The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

เกี่ยวกับการแสดงนาฏศิลป์แต่ละประเทศ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by สิรีธร ฯ., 2024-06-19 19:52:36

นาฏศิลป์ตะวันออก

เกี่ยวกับการแสดงนาฏศิลป์แต่ละประเทศ

นาฏศิลป์ตะวันออก 6 ประเทศ นาฏศิลป์อิ ป์ นอิเดีย ดี นาฏศิลป์ญี่ ป์ ปุ่ญี่ น ปุ่ นาฏศิลป์จี ป์ น จี นาฏศิลป์อิ ป์ นอิ โดนีเ นี ซีย ซี นาฏศิลป์เ ป์ ขมร นาฏศิลป์พ ป์ ม่า ม่


นาฏศิลป์อินเดีย


๑) ภารตนาฏยัม เป็นนาฏศิลป์ข ป์ อง อินเดียตอนใต้ มีลีลาการใช้จังหวะ เท้าที่ร ที่ วดเร็ว มีความหมายในท่ารำ ใช้ ศิลปะการร่ายรำ ตามตำ รานาฏยศาตร์ เป็นการฟ้อ ฟ้ นรำ เพื่อบูชาเทพเจ้าใช้ผู้ หญิงในการแสดงเท่านั้น นั้ และนิยม แสดงเดี่ย ดี่ ว “ ภารตนาฏยัม ” การแต่งกาย สวมเสื้อ สื้ เข้ารูป คอกว้างแขนสั้น สั้ ตัว สั้น สั้ ถึงใต้อก ห่มส่าหรี เกล้ามวยต่ำ หรือสูงเจิมหน้าจุดแดงกลางหน้า ผาก ประดับโดยดอกไม้และเครื่อ รื่ ง ประดับผม


๒) กถัก “ กถัก “ เป็นนาฏศิลป์ข ป์ องอินเดีย ตอนเหนือ นิยมแสดงเดี่ย ดี่ ว แสดงได้ ทั้ง ทั้ ผู้หญิงและผู้ชาย เป็นการผสมของ มุสลิมกับฮินดู ลักษณะเด่นคือการ หมุนตัวมีลีลาท่ารำ รวดเร็ว บทร้อง เกี่ย กี่ วกับเทพเจ้าของฮินดู การแต่งกาย ตัวละครหญิงสวมเสื้อ สื้ แขนสั้น สั้ คอกว้าง เอวลอย ห่มผ้าส่าหลี เกล้าผมมวยใช้ส่า หลีคลุมผมแล้วชายยาวลงล่าว ผู้ชาย กายคล้ายกันแต่ใช้ผ้าโพกศีรษะ


๓) กถกฬิ หรือ กถักกฬิ “ กถกฬิ ” เป็นนาฏศิลป์พื้ ป์ พื้ นเมืองของ อินเดียตอนใต้ ส่วนใหญ่จะเล่นเป็น เรื่อ รื่ งแบบละครซึ่ง ซึ่ ส่วนมากเป็นมหา กาพย์ เช่น มหาภารตะรามายณะ ใช้ ผู้ชายแสดงล้วน ใช้ภาษาซับซ้อน มี การแต่งหน้าที่ป ที่ ราณีตใช้สีจาก ธรรมชาติเขียนลงบนใบหน้า การแต่งกาย นุ่งกระโปรงยาว คาวริ้ว ริ้ ตามขวางที่ช ที่ าย กระโปรง ใส่สุ่มด้านใน สวมเสื้อ สื้ แขน ยาวเครื่อ รื่ งประดับศีรษะเป็นมงกุฎใหญ่ มีรัศมีวงกลมใหญ่อยู่ด้านหลังถ้าสีชุด เป็นสีอะไรสีมือก็ขะเป็นสีเดียวกับสีชุด


นาฏศิลป์ญี่ปุ่น


๑) ละครโนะ “ละครโนะ “ เป็นละครที่เ ที่ ก่าแก่ที่สุ ที่ สุ ด เกิดจากศาสนา แสดงเกี่ย กี่ วกับเทพเจ้า ท่าทางล้วนมีความหมาย แต่เดิมแสดงใต้ ร่มต้นไม้ต่อมาทำ เวทีง่ายๆ คนดูได้รอบ จัดฉากง่ายๆ เป็นรูปต้นสนความหมายคือ ความมีชีวิตชีวามีอายุยืนยาว แสดงใน โอกาสสำ คัญเท่านั้น นั้ การแต่งกาย แต่งกายงดงามผู้แสดงจะสวมหน้ากากถือเป็น สิ่ง สิ่ ศักดิ์สิ ดิ์สิทธิ์ ประณีตและงดงาม


๒) ละครคาบูกิ “ ละครคาบูกิ “ เป็นละครที่ไ ที่ ด้รับความ นิยมมากผสมผสานระหว่างละครโนะ และละครหุ่นบุนราก การแสดงมีทั้ง ทั้ ร้องและพากย์ ท่าทางเคร่งครัด แสดงเรื่อ รื่ งประวัติศาสตร์ศาสนาและ เทพนิยาย ผู้ชายแสดงล้วน การแต่งกาย แต่งกายสีฉูดฉาด เขียนหน้า คล้ายงิ้ว งิ้ แต่งหน้าตายตัว


๓) ละครเคียวเง็น “ ละครเคียวเง็น “ เป็นการแสดงละคร ตลกสลับฉากคล้ายจำ อวดของไทย สะท้อนให้เห็นความเรียบง่ายของมนุษย์ เป็นละครเสียดสี เรื่อ รื่ งราวชวนขำ ใช้ ท่าทางธรรมชาติ คำ ว่า “เคียว” แปลว่า บ้า “เง็น” แปลว่า พูด รวมเป็น คำ พูด บ้าๆหรือคำ พูดที่บ้ ที่ บ้ า การแต่งกาย แต่งตัวเรียบง่าย คล้ายชุดกิโมโน


นาฏศิลป์จีน


๑) งิ้ว เป็นการแสดงที่ผ ที่ สม ผสานการขับร้องและการเจรจา ประกอบลีลาท่าทางให้ออกมา เป็นเรื่อ รื่ งราว “ งิ้ว “ ลักษณะเด่น ลักษณะเด่นของงิ้ว งิ้ นอกจากการ ร่ายรำ แล้วยังมีการแต่งหน้า ทำ ให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และ สีสันของการแต่งหน้าจะบอกถึง บุคลิกและอุปนิสัยของตัวละคร แต่ละตัวด้วย


๒ ) งิ้วปักกิ่ง เป็นศิลปะการแสดง สมบูรณ์แบบที่ร ที่ วมศิลปะ “การขับ ร้อง” “การพูด” “การแสดงลีลา” “การแสดงศิลปะการต่อสู้”และ “ระบำ รำ ฟ้อ ฟ้ น”เข้าไว้ด้วยกัน มีทั้ง ทั้ ผู้หญิง และผู้ชาย “ งิ้วปักกิ่ง “ รูปแบบการแต่งหน้า รูปแบบการแต่งหน้าเป็นศิลปะที่ มีเอกลักษณ์ที่สุ ที่ สุ ดของงิ้ว งิ้ ปักกิ่ง กิ่ ความซื่อ ซื่ สัตย์กับความคดโกง ความงามกับความขี้เ ขี้ หร่ ความดี กับความชั่ว ชั่ และความสูงศักดิ์กั ดิ์ กั บ ความต่ำ ต้อย เป็นต้น ลวดลายในการแต่งหน้า เช่น สีแดงใช้กับบุคคลที่มี ที่ มี ความ ซื่อ ซื่ สัตย์ สีม่วงเป็นสัญลักษณ์ แห่งความชาญฉลาด ความกล้า หาญและความมีน้ำ ใจ สีดำ สะท้อนถึงอุปนิสัยใจคอสูงส่งที่ ซื่อ ซื่ ตรง เป็นต้น


รูปแบบการแต่งหน้า๓ ) งิ้วเเหอเป่ย “ งิ้วเหอเป่ย “ เป็นงิ้วงิ้ที่เที่คยนิยมอย่างมากในราชวงศ์ชิง เช่นเดียวกับงิ้วงิ้ปักกิ่งกิ่งิ้วงิ้เหอเป่ยป่เป็นงิ้วงิ้โปราณที่ผที่สมผสานดนตรี การร้อง การเต้นการแสดงผาดโผนและอื่นอื่ๆเข้าด้วยกันรูปแบบการแต่งหน้าของนักแสดง จะสะท้อนให้เห็นถึงตัวตน สถานะ บุคลิกภาพ และบทบาทต่างๆของตัวละคร


นาฏศิลป์อินโดนีเซีย


๑) นาฏศิลป์สุมาตรา “ นาฏศิลป์สุมาตรา “ ลักษณะการแสดงเป็นเรื่อ รื่ งราว ของนิทานพื้นบ้านและเรื่อ รื่ งรา วนในราชสำ นัก ท่าเต้นนุ่มนวล และทำ นองไพเราะ การแต่งกาย มีความงดงาม นุ้งผ้าลายยก ทองและยกเงิน ใส่เสื้อ สื้ กำ มะหนี่ แขนยาว ตัวยาวคลุมสะโพก ผม เกล้ามวยต่ำ เสียบปิ่นปักผม หรือใช้เครื่อ รื่ งประดับศรีษะ


๒) นาฏศิลป์ชวา “ นาฏศิลป์ชวา “ เป็นการแสดงที่มี ที่ มี พื้นฐานมาจากการรำ ในราช สำ นัก มีลีลาร่ายรำ ที่นุ่ ที่ นุ่มนวล ประณีต จังหวะการร่ายรำ จะช้า มีสไบเป็นส่วนประกอบสำ คัญใน การรำ เวลาแสดงตาจะตก ตลอดไม่ใช่สายตา การแต่งกาย นุ่งผ้าถุงรัดรูปแบบยอกยา การ์ปล่อยชายยาวไว้ด้านข้าง ผูกผ้าสไบไว้ที่เ ที่ อว สวมเสื้อ สื้ แขนยาว ใส่เกาะอกกำ มะหยี่ สวมกระบังหน้า มวยผมด้วย ปิ่นปักผม


๓) นาฏศิลป์บาลี “ นาฏศิลป์บาลี “ นาฏศิลป์บ ป์ าลีเป็น นาฏศิลป์ที่ ป์ ที่ มี ที่ มี ความเก่าแก่ มีการร่ายรำ เพื่อบวงสรวงและบุชา ผู้แสดงจะเป็นผู้หญิงล้วน การแต่งกาย มีสีสันสวยงาม หญินุ่งผ้า ถุงหพันตัว ตัวเอกพันผ้าถุง ชายยาวลาพื้นปัดไปข้าง หลัง มีผ้าคาดพันอกยาวพัน รอบตัว บางชุดสวมเสื้อ สื้ แขนยาว มีเครื่อ รื่ งสวมศีรษะ ลวดลายทอง


นาฏศิลป์เขมร


๑) ละครบาสสัก “ ละครบาสลัก “เป็นละคร พูดมีเนื้อ นื้ เรื่อ รื่ งเกี่ย กี่ วับความ รัก ซึ่ง ซึ่ ละครชนิดนี้ไ นี้ ด้รับ อิทธิพลมาจากเวียดนาม การแต่งกาย ลักษณะการแต่งกายใน นาฏศิลป์เ ป์ ขมรในแต่ละชุดมี ความใกล้เคียงกับไทยมาก


๒) ละโคนโขล “ ละโคนโขล “ เป็นนาฏกรรมสวมหน้ากากอย่าง หนึ่ง นึ่ ในประเทศกัมพูชา มีลักษณะ ใกล้เคียงกับการแสดงโขนของ ประเทศไทย เนื่อ นื่ งจากได้รับการ ถ่ายทอดไป


๓) ตำ นานพระทองนางนาค “ ตำ นานพระทองนางนาค “ เป็นเรื่อ รื่ งแต่งขึ้น ขึ้ ของชาวกัมพูชา โดยมีบันทึกจาก ราชทูตจีนที่ไ ที่ ด้เดินทางมายังเอเชียตะวันออกเชียงใต้ กล่าวว่ามีแรงบันดาลใจมาจากจารึกเกี่ย กี่ วกับราชวงศ์ปัล ลวะของอินเดียใต้ กล่าวถึง อัศวัตถามัน ผู้เป็นบุตรแห่ง โทรณาจารย์


นาฏศิลป์พม่า


๑) ละครนิพัตขิ่น “ ละครนิพัตขิ่น “ เป็นละคร ที่ผู ที่ ผู กเป็นเรื่อ รื่ ง มีท่าทางและ บทเจรจาประกอบ แและภาย หลังได้เพิ่มบทตลกไปด้วย การแต่งกาย ชายใส่เสื้อ สื้ แขนยาว นุ่งโสรงหรือ กางเกงคลุมเข่า ประดับด้วยเลื่อ ลื่ ม ดิ้น ดิ้ คล้ายของไทย ส่วนหญิงสวมเสื้อ สื้ รัดอก แขนยาว ไม่มีกระดุม เปิดให้เห็นเสื้อ สื้ ตัว ในชายเสื้อ สื้ โค้งงอน นุ้งผ้าถุงกรอมเท้า เกล้ามวยสูงปล่อยชายผม ให้ยาวมา ด้านขวา ถ้าเป็นตัวเองจะสวมเครื่อ รื่ ง ประดับศรีษะ


“ ฟ้อนหน้ากาก “เป็นการแสดงที่ เป็นนาฏศิลป์พื้ ป์ พื้ นเมืองของพม่ามา ผสมผสานกับลีลาท่าทางของหุ่น กระบอกพม่าซึ่ง ซึ่ เป็นการแสดงที่ สร้างสรรค์จากจินตนาการของพื้น เมืองของกลุ่มชาติพันธุ์ไทยใหญ่ รวมถึงพม่า ๒) ฟ้อนหน้ากาก


๓) ระบำ พม่า-มอญ “ ระบำ พม่า-มอญ “ ใช้ประกอบการแสดงละครเรื่อ รื่ ง “ราชาธิราช” ตอน “กระทำ สัตย์” เพื่อหย่าศึกระหว่าง พระเจ้าราชาธิราชแห่งอาณาจักรหงสาวดี ของมอญ กับพระเจ้าฝรั่ง รั่ มังฆ้องแห่ง อาณาจักรอังวะของพม่า นักแสดงใช้ผู้หญิงล้วน แบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกแต่งกายแบบพม่า ร่ายรำ ด้วยท่าและทำ นองเพลงพม่า บรรเลงดนตรีเพียงอย่างเดียว จังหวะจะค่อนข้างเร็วสนุกสนาน กลุ่มที่ส ที่ องแต่งกายอย่างมอญ ร่ายรำ ด้วยท่าและทำ นองเพลง มอญ มีเนื้อ นื้ ร้องภาษามอญด้วย จังหวะค่อนข้างเนิบช้านุ่มนวล


ด.ญ. สิรีธ รี ร ทรัพ รั ย์น ย์ วล ม.2/3 เลขที่3ที่ 4 จัดทำ โดย


ขอขอบคุณทุกท่าน การแสดงสดสุดยิ่งใหญ่ “นาฏศิลป์ตะวันออก”


Click to View FlipBook Version