The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แบบรายงานวิธีการปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) การพัฒนาการจัดการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ(ภาษาอังกฤษ) โดยประยุกต์ใช้รูปแบบการสอน DSEES สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 (รางวัลชนะเลิศเหรียญทอง ประกวดสื่อ นวัตกรรมฯ ระดับเขตพื้นที่การศึกษา ของ สพป.สุรินทร์ เขต 2)

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by dmc.srn2, 2022-08-23 00:37:45

Best Practice(Eng) 2565

แบบรายงานวิธีการปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) การพัฒนาการจัดการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ(ภาษาอังกฤษ) โดยประยุกต์ใช้รูปแบบการสอน DSEES สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 (รางวัลชนะเลิศเหรียญทอง ประกวดสื่อ นวัตกรรมฯ ระดับเขตพื้นที่การศึกษา ของ สพป.สุรินทร์ เขต 2)

แบบรายงานวิธีการปฏิบตั ิทีเ่ ป็นเลศิ (Best Practice)

การพฒั นาการจดั การเรยี นรู้กลมุ่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาต่างประเทศ
(ภาษาองั กฤษ) โดยประยุกตใ์ ชร้ ปู แบบการสอน QSCCS
สำหรบั นกั เรยี นชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ ๕

นางสาวกาญจนา ทรงพระ
ตำแหนง่ ครู

กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาต่างประเทศ (ภาษาองั กฤษ)

โรงเรยี นบ้านหนองเทพ
ตำบลหนองเทพ อำเภอโนนนารายณ์ จงั หวดั สุรินทร์
สำนกั งานเขตพน้ื ท่ีการศกึ ษาประถมศกึ ษาสุรินทร์ เขต ๒

สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขนั้ พนื้ ฐาน
กระทรวงศึกษาธกิ าร



คำนำ

เอกสารฉบับนไี้ ดจ้ ดั ทำขนึ้ เพอ่ื เปน็ การนำเสนอผลงานหรือนวัตกรรมวิธกี ารปฏิบตั งิ าน
ทเ่ี ปน็ เลิศ (Best Practice) วชิ าภาษาองั กฤษกลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาตา่ งประเทศช้ันประถมศกึ ษา
ปที ี่ ๕ ซง่ึ ไดน้ ำเสนอถึงความสำคัญของผลงานหรือนวตั กรรม จดุ ประสงคแ์ ละเป้าหมายของ
การดำเนนิ งาน กระบวนการพัฒนาผลงานซึ่งได้ประยกุ ตใ์ ชว้ ิธกี ารสอนแบบ QSCCS อันประกอบ
ไปด้วย การต้ังคำถาม (Question) การแสวงหาสารสนเทศ (Search) การสรา้ งความรู้ (Construct)
การส่อื สาร (Communicate) และการตอบแทนสังคม (Serve) มาปรับใชใ้ นการเรียนการสอน
รวมทง้ั ได้นำเสนอผลการดำเนินงาน ปจั จัยความสำเรจ็ บทเรียนทไี่ ด้รับและการเผยแพร่ผลงาน
เพ่อื เปน็ เอกสารประกอบการคดั เลอื กผลงานหรือนวตั กรรมวิธกี ารปฏิบัติท่ีเปน็ เลิศ

หวงั เปน็ อย่างยิ่งวา่ เอกสารฉบบั นี้คงจะช่วยอำนวยความสะดวกให้กบั คณะกรรมการประเมนิ
ผลงานหรือนวัตกรรม วธิ ีการปฏบิ ตั ทิ เี่ ปน็ เลศิ (Best Practice) ไดเ้ ป็นอยา่ งดี

ขอขอบพระคณุ นายบุญเรือง พวงเกตุ ผอู้ ำนวยการโรงเรยี นบา้ นหนองเทพ และขอขอบคุณ
ผเู้ ก่ียวข้องทุกฝ่ายทส่ี นับสนุน ช่วยเหลือ และใหก้ ำลงั ใจ จนผลงานประสบความสำเร็จในคร้งั นี้

กาญจนา ทรงพระ
ครูโรงเรียนบา้ นหนองเทพ

สารบัญ ข

เรื่อง หนา้
คำนำ ก
สารบญั ข
1
1. ความสำคญั ของผลงานหรอื นวัตกรรมที่นำเสนอ ๔
2. จุดประสงค์และเป้าหมายของการดำเนินงาน ๕
3. กระบวนการพัฒนาผลงาน/นวัตกรรม หรือขั้นตอนการดำเนนิ งาน
4. ผลการดำเนนิ การ/ผลสมั ฤทธ์/ิ ประโยชนท์ ี่ได้รับ ๑๐
5. ปัจจยั ความสำเร็จ ๑๓
6. บทเรียนท่ไี ด้รบั (Lesson Learned) ๑๔
7. การเผยแพร่/การไดร้ บั การยอมรบั /รางวลั ท่ไี ด้รบั ๑๕
ภาคผนวก ๑๖



ผลงานนวัตกรรม/วธิ กี ารปฏิบัติท่ีเป็นเลิศ (Best Practices)

สำนักงานเขตพ้นื ที่การศกึ ษาประถมศึกษาสุรนิ ทร์ เขต ๒
ประเภทผลงาน ( ) ผู้บริหาร

( √ ) ครู กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ)

ขอ้ มลู ทั่วไป
๑. ระดบั ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ ๕ โรงเรียนบ้านหนองเทพ อำเภอโนนนารายณ์ จังหวัดสุรนิ ทร์

เครือขา่ ย โรงเรยี นโนนนารายณ์ ๒
๒. ช่ือครผู ู้สอน นางสาวกาญจนา ทรงพระ ตำแหน่ง ครู
๓. ผลงานชอื่ การพฒั นาการจดั การเรียนรู้กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ)

โดยประยกุ ต์ใชร้ ปู แบบการสอน QSCCS สำหรบั นักเรียนชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๕

รายละเอยี ดการนำเสนอผลงาน
1. ความสำคญั ของผลงานหรอื นวตั กรรมท่ีนำเสนอ

ในโลกปัจจบุ นั การเรียนรภู้ าษาตา่ งประเทศมคี วามสำคัญและจำเป็นอย่างยิง่ ใน
ชีวติ ประจำวัน เนือ่ งจากเปน็ เครื่องมือสำคญั ในการตดิ ตอ่ ส่อื สาร การศกึ ษา การแสวงหาความรู้ การ
ประกอบอาชีพ การสรา้ งความเข้าใจเกี่ยวกับวัฒนธรรมและวสิ ยั ทัศนข์ องชุมชนโลก และตระหนกั ถงึ
ความหลากหลายทางวฒั นธรรมและมุมมองของสังคมโลก นำมาซี่งมิตรไมตรีและความรว่ มมือกบั
ประเทศตา่ งๆ ชว่ ยพัฒนาผเู้ รียนให้มีความเขา้ ใจตนเองและผู้อนื่ ดขี ้นึ เรยี นรู้และเขา้ ใจความแตกต่าง
ของภาษาและวัฒนธรรม ขนบธรรมเนยี ม ประเพณี การคดิ สังคม เศรษฐกิจ การเมือง การปกครอง
มีเจตคติท่ดี ีต่อการใชภ้ าษาต่างประเทศ และใช้ภาษาต่างประเทศเพอื่ การสื่อสารได้ รวมทง้ั เข้าถึงองค์
ความร้ตู ่างๆได้ง่ายและกว้างขนึ้ และมีวิสัยทัศนใ์ นการดำเนนิ ชวี ติ นอกจากนี้ หลกั สตู รแกนกลาง
การศกึ ษาขน้ั พ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 ได้กำหนดใหภ้ าษาอังกฤษเปน็ วิชาในกล่มุ สาระการเรยี นรู้
ภาษาตา่ งประเทศ ซ่งึ ประกอบไปดว้ ย 4 สาระ ไดแ้ ก่ สาระท่ี 1 ภาษาเพื่อการสือ่ สาร สาระท่ี 2 ภาษาและ
วัฒนธรรม สาระท่ี 3 ภาษากับความสมั พนั ธ์กับกลุ่มสาระการเรยี นร้อู ืน่ และสาระที่ 4 ภาษากับ
ความสมั พันธก์ ับชุมชนและโลก ทุกคนสามารถเรียนรไู้ ด้ตลอดชีวิต (Life long Learning) โดยใช้
ภาษาต่างประเทศเปน็ เคร่อื งมือในการคน้ คว้า หาความรใู้ นการเรียนสาระการเรยี นรอู้ ื่น ๆ ในการศกึ ษาตอ่
รวมทั้งในการประกอบอาชีพ ซง่ึ เปน็ จุดมงุ่ หมายสำคัญของการปฏริ ูปการเรยี นรู้ (กระทรวงศึกษาธิการ,
2551, 4) ในการจดั การเรียนการสอนภาษา ผเู้ รียนควรได้รบั โอกาสฝกึ ทกั ษะการใช้ภาษาใหม้ าก
ทสี่ ุดทัง้ ในและนอกห้องเรยี น ครผู สู้ อนตอ้ งจดั กระบวนการเรยี นการสอนให้สอดคล้องกับธรรมชาติและ
ลกั ษณะเฉพาะของภาษา จัดกจิ กรรมให้หลากหลาย ท้งั กิจกรรมการฝกึ ทักษะทางภาษาและฝกึ ผู้เรียนให้
เกิดการเรียนรู้วธิ ีการเรียนภาษาดว้ ยตนเองควบคู่ไปด้วย อันจะนำไปสู่การเป็นผู้เรียนทีพ่ ่งึ ตนเองได้
(Learner Independence)



การปฏริ ูปการเรยี นรใู้ นศตวรรษที่ 21 หวังทีจ่ ะพัฒนาเดก็ ไทยและคนไทยใหเ้ ปน็ ผู้เรยี นรู้
ตลอดชวี ติ อย่างมีคณุ ภาพ ดงั นัน้ การจดั การเรยี นรขู้ องครู จึงต้องมกี ารวเิ คราะหห์ ลักสูตร และการ
จัดการเรียนร้ทู เี่ น้นเด็กเป็นศูนย์กลาง ซงึ่ เป็นทม่ี าของคำว่า “กระบวนการเรยี นรู้ 5 ขั้นตอน หรือ
5 STEPs” ซงึ่ เปน็ แนวการจัดการเรียนการสอนโดยใช้วธิ กี ารสืบสอบหรอื วิธีสอนแบบโครงงาน
ประกอบด้วยขั้นตอนท่ี 1 การเรยี นรตู้ ั้งคำถาม หรือข้ันตงั้ คำถามเป็นทีใ่ หน้ กั เรยี นฝึกสงั เกต
สถานการณ์ ปรากฏการณต์ ่างๆ จนเกิดความสงสัย จากนน้ั ฝกึ ใหเ้ ดก็ ตั้งคำถามสำคัญ รวมทั้งการ
คาดคะเนคำตอบ ด้วยการสบื ค้นความรูจ้ ากแหล่งตา่ งๆ และสรุปคำตอบชัว่ คราว ขั้นตอนท่ี 2 การ
เรยี นรแู้ สวงหาสารสนเทศ เปน็ ขั้นตอนการออกแบบ/วางแผนเพือ่ รวบรวมข้อมลู สารสนเทศ จาก
แหลง่ เรียนรตู้ า่ งๆ รวมทงั้ การทดลองเป็นขัน้ ทเี่ ดก็ ใชห้ ลกั การนริ ภยั (Deduction reasoning) เพื่อ
การออกแบบขอ้ มลู ขั้นตอนที่ 3 การเรียนรเู้ พ่อื สร้างองคค์ วามรู้ เปน็ ข้นั ตอนทเี่ ด็กมีการคิดวเิ คราะห์
ขอ้ มลู เชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ การส่อื ความหมายข้อมูลดว้ ยแบบต่างๆ หรือด้วยผังกราฟิก การ
แปรผล จนถงึ การสรุปผล หรอื การสร้างคำอธิบาย เป็นการสรา้ งองค์ความรู้ ซงึ่ เปน็ แก่นความรู้
ประเภท 1. ขอ้ เท็จจริง 2. คำนิยาม 3. มโนทัศน์ 4. หลกั การ 5. กฎ 6. ทฤษฎี ข้นั ตอนท่ี 4
การเรยี นรเู้ พื่อการสอ่ื สารคือ ขน้ั นำเสนอความรู้ด้วยการใช้ภาษาที่ถูกต้อง ชัดเจน และเปน็ ท่ีเขา้ ใจ
อาจเปน็ การนำเสนอภาษา และนำเสนอด้วยวาจาขัน้ ตอนที่ 5 การเรียนรู้เพอื่ ตอบแทนสงั คม เปน็
ข้ันตอนการฝกึ เด็กให้นำความรู้ที่เข้าใจ นำการเรยี นรไู้ ปใชป้ ระโยชน์เพือ่ ส่วนรวม หรอื เหน็ ตอ่
ประโยชนส์ ว่ นรวมดว้ ยการทำงานเป็นกลุ่ม ร่วมสร้างผลงานทไ่ี ด้จากการแก้ปัญหาสังคมอย่าง
สรา้ งสรรค์ ซึ่งอาจเป็นความรู้ แนวทางสิง่ ประดษิ ฐ์ ซึ่งอาจเปน็ นวัตกรรม ดว้ ยความรบั ผดิ ชอบต่อ
สังคม อนั เปน็ การแสดงออกของการเกื้อกลู และแบง่ ปนั ให้สงั คมมีสันติอย่างยัง่ ยนื เพื่อให้นกั เรียนมี
ความสามารถพืน้ ฐานเบือ้ งต้นสำคญั ที่ใช้ในการเรียนรู้ 3 ดา้ น คือ ความสามารถด้านภาษา (Literacy)
ความสามารถดา้ นคำนวณ (Numeracy) ความสามารถดา้ นเหตุผล (Reasoning ability) ตามภาพ
ตอ่ ไปน้ี
รปู ภาพ ๑ กระบวนการเรยี นรู้ ๕ ข้ัน



จากปญั หาการจดั การเรยี นการสอนภาษาองั กฤษในปัจจุบัน ยงั ไม่ประสบความสำเร็จ
เทา่ ท่ีควร นกั เรียนยงั ไม่สามารถนำภาษาองั กฤษไปใช้ในสถานการณ์จรงิ ได้ และสถานการณ์การสอน
ภาษาอังกฤษในโรงเรยี นท่ีตง้ั อยใู่ นชนบท มีโอกาสที่ไดใ้ ช้ภาษาอังกฤษนอ้ ยมาก นกั เรียนจึงไมเ่ ห็น
ความสำคญั ของการเรยี นภาษาองั กฤษและประโยชนข์ องภาษาอังกฤษ สง่ ผลให้นกั เรียนโรงเรยี นบา้ น
หนองเทพ มผี ลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี นวชิ าภาษาองั กฤษยงั ไมเ่ ป็นท่นี ่าพอใจและนักเรียนสว่ นใหญย่ งั
ขาดทักษะด้านภาษาอังกฤษ ผศู้ ึกษาจำเปน็ จะต้องเปลย่ี นวธิ ีการสอน เพอื่ ส่งเสริมใหน้ ักเรยี นได้คิด
วเิ คราะห์ รวมทั้งสง่ เสรมิ สรา้ งบรรยากาศในการเรียนของนกั เรยี น ให้มคี วามกระตือรือร้น แนวทางใน
การพฒั นาการจดั การเรียนรู้กล่มุ สาระการเรยี นรภู้ าษาตา่ งประเทศ (ภาษาองั กฤษ) โดยประยุกต์ใช้
รูปแบบการสอน QSCCS สำหรบั ชั้นประถมศึกษาปที ี่ ๕ ซึ่งจากการศึกษาเอกสารงานวิจัยและ
เอกสารเก่ยี วกับการจัดกจิ กรรมการเรียนการสอนแบบ QSCCS พบวา่ กจิ กรรมภาษาเพอ่ื การสือ่ สาร
เป็นสอื่ ประเภทวิชาการที่จะชว่ ยให้นักเรยี นไดฝ้ ึกทักษะภาษาอย่างหลากหลาย และเป็นการสร้าง
บรรยากาศการเรยี นรขู้ องนักเรียน อันจะส่งผลให้นักเรียนมที ัศนคติทีด่ ีตอ่ การเรยี นภาษาอังกฤษ
นอกจากน้ี กิจกรรมทางภาษาจะช่วยทำใหน้ ักเรยี นเกดิ การเรียนรู้อย่างมีความหมายและสามารถ
นำไปใช้ในชวี ิตประจำวนั ได้เปน็ อย่างดี ซงึ่ สอดคล้องกบั ทพิ รตั น์ สทิ ธวิ งศ์ และทะเนศ วงศน์ าม
(2559 : 89) กลา่ ววา่ การเรยี นรู้ 5 ข้ันตอน (QSCCS) คอื การจดั การเรียนรู้ให้ผู้เรียนพัฒนาไปสู่
ผู้มคี วามรู้ ทกั ษะกระบวนการ และเจตคตทิ ่ีพงึ ประสงค์ สำหรับการเป็นพลเมืองในศตวรรษท่ี 21
เป็นบคุ คลท่มี ีคณุ ภาพ มีทักษะในการค้นควา้ แสวงหาความรู้ มีความรู้ พน้ื ฐานที่จำเป็น สามารถคดิ
วิเคราะห์ สงั เคราะห์ สร้างสรรค์ สามารถสร้างสือ่ อยา่ งมีประสิทธิผล มีทกั ษะชวี ติ ร่วมมือในการ
ทำงานกับผู้อ่นื ได้เปน็ อย่างดี จะต้องมีกระบวนการจัดการเรยี นรู้อยา่ งต่อเน่ือง มลี ำดับขั้นตอนที่
เหมาะสม และสอดคล้องกับพัฒนาการของผู้เรยี นในแต่ละระดบั ช้ัน โดยมกี ระบวนการสำคัญในการ
จดั การเรียนรู้เรยี กว่า “บนั ได 5 ขัน้ เพ่ือการพัฒนาผู้เรียน (Five steps for student
development)”

ดงั นน้ั ผู้ศกึ ษาจึงได้พฒั นาการจดั การเรยี นรกู้ ลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ
(ภาษาอังกฤษ) โดยประยุกตใ์ ชร้ ปู แบบการสอน QSCCS ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี ๕ สำหรับแก้ปญั หา
ดังกล่าวเพ่ือพฒั นาทักษะการสื่อสารของนักเรยี นระดบั ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี ๕ โรงเรียนบ้านหนองเทพ
อำเภอโนนนารายณ์ จงั หวัดสุรินทร์ โดยเป็นการสอนทเ่ี นน้ ผู้เรยี นเป็ศนู ย์กลางและลดบทบาท
ของครลู งเป็นผอู้ ำนวยความสะดวกและเพิ่มบทบาทให้นักเรียนไดม้ โี อกาสฝกึ ปฏิบตั ิใช้ภาษามากท่ีสุด
ทง้ั ในและนอก ชนั้ เรียนเพ่ือให้นกั เรียนสามารถใช้ภาษาในการสอ่ื สารในชีวติ ประจำวนั ได้อย่างแท้จริง



กรอบแนวคดิ หลกั
ในการศึกษาคร้ังน้มี กี รอบแนวคดิ ดังแสดงไวใ้ น แผนภาพที่ 1

แผนภาพที่ 1 แสดงกรอบแนวคิด

วธิ ีการสอนรปู แบบ QSCCS ผลสมั ฤทธท์ิ างการเรยี น
วชิ าภาษาอังกฤษและ
ความพึงพอใจของนักเรียน

ตัวแปรต้น ตวั แปรตาม

2. จดุ ประสงค์และเป้าหมายของการดำเนินงาน
2.1 วตั ถุประสงค์
๒.๑.๑ เพอื่ พฒั นาผลสมั ฤทธท์ิ างการเรียนก่อนใชแ้ ละหลังใชก้ ารพัฒนาการจดั การ

เรียนรกู้ ลมุ่ สาระการเรียนร้ภู าษาต่างประเทศ (ภาษาองั กฤษ) โดยประยุกตใ์ ชร้ ปู แบบการสอน
QSCCS สำหรบั นกั เรียนชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๕

๒.๒.๒ เพอ่ื ศึกษาความพงึ พอใจของนักเรียนท่มี ตี อ่ การพฒั นาการจดั การเรยี นร้กู ลุม่
สาระการเรียนรูภ้ าษาตา่ งประเทศ (ภาษาอังกฤษ) โดยประยุกต์ใชร้ ูปแบบการสอน QSCCS สำหรบั
นักเรยี นช้ันประถมศึกษาปที ี่ ๕

2.2 เป้าหมาย
เชิงปริมาณ

นกั เรยี นชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ ๕ จำนวน ๒๑ คน รายวชิ าภาษาองั กฤษ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๔
เชิงคณุ ภาพ

นกั เรียนชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ ๕ ท่เี รียนวิชาภาษาอังกฤษ โดยประยุกตใ์ ชว้ ิธกี ารสอนรปู แบบ
QSCCS มีทกั ษะภาษาอังกฤษในการเรยี นรู้ เพื่อความเข้าใจของนักเรียนไดด้ ยี ่งิ ขึน้ อนั จะสง่ ผลให้
ผลสมั ฤทธทิ์ างการเรยี นวิชาภาษาองั กฤษของนกั เรยี นสูงขึน้ ซึ่งจะเป็นประโยชนใ์ นการเรยี นระดบั ที่
สงู ข้ึนต่อไปและท่สี ำคญั ท่ีสดุ คือ มีเจตคตทิ ี่ดีต่อการเรียนภาษาอังกฤษและสามารถประยกุ ตใ์ ช้
ภาษาองั กฤษในชีวิตประจำวันและการดำรงชวี ิตอยา่ งมคี วามสขุ



3. กระบวนการผลิตผลงาน หรือขน้ั ตอนการดำเนนิ งาน
3.1 การสร้างเครอ่ื งมือทใี่ ชใ้ นดำเนนิ งาน
๑. แผนการจัดการเรยี นรู้ หน่วยท่ี ๕ เรอ่ื ง Our Planet! สำหรับนกั เรยี นชนั้

ประถมศึกษา
ปที ี่ ๕ จำนวน ๑๓ แผน จำนวน ๑๓ ช่วั โมง

๒. แบบทดสอบวดั ผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียน ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๕ ซ่ึงเปน็ แบบทดสอบ
แบบปรนยั ชนิดเลอื กตอบ ๒๐ ข้อ จำนวน 1 ชุด

๓. แบบประเมนิ ความพึงพอใจในการจัดการเรยี นรู้แบบ QSCCS จำนวน 15 ข้อ เป็น
แบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ คือ พึงพอใจมากที่สุด พงึ พอใจมาก พึงพอใจปานกลาง พงึ
พอใจนอ้ ย และพึงพอใจน้อยท่สี ดุ จำนวน 1 ฉบบั

การสร้างและหาประสิทธภิ าพเคร่อื งมอื
๑. แผนการจัดการเรียนรู้ หนว่ ยที่ ๕ เร่ือง Our Planet สำหรับนกั เรียนช้นั
ประถมศกึ ษา
ปีที่ ๕ จำนวน ๑๓ แผน

๑.1 ศึกษาหลกั สตู รกลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาตา่ งประเทศและเอกสารประกอบ
หลกั สตู ร

๑.2 ศกึ ษาการสร้างแผนการจัดการเรียนรจู้ ากคู่มอื ครู และเอกสารที่เกยี่ วข้อง
๑.3 จดั ทำแผนการจัดการเรยี นร้ใู ห้สอดคลอ้ งกับมาตรฐานการเรียนรู้ คณุ ลกั ษณะ
อันพงึ ประสงค์ คุณภาพผู้เรียนทีร่ ะบุไว้ในหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้นื ฐานพทุ ธศักราช 2551
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ และให้ครอบคลุมจุดประสงคก์ ารเรยี นรใู้ นแผนการจัดการ
เรยี นรู้สำหรับนกั เรยี นช้นั ประถมศึกษาปีที่ ๕ ในหน่วยที่ ๕ เร่ือง Our Planet
๑.4 นำแผนการจดั การเรยี นรู้เสนอผเู้ ชี่ยวชาญ คู่บดั ด้ี PLC เพื่อพิจารณาความ
เทยี่ งตรงของเน้ือหา และความคิดเห็น ผลจากการประเมินของผ้เู ชีย่ วชาญและคู่บดั ด้ี PLC มีความ
สอดคล้องของตัวชว้ี ัด จดุ ประสงค์ เนื้อหา และกจิ กรรม ผู้ศกึ ษาได้นำข้อเสนอแนะของผู้เชี่ยวชาญมา
ปรับปรงุ ให้สมบรู ณ์ยง่ิ ขนึ้
๑.5 นำแผนการจัดการเรียนรูไ้ ปทดลองใชก้ ับนกั เรยี นช้ันประถมศึกษาปที ี่ ๕ โรงเรยี น
บา้ นหนองเทพ สำนกั งานเขตพน้ื ทก่ี ารศกึ ษาประถมศกึ ษาสุรินทร์ เขต 2 ปกี ารศึกษา 256๔
ท่ไี มเ่ คยจัดกิจกรรมจากแผนการจัดการเรยี นรชู้ ุดนมี้ ากอ่ น
๑.6 ปรับปรงุ แกไ้ ขแผนการจดั การเรียนรู้ จัดพมิ พ์ฉบับสมบรู ณ์ นำไปทดลองใช้กับ
กลุม่ เป้าหมาย ไดแ้ กน่ กั เรยี นชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี ๕ ปกี ารศึกษา 256๔ โรงเรยี นบ้านหนองเทพ
สำนักงานเขตพืน้ ทกี่ ารศึกษาประถมศกึ ษาสุรนิ ทร์ เขต 2 จำนวน 1 ห้องเรียน จำนวน 2๑ คน
แล้วนำผลมาวิเคราะห์หาประสิทธิภาพของแผนการจดั การเรยี นรปู้ ระกอบการประยุกต์ใชว้ ธิ กี ารสอน
รูปแบบ QSCCS สำหรับนักเรียนชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ ตอ่ ไป



๒. การสรา้ งแบบทดสอบวดั ผลสัมฤทธทิ์ างการเรียน ช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๕
ซึ่งเป็นแบบทดสอบแบบปรนยั ชนิดเลือกตอบ ๔ ตวั เลอื ก จำนวน ๒0 ขอ้ จำนวน 1 ชดุ
ผศู้ ึกษาไดด้ ำเนินการตามขน้ั ตอน ดังน้ี

๒.1 ศึกษาคมู่ อื การประเมินผลหลกั สูตร คู่มือครู แบบทดสอบวดั ผลสัมฤทธ์ิทางการ
เรียนสำหรบั นกั เรียนช้ันประถมศึกษาปีที่ ๕

๒.2 ศึกษาวิธกี ารสรา้ งข้อสอบ สรา้ งตารางวเิ คราะห์เน้อื หา วิเคราะหข์ อ้ สอบ
จุดประสงค์ เพือ่ เลอื กขอ้ สอบใหค้ รอบคลมุ

๒.3 สร้างแบบทดสอบแบบปรนยั ชนิด 4 ตวั เลือก จำนวน ๒๐ ข้อ โดยอาศยั แนวทาง
ที่ไดศ้ ึกษาและรวบรวมขอ้ มูลต่าง ๆ

๒.4 นำแบบทดสอบเสนอตอ่ ผู้เชี่ยวชาญ เพ่อื ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง ความเหมาะสม
และประเมนิ ความเที่ยงตรงเชิงเนอื้ หา (Content Validity) โดยใช้ดัชนีความสอดคล้องระหวา่ ง
ข้อสอบกับจุดประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม (IOC) โดยมเี กณฑก์ ารใหค้ ะแนน ดงั น้ี

+ 1 หมายถงึ แนใ่ จในแบบทดสอบน้วี ัดตรงตามจุดประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม
0 หมายถงึ ไมแ่ น่ใจวา่ แบบทดสอบนีว้ ัดตรงตามจุดประสงค์เชิงพฤติกรรม
- 1 หมายถงึ แน่ใจในแบบทดสอบนี้วัดคา่ ไม่ตรงตามจุดประสงค์เชิงพฤตกิ รรม
นำข้อมลู จากผ้เู ชี่ยวชาญท้ัง 5 ทา่ น มาวเิ คราะห์หาค่าดัชนคี วามสอดคลอ้ งโดยใชส้ ูตร IOC
โดยเลอื กข้อสอบอยู่ในเกณฑค์ วามเท่ยี งตรงทใี่ ชไ้ ด้ตั้งแต่ 0.50 ข้ึนไป มาเป็นข้อสอบทีจ่ ะนำมาใช้
๒.5 คดั เลือกข้อสอบทีม่ ีคุณภาพตามเกณฑ์ คือ มีคา่ ความยากงา่ ยอยรู่ ะหวา่ ง
0.20 – 0.80 และคา่ อำนาจจำแนก 0.20 ข้นึ ไป จำนวน ๒0 ข้อ ซ่ึงจากการคดั เลือกไดข้ ้อสอบ
ทมี่ ีคา่ ความยากงา่ ย (P) ระหวา่ ง 0.41 – 0.72 และคา่ อำนาจจำแนก (r) ระหว่าง 0.31 – 0.69
๒.๖ นำแบบทดสอบทไี่ ดร้ ับการคดั เลอื กแล้วไปทดลองใช้กับนกั เรยี นช้ันประถมศกึ ษา
ปีที่ ๕ ปกี ารศึกษา 256๔ โรงเรียนบา้ นหนองเทพ อำเภอโนนนารายณ์ จังหวัดสุรินทร์ สำนกั งาน
เขตพนื้ ทกี่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษาสรุ ินทร์ เขต ๒ จำนวน ๒๑ คน ทไ่ี มใ่ ชก่ ลุม่ เปา้ หมายและไม่เคยทำ
แบบทดสอบน้มี าก่อน นำผลมาวิเคราะหห์ าคา่ ความยากงา่ ย (p) และค่าอำนาจจำแนก (r) ของ
แบบทดสอบเปน็ รายข้อ แลว้ เลอื กแบบทดสอบ จำนวน ๒0 ขอ้ ซง่ึ มคี า่ ความยากง่ายตงั้ แต่
0.40–0.70 และค่าอำนาจจำแนก (r) ตงั้ แต่ 0.40–0.60 และค่าความเชอื่ ม่นั โดยใช้สตู ร KR-20
(Kuder-Richardson) ซึง่ มีคา่ ความเชอ่ื ม่ันเท่ากบั 0.86



๓. การสร้างแบบประเมินความพึงพอใจในการจัดการเรยี นร้แู บบ QSCCS ดงั นี้
๓.1 ผศู้ กึ ษาได้ศึกษาการสร้างแบบประเมนิ ความพงึ พอใจจากเอกสารที่เก่ียวข้องกบั

การสรา้ งแบบสอบถาม
๓.2 หลังจากน้นั ผศู้ ึกษาได้จัดทำโครงสร้างแบบประเมนิ ความพึงพอใจในการจดั การ

เรยี นรูแ้ บบ QSCCS ดงั นี้
1. นำแบบประเมนิ ความพึงพอใจในการเรยี นวชิ าภาษาองั กฤษ สำหรับนกั เรียน

ช้ันประถมศึกษาปที ี่ ๕ เสนอต่อผูเ้ ช่ยี วชาญ ตรวจสอบความเหมาะสม และความถูกตอ้ งตามหลกั การ
และรปู แบบของแบบประเมนิ ความพงึ พอใจ เพอื่ แกไ้ ขขอ้ บกพร่องแล้วนำมาปรับปรงุ แก้ไขตาม
คำแนะนำ

2. นำเสนอแบบประเมนิ ความพงึ พอใจในการเรียนวชิ าภาษาอังกฤษ ในการ
จัดการเรยี นรู้แบบ QSCCS สำหรับนักเรียนชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๕ ที่ไดแ้ กไ้ ขตามคำแนะนำของ
ผเู้ ชี่ยวชาญ แล้วนำมาวิเคราะห์หาค่าดัชนีความสอดคล้องของเครือ่ งมือในการศึกษาค้นควา้
(Index of Item Objective Congruence:IOC) โดยได้ค่า IOC เท่ากับ 0.92 และสามารถนำไปใช้ได้

3. นำแบบประเมินความพงึ พอใจในการเรยี นวิชาภาษาองั กฤษ ในการจดั การ
เรยี นรู้แบบ QSCCS สำหรบั นักเรยี นชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๕ ที่ปรับปรงุ แล้วไปทดลองใช้ (Try Out)
กับนกั เรียนชั้นประถมศึกษาปที ี่ ๕ โรงเรยี นบ้านหนองเทพ สำนักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศึกษา
สรุ ินทร์ เขต ๒ ปกี ารศึกษา 256๔ ท่ไี มใ่ ช่กลุ่มตวั อยา่ งและไมเ่ คยทำแบบประเมินชดุ นีม้ าก่อน
เพอ่ื ศึกษาหาข้อบกพรอ่ งและปรับปรุงให้สมบรู ณ์

4. นำแบบประเมนิ ความพึงพอใจในการเรียนวิชาภาษาองั กฤษ ในการจัดการ
เรียนรแู้ บบ QSCCS สำหรบั นักเรยี นชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ ที่ปรับปรงุ แกไ้ ขแลว้ ไปใช้เปน็ เครื่องมือใน
การศกึ ษากบั นักเรียนทเี่ ป็นกลุ่มตวั อยา่ ง

5. ผ้ศู กึ ษากำหนดเกณฑก์ ารแปลความหมายของคะแนนเฉล่ยี แบบสอบถามวัด
ความพงึ พอใจ ตามเกณฑข์ อง (บญุ ชม ศรีสะอาด, 2553 : 132) ดังนี้

4.51 - 5.00 หมายถงึ มีความพึงพอใจอยู่ในระดบั มากท่ีสุด
3.51 - 4.50 หมายถึง มคี วามพงึ พอใจอยู่ในระดบั มาก
2.51 - 3.50 หมายถงึ มคี วามพงึ พอใจอยู่ในระดับปานกลาง
1.51 - 2.50 หมายถงึ มคี วามพงึ พอใจอยู่ในระดับน้อย
1.00 - 1.50 หมายถงึ มคี วามพงึ พอใจอยใู่ นระดับน้อยทีส่ ุด



การเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล
1. แบบแผนทใี่ ช้ในการศกึ ษาคน้ คว้า

แบบแผนของการศึกษาคน้ คว้าครง้ั น้ี ดงั ตาราง ๑ ดงั นี้

ตาราง ๑ แสดงแบบแผนทีใ่ ช้ในการศกึ ษา

สอบก่อนเรยี น ตวั แปรอสิ ระ สอบหลงั เรยี น

T1 X T2

T1 แทน การทดสอบกอ่ นเรยี น

X แทน การสอนโดยประยกุ ตใ์ ชแ้ บบ QSCCS

T2 แทน การทดสอบหลังเรียน

จากตาราง ๑ พบวา่ แบบแผนการทดลองเป็นการทดลองแบบกลุ่มเดยี ว โดยทำการ

ทดสอบก่อนเรยี นด้วยแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี น จำนวน ๒0 ข้อ แล้วทำการสอนด้วย

การประยุกต์ใช้แบบ QSCCSสำหรับนกั เรียนชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๕ หนว่ ยที่ ๕ เรือ่ ง Our Planet

เมอ่ื ดำเนินการสอนเสรจ็ ทำการสอบหลังเรยี นด้วยแบบทดสอบฉบับเดมิ อีกคร้งั

2. การดำเนนิ การเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล
ผู้ศกึ ษาได้ดำเนินการเก็บรวบรวมขอ้ มูล ดงั น้ี
2.1 ผ้ศู ึกษาเก็บรวบรวมขอ้ มลู ดว้ ยตนเอง โดยได้นำแบบทดสอบก่อนเรยี นไปทดลอง

กับกลมุ่ ตวั อยา่ ง ก่อนสอนด้วยแบบทดสอบวดั ผลสมั ฤทธทิ์ างการเรียน ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี ๕ ซ่ึงผู้
ศึกษาเปน็ ผู้ดำเนินการทดสอบดว้ ยตนเอง

2.2 ผู้ศึกษาดำเนินการทดลองสอนตามแผนการจดั การเรียนรู้ โดยการแนะนำช้แี จงให้
นกั เรยี นทราบถึงเน้ือหากอ่ น แล้วใหน้ กั เรียนทำแบบทดสอบวดั ผลสมั ฤทธทิ์ างการเรียนชนั้
ประถมศึกษาปีท่ี ๕

2.3 ดำเนินการสอนตามขั้นตอนแผนการจัดการเรียนรู้ ทงั้ หมด จำนวน ๑๓ ช่วั โมง
ซึ่งยืดหย่นุ เวลาตามความเหมาะสม ในแต่ละแผนการจัดการเรียนรมู้ กี ารบันทึกผลและแจ้งคะแนนให้
นกั เรียนทราบ

2.4 เมอื่ สิน้ สุดการสอนโดยใชแ้ บบ QSCCS สำหรบั นักเรียนช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๕
แล้ว ทำการทดสอบหลังเรียนกับนักเรียนทนั ที โดยใช้แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนชุดเดิมที่ใช้
ทดสอบกอ่ นเรียนไปทดสอบอกี ครั้งแลว้ ตรวจให้คะแนน พร้อมกับใหน้ กั เรยี นตอบแบบประเมินความพงึ
พอใจ

2.5 นำคะแนนจากการทำกิจกรรมในแตล่ ะช่ัวโมง คะแนนจากการทำแบบทดสอบ
วดั ผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี นหลงั เรยี น และผลการตอบแบบประเมนิ ความพงึ พอใจมาวิเคราะห์ขอ้ มูล



การวิเคราะห์ขอ้ มูล
การจัดกระทำข้อมลู ผศู้ ึกษาไดด้ ำเนนิ การ ดงั นี้
1. การเปรียบเทียบคะแนนกอ่ นเรียนและหลังเรยี นดว้ ยแบบทดสอบวดั ผลสัมฤทธ์ิ

ทางการเรยี นช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี ๕ โดยใช้คา่ สถิติแบบง่าย

การดำเนินงานและเกบ็ รวบรวมข้อมูล
1. สอบนักเรียนกอ่ นเรยี นดว้ ยแบบทดสอบวดั ผลสมั ฤทธทิ์ างการเรยี น
2. ดำเนินการสอนดว้ ยด้วยวธิ กี าร QSCCS รายวชิ าภาษาองั กฤษ (อ๕๑๑๐๑) ของ

นักเรียนชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี ๕ โรงเรียนบ้านหนองเทพ รวม ๗ สัปดาห์ ๑๓ ชวั่ โมง สรปุ ข้ันตอนได้
ดงั นี้

๑) ขั้นนำเสนอความรใู้ หม่ (ในแต่ละหัวเร่ืองยอ่ ย) โดยให้ตวั อยา่ งประโยคหรือ
สอื่ การสอนประกอบ เพอื่ ให้นกั เรยี นเกดิ การตง้ั คำถาม (Learning to Question) เกิดความสนใจ
ในการเรยี นรแู้ ตล่ ะช่ัวโมง

๒) นักเรียนศกึ ษาประโยคตวั อยา่ ง สงั เกตสื่อประกอบการสอน ศึกษาหาความรู้
จากหนังสือหรือใบงานทค่ี รเู ตรยี มให้ (Learning to Search)

๓) นกั เรียนช่วยกนั สรุปหรือทำใบงาน (Learning to Construct)
๔) นกั เรียนนำเสนอหนา้ ชัน้ เรยี น หรือ สนทนาถามตอบ ส่ือสารในชน้ั เรียน
(Learning to Communicate)
๕) นักเรียนนำความรู้ที่ได้ไปประยกุ ต์ใชใ้ นการเรยี น หรือการใช้ชวี ิตประจำวนั
(Learning to Serve)
๖) นักเรยี นและครูผสู้ อน สอบถาม ทดสอบเพ่ือตรวจสอบความเขา้ ใจและให้ข้อมลู
ย้อนกลับ
๗) สอบนกั เรียนหลังเรียนด้วยแบบทดสอบวดั ผลสัมฤทธท์ิ างการเรียน
๘) ตรวจกระดาษคำตอบจากแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธ์ทิ างการเรียนโครงสร้าง
ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ
๙) นกั เรียนตอบแบบประเมนิ ความพึงพอใจ
๑๐) รวบรวมคะแนนของนักเรียนและผลการตอบแบบประเมนิ ความพงึ พอใจไป
วิเคราะห์ทางสถติ ิ สรุปผล รายงานต่อไป

๑๐

4. ผลการดำเนินการ/ ผลสมั ฤทธ์/ิ ประโยชน์ทไ่ี ด้รบั
4.1 ผลการดำเนินการ

ตอนที่ ๑ ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี นของนกั เรียน ก่อนและหลงั การใช้วิธกี าร
สอน

QSCCS สำหรบั นักเรียนชั้นประถมศกึ ษาปีที่ ๕ ซึง่ ปรากฏผลตัววิเคราะห์ขอ้ มลู
ดงั ตาราง ๒ ดงั นี้
ตาราง ๒ ผลการเปรียบเทยี บผลสัมฤทธิท์ างการเรียนของนกั เรียนก่อนและหลงั การใชว้ ธิ ีการสอน
แบบ QSCCS สำหรับนกั เรียนชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๕

การเปรยี บเทยี บผลสมั ฤทธ์ิ N X S.D. T

ก่อนการประยุกต์ใช้ QSCCS 2๑ 25.25 1.90 31.03**
หลงั การประยุกต์ใช้ QSCCS 2๑ 32.94 1.92

จากตาราง ๒ พบวา่ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี นวิชาภาษาอังกฤษ ของนักเรยี นช้ันประถมศึกษา
ปีที่ ๕ ทเ่ี รยี นดว้ ยวธิ กี ารสอนแบบ QSCCS สำหรับนักเรยี นชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๕ หลงั ใช้วิธกี ารสอน
แบบ QSCCS มีทักษะสงู กว่ากอ่ นการเรยี น แตกต่างอย่างมีนยั สำคัญทางสถิติทีร่ ะดับ .01

ตอนที่ ๒ ผลการศึกษาความพงึ พอใจของนกั เรยี นทมี่ ีตอ่ วิธกี ารสอน QSCCS สำหรับนกั เรียน
ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ ๕ ซงึ่ ปรากฏผลการวเิ คราะหข์ ้อมูล ดังตาราง ๓ ดังน้ี

ตาราง ๓ ผลการศึกษาความพงึ พอใจของนกั เรยี นทมี่ ีตอ่ วธิ ีการสอน QSCCS สำหรบั นกั เรียน
ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี ๕

รายการประเมิน X S.D. แปลผล
ดา้ นเนื้อหา
1. เนื้อหานา่ สนใจและเกยี่ วขอ้ งกับวถิ ชี วี ิตของนักเรยี น 4.86 0.36 มากท่สี ุด
2. เนื้อหามคี วามเหมาะสมกับระดบั ความสามารถของนักเรียน 4.75 0.44 มากท่ีสดุ
3. เน้ือหามคี วามแปลกใหมแ่ ละทันสมัยใหไ้ ดเ้ รยี นรู้ 4.79 0.42 มากที่สดุ
4. เนื้อหา แบบฝึก ขอ้ สอบ สามารถนำไปใชใ้ นชวี ิตประจำวันได้ 4.89 0.31 มากที่สดุ
4.82 0.38 มากท่ีสดุ

๑๑

รายการประเมนิ X S.D. แปลผล
ดา้ นการออกแบบ

5. การจดั รปู แบบน่าสนใจ มีสาระและนา่ อ่าน 4.75 0.44 มากท่ีสดุ

6. มภี าพประกอบสวยงามนา่ สนใจและเหมาะสมกับเนอ้ื หา 4.64 0.49 มากที่สุด

7. การออกแบบแตล่ ะแบบฝึกมีเนอื้ หาพอดกี บั ระดบั ของนักเรียน 4.71 0.46 มากทส่ี ดุ

8. การจัดเรียงแต่ละแบบฝกึ เรยี งจากงา่ ยไปหายาก 4.57 0.50 มากท่ีสุด

4.67 0.47 มากทสี่ ุด

ด้านกจิ กรรม

9. คำสัง่ คำอธิบายของแบบฝกึ ชดั เจน 4.61 0.50 มากที่สดุ

10. แต่ละแบบฝึกมีตัวอย่าง ง่ายต่อการปฏิบัติกิจกรรม 4.71 0.46 มากทส่ี ดุ

11. มีการใชค้ ำถามชว่ ยใหน้ กั เรยี นเขา้ ใจกจิ กรรมมายิ่งขนึ้ และ 4.68 0.48 มากทส่ี ุด
สง่ เสริมทักษะกระบวนการคิด

12. แตล่ ะกิจกรรมมงุ่ เน้นเพือ่ ฝกึ ทกั ษะการคดิ และการนำไปใช้ 4.57 0.50 มากทส่ี ดุ

4.6๔ 0.4๙ มากท่ีสุด

ดา้ นประโยชน์

13. แบบฝึกช่วยเพม่ิ พนู ใหน้ กั เรยี นเกิดทักษะทางการแกโ้ จทย์ 4.75 0.44 มากท่สี ดุ
ปญั หาและพัฒนาทักษะกระบวนการคดิ

14. นกั เรยี นสามารถนำทักษะกระบวนการและความรู้ไปใชใ้ น 4.71 0.46 มากทสี่ ุด
ชีวิตประจำวันและการศกึ ษาต่อได้

15. นักเรยี นเกิดความม่นั ใจในการอา่ นภาษาอังกฤษเพื่อความ 4.79 0.42 มากทส่ี ดุ
เข้าใจเพิ่มมากข้นึ

รวม 4.75 0.44 มากท่สี ุด

รวมเฉลยี่ 4.72 0.45 มากท่สี ดุ

จากตาราง ๓ พบวา่ ผลการศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนท่มี ตี อ่ วธิ ีการสอน QSCCS
สำหรบั นกั เรียนช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี ๕ พบว่า ความพงึ พอใจอยู่ในระดับมากทสี่ ดุ ( X = 4.72,

S.D.= 0.45) และเมอื่ พจิ ารณารายดา้ น พบว่าดา้ นทมี่ คี ะแนนเฉลยี่ มากทสี่ ุด ได้แก่ ด้านเน้ือหามี
ความพงึ พอใจในระดบั มากท่สี ดุ โดยมีค่าเฉลีย่ ( X = 4.82, S.D.= 0.38) รองลงมาไดแ้ ก่ ดา้ น
ประโยชน์มีความพึงพอใจในระดบั มากท่สี ดุ ( X = 4.75, S.D.= 0.44) และด้านการออกแบบมี
ความพึงพอใจในระดับมากท่สี ดุ ( X = 4.67, S.D.= 0.47) ตามลำดับ สว่ นด้านทีม่ คี ะแนนเฉล่ีย
น้อยทีส่ ุด ได้แก่ ด้านกิจกรรมมีความพงึ พอใจในระดับมากที่สดุ ( X = 4.64, S.D.= 0.49)

๑๒

4.2 ผลสัมฤทธิ์
การพฒั นาการจดั การเรียนรู้กล่มุ สาระการเรียนรภู้ าษาตา่ งประเทศ (ภาษาอังกฤษ)
โดยประยุกต์ใชร้ ูปแบบการสอน QSCCS สำหรบั นักเรยี นช้นั ประถมศึกษาปีที่ ๕
สง่ ผลดีตอ่ ผ้ทู ี่เกี่ยวข้อง ในส่วนต่าง ๆ ดงั นี้

4.๒.1 ผ้เู รยี น
การพฒั นาการจัดการเรยี นร้กู ลุม่ สาระการเรยี นรภู้ าษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ)
โดยประยุกต์ใช้รปู แบบการสอน QSCCS สำหรับนกั เรยี นชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๕
ทำให้ผูเ้ รยี นมีความสนใจ ในการเรียนรู้ ผู้เรยี นไดล้ งมอื ปฏบิ ัติจรงิ (Learning by doing)
มีความกระตอื รือร้นในการเรียน มคี วามสุข สนกุ ไปกับการเรยี น รจู้ กั การทำงานรว่ มกันกับผู้อน่ื และ
การทำงานเปน็ ทมี กล้าคดิ กลา้ แสดงออก มีความคดิ อยา่ งสร้างสรรค์ มีภาวะความเป็นผู้นำ
สามารถนำความร้ไู ปประยกุ ต์ใช้ได้จริง
ทำให้ผลสมั ฤทธใ์ิ นวิชาภาษาองั กฤษเพม่ิ มากขึ้น เห็นความสำคัญของการเรยี นภาษาอังกฤษ และมี
เจตคติท่ีดีต่อการเรียนภาษาอังกฤษ

4.2.๒ บคุ ลากรภายในโรงเรียน
บคุ ลากรภายในโรงเรียนมกี ารแลกเปล่ยี นเรียนรู้ โดยใช้กระบวนการ PLC ท้งั ระดับชว่ งชน้ั
และระดับโรงเรียน แบง่ ปนั ประสบการณ์ในการจดั การเรยี นรู้ ให้ความช่วยเหลือในการปฏบิ ัตงิ าน
ต่างๆ ใหก้ ารยอมรับซงึ่ กันและกนั ให้ความคิดเห็นที่เป็นประโยชนต์ อ่ การจดั การเรียนรู้ ก่อให้
บรรยากาศเออื้ ตอ่ การจัดการเรียนรู้ ซึ่งชใ้ี ห้เหน็ ข้อดี ขอ้ ควรปรับปรุงในการจัดการเรียนรู้ ทำให้ได้
กระบวนการจัดการเรียนรู้ที่มปี ระสทิ ธิภาพมากยิ่งขึ้น

๔.๓ ประโยชนท์ ี่ได้รบั
การวิจยั ครั้งน้ีไดร้ บั ประโยชน์ดังตอ่ ไปน้ี

1. ได้วธิ กี ารสอน QSCCS สำหรับนกั เรียนช้ันประถมศึกษาปที ่ี ๕ ท่ีมปี ระสิทธภิ าพ
2. เป็นแนวทางสำหรบั ครผู ู้สอนภาษาอังกฤษในการประยกุ ต์ใชว้ ิธีการสอน QSCCS เพือ่
พัฒนาเนื้อหาเก่ียวกับทักษะการเรียนภาษาองั กฤษ สำหรับนักเรยี นช้ันประถมศกึ ษาปีที่ ๕
๓. เป็นแนวทางในการปรับปรงุ และพัฒนาการเรยี นการสอนในเนือ้ หาตา่ งๆ ของกลมุ่ สาระ
การเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ในระดบั ทสี่ งู ข้นึ ต่อไป

๑๓

5. ปัจจัยความสำเร็จ
บุคคล/ หน่วยงาน/ วธิ ีการทช่ี ่วยใหง้ านประสบความสำเร็จตามวัตถปุ ระสงค์คือ
1. นโยบายของผูบ้ ริหารโรงเรียน นายบุญเรือง พวงเกตุ ผอู้ ำนวยการโรงเรยี นบา้ นหนองเทพ

มีนโยบายใหค้ รูทุกคนในโรงเรยี นทำวิจยั ในชัน้ เรียนและจัดทำรายงานการวิจัยรวมหา้ บทส่งกลุม่
บรหิ ารวชิ าการภาคเรยี นละ 1 เลม่ พรอ้ มกบั เสนอนวตั กรรมการเรยี นรู้แบบ Active Learning
มาปรับใช้ในการจดั กิจกรรมการเรยี นให้สอดคล้องกับกลุม่ สาระการเรยี นรทู้ ีร่ บั ผดิ ชอบ พรอ้ มทัง้ คอย
ให้การสนบั สนุนในทุกๆด้าน

๒. การประยุกต์ใชร้ ูปแบบการเรียนการแบบ QSCCS สำหรบั นักเรยี นชั้นประถมศึกษาปที ี่ ๕
โรงเรยี นบา้ นหนองเทพ ชว่ ยให้การจัดการเรยี นการสอนมปี ระสทิ ธภิ าพมากข้นึ ตอบสนองต่อการ
เรียนรู้ของนักเรียน ครผู สู้ อนสามารถให้คำแนะนำกบั ผเู้ รยี นได้อย่างใกลช้ ดิ มากขน้ึ นกั เรียนไดล้ งมอื
ปฏิบัติ
ด้วยตนเองอยา่ งแทจ้ ริง (Learning by Doing) ทำใหก้ จิ กรรมการเรยี นการสอนมคี วามนา่ สนใจ
ทำให้การเรียนการสอนวชิ าภาษาองั กฤษไม่น่าเบ่อื อีกตอ่ ไป และมเี จตคตทิ ี่ดีต่อการเรียนภาษาองั กฤษ

๓. กระบวนการ PLC เกดิ ประโยชนต์ อ่ ครูผู้สอน ดังนี้ ลดความรสู้ ึกโดดเดีย่ วในงานสอนของ
ครลู ง เพ่มิ ความรู้สึกผูกพันตอ่ พันธกิจและเป้าหมายของโรงเรยี นมากขน้ึ โดยเพม่ิ ความกระตือรอื รน้ ท่ี
จะปฏิบตั ิใหบ้ รรลพุ ันธกจิ อย่างแขง็ ขนั รู้สึกวา่ ต้องร่วมกนั รับผดิ ชอบตอ่ พฒั นาการโดยรวมของ
นกั เรยี น และรว่ มกนั รบั ผดิ ชอบเป็นกล่มุ ต่อผลสำเรจ็ ของนักเรียน สิง่ ท่ีเรียกวา่ “พลังการเรียนรู้
(Powerful learning)” ซึ่งสง่ ผลให้การปฏิบัติการสอนในชัน้ เรียนของตนมีผลดียง่ิ ข้นึ กลา่ วคอื
มกี ารคน้ พบความรแู้ ละความเชือ่ ใหมๆ่ ท่ีเกีย่ วกับวธิ ีการสอนและตัวผู้เรียนซึ่งตนไมเ่ คยสังเกตหรอื
สนใจมาก่อน เข้าใจในด้านเน้ือหาสาระทต่ี อ้ งทำการสอนไดแ้ ตกฉานยิ่งขน้ึ และรู้ว่าตนเองควรแสดง
บทบาทและพฤติกรรมการสอนอย่างไร จึงจะชว่ ยให้นักเรยี นเกิดการเรียนรู้ไดด้ ีทีส่ ดุ ตามเกณฑท์ ่ี
คาดหมาย ทราบข้อมลู สารสนเทศต่างๆ ท่จี ำเปน็ ต่อวชิ าชพี ได้อย่างกว้างขวางและรวดเรว็ ขน้ึ
สง่ ผลดีต่อการปรบั ปรุงพฒั นางานวชิ าชพี ของตนได้ตลอดเวลา ครเู กดิ แรงบนั ดาลใจทีจ่ ะสรา้ งแรง
บนั ดาลใจตอ่ การเรียนรใู้ ห้แกน่ กั เรียนตอ่ ไป
เพมิ่ ความพงึ พอใจ เพมิ่ ขวัญกำลงั ใจต่อการปฏิบัติงานสูงข้ึน และลดอตั ราการลาหยุดงานน้อยลง
มคี วามก้าวหนา้ ในการปรับเปลย่ี นวิธสี อน ให้สอดคลอ้ งกบั ลกั ษณะผู้เรียนไดอ้ ย่างเด่นชดั และรวดเร็ว
มีความผกู พนั ทีจ่ ะสร้างการเปลย่ี นแปลงใหมๆ่ ให้ปรากฏอย่างเดน่ ชดั และย่งั ยืน มีความประสงค์ท่ีจะ
ทำใหเ้ กิดการเปลย่ี นแปลงอย่างเปน็ ระบบ ตอ่ ปจั จยั พืน้ ฐานด้านต่างๆ และยังส่งผลต่อนักเรยี น ดงั น้ี
อตั ราการขาดเรยี นลดลง มีผลการเรยี นรทู้ ี่เพม่ิ ขึน้ เดน่ ชดั มีผลสมั ฤทธิท์ างการเรยี นในวชิ า
ภาษาองั กฤษทสี่ งู ข้ึนอยา่ งเด่นชัด มคี วามแตกต่างดา้ นผลสัมฤทธิก์ ารเรยี น ระหว่างกล่มุ นกั เรียนทมี่ ี
ภูมหิ ลังไม่เหมือนกัน ลดลงชัดเจน

๑๔

6. บทเรียนที่ไดร้ บั (Lesson Learned)และมเี จตคติทดี่ ตี ่อการเรียนภาษาองั กฤษ
6.1 ขอ้ สรปุ และขอ้ สังเกต
รายงานการศึกษาเร่อื ง การพัฒนาการจดั การเรยี นร้กู ลมุ่ สาระการเรยี นร้ภู าษาต่างประเทศ

(ภาษาองั กฤษ) โดยประยกุ ตใ์ ช้รูปแบบการสอน QSCCS สำหรับนักเรยี นช้นั ประถมศึกษาปีท่ี ๕
วัตถปุ ระสงคค์ ือ (๑) เพอื่ พฒั นาผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี นก่อนใช้และหลังใช้วธิ กี ารสอนรูปแบบ QSCCS
สำหรับนักเรยี นชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๕ (๒) เพอื่ ศึกษาความพงึ พอใจของนกั เรยี นที่มีตอ่ การจัดการ
เรยี นรู้แบบ QSCCS

๖.๒ บทเรียนท่ีไดร้ บั
การพฒั นาการจดั การเรยี นรู้กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) โดย
ประยุกตใ์ ชร้ ูปแบบการสอน QSCCS สำหรับนกั เรยี นชั้นประถมศกึ ษาปีที่ ๕ สอดคลอ้ งกบั ตวั ชีว้ ัด
สาระการเรียนรแู้ กนกลาง กล่มุ สาระการเรยี นรภู้ าษาตา่ งประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ตามหลักสูตร
แกนกลางการศึกษาขนั้ พืน้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑
นักเรยี นชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๕ มผี ลสัมฤทธท์ิ างการเรียนเพ่มิ ขึ้น และนกั เรยี นมคี วามมัน่ ใช้
ในการใชภ้ าษาองั กฤษในสถานการณต์ า่ งๆและชวี ิตประจำวันมากข้ึน
การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ครเู ปน็ Coach คอยแนะนำให้คำปรึกษา นกั เรียนเป็นผู้ลงมือ
ปฏบิ ัติเรียนรดู้ ว้ ยตนเอง (Learning by doing)

6.๓ ขอ้ เสนอแนะ
จากผลการศึกษาพบวา่ นักเรียนช้ันประถมศกึ ษาปีที่ ๕ ท่ีเรียนโดยการประยกุ ตใ์ ชว้ ิธกี ารสอน
รูปแบบ QSCCS มผี ลสัมฤทธทิ์ างการเรยี นหลงั เรียนสูงกว่าก่อนเรยี น ซึง่ ผูศ้ กึ ษาได้เสนอแนะ
ดงั ตอ่ ไปนี้
1. ข้อเสนอแนะในการนำผลการศกึ ษาไปใช้

1.1 ครูผ้สู อนจะต้องศกึ ษาวิธกี ารสอนรูปแบบ QSCCS สำหรับนักเรียนชน้ั
ประถมศึกษาปที ่ี ๕ ประกอบกับการจดั ทำแผนการจดั การเรียนรลู้ ่วงหนา้ ด้วยการทำกระบวนการ PLC
และจัดกระบวนการเรียนรูต้ ามแผน

1.๒ ครูผู้สอนตอ้ งตรวจผลงานแล้วแจ้งคะแนนใหน้ ักเรยี นทราบทันทีและแกไ้ ข
ขอ้ บกพร่องทพ่ี บทนั ที หากตรวจผลงานแลว้ พบวา่ มีนกั เรยี นท่คี ะแนนไม่ผ่านเกณฑ์ ครผู สู้ อนควร
อธิบายให้คำแนะนำเพมิ่ เตมิ เปน็ รายบคุ คลจนกวา่ นกั เรียนจะเขา้ ใจ เพอื่ เป็นพ้นื ฐานในการทำ
แบบทดสอบต่อไป

1.๓ ครูผู้สอนตอ้ งคอยให้กำลงั ใจและควรมีการเสริมแรงใหก้ ับนกั เรยี นโดยเฉพาะ
นักเรยี นที่เรียนออ่ น ครจู ะต้องใหค้ วามสนใจและดูแลอย่างใกล้ชิด หาโอกาสยกย่องชมเชยซง่ึ จะทำให้
นกั เรยี นกล้าแสดงออกมากย่งิ ข้นึ และเป็นการเพิ่มความมนั่ ใจให้นกั เรยี น

๑๕

2. ข้อเสนอแนะสำหรบั การศกึ ษาคร้งั ต่อไป
2.1 ควรใช้วธิ กี ารสอนรปู แบบ QSCCS ในเรือ่ งอื่น ๆ ทางภาษาองั กฤษในระดบั

ต่อ ๆ ไป
2.2 กิจกรรมเข้ากลุ่มควรจะฝึกก่อนปฏิบัติการอย่างน้อย 2-3 ครั้ง เพ่ือให้

นักเรียนเคยชินกับการจัดกิจกรรมเข้ากลุ่ม และเรียนรู้อย่างสนุกสนาน
2.3 ควรจัดทำแผนภูมิการเรยี นรู้ ใหน้ ักเรียนอา่ นและศึกษาพร้อมกนั กอ่ นจัดกิจกรรม

การเรียนรู้ เพ่ือสร้างความเข้าใจและต้ังเป้าหมายการเรียนรู้ร่วมกัน

7. การเผยแพร/่ การได้รบั การยอมรับ/รางวลั ทไี่ ด้รับ
7.1 การเผยแพร่
๗.๑.๑ เผยแพร่ทางชอ่ งทาง Facebook และ Youtube
๗.๑.๒ ขยายให้กบั โรงเรียนเครือขา่ ย ครูผสู้ นใจภายในสถานศึกษาใกล้เคียง

ทม่ี ีความสนใจรปู แบบการดำเนินงาน นำส่กู ารปรบั ใช้ในสถานศกึ ษา

7.2 รางวลั ท่ไี ดร้ ับ หลกั ฐาน/รอ่ งรอย หมายเหตุ
- เกียรตบิ ตั ร
ท่ี รายการ
๑. การอบรมเชงิ ปฏบิ ัติการ Active Learning :

QSCCS และ PLC โครงการ TSQP ของ กสศ.

๒. วทิ ยากรการอบรมเชิงปฏบิ ัตกิ าร Active Learning - เกียรตบิ ตั ร
: QSCCS และ PLC โครงการ TSQP ของ กสศ.

๓. วิทยากรระดับเขตพน้ื ทก่ี ารศึกษา การอบรม - คำสงั่
ปฏิบัตกิ าร Q – info โครงการ TSQP ของ กสศ. - ภาพภา่ ย

๔. วิทยากรอบรม ให้ความรู้การอบรมเชิงปฏบิ ตั ิการ - เกียรตบิ ตั ร
เพ่ือสง่ เสริมสมรรถนะครแู ละบคุ ลากรในการใช้
เทคโนโลยแี ละนวตั กรรมในการจดั การเรียนรู้
เครือข่ายโรงเรยี นโนนนารายณ์ ๒

ภาพที่ 2 การจดั กภาารพเรภทียา่ี นพกSทาEี่ รQ3สอบภนราดรพย้วทาย่ี_กวาิธ\ศีก*ขาณรAสะRอจAนดั แBกบาICรบเร13ียPนบกตั(PารรคPสาPออนาTหeาaรching Model)
ทนี่ใกั ชเ้ปรยีระนกมอคี บวกาามรสเโรนดียใยจนใแชกล้บาะรตั สรนอคนกุ าไเอรปา่อื กหงบัาYรกาuรmเรยีmนyกาFรoสoอนd

ภาคผนวก

บรรณานุกรม

กระทรวงศกึ ษาธกิ าร. (2550). หลกั สตู รการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศกั ราช 2551. กรงุ เทพฯ:
โรงพิมพ์องคก์ ารรับสง่ สินค้าและพสั ดภุ ัณฑ์.

ทิพรตั น์ สทิ ธวิ งศ์ และทะเนศ วงศ์นาม. “การศึกษาผลการใช้กจิ กรรมการเรียนการสอนด้วยบันได
5 ขนั้ (QSCSS) สำหรับนิสิตปรญิ ญาโทสาขาเทคโนโลยีและสอื่ สารการศกึ ษา คณะ
ศึกษาศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั นเรศวร” วารสารศึกษาศาสตร์มหาวทิ ยาลยั นเรศวร, 18 (4),
ตลุ าคม – ธันวาคม 25๕๙,86-98

บญุ ชม ศรสี ะอาด. (2545). การวิจัยเบอื้ งต้น. พมิ พ์ครง้ั ท่ี 7. กรงุ เทพฯ: สุวีริยาสาส์น.
______. (2553). วิธีการทางสถิตสิ ำหรบั การวจิ ัย. พิมพค์ รงั้ ที่ 5. กรงุ เทพฯ:สวุ รี ยิ าสาส์น.
สำนักวิชาการและมาตรฐานการศกึ ษา. (2552). หลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาข้นั พื้นฐาน

พทุ ธศักราช2551. กรงุ เทพมหานคร: โรงพมิ พชมุ นมุ สหกรณการเกษตรแหงประเทศไทย
จํากัด.

ภาพประกอบการจดั กิจกรรม









ภาพประกอบการจัดการเรยี นการสอน ตัวอยา่ งแผนการจัดการเรียนรู้

วดี โิ อการเรยี นการสอน รปู เล่มรายงาน

การนำเสนองาน

ภาพที่ 4 นาเสนอนวตั กรรมให้กบั คณุ ครสู ิทธิชยั มผี ิวหอม
ครปู ระจาการโรงเรียนบ้านคลองมหาสวสั ด์ิ อาเภอพทุ ธมนฑล จงั หวดั นครปฐม


Click to View FlipBook Version