่ มประเมนิ -ประเมนิ ผล

-แนะนาการเรยี นรใู ้ นชวั่ โมงตอ่ ไป มคี วามพงิ พอใจในผลงาน ระดบั ใด ตนเอง Linear
L=สรปุ และประเมนิ ผลกจิ กรรมรว่ มกนั
S=ครสู รปุ ผลการเรยี นรแู ้ ละแนะนาการเรยี นรใู ้ น

R=มสี ว่ นรว่ มในกจิ กรรมการเรยี นอยา่ งเป็ นธรรมชาติ ชวั่ โมงตอ่ ไป

กระตอื รอื รน้ แสดงออกถงึ ความใฝ่ เรยี นรแู ้ ละ โรงเรยี นบญุ วาทยว์ ิทยาลัย
มคี วามรับผดิ ชอบ สานักงานเขตพนื้ ที่การศึกษามธั ยมศกึ ษา ลาปาง ลาพนู

ศลิ ปศกึ ษา “ออกแบบงานทัศนศลิ ปด์ ว้ ยเทคนคิ สีนา้ ” 1
ศ32101
ครผู ู้สอน นางสบนั นา มหาวรรณ์
ระดบั ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 5
สมั ผัสสนี ำ้

โรงเรียนบญุ วาทยว์ ิทยาลยั
สานกั งานเขตพื้นที่การศึกษามธั ยมศึกษา ลาปาง ลาพนู

ศลิ ปศึกษา ” 1
ศ32101
ครผู สู้ อน นางสบนั นา มหาวรรณ์
ระดบั ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 5

โรงเรียนบญุ วาทย์วิทยาลยั
สานักงานเขตพ้นื ที่การศึกษามธั ยมศึกษา ลาปาง ลาพูน

ศิลปศึกษา “ออกแบบงานทศั นศลิ ปด์ ้วยเทคนคิ สีนา้ ” 2
ศ32101
ครผู ูส้ อน นางสบันนา มหาวรรณ์
ระดบั ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 5

สาระ:มาตรฐานการเรยี นรู้ ออกแบบการเรียนรู้ด้วยความรว่ มมือ
2.นกั เรียนรว่ มกนั คดิ คอนเทนต์(Content) วำงแผนสรำ้ งงำนทศั นศิลปด์ ้วยเทคนิคสีนำ้ โดยบรู ณกำร
สาระ : ทศั นศิลปะ เปา้ หมาย กับแหลง่ เรียนร้สู วนพฤกษศำสตรโ์ รงเรียน ดว้ ยควำมชน่ื ชมและเหน็ คณุ คำ่
มาตรฐาน ศ 1.1 สรา้ งสรรคง์ านทศั นศลิ ป์ ตามจนิ ตนาการ และ
ความคดิ สรา้ งสรรค์ วเิ คราะห์ วพิ ากษ์ วจิ ารณ์คณุ คา่ งานทศั นศลิ ป์ กจิ กรรมการเรยี นการสอน สอ่ื การสอน/
ถา่ ยทอดความรสู ้ กึ ความคดิ ตอ่ งานศลิ ปะอยา่ งอสิ ระ
ชนื่ ชม และประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ติ ประจาวนั เวลา กจิ กรรมและเนอ้ื หาการเรยี นรู้ Q=การถามคาถามของครู S=การสนบั สนุนจากครู
นาท ี่
ตวั ชว้ี ัด คาบเรยี นที่ 3 L=การเรยี นการสอน E=การประเมนิ ผลของครู เครอ่ื งมอื
ศ 1.1 ม.4-6/4 มที ักษะและเทคนคิ ในการใชว้ สั ดอุ ปุ กรณแ์ ละ 5
กระบวนการทส่ี งู ขน้ึ ในการสรา้ งงานทัศนศลิ ป์ R=ปฏกิ ริ ยิ าของนกั เรยี น
10
สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด 1.ทกั ทาย ตรวจเชค็ ยชอ่ื นักเรยี นทเ่ี ลอื ก Q=ถามถงึ สง่ิ ทเ่ี คยเรยี นมา เพอ่ื ตรวจสอบวา่ จาไดห้ รอื ไม่ S1=ใชค้ าถามทเี่ คยใชใ้ นคาบทเ่ี รยี นแลว้ -หอ้ งเรยี นศลิ ปะ
กระบวนการสรา้ งสรรค์ สามารถแสดงออก 20
น่ังตามกลมุ่ ดว้ ยความสมคั รใจ พรอ้ มกบั R=จาได-้ ลมื แลว้ เพอ่ื ตรวจสอบความจาของผเู ้ รยี นหรอื ใช -แผนการเรยี นรู ้
ไดห้ ลายวธิ กี ารดงั นี้ 10
การสรา้ งสรรคแ์ บบรปู ธรรม (Realistic)การสรา้ งสรรคก์ ง่ึ นามธรรม 5 ซกั ถามทบทวนกจิ กรรมการเรยี นใน Q=ถามถงึ ความแตกตา่ งระหวา่ งสง่ิ ทไี่ ดเ้ รยี นรู ้ ทบทวนความรู ้
(Semi Abstract)การสรา้ งสรรคน์ ามธรรม (Abstract) ประเภท
ความคดิ สรา้ งสรรคค์ วามคดิ สรา้ งสรรคแ์ บง่ ออกเป็ น 3 ประเภท ชวั่ โมงทผี่ า่ นมา กบั การเรยี นกบั การเรยี นในครงั้ นี้ S2=นัดหมายการเรยี นซอ่ มเสรมิ สาหรับ
ไดแ้ ก่ ความคดิ สรา้ งสรรคท์ างความคดิ (Creative in thinking) นักเรยี นทขี่ าดเรยี นในคาบทผี่ า่ นมา
ความคดิ สรา้ งสรรคท์ างความงาม(Creative in beauty) ความคดิ 2.แจง้ เป้าหมายการเรยี นรู ้ ในคาบเรยี นนี้ R=ลกั ษณะของสนี ้า-เทคนคิ สนี ้า E=สงั เกตจานวนนักเรยี นทกี่ ารตอบ
สรา้ งสรรคท์ างประโยชนใ์ ชส้ อย (Creative in function) เป็ นตน้
คณุ สมบัตขิ องผทู ้ ม่ี คี วามคดิ สรา้ งสรรคเ์ ป็ นผทู ้ ห่ี ม่ันศกึ ษาหาความรู ้ จะทาใหน้ ักเรยี นรว่ มกนั คดิ คอนเทนต์
และประสบการณ์ตา่ งๆ อยเู่ สมอ กลา้ คดิ กลา้ ทาอยา่ งมกี ระบวนการ
เป็ นนักแกป้ ัญหา ชอบสรา้ งสรรคส์ ง่ิ ใหมท่ แี่ ปลกแหวกแนว ไม่ (Content) วางแผนสรา้ งงานทศั นศลิ ป์ คาถามของนักเรยี น ทาใหร้ วู ้ า่ นักเรยี น มี
เหมอื นผอู ้ นื่ การสรา้ งสรรคง์ านศลิ ปะมกี ระบวนการหรอื ขนั้ ตอน
ตามลาดับ ดังนกี้ ารรับรู ้ (Perception) ประสบการณ์ (Experience) ดว้ ยเทคนคิ สนี ้าโดยบรู ณการกบั แหลง่ พน้ื ฐานและประสบการณ์การเรยี นศลิ ปะ
จนิ ตนาการ (Imagination)
เรยี นรสู ้ วนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น ดว้ ย อยใู่ นระดบั ใด
ความรู้ (Knowledge) ความชนื่ ชมและเหน็ คณุ คา่ Q=ทาไม ? ตอ้ งสรา้ งคอนเทนทเ์ พอ่ื ออกแบบงานทศั นศลิ ป์ E=-การตอบคาถามของนักเรยี นทาใหร้ ถู ้ งึ -PPT. การสรา้ ง
-กระบวนการสรา้ งสรรค์ งานทศั นศลิ ป์ 4.ครใู ชส้ อ่ื “คอนเทนท์ (Content)” คอื

ทกั ษะกระบวนการ(Process) อะไร ? R= สนใจ ตงั้ ใจ กระตอื รอื รน้ ตอบคาถาม ระดบั การคดิ และประสบการณ์ของนักเรยี น คอนเทนท์
-การคดิ สรา้ งสรรค์
5.นักเรยี นวางแผนทา“คอนเทนท์ L= -ยกตวั อยา่ งผลงานการสรา้ งคอนเทนท์ (Content)ใน S=ใหน้ ักเรยี นไดถ้ ามกอ่ นลงมอื ทางาน (Content)ในงาน
คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ (Attributes) ทศั นศลิ ป์
1.คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงคต์ ามหลักสตู รแกนกลางฯ งานทศั นศลิ ป์
–มงุ่ มน่ั ในการทางาน Q=นักเรยี นยงั มคี วามคาดหวงั ในเรอ่ื งใดอกี บา้ ง?และยังมี E=การตอบของนกั เรยี นเพอ่ื ดคู วามพรอ้ ม -อปุ กรณ์ระบายสี

การ อา่ น คิดวิเคราะหแ์ ละเขยี น (Content)ในการสรา้ งสรรคง์ าน ความสงสยั อะไรอกี ? S1=ครเู สรมิ แรง ใหค้ าแนะนักเรยี น ใน น้า
การอา่ น การคดิ วเิ คราะห์ การเขยี น กลมุ่ ทเี่ สนอความคดิ ยังไมค่ อ่ ยนา่ สนใจที่ -FILA MAP
ทศั นศลิ ป์ ในหวั ขอ้ สนี ้าสรา้ งสรรค์ พนั ธุ์ R=นักเรยี นตงั้ คาถาม /เสนอมมุ มองทแ่ี ตกตา่ ง แสดง ไมค่ อ่ ย
ด้านสมรรถนะสาคัญของผู้เรยี น S2=ครชู นื่ ชม ผลงานนักเรยี นทก่ี ลา้ คดิ
 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ พฤกษา ตามความถนัดและความสนใจ ความคดิ โตแ้ ยง้ ชใ้ี หเ้ ห็น คณุ คา่ ทซ่ี อ่ นอยู่

กจิ กรรมการเรียนรู้ สนใจ L=หลกั การสาคญั ของการคดิ คอนเทนต์
1. ศกึ ษาผลงานทัศนศลิ ป์ ทสี่ รา้ งสรรคด์ ว้ ยเทคนคิ สนี ้า
2. รว่ มกนั วางแผนสรา้ งงานทศั นศลิ ป์ ดว้ ยเทคนคิ สนี ้า 7. นักเรยี นนาเสนอแนวคดิ การสรา้ ง Q=นักเรยี นเจอปัญหา /มขี อ้ สงสยั ระหวา่ งปฏบิ ตั งิ าน นอกกรอบและมคี วามแปลก ใหม่ -อปุ กรณร์ ะบายสี
E=การเปิดโอกาสใหน้ ักเรยี นไดเ้ ลา่
บรู ณการกบั แหลง่ เรยี นรสู ้ วนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น
“คอนเทนท์ (Content) อะไรบา้ ง ประสบการณ์หรอื แสดงความคดิ เห็น น้า

R=นักเรยี นเลา่ /นาเสนอผลงานกลมุ่ S=รว่ มวเิ คราะหใ์ หข้ อ้ มลู เพม่ิ เตมิ กรณี -FILA MAP

L=แลกเปลยี่ นเรยี นรู ้ สะทอ้ นแนวคดิ เพอ่ื ปรบั ปรงุ พฒั นา นักเรยี นมขี อ้ สงสยั

8สรปุ และประเมนิ ผลกจิ กรรมรว่ มกนั Q=รสู ้ กึ อยา่ งไรบา้ ง กบั กจิ กรรมในวนั นี้ E=เปิดโอกาสใหน้ ักเรยี นไดม้ สี ว่ นรว่ ม -ประเมนิ ผล
-แนะนาการเรยี นรใู ้ นชวั่ โมงตอ่ ไป มคี วามพงิ พอใจในผลงาน ระดบั ใด ประเมนิ ตนเอง Linear
S=ครสู รปุ ผลการเรยี นรแู ้ ละแนะนาการ
นักเรยี นสามารถนาไปประยกุ ตใ์ ชไ้ ดอ้ ยา่ งไรบา้ ง? เรยี นรใู ้ นชวั่ โมงตอ่ ไป ในเรอ่ื งทเ่ี รยี นน้ี มี
L=สรปุ และประเมนิ ผลกจิ กรรมกลมุ่ รว่ มกนั อะไรทนี่ ักเรยี นอยากรเู ้ พมิ่ เตมิ อกี
R=มสี ว่ นรว่ มในกจิ กรรมการเรยี นอยา่ งเป็ นธรรมชาติ

กระตอื รอื รน้ แสดงออกถงึ ความใฝ่ เรยี นรแู ้ ละ โรงเรียนบญุ วาทยว์ ทิ ยาลัย
มคี วามรบั ผดิ ชอบ สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามธั ยมศึกษา ลาปาง ลาพูน

ศิลปศึกษา “ออกแบบงานทัศนศลิ ป์ดว้ ยเทคนิคสนี า้ ” 2
ศ32101
ครูผู้สอน นางสบนั นา มหาวรรณ์
ระดับช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ 5

โรงเรียนบุญวาทย์วิทยาลัย
สานกั งานเขตพ้ืนที่การศึกษามัธยมศกึ ษา ลาปาง ลาพนู

ศลิ ปศกึ ษา “ออกแบบงานทศั นศลิ ปด์ ้วยเทคนิคสีนา้ ” 2
ศ32101
ครูผู้สอน นางสบันนา มหาวรรณ์
ระดบั ชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 5
1.ขอ้ มลู /ขอ้ เทจ็ จรงิ ช่ือผลงาน
สนี ้าสรา้ งสรรค์ (Facts)
พนั ธพุ์ ฤกษา )

2.แนวคดิ สรา้ งนวตั กรรม สง่ิ ที่อยากรู้ แผนปฏบิ ตั ิการ
(Innovation Ideas) (Learning issues) (Action plans)

Content sketch ตวั อย่างผลงาน )

........................................................................... สมาชกิ /บทบาทความรบั ผดิ ชอบ
........................................................................... .........................................................
........................................................................... .........................................................
........................................................................... .........................................................
........................................................................... .........................................................
........................................................................... .........................................................
........................................................................... .........................................................
...........................................................................
.......................................................................... .........................................................
.........................................................
.........................................................
.........................................................
.........................................................
.........................................................
.........................................................

โรงเรียนบุญวาทย์วทิ ยาลยั
สานักงานเขตพน้ื ท่ีการศึกษามัธยมศึกษา ลาปาง ลาพูน

ศลิ ปศึกษา “สีน้ำสรำ้ งสรรค์ พนั ธุ์พฤกษำ” 3
ศ32101
ครูผู้สอน นางสบันนา มหาวรรณ์
ระดับชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 5

สาระ:มาตรฐานการเรียนรู้ ลงมือปฏบิ ตั ดิ ว้ ยความรบั ผิดชอบ

สาระ : ทศั นศิลปะ เปา้ หมาย 2.นักเรยี นร่วมกันสรำ้ งงำนทศั นศลิ ปด์ ้วยเทคนิคสีน้ำโดยบรู ณกำรกบั แหลง่ เรียนรสู้ วนพฤกษศำสตร์
มาตรฐาน ศ 1.1 สรา้ งสรรคง์ านทัศนศลิ ป์ ตามจนิ ตนาการ และ โรงเรยี น ดว้ ยควำมชน่ื ชมและเหน็ คุณค่ำ
ความคดิ สรา้ งสรรค์ วเิ คราะห์ วพิ ากษ์ วจิ ารณ์คณุ คา่ งานทัศนศลิ ป์
ถา่ ยทอดความรสู ้ กึ ความคดิ ตอ่ งานศลิ ปะอยา่ งอสิ ระ กจิ กรรมการเรยี นการสอน สอ่ื การสอน/
ชน่ื ชม และประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ติ ประจาวนั
เวลา กจิ กรรมและเนอ้ื หาการเรยี นรู้ Q=การถามคาถามของครู S=การสนบั สนุนจากครู
ตวั ชว้ี ัด นาท ่ี
ศ 1.1 ม.4-6/4 มที กั ษะและเทคนคิ ในการใชว้ สั ดอุ ปุ กรณแ์ ละ คาบเรยี นท่ี 4 L=การเรยี นการสอน E=การประเมนิ ผลของครู เครอ่ื งมอื
กระบวนการทส่ี งู ขน้ึ ในการสรา้ งงานทัศนศลิ ป์ 5
R=ปฏกิ ริ ยิ าของนกั เรยี น
สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด 5
กระบวนการสรา้ งสรรค์ สามารถแสดงออก 1.ทกั ทาย ตรวจเชค็ ยชอ่ื นักเรยี นทเ่ี ลอื กนงั่ ตาม Q=ถามถงึ สง่ิ ทเี่ คยเรยี นมา เพอื่ ตรวจสอบวา่ จา S1=ใชค้ าถามทเ่ี คยใชใ้ นคาบทเ่ี รยี นแลว้ -หอ้ งเรยี นศลิ ปะ

ไดห้ ลายวธิ กี ารดังน้ี กลมุ่ ดว้ ยความสมคั รใจ พรอ้ มกบั ซกั ถาม ไดห้ รอื ไม่ เพอ่ื ตรวจสอบความจาของผเู ้ รยี นหรอื ใช -แผนการเรยี นรู ้
การสรา้ งสรรคแ์ บบรปู ธรรม (Realistic)การสรา้ งสรรคก์ งึ่ นามธรรม
(Semi Abstract)การสรา้ งสรรคน์ ามธรรม (Abstract) ประเภท ทบทวนกจิ กรรมการเรยี นในชวั่ โมงทผ่ี า่ นมา R=จาได-้ ลมื แลว้ ทบทวนความรู ้
ความคดิ สรา้ งสรรคค์ วามคดิ สรา้ งสรรคแ์ บง่ ออกเป็ น 3 ประเภท
ไดแ้ ก่ ความคดิ สรา้ งสรรคท์ างความคดิ (Creative in thinking) 2.แจง้ เป้าหมายการเรยี นรู ้ ในคาบเรยี นนี้ Q=ถามถงึ ความแตกตา่ งระหวา่ งสง่ิ ทไ่ี ดเ้ รยี นรู ้ S2=นัดหมายการเรยี นซอ่ มเสรมิ สาหรบั
ความคดิ สรา้ งสรรคท์ างความงาม(Creative in beauty) ความคดิ
สรา้ งสรรคท์ างประโยชนใ์ ชส้ อย (Creative in function) เป็ นตน้ นักเรยี นรว่ มกนั สรา้ งงานทศั นศลิ ป์ ดว้ ยเทคนคิ สี กบั การเรยี นกบั การเรยี นในครงั้ น้ี นักเรยี นทขี่ าดเรยี นในคาบทผี่ า่ นมา
คณุ สมบัตขิ องผทู ้ ม่ี คี วามคดิ สรา้ งสรรคเ์ ป็ นผทู ้ หี่ มั่นศกึ ษาหาความรู ้
และประสบการณต์ า่ งๆ อยเู่ สมอ กลา้ คดิ กลา้ ทาอยา่ งมกี ระบวนการ น้าโดยบรู ณการกบั แหลง่ เรยี นรสู ้ วน E=สงั เกตจานวนนักเรยี นทกี่ ารตอบ
เป็ นนักแกป้ ัญหา ชอบสรา้ งสรรคส์ งิ่ ใหมท่ แ่ี ปลกแหวกแนว ไม่
เหมอื นผอู ้ นื่ การสรา้ งสรรคง์ านศลิ ปะมกี ระบวนการหรอื ขัน้ ตอน พฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น ดว้ ยความชน่ื ชมและ คาถามของนักเรยี น ทาใหร้ วู ้ า่ นักเรยี น มี
ตามลาดบั ดังนกี้ ารรับรู ้ (Perception) ประสบการณ์ (Experience) เห็นคณุ คา่ พน้ื ฐานและประสบการณก์ ารเรยี นศลิ ปะ
จนิ ตนาการ (Imagination)
4.ใหน้ ักเรยี นไดช้ ม“ตวั อยา่ งการสรา้ งสรรคง์ าน Q=รสู ้ กึ อยา่ งไรบา้ ง ?ทไ่ี ดช้ มตวั อยา่ ง อยใู่ นระดบั ใด
ความรู้ (Knowledge) E=-การตอบคาถามของนักเรยี นทาใหร้ ถู ้ งึ -PPT. ตวั อยา่ งงาน
-กระบวนการสรา้ งสรรค์ งานทศั นศลิ ป์
ทศั นศลิ ป์ ดว้ ยเทคนคิ สนี ้าในรปู แบบตา่ งๆ เพอ่ื R= สนใจ ตงั้ ใจ กระตอื รอื รน้ ตอบคาถาม ระดบั การคดิ และประสบการณ์ของนักเรยี น ทศั นศลิ ป์
ทักษะกระบวนการ(Process)
-การคดิ สรา้ งสรรค์ สรา้ งแรงบนั ดาลใจ L= เรยี นรจู ้ ากตวั อยา่ งผลงานงานทศั นศลิ ป์ S=ใหน้ ักเรยี นไดถ้ ามกอ่ นลงมอื ทางาน

คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (Attributes) 35 5.นักเรยี นรว่ มกนั สรา้ งสรรคง์ านทศั นศลิ ป์ ใน Q=นักเรยี นยังมคี วามคาดหวงั ในเรอื่ งใดอกี บา้ ง?E=การตอบของนักเรยี นเพอื่ ดคู วามพรอ้ ม -อปุ กรณร์ ะบายสนี ้า
1.คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงคต์ ามหลกั สตู รแกนกลางฯ
–มงุ่ มัน่ ในการทางาน หวั ขอ้ สนี ้าสรา้ งสรรค์ พนั ธพุ์ ฤกษา ตามทไี่ ด ้ R= สนใจ ตงั้ ใจ กระตอื รอื รน้ S=ครเู สรมิ แรง ใหค้ าแนะนาในระหวา่ งท่ี -FILA MAP

การ อา่ น คดิ วเิ คราะห์และเขียน วางแผนใน -FILA MAP L=รว่ มมอื กนั สรา้ งสรรคผ์ ลงานดว้ ยความ นักเรยี นปฎบิ ตั งิ าน
การอา่ น การคดิ วเิ คราะห์ การเขยี น
รับผดิ ชอบ
ด้านสมรรถนะสาคัญของผู้เรยี น
 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ 5 6.สรปุ กจิ กรรมรว่ มกนั และแนะนาการเรยี นรใู ้ น Q=คาดวา่ งานกลมุ่ สาเร็จ กเ่ี ปอรเ์ ซนต?์ E=เปิดโอกาสใหน้ ักเรยี นไดม้ สี ว่ นรว่ ม -ประเมนิ ผล
แสดงความคดิ เหน็ เพอื่ ปรบั ปรงุ ผลงาน Pedagogy and Rubric
กิจกรรมการเรยี นรู้ ชวั่ โมงตอ่ ไป L=สรปุ กจิ กรรมกลมุ่ รว่ มกนั S=ครสู รปุ ผลโดยภาพรวมแนะนาการ
1. ศกึ ษาผลงานทศั นศลิ ป์ ทส่ี รา้ งสรรคด์ ว้ ยเทคนคิ สนี ้า เรยี นรใู ้ นชวั่ โมงตอ่ ไป..ใหเ้ วลาปรบั ปรงุ
2. รว่ มกนั วางแผนสรา้ งงานทศั นศลิ ป์ ดว้ ยเทคนคิ สนี ้า R=มสี ว่ นรว่ มในกจิ กรรมการเรยี นอยา่ งเป็ น งาน พรอ้ มประเมนิ งานกลมุ่ Form
ธรรมชาตกิ ระตอื รอื รน้ แสดงออกถงึ ความใฝ่
บรู ณการกับแหลง่ เรยี นรสู ้ วนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น เรยี นรแู ้ ละมคี วามรบั ผดิ ชอบ=รสู ้ กึ อยา่ งไรบา้ ง

กบั กจิ กรรมในวนั น้ี

โรงเรยี นบุญวาทย์วทิ ยาลัย
สานกั งานเขตพื้นท่ีการศึกษามัธยมศึกษา ลาปาง ลาพนู

ศิลปศกึ ษา “สีน้ำสร้ำงสรรค์ พันธ์ุพฤกษำ” 4
ศ32101
ครูผู้สอน นางสบนั นา มหาวรรณ์
ระดบั ช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ 5

สาระ:มาตรฐานการเรยี นรู้ นาเสนอผลการเรยี นรดู้ ว้ ยตนเอง

สาระ : ทศั นศลิ ปะ เปา้ หมาย 1. ร่วมกันนำเสนอผลงำน ประเมนิ และวิจำรณผ์ ลงำนทศั นศิลปแ์ ละผลกำรเรยี นร้ไู ดด้ ว้ ยตนเอง
มาตรฐาน ศ 1.1 สรา้ งสรรคง์ านทศั นศลิ ป์ ตามจนิ ตนาการ และ
ความคดิ สรา้ งสรรค์ วเิ คราะห์ วพิ ากษ์ วจิ ารณ์คณุ คา่ งานทศั นศลิ ป์ กจิ กรรมการเรยี นการสอน สอ่ื การสอน/
ถา่ ยทอดความรสู ้ กึ ความคดิ ตอ่ งานศลิ ปะอยา่ งอสิ ระ
ชน่ื ชม และประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ติ ประจาวนั เวลา กจิ กรรมและเนอื้ หาการเรยี นรู้ Q=การถามคาถามของครู S=การสนบั สนนุ จากครู
นาท ี่
ตวั ชว้ี ัด คาบเรยี นที่ 5 L=การเรยี นการสอน E=การประเมนิ ผลของครู เครอ่ื งมอื
ศ 1.1 ม.4-6/8ประเมนิ และวจิ ารณ์งานทศั นศลิ ป์ โดยใชท้ ฤษฎกี าร 5
วจิ ารณ์ศลิ ปะ 30 R=ปฏกิ ริ ยิ าของนกั เรยี น S=ใชค้ าถามทเี่ คยใชใ้ นคาบทเ่ี รยี นแลว้ -หอ้ งเรยี นศลิ ปะ

สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด 10 1.ทกั ทาย ตรวจเชค็ ยชอื่ นักเรยี นทเ่ี ลอื ก Q=ถามถงึ สงิ่ ทเี่ คยเรยี นมา เพอื่ ตรวจสอบวา่
การประเมนิ งานศลิ ปะ หมายถงึ การสรา้ งหลกั เกณฑ์ 5
น่ังตามกลมุ่ พรอ้ มกบั ซกั ถามทบทวน แตล่ ะกลมุ่ พรอ้ มหรอื ไม่ เพอ่ื ตรวจสอบความจาของผเู ้ รยี น/ทบทวน -แผนการเรยี นรู ้
เพอื่ ประเมนิ ผลงานศลิ ปะใหเ้ กดิ ความเทย่ี งธรรม เป็ นการรวบรวม
ขอ้ มลู มาประกอบพจิ ารณาในทกุ ๆ ดา้ นเพอื่ การตดั สนิ ใจ การ กจิ กรรมการเรยี นในชว่ั โมงทผี่ า่ นมา R=พรอ้ มนาเสนอ –ขอเวลาเตรยี มความพรอ้ ม ความรู ้
ประเมนิ มคี วามสาคัญมากและมผี ลกระทบโดยตรงตอ่ นักเรยี นหรอื
ศลิ ปินผสู ้ รา้ งสรรคผ์ ลงาน จงึ ควรดาเนนิ การดว้ ยความรอบคอบใช ้ 2.แจง้ เป้าหมายการเรยี นรู ้ ในคาบเรยี นน้ี E=สงั เกตความพรอ้ มของแตล่ ะกลมุ่
หลักวชิ ามาประกอบ และมคี วามยตุ ธิ รรมอยา่ งทั่วถงึ ซง่ึ โดยทวั่ ไป
การประเมนิ คณุ คา่ ของงานทัศนศลิ ป์ จะพจิ ารณาจาก 3 ดา้ น นักเรยี นรว่ มกนั นาเสนองานทศั นศลิ ป์
ไดแ้ กด่ า้ นความงาม ดา้ นเนอ้ื หาสาระ และดา้ นอารมณ์ความรสู ้ กึ
และประเมนิ ผลผลการเรยี นรไู ้ ดด้ ว้ ย
การวจิ ารณง์ านศลิ ปะ หมายถงึ การแสดงความ
คดิ เห็นทม่ี ผี ลตอ่ ผลงานศลิ ปะอยา่ งมหี ลักการ เพอ่ื แสดงความชนื่ ตนเอง S=ชน่ื ชมการนาเสนองานของนักเรยี น -ผลงานทศั นศลิ ป์ ของ
ชมและปรบั ปรงุ พัฒนาผลงาน ตลอดจนใหส้ ามารถประเมนิ คา่ 3.ใหน้ ักเรยี นไดร้ ว่ มกนั นาเสนอผลงาน Q1=เราจะใชเ้ กณฑ/์ เหตผุ ลอะไรบา้ ง
ผลงานไดด้ ว้ ยความเทยี่ งธรรม การวจิ ารณม์ ที งั้ หลักการวจิ ารณ์ซงึ่
เป็ นมาตรฐานสากล และการวจิ ารณ์ดว้ ยเหตผุ ลรสนยิ มและทศั นคติ กลมุ่ สรา้ งสรรคง์ านทศั นศลิ ป์ ในหวั ขอ้ สี มาตดั สนิ ผลงานศลิ ปะ? นักเรยี น
สว่ นตัว
น้าสรา้ งสรรค์ พนั ธพุ์ ฤกษา กลมุ่ ละไม่ Q2=กระบวนการทางานกลมุ่ ในจดุ ไหนทสี่ ะทอ้ ง
ความรู้ (Knowledge)
- การประเมนิ และวจิ ารณง์ านทัศนศลิ ป์ เกนิ 5 นาที ถงึ “ความพอเพยี ง”?

ทักษะกระบวนการ(Process) (6 กลมุ่ ) R=สนใจ ตงั้ ใจ กระตอื รอื รน้ คดิ แกป้ ัญหา
-การคดิ อยา่ งมเี หตผุ ล
คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (Attributes) L=การนาเสนอผลงาน
1.คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงคต์ ามหลักสตู รแกนกลางฯ 4.ประเมนิ และวจิ ารณ์ผลงานสรา้ งสรรค์ Q=เราประเมนิ และวจิ ารณ์ผลงาน เพอื่ อะไร E=เปิดโอกาสใหน้ ักเรยี นไดม้ สี ว่ นรว่ ม
ขอ้ 2.ซอ่ื สตั ย์ ขอ้ 5. อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง L=มสี ว่ นรว่ มในการออกแบบเกณฑก์ ารประเมนิ ประเมนิ ตนเองดว้ ยความซอ่ื สตั ย์ -ประเมนิ ผล Spidergram

การ อา่ น คิดวเิ คราะหแ์ ละเขยี น งานทศั นศลิ ป์ S=ครเู สรมิ แรงชนื่ ชมในผลงานกลมุ่ ของ
การอา่ น การคดิ วเิ คราะห์ การเขยี น นักเรยี น เพอ่ื นาไปตอ่ ยอกการเรยี นรู ้
R=มสี ว่ นรว่ มในกจิ กรรมการเรยี นอยา่ งเป็ น
ดา้ นสมรรถนะสาคัญของผู้เรียน ธรรมชาตแิ ละมคี วามรบั ผดิ ชอบ E=เปิดโอกาสใหน้ ักเรยี นไดม้ สี ว่ นรว่ มในการ --reflect: exit slip
การแกป้ ัญหา 5.สรปุ กจิ กรรมรว่ มกนั แนะนาการเรยี นรใู ้ น Q=รสู ้ กึ อยา่ งไรบา้ ง กบั กจิ กรรมในวนั น้ี
แสดงความคดิ เหน็
กจิ กรรมการเรยี นรู้ ชว่ั โมงตอ่ ไป มคี วามพงิ พอใจในผลงาน ระดบั ใด S=ครสู รปุ ผลการเรยี นรแู ้ ละแนะนาการเรยี นรู ้
1. ศกึ ษาผลงานทัศนศลิ ป์ ทส่ี รา้ งสรรคด์ ว้ ยเทคนคิ สนี ้า ในชวั่ โมงตอ่ ไป ในเรอื่ งทเ่ี รยี นนี้ มอี ะไรท่ี
2. รว่ มกนั วางแผนสรา้ งงานทัศนศลิ ป์ ดว้ ยเทคนคิ สนี ้า นักเรยี นสามารถนาไปประยกุ ตใ์ ชไ้ ดอ้ ยา่ งไร นักเรยี นอยากรเู ้ พม่ิ เตมิ อกี
บา้ ง?
บรู ณการกับแหลง่ เรยี นรสู ้ วนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น L=สรปุ และประเมนิ ผลกจิ กรรมกลมุ่ รว่ มกนั

R=มสี ว่ นรว่ มในกจิ กรรมการเรยี นรกู ้ ระตอื รอื รน้

แสดงออกถงึ ความใฝ่ เรยี นรแู ้ ละ

มคี วามรับผดิ ชอบ

โรงเรียนบุญวาทย์วทิ ยาลยั
สานักงานเขตพนื้ ท่ีการศึกษามัธยมศกึ ษา ลาปาง ลาพนู

ศิลปศึกษา “สีน้ำสรำ้ งสรรค์ พันธุ์พฤกษำ” 5
ศ32101
ครูผสู้ อน นางสบันนา มหาวรรณ์
ระดับช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 5

สาระ:มาตรฐานการเรียนรู้ ตอ่ ยอดการเรยี นรู้

สาระ : ทศั นศิลปะ เปา้ หมาย 2. เรยี นรู้NFT Art บนโลกดจิ ิทลั
มาตรฐาน ศ 1.1 สรา้ งสรรคง์ านทัศนศลิ ป์ ตามจนิ ตนาการ และ
ความคดิ สรา้ งสรรค์ วเิ คราะห์ วพิ ากษ์ วจิ ารณ์คณุ คา่ งานทัศนศลิ ป์ กจิ กรรมและเนอื้ หาการ กจิ กรรมการเรยี นการสอน สอื่ การสอน/
ถา่ ยทอดความรสู ้ กึ ความคดิ ตอ่ งานศลิ ปะอยา่ งอสิ ระ เรยี นรู้ เครอื่ งมอื
ชน่ื ชม และประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ติ ประจาวนั เวลา Q=การถามคาถามของครู S=การสนบั สนุนจากครู
นาท ี่ คาบเรยี นท่ี 6 -หอ้ งเรยี นศลิ ปะ
ตวั ช้วี ดั L=การเรยี นการสอน E=การประเมนิ ผลของครู -แผนการเรยี นรู ้
ศ 1.1 ม.4-6/8ประเมนิ และวจิ ารณ์งานทัศนศลิ ป์ โดยใชท้ ฤษฎกี าร 5
วจิ ารณ์ศลิ ปะ 10 R=ปฏกิ ริ ยิ าของนกั เรยี น S=ใชค้ าถามนาเพอ่ื ตรวจสอบความรใู ้ หม่ -นักเรยี น
1.ทกั ทาย ตรวจเชค็ ยชอ่ื นักเรยี นทเี่ ลอื ก Q=ถาม มใี ครรจู ้ ัก NFT บา้ ง
สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
การประเมนิ งานศลิ ปะ หมายถงึ การสรา้ งหลกั เกณฑ์ น่ังตามกลมุ่ พรอ้ มกบั ซกั ถามทบทวน R=ร-ู ้ /ไมร่ จู ้ ัก E=สงั เกตความสนใจของแตล่ ะคน

เพอ่ื ประเมนิ ผลงานศลิ ปะใหเ้ กดิ ความเทย่ี งธรรม เป็ นการรวบรวม กจิ กรรมการเรยี นในชว่ั โมงทผ่ี า่ นมา
ขอ้ มลู มาประกอบพจิ ารณาในทกุ ๆ ดา้ นเพอ่ื การตดั สนิ ใจ การ
ประเมนิ มคี วามสาคัญมากและมผี ลกระทบโดยตรงตอ่ นักเรยี นหรอื 2.แจง้ เป้าหมายการเรยี นรู ้ ในคาบเรยี นน้ี
ศลิ ปินผสู ้ รา้ งสรรคผ์ ลงาน จงึ ควรดาเนนิ การดว้ ยความรอบคอบใช ้
หลกั วชิ ามาประกอบ และมคี วามยตุ ธิ รรมอยา่ งทวั่ ถงึ ซง่ึ โดยทว่ั ไป นักเรยี นเรยี นรเู ้ รอื่ ง NFT Art บนโลก
การประเมนิ คณุ คา่ ของงานทัศนศลิ ป์ จะพจิ ารณาจาก 3 ดา้ น
ไดแ้ กด่ า้ นความงาม ดา้ นเนอ้ื หาสาระ และดา้ นอารมณค์ วามรสู ้ กึ ดจิ ทิ ลั
3.ใหน้ ักเรยี นท่ี รจู ้ กั เลา่ ประสบการณ/์ Q=ใครจะชว่ ยเลา่ ประสบการณ์/รว่ ม S=ชนื่ ชมตวั แทน นร.ทอ่ี อกมาเลา่
การวจิ ารณ์งานศลิ ปะ หมายถงึ การแสดงความ
คดิ เห็นทม่ี ผี ลตอ่ ผลงานศลิ ปะอยา่ งมหี ลกั การ เพอื่ แสดงความชน่ื รว่ มแลกเปลย่ี นเรยี นรเู ้ รอ่ื ง NFT Art บน แลกเปลยี่ นเรยี นร?ู ้ ประสบการณ/์ รว่ มแลกเปลยี่ นเรยี นรเู ้ รอ่ื ง
ชมและปรบั ปรงุ พฒั นาผลงาน ตลอดจนใหส้ ามารถประเมนิ คา่
ผลงานไดด้ ว้ ยความเทยี่ งธรรม การวจิ ารณม์ ที งั้ หลักการวจิ ารณ์ซงึ่ โลกดจิ ทิ ลั R=สนใจ ตงั้ ใจ กระตอื รอื รน้ มคี าถาม NFT Art บนโลกดจิ ทิ ลั
เป็ นมาตรฐานสากล และการวจิ ารณ์ดว้ ยเหตผุ ลรสนยิ มและทศั นคติ
สว่ นตัว L=การแลกเปลย่ี นเรยี นรู ้

ความรู้ (Knowledge) 10 ชมคลปิ สอ่ื การสอน NFT Art คอื อะไร? L=ชมคลปิ สอื่ การสอน - คลปิ การสอน NFT Art
- การประเมนิ และวจิ ารณ์งานทศั นศลิ ป์
คอื อะไร?
ทักษะกระบวนการ(Process) 25 5.แชรไ์ อเดยี /คอนเทนต์ เพอ่ื ตอ่ ยอด Q=นักเรยี นจะนาความรู ้ ทกั ษะ ประสบการณ์ท่ี E=เปิดโอกาสใหน้ ักเรยี นไดม้ สี ว่ นรว่ มใน Reminding Quest
-การคดิ อยา่ งมเี หตผุ ล ไดร้ บั ไปตอ่ ยอดการเรยี นรู ้ ในรปู NFT Art ได ้ การแสดงความคดิ เห็น
คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (Attributes) การเรยี นรู ้ S=ครสู รปุ ผลการเรยี นรใู ้ หค้ าแนะนาในการ
1.คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงคต์ ามหลกั สตู รแกนกลางฯ ตอ่ ยอดการเรยี นรใู ้ นภาคเรยี นที่ 2 และปิด
ขอ้ 2.ซอื่ สตั ย์ ขอ้ 5. อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง หรอื ไมไ่ ด ้ อยา่ งไร บทเรยี น
L=เขยี นผลลพั ธก์ ารเรยี นรู ้
การ อ่าน คดิ วเิ คราะหแ์ ละเขียน R=รว่ มแชรไ์ อเดยี /คอนเทนต์ ทนี่ า่ สนใจ
การอา่ น การคดิ วเิ คราะห์ การเขยี น
โรงเรยี นบุญวาทยว์ ทิ ยาลยั
ด้านสมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี น สานกั งานเขตพื้นท่ีการศึกษามัธยมศึกษา ลาปาง ลาพูน
การแกป้ ัญหา

กจิ กรรมการเรยี นรู้
1. ศกึ ษาผลงานทศั นศลิ ป์ ทส่ี รา้ งสรรคด์ ว้ ยเทคนคิ สนี ้า
2. รว่ มกันวางแผนสรา้ งงานทศั นศลิ ป์ ดว้ ยเทคนคิ สนี ้า

บรู ณการกับแหลง่ เรยี นรสู ้ วนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น


Click to View FlipBook Version